Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Ancient Egypt อารยธรรมอียิปต์ ยุคต้นราชวงศ์

Ancient Egypt อารยธรรมอียิปต์ ยุคต้นราชวงศ์

Published by ขวัญจิต บุญมาก, 2022-01-21 02:16:44

Description: เรียนประวัติศาสตร์กับครูขวัญจิต

Search

Read the Text Version

อารยธรรมโรมนั อารยธรรมกรกี อารยธรรมอยี ปิ ต์ อารยธรรมสินธุ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เส้นเวลาอารยธรรมโลก

5000 B.C. เกิดการเปลย่ี นแปลงสภาพภมู ศิ าสตร์ เกิดทะเลทรายขนาดใหญ่ ผคู้ นจงึ อพยพเขา้ มาต้ังถ่ินฐานบรเิ วณลุ่มแม่นา้ ไนล์ เกิดอารยธรรมยงิ่ ใหญข่ องทวปี แอฟรกิ า ทะเลทรายเมดิเตอรเ์ รเนียน ทะเลทรายซาฮารา แม่นา้ ไนล์ (Sahara) (Nile) ความสาเรจ็ ในการสรา้ งและพฒั นาอารยธรรมโดยปราศจากอุปสรรคใด ๆ • ทะเลทรายซาฮารา ปราการปอ้ งกนั การคกุ คามจากศตั รทู างบก • แม่นา้ ไนล์ (Nile ภาษากรกี : หุบเขาแห่งแม่นา้ ) ความอุดมสมบูรณ์ • ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนยี น : ป้องกนั การรุกรานทางทะเล

จากการสารวจพบวา่ แม่น้าไนลม์ ีแหล่งกาเนิด ทอ่ี ยูใ่ นประเทศ ยูกันดาและเอธโิ อเปยี คือจากแม่นา้ 2 สาย ได้แก่ แม่นา้ ไนล์ ขาว (the White Nile) ซงึ่ เกิดจากทะเลสาบวกิ ตอเรยี (Lake Victoria) ในเขตประเทศยูกันดา และแม่น้าไนลน์ ้าเงนิ (the Blue Nile) ซง่ึ เกิดจากทะเลสาบทานา (Lake Tana) บรเิ วณ ทรี่ าบสูงในประเทศเอธโิ อเปยี แม่น้าทงั้ สองสายไหลไปบรรจบ เปน็ แม่น้าสายเดียวกันทเ่ี มืองคารท์ มู (Khartoum) ประเทศ ซูดาน รวมเรยี กวา่ แม่น้าไนล์ ไหลขึ้นทางเหนือไปยงั เมืองไคโร (Cairo) ประเทศอียิปต์ จากจุดนี้ แม่นา้ ไนลแ์ ยกออกเปน็ 2 ชอ่ งทาง ทางหนง่ึ ไหลลงสู่ทะเลเมดิเตอรเ์ รเนียนเมืองดามิตตา (Damietta) ตั้งอยู่อยูห่ ่างจากเมืองทา่ ซาอิด (Said) ประมาณ 40 ไมล์ อีกทางหนง่ึ ไหลไปทางเมืองราชดิ (Rashid) เดิมคือ เมืองโรเซตตา (Rosetta)

อ า ร ย ธ รร มลุ่ ม แ ม่ นา้ ไ น ล์ อียิปต์ลา่ ง (Lower Egypt) ต้ังอยู่ทร่ี าบ บรเิ วณปากแม่นา้ ไนล์ มีลักษณะ เป็นรูปพัด หรอื เดลตาซง่ึ อารย ธรรมโบราณของ อียิปต์เจรญิ ขึ้น บรเิ วณน้ี อารยธรรมลุ่มแม่นา้ ไนล์หรอื อารยธรรมอียิปต์ อียิปต์บน (Upper โบราณมีจุดกาเนิดอยู่ทางตอนเหนือของทวปี Egypt) อยู่ใน แอฟรกิ า บรเิ วณสองฝ่ ังแมน่ ้าไนลท์ ม่ี ลี ักษณะเปน็ บรเิ วณที่แม่นา้ ไนล์ แนวยาวตั้งแต่ปากแม่นา้ ไนลซ์ ง่ึ เปน็ ตอนปลายสุด ไหลผ่านหุบเขาไป ของแม่น้าไปจนถึงตอนเหนือของ ประเทศซูดาน จนถึงต้นแม่น้า ในปัจจุบัน ทาให้แบง่ ลกั ษณะภูมิประเทศของลมุ่ นา้ ตอนในทวปี ไนล์แบง่ ได้เปน็ 2 บรเิ วณ ลักษณะเปน็ ทร่ี าบ แคบๆ ขนาบด้วย หน้าผา และ ทะเลทราย

อียปิ ต์เปน็ ของขวญั จากแมน่ า้ ไนล์ 2. ทรพั ยากรธรรมชาติ 3. ภูมิปญั ญาของชาวอยี ปิ ต์โบราณ 4. ระบอบการปกครอง 5. ศาสนาและความเชอ่ื

เฮยี โรกลฟิ ฟิก มาจากภาษากรกี hieros (ศักดิ์สิทธ)์ิ + อ่านว่า glypho (จารกึ ) มีลกั ษณะเปน็ อักษรภาพ ทเ่ี ชอ่ื กันว่าถูกสรา้ งขน้ึ มา คลีโอพัตรา โดยเทพเจา้ โทห์ (Thoth) และเชอ่ื ว่าเปน็ คาพูดของพระเจา้ ค.ศ.1799 มีการพบจากแทง่ หินโรเซต็ ตา ซงึ่ เปน็ ศิลาจารกึ เรอ่ ื งราวต่างๆ ของอารยธรรมอิยปิ ต์ มีลักษณะเปน็ แผ่นหิน บะซอลต์สีดา สูง140 ซม. กวา้ ง 72 ซม. พบทเ่ี มืองโรเชต็ ตา ประเทศอียิปต์ จารกึ เปน็ อักษร 3 ภาษา คือ อักษรเฮยี โรกลฟิ ฟิก อักษรเดโมติก และอักษรกรกี โบราณ แรกเรม่ ิ อักษรเหลา่ นี้ยังไม่มีผู้ใดทส่ี ามารถแปลความหมายได้ จนกระทง่ั ฌอง-ฟรองซวั ฌองโปลอิ ง (Jean-Francois Champollion) ชาวฝรง่ั เศส ได้ทาการรเิ รม่ ิ ศึกษาและสามารถถอดความหมายของอักษร เฮยี โรกลฟิ ฟิกได้สาเรจ็ ในทสี่ ุด เขาสรปุ ได้วา่ ลกั ษณะของอักษรเฮียโรกลิ ฟฟิกนี้ สะกดคาโดยถือเสียงเปน็ เกณฑ์ ตัวอักษรจรงิ ๆ น้ันจะมีเพยี ง 66 ตัว ทใี่ ชป้ ระสมเปน็ คา และแทนเสียงพยญั ชนะและสระในภาษาพูด ซงึ่ อักษรบาง ตัวก็ใชซ้ ้าๆ กันได้ ชองโปลอิ งได้ทาการศึกษาอยู่เปน็ เวลายาวนานถึง 23 ปี ก็สามารถรวบรวมตาราไวยากรณ์และพจนานุกรมภาษาอียิปต์ได้สาเรจ็ อักษรภาพเฮียโรกลฟิ ิกใชส้ ลักเรอ่ ื งราวเกี่ยวกับองค์ฟาโรห์ ราชวงศ์ กิจกรรมอันเกี่ยวเนื่องกับการปกครองแผ่นดิน และเรอ่ ื งราวทางศาสนา

ภาพวาดในสุสาน ค่สู ามีภรรยากาลังเก็บเก่ียวผลผลิต ชาวอียปิ ต์โบราณดารงชวี ติ ด้วยการกสิกรรมโดยเฉพาะในเขตท่ี ราบน้าท่วมถึงหรอื ที่เรยี กว่าเขตดินสีดาทชี่ อื่ วา่ เคเมต เป็นดินแดนที่ บา้ นเรอื นของชาวอียิปต์สรา้ งจากอิฐตากแห้งและใชไ้ ม้ อุดมสมบูรณ์ การเพาะปลูกได้ผลดี พืชผลทไ่ี ด้จะถือเปน็ สมบัติของ ทาส่วนประกอบอย่างกรอบประตู บ้านแต่ละหลังจะมีบนั ได ฟาโรห์และจะมีการแจกจา่ ยแก่ประชาชนอย่างเหมาะสม พืชทน่ี ิยม ข้ึนดาดฟ้าเนื่องจากชาวอียิปต์จะใชด้ าดฟ้าเป็นที่ทางานต่างๆ ปลูกกันคือข้าวสาลีและข้าวบาเล่ย์ โดยพวกเขาจะใชข้ ้าวสาลีทาขนม เชน่ การทาขนมปงั หรอื แม้แต่เป็นทีพ่ ักผ่อนนัง่ คยุ ปังและทาเบยี รจ์ ากข้าวบาเล่ย์ ซง่ึ ท้ังสองอย่างน้ีเปน็ อาหารหลักของ ชาวอียิปต์โบราณ และยงั ใชเ้ ป็นสินค้าส่งออกไปยังดินแดนอื่นๆอีก ด้วย นอกจากการเพาะปลูกแล้วชาวอียปิ ต์ยงั ทาการจบั ปลา ล่านกน้า โดยใชเ้ รอื ที่ผูกจากต้นกก ส่วนในเขตดินสีแดงทเ่ี รยี กวา่ เชเครต ซง่ึ อยูใ่ นเขตอียปิ ต์บนพวกเขาจะทาการล่าสัตว์ป่าอยา่ ง แอนทีโลป และ แพะป่า ซง่ึ มีอยู่มากมาย

ลักษณะสังคมของอียิปต์แบง่ พลเมอื งออกเป็น 7 ชนชนั้ 1. ชน้ั สูงสุดคือฟาโรห์และพวกราชวงศ์ของพระองค์ (ฟาโรห์คือตาแหน่ง กษัตรยิ อ์ ียิปต์โบราณ ฟาโรห์ถือวา่ เปน็ โอรสของเทพเจา้ แห่งพระอาทิตยท์ ี่ ทรงพระนามวา่ รา (Re) และยังถือวา่ ฟาโรห์เปน็ ส่ือกลางระหวา่ งชาวอียิปต์ และเทพเจา้ จงึ ห้ามเอ่ยพระนามของฟาโรห์ อานาจสูงสุดในการปกครอง ตกเป็นของฟาโรห์แต่เพียงผู้เดียว มีรชั ทายาทรบั ตาแหนง่ มหาเสนาบดีหรอื วเิ ซยี ร์ (Vizier) เพ่ือเตรยี มพระองค์ในการเปน็ ฟาโรห์ต่อไปในอนาคต 2. นักบวช (Priests) ทาหน้าท่ีประกอบพิธกี รรมต่างๆ และขุนนาง (Nobles) แบง่ ออกเป็น 40 ส่วนเรยี กวา่ โนมิส เทยี บได้กับจงั หวดั มีข้าหลวงเรยี กว่า โนมารค์ ฟาโรห์ทรงเลือกแต่ผู้ใกล้ชดิ และไวว้ างพระทัยให้ปกครอง 3. ทหารประจาการ มีไว้เพื่อปอ้ งกันประเทศและยกไปรกุ รานผู้อื่น 4. อาลักษณ์ (Scriber) ผู้จดบันทึกเรอ่ ื งราวต่าง ๆ 5-6 พวกชา่ งฝมี ือ (Craftsmen) และพ่อคา้ (Merchants) พวกชา่ งฝมี ือ ของอียิปต์ได้เรม่ ิ ทาอุตสาหกรรมต่อเรอื ทาเครอ่ ื งป้ นั ดินเผา ทาแก้วและ เส้ือผ้าต่างๆ ต่อมารฐั ได้เข้ามาควบคมุ ธรุ กิจของเอกชนทุกอยา่ ง 7. ชาวนาและพวกทาสติดดินและเชลย ชาวนามีจานวนมากและทางานหนัก ท่ีสุดปลูกข้าวสาลี บาเลย์ มิล์เลย์ ผัก ผลไม้ ป่าน ฝ้าย พวกทาสทาหน้าทห่ี า วตั ถดุ ิบทุกอยา่ งในประเทศ เชน่ หนงั สัตว์ ต่อยและลาเลียงหินท่ใี ชใ้ นการ ก่อสรา้ ง ขุดคลอง สรา้ งปริ ามิด เป็นต้น พวกน้ีมีความเป็นอยูท่ ี่ลาบากมาก อาศัยอยูใ่ นกระท่อมดินเหนียว ฐานะของสตร ีชาวอียิปต์นิยมทจ่ี ะมีสามีและภรรยาเพียงคนเดียว แม้แต่ฟาโรห์ก็เชน่ กัน ในสังคมอียปิ ต์ฝ่ายหญิงและเครอื ญาติของ ฝ่ายหญิงมีอานาจ ภรรยาสามารถเป็นเพ่ือนและไปไหนมาไหนกับสามีได้ สามารถไปงานพิธตี ่างๆได้ มีสิทธใิ นกฎหมายเทา่ เทยี มชาย พระธดิ าของฟาโรห์มีสิทธสิ ืบสันตติวงศ์ได้เชน่ เดียวกัน ด้วยเหตุน้ีจงึ ปรากฏวา่ มีราชนิ ีผู้สามารถหลายองค์ข้ึนครองราชย์

เมืองเมมฟสิ ยุ ค ต้ น ร า ช ว ง ศ์ ร ะ ย ะ เ ว ล า ป ร ะ ม า ณ 4 1 5 ปี อารยธรรมอียปิ ต์เรม่ ิ ขนึ้ เมื่อประมาณ 3500 B.C. หรอื 5500 ปมี าแล้ว เปน็ ชุมชนเรร่ อ่ น ต่อมาได้พฒั นาจนเกิดชนชน้ั ปกครอง ขยายตัวเปน็ รฐั เลก็ ๆ เรยี กวา่ “โนมม์” มีสัญลกั ษณ์ เชน่ สุนัข เหย่ียว แมงปอ่ ง ฯลฯ อียปิ ต์ในสมัยนั้นแบง่ เปน็ 2 อาณาจกั ร คืออียิปต์ตอนบน และอียิปต์ตอนล่าง นารเ์ มอร์ (Namer) หรอื เมเนส ท่สี วมศีรษะแสดงการรวม อียิปต์บน-ลา่ งของฟาโรห์ (Menes : 3000 B.C.) ผู้ปกครองอียปิ ต์ตอนบนเปน็ กษัตรยิ ์ นารเ์ มอร/์ เมเนส องค์แรกทรี่ วมอาณาจกั รทง้ั สองเข้าด้วยกัน แล้วสถาปนา ราชวงศ์ท่ี 1 และ 2 และต้ังเมืองเมมฟิส (Memphis) เปน็ เมืองหลวงแห่งแรก ยุคน้ีมีการพฒั นาอักษรภาพ เฮยี โรกลฟิ ฟิก แผ่นหินนารเ์ มอร์ เป็นแผ่นหนิ เก่าแก่อายุ 5000 ปี แสดงภาพนารเ์ มอรก์ าลงั ฆ่าศัตรู กล่าวถงึ การรวมสองดินแดนเปน็ หนงึ่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook