รูปเล่มน้ำพริกนรก

1 การนาเข้าสู่บทเรยี น โรงเรียนน้ำปลีกศกึ ษำได้จัดท้ำหลกั สูตร และวิธีกำรท้ำน้ำพริก เข้ำในหลักสูตรกำรเรียนกำร สอนของโรงเรียน เพ่ือให้นักเรียนที่มีควำมสนใจ ได้มีโอกำสได้เรียนรู้และน้ำควำมรู้ไปใช้ใน ชีวติ ประจำ้ วนั หรอื ประกอบอำชีพในอนำคต กระบวนการพฒั นาความสามารถของนกั เรียน นกั เรียนที่ได้รบั กำรฝึกสอนในห้องเรียนและ นักเรียนที่มคี วำมสนใจพิเศษ ครูกไ็ ดเ้ ปิดโอกำส ให้ไดฝ้ ึกฝนพฒั นำตนเอง จนเกิดควำมช้ำนำญ ซง่ึ สถำนที่ฝกึ ฝนนันส่วนใหญก่ จ็ ะใช้ หอ้ งคหกรรม โรง ครวั บำ้ นพกั ครู แล้วแต่ควำมสะดวกของครแู ละนักเรียน โดยใชเ้ วลำในกำรท้ำงำนหลังเลกิ เรียน และ วันหยุดเสำร์ อำทิตย์ จำกกำรฝึกฝนอย่ำงจริงจังในกำรท้ำน้ำพริก ซึ่งท้ำให้นักเรียนสำมำรถ ถ่ำยทอดควำมรู้ให้แก่เพื่อนๆหรือบุคคลท่ีสนใจได้ อย่ำงมั่นใจ และยังสำมำรถน้ำไปประกอบอำชีพ ในอนำคตไดอ้ กี ด้วย

2 ท่มี าและความสาคญั น้ำพริก มีมำตังแต่สมัยกรุงศรีอยุธยำ โดยค้ำว่ำ \"น้ำพริก\" มีควำมหมำยมำจำกกำรปรุงด้วย กำรน้ำสมุนไพร พริก กระเทียม หัวหอม เครื่องเทศกลิ่นแรง มำโขก บด รวมกัน เพ่ือใช้ส้ำหรับจิม โดยมี ดอกแค มะเขือยำว แตงกวำ ถ่ัวฝักยำว มะเขือม่วง ถั่วพู สัตว์น้ำต่ำง ๆ เช่น ปลำ กุ้ง เป็น ตน้ น้ำพริก เปน็ วิธีปรุงอำหำรหรือเคร่ืองปรงุ อำหำร โดยกำรน้ำเคร่ืองปรงุ ชนดิ ต่ำง ๆ ลงโขลกรวมกัน ในครก โดยมำกเป็นวิธปี รุงอำหำรประเภทน้ำพริกต่ำงๆ หรอื ใช้ในกำรรบั ประทำนเป็นกับข้ำวกไ็ ดแ้ ละ ยังได้รับควำมนิยมมำตังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ส้ำหรับน้ำพริก แบบทีใช้เป็นเครื่องปรุงส่วนผสมนัน เกิดขึนเพรำะอำหำรไทยจ้ำพวกแกง จ้ำเป็นที่จะต้องมีส่วนประกอบ หรือกรรมวิธีกำรท้ำท่ีค่อนข้ำง ซับซ้อน ผู้ปรุงจึงคิดท้ำน้ำพริกขึนเพื่อรวบรวมส่วนผสมต่ำง ๆ นันเข้ำด้วยกันเป็นกำรลดขันตอนกำร ปรุงลงและยังสำมำรถท้ำเก็บไว้ได้ในจ้ำนวนมำก ในปัจจุบันได้มีกำรน้ำน้ำพริกชนิดต่ำง ๆ มำ ดัดแปลงเป็นอำหำรหลำกหลำยประเภท รวมถึงน้ำมำผัดกับข้ำว เช่น ข้ำวผัดน้ำพริกนรก ข้ำวผัด นำ้ พริกปลำทู เป็นต้น ค้ำว่ำ ต้ำ ยังใช้เรียกน้ำหน้ำอำหำรบำงชนิด ท่ีปรงุ คล้ำยยำ้ แต่ท้ำกำรคลกุ เคล้ำ กันในครกโดยกำรต้ำ เช่น ต้ำเทำ (เตำ) ต้ำบ่ำโอ (ส้มโอ) ต้ำบ่ำเขือ ต้ำบ่ำม่วง เป็นต้น อย่ำงไรก็ตำม กำรต้ำมักใช้อำหำรประเภท นำ้ พริก ซึ่งมีอยู่หลำยชนิด คนในสมัยก่อนนิยมรับประทำนสัตว์น้ำมำกกว่ำสัตว์บก จึงอำจคิดค้นน้ำพริกขึน เพื่อเพ่ิม รสชำติและดับกลิ่นคำวต่ำง ๆ น้ำพริก ถูกใช้เป็นส่วนประกอบของอำหำรต่ำง ๆ หรือใช้ในกำร รับประทำน เปน็ กับข้ำว ก็ได้ และยังได้รับควำมนยิ มมำตังแต่อดตี จนถึงปัจจุบัน ส้ำหรบั น้ำพริก แบบ ท่ีใช้เป็นเคร่ืองปรุงส่วนผสมนัน เกิดขึนเพรำะอำหำรไทยจ้ำพวกแกง จ้ำเป็นท่ีจะต้องมีส่วนประกอบ หรือกรรมวิธีกำรท้ำท่ีค่อนข้ำงซับซ้อน กำรเรียกช่ือน้ำพริกแต่ละชนิดมักจะเรียกตำมส่วนประกอบ หลัก ท่ีน้ำมำท้ำ ซ่ึงอำจเป็นเนือสัตว์ พืชผัก แมลง หรือผลิตผลจำกพืชหรือสัตว์ก็ได้ เช่น น้ำพริกขิง น้ำพริกปลำ น้ำพริกปลำร้ำ น้ำพริกน้ำปู น้ำพริกต่อ(ตัว อ่อนของตัวต่อ) น้ำพริกน้ำผัก เป็นต้น ประเภทของพริกที่น้ำมำต้ำน้ำพริกก็มีทังพริกดิบ หรือ พริกหนุ่ม และ พริกแห้ง ชนิดของน้ำพริก นอกจำกจะแบ่งตำมลักษณะของพริกท่ีน้ำมำท้ำแล้ว ยังอำจแบ่งได้ตำมลักษณะของ น้ำพริก ได้แก่ น้ำพริกที่ลักษณะค่อนข้ำงแห้ง และน้ำพริกลักษณะมีน้ำขลุกขลิก น้ำพริกที่คนไทยรู้จักดี เชน่ น้ำพริก กะปิ น้ำพริกกะเหร่ียง น้ำพริกกุ้งสดน้ำ พริกกุ้งเสียบ น้ำพริกปลำร้ำ น้ำพริกปลำทูน้ำพริกเผำ น้ำพริกนรก น้ำพริกแมงดำ น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตำแดง น้ำพริกอ่อง น้ำพริกแจ่ว น้ำพริกลง เรือ “นำ้ พริก” เป็นอำหำรทคี่ นไทยรู้จักเป็นอย่ำงดี ่ แมว้ ำแต่ละภำคอำจจะเรียกชื่อแตกต่ำงกนไปบ้ำง เช่น ภำคใต้เรยี ก“น้ำชุบ” ภำคอีสำน มี“ป่น” “แจ่ว”แต่ ไม่วำจะเรียกชื่อต่ำงกันแค่ไหน ส่วนประกอบหลักๆ ของน้ำพริกมีคล้ำยคลึงกัน แถมยังต้องกินกับผักเคร่ืองเคียงหลำกหลำยชนิด ท่ีมีคุณประโยชน์ทำง โภชนำกำรและปอ้ งกันโรคภัยตำ่ งๆ ไดด้ ว้ ย

3 พริก คือ ส่วนประกอบที่ส้ำคัญในกำรท้ำน้ำพริก มีรสชำติเผ็ดร้อน พริกทุกชนิดมีสำรแคปไซซิน ซึ่ง เป็นสำรที่ มีคุณสมบัติในกำรป้องกันควำมชรำ และยังมีเบต้ำแคโรทีนและวิตำมินซีสูง ต้ำนอนุมูล อิสระ ช่วยกระต้นุ กำร ท้ำงำนของล้ำไส้ ท้ำให้เจริญอำหำร ขบั ลม แก้หวัด แกภ้ ูมิแพ้ กระเทียม มีสำร“อัลลิซิน”กลิ่นฉุน มีฤทธ์ิช่วยลดควำมดันโลหิต ช่วยไม่ให้เลือดจับตัวเป็นล่ิมหรืออุด ตันตำม ผนังหลอดเลอื ด ลดกำรเกิดโรคหัวใจ และโรคหลอดเลอื ด หอมแดง มีสำร“เคอรซ์ ิทนิ ” ช่วยท้ำควำมสะอำดเสน้ เลอื ด ป้องกัน ไมใ่ หห้ ลอดเลอื ดอดุ ตนั นอกจำกนี สมุนไพรท่ีเป็น เครื่องเคียงกินกับน้ำพริกเช่น สำยบัว บัวบก ผักกะเฉด ผักกูด ผักหนำม ยังมี สำรประกอบท่ีเรียกว่ำ “ไฟโตเคำมีคอลล์” มีฤทธ์ิในกำรป้องกันโรคร้ำยต่ำงๆ เช่น คลอโรฟิลล์ ฟลำโวนอยด์ แคโรทนี อยด์ เม่ืออยู่ในผักจะออกฤทธ์ิช่วยกันเสริมสร้ำงร่ำงกำยให้ แข็งแรง เพิ่มภูมิคุ้มกันและต่อต้ำนอนุมูล อิสระ ในผักยังมีเส้นใยอำหำร หรือท่ีเรียกวำไฟเบอร์นัน ก็ยังมี ประโยชน์อีก นั่นคือเส้นใยอำหำรท่ีละลำยน้ำจะ ช่วยคุมระดับไขมันและระดับน้ำตำลในเลือด ส่วน เส้นใยท่ีไม่ละลำยน้ำจะช่วยท้ำให้ระบบขับถ่ำยท้ำงำนได้ดี ขึน ลดโอกำสเส่ียงกำรเป็นริดสีดวงทวำร และมะเร็งล้ำไสใ้ หญ่ กล่ำวได้ว่ำ \"น้ำพริก\" นี่แหละ เป็นอำหำรไทยท่ีบ้ำรุงสุขภำพได้ดีทีเดียว เป็นกำร บ้ำรุงร่ำงกำยด้วยกำรเพ่ิมกำก ใยและวิตำมิน ท้ำให้ผิวพรรณผองใส สำวๆ ที่ต้องกำรจะลดควำมอ้วน แทนที่จะอดอำหำรหรือกินยำลดควำม อ้วน ก็หันมำกินน้ำพริกผักต้มกันดีกว่ำ ต้ำน้ำใช่ว่ำใครก็ต้ำได้ อร่อย เพรำะกำรต้ำน้ำพริก ต้องค้ำนึงว่ำต้องมีเคร่ืองปรุงมีกี่ อย่ำง อะไรบ้ำง แต่ละอย่ำงต้องเลือก เอำลักษณะที่ดี และลักษณะท่ีดีต้องเป็นอย่ำงนันอย่ำงนี ต่อไปก็วิธีกำรปรุงจะหยิบอะไรใส่ครก ก่อนหลัง กำรโขลกจะต้องมีจังหวะอย่ำงไร โขลกให้เครื่องปรุง แหลกหรือแค่พอบุบๆก็พอ ต่อไปก็ ปรุงรส ด้วยอะไรบำ้ ง เช่น น้ำปลำ มะนำว ฯลฯ ซ่ึงแต่ละอย่ำงก็ต้อง เลือกสรรนำ้ พริกนีจะต้องกินกับ อะไร จึงจะเหมำะ ส่วนผักนันก็เป็นผักประเภทมะเขือ แตงกวำ ช่อมะม่วง ช่อ มะกอก ผักชี บวบ กระเจี๊ยบ หน่อไม้ น้ำพริก\" ถือเป็นอำหำรคู่ครัวคนไทยมำโดยตลอด ไม่ว่ำจะเป็นบ้ำนไหนๆ ก็ต้องมี น้ำพริกกินคู่กับผัก หลำกชนิด แต่ในสังคมเมืองปัจจุบัน เมนูน้ำพริกอำจจะค่อยๆ หำยไป เพรำะ ควำมเร่งรีบในกำรบริโภค รวมไป ถึงอำหำรส้ำเร็จรูปมีมำกและหลำกหลำยย่ิงขึน จนท้ำให้น้ำพริกถูก ลืมไปทลี ะนอ้ ย ผู้ปรุงจึงได้เล็งเห็นควำมส้ำคัญของน้ำพริก ผู้ปรุงจึงคิดท้ำน้ำพริกขึน เพื่อรวบรวมส่วนผสม ต่ำง ๆ นันเข้ำด้วยกนั เป็นกำรลดขนั ตอนกำรปรงุ ลงและสำมำรถท้ำเก็บไว้ได้ในจ้ำนวนมำก วัตถปุ ระสงค์ 1. เพือ่ เป็นกำรแปรรปู อำหำรเกบ็ ไว้รบั ประทำนได้นำนย่งิ ขนึ 2. เพอื่ จดั ท้ำเปน็ ของฝำกและสำมำรถจำ้ หน่ำยได้ 3. เพอื่ ใหร้ จู้ ักใช้เวลำวำ่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 4. เพือ่ ใหร้ จู้ ักกำรคิดค้ำนวณตน้ ทนุ กำ้ ไรน้ำไปใช้ในกำรประกอบอำชีพเสริมได้

4 เปา้ หมาย ฝำ่ ยบริหำรคณะครแู ละนกั เรยี นโรงเรยี นนำ้ ปลีกศกึ ษำรว่ มกบั ชุมชนและผู้ปกครอง งบประมาณ จดั สรรโดยฝ่ำยแผนและงบประมำณโรงเรียนน้ำปลีกศึกษำจำกโครงกำรส่งเสรมิ ควำมเปน็ เลิศ ทำงวชิ ำกำร ระยะเวลาดาเนนิ งาน เดอื นกันยำยน พ.ศ. 2562 – เดอื นธันวำคม พ.ศ. 2562 บทสมั ภาษณ์จากบคุ คลทีเ่ ก่ยี วขอ้ งจากการชิมและสนับสนุน 1. นำยสเุ มธ หน่อแก้ว ผูอ้ ้ำนวยกำรโรงเรยี นนำ้ ปลีกศึกษำ ระบวุ ่ำ รสชำติดีอร่อย 2. นำยมงคล สำยธนู ผู้ชว่ ยผู้อำ้ นวยกำรฝำ่ ยแผนและงบประมำณ ระบุวำ่ รสชำตกิ ำ้ ลังดหี อมสมุนไพร 3. นำงวรรณี บุญสภุ ำกลุ ครโู รงเรียนน้ำปลกี ศกึ ษำ ระบุวำ่ อร่อยกลมกลอ่ ม 4. นำงสำวจำรุวัลย์ ประพณิ ครูโรงเรียนน้ำปลีกศึกษำ ระบวุ ำ่ รสชำติดี มเี อกลักษณ์ 5. นำยไกรสร ค้ำชีลอง ครโู รงเรียนน้ำปลกี ศึกษำ ระบวุ ่ำ แซบ่ แพ็คเกจดี เหมำะแกก่ ำรเป็นของฝำก 6. นำงนรำจันทร์ กมลรัตน์ ครพู ่เี ลยี งเด็กพเิ ศษโรงเรียนน้ำปลกี ศึกษำ ระบุว่ำ รสชำตกิ ้ำลงั ดี กลมกล่อม 7. นำงขวัญใจ จันทนะชำติ ครโู รงเรยี นนำ้ ปลกี ศกึ ษำ ระบุว่ำ รสชำติกลมกล่อม ย่ิงทำนกบั ขำ้ วสวยรอ้ นๆย่งิ อร่อย 8. เดก็ ชำยขจรเกียรติ ตงั จิตร นักเรียนโรงเรียนนำ้ ปลกี ศกึ ษำ ระบุวำ่ รสชำติดมี ำก 9. เดก็ หญงิ กนกรตั น์ สังขป์ ระเสรฐิ นักเรยี นโรงเรียนนำ้ ปลีกศึกษำ ระบุว่ำ รสชำติดี ควำมอร่อยลงตัว

5 ประโยชน์ของสมุนไพรทเ่ี ป็นส่วนประกอบ 1. ข่ำป่ำ(แห้ง) ช่วยขับลมจำกล้ำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และเพ่ิมกำกอำหำรในล้ำไส้ ช่วย ระบบขับถ่ำยข่ำสรรพคุณทำงยำช่วยแก้เสมหะ ช่วยแก้อำกำรคล่ืนไส้อำเจียน เมำรถเมำ ใช้เป็นยำ แก้ท้องขึน ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง ท้องเดิน ในข่ำประกอบด้วยวิตำมินบี 1 วิตำมินบี 2 แคลเซยี ม เสน้ ใยอำหำร และฟอสฟอรัส 2. กระเทียม ประกอบดว้ ย เซเลเนยี ม ซึ่งเปน็ ได้ธำตทุ ีท่ ำ้ หน้ำทเ่ี ป็นตวั ประสำน กำรทำ้ งำน ของเอนไซม์ระหว่ำงวิตำมินเอ และซี ขับลม ขับปัสสำวะ ขับเสมหะ ขับประจ้ำเดือน แก้ไข้ แก้ หวัด ช่วยยอ่ ยอำหำร เจรญิ อำหำร 3. หอมแดง(แห้ง) ประกอบด้วยเซเลเนยี ม เปน็ เกลอื แร่ที่ท้ำหนำ้ ทีเ่ ป็นตวั ประสำนกำรทำ้ งำน ของเอนไซม์ ระหว่ำงวิตำมินดีวิตำมินเอ และซี ช่วยย่อย ท้ำให้เจริญอำหำร ขับลม ขับเหงื่อได้ ดี ทำ้ ให้รูขมุ ขนสะอำด ผวิ พรรณสดใสและมีสำรตำ้ นมะเร็ง 4. พรกิ ชฟี ้ำ (แห้ง) ประกอบด้วยคำรโ์ บไฮเดรตโปรตีนเสน้ ใยอำหำรแคลเซียมฟอสฟอรัส วิตำมนิ เอวติ ำมินบี 1 วติ ำมนิ บี 2 วติ ำมนิ ซแี ละธำตเุ หล็ก 5. ใบมะกรดู ผสมมะกรูด ช่วยขบั ลม แก้จกุ เสยี ดแนน่ แกล้ ม วงิ เวยี น น้ำมะกรูดแก้ เลือดออกตำมไรฟัน ในมะกรูดประกอบด้วยเบต้ำแคโรทีน วิตำมินเอ วิตำมินบี 2 วิตำมิน ซี แคลเซียม และโปรตนี ลดควำมดันโลหิตลดระดับไขมนั คอเลสเตอรอลและนำ้ ตำลในเลอื ด เอกลกั ษณแ์ ละจุดเด่นของผลิตภณั ฑ์ 1. สะอำดไม่มีสำรกันบูด 2. กำรบรรจนุ ำ้ หนกั ได้มำตรฐำน 3. สสี วยนำ่ รบั ประทำน 4. ดำ้ นสมุนไพรหลำกหลำยชนดิ อำทิ หอม กระเทยี ม ข่ำ ใบมะกรูด พรกิ ชฟี ้ำแหง้

6 วสั ดุและอุปกรณ์ 12. ปลำแกว้ 13. หอมแหง้ 1. ถงั แกส๊ ปิคนคิ 14. กระเทียมเจียว 2. กระทะ 15. กุ้งฝอยน้ำจดื ตำกแห้ง 3. ครกหิน 16. นำ้ ตำลทรำยแดง 4. ชำมแสตนเลส 17. น้ำปลำ 5. ตะหลิว 18. ข่ำปำ่ (แหง้ ) 6. มดี 19. พริกป่น 7. เขียง 20. กระปุก 8. ชอ้ นโตะ๊ 9. ถำดรอง 10. กระปุกบรรจุ 11. กะละมังพลำสตกิ ข้นั ตอน/วธิ กี ารทา 1. ตังกระทะแล้วเทน้ำมันให้พอเหมำะ แล้วน้ำปลำแก้วท่ีตำกแห้งมำทอดด้วยไฟอ่อนๆ จน สกุ เหลืองพอดี ตักขนึ พกั ไวใ้ หเ้ สดจ็ นำ้ มนั 2. น้ำกระเทียมทีโ่ ขลกพอหยำบๆ มำเจยี วดว้ ยไฟอ่อนๆ จนเหลืองกรอบ ตักขึนพัก 3. นำ้ ปลำแก้วทที่ อดไว้มำโขลกรวมกบั กงุ้ ฝอยตำกแหง้ และข่ำป่ำห่ันฝอยให้ละเอยี ด 4. น้ำส่วนประกอบทังหมดที่โขลกไว้ มำพักไว้ในชำมแสตนเลสแล้วน้ำเครื่องปรุงต่ำงๆท่ี เตรยี มไว้ ไดแ้ ก่ - นำ้ ตำล 1 ชอ้ นโต๊ะ - พรกิ ปน่ 5 ชอ้ นโต๊ะ - นำ้ ปลำ 2 ชอ้ นโต๊ะ - เกลอื 1 ช้อนชำ - แมงดำ 2 ตวั **อตั รำส่วนเครอ่ื งปรงุ ดังกล่ำวใช้กับปลำแก้ว 4 ขดี กงุ้ ฝอย 4 ขีด และขำ่ ปำ่ ห่ันฝอยตำกแหง้ 3 ขีด เคล็ดลบั ความอร่อย 1. ขำ่ ทใี่ ช้จะต้องเป็นข่ำป่ำ(ข่ำเหลอื ง)เท่ำนนั 2. ปลำแกว้ ท่ีนำ้ มำใช้เป็นวตั ถดุ ิบต้องสดใหม่ 3. ใช้น้ำมันใหมท่ ุกครังที่ทอด (ไมใ่ ช้น้ำมันซำ้ ) 4. พริกปน่ ตอ้ งเปน็ พรกิ ใหม่ท่ตี ำกไดท้ ่จี นกรอบเท่ำนัน

7 งบประมาณและการคานวณตน้ ทุน-กาไร งบประมำณในกำรทำ้ น้ำพรกิ 20 กระปกุ มีรำยละเอียด ดังนี 1. ปลำแก้ว 100 บำท 2. หอมแหง้ 20 บำท 3. กระเทียมเจยี ว 20 บำท 4. กุ้งแห้ง 20 บำท 5. นำ้ ตำลทรำยแดง 10 บำท 6. นำ้ ปลำ 15 บำท 7. ข่ำหนั่ ฝอย 10 บำท 8. พรกิ ป่น 10 บำท คำ้ นวณต้นทุน-ก้ำไร ไดด้ ังนี รำคำต้นทนุ 225 บำท ขำยกระปกุ ละ 20 บำท จำ้ นวน 20 กระปุก เป็นเงนิ ท่ขี ำยได้ 20×20 400 บำท คิดเปน็ กำ้ ไร 175 บำท ประโยชน์ท่ีคาดวา่ จะได้รับ 1. สำมำรถแปรรปู อำหำรเพื่อเก็บไว้รับประทำนได้ นำนยิง่ ขนึ 2. สำมำรถนำ้ ผลติ ภัณฑม์ ำเป็นของฝำกและจ้ำหนำ่ ยได้ 3. นักเรยี นได้รู้จกั กำรใช้เวลำวำ่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ 4. นกั เรยี นรูจ้ ักกำรคดิ ค้ำนวณต้นทนุ ก้ำไรน้ำไปใช้ ในกำรประกอบอำชพี เสรมิ ได้ สรุปผลการดาเนินการ กำรประกอบอำหำรประเภทน้ำพริก เป็นกำรประกอบอำหำรท่ีท้ำให้ผู้เรียนได้เกิดทักษะใน หลำยๆด้ำนและมีควำมชอบในกำรปฏิบัติงำน สำมำรถแยกแยะส่ิงที่ถนัด ของนักเรียนได้โดยใช้ กำรปฏิบัติเป็นตัววัดผลประเมิน โดยภำพรวมกำรประกอบอำหำรประเภทน้ำพริกผักสดเครื่องเคียง ครังนี อยู่ในระดับดีมำกและขอขอบพระคุณท่ำนผู้บริหำร และคณะครูกลุ่มสำระกำรงำนอำชีพและ เทคโนโลยี ทใ่ี ห้กำรสนับสนุนตชิ มรสชำตขิ องน้ำพริกนรกสมนุ ไพรในครังนี

8 ภาคผนวก

9 สติ๊กเกอร์น้าพรกิ

10 รวมภาพกิจกรรมการทานา้ พรกิ นรกยกนิ้ว โรงเรยี นน้าปลีกศกึ ษา สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษาเขต 29 สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ส่วนผสมในการทานา้ พริกนรกยกนวิ้

11 การเตรยี มวัสดุอปุ กรณ์

12 ขนั้ ตอนในการทาน้าพรกิ

13 ขนั้ ตอนตกแต่งผักสด เครอื่ งเคยี ง และบรรจภุ ัณฑ์

14 ทีมงานการนั ตี ความอรอ่ ย

15 นา้ พริกนรกยกน้วิ พร้อมจาหนา่ ย ราคา กระปุกละ 20 บาท