Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 03-หน่วยที่ 2-แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของครอบครัว

03-หน่วยที่ 2-แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของครอบครัว

Description: 03-หน่วยที่ 2-แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของครอบครัว

Search

Read the Text Version

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของครอบครวั

วัตถุประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อเขา้ ใจความหมาย หน้าที่ และประเภทของครอบครวั 2. สามารถอธิบายการทางานหาเลยี้ งชีพได้

1. ความหมาย หน้าที่ และประเภทของ ครอบครวั

1. ความหมายของครอบครวั ▪ ครอบครัว เป็นสถาบันหนึ่งในสังคมที่ประกอบด้วย สมาชิกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป มาอยู่ ร่วมกันในครัวเรือนเดียวกันในฐานะสามีภรรยา พ่อแม่ พีน่ ้องมีความสัมพันธ์ กันอย่าง ใกล้ชิด ▪ โดยการสมรส การสืบสายโลหิต หรือการยอมรับตามกฎหมาย ▪ มกี ารตัดสินใจร่วมกัน ▪ มกี ารรบั รู้ความทุกข์สขุ ▪ มกี ารติดต่อสื่อสารระหว่างกนั และกัน ▪ ช่วยเหลือเกื้อกลู ซึ่งกนั และกัน

2. หน้าที่ของครอบครัว หน้าท่ขี องครอบครวั ▪ ปฏบิ ัติต่อกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวดว้ ยความรกั ทะนุถนอมซึง่ กัน และกนั เพือ่ ใหเ้ กดิ ความสขุ ในครอบครัว ▪ ดาเนินภารกจิ ต่าง ๆ ของครอบครัว ภายใต้ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพือ่ ความมั่นคง พึ่งพาตนเองได้ และเพื่อความเจริญเติบโตอย่างยง่ั ยืน ▪ ผลิตสมาชิกใหมท่ ดแทนสมาชิกเดิมที่ลว่ งลบั ไป ▪ บารงุ สมาชิกใหม่ เลี้ยงดใู หก้ ารศึกษา และอบรมสง่ั สอนใหร้ ู้จกั หลักศีลธรรม เพื่อเป็นพลเมืองดขี องประเทศชาติสืบไป

3. ประเภทของครอบครัว การจาแนกประเภทของครอบครัว สามารถจาแนกได้หลายรูปแบบหากจาแนกตาม ขนาดของครอบครัว จะจาแนกออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้ 1. ครอบครัวเดี่ยว (Nuclear family) ประกอบด้วย ชายหญิงอยู่ร่วมกัน และอาจมีบุตร ของตนเองหรือมีการรับเป็นบุตรบุญธรรม ครอบครัวเดี่ยวลักษณะนี้ มีมาแต่โบราณ และยงั คงเปน็ รูปแบบทีพ่ บเหน็ ได้มากที่สุดในสังคมเมือง หรือสังคมสมัยใหม่ บางคร้ัง เรียกครอบครัวประเภทนีว้ ่า “ครอบครัวสมยั ใหม”่ หรือ Modern family 2. ครอบครัวขยาย (Extended families) ประกอบด้วย บิดามารดา เครือญาติรวมถงึ บคุ คลอืน่ ทีม่ าสมทบในภายหลัง บุคคลที่ไม่ใช่เครือญาติแต่มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน เสมือนเครือญาติก็ได้ เช่น ลูกแต่งงานแล้วก็ยังอาศัยอยู่ในครอบครัวเดิม บางคร้ัง เรียกครอบครัวประเภทนีว้ ่า “ครอบครัวรว่ ม” หรือ Joint family

3.ความหมายของเศรษฐศาสตร์ครอบครวั ▪ เศรษฐศาสตร์ครอบครัว หมายถึง การมีประสิทธิภาพในการจัดการ ทรัพยากรครอบครวั ให้เกดิ ประโยชน์สงู สุด ▪ ซึ่งครอบคลุมถงึ การวิเคราะห์ การประกอบกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ ของสมาชกิ ในครอบครวั ▪ ทั้งการผลิต การบริโภค การแลกเปลี่ยน การจาแนกแจกจ่ายการประกอบ ธรุ กจิ การออม และการลงทนุ ในธุรกจิ ต่าง ๆ ▪ ตลอดจนการวิเคราะห์กระบวนการตัดสินใจในการจัดการด้านงบประมาณ การเงิน และทรพั ยากรของครอบครัว ▪ เพื่อดาเนินชีวิตท้ังใน ปัจจุบันและอนาคตอย่างม่ันคงบนพื้นฐานความเข้าใจ ในความเชื่อ ค่านิยม และเจตคติต่อวิถีการดาเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ และ ได้มาตรฐานตามระดบั ทรพั ยากรครอบครัวของแต่ละครอบครัว

4.ความสาคัญของเศรษฐศาสตร์ครอบครวั ▪ เศรษฐศาสตร์เป็นศาสตร์ที่เก่ียวข้องกับมนุษย์และสังคมมนุษย์เป็นส่วนหนึ่ง ของครอบครวั และครอบครัวเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ▪ การที่สังคมจะพัฒนาได้น้ัน ต้องอาศัยครอบครัวและมนุษย์ซึ่งเป็นสมาชิกของ ครอบครวั ▪ โดยทว่ั ไปแลว้ แต่ละครอบครวั ตา่ งพยายามดารงชีวติ อย่างมคี ณุ ภาพ สมาชิกแต่ ละคนต่างทาหน้าที่ของตน ท้ังการศึกษาเล่าเรียนเมื่อเยาว์วัย ประกอบอาชีพ เมือ่ อยู่ในวยั แรงงานและการเปน็ ที่พึ่งทางจิตใจแกส่ มาชิกเมื่ออยู่ในวัยชรา ▪ การที่จะมีชีวิตที่มีความม่ันคงมีคุณภาพชีวิตที่ดีนั้น ความรู้เก่ียวกับ เศรษฐศาสตรค์ รอบครัวจะมสี ่วนสาคญั ในการช่วยวิเคราะห์การวางแผน ใช้จา่ ย ทรัพยากรของครอบครัว เช่น เงิน เวลา ความรู้ความสามารถในการประกอบ อาชีพเป็นต้น ซึ่งเปน็ ทรพั ยากรที่มอี ยู่อย่างจากดั ให้เกดิ ประโยชน์สงู สุด

4.ความสาคญั ของเศรษฐศาสตร์ครอบครัว ▪ เศรษฐศาสตรค์ รอบครวั จะช่วยใหเ้ ข้าใจปญั หาเศรษฐกจิ ประจาวันของครอบครวั ▪ ทาให้ครอบครัวสามารถตดั สนิ ใจหาทางแกป้ ัญหาเหล่าน้ันได้อย่างถูกต้อง เช่น รู้จัก ตัดสินใจในการเลือกซื้อสิ่งของและบริการทมี่ คี วามจาเปน็ ตอ่ การดารงชีวติ • รู้วา่ เมื่อใดควรซื้อ ไมค่ วรซื้อ เงินทีจ่ ่ายซื้อสินค้าทกุ บาททกุ สตางค์นน้ั คุ้มกบั ประโยชน์ของการใช้สอยหรือไม่ • ครอบครัวมแี นวทางที่จะหารายไดเ้ พิ่มขนึ้ โดยวิธใี ดบา้ ง การใช้ทรัพยากรของ ครอบครัวให้เกดิ ประโยชน์เตม็ ที่นนั้ ทาได้อย่างไร มวี ิธีใดที่จะใช้เวลา แรงงาน ความรู้ความสามารถ ตลอดจนทกั ษะของบคุ คลในครอบครวั ให้เหมาะสม และ ประหยัดมากที่สดุ • รู้จกั วิธีการออมและการลงทุนในลกั ษณะต่าง ๆ • รู้ภาวะเศรษฐกจิ ของตนเอง ครอบครัวชุมชน และประเทศชาติ • สามารถปรบั ตวั เองให้เข้ากบั ภาวะเศรษฐกจิ ที่เปลีย่ นแปลงและใช้ความรู้ทาง เศรษฐศาสตร์ • เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ▪ จึงกล่าวได้ว่า เศรษฐศาสตรค์ รอบครวั มคี วามสาคญั ในการสรา้ งความเข้มแขง็ ของ ครอบครวั ชุมชน และประเทศชาตใิ นภาพรวมนนั่ เอง

2. การทางานหาเล้ียงชีพ

เศรษฐกิจของครอบครัว เศรษฐกิจของครอบครัว คือ เรื่องการทามาหากิน การหารายได้เลี้ยงปากเลี้ยงท้อง และสนองความต้องการต่าง ๆ ของสมาชิกในครอบครัว มีบางส่วนที่ทางานไม่ได้ เช่น เด็ก เกินไป หรือชราเกินไป หรืออาจมีปัญหาดา้ นสุขภาพ ยังไม่มงี านทาหรือตกงาน ในประเทศพัฒนาอุตสาหกรรม ซึ่งมีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจสูง รัฐบาลเก็บ ภาษีได้มาก รัฐบาลมักจัดระบบสวัสดิการ ให้เงินช่วยเหลือหรือบริการแก่เด็ก คนชรา และคน ไม่มงี านทาทัว่ ท้ังประเทศ เปน็ การแบ่งเบาภาระของครอบครัวไปไดบ้ ้าง ในประเทศไทย ซึ่งประชากรและแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม การให้สวัสดิการ ยงั ทาได้เฉพาะในหมู่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และพนักงานบริษัทเอกชนบริษัทใหญ่ ๆ ทาใหค้ รอบครวั สว่ นใหญ่ต้องพึ่งตนเองในทุกดา้ น

เศรษฐกิจของประเทศไทย เศรษฐกิจของประเทศไทย มีพื้นฐานอยู่ที่การเกษตร แม้ว่าสัดส่วนของมูลค่าผลผลิต ทางเกษตรกรรมในปจั จบุ ันจะต่ากว่ามลู ค่าผลผลติ ทางอตุ สาหกรรม แต่ครอบครวั ส่วนใหญ่ไม่ ตา่ กว่าประมาณร้อยละ 60 ยงั ทามาหาเล้ยี งชพี จากภาคเกษตรกรรม ไม่วา่ จะเป็นการเพาะปลูก การเล้ยี งสัตว์ การประมง ป่าไม้และผลติ ภณั ฑจ์ ากป่า ในแง่เศรษฐกิจของครอบครวั หากเราอยู่ในวิสัยที่จะผลิตอาหารหรือเครื่องใช้ไม้สอย ได้เอง โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนหรือลงแรงและใช้เวลาไม่มากจนเกินไปแล้ว การผลิตเพื่อกินเองใช้ เอง จะเป็นการประหยัด หรือคุ้มค่ากว่าการขายไปซื้อมา เพราะสาหรับผู้ผลิตและผู้บริโภค รายยอ่ ยแลว้ เวลาขายเรามักต้องจ่ายในราคาสูง เพราะพ่อค้านอกจากจะต้องมีค่าใช้จ่ายใน การรวบรวมสินค้าและดาเนินงานการค้าแล้ว เขาก็ต้องหากาไรสาหรับอาชีพการค้าของเขา ดว้ ย ถ้าพ่อค้าคนกลางบางคน อยใู่ นฐานะที่ผูกขาดหรือมีอานาจต่อรองมากก็ยิง่ คิดกาไรมาก ผู้ผลิตและผู้บริโภครายยอ่ ย

การผลิตเพื่อใช้เอง ในอดีต การผลิตเพื่อกนิ เองใชเ้ องไม่ว่าจะเปน็ การปลูกขา้ วการเลยี้ งสัตว์ การประมง การทา ไร่ทาสวน หรือการปลูกพืชผักสวนครวั เล็ก ๆ น้อย ๆ เปน็ การผลติ เพื่อใช้ โดยที่เราไม่ต้องเสีย สว่ นต่างกาไรให้กบั พอ่ คา้ ที่เราต้องไปซื้อเขามา ในปจั จบุ นั ระบบเศรษฐกิจได้พัฒนาเป็นระบบการผลิตเพื่อขาย และการใช้เงินมีบทบาท สาคญั มาก จนคนเรารู้สึกว่าสะดวกที่จะใช้เงินในการซื้อหาส่ิงของต่าง ๆ มากกว่าที่จะผลิตเอง แม้ว่าจะต้องจ่ายแพงกว่า แต่บางคนก็ยินดีจ่าย เพราะว่าเขาไม่ได้คิดคานึงถึงต้นทุน และ ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจอยา่ งจริงจัง ถือความสะดวกเป็นหลกั เท่านั้น แตบ่ างคนก็ยินดีจา่ ย

การคานึงถึงต้นทนุ และผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ การคานึงถึงต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ หมายถึง ควรเลือกทาการ ผลติ หรือทางานที่เราสามารถใชแ้ รงงาน ใช้ความรู้ ใช้เวลาของเราให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ามาก ที่สุด เช่น ถ้าเรามีที่ดินที่จะทาการเกษตรได้อยู่แปลงหนึ่ง เราต้องคิดว่าจะปลูกอะไร อย่างไร จึงจะให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด หรือบางคนก็อาจจะไปทางานอย่างอื่น เช่น ค้าขาย ทา หัตถกรรม รับจ้าง ฯลฯ ทีใ่ หผ้ ลตอบแทนดีกวา่ การเพาะปลูก แล้วเอาที่ดินให้คนอื่นเช่าทา โดย ตนเองไดผ้ ลตอบแทนเปน็ ค่าเชา่ กไ็ ด้ นนั่ ก็แลว้ แต่การคิดการคานวณผลตอบแทนของแต่ละคน การคานึงถึงต้นทุนและผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจะต้องคิดถึงระยะยาวด้วย ไม่ใช่คิด ประโยชน์เฉพาะหน้าเท่านั้น เพราะคนเรานั้นโดยทั่วไปจะมีชีวิตอยู่โดยเฉล่ีย 60-80 ปี และ คนเราก็ยงั มีลกู หลาน สืบทอดมรดกหรือสืบทอดภาวะหนี้สินต่อไปอกี ดว้ ย

เศรษฐกิจได้พฒั นาแบบทุนนิยม เศรษฐกิจแบบทุนนิยม ยุคปัจจุบัน ซึ่งเศรษฐกิจได้พัฒนาแบบทุนนิยม คือ การผลิตเพื่อขายหากาไรมากขึ้น คนจะเปล่ยี นจากการประกอบอาชีพทานาทาไร่ มาเป็นคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือ ธุรกิจต่าง ๆ มากขึ้น การทางานไดค้ ่าจ้างจึงเปน็ การทางานหาเล้ยี งชพี ทีส่ าคัญอาชพี หนึ่ง ในสภาพปัจจุบันซึ่งเศรษฐกิจมีการเจริญเติบโตสูงก็มีช่องทางทาอาชีพอิสระธุรกิจ ส่วนตัวมากขึ้น การเรียนร้เู รื่องเศรษฐกจิ จะมีส่วนชว่ ยใหเ้ รารู้จักมองหาอาชพี การงานต่าง ๆ ได้อย่างกวา้ งขวางมากขึน้ อาชีพอสิ ระ