สื่อการเรียนการสอน เทอม2-นาฏอนงค์ ส่ง

เรื่อง การว่ายกรรเชียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จัดท าโดย นางสาวนาฏอนงค์ บุตรธาจร

ค าน า สื่อการเรียนการสอน การว่ายกรรเชียงกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ชุดนี้เป็นสื่อการเรียนการสอนทางการศึกษาระดับประถมศึกษา เกี่ยวกับการว่ายกรรเชียง สื่อการเรียนการสอน การว่ายกรรเชียง เรื่องการว่ายกรรเชียงโดยผู้จัดท าได้จัดท าให้แต่ละเรื่องมีเนื้อหาตรงตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ผู้จัดท าหวังว่า สื่อการเรียนการสอน การว่ายกรรเชียงให้ถูกต้องจะมีประโยชน์ต่อการเรียนการสอนของครู เป็นเครื่องมือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทักษะการว่ายกรรเชียง ด้วยตนเองและเป็นผู้เรียนที่พึ่งตนเองได้ มีทักษะการว่ายกรรเชียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้จัดท าขอขอบพระคุณ อาจารย์วลัยพร ศรีรัตน์ ที่ได้กรุณาสละเวลาให้การอบรมและให้ข้อคิดอันเป็นประโยชน์ จนกระทั่งนวัตกรรมการเรียนการสอน ชุดนี้ประสบผลส าเร็จลงด้วยดี หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ค าแนะน าส าหรับครู 1. ครูควรศึกษาเนื้อหาและผลการเรียนรู้ที่คาดหวังของหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ตามคู่มือครู วิชาว่ายน ้า ให้ละเอียดครบถ้วน 2. ครูแนะน าให้นักเรียนศึกษาเนื้อหาของนวัตกรรมการเรียนการสอน ด้วยตนเอง และท าแบบประเมิน ก่อนเรียน(Pre-test) และหลังเรียน (Post- test) 3. สื่อการเรียนการสอน ชุดนี้ครูสามารถน าไปใช้สอนซ่อมเสริมกับ 3.1 นักเรียนที่เรียนรู้ช้า 3.2 นักเรียนที่เรียนช้า กรณีหยุดเรียน หรือย้ายมาเข้าเรียนใหม่ในระหว่างปีการศึกษา 3.3 ใช้สอนเสริมกับนักเรียนที่ต้องการค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมจากบทเรียน 4. สื่อการเรียนการสอนชุดนี้ ใช้เมื่อนักเรียนเริ่มเรียนเนื้อหาในบทเรียนจากหนังสือเรียน ว่ายน ้า เป็นต้นไป

ค าแนะน าส าหรับนักเรียน 1.สื่อการเรียนการสอนว่ายฟรีสไตล์ ชุดนี้ นักเรียนสามารถเรียนด้วยตนเองตามความสามรถ มีกิจกรรมให้นักเรียนท า มีค าอธิบาย ตัวอย่างแบบฝึกหัด และค าตอบ พร้อมผลสรุป 2. นักเรียนควรท าความเข้าใจเสียก่อนว่า นวัตกรรมการเรียนการสอน นี้ไม่ใช่การทดสอบ แต่มีวัตถุประสงค์ให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเองตามความสามารถ 3. นักเรียนควรมีสมาธิ และมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ในขณะศึกษาบทเรียน และปฏิบัติกิจกรรมไม่เปิดดูเฉลยค าตอบก่อน จนกว่านักเรียนจะท าแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว จึงค่อยเปิดดูเฉลยค าตอบ 4. ขอให้นักเรียนท าแบบฝึกหัดด้วยความมั่นใจ ถ้าท าไม่ได้หรือสงสัยก็พยายามดุบทเรียนที่ผ่านมา และค าตอบของนักเรียนสามารถตรวจดูกับเฉลยค าตอบได้ทันทีหลังจากนักเรียนท ากิจกรรมหรือท าแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว 5. ก่อนที่นักเรียนจะศึกษาสื่อการเรียนการสอน ควรท าแบบฝึกหัด หรือแบบประเมินก่อนเรียน และท าแบบฝึกหัดหรือแบบประเมินหลังเรียน เมื่อนักเรียนศึกษาเนื้อหาจบแล้วพร้อมตรวจค าตอบกับเฉลยเพื่อทราบความก้าวหน้าของนักเรียน 6. เมื่อนักเรียนได้ศึกษา และทราบผลความก้าวหน้าของตนแล้ว ให้นักเรียนเก็บสิ่งของต่างๆที่น ามาใช้ในการเรียนให้เรียบร้อย เพื่อพร้อมที่ผู้อื่นจะน าไปศึกษาได้ต่อไป

1. ท่ากรรเชียงต่างกับท่าฟรีสไตล์ตรงกับข้อใด ก. การหายใจ ข. การวางมือผลักน ้า ค. การเตะขา ง. ถูกทุกข้อ 2. การออกตัวท่ากรรเชียงคือข้อใด ก. กระโดดท่าที่ถนัด ข. กระโดดเท้าคู่บนแท่น ค.กระโดดเท้าเดี่ยวบนแท่น ง. ออกตัวในน ้าถีบตัวออกแบบโค้ง 3. การเริ่มต้นว่ากรรเชียงควรเริ่มฝึกท่าใด ก. ปลาดาวหงาย ข. ปลาดาวคว ่า ค. แมงกะพรุน ง. ถูกทุกข้อ 4. การลอยตัวขึ้นจากน ้าข้อใดถูกต้อง ก. เตะขาสตรีมไลน์ ข. ดึงแขนคู่ ค. หมุนแขนผิวน ้า ง. ท าท่าถนัด 5. โดยทั่วไปการออกตัวท่ากรรเชียง ควรอยู่ใต้น ้าประมาณกี่เมตร ก. 5 เมตร ข. 10 เมตร ค. 15 เมตร ง. 20 เมตร 6. การเตะขากรรเชียง เตะเหมือนท่าใด ก. ท่าผีเสื้อ ข. ท่ากบ ค. ท่าฟรีสไตล์ ง. ท่าสตรีมไลน์ 7. สัดส่วนการใช้ขากับแขนท่ากรรเชียง เป็นเท่าใด ก. 1-3ครั้ง/1stroke ข. 2-5ครั้ง/1stroke ค. 3-6ครั้ง/1stroke ง. 4-7ครั้ง/1stroke 8. การหมุนแขนท่ากรรเชียง หมุนแบบใด ก. หมุนแบบท่าผีเสื้อ ข. หมุนทวนเข็มนาฬิกา ค. หมุนตามเข็มนาฬิกา ง. หมุนแบบท่ากบ สวัสดีค่ะนักเรียน นักเรียนลองท าแบบประเมินก่อนเรียนกันนะค่ะ

9. การหมุนแขนท่ากรรเชียงเรา มองเห็นเป็นตัวอักษรรูปใด ก. S ข. I ค. L ง. J 10. การหายใจท่ากรรเชียงควรหายใจทางใด ก. จมูก ข. ปาก ค. เหงือก ง. ถูกทั้ง ก และ ข

การว่ายกรรเชียง เริ่มจากการกระโดดน ้าที่ถูกโดยเหยียดตัวในลักษณะโค้งไปข้างหลังตามรูปแล้วเอาปลายมือลงไปในน ้าก่อน ตามด้วยแขน และหัวกับล าตัวลอยตัวขึ้นให้ถูกหลังจากที่กระโดดน ้าเสร็จ ตัวคุณจะจมอยู่ใต้น ้า และหลายๆคนเข้าใจผิดที่รีบใช้ Stroke แขนในทันทีทันใด เพราะนี่คือวิธีที่ผิด ที่จริงแล้วในขณะที่คุณอยู่ใต้น ้า คุณต้องใช้ขาแตะน ้าในลักษณะคล้ายปลาโลมา (Dolphin Kick) โดยแขนทั้งสองเหยียดตรงนิ่ง จนกว่าตัวคุณจะขึ้นเสมอน ้า วิธีนี้จะช่วยท าความเร็วได้มาก โดยทั่วไปแล้วคุณควรอยู่ใต้น ้าประมาณ 15 เมตรก่อนจะเริ่มใช้ Stroke แขน และเปลี่ยนจากการแตะน ้าในลักษณะคล้ายปลาโลมาเป็นการแตะน ้าแบบปกติ (Flutter Kick)

จ้วงไปข้างหน้า (ข้างหน้าในทิศทางที่จะไป)ยืดแขนและจ้วงไปจ้างหน้าให้ได้ไกลที่สุดเพื่อเพิ่มความเร็วและเป็นการใช้ Stroke อย่างคุ้มค่า ไหล่ของคุณจะต้องช่วยส่งก าลังไปด้วย ส่วนแขนอีกข้างหนึ่งก็ให้พายไปข้างหลังจนกระทั่งขนานกับล าตัว และขาที่แตะน ้าควรจะอยู่ระดับผิวน ้าเพื่อถ่ายแรงได้เต็มที่การใช้แขนโดยทั่วไปแล้วเมื่อคุณยกแขนขึ้นเพื่อเตรียมจ้วง แขนด้านที่ยกขึ้นของคุณจะท ามุมในแนวตั้งประมาณ 60-70 องศากับผิวน ้า และท ามุมในแนวนอนประมาณ 45 องศากับแนวตรงของล าตัวเพื่อเตรียมจ้วงลงใต้น ้าต่อไป หากคุณฝึกจนคล่องแะมีจังหวะที่ดีแล้วท่ากรรเชียงของคุณจะสามารถมองเป็นรูปตัว J ในแนวขวาง ซึ่งเป็นท่าที่มีประสิทธิภาพเพราะการส่งแรงจะเป็นไปอย่างสมดุล และข้างล่างนี้คือ Tips ที่เราแนะน าเมื่อเอามือพายใต้น ้า มือที่จ้วงควรจะให้นิ้วเรียงชิดติดกับและโค้งงอเล็กน้อย เมื่อยืดแขนออกไป แขนคุณต้องชิดหู เมื่อแขนลงไปในน ้า ควรปล่อยไหล่ตามสบาย เพราะหากเกร็งไหล่ให้อยู่กับที่เอาไว้คุณจะกดแขนลงน ้าไม่ได้ ควรงอข้อศอกและตั้งมือ และดันน ้าผ่านไปทางต้นขาด้วยความรวดเร็ว ในการวางแขนลงน ้าเพื่อจะจ้วง จะต้องให้นิ้วก้อยลงน ้าก่อนเสมอ

การใช้ขาคุณไม่ควรใช้หัวเขาเป็นแกนในการแตะขา แต่ควรใช้ขาทั้งท่อนที่ยาวกว่าในการแตะน ้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มความเร็วได้มาก อีกทั้งยังไม่ควรแตะที่เกินระดับผิวน ้ามากเกินไป สังเกตง่ายๆว่าหากคุณแตะขาแล้วคุณรู้สึกว่าคุณก าลังดันน ้าไปข้างหลังตัวคุณ แปลว่าคุณก าลังท าถูกแล้ว แต่ถ้ารู้สึกว่าดันไปผิดทิศทางคุณควรปรับท่าซะใหม่

การใช้สัดส่วนแขนกับขาที่ถูกโดยทั่วไปแล้วในวิธีว่ายน ้าท่ากรรเชียงคุณควรใช้การแตะ Flutter Kick ประมาณ 4-7 ครั้งต่อ 1 Stroke ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพละก าลังและความช านาญของแต่ละคนที่ต่างกันด้วยหายใจอย่างสมดุลเช่นเดียวกับวิธีว่ายน ้าอื่นๆ การหายใจเป็นเทคนิคที่ส าคัญมากในการเพิ่มความเร็ววิธีว่ายน ้าท่ากรรเชียงไม่แพ้กับความแข็งแรงของร่างกาย โดยคุณต้องหายใจด้วยปากไม่ใช่จมูกเพื่อสูดอากาศได้อย่างเต็มที่และรวดเร็ว และควรหายใจออกในช่วงจังหวะดันน ้าเพื่อให้กล้ามเนื้อมีแรงมากขึ้น

แบบฝึกหัดว่ายกรรเชียง 1. ท่ากรรเชียงต่างกับท่าฟรีสไตล์ตรงกับข้อใด ก. การหายใจ ข. การวางมือผลักน ้า ค. การเตะขา ง. ถูกทุกข้อ 2. การออกตัวท่ากรรเชียงคือข้อใด ก. กระโดดท่าที่ถนัด ข. กระโดดเท้าคู่บนแท่น ค.กระโดดเท้าเดี่ยวบนแท่น ง. ออกตัวในน ้าถีบตัวออกแบบโค้ง 3. การเริ่มต้นว่ากรรเชียงควรเริ่มฝึกท่าใด ก. ปลาดาวหงาย ข. ปลาดาวคว ่า ค. แมงกะพรุน ง. ถูกทุกข้อ 4. การลอยตัวขึ้นจากน ้าข้อใดถูกต้อง ก. เตะขาสตรีมไลน์ ข. ดึงแขนคู่ ค. หมุนแขนผิวน ้า ง. ท าท่าถนัด 5. โดยทั่วไปการออกตัวท่ากรรเชียง ควรอยู่ใต้น ้าประมาณกี่เมตร ก. 5 เมตร ข. 10 เมตร ค. 15 เมตร ง. 20 เมตร 6. การเตะขากรรเชียง เตะเหมือนท่าใด ก. ท่าผีเสื้อ ข. ท่ากบ ค. ท่าฟรีสไตล์ ง. ท่าสตรีมไลน์ 7. สัดส่วนการใช้ขากับแขนท่ากรรเชียง เป็นเท่าใด ก. 1-3ครั้ง/1stroke ข. 2-5ครั้ง/1stroke ค. 3-6ครั้ง/1stroke ง. 4-7ครั้ง/1stroke 8. การหมุนแขนท่ากรรเชียง หมุนแบบใด ก. หมุนแบบท่าผีเสื้อ ข. หมุนทวนเข็มนาฬิกา ค. หมุนตามเข็มนาฬิกา ง. หมุนแบบท่ากบ

9. การหมุนแขนท่ากรรเชียงเรา มองเห็นเป็นตัวอักษรรูปใด ก. S ข. I ค. L ง. J 10. การหายใจท่ากรรเชียงควรหายใจทางใด ก. จมูก ข. ปาก ค. เหงือก ง. ถูกทั้ง ก และ ข

เฉลย แบบฝึกหัดว่ายกรรเชียง 1. ท่ากรรเชียงต่างกับท่าฟรีสไตล์ตรงกับข้อใด ก. การหายใจ ข. การวางมือผลักน ้า ค. การเตะขา ง. ถูกทุกข้อ 2. การออกตัวท่ากรรเชียงคือข้อใด ก. กระโดดท่าที่ถนัด ข. กระโดดเท้าคู่บนแท่น ค.กระโดดเท้าเดี่ยวบนแท่น ง. ออกตัวในน ้าถีบตัวออกแบบโค้ง 3. การเริ่มต้นว่ากรรเชียงควรเริ่มฝึกท่าใด ก. ปลาดาวหงาย ข. ปลาดาวคว ่า ค. แมงกะพรุน ง. ถูกทุกข้อ 4. การลอยตัวขึ้นจากน ้าข้อใดถูกต้อง ก. เตะขาสตรีมไลน์ ข. ดึงแขนคู่ ค. หมุนแขนผิวน ้า ง. ท าท่าถนัด 5. โดยทั่วไปการออกตัวท่ากรรเชียง ควรอยู่ใต้น ้าประมาณกี่เมตร ก. 5 เมตร ข. 10 เมตร ค. 15 เมตร ง. 20 เมตร 6. การเตะขากรรเชียง เตะเหมือนท่าใด ก. ท่าผีเสื้อ ข. ท่ากบ ค. ท่าฟรีสไตล์ ง. ท่าสตรีมไลน์ 7. สัดส่วนการใช้ขากับแขนท่ากรรเชียง เป็นเท่าใด ก. 1-3ครั้ง/1stroke ข. 2-5ครั้ง/1stroke ค. 3-6ครั้ง/1stroke ง. 4-7ครั้ง/1stroke 8. การหมุนแขนท่ากรรเชียง หมุนแบบใด ก. หมุนแบบท่าผีเสื้อ ข. หมุนทวนเข็มนาฬิกา ค. หมุนตามเข็มนาฬิกา ง. หมุนแบบท่ากบ

9. การหมุนแขนท่ากรรเชียงเรา มองเห็นเป็นตัวอักษรรูปใด ก. S ข. I ค. L ง. J 10. การหายใจท่ากรรเชียงควรหายใจทางใด ก. จมูก ข. ปาก ค. เหงือก ง. ถูกทั้ง ก และ ข