Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ ส32104

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ ส32104

Published by Rawiya Somad, 2022-05-16 14:00:00

Description: แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ ส32104

Search

Read the Text Version

แผนการจัดการเรียนรู้ ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 5 หนว่ ยการจดั การเรียนรู้ท่ี 4-5 นางสาวราวญี า ซอมัด รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหัสวิชา ส 32104 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม โรงเรียนท่าขา้ มวทิ ยาคาร สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาปตั ตานี

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 กล่มุ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวชิ าประวัติศาสตร์ รหสั ส 32104 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 5 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 เหตกุ ารณส์ ำคัญทางประวตั ิศาสตรท์ ี่มผี ลตอ่ โลกปจั จบุ ัน จำนวน 7 ช่วั โมง เรื่อง เหตุการณ์สำคญั ในสมัยกลาง จำนวน 3 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวราวญี า ซอมัด 1. สาระสำคญั (ความคิดรวบยอด) ระบอบการปกครองแบบฟิวดัลหรือระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ อำนาจที่แท้จริงตกอยู่ในมือของขุน นางตามแว่นแคว้นและคริสตจักรได้มีอิทธิพลทางจิตใจของชาวยุโรป จนกระทั่งเกิดสงครามครูเสดขึ้น ทำให้ อำนาจของขนุ นาง ลดลงและกษัตริยม์ ีอำนาจมากข้นึ จนสามารถสถาปนารัฐประชาชาติได้สำเรจ็ 2. ตวั ชวี้ ัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 ตัวชีว้ ัด ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมอื งเข้าส่โู ลกสมัยปัจจบุ นั 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. สรปุ เหตกุ ารณ์ของระบอบฟิวดัลและสงครามครูเสดได้ 2. วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์และผลกระทบของระบอบฟิวดลั และสงครามครเู สดได้ 3. สรปุ เหตกุ ารณ์เกยี่ วกับการฟ้นื ฟศู ลิ ปวิทยาการได้ 4. วเิ คราะหเ์ หตุการณเ์ กีย่ วกบั การฟน้ื ฟศู ลิ ปะวิทยาการได้ 3. สาระการเรียนรู้ เหตุการณ์สำคญั ต่างๆ ทสี่ ่งผลต่อการเปล่ยี นแปลงของโลกในปัจจบุ นั เชน่ - ระบอบศักดินาสวามิภักดิ์ - สงครามครเู สด - การฟ้ืนฟศู ลิ ปวิทยาการ 4. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน 4.1 ความสามารถในการคิด - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทักษะการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ - กระบวนการทำงานกลมุ่ - กระบวนการปฏิบตั ิ

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1-2 1. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง เหตกุ ารณ์สำคญั ทางประวัติศาสตร์ที่มผี ลต่อโลกปัจจุบัน จำนวน 15 ขอ้ 1. ครเู ปดิ วดี ทิ ศั นเ์ กย่ี วกับสงครามครเู สด หรอื ระบอบฟวิ ดัลให้นกั เรียนชม ภายหลังชมเสรจ็ แลว้ ครตู ้งั คำถามเพ่ือกระตุ้นใหน้ กั เรยี นเกดิ การคดิ วเิ คราะหว์ ่า - เปน็ เหตุการณใ์ ด - เกดิ ข้นึ ในชว่ งเวลาใด - ส่งผลสำคัญต่อโลกปัจจบุ ันอยา่ งไร 2. เมื่อนักเรียนตอบแล้ว ครูจึงเฉลยคำตอบแล้วอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่าระบอบฟิวดัลและสงครามครูเสด เป็นเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในสมัยกลางที่ส่งผลต่อวิถีชีวิตของชาวยุโรปทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคมและ วัฒนธรรม โดยระบอบฟิวดลั เป็นการปกครองแบบกระจายอำนาจท่ีอำนาจอยู่ที่ขุนนางมใิ ช่กษตั ริย์ ประชาชน ส่วนใหญ่เป็นทาสติดที่ดินและดำรงชีวิตอยู่ในเขตแมนเนอร์ของขุนนาง จนกระทั่งเกิดสงครามครูเสด ทำให้ ระบอบฟิวดลั ถูกทำลายลงมกี ารแลกเปลยี่ นวทิ ยาการต่างๆ ระหว่างโลกตะวนั ตกกับโลกตะวันออก 3. ครูแบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม และให้สมาชิกกลุ่มเลือกประธาน รองประธาน เลขานุการ เพื่อศึกษา เก่ยี วกบั ระบอบฟวิ ดัลและสงครามครเู สด จากหนงั สอื เรียน และแหล่งการเรยี นรู้ตา่ งๆ 4. ให้ทุกกลมุ่ ส่งตวั แทนออกมาจับสลากหวั ข้อที่จะทำการศกึ ษาคน้ คว้า กลุ่มละ 1 หัวข้อ ดังนี้ กลมุ่ ท่ี 1 ระบอบฟิวดัล กลมุ่ ที่ 2 ระบบเศรษฐกิจแบบแมเนอร์ กลมุ่ ที่ 3 สาเหตขุ องสงครามครูเสด กลมุ่ ท่ี 4 ผลของสงครามครเู สด 5. ทุกกลุม่ ประชุมเพ่อื ระดมสมองวางแผนศึกษาค้นควา้ ตามหัวข้อที่กลุม่ ของตนได้รบั 6. ครนู ัดหมายให้ทุกกลุ่มเตรียมสง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียนในชัว่ โมงตอ่ ไป ชัว่ โมงท่ี 3 1. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน โดยเริ่มตั้งแต่กลุ่มที่ 1, 2, 3 และ 4 ตามลำดบั เม่อื แตล่ ะกลุม่ นำเสนอเสร็จแล้ว เปิดโอกาสให้กลุ่มอน่ื ซักถามข้อสงสัยและอธบิ ายจนเข้าใจ จากนั้น ครคู ัดเลอื กผลงานท่ีดีที่สดุ ไปติดทีป่ า้ ยนเิ ทศของชัน้ เรยี น 2. ครูเล่าถึงประวัติของฟรันเซสโก เปตรากา ชาวอิตาเลียน ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยที่มีการฟื้นฟูศิลปวิทยาการ ให้นกั เรยี นฟงั แลว้ ให้นกั เรียนชว่ ยกันยกตัวอยา่ งผลงานสำคญั ที่ทำใหเ้ ขาเปน็ ทร่ี จู้ ักของคนทัว่ โลก 3. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เรื่อง การฟื้นฟูศิลปวิทยาการ จากหนังสือเรยี นและแหล่งการเรียนรู้อืน่ ๆ เพิ่มเตมิ โดยครกู ำหนดประเด็นการศึกษา ดังน้ี - สาเหตขุ องการฟน้ื ฟูศลิ ปวิทยาการ

- ลักษณะของการฟนื้ ฟศู ลิ ปวทิ ยาการ - มรดกทางวัฒนธรรม 4. ให้นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ประเด็นความรู้ โดยครูคอยอธบิ ายเพิม่ เติมในส่วนทีบ่ กพรอ่ ง 5. ครแู จกใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง เหตุการณส์ ำคัญในสมัยกลางเสรจ็ แล้วครแู ละนักเรียนช่วยกันเฉลยคำตอบ 6. นกั เรยี นและครชู ว่ ยกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกับเหตกุ ารณส์ ำคญั ในสมัยกลาง 7. การวดั และประเมนิ ผล เคร่อื งมือ เกณฑ์ วิธกี าร แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ตรวจใบงานท่ี 4.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น ทำใบงานท่ี 4.1 8. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 ส่อื การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน ประวตั ศิ าสตรส์ ากล ม.4-ม.6 2. วดิ ีโอ 3. แผนที่ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ ห้องสมุด

แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน รหสั วิชา 32104 รายวชิ า ประวัติศาสตร์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรอื่ ง เหตกุ ารณ์สำคัญทางประวัติศาสตรท์ ี่มผี ลต่อโลกปัจจุบนั ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 โรงเรียนทปี ราษฎรพ์ ิทยา ************************************************************************************************** **** คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดียว 1.ในระบอบฟวิ ดัล บคุ คลใดเปน็ ผู้ที่มีฐานะสูงทส่ี ุด 5. ภาพโมนา ลซิ า เปน็ ผลงานของศิลปนิ คนใด ก. ราฟาเอล และตำ่ ทส่ี ุด ข. มาซกั ซิโอ ก.ขนุ นาง-อัศวนิ ค. ไมเคิล แองเจโล ข.กษตั ริย์-ขุนนาง ง. ลโี อนาร์โด ดา วนิ ชี ค.กษตั ริย์-ชาวนาและทาสตดิ ที่ดิน ง. ขนุ นาง-ชาวนาและทาสตดิ ท่ีดิน 6. ขอ้ ใด ไม่ได้ มีสว่ นส่งเสริมให้เกิดการสำรวจ ทางทะเล 2. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตุท่ีทำใหร้ ะบอบฟิวดัลเสอื่ ม อำนาจลงในสังคมยโุ รป ก. ผลประโยชนท์ างการคา้ ข. การอุปถัมภ์ของกษตั ริย์ ก.เกิดสงครามครูเสด ค. องคก์ รคริสตศาสนจักร ข. ขุนนางแย่งชิงอำนาจกนั เองภายใน ง. ความเจรญิ กา้ วหน้าทางวิทยาการ ค. ชาวนาและทาสติดท่ดี นิ พากนั ประท้วง ง. กษัตริย์ส่งั ยุบอำนาจและดูแลขุนนางและ 7. ข้อใดคือผลงานสำคญั ของคริสโตเฟอร์ ราษฎรโดยตรง โคลัมบสั 3. เหตใุ ดชาวคริสตแ์ ละชาวมสุ ลิมจงึ ต้องทำสงคราม แย่งชงิ ดินแดนปาเลสไตน์ ก. การค้นพบทวปี อเมริกา ก. เป็นเมอื งท่าท่ีเหมาะแกก่ ารค้าขาย ข. การคน้ พบทวีปออสเตรเลีย ข. เปน็ เมืองท่ีมีอำนาจมากท่ีสดุ ในยุโรป ค. การเดินเรือรอบโลกเปน็ ครั้งแรก ค. เป็นเมืองทีม่ ีทรัพยากรธรรมชาตอิ ุดมสมบรู ณ์ ง. การเดินทางมาถึงอินเดยี เป็นครัง้ แรก ง. เปน็ ดนิ แดนศกั ดสิ์ ทิ ธิ์โดยเป็นท่ปี ระสตู ิของ 8. ข้อใดเปน็ ผลของการสำรวจทางทะเลด้า พระเยซู สงั คม 4. สงครามครูเสดส่งผลต่อยโุ รปหลายประการ ก. การผูกขาดการคา้ เคร่อื งเทศ ยกเวน้ ข้อใด ข. เกดิ การปฏิวตั ทิ างนิเวศวิทยา ก. ทำลายระบอบฟิวดัล ค. การทำลายวฒั นธรรมพืน้ เมืองในพ้นื ท่ี ข. เกดิ การปฏิรปู ศาสนา ต่างๆ ค. เกดิ การฟน้ื ตวั ทางการคา้ ง. การยึดครองดนิ แดนตา่ งๆ ในทวีป ง. เกดิ การแลกเปลี่ยนศิลปวทิ ยาการ อเมรกิ าใต้และเอเชยี

9. เหตุผลของการปฏริ ปู ศาสนาในขอ้ ใดท่ี 13. ลทั ธิจกั รวรรดินิยมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีจุดประสงค์หลักเพื่ออะไร แตกต่างจากข้ออื่น ก. การแยกออกเป็นนกิ ายองั กฤษ ก. ต้องการขยายอำนาจ ข. การปฏิรูปศาสนาของพวกอเู กอโน ข. ตอ้ งการตลาดค้าขาย ค. การปฏิรูปศาสนาของมาร์ตนิ ลเู ทอร์ ค. ต้องการสนิ ค้าแปลกใหม่ ง. การปฏริ ปู ศาสนาของจอห์น คาลวิน ง. ตอ้ งการแสวงหาโชคลาภ 14. ข้อใด ไม่ใช่ วธิ กี ารแก้ไขปญั หาภาวะโลก 10. การปฏิรูปศาสนาสง่ ผลต่อโลกปัจจบุ นั รอ้ น อยา่ งไร ก. ปลกู ตน้ ไม้ให้มาก ข. ใชถ้ ุงพลาสตกิ รีไซเคลิ ก. กษตั ริยม์ ีอำนาจสงู สดุ แต่ผ้เู ดยี ว ค. ขับรถในการเดนิ ทางอยู่เสมอ ข. การมเี สรภี าพในการนบั ถือศาสนา ง. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าเมื่อไมใ่ ช้งาน ค. นกั บวชไม่มอี ิทธิพลต่อชาวยุโรปอกี 11. ผู้คน้ พบทฤษฎสี รุ ิยจักรวาลคอื ใคร ตอ่ ไป ก. เรอเน เดสก์ าร์ตส์ ง. นกิ ายโรมนั คาทอลิกเป็นนิกายทาง ข. โจฮันเนส เคปเลอร์ ศาสนา ค. กาลิเลโอ กาลิเลอิ 11. ผคู้ น้ พบทฤษฎีสุรยิ จักรวาลคือใคร ง. นโิ คลัส โคเปอร์นคิ สั ก. เรอเน เดสก์ ารต์ ส์ 15. หากน้ำมันมรี าคาสงู ข้นึ บุคคลใดท่ีไดร้ บั ข. โจฮันเนส เคปเลอร์ ผลประโยชน์มากทส่ี ุด ค. กาลิเลโอ กาลิเลอิ ก. ประชาชน ง. นโิ คลัส โคเปอร์นคิ สั ข. บริษทั ขนส่ง 12. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ผลของลัทธิจกั รวรรดนิ ิยมทมี่ ี ตอ่ ดนิ แดนต่างๆ ท่ีตกเป็นอาณานิคม ค. บริษัทผลติ สินคา้ ก. การบังคบั ให้ปลูกพืชเศรษฐกจิ ง. ประเทศผผู้ ลิตน้ำมนั ข. การถกู ปกครองอยา่ งกดข่ีข่มเหง ค. การบังคับใหน้ ับถอื ครสิ ต์ศาสนา ง. การไดร้ บั อิทธพิ ลของวฒั นธรรม ตะวันตก

ใบความรู้ เร่ือง สงครามครเู สด สงครามครเู สดเป็นสงครามศาสนาระหวา่ งชาวครสิ ตก์ บั ชาวมสุ ลมิ ท่เี ข้ามายดึ ครองนครเยรูซาเล็ม ซึง่ เป็นนครศักดิ์สิทธิ์ทีช่ าวครสิ ต์พากันไปจารกิ แสวงบญุ มาตั้งแตต่ น้ คริสตกาล สงครามครเู สดเกดิ ขึ้นประมาณ 8 ครง้ั เร่มิ ตงั้ แต่ ค.ศ. 1096-1270 (แตใ่ นบางความคดิ เห็นอาจมมี ากกวา่ น้ีถึง 10 คร้ัง) ดงั มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ สงครามครูเสดคร้งั ที่ 1 เกิดข้ึนระหวา่ ง ค.ศ. 1096-1099 ผู้ท่เี ขา้ รว่ มสงครามสว่ นใหญเ่ ป็นขุนนาง และประชาชน ไม่มกี ษตั ริยเ์ ข้ารว่ มดว้ ย จึงไมม่ แี สนยานภุ าพทางการรบเท่าทีค่ วร ใช้อาวุธเทา่ ทจ่ี ะหาได้ ขาดระเบียบวนิ ยั และเสบียงอาหาร ในระหวา่ งเดินทางจึงล้มตายเปน็ จำนวนมาก และถูกพวกเติร์กตีแตกพ่าย งา่ ยดาย ต่อมาได้มีการรวมกันขึ้นใหม่ประกอบดว้ ยอัศวนิ และทหารภายใต้การคมุ ทัพของเจา้ ผคู้ รองนครตา่ งๆ ในยโุ รป จงึ มคี วามพร้อมมากกวา่ ทัพราษฎรในคราวแรก ในชว่ งแรก ทพั ครเู สดตีได้ เมืองต่างๆตามทาง รวมท้ัง เมืองอนั ติออก (Antioch) เมืองหลวงของซเี รยี จากนั้นจงึ มงุ่ ตรงไปยังนครเยรูซาเลมซึ่งขณะนั้นตกเปน็ ของ อยี ปิ ต์ ทัพครเู สดจึงตีได้นครเยรูซาเล็มเม่อื ค.ศ. 1099 และตง้ั ก็อดเฟรยแ์ ห่งบยุ อินยอง (Godfrey of Bouillon) ดกุ๊ แหง่ แคว้นลอร์เรนภาคใต้เป็นกษัตริยป์ กครอง ส่วนนักรบครูเสดก็ได้แยกย้ายกันกลบั บ้าน สงครามครเู สดครัง้ ท่ี 2 เกิดขึ้นระหวา่ ง ค.ศ. 1147-1149 หลังจากสงบศึกมาได้หลายสิบปี พวก มุสลิมกย็ กทัพเขา้ มารุกรานอีก ชาวครสิ ต์จงึ รวบรวมกองทัพขน้ึ มาภายใต้การนำของพระเจ้าคอนราดที่ 3 แหง่ เยอรมนี กับพระเจ้าหลยุ สท์ ี่ 7 แห่งฝร่งั เศส แต่ก็ถกู พวกมุสลิมตีแตกพ่ายก่อนถงึ นครเยรูซาเลม็ ต่อมาเม่ือ ค.ศ. 1187 สลุ ตา่ น ซาลาดินจึงตีนครเยรซู าเลม็ กลับคืนไปได้ภายหลัง สงครามครเู สดครัง้ ท่ี 3 เกิดขึ้นระหวา่ ง ค.ศ. 1189-1192 ทัพครูเสดคร้งั นป้ี ระกอบด้วยพระเจา้ เฟร- เดอรกิ บาบารอสซาแห่งเยอรมนี (Frederick Babarossa) พระเจา้ รชิ าร์ดใจสงิ ห์ (Richard the Lionhearted) พระเจา้ ฟิลปิ ออกัสตสั แหง่ ฝรั่งเศส แตเ่ น่ืองจากพระเจ้าเฟรเดอรกิ ทรงจมนำ้ ส้ินพระชนม์ใน ค.ศ. 1190 สว่ น พระเจา้ ฟลิ ิปกบั พระเจา้ ริชาร์ดใจสิงหท์ รงขดั แย้งกันอยูเ่ สมอ จึงไม่สามารถยดึ นครเยรูซาเล็มได้ นอกจากน้ี พระเจ้ารชิ าร์ดทรงมคี วามสัมพันธ์ฉันมิตรกับสุลตา่ น ซาลาดนิ ทงั้ สองตา่ งยอมรบั ฝมี ือซึ่งกนั และกนั จึงได้มีการ เจรจาพักรบกนั เป็นครั้งคราวโดยตา่ งฝา่ ยต่างรักษาสจั จะกันอย่างเคร่งครัด สงครามครูเสดครงั้ ท่ี 4 ประมาณ ค.ศ. 1202-1204 โดยสันตะปาปาอินโนเซนต์ท่ี 3ได้ รวบรวมพวกครเู สดให้ไปตนี ครเยรูซาเล็มกลับคนื มา แต่พวกครเู สดกลับเข้าตีกรุงคอนสแตนติโนเปิลและ เปลี่ยนชือ่ ใหม่เปน็ จักรวรรดิละตินแหง่ คอนสแตนตโิ นเปิล ใน ค.ศ. 1261 เจา้ ผูค้ รองนครรฐั ช่อื ไมเคิล พา เลโอกสั ไดแ้ ยง่ กรุงคอนสแตนตโิ นเปิลมาจากพวกละตนิ ทำใหจ้ ักรวรรดิละตนิ ถูกยบุ สลายไป กล่าวไดว้ า่ สงครามครัง้ น้ีไม่ได้ เปน็ การทำเพ่ือศาสนาแตเ่ ป็นการแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวแทน สงครามครเู สดคร้ังที่ 5 ประมาณ ค.ศ. 1218-1221 สงครามคร้ังนี้ มผี ้นู ำเปน็ กษตั ริย์ฮังการี ช่อื แอนดรทู ่ี 2 ไดย้ กทพั ไปรบกับพวกมสุ ลิมในอยี ปิ ต์ และยึดเมืองดาเมียตตาได้ แต่ในท่สี ุดก็ถกู ยดึ กลับคนื ได้ สงครามครูเสดครั้งที่ 6 เกิดข้ึนระหวา่ ง ค.ศ. 1228-1229 ผนู้ ำทพั คือ พระเจ้าเฟรเดอริกท่ี 2 แหง่ จักรวรรดิโรมันอันศักดส์ิ ทิ ธิ์ ซึง่ ไดถ้ ูกสันตะปาปาเกรกอรีท่ี 9 ขับไล่ออกจากศาสนจกั รคาทอลกิ เพราะไม่ยอม ไปรบ โดยไดม้ กี ารเจรจาทางการทตู กับพวกมุสลิม สุลตา่ นอยี ิปต์จงึ ยกราชธดิ าให้อภเิ ษกสมรสดว้ ยและทำพธิ ี

ราชาภิเษกใหเ้ ป็นกษัตริย์ครองนครเยรูซาเล็ม จากน้นั พระองคไ์ ด้เดินทางกลบั โดยไม่ต้องทำสงคราม แต่นคร เยรซู าเล็มก็ถูกมสุ ลิมตีกลบั คืนไปได้อกี สงครามครูเสดครั้งที่ 7 ค.ศ. 1248-1254 พวกมองโกลนำโดยเจงกสิ ขา่ น ไดข้ ยายอทิ ธิพลทั่วเอเชยี รวมถึงกรงุ แบกแดด สนั ตะปาปาจงึ ชักชวนใหช้ าวครสิ ตเ์ ดินทางไปทำสงครามกบั พวกมสุ ลิมอีก แต่ชาวยโุ รปต่างรู้สึกเบอ่ื หน่ายกบั สงครามที่ไม่ให้ประโยชนม์ ากเท่าใดนัก อย่างไรก็ดี พระเจา้ หลยุ ส์ที่ 9 แหง่ ฝรั่งเศสไดร้ วบรวมทัพครู เสดข้ึนและสามารถยดึ เมืองดาเมียตตาของอียิปต์ได้ แตย่ งั ไม่ทันยกทัพไปถงึ กรุงไคโรกถ็ ูกกองทัพสลุ ตา่ นโจมตี จนต้องยอมแพ้ ส่วนพระองค์ถูกจบั เปน็ เชลย แต่ไดร้ ับการไถต่ วั คืนด้วยเงนิ จำนวนมาก สงครามครเู สดครง้ั ที่ 8 ค.ศ. 1270 พระเจา้ หลยุ สท์ ่ี 9 แห่งฝรั่งเศสทรงเป็นผู้นำทัพอีกครั้ง แต่เมือ่ ยก ทพั ไปถึงเมืองตนู ิสในแอฟริกาเหนอื ก็เกิดกาฬโรคระบาด ทำให้พระองคท์ รงประชวรและสวรรคตก่อนทำการ รบ พวกครเู สดทร่ี อดไดเ้ ดินทางกลบั ฝร่งั เศส ส่วนพระเจา้ เอดเวริ ์ดแห่งอังกฤษไดเ้ ดนิ ทางไปยงั ปาเลสไตน์แต่ ไมป่ ระสบความสำเรจ็ สดุ ท้ายได้เดินทางกลบั องั กฤษและขึ้นเปน็ กษัตริย์เอดเวิรด์ ท่ี 1 นับเปน็ การทำสงคราม คร้งั สดุ ท้ายในดินแดนอันศักด์ิสทิ ธ์ิ กลา่ วไดว้ ่าความลม้ เหลวของกองทพั ครเู สดเกิดจากสาเหตุหลายประการ เชน่ การขาดผบู้ งั คบั บญั ชาที่ มีอำนาจสูงสุด การทะเลาะวิวาทภายในกองทัพ รวมทง้ั การแสวงหาประโยชน์ ส่วนตนมากกวา่ ทำเพ่ือ ศาสนา

ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง ระบอบฟวิ ดัล คำช้ีแจง ให้นักเรียนดภู าพจำลองภายในแมเนอร์ในระบอบฟิวดลั แลว้ ตอบคำถามที่กำหนดให้ถกู ต้อง  ภาพจำลองภายในแมเนอร์ ในระบอบฟิวดัล     1. ให้นักเรียนระบุตำแหน่งตามหมายเลขต่อไปน้ี หมายเลข 1 คือ หมายเลข 2 คือ หมายเลข 3 คือ หมายเลข 4 คือ หมายเลข 5 คือ 2. ภายในแมเนอร์ หมายเลข 1 และ 2 มีความสัมพนั ธก์ ันอยา่ งไร

3. หมายเลข 4 มคี วามสำคัญต่อสังคมฟิวดลั อยา่ งไร 4. ในปัจจุบันอทิ ธิพลของระบอบฟิวดลั ยังคงเหลอื ใหเ้ หน็ อย่หู รือไม่ อย่างไร

เฉลยใบงานท่ี 4.1 คำชีแ้ จง ให้นักเรียนดูภาพจำลองภายในแมเนอร์ในระบอบฟิวดัล แลว้ ตอบคำถามที่กำหนดให้ถูกต้อง  ภาพจำลองภายในแมเนอร์ ในระบอบฟิวดัล     1. ให้นกั เรยี นระบุตำแหนง่ ตามหมายเลขตอ่ ไปนี้ หมายเลข 1 คือ ปราสาทของขนุ นางเจ้าของท่ีดิน หมายเลข 2 คือ หมบู่ า้ นของชาวนาและทาสติดทีด่ นิ หมายเลข 3 คือ ทุง่ นา หมายเลข 4 คือ โบสถ์ หมายเลข 5 คือ ทงุ่ หญา้ เลยี้ งสตั ว์ 2. ภายในแมเนอร์ หมายเลข 1 และ 2 มีความสัมพนั ธก์ ันอย่างไร ในระบอบฟวิ ดลั ขุนนางเจ้าของแมเนอร์และชาวนาและทาสตดิ ท่ีดินจะมีภาระผกู พนั กันและ กัน กล่าวคือ ขนุ นางจะใหค้ วามคุม้ ครองและให้ทอี่ ยู่อาศยั แกช่ าวนาและทาสติดที่ดนิ ในแมเนอร์ของ ตน ส่วนชาวนาและทาสติดท่ีดนิ จะตอบแทนขุนนางโดยเป็นผู้ทำไร่ ไถนาบนทีด่ นิ ของขนุ นาง และ ทำงานบรกิ ารอื่นๆ เชน่ สรา้ งถนน บ่อน้ำ สะพาน โรงสี เปน็ ต้น

3. หมายเลข 4 มีความสำคญั ต่อสงั คมฟิวดลั อยา่ งไร โบสถเ์ ปน็ ศนู ย์กลางของชมุ ชน มีอย่ทู ุกแมเนอร์ โดยจะมีบาทหลวงทำหนา้ ที่สง่ั สอนอบรม จติ ใจผู้คนทอ่ี าศัยอยู่ในแมเนอร์ รวมทงั้ ใช้เปน็ สถานทีใ่ นการประกอบพิธกี รรมทางศาสนา และสวดมนตภ์ าวนา 4. ในปจั จุบันอิทธิพลของระบอบฟิวดัลยงั คงเหลือให้เหน็ อยู่หรอื ไม่ อยา่ งไร ยังคงหลงเหลือใหเ้ ห็นอยูใ่ นปจั จุบนั โดยจะเปน็ อิทธพิ ลทางวัฒนธรรม ดังจะเห็นได้จาก ตำแหน่งของขนุ นางตา่ งๆ เช่น ดุก๊ บารอน เอริ ์ล เซอร์ เป็นตน้ รวมทงั้ ข้อปฏิบัติของอัศวิน ทตี่ ้องใหเ้ กียรติและปกป้องคุ้มครองสตรี

ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง สงครามครเู สด คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์ประเด็นคำถามเกยี่ วกับสงครามครเู สดใหถ้ ูกต้องและได้ใจความ สงครามครเู สด สาเหตุ ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ จากความขัดแยง้ ทางศาสนาที่เกิดขึน้ ในปจั จุบนั ใหน้ ักเรยี นเสนอแนะวธิ ีการป้องกนั มใิ ห้เกิดความ ขดั แย้งรนุ แรงมากขน้ึ

เฉลยใบงานที่ 4.1 เรอื่ ง สงครามครเู สด คำช้ีแจง ให้นกั เรียนวเิ คราะห์ประเด็นคำถามเก่ยี วกบั สงครามครเู สดให้ถูกต้องและไดใ้ จความ สงครามครูเสด สาเหตุ ผลท่ีเกิดขน้ึ 1. ความขัดแย้งเรื่องดินแดนปาเลสไตน์ 1.สถาบนั กษัตรยิ เ์ ข้มแขง็ มากขึน้ อำนาจ 2. อทิ ธิพลของศาสนจักร ของขุนนางลดลง 3. ผลประโยชน์ทางการคา้ 2. การคา้ ขยายตัว เกดิ เมืองการคา้ สำคญั 4. ความขัดแยง้ เรื่องความเช่อื ทางศาสนา 3. ระบอบฟิวดลั ถกู ทำลาย 5. ความตอ้ งการแสวงโชค 4. มีการแพรห่ ลายของวิทยาการต่างๆ ทง้ั ของมสุ ลมิ และกรกี -โรมนั จากความขัดแยง้ ทางศาสนาที่เกดิ ข้นึ ในปัจจบุ ัน ให้นักเรียนเสนอแนะวิธกี ารป้องกันมใิ ห้เกิดความ ขัดแย้งรนุ แรงมากข้ึน วิธกี ารป้องกนั มิใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ รุนแรงมหี ลายวธิ ี เช่น ทุกฝา่ ยรว่ มกนั แสวงหาสันตวิ ิธี โดยการประชมุ อภิปรายร่วมกันเพือ่ หาทางออก และควรปลกู ฝงั เยาวชนในประเทศให้เกิดความรู้ ความเข้าใจทางศาสนาอยา่ งถูกต้อง เห็นความสำคัญของการเคารพสิทธใิ นชวี ิตมนุษย์ จัดให้มกี าร แลกเปล่ยี นความคิดเห็นทางศาสนารว่ มกัน เป็นตน้

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 2 กลุ่มสาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม รายวชิ าประวตั ิศาสตร์ รหัส ส 32104 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มผี ลต่อโลกปัจจบุ ัน จำนวน 7 ชวั่ โมง เรอื่ ง เหตุการณส์ ำคัญในสมยั ใหมจ่ นถงึ สมยั ปจั จุบัน จำนวน 4 ช่วั โมง ผ้สู อน นางสาวมาสเี ตา๊ ะ ซอมดั โรงเรยี นทีปราษฎรพ์ ิทยา 1. สาระสำคัญ (ความคิดรวบยอด) เหตุการณ์สำคญั ทางประวัติศาสตร์โลกมีความสำคัญต่อพัฒนาการและวิวัฒนาการของมนุษยชาติ มา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เพื่อจะได้เข้าใจในการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกที่ เกดิ ขึ้นอย่างต่อเนอ่ื ง 2. ตวั ช้ีวดั /จุดประสงค์การเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวดั ส 4.2 ม.4-6/2 วิเคราะห์เหตุการณส์ ำคญั ตา่ งๆ ทีส่ ง่ ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงทางสงั คม เศรษฐกจิ และ การเมืองเข้าสโู่ ลกสมยั ปัจจุบนั ม.4-6/3 วิเคราะห์ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในทวีปยุโรปไปยังทวีป อเมริกา แอฟรกิ า และเอเชยี 2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วิเคราะห์เหตุการณ์เกี่ยวกับการสำรวจทางทะเล การปฏิรูปศาสนา การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ 2. อธิบายลักษณะของลทั ธเิ สรีนยิ ม ลทั ธิจักรวรรดนิ ยิ ม และลทั ธชิ าตนิ ยิ มได้ 3. วิเคราะหอ์ ทิ ธิพลของลัทธิเสรนี ิยม ลัทธจิ กั รวรรดินยิ ม และลทั ธชิ าตินิยมท่มี ีต่อโลกได้ 3. สาระการเรียนรู้ เหตกุ ารณส์ ำคญั ในสมยั ใหมจ่ นถงึ สมยั ปจั จุบัน 1. การคน้ พบและการสำรวจทางทะเล 2. การปฏริ ปู ศาสนาและการปฏวิ ตั ทิ างวทิ ยาศาสตร์ 3. การปฏิวัติอตุ สาหกรรม 4. แนวคดิ ต่างๆนำไปส่คู วามขดั แย้ง 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ 4.2 ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชวั่ โมงท่ี 1-2 1. ครนู ำภาพเจ้าชายเฮนรี ราชนาวิก คริสโตเฟอร์ โคลัมบสั เฟอร์ดนิ านด์ แมกเจลแลน มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ให้ นักเรยี นช่วยกันตอบในประเดน็ คำถามตอ่ ไปน้ี - เปน็ ภาพของบุคคลใด - เปน็ ชนชาติใด - บุคคลดังกลา่ วอยใู่ นช่วงสมัยใด - มบี ทบาทสำคญั ทางประวัตศิ าสตร์อยา่ งไร 2. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าบุคคลเหล่านี้มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ตะวันตกในหลายด้านซึ่งทำให้ยุโรปมีการ เปลี่ยนแปลงไปจากสมัยกลางที่อยู่ใต้อิทธิพลของคริสตจักร ทำให้ยุโรปเจริญก้าวหน้าจนกลายเป็นประเทศ มหาอำนาจของโลก 3. นักเรียนแบง่ เปน็ 4 กลุม่ สมาชิกแตล่ ะกลุ่มเลอื กประธาน รองประธาน เลขานกุ าร 4. ให้แต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมาจบั สลากหัวขอ้ ดังน้ี - กลมุ่ ท่ี 1 การสำรวจทางทะเล - กลุ่มท่ี 2 การปฏิรูปศาสนา - กลมุ่ ที่ 3 การปฏิวตั ิทางวิทยาศาสตร์ - กลมุ่ ท่ี 4 การปฏิวตั ิอุตสาหกรรม 5. ครูชี้แจงใหท้ กุ กลุ่มทราบว่าเมอ่ื แต่ละกลมุ่ ได้รบั หัวข้อไปแล้ว ใหไ้ ปศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู จากหนังสอื เรียนและ แหลง่ การเรียนรู้ต่างๆ และเตรยี มนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น ชว่ั โมงท่ี 3-4 1. ครูซักถามนักเรียนแต่ละกลุ่มเก่ียวกบั ความพร้อมในการนำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมความพร้อม 5 นาที จากนั้นเริ่มจากกลุ่มที่ 1-4 ตามลำดับ ระหว่างที่กลุ่มที่ 1 นำเสนอเสรจ็ ให้เปิดโอกาสให้เพอ่ื นกลุ่มอ่นื ซักถามขอ้ สงสยั และเสนอแนะ เพมิ่ เติม ทำเช่นนจ้ี นครบทัง้ 4 กลุ่ม 3. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปสาระสำคัญเกี่ยวกับการสำรวจทางทะเล การปฏิรูปศาสนา การปฏิวัติทาง วิทยาศาสตร์ และการปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรม เพื่อเปน็ การทบทวนความรูท้ ั้งหมด 4. จากนั้นครูนำวีดิทัศน์เกี่ยวกับการปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 มาให้นักเรียนชม ภายหลังการชมวีดิทัศน์แลว้ ครูตัง้ คำถามใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตอบวา่ - เปน็ เหตุการณ์เกยี่ วกับอะไร - เกิดข้นึ ทีใ่ ด - มีสาเหตมุ าจากอะไรและส่งผลอยา่ งไร 5. ครูอธิบายให้นักเรียนเข้าใจว่า การปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 เพื่อล้มล้างการปกครองระบอบ สมบูรณาญาสิทธริ าชย์ มีส่วนกอ่ ให้เกดิ แนวคดิ เสรนี ยิ มและต่อมาถึงได้แผข่ ยายไปยังดินแดนอื่นๆทั่วยุโรป โดย เสรีนิยมเป็นหลักการพื้นฐานในการดำเนินการปกครองแบบประชาธิปไตย ทั้งยังสร้างความรู้สึกให้ประชาชน

รักและภาคภูมิใจในชาติของตน จนเกิดความรว่ มมือรว่ มใจกันสร้างชาติขนึ้ และชาตยิ ุโรปได้ใช้ความเหนือกว่า ของเผ่าพนั ธใ์ุ นการเขา้ ไปรกุ รานดนิ แดนอนื่ ที่ด้อยกว่า 6. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับลัทธิเสรีนิยม ลัทธิจักรวรรดินิยม ลัทธิชาตินิยม และลัทธิสังคมนิยม จาก หนงั สือเรียน 7. ให้นักเรียนภายในห้องจับคู่กัน อาจจะเป็นชายกับชาย หญิงกับหญิง หรือชายกับหญิง และแจกใบงานที่ 2.1 เรื่อง ลัทธิเสรีนิยม จักรวรรดินิยม ชาตินิยม และสังคมนิยม ให้แต่ละคู่ร่วมกันระดมความคิด เปรียบเทยี บความแตกต่างของลทั ธิทัง้ 4 และอทิ ธพิ ลที่มีต่อโลกลงในใบงาน 8. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ สาระสำคญั เกยี่ วกบั ลทั ธิเสรีนิยม จักรวรรดนิ ยิ ม ชาตนิ ิยม และสังคมนยิ ม 7. การวัดและประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์ วธิ กี าร ตรวจใบงานท่ี 4.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์ ทำใบงานที่ 4.2 8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น ประวัติศาสตร์สากล ม.4-ม.6 2. วิดโี อ 3. แผนที่ 4. รปู ภาพ 8.2 แหลง่ การเรียนรู้ ห้องสมุด

ใบงานที่ 4.2 เรื่อง ลทั ธิเสรนี ิยม จกั รวรรดนิ ิยม ชาตินิยม และสังคมนิยม คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนวเิ คราะห์ในประเดน็ ทกี่ ำหนดใหถ้ กู ต้อง แนวคิด ลักษณะสำคญั ของแนวคดิ อิทธิพลทม่ี ตี ่อโลก ลทั ธิเสรีนยิ ม ลัทธิจักรวรรดิ นิยม

แนวคดิ ลักษณะสำคญั ของแนวคิด อิทธิพลทมี่ ตี ่อโลก ลทั ธิชาตนิ ิยม ลัทธิ สังคมนิยม

เฉลยใบงานที่ 4.2 เร่ือง ลทั ธเิ สรีนิยม จักรวรรดนิ ยิ ม ชาตินยิ ม และสังคมนิยม คำช้ีแจง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์ในประเดน็ ทก่ี ำหนดใหถ้ กู ตอ้ ง แนวคดิ ลักษณะสำคญั ของแนวคิด อทิ ธิพลท่ีมีตอ่ โลก ลทั ธิเสรนี ิยม เปน็ แนวคิดทใ่ี ห้ปัจเจกบคุ คลมเี สรภี าพ ก่อให้เกดิ การเรยี กร้องการปกครองระบอบ ทงั้ ทางดา้ นการเมอื งการปกครอง และ ประชาธปิ ไตยแบบรัฐสภาท่ใี ห้ประชาชนมีส่วน รว่ ม เศรษฐกิจภายใต้กฎหมาย ซึง่ เกดิ ขึน้ ในการปกครองประเทศ โดยมรี ฐั ธรรมนญู เปน็ ในช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี 18 กฎหมายสูงสดุ เช่น ในฝรงั่ เศสไดม้ กี ารปฏริ ูป กฎหมายการเลอื กตง้ั ใน ค.ศ. 1824 และ 1830 หรอื อังกฤษใช้ พ.ร.บ. ปฏริ ปู ระบบการเลือกตงั้ สมาชิก รัฐสภาครั้งใหญ่ ค.ศ. 1832 นอกจากนีใ้ นทาง เศรษฐกิจ ระบบการคา้ เสรไี ด้ทำใหช้ นชนั้ กลางมี บทบาทมากข้ึนทางการเมอื ง การค้าเติบโตมากขนึ้ ลัทธิจักรวรรดิ เปน็ นโยบายการขยายอำนาจเขา้ ควบคมุ ทำให้ชาตมิ หาอำนาจยโุ รปตา่ งๆ เข้าไปยึดครอง นิยม ดินแดนอน่ื ทอ่ี อ่ นแอกวา่ ทงั้ การเขา้ ดินแดนโพ้นทะเลเป็นอาณานิคม โดยอ้างว่าเปน็ ภาระ ครอบครองดินแดน การเข้าควบคมุ ของคนผิวขาวในการนำอารยธรรมทีส่ ูงกว่า ทางดา้ นเศรษฐกจิ และการเมือง ซึ่ง เกดิ ข้นึ ในกลางครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 19 ไปเผยแพร่ ทำใหช้ าวพ้นื เมืองไดร้ บั อทิ ธพิ ลทาง วัฒนธรรมตะวันตก เช่น การนับถือครสิ ต์ศาสนา ภาษาตะวนั ตก การศกึ ษาแบบตะวันตก การให้ ชาวพ้ืนเมอื งปลกู พชื เศรษฐกิจเพ่ือแสวงหากำไร จน นำไปสู่ความขัดแย้งระหวา่ งประเทศ การศกึ ษาแบบ ตะวนั ตก ทำใหเ้ กิดขบวนการชาตนิ ยิ มขนึ้ ในเวลาตอ่ มา

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 กลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม รายวิชาประวัติศาสตร์ รหัส ส 32104 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เหตกุ ารณส์ ำคัญทางประวตั ศิ าสตรท์ ี่มผี ลตอ่ โลกปัจจุบนั จำนวน 7 ชัว่ โมง เรอ่ื ง ความขัดแย้งและความร่วมมอื ของมนษุ ยชาติในคริสต์ศตวรรษท่ี 20 - ปจั จุบนั จำนวน 4 ชัว่ โมง ผู้สอน นางสาวมาสเี ตา๊ ะ ซอมดั โรงเรียนทีปราษฎรพ์ ิทยา 1. สาระสำคญั (ความคิดรวบยอด) การเกิดความขัดแย้งและความรุนแรงหลายเหตุการณ์ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และการเมือง ทำให้ท่วั โลกหันมาใหค้ วามสำคัญและรว่ มมอื กันแกไ้ ขปญั หาท่ีเกิดขนึ้ 2. ตวั ชีว้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 2.1 ตวั ช้ีวัด ส 4.2 ม.4-6/2 วเิ คราะหเ์ หตุการณส์ ำคญั ตา่ งๆ ท่ีสง่ ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ และ การเมอื งเขา้ สโู่ ลกสมยั ปัจจุบนั ม.4-6/3 วิเคราะห์ผลกระทบของการขยายอิทธิพลของประเทศในทวีปยุโรปไปยังทวีป อเมรกิ า แอฟริกา และเอเชีย 2.2 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายความรว่ มมือและความขดั แย้งของมนษุ ยชาตโิ ดยสงั เขปได้ 2. วิเคราะหค์ วามร่วมมือและความขดั แย้งทส่ี ง่ ผลตอ่ มนุษยชาติในโลกได้ 3. สาระการเรยี นรู้ ความขัดแย้งและความร่วมมือของมนุษยชาติในครสิ ต์ศตวรรษท่ี 20 - ปจั จุบัน 1. ความขดั แย้งในครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 20 จนถึงปัจจุบนั 2. ความร่วมมอื ในครสิ ต์ศตวรรษที่ 20 จนถงึ ปจั จบุ นั 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 4.1 ความสามารถในการคดิ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ 4.2 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี 1 1. ครนู ำวีดิทศั นเ์ กย่ี วกับสงครามโลกครั้งที่ 1 หรอื สงครามโลกคร้ังท่ี 2 มาใหน้ กั เรียนชม แล้วครูต้งั คำถามเพื่อ กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นคดิ วิเคราะห์ ดงั นี้ - สาเหตุของความขัดแย้งเกิดจากอะไร - เกดิ ขน้ึ ทไ่ี หน - ส่งผลต่อมนุษยแ์ ละโลกโดยรวมอยา่ งไร 2. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปถึงความขัดแย้งของมนุษยชาตินับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอยู่มากมายหลาย เหตุการณ์ โดยมีสาเหตุแตกต่างกันไป แต่ผลจากความขัดแย้งก็ก่อให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของ ผู้คนจำนวนมาก 3. ครแู บง่ นกั เรียนเปน็ 4 กลุ่ม คละกันตามความสามารถ จากน้ันเลือกประธาน รองประธาน เลขานกุ าร และ ใหส้ มาชกิ ในกลมุ่ แบง่ หนา้ ที่ความรบั ผดิ ชอบกนั 4. ให้ตัวแทนกลมุ่ ออกมาจบั สลากหมายเลขกลมุ่ เพื่อศึกษาในหวั ข้อต่อไปน้ี - กลุ่มที่ 1 ศึกษาเรอื่ ง สงครามโลกครง้ั ที่ 1 - กลุ่มท่ี 2 ศึกษาเรื่อง สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 - กลุ่มท่ี 3 ศกึ ษาเร่ือง สงครามเยน็ - กลุม่ ที่ 4 ศึกษาเร่ือง สงครามอริ กั 5. ครใู หน้ ักเรียนไปศกึ ษาคน้ คว้าข้อมูล จากหนังสอื เรียนและแหล่งการเรยี นรู้อ่นื ๆ เช่น ห้องสมุด อินเทอร์เน็ต และให้นักเรียนนำเสนอผลงานในชั่วโมงต่อไป โดยเปิดโอกาสให้สมาชิกในกลุ่มระดมสมองในการวางแผนการ ทำงาน ชวั่ โมงที่ 2 1. ครูนำบัตรคำเกี่ยวกับอักษรย่อขององค์การต่างๆ เช่น UN EU NATO OPEC APEC WTO UNESCO ASEAN เป็นต้น มาใหน้ ักเรยี นดู แลว้ ต้งั คำถามถามนักเรียน ดงั นี้ - อกั ษรย่อนย้ี อ่ มาจากองค์การอะไร - องคก์ ารแต่ละแหง่ เปน็ ความรว่ มมอื ในระดบั ใด - องค์การเหล่าน้ีจดั ตง้ั ข้ึนเพือ่ วัตถุประสงค์อะไร 2. เมื่อนกั เรียนตอบเรยี บรอ้ ยแล้ว ครอู ธิบายสรปุ ให้นกั เรียนเขา้ ใจว่าองคก์ ารตา่ งๆ เหลา่ นี้เกดิ จากความร่วมมือ กันของประเทศตา่ งๆ ในโลก ท้งั ที่อยู่ในภูมภิ าคเดยี วกันและต่างภูมิภาคกัน โดยมีจดุ มุ่งหมายเพ่ือผลประโยชน์ ทจ่ี ะเกดิ ข้นึ รว่ มกนั ของประเทศสมาชกิ 3. นักเรียนแบง่ กล่มุ กลุ่มละ 6 คน จากน้ันให้จบั คกู่ นั เปน็ 3 คู่ โดยแต่ละคู่รบั ผดิ ชอบหัวขอ้ ดังน้ี - คูท่ ี่ 1 ศึกษาเร่ือง องคก์ ารสหประชาชาติ หรือยูเอน็ - คทู่ ี่ 2 ศกึ ษาเรอ่ื ง สหภาพยุโรป หรอื อยี ู - คทู่ ี่ 3 ศกึ ษาเรือ่ ง สมาคมประชาชาติเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน 4. ครูสนทนากับนักเรียนในกลุ่มถึงความพร้อมของแต่ละคู่ในการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับความร่วมมือของ มนษุ ยชาตทิ ่ีกำหนดให้ว่าได้ข้อมูลมาจากแหลง่ ใด มอี ุปสรรคในการทำงานหรือไม่ อยา่ งไรตลอดจนวิธีการแบ่ง งานกันในการคน้ ควา้ ขอ้ มูล 5. ให้นักเรียนแต่ละคู่ผลัดกันเล่าเรื่องรอบวงในหัวข้อที่ตนได้รับมอบหมายให้เพื่อนฟังจนทุกคนเข้าใจเนื้อหา สาระสำคญั ท้งั หมด

6. ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันตอบคำถามเกี่ยวกับความร่วมมือของมนุษยชาติลงในใบงานที่ 4.3 เรื่อง ความร่วมมือ ระหวา่ งประเทศ 7. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอใบงานท่ีได้ร่วมกนั ทำหน้าชัน้ เรียน ทีละกลุ่มจนครบทกุ กลุ่ม โดยครู ช่วยเสนอแนะเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ 8. ให้นักเรียนทำแผ่นพับเหตุการณส์ ำคัญทางประวัติศาสตรท์ ี่มีผลต่อโลกปัจจุบนั นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 7. การวัดและประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์ วิธีการ ตรวจใบงานท่ี 4.3 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ทำใบงานท่ี 4.3 8. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้ 8.1 สอ่ื การเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรยี น ประวัตศิ าสตร์สากล ม.4-ม.6 2. วิดโี อ 3. แผนที่ 4. รปู ภาพ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ ห้องสมดุ

ใบงานที่ 4.3 เร่ือง ความขดั แย้งระหว่างประเทศ ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรียนวิเคราะหเ์ กี่ยวกบั ความขดั แยง้ ของมนุษยชาติตามหวั ขอ้ ท่ีกาหนดใหถ้ ูกตอ้ ง ความขัดแย้งในสมัยโบราณ-สมัยกลาง ตัวอยา่ งความขดั แยง้ ผลทีม่ ตี อ่ โลก ความขัดแย้งในสมยั ใหม่ ผลท่ีมตี ่อโลก ตวั อย่างความขดั แยง้ ความขดั แย้งในสมยั ปัจจบุ นั ผลทีม่ ีต่อโลก ตวั อย่างความขัดแยง้

ตอนที่ 2 ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตา่ งของความขดั แยง้ ของมนุษยใ์ นอดีตกบั ปัจจุบนั ความเหมือน ความแตกตา่ ง ตอนที่ 3 นกั เรียนคดิ วา่ แนวทางในการสร้างสันติภาพมิใหเ้ กิดความขดั แยง้ ข้นึ ในโลกสามารถทาไดอ้ ยา่ งไร

เฉลยใบงานที่ 4.3 เร่ือง ความขดั แย้งระหว่างประเทศ ตอนที่ 1 ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหเ์ ก่ียวกบั ความขดั แยง้ ของมนุษยชาติตามหวั ขอ้ ที่กาหนดใหถ้ ูกตอ้ ง ความขดั แย้งในสมัยโบราณ-สมัยกลาง ตัวอย่างความขัดแย้ง ผลทีม่ ีต่อโลก 1. สงครามเพโลพอนนเี ชียน ระหว่างเอเธนสก์ บั - ดนิ แดนตา่ งๆ ของกรีกต้องพนิ าศและเปิดโอกาส สปารต์ าเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญใ่ นดินแดนกรีก ให้พระเจา้ อเล็กซานเดอรม์ หาราชขยายอำนาจเขา้ ครอบครองกรีก 2. สงครามครเู สด ระหวา่ งชาวครสิ ตก์ ับชาวมสุ ลิม - เกดิ การแลกเปล่ียนศลิ ปวทิ ยาการระหวา่ งโลก เพือ่ แยง่ ชิงดนิ แดนปาเลสไตน์ ตะวนั ตกกบั โลกตะวันออก ทำลายระบอบฟวิ ดลั และกษตั ริย์กลบั มามอี ำนาจแทจ้ รงิ ความขดั แย้งในสมยั ใหม่ ตวั อย่างความขัดแยง้ ผลทม่ี ีตอ่ โลก 1. สงครามการปฏวิ ัติของชาวอเมรกิ ัน ค.ศ. 1776 - ชาวอาณานคิ มไดร้ บั เอกราช กลายเป็นประเทศใหม่ ระหวา่ งชาวอาณานคิ มกับองั กฤษ ท่ภี ายหลังได้พฒั นาเป็นประเทศมหาอำนาจ 2. สงครามโลกคร้งั ท่ี 1 ระหวา่ งกล่มุ สนธสิ ัญญา - ยโุ รปตอ้ งประสบความพินาศทางเศรษฐกจิ สังคม พนั ธไมตรไี ตรภาคกี บั กลมุ่ สนธสิ ญั ญาไตรภาคี การเมอื ง มกี ารนำอาวุธอันทนั สมยั มาใช้ในการรบ 3. สงครามโลกครั้งที่ 2 ระหวา่ งฝ่ายพันธมติ รกบั ฝ่ายอกั ษะ - เศรษฐกจิ ตกต่ำ เกดิ ประเทศมหาอำนาจใหม่ คือ สหรัฐฯกบั สหภาพโซเวียต เกิดประเทศยุโรปใหม่ๆ ความขดั แย้งในสมัยปจั จบุ ัน ผลทม่ี ตี ่อโลก ตัวอยา่ งความขดั แย้ง 1. สงครามเยน็ ระหว่างกลุ่มประเทศโลกเสรี - สหรฐั ฯกลายเป็นประเทศอภิมหาอำนาจเดียวในโลก ประชาธปิ ไตยนำโดยสหรัฐฯกับโลกคอมมิวนิสต์ นำ สหภาพโซเวยี ตลม่ สลาย เกิดสาธารณรฐั ใหม่ๆมกี าร โดยสหภาพโซเวียต พฒั นาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี - มี การสญู เสยี ชีวิตและทรัพยส์ ินของประเทศทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 2. สงครามระหวา่ งอิสราเอลกบั ปาเลสไตน์ เพื่อ และผู้นำของทง้ั 2 ฝ่าย ไดร้ ับรางวลั โนเบลสาขา แยง่ กันอา้ งสิทธิเหนือดินแดนปาเลสไตน์ สนั ติภาพ แตป่ ญั หานี้กย็ ังไม่ยตุ ิ

ตอนท่ี 2 ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกต่างของความขดั แยง้ ของมนุษยใ์ นอดีตกบั ปัจจุบนั ความเหมือน ความแตกตา่ ง สาเหตุของความขัดแย้งบางประการ ในอดตี รปู แบบการทำสงครามจะเปน็ การใช้ เหมือนกัน เชน่ การแยง่ ชิงที่อยู่อาศัย การแสวงหา ทหารราบเป็นหลัก ใช้อาวธุ ประเภทดาบ โล่ เท่าที่ ผลประโยชนท์ างเศรษฐกจิ ความแตกต่างทาง สรา้ งได้ในขณะนั้น แต่ในสมัยปจั จบุ ัน ไดม้ กี ารพัฒนา ศาสนา ความเชอื่ ซ่งึ นำไปสกู่ ารตอ่ สู้ปะทะกัน ดา้ นประสทิ ธภิ าพของอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ จึงมี การนำระเบดิ นวิ เคลยี รท์ ม่ี ีพลงั ทำลายลา้ งสูงมาใช้ จรวด เครื่องบนิ เรือดำนำ้ ปนื สมยั ใหม่ จงึ ทำให้ สรา้ งความเสยี หายไดม้ ากกว่าในอดีต นอกจากน้ี ยัง อย่ใู นรปู แบบของการใช้ระเบดิ พลชี ีพทไ่ี ม่ได้โจมตี เป้าหมายหลัก แต่พงุ่ เปา้ ไปท่ีผบู้ รสิ ทุ ธคิ์ นอ่ืนๆ ดว้ ย จงึ ทำใหไ้ มท่ ราบตัวผูบ้ งการทีอ่ ยเู่ บอ้ื งหลงั ตอนที่ 3 นกั เรียนคิดวา่ แนวทางในการสร้างสันติภาพมิใหเ้ กิดความขดั แยง้ ข้นึ ในโลกสามารถทาไดอ้ ยา่ งไร ประเทศหรือฝ่ ายท่ีมคี วามขัดแย้งกนั ควรหันมาเจรจาร่วมกนั โดยหาข้อตกลงซ่ึงเป็นที่พอใจของทกุ ฝ่ าย และ ควรมีประเทศท่ีมอี านาจเป็นตัวกลางมาช่วยไกล่เกลยี่ และมีบทลงโทษสาหรับในกรณีท่ฝี ่ ายใดฝ่ ายหนึ่ง ละเมิดข้อตกลง ร่วมกัน นอกจากนีภ้ าครัฐควรส่งเสริมให้เยาวชนของประเทศตระหนกั ถึงผลกระทบจากความขดั แย้ง และส่งเสริมให้ เห็นความสาคญั ของการอย่รู ่วมกนั อย่างสันติ (พิจารณาจากคาตอบของนักเรียน โดยให้อย่ใู นดลุ ยพินิจของครูผ้สู อน)

ใบงานที่ 4.4 เรื่อง ความร่วมมือระหว่างประเทศ คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์เกี่ยวกบั ความร่วมมือของมนุษยชาติท่ีกาหนดให้ ความรว่ มมอื ในระดับ  ภมู ิภาคเดยี วกัน  ตา่ งภูมิภาคกนั วัตถุประสงคเ์ พือ่ องค์การสหประชาชาติ ความรว่ มมือในระดบั  ภูมภิ าคเดียวกนั  ตา่ งภมู ิภาคกัน วัตถปุ ระสงคเ์ พือ่ สหภาพยโุ รป ความร่วมมือในระดบั  ภมู ิภาคเดียวกนั  ต่างภูมิภาคกัน วัตถุประสงค์เพื่อ องคอง์กคาก์ ราอราอเาซเซียยีนน นกั เรยี นคิดว่าการรว่ มมอื ของมนุษยชาติก่อให้เกดิ ผลดีต่อโลกอย่างไร

เฉลยใบงานที่ 4.4 เรื่อง ความร่วมมือระหว่างประเทศ คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนวิเคราะห์เกี่ยวกบั ความร่วมมือของมนุษยชาติที่กาหนดให้ องค์การสหประชาชาติ ความรว่ มมอื ในระดบั  ภูมิภาคเดียวกัน  ต่างภูมิภาคกัน วัตถุประสงค์เพ่อื รกั ษาสนั ติภาพและความม่ันคงของโลก พัฒนา ความสมั พนั ธ์ฉันมติ รระหว่างประเทศ รว่ มมือกนั แก้ปัญหาระหวา่ ง ประเทศ ส่งเสรมิ สิทธิมนุษยชน และเปน็ ศนู ย์กลางในการสร้างความ สมานฉันทใ์ นการดำเนินนโยบายของชาตติ ่างๆ สหภาพยโุ รป ความร่วมมือในระดับ  ภมู ิภาคเดียวกนั  ต่างภมู ิภาคกัน องคอง์กคา์กราอราอเาซเซยี ียนน วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่อื ให้เกิดการจัดตั้งเป็นตลาดเดียว ใชเ้ งนิ ตราสกุลเดียว เสริมสร้างบรรยากาศทเ่ี อ้ืออำนวยตอ่ การคา้ การลงทุน และการแข่งขัน ภายในสหภาพยุโรป ให้ประเทศสมาชิกปรับประสานนโยบายเศรษฐกจิ ในดา้ นตา่ งๆ เพ่ือลดความแตกตา่ งในดา้ นค่าเงินของแต่ละประเทศ ความร่วมมือในระดับ  ภมู ิภาคเดยี วกนั  ต่างภูมภิ าคกันวัตถปุ ระสงค์ เพ่อื ความร่วมมือทางเศรษฐกจิ สงั คม วิชาการและวัฒนธรรม เพ่อื สรา้ ง ความมั่นคง ความเปน็ ปึกแผ่นของประชาชาตแิ ละภูมิภาค และตอ่ มาได้มี การเพ่ิมข้อตกลงความร่วมมือทางการทหาร นกั เรยี นคดิ ว่าการรว่ มมอื ของมนษุ ยชาตกิ ่อใหเ้ กดิ ผลดตี อ่ โลกอย่างไร ความร่วมมือกอ่ ให้เกดิ การประชุมรว่ มกันเพอ่ื หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกดิ ข้ึน นอกจากนยี้ งั เปน็ การเจรจาเพ่ือผลประโยชน์ร่วมกันทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ถือเปน็ การสร้างความสมั พนั ธอ์ ัน ดตี อ่ กันและทำให้ประเทศที่มีความสมั พนั ธท์ ่ดี ีอยู่แล้วมีความมัน่ คงถาวรมากขึ้น เม่ือตา่ งฝ่ายรว่ มมอื กัน ดว้ ยดีก็จะสรา้ งความเจริญให้แก่ชาติและช่วยให้โลกเกดิ สันตภิ าพและความสงบสขุ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook