เน้อื เร่อื ง
เหช่ มเรอื บทเหช่ มเรือกระบวน ประกอบด้วย • โคลงส่ีสภุ าพ ๑ บท และกาพยย์ านี ๑๔ บท • กล่าวถึงการเสดจ็ โดยกระบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค จากกรงุ ศรีอยธุ ยา • กวบี รรยายและพรรณนากระบวนเรือที่สง่างาม ได้แก่ เรือตน้ หรอื เรือพระทนี่ ัง่ และเรอื ในกระบวน เรือสว่ นใหญม่ โี ขนเรอื หรอื หัวเรือเปน็ รปู สัตว์
เห่ชมเรอื (ต่อ) เรอื ท่กี ล่าวไวใ้ นบทเห่ชมเรือ มี ๔ จาพวก ไดแ้ ก่ เรือตน้ เรอื ชยั เรือรปู สตั ว์แสนยากร เรอื รวิ้ ************************ เรอื ต้น มี ๔ ลา คอื เรือครุฑ เรือสรมุข เรือสมรรถชยั และเรอื สุวรรณหงส์ เรอื ชัย คอื เรอื ดง้ั ท่ีใช้แห่นาขบวนเสดจ็ มีเจา้ พนกั งานคอยกระทงุ้ เส้าให้สญั ญาณ
เหช่ มเรอื (ตอ่ ) เรอื ที่กลา่ วไวใ้ นบทเหช่ มเรอื มี ๔ จาพวก ไดแ้ ก่ เรือรปู สตั ว์แสนยากร เรอื รูปสตั วท์ ้ังหมด คือ เรือคชสหี ์ เรอื ราชสีห์ เรอื มา้ เรือสิงห์ เรือนาควาสกุ รี เรือมังกร เรอื เลยี งผา และเรอื อินทรี เรือริ้ว คือ เรอื ประกอบกระบวนเห่ จดั เป็นหลาย ๆ สาย แล่นเรยี งขนานกนั
ข้อมูลเรอื เพม่ิ เตมิ คลกิ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/royalbarges/index.php/th/virtual- museum/%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AD- %E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A.html
E-Book: บทประพันธก์ าพยเ์ หเ่ รอื ภาษาไทย ม.6 หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย วรรณคดวี ิจักษ์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ลิขสทิ ธ์ิของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน https://online.pubhtml5.com/yaoj/vwgg/
เหช่ มเรอื โคลง ปางเสดจ็ ประเวศดา้ ว ชลาลยั ทรงรตั นพิมานชัย ก่ิงแก้ว พรัง่ พรอ้ มพวกพลไกร แหนแห่ เรอื กระบวนต้นแพรว้ เพริศพริ้งพรายทอง
เหช่ มเรอื (ต่อ) กาพย์ พระเสดจ็ โดยแดนชล ทรงเรือตน้ งามเฉิดฉาย กิ่งเเก้วแพร้วพรรณราย พายออ่ นหยบั จับงามงอน ---------- สวุ รรณหงสท์ รงพหู่ ้อย งามชดช้อยลอยหลังสินธุ์ เพยี งหงสท์ รงพรหมินทร์ ลนิ ลาศเลือ่ นเตือนตาชม
เหช่ มเรือ (ตอ่ ) การเหช่ มกระบวนเรอื สองบททา้ ย บรรยายและพรรณนา ใหเ้ สียงดนตรแี ละภาพของกาลังพลในกระบวนเรอื ที่เดินทางไป ด้วยความสนุกสนานรน่ื เริง เชื่อมโยงไปส่บู ทเหช่ มปลาในลาดับ ตอ่ ไป ดนตรมี ี่องึ อล ก้องกาหลพลแห่โหม โหฮ่ ึกครกึ ครน้ื โครม โสมนสั ช่ืนรื่นเริงพล กรีธาหมู่นาเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหน่ื ช่นื กระมล ยลมจั ฉาสารพนั มี
เห่ชมปลา บทเห่ชมปลา ประกอบดว้ ย • โคลงสสี่ ุภาพ ๑ บท และกาพยย์ านี ๑๔ บท • กล่าวถงึ ปลาหลากหลายชนิด เช่น ปลานวลจนั ทร์ ปลาตะเพียน ปลาหางไก่ ปลาแมลงภู่ ปลาคางเบือน ปลากระแห ปลาน้าเงนิ ปลาสร้อย ปลาหวีเกศ ปลาเนื้อออ่ น ปลาแก้มชา้ ปลากราย ปลาเสือ ปลาชะแวง ปลาชะวาด ฯลฯ
เหช่ มปลา (ต่อ) โคลง พิศพรรณปลาว่ายเคล้า คลึงกัน ถวลิ สดุ าดวงจันทร์ แจ่มหนา้ มัตสยายอ่ มพัวพนั พิศวาส ควร ฤ พรากนอ้ งช้า ชวดเคลา้ คลงึ ชม กาพย์ คดิ ถงึ เจา้ เศร้าอารมณ์ พศิ พรรณปลาวา่ ยเคลา้ สมสาใจไมพ่ ามา เจ้างามพริง้ ย่งิ นวลปลา มัตสยายังร้ชู ม ไม่งามเท่าเจา้ เบือนชาย นวลจันทร์เป็นนวลจรงิ คางเบือนเบอื นหน้ามา
เห่ชมไม้ บทเหช่ มไม้ ประกอบดว้ ย • โคลงสี่สภุ าพ ๑ บท และกาพยย์ านี ๑๒ บท • กล่าวถงึ พรรณไม้ หลากหลายชนิด เช่น นางแยม้ จาปา ประยงค์ พดุ จีบ พกิ ุล สุกรม สาวหยุด พุทธชาด บนุ นาค เต็ง แตว้ แกว้ กาหลง มะลิวลั ย์ ลาดวน จกิ โดยเชอ่ื มโยงถึงนางอันเป็นทร่ี กั ดงั ตัวอย่าง
เหช่ มไม้ (ตอ่ ) โคลง เรอื ชายชมมิง่ ไม้ มีพรรณ ริมท่าสาครคันธ์ กลิ่นเกลย้ี ง เพลด็ ดอกออกแกมกัน ชชู อ่ กาพย์ หอมห่นื รนื่ รสเพ้ียง กล่นิ เน้ือนวลนาง เรอื ชายชมมง่ิ ไม้ ริมท่าไสวหลากหลายพรรณ เพล็ดดอกออกแกมกนั ส่งกล่นิ เกลีย้ งเพียงกล่นิ สมร ชมดวงพวงนางแย้ม บานแสล้มแย้มเกสร คิดความยามบงั อร แยม้ โอษฐย์ ิ้มพร้มิ พรายงาม
เหช่ มนก บทเหช่ มนก ประกอบด้วย • โคลงสส่ี ภุ าพ ๑ บท และกาพย์ยานี ๑๒ บท • พรรณนาให้เห็นภาพยามใกล้ค่า พระอาทิตย์กาลังลาลับ เหลี่ยมเขา สัมพันธ์กับอารมณ์ความรู้สึกของกวีท่ีจิตใจ จดจ่อคอยหานางอันเป็นทีร่ กั • ขยายความโดยกลา่ วถึงนกหลายชนิด เชน่ นกยงู นกสรอ้ ยทอง นกสาลิกา นกนางนวล นกแกว้ นกแขกเตา้ นกดเุ หวา่ นกโนรี นกสัตวา ไก่ฟ้า ฯลฯ
เห่ชมนก (ต่อ) โคลง อสั ดง คา่ แลว้ รอนรอนสุรยิ โอ้ นุชพ่ี เพียงแม่ เร่ือยเรือ่ ยลับเมรุลง คลับคล้ายเรยี มเหลียว รอนรอนจติ จานง เรื่อยเรอ่ื ยเรยี มคอยแก้ว กาพย์ เร่ือยเร่ือยมารอนรอน ทิพากรจะตกตา่ สนธยาจะใกลค้ ่า คานึงหน้าเจ้าตาตรู ------ เห็นฝงู ยงู ราฟ้อน คดิ บงั อรร่อนรากราย สร้อยทองย่องเยอ้ื งชาย เหมือนสายสวาทนาดนวยจร
เหค่ รวญ บทเหค่ รวญ ประกอบดว้ ย • โคลงส่สี ุภาพ 1 บท และกาพย์ยานี ๘ บท • เป็นการพรรณนาครา่ ครวญถงึ นางอนั เป็นท่ีรัก โดยไม่ได้เชือ่ มโยงกับธรรมชาติ
เห่ครวญ (ตอ่ ) โคลง เสยี งสรวลระร่ีนี้ เสยี งใด ใคร่รู้ เสียงนุชพ่ีฤๅใคร นชุ พ่ี มาแม่ อน่ื นน้ั ฤๅมี เสยี งสรวลเสยี งทรามวัย เสยี งบงั อรสมรผู้ กาพย์ เสยี งสรวลระรี่นี้ เสยี งแกว้ พ่ีหรอื เสยี งใคร เสียงสรวลเสียงทรามวยั สุดสายใจพีต่ ามมา ลมชวยรวยกล่ินน้อง หอมเรอ่ื ยตอ้ งคลองนาสา เหลียวหาเจา้ เปลา่ วังเวง เคลือบเคลน้ เหน็ คล้ายมา
คณุ คา่ วรรณคดี
คณุ ค่าวรรณคดี เรอ่ื ง กาพยเ์ หเ่ รอื ๑. คุณคา่ ด้านเนอ้ื หา บทเหช่ มพยุหยาตราทางชลมารค เรียงลาดบั จากบทชมกระบวนเรอื ในกระบวนพยุหยาตราซึง่ เดนิ ทางยามเชา้ ตอนกลางวนั ชมปลาและชมไม้ท่ีพบเห็นตามรายทาง ยามเย็นชมนกที่บนิ กลับรัง เน้อื หาเนน้ พรรณนารปู ลกั ษณส์ วยงามแปลกตา ลักษณะพิเศษของเรอื พระทน่ี ัง่ และเรือลาตา่ ง ๆ ความสามัคคีพรกั พรอ้ มของพลพายท่ีร่วมกระบวน เพื่อใหผ้ ูอ้ ่านเหน็ ภาพโดยรวมของกระบวนเรือทง่ี ดงาม พร้อมเพรยี ง
๑. คุณคา่ ด้านเนือ้ หา บททน่ี ยิ มว่าแตง่ ไดง้ ดงามและเห็นภาพ คอื บทชมเรอื สุวรรณหงส์ สุวรรณหงส์ทรงพู่ห้อย งามชดช้อยลอยหลังสนิ ธ์ุ เพยี งหงสท์ รงพรหมนิ ทร์ ลินลาศเลือ่ นเตือนตาชม ในตอนทา้ ยของบทชมความงามของเรอื กวีได้แต่งให้เช่ือมโยงกับบทเหช่ มปลา ซงึ่ เป็นตอนตอ่ ไป โดยกล่าวไวว้ า่ กรีธาหมูน่ าเวศ จากนคเรศโดยสาชล เหิมหน่ื ช่นื กระมล ยลมจั ฉาสารพันมี
๑. คุณคา่ ด้านเนื้อหา บทเห่ลาดับตอ่ มา กวีพรรณนาธรรมชาตผิ สานกบั อารมณค์ วามรสู้ ึก ของกวที ีแ่ สดงความรกั และอาลยั คนรัก บทเหช่ มปลา พรรณนาปลานานาชนิดให้สมั พนั ธ์กบั ความงาม กริ ิยาทา่ ทาง การแตง่ กายของนางและความรสู้ กึ ของกวที มี่ ตี ่อนาง ดงั ตัวอย่าง ไมเ่ หมอื นนอ้ งห่มตาดพราย เพยี นทองงามด่งั ทอง ด่งั สายสวาทคลาดจากสม กระแหแหหา่ งชาย
๑. คณุ คา่ ด้านเนอ้ื หา บทชมไม้ดอกหลากหลายพรรณท่มี ีดอกสวยงามกช็ วนใหค้ ดิ ถึง ความงามของนางทร่ี ัก ดงั ตวั อย่าง บานแสล้มแยม้ เกสร ชมดวงพวงนางแย้ม แย้มโอษฐ์ยิม้ พรมิ้ พรายงาม คิดความยามบังอร
๑. คณุ คา่ ดา้ นเนอื้ หา ต่อจากบทชมไม้เปน็ บทชมนก กล่าวถึงนกหลายชนิดที่ตา่ งบินกลับรังในยามเยน็ ธรรมชาติของนกท่ี มกั อยเู่ ป็นคู่ เมอ่ื กวีเหน็ กน็ ามาเปรียบเทยี บกับตน ทาให้คิดถึงนางมากยิง่ ขนึ้ ดังตัวอย่าง นกบินเฉียงไปทง้ั หมู่ เรื่อยเร่อื ยมาเรยี งเรยี ง เหมอื นพอ่ี ยู่ผู้เดยี วดาย ตวั เดยี วมาพลดั คู่
๑. คุณค่าดา้ นเนือ้ หา บทเห่ครวญ พรรณนาความร้สู ึกของกวใี นยามค่าไปจนรงุ่ เช้าที่มีแต่ความทุกข์ ความรญั จวนใจ กวีพรรณนาความโดยไมไ่ ด้เชอื่ มโยงกบั ธรรมชาติ แตแ่ สดงให้เห็นวา่ กวีคิดถึง นางมาก เพราะยามที่ครวญนนั้ เป็นเวลาพลบค่า เปน็ เวลาทีม่ กั จะได้อย่ดู ้วยกัน แต่กลับตอ้ งพลดั พรากจากกนั ทาให้กวีเหงาและวา้ เหว่ บทพรรณนาอยา่ งเขา้ ใจถึงความอาวรณข์ องผทู้ พ่ี ลัดพรากจากผู้เป็นที่รักน้ีทาให้ ผอู้ า่ นรู้สึกซาบซ้ึงไปด้วย ดังตัวอยา่ ง ยามสองฆอ้ งยามยา่ ทกุ คนื คา่ ย่าอกเอง เสยี งป่ีมค่ี รวญเครง เหมือนเรยี มคร่ารา่ ครวญนาน
๑. คุณค่าด้านเนอื้ หา กวปี ดิ ท้ายบทเห่ครวญน้ดี ว้ ยกาพย์ยานแี ละโคลงส่สี ภุ าพ เปน็ การสรปุ อารมณ์ความรสู้ ึกของกวไี ด้อยา่ งจบั ใจว่า แต่เชา้ เท่าถงึ เย็น กล้ากลืนเข็ญเป็นอาจิณ ชายใดในแผน่ ดนิ ไม่เหมือนพที่ ่ตี รอมใจ ถงึ เยน็ เรียมทนทุกข์แตเ่ ช้า หมน่ ไหม้ มาส่สู ุขคนื เขญ็ ทกุ ขเ์ ทา่ เรียมเลย ชายใดจากสมรเป็น ทุกขป์ ิม้ ปานปี จากคู่วันเดียวได้
๑. คณุ ค่าดา้ นเนอื้ หา จากการพถิ พี ิถนั ในการสรรหาถอ้ ยคาทีม่ ีความหมาย เด่นชัดและไพเราะทาให้ผ้อู ่านเห็นภาพท่ีงดงาม มีชวี ติ ชวี า เสมอื นได้ชมกระบวนพยุหยาตรา ชื่นชมกบั ธรรมชาติ และซมึ ซบั กบั อารมณ์อันลกึ ซ้งึ ของมนษุ ย์ด้วยตนเอง
๒. คณุ คา่ ดา้ นวรรณศิลป์ การสรรคา • การเลอื กใช้คาได้ถูกตอ้ งตรงตามความหมายทีต่ อ้ งการ o กลา่ วถงึ นางผู้เป็นทร่ี ัก จึงเลือกเฟน้ ทั้งเสยี งและความหมายใหเ้ หมาะ แก่คณะและสมั ผสั ตามข้อบงั คบั ของฉนั ทลกั ษณ์
๒. คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ การสรรคา • การเลอื กใช้คาที่เหมาะสมแก่เน้อื เร่อื งและฐานะของบุคคล ในเรอ่ื ง
๒. คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ การสรรคา • การใชค้ าโดยคานงึ ถึงเสียง o การเล่นเสียงสมั ผัส ทาให้เกดิ ความไพเราะ โดยใชส้ มั ผัสในทง้ั สมั ผัสสระ และสัมผสั พยญั ชนะ ทาใหเ้ สียงของกาพยร์ ืน่ หู มีสัมผัสคลอ้ งจองกนั ใหค้ วามรู้สกึ ถงึ ความราบร่ืนไพเราะ
๒. คณุ คา่ ด้านวรรณศิลป์ การสรรคา • การใชค้ าโดยคานึงถึงเสียง o การเลน่ คาพ้องเสยี ง เลน่ คาในลักษณะพอ้ งรูปพ้องเสียง o การใชค้ าเลียนเสียงธรรมชาติ เป็นการใช้คาบง่ บอกหรอื เลยี นเสียงท่ี เกดิ ขนึ้ ทาให้ผูอ้ ่านและผูฟ้ งั เหน็ ภาพและเกิดความรสู้ ึก
๒. คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ การสรรคา • การใชค้ าโดยคานึงถึงเสียง o การซ้าคา เป็นการสร้างสุนทรียภาพใหเ้ กดิ ข้ึนในดา้ นภาพ โดยการใช้คา ๆ เดยี วกัน แทรกไปเปน็ ระยะ ๆ
๒. คณุ ค่าด้านวรรณศลิ ป์ การใช้ภาพพจน์ • การใช้ภาพพจนอ์ ุปมา o เป็นการเปรยี บเทียบสิ่งหน่ึงว่าเหมือนอีกสิ่งหนง่ึ โดยใชค้ าเชื่อมทแ่ี สดงความหมายวา่ เหมือนกัน เช่น เหมือน ดงั เพยี ง
๒. คุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ การใช้ภาพพจน์ • การใชภ้ าพพจนอ์ ุปลักษณ์ o เป็นการเปรยี บเทียบโยงความคดิ อย่างหน่ึงไปส่คู วามคดิ หนงึ่ โดยใชค้ าว่า คอื เป็น
๒. คุณคา่ ดา้ นวรรณศลิ ป์ ลลี าวรรณคดี • เสาวรจนี บทชมความงามทางธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม เป็นลกั ษณะเดน่ ของกาพย์เห่เรอื เจ้าฟา้ ธรรมธิเบศร เนอื้ เร่ืองมที ้ังบทเห่ชมกระบวนเรือ บทเหช่ มปลา บทเหช่ มไม้ บทเห่ชม นก ลว้ นแล้วแต่ชมความงามได้อย่างไพเราะ
๒. คุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ ลลี าวรรณคดี • สัลลาปังคพสิ ัย บทแสดงความเศรา้ โศก อาลัยอาวรณ์ กวรี าพันความร้สู ึก ความรักอาลยั ทม่ี ตี อ่ นางผ้เู ปน็ ท่รี กั
๓. คณุ คา่ ดา้ นสังคมและวฒั นธรรม สะทอ้ นวิถีชวี ติ ความเป็นอยขู่ องคนในสังคม • ความสาคัญของการคมนาคมทางนา้ สะท้อนใหเ้ หน็ ถึงความผกู พนั กับสายนา้ การคมนาคมทางน้า ทาไดโ้ ดยสะดวก จึงอาศัยการคมนาคมทางนา้ เปน็ สว่ นใหญ่
๓. คณุ คา่ ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม สะท้อนวิถชี ีวิตความเป็นอยูข่ องคนในสงั คม • การเทียบเวลาในสมัยกอ่ น สมัยโบราณใชฆ้ ้องและกลองตีบอกเวลา ซึ่งฆอ้ งบอกสญั ญาณเปน็ “โมง” คู่กบั กลองทต่ี บี อกสญั ญาณเปน็ “ท่มุ ”
๓. คณุ คา่ ด้านสงั คมและวัฒนธรรม สะทอ้ นขนบธรรมเนียมประเพณขี องคนไทย • ประเพณกี ารเหเ่ รือ เรอื ต้น หรอื เรอื ก่ิง มี ๔ ลา
๓. คุณคา่ ดา้ นสังคมและวัฒนธรรม สะท้อนขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย • การแต่งกายของสตรไี ทยในอดตี สตรีไทยในอดีตนยิ มใชผ้ ้าสไบหม่ คลมุ ไหล่ ทาด้วยผา้ ที่ทอดว้ ยไหมควบ กับทองแลง่ หรือเงินแลง่ แบบผา้ ทองหรอื ผา้ เงิน คนทีจ่ ะสวมใสต่ อ้ งเป็นผู้มียศ มีศกั ดิ์ มีเชื้อสายชาติตระกลู สูง สมยั โบราณใช้ผ้าไหมท่ที อควบกบั เสน้ เงนิ หรือเสน้ ทองจรงิ ๆ
๓. คณุ ค่าด้านสงั คมและวฒั นธรรม สะท้อนขนบธรรมเนียมประเพณขี องคนไทย • การทาเครอ่ื งหอมจากดอกไมช้ นิดตา่ ง ๆ o มะลิ กระดังงา กุหลาบ ปรงุ ด้วยเครื่องหอม แล้วบรรจุใสถ่ งุ ผา้ โปรง่ เลก็ ๆ ทาเป็นรปู ร่างต่าง ๆ ให้กลนิ่ หอมติดกายและเสื้อผา้ ของหญงิ สาว
๓. คณุ ค่าดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม สะท้อนขนบธรรมเนียมประเพณีของคนไทย • การรอ้ ยกรองดอกไม้ o สตรีจะมีลกั ษณะเป็นแม่บา้ นแมเ่ รือน มีฝมี ือในการประดษิ ฐ์ o โดยเฉพาะงานดอกไมจ้ ะมีฝมี อื ในการรอ้ ยกรองดอกไม้เปน็ อบุ ะมาลยั และใช้มาลยั แสดงความรกั แทนตวั
อยา่ ลมื ...... ร่วมกจิ กรรม Google Classroom
ขอขอบคุณขอ้ มูลจาก คุณครวู ชิ ญ์ วชิ ญปัญญากุล โรงเรียนธญั บรุ ี สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต ๔
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: