Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore งานนำเสนออีบุ๊ค

งานนำเสนออีบุ๊ค

Published by ชลนิชา จันอ่ํา, 2021-10-18 11:12:24

Description: งานนำเสนออีบุ๊ค

Search

Read the Text Version

เรื่อง วถิ ีชวี ิตและความเปน็ อยขู่ องคนพิษณุโลก นางสาวชลนิชา จันอ่า สาขาบรรณารกั ษศาสตรแ์ ละสารสนเทศศาสตร์ คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พิบลู สงคราม

ค่าน่า E-BOOK เล่มน้ีมีเนื้อหาเกี่ยวกับวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของคน พิษณุโลก โดยมีจุดประสงค์เพ่ือให้ผู้ที่สนใจหรือช่ืนชอบ นาไปศึกษาหรืออ่าน เพ่ือเป็นความรู้ ซ่ึงมีรายละเอียดประกอบไปด้วย มังคละ งานสมโภชพระพุทธ ชินราช ประเพณปี ักธงชยั ชมุ ชนชาวแพ ประเพณีการแขง่ เรือยาว การจัดทา E-BOOK เลม่ นีไ้ ด้ทาการศึกษาคน้ คว้า รวบรวมแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ ผู้จัดทา E-BOOK หวังว่า E-BOOK จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ท่ีศึกษา คน้ คว้าหรือชน่ื ชอบ หากมขี ้อผดิ พลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่น้ี ผ้จู ดั ทา 9 ตุลาคม 2564

สารบญั หนา้ ก เรื่อง ข คานา 1 สารบญั 1 มังคละ 2 6 ประวัติมังคละ 6 เคร่ืองดนตรมี งั คละ 8 ข้ันตอนการบรรเลง 8 วิธีการบรรเลงแตล่ ะเพลง 9 การแตง่ กาย 9 ตวั อยา่ ง คณะดนตรีมงั คละในจงั หวดั พิษณุโลก 10 ตวั อย่างโน้ตเพลงดนตรมี งั คละ 12 โน้ตเพลง บทเพลง บทละคร 12 งานสมโภชพระพุทธชินราช 13 ประเพณีปักธงชยั 14 ประวัติประเพณีปักธงชัย 15 วัตถปุ ระสงค์และความเช่อื เกยี่ วกับประเพณีปักธง 16 ชุมชนชาวแพ ประเพณีการแข่งเรอื ยาว บรรณานุกรม

มังคละ ภาพที่ 1 รามังคละและวงมังคละ ขอบคณุ ภาพจาก : https://1th.me/C3Uhu ประวัติมงั คละ มังคละ เป็นช่ือเรียกวงดนตรีพ้ืนบ้านท่ีมีลักษณะเป็นวงป่ีกลองชนิดหน่ึงที่มีใช้ เล่นกันอย่างแพร่หลายในจังหวัดพิษณุโลกเป็นเวลาช้านานมาแล้ว ในอดีตดนตรี มังคละเป็นวงดนตรีท่ีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนในสังคมและมีบทบาทสาคัญท้ังใน ด้านการประกอบพธิ กี รรม ตลอดจนดา้ นความบันเทิงเพ่ือการพักผ่อนหย่อนใจ ช่ือของดนตรีมังคละเป็นชื่อท่ีเรียกกันทั่วไปของคนภายนอก สาหรับศิลปินและ นักดนตรีพ้ืนบ้านซ่ึงเป็นเจ้าของวัฒนธรรมแต่ดั้งเดิมมา เรียกว่า “วงปี่กลอง” วง ดนตรีนี้มีบทบาทสาคัญในฐานะมหรสพของสังคม เมืองพิษณุโลกและภูมิภาค ภาคเหนือตอนล่างมาก่อน มีรูปแบบและวิธีการเล่นที่เป็นแบบฉบับของตนเองมี เอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยระบบเสียง ลักษณะจังหวะที่มีลีลา ครึกคร้ืน สนุกสนาน รุก เร้าใจเป็นอยา่ งยง่ิ ดนตรีมังคละจึงมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของชาวภาคเหนือตอนล่าง มาชา้ นานแล้วโดยเฉพาะชาวจังหวดั พิษณโุ ลก สุโขทยั และอตุ รดิตถ์ 1

เครอื่ งดนตรมี งั คละ เครอื่ งดนตรมี ังคละ ประกอบด้วย ปี่ กลองโกร๊ก กลองยนื กลองหลอน ฆอ้ ง 3 ใบ ฉาบกรอ ฉาบใหญ่ ฉิ่ง และกรับ 1. ปี่ ภาพท่ี 2 ป่ที ใี่ ชก้ ารบรรเลงมงั คละ ขอบคณุ ภาพจาก : https://1th.me/07cNa เป็นเคร่ืองดนตรีทาหน้าท่ีบรรเลงทานองปี่ท่ีนิยมใช้กันท่ัวไปเป็นป่ีพ้ืนเมือง มีลักษณะคล้ายปี่จีนเลาปี่มีลักษณะเป็นข้อๆ ส่วนลิ้นป่ีมีลักษณะคล้ายป่ีชวา หรือ ปแี่ น เสยี งขอป่เี ปน็ เสียงทเ่ี ร้าใจและมีเสียงดังเจิดจ้า แจ่มใส สว่ นทานองเพลงของป่ี ใช้ทานองเพลงไทยบ้างเพลงพื้นบ้านบ้าง มีลักษณะ การเป่าด้นเคล้าคลอไปให้เข้ากับเพลงแม่ไม้ต่าง ๆ ของวงมังคละ เพลงที่นิยมเล่นจะ แตกต่างกนั ไปตามสภาพของงานท่ีเป็นงานมงคล หรอื งานอวมงคล 2

2. กลองโกร๊ก ภาพท่ี 3 กลองโกร๊กที่ใชใ้ นการบรรเลงมงั คละ ขอบคณุ ภาพจาก : https://1th.me/07cNa เป็นเครือ่ งดนตรชี ิ้นเอกของวงมีขนาดเล็ก หนา้ กลองหุ้มดว้ ยหนงั ขนาด เส้นผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 5 นว้ิ ยาวประมาณ 1 ฟุต ส่วนมากทาจากไม้ขนุน หนา้ ตัดอีกดา้ นหนง่ึ เจาะรูขนาดเสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 1 นิ้วไวต้ รงกลาง เวลาตีใชต้ ีด้วยหวาย 2 อัน หวายแตล่ ะอนั มีขนาดยาวประมาณ 17 นว้ิ ปลายหวายพันเอาไวด้ ว้ ยเชือก เม่ือตีจะเกิดเสียงดังโกร๊ก การบรรเลงกลองโกร๊ก ใช้นักดนตรี 2 คน คนหน่ึงเป็นผู้ถือกลองและราร่าย ป้อไปมา อกี คนหนึง่ ถือหวายขา้ งละมอื เดนิ ตรี ัวกลอง เสียงของกลองมงั คละดัง ชดั เจนกว่าเคร่อื งดนตรชี นิดอื่นในวงมงั คละ คนทตี่ ีกลองตอ้ งแสดงออกด้วยท่าทาง และลีลาตามแบบศลิ ปะพื้นบ้านคลา้ ยกับวงกลองพ้นื เมืองท่ัวไป 3

3. กลองยืน ภาพที่ 4 กรองยืนที่ใช้ในการบรรเลงมังคละ ขอบคุณภาพจาก : https://1th.me/07cNa เปน็ กลองขึงขนึ้ หนงั หนา้ ท้ังสองด้านหุน่ กลองทาด้วยไม้ขนุนขุดกลงึ กลวง หนา้ ใหญม่ ีขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลางประมาณ 10 นวิ้ ใช้ตีด้วยไมเ้ นือ้ แขง็ เหลากลงึ ยาวประมาณ 7 น้ิว หนา้ เลก็ มีเสน้ ผา่ ศนู ย์กลางประมาณ 7 นิว้ ตดี ้วยมือ วงดนตรี มงั คละแต่ละวงจะใช้กลองยนื 1-3 ใบ กลองยืนมรี ะดบั เสียงตา่ ทาหนา้ ท่ีตียนื จงั หวะของเพลงเป็นหลัก กลองหลอน เปน็ กลองขึงขึ้นหนังหนา้ ท้ังสองดา้ น หุ่นกลองทาดว้ ยไมข้ นุน ขุดกลึงกลวง หนา้ ใหญ่มขี นาดเส้นผ่าศนู ย์กลางประมาณ 9 นิ้ว ใช้ตดี ว้ ยไม้เนื้อ แข็งเหลากลึงยาวประมาณ 7 นิว้ หนา้ เล็กมีเส้นผา่ ศูนย์กลางประมาณ 6 นวิ้ ตดี ้วย มือ วงดนตรีมังคละแต่ละวงจะใชก้ ลองยนื 1 ใบ กลองหลอนมรี ะดับเสยี งสูง ทา หน้าทีต่ ีขดั สอดสลบั ไปกบั จงั หวะกลองยืนตีหลอกล่อหรอื ลอ้ เลียนจงั หวะทาให้ ครกึ คร้นื สนกุ ย่ิงข้ึน 4

4. ฆอ้ ง ภาพท่ี 5 ฆอ้ งทใี่ ช้ในการบรรเลงมังคละ ขอบคณุ ภาพจาก : https://1th.me/07cNa ในวงมงั คละใชฆ้ ้อง 3 ใบ มีคานหามสาหรับแขวนฆอ้ ง โดยลูกฆอ้ งต้อง คัดเลอื กใหม้ รี ะดับเสยี งท่ีแตกตา่ งกัน ฆ้องท่ีแขวนอยูบ่ นคานหามส่วนที่อยหู่ น้าสุด มเี สียงสูงเป็นฆอ้ งใบเล็กสุด เรียกว่า เหม่งหน้า ใชเ้ ป็นเครอื่ งดนตรนี าวงกอ่ น บรรเลงจะตีเหม่งหน้า 3 ครง้ั จึงจะเรม่ิ รวั กลองมังคละ นอกจากนี้ยังใชร้ ัวจังหวะ เพอื่ แจ้งการเปลี่ยนแปลงเพลงและใชต้ ยี นื จังหวะตลอดการเลน่ สว่ นฆอ้ งอกี 2 ใบ มีขนาดใกลเ้ คยี งกันแต่มรี ะดบั เสียงแตกตา่ งกนั เรยี กว่าฆอ้ งโหมง่ หรือฆอ้ งคู่ หรอื ฆ้องหลัง แขวนไวท้ ีค่ านหามคู่กนั ละข้างใช้ไมต้ คี วบคุมจงั หวะสลบั กันไป คานหามที่ใช้แขวนฆ้องทั้ง 3 ใบ มกี ารประดิษฐ์ตกแตง่ คานหามเปน็ ลูกสัตว์ ตา่ ง ๆ เชน่ รปู พญานาค รปู พญาหงส์ รูปจระเข้ รปู ปลา รูปเทวดา เป็นต้น นอกจากนีย้ งั มกี ารลงรกั ปิดทองเพ่ือความสวยงาม เคร่อื งประกอบจงั หวะมีฉ่ิง ฉาบ กรอ ฉาบใหญ่ กรับ 5

ขน้ั ตอนการบรรเลง 1 ไหว้ครู 2 บรรเลงเพลงไม้ส่ี (นกั ดนตรีมังคละถือวา่ เปน็ เพลงครู) 3 บรรเลงเพลงตามความถนัดไปเรื่อย ๆ 4 จบการบรรเลงดว้ ยเพลงไม้สี่เพ่อื เปน็ สริ มิ งคล วธิ กี ารบรรเลงแต่ละเพลงมลี กั ษณะเฉพาะดงั น้ี 1 เร่มิ บรรเลงขนึ้ ต้นดว้ ยการตีรวั กลองมังคละ 2 ป่ี เป่าทานองรัวโหนเสยี งไปกบั กลองมังคละ 3 กลองยนื ตีนาขึ้นเพลงเปน็ ไม้กลองเพ่ือบอกใหน้ กั ดนตรี ในวงตตี ามในเพลงนนั้ ๆ 4 เครื่องดนตรีอน่ื ๆ จึงตตี ามพร้อมกันทง้ั วง 5 ลงจบดว้ ยการตีรัวกลองมังคละพร้อมท้งั ปีเป่ารัวเพื่อเป็นสัญญาณ ในการลงจบเพลงในจังหวะสดุ ท้ายอยา่ งพร้อมเพรียงกนั 6

การแสดงรามังคละในระยะแรกลักษณะการราไม่มกี ฎเกณฑอ์ ยา่ งใด เปน็ การราเพ่อื ความสนกุ สนานเพลดิ เพลนิ บันเทงิ ใจเท่าน้นั ผรู้ าจะใชท้ า่ ไดอ้ ย่างอสิ ระ อาจมีผู้นาในการราท่าขนึ้ แล้วให้คนอน่ื ราทา่ ทางนน้ั ต่อมาจึงได้มีผูค้ ิดประดษิ ฐ์ท่า ราขึน้ ใช้เปน็ แบบเฉพาะแต่ละชดุ ขนึ้ ตามภมู ปิ ัญญาของแต่ละคนแล้วทาการต้ังชื่อ ชดุ รานนั้ ข้นึ ใหม่ โดยสรา้ งกรอบความคิด สร้างความหมายขนึ้ ตามสิ่งท่ไี ด้ จนิ ตนาการขนึ้ เพ่อื ให้ผชู้ มไดร้ ับความเพลิดเพลนิ ความประทบั ใจ ตามแบบแผน ทีก่ าหนดขึ้นอยา่ งมกี ฎเกณฑ์ ส่วนดนตรีมงั คละท่นี าไปใชใ้ นการแสดงนั้นได้ นาเอาเพลงที่มมี าแต่อดีตไปใช้ เชน่ เพลงไมส้ ่ี เพลงนมยานกระทกแป้ง เปน็ ตน้ เมอื่ ปี พ.ศ.2511 อาจารยอ์ นงค์ นามสวสั ดิ์ ไดค้ ดิ ท่าราใช้ในการแสดงชดุ รามงั คละข้ึนมา โดยใชช้ ่อื ว่ารามังคละ มที า่ ราประกอบอยู่ดว้ ยกนั 4 ทา่ ไดแ้ ก่ ทา่ เจ้าชยู้ ักษ์ ท่าเจา้ ชูไ้ ก่แจ้ ทา่ ปอ้ และทา่ เมิน ซ่ึงมีความหมายในเชิงเกี้ยวพาราสี ระหวา่ งหนมุ่ สาวด้วยการหยอกเยา้ โตต้ อบกนั การสบื ทอดดนตรีมงั คละ การสบื ทอดดนตรมี ังคละมีลักษณะเป็นวัฒนธรรมท่ีสบื ทอดต่อกันภายใน ครอบครวั และกลุ่มบ้านที่อาศัยอยู่รวมกนั ทมี่ ดี นตรมี งั คละ ผ้สู นใจจะตอ้ งมี ความชอบ ความใกล้ชดิ ไดย้ ินไดฟ้ ังอย่เู ป็นประจา การถ่ายทอดเปน็ ลกั ษณะการ บอกปากเปลา่ และการใช้ความจา จากนั้นก็ฝกึ ตใี ห้เกดิ ความชานาญ ซึง่ เยาวชน รุ่นใหม่ไมค่ ่อยให้ความสนใจนักเน่อื งจากได้รับอิทธิพลจากดนตรอี ื่นทง่ี ่ายกว่าเข้า มาสัมพันธ์กับวิถชี ีวิตปัจจุบนั 7

การแต่งกาย นกั ดนตรี เพ่ือความสะดวกนิยมน่งุ กางเกง สว่ นเสือ้ เป็น 1 เสือ้ คอกลมแขนสน้ั ลายดอกหรือเปน็ เสอ้ื ผา้ พ้นื เมอื งโดย เน้นใหม้ สี ีสนั สวยงาม 2 ผู้แสดง แตง่ ชุดไทยพ้ืนบา้ นประยุกตเ์ น้นความสวยงามเป็น หลกั ผแู้ สดงแตล่ ะชุดมปี ระมาณ ๔-๘ คน ตวั อย่าง คณะดนตรีมงั คละในจงั หวัดพิษณโุ ลก 1. ดนตรมี ังคละคณะ ก นพเกา้ ต้งั อยบู่ ้านเลขที่ 86 หมูท่ ่ี 8 ตาบลวัด โบสถ์ อาเภอวัดโบสถ์ จงั หวัดพิษณโุ ลก โดยมนี ายวิเชยี ร สวสั ดเิ ทพ เปน็ หวั หนา้ คณะ 2. ดนตรีมงั คละ คณะล้อมมงั คละ ตั้งอยู่บา้ นเลขที่ 86/1 หมทู่ ี่ 8 ตาบล วัดโบสถ์ อาเภอวดั โบสถ์ จังหวดั พิษณุโลก โดยมีนายลอ้ ม ย้มิ ดี เปน็ หวั หน้าคณะ 3. ดนตรมี ังคละ คณะกลมุ่ ผ้สู ูงอายุ หมู่ที่ 7 วดั โบสถ์ ตง้ั อยู่บา้ นเลขท่ี 181/6 หม่ทู ่ี 7 ตาบลวัดโบสถ์ อาเภอวดั โบสถ์ จังหวดั พิษณโุ ลกโดยมี นายฟงุ้ ยิ้มดีเป็นหัวหน้าคณะ 4. ดนตรมี งั คละ คณะพรเมืองพรหม ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 31 หม่ทู ่ี 5 ตาบล พรหมพริ าม อาเภอพรหมพริ าม จงั หวดั พิษณุโลก โดยมีนายยว้ น เขยี ว เอย่ี ม เป็นหวั หนา้ คณะ 8

ตวั อย่างโนต้ เพลงดนตรมี ังคละ 1 เพลงไมห้ นง่ึ ---ป๊ ะ -เทง่ -ป๊ ะ 2 เพลงไมส้ อง ---ปะ ---เท่ง ---ปะ -เท่ง -ปะ โนต้ เพลง บทเพลง บทละคร เพลงมังคละ มที านองเพลงกลองยืนบันทึกเปน็ โน้ตไว้ ๒๑ เพลง ดงั นี้ 1. เพลงไม้หนง่ึ 11. เพลงคางคกเขด็ เขยี้ ว 2. เพลงไม้สอง 12. เพลงแพะชนกัน 3. เพลงไมส้ าม 13. เพลงคดุ ทะราดเหยยี ดกรวด 4. เพลงไมส้ ่ี (เพลงคร)ู 14. เพลงขา้ วตม้ บดู 5. เพลงบวั ลอย 15. เพลงกระทิงกินโป่ง 6. เพลงถอยหลงั ลงคลอง (ถอยหลังเข้าคลอง) 16. เพลงพญาเดิน 7. เพลงใบไม้รว่ ง (ใบไผ่ร่วง) 17. เพลงตีนตกุ๊ จะ 8. เพลงตกปลกั (อีเกง้ ตกปลกั ) 18. เพลงกวางเดินดง 9. เพลงนมยานกระทกแปง้ 19. เพลงบัวโรย 10. เพลงตุก๊ แกตนี ปกุ 20. เพลงรกั แท้ 21. เพลงรกั เร่ (สาวนอ้ ยประแปง้ ) 9

งานสมโภชพระพุทธชินราช ภาพท่ี 6 พระพทุ ธชนิ ราช ขอบคุณภาพจาก : https://1th.me/JW78F ถือเปน็ งานประจาปีของชาวพิษณุโลกที่จัดต่อเนื่องมาเป็นเวลา 80 ปี และมี นักท่องเที่ยวท้ังชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางมาชื่นชมความงดงามของพระ พุทธชินราช ท่ีถือว่ามีพุทธลักษณะงดงามท่ีสุดองค์หนึ่งของโลก สร้างขึ้นเม่ือปี พุทธศักราช 1900 รวมระยะเวลา 657 ปี งานสมโภชพระพุทธชินราชมีมาแต่ โบราณ เม่ือพระมหากษัตริย์เสด็จมานมัสการพระพุทธชินราชแล้วทรงโปรดเกล้าฯ ใหม้ งี านฉลองสมโภชพระพุทธชินราช 3 วัน บ้าง 5 วันบ้าง 7 วันบ้าง ต่อมาทาง จงั หวัดพิษณโุ ลกไดร้ เิ รม่ิ กาหนดเปน็ งานประจาปีข้ึน เม่ือปี พ.ศ.2477 โดยกาหนด เอาวันเพ็ญเดือนสามเป็นต้นไปมีการฉลอง 7 วัน 7 คืน เพ่ือให้ประชาชนได้มา นมสั การพระพทุ ธชินราช ภายในงานมี การเปิดให้ประชาชนได้ข้ึนไปนมัสการพระ บรมสารีริกธาตุบนพระปรางค์ เพ่ือเป็นศิริมงคลและพักผ่อนหย่อนใจด้วยการชม มหรสพ เลือกซอึ สนิ ค้าพืน้ บา้ นจากจังหวดั พิษณุโลกและจงั หวัดต่าง ๆ กลับบ้านไป เป็นท่ีระลึกและใชใ้ นครอบครวั 10

การสมโภชพระพุทธชินราช เป็นการเฉลิมฉลองพระคู่บ้านคู่เมืองของเมือง และเป็นท่ีเคารพสักการะของชาวเมืองพิษณุโลก และพุทธศาสนิกชนท่ัวไป แสดง ถงึ ความยึดม่ันศรัทธาในพระพุทธศาสนา และเป็นการพักผ่อนหย่อนใจของชาวนา ชาวไร่หลังฤดูกาลเกบ็ เกย่ี ว พิธีกรรมจะมี 2 ช่วง คือ พิธีเปดิ งาน และพิธีไหว้พระพุทธชินราชของ ประชาชน พิธีเปิดงานจะจัดงานในตอนเย็นของวันก่อนวันงาน โดยนิมนต์ พระสงฆ์ ผู้ใหญ่ทาพธิ ที างศาสนา และเชญิ ผู้ว่าราชการจงั หวดั เป็นประธานในพิธี ผู้รว่ มงานได้แก่ ขา้ ราชการ พอ่ ค้า ประชาชนท่วั ไป โดยมพี ิธกี ารดังนี้ 1 สวดมนตไ์ หวพ้ ระรับศลี และพระสงฆส์ วดมนต์ 2 ทาพิธเี ปิดงาน (เหมือนพธิ เี ปิดงานทั่วไป) โดยผ้วู ่าราชการจงั หวัด พิษณุโลกเป็นผู้กลา่ วเปิดงาน 3 พระสงฆ์สวดชยั มงคลคาถา 4 ถวายจตปุ จั จัยไทยทานแด่พระสงฆ์ 5 พระสงฆส์ วดให้พรเป็นจบพธิ ชี ่วงแรก หลงั จากนั้นวันรุ่งขึ้น ซึ่ง เปน็ วันงานประชาชนจะเขา้ นมัสการ โดยมพี ธิ ีการดังน้ี - จุดธูปเทียน และนาดอกไมม้ าบูชาพระ - กราบไหวพ้ ระพทุ ธชินราชในวหิ าร อธิษฐานขอความเปน็ มงคลใหเ้ กดิ แกต่ น 11

ประเพณปี ักธงชยั ภาพที่ 7 ประเพณปี ักธงชยั ขอบคุณภาพจาก : https://1th.me/ZGkt9 ประวตั ปิ ระเพณีปักธงชัย เป็นประเพณที ้องถ่ินท่สี าคัญชองอาเภอนครไทยประเพณีหนึ่งที่ได้ปฏิบัติสืบ ทอดต่อกันมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน เน่ืองจากชาวอาเภอนครไทยส่วนใหญ่มี ความเช่ือ และยึดม่ันในขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นอย่างมาก ประเพณีปักธงชัย เป็นประเพณีที่ชาวนครไทยได้จัดทาขึ้น ในวันที่ 14 -15 ค่า เดือน 12 ซ่ึงขึ้นอยู่ กับความพร้อมของชุมชน ชาวนครไทยในอดีตที่ประกอบด้วย ชาวบ้านวัดหัวร้อง บา้ นในเมือง บา้ นวดั เหนือ บ้านหนองลานและหมู่บ้านใกล้เคียงจะนาธงท่ีชาวบ้าน ร่วมกันทอไปปักที่เขาช้างล้วง ซ่ึงเป็นเทือกเขาท่ีทอดตัวขนานไปกับถนนสายนคร ไทย-ชาติตระการ ห่างจากตัวอาเภอนครไทยไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 6 กโิ ลเมตร เปน็ ประจาทกุ ปี โดยชาวนครไทยส่วนใหญไ่ ด้กล่าวถึง 12

วัตถุประสงคแ์ ละความเช่ือเกีย่ วกับประเพณีปกั ธง 1 เชือ่ ว่าการปักธงจะทาใหบ้ า้ นเมืองอย่เู ยน็ เป็นสุข กนิ ดีอยู่ดี โดยมคี วามเชอื่ วา่ ถ้าปีใดไม่ไปปักจะทาใหเ้ กิดภัยพิบัติหรือเพทภยั ต่าง ๆ ทีท่ าใหช้ าวบา้ น เกิดความเดือดร้อนหรือเสียชีวิตได้ เนอื่ งมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ชา้ งจะมา กินขา้ วท่ีชาวบา้ น ทาการเพาะปลูก จากคาบอกเล่า ของพระครูประพฒั น์ ธรรมคณุ เจา้ คณะอาเภอนครไทย และเจ้าอาวาสวดั เหนือ ไดก้ ลา่ ววา่ ชาวบา้ นไดต้ ิดตามช้างไป พบว่ารอยเทา้ ช้างจะหายไปบริเวณเขาชา้ งลว้ งทุก ปี ความเช่ือในเรอ่ื งนีเ้ ปน็ ท่ียอมรบั และกล่าวถึงอยู่เสมอในหม่ชู าวนครไทย 2 ปักธงเพ่ือระลึกถึงพ่อขุนบางกลางหาว เม่ืออพยพมาอยู่ที่เมืองนครไทย ( บางยาง ) ครั้งแรก ได้เกิดการสู้รบกับพวกเจ้าของถิ่นเดิมที่อาศัยอยู่ใน บริเวณน้ี มีการต่อสู้รุกไล่กัน จนถึงเทือกเขาช้างล้วง ทัพของพ่อขุนบาง กลางหาวประสบชัยชนะ จึงเอาผ้าคาดเอวของพระองค์ผูกปลายผ้าปักที่ยอด เขาช้างล้วง ไว้เป็นอนุสรณ์ท่ีมีชัยชนะแก่ศัตรู และพระองค์ได้ส่ังลูกหลาน ทั้งหลายไปปกั ธงจดุ ชนะศกึ เพ่ือราลกึ ถงึ ชยั ชนะของพระองค์ทุกปี 3 ผู้ปกครองนครไทย คิดระบบการส่งข่าวสาร เน่ืองจากสมัยก่อน พวก ฮ่อมักจะยกพวกมารังแกชาวนครไทย จึงมีข้อตกลงกันระหว่างแม่ทัพนายก องว่า เมื่อใดเห็นผ้าขาวม้า ชักขึ้นไปปักบนยอดเขาช้างล้วง ก็ให้เตรียมพล ต่อสู้ศตรูเพื่อป้องกันบ้านเมือง ชาวบ้านเรียกช่ือประเพณีนี้ว่า ประเพณีปัก ธง แต่ในปัจจุบันนี้ ความเช่ือเก่ียวกับเร่ืองวีรกรรมของวีรบุรุษคือ พ่อขุน บางกลางหาว จะได้รับความสนใจ และยอมรับในหมู่ชาวนครไทย มากกว่า เหตุผลอื่น เห็นได้จากการตั้งชื่อประเพณีน้ีในปัจจุบันอย่างเป็นทางการคือ ประเพณีปักธงชัย จะด้วยเหตุผลใดก็ตามชาวนครไทยไปปักธงบนยอดเขา ช้างลว้ งเป็นประเพณจี นถงึ ทุกวันนี้ 13

ชมุ ชนชาวแพ ภาพท่ี 8 ชุมชนเรอื นแพ ขอบคณุ ภาพจาก : https://1th.me/FaPTi ชุมชนชาวแพบริเวณริมแม่น้าน่าน เมืองพิษณุโลก เป็นชุมชนเรือนแพพัก อาศัยที่มปี ระวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นซ่ึงมีจุดกาเนิดและ วิวัฒนาการท่ีมีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ เกิดจากการเป็น ศูนยก์ ลางการค้าขายทางน้า และการคมนาคมขนสง่ ของเมืองพิษณุโลกกับหัวเมือง ตา่ ง ๆ ทางภาคเหนอื ชุมชนเรือนแพริมแม่น้าน่าน ในเขตเทศบาลเมือง จังหวัดพิษณุโลกใน ปจั จุบนั มจี านวนทง้ั ส้ิน 241 หลัง มีลักษณะเป็นชุมชนที่รุกล้าลาน้าสาธารณะและ มีสภาพทรุดโทรม นอกจากน้ียังมีการท้ิงสิ่งปฏิกูลจากเรือนแพที่อยู่อาศัยลงใน แม่น้าน่าน ทาให้เกิดมลภาวะรวมทั้งการบุกรุกพื้นที่ริมตล่ิงโดยการเข้าไปใช้พ้ืนท่ี ก่อให้เกิดสภาพที่ไม่เป็นระเบียบจังหวัดพิษณุโลกจึงมีโครงการจัดหาที่อยู่อาศัย แห่งใหม่เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนเรือนแพรวมทั้งเป็นการแก้ไข ปัญหามลภาวะของแมน่ า้ น่านท่ีเกิดจากชุมชนเรอื นแพ 14

ประเพณีการแข่งเรือยาว ภาพท่ี 9 ประเพณกี ารแข่งเรอื ยาว ขอบคุณภาพจาก : https://1th.me/b0dU9 การแข่งเรือยาวเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลก ท่ีได้ยึดถือ มาเป็นเวลาช้านาน จัดขึ้นประมาณเดือนกันยายน เรือยาวของพิษณุโลกมี กาเนิดที่บ้านท่าโรง ตาบลวัดพริก อาเภอเมือง ทุกปีจะมีประเพณีถวายผ้าห่ม พระพุทธชินราช หลังจากหม่ ผา้ พระพุทธชินราชแล้วก็มีการแขง่ เรอื ในแม่น้าน่าน หน้าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เพื่อความสามัคคีระหว่างหมู่คณะ จึงสืบเน่ืองมา เป็นงานประเพณีแข่งเรือยาวในปัจจุบัน บรรยากาศในพิธีเปิดการแข่งขัน เริ่ม ด้วยขบวนเรืออัญเชิญถ้วยพระราชทาน ขบวนแห่กองผ้าป่าสามัคคีของทีมเรือท่ี พร้อมใจกันนาถวายที่วัดใหญ่ การแสดงของเด็กนักเรียนจากโรงเรียนสังกัด เทศบาลนครพิษณุโลกท่ีสวยงามยิ่งใหญ่อลังการ ชมกองเชียร์จากชุมชนย่อย เทศบาลฯ และกองเชียร์จากทีมเรือยาวต่าง ๆ โดยการแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่ ประมาณ 10.00 น. เป็นต้นไป เรือแต่ละลาจะตกแต่งอย่างงดงาม มีการตกแต่ง ขบวนแห่เปน็ รปู แบบตา่ ง ๆ เช่น ขบวนรามงั คละ ขบวนคนป่า ฯลฯ ก่อนการลง แข่งจะมีการบวงสรวงแม่ย่านางเรือ การแข่งขันเป็นแบบแพ้คัดออก และการ ตดั สนิ จะถือสุดโคนเรือเปน็ เกณฑ์ โดยไม่นับเคร่ืองตกแตง่ หวั 15

บรรณานุกรม คณะมนุษยศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยนเรศวร. (2563). NBT North สถานีวิทยุโทรทัศน์แหง่ ประเทศไทย จังหวดั พษิ ณโุ ลกบนั ทึกเทปการแสดงชุดรามังคละ เพือ่ ร่วมสืบ ทอดศิลปวัฒนธรรมพน้ื บา้ นจังหวัดพษิ ณุโลก. สืบค้นจาก https://1th.me/C3Uhu ประเพณีการแขง่ เรอื ยาวชิงถว้ ยพระราชทาน. (2557). สืบค้นจาก https://1th.me/dL20u ประเพณีท้องถ่นิ งานสมโภชพระพทุ ธชนิ ราช. (2563). สืบค้นจาก https://1th.me/QGcXi ประเพณปี ักธงชัย อาเภอนครไทย. (2563). สืบคน้ จาก https://1th.me/gsGj4 มรดกภูมปิ ญั ญาทางวฒั นธรรม. (2564). สบื ค้นจาก https://1th.me/dtIvv ศูนยม์ านษุ ยวิทยาสริ ินธร. (2560). ประเพณีปักธงชัย อาเภอนครไทย จังหวดั พษิ ณโุ ลก. สบื ค้นจาก https://1th.me/ZGkt9 สอ่ งลมหายใจ “เรอื นแพอัตลกั ษณ์พษิ ณโุ ลก” นบั วนั ยง่ิ เลอื นหาย แถมท่อนา้ ท้งิ โผล่ สลอนรมิ ฝั่งน่าน. (2562). สืบคน้ จาก https://1th.me/FaPTi สานกั งานประชาสมั พนั ธ์จังหวดั พษิ ณุโลก. (2564). รามังคละ. สบื ค้นจาก https://1th.me/07cNa เทศกาลงานประเพณี ๑๒ เดอื น ของจังหวัดพิษณโุ ลก. (2564). สืบคน้ จาก https://1th.me/M2vX2 เที่ยวสุขใจ ไหว้พระพทุ ธชนิ ราชเมอื งพิษณโุ ลก. (2554). สบื ค้นจาก https://1th.me/JW78F 16


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook