แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอื่ ง พระมหากษตั ริย์ท่ีมบี ทบาทในการสร้างสรรคช์ าติไทย รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหสั วิชา ส 31104 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลุม่ สาระการเรียนร้สู ังคมศึกษาฯ ภาคเรยี นท่ี 2/2562 เวลา 4 ชั่วโมง ผสู้ อน นางสาวราวีญา ซอมัด 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 ส 4.3 ม.4-6/2 วิเคราะห์ความสำคัญของสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ่อชาตไิ ทย 1.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วิเคราะห์ความสำคัญของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ต่อชาติไทย 2. สาระสำคัญ (ความคิดรวบยอด) หนา้ ทขี่ องคนไทยทุกคนไม่วา่ จะเป็นสถาบันพระมหากษตั ริย์ สตรไี ทย ล้วนมีบทบาทสำคัญในการ สรา้ งความเจริญก้าวหน้าให้กับชาตบิ ้านเมอื ง รวมทงั้ การรับอทิ ธิพลมาจากอารยธรรมตะวันออกและตะวนั ตก มาใชใ้ นสังคมไทย 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ประเดน็ สำคญั ของประวัติศาสตรไ์ ทย เชน่ - ความสำคญั ของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ่อชาติไทย 3.2 ทักษะกระบวนการ วธิ ีสอนโดยใช้กระบวนการทางประวัติศาสตร์ 3.3 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 3.3.1 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ประจำแผนการจดั การเรียนรู้) 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งมั่นในการทำงาน 3. มจี ติ สาธารณะ 3.3.2 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (ประจำกลุ่มสาระการเรียนร)ู้ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ 3.4 สมรรถนะสำคญั ผเู้ รียน 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 4. ภาระงาน (สะทอ้ นการจดั กิจกรรม) 4.1 ภาระงาน 4.1.1 ใบงานท่ี 7.1 4.1.2 ใบงานที่ 7.2
5. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ เคร่ืองมือ เกณฑ์ วธิ กี าร ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ นักเรยี นทำใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 1.2 แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ สงั เกตการเขา้ รว่ มกิจกรรมกลุ่ม การทำงานกลุม่ 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ 1-2 ขัน้ ท่ี 1 นำเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ครพู ูดว่า “3 หว่ ง 2 เง่ือนไข” แล้วต้ังคำถามกบั นกั เรียนวา่ จากคำพูดของครู นักเรยี นนกึ ถงึ อะไร (นักเรียน ตอบว่า เศรษฐกิจพอเพยี ง ) จากน้ันถามตอ่ ว่า “พระมหากษัตริย์พระองคใ์ ดท่พี ระราชทานแนวทางน้ใี หก้ ับปวง ชนชาวไทย (นกั เรยี นตอบวา่ รัชกาลท่ี 9) (เวลา 5 นาที) ขนั้ ท่ี 2 การสอน 2. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั เขียนช่อื พระมหากษตั รยิ ์ท่ีนักเรยี นร้จู กั ในกระดาน (เวลา 10 นาที) 3. ครใู หน้ ักเรยี นร่วมกนั เขยี นผลงานของสถาบนั พระมหากษัตรยิ ์ทม่ี ตี อ่ การพัฒนาชาตไิ ทย (เวลา 15 นาท)ี 4. ครูแจกบัตรคำ และใหน้ ักเรยี นแตล่ ะแถว ชว่ ยกนั หาความหมายของคำนั้นๆ เช่น พระเจ้าอยหู่ ัว , พระเจ้า แผน่ ดิน , เจา้ ชีวติ , ธรรมราชา และ พระมหากษัตริย์ ขั้นที่ 3 สรุป 5. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ เร่ือง พระมหากษตั รยิ ท์ ี่มบี ทบาทในการสร้างสรรค์ชาติไทย ช่ัวโมงท่ี 3-4 ขนั้ ท่ี 1 นำเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ครใู ห้นกั เรียนร่วมกนั บอกพระนามกษตั ริยท์ ่ีมคี ำวา่ “มหาราช” ต่อทา้ ยพระนาม (5 นาที) ขั้นท่ี 2 การสอน 2. นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละเทา่ ๆกัน จำนวน 9 กลุ่ม 3. ครูแจกบัตรพระนามพระมหากษตั ริยใ์ ห้แต่ละกลมุ่ 1. พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ 2. พ่อขุนรามคำแห่งมหาราช 3. พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย) 4. สมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ 1 (อู่ทอง) 5. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ 6. สมเด็จพระสุรโิ ยทัย 7. สมเด็จพระนเรศวรมหาราช 8. สมเด็จพระนารายณ์มหาราช 9. สมเด็จพระเจ้าตากสนิ มหาราช 10. พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช 11. พระบาสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
12. พระบาทสมเดจ็ พระนั่งเกลา้ เจ้าอย่หู วั 13. พระบามสมเด็จพระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ วั 14. พระบามสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ อยูห่ วั 15. พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกล้าเจ้าอยูห่ วั 16. พระบามสมเดจ็ พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว 17. พระบามสมเด็จพระเจา้ อยู่หัวอานันทมหิดล 18. พระบามสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัวภูมพิ ลอดลุ ยเดช 19. พระบาทสมเดจ็ พระวชริ เกล้าเจ้าอยู่หัว 4. ครเู ริ่มหยิบคำปริศนาเกี่ยวกับรายละเอยี ดพระมหากษัตรยิ ์แต่ละพระองค์ ออกจากกลอ่ ง แล้วอ่านใหน้ ักเรียน ฟัง โดยสมาชิกแตล่ ะกลุ่มต้องคน้ ควา้ จากหนังสือแบบเรยี น เพอ่ื ทีจ่ ำนำบตั รคำไปต่อเติมคำตอบของ พระมหากษัตรยิ ์ใหส้ มบรู ณ์ 5. เลน่ ไปจนบตั รคำปริศนาหมดกลอ่ ง จากนั้นตรวจคำตอบแต่ละกล่มุ กลุม่ ใดรับบตั รคำไปผิด ตกรอบ ผูท้ ี่ ถกู ต้องทุกรายละเอียดคือผ้ชู นะ ข้นั ที่ 3 สรุป 4. นักเรียนและครชู ว่ ยกนั สรปุ 7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. บัตรคำ 3. กลอ่ งกิจกรรม พระมหากษตั ริยก์ ับการพฒั นาชาติไทย 4. ใบงานท่ี 1.1 5. ใบงานท่ี 1.2 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 7.2.1 หอ้ งสมุด 7.2.2 แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ลำดับ ช่ือ – สกลุ ความร่วมมอื การแสดงความ การรับฟังความ การตง้ั ใจ การรว่ ม คิดเห็น คิดเห็น ทำงาน ที่ ปรับปรุงผลงาน รวม กล่มุ 20 คะแนน 43214321432143214321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง้ = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางคร้งั = ปรบั ปรุงให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง = เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรุง
ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ความสำคญั ของสถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ อ่ ชาติไทย คำช้ีแจง : ใหน้ กั เรยี นบนั ทึกความรลู้ งในตาราง คำสำคัญ ความหมาย พระเจา้ อยหู่ ัว พระเจา้ แผน่ ดนิ เจา้ ชีวิต ธรรมราชา พระมหากษัตริย์ สมมติเทพ ช่ือ-สกุล......................................................................หอ้ ง ม.4/.................. เลขที่ .....................
ใบงานที่ 1.2 เร่ือง พระราชกรณยี กิจกบั การพฒั นาชาตไิ ทย คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นสรุปสาระสำคัญลงในตาราง พระราชกรณียกิจ พระนามพระมหากษตั รยิ ์ ชือ่ -สกุล......................................................................หอ้ ง ม.4/.................. เลขท่ี .....................
พระนามพระมหากษตั ริย์ พระราชกรณยี กิจ ชื่อ-สกุล......................................................................หอ้ ง ม.4/.................. เลขท่ี .....................
พระเจา้ แผน่ ดนิ เจา้ ชวี ิต ธรรมราชา พระมหากษัตรยิ ์
สมมตเิ ทพ พ่อปกครองลกู
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เร่ือง พระบรมวงศานุวงศ์ทมี่ ีบทบาทในการสร้างสรรค์ชาติไทย รายวิชา ประวัติศาสตร์ รหสั วิชา ส 31104 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 กล่มุ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ ภาคเรียนที่ 2/2564 เวลา 3 ชวั่ โมง ผสู้ อน นางสาวราวีญา ซอมัด 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวดั 1.1 ส 4.3 ม.4-6/4 วเิ คราะหผ์ ลงานของบคุ คลสำคัญทงั้ ชาวไทยและต่างประเทศท่ีมสี ว่ นร่วม สร้างสรรคว์ ัฒนธรรมไทยและประวัติศาสตร์ไทย 1.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายบทบาท และหน้าท่ีของบุคคลสำคญั ในการสร้างสรรค์ชาติไทยได้ 2. ระบผุ ลงานทสี่ ำคญั ของบุคคลสำคญั ในการสรา้ งสรรค์ชาติไทยได้ 2. สาระสำคญั (ความคดิ รวบยอด) วฒั นธรรมไทยเป็นรากฐานและความมนั่ คงของประเทศชาติ ซึ่งเปน็ ผลงานของบุคคลสำคัญใน ประวตั ิศาสตร์ชาติไทยที่ไดร้ ่วมกันสรา้ งสรรค์และพัฒนาใหเ้ จริญร่งุ เรอื งสืบต่อกันมาถงึ ปัจจุบัน 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง ผลงานของบุคคลสำคัญทง้ั ชาวไทยและต่างประเทศที่มสี ่วนรว่ มสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมไทย และประวัติศาสตร์ไทย เชน่ - สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส - พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนทิ - สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ - สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ - สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ เจ้าฟา้ กรมพระยานริศรานุวดั ตวิ งศ์ - หม่อมราโชทยั หรือหม่อมราชวงศก์ ระตา่ ย อิศรางกูร - สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ช่วง บุนนาค) - บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - หมอบรดั เลย์ ( ดร. แดน บีช บรัดเลย์) - พระยารษั ฎานุประดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซิส บี. แซร)์ - ศาสตราจารยศ์ ลิ ป์ พรี ะศรี 3.2 ทกั ษะกระบวนการ วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : กระบวนการกล่มุ 3.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3.3.1 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ประจำแผนการจัดการเรียนรู้)
1. ใฝเ่ รยี นรู้ เกณฑ์ 2. ม่งมัน่ ในการทำงาน 3. มจี ติ สาธารณะ 3.3.2 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ประจำกลุ่มสาระการเรียนรู)้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 3.4 สมรรถนะสำคญั ผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต 4. ภาระงาน (สะทอ้ นการจัดกิจกรรม) 4.1 ภาระงาน 4.1.1 ใบงานท่ี 7.1 4.1.2 ใบงานที่ 7.2 5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ วธิ ีการ เครอ่ื งมอื นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการเข้าร่วมกจิ กรรมกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลมุ่ 6. กิจกรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1 ขน้ั ที่ 1 นำเขา้ สู่บทเรยี น 1. ครนู ำเข้าสบู่ ทเรยี นดว้ ยการนำคำกลา่ วท่ีว่า “ ในรัชกาลท่ี 1 น้นั ถา้ ใครเขม้ แขง็ ในการศกึ สงครามกเ็ ป็นคนโปรด ในรชั กาลที่ 2 นนั้ ถา้ ใครเป็นจินตกวกี ็เป็นคนโปรด ในรชั กาลที่ 3 นัน้ ถ้าใครใจบุญสร้างวดั วาอารามกเ็ ปน็ คนโปรด ” 2. ต้ังประเดน็ คำถามที่กระตุ้นให้นกั เรยี นเกดิ การคดิ วิเคราะห์ ดังนี้ - นกั เรยี นมคี วามคิดเห็นอย่างไรตอ่ คำกล่าวนี้ - นอกจากผลงานอันโดดเด่นท่ีระบุไว้ในแตล่ ะรัชกาลดังคำกล่าวนี้ ยงั มผี ลงานท่ีนา่ สนใจ อะไรอกี บา้ ง ขนั้ ท่ี 2 การสอน 3. ให้นักเรยี นคิดวิเคราะห์ต่อประเด็นคำถามของครู พร้อมท้ังใหเ้ หตผุ ลประกอบและอธิบายดว้ ยวา่ ผลงาน นนั้ ๆ เก่ยี วข้องกับบุคคลสำคัญในการสรา้ งสรรค์ชาติไทยอยา่ งไร 4. หลงั จากนักเรียนตอบคำถามแลว้ ครูอธบิ ายผลงานของบุคคลสำคัญในการสรา้ งสรรค์ชาตไิ ทยคือ โดยครู แนะนำจุดประสงค์การเรียนรู้ทต่ี อ้ งการใหน้ ักเรียนรถู้ งึ ผลงานของบุคคลสำคัญทม่ี สี ่วนสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรม และชาติไทย ทงั้ นี้ครจู ดั การนำเสนอเพื่อแสดงประวตั ิและผลงานของบุคคลสำคัญ โดยมอบหมายใหน้ ักเรียน เปน็ ผูน้ ำเสนอในชนั้ เรียนและสรปุ สาระสำคัญลงในกระดาษชาตว่ามรี ายละเอียด รูปแบบวิธกี ารนำเสนอเนือ้ หา ใดบ้าง เพ่ือให้เกิดความนา่ สนใจ
5. ครูอธิบายการนำเสนอรายละเอียดของเนื้อหาผลงานของบุคคลสำคัญ ซ่ึงประกอบด้วย ประวตั ิ ผลงานทมี่ ี ความโดดเด่นหรือมีความสำคัญทีส่ ุด และปัจจยั สำคัญท่กี ่อใหเ้ กิดผลงานนนั้ ๆ โดยครกู ับนักเรยี น ปรกึ ษาหารือ ร่วมกนั ในการกำหนดรูปแบบและวิธกี ารนำเสนอซ่ึงวิธกี ารนีเ้ ปน็ การสง่ เสริมให้นักเรียนไดม้ สี ว่ นร่วมในการจัด กจิ กรรมการเรยี น 6. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ ออกเป็น 12 กล่มุ เท่าๆ กนั เพ่ือร่วมกนั ศึกษาและวิเคราะหผ์ ลงานของบุคคล สำคัญในการสร้างสรรค์ชาติไทย ตามท่ีตวั แทนกลมุ่ ออกมาจับสลาก ดังนี้ - กลุ่มท่ี 1 สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส - กลุ่มท่ี 2 พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ - กลุ่มท่ี 3 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ - กลุ่มท่ี 4 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ - กล่มุ ท่ี 5 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานริศรานุวดั ติวงศ์ - กลุ่มที่ 6 หม่อมราโชทัย หรือหม่อมราชวงศก์ ระต่าย อศิ รางกูร - กลุ่มท่ี 7 สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรสี รุ ยิ วงศ์ (ช่วง บุนนาค) - กลุ่มท่ี 8 บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ - กลมุ่ ที่ 9 หมอบรดั เลย์ (ดร. แดน บชี บรัดเลย)์ - กลมุ่ ที่ 10 พระยารัษฎานุประดษิ ฐมหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - กลมุ่ ที่ 11 พระยากลั ยาณไมตรี (ดร.ฟรานซิส บ.ี แซร)์ - กลมุ่ ที่ 12 ศาสตราจารย์ศลิ ป์ พีระศรี ขนั้ ที่ 3 สรุป 5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ช่วั โมงที่ 2-3 1. ครมู อบหมายใหแ้ ต่ละกล่มุ ศกึ ษาค้นควา้ ความรเู้ พ่ิมเติมจากหนังสอื เรยี น และแหล่งการเรียนรอู้ ่ืนๆ 2. ให้สมาชกิ ในแตล่ ะกลมุ่ วางแผนการทำงานร่วมกนั และแบ่งหน้าที่กันรบั ผิดชอบอยา่ งชัดเจน 3. ครูให้ข้อเสนอแนะในการทำงานร่วมกนั และคอยใหค้ ำปรึกษาเมื่อนกั เรยี นมขี ้อสงสัยหรือเกิดปัญหา ในการทำงาน 4. ครสู อบถามเกยี่ วกับภาระงานที่ไดร้ บั มอบหมาย และแลกเปลย่ี นความรู้เกีย่ วกับวธิ กี ารทำงาน ท่มี ปี ระสิทธิภาพของแต่ละกลุ่ม 5. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกล่มุ รวบรวมขอ้ มูลจากที่ได้ศึกษาคน้ คว้า และวางแผนการสรปุ ข้อมูล และการนำเสนอผลงานท่ีสร้างสรรค์ 7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน ประวตั ิศาสตรไ์ ทย ม.4-ม.6 2. สลาก 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 7.2.1 หอ้ งสมดุ 7.2.2 แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ ลำดบั ช่อื – สกุล ความรว่ มมอื การแสดงความ การรบั ฟังความ การตั้งใจ การรว่ ม รวม คิดเห็น คิดเห็น ทำงาน ปรบั ปรุงผลงาน 20 คะแนน ที่ 4321 4321 กลมุ่ 43214321 4321 เกณฑ์การให้คะแนน ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ = ปรับปรงุ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมน้อยคร้ัง = เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรับปรุง
แบบทดสอบกอ่ นเรียน คำช้ีแจง ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงคำตอบเดยี ว ******************************************************************************** 1. ข้อใดคือบทบาททางการปกครองท่สี ำคัญของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟา้ จฬุ าโลกมหาราช ก. การทำสงครามกบั พมา่ ข. การสรา้ งป้อมรักษาพระนคร ค. การใช้กฎหมายตราสามดวง ง. การใหข้ นุ นางมีตราประจำตำแหน่ง 2. การทีพ่ ระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัยทรงลดเวลาการรบั ราชการของไพร่ มผี ลอย่างไร ก. ทำให้ไพร่มีความเปน็ อยู่ดีข้ึน ข. ทำใหไ้ พร่มีเวลาสรา้ งงานศิลปะ ค. ทำให้ตอ้ งจา้ งชาวจีนทำงานแทนไพร่ ง. ทำใหช้ าวตา่ งชาตเิ ข้ารบั ราชการเพิ่มข้ึน 3. ข้อใดคือพระราชกรณียกิจที่สำคัญของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลศิ หล้านภาลัยดา้ นนาฏกรรม ก. การตัง้ กรมโขนและละคร ข. การส่งเสรมิ ให้คนไทยเลน่ โขน ค. การใช้ซอในวงมโหรีของไทย ง. การปรับปรุงท่ารำโขนและละคร 4. จารกึ ทีว่ ัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม มีความสำคัญต่อสังคมไทยอย่างไร ก. เป็นแหล่งเผยแพร่ภูมปิ ัญญาไทย ข. เปน็ แหลง่ รายไดจ้ ากการท่องเท่ียว ค. เป็นสถานทร่ี ักษาโรคด้วยการนวดแผนโบราณ ง. เปน็ มรดกโลกตามประกาศขององค์การยูเนสโก 5. ขอ้ ใดคือผลงานด้านการแพทยข์ องพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ ก. ทรงนิพนธต์ ำรายาสมุนไพรไทย ข. ทรงนำเคร่อื งมือแพทยส์ มัยใหมม่ าใช้ในไทย ค. ทรงนำวชิ าการแพทย์ตะวันตกมาเผยแพร่ในไทย ง. ทรงสนับสนนุ ให้มิชชันนารเี ขา้ มารกั ษาโรคให้คนไทย 6. เพราะเหตใุ ดสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ จงึ ได้รบั การยกย่องเปน็ บดิ าแห่งประวตั ิศาสตร์ไทย ก. สนับสนนุ การศกึ ษาวิชาประวตั ศิ าสตร์ไทย ข. เปน็ ผรู้ ิเร่ิมให้มีการเรียนวชิ าประวตั ศิ าสตรใ์ นประเทศไทย ค. มีผลงานดา้ นประวตั ิศาสตรแ์ ละโบราณคดจี ำนวนมาก เช่น ไทยรบพม่า นิราศนครวัด ง. รวบรวมของเกา่ ๆ เพื่อเก็บไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชาตจิ ำนวนมากและเป็นผู้จัดตั้งโบราณคดีสโมสร 7. ข้อใดคือบทบาทสำคัญของหมอ่ มราโชทัย ก. เป็นผู้ดูแลมิชชันนารีในไทย ข. เปน็ ล่ามใหแ้ ก่คณะราชทตู ของไทย ค. เป็นเอกอัครราชทูตไทยท่ีกรงุ ลอนดอน ง. เป็นครสู อนภาษาอังกฤษให้แก่ขุนนางไทย
8. ขอ้ ใดคือบทบาทสำคัญท่ีสุดของสมเดจ็ เจา้ พระยาบรมมหาศรสี ุริยวงศ์ ก. การเป็นผสู้ ำเร็จราชการแผ่นดิน ข. การเจรจาทำสนธิสญั ญาเบาว์ริง ค. การเจรจาแก้ไขปญั หาวิกฤตการณ์ ร.ศ. 112 ง. การสนับสนุนรัชกาลท่ี 5 เป็นพระมหากษัตริย์ 9. เหตใุ ดสมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหาศรสี ุรยิ วงศจ์ งึ สนับสนุนให้รชั กาลที่ 5 เสด็จประพาสต่างประเทศ ก. เพ่ือลดความขัดแย้งภายในประเทศ ข. เพ่อื ให้ศกึ ษาการพฒั นาประเทศแบบตะวนั ตก ค. เพอื่ เจรญิ สัมพันธไมตรีกับตา่ งประเทศโดยเฉพาะมหาอำนาจตะวนั ตก ง. เพอ่ื ให้ชาติตะวันตกรจู้ ักรัชกาลที่ 5 และเกรงกลวั อำนาจของไทยมากขึ้น 10. ขอ้ ใดคือบทบาทสำคัญของบาทหลวงปาลเลอกวั ซ์ ดา้ นอกั ษรศาสตร์ ก. การตั้งโรงพิมพ์ในไทย ข. การแปลวรรณกรรมไทย ค. การจัดทำพจนานกุ รมภาษาไทย ง. การเปน็ ครูสอนภาษาตา่ งประเทศใหก้ บั รัชกาลที่ 5 11. ผลงานของบาทหลวงปาลเลอกวั ซท์ มี่ ีความสำคัญต่อการศกึ ษาประวัตศิ าสตร์ไทย คือข้อใด ก. การพมิ พห์ นังสือสวดมนต์ ข. การแตง่ หนังสือเล่าเรอ่ื งเมืองสยาม ค. การเสนอวธิ กี ารเขยี นพงศาวดาร ง. การวาดภาพเหมอื นบคุ คลสำคัญของไทย 12. บาทหลวงปาลเลอกัวซ์ได้นำวิทยาการดา้ นใดเขา้ มาเผยแพร่ในไทย ก. การพิมพ์ ข. การทำแผนที่ ค. การถา่ ยรปู ง. การใชก้ ล้องดูดาว 13. บางกอกรีคอรเ์ ดอรม์ คี วามสำคญั ต่อสังคมไทยอยา่ งไร ก. แจง้ ขอ้ มูลขา่ วสาร ข. สง่ เสริมประชาธปิ ไตย ค. สอนภาษาตา่ งประเทศ ง. เผยแพรค่ วามรูแ้ ละวฒั นธรรมตะวนั ตก 14. ขอ้ ใดคือบทบาทท่สี ำคญั ของพระยากลั ยาณไมตรี ก. เปน็ ผ้แู ทนของไทยในการทำสนธิสญั ญาแวร์ซาย ข. เปน็ ผ้แู ทนของไทยในการแกไ้ ขสนธสิ ัญญาท่ีไม่เสมอภาค ค. เปน็ ราชทูตของสหรฐั อเมริกาท่มี าเจริญสมั พันธไมตรีกบั ไทย ง. เปน็ ท่ีปรกึ ษาในการปฏวิ ัตเิ ปล่ียนแปลงการปกครองของคณะราษฎร 15. ศาสตราจารยศ์ ิลป์ พรี ะศรี ไดว้ างรากฐานการเรยี นศลิ ปะแบบใหม่ในไทยด้วยวิธใี ด ก. การเปิดโรงเรยี นสอนศิลปะสมัยใหม่ในไทย ข. การวางหลกั สูตรวิชาจิตรกรรมและประตมิ ากรรม
ค. การสร้างงานศลิ ปะเป็นแบบอยา่ งใหช้ นรุ่นหลังทำตาม ง. การเป็นครสู อนศลิ ปะและประวตั ิศาสตรศ์ ิลปะในมหาวิทยาลยั ศลิ ปากร เฉลย 1. ค 2. ก 3. ง 4. ก 5. ก 6. ง 7. ข 8. ก 9. ข 10. ค 11. ข 12. ค 13. ง 14. ข 15. ข
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง พระบรมวงศานุวงศ์ท่ีมบี ทบาทในการสร้างสรรค์ชาติไทย 2 รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษาฯ ภาคเรียนที่ 2/2564 เวลา 2 ช่วั โมง ผ้สู อน นางสาวราวญี า ซอมัด 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั 1.1 ส 4.3 ม.4-6/4 วเิ คราะห์ผลงานของบคุ คลสำคัญทัง้ ชาวไทยและต่างประเทศที่มีส่วนร่วม สรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวัติศาสตรไ์ ทย 1.2 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สรปุ ผลงานของบุคคลสำคัญทั้งชาวไทยและตา่ งประเทศทมี่ ีส่วนรว่ มสร้างสรรค์วฒั นธรรม ไทยและประวตั ิศาสตร์ไทยได้ 2. วเิ คราะหผ์ ลงานของบคุ คลสำคญั ทง้ั ชาวไทยและต่างประเทศท่มี ีส่วนรว่ มสร้างสรรค์ วฒั นธรรมไทยและประวัตศิ าสตร์ไทยได้ 2. สาระสำคัญ (ความคิดรวบยอด) วเิ คราะห์ผลงานของบคุ คลสำคญั ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ที่มี ส่วนร่วมในการสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมไทยและประวตั ศิ าสตร์ไทย 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง ผลงานของบุคคลสำคญั ท้งั ชาวไทยและต่างประเทศท่ีมสี ่วนร่วมสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมไทย และประวตั ิศาสตรไ์ ทย เชน่ - สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส - พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธิราชสนิท - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ - สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ เจ้าฟา้ กรมพระยานรศิ รานุวัดตวิ งศ์ - หม่อมราโชทยั หรอื หม่อมราชวงศก์ ระตา่ ย อศิ รางกรู - สมเด็จเจา้ พระยาบรมมหาศรีสุรยิ วงศ์ (ช่วง บนุ นาค) - บาทหลวงปาเลอกวั ซ์ - หมอบรดั เลย์ ( ดร. แดน บชี บรัดเลย)์ - พระยารษั ฎานปุ ระดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - พระยากลั ยาณไมตรี (ดร. ฟรานซสิ บี. แซร์) - ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี
3.2 ทักษะกระบวนการ วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม 3.3 คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 3.3.1 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ประจำแผนการจัดการเรยี นรู)้ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. ม่งม่นั ในการทำงาน 3. มจี ติ สาธารณะ 3.3.2 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (ประจำกล่มุ สาระการเรยี นร)ู้ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 3.4 สมรรถนะสำคญั ผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 4. ภาระงาน (สะทอ้ นการจัดกิจกรรม) เครื่องมือ เกณฑ์ 4.1 ภาระงาน 4.1.1 ใบงานที่ 7.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 4.1.2 ใบงานที่ 7.2 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์ 5. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ วิธีการ นักเรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรยี น สังเกตการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรม การทำงานกลมุ่ 6. กจิ กรรมการเรียนรู้ ชวั่ โมงที่ 1 1. ครสู นทนากับนักเรียนเก่ียวกับการทำกจิ กรรมกล่มุ รว่ มกัน แลว้ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ร่วมกันนำเสนอผลงาน 2. ครูใหน้ ักเรยี นกลุ่มที่ 1 - 5 สง่ ตวั แทนกลุ่มออกมานำเสนอประวตั ิและผลงานของบุคคลสำคัญทีไ่ ด้ รว่ มกันศึกษาและวเิ คราะห์ ตามลำดบั ดงั น้ี - กลุ่มท่ี 1 สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส - กลมุ่ ที่ 2 พระเจา้ วรวงศ์เธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนิท - กลุม่ ที่ 3 พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ - กลุ่มท่ี 4 สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ - กลมุ่ ที่ 5 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์ 7. ครชู มเชยและใหก้ ำลงั ใจนกั เรียนท่ีนำเสนอผลงานทุกกลมุ่ และเปิดโอกาสให้นกั เรียนสอบถามกลุ่มที่ นำเสนอผลงานเพิ่มเติม โดยมคี รูคอยเสนอแนะในส่วนท่มี ีความบกพรอ่ ง 8. ให้นักเรียนสง่ ตัวแทนออกมา 1 คน เพื่อกลา่ วสรปุ ความรทู้ ี่ได้รับจากการนำเสนอผลงานของกลุ่มตา่ งๆ 9. ให้นกั เรยี นทำใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ประวัติและผลงาน (1)
ชัว่ โมงที่ 2 1. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสนทนาเพ่อื ทบทวนความรู้จากชั่วโมงที่ผา่ นมา 2. ใหน้ ักเรยี นกลุ่มที่ 6-12 ส่งตัวแทนกล่มุ ออกมานำเสนอประวตั แิ ละผลงานของบุคคลสำคญั ที่ได้ ร่วมกนั ศกึ ษาและวิเคราะห์ ตามลำดับ ดงั น้ี - กลุม่ ท่ี 6 หม่อมราโชทัย หรือหม่อมราชวงศก์ ระตา่ ย อิศรางกูร - กลมุ่ ที่ 7 สมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหาศรีสรุ ยิ วงศ์ (ช่วง บนุ นาค) - กลุ่มท่ี 8 หมอบรัดเลย์ (ดร. แดน บีช บรัดเลย)์ - กล่มุ ท่ี 9 พระยารัษฎานปุ ระดิษฐมหิศรภกั ดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - กลมุ่ ท่ี 10 พระยากัลยาณไมตรี (ดร. ฟรานซสิ บี. แซร)์ - กลมุ่ ท่ี 11 บาทหลวงปาเลอกัวซ์ - กล่มุ ท่ี 12 ศาสตราจารยศ์ ิลป์ พรี ะศรี 3. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนสอบถามกลุม่ ทนี่ ำเสนอผลงานเพมิ่ เตมิ โดยมคี รูคอยเสนอแนะในส่วน ที่มีความบกพร่อง 4. ใหน้ ักเรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ที่ไดร้ บั จากการนำเสนอผลงานของกลุ่มต่างๆ 5. ครสู รปุ แนวทางการศึกษาท่ีต้องการใหน้ กั เรียนเหน็ ว่าบุคคลสำคัญทีน่ ักเรียนได้ศึกษาไปลว้ นทำ คุณประโยชนต์ อ่ ประเทศชาติ มีความซ่อื สตั ย์ มีความจงรกั ภักดตี อ่ พระมหากษัตริย์ มวี ริ ิยะ อุตสาหะ มีความรกั และความรับผดิ ชอบต่อบ้านเมือง สมควรที่คนรนุ่ หลงั จะไดย้ ึดถือและนำไป เป็นแบบอยา่ งในการดำเนนิ ชวี ติ ต่อไป 6. ให้นกั เรยี นทำใบงานที่ 3.2,3.3 เรอ่ื ง ประวตั แิ ละผลงาน (2) 7. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรยี นรู้ 1. หนังสอื เรียน ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง ประวัติและผลงาน (1) 3. ใบงานท่ี 3.2 เรื่อง ประวัติและผลงาน (2) 4. ใบงานท่ี 3.3 เรื่อง ประวัตแิ ละ ผลงาน (3) 7.2 แหล่งการเรยี นรู้ 7.2.1 หอ้ งสมดุ 7.2.2 แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่ ลำดบั ชอ่ื – ความรว่ มมือ การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ การรว่ ม รวม ความคิดเหน็ ทำงาน ปรับปรุง 20 ที่ สกลุ ความคิดเหน็ คะแนน ผลงานกลมุ่ 43214321 432143214321 เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดมี าก ให้ 4 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครง้ั = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั้ = ปรับปรุงให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ = เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินการนำเสนอผลงาน ลำดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 432 1 เนอื้ หาละเอียดชัดเจน 2 ความถกู ต้องของเนอ้ื หา 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจงา่ ย 4 ประโยชน์ทไ่ี ด้จากการนำเสนอ 5 วธิ ีการนำเสนอผลงาน รวม ลงช่อื ผปู้ ระเมิน () // เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 2 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น ให้ 1 คะแนน การนำเสนอผลงานไมส่ อดคล้องกบั รายการประเมนิ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 17-20 4 หมายถงึ ดมี าก 13-16 3 หมายถงึ ดี 9-12 2 หมายถึง พอใช้ 5-8 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ
ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ประวัตแิ ละผลงาน (1) คำช้แี จง : ใหน้ ักเรยี นสรปุ ผลงานของบุคคลที่กำหนดในการสรา้ งสรรค์ชาตไิ ทยให้ถกู ต้อง สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ lกรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระเจา้ วรวงศเ์ ธอ กรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์ เธอ กรมพระยาเทวะ วงศ์วโรปการ สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์ เธอ กรมพระยาดำรงรา ชานุภาพ สมเดจ็ พหรมะ่อเจม้ารบารโมชวทงัยศเ์ ธอ กร(มมพ.รร.ะวย.ากนรระิศตร่าายนุวอดั ศิ ตริ าง วงศ์ กูร) สมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหา ศรสี ุริยวงศ์ (ชว่ ง บนุ นาค) lll
ใบงานท่ี 3.1
เรื่อง ประวัตแิ ละผลงาน (1) คำชแ้ี จง : ให้นักเรยี นสรปุ ผลงานของบุคคลที่กำหนดในการสรา้ งสรรค์ชาติไทยให้ถูกต้อง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า - ก่อตง้ั มหามกฎุ ราชวทิ ยาลัย กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส - ชำระและเขยี นแบบเรียนสำหรับหลกั สูตรเปรียญธรรมและนกั ธรรม - พระนพิ นธพ์ งศาวดารสยาม ตำนานประเทศไทย พระเจ้าวรวงศเ์ ธอ - เขา้ ร่วมกลุ่มเจรจาทำสนธิสญั ญาเบาวร์ งิ กับอังกฤษ lกlรมหลวงวงษาธริ าชสนทิ - ทรงนิพนธ์ตำราสรรพคณุ ยา สมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ - เปน็ ผูร้ อบรู้ภาษาองั กฤษเป็นอย่างดี กรมพระยาเทวะวงศว์ โรปการ น- สมเปาน็ชผิกู้สสำถเารจ็บรนั ากชากราแรพทแยลแ์ะอหย่งนูใ่ นวิ ฐยาอนระ์กผ้ปู ระดจุ ดงั พระหัตถ์ขวา สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ - ทขรองงนรพิ ชั นกธาลห์ ทน่ีงั 5สอื จินดามณี เล่ม 2 กรมพระยาดำรงราชานภุ าพ - ผไดลร้ งับานกาพรรยะกนยพิ ่อนงธให์ เ้ ปช็น่ บดิโคาลแงหร่งาปมรเะกวียัตริศต์ิาสจตดรห์ไมทายยเหตุรายวัน - ทรงดำรงตำแหน่งเปน็ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทยคนแรก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยานรศิ รานุวัดติวงศ์ - ผลงานพระนิพนธ์ เชน่ ไทยรบพม่า ตำนานพระพุทธเจดยี ์ พระราช หม่อมราโชทยั ประวตั สิ มเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ละครฟอ้ นรา (ม.ร.ว. กระตา่ ย อศิ รางกรู ) - ไดร้ ับการยกย่องว่าเป็น นายชา่ งใหญแ่ ห่งกรุงสยาม lll - ทรงออกแบบก่อสรา้ งพระอุโบสถวดั เบญจมบพติ รดสุ ติ วนาราม -- ททรรงงทรำอหบนรา้ใู้ นทเ่ีเรปือ่ น็ งลดา่ รุ มยิ ขาองคงคศณลิ ปะ์ทูตไทยไปเจริญสัมพันธไมตรกี ับ - ปผรละงเทานศนอังพิ กนฤธษ์ เใชน่นสมเัยพรลัชงกเาขลมทร่ีไ4ทรโยค เพลงมาลยั - ทรงดำรงตำแหน่งอธิบดีพิพากษาศาลตา่ งประเทศคนแรกของไทย - ผลงานนพิ นธ์ เชน่ นริ าศลอนดอน จดหมายเหตเุ รือ่ งราชทูตไทย ไปลอนดอน
สมเดจ็ เจ้าพระยาบรมมหา - ทรงเป็นผูส้ ำเรจ็ ราชการแผน่ ดินในรชั กาลท่ี 5 ศรีสรุ ิยวงศ์ (ช่วง บนุ นาค) - เป็นผนู้ ำในการตอ่ เรอื และกำปน่ั แบบฝร่งั - ร่วมเป็นคณะผแู้ ทนสยามทำหนงั สอื สนธิสัญญาทางไมตรี และการพาณิชยก์ บั ประเทศตะวันตก ใบงานที่ 3.2
เรอื่ ง ประวัติและผลงาน คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นสรปุ ผลงานของบุคคลท่ีกำหนดในการสรา้ งสรรคช์ าตไิ ทยให้ถกู ต้อง บาทหลวงปาลเลอกวั ซ์ หมอบรัดเลย์ (ดร. แดน บีช บรัดเลย)์ พระยารัษฎานปุ ระดิษฐ มหศิ รภักดี (คอซมิ บี้ ณ ระนอง) พระยากัลยาณไมตรี (ดร. ฟรานซลิ บี. แซร์) ศาสตราจารย์ศลิ ป์ พีระศรี ใบงานท่ี 3.2
เรื่อง ประวตั แิ ละผลงาน คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นสรุปผลงานของบุคคลที่กำหนดในการสรา้ งสรรค์ชาติไทยให้ถกู ต้อง บาทหลวงปาลเลอกวั ซ์ - ผู้เผยแผศ่ าสนาครสิ ตเ์ ขา้ สปู่ ระเทศไทย - นำวิทยาการถ่ายรูปเข้ามาในประเทศไทย - จัดทำปทานกุ รม 3 ภาษา ไดแ้ ก่ ภาษาไทย ฝร่ังเศส และอังกฤษ - เป็นลา่ มคณะทูตไทย สมยั พระจักรพรรดนิ โปเลียนที่ 3 ณ กรงุ ปารสี หมอบรดั เลย์ - จดั ตงั้ โรงพมิ พห์ นงั สอื ไทยเป็นคนแรก และออกหนงั สอื พมิ พ์ (ดร. แดน บชี บรัดเลย)์ รายเดอื นชือ่ บางกอกรีคอรเ์ ดอร์ พระยารษั ฎานุประดษิ ฐ - เป็นผูน้ าการแพทยแ์ ผนใหม่มาเผยแพรใ่ นประเทศไทยเป็นคนแรก มหิศรภกั ดี - เผยแพร่ประวตั ติ านานไทย ขนบธรรมเนยี มไทยใหช้ าวตา่ งชาติ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) - เป็นนกั พฒั นาแห่งปักษ์ใต้ - บกุ เบิกการทาสวนยางพาราในประเทศไทย - จดั ตงั้ กองโปลิศภูธร เพอื่ รกั ษาความสงบเรียบรอ้ ย พระยากลั ยาณไมตรี - ผูแ้ ทนรัฐบาลไทยในสมัยรัชกาลที่ 6 ในการแก้ไขสนธสิ ัญญา (ดร. ฟรานซลิ บ.ี แซร)์ - ถวายคำแนะนำเกยี่ วกบั สถานการณ์บา้ นเมืองของไทยในสมัยรชั กาล ที่ 7 - เสนอวธิ แี ก้ไขปัญหาการคลัง และการยกร่างรัฐธรรมนญู - วางรากฐานการเรยี นศิลปะแบบใหม่ - เปิดโรงเรยี นสอนศลิ ปะของราชการแห่งแรก (มหาวทิ ยาลัยศิลปากร) - ผลงานอนุสาวรียท์ ้าวสรุ นารี พระประธานพุทธมณฑล
ศาสตราจารย์ศลิ ป์ พีระศรี
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 4 เร่อื ง การสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย รายวิชา ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 เวลา 6 ชว่ั โมง กลุม่ สาระการเรียนรสู้ งั คมศกึ ษาฯ ภาคเรียนท่ี 2/2561 ผู้สอน นางสาวราวีญา ซอมัด 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด 1.1 ส 4.3 ม.4-6/3 วเิ คราะหป์ ัจจัยที่สง่ เสริมการสรา้ งสรรค์ภูมิปัญญาไทย และวฒั นธรรมไทยซึ่งมี ผลตอ่ สงั คมไทยในยุคปจั จุบัน ส 4.3 ม.4-6/5 วางแผนกำหนดแนวทางและการมีส่วนรว่ มการอนรุ ักษภ์ มู ิปญั ญา ไทยและ วฒั นธรรมไทย 1.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. วเิ คราะห์ปจั จัยที่สง่ เสริมการสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมและภูมิปญั ญาที่มีผลตอ่ สังคมไทยใน ปจั จุบันได้ 2. อธบิ ายเกยี่ วกบั สภาพแวดลอ้ มท่ีมผี ลต่อการสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภูมิปญั ญาที่มีต่อวิถี ชีวติ ของคนไทยสมยั ตา่ งๆ ได้ 3. อธิบายลกั ษณะการสบื ทอดและการเปลย่ี นแปลงวฒั นธรรมไทยได้ 4. บอกแนวทางการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยท่ีถูกต้องและเหมาะสมได้ 2. สาระสำคญั (ความคดิ รวบยอด) วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาเป็นสิง่ มคี า่ ทีบ่ รรพบุรษุ ไดค้ ิด ได้ทำ ไดป้ ระดิษฐ์ และผา่ นการ กลน่ั กรองมาแล้ววา่ เหมาะสม ปราศจากโทษภยั คนรนุ่ หลังจงึ ควรภาคภูมิใจและอนรุ กั ษ์ไว้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 1. ปัจจยั สง่ เสรมิ การสร้างสรรค์วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาซ่ึงมีผลตอ่ สงั คมไทยในยคุ ปจั จุบัน 2. สภาพแวดลอ้ มท่ีมีผลต่อการสร้างสรรค์ภมู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทย 3. วิถีชีวิตของคนไทยในสมยั ต่างๆ 4. การสบื ทอดและเปลยี่ นแปลงของวัฒนธรรมไทย 5. แนวทางการอนรุ ักษภ์ มู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทยและการมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษ์ 6. วิธกี ารมีส่วนรว่ มอนุรกั ษภ์ ูมปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย 3.2 ทกั ษะกระบวนการ วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรแู้ บบร่วมมอื : เทคนิคร่วมกันคดิ 3.3 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 3.3.1 คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (ประจำแผนการจดั การเรียนร)ู้ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. ม่งม่ันในการทำงาน 3. มจี ติ สาธารณะ
3.3.2 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (ประจำกล่มุ สาระการเรยี นร)ู้ เกณฑ์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 3.4 สมรรถนะสำคญั ผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต 4. ภาระงาน (สะท้อนการจัดกิจกรรม) 4.1 ภาระงาน 4.1.1 ใบงานที่ 4.1 4.1.2 ใบงานที่ 4.2 5. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้ วิธกี าร เครือ่ งมือ นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ นกั เรยี นทำใบงานท่ี 4.1 ใบงานท่ี 4.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์ นักเรียนทำใบงานที่ 4.2 ใบงานที่ 4.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ สงั เกตการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ การทำงานกลุ่ม 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่ัวโมงท่ี 1-2 • นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 1. ครแู จง้ จุดประสงค์การเรียนรู้ใหน้ ักเรียนทราบ 2. ครูถามความคิดเหน็ ของนักเรียนเกีย่ วกบั ความหมายของวัฒนธรรมไทย แลว้ ให้นักเรยี นร่วมกันแสดง ความคดิ เห็น 3. ให้นกั เรียนชว่ ยกันยกตวั อย่างวัฒนธรรมไทย หรอื วัฒนธรรมในท้องถน่ิ ของนักเรยี นวา่ มีอะไรบา้ ง 4. ครูอธบิ ายคำว่า วัฒนธรรมไทย หมายถึง ทุกสิง่ ทุกอยา่ งทีค่ นไทยคดิ และสรา้ งสรรคข์ ึ้นมา เพื่อการ ดำรงชีวติ อยรู่ ว่ มกนั เป็นสง่ิ ท่ีมีระเบยี บแบบแผนและมรี ปู แบบเป็นท่ียอมรับกนั ภายในสังคมไทย 5. ครูสนทนากับนักเรียนเกยี่ วกับการประดิษฐเ์ คร่ืองมือเคร่ืองใช้ในชวี ติ ประจำวันทเ่ี กดิ จากภมู ิปญั ญาของคน ไทย แล้วนำรปู ภาพมาแสดงประกอบ แลว้ ใหน้ ักเรียนตอบคำถามทีค่ รูกำหนด ดังนี้ - เครอ่ื งมือเคร่ืองใช้มชี ื่อวา่ อะไร - ทำมาจากสงิ่ ใด - เป็นเคร่อื งมือเครื่องใช้ในท้องถ่ินใด - มปี ระโยชน์อยา่ งไร 6. ครูให้นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แล้วครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นทราบวา่ ภูมปิ ญั ญาไทย หมายถงึ ความรู้ ทกั ษะ ความเชอื่ และพฤตกิ รรมของคนไทยทีแ่ สดงออกถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างคนกบั คน ธรรมชาติ กับสง่ิ แวดลอ้ ม และส่งิ ท่เี หนือธรรมชาติ ซึ่งเปน็ กิจกรรมในชีวติ ไมว่ า่ จะเปน็ การแกป้ ญั หา การจดั การ การ ปรบั ตัว และการเรยี นรูเ้ พ่ือความอยรู่ อดของบคุ คล ชมุ ชน และสังคมซึ่งเปน็ พ้ืนฐานความร้ทู สี่ ำคญั ในการ ดำรงชวี ิต
7. ให้นักเรยี นรว่ มกนั ศกึ ษาที่มาของวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย แล้วใหน้ ักเรยี นสรุปความรูร้ ว่ มกนั ชว่ั โมงท่ี 3-4 1. นกั เรยี นและครูร่วมกันสนทนาและทบทวนความรู้เกี่ยวกับวฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 2. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเพ่ือเปน็ การสรปุ ว่า วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญามคี วามสัมพนั ธก์ นั เพราะภูมปิ ญั ญาทมี่ นษุ ย์ ไดส้ รา้ งขน้ึ และปฏบิ ัติสบื เน่อื งต่อกนั มายอ่ มหมายถึงวฒั นธรรม การจะเกิดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาได้ ย่อมมี สาเหตุหรือปัจจยั ทที่ ำใหเ้ กดิ 3. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ ในหวั ขอ้ “ปัจจัยที่ทำใหเ้ กิดวฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย” 4. ใหต้ ัวแทนนกั เรียนเขียนสรปุ แนวคิดบนกระดาน เช่น ความต้องการทจี่ ะเอาชนะธรรมชาติ ความพยายามท่ี จะปรับตัวใหส้ อดคลอ้ งกับธรรมชาติ ความต้องการทีจ่ ะสร้างสรรคส์ งั คมให้สงบราบรื่น ความพยายามท่จี ะทำ ให้การประกอบอาชีพหรือทำมาหากินสะดวกราบร่ืน การแสดงออกถงึ อารมณส์ ุนทรีย์ การได้รับอิทธิพลจาก ภายนอก ความต้องการทจี่ ะแสวงหาความปลอดภัยในการดำรงชวี ติ และความต้องการท่ีจะรักษาชวี ติ ใหย้ นื ยาว เปน็ ตน้ 5. ใหน้ ักเรียนศึกษาสภาพแวดล้อมท่ีมีผลตอ่ การสร้างสรรค์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 6. นกั เรยี นรว่ มกันสรุปความรูเ้ ก่ียวกับสภาพแวดลอ้ มทเี่ ป็นปัจจยั พ้นื ฐานตอ่ การสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ิ ปัญญาไทย 7. ใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 4.1 เร่ือง สภาพแวดล้อมท่ีมผี ลตอ่ การสรา้ งสรรค์ 8. ครถู ามนำว่า จากการศึกษามาแล้วทั้งหมด นักเรียนคิดวา่ ภูมิปญั ญาไทยมปี ระโยชน์หรอื ไม่ ให้นกั เรยี น ร่วมกันแสดงความคิดเหน็ อยา่ งกวา้ งขวาง ก่อนท่ีครูจะสรุปว่า ภูมปิ ัญญาไทยเป็นส่ิงทมี่ ปี ระโยชน์ ท่บี รรพบุรุษ ไดค้ ดิ หรือสร้างไว้ อนั เปน็ สิง่ ท่ีเหมาะสมกบั สภาพแวดล้อมของประเทศไทย ในฐานะคนรุ่นหลงั ภมู ิปญั ญา บางอยา่ งหากปฏบิ ตั ไิ ด้ กค็ วรอย่างยิง่ ท่ีเราจะปฏบิ ัตหิ รืออนุรักษไ์ วต้ ่อไป เช่น อาหารบางอยา่ งทปี่ ระกอบดว้ ย วัตถุดิบทมี่ ใี นประเทศ ซง่ึ เปน็ สมุนไพรท่ีเปน็ ประโยชน์ต่อสุขภาพ นกั เรียนควรบรโิ ภคมากกวา่ การบริโภค อาหารประเภทฟา้ สต์ฟดู้ ซ่ึงอาจเปน็ ผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพได้ ชว่ั โมงท่ี 5-6 1. ให้นักเรยี นบอกลกั ษณะของการสรา้ งบ้านเรอื นของแต่ละภูมภิ าคว่า มีความเหมือนกันหรือแตกต่างกนั อยา่ งไร 2. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นทราบวา่ สภาพแวดล้อมมสี ่วนสำคัญในการกำหนดลกั ษณะของการสรา้ งบ้านเรือน เช่น - บา้ นในภาคกลางทอ่ี ยู่ริมน้ำ จะมีลกั ษณะยกใต้ถนุ สูง หรอื เปน็ เรือนแพ เพ่ือปอ้ งกันน้ำทว่ ม - บ้านในภาคอีสาน จะมีลักษณะยกใต้ถนุ สงู เลย้ี งสตั วไ์ วใ้ ตถ้ นุ บ้าน 3. ใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั อภิปรายว่า การสบื ทอดและการเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยเกิดจาก ปจั จัยใด 4. ครูนำรูปภาพการรบั ประทานอาหารในแบบตา่ งๆ มาใหน้ กั เรยี นดู แล้วใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั บอกวา่ เป็นการ รับประทานอาหารของคนไทยในภูมภิ าคใด และสังเกตได้จากส่งิ ใด เชน่ - ภาคเหนือรับประทานอาหารด้วยมือ อาหารท่ีรับประทานคือ ไส้อวั่ น้ำพรกิ หนุ่ม ข้าวเหนยี ว
5. ครสู นทนากบั นักเรียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมการกินของแต่ละภูมภิ าค และแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับ วัฒนธรรมการกินในปจั จุบนั ที่ได้รับอิทธพิ ลมาจากต่างประเทศ เชน่ การใชช้ ้อน สอ้ ม ตะเกียบ 6. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 5 คน เพ่ือรว่ มกันศึกษาและสบื ค้นเกย่ี วกบั วถิ ีชวี ิตของคนไทยกับวัฒนธรรม และภมู ิปัญญาไทย 7. ให้นักเรียนแตล่ ะกล่มุ สรุปความรู้จากการศกึ ษาและสืบค้นเกีย่ วกับวถิ ชี วี ิตของคนไทยกับวัฒนธรรมและ ภูมิปญั ญาไทย และร่วมกนั เสนอแนะแนวทางในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 8. ให้นักเรยี นบนั ทึกความรลู้ งในใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง วัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น ประวัติศาสตร์ไทย ม.4-ม.6 2. ใบงานที่ 4.1 เร่ือง ประวตั แิ ละผลงาน (1) 3. ใบงานท่ี 4.2 เรือ่ ง วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 แหล่งการเรยี นรู้ 7.2.1 ห้องสมุด 7.2.2 แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ลำดับ ชือ่ – สกลุ ความร่วมมือ การแสดงความ การรับฟังความ การต้ังใจ การรว่ ม รวม คดิ เหน็ คดิ เหน็ ทำงาน ปรบั ปรุงผลงาน 20 คะแนน ท่ี 4321 4321 กลมุ่ 43214321 4321 เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ = ดมี าก ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมน้อยครั้ง = ปรบั ปรงุ ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 17 - 20 ดีมาก 13 - 16 ดี 9 - 12 5-8 พอใช้ ปรบั ปรุง ใบงานที่ 4.1 เรือ่ ง สภาพแวดล้อมทีม่ ีผลต่อการสรา้ งสรรค์ คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามท่ีกำหนดให้ถูกตอ้ ง และชัดเจน 1. ปัจจัยทางภูมศิ าสตรท์ มี่ สี ่วนสง่ เสรมิ การสร้างสรรคว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทยอยา่ งไร 2. อิทธพิ ลภายนอกมผี ลตอ่ การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยหรอื ไม่ อย่างไร
3. ลักษณะรว่ มทางสังคมและวฒั นธรรมทส่ี ง่ เสรมิ การสรา้ งสรรคว์ ฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย มอี ะไรบ้าง จงยกตัวอยา่ งประกอบการอธิบาย ใบงานท่ี 4.1 เรือ่ ง สภาพแวดล้อมทม่ี ีผลตอ่ การสร้างสรรค์ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนตอบคำถามทก่ี ำหนดให้ถูกตอ้ ง และชดั เจน 1. ปจั จยั ทางภมู ิศาสตรท์ ี่มสี ่วนสง่ เสรมิ การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภูมปิ ัญญาไทยอยา่ งไร ปัจจยั ทางภูมศิ าสตร์ ได้แก่ ลักษณะภมู ิประเทศ ลกั ษณะภมู ิอากาศ ทรัพยากรทาง ธรรมชาติ ในแต่ละภมู ิภาคมีความแตกต่างกัน ส่งผลใหม้ ีการสร้างสรรค์วัฒนธรรมและ ภมู ปิ ญั ญาไทยดา้ นต่างๆ มคี วามแตกต่างกันไปดว้ ย เช่น การประกอบอาชีพ การแต่ง กาย การสร้างที่อยู่อาศยั เช่น ภาคใต้ทำประมง ภาคเหนือทำอุตสาหกรรมแปรรปู ไม้ 2. อทิ ธพิ ลภายนอกมีผลตอ่ การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมและภูมปิ ญั ญาไทยหรือไม่ อย่างไร มผี ล เพราะคนไทยในปัจจุบันไดร้ บั วัฒนธรรมทางภาษามาต้งั แต่สมัยสุโขทัย โดยไดร้ ับ อิทธิพลมาจากมอญ เขมร และอนิ เดีย แต่มีการเปล่ียนแปลงรูปแบบการเขยี น ให้ สอดคล้องกบั สถานการณ์ในแต่ละยคุ สมัย จนกลายเปน็ ลกั ษณะของศลิ ปกรรมไทย
3. ลักษณะรว่ มทางสังคมและวฒั นธรรมทสี่ ่งเสรมิ การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย มี อะไรบา้ ง จงยกตวั อยา่ งประกอบการอธบิ าย ลกั ษณะรว่ มทางสังคมและวัฒนธรรม ไดแ้ ก่ การเปน็ สงั คมเกษตรกรรม จึงมวี ัฒนธรรม ประเพณที เ่ี ป็นความเชอ่ื บางอย่างทีเ่ หมือนกนั ในแตล่ ะภูมิภาค เชน่ ความเชือ่ เร่อื งแม่โพสพ ทำให้เกดิ การทำขวญั ข้าว การบูชาแม่โพสพ หรอื การท่ี คนไทยสว่ นใหญ่นบั ถอื พระพุทธศาสนา จงึ เกดิ ประเพณีทางศาสนาขึ้น เช่น การ ตกั บาตรเทโว การแหเ่ ทยี นพรรใษบางานที่ 4.2 เรือ่ ง วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นสรปุ ความรจู้ ากการศกึ ษาและสืบค้นเกี่ยวกับวิถชี วี ิตของคนไทยกับวัฒนธรรม และภมู ปิ ัญญาไทย และร่วมกนั เสนอแนะแนวทางในการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย วถิ ีชีวติ ของคนไทยกับวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย ด้านความสมั พันธ์ระหว่างคนไทยกับสถาบันพระมหากษตั ริย์ ดา้ นความสมั พนั ธ์ระหว่างคนไทยกับคติความเช่อื ทางดา้ นพระพุทธศาสนา และคติความเช่อื ทางดา้ นจิตวิญญาณ
ใบงานที่ 4.2 เรือ่ ง วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นสรุปความรู้จากการศึกษาและสบื ค้นเกย่ี วกับวถิ ชี วี ิตของคนไทยกับวัฒนธรรม และภูมิปัญญาไทย และร่วมกนั เสนอแนะแนวทางในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย วิถีชีวติ ของคนไทยกบั วฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย ดา้ นความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนไทยกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้านความสมั พนั ธ์ระหว่างคนไทยกบั คติความเชือ่ ทางด้านพระพุทธศาสนาและคติความเชื่อ ทางดา้ นจติ วญิ ญาณ ดา้ นความสัมพันธ์ระหวา่ งคนไทยกบั การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิต
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น คำช้แี จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ถี กู ตอ้ งเพยี งคำตอบเดียว ********************************************************************** 1. ข้อใดคือภมู ิปัญญาไทย ก. ผลงานของไทยทเ่ี กีย่ วข้องกบั การดำเนนิ ชีวติ ข. เอกลกั ษณ์เฉพาะและพืน้ ฐานการใชช้ ีวิตของคนไทย ค. เอกลักษณท์ ี่ถ่ายทอดจากคนร่นุ หนงึ่ สคู่ นอีกรนุ่ หนง่ึ ง. วธิ กี ารและผลงานของคนไทยทเ่ี ปน็ ประโยชนต์ อ่ การดำรงชวี ิต 2. วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทยเกิดขน้ึ เพราะมีจดุ ประสงค์หลายประการ ยกเว้นด้านใด ก. ทำให้สังคมสงบสุข ข.ทำใหผ้ ้คู นมีความสขุ ค.ทำใหก้ ารประกอบอาชพี คล่องตวั ง. ทำให้ความสมั พันธก์ ับต่างประเทศดีขน้ึ 3. ขอ้ ใด ไมใ่ ชป่ จั จยั พน้ื ฐานที่มีผลตอ่ การสร้างสรรค์ภมู ิปัญญา ก. ส่งิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ ข. การลอกเลยี นแบบธรรมชาติ ค. ความพยายามที่จะเอาชนะธรรมชาติ ง. ความพยายามท่จี ะปรับตัวใหเ้ ขา้ กับธรรมชาติ
4. ขอ้ ใดเป็นภูมิปัญญาทีเ่ กี่ยวข้องกบั การประกอบอาชพี ก. การทอผ้า ข.การสรา้ งโบสถ์ ค.การใช้คันไถไถนา ง. การปลกู บ้าน 5. การแต่งกายของหญิงชาวอยุธยาทนี่ ุ่งโจงกระเบนและห่มผา้ แถบ จัดเปน็ ภูมปิ ญั ญาดา้ นใด ก. การดำรงชวี ิต ข.การประกอบอาชพี ค.การจดั ระเบยี บสังคม ง. การแสดงออกทางศลิ ปะ 6. การจดั ระบบไพรโ่ ดยให้มีการเข้าเดอื น - ออกเดือน และให้มีศกั ดินา จดั เปน็ ภูมปิ ัญญาด้านใด ก. การดำรงชีวิต ข.การประกอบอาชีพ ค.การจัดระเบียบสังคม ง. การแสดงออกทางศิลปะ 7. การปลกู ฝังให้คนเคารพเทดิ ทูนในองค์พระมหากษตั ริย์ จดั เปน็ ภูมิปัญญาดา้ นใด ก. การดำรงชวี ิต ข.การประกอบอาชีพ ค.การจัดระเบียบสังคม ง. การแสดงออกทางศลิ ปะ 8. ภมู ิปญั ญาในอดตี ที่ไมม่ ีแลว้ ในปัจจบุ ัน คอื อะไร ก. การสร้างที่อยู่อาศัย ข.การประกอบอาชพี ค.การแตง่ กายและกินอาหาร ง. การปกครองและระบบไพร่ 9. การนบั ถือพระพุทธศาสนา จัดเป็นภมู ิปญั ญาหรอื ไม่ ก. เปน็ เพราะเปน็ การจัดระเบียบสังคม ข.เปน็ เพราะได้รับอิทธพิ ลจากภายนอก ค.ไมเ่ ปน็ เพราะไมเ่ กีย่ วกบั ธรรมชาติ ง. ไมเ่ ป็น เพราะไม่ใชก่ ารประดิษฐข์ ้นึ มาใหม่ 10. ข้อใดเป็นการแสดงออกทแี่ สดงให้เหน็ ถงึ ความเชื่อดา้ นจติ วิญญาณ ก. การปลูกบ้านอยูร่ มิ น้ำ ข.การทำบญุ ในวนั ออกพรรษา ค.การสร้างเจดียเ์ พื่อบชู าผูล้ ว่ งลับ ง. การประกอบพิธถี ือน้ำพิพฒั น์สัตยา 11. ในอดีตของไทยท่มี ีการปลกู ฝังความเช่อื ดา้ นจติ วิญญาณ ท้งั นเี้ พอ่ื จดุ ประสงค์ใด ก. การดำรงชีวติ
ข.การประกอบอาชีพ ค.การจดั ระเบียบสงั คม ง. การแสดงออกทางศิลปะ 12. ข้อใดเปน็ ภมู ิปัญญาในสมัยสโุ ขทัยเพื่อเอาชนะธรรมชาติ ก. การสร้างเตาทุเรยี ง ข.การสร้างถนนพระรว่ ง ค.การสรา้ งตระพงั เงนิ ตระพังทอง ง. การนิมนต์พระจากนครศรธี รรมราช 13. การต้งั กรงุ ศรอี ยุธยาเปน็ ราชธานโี ดยตง้ั อย่ใู นบริเวณท่ีมแี ม่น้ำเจา้ พระยา ปา่ สกั ลพบุรี ไหลผา่ น จดั เปน็ ภมู ิปญั ญาของมนุษย์ในด้านใด ก. เอาชนะธรรมชาติ ข.แกป้ ญั หาในชวี ติ ค.เพือ่ การจัดระเบียบสงั คม ง. ปรบั ตัวใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติ 14. หากจะศกึ ษาการใช้ยาตามแพทยแ์ ผนโบราณ นกั เรยี นควรไปศกึ ษาทวี่ ดั ใด ก. วัดพระเชตุพนวิมลมงั คลาราม กรุงเทพฯ ข.เจดีย์พระธาตุพนม จงั หวดั นครพนม ค.วดั ถำ้ กระบอก จังหวัดสระบรุ ี ง. วดั พระพทุ ธบาท จังหวัดสระบรุ ี 15. นักเรียนควรอนุรักษภ์ ูมิปัญญาไทยอย่างไร ก. รวบรวมเขียนไวเ้ ปน็ ตำรา ข. สงิ่ ใดดี ก็ควรปฏบิ ตั ิต่อไป ค. เชิญชวนให้ช่วยกนั อนรุ ักษ์ไว้ ง. ออกกฎหมายลงโทษผูไ้ มเ่ หน็ คณุ ค่าของภมู ิปญั ญาไทย เฉลย 1. ง 2. ง 3. ข 4. ค 5. ก 6. ค 7. ค 8. ง 9. ก 10. ง 11. ค 12. ค 13. ง 14. ก 15. ข
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง การสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย 2 รายวชิ า ประวัตศิ าสตร์ รหัสวิชา ส 31104 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ังคมศึกษาฯ ภาคเรยี นที่ 2/2564 เวลา 4 ชวั่ โมง ผู้สอน นางสาวราวีญา ซอมดั 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด 1.1 ส 4.3 ม.4-6/3 วิเคราะห์ปจั จยั ทสี่ ่งเสริมการสรา้ งสรรค์ภูมิปญั ญาไทย และวฒั นธรรมไทยซึ่งมี ผลตอ่ สังคมไทยในยุคปจั จุบัน ส 4.3 ม.4-6/5 วางแผนกำหนดแนวทางและการมสี ่วนร่วมการอนุรักษ์ภูมปิ ญั ญา ไทยและ วฒั นธรรมไทย 1.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. ยกตัวอย่างบุคคลท่ีสง่ เสริมการสรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทยได้ 2. วเิ คราะหผ์ ลงานของบุคคลสำคัญทส่ี ่งเสริมการสร้างสรรค์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทยได้ 2. สาระสำคญั (ความคดิ รวบยอด) พระมหากษัตรยิ ์และพระบรมวงศานวุ งศ์เป็นบคุ คลสำคัญท่ีส่งเสรมิ การสร้างสรรค์วัฒนธรรม- และภมู ปิ ัญญาไทย ซ่งึ มีผลต่อสังคมไทยในปจั จบุ นั 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง บุคคลท่ีสง่ เสรมิ การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย ซงึ่ มีผลต่อสังคมไทย ในปัจจบุ นั 3.2 ทักษะกระบวนการ วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนัก, กระบวนการกลุ่ม 3.3 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 3.3.1 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (ประจำแผนการจดั การเรียนรู)้ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มง่ มัน่ ในการทำงาน 3. มีจิตสาธารณะ 3.3.2 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ (ประจำกล่มุ สาระการเรียนร้)ู 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 3.4 สมรรถนะสำคัญผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต 4. ภาระงาน (สะทอ้ นการจัดกจิ กรรม)
4.1 ภาระงาน เกณฑ์ บันทึกสาระสำคัญลงในสมุดประจำวิชา รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ 5. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื สงั เกตการนำเสนองาน แบบประเมินการนำเสนองาน สังเกตการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงานกลุม่ 6. กิจกรรมการเรียนรู้ ช่ัวโมงท่ี 1-2 1. ครสู นทนากบั นักเรยี นเกีย่ วกับพระราชกรณยี กิจของสมเด็จพระนางเจ้าสริ ิกิต์ิ พระบรมราชินนี าถวา่ มี อะไรบา้ ง แลว้ ยกตวั อย่าง เช่น - ทรงส่งเสรมิ การทอผา้ ไหมพื้นเมือง เช่น ผา้ ไหมมดั หมี่ - ทรงส่งเสริมการประดิษฐเ์ ครอื่ งจักสาน เชน่ กระเป๋ายา่ นลิเภา 2. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า พระราชกรณียกิจเหล่านเี้ ป็นเพียงส่วนหนง่ึ ทถ่ี ือเป็นปัจจัยสำคญั ทีช่ ว่ ย สง่ เสรมิ การสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทยที่มผี ลต่อสังคมไทยในปจั จุบนั 3. ใหน้ กั เรียนศึกษาปจั จยั ท่สี ง่ เสริมการสรา้ งสรรค์วฒั นธรรมและภูมปิ ัญญาที่มตี ่อสงั คมในปัจจบุ นั 4. นกั เรียนร่วมกันสรปุ ความรู้ ปัจจยั ทส่ี ง่ เสรมิ การสรา้ งสรรคว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาที่มีต่อสังคมในปจั จบุ นั และยกตัวอย่างประกอบในแต่ละประเดน็ ต่อไปน้ี - การสง่ เสริมจากสถาบันท่ีสำคัญของชาติ - การสง่ เสริมการใช้ทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง เชน่ ชามะตมู สบู่มะขาม สบู่เปลือกมังคดุ ยาสระผมว่าน หางจระเข้ - การสง่ เสรมิ การท่องเทย่ี วเชิงวัฒนธรรม เชน่ ตลาดสามชกุ ตลาดน้ำดำเนนิ สะดวก ตลาดน้ำอัมพวา 6. ให้นกั เรยี นที่เคยไปเทย่ี วสถานที่ทเ่ี ป็นแหลง่ ท่องเท่ยี วเชิงวัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย ออกมาเลา่ ถงึ บรรยากาศในการไปทอ่ งเทยี่ ว กจิ กรรม หรอื สินคา้ ที่จัดจำหน่ายวา่ มลี กั ษณะอย่างไร และไดร้ ับประโยชน์ อย่างไรบ้าง ชวั่ โมงท่ี 2 1. ให้นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายเก่ียวกบั การผลิตสินคา้ OTOP ของชุมชน และบทบาทของรฐั บาล ในการส่งเสรมิ การเผยแพร่วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 2. ครูร่วมสรุปผลการอภปิ ราย และชแ้ี จงใหน้ ักเรยี นทราบว่า รัฐบาลควรจะสง่ เสรมิ และสนับสนุนใหม้ กี ารนำ ภูมิปัญญาท้องถ่ินมาใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ในการผลติ สนิ ค้าราคาถกู และมีคณุ ภาพ ออกมาใช้ในชมุ ชน และยงั เป็นการช่วยเผยแพร่ภูมิปัญญาของตนเองออกไปให้กว้างขวางและเปน็ ท่รี จู้ ักอย่างแพรห่ ลาย ช่วั โมงที่ 3-4 1. นักเรียนและครรู ่วมกนั สนทนาเพือ่ ทบทวนความรู้จากชวั่ โมงเรียนท่ีผ่านมา 2. ให้นกั เรยี นยกตวั อยา่ งบคุ คลท่ีมบี ทบาทในการส่งเสริมการสรา้ งสรรค์ภมู ิปัญญาและวัฒนธรรมไทยซ่ึงมผี ล ต่อสงั คมในปจั จบุ นั 3. ครเู ขยี นรวบรวมรายช่อื บนกระดาน แลว้ ใหน้ ักเรยี นยกตัวอย่างโครงการ หรอื ผลงานของบคุ คลแต่ละทา่ น เพ่ือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กนั
4. ครูอธบิ ายใหน้ ักเรยี นทราบว่า ในการสร้างสรรค์ภมู ปิ ัญญาและวฒั นธรรมไทยทผ่ี ่านมาในประวตั ิศาสตร์ ไทยล้วนเกิดขน้ึ จากการสร้างสรรค์ของคนจำนวนมาก ซึ่งบคุ คลดังกลา่ วมีท้ังพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุ วงศ์ และสามัญชน โดยเฉพาะอย่างยิง่ ในปจั จบุ ันพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศไ์ ด้มีบทบาทท่ี สำคญั ในการส่งเสริมสรา้ งสรรค์ภูมิปญั ญาและวัฒนธรรมไทย 5. ใหน้ กั เรยี นยกตัวอย่างพระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริย์และพระบรมวงศานวุ งศท์ ีน่ ักเรยี น ประทับใจ คนละ 1 ตัวอย่าง แล้วสุ่มเรียกนักเรยี น 2-3 คน ออกมาเลา่ หรือบอกเหตุผลท่ีนักเรยี นประทบั ใจ 6. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 5 กลุ่ม เพอื่ ร่วมกนั ศึกษาและสบื ค้นเก่ยี วกบั พระราชกรณยี กจิ ทม่ี ีบทบาทในการสง่ เสริมสร้างสรรคภ์ มู ปิ ญั ญาและวัฒนธรรมไทย ซ่งึ มผี ลตอ่ สงั คมไทยใน ปจั จบุ นั ดงั น้ี - กลุ่มที่ 1 พระราชกรณยี กิจพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช - กล่มุ ที่ 2 พระราชกรณียกิจสมเด็จพระนางเจา้ สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ - กลุ่มท่ี 3 พระราชกรณียกจิ สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี - กลมุ่ ที่ 4 พระราชกรณยี กจิ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี - กลมุ่ ที่ 5 พระราชกรณียกิจสมเด็จพระเจ้าพ่นี างเธอ เจา้ ฟ้ากลั ยาณวิ ฒั นา กรมหลวงนราธิวาสราช นครินทร์ 7. ให้นักเรยี นแต่ละกลุม่ รว่ มกันทำงาน และนำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน 8. ใหน้ ักเรยี นร่วมกันบอกประโยชน์ที่ไดร้ บั จากการศึกษาพระราชกรณียกจิ สำคัญท่ีมีบทบาทในการสง่ เสริม สรา้ งสรรค์วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้ 7.1 ส่ือการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น ประวตั ศิ าสตร์ไทย ม.4-ม.6 7.2 แหล่งการเรียนรู้ 7.2.1 ห้องสมดุ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ลำดบั ชอื่ – สกลุ ความร่วมมือ การแสดงความ การรบั ฟงั ความ การตงั้ ใจ การร่วม รวม คดิ เหน็ คิดเห็น ทำงาน ปรบั ปรงุ ผลงาน 20 คะแนน ที่ 4321 4321 กล่มุ 43214321 4321
เกณฑ์การใหค้ ะแนน ดีมาก ให้ 4 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่ำเสมอ = ดี ให้ 3 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครงั้ = พอใช้ ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง = ปรบั ปรุงให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมน้อยครงั้ = เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17 - 20 ดมี าก 13 - 16 ดี 9 - 12 พอใช้ 5 - 8 ปรับปรุง แบบประเมินการนำเสนองาน ลำดับที่ รายการประเมนิ 4 ระดบั คะแนน 1 32 ลงชือ่ 1 เนื้อหาละเอยี ดชัดเจน ( 2 ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา 3 ภาษาท่ีใชเ้ ข้าใจงา่ ย 4 ประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการนำเสนอ 5 วิธีการนำเสนอผลงาน รวม ผู้ประเมนิ ) // เกณฑ์การใหค้ ะแนน
การนำเสนอผลงานสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณ์ชดั เจน ให้ 4 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคล้องกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 3 คะแนน การนำเสนอผลงานสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 2 คะแนน การนำเสนอผลงานไม่สอดคล้องกับรายการประเมิน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 17-20 4 หมายถึง ดมี าก 13-16 3 หมายถึง ดี 9-12 2 หมายถึง พอใช้ 5-8 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
Search
Read the Text Version
- 1 - 46
Pages: