Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เล่ม1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจและการบัญชี

เล่ม1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจและการบัญชี

Published by mrstreeged1969, 2020-06-16 04:32:35

Description: เล่ม1ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจและการบัญชี

Search

Read the Text Version

1 ชุดแบบฝกึ ทักษะพนื้ ฐานงานบัญชี หนว่ ยที่ 1 เรือ่ งความร้เู บื้องต้นเกี่ยวกบั ธรุ กิจและการบญั ชี รายวิชา งานธุรกิจ1 รหัสวิชา ง30281 ระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 4 นางตรีเกศ รจุ ิยาปนนท์ ครู ชานาญการพิเศษ กลุม่ สาระการเรียนร้กู ารงานอาชีพ โรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

2 ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั ธุรกจิ และการบัญชี ธุรกิจในปัจจุบนั มีการเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็ว เกิดธุรกิจประเภทใหม่ๆ ข้ึนมามากมาย และ การแข่งขนั มีสูงข้ึน การดาเนินงานด้านธุรกิจจึงจาเป็ นตอ้ งใช้ขอ้ มูลที่ทันสมยั เพ่ือประกอบการ ตดั สินใจในดา้ นต่างๆ โดยมขี อ้ มลู ทางการเงินเป็นขอ้ มลู ที่สาคญั การบญั ชีจึงมีบทบาทสาคญั ในธุรกิจ เพราะการบญั ชีทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลทางการเงิน ซ่ึงเป็ นขอ้ มูลที่จาเป็ นในการบริหารงาน การวางแผนงาน การตดั สินใจและควบคุมการดาเนินงานของธุรกิจ ด้งั น้นั ในการประกอบธุรกิจจึงจาเป็ นตอ้ งมีงาน ดา้ นการบญั ชีเกี่ยวขอ้ งดว้ ยเสมอ

3 ความหมายและหน้าท่ขี องธุรกจิ ธุรกจิ (Business) หมายถึงการดาเนินกิจกรรมที่เกี่ยวกบั การผลิต การจาหน่ายสินคา้ หรือการ ให้บริการ เพ่ือหวงั ผลกาไรและยอมเสี่ยงต่อการขาดทุนท่ีอาจเกิดข้ึนจากการประกอบการ ในการ ประกอบธุรกิจ มหี นา้ ท่ีหลายๆ ส่วนท่ีจาเป็น บางหนา้ ที่ทาเพอื่ ประโยชนข์ ององคก์ รโดยตรง และบาง หนา้ ท่ีทาเพ่อื ประโยชน์ของผทู้ ่ีมสี ่วนเกี่ยวขอ้ งกบั องค์กร แต่ทาใหเ้ กิดประโยชน์ทางออ้ มต่อองคก์ ร โดยธุรกิจมีหนา้ ที่หลกั ในการดาเนินกิจกรรม 5 ดา้ น ดงั ต่อไปน้ี 1. หน้าที่ด้านการตลาด หน้าท่ีดา้ นการตลาดน้ีเน้นกิจกรรมการสร้างความพึงพอใจให้แก่ ลกู คา้ โดยมีเคร่ืองมือทางการตลาด คือ 4P’s ประกอบดว้ ย  ผลิตภณั ฑ์ (Product) ท่ีสามารถตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้  ราคา (Price) ท่ีเหมาะสมกบั ความคุม้ ค่าที่ลูกคา้ ไดร้ ับ  สถานท่ี (Place) หรือวิธีการจดั จาหน่ายที่ทาใหเ้ กิดความสะดวกแก่ลกู คา้  การส่งเสริมการตลาด (Promotion) เป็ นการติดต่อสื่อสารเพื่อใหล้ ูกคา้ ไดร้ ับรู้ถึง ผลติ ภณั ฑ์ เพือ่ กระตุน้ ใหเ้ กิดความตอ้ งการซ้ือ

4 2. หน้าที่ด้านทรัพยากรบุคคล เน่ืองจากบุคลากรเป็ นองค์ประกอบท่ีสาคญั ต่อความสาเร็จ หรื อความลม้ เหลวของธุรกิจ จึงต้องให้ความสาคัญต้ังแต่กระบวนการสรรหาคัดเลือกบุคคล เขา้ ทางาน การฝึ กอบรม การกาหนดค่าตอบแทน การสร้างแรงจูงใจในการทางาน การสร้างความ มนั่ คงและความกา้ วหนา้ ใหก้ บั บุคลากร

5 3. หน้าทดี่ ้านการผลติ และการดาเนินงาน ธุรกิจที่จะประสบความสาเร็จได้ จะตอ้ งผลติ สินคา้ ใหท้ นั เวลาท่ีกาหนด และตรงกบั ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค จึงตอ้ งมีการควบคุมกระบวนการผลิต ใหม้ ปี ระสิทธิภาพ ตอ้ งมีการวางแผน การส่งั การ และการควบคุมที่ดี โดยการดาเนินงานของธุรกิจ จะตอ้ งพจิ ารณาภาพรวมท้งั องคก์ ร 4. หน้าที่ด้านการเงิน ธุรกิจตอ้ งมีการจดั การทรัพยากรทางการเงินท่ีดี เช่น การจดั หาเงินทุน จากแหล่งเงินท่ีมีต้นทุนต่า เลือกการลงทุนท่ีให้ผลตอบแทนท่ีคุม้ ค่าต่อกิจการ มีการติดตามและ ประเมนิ ประสิทธิภาพการใชเ้ งิน 5. หน้าท่ดี ้านระบบสารสนเทศทางการบญั ชี ธุรกิจมหี นา้ ที่จดั เตรียมสารสนเทศทางการบญั ชี เพ่อื แสดงถึงผลการดาเนินงานและฐานะทางการเงินของกิจการ โดยมุ่งเนน้ สนองความตอ้ งการของ ผใู้ ช้ มีการนาเสนอสารสนเทศท่ีถูกตอ้ งเหมาะสมและทนั เวลา

6 รูปแบบการจดั ต้งั กจิ การธุรกจิ ในการประกอบธุรกิจ ผปู้ ระกอบธุรกิจตอ้ งตดั สินใจเลอื กรูปแบบการดาเนินธุรกิจของตนเอง ว่าจะดาเนินงานในรูปแบบองคก์ รธุรกิจประเภทใด ซ่ึงองคก์ รธุรกิจท่ีดาเนินกิจการอยใู่ นประเทศไทย มหี ลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบมีวธิ ีการดาเนินงานท่ีมผี ลดีและผลเสียแตกต่างกนั การจดั แบ่งธุรกิจตาม รูปแบบการจดั ต้งั ธุรกิจ จาแนกได้ 3 รูปแบบ ดงั น้ี 1. กจิ การเจ้าของคนเดยี ว (Single Proprietorship) เป็นการทาธุรกิจที่ลงทุนโดยบุคคลคนเดียว เจ้าของมีอานาจสิทธิขาดในการบริหารงาน มีสิทธิในสินทรัพยแ์ ละผลกาไรของกิจการท้ังหมด แต่เพียงผเู้ ดียว แต่ก็ตอ้ งรับผดิ ชอบในหน้ีสินท่ีเกิดข้ึนโดยไม่จากดั จานวนแต่เพียงผเู้ ดียวดว้ ยเช่นกนั ขอ้ ดีของกิจการรูปแบบน้ี คือ จดั ต้งั ไดง้ ่าย มกี ฎระเบียบทางกฎหมายน้อย มีตน้ ทุนต่า รักษาความลบั ไดด้ ี มีอสิ ระในการตดั สินใจ บริหารงานไดค้ ลอ่ งตวั เจา้ ของไดร้ ับผลประโยชนอ์ ยา่ งเตม็ ที่ แต่มขี อ้ เสีย คือ เงินทุนมีจานวนจากดั ทาใหข้ ยายธุรกิจไดย้ าก ความสามารถในการบริหารงานและการตดั สินใจมี จากดั และเสียภาษีเงินไดใ้ นอตั รากา้ วหนา้

7 2. ห้างหุ้นส่วน (Partnership) เป็นการทาธุรกิจโดยการลงทุนร่วมกนั ต้งั แต่ 2 คน ข้ึนไป มีการ กาหนดเงื่อนไขการบริหารงานและการแบ่งผลกาไรที่ชดั เจน ขอ้ ดีของห้างหุ้นส่วน คือจดั ต้งั ไดง้ ่าย มีกฎระเบียบค่อนขา้ งน้อย มีการบริหารงานอยา่ งรอบคอบ มีเงินทุนมากกว่ากิจการเจา้ ของคนเดียว และสามารถแบ่งความรับผดิ ชอบต่อความเสียหายที่อาจจะเกิดข้ึน แต่มีขอ้ เสีย คือ การบริหารไม่ค่อย คล่องตวั เหมอื นกิจการเจา้ ของคนเดียว ในบางคร้ังวงเงินที่ลงทุนไปน้นั ไมเ่ พียงพอในการดาเนินธุรกิจ และการโอนเปล่ียนความเป็นเจา้ ของทาไดย้ าก ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แบ่งห้างหุน้ ส่วนเป็ น 2 ประเภท คือ หา้ งหุน้ ส่วนสามญั และหา้ งหุน้ ส่วนจากดั  ห้างหุ้นส่วนสามญั มีฐานะเป็ นบุคคลธรรมดา ซ่ึงผูเ้ ป็ นหุ้นส่วนทุกคนตอ้ ง ร่วมกนั รับผดิ ชอบในหน้ีสินของห้างโดยไม่จากดั จานวน แต่ถา้ จดทะเบียนจะมีฐานะเป็ นนิติบุคคล เรียกกว่า “หา้ งหุน้ ส่วนสามญั นิติบุคคล” ซ่ึงมีผลต่อการทานิติกรรมและการเสียภาษีเงินได้ นนั่ คือ จะทานิติกรรมไดเ้ ฉพาะในนามของหา้ งหุน้ ส่วนมิใช่ในนามของบุคคล และเสียภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล จากฐานกาไรสุทธิ  หา้ งหุ้นส่วนจากดั เป็ นห้างหุน้ ส่วนที่มีผเู้ ป็ นหุ้นส่วน 2 ประเภท คือหุ้นส่วนที่ จากดั ความรับผดิ ชอบ และหุน้ ส่วนท่ีไมจ่ ากดั ความรับผดิ ชอบ หุน้ ส่วนประเภทจากดั ความรับผดิ ชอบ

8 จะรับผิดชอบในหน้ีสินของห้างหุน้ ส่วนไม่เกินมูลค่าของเงินลงทุนท่ียงั ส่งใช้ไม่ครบ แต่หุ้นส่วน ประเภทไม่จากัดความรับผิดชอบ จะตอ้ งรับผิดชอบในหน้ีสินที่เหลือท้งั หมดของห้างหุ้นส่วน หา้ งหุน้ ส่วนจากดั จะตอ้ งมหี ุน้ ส่วนอยา่ งนอ้ ยหน่ึงคนที่รับผิดชอบในหน้ีสินของห้างไม่จากดั จานวน และหา้ งหุน้ ส่วนจากดั ตอ้ งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเท่าน้นั 3. บริษัทจากัด (Company Limited or Corporation) เป็ นธุรกิจที่จดั ต้งั ข้ึนโดยการแบ่งทุน ออกเป็นหุน้ แต่ละหุน้ มีมูลค่า (par value) เท่าๆ กนั ผถู้ ือหุน้ ของบริษทั จะมฐี านะเป็นเจา้ ของกิจการ มี สิทธิออกเสียงในท่ีประชุม 1 หุน้ ต่อ 1 เสียง และผถู้ อื หุน้ รับผดิ ชอบในหน้ีสินของบริษทั เพียงจานวน ค่าหุน้ ที่ยงั ส่งใชไ้ มค่ รบเท่าน้นั กิจการรูปแบบน้ีมีขอ้ ดี คือ สามารถระดมเงินทุนเพอ่ื การขยายธุรกิจได้ สะดวก มีโอกาสหาผบู้ ริหารที่มีฝี มือดีมาบริหารกิจการไดง้ ่าย โอนเปล่ียนความเป็ นเจา้ ของไดง้ ่าย การดาเนินธุรกิจมีความต่อเน่ือง แต่มีข้อเสีย คือ มีขอ้ กาหนดทางกฎหมายท่ียงุ่ ยากหลายประการ บริษทั จากดั มี 2 ประเภท คือ บริษทั เอกชน จากดั และบริษทั มหาชน จากดั  บริษทั เอกชน จากดั (Private Company Limited) เป็ นบริษทั ที่ไดจ้ ดั ต้งั ข้ึนตาม ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ผเู้ ริ่มจดั ต้งั บริษทั เอกชน จากดั มีจานวนต้งั แต่ 3 คน ข้ึนไป  บริษทั มหาชน (Public Company Limited) เป็ นบริษทั ที่ตอ้ งมีผเู้ ร่ิมจดั ต้งั จานวน ต้งั แต่ 15 คน ข้ึนไป จดั ต้งั ข้ึนตามพระราชบญั ญตั ิบริษทั มหาชน จากดั นอกจากน้ียงั มีการดาเนินการทาธุรกิจรูปแบบอ่ืนๆ อีกหลายอยา่ ง เช่น การร่วมกนั ทาธุรกิจ โดยมีวตั ถุประสงค์เฉพาะอย่าง ซ่ึงจะเลิกกิจการเมื่อบรรลุวตั ถุประสงค์แลว้ เรียกว่า กิจการร่วมคา้ (Joint ventures) ลกั ษณะการรวมตวั กนั มหี ลากหลาย เช่น บุคคลธรรมดากบั หา้ งหุน้ ส่วน ห้างหุ้นส่วน กบั หา้ งหุน้ ส่วน หรือหา้ งหุน้ ส่วนกบั บริษทั เป็นตน้ สาเหตุของการรวมกนั ทาธุรกิจลกั ษณะเช่นน้ีเพื่อ การแลกเปลยี่ นหรือใชท้ รัพยากรร่วมกนั หรือเรียกว่า “กิจการสหกรณ์” เป็ นธุรกิจที่ไม่มุ่งหวงั กาไร

9 แต่จดั ต้งั ข้ึนเพ่ืออานวยประโยชน์ให้กับสมาชิก เช่น สหกรณ์รถแท็กซ่ี สหกรณ์โคนม สหกรณ์ ออมทรัพย์ สหกรณ์ร้านคา้ เป็นตน้ ประเภทของธุรกจิ การดาเนินงานของธุรกิจในปัจจุบนั ไม่ว่าจะจดั ต้งั ในรูปแบบใด เราสามารถจดั แบ่งธุรกิจตาม ลกั ษณะของการดาเนินธุรกิจ ได้ 3 ประเภท ดงั น้ี

10 1. ธุรกิจบริการ (Service Firm) เป็ นธุรกิจท่ีนาเสนอผลิตภณั ฑท์ ี่จบั ตอ้ งไม่ได้ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล สถานบนั เทิง สานกั งานบญั ชี โรงภาพยนตร์ ร้านเสริมสวย เป็นตน้ 2. ธุรกิจซ้ือมาขายไป (Merchandising Firm) เป็ นธุรกิจท่ีจาหน่ายสินคา้ ซ่ึงเป็ นผลิตภณั ฑท์ ี่ สามารถจบั ตอ้ งไดใ้ หแ้ ก่ลกู คา้ โดยที่ไม่ไดผ้ ลิตสินคา้ ข้ึนเอง แต่ซ้ือสินคา้ มาจากกิจการอื่นแลว้ นามา ขายใหแ้ ก่ผบู้ ริโภค อาจเป็นขายส่งหรือขายปลกี ก็ได้ เช่น ร้านสะดวกซ้ือ หา้ งสรรพสินคา้ ร้านขายยา ร้านขายเส้ือผา้ ร้านขายรองเทา้ เป็นตน้ 3. ธุรกิจผลติ สินคา้ (Manufacturing Firm) เป็นธุรกิจท่ีผลิตสินคา้ ข้ึน โดยการซ้ือวตั ถุดิบมาทา การแปรสภาพใหเ้ ป็ นสินคา้ สาเร็จรูป อาจจาหน่ายสินคา้ ท่ีผลิตเองหรือส่งต่อใหผ้ อู้ ่ืนเป็ นผจู้ าหน่าย เช่น โรงงานตดั เยบ็ เส้ือผา้ โรงงานผลติ อาหารสาเร็จรูป เป็นตน้

11 ความหมายของการบญั ชี การบญั ชีเป็ นภาษาทางธุรกิจ (Language of Business) ส่ือสารให้ทราบถึงความสาเร็จหรือ ความลม้ เหลวของการทาธุรกิจ เพราะการบญั ชีเป็ นการใหข้ ้อมูลทางการเงินซ่ึงเป็ นขอ้ มูลที่จาเป็ น ในการบริหารงาน การวางแผนงาน การตดั สินใจ และการควบคุมการดาเนินงานของธุรกิจ ดงั น้ัน งานการบญั ชีจึงเก่ียวขอ้ งกบั การประกอบธุรกิจเสมอ สมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ให้ความหมายของการบญั ชีไว้ ว่า “การบัญชี (Accounting) คือ ศิลปะของการเก็บรวบรวม บนั ทึก จาแนกและทาสรุปข้อมูลอนั เกี่ยวกบั เศรษฐกิจในรูปตวั เงิน ผลงานข้นั สุดทา้ ยของการบญั ชี ก็คือ การให้ขอ้ มูลทางการเงินซ่ึงเป็ น ประโยชน์แก่บุคคลหลายฝ่ ายในกิจการน้นั เอง หรือบุคคลภายนอกท่ีสนใจในกิจกรรมของกิจการ” การบญั ชี เป็นศิลปะของการจดบนั ทึกรายการหรือเหตุการณ์สาคญั ทางการเงินไวใ้ นรูปของ เงินตรา ตลอดจนการจดั ประเภท การสรุปผล และการตีความหมายของรายการท่ีจดบนั ทึกน้นั อาจกล่าวไดว้ า่ การบญั ชี คือการเก็บรวบรวม การจดบนั ทึก การจาแนก การสรุปผลรายการ ทางการเงินท่ีเกิดข้ึนในรูปของจานวนเงิน รวมถึงการวิเคราะห์และแปลความหมายผลสรุปน้ันดว้ ย จากความหมายของการบญั ชีดงั กลา่ ว เราสามารถสรุปข้นั ตอนของการบญั ชีได้ ดงั น้ี 1. การเกบ็ รวบรวม (Collecting) ขอ้ มูลทางการเงินหรือที่เรียกว่ารายการคา้ (Transaction) ท่ี เกิดข้ึนในแต่ละวนั จะถูกเกบ็ รวบรวมไว้ 2. การจดบันทึก (Recording) เป็ นการจดบนั ทึกรายการคา้ ท่ีเกิดข้ึนในแต่ละวนั โดยจะจด บนั ทึกลงในสมุดบญั ชีข้นั ตน้ 3. การจาแนก (Classifying) รายการคา้ ท่ีบนั ทึกในสมุดบญั ชีข้นั ตน้ จะถูกจาแนกออกเป็ น หมวดหมใู่ นสมดุ บนั ทึกบญั ชีข้นั ปลาย 4. การสรุปผล (Summarizing) รายการคา้ ท่ีเกิดข้ึนและจาแนกแลว้ ในช่วงระยะเวลาหน่ึงจะถูก สรุปผล เพ่ือใหท้ ราบถึงผลการดาเนินงาน และฐานะทางการเงินของกิจการ โดยการสรุปผลจะแสดง ในรูปของงบการเงิน

12 5. การวเิ คราะหแ์ ละแปลความหมาย (Analysis and Interpreting) ขอ้ มูลทางการบญั ชีท่ีไดจ้ าก การสรุปผล จะถูกวิเคราะห์และแปลความหมาย เพื่อนาขอ้ มลู ทางการบญั ชีไปใชใ้ นการตดั สินใจ นอกจากคาวา่ “การบญั ชี (Accounting)” มคี าอีกคาหน่ึงซ่ึงมกั เขา้ ใจผิดว่าเป็ นคาเดียวกนั คือ คาว่า “การทาบญั ชี (Book keeping)” ซ่ึงความจริงแลว้ ไม่ใช่คาเดียวกนั แต่มีความหมายใกลเ้ คียงกนั โดยการทาบญั ชีเป็นเพยี งส่วนหน่ึงของการบญั ชี เพราะการทาบญั ชีเป็ นเพียงการจดบนั ทึกรายการลง ในสมุดบญั ชี เพ่ือจาแนกรายการบญั ชี และสรุปรายการบญั ชี โดยจดั ทางบการเงินเท่าน้ัน ผูท้ ี่มีหน้าที่ รับผดิ ชอบในการบนั ทึกรายการน้ี เรียกว่า “ผทู้ าบญั ชี (Book keeper)” แต่การบญั ชีเป็นเรื่องท่ีเกี่ยวขอ้ ง ต้งั แต่การออกแบบระบบบญั ชี การวางระบบบญั ชี การบนั ทึกบญั ชี การรายงานขอ้ มูลทางบญั ชี การ วิเคราะหข์ อ้ มูลทางการบญั ชี และการตรวจสอบบญั ชี ผทู้ ี่มีหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบงานท้งั หมดของการบญั ชี เรียกว่า “นกั บญั ชี (Accountant)”

13 ประเภทของนักบญั ชี(The Types of Accountants) การจาแนกประเภทของนกั บญั ชีน้นั พจิ ารณาจากลกั ษณะของหน่วยงานท่ีนกั บญั ชีเหล่าน้นั ปฏบิ ตั ิงานอยู่ 3 ประเภทดว้ ยกนั คือ 1. นักบญั ชีส่วนบุคคล(Private Accountants) เป็นนกั บญั ชีที่รับจา้ งทางานทางดา้ นการบญั ชี ใหก้ บั ธุรกิจต่างๆ ไมว่ ่าจะเป็นธุรกิจเจา้ ของคนเดียว กจิ การหา้ งหุน้ ส่วน หรือบริษทั จากดั โดยจะมี ตาแหน่งงานแตกต่างกนั ไปตามขอบเขตหนา้ ทคี่ วามรับผดิ ชอบท่ีไดร้ ับมอบหมาย เช่น เป็นพนกั งาน บญั ชี สมหุ บ์ ญั ชี ผอู้ านวยการบญั ชี หรืออาจจะเป็นผตู้ รวจสอบภายใน เป็นตน้ ซ่ึงผลตอบแทนที่ ไดร้ ับจะเป็นเงินเดือนประจา ดงั น้นั นกั บญั ชีส่วนบุคคลจึงมีฐานะเป็นพนกั งานของธุรกิจเหล่าน้นั 2. นักบญั ชีสาธารณะ(Public Accountants) เป็นนกั บญั ชที ่ีทางานเป็นอิสระโดยใหบ้ ริการ หลกั ในดา้ นของการตรวจสอบบญั ชีใหแ้ ก่บุคคลทวั่ ไป ธุรกิจต่างๆ รวมท้งั หน่วยงานของรัฐบาลใน ฐานะที่เป็นผตู้ รวจสอบภายนอกซ่ึงจะตอ้ งลงลายมือช่ือเพ่ือรับรองความถูกตอ้ งของงบการเงินท่ีทา การตรวจสอบดว้ ย นกั บญั ชีที่จะทางานในส่วนน้ีไดจ้ ะตอ้ งเป็นผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาต โดยเป็นผู้ ไดร้ ับอนุญาตจากสมาคมวิชาชีพบญั ชีทีค่ ณะกรรมการกากบั ดูแลการประกอบวิชาชีพรับรอง นอกจากงานตรวจสอบบญั ชีแลว้ อาจใหบ้ ริการในดา้ นอน่ื ๆ อกี เช่น การจดั ทาบญั ชี การทารายงาน ทางการเงิน การวางระบบบญั ชี การวิเคราะหข์ อ้ มูล การทางบประมาณ และการใหค้ าปรึกษาดา้ นการ คานวณภาษีอากร เป็นตน้ โดยผลตอบแทนจะคดิ เป็นค่าบริการเช่นเดียวกบั วิชาชีพอ่ืนๆ เช่น แพทย์ หรือทนายความ เป็นตน้ 3. นกั บญั ชีส่วนราชการ(Government Accountants) เป็นนกั บญั ชีท่ีทางานในหน่วยงานของ รัฐบาล โดยมฐี านเป็นลูกจา้ งหรือขา้ ราชการประจาของหน่วยงานน้นั ๆ ลกั ษณะของงานบญั ชีส่วน

14 ของรัฐบาลน้นั จะเป็นหน่วยงานท่ีไมแ่ สวงหากาไร ดงั น้นั การทาบญั ชีและทะเบียนต่างๆ น้นั จะตอ้ ง ยดึ หลกั ระบบบญั ชีของหน่วยงานน้นั ๆ อยา่ งเคร่งครัด ผลตอบแทนที่นกั บญั ชีส่วนราชการจะไดร้ ับ น้นั จะเป็นเงินเดือนประจาตามตาแหน่งหนา้ ที่และความรับผดิ ชอบ ความสัมพนั ธ์ระหว่างธุรกิจกับการบญั ชี องคก์ รต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนแบ่งตามวตั ถุประสงค์ของการจดั ต้งั เป็ น 2 ประเภท คือ องคก์ รธุรกิจ (Business organization) และองค์กรท่ีไม่ใช่ธุรกิจ (Nonprofit organization) โดยองค์กรธุรกิจเป็ น องคก์ รที่ดาเนินงานโดยมีวตั ถุประสงคท์ ่ีจะทากาไรจากการผลิต การจาหน่ายสินคา้ หรือให้บริการ ส่วนองค์กรที่ไม่ใช่ธุรกิจ เป็ นองคก์ รท่ีมีวตั ถุประสงคไ์ ม่แสวงหากาไร แต่ใหค้ วามสาคัญกบั การ ใหบ้ ริการที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล องคก์ รธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็ นกิจการท่ีจาหน่ายสินคา้ หรือให้บริการก็ตาม จะมีกิจกรรมในการ ดาเนินธุรกิจท่ีเหมอื นกนั โดยเร่ิมตน้ จากการจดั หาเงินทุนมาใชใ้ นการดาเนินงาน ซ่ึงสามารถจดั หาได้ จาก 2 แหลง่ ใหญ่ๆ คือ แหล่งภายในกิจการ นนั่ คือเจา้ ของกิจการหรือผรู้ ่วมลงทุนท้งั หลาย และแหล่ง ภายนอกกิจการ คือ เจา้ หน้ีหรือผใู้ หส้ ินเชื่อ เม่ือมีเงินเพียงพอสาหรับดาเนินธุรกิจแลว้ จะตอ้ งจดั หา วสั ดุ อุปกรณ์ บุคลากร และอาจตอ้ งมีการจ่ายค่าใช้จ่ายอ่ืนๆ และเม่ือเตรียมทุกอย่างพร้อมแลว้ จะ ดาเนินการผลิตสินคา้ หรือบริการเพ่ือนาเสนอขายแก่ลูกคา้ กิจการจะนาเงินท่ีไดจ้ ากการขายสินคา้ หรือ บริการไปใช้ 4 ลกั ษณะใหญ่ๆ คือ  สารองเงินไวเ้ พอื่ นาไปเป็นทุนหมนุ เวยี นในการดาเนินธุรกิจต่อไป  จ่ายค่าใชจ้ ่ายท่ีคา้ งจ่ายต่างๆ รวมถงึ ภาษีเงินได้ (เมื่อมผี ลกาไร)  จ่ายชาระดอกเบ้ียและเงินตน้ ใหเ้ จา้ หน้ี  จ่ายปันผลแก่เจา้ ของกิจการ ความสมั พนั ธข์ องกิจกรรมทางธุรกิจ ทุกกิจกรรมท่ีเกิดข้ึนจากการดาเนินธุรกิจ ลว้ นเก่ียวขอ้ งกบั สารสนเทศทางการเงิน ดงั น้ัน นกั บญั ชีจึงตอ้ งมีหน้าที่ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล และจดั ทารายงานทางการเงินสาหรับเหตุการณ์ท่ี

15 เกิดข้ึนท้งั หมดใหแ้ ก่ผตู้ อ้ งการใชข้ อ้ มูลแต่ละกลุ่ม เพราะการบญั ชีเป็ นภาษาของธุรกิจ (Language of Business) ที่ทาหนา้ ท่ีส่ือสารใหท้ ราบถึงความสาเร็จหรือความลม้ เหลวขององค์การที่ผบู้ ริหารองคก์ ร สามารถนาไปใชใ้ นการบริหารงาน และผูม้ ีส่วนไดเ้ สียในธุรกิจสามารถใชว้ ดั และประเมินผลการ ดาเนินงานและประเมินสถานการณ์ของธุรกิจ ประโยชน์ของสารสนเทศทางการบญั ชี สารสนเทศทางการบญั ชี มปี ระโยชนต์ ่อกิจการของธุรกิจ ดงั ต่อไปน้ี 1. เป็นหลกั ฐานอา้ งอิงในภายหลงั เน่ืองจากงานบญั ชีทาหนา้ ที่จดบนั ทึกและเหตุการณ์ทาง ธุรกิจท้งั หมดของกิจการ การจดบนั ทึกแต่ละคร้ังตอ้ งมีการตรวจสอบหลกั ฐานเอกสารให้ครบถว้ น ก่อนทุกคร้ัง 2. ทาใหท้ ราบผลการดาเนินงานและฐานะการเงิน รายงานที่นกั บญั ชีจดั ทาและนาเสนอน้นั ทาใหส้ ามารถมองเห็นภาพรวมทางการเงินท้งั หมดของกิจการได้ 3. เป็ นสารสนเทศท่ีใชใ้ นการบริหารงาน ผบู้ ริหารสามารถใชส้ ารสนเทศทางการบญั ชีเพ่ือ ประกอบในการวางแผน การตดั สินใจ และการติดตามประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานได้ 4. สามารถตรวจสอบและป้องกนั ขอ้ ผิดพลาด การจดบนั ทึก และตรวจสอบเอกสารทุกคร้ัง จะทาใหล้ ดความผดิ พลาด และตรวจสอบพบสิ่งผดิ ปกติท่ีเกิดไดม้ ากข้ึน 5. ใชป้ ระกอบการจดั หาเงิน การขอสินเชื่อจากสถาบนั การเงิน หรือการเพิ่มทุน ผูล้ งทุนจะ พิจารณาขอ้ มลู ทางการเงินของกิจการเพอ่ื ประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนที่จะไดร้ ับ 6. เป็ นหลกั ฐานในการคานวณภาษี ขอ้ มูลบัญชีที่ดีจะทาใหก้ ิจการเสียภาษีไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง ครบถว้ นไม่มปี ัญหากบั สรรพากรในภายหลงั

16 ผ้ใู ช้สารสนเทศทางการบัญชี นกั บญั ชีจะจดบนั ทึกกิจกรรมทางการเงินของธุรกิจที่เกิดข้ึนไวท้ ุกรายการ เม่ือบนั ทึกขอ้ มูล ไดร้ ะยะหน่ึง นกั บญั ชีจะสรุปผลและนาเสนอขอ้ มลู ในรูปของรายงานทางการเงิน โดยจะรวบรวมไว้ ใน “รายงานประจาปี ” (Annual report) รายงานน้ีจะถูกเผยแพร่ออกสู่สาธารณชนและเป็ นประโยชน์ แก่บุคคลหลายฝ่ าย เช่น  ผบู้ ริหารและบุคลากรระดบั ต่างๆ ผบู้ ริหารจะวเิ คราะหส์ ารสนเทศทางการบญั ชีที่ไดร้ ับมา เพอ่ื การวางแผนและควบคุมการดาเนินงาน เพราะสารสนเทศทางการบญั ชีเป็ นการรายงานเหตุการณ์ ท่ีเกิดข้ึนในอดีต สามารถใชป้ ระเมินผลการปฏิบตั ิงานท่ีผา่ น หาจุดบกพร่องที่สมควรไดร้ ับการแกไ้ ข อยา่ งเร่งด่วน รวมถึงนาขอ้ มูลไปใชใ้ นการคาดคะเนเหตุการณ์ในอนาคตอยา่ งสมเหตุสมผล ตวั เลข ทางการเงินโดยเฉพาะผลกาไรหรือขาดทุน จะถกู นามาใชเ้ ป็นเกณฑ์ในการกาหนดโบนสั ใหพ้ นกั งาน และจ่ายเงินปันผลใหก้ บั ผถู้ ือหุน้ เป็นตน้  เจา้ หน้ี (Creditors) เจา้ หน้ีเป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวยี นที่สาคญั กลุ่มหน่ึงของกิจการ ทาให้ กิจการมีสินคา้ ไวข้ าย มีสินทรัพยไ์ วใ้ ชใ้ นการดาเนินงาน โดยยงั ไม่ตอ้ งชาระเงินทันทีที่ซ้ือ การท่ี เจา้ หน้ีจะใหก้ ิจการซ้ือของเป็นเงินเชื่อไดน้ ้นั กิจการจะตอ้ งสร้างความน่าเชื่อถอื ท้งั ในดา้ นการตรงต่อ เวลาในการชาระหน้ี และความมน่ั คงทางการเงินของกิจการ

17  นกั ลงทุน (Investors) อาจอยู่ในรูปของเจา้ หน้ีหรือเจา้ ของก็ได้ บุคคลเหล่าน้ีเป็ นแหล่ง เงินทุนสาคญั ของกิจการ โดยเฉพาะกิจการท่ีจดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์ การตดั สินใจลงทุนใน กิจการใดจะตอ้ งพิจารณาว่ากิจการน้ันๆ จะให้ผลตอบแทนไดม้ ากนอ้ ยเพียงใดและมีความมนั่ คง เพยี งใด  หน่วยงานของรัฐ (Government agencies) ทาหนา้ ที่ในการกากบั ดูแลธุรกิจให้ประกอบ กิจการอย่ใู นขอบเขตที่กาหนดไว้ เช่น กรมสรรพากร กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็ นตน้  ลกู คา้ (Customer) บุคคลกลมุ่ น้ีมคี วามสาคญั ต่อกิจการมาก เพราะเป็นกลุ่มท่ีทาให้กิจการ สามารถดารงอยู่ได้ โดยเฉพาะลูกคา้ ที่ส่ังซ้ือสินค้าเป็ นจานวนมาก ลูกค้าจะคดั เลือกผูข้ ายอย่าง ระมดั ระวงั เพราะหากผขู้ าย (Suppliers) เลิกดาเนินกิจการอย่างกะทนั หัน ยอ่ มจะส่งผลกระทบต่อ ธุรกิจของเขาดว้ ย ดงั น้นั ก่อนตดั สินใจเลือกผขู้ าย ลูกคา้ ควรจะพิจารณาฐานะการเงินของผขู้ ายดว้ ย เพ่อื ใหเ้ กิดความมนั่ ใจในการทาธุรกิจ  พนักงาน (Employee) บุคคลกลุ่มน้ีจะสนใจผลประกอบการของหน่วยงานตนเองมาก เพราะมีผลต่อค่าตอบแทนและความมน่ั คงในงานของตน  คู่แข่ง (Competitors) เนื่องจากธุรกิจมีการแข่งขนั กนั มาก การจะทาใหก้ ิจการอยู่รอดได้ น้นั จะตอ้ งคิดหากลยทุ ธท์ ่ีเหนือกวา่ คู่แข่งขนั ดงั น้นั “การรู้เขารู้เรา” จึงเป็นสิ่งสาคญั มาก  สาธารณชน (Public) เป็นกลุ่มคนที่สนใจผลการดาเนินงานและฐานะการเงินของกิจการ เช่น นกั ศกึ ษา นกั วิเคราะหเ์ ศรษฐกิจ นกั วชิ าการแขนงต่างๆ เป็นตน้ สถาบนั ท่เี ก่ียวข้องกับวชิ าชีพบัญชี 1. สภาวิชาชีพบญั ชี คือหน่วยงานที่รับผดิ ชอบในการร่างมาตรฐานการบญั ชีในปัจจุบนั จดั ต้งั ข้ึนเพื่อส่งเสริมและพฒั นาวิชาชีพบญั ชี มีอานาจหนา้ ท่ีในการส่งเสริมการศึกษา อบรมและการวิจยั เกี่ยวกบั วชิ าชีพบญั ชี กาหนดมาตรฐานท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั วชิ าชีพบญั ชี การข้ึนทะเบียนและออกใบอนุญาต ผปู้ ระกอบวิชาชีพบญั ชี ควบคุมความประพฤติและการดาเนินงานของสมาชิกผขู้ ้ึนทะเบียนประกอบ วชิ าชีพบญั ชี เป็นตน้

18 2. ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย (Stocks Exchange of Thailand : SET) ทาหน้าท่ีเป็ น แหลง่ กลางสาหรับการซ้ือขายหลกั ทรัพย์ จดทะเบียน หรือหลกั ทรัพยร์ ับอนุญาตของบริษทั ต่างๆ อีก ท้งั ยงั กาหนดวิธีปฏิบตั ิเกี่ยวกับมาตรฐานการจดั ทางบการเงินสาหรับบริษัทจดทะเบียนกับตลาด หลกั ทรัพยอ์ กี ดว้ ย 3. ธนาคารแห่งประเทศไทย มีหนา้ ท่ีควบคุมดูแลสถาบนั การเงินต่างๆ 4. กรมสรรพากร มหี นา้ ที่ออกระเบียบและจดั เกบ็ ภาษีของธุรกิจ 5. กรมบญั ชีกลาง ควบคุมดูแลการจดั ทาบญั ชีของหน่วยงานรัฐใหถ้ ูกตอ้ งตามขอ้ กาหนดของ ภาครัฐ

19 6. สถาบนั วิชาชีพต่างๆ ประเทศท่ีมีช่ือเสียง เช่น  AICPA : The American Institute of Certified Public Accountants เป็นสมาคม นกั บญั ชีรับอนุญาตจากอเมริกา  FASB : Financial Accounting Standards board เป็นคณะกรรมการมาตรฐานการ บญั ชีของอเมริกา เป็นตน้ หลักปฏบิ ัตพิ ื้นฐานในการทาบัญชี การศึกษาวิชาการบญั ชีโดยหลกั วิชาที่ถูกตอ้ งน้นั ผศู้ ึกษาควรอ่านบทเรียนแต่ละเร่ืองอยา่ ง นอ้ ย 2 รอบ เพ่ือใหท้ ราบเน้ือหาที่ตอ้ งเรียนโดยละเอียด และพิจารณาความสอดคลอ้ งกบั จุดประสงค์ การเรียนรู้ นอกจากน้ี การฝึ กทาแบบฝึ กทกั ษะหรือแบบฝึ กหดั อยู่เสมอ จะช่วยให้การปฏิบตั ิมีความ ถกู ตอ้ งและเป็นไปดว้ ยความรวดเร็ว และเพ่ือเป็นการป้องกนั ขอ้ ผดิ พลาดท่ีอาจเกิดข้ึนจากการทาบญั ชี ผทู้ าบญั ชีควรปฏบิ ตั ิดงั ต่อไปน้ี 1. ควรเขียนตวั หนงั สือและตวั เลขใหถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน อา่ นง่าย สะอาด เรียบร้อย ระมดั ระวงั ใน การเขียนตวั เลขผดิ พลาด เช่น เลข 589 เขียนเป็น 598 เป็นตน้

20 2. ตวั เลขทุกจานวนต้งั แต่ 3 หลกั ข้ึนไป ใหใ้ ส่เครื่องหมายจุลภาค (,) โดยนบั จากจุดทศนิยม ไปทางซา้ ยมือทุกๆ 3 ตวั เช่น 125,740.50 หรือ 4,650 เป็นตน้ 3. เขียนตวั เลขใหต้ รงหลกั กรณีที่มีตารางในช่องจานวนเงิน ให้เขียนหลกั หน่วยของจานวน บาทชิดเสน้ แบ่งช่องบาทและสตางค์ จานวนสตางคถ์ า้ ไม่มีใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย “-” หรือ 00 ก็ได้ แต่นิยม ใชเ้ ครื่องหมาย “-” มากกวา่ เช่น จานวนเงนิ บาท สต. 1, 5 4 0 7 5 5 8, 9 0 0 5 0 1 4 3, 2 5 0 - - 1, 2 2 6, 5 7 5 - - 4. ถา้ เขียนตัวเลขผิด อย่าลบ ให้ขีดเสน้ ฆ่าโดยใชไ้ มบ้ รรทดั วางทาบบนตวั เลขที่เขียนผิด แลว้ เขียนตวั เลขท่ีถูกเหนือตวั เลขเดิม และเซ็นชื่อผแู้ กไ้ ขกากบั ทุกคร้ัง 5. วธิ ีการเขียน วนั เดือน ปี ตามวธิ ีการบญั ชี ถา้ อยใู่ นหนา้ เดียวกนั ใหเ้ ขียน พ.ศ. ในช่อง พ.ศ. และเขียนชื่อเดือน ในช่องเดือนคร้ังเดียว โดยนิยมใชต้ วั ยอ่ เช่น ม.ค. ก.พ. เป็ นตน้ ส่วนวนั ท่ี ใหเ้ ขียน เรียงลาดบั รายการท่ีเกิดข้ึนก่อนหลงั ทุกคร้ัง เช่น พ.ศ. 2546 เดือน วนั ท่ี ม.ค. 2 3 7 ..............

21 แบบฝึ กทกั ษะที่ 1.1 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความท่ีกาหนดให้ แลว้ ทาเครื่องหมาย  หนา้ ขอ้ ท่ีถกู และทาเคร่ืองหมาย  หนา้ ขอ้ ที่ผดิ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 1. ธุรกิจ (Business) หมายถึง การดาเนินกิจกรรมท่ีเกี่ยวกบั การผลติ การจาหน่ายสินคา้ หรือการบริการบุคคลหรือคณะบุคคลหรือขององคก์ ารเพอ่ื หวงั ผลกาไรเพยี งอยา่ งเดียว 2. หนา้ ที่ของธุรกิจดา้ นการตลาดน้ีเนน้ กิจกรรมการสร้างความพงึ พอใจใหแ้ ก่ลกู คา้ 3. หา้ งหุน้ ส่วนสามญั เป็นหา้ งหุน้ ส่วนที่ผเู้ ป็นหุน้ ส่วนทุกคนจะรับผดิ ชอบในหน้ีสินของ หา้ งหุน้ ส่วนไมเ่ กินมลู ค่าของเงินลงทุนที่ยงั ส่งใชไ้ มค่ รบ 4. หา้ งหุน้ ส่วนจากดั ตอ้ งจดทะเบียนเป็ นนิติบุคคลเท่าน้นั 5. การทาบญั ชี เป็นเร่ืองที่เกี่ยวขอ้ งต้งั แต่การออกแบบระบบบญั ชี การวางระบบบญั ชี การบนั ทึกบญั ชี การรายงานทางบญั ชี การวเิ คราะห์ขอ้ มูลทางการบญั ชี และการตรวจสอบบญั ชี 6. บริษทั เอกชน จากดั เป็นบริษทั ที่ตอ้ งมีผเู้ ริ่มจดั ต้งั จานวนต้งั แต่ 15 คน ข้ึนไป 7. การประกอบธุรกิจจึงตอ้ งมงี านดา้ นการบญั ชีเกี่ยวขอ้ งดว้ ยเสมอ 8. ร้านขายยาเป็นการประกอบธุรกิจบริการ (Service Firm) 9. การบญั ชีเป็นศิลปะของการจดบนั ทึกรายการหรือเหตุการณ์ทุกอยา่ งจากการประกอบธุรกิจ 10. ขอ้ ดีของหา้ งหุน้ ส่วนคือจดั ต้งั ไดง้ ่าย มกี ฎระเบียบทางกฎหมายนอ้ ย มีตน้ ทุนต่า รักษาความลบั ไดด้ ี มีอิสระในการตดั สินใจ บริหารงานไดค้ ล่องตวั เจา้ ของไดร้ ับ ผลประโยชนอ์ ยา่ งเต็มท่ี

22 แบบฝึ กทกั ษะที่ 1.2 คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคาถามต่อไปน้ีใหถ้ ูกตอ้ ง (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 1. ธุรกิจ (Business) หมายถึง 2. ธุรกิจมหี นา้ ที่หลกั จานวนกี่ดา้ น อะไรบา้ ง 3. ลกั ษณะของการดาเนินธุรกิจสามารถจาแนกไดก้ ี่ประเภท อะไรบา้ ง 4. การจดั แบ่งธุรกิจตามรูปแบบการจดั ต้งั ธุรกิจ จาแนกไดเ้ ป็นกี่รูปแบบ อะไรบา้ ง 5. การบญั ชี หมายถงึ 6. การทาบญั ชีหมายถงึ 7. ข้นั ตอนของการบญั ชี แบ่งออกเป็นกข่ี ้นั ตอน อะไรบา้ ง

23 8. สารสนเทศทางการบญั ชีมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง 9. ใหน้ กั เรียนบอกสถาบนั ที่เกี่ยวขอ้ งกบั วิชาชีพบญั ชีในประเทศและต่างประเทศ มาอยา่ งนอ้ ย 5 สถาบนั 10. ใหน้ กั เรียนอธิบายหลกั การเขียน ตวั เลข ตวั หนงั สือ และวนั เดือนปี ในการลงบญั ชี เกณฑ์การให้คะแนนการตอบคาถามแบบฝึ กทักษะท่ี 1.2 ตอบคาถามไดใ้ จความสมบูรณ์ กระชบั ถกู ตอ้ ง ตรงประเดน็ ให้ 1 คะแนน ตอบคาถามไดใ้ จความถกู ตอ้ ง ไม่ครบถว้ น ไมก่ ระชบั ให้ 0.5 คะแนน ตอบคาถามไมไ่ ดใ้ จความ ไมถ่ ูกตอ้ ง ให้ 0 คะแนน

24 แบบทดสอบหลงั เรียน คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเลอื กคาตอบท่ีถูกที่สุด แลว้ ทาเครื่องหมาย  ลงในกระดาษคาตอบ (ขอ้ ละ 1 คะแนน) 1. ขอ้ ใดคือ “การบญั ชี” ก. Book keeping ข. Accounting ค. Book keeper ง. Account 2. หน่วยงานใดรับผดิ ชอบในการร่างมาตรฐานการบญั ชีในปัจจุบนั คือหน่วยงานใด ก. สภาวชิ าชีพบญั ชี ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ข. สมาคมนกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ค. กรมพฒั นาธุรกจิ การคา้ กระทรวงพาณิชย์ ง. ถกู ทุกขอ้ 3. ขอ้ ใดถอื เป็นการรวบรวมขอ้ มลู ก. การบนั ทึกรายการคา้ ในสมดุ รายวนั ข. การจดั หมวดหมู่บญั ชี ค. การเก็บหลกั ฐานการรับและจ่าย ง. การทางบการเงิน 4. การทาบญั ชี คือขอ้ ใด ก. Book keeping ข. Bookkeeper ค. Accounting ง. Report 5. กิจการรูปแบบใดที่ดาเนินงานโดยมจี านวนเงินทุนจากดั และขยายกิจการไดย้ าก ก. หา้ งหุน้ ส่วน ข. เจา้ ของคนเดียว ค. บริษทั จากดั ง. บริษทั มหาชนจากดั 6. ขอ้ มลู ทางการเงินมีประโยชน์ต่อบุคคลตามขอ้ ใดบา้ ง ก. ผลู้ งทุน ข. เจา้ หน้ี

25 ค. รัฐบาล ง. ถูกทุกขอ้ 7. ขอ้ ใดกลา่ วไมถ่ ูกตอ้ ง เกี่ยวกบั การลงบญั ชี ก. ควรเขียนตวั หนงั สือและตวั เลขใหถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน อา่ นง่าย สะอาด เรียบร้อย ข. ตวั เลขทกุ จานวนต้งั แต่ 3 หลกั ข้ึนไป ใหใ้ ส่เคร่ืองหมายจุลภาค (,) โดยนบั จากจุดทศนิยม ไปทางซา้ ยมือทุกๆ 3 ตวั ค. จานวนสตางคถ์ า้ ไม่มีใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย “-” หรือ 00 ก็ได้ แต่นิยมเขียน 00 มากกวา่ ง. ถา้ เขียนตวั เลขผดิ อยา่ ลบ ใหข้ ีดเสน้ ฆา่ โดยใชไ้ มบ้ รรทดั วางทาบบนตวั เลขท่ีผิด แลว้ เขียน ตวั เลขท่ีถกู เหนือตวั เลขเดิม และเซ็นช่ือผแู้ กไ้ ขกากบั ทุกคร้ัง 8. ขอ้ ใดหมายถงึ “Collecting” ก. การรวบรวมขอ้ มูล ข. การบนั ทึกขอ้ มูล ค. การจาแนกขอ้ มลู ง. การสรุปขอ้ มูล 9. ขอ้ ใดหมายถงึ “Recording” ก. การรวบรวมขอ้ มลู ข. การจาแนกขอ้ มลู ค. การจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ง. การสรุปขอ้ มูล 10. หน่วยงานใดท่ีทาหนา้ ที่ควบคุมดูแลการจดั ทาบญั ชีของหน่วยงานภาครัฐใหถ้ กู ตอ้ งตามขอ้ กาหนด ก. ข. ค. ง.

26 เอกสารอ้างองิ กชกร เฉลิมกาญจนา. (2544). การบญั ชีบริหาร. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . กิ่งกนก พทิ ยานุ, สุนทรี จรูญและรวีวลั ย์ ภิยโยพนากลุ . (2543). การบญั ชีต้นทุน. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์. กาญจนา ศรีพงษ.์ (2540). การบญั ชีบริหาร. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. จินดา ขนั ทอง. (2539). การบญั ชีเพือ่ การบริหาร. กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. ธนภร เอกเผา่ พนั ธุ.์ (2545). การบญั ชีต้นทุนเพ่ือการตดั สินใจ. กรุงเทพฯ : ฟิ สิกส์เซ็นเตอร์. นกั บญั ชีและผสู้ อบบญั ชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย,สมาคม. (2544). มาตรฐานการบญั ชขี องไทย ฉบบั รวมเล่ม พ.ศ.2544 เล่ม 1. กรุงเทพฯ : พี.เอ.ลฟี ว่ิง. พรชนก ทองลาด. (2542). การบัญชบี ริหาร. ลาปาง : สถาบนั ราชภฏั ลาปาง. เพชรี ขุมทรัพย.์ (2536). วเิ คราะห์งบการเงิน. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. เพญ็ แข สนิทวงศ์ ณ อยธุ ยา. (2537). การงบประมาณ. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . เยาวพา ณ นคร. (2545). การบัญชีต้นทุน 2. กรุงเทพฯ : ส. เอเซียเพรส (1989). วรี ี เวชวมิ ล. (2542). การวเิ คราะห์งบการเงนิ (พมิ พ์คร้ังท่ี 3). กรุงเทพฯ : ขุนนนทก์ ารพมิ พ.์ วนั ทนีย์ วงศย์ งั . (2545). การบญั ชีเพ่ือการจดั การ (พมิ พ์คร้งั ที่ 2). เชียงใหม:่ พลอยการพิมพ์ ศรีสุดา ธีระกาญจน.์ (2549). การบญั ชีเพื่อการจดั การ. กรุงเทพฯ : มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์. ศศวิ ิมล มีอาพล. (2545). การบญั ชีเพื่อการจดั การ (พมิ พ์คร้ังท่ี 5). กรุงเทพฯ : อนิ โฟไมนิ่ง. สมนึก เอ้อื จิระพงษพ์ นั ธ.์ (2538) การบญั ชีต้นทุน (พมิ พ์คร้ังท่ี 2). กรุงเทพฯ : สยามสเตชนั่ เนอร่ี ซพั พลายส์. ______ (2547). การบัญชีต้นทุน2 (พมิ พ์คร้ังที่ 3). กรุงเทพฯ : แมคกรอ-ฮิล อนิ เตอร์เนชน่ั แนล เอน็ เตอร์ไพรส์,องิ ค.์ สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ นั ธ์ และดวงมณี โกมารทตั . (2540). การบญั ชีต้นทุน2. กรุงเทพฯ : แมคกรอฮิล อนิ เตอร์เนชนั่ แนล เอน็ เตอร์ไพรส์, อิงค.์ สุปราณี ศกุ ระเศรณี, ศภุ สิน สุริยะ, อานาจ รัตนสุวรรณและอรรถพล ตริตานนท.์ (2546). การบัญชีบริหาร. กรุงเทพฯ : พมิ พพ์ รรณการพิมพ.์ สุพาดา สิริกุตตา. (2545). การบญั ชบี ริหาร. กรุงเทพฯ : ธนธชั การพมิ พ.์

27 ภาคผนวก

28 เฉลยแบบฝึ กทกั ษะที่ 1.1  1. ธุรกิจ (Business) หมายถึง การดาเนินกิจกรรมที่เก่ียวกบั การผลิต การจาหน่ายสินคา้ หรือการบริการบุคคลหรือคณะบคุ คลหรือขององคก์ ารเพือ่ หวงั ผลกาไรเพยี งอยา่ งเดียว  2. หนา้ ที่ของธุรกิจดา้ นการตลาดน้ีเนน้ กิจกรรมการสร้างความพึงพอใจใหแ้ ก่ลกู คา้  3. หา้ งหุน้ ส่วนสามญั เป็นหา้ งหุน้ ส่วนท่ีผเู้ ป็นหุน้ ส่วนทุกคนจะรับผดิ ชอบในหน้ีสินของ หา้ งหุน้ ส่วนไมเ่ กินมลู ค่าของเงินลงทุนท่ียงั ส่งใชไ้ ม่ครบ  4. หา้ งหุน้ ส่วนจากดั ตอ้ งจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลเท่าน้นั  5. การทาบญั ชี เป็นเรื่องท่ีเกี่ยวขอ้ งต้งั แต่การออกแบบระบบบญั ชี การวางระบบบญั ชี การบนั ทึกบญั ชี การรายงานทางบญั ชี การวิเคราะห์ขอ้ มูลทางการบญั ชี และการตรวจสอบบญั ชี  6. บริษทั เอกชน จากดั เป็นบริษทั ท่ีตอ้ งมีผเู้ ร่ิมจดั ต้งั จานวนต้งั แต่ 15 คน ข้ึนไป  7. การประกอบธุรกิจจึงตอ้ งมงี านดา้ นการบญั ชีเก่ียวขอ้ งดว้ ยเสมอ  8. ร้านขายยาเป็นการประกอบธุรกิจบริการ (Service Firm)  9. การบญั ชี เป็ นศิลปะของการจดบนั ทึกรายการหรือเหตุการณ์ทุกอยา่ งจากการประกอบ ธุรกิจ  10. ขอ้ ดีของหา้ งหุน้ ส่วนคือจดั ต้งั ไดง้ ่าย มกี ฎระเบียบทางกฎหมายนอ้ ย มตี น้ ทุนต่า รักษาความลบั ไดด้ ี มอี สิ ระในการตดั สินใจ บริหารงานไดค้ ลอ่ งตวั เจา้ ของไดร้ ับ ผลประโยชน์อยา่ งเตม็ ที่

29 เฉลยแบบฝึ กทกั ษะท่ี 1.2 1. ธุรกิจ (Business) หมายถงึ การดาเนินกิจกรรมที่เก่ียวกบั การผลิต การจาหน่ายสินคา้ หรือการ ใหบ้ ริการ เพือ่ หวงั ผลกาไรและยอมเส่ียงต่อการขาดทุนที่อาจเกิดข้ึนจากการประกอบการ 2. ธุรกิจมหี นา้ ท่ีหลกั จานวนก่ีดา้ น อะไรบา้ ง 2. หนา้ ที่ดา้ นทรัพยากรบุคคล ธุรกิจมีหนา้ ท่ีหลกั จานวน 5 ดา้ น ดงั น้ี 4. หนา้ ที่ดา้ นการเงิน 1. หนา้ ท่ีดา้ นการตลาด 3. หนา้ ท่ีดา้ นการผลิตและการดาเนินงาน 5. หนา้ ท่ีดา้ นระบบสารสนเทศทางการบญั ชี 3. ลกั ษณะของการดาเนินธุรกิจสามารถจาแนกไดก้ ่ีประเภท อะไรบา้ ง ลกั ษณะของการดาเนินธุรกิจสามารถจาแนกได้ 3 ประเภท ดงั น้ี 1. ธุรกิจบริการ (Service Firm) 2. ธุรกิจซ้ือมาขายไป (Merchandising Firm) 3. ธุรกิจผลติ สินคา้ (Manufacturing Firm) 4. การจดั แบ่งธุรกิจตามรูปแบบการจดั ต้งั ธุรกิจ จาแนกไดเ้ ป็นก่ีรูปแบบ อะไรบา้ ง การจดั แบ่งธุรกิจตามรูปแบบการจดั ต้งั ธุรกิจ จาแนกได้ 3 รูปแบบ ดงั น้ี 1. กิจการเจา้ ของคนเดียว (Single Proprietorship) 2. หา้ งหุน้ ส่วน (Partnership) แบ่งเป็น 2 ประเภท คือหา้ งหุน้ ส่วนสามญั และหา้ งหุน้ ส่วนจากดั 3. บริษทั จากดั (Company Limited or Corporation) มี 2 ประเภท คือ บริษทั เอกชน จากดั และ บริษทั มหาชน จากดั 5. การบญั ชี หมายถงึ การเกบ็ รวบรวม การจดบนั ทกึ การจาแนก และการสรุปผลรายการทางการเงินที่ เกิดข้ึนในรูปของจานวนเงิน รวมถงึ การวิเคราะห์และแปลความหมายผลสรุปน้นั ดว้ ย 6. การทาบญั ชีหมายถึงการจดบนั ทึกรายการลงในสมุดบญั ชี จาแนกรายการบญั ชีและสรุปรายการบญั ชี 7. ข้นั ตอนของการบญั ชี แบ่งออกเป็นก่ีข้นั ตอน อะไรบา้ ง การบญั ชี แบ่งออกเป็น 5 ข้นั ตอน ดงั น้ี 1. การเก็บรวบรวมขอ้ มลู (Collecting) 2. การจดบนั ทึก (Recording) 3. การจาแนก (Classifying) 4. การสรุปผล (Summarizing) 5. การวเิ คราะหแ์ ละแปลความหมาย (Analysis and Interpreting)

30 8. สารสนเทศทางการบญั ชีมีประโยชนอ์ ยา่ งไรบา้ ง 1. เป็ นหลกั ฐานอา้ งอิงในภายหลงั เน่ืองจากงานบญั ชีทาหนา้ ท่ีจดบันทึกและเหตุการณ์ทาง ธุรกิจของกิจการ การจดบนั ทึกแต่ละคร้ังตอ้ งมกี ารตรวจสอบหลกั ฐานเอกสารใหค้ รบถว้ นก่อนทุกคร้ัง 2. ทาใหท้ ราบผลการดาเนินงานและฐานะการเงิน รายงานที่นกั บญั ชีจดั ทาและนาเสนอน้นั ทาใหส้ ามารถมองเห็นภาพรวมทางการเงินท้งั หมดของกิจการได้ 3. เป็นสารสนเทศที่ใชใ้ นการบริหารงาน ผบู้ ริหารสามารถใชส้ ารสนเทศทางการบญั ชี เพอ่ื ประกอบในการวางแผน การตดั สินใจ และการติดตามประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานได้ 4. สามารถตรวจสอบและป้องกนั ขอ้ ผดิ พลาด การจดบนั ทกึ และตรวจสอบเอกสารทุกคร้ัง จะทาใหล้ ดความผดิ พลาด และตรวจสอบพบส่ิงผดิ ปกติที่เกิดไดม้ ากข้ึน 5. ใชป้ ระกอบการจดั หาเงิน การขอสินเช่ือจากสถาบนั การเงิน หรือการเพมิ่ ทุน ผลู้ งทุน จะพิจารณาขอ้ มลู ทางการเงินของกจิ การเพอื่ ประเมนิ ความเส่ียงและผลตอบแทนท่ีจะไดร้ ับ 6. เป็นหลกั ฐานในการคานวณภาษี ขอ้ มูลบญั ชีท่ีดีจะทาใหก้ ิจการเสียภาษีไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ครบถว้ นไมม่ ีปัญหากบั สรรพากรในภายหลงั 9. ใหบ้ อกสถาบนั ที่เก่ียวขอ้ งกบั วชิ าชีพบญั ชีในประเทศและต่างประเทศ มาอยา่ งนอ้ ย 5 สถาบนั 1. สภาวิชาชีพบญั ชี 2. ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย 3. ธนาคารแห่งประเทศไทย 4. กรมสรรพากร 5. กรมบญั ชกี ลาง 6. AICPA : The American Institute of Certified Public Accountants 7. FASB : Financial Accounting Standards board 10. ใหน้ กั เรียนอธิบายหลกั การเขียน ตวั เลข ตวั หนงั สือ และวนั เดือนปี ในการลงบญั ชี 1. ควรเขียนตวั หนงั สือและตวั เลขใหถ้ กู ตอ้ ง ชดั เจน อ่านง่าย สะอาด เรียบร้อย ระมดั ระวงั ใน การเขียนตวั เลขผดิ พลาด 2. ตวั เลขทุกจานวนต้งั แต่ 3 หลกั ข้ึนไป ใหใ้ ส่เคร่ืองหมายจุลภาค (,) โดยนบั จากจุดทศนิยมไป ทางซา้ ยมอื ทุกๆ 3 ตวั 3. เขียนตวั เลขให้ตรงหลกั กรณีท่ีมีตารางในช่องจานวนเงิน ให้เขียนหลกั หน่วยของจานวน บาทชิดเสน้ แบ่งช่องบาทและสตางค์ จานวนสตางคถ์ า้ ไมม่ ีใหใ้ ส่เครื่องหมาย “-” หรือ 00 ก็ได้ แต่นิยม ใชเ้ คร่ืองหมาย “-” มากกว่า 4. ถา้ เขียนตวั เลขผดิ อยา่ ลบ ให้ขีดเสน้ ฆ่าโดยใชไ้ มบ้ รรทดั วางทาบบนตวั เลขท่ีผิด แลว้ เขียน ตวั เลขที่ถกู เหนือตวั เลขเดิม และเซน็ ชื่อผแู้ กไ้ ขกากบั ทุกคร้ัง

31 5. วธิ ีการเขียน วนั เดือน ปี ตามวิธีการบญั ชี ถา้ อยใู่ นหนา้ เดียวกนั ใหเ้ ขียน พ.ศ. ในช่อง พ.ศ. และเขียนชื่อเดือน ในช่องเดือน คร้ังเดียว สาหรับเดือน นิยมใชต้ วั ยอ่ เช่น ม.ค. ก.พ. เป็นตน้ ส่วนวนั ท่ี ใหเ้ ขียนเรียงลาดบั รายการท่ีเกิดข้ึนก่อนหลงั เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน 1. ข 2. ก 3. ค 4. ก 5. ข 6. ง 7. ค 8. ก 9. ค 10. ง

32 แบบประเมินผลงาน แบบฝึ กทกั ษะชุดที่ 1 เร่ือง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกจิ และการบัญชี คาชีแ้ จง 1. ใหน้ กั เรียนใส่คะแนนที่ไดใ้ นช่องเกณฑก์ ารประเมนิ ในแต่ละขอ้ 2. ใหน้ กั เรียนรวมคะแนนที่ไดจ้ ากเกณฑก์ ารประเมิน แบบฝึ กทกั ษะ ปรับปรุง พอใช้ ดี ดีมาก 0-5 6-10 11-15 16-20 1.1(10 คะแนน) 1.2(10 คะแนน) รวม 20 คะแนน รวมคะแนนที่ได.้ ..............................คะแนน สรุปผลการประเมิน ใหใ้ ส่เคร่ืองหมาย  หนา้ คะแนนที่ได้  0-5 คะแนน ปรับปรุง  6-10 คะแนน พอใช้  11-15 คะแนน ดี  16-20 ดีมาก


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook