Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคำ

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคำ

Published by parichatkate, 2021-03-24 11:59:02

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคำ

Search

Read the Text Version

9. สือ่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรยี นรู้ จานวน สภาพการใช้สอ่ื รายการสื่อ 1 ชดุ ข้นั ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลงั เรยี นหน่วยที่ 5 1 ชุด ข้ันสรา้ งความสนใจ/ขั้นขยายความรู้ 2. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรยี นรู้ วิธีวัด เครือ่ งมือวัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ช้นิ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ ตรวจแบบ แบบประเมนิ ผลการ สร้างตาราง ใบงาน ประเมินผลการ เรยี นรู้ และแบบฝกึ คะแนน เรยี นรู้ แบบฝึก ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ตั ิ แบบประเมนิ ผลการ เรียนรูม้ ีเกณฑ์ผ่าน และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 50%

ผงั มโนทศั น์ รายวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา รหสั วิชา ง31269 ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 6 เรือ่ ง การสรา้ งแผนภูมิ และ Smart Art จานวน 8 ชวั่ โมง : 10 คะแนน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 6 เรอ่ื ง การสรา้ งแผนภมู ิ และ Smart Art จานวน 8 ชั่วโมง ชอ่ื เรอ่ื ง การสร้างแผนภมู ิ และ Smart Art จานวน …8…ชั่วโมง : …10.. คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 เร่ือง การสร้างแผนภูมิ และ Smart Art แผนจัดการเรยี นรทู้ ่ี 6 เร่อื ง การสร้างแผนภมู ิ และ Smart Art รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา รหัสวิชา ง31269 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศกึ ษา 2563 น้าหนกั เวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง/สปั ดาห์ เวลาท่ใี ช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 8 ช่ัวโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจทค่ี งทน) รปู แบบการตดิ ต่อส่อื สารดว้ ยเอกสารมหี ลากหลายรปู แบบ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความประทบั ใจความเขา้ ใจอนั ดรี ะหว่างกนั การ แนะนาตวั เองการเผยแพรค่ วามรแู้ ละการประชาสมั พนั ธก์ จิ กรรมทด่ี าเนนิ การ การสรา้ งนามบตั ร การทาบตั รอวยพร การทาแผน่ พบั และวฒุ บิ ตั รเพ่อื อานวยความสะดวกในการปฏบิ ตั งิ านกบั หน่วยงานต่างๆ เพราะนอกจากงานเอกสารทวั่ ไปแลว้ นนั้ จะตอ้ งมี สง่ิ พมิ พพ์ เิ ศษอ่นื ๆ อกี หลายประเภททใ่ี ชใ้ นการตดิ ต่อประสานงาน และใชป้ ระกอบเป็นหลกั ฐาน 2. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั ชนั้ ป/ี ผลการเรียนร/ู้ เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยแี ละกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างส่ิงของเครือ่ งใช้ หรอื วิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยีอย่างมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ เลือกใช้เทคโนโลยใี นทางสรา้ งสรรคต์ ่อชีวิต สังคม ส่ิงแวดลอ้ ม และมีสว่ นร่วมในการจัดการเทคโนโลยีทยี่ ่ังยนื มาตรฐาน ๔.๑ เขา้ ใจ มที กั ษะทจ่ี าเปน็ มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชพี ใชเ้ ทคโนโลยี เพอื่ พัฒนาอาชีพ มคี ณุ ธรรม และมีเจตคตทิ ดี่ ีต่ออาชพี ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ 26. ประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Word 2010 27. ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2010 28. การสรา้ ง การเปดิ ปิด และบันทกึ เอกสาร 29. การกาหนดคา่ เริม่ ต้นในการใชโ้ ปรแกรม 30. การจดั รูปแบบยอ่ หนา้ และการกัน้ หนา้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เนอ้ื หาสาระหลัก : Knowledge 1. การสรา้ งนามบตั ร 2. การทาบตั รอวยพร 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process สามารถเขา้ ส่โู ปรแกรม Microsoft Word 2010 ได้ 3.3 คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude ซ่ือสัตย์ มวี นิ ยั ใฝเุ รยี นรู้ ม่งุ มน้ั ในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรยี น 4.2 ความสามารถในการคิด

4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา - ความรอบคอบ 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะของวิชา - ความมวี ินัย - ความรบั ผดิ ชอบ - มนษุ ยสมั พนั ธ์ - ขยนั หมั่นเพยี ร 6. คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 2. ซ่อื สัตย์สุจริต 3. มวี นิ ยั 4. ใฝุเรียนรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. ม่งุ มัน่ ในการทางาน 7. รกั ความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - แบบประเมินผลหลงั เรียนหนว่ ยท่ี 6 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1.ครูและผเู้ รยี นสนทนาเกย่ี วกบั นามบัตร โดยนามบตั รเป็นเอกสารท่ีใชใ้ นการแนะนาตนเอง หา้ งร้าน หรอื บริษัท ให้กับผูอ้ ่นื ได้รจู้ ัก เพือ่ ทาใหก้ ารตดิ ต่อกันได้สะดวกโดยไมต่ ้องเสียเวลาบนั ทกึ ในกระดาษโน้ตหรือสมดุ จดบนั ทกึ การสรา้ ง นามบตั รสามารถทาไดจ้ ากโปรแกรมสาเรจ็ รปู โดยเฉพาะ หรอื ใช้โปรแกรมประมวลผลคา Microsoft Word 2010 ซึง่ เปน็ โปรแกรมที่ใชง้ านกนั ท่วั ไปอยแู่ ลว้ มาประยุกต์ใช้ และทาได้ง่ายไม่ยงุ่ ยาก 2.ผูเ้ รียนยกตวั อย่างนามบตั ร และบัตรอวยพรทเ่ี คยเหน็ ทว่ั ไป ขนั้ สอน 3.ครูอธิบายและสาธติ การสรา้ งนามบตั ร โดยใช้สื่อหน้าจอคอมพิวเตอรผ์ ่านโปรเจ็คเตอร์ ซึง่ สามารถทาไดห้ ลาย วธิ ีดว้ ยกนั คอื 1) การสร้างตาราง 2) การใช้กลอ่ งข้อความ 3) การใชเ้ คร่ืองมอื สว่ นประกอบด่วน

4.ผเู้ รยี นฝกึ ทักษะทานามบตั รแนะนาตวั เอง โดยกาหนดใหใ้ ช้ท่อี ยู่เปน็ บ้านของตนเอง แทรกรูปภาพ วางตาแหน่ง ให้สวยงาม โดยใช้วิธีการแทรกตาราง บนั ทกึ ไฟลช์ ่ือ Ex9-01 5.ผ้เู รยี นฝึกทักะทานามบัตรแนะนาตวั เอง โดยกาหนดใหใ้ ช้ทีอ่ ยู่เปน็ สถานศึกษาทก่ี าลังศกึ ษาอยู่ โดยขอ้ ความ ประกอบดว้ ยชอ่ื ผ้เู รยี น ระดบั ช้ันเรียน แทรกรปู ภาพโลโกข้ องสถานศึกษา โดยวางตาแหนง่ ใหส้ วยงาม และใชว้ ธิ ีการ แทรกกลอ่ งขอ้ ความ บันทกึ ไฟล์ช่อื Ex9-02 6.ผเู้ รียนฝกึ ทกั ษะทานามบตั รแนะนาตัวเอง โดยกาหนดใหส้ มมุติชื่อบรษิ ัท ตาแหนง่ และทีอ่ ยขู่ องบรษิ ทั เอง ข้อความประกอบด้วยชอื่ ของตนเอง ตาแหนง่ แทรกรปู ภาพโลโกของบรษิ ัท วางตาแหน่งให้สวยงามโดยใชเ้ ครื่องมอื สว่ นประกอบดว่ น บนั ทกึ ไฟล์ชอ่ื Ex9-03 7. ครูอธบิ าย และสาธิตการทาบตั รอวยพรให้ผเู้ รยี นดู เพ่ือใหป้ ฏบิ ัติตามข้ันตอน โดยการทาบัตรอวยพร หรือทาการ์ด เพ่อื ใชใ้ นโอกาสตา่ งๆ ถงึ แม้วา่ จะมีโปรแกรมสาเรจ็ รปู ต่างๆ เพ่ืออานวยความสะดวกในการผลติ การ์ดอวย พรมากมายแต่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ก็สามารถทาได้ง่ายๆ 8.ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะการทาบตั รอวยพรวนั เกิดให้เพ่ือนโดยใช้เคร่ืองมอื และรูปแบบในเน้ือหาทเ่ี รียนมา และ บันทึกไฟลช์ อ่ื Ex9-04

9.ผเู้ รยี นฝึกทักษะทาบัตรอวยพรวนั ท่ีจบการศึกษาใหเ้ พื่อน โดยใช้เครื่องมือและรูปแบบในเนื้อหา ท่เี รยี นมา และบนั ทึกไฟล์ชอ่ื Ex9-05 10.ผู้เรยี นฝึกทกั ษะทาบตั รอวยพรใหค้ รูท่ีปรกึ ษาหรอื ครูผูส้ อน แบบหนา้ เดียวตามแบบ โดยหารปู ภาพประกอบ และขอ้ ความมาใสเ่ อง บันทึกไฟลช์ ่อื Ex9-07 11.ครเู น้นปฏบิ ตั ิการงานโดยการพิมพด์ ้วยโปรแกรมประมวลผลคาดว้ ยความระมดั ระวัง และให้สามารถนาไปใช้ ไดจ้ รงิ เพือ่ สรา้ งภมู ิคมุ้ กันในตวั เอง และเสนอแนะการนาความรู้ไปประกอบอาชพี เพือ่ สร้างรายไดใ้ ห้แก่ตนเองและ ครอบครวั ต่อไป ขัน้ สรปุ และการประยุกต์ 12.ครแู ละผเู้ รยี นสรุปการสรา้ งนามบัตร และการทาบัตรอวยพร โดยการถามตอบ และฝกึ ปฏบิ ตั ิ 13.ครูสังเกตพฤติกรรมกลุม่ และร่วมกนั สรุปเนอ้ื หาอกี ครงั้ จากผลงานท่ีผู้เรยี นทา 14.ทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏิบตั ิ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอง พร้อมทากจิ กรรม การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้ 15.ประเมนิ ผเู้ รียนตามแบบฟอร์มตอ่ ไปนี้ ช่อื ผู้เรยี น ประสบการณ์พนื้ ฐานการเรยี นรู้ วิธีการเรียนรู้ ความรู้ ทกั ษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. 9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ อ่ื รายการสอ่ื 1 ชุด ข้นั ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลงั เรยี นหน่วยท่ี 6 1 ชดุ ขน้ั สร้างความสนใจ/ขนั้ ขยายความรู้ 2. เครอื่ งคอมพวิ เตอร์ 10. การวัดผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรียนรู้ วิธวี ัด เครือ่ งมอื วัดฯ ประเดน็ / การเรียนรู้ ชิน้ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ ตรวจแบบ แบบประเมนิ ผลการ การสร้างแผนภูมิ ใบงาน ประเมินผลการ เรยี นรู้ และแบบฝกึ คะแนน เรียนรู้ แบบฝึก ปฏบิ ัติ ปฏิบัติ แบบประเมนิ ผลการ เรยี นรู้มีเกณฑ์ผ่าน และแบบฝกึ ปฏิบตั ิ 50%

ผงั มโนทัศน์ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา รหสั วชิ า ง31269 ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 7 เรื่อง การทางานกับรูปภาพ จานวน 8 ชวั่ โมง : 10 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 7 เรือ่ ง การทางานกบั รปู ภาพ จานวน 8 ชั่วโมง ช่ือเร่ือง การทางานกบั รปู ภาพ จานวน …8…ช่วั โมง : …10.. คะแนน

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 7 เรือ่ ง การทางานกบั รูปภาพ แผนจดั การเรียนรูท้ ่ี 7 เร่อื ง การทางานกับรูปภาพ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา รหสั วชิ า ง31269 ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 60 ช่วั โมง/สปั ดาห์ เวลาที่ใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 8 ชว่ั โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเขา้ ใจท่ีคงทน) ระบบงานสามารถประยุกต์การใชง้ านไดต้ ามความเหมาะสมของงานทต่ี อ้ งการบนั ทกึ ขอ้ มลู และ นาเสนอขอ้ มลู ไดโ้ ดยงา่ ย เช่น การออกแบบรายงานในรปู แบบทต่ี อ้ งการนาสารสนเทศนนั้ ไปใชง้ านหรอื การตอบสนองผใู้ ชง้ านไดด้ ว้ ยการออกแบบฟอรม์ การสรา้ งแมโครเพอ่ื สะดวกในการใชง้ านมากยง่ิ ขน้ึ 2. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชีว้ ดั ชน้ั ปี/ผลการเรยี นร/ู้ เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยแี ละกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสง่ิ ของเคร่ืองใช้ หรือวิธกี าร ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ย่างมีความคดิ สร้างสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นทางสร้างสรรค์ตอ่ ชีวิต สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม และมสี ่วนร่วมในการจดั การเทคโนโลยีทย่ี ั่งยนื มาตรฐาน ๔.๑ เขา้ ใจ มที ักษะท่ีจาเปน็ มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใช้เทคโนโลยี เพอื่ พัฒนาอาชีพ มคี ุณธรรม และมีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ 31. ประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Word 2010 32. ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2010 33. การสร้าง การเปดิ ปิด และบนั ทึกเอกสาร 34. การกาหนดคา่ เริม่ ต้นในการใช้โปรแกรม 35. การจัดรูปแบบย่อหน้าและการกัน้ หน้า 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เน้อื หาสาระหลกั : Knowledge 3. การทาแผ่นพับ 4. การทาวฒุ ิบัตร ทกั ษะ/กระบวนการ : Process สามารถเขา้ สู่โปรแกรม Microsoft Word 2010 ได้ 3.4 คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ : Attitude ซื่อสัตย์ มีวนิ ยั ใฝเุ รียนรู้ ม่งุ มั้นในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความรอบคอบ - ความมวี ินยั - ความรบั ผิดชอบ - มนษุ ยสมั พันธ์ - ขยันหมนั่ เพียร 6. คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซื่อสัตยส์ จุ ริต 3. มวี ินยั 4. ใฝุเรยี นรู้ 5. อยอู่ ย่างพอเพยี ง 6. มงุ่ ม่นั ในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ิตสาธารณะ 7. ชน้ิ งาน/ภาระงาน : - แบบประเมนิ ผลหลังเรียนหนว่ ยที่ 7 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสู่บทเรียน 1.ครแู ละผูเ้ รียนสนทนากันเกี่ยวกับแผน่ พับ (Brochure) จัดทาขนึ้ โดยสว่ นมากจะมวี ัตถุประสงคม์ ใี นดา้ น การประชาสัมพนั ธ์ 2.ครูและผู้เรียนยกตัวอย่างการประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆ เพ่ือหวังผลทางธุรกิจ หรือประชาสัมพันธ์ด้าน ความร้ตู ่างๆ หรือแนะนาสถานท่ี เป็นต้น ก่อนจัดทาแผ่นพับควรออกแบบเน้ือหาของแผ่นพับโดยเรียงลาดับให้น่าสนใจ และควรรา่ งแบบแผ่นพับก่อนจดั ทา รปู แบบของแพน่ พับต้องพิมพ์โดยการกลับหน้ากระดาษ เพราะต้องใช้กระดาษทั้ง 2 หน้าแลว้ นามาพับ รปู แบบแผน่ พับที่จะพมิ พด์ ้วยโปรแกรม Microsoft Word 2010 ขนั้ สอน 3.ครูแสดงตวั อย่างรา่ งแผ่นพับให้ผเู้ รียน โดยใช้สอ่ื Power Point ใหผ้ เู้ รยี นดู 4.ครูสาธิตการทาแผน่ พบั ให้ผูเ้ รยี นฝึกปฏบิ ัตติ าม โดยการทาแผ่นพบั ด้วยโปรแกรม Microsoft Word 2010 ด้วยการนาเอาคาสั่ง คอลัมน์ (Columns) เขา้ มาใชง้ านร่วมดว้ ย ตามขนั้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี

1) ต้ังค่าหนา้ กระดาษ โดยคลกิ ทีป่ ุมคาสั่ง การวางแนว (Orientation) บนรบิ บอน เค้าโครงหนา้ กระดาษ (Page Laout) แล้วคาส่ังเลอื ก แนวนอน (Landscape) กาหนดระยะหา่ งดา้ นหนา้ ด้านหลงั ดา้ นบนและด้านล่าง 1 ซม. (อาจจะ กาหนดต่างกนั ก็ได้ตามความเหมาะสม) 2) แบ่งคอลัมน์ โดยคลกิ ท่ีปุมคาสั่งคอลมั น์ (Columns) บนรบิ บอน เคา้ โครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) 3) เลือกแบง่ เป็น 3 คอลมั น์ กาหนดระยะหา่ งระหว่างคอลัมน์เทา่ กบั 1-2 ซม. 4) แทรกรปู ภาพ และพิมพข์ ้อความลงในแผน่ พับตามทเ่ี ราตอ้ งการ แผ่นพับหน้า 1 แผน่ พับหนา้ 2

5.ครูใชเ้ ทคนคิ การจัดการเรียนรแู้ บบอภิปราย (Discussion Method) คือกระบวนการทผ่ี ู้สอนมงุ่ ให้ผเู้ รยี นมี โอกาสสนทนาแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นหรือระดมความคิดในเร่อื งการทาวุฒบิ ัตร ซึ่งอาจจะเปน็ เรอื่ งท่ีเกี่ยวข้องกับ บทเรยี นทก่ี ล่มุ มีความสนใจรว่ มกนั โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือหาคาตอบรว่ มกัน การจัดการเรยี นร้แู บบนม้ี งุ่ เนน้ ใหผ้ ู้เรียนมี ส่วนรว่ มในการเรยี นรู้ คอื รว่ มคิด ร่วมวางแผน รว่ มตัดสินใจ ร่วมปฏบิ ัติงานและช่นื ชมผลงานร่วมกัน โดยคาวา่ “วุฒิบัตร” หมายถึง เอกสารแสดงความสาเร็จหรือรบั รองวา่ ได้ผา่ นการฝึก การอบรม หรอื การให้ การศกึ ษาพิเศษ ในระยะเวลาส้ันๆ ซงึ่ แตกตา่ งกับคาว่า “เกยี รติบตั ร” เพราะเกยี รตบิ ัตร เป็นเอกสารใชเ้ พ่อื การยกย่อง บคุ คลที่มีเกยี รตพิ ึงให้คาชืน่ ชมต่อหนา้ สาธารณชน 6.ครแู ละผ้เู รยี นชว่ ยกันบอก และอธิบายสว่ นประกอบของวุฒิบัตร โดยใช้ส่ือ Power Point ประกอบ 7.ครูสาธิต และใหผ้ ู้เรียนฝึกปฏบิ ตั ิตามขนั้ ตอนการทาใบวุฒบิ ตั ร 8.ผูเ้ รยี นฝกึ ในการนารปู ภาพมาทากรอบใบวุฒิบัตร 1) ใหพ้ ิมพข์ ้อความในวุฒิบตั ร จดั ตาแหนง่ ให้เรียบรอ้ ย 2) แทรกรปู ภาพเลอื กลายกรอบท่ีจะนามาใส่ในวฒุ ิบัตร 3) ให้คลกิ ขวาทรี่ ปู ภาพเลือกคาสง่ั Wrap Text > Behind Text

9.ผเู้ รียนฝึกทกั ษะในการสร้างรายช่อื อตั โนมตั ิให้กับวุฒิบัตรโดยใช้เคร่อื งมอื Mailings 10.ผูเ้ รียนฝึกทกั ษะทาแผ่นพับ ประชาสมั พนั ธส์ ถานศกึ ษา โดยหาขอ้ มูล รปู ภาพทีเ่ กี่ยวข้องกบั สถานศกึ ษา (จัดหารูปภาพท่สี อดคล้องมาแตง่ แผน่ พับให้เหมาะสมและสวยงาม) และบันทึกไฟล์ชื่อ Ex9-08 11.ผู้เรียนฝกึ ทักษะทาแผ่นพับ โดยมเี นอ้ื หาตามท่ีครูกาหนดให้ (จดั หารูปภาพทส่ี อดคลอ้ งมาแตง่ แผ่นพบั ให้ เหมาะสมและสวยงาม) และบันทึกไฟลช์ ่อื Ex9-09

12.ผเู้ รยี นฝกึ ทักษะทาแผ่นพบั ประชาสมั พันธส์ ถานศกึ ษาโดยหาขอ้ มูล รปู ภาพท่ีเก่ียวข้องกบั สถานศกึ ษา (จดั หา รูปภาพทสี่ อดคล้องมาแตง่ แผน่ พบั ให้เหมาะสมและสวยงาม) และบนั ทกึ ไฟล์ช่ือ Ex9-09 13.ผเู้ รียนฝึกทักษะทาวุฒิบตั รหลกั สตู รนักบรหิ ารนอ้ ย ของสถาบนั ส่งเสรมิ นกั บริหารระหว่างวนั ท่ี 23-24 เมษายน 2557 โดยกาหนดให้ครผู สู้ อนเป็นผอู้ อกวฒุ ิบัตร ผู้เรยี นเป็นผู้เข้าอบรม และบันทกึ ไฟล์ชื่อ Ex9-10 14.ผเู้ รยี นฝึกทักษะทาวุฒิบตั รหลักสูตรการใชโ้ ปรแกรมประมวลผล ของสถานศึกษาท่ีตนเองศึกษาอยู่ โดยกาหนด วัน เวลาเอง ผเู้ รยี นเปน็ ผู้เขา้ อบรม บันทกึ ไฟล์ช่อื Ex9-11 ใหผ้ ู้เรยี นจัดทาฐานข้อมูลผเู้ ข้าอบรม ด้วยโปรแกรม Microsoft Excel จานวนอยา่ งนอ้ ย 5 รายชอ่ื และบนั ทกึ ไฟล์ช่อื NameList_Stu โดยใช้คาสัง่ Mailing ในการสรา้ งรายช่ือใหก้ บั วฒุ ิบัตร และทาการผนกึ ไฟลว์ ุฒบิ ตั รท่สี ร้างขึน้ บนั ทกึ ไฟล์ชื่อ Cert_1 15.ครูแนะนาใหผ้ เู้ รยี นรจู้ กั การนาเอาความพอเพยี งไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ซ่ึงเปน็ ความพอประมาณ ความมเี หตุผล รวมถึงความจาเปน็ ทตี่ ้องมรี ะบบภูมิคุ้มกนั ในตวั ท่ีดพี อสมควรต่อผลกระทบใดๆ อนั เกิดจากการเปล่ียนแปลงทง้ั ภายนอก และภายใน การตัดสินใจและการดาเนนิ กิจกรรมต่างๆให้อยู่ในระดบั พอเพยี งนนั้ ต้องอาศยั ทั้งความรู้และคณุ ธรรมเปน็ พ้ืนฐาน ขนั้ สรปุ และการประยกุ ต์ 16.ครสู รุปบทเรยี น โดยใช้ VDO และ PowerPoint และอภิปรายซกั ถามขอ้ สงสัย 17.ทากจิ กรรมตอ่ เนอ่ื ง ตอบคาถามจากบทความในกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ และทาประสบการณ์การเรียนรู้ ซ่งึ ครผู ้สู อนพจิ ารณาตามความเหมาะสม 18.ผู้เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรียนรู้ และแบบฝกึ ปฏบิ ัติ 19.ประเมนิ ผ้เู รียนตามแบบฟอร์มตอ่ ไปน้ี ชอื่ ผเู้ รียน ธรรมชาติของผเู้ รียน วิธกี ารเรยี นรู้ ความสนใจ สตปิ ญั ญา วุฒิภาวะ 1. 2. 3. 4. 5. 9. สือ่ การเรียนการสอน / แหลง่ เรียนรู้ จานวน สภาพการใช้ส่อื รายการสอ่ื 1 ชดุ ขัน้ ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลังเรียนหน่วยท่ี 7 1 ชดุ ขน้ั สรา้ งความสนใจ/ขนั้ ขยายความรู้ 2. เคร่ืองคอมพวิ เตอร์

10. การวดั ผลและประเมินผล หลักฐานการเรยี นรู้ วิธวี ดั เครอื่ งมอื วัดฯ ประเด็น/ ชนิ้ งาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ เปา้ หมาย ตรวจแบบ แบบประเมนิ ผลการ การเรยี นรู้ ใบงาน ประเมนิ ผลการ เรยี นรู้ และแบบฝกึ คะแนน การทางานกับรูปภาพ เรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏิบัติ ปฏิบตั ิ แบบประเมินผลการ เรียนรู้มีเกณฑ์ผ่าน และแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ 50%

ผังมโนทศั น์ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา รหสั วิชา ง31269 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เรื่อง การสรา้ งสารบัญและการอ้างองิ จานวน 8 ช่ัวโมง : 10 คะแนน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่อง การสร้างสารบัญและการอา้ งองิ จานวน 8 ชัว่ โมง ชอ่ื เร่อื ง การสร้างสารบญั และการอา้ งอิง จานวน …8…ชั่วโมง : …10.. คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 8 เรอ่ื ง การสรา้ งสารบญั และการอา้ งอิง แผนจดั การเรยี นรทู้ ี่ 8 เรื่อง การสรา้ งสารบัญและการอา้ งองิ รายวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา รหสั วชิ า ง31269 ระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2563 น้าหนักเวลาเรียน 1.5 (นน./นก.) เวลาเรียน 60 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลาทใี่ ช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ 8 ชั่วโมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคญั (ความเข้าใจทคี่ งทน) การพมิ พเ์ อกสารทางวชิ าการจะมีรูปแบบและกฎเกณฑข์ องแตล่ ะหนว่ ยงานหรอื สถาบนั แต่จะมีลกั ษณะ คล้ายกันการใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 มีเครื่องมอื และคาสง่ั ที่สามารถสรา้ งเอกสารทางวิชาการได้อยา่ ง ครบถว้ น ทงั้ ยงั มีความสามารถในการพมิ พร์ ปู แบบทางคณิตศาสตร์ การสรา้ งเชิงอรรถ สรา้ งดชั นที ้ายเลม่ และสารบัญ รวมท้งั พิมพ์เอกสารทางเครอื่ งพมิ พไ์ ด้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ชั้นป/ี ผลการเรยี นร้/ู เปา้ หมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสงิ่ ของเครอ่ื งใช้ หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นทางสรา้ งสรรคต์ ่อชวี ิต สังคม สงิ่ แวดล้อม และมีส่วนร่วมในการจดั การเทคโนโลยีที่ยงั่ ยืน มาตรฐาน ๔.๑ เข้าใจ มีทกั ษะทจ่ี าเปน็ มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใช้เทคโนโลยี เพ่ือพัฒนาอาชีพ มีคณุ ธรรม และมเี จตคติทดี่ ตี ่ออาชีพ ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้ 36. ประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Word 2010 37. สว่ นประกอบต่าง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2010 38. การสรา้ ง การเปดิ ปิด และบันทึกเอกสาร 39. การกาหนดค่าเรมิ่ ตน้ ในการใช้โปรแกรม 40. การจัดรูปแบบยอ่ หนา้ และการกน้ั หน้า 3. สาระการเรียนรู้ 3.1 เนือ้ หาสาระหลัก : Knowledge 1. การพมิ พ์เอกสารทางวชิ าการ 2. การสรา้ งทีค่ ั่นหน้า 3. การแทรกเชงิ อรรถ 4. การทาดชั นที ้ายเล่ม 5. การแทรกสารบญั 3.2 ทกั ษะ/กระบวนการ : Process สามารถเข้าส่โู ปรแกรม Microsoft Word 2010 ได้ 3.3 คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์ : Attitude ซื่อสตั ย์ มีวินยั ใฝเุ รียนรู้ มงุ่ มั้นในการทางาน

4. สมรรถนะสาคญั ของนกั เรียน - ความรอบคอบ 4.2 ความสามารถในการคิด 4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะของวิชา - ความมีวินัย - ความรับผดิ ชอบ - มนุษยสัมพันธ์ - ขยนั หมน่ั เพยี ร 6. คณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2. ซือ่ สตั ย์สจุ ริต 3. มีวินยั 4. ใฝเุ รยี นรู้ 5. อยู่อย่างพอเพียง 6. มุ่งมั่นในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มจี ติ สาธารณะ 7. ช้ินงาน/ภาระงาน : - แบบประเมินผลหลังเรียนหนว่ ยที่ 8 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น 1.ครูและผเู้ รยี นสนทนากันเร่ืองเอกสารทางวิชาการ เป็นเอกสารท่ีใชเ้ ผยแพร่ขอ้ มูลและความรทู้ างวิชาการทีเ่ ป็น ประโยชนท์ ั้งทางดา้ น สงั คม เศรษฐกิจ การเมือง และการศกึ ษาเป็นต้น 2.เปิดโอกาสให้ผเู้ รียนสอบถาม หรือแลกเปลยี่ นความคิดเหน็ รวมท้ังปัญหาต่าง ๆ ในการเรียนการสอน 3.ผู้เรียนแตล่ ะคนชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งเอกสารทางวิชาการ และทาแบบประเมินผลก่อนเรียน ขน้ั สอน 4.ครใู ชเ้ ทคนคิ กการจัดการเรยี นรู้แบบอภปิ ราย (Discussion Method) คือกระบวนการท่ีผู้สอนมุ่งให้ผเู้ รียนมี โอกาสสนทนาแลกเปล่ยี นความคิดเห็นหรอื ระดมความคิดในเรื่องการพมิ พ์เอกสารทางวิชาการ ซ่ึงอาจจะเปน็ เรอ่ื งท่ี เก่ยี วขอ้ งกบั บทเรยี นหรอื ทีก่ ลุ่มมคี วามสนใจร่วมกัน โดยมจี ุดมงุ่ หมายเพอ่ื หาคาตอบ การจัดการเรียนรู้แบบนีม้ ุ่งเน้นให้ ผูเ้ รยี นมสี ่วนร่วมในการเรียนรู้ คอื ร่วมคิด รว่ มวางแผน รว่ มตดั สนิ ใจ รว่ มปฏิบัติงานและชนื่ ชมผลงานร่วมกัน 5.ครูใช้เทคนิคการจัดการเรียนรูแ้ บบบรู ณาการ (Integration) หมายถงึ การเรียนรทู้ ่เี ช่ือมโยงศาสตรห์ รือเนอ้ื หา สาขาวชิ าต่าง ๆ ทมี่ คี วามสมั พนั ธ์เกย่ี วขอ้ งกันมาผสมผสานเข้าด้วยกัน เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ทม่ี ีความหมาย มคี วาม หลากหลายและสามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชวี ิตประจาวนั โดยจะกลา่ วถึงเอกสารทางวิชาการ ไดแ้ ก่ 1) เอกสาร ประกอบการสอน 2) เอกสารคาสอน 3) บทความทางวิชาการ 4) ตารา 5) หนังสอื 6) งานวจิ ัย 7) ผลงานทางวชิ าการ 8) งานแปล 6.ครอู ธิบายถงึ การกาหนด การจัดรูปแบบและการพมิ พ์เอกสารทางวิชาการ โดยใช้สอื่ Power Point 7.ครแู ละผู้เรยี นสาธิตการสรา้ งที่ค่นั หน้า โดยการพิมพ์เอกสารจานวนหลายหน้า อาจมีปัญหาในการค้นหาหวั ข้อที่ สาคัญ เพอื่ ใหส้ ามารถย้อนไปอ่านหรือแก้ไขได้ ดงั น้นั คาส่งั ท่ีค่นั หน้า จะชว่ ยค้นหาหัวขอ้ ท่ตี ้องการได้รวดเรว็ ขน้ึ การ กาหนด Bookmark หรือ“ทคี่ นั่ หนงั สือ” ในเอกสารนั้น จะมีประโยชนส์ าหรับนามาใชอ้ า้ งองิ ในการทางานต่างๆ เชน่ การ

จดั ดัชนี การทาอา้ งอิงไขว้ เปน็ ต้น โดยข้อความน้ีจะถูกนาไปเก็บไว้ในรายการของทคี่ ัน่ หนงั สอื (Bookmark) และเม่ือ เรยี กข้อความนี้จากรายการท่ีคั่นหนังสอื หรอื จะเรยี กจากคาสั่งคน้ หากไ็ ด้ โปรแกรมจะทาการคน้ หาและแสดงไปยงั คาคา นนั้ ทันที การกาหนดทค่ี ั่นหนงั สอื (Bookmark) สามารถทาได้ดังนี้ 8. ครแู ละผเู้ รยี นสาธิตการแทรกเชงิ อรรถ โดยการกาหนดเชิงอรรถหรอื คาอธิบายเพ่มิ เตมิ เกยี่ วกับคาศัพท์ หรอื ข้อความทปี่ รากฏสว่ นใหญข่ ้อมลู อา้ งองิ นน้ั จะหมายถงึ ข้อมลู ที่เปน็ เร่ืองของทีม่ าของข้อมูล หรอื คาทตี่ อ้ งการทราบ แหลง่ ท่ีมาซ่ึงโปรแกรม Microsoft Word 2010 จะให้แทรกข้อมลู อ้างองิ ไดใ้ นดา้ นล่างของหน้าเอกสารโดยสามารถทาได้ ดังต่อไปนี้ 9. ครแู ละผ้เู รียนสาธิตการทาดัชนีทา้ ยเลม่ โดยดชั นที ้ายเล่ม คอื รายการคาศัพทภ์ าษาอังกฤษและภาษาไทย ที่ เป็นศพั ทเ์ ฉพาะ ซง่ึ ดชั นีจะสร้างอย่ดู ้านหลังของหนังสอื เสมอ ดัชนนี ้นั จะประกอบด้วยคาศัพท์และเลขหน้าทรี่ ะบุตาแหนง่ ของคาศพั ท์นนั้ ๆ การสร้างดชั นจี ะตอ้ งเก็บคาศัพท์ไวใ้ นโปรแกรมก่อน แลว้ จงึ สร้างดัชนีลงในหนา้ เอกสาร การทางานด้าน เอกสารต่างๆ เชน่ หนงั สือ จะตอ้ งทาดัชนี Index ไวเ้ ป็นรายการอา้ งองิ คาศพั ท์ โดยจะอา้ งองิ ตามเลขหนา้ ทอ่ี ยู่ใน เอกสาร เพื่อชว่ ยใหค้ ้นหาความหมายของหรอื วลีตา่ งๆ ในเอกสารได้อย่างรวดเรว็ โดยการทาดัชนีสามารถทาได้ดงั ตอ่ ไปน้ี

10.ครแู ละผู้เรียนสาธิตการแทรกสารบัญ โดยโปรแกรมจะมกี ารสร้างสารบญั สาเรจ็ รปู ไว้ใหเ้ ราใช้งานไดส้ ะดวก ซึง่ มีลกั ษณะเป็นกล่องขอ้ ความใหเ้ ราไดก้ รอกข้อมลู เขา้ ไป แตต่ อ้ งมกี ารสร้างหมายเลหน้ากระดาษไวก้ ่อน ไม่เชน่ นัน้ จะไม่ สามารถสร้างตารางสารบญั แบบอัตโนมัติได้ โดยการสร้างสารบญั ขอ้ ความมีขัน้ ตอนดังตอ่ ไปน้ี 1) เลอื่ นเคอรเ์ ซอร์ไปยงั ตาแหนง่ ทต่ี อ้ งการสร้างสารบญั แทรกหนา้ เอกสารเปลา่ เพอื่ ไว้ทาสารบญั 2) กาหนดระดับของเน้อื หาทจี่ ะนามาทาเป็นสารบญั 3) เลอื กรปู แบบของสารบญั ท่ตี ้องการ 4) จะแสดงรูปแบบของสารบญั ที่สร้างไว้ 5) ปรับแต่ง แกไ้ ขรปู แบบตวั อักษร สีอักษรและขนาดตามต้องการ

11.ครูแนะนาใหผ้ ้เู รียนรจู้ กั การนาเอาความพอเพียงไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ซง่ึ เป็นความพอประมาณ ความมี เหตุผล รวมถงึ ความจาเป็นทีต่ ้องมรี ะบบภมู ิคุ้มกนั ในตวั ที่ดพี อสมควรต่อผลกระทบใดๆ อันเกดิ จากการเปล่ียนแปลงท้ัง ภายนอกและภายใน การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กิจกรรมตา่ งๆใหอ้ ยใู่ นระดับพอเพยี งนน้ั ตอ้ งอาศยั ท้งั ความรู้และ คุณธรรมเป็นพ้นื ฐาน 12.ผู้เรียนฝกึ ทกั ษะพิมพ์ข้อความตามที่ครกู าหนดให้ และให้กาหนด 1.1 แทรกหมายเลขหนา้ (หน้าแรกไมแ่ สดงหมายเลขหน้า) 1.2 ทีค่ ่นั หน้า ให้ค่ันหนา้ ท่ีมีข้อความ การบัญชี การทาบญั ชี การให้ข้อมูลทางการเงิน 1.3 เชิงอรรถแมบ่ ทการบัญชี 1 (สภาวชิ าชีพบญั ชีมาตรฐานการบญั ชีระหวา่ งประเทศเรอื่ งแมบ่ ท การบญั ชี (Framework for the Preparation and Presentation of Financial Statements (April 2001)) 1.4 ดชั นที ้ายเลม่ กาหนดใหค้ าศพั ท์ภาษาองั กฤษท้ังหมดใหแ้ สดงเป็นดัชนที ้ายเล่ม 1.5 สารบัญ กาหนดใหม้ ี 3 ระดับ ระดบั ท่ี 1 ตัวหนงั สือสแี ดง ระดับที่ 2 ตัวหนังสอื สีเขียว ระดับที่ 3 ตวั หนงั สอื สีฟาู 13.ผเู้ รียนทาแบบฝกึ ปฏิบัติ ขนั้ สรุปและการประเมนิ ผล 14.ครแู ละผ้เู รียนสรุปการพมิ พเ์ อกสารทางวิชาการ การสร้างทคี่ ัน่ หนา้ การแทรกเชงิ อรรถ การทาดัชนีท้ายเล่ม และการแทรกสารบญั โดยถามตอบ และการฝกึ ปฏบิ ัตเิ พือ่ ใหเ้ กิดทกั ษะการเรยี นรู้ เพอื่ การประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวัน 15.ครูแนะนาใหผ้ เู้ รียนนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง มาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั 16.สรปุ เนอ้ื หาในหน่วยการเรียนอกี ครง้ั โดยวิธถี าม–ตอบและซักถามข้อสงสัย ผ้เู รียนทาแบบประเมินผลการ เรยี นรู้ และแบบประเมินตนเอง ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง รายการประเมนิ =9-10 =7-8 =5-6 =ต่ากว่า 5 คะแนน คะแนน 1.การกล่าวนา แนะนาตวั และเพือ่ นร่วมงาน 2.จุดประสงคใ์ นการทางาน แหล่งขอ้ มูล วธิ ีการ ทางาน

3.ออกเสียง ชัดเจน ถูกต้อง 4.น้าเสยี งเหมาะสม 5.ตวั อย่างประกอบมสี อื่ ชัดเจน 6.ลาดับความคิดได้ดี 7.ทา่ ทางเหมาะสม แบบประเมนิ ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรยี นรู้ ชอื่ ผเู้ รยี น ประสบการณ์พืน้ ฐานการเรยี นรู้ วิธีการเรียนรู้ ความรู้ ทักษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. 9. สอื่ การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใช้สอื่ รายการส่ือ 1 ชุด ขนั้ ขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลังเรียนหน่วยท่ี 8 1 ชุด ขน้ั สรา้ งความสนใจ/ขั้นขยายความรู้ 2. เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ 10. การวัดผลและประเมินผล เป้าหมาย หลกั ฐานการเรียนรู้ วธิ ีวัด เครอ่ื งมือวัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ช้ินงาน/ภาระงาน เกณฑ์การให้ ตรวจแบบ แบบประเมินผลการ การสรา้ งสารบัญและการอา้ งองิ ใบงาน ประเมินผลการ เรยี นรู้ และแบบฝกึ คะแนน เรียนรู้ แบบฝึก ปฏิบัติ ปฏิบัติ แบบประเมนิ ผลการ เรียนรมู้ เี กณฑผ์ ่าน และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 50%

ผังมโนทศั น์ รายวิชาโปรแกรมประมวลผลคา รหสั วชิ า ง31269 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 9 เรอื่ ง การสร้างจดหมายเวียนและการส่งั พิมพ์ จานวน 8 ช่วั โมง : 10 คะแนน หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 9 เร่อื ง การสรา้ งจดหมายเวยี นและการส่ังพิมพ์ จานวน 8 ช่ัวโมง ชือ่ เรื่อง การสร้างจดหมายเวียนและการส่ังพิมพ์ จานวน …8…ช่ัวโมง : …10.. คะแนน

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 9 เรื่อง การสร้างจดหมายเวียนและการสง่ั พมิ พ์ แผนจัดการเรียนรูท้ ี่ 9 เรือ่ ง การสรา้ งจดหมายเวียนและการสง่ั พมิ พ์ รายวชิ าโปรแกรมประมวลผลคา รหัสวิชา ง31269 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2563 นา้ หนกั เวลาเรยี น 1.5 (นน./นก.) เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง/สัปดาห์ เวลาท่ีใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 4 ชวั่ โมง .......................................................................................................................................................... 1. สาระสาคัญ (ความเข้าใจที่คงทน) การพิมพ์เอกสารทางวชิ าการจะมรี ปู แบบและกฎเกณฑข์ องแต่ละหน่วยงานหรอื สถาบัน แตจ่ ะมลี ักษณะ คล้ายกนั การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 มีเคร่ืองมือและคาสัง่ ทสี่ ามารถสร้างเอกสารทางวชิ าการไดอ้ ยา่ ง ครบถว้ น ท้ังยังมคี วามสามารถในการพิมพร์ ปู แบบทางคณิตศาสตร์ การสรา้ งเชิงอรรถ สรา้ งดชั นที ้ายเลม่ และสารบัญ รวมทัง้ พิมพ์เอกสารทางเครอื่ งพิมพ์ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ัดชน้ั ปี/ผลการเรยี นร้/ู เป้าหมายการเรยี นรู้ มาตรฐาน ง ๒.๑ เข้าใจเทคโนโลยีและกระบวนการเทคโนโลยี ออกแบบและสร้างสงิ่ ของเครื่องใช้ หรือวิธีการ ตามกระบวนการเทคโนโลยอี ยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ เลอื กใชเ้ ทคโนโลยใี นทางสรา้ งสรรคต์ อ่ ชีวติ สงั คม ส่ิงแวดลอ้ ม และมสี ่วนร่วมในการจดั การเทคโนโลยีทย่ี ั่งยืน มาตรฐาน ๔.๑ เขา้ ใจ มีทักษะทจ่ี าเป็น มปี ระสบการณ์ เห็นแนวทางในงานอาชีพ ใชเ้ ทคโนโลยี เพอ่ื พัฒนาอาชีพ มีคณุ ธรรม และมเี จตคติทดี่ ีต่ออาชีพ ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้ 41. ประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Word 2010 42. ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของโปรแกรม Microsoft Word 2010 43. การสรา้ ง การเปดิ ปิด และบันทกึ เอกสาร 44. การกาหนดค่าเรมิ่ ตน้ ในการใชโ้ ปรแกรม 45. การจดั รปู แบบย่อหน้าและการกนั้ หน้า 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 เน้ือหาสาระหลัก : Knowledge 6. การสร้างสมการทางคณติ ศาสตร์ 7. การพมิ พเ์ อกสารออกทางเครอื่ งพมิ พ์ 3.2 ทักษะ/กระบวนการ : Process สามารถเข้าสโู่ ปรแกรม Microsoft Word 2010 ได้ 3.3 คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude ซ่อื สตั ย์ มีวินยั ใฝเุ รยี นรู้ มงุ่ มัน้ ในการทางาน 4. สมรรถนะสาคญั ของนักเรียน 4.2 ความสามารถในการคดิ

4.3 ความสามารถในการแก้ปญั หา - ความรอบคอบ 4.5 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลักษณะของวิชา - ความมีวนิ ยั - ความรับผดิ ชอบ - มนษุ ยสัมพันธ์ - ขยันหมน่ั เพียร 6. คุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซอื่ สตั ยส์ ุจริต 3. มวี นิ ยั 4. ใฝุเรียนรู้ 5. อยู่อยา่ งพอเพยี ง 6. มงุ่ มั่นในการทางาน 7. รักความเป็นไทย 8. มีจิตสาธารณะ 7. ชิ้นงาน/ภาระงาน : - แบบประเมินผลหลงั เรียนหนว่ ยที่ 1 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ข้นั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1.ครสู นทนากบั ผเู้ รยี นเก่ียวกับสมการทางคณติ ศาสตร์ (Equation) คอื การแทนการคานวณโดยมี สัญลกั ษณท์ างคณิตศาสตร์ สาหรบั งานเอกสารบางประเภท อาจจาเป็นตอ้ งใส่สมการทางคณิตศาสตร์ดว้ ย ซึง่ โปรแกรม Microsoft Word 2010 มปี มุ คาสั่งสรา้ งสมการทางคณิตศาสตรเ์ พ่อื ช่วยในการพมิ พ์ 2.ครูและผเู้ รียนยกตวั อย่างสมการทางคณติ ศาสตร์ (Equation) ที่เคยศกึ ษามาบ้างแล้ว เพ่อื ใชเ้ ปน็ ตัวอยา่ งในการนาเขา้ สู่ หรอื เชื่อมโยงเน้ือหาของสปั ดาห์น้ี ขัน้ สอน 3.ครูอธบิ ายและสาธติ การสรา้ งสมการทางคณิตศาสตร์ โดยใหผ้ ู้เรียนฝกึ ทักษะปฏิบตั ติ ามซง่ึ มีข้ันตอนดังนี้ 1) เลอื่ นเคอร์เซอรไ์ ปยงั ตาแหนง่ ท่ตี อ้ งการพิมพ์สมการ 2) คลกิ ปมุ คาส่ัง สมการ (Equation) บนรบิ บอนแทรก (Insert) เลือกรปู แบบสมการท่ีตอ้ งการพิมพ์ หรอื

3) พมิ พส์ มการเพมิ่ จากตวั อยา่ งทีม่ ใี ห้โดยเล่ือนเมาสไ์ ปคลิกทค่ี าสงั่ Insert New Equation จะปรากฏรบิ บอน ออกแบบ (Design) ขึ้นมาเพือ่ ใหเ้ รานาสญั ลักษณ์ต่างๆ มาแทรกในสมการท่เี ราจะสรา้ งขึ้น 4) พมิ พส์ มการลงในเอกสารบริเวณกล่องขอ้ ความท่ปี รากฏข้นึ 5) เมอ่ื พมิ พส์ มการเรยี บร้อยแล้วให้เราคลกิ เมาส์บรเิ วณนอกกล่องขอ้ ความ 6) จะได้สมการทางคณิตศาสตร์ท่เี ราสร้างขึ้นบนเอกสาร รปู แบบการพิมพส์ มการทางคณิตศาสตร์ ซงึ่ ในเบอื้ งตน้ แบ่งเป็นหมวดหมูจ่ ะยกตัวอยา่ งวธิ ีการพมิ พต์ ัวเลขคณิตศาสตร์ เฉพาะเศษสว่ น 4.ครูและผู้เรยี นสาธิตการพิมพเ์ อกสารออกทางเครือ่ งพมิ พ์ เมอ่ื ไดจ้ ดั พมิ พเ์ อกสารเสร็จเรยี บร้อยแลว้ การพมิ พ์ เอกสารโดยใชเ้ คร่ืองพมิ พ์ (Printer) โดยใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word 2010 มีขัน้ ตอนดังต่อไปน้ี 1) คลิกท่ีเมนู File แล้วคลกิ เลอื กท่ี Print 2) จะมีรูปแบบและการกาหนดคา่ ต่างๆ ในการพมิ พ์ต่างๆ ดังน้ี พมิ พ์สาเนา 5 ชุด แสดงรายชอ่ื เครื่องพมิ พ์

6.ผู้เรียนฝึกทกั ษะพิมพส์ มการคณติ ศาสตร์ต่อไปนี้ 7.ผ้เู รยี นพิมพส์ มการคณติ ศาสตรต์ ่อไปนี้ 8.ผเู้ รยี นพิมพ์สมการคณิตศาสตรต์ อ่ ไปน้ี โดยหาค่าเศษ Dx โดยการนาคา่ คงที่ e และ f ไปแทนในหลกั ท่ี 1 เพอ่ื นาไปหาคา่ x 9.ครูเนน้ ให้ผ้เู รียนพมิ พง์ านตา่ งๆ ด้วยความรอบคอบ ระมดั ระวงั ขอ้ ผิดพลาดจากการพมิ พ์ หรอื การใช้สูตรทาง คณติ ศาสตร์ ทัง้ นี้เพ่ือฝึกทกั ษะความชานาญใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติได้จรงิ และสง่ เสรมิ เพอ่ื นาไปประกอบวิชาชีพ เพ่อื เปน็ การ สรา้ งภูมคิ ุ้มกันท่ีดีในตวั เอง ข้นั สรุปและการประยกุ ต์ 10.ครูและผู้เรียนสรุปโดยการฝึกทักษะปฏิบัติการสร้างสมการทางคณิตศาสตร์ และการพิมพ์เอกสารออกทาง เคร่ืองพมิ พ์ เพือ่ ใหส้ ามารถนาไปใชไ้ ด้จรงิ 11.ครูส่มุ ถามตอบผูเ้ รียนเก่ยี วกบั การสร้างสมการทางคณติ ศาสตร์ และการพิมพ์เอกสารออกทางเครอ่ื งพิมพ์ 12.ผู้เรยี นทาแบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏิบตั ิ และประเมนิ ตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอง รวมท้ัง กจิ กรรมการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ ชอ่ื ผู้เรยี น ธรรมชาตขิ องผเู้ รียน วิธีการเรียนรู้ ความสนใจ สตปิ ัญญา วุฒภิ าวะ 1. 2. 3. 4. 5.

แบบประเมนิ ผลประสบการณ์พ้ืนฐานการเรียนรู้ ชือ่ ผเู้ รยี น ประสบการณ์พื้นฐานการเรียนรู้ วิธีการเรยี นรู้ ความรู้ ทักษะ ผลงาน 1. 2. 3. 4. 5. 9. ส่อื การเรยี นการสอน / แหล่งเรียนรู้ จานวน สภาพการใชส้ ่อื รายการสื่อ 1 ชดุ ขั้นขยายความรู้ 1. แบบประเมินผลหลงั เรียนหน่วยที่ 9 1 ชุด ข้ันสรา้ งความสนใจ/ขนั้ ขยายความรู้ 2. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 10. การวดั ผลและประเมินผล เปา้ หมาย หลกั ฐานการเรียนรู้ วิธวี ัด เคร่ืองมือวัดฯ ประเด็น/ การเรยี นรู้ ชน้ิ งาน/ภาระงาน เกณฑก์ ารให้ ตรวจแบบ แบบประเมินผลการ กาสรา้ งจดหมายเวียนและการสงั่ พมิ พ์ ใบงาน ประเมินผลการ เรียนรู้ และแบบฝกึ คะแนน เรยี นรู้ แบบฝกึ ปฏบิ ัติ ปฏบิ ัติ แบบประเมินผลการ เรยี นรู้มีเกณฑผ์ ่าน และแบบฝึกปฏบิ ตั ิ 50%


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook