หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 3 การควบคุมและป้องกนั โรคจากการทางาน
ใบความรทู้ ่ี 3 เร่ือง การควบคุมและป้องกันโรคจากการทางาน 1. ความหมายของโรคจากการทางาน โรคจากการทางาน หมายถึง โรคท่ีเกิดกับผู้ปฏิบัติงานแบบเฉียบพลันหรือ แบบเรื้อรัง มีสาเหตุมาจากการทางานในสภาวะแวดล้อมท่ีไม่เหมาะสม ปฏิบัติงานที่ท่ีต้องสัมผัสกับสารต่างๆ ท่ีก่อให้เกิดโรคเป็นเวลานาน โรคจากการ ทางาน ได้แก่ โรคพิษตะก่ัว โรคหูเสื่อม โรคตาเส่ือม โรคซิลิโคลิสเป็นต้น โรค บางอย่างใช้เวลาฟักตัวนาน แต่อาการของโรครุนแรง เช่น โรคกระเพาะอาหาร โรคความดันโลหิตสงู โรคเครียด เปน็ ต้น 2. ปัจจัยสาคัญท่ีทาให้เกิดโรคจากการทางาน ปจั จัยสาคญั ทท่ี าให้เกิดโรคจากการทางาน มีดังนี้ 1. ต้นเหตุของโรคหรือส่ิงที่ทาให้เกิดโรค หมายถึง สาเหตุสาคัญของการ เกิดโรคจากการทางาน มีหลายสาเหตุที่เปน็ ตัวทาให้เกิดโรคจากการทางาน เช่น สารเคมี ความร้อน ฝนุ่ ละอองใยหนิ เช้ือรา พยาธิ เสยี งทีด่ ังเกนิ มาตรฐาน 2. ผู้ปฏิบัติงาน หมายถึง สิ่งท่ีมีอิทธิพลต่อการเกิดโรคของผู้ปฏิบัติงาน มี หลายประการ ได้แก่ เชื้อชาติ เพศ อายุ กรรมพันธุ์ โรคประจาตัว พฤติกรรม ประจาตวั ของผู้ปฏบิ ตั งิ าน เช่น การดม่ื สรุ า การสบู บุหรี่
3. สภาพการทางาน หมายถึง สถานท่ีท่ีมอบหมายงานให้ผู้ปฏิบัติงานทา การให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคจากการทางาน ผู้ปฏิบัติงานควรทางานไม่ เกิน 8 ช่ัวโมง และเวลาพัก1 ชั่วโมง สถานประกอบการควรจัดส่ิงอานวยความ สะดวกข้ันพ้ืนฐานให้กับผู้ปฏิบัติงาน เช่น ห้องน้า ห้องรับประทานอาหาร ตู้น้า ดื่มสะอาด สภาพแวดล้อมในการทางาน คือ สิ่งต่างๆ ท่ีอยู่รอบตัวผู้ปฏิบัติงานใน ขณะที่ดาเนนิ งาน โดยสภาพแวดล้อมที่เก่ยี วขอ้ งกับผ้ปู ฏิบตั งิ าน ไดแ้ ก่ 1. สภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น อุณหภูมิ แสงสว่างเสียง ความ ส่นั สะเทือน เป็นตน้ 2. สภาพแวดล้อมทางชีวภาพ ที่มีท้ังมีชีวิตและไม่มีชีวิต เช่น ไวรัส แบคทีเรีย พยาธิ และสัตว์ท่ีมีพิษต่างๆ ฝุ่นละออง ท้ังฝุ่นจากพืช และฝุ่นจาก โลหะต่างๆ 3. สภาพแวดล้อมทางเคมี ได้แก่ สารเคมีที่นามาเป็นวัตถุดิบในการผลิต สินค้า หรือของเสียท่ีออกมาจากกระบวนการผลิต หรือที่เรียกว่า ขยะ อุตสาหกรรม 4. สภาพแวดล้อมทางออร์โกโนมิกส์หรือจิตวิทยาทางสังคม คือ การ ทางานท่ียาวนานหลายช่ัวโมง หรือทางานแข่งกับเวลา การทางานเป็นผลัด การ ทางานอย่างเดยี วทุกวันซ้าซาก การทางานหนักเกินไป การทางานที่ไม่เหมาะสม กบั รา่ งกาย ทางานไม่ตรงกับความรู้ ความสามารถ 3. ชนดิ ของโรคจากการทางาน ตามประกาศกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม (ที่ลงในราชกิจจา- นุเบกษา เม่อื วันที่15 สงิ หาคม พ.ศ. 2550) ท่ีกาหนดชนดิ ของโรคซ่งึ เกดิ ข้ึนตาม ลักษณะหรือสภาพของงานหรือเน่ืองจากการทางาน แบ่งตามโรคท่ีเกิดจากการ ทางานดงั นี้ 1. โรคทเี่ กดิ ขึ้นจากสารเคมี 2. โรคที่เกิดขึน้ จากสาเหตุทางกายภาพ
3. โรคทเ่ี กิดข้ึนจากสาเหตุทางชวี ภาพ 4. โรคระบบหายใจที่เกดิ ขึน้ เน่ืองจากการทางาน 5. โรคผิวหนังท่เี กดิ ข้ึนเน่ืองจากการทางาน 6. โรคระบบกล้ามเนื้อและโครงสร้างกระดกู 7. โรคมะเรง็ 8. โรคอ่นื ๆ 4. ความเสยี่ ง และอันตรายดา้ นโรคจากการประกอบอาชีพภาคเกษตรกรรม แบ่งไดเ้ ปน็ 4 ด้าน ดังน้ี 1. ความเสี่ยงอันตรายจากปัจจัยทางเคมี ซ่ึงปัจจัยทางเคมีที่สาคัญคือ สารเคมีกาจัดศัตรูพืช จะมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะส้ันและระยะยาว อาการที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันตั้งแต่อาการเล็กน้อย จนรุนแรงถึงแก่เสียชีวิต ข้ึนอยกู่ ับชนิด ปริมาณ และทางเข้าสูร่ า่ งกายของสารเคมี 2. ความเสี่ยงอันตรายต่อปัจจัยทางชีวภาพ การทางานในภาคเกษตร อันตรายจากปัจจัยชีวภาพ ได้แก่ ความเส่ียงต่อโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน เช่น โรคเลปโตสไปโรซิส หรือโรคฉี่หนู โรคไข้หวัดนก โรคแอนแทรกซ์ การติด เชื้อโรคท่ัวไป รวมถึงการบาดเจ็บจากการถูกสัตว์ร้าย กัด เช่น งู หรือ สัตว์มีพิษ กดั ตอ่ ย 3. ความเส่ียงอันตรายจากปัจจัยทางกายภาพ และเออร์โกโนมิคส์ การ ทางานในท่มี ีอากาศรอ้ นทาให้เกดิ การเสียน้าจากเหง่ือออกมากเกินไป อ่อนเพลีย เป็นลม และหมดสติได้ รวมถึงท่าทาง และสภาพการทางานที่ไม่เหมาะสม อาจ ทาให้เกิดปวดหลัง ปวดกล้ามเน้ือและอาการบาดเจ็บ ของกล้ามเน้ือและข้ออื่นๆ นอกจากน้ีภัยธรรมชาติยังนับเป็นปัจจัยทางกายภาพท่ีสามารถสร้างความ เสียหายต่อทรัพย์สินและการบาดเจ็บของเกษตรกร เช่น พายุ ฝนแล้ง น้าท่วม แผน่ ดินไหว
4. ความเสี่ยงอันตรายจากปัจจัยทางจิตวิทยาสังคม ความเครียดจาก ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ราคาผลผลิตตกต่า ไม่ได้ผลผลิตตามท่ีคาดหวังไว้ การ เป็นหนี้ทงั้ ในและนอกระบบ ซึ่งอาจเปน็ สาเหตุทาใหเ้ กษตรกรเกดิ อาการซมึ เศร้า หมดหวังในชีวติ และคิดฆ่าตัวตายในทสี่ ดุ 5. การเฝ้าระวังโรคจากการทางาน 1. ดูแลสุขภาพตนเองให้พร้อมเสมอในการปฏิบัติงาน เช่น พักผ่อนให้ เพียงพอ ไมด่ ่ืมสรุ าระหว่างการทางาน รบั ประทานอาหารให้ครบ 3 มอ้ื เปน็ ต้น 2. ศึกษาข้อมูลเก่ียวกับเครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการทางานให้ อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ ไม่มีการชารุดเสียหาย และพร้อมท่ีจะปฏิบัติงานได้อย่าง ปลอดภัย 3. บารุงรักษา เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้ อุปกรณ์ต่างๆ ตามวิธีการท่ีคู่มือระบุไว้ หรือเม่ือใช้ทางานครบตามชว่ั โมงท่ีกาหนด เพ่ือความปลอดภัยของผ้ปู ฏบิ ัตงิ าน 4. ตรวจสุขภาพประจาปีอย่างสม่าเสมอ หรือตรวจสุขภาพตามกาหนดท่ี กฎหมายระบไุ ว้ในกรณที ่ีทางานเสยี่ งต่อสุขภาพของผ้ปู ฏิบตั ิงาน 5. ควรมีอุปกรณ์ป้องกนั ตนเองในการทางาน เช่น หน้ากากป้องกนั สะเก็ด ไฟ หมวกนริ ภัยในการทางานก่อสรา้ ง เปน็ ต้น 6. ดูแลสุขภาพของตนเองว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือส่งสญั ญาณอันตราย บา้ ง หากพบการเปลี่ยนแปลงของสขุ ภาพ ผปู้ ฏบิ ัติงานตอ้ งรีบไปพบแพทยท์ นั ที 7. ผู้ปฏิบัติงานควรทางานอย่างรอบคอบ ไม่ประมาท เพ่ือความปลอดภัย ของตนเอง 8. ไม่ควรหยอกล้อกับเพ่ือนในระหว่างการปฏิบัติงาน เพราะอาจเกิด อบุ ัติเหตไุ ด้ สถานประกอบการควรพัฒนาสภาพแวดล้อมในสถานที่ทางาน และ กระบวนการทางานให้น่าอยู่ น่าทางาน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพผู้ปฏิบัติงานทั้ง ร่างกายและจิตใจ และควรพัฒนาสภาพแว ดล้อมสถานท่ีทางานและ กระบวนการทางานอยา่ งตอ่ เนือ่ งและสมา่ เสมอ
6. การส่งเสรมิ สุขภาพอนามัยผปู้ ระกอบอาชีพ การส่งเสริมสุขภาพอนามัยของผู้ปฏิบัติงานเป็นส่ิงจาเป็นท่ีสถาน ประกอบการต้องดูแลเอาใจใส่เพราะถ้าผู้ปฏิบัติงานมีสุขภาพไม่ดี เกิดการ เจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ ในระหว่างการปฏิบัติงานย่อมทาให้สถาน ประกอบการเกิดการสญู เสยี ท้งั กาลงั คนและกาลังทรัพย์ ดังนั้น สถานประกอบการควรส่งเสริมให้ผู้ปฏิบัติงานมีสุขภาพอนามัยที่ดี เพ่ือ เป็นการเพ่ิมผลผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน และเพ่ิมกาไรให้กับ สถานประกอบการ ดังน้ี 1. ส่งเสริมให้มีการอบรมเพ่ือให้ความรู้ความเข้าใจ แนะนาเกี่ยวกับการ ดแู ลสุขภาพอนามัยและความปลอดภยั ใหก้ บั ผู้ปฏิบัตงิ านทกุ คน ทกุ ระดบั 2. ส่งเสริมให้มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายในขณะปฏิบัติงาน ทั้งของ ผปู้ ฏิบัตงิ าน และเครื่องมอื เครื่องจักร 3. ส่งเสริมให้มีการตรวจสุขภาพท้ังก่อนและหลังจากเข้าปฏิบัติงานแล้ว ควรมีการตรวจสขุ ภาพเปน็ ระยะๆ หรือมกี ารตรวจสุขภาพประจาปอี ย่างต่อเนอ่ื ง 4 ส่งเสริมให้มีการจัดสภาพแวดล้อมในการทางาน จัดระเบียบสถานที่ ปฏบิ ัตงิ าน รกั ษาความสะอาด เพ่ือสขุ ภาพอนามยั ทีด่ ขี องผู้ปฏิบัติงาน 5. ส่งเสริมให้มีการตรวจสอบเครื่องมือ เคร่ืองจักร อุปกรณ์ มีการซ่อม บารุง ตดิ ตง้ั สญั ญาณเตอื นภยั เพอื่ ความปลอดภัยในขณะปฏิบตั ิงาน 6. ส่งเสริมให้มีการออกแบบกระบวนการผลิตที่มีอันตรายน้อยกว่า เช่น การใช้เคร่ืองผสมสารเคมีแทนการใชม้ ือผสม เป็นตน้ 7. ส่งเสริมให้มีการเฝ้าระวังการเกิดโรค เพ่ือควบคุมป้องกัน จัดลาดับ ความรนุ แรงของโรคและหาทางแก้ไข
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: