หลักสตู รทวศิ กึ ษาโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พุทธศกั ราช 2558 (ปรบั ปรุง 2561) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ ตามหลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวชิ าช่างเชื่อมโลหะ สาขางานผลิตภัณฑ์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ ตาบลดอนแกว้ อาเภอแมร่ มิ จังหวดั เชยี งใหม่ สานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
คำนำ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 เป็นหลักสูตรท่ีพัฒนาข้ึนให้สอดคล้องกับ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ.2551 และความเจริญก้าวหน้า ทางเทคโนโลยี เพ่ือผลิตกาลังคนระดับฝีมือที่มีสมรรถนะวิชาชีพ มีคุณธรรมจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถนาไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ตรงตามความต้องการของตลาดแรงงานในลักษณะผู้ปฏิบัติหรือ ประกอบอาชีพอิสระได้ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษาแห่งชาติ โดย เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกระบบและวิธีการเรียนได้อย่างเหมาะสมตามศักยภาพตามความสนใจและโอกาสของตน สง่ เสริมให้มกี ารประสานความร่วมมือเพื่อจดั การศึกษาระบบทวศิ ึกษา และพัฒนาหลักสูตรร่วมกันระหว่างสถาบัน สถานศกึ ษา หนว่ ยงาน สถานประกอบการ และองค์กรต่างๆ ทง้ั ในระดบั ชมุ ชน ระดบั ท้องถนิ่ และระดบั ชาติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เป็นโรงเรียนสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ได้จัดการศึกษา เพ่ือการมีงานทาตามนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาของกระทรวงศึกษาธิการและ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ตามแนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาของสานักบริหารงาน การศึกษาพิเศษ คือการจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ระบบทวิศึกษา โดยความร่วมมือ ของโรงเรียนกับวิทยาลัยเทคนิคสารภี ซ่ึงนักเรียนจะเรียนหมวดวิชาชีพ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 และเรียนวชิ ารายวิชาพน้ื ฐาน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสตู รทวิศึกษาโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ พุทธศักราช 2558 (ปรับปรุง 2561) ตามหลกั สูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ประเภท วิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเช่ือมโลหะ สาขางานผลิตภัณฑ์ เป็นหลักสูตรทจ่ี ัดทาขนึ้ เพอ่ื ใช้ในการจัดการเรียน การสอนสาหรับนักเรียนท่ีเลือกเรียนระบบทวิศึกษา ซึ่งเม่ือเรียนจบหลักสูตรแล้วนักเรียนจะได้วุฒิการศึกษา 2 วุฒิ คือ หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภท วิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ สาขางานผลิตภัณฑ์ เร่ิมต้ังแต่ปีการศึกษา 2558 ประกอบด้วย สาระสาคัญท่ีจาเป็นสาหรับครูผู้สอน ได้แก่ หลักการของหลักสูตร จุดมุ่งหมายของหลักสูตร หลักเกณฑ์การใช้ หลักสูตร โครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเช่ือมโลหะ สาขา งานผลติ ภณั ฑ์ และคาอธิบายรายวิชา ขอขอบคุณคณะกรรมการดาเนินการตามโครงการพัฒนาหลกั สูตรวิชาชีพเพ่อื การมงี านทา ทีไ่ ดจ้ ัดให้มี การประชุมปฏิบัติการพัฒนาหลักสูตรทวิศึกษาของสถานศึกษา สังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ส่งผลให้ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ได้มีโอกาสทบทวนหลักสูตรทวิศึกษาโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ พุทธศักราช 2556 (ปรับปรุง 2561) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสูตรท่ีเกี่ยวข้องกับการสนองต่อนโยบายการจัด การศึกษาเพอื่ การมีงานทา โรงเรียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรนี้จะเป็นประโยชน์สาหรับครูผู้สอนในการจัดการศึกษาระบทวิศึกษา ของโรงเรียน โดยคานึงถึงกลุ่มเปา้ หมายคือนักเรยี นโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ท่ีเลือกเรียนหลักสูตรทวศิ ึกษา ให้มีทกั ษะในการดาเนินชวี ิตทด่ี ี มีความพรอ้ มตอ่ การเปล่ียนแปลงของสังคมและอย่รู ่วมกับสังคมได้อยา่ งปกติสขุ สุมนต์ มอนไข่ ผอู้ านวยการโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชยี งใหม่
สำรบญั หนา้ ปกใน................................ ประกาศโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ เร่ือง ให้ใชห้ ลักสตู รโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ พุทธศกั ราช 2561 ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พชั ื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551.................................. คานา…………………………… สารบญั ............................. บทนา............................... 1 ทิศทางการพัฒนาการศึกษาของโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ระยะท่ี 5 ปี (2560-2564) ปรชั ญา อตั ลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ วสิ ยั ทศั น์ พันธกจิ เป้าประสงค์.................................................................. 4 หลกั การของหลักสตู รโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ พุทธศกั ราช 2561 สมรรถนะของผู้เรียน............. 5 หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศักราช 2556 หลักการของหลักสตู ร จดุ ม่งุ หมายของหลักสตู ร........ 7 หลกั เกณฑก์ ารใช้หลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556 การเรยี นการสอน การจัดการศึกษา โครงสรา้ งของหลักสตู ร การสาเร็จการศึกษาตามหลักสูตร........................................................................... 8 หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศักราช 2556 ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ สาขางานผลิตภัณฑ์ จดุ ประสงคส์ าขาวิชา มาตรฐานการศกึ ษาวิชาชีพ......................................................... 12 โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนศึกษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พทุ ธศกั ราช 2558 (ปรบั ปรงุ 2561) ตามหลกั สตู ร ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556 ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ สาขางานผลิตภณั ฑ์................................................................................................................................................... 14 คาอธบิ ายรายวชิ า หลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศักราช 2556 18 1. หมวดวชิ าทักษะชวี ติ ................................................................................................................................. 18 21 1.1 กลมุ่ วิชาภาษาไทย............................................................................................................. 26 1.2 กล่มุ วชิ าภาษาต่างประเทศ................................................................................................ 29 1.3 กล่มุ วิชาวทิ ยาศาสตร.์ ....................................................................................................... 32 1.4 กลมุ่ วชิ าคณติ ศาสตร์........................................................................................................ 35 1.5 กลมุ่ วิชาสังคมศกึ ษา......................................................................................................... 38 1.6 กลมุ่ วิชาสุขศึกษาและพลศกึ ษา........................................................................................ 38 2. หมวดวชิ าทกั ษะวิชาชพี .......................................................................................................................... 48 2.1 กลมุ่ ทักษะวิชาพืน้ ฐาน..................................................................................................... 61 2.2 กลมุ่ ทักษะวิชาชพี เฉพาะ................................................................................................. 73 2.3 กลมุ่ ทักษะวชิ าชีพเลอื ก.................................................................................................... 74 2.4 ฝกึ ประสบการณ์ทักษะวิชาชีพ......................................................................................... 75 2.5 โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชพี ........................................................................................... 82 3. หมวดวิชาเลอื กเสรี.................................................................................................................................. 4. กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร..............................................................................................................................
สำรบัญ หนา้ ภาคผนวก 85 - โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่ ประเภทวชิ าอตุ สาหกรรม สาขาวิชาชา่ งเชอื่ มโลหะ สาขางานผลิตภัณฑ.์ ........................................................................................................................... ............ 86 - แบบสรุปรายวิชาทขี่ อเทียบโอนผลการเรยี นรายวิชา ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม สาขาวชิ าช่างเช่ือมโลหะ สาขางานผลิตภณั ฑ.์ ............................................................................................................................ ............ 89 - คาส่ังโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ที่ 20/2561 เร่ือง แตง่ ตัง้ คณะทางานปรับปรงุ หลักสูตรทวิศึกษา ฉบบั ปรบั ปรงุ 2561............................................................................................................................. ........... 94
1 บทนำ การก้าวสู่การเป็นประชาคมอาเซียน และการเข้าสู่ศตวรรษท่ี 21 Thailand 4.0 ในปีพุทธศักราช 2561 ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ต้องเร่งดาเนินการเตรยี มความพร้อมให้นักเรียนมีสมรรถนะที่จะดารงชวี ิต ประกอบ อาชีพและแข่งขันในเวทีโลก โดยผ่านการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ที่จาเป็นต้องมีการปรับ ทง้ั เป้าหมายและกระบวนการในการเตรยี ม การพัฒนาผู้เรียนท่มี งุ่ ให้เกดิ สมรรถนะสาคญั และคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ตามหลักสูตรแล้ว ยังมุ่งเตรียมเยาวชนให้ตระหนักรู้เกี่ยวกับความถนัด และศักยภาพของตนเอง สามารถมองเห็น ภาพอนาคตเก่ียวอาชีพของตนเองได้ โดยผู้เรียนควรได้รับการจัดเตรียมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึง การศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อเชื่อมต่อระดับอุดมศึกษา ตามนโยบายการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพื่อการมีงานทาตามยุทธศาสตร์ 2555 จากนโยบาย ยุทธศาสตร์ และทิศทางการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพื้นฐาน ไดก้ าหนดแนวทางในการดาเนินการโดยให้นาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทักษะท่ีจาเป็น สมรรถนะ สาคญั ทสี่ ง่ ผลตอ่ การประกอบอาชพี สอดแทรกในการจดั การศึกษาทกุ ระดับ ดังนี้ ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 มุ่งเน้นการเรียนการสอนให้นักเรียนได้ทาความรู้จัก และเห็นความ แตกต่างของหน้าท่ี วิธีการทางานและอาชีพต่างๆ ได้ ซ่ึงเป็นการสร้างความตระหนักในอาชีพที่มีผลต่อคุณภาพชีวิต ระดับชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4-6 มุ่งเน้นให้นักเรียนเห็นถึงความสาคัญของระบบสังคม สร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนักในอาชีพท่ีมีผลต่อคุณภาพชีวิต ระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ การยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลท้ังด้านความสนใจ ความสามารถ ทัศนคติ และการให้คุณค่าการประกอบอาชีพ ของคนในสังคม เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนรูจ้ ักตนเองมากขึ้น ให้นกั เรยี นไดร้ ับประสบการณ์จริงในการฝึกปฏิบัติการทางาน ร่วมกับการประเมินหรือสารวจตนเอง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 มุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนท่ีเป็นการ เตรยี มการด้านทฤษฏีและทักษะไปสกู่ ารเตรียมอาชีพ สาหรับการปลูกฝังคุณลักษณะเพื่อการทาอาชีพ เป็นส่ิงสาคัญอีกประการหน่ึงที่จะต้องเกิดกับนักเรียน ท้ังนี้ในชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1-3 มุ่งเน้นการปลูกฝังคุณลักษณะเพื่อการทาอาชีพเบ้ืองต้น ได้แก่ มีวินัย ความ รับผิดชอบ อดทน และคิดวิเคราะห์ ทางานร่วมกับผู้อ่ืนได้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 มุ่งเน้นการปลูกฝังคุณลักษณะเพ่ือ การทาอาชีพเบ้ืองต้น กล้าเผชิญปัญหา คิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 มุ่งเน้นการปลูกฝัง คุณลกั ษณะเพ่ือการทาอาชพี เบื้องต้น สามารถแก้ปัญหาอยา่ งมีเหตผุ ล ตดั สินใจเลือกจัดระบบการทางานเพ่ืออาชีพ และทางานรว่ มกบั ผูอ้ ื่นได้อย่างสรา้ งสรรค์ และระดับช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 มุ่งเนน้ การปลกู ฝังคุณลักษณะเพื่อการ ทาอาชีพเบื้องต้น สามารถแก้ปญั หาอย่างมีเหตุผล การตัดสนิ ใจเลือกจัดระบบการทางานเพื่ออาชีพ การสร้างสรรค์ งานดว้ ยตนเอง และทางานรว่ มกับผูอ้ ่ืนได้ จะเห็นได้ว่านโยบายการศึกษาข้ันพื้นฐานเพื่อการมีงานทา ของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นส่วนหน่ึงของเจตนารมณ์และเป้าหมายของการศึกษาสาหรับเยาวชนไทย การให้ความรู้ความเข้าใจในการจัด การศกึ ษาเพอ่ื การมีงานทาในทุกระดบั ชั้นจงึ มคี วามจาเป็น เพ่อื การพฒั นาประเทศ
2 เพื่อให้การจัดการศึกษาตามนโยบายดังกล่าวบรรลุผล สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษจึงได้ จัดการศึกษา เพื่อการมีงานทาโดยดาเนินงานสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน มีผลงานเชิงประจักษ์สู่สาธารณชนอย่างต่อเน่ือง จนสามารถกาหนด เป็นแนวทางให้สถานศึกษาได้จัดการศกึ ษาเพื่อการมีงานทาสาหรับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนการศึกษาพิเศษ ซ่งึ เป็นการจัดการศึกษาให้นกั เรียนได้ เรียนรรู้ ายวิชาพน้ื ฐานตามมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรเพื่อการศึกษาต่อ ได้เรียนรู้ฝึกฝนให้มีความรู้และเจตคติอันดีที่จะนาไปสู่การตัดสินใจเลือกประกอบ อาชีพในอนาคต ในปีการศึกษา 2555 สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษจึงได้จัดทาแนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาในโรงเรียนโดยมีแนวทางการจัดการศึกษา เพื่อการมีงานทา 4 แนวทาง ไดแ้ ก่ แนวทำงท่ี 1 กำรจัดรำยวชิ ำเพมิ่ เติมในแผนกำรเรียนวชิ ำสำมญั การจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา โดยการจัดรายวิชาเพ่ิมเติมในแผนการเรียนวิชาสามัญ เป็นวิธีการ จัดประสบการณ์การเรียนรู้ด้านอาชีพ โดยการเพ่ิมเติมรายวิชาด้านอาชีพในสาระเพ่ิมเติมตามระดับช้ัน ในโครงสร้าง หลักสูตรสถานศึกษา ซ่ึงสามารถจดั ได้หลากหลายวชิ าตามความพร้อมของสถานศกึ ษาและความสนใจของนกั เรยี น แนวทำงท่ี 2 กำรจัดกำรศกึ ษำในรปู แบบทวภิ ำคี การจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทา โดยการจัดการศึกษาในรูปแบบทวิภาคี เป็นวิธีการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้ด้านอาชีพ โดยเพ่ิมรายวิชาชีพในสาระเพ่ิมเติมในระดับมัธยมศึกษาและปรับสัดส่วนเวลาเรียนให้ ภาคปฏบิ ัติมากกว่าทฤษฎี ท้ังน้ีให้จัดทาข้อตกลงกับสถานประกอบการเก่ียวกับการฝกึ ประสบการณ์การเรียนรแู้ ละ การทางานดา้ นอาชพี แนวทำงที่ 3 กำรจดั กำรศกึ ษำเพ่ือกำรมีงำนทำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ(ปวช.) แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาตามหลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) เป็นวธิ กี ารจัด ประสบการณ์เรียนรู้ด้านอาชีพ โดยความร่วมมือของสถานศึกษา และสถานศึกษาแห่งอื่นที่จัดการศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ซ่ึงนักเรียนจะเรียนหมวดวิชาชีพตามหลักสูตรวิชาชีพจากสถานศึกษาแห่งอ่ืน และ เรียนวิชาสามัญ ในสถานศึกษาเม่ือสาเร็จการศึกษาแล้ว ได้รับวุฒิการศึกษาจากสถานศึกษาและหรือวุฒิการศึกษา ประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) จากสถานศึกษาแห่งอ่ืน แนวทำงท่ี 4 กำรจัดรำยวิชำอำชีพระยะสั้น แนวทางการจัดการศึกษาเพ่ือการมีงานทาโดยการจัดรายวิชาอาชีพระยะส้ัน เป็นการจัดการเรียนรู้ ใหก้ ับนักเรียนนอกเหนือจากการเรียนการสอนตามโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา เพ่อื มุ่งพัฒนาทักษะกระบวนการ ดา้ นการประกอบอาชีพ มีลักษณะการเรยี นทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ เพ่ือฝึกทักษะและกระบวนการประกอบ อาชีพ โดยมีความยืดหยุ่นด้านเน้ือหา ระยะเวลาเรียน และสถานท่ี ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละ สถานศึกษา เนื่องด้วยโรงเรียนในสังกัดสานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จัดการศึกษาในลักษณะการอยู่ประจา นกั เรยี นมีความหลากหลายทง้ั ด้านความรู้ ความสามารถ มเี วลาว่างหลังจากการเรียนตามหลักสูตรปกติ
3 แนวทางทงั้ 4 แนวทางน้ี ไดน้ าไปใช้ในโรงเรยี นสังกัดสานกั บริหารงานการศึกษาพเิ ศษ ในปกี ารศกึ ษา 2561 ท้ังนี้การนาแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทาสู่การปฏิบัติในระดับโรงเรียนในแต่ละแนวทางนั้น โรงเรียน จะต้องศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพพื้นท่ีโรงเรียน สารวจวิเคราะห์บริบทความต้องการจาเป็นของท้องถิ่น ศึกษา วิเคราะห์ ทิศทางโลกอาชีพในอนาคตตรวจสอบความพร้อมของโรงเรียนอย่างรอบคอบในด้านบุคลากรสถานบันพี่ เลี้ยงสถานประกอบการ สภาพพ้ืนท่ี ส่ือ อปุ กรณ์ ส่ิงอานวยความสะดวกตา่ งๆ ที่เก่ียวข้องกับการจดั การศกึ ษาตาม หลักสตู รตามแนวทางต่างๆ โดยการมสี ว่ นร่วมของครแู ละผทู้ ่ีเกีย่ วขอ้ งทุกฝา่ ย โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ได้แสวงหาแนวทางในการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนสาหรับ ในการ ก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และการเข้าสู่ศตวรรษท่ี 21 Thailand 4.0 โดยเฉพาะอย่างย่ิงในด้านงานอาชีพ และ เข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ โดยยึดแนวทางการจัดการศึกษาตามรูปแบบท่ีสานักบริหารงานการศึกษา พิเศษกาหนดไว้ในเร่ืองการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทา จากการศึกษา วิเคราะห์ศักยภาพพ้ืนที่โรงเรียน สารวจ วิเคราะห์บริบทความต้องการจาเป็นของท้องถ่ิน ศึกษา วิเคราะห์ ทิศทางโลกอาชีพในอนาคต ตรวจสอบความ พร้อมของโรงเรยี นอย่างรอบคอบในด้านบุคลากร สถานบันพ่ีเล้ียง สถานประกอบการ สภาพพื้นท่ี ส่ือ อุปกรณ์ ส่ิง อานวยความสะดวกต่างๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ( ปวช.) โดยการมี สว่ นรว่ มของครทู ่ีเกีย่ วข้องทุกฝา่ ย ผลการวิเคราะห์สรุปได้ว่า โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ มีความพร้อมในการเปิดสอนหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ( ปวช.) 4 สาขาวิชา ได้แก่ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาชาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาชาวิชาการบัญชี ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สาขาวิชาการโรงแรม และ ประเภทวิชาช่างอุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างเช่ือมโลหะ ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2556 ในลักษณะการเทียบโอนรายวิชา โดยมีวทิ ยาลัยเทคนิคสารภี ซ่ึงต้ังอยใู่ นเขตอาเภอสารภี จังหวดั เชียงใหม่ เป็นสถาบัน พี่เล้ียง โดยได้เริ่มเปิดทาการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 จนถึงปีปัจจุบัน ทั้งนี้ โรงเรียนได้ทาบันทึกตกลงความร่วมมือ เมื่อวนั ท่ี 15 พฤษภาคม 2556 โดยผอู้ านวยการวิทยาลยั เทคนิคสารภกี ับผู้อานวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ลักษณะการจัดการศึกษาสาหรับนักเรียนที่เรียนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพนั้น โรงเรียนจัดให้ นักเรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ส่วนรายวิชาเพ่ิมเติม จัดใหน้ กั เรยี นเรียนตามหลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชพี ของสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา พุทธศกั ราช 2556 เม่ือเรียนครบ 3 ปี นาเอารายวิชาที่เรียนมาเทียบโอนเป็นหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามสาขาท่ีเรียนมานั้น และนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะต้องลงทะเบียนเป็นนักเรียนของสถาบันพี่เลี้ยง โดยจะต้องเรียนครบตาม โครงสร้างหลักสูตรของสานักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา พุทธศักราช 2556 ดังน้ันการเรียนตามรูปแบบนี้ นักเรยี นจะได้วฒุ ิการศกึ ษา 2 วุฒิ คอื วฒุ กิ ารศึกษาชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 และ วฒุ ิการศึกษาประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.) การจัดการเรียนการสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพในโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์เชียงใหม่ ได้ดาเนินการ สอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ 2555 ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท้งั น้ีเพ่ือให้การศกึ ษาเช่ือมโยงและส่งเสริมสนับสนุน การพัฒนาคุณภาพเศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน ดังน้ันการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานเพ่ือการ ประกอบอาชีพจึงเป็นท้ังเป้าหมาย วิธีการ และผลลัพธ์ที่คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งหวังให้เกิดจริง ในการจัด การศึกษาของทุกโรงเรียน ช่วยเตรียมนักเรียนให้มีความพร้อมในการทางานเมื่อจบมัธยมศึกษาตอนปลาย รวมท้ังพัฒนา ผ้เู รียนให้รูเ้ ท่าทนั และพรอ้ มเผชญิ กับการเปลี่ยนแปลงของสงั คม ยุคโลกาภิวัตน์ โดยเฉพาะการพัฒนาค่านิยม การคิดทเ่ี ป็น เหตุเป็นผล การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เข้มแข็ง สั่งสมความรู้ และทักษะที่จาเป็นในการทางานตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง
4 หลักสูตรโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชยี งใหม่ พุทธศักราช 2561 ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ตามหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวิชาชพี พุทธศักราช 2556 สานกั งานคณะกรรมการอาชีวศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ทิศทางการพัฒนาการศกึ ษาของโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห์เชยี งใหม่ ระยะที่ 5 ปี (2560-2564) ได้จัดทำข้ึนเพ่ือให้เด็กด้อยโอกำสได้รับกำรศึกษำอย่ำงเท่ำเทียมกับเด็กปกติทั่วไป และมีควำมเป็น อัตลักษณ์ ในกำรพฒั นำจดั กำรศึกษำสำหรบั เด็กด้อยโอกำสโดยสอดคล้องกบั นโยบำยและยทุ ธศำสตร์ดำ้ นกำรเพ่ิมโอกำสทำงกำรศึกษำ และกำรเรียนรู้ของคนไทย และแผนพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำสงเครำะห์ สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน กระทรวงศึกษำธิกำร จึงได้กำหนดปรัชญำ อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้ำประสงค์ กลยุทธ์ มำตรกำรและ เปำ้ หมำยกำรพัฒนำ ดังต่อไปนี้ ปรัชญา “ควำมรู้ คู่คุณธรรม นำอำชีพ” อัตลักษณ์ “ทำอำชีพเปน็ เด่นกีฬำ” เอกลกั ษณ์ “อำชีพหลำกหลำย สรำ้ งรำยไดร้ ะหวำ่ งเรยี น” วสิ ัยทัศน์ “เป็นสถำนศึกษำท่ีมุ่งพัฒนำผู้เรียนให้มีควำมรู้คู่คุณธรรมมีทักษะกำรดำรงชีวิตมีควำมสุขในสังคมภำยใต้ หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง” พันธกจิ 1. ยกระดับคุณภำพกำรศึกษำของผู้เรียนให้มีควำมรู้ มคี ุณธรรม มีทักษะกำรดำรงชวี ิตอย่ำงยง่ั ยืนตำมหลัก ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. พฒั นำครแู ละบคุ ลำกรทำงกำรศึกษำให้เป็นครมู ืออำชพี ในกำรจดั กำรศกึ ษำอยำ่ งมปี ระสิทธิภำพ 3. พฒั นำระบบบริหำรจัดกำรกำรศกึ ษำตำมหลักธรรมำภบิ ำล 4. พฒั นำอำคำรสถำนทีแ่ ละสิ่งอำนวยสะดวกให้เอ้ือตอ่ กำรจัดกำรเรียนรู้และควำมเปน็ อยู่ของนักเรียนประจำ เปา้ ประสงค์ ผู้เรียนได้รับกำรพัฒนำมีควำมรู้ คู่คุณธรรมมีทักษะกำรดำรงชีวิตมีควำมสุขในสังคมตำมหลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง กลยทุ ธท์ ่ี 1 พัฒนำหลกั สูตรสถำนศกึ ษำกระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้กำรวดั และประเมนิ ผลเพ่อื พัฒนำ ศักยภำพของผ้เู รยี น กลยุทธ์ที่ 2 ส่งเสริมพัฒนำคุณธรรม จริยธรรม และทักษะกำรดำรงชีวิตภำยใต้หลักปรัชญำของ เศรษฐกจิ พอเพยี ง กลยทุ ธ์ที่ 3 พฒั นำครูและบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำใหเ้ ป็นครมู อื อำชีพในกำรจัดกำรศึกษำอยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนำระบบบรหิ ำรจดั กำรและส่งเสรมิ ให้ทกุ ภำคส่วนมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำ กลยุทธท์ ่ี 5 พฒั นำแหล่งเรยี นรู้ และกำรจดั บรรยำกำศส่งิ แวดลอ้ มในสถำนศึกษำใหเ้ อือ้ ต่อกำรเรยี นรู้
5 หลกั การของหลักสตู รโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่ หลักสูตรโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พทุ ธศักรำช 2561 มีหลกั กำรที่สำคญั ดังนี้ 1. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำเพ่ือควำมเป็นเอกภำพของชำติ มีจุดมุ่งหมำยและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ เป็น เป้ำหมำยสำหรับพัฒนำเด็กและเยำวชนให้มีควำมรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพื้นฐำนของควำมเป็นไทย ควบคกู่ บั ควำมเปน็ สำกล 2. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำเพ่ือปวงชน ทป่ี ระชำชนทุกคนมโี อกำสไดร้ บั กำรศึกษำอย่ำงเสมอภำคและมี คณุ ภำพ 3. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำที่สนองกำรกระจำยอำนำจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในกำรจัดกำรศึกษำให้ สอดคล้องกบั สภำพและควำมต้องกำรของท้องถนิ่ 4. เป็นหลักสูตรกำรศกึ ษำทม่ี ีโครงสร้ำงยืดหยุ่นทง้ั ดำ้ นสำระกำรเรียนรู้ เวลำและกำรจดั กำรเรยี นรู้ 5. เปน็ หลกั สูตรกำรศกึ ษำทีเ่ นน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั 6. เป็นหลักสูตรกำรศึกษำสำหรับกำรศึกษำในระบบ นอกระบบ และตำมอัธยำศัย ครอบคลุมทุก กลมุ่ เปำ้ หมำย สำมำรถเทยี บโอนผลกำรเรียนรู้ และประสบกำรณ์ จุดมุง่ หมาย หลักสูตรโรงเรยี นศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พทุ ธศักรำช 2561 มุ่งพัฒนำผู้เรียนให้เป็นคนดีมปี ญั ญำ มี ควำมสุข มีศักยภำพในกำรศึกษำต่อ และประกอบอำชีพ จึงกำหนดเป็นจุดหมำย เพ่ือให้เกิดกับผู้เรียนเม่ือจบ กำรศกึ ษำขัน้ พืน้ ฐำน ดังนี้ 1. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่ำนิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่ำของตนเอง มีวินัยและปฏิบัติตนตำม หลักธรรมของพระพุทธศำสนำ หรือศำสนำที่ตนนบั ถอื ยดึ หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. มีควำมรู้อันเป็นสำกลและมีควำมสำมำรถในกำรส่ือสำร กำรคิด กำรแก้ปัญหำ กำรใช้เทคโนโลยี และมีทกั ษะชวี ิต 3. มีสขุ ภำพกำยและสุขภำพจิตทด่ี ี มีสขุ นิสยั และรักกำรออกกำลังกำย 4. มีควำมรักชำติ มีจิตสำนึกในควำมเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดม่ันในวิถีชีวิต และกำรปกครอง ตำมระบอบประชำธิปไตยอันมพี ระมหำกษัตริย์ทรงเปน็ ประมุข 5. มจี ิตสำนึกในกำรอนรุ ักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญำไทย กำรอนุรักษ์และพัฒนำสิ่งแวดลอ้ ม มีจติ สำธำรณะ ที่มุ่งม่นั ทำประโยชนแ์ ละสรำ้ งสิง่ ทีด่ งี ำมในสังคม และอยูร่ ว่ มกนั ในสงั คมอยำ่ งมคี วำมสขุ
6 สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ในกำรพัฒนำผู้เรียนตำมหลกั สูตรโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พุทธศักรำช 2561 มุ่งเน้นพัฒนำ ผู้เรียนให้มีคุณภำพตำมมำตรฐำนที่กำหนด ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญมุ่งให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะ สำคัญ 5 ประกำร ดังน้ี 1. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นควำมสำมำรถในกำรรับและส่งสำร มีวัฒนธรรมในกำรใช้ภำษำ ถ่ำยทอดควำมคิด ควำมรู้ควำมเข้ำใจ ควำมรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่ำวสำรและ ประสบกำรณ์อนั จะเป็นประโยชน์ต่อกำรพัฒนำตนเองและสงั คม รวมท้ังกำรเจรจำต่อรองเพ่ือขจัดและลดปัญหำ ควำมขัดแย้งต่ำงๆ กำรเลือกรับหรือไม่รับข้อมูลข่ำวสำรดว้ ยหลักเหตุผลและควำมถูกต้อง ตลอดจนกำรเลอื กใช้ วิธีกำรส่ือสำร ที่มปี ระสทิ ธภิ ำพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่มตี ่อตนเองและสังคม 2. ความสามารถในการคิด เปน็ ควำมสำมำรถในกำรคิดวเิ ครำะห์ กำรคิดสงั เครำะห์ กำรคดิ อยำ่ งสร้ำงสรรค์ กำรคิดอย่ำงมีวิจำรณญำณ และกำรคิดเป็นระบบ เพ่ือนำไปสกู่ ำรสร้ำงองค์ควำมรู้หรอื สำรสนเทศเพื่อกำรตัดสินใจ เก่ียวกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ย่ำงเหมำะสม 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำและอุปสรรคต่ำงๆ ท่ีเผชิญได้ อย่ำงถูกต้องเหมำะสมบนพื้นฐำนของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสำรสนเทศ เข้ำใจควำมสัมพันธ์และกำร เปลี่ยนแปลงของเหตกุ ำรณ์ต่ำงๆ ในสังคม แสวงหำควำมรู้ ประยุกต์ควำมรู้มำใช้ในกำรป้องกันและแก้ไขปญั หำ และมีกำรตัดสนิ ใจท่มี ปี ระสิทธภิ ำพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทเ่ี กิดขึ้น ตอ่ ตนเอง สังคมและส่งิ แวดลอ้ ม 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นควำมสำมำรถในกำรนำกระบวนกำรต่ำงๆ ไปใช้ในกำร ดำเนินชีวิตประจำวัน กำรเรียนรู้ด้วยตนเอง กำรเรียนรู้อย่ำงต่อเน่ือง กำรทำงำน และกำรอยู่ร่วมกันในสังคม ดว้ ยกำรสร้ำงเสริมควำมสัมพันธ์อันดีระหว่ำงบคุ คล กำรจัดกำรปัญหำและควำมขัดแย้งต่ำงๆ อย่ำงเหมำะสม กำร ปรับตัวให้ทันกบั กำรเปลยี่ นแปลงของสังคมและสภำพแวดล้อม และกำรรู้จกั หลีกเล่ยี งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ทส่ี ่งผลกระทบต่อตนเองและผ้อู ่นื 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นควำมสำมำรถในกำรเลือก และใช้ เทคโนโลยีด้ำนต่ำงๆ และมี ทักษะกระบวนกำรทำงเทคโนโลยี เพ่ือกำรพัฒนำตนเองและสังคม ในด้ำนกำรเรียนรู้ กำรสื่อสำร กำรทำงำน กำร แกป้ ญั หำอยำ่ งสร้ำงสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมำะสม และมคี ุณธรรม คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ หลักสูตรโรงเรียนศึกษำสงเครำะห์เชียงใหม่ พุทธศักรำช 2561 มุ่งพัฒนำผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพ่ือให้สำมำรถอย่รู ่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อยำ่ งมคี วำมสขุ ในฐำนะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้ 1. รกั ชำติ ศำสน์ กษัตรยิ ์ 2. ซอื่ สัตย์สุจริต 3. มีวินยั 4. ใฝเ่ รยี นรู้ 5. อยอู่ ยำ่ งพอเพียง 6. มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน 7. รกั ควำมเปน็ ไทย 8. มจี ิตสำธำรณะ
7 หลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช 2556 หลักการของหลักสูตร 1. เป็นหลักสูตรระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพหลังมัธยมศึกษำตอนต้นหรือเทียบเท่ำด้ำนวิชำชีพท่ี สอดคล้องกับแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติ แผนกำรศึกษำแห่งชำติ และประชำคมอำเซียนเพื่อผลิต และพัฒนำกำลังคนระดับฝีมือให้มีสมรรถนะ มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยำบรรณวชิ ำชีพสำมำรถประกอบ อำชีพได้ตรงตำมควำมตอ้ งกำรของสถำนประกอบกำรและกำรประกอบอำชีพอสิ ระ 2. เป็นหลกั สูตรที่เปิดโอกำสให้เลือกเรียนได้อย่ำงกว้ำงขวำง เน้นสมรรถนะเฉพำะด้ำนด้วยกำรปฏิบัติจริง สำมำรถเลือกวิธีกำรเรียนตำมศักยภำพและโอกำสของผู้เรียน เปิดโอกำสให้ผู้เรียนสำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียน สะสมผลกำรเรียน เทียบควำมรู้และประสบกำรณ์จำกแหล่งวิทยำกำร สถำนประกอบกำรและสถำนประกอบ อำชพี อิสระ 3. เป็นหลักสูตรที่สนับสนุนกำรประสำนควำมร่วมมือในกำรจัดกำรศึกษำร่วมกันระหว่ำงหน่วยงำน และองค์กรที่เกยี่ วขอ้ ง ทงั้ ภำครัฐและเอกชน 4. เป็นหลักสูตรท่ีเปิดโอกำสให้สถำนศึกษำ สถำนประกอบกำร ชุมชนและท้องถิ่น มีส่วนร่วมในกำร พัฒนำหลักสูตรให้ตรงตำมควำมต้องกำรและสอดคล้องกับสภำพยุทธศำสตร์ของภูมิ ภำค เพื่อเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขนั ของประเทศ จดุ หมายของหลกั สูตร 1. เพ่ือให้มีควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์ในงำนอำชีพสอดคล้องกับมำตรฐำนวิชำชีพ สำมำรถนำ ควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์ในงำนอำชีพไปปฏิบัติงำนอำชีพได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ เลือกวิถีกำรดำรงชีวิต กำรประกอบอำชพี ได้อย่ำงเหมำะสมกบั ตน สร้ำงสรรคค์ วำมเจรญิ ต่อชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ และประเทศชำติ 2. เพื่อให้เป็นผู้มีปญั ญำ มีควำมคดิ ริเร่ิมสร้ำงสรรค์ ใฝ่เรยี นรู้ เพ่ือพฒั นำคุณภำพชีวิตและกำรประกอบ อำชีพ สำมำรถสรำ้ งอำชีพ มีทักษะในกำรจดั กำรและพฒั นำอำชีพให้กำ้ วหนำ้ อย่เู สมอ 3. เพ่ือให้มีเจตคติที่ดีต่ออำชีพ มีควำมมั่นใจและภำคภูมิใจในวิชำชีพที่เรียน รักงำน รักหน่วยงำน สำมำรถทำงำนเป็นหมูค่ ณะได้ดี โดยมคี วำมเคำรพในสิทธแิ ละหน้ำท่ีของตนเองและผู้อื่น 4. เพ่ือให้เป็นผมู้ ีพฤตกิ รรมทำงสังคมท่ีดีงำม ทั้งในกำรทำงำน กำรอยู่รว่ มกัน กำรต่อต้ำนควำมรุนแรง และสำรเสพติด มีควำมรับผิดชอบต่อครอบครัว หน่วยงำน ท้องถิ่นและประเทศชำติ อุทิศตนเพ่ือสังคม เข้ำใจ และเหน็ คุณค่ำของศลิ ปวฒั นธรรม ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่นิ มจี ิตสำนึกดำ้ นปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง รจู้ กั ใชแ้ ละอนุรกั ษท์ รพั ยำกรธรรมชำติและสร้ำงสิ่งแวดล้อมทดี่ ี 5. เพ่ือให้มีบคุ ลิกภำพท่ดี ี มมี นุษยสมั พันธ์ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และวนิ ยั ในตนเอง มีสขุ ภำพอนำมัยที่ สมบูรณท์ งั้ ร่ำงกำยและจิตใจ เหมำะสมกบั งำนอำชพี 6. เพื่อให้ตระหนักและมีส่วนร่วมในกำรแก้ไขปัญหำเศรษฐกิจ สังคม กำรเมืองของประเทศและโลกมี ควำมรักชำติ สำนึกในควำมเป็นไทย เสียสละเพ่ือส่วนรวม ดำรงรักษำไว้ซ่ึงควำมมั่นคงของชำติศำสนำ พระมหำกษตั ริย์ และกำรปกครองระบอบประชำธิปไตยอันมีพระมหำกษัตรยิ เ์ ปน็ ประมขุ
8 หลักเกณฑก์ ารใชห้ ลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี พทุ ธศกั ราช 2556 1. การเรียนการสอน 1.1 กำรเรียนกำรสอนตำมหลักสูตรนี้ ผู้เรียนสำมำรถลงทะเบียนเรียนได้ทุกวิธีเรียนท่ีกำหนด และนำผลกำรเรียนแต่ละวิธีมำประเมินผลร่วมกันได้ สำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียน และขอเทียบควำมรู้และ ประสบกำรณไ์ ด้ 1.2 กำรจัดกำรเรียนกำรสอนเน้นกำรปฏิบัติจริง สำมำรถจัดกำรเรียนกำรสอนได้หลำกหลำย รูปแบบ เพ่ือให้ผู้เรียนมีควำมรู้ ควำมเข้ำใจในวิธีกำรและกำรดำเนินงำน มีทักษะกำรปฏิบัติงำนในขอบเขต สำคัญและบริบทต่ำง ๆ ที่สัมพันธ์กันซ่ึงส่วนใหญ่เป็นงำนประจำ สำมำรถประยุกต์ใช้ควำมรู้และทักษะไปสู่ บริบทใหม่ สำมำรถให้คำแนะนำ แก้ปัญหำเฉพำะด้ำนและรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น มีส่วนร่วมใน คณะทำงำนหรือมีกำรประสำนงำนกลุ่ม รวมทั้งมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม จรรยำบรรณวิชำชพี เจตคตแิ ละกิจนสิ ยั ท่ี เหมำะสมในกำรทำงำน 2. การจดั การศึกษาและเวลาเรยี น กำรจัดกำรศึกษำในระบบปกติ ใช้ระยะเวลำ 3 ปกี ำรศึกษำ กำรจดั เวลำเรยี นใหด้ ำเนินกำร ดังนี้ 2.1 ในปกี ำรศึกษำหนึ่งๆ ให้แบ่งภำคเรียนออกเปน็ 2 ภำคเรียนปกตหิ รอื ระบบทวิภำค ภำคเรยี น ละ 18 สัปดำห์ โดยมีเวลำเรียนและจำนวนหน่วยกิตตำมท่ีกำหนด และสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบัน อำจเปดิ สอนภำคเรยี นฤดูรอ้ นได้อีกตำมท่เี ห็นสมควร 2.2 กำรเรียนในระบบชั้นเรียน ให้สถำนศึกษำอำชวี ศึกษำหรือสถำบัน เปิดทำกำรสอนไม่น้อยกว่ำ สปั ดำหล์ ะ 5 วันๆ ละไมเ่ กิน 7 ชัว่ โมง โดยกำหนดให้จดั กำรเรียนกำรสอนคำบละ 60 นำที 3. หน่วยกติ ให้มีจำนวนหน่วยกติ ตลอดหลักสูตรไมน่ ้อยกวำ่ 1 0 3 หน่วยกติ กำรคิดหนว่ ยกิตถือเกณฑ์ดังนี้ 3.1 รำยวิชำทฤษฎที ่ีใชเ้ วลำบรรยำยหรอื อภปิ รำย ไมน่ อ้ ยกว่ำ 18 ชัว่ โมง เทำ่ กบั 1 หน่วยกติ 3.2 รำยวิชำปฏิบัติท่ีใช้เวลำในกำรทดลองหรือฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบตั ิกำร ไม่นอ้ ยกวำ่ 36 ชั่วโมง เทำ่ กบั 1 หน่วยกติ 3.3 รำยวิชำปฏิบัติที่ใช้เวลำในกำรฝึกปฏิบัติในโรงฝึกงำนหรือภำคสนำม ไม่น้อยกว่ำ 54 ช่ัวโมง เท่ำกบั 1 หน่วยกติ 3.4 รำยวิชำท่ใี ช้ในกำรศึกษำระบบทวภิ ำคี ไม่นอ้ ยกว่ำ 54 ชัว่ โมง เทำ่ กับ 1 หน่วยกิต 3.5 กำรฝึกประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพในสถำนประกอบกำรหรือแหล่งวิทยำกำร ไม่น้อยกว่ำ 320 ชั่วโมง เทำ่ กบั 4 หน่วยกติ 3.6 กำรทำโครงกำรพฒั นำทกั ษะวชิ ำชพี ไมน่ อ้ ยกวำ่ 54 ชั่วโมง เท่ำกับ 1 หน่วยกิต
9 4. โครงสรา้ ง โครงสร้ำงของหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 แบ่งเป็น 3 หมวดวิชำ และ กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร ดังนี้ 4.1 หมวดวชิ ำทักษะชวี ิต 4.1.1 กลมุ่ วชิ ำภำษำไทย 4.1.2 กลุ่มวชิ ำภำษำตำ่ งประเทศ 4.1.3 กลมุ่ วชิ ำวิทยำศำสตร์ 4.1.4 กลุ่มวิชำคณิตศำสตร์ 4.1.5 กลุม่ วิชำสังคมศกึ ษำ 4.1.6 กลมุ่ วิชำสุขศกึ ษำและพลศึกษำ 4.2 หมวดวชิ ำทักษะวชิ ำชีพ 4.2.1 กล่มุ ทักษะวิชำชีพพืน้ ฐำน 4.2.2 กล่มุ ทกั ษะวิชำชีพเฉพำะ 4.2.3 กลมุ่ ทกั ษะวิชำชพี เลอื ก 4.2.4 ฝกึ ประสบกำรณท์ ักษะวชิ ำชีพ 4.2.5 โครงกำรพัฒนำทักษะวิชำชพี 4.3 หมวดวิชำเลือกเสรี 4.4 กิจกรรมเสรมิ หลักสตู ร จำนวนหน่วยกติ ของแตล่ ะหมวดวิชำตลอดหลกั สตู ร ใหเ้ ปน็ ไปตำมทกี่ ำหนดไวใ้ นโครงสรำ้ งของแตล่ ะ ประเภทวิชำและสำขำวิชำ รำยวิชำแต่ละหมวดวิชำ สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถจัดตำมที่ กำหนดไว้ในหลักสูตร และหรือพัฒนำได้ตำมควำมเหมำะสมของภูมิภำคตำมยุทธศำสตร์ เพื่อเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ ทง้ั นี้ สถำนศึกษำอำชีวศกึ ษำหรือสถำบันต้องกำหนดรหสั วิชำ จำนวน หนว่ ยกิตและจำนวนชว่ั โมงเรยี นตำมทกี่ ำหนดไวใ้ นหลกั สูตร 5. การฝึกประสบการณ์ทกั ษะวิชาชพี เป็นกำรจัดกระบวนกำรเรียนรู้โดยควำมร่วมมือระหว่ำงสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันกับภำค กำรผลิตและหรือภำคบริกำร หลังจำกที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ภำคทฤษฎีและกำรฝึกหัดหรือฝึกปฏิบัติเบ้ืองต้นใน สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันแล้วระยะเวลำหนึ่ง ท้ังน้ี เพื่อเปิดโอกำสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จำก ประสบกำรณ์จริง ได้สัมผัสกับกำรปฏิบัติงำนอำชีพ เครื่องมือเครื่องจักร อุปกรณ์ท่ีทันสมัยและบรรยำกำศกำร ทำงำนร่วมกัน สง่ เสรมิ กำรฝึกทักษะ กระบวนกำรคิด กำรจัดกำร กำรเผชิญสถำนกำรณ์ซ่ึงจะช่วยให้ผู้เรียนทำ ได้ คิดเป็น ทำเป็นและเกิดกำรใฝ่รู้อย่ำงต่อเน่ือง ตลอดจนเกิดควำมม่ันใจและเจตคติที่ดีในกำรทำงำนและกำร ประกอบอำชีพอิสระ โดยกำรจัดฝึกประสบกำรณท์ กั ษะวิชำชพี ต้องดำเนนิ กำร ดงั นี้ 5.1 สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องจัดให้มีกำรฝึกประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพ ในรูปของ กำรฝึกงำนในสถำนประกอบกำร แหล่งวิทยำกำร รัฐวิสำหกิจหรือหน่วยงำนของรัฐโดยใช้เวลำรวมไม่น้อยกว่ำ 320 ช่ัวโมง กำหนดให้มีค่ำเท่ำกับ 4 หน่วยกิต กรณีสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องกำรเพ่ิมพูน ประสบกำรณ์ทักษะวิชำชีพ สำมำรถนำรำยวิชำในหมวดวิชำทักษะวชิ ำชีพท่ีตรงหรือสมั พันธ์กับลักษณะงำนไป เรียนหรอื ฝึกในสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจหรือหน่วยงำนของรฐั ได้ โดยใช้เวลำรวมกบั กำรฝึกประสบกำรณ์ ทักษะวชิ ำชพี ไม่น้อยกว่ำ 1 ภำคเรยี น 5.2 กำรตดั สินผลกำรเรยี นและใหร้ ะดับผลกำรเรยี น ให้ปฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกับรำยวชิ ำอ่ืน
10 6. โครงการพฒั นาทักษะวชิ าชีพ เป็นรำยวิชำท่ีเปิดโอกำสใหผ้ ู้เรียนได้ศึกษำค้นคว้ำ บูรณำกำรควำมรู้ ทักษะและประสบกำรณ์จำกส่ิง ที่ได้เรียนรู้ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตำมควำมถนัดและควำมสนใจ ตั้งแต่กำรเลือกหัวข้อหรือเรื่องที่จะศึกษำ ค้นคว้ำ กำรวำงแผน กำรกำหนดข้ันตอนกำรดำเนินกำร กำรดำเนนิ งำน กำรประเมินผลและกำรจดั ทำรำยงำน ซ่ึงอำจทำเป็นรำยบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ ท้งั น้ี ขึน้ อยู่กบั ลักษณะของโครงกำรนั้นๆ โดยกำรจัดทำโครงกำรดงั กลำ่ ว ต้องดำเนนิ กำรดงั น้ี 6.1 สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องจัดให้ผู้เรียนจัดทำโครงกำรพัฒนำทักษะวิชำชีพที่ สัมพันธ์หรือสอดคล้องกบั สำขำวิชำ ในภำคเรียนท่ี 5 และหรือภำคเรียนท่ี 6 รวมจำนวน4 หน่วยกิต ใช้เวลำไม่ น้อยกว่ำ 216 ช่ัวโมง ทั้งนี้ สถำนศึกษำอำชวี ศึกษำหรือสถำบนั ต้องจัดใหม้ ีชั่วโมงเรียน 4 ชั่วโมง ตอ่ สัปดำห์ กรณีที่ใช้รำยวิชำเดียว หำกจัดใหม้ ีโครงกำรพัฒนำ ทกั ษะวิชำชพี 2 รำยวชิ ำ คือ โครงกำร 1 และโครงกำร 2 ใหส้ ถำนศึกษำอำชีวศกึ ษำหรือสถำบันจดั ให้มีชั่วโมง เรยี นตอ่ สปั ดำห์ ทเ่ี ทยี บเคยี งกบั เกณฑด์ ังกลำ่ วข้ำงต้น 6.2 กำรตดั สนิ ผลกำรเรยี นและใหร้ ะดบั ผลกำรเรียน ใหป้ ฏิบตั ิเช่นเดียวกับรำยวชิ ำอ่ืน 7. การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นรูปแบบกำรจัดกำรศึกษำท่ีเกิดจำกข้อตกลงร่วมกันระหว่ำงสถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบัน กบั สถำนประกอบกำร รฐั วิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐ โดยผู้เรยี นใชเ้ วลำส่วนหน่ึงในสถำนศึกษำอำชวี ศึกษำ หรือสถำบัน และเรียนภำคปฏิบัติในสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรัฐเพื่อให้กำรจัด กำรศึกษำระบบทวิภำคีสำมำรถเพ่ิมขีดควำมสำมำรถด้ำนกำรผลิตและพัฒนำกำลังคนตำมจุดหมำยของ หลักสูตร กำรจัดกำรศึกษำระบบทวภิ ำคี โดยนำรำยวิชำทวิภำคีในกลุ่มทักษะวชิ ำชีพเลือกไปกำหนดรำยละเอียด ของรำยวิชำและเวลำท่ีใช้ฝึก จัดทำแผนฝึกอำชีพ กำรวัดและกำรประเมินผลในแต่ละรำยวิชำให้สอดคล้องกับ ลักษณะงำนของสถำนประกอบกำร รัฐวิสำหกิจ หรือหน่วยงำนของรฐั ทั้งนี้ อำจนำรำยวิชำชีพอนื่ ในหมวดวิชำ ทกั ษะวิชำชีพไปจดั รว่ มดว้ ยกไ็ ด้ 8. การเข้าเรียน ผู้เข้ำเรียนต้องสำเร็จกำรศึกษำไม่ต่ำกว่ำระดับมัธยมศึกษำปีที่ 3 หรือเทียบเท่ำ และมีคุณสมบัติ เป็นไปตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำและกำรประเมินผลกำรเรียนตำมหลักสูตร ประกำศนียบัตรวิชำชพี พ.ศ. 2556 9. การประเมินผลการเรยี น เน้นกำรประเมินสภำพจรงิ ทง้ั น้ี ให้เป็นไปตำมระเบยี บกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจดั กำรศึกษำ และกำรประเมนิ ผลกำรเรยี นตำมหลักสูตรประกำศนยี บตั รวิชำชีพ พ.ศ. 2556 10. กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร 10.1 สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันต้องจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตรไม่น้อยกว่ำ 2 ช่ัวโมง ตอ่ สัปดำห์ทุกภำคเรียน เพ่ือพัฒนำวิชำกำรและวิชำชีพ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม ระเบียบวินัย กำร ต่อต้ำนควำมรุนแรงและสำรเสพติด ส่งเสริมกำรคิด วิเครำะห์สร้ำงสรรค์กำรทำงำน ปลูกฝังจิตสำนึกและ เสริมสร้ำงกำรเปน็ พลเมอื งไทยและพลโลกใชก้ ระบวนกำรกลุ่มในกำรทำประโยชน์ตอ่ ชุมชนและท้องถน่ิ รวมทั้ง กำรทะนุบำรุงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงำม โดยกำรวำงแผน ลงมือปฏิบัติ ประเมินผล และปรับปรุง กำร ทำงำน ทง้ั นี้ สำหรบั นักเรยี นอำชวี ศกึ ษำระบบทวภิ ำคี ให้เข้ำรว่ มกิจกรรมท่สี ถำนประกอบกำรจดั ขึ้น
11 10.2 กำรประเมินผลกิจกรรมเสริมหลักสูตร ให้เป็นไปตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำด้วย กำรจัดกำรศึกษำและกำรประเมนิ ผลกำรเรยี นตำมหลักสตู รประกำศนยี บัตรวชิ ำชพี พ.ศ. 2556 11. การสาเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตร 11.1 ประเมินผ่ำนรำยวิชำในหมวดวิชำทักษะชีวิต หมวดวิชำทักษะวิชำชีพ และหมวดวิชำเลือก เสรีตำมทกี่ ำหนดไว้ในหลกั สตู ร 11.2 ได้จำนวนหน่วยกติ สะสมครบตำมโครงสร้ำงของหลกั สูตร 11.3 ได้คำ่ ระดบั คะแนนเฉล่ียสะสมไม่ต่ำกว่ำ 2.00 และผำ่ นกำรประเมินมำตรฐำนวิชำชีพ 11.4 เข้ำรว่ มกจิ กรรมและประเมินผำ่ นทุกภำคเรยี น 12. การพัฒนารายวชิ าในหลักสตู ร 12.1 หมวดวิชำทักษะชีวิต สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเตมิ ใน แต่ละกลุ่มวิชำของหมวดวิชำทักษะชีวิต ในลักษณะจำแนกเป็นรำยวิชำหรือลักษณะบูรณำกำรใดๆ ก็ได้ โดย ผสมผสำนเน้ือหำวิชำท่ีครอบคลุมสำระของกลุ่มวิชำภำษำไทย กลุ่มวิชำภำษำต่ำงประเทศ กลุ่มวิชำ วิทยำศำสตร์ กลุ่มวชิ ำคณิตศำสตร์ กลุ่มวชิ ำสงั คมศกึ ษำ กลุ่มวิชำสุขศึกษำและพลศึกษำ ในสดั ส่วนท่เี หมำะสม โดยพิจำรณำจำกมำตรฐำนกำรเรยี นรขู้ องกลุ่มวิชำนัน้ ๆ เพอ่ื ให้บรรลุจดุ ประสงคข์ องหมวดวิชำทกั ษะชีวติ 12.2 หมวดวิชำทักษะวิชำชีพ สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถปรับปรุงรำยละเอียด ของรำยวิชำในกลุ่มทักษะวิชำชีพเฉพำะ และหรือพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเติม ในกลุ่มทักษะวิชำชีพเลือกได้ โดย พิจำรณำจำกจุดประสงค์สำขำวิชำและมำตรฐำนกำรศึกษำวิชำชีพสำขำวิชำ ตลอดจนควำมต้องกำรของสถำน ประกอบกำรหรอื สภำพยุทธศำสตร์ของภมู ิภำคเพ่ือเพิ่มขดี ควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขันของประเทศ 12.3 หมวดวิชำเลือกเสรี สถำนศึกษำอำชีวศึกษำหรือสถำบันสำมำรถพัฒนำรำยวิชำเพ่ิมเติมได้ ตำมควำมต้องกำรของสถำนประกอบกำร ชุมชน ท้องถิ่น หรือสภำพยุทธศำสตร์ของภูมิภำคเพ่ือเพิ่มขีด ควำมสำมำรถในกำรแข่งขันของประเทศ และหรือเพื่อกำรศึกษำตอ่ ทั้งน้ี กำรกำหนดรหัสวิชำ จำนวนหน่วยกิต และจำนวนชั่วโมงเรียนให้เปน็ ไปตำมทห่ี ลกั สูตรกำหนด 13. การปรับปรงุ แกไ้ ข พัฒนารายวิชา กลุม่ วิชาและการอนมุ ัติหลักสูตร 13.1 กำรพัฒนำหลักสูตรหรือกำรปรับปรุงสำระสำคัญของหลักสูตรตำมมำตรฐำนคุณวุฒิ อำชีวศึกษำระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ ให้เป็นหน้ำที่ของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ สถำบัน กำรอำชีวศกึ ษำ หรือสถำนศึกษำ โดยควำมเห็นชอบของคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศึกษำ 13.2 กำรอนมุ ัตหิ ลกั สตู ร ให้เป็นหน้ำทขี่ องสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศกึ ษำ 13.3 กำรประกำศใชห้ ลกั สูตรใหท้ ำเปน็ ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร 13.4 กำรพัฒนำรำยวิชำหรือกลุ่มวิชำเพิ่มเติม สถำบันกำรอำชีวศึกษำหรือสถำนศึกษำสำมำรถ ดำเนนิ กำรได้ โดยตอ้ งรำยงำนใหส้ ำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำทรำบ 14. การประกันคณุ ภาพหลักสูตร ให้ทกุ หลกั สูตรกำหนดระบบประกนั คุณภำพไว้ให้ชดั เจน อย่ำงนอ้ ยประกอบด้วย 4 ประเดน็ คอื 14.1 คุณภำพของผู้สำเรจ็ กำรศึกษำ 14.2 กำรบรหิ ำรหลักสตู ร 14.3 ทรัพยำกรกำรจดั กำรอำชีวศกึ ษำ 14.4 ควำมตอ้ งกำรกำลังคนของตลำดแรงงำน ให้สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ สถำบันกำรอำชีวศึกษำและสถำนศึกษำจัดให้มี กำร ประเมนิ เพอื่ พัฒนำหลักสูตรท่ีอยู่ในควำมรบั ผดิ ชอบอย่ำงต่อเนื่อง อย่ำงน้อยทกุ 5 ปี
12 หลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พทุ ธศักราช 2556 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวชิ าชา่ งเชื่อมโลหะ สาขางานผลติ ภัณฑ์ จุดประสงค์สาขาวชิ า 1. เพ่ือให้สามารถประยุกต์ใช้ความรู้และทักษะด้านภาษา วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา สุขศึกษาและพลศึกษาในการพฒั นาตนเองและวิชาชพี 2. เพื่อให้มีความเข้าใจหลักการบริหารและจัดการวิชาชีพ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและหลักการ งานอาชีพที่สัมพันธ์เก่ียวข้องกับการพัฒนาวิชาชีพช่างเช่ือมโลหะให้ทันต่อการเปล่ียนแปลงและความก้าวหน้า ของเศรษฐกจิ สงั คม และเทคโนโลยี 3. เพือ่ ใหม้ คี วามเขา้ ใจในหลกั การและกระบวนการทางานในกลุ่มงานพื้นฐานดา้ นช่างเช่ือมโลหะ 4. เพื่อใหส้ ามารถปฏบิ ตั ิงานได้เหมาะสมกบั ความรู้ความสามารถของตน 5. เพ่ือให้สามารถปฏิบัติงานด้านช่างเชื่อมโลหะในสถานประกอบการและประกอบอาชีพอิสระรวมท้ัง การใชค้ วามรู้ และทักษะเป็นพ้นื ฐานในการศกึ ษาต่อในระดับสูงข้ึนได้ 6. เพ่อื ใหม้ ีความเขา้ ใจในการใชท้ รัพยากรอย่างคุ้มคา่ และอนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อม 7. เพ่ือให้มีเจตคติท่ีดีต่องานอาชีพ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซื่อสัตย์สุจริต มีระเบียบวินัย มีความ รบั ผิดชอบตอ่ สังคม สิ่งแวดล้อม ต่อตา้ นความรุนแรงและสารเสพตดิ
13 มาตรฐานการศกึ ษาวชิ าชีพ คุณภาพของผู้สาเร็จการศึกษาระดับคุณวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขาวิชาชา่ งเชื่อมโลหะ สาขางานผลติ ภณั ฑ์ ประกอบดว้ ย 1. ดา้ นคณุ ลักษณะที่พงึ ประสงค์ 1.1 คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ ได้แก่ ความเสียสละ ความซื่อสัตย์สุจริต ความ กตัญญูกตเวที ความอดกลั้น การละเว้นสิ่งเสพติดและการพนัน การมีจิตสานึกและเจตคติท่ีดีต่อวิชาชีพและ สงั คม เป็นตน้ 1.2 พฤติกรรมลักษณะนิสัย ได้แก่ ความมีวินัยความรับผิดชอบ การมีมนุษยสัมพันธ์ ความเช่ือม่ัน ในตนเอง ความรกั สามัคคี ขยัน ประหยัด อดทน การพงึ่ ตนเอง เปน็ ตน้ 1.3 ทักษะทางปัญญา ได้แก่ ความรู้ในหลักทฤษฎี ความสนใจใฝ่รู้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความสามารถในการคิด วเิ คราะห์ เปน็ ต้น 2. ดา้ นสมรรถนะหลักและสมรรถนะทวั่ ไป 2.1 สื่อสารโดยใชภ้ าษาไทยและภาษาต่างประเทศในชวี ิตประจาวนั และในงานอาชพี 2.2 แกไ้ ขปัญหาในงานอาชีพโดยใช้หลักการและกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 2.3 ปฏิบัตติ นตามหลกั ศาสนา วฒั นธรรม ค่านยิ ม คุณธรรม จริยธรรมทางสงั คมและสทิ ธิหนา้ ท่พี ลเมือง 2.4 พัฒนาบคุ ลิกภาพและสขุ อนามัยโดยใชห้ ลักการและกระบวนการด้านสขุ ศึกษาและพลศึกษา 3. ด้านสมรรถนะวิชาชีพ 3.1 วางแผน ดาเนินงาน จัดการงานอาชีพตามหลักการและกระบวนการ โดยคานึงถึงการบริหารงาน คณุ ภาพ การอนุรักษ์ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อม หลักอาชวี อนามัยและความปลอดภัย 3.2 ใชค้ อมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชพี 3.3 ปฎิบตั ิงานพนื้ ฐานอาชีพตามหลักและกระบวนการ 3.4 เขา้ ใจหลกั การอ่านแบบเขยี นแบบเทคนิคและเลือกใช้วัสดอุ ตุ สาหกรรม 3.5 เขา้ ใจในวธิ กี ารประกอบทดสอบวงจรและอปุ กรณ์ไฟฟ้าอิเลก็ ทรอนกิ ส์เบ้ืองตน้ 3.6 เช่ือมโลหะและประกอบขน้ึ รูปผลติ ภัณฑโ์ ลหะแผ่นเบ้อื งต้น 3.7 ถอดตรวจสอบและประกอบชิน้ ส่วนเครอ่ื งยนต์ 3.8 ปรับแปรรูปและขึน้ รูปงานด้วยเครือ่ งมอื กล สาขางานผลติ ภณั ฑ์ 3. 9 ออกแบบผลติ งานผลิตภณั ฑโ์ ลหะ 3.10 ผลติ งานผลติ ภัณฑ์โลหะและอะลมู ิเนยี ม 3.11 ประมาณราคางานผลิตภณั ฑโ์ ลหะ 3.12 เชือ่ มอาร์กลวดเชื่อมหมุ้ ฟลักซ์แผน่ เหล็กและท่อเหล็กกล้าคาร์บอน 3.13 เดินท่อภายในอาคารและงานท่อสง่ ความเย็น 3.14 ชุบเคลอื บผวิ โลหะ งานสี และงานพลาสตกิ 3.15 วัสดุชา่ งเช่อื ม และโลหะวทิ ยาเบือ้ งตน้ 3.16 ป๊ัมขน้ึ รูปโลหะ
14 โครงสรา้ งหลักสตู รโรงเรียนศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่ พุทธศักราช 2558 (ปรับปรงุ 2561) ตามหลกั สูตรประกาศนียบัตรวิชาชพี พุทธศักราช 2556 ประเภทวิชาช่างอตุ สาหกรรม สาขาวิชาช่างเชื่อมโลหะ สาขางานผลติ ภัณฑ์ ผู้สำเร็จกำรศึกษำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ประเภทวิชำอุตสำหกรรม สำขำวิชำช่ำงเช่ือมโลหะ สำขำงำนผลิตภัณฑ์ จะต้องศึกษำรำววิชำจำกหมวดต่ำงๆ รวมไม่น้อยกว่ำ 103 หน่วยกิต และเขำ้ ร่วมกจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร ดังโครงสร้ำงตอ่ ไปนี้ 1.หมวดวิชาทกั ษะชีวิต ไม่น้อยกวา่ 22 หนว่ ยกติ (ไมน่ ้อยกวำ่ 3 หน่วยกติ ) 1.1 กลุ่มวิชำภำษำไทย (ไม่น้อยกวำ่ 6 หน่วยกิต) 1.2 กลมุ่ วชิ ำภำษำตำ่ งประเทศ (ไมน่ ้อยกวำ่ 4 หนว่ ยกิต) 1.3 กลมุ่ วชิ ำวิทยำศำสตร์ (ไม่น้อยกว่ำ 4 หนว่ ยกติ ) 1.4 กลุ่มวิชำคณิตศำสตร์ (ไมน่ ้อยกวำ่ 3 หนว่ ยกติ ) 1.5 กลมุ่ วชิ ำสังคมศึกษำ (ไม่น้อยกว่ำ 2 หนว่ ยกติ ) 1.6 กลมุ่ วชิ ำสุขศึกษำและพลศึกษำ 2. หมวดวชิ าทักษะวิชาชพี ไมน่ ้อยกว่า 71 หน่วยกติ (18 หนว่ ยกติ ) 2.1 กลุ่มทกั ษะวชิ ำชีพพนื้ ฐำน (24 หนว่ ยกติ ) 2.2 กลมุ่ ทักษะวิชำชพี เฉพำะ (ไม่น้อยกวำ่ 21 หน่วยกติ ) 2.3 กลุ่มทกั ษะวชิ ำชพี เลือก (4 หน่วยกิต) 2.4 ฝึกประสบกำรณท์ กั ษะวิชำชพี (4 หนว่ ยกิต) 2.5 โครงกำรพัฒนำทักษะวชิ ำชพี 3. หมวดวชิ าเลือกเสรี ไม่นอ้ ยกว่า 10 หนว่ ยกิต 4. กจิ กรรมเสริมหลกั สตู ร ( 2 ช่วั โมงตอ่ สัปดาห์ ) รวมไม่น้อยกวา่ 103 หน่วยกติ
15 1. หมวดวชิ าทักษะชีวิต ไม่นอ้ ยกว่า 22 หนว่ ยกติ ให้เรยี นรำยวิชำลำดับแรกของกลมุ่ วชิ ำหรือตำมท่ีกลุ่มวิชำกำหนด และเลือกเรียนรำยวิชำสว่ นทีเ่ หลือ ตำมทก่ี ำหนดในแตล่ ะกล่มุ วิชำ ใหส้ อดคล้องหรือสัมพันธ์กับสำขำวชิ ำที่เรยี นอีก รวมไม่นอ้ ยกวำ่ 22 หน่วยกติ 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) รหัสวชิ ำ ชอื่ วิชำ ท-ป-น 2000-1101 ภำษำไทยพนื้ ฐำน 2-0-2 2000-1106 ภำษำไทยเชิงสร้ำงสรรค์ 1-0–1 1.2 กลมุ่ วิชาภาษาตา่ งประเทศ (ไม่นอ้ ยกว่า 6 หน่วยกติ ) รหัสวชิ ำ ชือ่ วชิ ำ ท-ป-น 2000-1201 ภำษำอังกฤษในชีวติ จรงิ 1 2-0-2 2000-1202 ภำษำองั กฤษในชวี ติ จรงิ 2 2-0-2 2000-1205 กำรอ่ำนส่อื สิ่งพิมพ์ในชีวติ ประจำวนั 0-2-1 2000-1206 กำรเขียนในชีวติ ประจำวัน 0-2-1 1.3 กลมุ่ วิชาวิทยาศาสตร์ (ไมน่ อ้ ยกวา่ 4 หน่วยกติ ) รหัสวิชำ ชื่อวิชำ ท-ป-น 2000-1301 วทิ ยำศำสตร์เพ่ือพฒั นำทกั ษะชวี ติ 1-2-2 2000-1302 วทิ ยำศำสตรเ์ พอื่ พัฒนำอำชพี ในงำนอุตสำหกรรม 1 - 2 - 2 1.4 กลมุ่ วิชาคณติ ศาสตร์ (ไมน่ ้อยกว่า 4 หนว่ ยกิต) รหสั วิชำ ชื่อวิชำ ท-ป-น 2000-1401 คณิตศำสตร์พ้ืนฐำน 2-0-2 2000-1403 คณติ ศำสตร์พื้นฐำนอุตสำหกรรม 2-0-2 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศกึ ษา (ไมน่ ้อยกว่า 3 หน่วยกิต) รหัสวชิ ำ ชื่อวชิ ำ ท-ป-น 2000-1501 หน้ำทพ่ี ลเมืองและศลี ธรรม 2-0-2 2000-1507 ประวตั ศิ ำสตร์ชำติไทย 2-0-2 1.6 กลุม่ วิชาสุขศกึ ษาและพลศกึ ษา (ไมน่ ้อยกวา่ 2 หน่วยกติ ) ใหเ้ ลือกเรียนรำยวิชำในกลุ่มสุขศกึ ษำและกลุ่มพลศึกษำรวมกันไมน่ ้อยกว่ำ 2 หน่วยกติ หรือ เลือกเรยี นรำยวชิ ำในกลุม่ บูรณำกำร 1.6.1 กลมุ่ พลศึกษำ รหสั วชิ ำ ชอ่ื วิชำ ท-ป-น 2000-1603 กำรออกกำลงั กำยเพือ่ เสรมิ สร้ำงสมรรถภำพในกำรทำงำน 0 - 2 - 1 1.6.2 กลมุ่ สขุ ศึกษำ รหัสวิชำ ชื่อวชิ ำ ท-ป-น 2000-1606 กำรจัดระเบียบชีวิตเพื่อควำมสขุ 1-0-1 หมายเหตุ รำยวชิ ำในหมวดทักษะชีวิต เปน็ รำยวิชำทเ่ี ทียบโอนจำกรำยวิชำในหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำ ขน้ั พน้ื ฐำน พุทธศกั รำช 2551
16 1. หมวดทกั ษะวิชาชีพ (ไมน่ ้อยกว่า 71 หน่วยกิต) 2.1 กลมุ่ ทักษะวชิ าชีพพื้นฐาน (18 หน่วยกิต ) รหสั วชิ ำ ช่อื วิชำ ท-ป-น 2-0-2 ง30206 2001-1001 ควำมรู้เกย่ี วกับงำนอำชพี 0-6-2 1-3-2 ง31288 2103-1001 งำนเช่ือมโลหะเบื้องตน้ 1-2-2 1-3-2 ง31289 2100-1001 เขียนแบบเทคนคิ เบ้ืองต้น 1-3-2 2-0-2 ง30210 2101-1001 คอมพิวเตอรแ์ ละสำรสนเทศเพ่ืองำนอำชพี 0-6-2 1-3-2 ง30239 2100-1006 งำนไฟฟำ้ และอิเล็กทรอนิกส์เบอื้ งต้น ท-ป-น ง31291 2100-1008 งำนเครื่องมือกลเบ้ืองต้น 1-3-2 1-3-2 ง31293 2100-1002 วสั ดงุ ำนชำ่ งอตุ สำหกรรม 2-0-2 0-6-2 ง31294 2100-1003 งำนฝึกฝีมือ 1 1-3-2 2-0-2 ง33290 2100-1007 งำนถอดประกอบเคร่ืองกลเบื้องตน้ 1-3-2 1-3-2 2.2 กลุ่มทักษะวิชาชพี เฉพาะ ( 24 หน่วยกิต ) 1-2-2 1-3-2 รหัสวิชำ ชอ่ื วชิ ำ 2-0-2 1-3-2 ง30233 2103-2011 งำนผลิตภัณฑแ์ ละโลหะแผ่น 1 ท-ป-น ง31295 2103-2001 งำนเชื่อมไฟฟ้ำ 1 2-0-2 1-3-2 ง31296 2103-2008 กระบวนกำรเชื่อม 1-3-2 2-0-2 ง30253 2103-2002 งำนเชอ่ื มไฟฟ้ำ 2 1-3-2 1-3-2 ง30238 2103-2007 เขียนแบบช่ำงเช่อื มโลหะ 0-6-2 ค30203 2103-2009 คณิตศำสตรช์ ่ำงเชอ่ื ม ง32287 2103-2003 งำนทดสอบแบบทำลำยสภำพ ง32288 2103-2004 งำนทดสอบแบบไมท่ ำลำยสภำพ ง32289 2103-2012 เขียนแบบโดยใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ง33282 2103-2005 งำนเชื่อมอำรก์ ทงั สเตนแก๊สคลุม 1 ง33283 2103-2010 กลศำสตร์เคร่ืองกล ง33286 2103-2006 งำนเชอ่ื มอำร์กโลหะแก๊สคลุม1 2.3 กลมุ่ ทักษะวชิ าชพี เลือก (ไมน่ อ้ ยกวา่ 21 หนว่ ยกิต) รหสั วชิ ำ ช่ือวชิ ำ ง31297 2103-2111 วสั ดุชำ่ งเชอ่ื ม ง30250 2103-2102 งำนออกแบบผลติ ภัณฑ์ ง30249 2103-2112 งำนสี ง30251 2103-2101 กรรมวธิ ีกำรผลติ โลหะภัณฑ์ ง32291 2103-2106 โลหะวทิ ยำเบอื้ งตน้ ง30252 2103-2105 งำนทอ่ ภำยในอำคำร ง30254 2103-2113 งำนเชือ่ มไฟฟ้ำ 3
17 รหสั วิชำ ชอื่ วชิ ำ ท-ป-น 1-3-2 ง30255 2103-2104 งำนปม๊ั ขึ้นรปู โลหะ 0-6-2 1-3-2 ง30234 2103-2005 งำนผลิตภัณฑ์และโลหะแผ่น 2 1-3-2 ง33288 2103-2114 งำนซ่อมบำรุง ท-ป-น *-*-4 ง30257 2103-2110 งำนผลิตภัณฑ์อะลูมเิ นยี ม ท-ป-น 2.4 ฝกึ ประสบการณท์ กั ษะวิชาชพี (4 หนว่ ยกิต) *-*-4 รหสั วิชำ ชื่อวชิ ำ ง30298 2103-8001 ฝึกงำน 2.5 โครงการพัฒนาทกั ษะวิชาชีพ (4 หนว่ ยกิต ) รหสั วชิ ำ ชอ่ื วิชำ ง30294 2103-8501 โครงกำร 2. หมวดวิชาเลือกเสรี (ไม่น้อยกวา่ 10 หนว่ ยกิต) รหัสวชิ ำ ชอื่ วชิ ำ ท-ป-น ง31298 2103-2207 มำตรฐำนงำนเช่ือมเบ้ืองต้น 2-0-2 ง32285 2001-1004 อำชีวอนำมยั และควำมปลอดภัย 1-2-2 ง32286 2001-1007 ควำมปลอดภัยในงำนอำชีพ 1-0-1 ง30216 2100-1002 กำรเป็นผปู้ ระกอบกำร 2-0-2 ว30285 2001-1003 พลังงำนและส่ิงแวดล้อม 1-2-2 ว30287 2001-1005 กำรอนุรกั ษ์ทรัพยำกรและสง่ิ แววล้อมในงำนอำชีพ 1-0-1 3. กจิ กรรมหลกั สูตร ( 2 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ ) รหัสวิชำ ชื่อวชิ ำ ท-ป-น 2000-2001 กจิ กรรมลูกเสอื วิสำมัญ 1 0-2-0 2000-2002 กิจกรรมลูกเสอื วสิ ำมญั 2 0-2-0 2000-2003 กิจกรรมองค์กำรวชิ ำชีพ 1 0-2-0 2000-2004 กิจกรรมองค์กำรวิชำชพี 2 0-2-0 2000-2005 กิจกรรมองค์กำรวชิ ำชีพ 3 0-2-0 2000-2006 กจิ กรรมองค์กำรวิชำชีพ 4 0-2-0 ๒๐๐๐*๒๐๐๑ ถงึ ๒๐๐๐*๒๐xx กิจกรรมนักศึกษำวชิ ำทหำร / กจิ กรรมสถำนศึกษำ หรอื สถำน ประกอบกำรจดั 0-2-0
18 คำอธบิ ำยรำยวิชำ หลกั สตู รประกำศนยี บัตรวิชำชีพ พุทธศกั รำช 2556 หมวดวิชำทกั ษะชวี ิต ( ไมน่ ้อยกวำ่ 22 หนว่ ยกติ ) กลุ่มวชิ ำภำษำไทย 2-0-2 (ไมน่ อ้ ยกว่ำ 3 หน่วยกิต) 1-0-1 กล่มุ วชิ ำภำษำไทย 2000-1101 ภาษาไทยพนื้ ฐาน 2000-1106 ภาษาไทยเชงิ สร้างสรรค์
19 ภาษาไทยพื้นฐาน คำอธบิ ำยรำยวิชำ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ชว่ั โมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หนว่ ยกิต รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1101 ศึกษาเก่ียวกับ การรับสารและการสง่ สารด้วยภาษาไทย การใช้ถ้อยคา สานวน ระดับภาษา การฟัง การดูและการอ่านข่าว บทความ สารคดี โฆษณา บันเทิงคดี วรรณกรรมหรือภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านภาษา จากส่ือสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การพูดในโอกาสต่างๆ ตามมารยาทของสงั คม การกล่าวทักทาย แนะนา ตนเองและผู้อื่นตอบรับและปฏิเสธ แสดงความยินดี แสดงความเสียใจ การพูดติดต่อกิจธุระ พูดสรุปความ พดู แสดงความคิดเห็นการเขยี นข้อความตดิ ตอ่ กิจธุระ เขียนสะกดคา สรุปความ อธิบาย บรรยาย การกรอก แบบฟอรม์ เขยี นประวตั ยิ ่อเขยี นรายงานเชิงวิชาการและเขยี นโครงการ จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพ่ือให้ 1. มีความร้คู วามเขา้ ใจในการใช้ภาษาไทย 2. สามารถเลือกใช้ภาษาไทยไดถ้ กู ต้องตามหลักการใช้ภาษา เหมาะสมกับบคุ คล กาลเทศะ โอกาส และสถานการณ์ 3. สามารถนา ความรแู้ ละทักษะการฟัง การดู การพดู การอา่ น และการเขียนไปใช้สอื่ สาร ในชีวิตประจาวันถกู ต้องตามหลักการ 4. เหน็ คณุ ค่าและความสาคัญของการใชภ้ าษาไทย รวมท้ังส้ิน 4 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับหลักการใชภ้ าษาไทยในการฟัง การดู การพูด การอ่าน และการเขยี น 2. วิเคราะห์ ประเมนิ คา่ สารจากการฟัง การดู การอ่านตามหลกั การ 3. พดู ติดตอ่ กจิ ธุระ พดู ในโอกาสตา่ ง ๆ ตามหลกั การและมารยาทของสังคม 4. เขียนข้อความตดิ ต่อกจิ ธุระ เขียนรายงานเชงิ วชิ าการ และเขียนโครงการตามหลักการ
20 คำอธิบำยรำยวิชำ ภาษาไทยเชงิ สรา้ งสรรค์ กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 เวลา 1 ชั่วโมง จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ท-ป-น 1 - 0 - 1 รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1106 วิชาบงั คบั กอ่ น : 2000-1101 ภาษาไทยพืน้ ฐาน ศึกษาเก่ียวกับ การใช้ภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ การเรียบเรียงถ้อยคา สานวน โวหาร การพูด-เล่า เรื่องการอธิบาย บรรยาย การพูดโน้มน้าว การนาเสนอผลงาน การเขียนสรุปความ เขียนนิทาน สารคดี บทความปกิณกะ เขียนแสดงความคิดเห็นและแสดงความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ เขียนบทร้อยกรอง โฆษณา ประชาสัมพันธ์ในงานอาชีพ จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพ่อื ให้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้ภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ 2. สามารถเลือกใช้ภาษาไทยในการพดู และการเขียนเชิงสร้างสรรคต์ ามหลกั การ 3. สามารถใช้ทกั ษะการใชภ้ าษาไทยพัฒนาตนเองและงานอาชพี 4. เหน็ คณุ คา่ ความสาคญั ของการใช้ภาษาไทย รวมทั้งสน้ิ 4 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับหลักการใชถ้ ้อยคา สานวน โวหาร 2. พูดเชิงสร้างสรรคต์ ามรูปแบบและหลกั การพดู 3. เขียนเชิงสร้างสรรคต์ ามรูปแบบและหลักการเขียน
21 กลุ่มวิชำภำษำต่ำงประเทศ 2-0-2 (ไม่น้อยกว่ำ 6 หนว่ ยกติ ) 2-0-2 0-2–1 กลุ่มวชิ ำภำษำตำ่ งประเทศ 0–2-1 2000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ติ จรงิ 1 2000-1202 ภาษาองั กฤษในชวี ิตจรงิ 2 2000-1205 การอ่านส่อื สิง่ พิมพ์ในชีวิตประจาวนั 2000-1206 การเขยี นในชวี ิตประจาวนั
22 อ30227 ภาษาอังกฤษในชวี ิตจริง 1 คำอธบิ ำยรำยวิชำ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ชั่วโมง จานวน 2.0 หน่วยกิต รหัสรายวชิ า สอศ. 2000-1201 ศึกษาเก่ยี วกับ การฟงั -ดู พดู อ่าน เขียน การฟังคาสงั่ เรือ่ งราว การสนทนาโต้ตอบในสถานการณ์ ตา่ งๆ หรือท่ีกาหนดเก่ียวกับครอบครัว การศึกษา งานอดิเรก สขุ ภาพ การสนทนาเร่ืองในอดีต ปจั จุบันและ อนาคตเทศกาลทางวัฒนธรรม การอ่านเรื่องท่ัวไป ขอ้ ความสั้นๆ ทีพ่ บในชวี ิตประจาวันจากสอื่ สิ่งพิมพ์ และ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ การเขียนข้อความสั้นๆ การใช้พจนานุกรม และ online dictionary การใช้ภาษาตาม มารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นแหล่งเรยี นร้หู รือฝึกฝนกับ เพือ่ นเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้วยตนเอง การสบื คน้ ขอ้ มูลจากแหลง่ การเรียนรู้ท่ีหลากหลาย จดุ ประสงค์รำยวิชำ เพือ่ ให้ 1. สามารถใชภ้ าษาอังกฤษฟัง ดู พูด อ่านและเขียนตามสถานการณต์ า่ งๆ ในชวี ติ ประจาวัน 2. มีความร้คู วามเข้าใจในวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาและใช้ภาษาตามมารยาทสงั คม 3. ตระหนักและเห็นประโยชนข์ องการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวนั และการศกึ ษาต่อ รวมท้ังสิ้น 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ฟงั – ดู บทสนทนา เรือ่ งราว คาส่ังตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวันจากส่อื โสตทศั น์ 2. สนทนาโต้ตอบได้ตรงตามวัตถปุ ระสงคข์ องการสื่อสารตามสถานการณต์ ่างๆ ใน ชีวิตประจาวนั 3. อ่านเรื่องทั่วไปในชวี ิตประจาวัน 4. เขียนให้ข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเองในชีวติ ประจาวัน 5. ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาในสถานการณ์ตา่ งๆ 6. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสบื ค้นและฝกึ ฝนการฟัง พดู อา่ นและเขยี น พร้อมแสดงหลักฐาน การเรียนร้ดู ้วยตนเอง
23 คำอธบิ ำยรำยวิชำ อ30228 ภาษาอังกฤษในชีวิตจรงิ 2 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4-6 เวลา 4 ช่ัวโมง จานวน 2.0 หน่วยกติ ท-ป-น 2 - 0 - 2 รหสั รายวิชา สอศ. 2000-1202 วชิ าบงั คับก่อน : 2000-1201 ภาษาองั กฤษในชวี ิตจรงิ 1 ศึกษาเกี่ยวกับ การฟัง-ดู พูด อา่ น เขียน การฟัง-ดูเร่ืองราวต่างๆ บันเทิงคดีจากส่ือโสตทัศน์ การ สนทนาโต้ตอบในสถานการณ์ต่างๆ ที่กาหนดเกี่ยวกับการเดินทาง ท่องเที่ยว การบอกทิศทาง การบอก ตาแหน่งที่ต้ัง สิ่งบันเทิง การซื้อ ขาย การต้อนรับ การสนทนาทางโทรศัพท์ การปฏิบัติตามคาส่ัง ข้ันตอน การปฏิบัติการอ่านเร่ืองทั่วไป ข้อความ กาหนดการ ป้ายประกาศต่างๆ ท่ีพบในชีวิตประจาวันจากสื่อ สิ่งพมิ พ์ และสอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ จดหมายอิเลก็ ทรอนกิ ส์ การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ การใช้ภาษาตามมารยาท สงั คมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเปน็ แหลง่ เรียนรหู้ รือฝกึ ฝนกับเพอื่ นเพ่ือ พัฒนาทกั ษะทางภาษาด้วยตนเอง การสบื คน้ ข้อมูลจากแหล่งการเรียนรทู้ ีห่ ลากหลาย จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพือ่ ให้ 1. สามารถใช้ภาษาองั กฤษฟัง ดู พดู อา่ นและเขียน ตามสถานการณต์ ่างๆ ในชีวติ ประจาวนั 2. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาและใช้ภาษาตามมารยาทสงั คม 3. ตระหนกั และเห็นประโยชน์ของการใชภ้ าษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน และการศึกษาต่อ รวมทั้งสิ้น 3 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ฟัง – ดู เรือ่ งราว บนั เทงิ คดี ขา่ วส้นั ๆ ในชีวติ ประจาวันจากสื่อโสตทศั น์ 2. สนทนาโต้ตอบสถานการณ์ต่างๆในชวี ติ ประจาวนั และสถานประกอบการ 3. อ่านเรอ่ื งทัว่ ไป กาหนดการ ป้ายตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั จากส่ือสิ่งพมิ พ์และส่ือ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ 4. เขยี นใหข้ ้อมลู กรอกแบบฟอรม์ ต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน 5. ใช้ภาษาตามมารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษาในสถานการณต์ ่างๆ 6. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศสืบค้นและฝึกฝนการฟงั พูด อ่านและเขียน พร้อมแสดงหลักฐาน การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง
24 คำอธิบำยรำยวชิ ำ อ30232 การอ่านสือ่ สิง่ พมิ พ์ในชวี ติ ประจาวนั กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4-6 เวลา 2 ช่ัวโมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ ท-ป-น 0 - 2 - 1 รหสั รายวชิ า สอศ. 2000-1205 ปฏิบตั เิ กี่ยวกบั การอา่ นเรื่องตา่ งๆ ทพ่ี บในชวี ติ ประจาวนั จากสือ่ ส่งิ พิมพ์ สารคดี บันเทงิ คดี หนังสือพิมพโ์ ฆษณา แผ่นพับ แผ่นปลวิ โปสการ์ด ประกาศ ฉลาก ปา้ ยประกาศ ปา้ ยเตอื น เครือ่ งหมาย สญั ลักษณ์ ตารางแผนภาพ แผนภูมิ รายการสนิ ค้า ประกาศรบั สมัครงาน กาหนดการ ระเบยี บการ บันทึก ส้ันๆ การเลอื กใช้ส่ือเทคโนโลยเี ปน็ แหลง่ การเรียนร้ดู ้วยตนเอง การสืบคน้ ข้อมูลจากแหล่งการเรยี นรู้ที่ หลากหลาย จุดประสงค์รำยวิชำ เพ่ือให้ 1. สามารถอา่ นสื่อส่งิ พิมพ์ชนิดต่างๆ ในชีวิตประจาวัน 2. ตระหนกั และเห็นประโยชนข์ องการอา่ นภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวนั และการศึกษาตอ่ รวมทั้งสน้ิ 2 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. อ่านหนังสอื พิมพ์ แผน่ พบั แผน่ ปลิว โฆษณา โปสการ์ดจากสอ่ื ส่งิ พมิ พต์ า่ งๆ ในชีวิตประจาวัน 2. อา่ นประกาศ ฉลาก ป้ายประกาศ ปา้ ยเตอื น เครื่องหมาย สัญลักษณจ์ ากสถานท่ีตา่ งๆ 3. อา่ นตาราง แผนภาพ แผนภมู ิ 4. อ่านเอกสารทางการค้า 5. อ่านประกาศรบั สมัครงาน ระเบยี บการ 6. อา่ นกาหนดการ บนั ทึกสนั้ ๆ 7. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสบื คน้ และฝึกฝนการอ่านพร้อมแสดงหลักฐานการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง
25 การเขยี นในชีวติ ประจาวนั คำอธบิ ำยรำยวิชำ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ ท-ป-น 0 - 2 - 1 เวลา 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หนว่ ยกิต รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1206 ปฏิบัติเก่ียวกับ การเขียนโต้ตอบทางสังคม การเขียนข้อมูลบุคคล ข้อความสั้นๆ บันทึกย่อ/ จดหมายส่วนตัว การเขียนบัตรอวยพร บัตรอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ในโอกาสต่างๆ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ การเลือกใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศพฒั นาทักษะการเขียน การแสวงหาความรูด้ ว้ ย ตนเองจากแหล่งการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย จุดประสงคร์ ำยวชิ ำ เพื่อให้ 1. สามารถเขยี นภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน 2. ตระหนกั และเหน็ ประโยชน์ของการใช้ภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวนั และการศกึ ษาต่อ รวมท้ังสน้ิ 2 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. เขยี นข้อมลู บุคคล 2. เขยี นบันทึกย่อ ขอ้ ความส้ันๆ 3. เขยี นอวยพรเทศกาลตา่ งๆ 4. เขียนจดหมายสว่ นตวั จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ 5. กรอกแบบฟอร์มชนดิ ตา่ งๆ 6. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสบื คน้ และฝกึ ฝนการเขียนพร้อมแสดงหลกั ฐานการเรียนร้ดู ้วยตนเอง
26 กลุ่มวิชำวิทยำศำสตร์ 1-2-2 (ไมน่ อ้ ยกวำ่ 4 หน่วยกิต) 1-2-2 กล่มุ วชิ ำวิทยำศำสตร์ 2000-1301 วิทยาศาสตรเ์ พื่อพฒั นาทกั ษะชวี ิต 2000-1302 วิทยาศาสตรเ์ พ่ือพฒั นาอาชพี ช่างอุตสาหกรรม
27 วทิ ยาศาสตร์เพื่อพฒั นาทกั ษะชีวิต คำอธิบำยรำยวชิ ำ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ท-ป-น 1 - 2 - 2 เวลา 4 ชวั่ โมง/สปั ดาห์ จานวน 2.0 หนว่ ยกิต รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1301 ศึกษาและปฏิบัติเก่ยี วกบั ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ หน่วยและการวัด แรงและการ เคล่ือนที่ไฟฟา้ ในชีวิตประจาวัน นาโนเทคโนโลยี โครงสรา้ งอะตอมและตารางธาตุ พันธะเคมี สารและการ เปล่ียนแปลงปฏกิ ริ ยิ าเคมีในชีวิตประจาวัน การรักษาดลุ ยภาพของสิ่งมชี ีวิตและระบบนเิ วศ จุดประสงค์รำยวิชำ เพอ่ื ให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับหน่วยและการวัด แรงและการเคล่ือนท่ี ไฟฟ้า อะตอมและธาตุ สารและปฏกิ ริ ิยาเคมี การรักษาดลุ ยภาพของสง่ิ มชี วี ิตและระบบนิเวศ 2. มีทักษะเกี่ยวกับการใช้เคร่ืองมือวัด ปริมาณทางฟิสิกส์ การทดลองแหล่งกาเนิดไฟฟ้า วงจรไฟฟ้า การคานวณคา่ ไฟฟ้า การทดลองปฏกิ ิรยิ าเคมีในชีวติ ประจาวันและงานอาชีพ 3. มเี จตคตทิ ด่ี ีต่อวชิ าวทิ ยาศาสตร์ และกิจนิสยั ท่ดี ีในการทางาน รวมทั้งสน้ิ 3 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรแู้ ละปฏบิ ัตเิ ก่ียวกบั ปรมิ าณทางฟิสิกส์ แรงและการเคลื่อนท่ี 2. แสดงความร้แู ละปฏิบัติเก่ียวกับไฟฟ้าในชวี ติ ประจาวนั 3. แสดงความรู้และปฏบิ ตั เิ ก่ียวกับสารเคมีและการเปล่ียนแปลงทางเคมี 4. แสดงความรู้และปฏิบตั เิ กี่ยวกบั ส่งิ มชี วี ติ และระบบนิเวศ 5. แสดงความรเู้ บือ้ งต้นเกีย่ วกับนาโนเทคโนโลยี
28 คำอธบิ ำยรำยวิชำ วิทยำศำสตร์เพ่ือพฒั นำอำชีพช่ำงอตุ สำหกรรม กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 เวลา 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกิต ท-ป-น 1 - 2 - 2 รหสั รายวิชา สอศ. 2000-1302 ศึกษาและปฏบิ ัติเก่ียวกับ ปริมาณทางฟสิ ิกส์และเวกเตอร์ แรง การรวมแรงและการแยกแรง การ สมดุลของวัตถุ การเคลื่อนท่ีแนวเสน้ ตรง การเคลื่อนที่แบบโปรเจคไทล์ การเคลื่อนที่แบบวงกลม การ เคล่ือนท่แี บบฮาร์โมนิกอย่างง่าย งาน กาลงั และพลงั งาน คลืน่ และสมบตั ิของคลืน่ คลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า จุดประสงค์รำยวชิ ำ เพอ่ื ให้ 1. มคี วามรูค้ วามเขา้ ใจเก่ยี วกับ ปรมิ าณทางฟิสิกส์ เวกเตอร์ แรง สมดุลของวัตถุ การเคลื่อนที่ งาน กาลังพลังงาน คลนื่ 2. มีทักษะการคานวณ การทดลอง สามารถนาไปประยุกต์ใช้ในวิชาชพี และชวี ติ ประจาวัน 3. มีเจตคติทดี่ ีต่อวิชาวิทยาศาสตร์ และกจิ นิสัยทด่ี ใี นการทางาน รวมทั้งสิ้น 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้และปฏบิ ัติเกีย่ วกับปริมาณทางฟิสิกส์ แรง สมดุลของวตั ถุและการเคล่ือนที่แบบต่างๆ 2. แสดงความรูแ้ ละปฏิบัตเิ กี่ยวกับหลักการทางานของคล่ืน และพลงั งาน
29 กลมุ่ วชิ ำคณติ ศำสตร์ 2-0-2 ( ไม่น้อยกว่ำ 4 หน่วยกิต) 2-0-2 กลมุ่ วชิ ำคณิตศำสตร์ 2000-1401 คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน 2000-1403 คณิตศาสตร์อุตสาหกรรม 1
30 คณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน คำอธิบำยรำยวชิ ำ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ชัว่ โมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกิต รหสั รายวชิ า สอศ. 2000-1401 ศึกษาเก่ียวกับ ทักษะการคิดคานวณ การแก้ปัญหาเรื่องอัตราส่วน สัดส่วน ร้อยละ การแปรผัน สถิติ เบื้องต้น การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลาง การวัดการกระจายของข้อมูล และฝึกปฏิบัติในการเลือกใช้ค่าสถิติท่ี เหมาะสมกับขอ้ มูล จดุ ประสงค์รำยวชิ ำ เพือ่ ให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจ เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับอัตราส่วน สัดส่วน ร้อยละ การแปรผัน สถิติ เบ้ืองตน้ การวัดแนวโนม้ เข้าสสู่ ่วนกลาง และการวดั การกระจายของขอ้ มูล 2. มีทักษะกระบวนการคิดและนาวิธีการแก้ปัญหาเร่ือง อัตราส่วน สัดส่วน ร้อยละ การแปรผัน สถิติ เบ้อื งตน้ การวัดแนวโน้มเขา้ สสู่ ่วนกลาง การวดั การกระจายของข้อมูล ประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั 3. มีเจตคตทิ ่ีดีในการเรียนรู้ อัตราส่วน สัดส่วน ร้อยละ การแปรผัน สถิติเบ้ืองต้น การวัดแนวโน้มเข้าสู่ ส่วนกลาง และการวดั การกระจายของขอ้ มูล รวมท้ังส้ิน 3 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. ดาเนนิ การและประยกุ ต์ใช้เกี่ยวกับอัตราส่วน สัดสว่ น และร้อยละในวชิ าชพี 2. ดาเนนิ การและประยกุ ต์ใชเ้ ก่ยี วกับการแปรผนั ในวชิ าชีพ 3. สารวจและจัดหมวดหมูข่ อ้ มูลอยา่ งง่าย 4. เลือกใชค้ ่ากลางของข้อมูลทเ่ี หมาะสมกับข้อมลู ที่กาหนด 5. วิเคราะห์ตาแหน่งของขอ้ มูล และการวัดการกระจายของขอ้ มูลจากข้อมูลท่ีกาหนด 6. ใชข้ อ้ มูลขา่ วสาร ค่าสถิติ และค่าสถติ ิท่ไี ด้จากการวิเคราะห์ข้อมลู ในการตดั สนิ ใจ
31 คำอธิบำยรำยวิชำ ค30201 คณติ ศาสตร์อตุ สาหกรรม 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4-6 เวลา 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกติ ท-ป-น 2 - 0 - 2 รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1403 คณิตศำสตรอ์ ุตสำหกรรม 1 (สาหรับ ประเภทวชิ าอุตสาหกรรม ยกเวน้ สาขาวิชาไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์) ศกึ ษาเกีย่ วกบั ทักษะการคดิ คานวณ การแก้ปัญหาเร่อื งมมุ และการวัดมุม อตั ราส่วนตรีโกณมิติ ตรีโกณมติ ขิ องวงกลมหนง่ึ หน่วย กฎของไซน์ กฎของโคไซน์ เมทริกซ์ ดเี ทอรม์ ิแนนต์ไมเ่ กินอันดบั สาม และ ประยกุ ต์ใช้ดีเทอร์มิแนนตห์ าผลเฉลยของระบบสมการเชงิ เส้น จดุ ประสงคร์ ำยวิชำ เพื่อให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจ เกิดความคิดรวบยอดเกยี่ วกบั มุมและการวัดมุม อตั ราส่วนตรโี กณมติ ิ ตรีโกณมติ ขิ องวงกลมหนง่ึ หน่วย กฎของไซน์ กฎของโคไซน์ เมทริกซ์ ดีเทอร์มิแนนตไ์ มเ่ กินอันดบั สาม 2. มที ักษะกระบวนการคิดและนาวธิ กี ารแก้ปัญหาเร่อื ง มมุ และการวัดมุม อตั ราส่วนตรีโกณมติ ิ ตรีโกณมิตขิ องวงกลมหนึ่งหน่วย กฎของไซน์ กฎของโคไซน์ เมทรกิ ซ์ ดีเทอรม์ ิแนนตไ์ ม่เกินอันดบั สาม ประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานอาชพี 3. มีเจตคติท่ีดีในการเรียนรู้มุมและการวัดมุม อตั ราสว่ นตรีโกณมติ ิ ตรีโกณมติ ขิ องวงกลมหนง่ึ หน่วยกฎของไซน์ กฎของโคไซน์ เมทริกซ์ ดีเทอร์มแิ นนต์ไม่เกินอนั ดับสาม รวมท้ังสิน้ 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. คาดคะเนระยะทางและความสูงโดยใช้อตั ราส่วนตรีโกณมติ ิของมุมที่กาหนด 2. ประยกุ ตก์ ารวดั โดยใชค้ วามรเู้ รอ่ื ง อตั ราส่วนตรีโกณมิติ 3. ดาเนนิ การและคานวณเกยี่ วกับฟังกช์ นั ตรีโกณมติ ิ 4. ประยกุ ต์ใชค้ วามรูเ้ กี่ยวกับเมทริกซ์ และการคานวณค่าดีเทอรม์ ิแนนตข์ องเมทรกิ ซ์ 5. ใช้ความรแู้ ละทักษะเกี่ยวกับดเี ทอรม์ ิแนนต์หาคาตอบของระบบสมการเชงิ เส้น
32 กลุ่มวิชำสังคมศกึ ษำ 2-0-2 ( ไมน่ อ้ ยกว่ำ 3 หนว่ ยกิต) 1-0-1 กล่มุ วิชำสงั คมศกึ ษำ 2000-1501 หน้าทพี่ ลเมืองและศีลธรรม 2000-1507 ประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย
33 หนา้ ท่พี ลเมืองและศลี ธรรม คำอธิบำยรำยวิชำ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 กลุม่ สาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ ท-ป-น 2 - 0 - 2 เวลา 4 ช่วั โมง/สัปดาห์ จานวน 2.0 หน่วยกติ รหสั รายวิชา สอศ. 2000-1501 ศึกษาเก่ียวกบั ศาสนา หลักธรรม ศาสนพธิ ขี องศาสนาที่ตนนบั ถอื การเป็นพลเมืองดตี ามหลัก ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หน้าทพี่ ลเมืองตามหลักกฎหมาย และการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข จดุ ประสงค์รำยวชิ ำ เพือ่ ให้ 1. มีความร้คู วามเขา้ ใจเกีย่ วกับศาสนาและหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือเพ่ือการดารงชีวติ 2. ปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนกิ ชนที่ดีตามหลกั ศาสนาและหลกั ธรรมท่ีตนนับถือ 3. ปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดตี ามหลักกฏหมายและการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มี พระมหากษัตรยิ ์ ทรงเป็นประมขุ 4. นอ้ มนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใช้ในการพัฒนาตนและงานอาชีพ 5. ตระหนกั ถงึ การดารงชีวติ ที่ถูกต้องดงี ามในฐานะศาสนกิ ชนและพลเมืองดี รวมท้ังสิน้ 5 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรเู้ กย่ี วกับศาสนาและหลกั ธรรมเพอื่ การดารงชีวติ ทถี่ ูกตอ้ งดงี าม 2. แสดงความรู้เกยี่ วกบั หลักกฎหมายและปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพ่ือการพัฒนาตน 3. นาหลกั ศาสนา หลกั ธรรม หลักกฎหมาย และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมา ประยุกตใ์ ชเ้ พ่ือการเปน็ พลเมืองดี
34 ประวัติศาสตร์ชาติไทย คำอธิบำยรำยวชิ ำ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษาฯ ท-ป-น 2 - 0 - 1 เวลา 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หน่วยกติ รหสั รายวิชา สอศ. 2000-1507 ศึกษาเก่ียวกับ ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธีการศึกษา ประวตั ิศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย และสถาบันสาคญั ของชาติเพอ่ื ธารงความเปน็ ไทยอยา่ งยั่งยนื จุดประสงค์รำยวิชำ เพ่อื ให้ 1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ประเทศไทย ระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ วิธีการ ศกึ ษาประวัติศาสตร์และประวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย 2. สามารถประยุกต์ใชค้ วามร้เู รอื่ งภูมิศาสตร์และประวตั ิศาสตรใ์ นงานอาชีพและการดารงชีวิต 3. ตระหนักในความสาคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เพื่อธารงไว้ซ่ึงสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั ริย์ รวมทั้งส้ิน 3 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เก่ยี วกับภมู ิศาสตรป์ ระเทศไทย ระบบสารสนเทศทางภมู ิศาสตร์ วิธกี ารศึกษา ประวัตศิ าสตรแ์ ละประวตั ิศาสตร์ชาติไทย 2. รวบรวมสารสนเทศทางภมู ศิ าสตร์และประวัตศิ าสตร์ตามหลกั การและกระบวนการ 3. นาความรทู้ างภมู ิศาสตรแ์ ละประวัติศาสตรไ์ ปประยุกต์ใช้ เพือ่ การดารงตนในงานอาชีพและ ธารงความเปน็ ไทยอย่างยั่งยืน
35 กลุ่มวิชำสุขศึกษำและพลศกึ ษำ ( ไมน่ ้อยกว่ำ 2 หนว่ ยกิต) กล่มุ วชิ ำสขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ 0-2-1 1-0-1 กลมุ่ พลศึกษำ 2000-1603 การออกกาลงั กายเพ่ือเสริมสร้างสมรรถภาพในการทางาน กลมุ่ สุขศกึ ษำ 2000-1606 การจดั ระเบียบชีวิตเพอ่ื ความสุข
36 คำอธิบำยรำยวชิ ำ การออกกาลังกายเพ่ือเสริมสรา้ งสมรรถภาพในการทางาน กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษาพลศึกษา ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 เวลา 2 ช่วั โมง/สปั ดาห์ จานวน 1.0 หนว่ ยกิต ท-ป-น 0 - 2 - 1 รหัสรายวิชา สอศ. 2000-1603 ปฏิบัติเก่ียวกับ กิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับหลักการและรูปแบบการออกกาลังกาย กลไกของ ร่างกายการเล่นกีฬาไทย กีฬาสากล หรือกิจกรรมนันทนาการ และการเสริมสร้างสมรรถภาพทางกายให้ สามารถทางานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปฏิบัติโครงงานการออกกาลังกายด้วยกิจกรรมท่ีเหมาะสมสาหรับ ตนเองเพ่ือพัฒนาสมรรถภาพทางกายให้เป็นไปตามเป้าหมายพร้อมที่จะประกอบอาชีพได้อย่างมี ประสิทธิภาพ จุดประสงคร์ ำยวิชำ เพอ่ื ให้ 1. มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับหลักการและรูปแบบในการออกกาลังกาย และการเสริมสร้าง สมรรถภาพทางกาย 2. สามารถพัฒนาสมรรถภาพทางกาย ใหพ้ รอ้ มทจ่ี ะประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 3. ใหต้ ระหนักถึงคณุ คา่ ของการออกกาลงั กายและการเลน่ กฬี าเปน็ ประจา รวมทั้งสิ้น 3 ผลกำรเรียนรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรเู้ กีย่ วกับหลักการและรูปแบบของการออกกาลังกาย 2. ประยกุ ตก์ ารออกกาลงั กายเพ่อื พฒั นาสมรรถภาพทางกาย 3. ออกกาลังกายเพื่อพัฒนาความสมบูรณข์ องร่างกายและจิตใจ 4. ปฏบิ ตั โิ ครงงานเกีย่ วกบั การออกกาลงั กาย
37 การจัดระเบียบชีวิตเพอื่ ความสุข คำอธิบำยรำยวิชำ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 กลมุ่ สาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาพลศึกษา ท-ป-น 1 - 0 - 1 เวลา 2 ช่ัวโมง/สัปดาห์ จานวน 1.0 หนว่ ยกติ รหสั รายวิชา สอศ. 2000-1606 ศึกษาเกี่ยวกับ สุขบัญญัติแห่งชาติเพ่ือการเสริมสร้างสุขภาพของตนเองและครอบครัวเพ่ือป้องกัน ผลกระทบจากการขาดการออกกาลังกายและการรับประทานอาหารท่ีไม่เหมาะสม โรคติดต่อและโรคไม่ ติดต่อพฤติกรรมทางเพศท่ีส่งผลต่อสุขภาวะทางเพศและโรคเอดส์โดยคานึงถึงบริบทของสังคม การ หลีกเลี่ยงและป้องกันอันตรายจากสิ่งเสพติดและอุบัติเหตุ ปฏิบัติการปฐมพยาบาลจากอันตรายใน ชีวิตประจาวัน การเตรียมการเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติและภัยพิบัติ การใช้ยา สารเสพติด ส่ือและความ รุนแรง การใช้ระบบบริการสุขภาพเพ่ือนาไปสู่การสร้างเสริมสุขภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยวิถีชีวิตท่ี พอเพยี ง จุดประสงค์รำยวิชำ เพื่อให้ 1. เข้าใจในหลักการ กระบวนการและวางแผนส่งเสริมสุขภาพตามพฒั นาการของตนเองและ ครอบครัว 2. สามารถป้องกันและหลีกเล่ียงปัจจัยเส่ยี งต่อสุขภาพ อบุ ตั เิ หตุ ภัยธรรมชาติ การใช้ยา สารเสพติด ส่ือและความรนุ แรง 3. สามารถเลือกใชร้ ะบบบรกิ ารสุขภาพ 4. มีทักษะการปฐมพยาบาล 5. ตระหนกั ในแนวทางการดาเนนิ ชีวิตท่เี หมาะสมและปลอดภยั รวมทั้งสิ้น 5 ผลกำรเรยี นรู้ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เกีย่ วกับหลักการ กระบวนการ และวางแผนส่งเสรมิ สุขภาพ 2. วเิ คราะห์ปัจจยั เส่ียงตอ่ สุขภาพ 3. วางแผนปอ้ งกันอันตรายจาก อบุ ตั ิเหตุ ภัยธรรมชาติ การใชย้ า สารเสพติด สือ่ และความรนุ แรง 4. ปฐมพยาบาลเบื้องต้นตามหลักการและกระบวนการ 5. ปฏิบตั โิ ครงงานเพื่อสง่ เสริมสขุ ภาพและพัฒนาคณุ ภาพชวี ิตและส่งิ แวดล้อม
38 หมวดวชิ ำทักษะวิชำชพี หลกั สตู รประกำศนยี บัตรวิชำชีพ พทุ ธศักรำช 2556 หมวดทกั ษะวชิ ำชีพพืน้ ฐำน ( ไม่น้อยกวำ่ 71 หนว่ ย ) วชิ ำชีพพน้ื ฐำน ไม่น้อยกวำ่ 18 หน่วย ใหเ้ รยี นรายวิชาต่อไปนี้ รหสั วชิ า ชอื่ วชิ า ท-ป-น 2-0-2 ง30206 2001-1001 ความรู้เกี่ยวกบั งานอาชีพ 0-6-2 1-3-2 ง31288 2103-1001 งานเชือ่ มโลหะเบ้ืองตน้ 1-2-2 1-3-2 ง31289 2100-1001 เขยี นแบบเทคนิคเบื้องต้น 1-3-2 2-0-2 ง30210 2101-1001 คอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศเพื่องานอาชพี 0-6-2 1-3-2 ง30239 2100-1006 งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกสเ์ บ้อื งต้น ง31291 2100-1008 งานเคร่ืองมือกลเบ้ืองตน้ ง31293 2100-1002 วัสดงุ านชา่ งอุตสาหกรรม ง31294 2100-1003 งานฝึกฝมี ือ 1 ง33290 2100-1007 งานถอดประกอบเครื่องกลเบือ้ งต้น
39 ง30206 ความรเู้ กี่ยวกบั งานอาชพี คำอธิบำยรำยวิชำ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 2 - 0 - 2 จานวน 2.0 หนว่ ยกิต รหสั รายวชิ า สอศ. 2001 -1001 ศกึ ษาเกย่ี วกับมาตรฐานอาชีพ องค์กรและการบริหารงานในองค์กร หลักการปฏบิ ตั ิตนในงาน อาชีพหลักการบรหิ ารงานคณุ ภาพ สง่ิ แวดล้อมและความปลอดภยั ในการทางาน จดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ เพือ่ ให้ 1. เข้าใจเก่ียวกับมาตรฐานอาชพี องค์กรและการบรหิ ารงานในองค์กร หลกั การปฏบิ ตั ติ นในงาน อาชีพหลกั การบรหิ ารงานคุณภาพ สิง่ แวดล้อมและความปลอดภัยในการทางาน 2. สามารถประยุกตใ์ ชค้ วามรู้เกีย่ วกับงานอาชพี เพอื่ การพัฒนาตนและงานอาชีพ 3. มเี จตคตทิ ด่ี ตี ่องานอาชพี และหลกั การบริหารงานให้มคี ุณภาพและประสิทธภิ าพ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรู้เกย่ี วกับมาตรฐานอาชพี องค์กรและการบริหารงานในองคก์ ร หลักการปฏบิ ัติตน ในงานอาชีพ หลักการบริหารงานคณุ ภาพ สงิ่ แวดล้อมและความปลอดภัยในการทางาน 2. ประยกุ ตใ์ ชค้ วามรูเ้ กยี่ วกับงานอาชีพเพ่ือการพัฒนาตน องค์กรและงานอาชีพ 3. ประยุกตใ์ ชห้ ลกั การบรหิ ารงานคุณภาพ สง่ิ แวดลอ้ มและความปลอดภยั ในการปฏิบัติงาน อาชีพ
40 ง31288 งานเช่ือมโลหะเบ้ืองตน้ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 0 - 6 - 2 จานวน 2.0 หน่วยกิต รหัสรายวิชา สอศ. 2103-1001 ปฏบิ ัติเกี่ยวกบั งานเชื่อมอาร์กลวดเชอื่ มหุม้ ฟลกั ซเ์ หลก็ กล้าคาร์บอนงานเริม่ ตน้ อาร์ก งานเช่ือม แนวเดิน งานตอ่ แนวเช่อื ม งานเช่อื มพอก งานเชือ่ มรอยต่อชน รอยตอ่ เกย รอยตอ่ ตวั ที ในตาแหน่งท่าราบ และ งานเชือ่ มเดินแนวทกุ ตาแหน่งทา่ เชื่อม ปฏิบัติงานเชื่อมแก๊ส งานปรบั เปลวไฟเช่อื ม งานสร้างบ่อหลอมเหลว งานเชื่อมเดินแนวแบบ Forehand ทกุ ตาแหน่งทา่ เช่อื ม งานตัดดว้ ยแก๊ส โดยใช้อุปกรณ์ถกู ต้องตามหลัก ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย จดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ เพอื่ ให้ 1. สามารถปฏบิ ัติงานเชือ่ มอาร์กลวดเช่ือมห้มุ ฟลักซง์ านเร่ิมตน้ อาร์ก งานเช่ือมแนวเดนิ งานตอ่ แนว เชือ่ ม งานเชือ่ มพอก งานเชื่อมรอยต่อชน รอยต่อเกย รอยต่อตวั ที ในตาแหน่งทา่ ราบ 2. สามารถปฏบิ ตั งิ านเช่ือมแก๊ส งานปรับเปลวไฟเช่ือม งานสร้างบ่อหลอมเหลว งานเชื่อมเดินแนว แบบ Forehand รอยต่อมุม รอยต่อชนในตาแหนง่ ท่าราบ 3. สามารถปฏบิ ัตงิ านตัดแก๊สด้วยมอื และเครื่องตดั อตั โนมัติ 4. มีกิจนสิ ัยในการทางานทดี่ ี ปฏบิ ตั ิการเชือ่ ม โดยใชอ้ ุปกรณ์ความปลอดภัยสว่ นบคุ คล สมรรถนะรำยวิชำ 1. เชื่อมอาร์กลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์แผ่นเหลก็ กลา้ งานเร่ิมตน้ อาร์กงานเชื่อมเดนิ แนว งานต่อแนว เชอ่ื ม งานเชื่อมพอก งานเช่ือมรอยต่อชน รอยตอ่ เกย รอยต่อตัวที ในตาแหน่งทา่ ราบ ตาม หลักการและกระบวนการ 2. เชื่อมแกส๊ แผ่นเหล็กกลา้ งานปรบั เปลวไฟเชือ่ ม งานสร้างบ่อหลอมเหลว งานเชอ่ื มเดินแนวแบบ Forehandรอยตอ่ มุม รอยต่อชนตาแหน่งท่าราบตามหลกั การและกระบวนการ 3. ตดั แก๊สแผ่นเหลก็ กล้าด้วยมอื และเครื่องตัดอัตโนมตั ติ ามแบบกาหนด
41 ง31289 เขียนแบบเทคนคิ เบื้องต้น คำอธิบำยรำยวิชำ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 1 - 3 - 2 จานวน 2.0 หนว่ ยกิต รหสั รายวิชา สอศ. 2100 -1001 ศกึ ษาและปฏบิ ัติเก่ียวกับหลกั การอ่านแบบ เขยี นแบบเทคนิคเบื้องต้น การใช้และการบารุงรกั ษา เครอ่ื งมือเขยี นแบบ มาตรฐานงานเขยี นแบบเทคนคิ เสน้ ตัวเลข ตวั อักษร การสรา้ งรูปเรขาคณิต การ กาหนดขนาดของมิติ มาตราสว่ น ภาพสามมิติ หลกั การฉายภาพมมุ ท่ี 1 และมุมที่ 3 ภาพสเกตซ์ ภาพตัด และสัญลักษณ์เบ้ืองต้น ในงานช่างอตุ สาหกรรม จุดประสงค์รำยวชิ ำ เพ่อื ให้ 1. รแู้ ละเขา้ ใจเกีย่ วกบั หลกั การเขียนแบบเทคนคิ การใช้เคร่ืองมือ อปุ กรณ์เขียนแบบ 2. มีทกั ษะเกยี่ วกับการอ่านแบบและเขียนแบบเทคนิคเบ้ืองต้นเกี่ยวกบั ภาพฉาย ภาพตัด และภาพ สามมิติ ตามมาตรฐานเขียนแบบเทคนคิ 3. มีเจตคติและกจิ นสิ ยั ทดี่ ใี นการทางานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ เปน็ ระเบียบ สะอาด ตรงตอ่ เวลา มีความซ่อื สตั ย์ รับผิดชอบ และรักษาสภาพแวดล้อม สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงวธิ ีการเขียนแบบเทคนคิ การใช้เคร่ืองมือ อุปกรณ์เขยี นแบบ 2. อ่านและเขียนแบบภาพช้นิ ส่วนสองมติ ิ 3. อ่านและเขยี นแบบภาพสามมติ ิ 4. เขยี นภาพฉาย ภาพชว่ ยและภาพตัด
42 คำอธิบำยรำยวิชำ ง30210 คอมพิวเตอร์และสารสนเทศเพื่องานอาชีพ กลุ่มสาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4-6 จานวน 2.0 หน่วยกติ ท-ป-น 1 - 2 - 2 รหสั รายวิชา สอศ. 2101 -1001 ศึกษาและปฏบิ ตั ิเกี่ยวกบั การใชค้ อมพวิ เตอร์และระบบสารสนเทศเพื่องานอาชพี การใช้ ระบบปฏบิ ตั ิการ(Windows, Mac, Open source OS, ฯลฯ) การใช้โปรแกรมประมวลผลคาเพื่อจัดทา เอกสารในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมตาราง ทาการเพื่อการคานวณในงานอาชีพ การใช้โปรแกรมการ นาเสนอผลงาน หรอื การใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปู อืน่ ๆ ตามลักษณะงานอาชพี การใชอ้ ินเทอร์เน็ตสบื คน้ ข้อมลู เพ่อื งานอาชีพและการส่อื สารข้อมูลสารสนเทศ ผลกระทบของการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ จรยิ ธรรมและ ความรบั ผดิ ชอบในการใช้คอมพวิ เตอร์กับระบบสารสนเทศและงานอาชีพ จดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ เพอ่ื ให้ 1. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการดา้ นคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ การใช้ โปรแกรมสาเรจ็ รูป การใช้อนิ เทอร์เน็ตแบะการสอ่ื สารข้อมูลสารสนเทศในงานอาชพี 2. สามารถสืบค้นแบะส่ือสารขอ้ มูลโดยใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต ใช้ระบบปฏิบัตกิ ารคอมพวิ เตอร์และโปรแกรม สาเรจ็ รปู ตามลักษณะงานอาชีพ 3. มคี ุณธรรม จรยิ ธรรมและความรับผดิ ชอบในการใชค้ อมพิวเตอร์กับระบบสารสนเทศ สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกับหลกั การและกระบวนการใชค้ อมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศ ระบบปฏิบัตกิ าร โปรแกรมสาเรจ็ รปู และอินเทอรเ์ นต็ เพื่องานอาชีพ 2. ใชร้ ะบบปฏิบัตกิ ารในการจดั สภาพแวดล้อมและจัดสรรทรัพยากรตา่ งๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์ 3. ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรูปในงานอาชพี โดยใช้อนิ เทอร์เนต็ 4. สืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยใช้อนิ เทอร์เนต็ 5. ส่ือสารข้อมลู สารสนเทศโดยใช้อินเทอรเ์ น็ต
43 คำอธิบำยรำยวชิ ำ ง30239 งานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ บ้ืองต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 จานวน 2.0 หน่วยกิต ท-ป-น 1 - 3 - 2 รหสั รายวชิ า สอศ. 2100 -1006 ศกึ ษาและปฏิบตั งิ านเกี่ยวกับหลักความปลอดภยั ในการปฏิบัติงานไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ แหล่งกาเนดิ ไฟฟา้ กฎของโอห์ม พลงั งานไฟฟ้า วงจรไฟฟา้ เบ้ืองตน้ วงจรไฟฟ้าแสงสว่าง การควบคุม มอเตอร์เบื้องตน้ อุปกรณ์ป้องกันไฟฟา้ และการต่อสายดนิ อุปกรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ R L C หม้อแปลงไฟฟา้ รีเลย์ ไมโครโฟน ลาโพง อปุ กรณส์ ารกึง่ ตวั นา การบัดกรี การใชม้ ลั ติมเิ ตอร์ เครอ่ื งกาเนดิ สญั ญาณ ออสซลิ โลสโคป การประกอบวงจรไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกสเ์ บอ้ื งต้น จุดประสงคร์ ำยวชิ ำ เพ่อื ให้ 1. รู้ เขา้ ใจ และนา ไปใชง้ านเกย่ี วกับหลักการทางาน ระบบความปลอดภัย ในงานไฟฟา้ และ อเิ ลก็ ทรอนิกส์เบ้ืองตน้ 2. มีทักษะเก่ยี วกับการใช้เครอื่ งมือวดั ทดสอบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การเตรียมอปุ กรณ์ ประกอบทดสอบวงจรไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ เลือกเคร่อื งใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 3. มเี จตคติและกจิ นิสยั ทด่ี ใี นการทางานดว้ ยความละเอยี ดรอบคอบ ปลอดภัย เปน็ ระเบียบ สะอาดตรงต่อเวลา มคี วามซ่ือสัตย์ รบั ผิดชอบ และรักษาสภาพแวดลอ้ ม สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงหลักการวัด ทดสอบ ประกอบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนกิ ส์เบื้องต้นและความปลอดภยั 2. ประกอบและตรวจสอบวงจรไฟฟ้าเบือ้ งตน้ 3. ตอ่ วงจรและอุปกรณ์ควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าเบ้ืองตน้ 4. ต่อวงจรและตรวจสอบอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ สเ์ บ้ืองตน้
44 ง31291 งานเครื่องมือกลเบื้องต้น คำอธิบำยรำยวิชำ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 กล่มุ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 1 - 3 - 2 จานวน 2.0 หนว่ ยกิต รหสั รายวชิ า สอศ. 2100 -1008 ศึกษาและปฏิบัตงิ านเกย่ี วกับหลักความปลอดภัยในการปฏิบตั ิงานเครื่องมือกล ชนิด สว่ นประกอบการทางาน การใช้งานและการบารงุ รักษาเคร่ืองมือกลเบื้องต้น การคานวณคา่ ความเร็วรอบ ความเรว็ ตดั อัตราการปอ้ น ปฏิบัติงานกลงึ ปาดหน้า กลงึ ปอก ไสราบ ไสบา่ ฉาก เจาะรู และรีมเมอร์ งาน ลบั คมตดั มีดกลงึ ปาดหนา้ มีดกลึงปอก ดอกสว่าน จุดประสงคร์ ำยวชิ ำ เพือ่ ให้ 1. รแู้ ละเข้าใจเกย่ี วกบั หลักการทางาน การคานวณทีใ่ ชใ้ นงานเคร่อื งมือกลพืน้ ฐาน 2. มีทักษะเกย่ี วกับการ ตดั เจาะ กลึง ไส งานดว้ ยเครอื่ งมอื กลเบือ้ งตน้ 3. มีเจตคติและกิจนิสยั ทดี่ ีในการทางานดว้ ยความละเอียดรอบคอบ ปลอดภยั เป็นระเบยี บ สะอาดตรงตอ่ เวลามีความซ่ือสตั ย์ รับผดิ ชอบ และรกั ษาสภาพแวดลอ้ ม สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความรูเ้ กีย่ วกับหลักการทางาน การบารุงรกั ษา การปรับตงั้ การใชง้ านเคร่ืองมอื กล พ้นื ฐานตามคู่มือ 2. คานวณคา่ ความเรว็ รอบ ความเรว็ ตดั อัตราการป้อนงานเครื่องมอื กลพ้ืนฐาน 3. ลบั คมตดั งานกลงึ งานไส และงานเจาะ ตามคูม่ ือ 4. ลบั มีดกลงึ ปาดหนา้ มีดกลงึ ปอก งานลับดอกสว่าน งานกลึงปาดหน้า กลงึ ปอก งานไสราบและ ไสบ่าฉาก ตามคู่มอื 5. เจาะรู และรมี เมอร์ ตามแบบสงั่ งาน 6. กลงึ ข้ึนรูปช้นิ งานโลหะตามแบบสัง่ งาน 7. ไสปรบั ขนาดชิ้นงานโลหะตามแบบสั่งงาน
45 ง31293 วัสดุงานช่างอตุ สาหกรรม คำอธบิ ำยรำยวิชำ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ท-ป-น 2 - 0 - 2 จานวน 2.0 หน่วยกติ รหสั รายวิชา สอศ. 2100 -1002 ศึกษาเกยี่ วกับคณุ ลักษณะ ชนดิ มาตรฐาน กรรมวธิ กี ารผลิต การใชง้ าน การจดั เก็บ การเลอื ก วสั ดุในงานอุตสาหกรรมประกอบด้วย โลหะ อโลหะ โลหะผสม อทิ ธิพลของธาตทุ ่ีมีต่อโลหะผสม วัสดุ เชือ้ เพลงิ และสารหลอ่ ลนื่ วสั ดุหลอ่ เยน็ วสั ดุก่อสรา้ ง วัสดสุ งั เคราะห์ วัสดุงานไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนกิ ส์ การ กัดกร่อนและการป้องกันหลกั การตรวจสอบวัสดุเบ้อื งต้น จดุ ประสงค์รำยวิชำ เพ่อื ให้ 1. รู้และเข้าใจเกย่ี วกับหลักการพน้ื ฐานในการจาแนก ชนิด คณุ ลกั ษณะ สมบัติ มาตรฐาน การใช้ งานของวัสดุงานช่างอุตสาหกรรม 2. สามารถเลอื กวัสดุอตุ สาหกรรมมาใชแ้ ละการจัดเก็บได้ตรงตามมาตรฐาน 3. มีเจตคตแิ ละตระหนกั เห็นคุณคา่ ของวัสดุ และนามาใช้ให้เกิดประโยชนส์ ูงสุด สมรรถนะรำยวิชำ 1. แสดงความร้เู ก่ยี วกบั หลักการพน้ื ฐานในการจาแนก ชนิด ลักษณะ สมบัติ มาตรฐาน การใช้ งานวสั ดุอุตสาหกรรม 2. เลอื กใช้วัสดุอตุ สาหกรรมได้ตรงตามลักษณะงาน
46 ง31294 งานฝกึ ฝีมือ 1 คำอธิบำยรำยวิชำ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ท-ป-น 0 - 6 - 2 จานวน 2.0 หน่วยกิต รหสั รายวิชา สอศ. 2100 -1003 ปฏิบัตเิ กีย่ วกับการใช้ การบารุงรักษาเครอ่ื งมือและเคร่ืองมือกลเบื้องต้น งานวัดและตรวจสอบ งานร่างแบบ งานเล่ือย งานสกดั งานตะไบ งานเจาะ งานลับคมตัด งานทาเกลยี ว งานเครอ่ื งมือกลเบ้ืองตน้ งานหลอ่ เบอ้ื งตน้ และการประกอบชน้ิ งาน สงิ่ แวดลอ้ มและความปลอดภยั ในการปฏิบตั งิ าน จดุ ประสงค์รำยวิชำ เพื่อให้ 1. รู้และเข้าใจเก่ยี วกบั การใช้ การบารงุ รักษาเคร่ืองมือและเครือ่ งมือกลเบือ้ งต้น 2. ปฏิบตั งิ านโดยใช้เครื่องมือไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและปลอดภยั 3. มีเจตคติและกิจนิสัยทดี่ ีในการทางานด้วยความอดทน ปลอดภยั ผลงานประณตี เรยี บร้อย ละเอยี ด รอบคอบ เปน็ ระเบียบ สะอาด ตรงต่อเวลามคี วามซอ่ื สตั ย์ รับผิดชอบ และรกั ษาสภาพแวดล้อม สมรรถนะรำยวิชำ 1. เตรียมเครอื่ งมอื และเครื่องมือกลเบื้องตน้ ตามคู่มือ 2. วัดและร่างแบบช้ินงานโลหะ 3. แปรรปู และประกอบชน้ิ งานโลหะด้วยเครอ่ื งมือกลท่ัวไป 4. ลับคมตดั เครื่องมือกลท่ัวไป 5. หลอ่ ชน้ิ งานตามแบบกาหนด
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104