Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบสำรวจบ้านหนังสือชุมชน จัตุรัส

แบบสำรวจบ้านหนังสือชุมชน จัตุรัส

Published by 0930958006num, 2020-07-20 04:59:09

Description: แบบสำรวจบ้านหนังสือชุมชน

Keywords: จัตุรัส แหล่งเรียนรู้

Search

Read the Text Version

แหล่งการเรยี นรู/้ ภมู ปิ ญั ญาชาวบ้าน กศน. อาเภอจตั รุ สั ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอจัตรุ ัส สำนกั งำนสง่ เสรมิ กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยจังหวดั ชยั ภูมิ สำนักปลัดกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร กระทรวงศกึ ษำธิกำร

ความหมาย / ความเป็นมา / ลกั ษณะทั่วไปของแหล่งเรยี นรู้ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่ แหล่งเรียนรู้ หมายถึง แหลง่ ข้อมลู ขา่ วสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ทส่ี นับสนุนสง่ เสริมให้ผู้เรียนใฝ่ เรียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรยี นรดู้ ้วยตนเองตามอธั ยาศัย เพอ่ื เสริมสร้างให้ผ้เู รยี นเกิดกระบวนการเรียนรู้ ภูมิปัญญา (Wisdom) หมายถงึ ความรู้ ความสามารถ ความเชื่อ ทนี่ ามาไปสกู่ ารปฏิบตั เิ พอ่ื แก้ไขปัญหาของ มนุษย์ หรอื ภมู ปิ ญั ญา คือ พื้นความรขู้ องปวงชนในสังคมน้ัน ๆ และปวงชนในสงั คมยอมรับรู้ เชือ่ ถอื เขา้ ใจ รว่ มกัน เรียกว่า ภมู ปิ ญั ญา ภูมิปญั ญาท้องถิ่น หมายถงึ กระบวนทัศน์ของบคุ คลทมี่ ตี ่อตนเอง ต่อโลกและส่งิ แวดล้อม ซงึ่ กระบวนการ ดังกล่าว จะมรี ากฐานคาสอนทางศาสนา คติ จารีต ประเพณี ที่ไดร้ ับการถ่ายทอดสง่ั สอนและปฏิบัตสิ บื เนือ่ งกนั มา ปรบั ปรงุ เขา้ กบั บริบททางสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ละสมัย ท้งั นโ้ี ดยมเี ป้าหมายเพื่อความสงบสขุ ในส่วนทเี่ ปน็ ชุมชน และปัจเจกบุคคล ซ่งึ กระบวนทัศนท์ ี่เปน็ ภูมิปัญญาท้องถิน่ จาแนกได้ 3 ลกั ษณะ คอื 1. ภมู ิปญั ญาเก่ยี วกบั การจัดการความสัมพันธร์ ะหว่างมนษุ ย์กับธรรมชาติแวดล้อม 2. ภูมิปญั ญาเกี่ยวกับสังคมหรือการจัดความสมั พันธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ ับมนุษย์ 3. ภูมิปญั ญาเกยี่ วกบั ระบบการผลิตหรือประกอบอาชีพทีม่ ีลักษณะมุ่งเนน้ ระบบการผลติ เพื่อตนเอง ภูมิปัญญาไทย หมายถึง ความรู้ ความสามารถในการดาเนินชีวิตอยู่ในพื้นท่ีนั้น ๆ โดยใช้สติปัญญาส่ังสม ความรู้อย่างแพร่หลาย ผสมผสานความกลมกลืนระหว่างศาสนา สภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อมการประกอบอาชพี และกระบวนการเหล่าน้ีมาจนหลายช่ัวคนซึ่งจะเป็นวิถีการดาเนินชีวิตของมนุษย์น้ัน เกิดจากการเรียนรู้และส่ังสม ประสบการณ์เป็นระยะเวลายาวนาน โดยอาศยั ภูมิปญั ญาท่ีมีอยู่มาใช้ในการตั้งถ่ินฐาน การประกอบอาชีพการปรับตัว และแก้ปัญหาในการดาเนินชวี ติ จนเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของธรรมชาตแิ ละสังคม ความเปน็ มาและความสาคัญของแหลง่ เรยี นรู้ และภูมิปัญญาท้องถิ่น โลกปัจจุบันเป็นโลกแห่งข้อมูลข่าวสารที่แพร่หลายท่ัวถึงกันได้อย่างรวดเร็ว ไร้อาณาเขตขวางก้ัน สภาพ ดังกล่าวมีส่วนกระทบถึงวิถีชีวิตของผู้คนพลเมืองโดยทั่วไป เพราะเป็นสภาพท่ีเอื้ออานวยในการรับและถ่ายโยงเอา ศาสตร์หรือภูมิปัญญาตะวันตกเข้ามาในการพัฒนาประเทศและพัฒนาผลผลิต ตลอดจนการดาเนินชีวิต อย่างมิได้มี การปรับปนกับภูมิปัญญาไทยที่มีความเหมาะสมกับสภาพท้องถ่ินท่ีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทาให้ชุมชนชนบทประสบ ปัญหาดังท่ีกล่าวว่าชุมชนล่มสลาย อันมีผลรวมไปถึงความทรุดโทรมของสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง การพยายามใช้ กลไกลทางการศึกษาจากเง่ือนไขท่ีเปิดโอกาสให้มีการพัฒนาหลักสูตร ตามความต้องการ ของท้องถิ่น เป็นช่องทางใน การประยุกต์เอาภูมิปัญญาชาวบ้านท่ีมีจุดเด่น ท่ีสามารถพิสูจน์ตัวเองในการยืนหยัดอยู่รอดได้ ท่ามกลางกระแส การ ล่มสลายของชุมชนและการทรุดโทรมของส่ิงแวดล้อม ดังกล่าว มาสู่หลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ในแนวทางของ การคิดปฏบิ ัตจิ ริง จากการประยุกต์ปรับภูมิปัญญาชาวบ้านหรือภูมิปัญญาไทยกับปัญญาสากล เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบคุณค่าภูมิ ปัญญาท่มี ใี นท้องถิ่นทเ่ี หมาะสมกบั วิถชี วี ิตของชุมชน และสามารถประยุกต์ใช้ได้อยา่ งไม่มที ่ีสิน้ สุด นามาซึ่งดุลยภาพที่ สงบสนั ติสุขของบคุ คล ชมุ ชนและชาติ ลักษณะของแหลง่ เรียนรู้ จดั ได้ 3 ประเภท คือ

1. แหลง่ เรียนรู้ท่ีเกิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ เช่น อุทยานแห่งชาติ สวนพฤกษชาติ ภเู ขา แม่นา้ ทะเล น้าพรุ อน ปรากฏการทางธรรมชาติ เชน่ ฝนตก แดดออก นา้ ท่วม ความแห้งแลง้ 2. แหลง่ เรียนร้ทู จ่ี ดั ขึน้ หรือสรา้ งขน้ึ ซงึ่ มีในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา เพ่ือใช้เป็นแหลง่ ศึกษาหา ความรูไ้ ด้สะดวกและรวดเรว็ 3. แหล่งเรียนรทู้ ีเ่ ปน็ ทรัพยากรบุคคล ไดแ้ ก่ ครู ผปู้ กครอง พ่อแม่ พระภกิ ษุสงฆ์ ตลอดจนผู้รู้ ผู้เช่ียวชาญใน อาชีพแขนงต่าง ๆ ทมี่ ีอยู่ในชมุ ชน รวมทง้ั สถานท่ีประกอบการ ร้านค้า หน่วยงานหรือองค์กรตา่ ง ๆ ในทอ้ งถ่ิน ความสาคญั ของแหล่งเรยี นรู้ 1. เปน็ แหลง่ เสรมิ สร้างจินตนาการและความคดิ รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ 2. เปน็ แหลง่ ศกึ ษาตามอธั ยาศยั 3. เป็นแหล่งเรียนรตู้ ลอดชีวิต 4. เปน็ แหล่งสรา้ งความรู้ ความคิด วิชาการและประสบการณ์ 5. เปน็ แหล่งปลูกฝังค่านิยมรักการอ่านและแหลง่ ศกึ ษาค้นคว้าแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง 6. เปน็ แหลง่ สร้างความคิดเกิดอาชีพใหม่สคู่ วามเป็นสากล 7. เป็นแหล่งเสรมิ ประสบการณ์ตรง 8. เป็นแหลง่ ส่งเสริมมติ รภาพความสัมพนั ธร์ ะหว่าคนในชุมชนหรือผเู้ ปน็ ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน

แบบสารวจแหล่งเรียนรู/้ ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่น กศน.ตาบลสม้ ป่อย หน่วยงาน/สถานศกึ ษา ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอจตั ุรัส 1. ช่ือแหลง่ เรยี นรู้/ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน การทากลองเส็ง การเสง็ กลอง 2. ที่ตง้ั /ทอ่ี ยู่ เลขท่ี 430/1 หมทู่ ี่ 14 ชอื่ หมบู่ ้าน บ้านบุตามี ตาบลสม้ ป่อย อาเภอจัตุรสั จงั หวัด ชยั ภมู ิ 3. โทรศพั ทบ์ า้ น....................-............................โทรศพั ทเ์ คลอ่ื นท.่ี ...................-....................... โทรสาร...........-...............เว็บไซต์...................-................... 4. เจา้ ของ/ผู้ครอบครอง/ผู้จัดการแหลง่ เรยี นรู้ นายวิรัตน์ ออ่ นชยั 5. ชอ่ื บคุ คลของแหลง่ เรยี นรู้สาหรบั ติดต่อ นายวิรตั น์ อ่อนชยั 6. ประเภทของแหล่งเรียนรู้  หอ้ งสมุด  พิพธิ ภัณฑ์  โบราณสถาน  ศาสนาสถาน  อนุสาวรีย์  ศนู ย์วัฒนธรรม  ศูนยข์ ้อมลู ท้องถน่ิ  แห่งหตั ถกรรม  แหล่งเรียนรู้ ศลิ ปะ  แหลง่ ฝกึ อาชพี  ศูนย์วิทยาศาสตร์  ศนู ย์การเรียนรู้ชมุ ชน  ศนู ยข์ ้อมูล  สวนสาธารณะ  สวนสมนุ ไพร  แหล่งทอ่ งเทยี ว  ส่อื สารมวลชน  ส่ือพ้ืนบ้าน  ศนู ยก์ ฬี า  ศนู ยก์ ารคา้ /ตลาด  สถานประกอบการ  สถาบนั การศึกษา  สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ  แหล่งเรียนรู้ในทอ้ งถ่ิน  อน่ื ๆ ......................................................................... 7. องคก์ รความรู้ในแหล่งเรียนรู้ สาระเดน่ การถา่ ยทอดการทากลองเสง็ เทคนิควธิ ีการตา่ ง ๆ เพอื่ เปน็ การสืบสานและอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย 8. มเี น้อื หาสาระสอดคล้องกับการศกึ ษานอกโรงเรียน  กลุ่มการศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชพี  กล่มุ การศึกษาเพ่อื พัฒนาทักษะชวี ติ  กลมุ่ การศึกษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชมุ ชน  กลมุ่ การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน 9. ความรูท้ ี่สามารถเรียนได้จากแหล่งเรยี นร้แู ห่งนี้ (เรียงตามลาดบั ความสาคัญและความโดดเดน่ 3 ลาดบั ) 1) การสืบสานและอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมไทย 2) การถ่ายทอดการตีกลองเส็งเพอื่ ใช้ในงานประเพณตี า่ ง ๆ 3) วิธีการทากลองเส็ง ผ้บู นั ทกึ เกวรนิ ทร์ ไชยรถ ณ วันท่ี 1 มิถุนายน 2563

แบบสารวจแหล่งเรยี นร้/ู ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ 1. ชอ่ื แหล่งเรียนรู้/ภูมิปัญญาท้องถิน่ การแพทยแ์ ผนไทยและสมุนไพร 2. ทต่ี ้ัง/ที่อยู่ เลขที่ 38 หมู่ท่ี 7 ตาบลส้มป่อย อาเภอจัตรุ ัส จงั หวดั ชยั ภูมิ 3. โทรศพั ทบ์ ้าน....................-............................โทรศัพทเ์ คลื่อนท่ี....................-....................... โทรสาร...........-...............เว็บไซต.์ ..................-................... 4. เจา้ ของ/ผคู้ รอบครอง/ผจู้ ัดการแหล่งเรยี นรู้ นายวรชาติ เปรมชาติ 5. ช่ือบุคคลของแหลง่ เรยี นรู้สาหรับตดิ ต่อ นายวรชาติ เปรมชาติ 6. ประเภทของแหล่งเรียนรู้  ห้องสมดุ  พิพิธภัณฑ์  โบราณสถาน  ศาสนาสถาน  อนุเสาวรยี ์ ศูนยว์ ฒั นธรรม  ศูนยข์ ้อมูลท้องถ่ิน  แหง่ หตั ถกรรม  แหลง่ เรยี นรู้ศลิ ปะ  แหล่งฝกึ อาชพี  ศนู ยว์ ทิ ยาศาสตร์  ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน  ศูนย์ข้อมูล  สวนสาธารณะ  สวนสมนุ ไพร  แหลง่ ทอ่ งเทียว  สือ่ สารมวลชน  สื่อพ้นื บ้าน  ศูนยก์ ีฬา  ศูนยก์ ารค้า/ตลาด  สถานประกอบการ  สถาบันการศึกษา  สงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ  แหลง่ เรยี นรู้ในท้องถ่นิ  อื่นๆ ......................................................................... 7. องคก์ รความรู้ในแหลง่ เรียนรู้ สาระเดน่ การใช้สมุนไพรในการรกั ษาอาการเจบ็ ปว่ ย 8. มีเนอ้ื หาสาระสอดคล้องกับการศกึ ษานอกโรงเรียน  กลุ่มการศึกษาเพ่อื พัฒนาอาชพี  กลุ่ม การศึกษาเพ่ือพฒั นาทกั ษะชีวติ  กลมุ่ การศึกษาเพอื่ พัฒนาสังคมและชมุ ชน  กลุ่ม การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 9. ความรทู้ ่ีสามารถเรยี นได้จากแหล่งเรียนรูแ้ หง่ นี้ (เรียงตามลาดบั ความสาคัญและความโดดเดน่ 3 ลาดับ) 1) ความรูเ้ รือ่ งสตู รยาและตารับยารกั ษาโรค 2) การผลติ ยาสมนุ ไพรเพือ่ รกั ษาโรค 3) ความรู้เร่ืองพชื สมนุ ไพรและสรรพคณุ ของสมนุ ไพร ผู้บนั ทกึ เกวรนิ ทร์ ไชยรถ ณ วันท่ี 1 มิถนุ ายน 2563

แบบสารวจแหลง่ เรียนร/ู้ ภมู ิปัญญาท้องถิน่ 1. ช่ือแหล่งเรยี นรู้/ภมู ิปัญญาท้องถน่ิ การเล่นดนตรีไทย 2. ที่ตงั้ /ท่อี ยู่ เลขท่ี 261 หมู่ที่ 2 ตาบลบ้านกอก อาเภอจัตุรัส จงั หวดั ชยั ภมู ิ 3. โทรศพั ท์บา้ น....................-............................โทรศพั ท์เคลอื่ นท.่ี ...................-....................... โทรสาร...........-...............เว็บไซต์...................-................... 4. เจ้าของ/ผู้ครอบครอง/ผู้จัดการแหล่งเรยี นรู้ นายแชม่ จงสูงเนิน 5. ชอ่ื บุคคลของแหล่งเรยี นรู้สาหรบั ติดตอ่ นายแชม่ จงสูงเนิน 6. ประเภทของแหล่งเรียนรู้  หอ้ งสมุด  พิพิธภัณฑ์  โบราณสถาน  ศาสนาสถาน  อนเุ สาวรีย์ ศนู ย์วัฒนธรรม  ศนู ยข์ อ้ มูลทอ้ งถิ่น  แห่งหัตถกรรม  แหลง่ เรยี นรู้ศิลปะ  แหล่งฝกึ อาชพี  ศูนยว์ ิทยาศาสตร์  ศูนยก์ ารเรียนรชู้ มุ ชน  ศูนยข์ อ้ มูล  สวนสาธารณะ  สวนสมนุ ไพร  แหล่งท่องเทียว  สื่อสารมวลชน  สอ่ื พืน้ บา้ น  ศนู ยก์ ีฬา  ศูนยก์ ารค้า/ตลาด  สถานประกอบการ  สถาบันการศกึ ษา  สิง่ แวดล้อมทางธรรมชาติ  แหล่งเรยี นรใู้ นท้องถิ่น  อ่นื ๆ ......................................................................... 7. องคก์ รความรู้ในแหล่งเรยี นรู้ สาระเดน่ การละเลน่ เครื่องดนตรไี ทย 8. มเี น้ือหาสาระสอดคลอ้ งกบั การศึกษานอกโรงเรียน  กลมุ่ การศกึ ษาเพือ่ พัฒนาอาชีพ  กลุ่ม การศึกษาเพอื่ พัฒนาทักษะชวี ิต  กลุ่มการศึกษาเพ่ือพฒั นาสงั คมและชมุ ชน  กลมุ่ การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน 9. ความรู้ท่ีสามารถเรียนไดจ้ ากแหล่งเรยี นร้แู หง่ น้ี (เรยี งตามลาดับความสาคญั และความโดดเด่น 3 ลาดบั ) 1) ความรูเ้ ร่ืองการละเล่นเครอื่ งดนตรไี ทย 2) การสืบสานและอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทย 3) การถ่ายทอดความรู้ให้กบั เดก็ รุน่ ใหม่ ผบู้ ันทึก เกวรนิ ทร์ ไชยรถ ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2563

แบบสารวจแหลง่ เรยี นร/ู้ ภมู ปิ ัญญาท้องถ่นิ 1. ชอ่ื แหลง่ เรียนรู้/ภมู ปิ ัญญาท้องถ่ิน หมอลาสอ่ ง (หมอที่รักษาผปู้ ว่ ยด้วยเสียงลาและการเข้าทรง โรคทรี่ ักษาด้วยวิธีนี้คอื โรคที่เกดิ จากการกระทาของวิญญาณ ไมใ่ ช่โรคท่ีเกิดจากเช้ือโรค) 2. ท่ตี งั้ /ทอี่ ยู่ เลขท่ี 320/3 หมทู่ ่ี 3 ตาบลหนองบวั บาน อาเภอจัตุรสั จังหวัดชยั ภมู ิ 3. โทรศพั ท์บ้าน....................-............................โทรศัพท์เคล่ือนท่.ี ...................-....................... โทรสาร...........-...............เวบ็ ไซต์...................-................... 4. เจ้าของ/ผ้คู รอบครอง/ผูจ้ ัดการแหลง่ เรยี นรู้ นางสวย นามจตั รุ ัส 5. ชอ่ื บคุ คลของแหล่งเรยี นรู้สาหรบั ตดิ ต่อ นางสวย นามจตั ุรัส 6. ประเภทของแหล่งเรียนรู้  ห้องสมดุ  พิพิธภัณฑ์  โบราณสถาน  ศาสนาสถาน  อนเุ สาวรยี ์ ศูนย์วัฒนธรรม  ศนู ยข์ ้อมูลท้องถิ่น  แห่งหัตถกรรม  แหลง่ เรียนรู้ศลิ ปะ  แหลง่ ฝึกอาชพี  ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์  ศนู ยก์ ารเรียนรูช้ มุ ชน  ศนู ย์ข้อมลู  สวนสาธารณะ  สวนสมุนไพร  แหล่งท่องเทยี ว  สอ่ื สารมวลชน  ส่ือพ้นื บ้าน  ศนู ยก์ ีฬา  ศูนยก์ ารค้า/ตลาด  สถานประกอบการ  สถาบันการศกึ ษา  สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ  แหลง่ เรยี นรู้ในท้องถ่นิ  อน่ื ๆ พิธกี รรม 7. องคก์ รความรู้ในแหล่งเรียนรู้ สาระเด่น ด้านพิธีกรรม 8. มีเนื้อหาสาระสอดคลอ้ งกับการศกึ ษานอกโรงเรียน  กล่มุ การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ  กลุ่ม การศึกษาเพอื่ พฒั นาทกั ษะชวี ติ  กลุ่มการศึกษาเพือ่ พฒั นาสังคมและชุมชน  กลมุ่ การศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน 9. ความรทู้ ่ีสามารถเรยี นได้จากแหลง่ เรียนรูแ้ ห่งนี้ (เรียงตามลาดบั ความสาคัญและความโดดเด่น 3 ลาดับ) 1) การถ่ายทอดพิธีกรรมการรักษาโรค 2) การรกั ษาโรคภยั ไขเ้ จ็บให้แก่ชาวบ้าน 3) การสืบทอดพิธกี รรมจากบรรพบุรุษ ผบู้ นั ทกึ เกวรนิ ทร์ ไชยรถ ณ วนั ท่ี 1 มถิ ุนายน 2563

แบบสารวจแหลง่ เรยี นรู/้ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ 1. ช่อื แหล่งเรยี นรู้/ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ การบรหิ ารจดั การกองทนุ และการพัฒนาชมุ ชน 2. ทตี่ ั้ง/ที่อยู่ เลขท่ี 93/1 หมู่ท่ี 2 ตาบลบ้านขาม อาเภอจัตรุ สั จังหวัดชัยภูมิ 3. โทรศัพทบ์ ้าน....................-............................โทรศพั ทเ์ คล่ือนท่ี....................-....................... โทรสาร...........-...............เวบ็ ไซต์...................-................... 4. เจ้าของ/ผูค้ รอบครอง/ผ้จู ัดการแหล่งเรยี นรู้ นายประจวบ แตง่ ทรัพย์ 5. ชอ่ื บุคคลของแหลง่ เรยี นรู้สาหรับติดต่อ นายประจวบ แต่งทรพั ย์ 6. ประเภทของแหล่งเรียนรู้  หอ้ งสมุด  พิพิธภัณฑ์  โบราณสถาน  ศาสนาสถาน  อนสุ าวรยี ์ ศูนยว์ ัฒนธรรม  ศนู ย์ข้อมูลท้องถ่นิ  แหลง่ หัตถกรรม  แหลง่ เรยี นรู้ ศิลปะ  แหล่งฝึกอาชพี  ศนู ยว์ ิทยาศาสตร์  ศูนย์การเรียนรู้ชมุ ชน  ศนู ยข์ ้อมูล  สวนสาธารณะ  สวนสมนุ ไพร  แหลง่ ทอ่ งเทยี ว  สือ่ สารมวลชน  สอื่ พน้ื บ้าน  ศูนยก์ ฬี า  ศนู ยก์ ารค้า/ตลาด  สถานประกอบการ  สถาบนั การศกึ ษา  สง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ  แหล่งเรยี นรู้ในท้องถ่ิน  อ่ืนๆ การพฒั นาชุมชน 7. องคก์ รความรู้ในแหลง่ เรยี นรู้ สาระเด่น การพัฒนาชุมชน 8. มเี นอ้ื หาสาระสอดคล้องกับการศึกษานอกโรงเรียน  กลุม่ การศึกษาเพอ่ื พัฒนาอาชพี  กล่มุ การศกึ ษาเพือ่ พัฒนาทักษะชวี ิต  กลุม่ การศกึ ษาเพ่อื พัฒนาสังคมและชุมชน  กลมุ่ การศึกษาข้ันพื้นฐาน 9. ความรู้ที่สามารถเรียนไดจ้ ากแหล่งเรยี นรูแ้ ห่งนี้ (เรยี งตามลาดับความสาคัญและความโดดเดน่ 3 ลาดับ) 1) เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ 2) การสร้างความเขม้ แขง็ ในชุมชน 3) การทาใหช้ มุ ชนใชอ้ งคค์ ามรู้ทมี่ ีสามารถพง่ึ ตนเองได้ ผ้บู ันทึก เกวรนิ ทร์ ไชยรถ ณ วนั ท่ี 1 มถิ นุ ายน 2563


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook