การอ่านประเมินค่า

การอา่ นประเมินค่า วิชาภาษาเพ่อื การส่อื สาร ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 โรงเรยี นศกึ ษานารีวิทยา

การอา่ นประเมนิ คา่ การประเมินคณุ คา่ การตดั สนิ คุณคา่ ของเรือ่ งราวท่ีอ่าน หลังจากการวิเคราะหแ์ ละวิจารณ์ว่างานเขียนช้นิ นนั้ ดหี รือไม่ดี น่าเช่อื ถือหรอื มีคณุ คา่ ดา้ นใดบา้ ง

การอ่านประเมนิ คา่ หลักการประเมินคุณคา่ งานเขยี น ๑. ต้องรูป้ ระเภทของหนังสือ หรืองานเขยี นว่าเปน็ ประเภทใด  รอ้ ยแก้ว นวนิยาย  บทละคร  รอ้ ยกรอง  เร่ืองสั้น  สารคดี  นทิ าน งานเขียนแต่ละประเภทมวี ธิ กี ารอา่ น การพิจารณาและการประเมนิ คณุ ค่าทแ่ี ตกต่างกนั ควรจบั สาระสาคญั ของเรือ่ งทอ่ี ่านให้ได้

การอ่านประเมนิ ค่า หลักการประเมนิ คณุ ค่างานเขยี น ๒. อ่านอยา่ งถถ่ี ้วน เพอื่ การวเิ คราะหแ์ ยกแยะรายละเอียดของเรื่องท่ีอา่ น โดยพจิ ารณาความสมั พนั ธข์ องโครงสร้างในสว่ นตา่ ง ๆ ของเรอื่ ง เชน่ เน้อื หา แนวคดิ รูปแบบและกลวิธีใน การนาเสนอเร่อื ง การใชส้ านวนภาษา เป็นตน้

การอ่านประเมินค่า หลักการประเมินคณุ ค่างานเขียน ๓. ตคี วาม เป็นการทาความเข้าใจความหมายของคาและประโยคตา่ งๆ ผู้เขยี นอาจใชค้ วามหมายแฝง ซง่ึ ไม่ได้ส่ือความหมายตามรูปคา ผู้อ่านควรอ่านเร่ืองท้งั หมดอย่างน้อย ๒ รอบ เพ่อื สังเกตให้เหน็ ถึงความเด่นทแ่ี ปลกออกไปจากขอ้ ความปกติ ซ่ึงผ้อู า่ นจะต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์และภมู หิ ลงั เพือ่ ค้นหาสารท่ีตอ้ งการส่อื

การอา่ นประเมนิ คา่ หลักการประเมนิ คณุ ค่างานเขียน ๔. ประเมินคุณคา่ เป็นการตดั สนิ หรอื ตีคา่ สิง่ ทอ่ี า่ น ผอู้ า่ นจะตอ้ งประเมินค่าเรือ่ งท่อี ่าน ถึงความนา่ เชอื่ ถือ ความสมบูรณ์และความถกู ต้องของการนาเสนอเรื่อง ซึ่งควรเปน็ การตัดสนิ อย่างมีเหตผุ ล โดยใชเ้ กณฑ์มาตรฐานท่ีได้รบั การยอมรบั เป็นเครอื่ งมอื ในการตดั สนิ ประเมินคุณคา่

การอ่านประเมนิ ค่า แนวทาง การประเมินคณุ คา่ งานเขยี น

การประเมินคุณค่าเร่ืองสน้ั ขั้น ๑ ข้นั ๒ กลวธิ ี ขน้ั ๓ ขนั้ ๔ เนือ้ หาและ การใชภ้ าษา คณุ คา่ เรอื่ ง แนวคิด การนาเสนอ ๒.๑ โครงเร่ือง ๒.๒ แก่นเรื่อง เหมาะสมกับ เน้อื เร่ืองให้ความบันเทิง ๒.๓ การดาเนนิ เร่ือง ๒.๔ ฉาก ลักษณะของเรอื่ ง ข้อคิดท่ีทาใหต้ ระหนักและ ๒.๕ ตัวละคร ๒.๖ บทสนทนา ภาษามีลลี าเฉพาะตวั เขา้ ใจชีวิตอย่างลมุ่ ลึกหรือ เสนอแงค่ ดิ แกผ่ ู้อา่ น รวมทัง้ มี เน้อื เรอ่ื งจรรโลงใจหรือสังคม

การประเมนิ คุณค่าเรื่องส้ัน ขน้ั ๑ ข้นั ๒ กลวิธี ข้ัน ๓ ขน้ั ๔ เนื้อหาและ การใช้ภาษา คุณคา่ เรื่อง แนวคิด การนาเสนอ ๒.๑ โครงเร่อื ง ควรมีโครงเรื่องเดยี ว โครงเรื่องมกี ารสรา้ งปมปญั หาหรอื ความขัดแยง้ และคลค่ี ลายปมปญั หาได้อย่างน่าสนใจ ๒.๒ แก่นเรือ่ ง ควรมแี กน่ เรือ่ งเดียวและมคี วามชดั เจน ๒.๓ การดาเนินเรอื่ ง มีการเปิดเร่อื งนา่ สนใจ ดาเนนิ เร่ืองตามปมปัญหา/ความขัดแย้ง เสนอเหตุการณแ์ บบรวบรดั ปดิ เร่ืองอยา่ งประทบั ใจ/การคลายปมปญั หา/การทง้ิ เรอ่ื งไว้ใหผ้ ้อู า่ นนาไปขบคดิ ต่อ จะทาให้ผูอ้ า่ นเกดิ ความประทับใจและจดจาเร่ืองน้ันไวใ้ นใจ ๒.๔ ฉาก ต้องสอดคล้องกบั เหตุการณ์ในเรือ่ ง ทาใหเ้ ขา้ ใจนสิ ยั /อารมณข์ องตัวละครชดั เจนขึน้ ช่วยสร้างจินตภาพของผู้อา่ นยงิ่ ขึ้น ๒.๕ ตวั ละคร ต้องสอดคลอ้ งกับแนวเร่อื ง ตัวละครมกี ารพฒั นานิสัยอยา่ งสมเหตุสมผลและมบี ทบาทสัมพันธก์ บั เร่ือง ๒.๖ บทสนทนา ช่วยในการดาเนินเรื่อง บทสนทนาตอ้ งสอดคล้องกับตวั ละครและใชภ้ าษาสอดคลอ้ งกับเนื้อเรอ่ื ง

การประเมนิ คณุ ค่าสารคดี ขัน้ ๑ ขัน้ ๒ กลวธิ ี ขั้น ๓ ขนั้ ๔ การใชภ้ าษา คุณคา่ สารคดี เนอ้ื หา การนาเสนอ  เนอ้ื หาสะทอ้ นแนวคดิ สรา้ งสรรคท์ ี่  ช่ือเร่อื งต้องมคี วามน่าสนใจตรงประเด็น  เลอื กใช้คา ภาษา สานวน เปน็ สากล หรอื แนวคิดเฉพาะตน  เปดิ เรอื่ งอย่างมศี ิลปะ ลาดับเรื่องชวน ถูกต้องชัดเจน  เปน็ งานที่เรียบเรียงขน้ึ จากเร่ืองจริงที่ให้  พิจารณาความถกู ตอ้ งของเนอ้ื หาที่ ทัง้ ความรู้ ความคดิ และสอดแทรก นาเสนอ ตดิ ตาม ปดิ เร่ืองอย่างนา่ ประทบั ใจ  หากจาเป็นตอ้ งใช้ ความบนั เทิง  การอ้างอิงแหล่งท่ีมาของขอ้ มูลท่ี  เหมาะสมกับเนื้อหา กลน่ั กรองขอ้ มลู นาเสนอ ภาษาตา่ งประเทศควรมี  ช่วยเพิม่ พูนความรู้ความคดิ เปิดโลก นา่ เช่อื ถือ ทศั น์ของผู้อา่ นใหก้ ว้างไกล ทาใหเ้ ป็น ในรูปแบบที่เหมาะสมถูกต้องตามขอ้ เท็จจริงที่ การอธบิ ายให้ชดั เจนดว้ ย คนทีม่ ีความรทู้ ท่ี นั สมยั ทนั โลก ตลอดเวลา ผูอ้ ่านควรรู้ เกิดประโยชนต์ อ่ สังคม เพ่อื ให้ผ้อู ่าน ไม่สอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัว

การประเมินคณุ คา่ กวนี ิพนธ์ ขน้ั ๑ ขนั้ ๒ รูปแบบ ข้นั ๓ ความงาม ขน้ั ๔ คณุ คา่ เน้อื หา คาประพันธ์ การประพนั ธ์ กวีนพิ นธ์  สะทอ้ นแนวคิดสรา้ งสรรค์  พจิ ารณาจากการมีรปู แบบตามฉันทลักษณ์  มกี ารเลน่ เสยี ง  บทกวีก่อใหเ้ กดิ อารมณ์สะเทือนใจ มีความเปน็ สากล หรือประยุกต์จากฉันทลักษณ์เดิม สร้างจนิ ตนาการ ให้ข้อคดิ สะทอ้ นแนวคิดเฉพาะตน หรือมรี ูปแบบทีค่ ิดขนึ้ เอง  การสรรคา ทาให้ตระหนกั และเขา้ ใจชวี ิต อย่างลมุ่ ลกึ  รูปแบบน้ันมคี วามเหมาะสมกับเน้ือหา  การใชโ้ วหารภาพพจน์ หรอื เสนอแนวคิดแก่ผ้อู ่านและ มโี ครงเรื่องจรรโลงสงั คม อยา่ งมีช้นั เชิงและ มกี ารเสนออย่างมีเอกภาพ

ทีน่ ไ่ี ม่มอี ะไร ผู้แต่ง : เดือนแรม ประกายเรือง หนังสือ: แดดบ่ายระบายรงุ้ ไม่มีสวนดอกไมใ้ นเมอื งหลวง มแี ตค่ วามเปลา่ กลวงในตกึ กลอ่ ง เมืองนไ้ี มม่ ีเสียงนกรอ้ ง มแี ตค่ นคอยจอ้ งเอาเปรียบกนั ไมม่ ีความเปน็ ธรรมใหร้ า่ หา ในสงั คมเงินตราทาสยคุ ใหม่ ไม่มรี อยยม้ิ บนใบหน้า ตืน่ เช้าขน้ึ มากแ็ ขง่ ขัน อยา่ มาเลยทน่ี ่ีไม่มอี ะไร สาหรับผู้ฝันใฝ่ความดีงาม โดยมชี ีวติ เปน็ เดมิ พนั พนันกันโดยไมม่ กี ติกา ไม่มหี รอกมวลมิตรไม่ตอ้ งถาม เหน็ แตค่ นย่าแย่ทวั่ ถ้วนหน้า ไมม่ เี พอื่ นรว่ มทางอย่างทคี่ ิด เตือนไว้ดว้ ยความหวงั ดี ไม่มผี ู้ใดทไี่ ม่แพ้ ชวี ิตคนไม่มคี า่ น่าเศร้าใจ เสียเวลาถ้าคดิ จะตดิ ตาม มแี ตภ่ าพลวงตาทาด้วยสี เปน็ กฎเกณฑ์กฎกรรมธรรมดา ทกุ คนมีชวี ติ คล้ายตายทง้ั เป็น เมอื งนไี้ ม่มีอะไรให้คน้ หา ชีวติ คนไรค้ า่ กวา่ ธลุ ี