Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ป5

ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ป5

Published by ret2252, 2021-09-26 08:59:08

Description: ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ 1 ป5

Search

Read the Text Version

ขอ้ สอบปลายภาคเรียนที่ 1/2564 โรงเรียนบา้ นเกษตรสมบูรณ์ วชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั ป.5 เวลา 1 ชม. คาสัง่ ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกท่ีสุดเพียงขอ้ เดียว 1 ขอ้ ใดที่ไมม่ ีแรงเขา้ มาเก่ียวขอ้ ง ก การเปิ ดปิ ดประตู ข หนงั สือวางอยบู่ นโตะ๊ ค การเล่นตุก๊ ตาลม้ ลุก ง การเล่นชกั เยอ่ 2 น้าหนกั ของวตั ถุเก่ียวขอ้ งกบั แรงขอ้ ใด ก แรงเสียดทาน ข แรงลอยตวั ค แรงตึงผวิ ง แรงโนม้ ถ่วงของโลก 3 ส่ิงของในขอ้ ใดที่ใชป้ ระโยชน์จากแรงลพั ธ์ ก กระถางตน้ ไมแ้ บบแขวน ข หลอดหยด ค หลอดฉีดยา ง กาลกั น้า 4 การเล่นกระดานหก หากกระดานหกวางตวั ขนานไปกบั พ้นื สรุปไดว้ า่ ก น้าหนกั กดลงทางซา้ ยมากกวา่ ทางขวา ข น้าหนกั กดลงทางขวามากกวา่ ทางซา้ ย ค น้าหนกั ท่ีกดลงเท่ากนั ง ไม่สามารถระบุไดช้ ดั เจน 5 หากออกแรงกระทาต่อวตั ถุเพยี งหน่ึงแรงวตั ถุจะเคล่ือนไปทางใด ก ทางทิศใดกไ็ ด้ ข ทิศทางเดียวกบั แรง ค ทิศทางตรงกนั ขา้ มกบั แรง ง เคล่ือนที่ไดท้ ้งั สองทิศทาง 6 ในการเลือกวสั ดุมาใชท้ ากระทงควรคานึงถึงสิ่งใด ก แรงเสียดทาน ข ความหนาแน่น ค แรงลพั ธ์ ง ความดนั 7 ส่ิงใดท่ีช่วยใหห้ ่วงยางลอยน้าได้ ก แรงดนั น้า ข แรงดึงดูดของโลก ค อากาศที่อยใู่ นห่วงยาง ง ปริมาตรของห่วงยาง 8 ความลึกของระดบั น้าในขอ้ ใดที่มีแรงดนั น้าสูงสุด ก ผวิ น้า ข 5 เมตร ค 15 เมตร ง 30 เมตร

9 แรงลอยตวั มีทิศทางตรงขา้ มกบั แรงในขอ้ ใด ก แรงเสียดทาน ข แรงดึงดูดของโลก ค แรงตึงผวิ ง ไม่มีคาตอบ 10 ด.ช.เก่ง ป้ันดินน้ามนั เป็นกอ้ นกลมแลว้ นาไปลอยน้า ปรากฏวา่ จมทาอยา่ งไรจึงจะลอยได้ ก ป้ันเป็นทรงส่ีเหล่ียม ข ป้ันเป็นทรงส่ีเหลี่ยม ค ป้ันดินน้ามนั เป็นรูปขนั ง ดินน้ามนั ไม่ลอยน้าทาไม่ได้ 11 ขอ้ ใดเป็นการลดแรงเสียดทาน ก ทาขอบบนั ไดใหข้ รุขระ ข การใชย้ างรถที่มีลวดลาย ค การใชร้ ถเขน็ เคลื่อนยา้ ยส่ิงของ ง การใชร้ องเทา้ ที่มีพ้นื รองเทา้ ขรุขระ 12 ทิศทางการเกิดแรงเสียดทานมีลกั ษณะอยา่ งไร ก มีทิศดิ่งลงจากพ้ืนดิน ข มีทิศทางเดียวกบั การเคลื่อนท่ี ค มีทิศทางตรงขา้ มกบั การเคลื่อนที่ ง มีทิศทางไมแ่ น่นอน 13 กิจกรรมขอ้ ใดท่ีตอ้ งใชแ้ รงเสียดทานมากที่สุด ก ปี นเขา ข ตีปิ งปอง ค วา่ ยน้า ง ตีกอลฟ์ 14 คลื่นเสียงเดินทางจากแหล่งกาเนิดเสียงอยา่ งไร ก เป็นรูปคร่ึงวงกลม 2 เป็นเส้นตรง ค เป็นรูปวงกลม ง เป็นรูปซิกแซก 15 วธิ ีโบราณท่ีนายพรานอยากทราบวา่ มีสัตวใ์ หญ่อยใู่ กลบ้ ริเวณน้นั หรือไมใ่ ชว้ ธิ ีใด ก ป้ องหูฟังเสียง ข สังเกตเงาของสตั ว์ ค ใชห้ ูแนบพ้ืนเพอื่ ฟังเสียง ง ใชเ้ ขม็ ทิศจบั ทิศทาง 16 หากเราเล่นดนตรีในอวกาศจะไดย้ นิ เสียงหรือไมเ่ พราะเหตุใด ก ไดย้ นิ เพราะมีแหล่งกาเนิดเสียง ข ไดย้ นิ เพราะเคร่ืองดนตรีอยใู่ กลต้ วั ค ไมไ่ ดย้ นิ เพราะไม่มีตวั กลาง ง ไมไ่ ดย้ นิ เพราะเครื่องดนตรีอยใู่ นสภาพไร้น้าหนกั 17 ส่วนใดของหูท่ีช่วยสะทอ้ นคล่ืนเสียง ก กระดูกคอ้ น ข ใบหู ค เยอ่ื แกว้ หู ง คลอเคลีย

18 เสียงที่เราไดย้ นิ ส่วนใหญ่ผา่ นตวั กลางชนิดใด ข ไอน้า ก อากาศ ง ลม ค แสงแดด ข ของเหลว 19 ตวั กลางใดที่เสียงเดินทางผา่ นไดด้ ีท่ีสุด ง ของแขง็ ก่ึงของเหลว ก ของแขง็ ค กา๊ ซ ข เสียงหวั เราะ เสียงพดู คุย 20 เสียงในขอ้ ใดมีความเขม้ ของเสียงต่าสุด ก เสียงฝนตก ข 85 dB ค เสียงกระซิบ dB 21 มนุษยไ์ ม่ควรฟังเสียงท่ีดงั เกินก่ี dB ข kilometer ก 75 dB ง acre ค 95 dB ง 105 ข เสียงเคร่ืองปั่นน้าผลไม้ 22 หน่วยวดั ความดงั ของเสียงคือขอ้ ใด ง เสียงเครื่องบินเจท็ ก kilogram ค decibel ข นกบา้ นอยใู่ กลส้ นามบิน ง ถูกทุกขอ้ 23 ขอ้ ใดคือมลพษิ ทางเสียง ก เสียงน้าตก ข กระดาษเผาไฟ ค เสียงนกร้อง ง น้ากลายเป็นไอ 24 ใครมีโอกาสหูพิการมากท่ีสุด ข กลว้ ยสุก ก ดาบา้ นอยบู่ ริเวณการจราจรแออดั ง การทานาเกลือ ค กอ้ นชอบฟังเพลงโดยสวมหูฟัง 25 ขอ้ ใดเป็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสาร ก เหล็กเป็นสนิม ค การเผาถ่าน 26 ขอ้ ใดเป็นการเปล่ียนแปลงทางเคมีของสาร ก น้าแขง็ กลายเป็นน้า ค น้าตาลละลายในน้า

27 กระบวนการที่ของแขง็ เปลี่ยนสถานะไปเป็นไอโดยไมเ่ ป็นของเหลวก่อนเรียกวา่ ก การแขง็ ตวั ข การระเหย ค การควบแน่น ง การระเหิด 28 จะมีรูปร่าง และ ปริมาตรคงท่ี เป็นคุณสมบตั ิของสารขอ้ ใด ก ของแขง็ ข ของเหลว ค กา๊ ซ ง พาสม่า 29 จะมีรูปร่างตามภาชนะที่บรรจุ และ มีปริมาตรที่คงที่ เป็นคุณสมบตั ิของสารขอ้ ใด ก ของแขง็ ข ของเหลว ค กา๊ ซ ง พาสม่า 30 จะมีรูปร่าง และ ปริมาตรท่ีไม่คงท่ี โดยรูปร่าง จะเปล่ียนไปตามภาชนะท่ีบรรจุ เป็นคุณสมบตั ิของสารขอ้ ใด ก ของแขง็ ข ของเหลว ค ก๊าซ ง พาสม่า 31 ขอ้ ใดเป็นสารเน้ือเดียว ก น้าโคลน ข น้าเชื่อม ค น้าอบไทย ง น้าพริกแมงดา 32 ขอ้ ใดที่ไมใ่ ช่สารเน้ือเดียว ก น้ากลนั่ ข น้าส้มสายชู ค น้าเกลือ ง น้าจิม้ ไก่ 33 การเปล่ียนแปลงของสารแบบใดท่ีผนั กลบั ได้ ก การเปลี่ยนแปลงทางเคมี ข การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ ค การเปล่ียนแปลงทางรูปร่าง ง การเกิดใหมข่ องสาร 34 หากนกั เรียนตอ้ งการทาน้าแขง็ รับประทานเองตอ้ งใชค้ ุณสมบตั ิขอ้ ใด ก การคายความร้อน ข การดูดความร้อน ค การส่งผา่ นพลงั งาน ง การแช่ตูเ้ ยน็ 35 นกั เรียนจุดฟื นหุงตม้ เป็นขบวนการเปลี่ยนแปลงแบบใด ก การเปลี่ยนแปลงทางเคมี ข การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ค การเปลี่ยนแปลงทางรูปร่าง ง ถูกทุกขอ้

36 แม่คา้ ทาขนมอบเคก้ เป็นขบวนการเปลี่ยนแปลงแบบใด ก การเปล่ียนแปลงทางรูปร่าง ข การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ค การเปลี่ยนแปลงทางเคมี ง การเกิดขนมแปลกใหม่ 37 การหล่อเงินในแม่พมิ พเ์ ป็นขบวนการเปลี่ยนแปลงแบบใด ก การเปล่ียนแปลงทางรูปร่าง ข การเปล่ียนแปลงทางกายภาพ ค การเปล่ียนแปลงทางเคมี ง การเปลี่ยนแปลงมูลค่าของเงิน 38 น้าเดือด เป็นขบวนการเปลี่ยนแปลงแบบใด ก การเปล่ียนแปลงทางรูปร่าง ข การเปล่ียนแปลงแบบน้าเป็นไอน้า ค การเปลี่ยนแปลงทางเคมี ง การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ 39 ถา้ นกั เรียนตอ้ งการแยกน้าออกจากเกลือของสารละลายน้าเกลือควรทาอยา่ งไรดีท่ีสุด ก การกรอง ข การตกผลึก ค การระเหย ง ถูกทุกขอ้ 40 ขอ้ ใดเป็นการเปล่ียนแปลงของสารแบบผนั กลบั ได้ ก การเผาถ่าน ข น้าเชื่อม ค ผลไมส้ ุก ง ถูกทุกขอ้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook