Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุป 5 บท สังคม2 ปี63 สระสี่เหลี่ยม

สรุป 5 บท สังคม2 ปี63 สระสี่เหลี่ยม

Published by sariya putthamalee, 2020-09-10 01:23:55

Description: สรุป 5 บท สังคม2 ปี63 สระสี่เหลี่ยม

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการจดั กิจกรรมการศึกษาเพ่อื พัฒนาสงั คมและชมุ ชน ปงี บประมาณ 2563 (ไตรมาส3-4) โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอย่างถกู วธิ ี สวู่ ิถีการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของชมุ ชน ในวันท่ี 19 มิถุนายน 2563 ณ กศน.ตาบลสระสเ่ี หล่ยี ม หม่ทู ี่ 7 ตาบลสระสีเ่ หลย่ี ม อาเภอพนสั นคิ ม จังหวดั ชลบรุ ี กศน.ตาบลสระสีเ่ หลี่ยม ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอพนัสนิคม สานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั ชลบุรี

คานา กศน.ตาบลสระสเ่ี หลีย่ ม สงั กัด ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอพนสั นคิ ม ได้จัดทา โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ ีส่วู ิถกี ารพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยมีวัตถุประสงค์เพอ่ื ให้ ผูเ้ ข้ารว่ มกิจกรรม มีความรู้ความเข้าใจเกย่ี วกับการใช้สมุนไพรไทยมากขึน้ และนาความรู้ทีไ่ ด้รับมาปรับใชใ้ นชีวิตประจาวัน ซง่ึ มกี ารสรปุ ผลการจัดกจิ กรรมโครงการดังกล่าวเพ่ือตอ้ งการทราบวา่ การดาเนินโครงการบรรลุตามวตั ถุประสงคท์ ก่ี าหนดไว้ หรือไม่ บรรลใุ นระดับใดและได้จดั ทาเอกสารสรปุ ผลการจัดกจิ กรรมการศึกษาเพ่อื พฒั นาสงั คมและชมุ ชนเสนอตอ่ ผู้บรหิ าร ผู้เก่ยี วขอ้ งเพื่อนาข้อมูลไปใชใ้ นการปรบั ปรุงและพัฒนาการดาเนินโครงการให้ดยี ิ่งขน้ึ คณะผูจ้ ดั ทา ขอขอบคณุ ผู้อานวยการ ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอพนัสนคิ มท่ีใหค้ าแนะนา คาปรึกษา ในการจัดทาสรปุ ผลการจัด กิจกรรมการศกึ ษาเพ่อื พฒั นาสงั คมและชุมชนในครัง้ น้ี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารสรุปผลการจัดกิจกรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชนฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อ ผู้ปฏิบัติงานโครงการและหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการนาไปใช้ในการจัดกิจกรรมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย ต่อไป นางสาวศรยิ า พุทธมาลี ครู กศน.ตาบลสระส่เี หลี่ยม มิถุนายน 2563

สารบัญ หนา้ ก หวั เรื่อง ข คานา ค สารบัญ สารบญั ตาราง 1 บทที่ 1 บทนา 1 1 - หลกั การและเหตุผล 1 - วตั ถุประสงค์ 2 - เปา้ หมายการดาเนนิ งาน - ผลลัพธ์ 3 - ตวั ชว้ี ัดผลสาเรจ็ ของโครงการ 3 บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยท่เี กี่ยวข้อง 8 - กรอบการจดั กจิ กรรมการศึกษาเพอื่ พฒั นาสังคมและชมุ ชน 11 - เอกสาร/งานท่ีเกยี่ วข้อง 16 บทที่ 3 วิธดี าเนินงาน บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล บทท่ี 5 อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม ภาคผนวก - รายงานผลการจดั กจิ กรรม - แบบประเมินผู้รับบรกิ าร คณะผจู้ ัดทา

สารบัญตาราง หนา้ ตารางที่ 11 11 1. ผ้เู ข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามเพศ 12 2. ผู้เข้ารว่ มโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอายุ 12 3. ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการท่ตี อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอาชพี 12 4. ผู้เข้าร่วมโครงการที่ตอบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามระดับการศึกษา 13 5. แสดงคา่ ร้อยละเฉลี่ยความสาเรจ็ ของตวั ชีว้ ดั ผลผลติ ประชาชนทัว่ ไป 13 6. ค่าเฉลย่ี และสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ในภาพรวม 14 7. ค่าเฉล่ียและส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ด้านบริหารจดั การ 15 8. ค่าเฉลี่ยและสว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจฯ โครงการ ดา้ นการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 9. คา่ เฉลย่ี และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจฯ โครงการ ด้านประโยชนท์ ่ีได้รับ

1 บทท่ี 1 บทนา หลักการและเหตุผล ภูมปิ ัญญาดา้ นพืชสมุนไพรเป็นสิ่งทีอ่ ยคู่ ู่คนไทยมานบั พนั ปี เนือ่ งจากอดีตกาลคนไทยเม่ือเกิดการเจ็บปว่ ยขน้ึ ก็ จะมกี ารนาสมุนไพรมาใชใ้ นการรกั ษาเบื้องต้นหรือรกั ษาพยาบาลกับหมอพ้ืนบ้านในหมู่บ้านของตนเอง เพ่อื บรรเทาอาการ เจ็บปว่ ยโดยอาศัยภูมิปัญญาที่สบื ทอดกนั มาหลายช่วั อายุ แต่เมอ่ื การแพทย์แผนปัจจบุ ันเร่ิมเข้ามามีบทบาทในบา้ นเรา ภมู ปิ ญั ญาความรู้ทางด้านการใช้ยาสมุนไพรจงึ ถกู ลดความสาคญั ลง และทาให้เยาวชนรนุ่ หลังรู้จกั สมุนไพรไทยน้อยมาก และ แทบจะไม่รู้จกั เลย ทั้ง ๆทส่ี มุนไพรเหลา่ น้ันอยู่ใกลต้ วั เรานเี้ อง และในบางคร้ังก็มีการนาสมุนไพรมาใช้อย่างผิดวธิ ี ผดิ โรคทา ใหไ้ ม่เหน็ ผลการรกั ษาที่ดีขนึ้ จงึ เลิกใช้ยาสมุนไพรไปบางคนจะหนั กลบั มาใชย้ าสมุนไพรก็ประสบปญั หาไม่ทราบว่าจะหา แหล่งข้อมลู ที่น่าเชื่อถอื และถูกตอ้ งไดจ้ ากท่ีใด กศน.ตาบลสระสี่เหลี่ยม จึงได้เล็งเห็นความสาคัญจากเหตุผลข้างต้นดังกล่าว จึงได้ดาเนินการจัดทา โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอยา่ งถกู วธิ ีสู่วิถกี ารพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของชุมชนขึ้น เพ่ือเป็นประชาชนท่ัวไปหัน กลับมาใช้ยาสมุนไพรในครัวเรือนอย่างถูกต้องถูกวิธี และถูกกับโรคลดการใช้ยาเคมีให้ประชาชนมีแหล่งการสืบค้นข้อมูลที่ น่าเชอื่ ถือ และเพอื่ ใหภ้ มู ปิ ัญหาด้านการแพทย์แผนไทยได้ส่งต่อสืบทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป รวมทั้งสามารถนาสมุนไพรมา ประยกุ ตใ์ ช้เพ่อื ให้เขา้ กบั ยุคสมัยและบรบิ ทของพ้นื ท่ี และประชาชนทว่ั ไปท่ีเขา้ ร่วมอบรมจะมคี วามเข้าใจในเร่ืองสมุนไพรมาก ขึน้ และสามารถถ่ายทอดสู่ชมุ ชนต่อไปได้ วัตถุประสงค์ 1. เพ่ือให้ผเู้ ข้ารับการอบรมมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกี่ยวกบั การใช้สมุนไพรไทยมากขนึ้ 2. เพอ่ื ให้ผู้เขา้ รับการอบรมมคี วามเข้าใจในเรื่องสมนุ ไพรไทยและสามารถถา่ ยทอดสู่ชมุ ชนได้ 3. เพ่ือให้ผ้เู ข้ารับการอบรบสามารถนาไปประยุกต์ใช้ยาสมนุ ไพรไทยในการดารงชีวิตได้ เป้าหมาย (Outputs) เป้าหมายเชิงปรมิ าณ ประชาชนตาบลสระสีเ่ หลยี่ ม จานวน 15 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ 1. ผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรม มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทยมากขนึ้ 2. ผ้เู ข้าร่วมกจิ กรรม มีความเข้าใจในเร่ืองสมนุ ไพรไทยและสามารถถ่ายทอดสู่ชมุ ชนได้ 3. ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรม สามารถนาไปประยุกต์ใชย้ าสมุนไพรไทยในการดารงชีวิตได้ ผลลพั ธ์ ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกบั การใช้สมุนไพรไทยมากขึ้น สามารถถา่ ยทอดความรู้ส่ชู ุมชนและ สามารถนาไปประยุกต์ใช้ยาสมนุ ไพรไทยในการดารงชีวิตได้

2 ดชั นีช้วี ดั ผลสาเรจ็ ของโครงการ ตวั ชีว้ ดั ผลผลิต (Outputs) รอ้ ยและ 80 ของผู้เข้าร่วมกจิ กรรม มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การใช้สมนุ ไพรไทยมากขึน้ ตัวชี้วดั ผลลพั ธ์ (Outcomes) ร้อยและ 80 ของผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรม สามารถนาไปประยุกต์ใช้ยาสมุนไพรไทยในการดารงชีวติ ได้

3 บทท่ี 2 เอกสารการศึกษาและงานวจิ ัยทเี่ กี่ยวข้อง ในการจดั ทาสรุปผลโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใช้สมุนไพรไทยอย่างถูกวธิ สี ู่วิถกี ารพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของชุมชน ครั้งน้ี คณะผจู้ ัดทาโครงการไดท้ าการค้นคว้าเนอื้ หาเอกสารการศกึ ษาและงานวิจยั ทีเ่ ก่ียวข้อง ดงั น้ี 1. กรอบการจัดกิจกรรมการศึกษาเพอื่ พัฒนาสังคมและชุมชน 2. เอกสาร/งานวจิ ยั ที่เกี่ยวข้อง 1. กรอบการจัดกิจกรรมการศึกษาเพือ่ พฒั นาสงั คมและชุมชน นโยบายเร่งด่วนเพอ่ื ร่วมขบั เคลื่อนยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาประเทศ ภารกิจตอ่ เนอื่ ง 1. ด้านการจัดการศกึ ษาและการเรยี นรู้ 1.3 การศกึ ษาตอ่ เนื่อง 3) จัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน โดยใช้หลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณา การในรปู แบบของกาฝกึ อบรม การประชุม สัมมนา การจัดเวทแี ลกเปลีย่ นเรยี นรู้ การจดั กิจกรรมจติ อาสา การสร้างชุมชนนัก ปฏิบัติ และรูปแบบอ่ืนๆ ท่ีเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และบริบทของชุมชนแต่ละพ้ืนท่ี เคารพความคิดของผู้อ่ืน ยอมรับ ความแตกตา่ งและหลากหลายทางความคิดและอดุ มการณ์ รวมท้ังสังคมพหุวัฒนธรรม โดยจัดกระบวนการให้บุคคลรวมกลุ่ม เพื่อแลกเปล่ียนเรียนรู้ร่วมกัน สร้างกระบวนการจิตสาธารณะการสร้างจิตสานึกความเป็นประชาธิปไตย การเคารพในสิทธิ และรับผิดชอบต่อหน้าท่ีความเป็นพลเมืองดีการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม การบาเพ็ญประโยชน์ในชุมชน การบริหาร จัดการน้า การรับมือกับสาธารณภัย การอนุรักษ์พลังงานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการ พัฒนาสงั คมและชมุ ชนอย่างยง่ั ยนื 2. เอกสาร/งานท่ีเกย่ี วขอ้ ง “หลกั 5 ถกู ” ใชส้ มุนไพรไทยใหป้ ลอดภยั สมุนไพร แมจ้ ะเปน็ ส่ิงทม่ี าจากธรรมชาติ แต่ไมไ่ ด้หมายความวา่ จะไมม่ ีอันตรายร้ายแรง เพราะทีส่ ดุ แล้วหากใช้ ไมถ่ ูกต้อง ใชไ้ ม่ถูกกบั อาการ ไม่ถูกกบั โรค ในปริมาณขนาดท่ใี ชไ้ ม่เหมาะสม หรือใช้กบั ผู้ทแ่ี พ้สมนุ ไพรบางชนดิ ก็อาจเกิด อันตรายที่คาดไม่ถึงได้เชน่ กนั ดงั นนั้ ถ้าตอ้ งการใชส้ มนุ ไพรอยา่ งให้ไดผ้ ลดที ส่ี ดุ ก็ต้องใช้อยา่ งมีความรู้ด้วย และต้องยึด หลักการใชส้ มุนไพร 5 ถูก คือ 1. ถกู ตน้ สมนุ ไพรส่วนใหญ่มีชื่อพ้องกนั หรือซา้ กนั มากแล้ว แต่ละท้องถ่นิ ก็อาจเรียกช่ือแตกต่างกัน ท้ังๆ ทีเ่ ป็นพืชชนิด เดียวกัน หรือบางคร้ังชอ่ื เหมือนกนั แตเ่ ป็นพชื คนละชนดิ ก็มี เพราะฉะนั้นจะใช้สมุนไพรอะไรกต็ ้องศึกษาใหร้ ู้จกั อย่างลกึ ซ้ึง 2. ถกู ส่วน พืชสมนุ ไพรไมว่ า่ ราก ดอก ใบ เปลอื ก ผล หรอื เมลด็ จะมฤี ทธใ์ิ นการรักษาหรือบ้าบดั โรคไมเ่ ทา่ กนั แม้กระทั่งผล ออ่ น หรือผลแกก่ ็มฤี ทธิแ์ ตกต่างกนั 3. ถกู ขนาด ธรรมชาตขิ องยาสมนุ ไพร คือ หากใชน้ ้อยไป ก็จะรกั ษาไม่ไดผ้ ล แตถ่ ้าใช้มากไปก็อาจเกดิ อนั ตรายต่อร่างกายได้ เชน่ กัน

4 4. ถกู วธิ ี สมนุ ไพรทีจ่ ะน้ามาใช้ บางชนิดต้องใชต้ น้ สด บางชนดิ ต้องผสมกบั เหล้า บางชนิดใช้ต้มหรือชง ซงึ่ หากใช้ไม่ถูกตอ้ งก็ ไมเ่ กิดผลในการรักษา 5. ถกู กบั โรค เช่น มีอาการท้องผูก ก็ต้องใช้สมนุ ไพรที่มีฤทธ์ิเปน็ ยาระบาย ถา้ ไปใชส้ มุนไพรที่มรี สฝาด จะท้าให้ท้องยงิ่ ผูก มากขึน้ ข้อควรระวงั ในการใช้สมนุ ไพร โดยทว่ั ไปพืชสมุนไพรแตล่ ะชนิดสามารถรักษาโรคได้หลายโรค เพราะสมุนไพรแต่ละชนิดมีสารส้าคญั หลายชนิด ดงั น้นั การรูจ้ กั ใช้พืชสมุนไพรแต่ละชนดิ อย่างกว้างขวางย่อมเป็นสิ่งมปี ระโยชน์ นักวิจยั สมุนไพรอาศยั ความร้แู ละ ประสบการณจ์ ากแพทย์แผนโบราณเปน็ แนวทาง เพอื่ น้าไปทดลองให้มีมาตรฐานการใช้รักษาโรคไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและ ปลอดภัยมากขึ้น ตลอดจนหลีกเล่ียงและระมดั ระวังผลข้างเคยี งท่ีอาจเกิดขึ้นได้ การใชส้ มุนไพรในงานสาธารณะสุขมูลฐาน เปน็ การสง่ เสรมิ ให้ประชาชนใช้สมุนไพรเดย่ี วเพื่อรักษาโรค หรืออาการเจบ็ ป่วย หรืออาการเบือ้ งตน้ ที่พบบ่อย ๆ รวม 18 โรค ไดแ้ ก่ ท้องผกู ทอ้ งอดื ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ท้องเสีย (แบบไม่รนุ แรง) พยาธลิ า้ ไส้ บิด คลนื่ ไส้ อาเจียน (เหตจุ ากธาตุไม่ ปกต)ิ ไอ ขับเสมหะ ไข้ ขดั เบา (ปัสสาวะไม่สะดวก กระปริบกระปรอยแต่ไมม่ ีอาการบวม) โรคกลาก โรคเกลือ้ น อาการนอน ไมห่ ลับ ฝแี ผลพุพอง (ภายนอก) อาการเคล็ดขดั ยอก (ภายนอก) อาการแพ้ อกั เสบ แมลงสตั วก์ ดั ต่อย แผลไฟไหม้ น้าร้อน ลวก เหา และชนั ตุ ข้อควรระวงั ในการใช้สมนุ ไพรมดี ังน้ี 6.1 อาการท่ไี มค่ วรรักษาด้วยตนเองโดยการใชส้ มุนไพร การใช้สมุนไพรรกั ษากล่มุ โรค หรือกล่มุ อาการดังท่ีกลา่ วขา้ งตน้ แล้ว ให้หยุดใช้เมอ่ื อาการหายไป แต่ถา้ อาการยงั ไม่ดีข้ึน ภายใน 2-3 วนั หรือ ถ้าผปู้ ่วยทมี่ ีอาการโรคดงั กลา่ วทรี่ ุนแรงต้องรบี น้าสง่ โรงพยาบาลทันที ไมค่ วรรกั ษาโรคดว้ ยตนเอง อาการที่กลา่ วถงึ ไดแ้ ก่ 1. ไขส้ งู (ตัวร้อนจัด) ตาแดง ปวดเม่ือยมาก ซึม และเพ้อ 2. ไข้สงู ตัวเหลือง ออ่ นเพลียมาก และอาเจียน 3. ปวดท้องอย่างแรงบรเิ วณสะดือ หรือบรเิ วณท้องดา้ นขวาล่าง เวลาเอามือกดเจ็บปวดมากข้ึน หน้าท้องแขง็ อาจมี อาการท้องผูก และมไี ขร้ ว่ มด้วย ซง่ึ เปน็ อาการของไสต้ ิง่ อักเสบ 4. ปวดท้องรุนแรงมากอาจมีอาการจเปน็ โรคร้ายแรงของกระเพาะอาหาร หรือปอด 5. ทอ้ งเดินอย่างแรงอุจจาระเป็นตัวร้อน และคลืน่ ไส้ อาเจยี น อาจเปน็ อาการของกระเพาะอาหาร หรือลา้ ไส้ทะลุ 6. อาเจยี น หรือไอเปน็ เลือด อา 7. นา้ และอาจมลี ักษณะคลา้ ยน้าซาวข้าว ถา่ ยติดต่อกันอย่างรวดเร็ว ออ่ นเพลยี มาก ตาลกึ ผวิ หนังแหง้ ซ่งึ อาจเปน็ อาการของอหิวาตกโรค 8. ถา่ ยอจุ จาระเป็นมูกเลอื ด อจุ จาระเปน็ น้า ถ่ายบ่อยมาก อาจถา่ ยถงึ 10 ครัง้ ต่อชวั่ โมง เพลยี มาก อาจเป็นโรคบดิ รุนแรง 9. อาการของโรคคอตบี ในเด็ก โดยเฉพาะอายไุ ม่เกนิ 12 ปี มีไขส้ ูง ไอมาก หายใจมีเสียงผดิ ปกติคล้ายมีอะไรติดใน ล้าคอ หรอื มีอาการหนา้ เขียวดว้ ย 10.มีอาการตกเลือดเป็นเลอื ดสด ๆ จากทางใดก็ตามโดยเฉพาะทางช่องคลอด ต้องรบี น้าสง่ โรงพยาบาลทันที 6.2 โรคร้ายแรง โรคเรือ้ รังหรือโรคท่ียงั พสิ จู น์ไม่ไดแ้ น่ชดั ว่า สามารถรกั ษาด้วยสมุนไพรได้

55 ไมค่ วรใช้สมนุ ไพรรกั ษาโรคด้วยตนเอง เช่น งพู ิษกดั สุนัขบ้ากดั บาดทะยัก กระดูกหกั มะเรง็ วัณโรค กามโรค ความ ดันโลหิตสงู เบาหวาน โรคเรอ้ื น ดซี ่าน หลอดลมอักเสบเรือ้ รงั ปอดบวม (ปอดอักเสบ) อาการบวม ไทฟอยด์ โรคตาทุกชนดิ ควรไปพบแพทย์ และต้องมีการตรวจโดยใชห้ ้องปฏิบัติการเพื่อประกอบการรักษา 6.3 ใชส้ มุนไพรใหถ้ กู กับโรค จะตอ้ งใช้สมุนไพรท่มี ีฤทธิท์ างยาให้ถูกต้อง เชน่ ทอ้ งผกู ต้องใชย้ าระบาย อาทิ ใช้ฝักมะขามแขก ถ้าใชส้ มนุ ไพรที่มีฤทธ์ิฝาด สมาน อาทิ ใบฝรง่ั จะยิ่งทา้ ให้ท้องผกู มากขนึ้ 6.4 ใชส้ มุนไพรให้ถูกชนดิ เมอื่ จะใช้สมนุ ไพรชนิดใด ตอ้ งแนใ่ จว่าน้าต้นสมนุ ไพรที่ถูกต้องมาใช้ เนื่องจากสมุนไพรมชี ่ือพ้อง หรือช่ือซ้ากนั มาก โดยเฉพาะ ชื่อท่เี รยี กกนั ในแต่ละท้องถน่ิ อาจเรยี กแตกตา่ งกนั ท้าใหเ้ กิดความสับสน และอาจนา้ สมุนไพรมาผิดต้นได้งา่ ย นอกจากจะไม่ สามารถรักษาโรคได้แลว้ ยงั อาจทา้ ให้เกดิ อันตรายได้อกี ดว้ ย การใชช้ ื่อวิทยาศาสตร์ (scienctific name) ซึง่ ประกอบดว้ ยช่ือ สกุล (genus) และชือ่ ชนดิ (species) เช่น ตะไคร้แกง มีช่ือวิทยาศาสตรว์ า่ Cymbopogon citratus Stapf. (Stapf เป็นชอื่ ผู้ต้ังช่อื วิทยาศาสตร์ของพขื ชนิดน้ี) จะชว่ ยลดการใชส้ มุนไพรผดิ ตน้ ได้ 6.5 ใชสั มนุ ไพรใหถ้ กู ส่วน พชื มสี ว่ นตา่ ง ๆ หลายสว่ น เชน่ ราก ตน้ ใบ ดอก ผล และเมล็ด เปน็ ตน้ เนอ่ื งจากในแตล่ ะส่วนของพืชมสี ารส้าคัญทมี่ ีฤทธ์ิ ทางยาต่างกนั จึงใชร้ กั ษาโรคได้แตกต่างกนั เช่น ชุมเห็ดไทย (Cassia tora Linn.) ใบใช้เปน็ ยาระบาย สว่ นผลใชแ้ ก้ฟกบวม นอกจากนั้น ผู้ใชค้ วรมีความรู้เก่ียวกับลกั ษณะของส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น เหง้า ตา หวั และร้จู กั ศัพท์เทคนคิ ทใี่ ช้เรียกส่วน ตา่ ง ๆ ของพืช เชน่ ใบเพสลาด ซ่งึ หมายถงึ ใบทีไ่ ม่แก่ไม่อ่อนเกนิ ไป คา้ วา่ ทุกส่วน หรอื ทั้งห้า หรอื ทงั้ ต้น หมายถงึ ต้น ราก ใบ ดอก และผล เป็นต้น 6.6 ใชส้ มุนไพรท่เี ก็บถูกชว่ งระยะเวลา สว่ นของสมนุ ไพรในส่วนเดยี วกนั ถา้ เก็บต่างระยะเวลากนั จะให้ผลการรักษาต่างกัน เชน่ ผลฝรง่ั อ่อนมแี ทนนนิ ใช้แก้ทอ้ งเสยี ท้องร่วง ท้องเดิน แต่ถา้ ผลฝร่งั สุกจะมเี พ็กตินอยู่มาก ใช้รบั ประทานเปน็ ยาระบาย หรอื ผลกลว้ ยดิบใชเ้ ปน็ ยาแกท้ ้องเสีย แต่ ผลกล้วยสุกกลับมีฤทธ์ิเปน็ ยาระบายอ่อน ๆ เปน็ ตน้ 6.7 ใชส้ มนุ ไพรใหถ้ ูกขนาดตามท่กี า้ หนดไว้ ถ้าใช้ขนาดมากหรือน้อยเกินไป อาจไม่ใหผ้ ลในการรักษา แต่ยงั อาจท้าใหเ้ กดิ โทษได้ เช่น พืชจ้าพวกดจิ ิทาริสซึ่งมี สารออกฤทธต์ิ ่อหัวใจ ถา้ ใชใ้ นปริมาณน้อย ๆ จะมีฤทธเิ์ ป็นยาบ้ารงุ หวั ใจ แต่ถ้าใชม้ ากจะท้าใหเ้ กดิ อันตรายได้ ไมค่ วรใชย้ า เข้มข้นจนเกินไป เช่น ยาท่ีก้าหนดใหต้ ้มรบั ประทาน ไมค่ วรน้าไปเค่ียวจนแห้ง เพราะจะท้าให้ยาท่ไี ด้เข้มข้นจนเกนิ ไป อาจทา้ ใหเ้ กิดพิษได้ นอกจากนนั้ ขนาดท่รี ะบุไวใ้ นต้ารับมักเปน็ ขนาดของผู้ใหญ่ ดงั นน้ั ถา้ ใชก้ ับเด็กจึงควรลดขนาดตามส่วน 6.8 วธิ ชี ่ัง ตวง วัด ของตา้ ราแพทยแ์ ผนโบราณ วิธีช่ัง ตวง วัด ของต้าราแพทย์แผนโบราณยังคงใชต้ ามแบบดงั้ เดมิ ซึง่ มีผู้ไม่เข้าใจอีกมาก แต่ปจั จุบันนักวิทยาศาสตร์ไดท้ า้ ให้ ง่ายขึ้น โดยน้าขนาดทร่ี ะบใุ นตา้ ราแพทยแ์ ผนโบราณ มาชั่งและตวงวัดด้วยระบบเมตริกเป็นหน่วยของ กรมั มลิ ลิลิตร เพ่ือให้ เขา้ ใจได้ง่ายและตรงกนั เช่น ยาน้า อาทิ ยาต้ม ยาชง หรือขนาดของตวั ท้าละลาย มขี นาดดงั นี้ 1ช้อนกาแฟหรอื ขอ้ นชา มปี ริมาตร 5 มลิ ลลิ ติ ร 1 ช้อนโต๊ะหรอื ชอ้ นคาว มีปริมาตร 15 มิลลิลติ ร 1 ถว้ ยชา มีปริมาตร 75 มลิ ลิลติ ร 1 ถว้ ยตะไล มปี รมิ าตร 25-30 มิลลลิ ติ ร

6 1 ชอ้ นหวาน มีปริมาตร 8 มิลลลิ ติ ร 2 ชอ้ นแกง มีปรมิ าตร 1 ช้อนโตะ๊ ถ้าเปน็ ยาสมุนไพรแหง้ หนัก 1 บาทจะหนักเทา่ กบั 5 กรมั  1 กอบมือ หมายถึงปริมาณสมุนไพรท่ไี ดจ้ ากการใชม้ อื ท้ังสองข้าง กอบเขา้ หากนั ให้ปลายนิ้วกลาง นิว้ นาง และ นิ้วก้อยแตะกนั  1 กา้ มอื หมายถึง ปริมาณสมุนไพรที่ได้จากการใชม้ ือข้างเดียว ทา้ ใหป้ ลายนิว้ จรดองุ้ มือโหยง่ ๆ  1 หยิบมือ มปี ริมาณเทา่ กบั ใชน้ ิว้ หวั แม่มอื น้วิ ชี้ และนว้ิ กลางหยิบขึน้ มา  1 ฝ่ามอื มปี รมิ าณเท่ากับกว้าง 3 น้ิว ยาว 4 นว้ิ  1 องคุลี หมายถึง ความยาว 1 ข้อแรกของนว้ิ กลาง เปน็ ทน่ี า่ สังเกตวา่ วิธตี วงสมุนไพรแหง้ เปน็ กา้ มือ หรอื กอบมือ ระบุไว้ชดั เจนวา่ เป็นขนาดก้ามือของผู้ป่วย นั่นคือ ผ้ปู ว่ ยเดก็ ที่ มีก้ามือเล็กจะมีขนาดรับประทานนอ้ ยกว่าผใู้ หญ่ 6.9 ใช้สมุนไพรให้ถกู วิธี การใชส้ มนุ ไพรแตล่ ะชนดิ รักษาโรคนั้น มีวธิ ีใช้แตกต่างกันออกไป เช่น พชื บางชนิดต้องใช้สด บางชนดิ ใชด้ องกบั เหลา้ บาง ชนิดใชต้ ม้ การใช้ผิดวธิ ี จะท้าให้การรักษาไม่ไดผ้ ล แต่อาจมีผลข้างเคียงได้  ขอ้ ควรรเู้ ก่ียวกับการปรุงยาไทย  ถ้าไม่ได้บอกวา่ ใชส้ ดหรือแห้งให้ถอื ว่าใชส้ ด  เมื่อใช้ภายใน ถ้าไมร่ ะบุวธิ ีใช้ ให้เขา้ ใจวา่ ใช้โดยวิธตี ม้ ดมื่  เมอื่ ใชภ้ ายนอก ถ้าไม่ระบวุ ิธใี ช้ ใหเ้ ขา้ ใจว่าใชโ้ ดยวิธีตา้ พอก  ยารบั ประทาน ใหร้ บั ประทานวันละ 3 คร้ัง กอ่ นอาหาร  ยาตม้ ใช้คร้ังละ 1/2-1 แก้ว (250 มิลลิลิตร)  ยาดองยาคั้นเอาแต่นา้ รับประทานคร้ังละ 1/2-1 ชอ้ นโต๊ะ  ยาป้ัน ยาลกู กลอน รบั ประทานครง้ั ละ 1-2 เม็ด (ขนาดเสน้ ผ่าศูนย์กลาง 1 เซนติเมตร)  ยาชงรบั ประทานคร้ังละ 1 แก้ว 6.10 วธิ ีปรุงยาไทย 1 ยาตม้ การเตรียม ปริมาณท่ใี ช้โดยท่ัวไปใช้ 1 ก้ามอื คือ เอาต้นสมนุ ไพรมาขดมดั รวบกนั เป็นท่อนกลมยาวขนาด 1 ฝ่ามือ กวา้ ง ขนาดใชม้ ือกา้ ไดโ้ ดยรอบพอดี ถา้ ต้นสมนุ ไพรน้นั แข็งน้ามาขดมดั ไม่ได้ ใหห้ น่ั เป็นทอ่ นยาวขนาด 5-6 นวิ้ กว้าง 1/2 นวิ้ แล้ว เอามารวมกันให้ไดข้ นาด 1 ก้ามือ การต้ม เทนา้ ลงไปให้ท่วมยาเล็กน้อย (ประมาณ 3-4 แก้ว) ถา้ ปริมาณยาที่ระบุไวน้ ้อยมาก เช่น ใช้เพียง 1 หยบิ มอื ให้เทนา้ ลงไป 1 แกว้ (250 มิลลลิ ติ ร) ตม้ ใหเ้ ดือดนาน 10-30 นาที แลว้ แตว่ า่ ต้องการเขม้ ข้น หรอื เจอื จาง กนิ ในขณะที่ยายังอุน่ ๆ 2 ยาชง การเตรยี ม ปกติใชย้ าแหง้ ชง เตรียมโดยหั่นยาสดเปน็ ช้นิ เลก็ ๆ บาง ๆ ตากแดดใหแ้ หง้ ถ้าต้องการไม่ใหม้ ีกลนิ่ เหมน็ เขยี วให้ เอาไปค่ัวเสยี ก่อน จะมีกลนิ่ หอม การชง ใช้สมนุ ไพร 1 ส่วน เตมิ น้าเดอื ดลงไป 10 ส่วน ปิดฝาตั้งทิง้ ไว้ 15-20 นาที 3 ยาดอง

7 การเตรียม ปกติใชย้ าแหง้ ดอง โดยบดต้นสมนุ ไพรให้แหลกพอหยาบ ๆ ห่อดว้ ยผ้าขาวบางหลวม ๆ เผอ่ื ยาพองตวั เวลาอมน้าการดอง เติมเหล้าให้ทว่ มหอ่ ผ้า ตงั้ ทงิ้ ไว้ 7 วนั 4 ยาปัน้ ลูกกลอน การเตรยี ม หนั่ ต้นสมุนไพรให้เปน็ แวน่ บาง ๆ ตากแดดใหแ้ ห้ง บดเปน็ ผงในขณะท่ยี ายังร้อนจากการตากแดด เพราะยาจะ กรอบบดง่าย การปนั้ ยา ใชผ้ งยา 2 สว่ น ผสมกับน้าผ้งึ หรือน้าเช่อื ม 1 สว่ น ตง้ั ทิ้งไว้ 2-3 ช่ัวโมง เพอ่ื ให้ปัน้ ยาเปน็ ยาได้งา่ ยไม่ติดมือ ปน้ั เป็นรูปกลม ๆ ขนาดเสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 1 เซนติเมตร ปน้ั เสร็จแล้วผง่ึ แดดจนแห้ง จากนนั้ อกี 2 สปั ดาห์ น้ามาผง่ึ แดดอีกครงั้ เพอ่ื กันเชือ้ ราขึน้ 5 ต้าคนั้ เอาแตน่ ้า นา้ ตน้ สมุนไพรสดมาต้าให้ละเอียดจนเหลว ถ้าไม่มนี า้ ใหเ้ ติมน้าลงไป ค้นั เอาน้ายาท่ีไดด้ ่ืม ส่วนยาบางชนดิ ให้น้าไปเผาใหส้ กุ เสียกอ่ นแลว้ จงึ ตา้ เช่น กระทือ กระชาย 6 ยาพอก การเตรียมยา ใช้ตน้ สมนุ ไพรสดตา้ ให้แหลกพอยาเปียก แต่ถ้ายาแห้งให้เติมน้าหรือเหล้าลงไปพอยาเปียก การพอก พอกแลว้ ตอ้ งคอยหยอดนา้ อยู่เสมอ เปลยี่ นยาวันละ 3 คร้ัง 6.11 ใชย้ าตามท่แี พทย์แผนโบราณก้าหนด การใชย้ าสมนุ ไพรไมค่ วรดัดแปลงเพอื่ ความสะดวกของผูใ้ ช้ เพราะอาจเปน็ อนั ตรายได้ ควรใช้ยาตามทแี่ พทยแ์ ผนโบราณ กา้ หนด 6.12 ควรหยดุ ใช้ยา หากพบอาการผิดปกติ เม่อื เรมิ่ ใช้ยาสมุนไพรควรสังเกตอาการ หากพบอาการผดิ ปกตเิ กิดข้ึน ควรหยุดใชย้ า และรบี พบแพทยแ์ ผนปัจจุบนั 6.13 ความสะอาดของพชื สมุนไพร ควรระมัดระวงั ในเรื่องความสะอาดของสมุนไพร ตลอดจนเครือ่ งมือเคร่อื งใช้ เพราะถา้ ไม่สะอาดจะท้าให้เกดิ โรคแทรกซอ้ นได้ สมนุ ไพรที่เก็บไว้นาน ถ้ามีราข้นึ หรอื มแี มลงไม่ควรน้ามาใช้ เพราะสารสา้ คัญอาจเปล่ียนแปลงไปท้าใหใ้ ชไ้ ม่ได้ผล และยังอาจ ไดร้ ับพิษจากแมลงหรอื เช้ือราไดอ้ ีกดว้ ย 6.14 ควรรูข้ ้อห้ามใช้ยาสมุนไพร ควรรพู้ ษิ ของยากอ่ นใช้ รูข้ อ้ ห้ามใช้ เพราะยาบางชนดิ มีข้อห้ามใชก้ ับคนบางคน บางโรค เม่ือรูส้ ิ่งเหลา่ นแ้ี ลว้ จะทา้ ให้การใชย้ า ปลอดภยั มากข้ึน 6.15 ไม่ควรใชย้ าตวั เดียวติดตอ่ กนั เปน็ เวลานาน ไมค่ วรกินยาตวั เดยี วทกุ วันติดตอ่ กนั เป็นระยะเวลานาน ๆ โดยไมจ่ ้าเปน็ โดยทว่ั ไปไม่ควรกินยาอะไรติดต่อกนั นาน 1 เดอื น เพราะจะทา้ ใหเ้ กิดพษิ สะสมได้ 6.16 หา้ มใช้ยาในขนาดมากในบคุ คลบางประเภท คนทีอ่ ่อนเพลยี มาก เด็กอ่อน และคนชรา ห้ามใช้ยาในขนาดมาก เพราะคนเหล่านมี้ กี ้าลังตา้ นทานน้อยจะท้าให้ยาเกิดพษิ ได้ ง่าย

8 บทที่ 3 วธิ ีดาเนนิ งาน การดาเนินโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอยา่ งถกู วธิ ีสู่วิถีการพัฒนาคุณภาพชวี ิตของชุมชน ได้ ดาเนนิ การตามขัน้ ตอนต่างๆ ดังนี้ 1. ขน้ั เตรยี มการ  การศึกษาเอกสารทีเ่ กยี่ วขอ้ งกับโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอย่างถูกวิธีสู่วิถกี ารพฒั นาคุณภาพ ชวี ิตของชุมชน ผู้รับผดิ ชอบโครงการได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารท่เี กีย่ วขอ้ งเพ่ือเป็นข้อมูลและแนวทางในการดาเนินการอบรม เชงิ ปฏิบัตกิ ารใช้สมนุ ไพรไทยอยา่ งถูกวธิ สี ูว่ ถิ ีการพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของชุมชน ดังน้ี 1. ศึกษาเอกสาร / คมู่ ือ ข้อมูลจากหนงั สือ เกี่ยวกับปฏบิ ัติการใช้สมุนไพรไทยอย่างถูกวิธี เพอ่ื เป็นแนวทางเก่ียวกับการจัดโครงการโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มุนไพรไทยอย่างถกู วธิ ีสวู่ ิถีการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต ของชมุ ชน 2. ศึกษาขนั้ ตอนการดาเนนิ โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ สี วู่ ถิ กี ารพัฒนาคุณภาพชีวติ ของ ชมุ ชน เพื่อเป็นแนวทางในการจดั เตรียมงาน วัสดุอุปกรณ์ และบคุ ลากรใหเ้ หมาะสม  การสารวจความต้องการของประชาชนในพ้ืนที่ (ตามนโยบายของรัฐบาล) กลมุ่ ภารกจิ การจัดการศึกษานอกระบบ มอบหมายให้ ครู กศน.ตาบล สารวจความตอ้ งการของ กลุ่มเป้าหมายเพ่ือทราบความตอ้ งการท่ีแทจ้ ริงของประชาชนในตาบล และมีขอ้ มูลในการจดั กิจกรรมที่ตรงกบั ความต้องการ ของชุมชน  การประสานงานผูน้ าชมุ ชน / ประชาชน /วิทยากร 1. ครู กศน.ตาบล ไดป้ ระสานงานกับหัวหนา้ /ผู้นาชุมชนและประชาชนในตาบลเพือ่ ร่วมกันปรึกษาหารือใน กลุม่ เก่ียวกบั การดาเนินการจัดโครงการใหต้ รงกับความตอ้ งการของชุมชน 2. ครู กศน.ตาบล ได้ประสานงานกบั หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งเพอ่ื จดั หาวทิ ยากร  การประชาสมั พนั ธโ์ ครงการฯ ครู กศน.ตาบล ไดด้ าเนินการประชาสัมพนั ธก์ ารจัดโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการใช้สมนุ ไพรไทยอยา่ งถกู วิธี สวู่ ถิ กี ารพัฒนาคุณภาพชีวติ ของชมุ ชน เพ่ือใหป้ ระชาชนทราบข้อมูลการจดั กจิ กรรมดงั กลา่ วผา่ นผนู้ าชุมชน  ประชุมเตรียมการ / วางแผน 1) ประชมุ ปรึกษาหารือผ้ทู ีเ่ ก่ียวข้อง 2) เขียนโครงการ วางแผนมอบหมายงานใหฝ้ า่ ยต่างๆ เตรียมดาเนินการ 3) มอบหมายหนา้ ท่ี แตง่ ตัง้ คณะทางาน  การรบั สมัครผเู้ ขา้ ร่วมโครงการฯ ครู กศน.ตาบล ไดร้ ับสมัครผู้เขา้ ร่วมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ สี ่วู ถิ กี ารพฒั นา คุณภาพชีวติ ของชุมชน โดยให้ประชาชนทั่วไปท่ีอาศัยอยู่ในพ้นื ท่ตี าบลสระสี่เหลย่ี ม เขา้ รว่ ม เป้าหมายจานวน 15 คน  การกาหนดสถานที่และระยะเวลาดาเนินการ

9 ครู กศน.ตาบล ได้กาหนดสถานท่ใี นการจัดอบรมคือ กศน.ตาบลสระสีเ่ หลีย่ ม หมู่ที่ 7 ตาบลสระสเี่ หลี่ยม อาเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563 จานวน 1 วัน เวลา 08.30-12.00 น. 2. ขั้นดาเนินงาน  กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนตาบลสระสเี่ หลย่ี ม จานวน 15 คน  สถานทดี่ าเนินงาน ครู กศน.ตาบล จดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการใช้สมุนไพรไทยอยา่ งถูกวิธสี ูว่ ิถีการพฒั นาคุณภาพ ชวี ติ ของชมุ ชน โดยจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้ ในวนั ท่ี 19 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เวลา 08.30-12.00 น. ณ กศน.ตาบล สระสี่เหลี่ยม หมูท่ ่ึ 7 ตาบลสระส่เี หล่ียม อาเภอพนัสนคิ ม จงั หวดั ชลบุรี  การขออนุมตั แิ ผนการจัดกิจกรรมการศกึ ษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน กศน.ตาบล ได้ดาเนินการขออนุมัตแิ ผนการจัดกจิ กรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชมุ ชน โครงการ อบรมเชิงปฏบิ ัติการใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถูกวิธสี วู่ ถิ กี ารพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของชุมชน ตอ่ สานักงาน กศน.จังหวัดชลบุรี เพ่อื ใหต้ น้ สงั กัดอนมุ ตั ิแผนการจัดกิจกรรมการศึกษาเพือ่ พัฒนาสงั คมและชุมชน  การจดั ทาเคร่อื งมือการวัดความพึงพอใจของผู้รว่ มกิจกรรม เครื่องมอื ท่ีใช้ในการติดตามประเมินผลโครงการ ไดแ้ ก่ แบบประเมินความพงึ พอใจ  ขนั้ ดาเนินการ / ปฏบิ ตั ิ 1. เสนอโครงการเพ่ือขอความเหน็ ชอบ/อนมุ ัตจิ ากตน้ สังกัด 2. วางแผนการจัดกจิ กรรมในโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอย่างถูกวธิ สี ่วู ิถีการพฒั นา คุณภาพชีวิตของชมุ ชน โดยกาหนดตารางกจิ กรรมท่ีกาหนดการ 3. มอบหมายงานใหแ้ ก่ผ้รู ับผิดชอบฝ่ายตา่ งๆ 4. แตง่ ตงั้ คณะกรมการดาเนนิ งาน 5. ประชาสมั พันธ์โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถกู วธิ สี ่วู ิถีการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของชุมชน 6. จัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอย่างถูกวธิ ีสวู่ ถิ ีการพัฒนาคุณภาพชีวติ ของ ชุมชนตามตารางกจิ กรรมท่ีกาหนดการ 7. ตดิ ตามและประเมนิ ผลโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอยา่ งถกู วิธีสู่วิถกี ารพฒั นาคุณภาพ ชีวิตของชมุ ชน

10 3. การประเมนิ ผล  วิเคราะหข์ ้อมลู 1. บันทึกผลการสงั เกตจากผูเ้ ขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. วเิ คราะห์ผลจากการประเมินในแบบประเมนิ ความพึงพอใจ 3. รายงานผลการปฏิบัติงานรวบรวมสรปุ ผลการปฏบิ ตั งิ านของโครงการนาเสนอต่อผู้บริหารนาปญั หา ข้อบกพร่องไปแก้ไขครงั้ ตอ่ ไป  คา่ สถิติทีใ่ ช้ การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละในการประมวลผลข้อมูลส่วนตัวและตัวชี้วัดความสาเร็จของโครงการ ตามแบบสอบถามคิดเปน็ รายข้อ โดยแปลความหมายค่าสถิตริ ้อยละออกมาไดด้ งั น้ี ค่าสถิตริ อ้ ยละ 90 ข้นึ ไป ดีมาก คา่ สถติ ริ ้อยละ 75 – 89.99 ดี คา่ สถติ ริ ้อยละ 60 – 74.99 พอใช้ ค่าสถิตริ ้อยละ 50 – 59.99 ปรบั ปรุง ค่าสถติ ิรอ้ ยละ 0 – 49.99 ปรบั ปรุงเร่งด่วน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามความคิดเห็นรายข้อซึ่งมีลักษณะเป็นค่าน้าหนักคะแนน และ นามาเปรียบเทยี บ ไดร้ ะดับคณุ ภาพตามเกณฑ์การประเมนิ ดงั น้ี เกณฑ์การประเมิน (X) ค่านา้ หนกั คะแนน 4.50 – 5.00 ระดับคณุ ภาพ คือ ดีมาก ค่าน้าหนักคะแนน 3.75 – 4.49 ระดบั คณุ ภาพ คือ ดี คา่ น้าหนักคะแนน 3.00 – 3.74 ระดบั คุณภาพ คือ พอใช้ คา่ นา้ หนกั คะแนน 2.50 – 2.99 ระดับคุณภาพ คอื ตอ้ งปรับปรงุ คา่ น้าหนกั คะแนน 0.00 – 2.49 ระดับคุณภาพ คือ ต้องปรบั ปรงุ เรง่ ดว่ น

11 บทท่ี 4 ผลการดาเนนิ งานและการวิเคราะห์ขอ้ มลู ตอนท่ี 1 รายงานผลการจัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใช้สมนุ ไพรไทยอยา่ งถูกวธิ ีสู่วถิ กี ารพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของชมุ ชน การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารใช้สมุนไพรไทยอยา่ งถูกวธิ ีสูว่ ถิ ีการพัฒนาคุณภาพชวี ิตของชุมชนสรุป รายงานผลการจดั กจิ กรรมได้ดังน้ี ในการจดั กจิ กรรมอบรมให้ความรตู้ ามโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถูกวิธสี ูว่ ิถกี าร พัฒนาคุณภาพชวี ิตของชุมชน เป็นการอบรมให้ความรู้ โดยมี นางสาวนภดล ขวาทอง เป็นวิทยากรในการบรรยายให้ความรู้ เร่อื ง ปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มุนไพรไทยอยา่ งถูกวธิ ี สาธิตการใชส้ มุนไพร หลงั จากเสร็จสน้ิ กจิ กรรมดังกล่าวแลว้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มี ความรู้ ความเขา้ ใจปฏิบัตกิ ารใช้สมุนไพรไทยอยา่ งถูกวธิ ี และนาความรู้ทีไ่ ด้รับมาปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ตอนท่ี 2 รายงานผลความพึงพอใจของโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใหค้ วามรใู้ นการปอ้ งกนั โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การจัดกิจกรรมโครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใช้สมุนไพรไทยอยา่ งถูกวธิ สี วู่ ถิ กี ารพัฒนาคุณภาพชวี ิตของชุมชน ซง่ึ สรุปรายงานผลจากแบบสอบถามความคดิ เห็น ข้อมลู ที่ไดส้ ามารถวเิ คราะหแ์ ละแสดงคา่ สถิติ ดงั น้ี ตารางที่ 1 ผเู้ ขา้ ร่วมโครงการทต่ี อบแบบสอบถามได้นามาจาแนกตามเพศ รายละเอียด เพศ หญิง ชาย 17 100 จานวน (คน) - รอ้ ยละ - จากตารางท่ี 1 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามทเี่ ข้ารว่ มกจิ กรรมการศึกษาเพ่ือพัฒนาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏิบตั ิการใหค้ วามรใู้ นการป้องกันโรคติดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) พบว่าผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมสว่ น ใหญ่ เป็นเพศหญิง จานวน 10 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 58.82 และเป็นชาย 7 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 41.18 ตารางที่ 2 ผเู้ ข้าร่วมโครงการท่ีตอบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอายุ รายละเอียด อายุ (ปี) อายุ ต่ากวา่ 15 15 - 39 40 - 59 60 ข้นึ ไป 8 จานวน (คน) - 18 47.06 ร้อยละ - 5.88 47.06 จากตารางท่ี 2 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามทีเ่ ขา้ รว่ มกิจกรรมการศึกษาเพื่อพฒั นาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถูกวิธีส่วู ิถีการพฒั นาคุณภาพชีวิตของชุมชน พบวา่ ผูเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมส่วน ใหญ่ อายุ 60 ปขี น้ึ ไป จานวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 47.06 มีอายุ 40-59 ปี จานวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 47.06 และอายุ 15 – 39 ปี จานวน 1 คนคิดเป็นร้อยละ5.88

12 ตารางที่ 3 ผูเ้ ขา้ ร่วมโครงการทีต่ อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามอาชพี รายละเอยี ด เกษตรกรรม รบั จา้ ง อาชพี คา้ ขาย อน่ื ๆ รับราชการ/รฐั วิสาหกจิ 1 7 5.88 41.18 จานวน (คน) 5 4 - รอ้ ยละ 29.41 23.53 - จากตารางที่ 3 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทเ่ี ข้าร่วมกิจกรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชมุ ชน โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใช้สมุนไพรไทยอย่างถูกวธิ สี ูว่ ถิ กี ารพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของชุมชน พบวา่ ผู้เขา้ รว่ มกิจกรรม ส่วนใหญ่ มีอาชีพอน่ื ๆ จานวน 7 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 41.18 รองลงมาอาชพี เกษตรกรรม จานวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 29.41 อาชีพรับจา้ ง จานวน 4 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 23.53 และ อาชีพค้าขาย จานวน 1 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 5.88 ตารางที่ 4 ผูเ้ ขา้ รว่ มโครงการทตี่ อบแบบสอบถามไดน้ ามาจาแนกตามระดับการศึกษา รายละเอยี ด ระดบั การศกึ ษา การศกึ ษา ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย/ปวช. ปวส. ป.ตรีข้ึนไป - จานวน (คน) 5 6 6 - - ร้อยละ 29.41 35.29 35.29 - จากตารางท่ี 4 พบว่าผูต้ อบแบบสอบถามทเ่ี ข้าร่วมกจิ กรรมการศึกษาเพื่อพัฒนาสงั คมและชุมชน โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอย่างถูกวธิ สี วู่ ถิ ีการพฒั นาคุณภาพชวี ติ ของชุมชน พบว่าผเู้ ข้ารว่ มกิจกรรม ส่วนใหญ่ มกี ารศกึ ษามรี ะดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย จานวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 35.29 และมรี ะดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ จานวน 6 คน คิดเปน็ ร้อยละ 35.29 รองลงมาประถมมี จานวน 5 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 29.41 ตารางท่ี 5 แสดงคา่ รอ้ ยละเฉลี่ยความสาเรจ็ ของตวั ชวี้ ดั ผลผลิต ประชาชนทั่วไป เข้ารว่ มโครงการจานวน 17 คน ผลสาเรจ็ ของโครงการ เป้าหมาย(คน) ผูเ้ ข้ารว่ มโครงการ(คน) คดิ เป็นรอ้ ยละ 15 17 100 จากตารางท่ี 5 พบวา่ ผลสาเรจ็ ของตัวชีว้ ัดผลผลิตกิจกรรมการศึกษาเพือ่ พฒั นาสังคมและชุมชน โครงการอบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถูกวิธสี วู่ ถิ กี ารพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของชุมชน มีผู้เขา้ ร่วมโครงการ จานวน 17 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 ซง่ึ บรรลุเปา้ หมายด้านตัวช้ีวัด ผลผลิต

13 ตารางที่ 6 ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการโครงการ อบรมเชงิ ปฏบิ ัติการใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ ีสูว่ ถิ ีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชมุ ชน ในภาพรวม รายการ คา่ เฉล่ีย สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน ระดบั ความพึงพอใจ ดา้ นบริหารจัดการ () () ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 4.61 0.59 ดมี าก ดา้ นประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับ 4.54 0.52 ดมี าก รวมทกุ ด้าน 4.67 0.48 ดมี าก 4.61 0.53 ดมี าก จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามทม่ี ีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใชส้ มนุ ไพรไทยอย่าง ถูกวิธีสวู่ ถิ กี ารพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของชมุ ชน ในภาพรวมอยู่ในระดับดมี าก (=4.61) เม่ือพจิ ารณาเป็นรายดา้ น พบว่า ดา้ น ประโยชน์ท่ไี ด้รับ มีอยใู่ นระดับดมี าก มีค่าเฉลย่ี (= 4.67) รองลงมาคือ ด้านการบรหิ ารจดั การ อยใู่ นระดับดมี าก มี คา่ เฉล่ีย (= 4.61) และดา้ นการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ อยู่ในระดับดมี าก มคี า่ เฉลย่ี (= 4.54) ตามลาดับ โดยมีสว่ น เบยี่ งเบนมาตรฐาน () อยรู่ ะหวา่ ง 0.48 - 0.59 แสดงว่า ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมมีความพงึ พอใจสอดคล้องกัน ตารางที่ 7 ค่าเฉล่ียและส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่มีความพึงพอใจต่อโครงการอบรมเชิง ปฏิบัตกิ ารใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ ีสู่วถิ กี ารพฒั นาคุณภาพชวี ิตของชมุ ชน ด้านบรหิ ารจัดการ รายการ คา่ เฉลย่ี ส่วนเบีย่ งเบน ระดบั () มาตรฐาน () ความพงึ พอใจ 1. อาคารสถานที่ 4.55 0.50 ดมี าก 2. ส่งิ อานวยความสะดวก 4.50 0.66 ดีมาก 3. กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนนิ โครงการ 4.45 0.58 ดี 4. เอกสารการอบรม 4.41 0.49 ดี 5. วทิ ยากรผ้ใู หก้ ารอบรม 4.64 0.64 ดีมาก รวม 4.51 0.59 ดมี าก 15 จากตารางท่ี 7 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีมีความพึงพอใจต่อโครงการโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใช้ สมุนไพรไทยอย่างถูกวิธีสู่วิถีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ด้านบริหารจัดการ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.51) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า วิทยากรผู้ให้การอบรม มีค่าเฉล่ีย (= 4.64) รองลงมา คือ อาคารสถานที่ มี ค่าเฉลี่ย (= 4.55) ส่ิงอานวยความสะดวก มีค่าเฉลี่ย (= 4.50) กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนินโครงการ มี คา่ เฉลี่ย (= 4.45) และเอกสารการอบรม มีค่าเฉลี่ย (= 4.41) ตามลาดับ โดยมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.50 - 0.66 แสดงว่า ผูต้ อบแบบสอบถามมีความคดิ เห็นไปในทิศทางเดยี วกนั

14 ตารางท่ี 8 คา่ เฉลี่ยและสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐานความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มกิจกรรมท่ีมคี วามพึงพอใจต่อโครงการโครงการ อบรมเชิงปฏบิ ัตกิ ารใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ สี ู่วถิ กี ารพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของชมุ ชน ด้านการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ รายการ คา่ เฉล่ีย ส่วนเบย่ี งเบน ระดบั () มาตรฐาน () ความพึงพอใจ 6. การจัดกจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการใช้ 4.45 0.50 ดี สมุนไพรไทยอย่างถูกวิธีส่วู ิถีการพัฒนาคุณภาพชีวติ ของ ชุมชน 4.55 0.50 ดีมาก 7. การใหค้ วามรู้เรื่องการใชส้ มนุ ไพรทถ่ี ูกวิธี 4.50 0.50 ดีมาก 8. การตอบข้อซักถามของวทิ ยากร 4.55 0.50 ดีมาก 4.50 0.58 ดีมาก 9. การแลกเปล่ียนเรยี นรขู้ องผ้เู ขา้ รับการอบรม 4.55 0.50 ดมี าก 10. การสรปุ องค์ความรูร้ ่วมกัน 4.52 0.52 ดมี าก 11. การวัดผล ประเมนิ ผล การฝึกอบรม รวม จากตารางที่ 8 พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามพงึ พอใจต่อโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใชส้ มุนไพรไทยอย่างถูก วิธสี ู่วิถกี ารพัฒนาคุณภาพชวี ิตของชมุ ชน ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ในภาพรวมอยู่ในระดบั ดมี าก มีคา่ เฉลีย่ (= 4.52) เมอื่ พิจารณาเปน็ รายข้อ พบวา่ การให้ความร้เู ร่ืองการใชส้ มนุ ไพรทีถ่ ูกวธิ ีมีค่าเฉลี่ย (= 4.55) การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ ของผู้เข้ารบั การอบรม มีค่าเฉลยี่ (= 4.55) การวดั ผล ประเมินผล การฝึกอบรม มีค่าเฉล่ีย (= 4.55) รองลงมาคอื การ ตอบข้อซักถามของวิทยากร มีค่าเฉล่ีย(= 4.50 ) การสรุปองค์ความรู้ร่วมกนั มีคา่ เฉลย่ี (= 4.50 ) และการจดั กิจกรรม โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารให้ความรู้ในการป้องกันโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) มีคา่ เฉลย่ี (= 4.45) ตามลาดับ โดยมสี ว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน () อย่รู ะหว่าง 0.50 - 0.58 แสดงวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมคี วามคิดเหน็ สอดคล้องกัน ตารางที่ 9 ค่าเฉลย่ี และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานความพงึ พอใจของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมทม่ี ีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถกู วธิ สี วู่ ิถีการพฒั นาคุณภาพชีวิตของชุมชน) ดา้ นประโยชน์ท่ีได้รบั รายการ ค่าเฉล่ีย สว่ นเบี่ยงเบน ระดับความ () มาตรฐาน () พงึ พอใจ 12. ไดเ้ รียนรแู้ ละฝึกตนเอง เกยี่ วกบั การใชส้ มุนไพร 13. นาความรูท้ ี่ไดร้ บั มาปรับใช้ในชวี ิตประจาวัน 4.64 0.48 ดีมาก รวม 4.68 0.47 ดมี าก 4.66 0.48 ดีมาก

15 จากตารางท่ี 9 พบวา่ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจตอ่ โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใช้สมุนไพรไทยอย่างถูก วิธีสู่วิถีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน) ด้านประโยชน์ท่ีได้รับ ในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก มีค่าเฉลี่ย (= 4.66) เ1ม6ื่อ พจิ ารณาเปน็ รายขอ้ พบวา่ นาความร้ทู ่ีได้รับมาปรับใช้ในชีวิตประจาวัน มีค่าเฉลี่ย (= 4.68) และได้เรียนรู้และฝึกตนเอง เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรไทย มีค่าเฉลี่ย (= 4.64) โดยมีส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน () อยู่ระหว่าง 0.47 - 0.48 แสดงว่า ผตู้ อบแบบสอบถามมคี วามคดิ เห็นไปในทิศทางเดยี วกัน สรปุ ในภาพรวมของกิจกรรมคิดเปน็ ร้อยละ 91.20 มคี ่านา้ หนกั คะแนน 4.56 ถือว่าผู้รับบริการ มคี วามพึงพอใจทางดา้ นตา่ งๆ อยู่ในระดับดีมาก โดยเรียงลาดบั ดังนี้  อนั ดับแรก ด้านประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ คดิ เปน็ ร้อยละ 93.20 มีคา่ นา้ หนักคะแนน 4.66 อยใู่ นระดับคุณภาพ ดมี าก  อันดับสอง ด้านการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ คิดเป็นร้อยละ 90.40 มีคา่ น้าหนักคะแนน 4.52 อยู่ในระดับ คุณภาพดีมาก  อันดับสาม ด้านบรหิ ารจดั การ คดิ เปน็ ร้อยละ 90.20 มีค่าน้าหนกั คะแนน 4.51 อยใู่ นระดับคณุ ภาพดีมาก

บทที่ 5 16 อภิปรายและข้อเสนอแนะ ผลการจดั กจิ กรรมโครงการอบรมเชิงปฏบิ ัติการใชส้ มนุ ไพรไทยอย่างถูกวธิ สี ่วู ิถกี ารพัฒนาคุณภาพชีวติ ของชุมชน ได้ผลสรปุ ดงั นี้ วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือใหผ้ ูเ้ ขา้ รว่ มกิจกรรม มคี วามรู้ ความเข้าใจการใชส้ มุนไทยอย่างถูกวธิ ี 2. เพ่อื ใหผ้ ้รู ่วมกิจกรรมนาความรู้ทีไ่ ดร้ บั มาปรับใชใ้ นชีวิตประจาวนั เปา้ หมาย (Outputs) เป้าหมายเชิงปรมิ าณ ประชาชนตาบลสระส่ีเหลี่ยม จานวน 17 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ ผเู้ ขา้ รว่ มกิจกรรม มีความรู้ ความเขา้ ใจการใช้สมุนไทยอย่างถูกวธิ ี และนาความรทู้ ่ีได้รบั มาปรบั ใช้ใน ชีวิตประจาวนั เครอื่ งมอื ที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เครื่องมือท่ีใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ในครง้ั น้ี คือ แบบประเมินความพึงพอใจ การเก็บรวบรวมข้อมลู ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้มอบหมายให้ ครู กศน.ตาบล ท่ีรบั ผิดชอบกิจกรรมแจกแบบสอบถามความพึงพอใจ ให้กับผ้รู ว่ มกิจกรรม โดยให้ผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมประเมินผลการจดั กจิ กรรมตา่ งๆ ตามโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใชส้ มนุ ไพร ไทยอย่างถูกวิธีสูว่ ถิ กี ารพฒั นาคณุ ภาพชีวติ ของชุมชน สรปุ ผลการดาเนนิ งาน กศน.ตาบลสระสหี่ ลี่ยม ได้ดาเนินการจดั กิจกรรมตาม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการใช้สมุนไพรไทยอยา่ งถูกวิธีส่วู ถิ ี การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยดาเนนิ การเสรจ็ สนิ้ ลงแลว้ และสรปุ รายงานผลการดาเนินงานได้ดังนี้ 1. ผู้ร่วมกิจกรรมจานวน 17 คน มีความรู้ ความเขา้ ใจในการใช้สมุนไพรทถี่ กู วธิ ี และนาความร้ทู ีไ่ ดร้ บั มาปรับใช้ใน ชวี ติ ประจาวนั 2. ผ้รู ว่ มกิจกรรมรอ้ ยละ 93.60 นาความรทู้ ี่ได้รบั มาปรับใช้ในชีวติ ประจาวัน 3. จากการดาเนนิ กิจกรรมตามโครงการดังกลา่ ว สรุปโดยภาพรวมพบวา่ ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมสว่ นใหญ่มีความพงึ พอใจ ตอ่ โครงการ อยใู่ นระดบั “ดีมาก ” และบรรลคุ วามสาเรจ็ ตามเป้าหมายตัวช้วี ัดผลลพั ธ์ทีต่ ั้งไว้ โดยมีค่าเฉลยี่ ร้อยละภาพรวม ของกจิ กรรม 91.20 และค่าการบรรลเุ ป้าหมายค่าเฉล่ยี 4.56 ข้อเสนอแนะ ควรจัดกจิ กรรมทีห่ ลากหลาย จะไดน้ าความรูไ้ ปใชใ้ นการดาเนินชวี ติ ต่อไป

บรรณานุกรม ทม่ี า กรมการศึกษานอกโรงเรยี น (2546) บุญชม ศรีสะอาด และ บุญส่ง นลิ แก้ว (2535 หนา้ 22-25) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร . (2543). https://www.bangpakok1.com/care_blog/content/ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php

ภาคผนวก รายงานผลการจดั กิจกรรม

โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอยา่ งถูกวธิ สี ่วู ถิ ีการพฒั นาคุณภาพชีวติ ของชุมชน วนั ที่ 19 มิถนุ ายน 2563 ณ กศน.ตาบลสระสี่เหลี่ยม หมู่ 7 ตาบลสระส่เี หล่ียม อาเภอพนัสนคิ ม จังหวัดชลบรุ ี แบบสอบถามความพึงพอใจ

โครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใช้สมนุ ไพรไทยอย่างถูกวิธีสู่วถิ ีการพัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของชมุ ชน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 กศน.อาเภอพนสั นคิ ม จงั หวัดชลบรุ ี คาชีแ้ จง 1. แบบสอบถามฉบบั นีม้ ีวตั ถุประสงค์ เพื่อใช้ในการสอบถามความพงึ พอใจตอ่ โครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัติการใช้สมนุ ไพรไทยอยา่ งถูกวิธีสู่วิถกี าร พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ของชมุ ชน 2. แบบสอบถามมี 3 ตอนดงั น้ี ตอนที่ 1 ถามข้อมลู เกีย่ วกบั ผตู้ อบแบบสอบถามจานวน 4 ขอ้ ใหท้ าเครื่องหมาย  ลงในช่องใหต้ รงกับสภาพจริง ตอนที่ 2 ความพงึ พอใจต่อโครงการอบรมเชงิ ปฏบิ ัตกิ ารใชส้ มุนไพรไทยอยา่ งถูกวธิ ีสู่วิถกี ารพัฒนาคณุ ภาพชวี ติ ของ ชุมชนจานวน 13 ขอ้ ซึ่งมรี ะดบั ความพงึ พอใจ 5 ระดับ ดงั น้ี 5 มากทส่ี ดุ หมายถึง มีความพึงพอใจมากทีส่ ดุ 4 มาก หมายถงึ มีความพงึ พอใจมาก 3 ปานกลางหมายถงึ มคี วามพึงพอใจปานกลาง 2 นอ้ ย หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจน้อย 1 น้อยท่ีสดุ หมายถงึ มคี วามพงึ พอใจนอ้ ยทส่ี ดุ ตอนที่ 3 ข้อคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะตอ่ โครงการอบรมเชิงปฏิบัตกิ ารใชส้ มนุ ไพรไทยอยา่ งถูกวธิ สี ่วู ถิ ีการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ของ ชมุ ชนตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผตู้ อบแบบสอบถาม เพศ ชาย หญงิ อายุ ตา่ กวา่ 15 ปี 16 ปี – 39 ปี 40 ปี – 59 ปี 60 ปขี ้ึนไป การศกึ ษา ต่ากว่า ป.4 ป.4 ประถม ม.ตน้ ม.ปลาย ประกอบอาชีพ อนุปริญญา ปริญญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี รบั จา้ ง ค้าขาย เกษตรกร ลูกจา้ ง/ข้าราชการหน่วยงานภาครัฐหรอื เอกชน อน่ื ๆ …………………………………. ตอนท่ี 2 ความพึงพอใจเกี่ยวกับโครงการอบรมเชิงปฏิบตั กิ ารใชส้ มุนไพรไทยอย่างถกู วธิ สี วู่ ิถกี ารพฒั นาคุณภาพ ชวี ติ ของชุมชน

ข้อที่ รายการ ระดบั ความคิดเห็น 1 5 432 ดา้ นบรหิ ารจดั การ 1. อาคารและสถานที่ 2. ส่ิงอานวยความสะดวก 3. กาหนดการและระยะเวลาในการดาเนินโครงการ 4. เอกสารการอบรม 5. วทิ ยากรผ้ใู หก้ ารอบรม ดา้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 6. การจดั กิจกรรมโครงการอบรมเชงิ ปฏิบัติการใช้สมุนไพรไทยอย่าง ถูกวธิ ีส่วู ิถกี ารพัฒนาคุณภาพชวี ิตของชุมชน 7. การให้ความรู้เร่ืองปฏิบัติการเรยี นรู้มุ่งส่คู วามพอเพียง 8. การตอบข้อซักถามของวิทยากร 9. การแลกเปล่ียนเรยี นร้ขู องผู้เข้ารับการอบรม 10. การสรุปองคค์ วามร้รู ว่ มกนั 11. การวัดผล ประเมินผล การฝึกอบรม ดา้ นประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั 12 ได้เรยี นร้แู ละฝึกตนเอง เกี่ยวกบั การใช้สมนุ ไพร 13 นาความร้ทู ่ไี ดร้ ับมาปรับใช้ในชวี ติ ประจาวนั ตอนที่ 3 ขอ้ คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะ ข้อคิดเห็น .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะ ........................................................................................................................................................................ ขอบขอบคุณทใี่ หค้ วามรว่ มมือ กศน. อาเภอพนสั นิคม จังหวัดชลบุรี

คณะผ้จู ัดทา ทป่ี รึกษา 1. นางณัชธกัญ หม่นื สา ผู้อานวยการ กศน.อาเภอพนัสนิคม ครู 2. นางสาวมทุ กิ า การงานดี บรรณารักษป์ ฏิบัติการ ครู อาสาสมคั ร กศน. 3. นางปลืม้ จิตร ศรีเทพ ครู กศน.ตาบลสระสีเ่ หลีย่ ม 4. นายวชั รนิ ทร์ อดุ านนท์ ครู กศน.ตาบลสระส่เี หลี่ยม คณะทางาน พุทธมาลี นางสาวศริยา บรรณาธกิ าร พุทธมาลี นางสาวศรยิ า


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook