Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สุขศึกษา ม.3 เรื่องช่วงชีวิต

สุขศึกษา ม.3 เรื่องช่วงชีวิต

Published by theamjun2554, 2020-06-15 01:55:34

Description: สุขศึกษา ม.3

Search

Read the Text Version



ก คำนำ E-book เร่ือง ช่วงชีวติ เล่มนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ ำสุขศึกษำ ม.3 สร้ำงขนึ้ เพ่ือให้นักเรียนศึกษำ ค้นคว้ำหำควำมรู้ และได้ศึกษำอย่ำงเข้ำใจเพ่ือเป็ นประโยชน์กับกำรเรียน ผู้จัดทำหวังว่ำ รำยงำนเล่มนี้จะเป็ นประโยชน์กับผู้อ่ำน หรือนักเรียน นักศึกษำ ท่ีกำลังหำ ข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หำกมขี ้อแนะนำหรือข้อผิดพลำดประกำรใด ผู้จดั ทำขอน้อมรับไว้และขออภัยมำ ณ ท่ีนี้ ด้วย เทียมจนั ทร์ เทศบตุ ร ผู้จัดทำ

สำรบญั ข คำนำ หน้ำ สำรบญั เร่ืองช่วงชีวติ 1 2 วยั ทำรก 3 วยั ก่อนเรียน 4 วยั เรียน 7 วยั รุ่น 8 วยั ผ้ใู หญ่ 13 วยั ผู้สูงอำยุ อ้ำงองิ

-1- ช่วงชีวติ วยั ทำรก -กำรเปลย่ี นแปลงทำงด้ำนร่ำงกำย วยั ทารกเป็ นวยั ท่ีมีการเจริญเติบโตทางร่างกายอยา่ งรวดเร็วมากกวา่ วยั อ่ืนๆของชีวิต อวยั วะที่สาคญั ท่ีสุดคือ “สมอง” ถา้ การเจริญเติบโตหยดุ ชะงกั สมองก็จะไม่ดีดว้ ย และเป็ นการยากที่จะแกไ้ ขใหป้ กติ วยั ทารกเป็ นวยั ท่ีมีการติดเช้ือโรคง่าย เพราะระบบภูมิคุม้ กนั โรคยงั ไม่สมบูรณ์ พฒั นาการของทารกแต่ละคนไม่ เทา่ กนั ข้ึนอยกู่ บั การเจริญเตบิ โตของสมองและระบบประสาทซ่ึงเป็ นผลมาจากพนั ธุกรรมและสิ่งแวดลอ้ ม -กำรเปลยี่ นแปลงทำงด้ำนอำรมณ์และจิตใจ ทารกทไี่ ดร้ บั การเล้ียงดูโอบอุม้ เอาใจใส่ ไดร้ ับการตอบสนองท่ีเหมาะสมจะทาให้เป็ นเดก็ ทมี่ ีอารมณ์ ดี เป็ นมิตร ในทางตรงกนั ขา้ ม ถา้ ทารกถูกทอดท้ิงจะมีลกั ษณะท่ีเงียบเหงา เฉยเมย ไม่สนใจใคร ฉะน้นั การ เสริมสร้างพฒั นาการดา้ นอารมณ์และจิตใจของเด็ก ควรให้มีการสมั ผสั โอบอุม้ พูดคุยดว้ ยท่าทีที่เป็ นมิตร ร้องเพลงใหฟ้ ัง เป็นตน้ -กำรเปลีย่ นแปลงทำงด้ำนสังคม เดก็ ในวยั น้ีถา้ ไดร้ ับความรัก ความอบอุ่น การเล้ียงดูเอาใจใส่ท่ีดี จะทาใหเ้ ด็กรู้สึกไวว้ างใจตอ่ คนรอบ ขา้ ง มีทศั นคติทีด่ ี ทาใหเ้ ด็กอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นในสงั คมไดด้ ี วยั ทารกเป็ นวยั เร่ิมตน้ ของพฒั นาการทางสงั คมของ มนุษย์ ถา้ เดก็ ไดร้ บั การเล้ียงดูทด่ี ีจะทาใหเ้ ขาเป็นสมาชิกทดี่ ีของสงั คมต่อไป

-2- -กำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนสติปัญญำ เด็กวยั ทารกเริ่มเรียนรู้และสร้างความสัมพนั ธ์จากส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั ไดจ้ ากการใชอ้ วยั วะสมั ผสั ต่างๆ โดยทารกจะมีพฤติกรรมซ้าๆ ในระยะแรกและมีการลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จนทาให้เด็กเกิดการ เรียนรูแ้ ละสามารถแกป้ ัญหาต่างๆได้ ท้งั น้ีพฒั นาการทางดา้ นสติปัญญาของวยั ทารกจะมีพน้ื ฐานเป็ นอยา่ งไร น้ัน ข้ึนอยูก่ บั พ่อแม่ ผูใ้ กล้ชิด ท่ีจะส่งเสริมให้เด็กไดม้ ีโอกาสแสดงพฤติกรรมต่างๆ ท่ีตอบสนองความ ตอ้ งการในทางสรา้ งสรรค์ วยั ก่อนเรียน -กำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำนร่ำงกำย เด็กวยั ก่อนเรียนเป็ นวยั ทม่ี ีความตอ้ งการอะไรหลายๆอยา่ ง ตอ้ งการความเป็ นอิสระ อยากรูอ้ ยากเห็น ช่างสงสยั ช่างจนิ ตนาการ ทาใหเ้ ด็กแสดงออกโอยการซกั ถาม ผใู้ หญค่ วรใหค้ วามสนใจและอธิบายดว้ ย ภาษางา่ ยๆ ซ่ึงจะส่งผลต่อพฒั นาการดา้ นความคดิ และการกลา้ แสดงออกในวยั ต่อไป ตอ้ งการความเป็ นตวั ของตวั เอง สรา้ งเสริมประสบการณ์ชีวติ วยั น้ีเริ่มมีทกั ษะในการเคล่ือนไหว รูจ้ กั ควบคุมอวยั วะต่างๆ ไดด้ ีข้ึน ถึงแมจ้ ะไม่คอ่ ยคล่องตวั ในระยะแรก แต่เม่ือทาบอ่ ยๆ ก็จะเกิด ความชานาญ -กำรเปล่ยี นแปลงทำงด้ำนอำรมณ์และจิตใจ เด็กวยั น้ีมกั แสดงอารมณ์อยา่ งเปิ ดเผย ไม่ปิ ดบงั แปรปรวนงา่ ย หงดุ หงดิ โกรธงา่ ยหายเร็ว กลวั ในส่ิงที่ ไม่มีเหตผู ล อิจฉาเมื่อรู้สึกวา่ ถูกแยง่ ความรักไป มีความสงสยั อยากรู้อยากเห็น -กำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนสังคม เด็กวยั น้ีเริ่มออกจากสงั คมบา้ นเขา้ สู่สงั คมโรงเรียน เร่ิมรู้จกั เล่นและคบเพอ่ื น เรียนรู้ท่จี ะปรับตวั เดก็ วยั น้ีใหค้ ามสาคญั ทีจ่ ะปฏบิ ตั ติ ามระเบียบ และกตกิ าของโรงเรียน ดงั น้นั พฒั นาการทางสงั คมของเดก็ วยั น้ี พอ่ แม่ ครู อาจารย์ และเพอื่ นวยั เดียวกนั จะมีบทบาทในการวางพ้นื ฐานพฒั นาการทางสงั คมข้นั ตอ่ ไป

-3- -กำรเปลย่ี นแปลงทำงด้ำนสติปญั ญำ เดก็ วยั น้ีมีความอยากรู้อยากเห็น ช่างสงสยั จึงทาให้เด็กแสดงออกโดยการซกั ถาม ผใู้ หญค่ วรใหค้ วาม สนใจและตอบคาถาม โดยอธิบายดว้ ยภาษาง่ายๆ ใหเ้ ดก็ เขา้ ใจ ไม่ควรแสดงอาการราคาญ ดุด่า วา่ กล่าว หรือไม่พอใจ เพราะอาจจะส่งผลตอ่ พฒั นาการดา้ นความคดิ และความกลา้ แสดงออกของเด็กในวยั ตอ่ ไป วยั เรียน เดก็ อายปุ ระมาณ 6-10 ปี เป็ นช่วงที่มีความสาคญั ต่อการเริ่มตน้ ชีวติ ใหม่ของเด็ เพราะเป็ นระยะท่เี ดก็ จะเขา้ โรงเรียน วยั น้ีเด็กมีการเปลี่ยนแปลงทกุ ๆดา้ น -กำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนร่ำงกำย อตั ราการเจริญเติบโตจะชา้ ลงเล็กนอ้ ยแต่ยงั เป็ นไปอยา่ งสม่าเสมอ ร่างกายจะขยายทางส่วนสูงมากกวา่ ส่วนกวา้ ง รูปร่างเปลี่ยนเขา้ สู่ลกั ษณะผใู้ หญ่ อวยั วะภายในระบบไหลเวยี นเลือดเจริญเติบโตเกือบเตม็ ท่ี เริ่มมี ฟันแทข้ ้นึ วยั น้ีมีพลงั งานมากจึงไม่ชอบอยนู่ ่ิง ชอบทากิจกรรมหลายๆอยา่ ง -กำรเปล่ยี นแปลงทำงด้ำนอำรมณ์และจิตใจ เด็กมีการเปล่ียนแปลงทางอารมณ์ไปในทางที่ดีข้ึน รูจ้ กั วธิ ีระงบั ความโกรธ เลิกกลวั ส่ิงทไี่ ม่มีตวั ตน เป็นมากลวั ส่ิงที่จะเกิดข้นึ จริง เช่น กลวั ไม่มีเพอ่ื น กลวั เรียนไม่ดี อารมณ์ไม่แน่นอน หงดุ หงดิ ไม่เช่ือฟัง ผใู้ หญ่ เร่ิมรูจ้ กั ป้องกนั ตนเอง เช่น เมื่อถูกถามมกั ตอบวา่ ไม่ทราบ ไม่พยายามตอบ มีความอยากรูอ้ ยากเห็น รูส้ ึกวา่ ตนเป็ นผใู้ หญ่ รกั พอ่ แม่และสมาชิกในครอบครัว

-4- -กำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนสังคม เดก็ มีสงั คมกวา้ งข้ึนเพราะรู้จกั บุคคลนอกครอบครัว เดก็ จะปรบั ตวั เขา้ กบั บคุ คลอื่นๆ ไดด้ หี รือไม่ ข้นึ อยกู่ บั การอบรมของครอบครวั กลมุ่ เพอื่ นมีอิทธิพลมากข้ึน -กำรเปล่ียนแปลงทำงด้ำนสตปิ ญั ญำ เด็กวยั น้ีมีการรับรู้ มองเห็นความแตกต่างของส่ิงของ มีความคดิ สร้างสรรค์ ชอบแกป้ ัญหาเอง สนใจ ธรรมชาติรอบตวั มีความสนใจระยะส้นั ใชภ้ าษาแสดงความรู้สึกไดด้ ีข้นึ มีความรบั ผดิ ชอบ ช่างสงั เกต พยายามทาส่ิงทตี่ ้งั ใจใหส้ าเร็จ มีความคิดสร้างสรรค์ สนใจส่ิงแปลกๆ ใหม่ๆ วยั รุ่น วยั น้ีจึงครอบคลุมอายโุ ดยประมาณ คอื เดก็ หญงิ ระหวา่ งอายุ 10 – 20 ปี และเด็กชายระหวา่ งอายุ 12 – 22 ปี เนื่องจากช่วงวยั ดงั กล่าวค่อนขา้ งยาว ทางการแพทยแ์ ละจติ วทิ ยาพฒั นาการจงึ แบง่ ช่วงดงั กล่าว ออกเป็น 2 – 3 ระยะ (แลว้ แต่หลกั เกณฑข์ องผเู้ ชี่ยวชาญ) เนื่องจากระยะตน้ กบั ระยะปลายของวยั เด็กจะมี การเจริญเติบโต ท้งั กายและจิตใจ อารมณ์ แตกตา่ งกนั มาก ในทนี่ ้ีจะแบง่ เป็ น 3 ระยะ คือ วัยรุ่นตอนต้น เดก็ ผหู้ ญงิ อยใู่ นช่วงอายุ 10 – 14 ปี เด็กผชู้ ายอยใู่ นช่วงอายุ 12 –16 ปี ในระยะน้ีมีการเปล่ียนแปลง คอื มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายอยา่ งรวดเร็ว เช่น เด็กหญงิ จะมีเตา้ นมใหญ่ข้ึน มีประจาเดือนมีการสร้าง ฮอร์โมนอีสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน มีขนตามรกั แร้และอวยั วะเพศภายนอกมีรูปร่างสูงใหญ่ คอ่ นขา้ งหลงตวั เอง (Narcissistic phase) มีความเพอ้ ฝัน (Magical Thinking)

-5- มีความเป็นอิสระ (Emancipation) แต่ยงั ตอ้ งพ่งึ พาพอ่ แม่ ยงั สนใจเพศเดียวกนั วยั รุ่นตอนกลำง เดก็ ผูห้ ญิงอยใู่ นช่วง 14 –18 ปี เดก็ ผชู้ ายในช่วงอายุ 16 – 20 ปี ในระยะน้ีมีการเปล่ียนแปลงที่สาคญั คอื เป็นระยะที่ด้ือร้นั โมโหง่าย มกั จะมีความขดั แยง้ กบั พอ่ แม่สูง เพอื่ นมีอิทธิพลสูง เร่ิมสนใจเพศตรงขา้ ม การเปล่ียนแปลงทางร่างกายเริ่มสมบูรณ์เตม็ ท่ี เป็นระยะท่ีเร่ิมทดลองเกี่ยวกบั เพศ ซ่ึงถา้ ขาดความรู้และการป้องกนั จะก่อใหเ้ กิดปัญหาต้งั ครรภท์ ไี่ ม่พงึ ปรารถนา หรือโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ รวมท้งั โรคเอดส์ ยงั คงมีความคิดเพอ้ ฝัน วยั รุ่นระยะน้ีจึงมีปัญหา มากและบ่อยที่สุด วัยรุ่นตอนปลำย เดก็ หญงิ อยใู่ นช่วงอายรุ ะหวา่ ง 18 – 20 ปี เด็กผูช้ ายอยใู่ นช่วง 20 – 22 ปี เป็ นระยะทีเ่ จริญเติบโตเขา้ สู่วยั ผใู้ หญเ่ ตม็ ที่ ดงั น้นั ระยะน้ีจึงมีลกั ษณะ รู้จกั บทบาทของเพศเองเตม็ ท่ี มีความเป็ นอิสระเตม็ ทีใ่ นการดารงชีวติ และการประกอบอาชีพ คอ่ นขา้ ง ยอมรบั การใหค้ าแนะนาไดง้ า่ ยกวา่ วยั ตน้ ๆใหค้ วามสนใจต่อคาแนะนาต่างๆ รวมท้งั เร่ืองการป้องกนั ปัญหา การมีเพศสมั พนั ธท์ ไ่ี ม่เหมาะสม เม่ือยา่ งเขา้ สู่วยั รุ่น จะมีการเปลี่ยนแปลงท้งั ดา้ น ร่างกาย ดา้ นจติ ใจหรือ อารมณ์ ดา้ นสงั คม และดา้ นสติปัญญา ซ่ึงพอจะกล่าวได้ ดงั น้ี

-6- -กำรเปลีย่ นแปลงด้ำนร่ำงกำย ในช่วงวยั รุ่นเด็กหญิง เดก็ ชาย จะเกิดการเปล่ียนแปลง ดา้ นร่างกายท้งั รูปร่าง เสียง ความสูง และน้าหนกั กล่าวคอื ท้งั สองเพศจะมีความสูงและน้าหนกั เพม่ิ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว อยา่ งเห็นไดช้ ดั เดก็ หญิงจะเริ่มมี ประจาเดือน สะโพกขยายออก เอวคอด หนา้ อกโตข้ึน เสียงหวานแหลม มีขนข้ึนท่อี วยั วะเพศ ส่วนเดก็ ชายจะเริ่มมีน้าอสุจิ มีการสาเร็จความใคร่ดว้ ยตนเอง มีหนวดเครา มีขนข้ึนท่อี วยั วะเพศ รักแร้ เสียง แตกพร่า กลา้ มเน้ือแขง็ แรง หนา้ อกและไหล่กวา้ งข้นึ วยั รุ่นชาย จะตวั สูงข้นึ และน้าหนกั เพมิ่ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว กลา้ มเน้ือแขง็ แรง หนา้ อกและไหล่กวา้ งข้นึ มีหนวดเครา มีขนข้ึนท่ีอวยั วะเพศและรักแร้ วยั รุ่นหญงิ จะตวั สูงข้นึ และ น้าหนกั เพมิ่ ข้ึนอยา่ งรวดเร็ว สะโพกขยาย เอวคอด และ หนา้ อกโตข้ึน -กำรเปล่ยี นแปลงด้ำนจิตใจและอำรมณ์ จากการเปล่ียนดา้ นร่างกายทเ่ี กิดข้นึ อยา่ งรวดเร็ว ทาใหว้ ยั รุ่นเกิดความรูส้ ึกวติ กกงั วล ในรูปร่างหนา้ ตาของ ตน และยง่ิ เกิดปัญหาสิวหนุ่มสิวสาว ความวติ กกงั วลกจ็ ะยงิ่ มีมากข้นึ พอ่ แม่ ผปู้ กครองควรใหค้ าแนะนา เก่ียวกบั วธิ ีการดูแลรกั ษา ความสะอาดใบหนา้ สาหรบั ลูกสาววยั รุ่น แม่ควรแนะนา วธิ ีดูแลรักษาความ สะอาดในช่วงของการมีประจาเดือนดว้ ย ลกั ษณะทางอารมณ์ทีส่ าคญั อกี อยา่ งหน่ึงของวยั รุ่น คือ การมี อารมณ์ที่เรียกวา่ พายบุ ุแคม คือ มีความรุนแรงแต่ อ่อนไหวไม่มน่ั คง ถา้ ตอ้ งการจะทาอะไรกต็ อ้ งทาใหไ้ ด้ ถา้ ถูกขดั ขวางจะตอบโตอ้ ยา่ งรุนแรง แต่ความตอ้ งการน้นั จะเปลี่ยนแปลงไดง้ ่าย หนั เหไปสู่ความตอ้ งการ ความสนใจ ใหม่ ๆ อยเู่ สมอ พอ่ แม่ตอ้ งรูเ้ ท่าทนั อารมณ์ของวยั รุ่น รูจ้ กั โอนอ่อนผอ่ นตามอยา่ งเหมาะสม เมื่อเห็นน้าเชี่ยวกอ็ ยา่ เอาเรือ ไปขวาง แต่จงใชค้ วามเขา้ ใจ ความเห็นอกเห็นใจ เป็ นเครื่องค้าจนุ ใหว้ ยั รุ่น สามารถผา่ น พน้ อนั ตราย อนั เกิดจากลกั ษณะทางอารมณ์ ของวยั น้ีไปไดอ้ ยา่ งปลอดภยั กำรเพ่ิมควำมต้องกำรทำงเพศ การเพม่ิ ความตอ้ งการทางเพศ ทาใหว้ ยั รุ่นเกิดความ สนใจในเพอ่ื นตา่ งเพศ ตอ้ งการใหต้ นเป็ นท่ีรู้จกั เป็ นที่ สนใจ ของต่างเพศ ตอ้ งการความรู้เพศศึกษา และการแนะนาในการเตรียม ตวั เขา้ สงั คมวยั รุ่นชายและหญิง -การเปลี่ยนแปลงทางสตปิ ัญญา ความเปลี่ยนแปลงทางสตปิ ัญญาของวยั รุ่น จะพฒั นาข้นึ อยา่ งรวดเร็วเช่นเดียวกบั ดา้ นร่างกาย ขนาดของ มนั สมองจะ ขยายออกมากข้นึ วยั รุ่นจึงเป็นผูช้ อบคดิ อยากรูอ้ ยากเห็น ช่างซกั ถาม ใชเ้ หตุผล และแสดง ความคดิ เห็นวพิ ากษว์ จิ ารณ์ตา่ ง ๆ วยั รุ่นจะชอบ แกป้ ัญหา และตดั สินใจทาสิ่งต่าง ๆ ดว้ ยตนเอง มีความ รบั ผดิ ชอบ บดิ ามารดาตอ้ งใหก้ ารสนบั สนุน ปล่อยใหล้ ูกไดใ้ ชค้ วามคิดเป็ นของตนเอง และความคิด สร้างสรรคก์ จ็ ะสูงข้นึ ได้

-7- วยั ผู้ใหญ่ -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกาย บุคคลในวยั ผใู้ หญ่ตอนตน้ มีการพฒั นาทางร่างกายอยา่ งเตม็ ท่ที ้งั เพศหญิงและเพศชาย ร่างกายสมบรู ณ์ มีการ พฒั นาความสูงมาจากวยั รุ่นและจะมคี วามสูงทสี่ ุดในวยั ผูใ้ หญ่ตอนตน้ น้ี รวมท้งั กลา้ มเน้ือและเน้ือเยอื่ ไขมนั มีการพฒั นาอยา่ งเตม็ ที่เช่นกนั ในวยั น้ีร่างกายจะมีพลงั คล่องแคล่ววอ่ งไว การรบั รู้ตา่ ง ๆ จะมีความสมบูรณ์ เตม็ ท่ี จนกระทงั่ เขา้ สู่วยั กลางคนความสามารถตา่ ง ๆ เหล่าน้ีจะลดลง -กำรเปลีย่ นแปลงทำงด้ำนอำรมณ์ วยั ผใู้ หญจ่ ะมีการควบคุมอารมณ์ไดด้ ีข้นึ มคี วามมน่ั คงทางจิตใจดีกวา่ วยั รุ่น คานึงถึงความรูส้ ึกของผอู้ ื่น รูส้ ึกยอมรบั ผอู้ ่ืนไดด้ ีข้ึน มีพฒั นาการดา้ นอารมณ์รกั ไดใ้ นหลายรูปแบบ การเกบ็ กด (Impulsiveness) นอ้ ยลง แตจ่ ะใชก้ ารตอบสนองดว้ ยเหตุผลท้งั กบั ตนเองและผอู้ ่ืนมากข้ึน -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นสงั คม วยั น้ีจะใหค้ วามสาคญั กบั กลุม่ เพอื่ นร่วมวยั ลดลง จานวนสมาชิกในกลุ่มเพอ่ื นจะลดลง แต่สมั พนั ธภาพใน เพอื่ นที่ใกลช้ ิดหรือเพอื่ นรักยงั คงอยแู่ ละจะมีความผกู พนั กนั มากกวา่ ความผกู พนั ในลกั ษณะของคูร่ กั และ

-8- พบวา่ มกั เป็ นในเพอื่ นเพศเดียวกนั (Papalia and Olds, 1995) การสมั พนั ธก์ บั บคุ คลในครอบครัวจะเพม่ิ ข้นึ เน่ืองจากเป็นวยั ทเี่ ริ่มใชช้ ีวติ ครอบครัวกบั คูข่ องตนเอง และเกิดการปรบั ตวั กบั บทบาทใหม -กำรเปลย่ี นแปลงทำงสติปัญญำ วยั ผูใ้ หญ่มีพฒั นาการทางความคดิ สตปิ ัญญาอยใู่ นระดบั Formal operations ซ่ึงเป็ นข้นั สูงท่ีสุดของ พฒั นาการ มีความสามารถทางสติปัญญาสมบรู ณ์ท่ีสุดคือคุณภาพของความคดิ จะเป็นระบบ ผใู้ หญจ่ ะมีความคิดเปิ ดกวา้ ง ยดื หยนุ่ มากข้ึน และรูจ้ กั จดจาประสบการณ์ทีไ่ ดเ้ รียนรู้ ทาใหส้ ามารถปรับตวั เขา้ กบั สถานการณ์ตา่ งๆ ไดด้ ี วยั สูงอำยุ -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกาย การเปล่ียนแปลงทางดา้ นร่างกายโดยทว่ั ไปของวยั น้ีจะเป็ นไปในทิศทางของความเส่ือม อยา่ งไรกต็ ามจะมี ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คลเป็ นอยา่ งมากในสภาพในสภาพของความเส่ือมแมแ้ ต่ในคนเดียวกนั กย็ งั มีความ แตกต่างในอตั ราของความเส่ือมของอวยั วะตา่ ง ๆ ด้งั น้ี 1.1 โฉมภายนอก มีการเปลี่ยนแปลงตามวยั เช่น ผวิ หนงั เห่ียวยน่ มีจดุ ตกกระเพมิ่ ข้นึ ผมจะบางและจะ เปลี่ยนเป็นสีเทาหรือสีขาว หลงั โกง การเคล่ือนไหวเชื่องชา้ พละกาลงั นอ้ ยลง

-9- 1.2 อวยั วะเกี่ยวกบั การรบั ความรู้สึก ดูเหมือนหนา้ ทีไ่ ดร้ บั ความรูส้ ึกจะเป็ นอวยั วะหน่ึงทีเ่ ส่ือมเป็ นอนั ดบั แรกในระยะเร่ิมชรา ผนงั เสน้ โลหิตแดงในหูจะแขง็ ตวั ทาใหไ้ ดย้ นิ เสียงไม่ชดั เจน เสียงท่มี กั ไม่ไดย้ นิ ก่อนคือ เสียงแหลมหรือเสียงท่มี ีความถ่ีสูง 1.3 เสียง การเปลี่ยนแปลงของเสียงมีสาเหตุหน่ึงมาจากการแขง็ ตวั และการขาดความยดื หยนุ่ ของกระดูกออ่ น บริเวณกล่องเสียงทาใหม้ ีน้าเสียงสูงแต่ไม่มีพลงั และเปลี่ยนแปลงไดน้ อ้ ย 1.4 ฟัน ฟันธรรมชาติในผสู้ ูงอายจุ ะเปล่ียนไป โดยเฉพาะส่วนมากมกั จะมีเหงอื กร่น รากฟันโพล่พน้ ขอบ เหงอื ก ซ่ึงอาจทาใหม้ ีอาการเสียวหรือผไุ ดง้ ่า 1.5 ภาวะสมดุลร่างกาย (homeostasis) โดยปกตริ ่างกายของมนุษยจ์ ะพยายามปรบั อุณหภมู ิและสภาพทาง ชีวเคมีใหเ้ กิดความสมดุลตลอดเวลา 1.6 ระบบประสาท เซลลป์ ระสาทจะมีอายไุ ดน้ าน แต่เมื่อมีอาการเสื่อมสลายแลว้ จะไม่มีการแทนทีใหม่ อตั ราการเส่ือมสลายหรือการตายของเซลลป์ ระสาทโดยเฉลี่ยมีประมาณ 1 ตอ่ ปี หลงั อายุ 50 ปี ไปแลว้ 1.7 กระดูกกระดูกในผสู้ ูงอายแุ ละผกุ ร่อน เป็นผลใหก้ ระดูกหกั ไดง้ ่าย 1.8 กลา้ มเน้ือ กลา้ มเน้ือจะเล็กและลีบลง จะมไี ขมนั เขา้ ไปแทรกในกลา้ มเน้ือ 1.9 ระบบทางเดินอาหาร อาหารที่ทานเขา้ ไปจะยอ่ ยและดูดซึมไดช้ า้ ลง 1.10 ระบบการไหลเวยี นโลหิต ผนงั เสน้ โลหิตแดงแขง็ และขาดความยดื หยนุ่ -การเปล่ียนแปลงทางดา้ นอารมณ์ โดยธรรมชาติแลว้ วยั สูงอายเุ ป็นวยั ท่มี ีความสงบเยอื กเยน็ หมดความกระตอื รือรน้ ในชีวติ เป็นวยั ท่ีตอ้ งการ ความสงบ ตอ้ งการพกั ผอ่ น แตส่ ภาพสงั คมในปัจจุบนั ผสู้ ูงอายตุ อ้ งเชิญกบั เหตุการณ์ที่บบี ค้นั ประสาทและ จติ ใจมากข้นึ จงึ เป็ นส่ิงทคี่ วรทราบเกี่ยวกบั การเปลี่ยนแปลงทางจติ ใจของคนวยั น้ี วยั น้ีเป็นวยั ที่ตอ้ งปรับตวั ต่อโลกภายนอกและปรบั ตวั ตอ่ การสูญเสียตามวยั เช่น สูญเสียความสามารถทางร่างกาย สูญเสียมรรควธิ ีใน การปลดปล่อยแรงขบั พน้ ฐาน สูญเสียในวฒั นธรรมที่สนใจแต่อนาคตของคนหนุ่มสาว ผสู้ ูงอายมุ กั หวาดกลวั ความเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย กลวั ความตาย กลวั ความสูญเสียเพ่ือน ฉะน้นั จงึ เป็นการยากทจี่ ะใหผ้ สู้ ูงอายุ เหล่าน้ีแสดงความแจม่ ใสร่าเริงเป็ นนิจสินไดใ้ นเมื่อจติ ใจของเขาเตม็ ไปดว้ ยความวติ กกงั วล นอกจากน้ี ผสู้ ูงอายมุ กั จะยดึ ถือตนเองเป็ นส่วนใหญน่ ิยมชมชอบแตเ่ รื่องและความคดิ สมยั ตนเอง จึงทาใหเ้ ขา้ กบั วยั อ่ืน ๆ ไดย้ ากโดยเฉพาะกบั วยั รุ่น ซ่ึงเป็นสาเหตุหน่ึงท่ีผสู้ ูงอายเุ กิดความอา้ งวา้ ง ยงิ่ ถา้ ถูกทอดทิ้ง หรือปล่อยให้

- 10 - อยตู่ ามลาพงั สามีภรรยา เพราะลูกหลานต่างแยกยา้ ยไปมีครอบควั หรือไปประกอบอาชีพตามความถนดั พฒั นาการดา้ นอารมณ์ของผสู้ ูงอายจุ ะข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะและรูปแบบที่เป็ นมาต้งั แต่เดิมของบุคลิกภาพจะยงั คงไวไ้ ด้ รูปแบบบคุ ลิกทม่ี นุษยป์ รับตนเองเม่ือเขา้ สู่วยั สูงอายแุ บ่งไดด้ งั น้ี 1. บุคลิกแบบผสมผสาน (integrated) เป็นลกั ษณะของบคุ คลทยี่ งั รักษาความเป็นตวั ของตวั เองไดเ้ สมอ พอใจในชีวติ ทผ่ี า่ นมาและพอใจในสิ่งที่ตนมีอยยู่ อมรับสภาพความจริงและบงั คบั ตวั เองได้ ปรบั ตวั ให้ เหมาะสมกบั ส่ิงแวดลอ้ ม 2.บุคลิกแบบตอ่ ตา้ น (armoured หรือ defended) เป็ นลกั ษณะของความสูงอายทุ ่พี ยายามตอ่ สูก้ บั ความ เสื่อมถอยหวาดหวนั่ ของชีวติ แบบเป็นลกั ษณะตา่ ง ๆ 3.บคุ ลิกภาพเฉยชาและพ่งึ พาบคุ คลอ่ืน กลมุ่ น้ีตอ้ งการใหค้ วามตอ้ งการทางอารมณข์ องตนไดร้ บั การ ตอบสนอง รูส้ ึกวา่ ตนเองไม่สามารถช่วยตนเองไดถ้ า้ ปราศจากผชู้ ่วยเหลือ 4.บคุ ลิกภาพแบบการผสมผสาน (unintegrated or disorganized) จะมีความเส่ือมท้งั ดา้ นร่างกายและจิตใจ ขาดการควบคุมอารมณ์ แสดงออกถึงความบกพร่องทางดา้ นความคิดอา่ นและภาวะจิตใจอยา่ งเห็นไดช้ ดั จะ ยงั คงอยใู่ นสงั คมได้ แตจ่ ะมีพฤติกรรมและความพ่งึ พอใจตอ่ ชีวติ อยใู่ นระดบั ต่า -กำรเปล่ยี นแปลงทำงด้ำนสังคม การเปล่ียนแปลงท่ีมีผลต่อการใชช้ ีวิตทางสงั คมของคนวยั น้ีคือ การมีเวลาวา่ งมากข้ึนทาใหส้ ามารถกระทา กิจกรรมเพอื่ การพกั ผ่อนหยอนใจไดม้ ากข้ึน เช่น การเดินทางท่องเท่ียว การปลูกตน้ ไม้ เขา้ กลุ่มศึกษาและ ปฏิบตั ิธรรม เป็ นตน้ แต่จะมีขอ้ จากดั ในการมีสัมพนั ธภาพกบั ผูอ้ ่ืน เนื่องจากบทบาททางสังคมลดลง เช่น

- 11 - การหยดุ ประกอบอาชีพ การตายของญาติ เพอื่ นฝงู คูส่ มรส และการเสื่อมของสุขภาพ ประกอบกบั วยั สูงอายุ จะมีความสนใจตนเองเพมิ่ ข้ึน จะสนใจบุคคลอ่ืนลดลง ในวยั น้ีอาจจะมีการยา้ ยท่ีอยดู่ ว้ ยเหตุผลต่าง ๆ กนั บางคนอาจจะรูส้ ึกวา่ บา้ นทีอ่ ยปู่ ัจจุบนั น้ีหลงั ใหญไ่ ป ทาความสะอาดลาบาก บางคนกข็ ายบา้ นแลว้ ยา้ ยไปอยู่ ใกล้ ๆ กบั ลูกคนใดคนหน่ึง บางคนก็ยา้ ยออกไปอยู่ในสถานที่อากาศดีกว่าเดิม หรือยา้ ยไปอยทู่ ่ีสถาน สงเคราะหค์ นชรา การยา้ ยท่ีอยตู่ อ้ งการปรับตวั เสมอ ผสู้ ูงอายตุ อ้ งเรียนรู้อาศยั ในการอาศยั อยใู่ นเมืองใหม่j ผูส้ ูงอายุที่ไม่ไดอ้ าศยั อย่บู า้ พกั คนชรา มักตอ้ งอาศยั ลูกหลานเก้ือกูล ย่งิ อายเุ พ่ิมมากข้ึนก็ตอ้ งพ่ึงพงิ ครอบครอบมากข้นึ ดว้ ย ความสมั พนั ธภาพกบั บุตรหลานจะราบร่ืนหรือไม่ข้ึนอยอู่ ยา่ งมากกบั สมั พนั ธภาพท่ี เขาให้กบั ลูกเมื่อลูกยงั เล็ก ถา้ สัมพนั ธภาพเคยเป็ นมาแลว้ ด้วยดีก็ไม่สู้จะยากลาบากมากนกั ภาวะการเป็ น หมา้ ยพบไดเ้ สมอในวยั ผสู้ ูงอายุ โดยเฉพาะในสตรี เนื่องจากชายมกั อายสุ ้นั กวา่ หญิง การปรับตวั ต่อการตาย ของคู่สมรสน้นั ยากเป็นพเิ ศษในวยั สูงอายุ -กำรเปลี่ยนแปลงทำงด้ำนสตปิ ัญญำ เม่ือเขา้ สู่วยั สูงอายุ สมองฝ่อและมีน้าหนกั ลดลง มีเลือดมาเล้ียงสมองนอ้ ยลง เซลลป์ ระสาทตายเพม่ิ ข้ึน และจานวนเซลลล์ ดลงตามอายุ ทาให้สมองเส่ือม ความจาเส่ือมโดยเฉพาะความจาในเหตุการณ์ปัจจุบนั (recent memory) และความจาเฉพาะหนา้ (immediate memory) แต่ความจาในอดีต (remote memory) จะไม่ เสีย (ศรีธรรม, 2535) แตก่ ารประสานงานระหวา่ งประสาทสมั ผสั กบั ความคดิ อ่านจะเชื่องชา้ ลง ผสู้ ูงอายจุ ึงมี

- 12 - ประสิทธิภาพในอนั ที่จะใส่ใจต่อสิ่งเร้าไม่ไวหรือดีเท่าคนอายนุ ้อย และมีลกั ษณะความคิดไม่ยดื หยนุ่ การ แกป้ ัญหาของผูส้ ูงอายมุ ีแนวโนม้ ท่ีจะใหค้ วามสนใจกบั ส่ิงที่ไม่ใช่ขอ้ มูล หรือส่วนท่ีไม่ตรงเป้าหมายของ ปัญหาน้นั ๆ ผูส้ ูงอายุมีความยุ่งยากลาบากในการทาความเขา้ ใจกบั สิ่งที่จะตอ้ งเรียน และบกพร่องในด้านที่จะเก็บ ขอ้ มูลไวใ้ นความจาระยะส้นั ใหย้ าวนานเพยี งพอ เพอื่ ฝังรอยเป็ นความจาถาวร การใหอ้ ยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ี คุน้ เคยให้ช่วงเวลาที่เหมาะสมเพ่ือทาความเขา้ ใจกบั ขอ้ มูลจะช่วยไดม้ าก จะเห็นว่าผสู้ ูงอายมุ กั หันมาสนใจ ทางศาสนา อ้ำงองิ https://sites.google.com/site/sukhsuksam3222/bth-thi-1-chwng-chiwit สบื ค้นเม่ือวนั ที่ 15 มถิ นุ ายน 2563

-1-


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook