โครงงาน IS (IS30201) เรือ่ ง สครบั ขดั ผวิ จากกากกาแฟ จดั ทาโดย 1.น.ส.กานตพ์ ชิ ชา รตั นวฑิ ูรย์ เลขที่ 19 ม.5/6 2.น.ส.พชรพร ศริ คิ าวงศ์ เลขที่ 21 ม.5/6 3.น.ส.ศศิวรรณ คาลม เลขท่ี 22 ม.5/6 4.น.ส.สุตภาวี ฮัน่ ตระกูล เลขที่ 23 ม.5/6 5.นายพชิ าภพ มาตขาว เลขที่ 24 ม.5/6 เสนอ ครูดารงค์ คันธเรศย์ โรงเรยี นปัว อาเภอปัว จงั หวดั นา่ น สังกัดเขตพ้ืนท่กี ารศึกษามัธยมศกึ ษาน่าน กระทรวงศึกษาธกิ าร
ก บทคดั ยอ่ กากกาแฟที่ไม่สามารถนาไปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งอ่นื ได้อีก นอกจากจะทง้ิ ใหเ้ สยี เปลา่ หากนามาทาเปน็ สครบั ขัดผิวท่ีมีขั้นตอนการทาที่ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพียงนาส่วนผสมต่างๆผสมคนให้เข้ากันและนาไปขัดผิว แล้วพอกท้ิงไว้ เท่านี้ก็จะได้สครับขัดผิวจากกากกาแฟออกมาแล้ว ทั้งสามารถนาไปใช้งานได้จริง ใช้ขัดผิวทา ความสะอาดผิวกายให้สะอาด ทาให้ผิวของเรานั้นเปล่งปล่ัง เรียบเนียน ผิวใส สว่างขึ้น การปฏิบัติงานคร้ังนี้ เปน็ การเพิ่มมลู คา่ ใหก้ ับกากกาแฟที่ไรป้ ระโยชนไ์ ปแลว้ และยงั เพมิ่ มลู ค่าให้กบั สครับธรรมดาไดอ้ ีกดว้ ย
สารบญั ข บทคดั ยอ่ ก สารบญั ข บทที่ 1 บทนา 1 บทท่ี 2 เอกสารที่เกี่ยวขอ้ ง 2-8 บทที่ 3 วธิ กี ารดาเนินงาน 9 บทที่ 4 ผลการดาเนินงาน 10 บทที่ 5 สรุปผลการดาเนนิ งาน 11 บรรณานกุ รม 12
1 บทท่1ี บทนา ทีม่ าและความสาคญั ของโครงงาน เนือ่ งจากหลายคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุม่ ผ้ทู ่ีใชป้ ระโยชนจ์ ากกาแฟ มักนาเอากากกาแฟไปท้งิ โดยอาจไมร่ วู้ ่า กากกาแฟก็สามารถนามาใช้ประโยชน์จากกากกาแฟได้ โดยประโยชน์ของกากกาแฟมหี ลายอย่างด้วยกัน เชน่ กากกาแฟมสี รรพคุณในการดูดกลน่ิ ทีท่ รงพลงั มากพอสมควร เม่ือเราแชข่ องที่มีกลนิ่ แรงในตเู้ ย็น ให้นากาก กาแฟใส่แกว้ วางไวใ้ นตเู้ ย็นดว้ ย จะช่วยลดกลนิ่ ทจี่ ะไปเกาะกับอาหารอ่นื ๆ ได้ นากากกาแฟมาใสถ่ ุงผา้ ให้มี รูปทรงท่พี อดีมือ แล้วนาไปขัดบรเิ วณรอยเป้ือนหรือรอยไหม้ของหมอ้ และกระทะ คราบทฝี่ งั แนน่ อยู่ก็จะหลุด ออกไปอยา่ งง่ายดาย ยืดอายุการใช้งานอปุ กรณ์ครัวของร้านกาแฟสดของคุณให้ยาวนานเหมอื นใหม่ได้อยู่ ตลอดเวลา และขดั ผวิ ดว้ ยกากกาแฟ ช่วยใหผ้ วิ มีความชุม่ ชื้นและเนียนนุม่ เหมาะสาหรบั ผู้ที่ผวิ แหง้ อีกทั้งยัง ชว่ ยขจดั สิง่ สกปรกในรูขุมขนอกี ด้วย ใช้ได้ทั้งผิวหนา้ และผิวกาย ในประโยชน์ท่ีกล่าวมา เราได้นาคุณสมบตั ิของ กากกาแฟทช่ี ่วยขดั ผวิ นีม้ าทาเป็นสครบั ขดั ผวิ เพือ่ ให้ได้เปน็ ผลิตภณั ฑ์สครับขดั ผวิ จากกากกาแฟ วัตถปุ ระสงคข์ องการทาโครงงาน 1.เพื่อเปน็ การนาวัตถุดิบท่ีมอี ยู่แล้วในธรรมชาตมิ าใช้ให้เกิดประโยชน์ 2.เพื่อศึกษาคณุ สมบัติและประโยชน์ของกากกาแฟ 3.เพ่ือนากากกาแฟทเี่ หลือท้ิงมาทาใหเ้ กิดมูลค่า 4.เพ่ือเป็นนาความรูแ้ ละทักษะทไี่ ด้ไปประกอบเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคตได้ สมมติฐานของการศึกษา สมมตฐิ านของการศกึ ษา สครบั กากกาแฟสามารถขดั ผิวได้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพโดยผลัดเซลลผ์ วิ เก่าทตี่ ายไปและทาใหผ้ วิ กระจา่ งใสขึน้ ขอบเขตของการทาโครงงาน ใช้สว่ นผสมจากธรรมชาติทงั้ หมด ได้แก่ กากกาแฟ ผงขมน้ิ นมสดและน้าผง้ึ และส่วนผสมทใ่ี ช้ในการทาสครับ รบั รองวา่ ปราศจากสารเคมีท่เี ปน็ อนั ตราย และเมอื่ ทาการผลติ ตัวผลิตภัณฑแ์ ลว้ เราจะทาการทดลองตวั ผลิตภณั ฑก์ ับสมาชกิ ในกลุม่ ก่อน เพ่ือสารวจวา่ มีผลขา้ งเคยี งทเี่ ปน็ อันตราย หรือ ใหผ้ ลอย่างไร และทาการจด บนั ทึก ถา่ ยภาพความเปลยี่ นแปลงก่อน และหลังการใช้ผลิตภณั ฑ์ ผลทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ สครับกากกาแฟนัน้ จะทาให้ผิวกระจา่ งใส ผลดั เซลล์ผิวไดด้ ี อ่อนโยน ไมบ่ าดผิว
2 บทที2่ เอกสารท่เี กี่ยวขอ้ ง ประเภทของสครับ สครบั (Scrub) สามารถแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท ใหญ่ๆ คือ สครับที่ผลิตจากธรรมชาติและสครับที่ผลิตจาก กระบวนการทางเคมี ซึ่งสครับท้ังสองประเภท สามารถนามาใช้ในการสครับเพ่ือทาความสะอาดใบหน้าได้ เหมือนกนั 1. สครับท่ีผลิตจากกระบวนการทางเคมี เมด็ สครบั ท่ใี ชใ้ นผลิตภณั ฑป์ ระเภทน้ี มักจะผสมเม็ดสครับสาหรับใช้ ในการขัดผิว ซึ่งทาให้ชั้นผิวหนังท่ีตายแล้วหลุดออกไป โดยส่วนใหญ่เม็ดสครับจะเป็นเม็ดพลาสติก หรือ พลาสตกิ เคลือบ (Micro bead) ซึ่งจะมีตัง้ แตเ่ ม็ดแบบหยาบมาก ไปจนถึงเมด็ ทม่ี ีความละเอียดมาก โดยเม็ดสครับเหล่าน้ีจะมีลักษณะเป็นทรงกลมมีขนาดที่เท่ากัน บางผลิตภัณฑ์เม็ดสครับอาจจะเป็นเพียงเม็ด พลาสติกธรรมดา ในบางผลิตภัณฑ์อาจจะมีการชุบสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น Jojoba Bead สครับท่ีทาการ ผลิตจากกระบวนการทางเคมี จึงทาให้มีโอกาสเกิดความระคายเคืองต่อผิวได้มากกว่าสครับท่ีผลิตจาก ธรรมชาติ 2. สครับทผ่ี ลิตจากธรรมชาติ เน้ือเม็ดของสครับจะทาข้นึ จากพชื หรอื ผลไม้ มลี กั ษณะท่คี อ่ นข้างหยาบ เม็ดสครับที่ได้จากธรรมชาติมีรูปร่าง และขนาดที่ไม่แน่นอน แต่ความแตกต่างทางรูปทรงของเม็ดสครับ กลับ ทาให้เม็ดสครับมีประสิทธิภาพในการขัดสิ่งสกปรกออกมาจากผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากย่ิงขึ้น และยังทา ให้เกดิ ความระคายเคอื งตอ่ ผิวน้อยกวา่ สครับท่ีผลติ ขนึ้ จากกระบวนการทางเคมี ประโยชนข์ องการสครับผวิ พรอ้ มวธิ สี ครับใหเ้ หมาะสมกบั ผวิ ประโยชน์ของการสครบั ผวิ พร้อมวิธสี ครับให้เหมาะสมกับผิว การดแู ลผิวพรรณทาไดห้ ลายวิธี ต้ังแต่การดูแลจากภายในด้วยการกนิ อาหารเสรมิ การกินอาหารจากธรรมชาติ ทด่ี ีตอ่ ผวิ การดื่มน้ามากๆ หรือการดูแลผิวภายนอกเช่น การใช้ครีมบารุงผิว หรือแม่กระท่ังการสครับผิว ท่ีจะ ช่วยคืนสภาพผิวให้ชมุ่ ชนื้ ไม่แห้งกร้าน การสครับผวิ ทาไม่ยากและสามารถใชว้ สั ดใุ กลต้ ัวได้อีกด้วย การสครบั ผวิ ทาเพอื่ อะไรและมปี ระโยชน์อยา่ งไรต่อผวิ ผิวหนังกาพร้าหากไม่มีการขจัดออกไป นานวันเข้าเซลล์ที่ตายแล้วจะเข้าจับเกาะรวมกันทาให้ผิวดูแห้งหยาบ กร้าน เกิดรอยย่นหรือหมองคล้า เกิดจุดด่างดา การสครับเป็นอีกหน่ึงวิธีท่ีจะช่วยเร่งเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุด ออกไดเ้ ร็วขึ้น ชว่ ยลดความมันบนใบหน้าอันเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว ช่วยทาให้รูขุมขนเล็กลง ลดเลือนริ้วรอย ทาให้ดูอ่อน เยาว์ข้นึ เผยผวิ ใหมท่ ีอ่ อ่ นน่มุ ขาวใส
3 ลดปัญหาผิวแตกลายเช่นทอ้ งลาย ตน้ ขาลายหรือผิวเปลือกส้ม ใหค้ ืนมาเรียบเนียนได้ ลดเลอื นร้วิ รอยของผิวได้เปน็ อย่างดี ช่วยใหผ้ ิวดูนมุ่ นวล อ่อนเยาว์ขึน้ วธิ สี ครบั ผวิ ให้เหมาะกบั แตล่ ะสภาพผวิ การสครับผิวท่ีดีควรหมุนมือให้เป็นวงกลม ขัดแบบเบาๆ นุ่มนวลไปตามจุดต่างๆ ที่ต้องการให้เนียนนุ่ม และ หลังการสครับควรมีการบารุงผิวดว้ ยครีมบารงุ เพ่มิ ความชมุ่ ชืน้ ให้แกผ่ วิ ด้วย และควรทาสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผวิ บอบบางแพง้ า่ ย ผวิ แบบนีจ้ ดั วา่ เปน็ ผิวที่อ่อนแอ ดังน้ันเมือ่ สครบั แลว้ อาจเกดิ การระคายเคือง เกิดรอยแผลหรือผิวอาจหลุดลอก ง่ายกว่าผิวชนิดอ่ืน ดังน้ันหลังการทาสครับผิวเสร็จแล้วจะต้องมีการบารุงช่วยผิวด้วยทุกคร้ังและควรเลือก ผลิตภัณฑท์ ่ีจะใช้ให้เหมาะกบั ผิว หลีกเลี่ยงการใชส้ มนุ ไพรที่ผิวเกิดอาการแพ้ดว้ ยกจ็ ะชว่ ยได้ ผิวคลา้ ขณะสครับผิวควรระมัดระวัง ใช้สมุนไพรที่ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบของผิว เพราะหากผิวมีการอักเสบแล้วอาจ ทาให้สผี ิวไม่เนยี นเรียบเป็นสีเดยี วกนั ยงิ่ จะทาให้เป็นเหมอื นรอยดา่ งดาบนผิว ผิวมนั การสครับผิวเป็นผลดีกับผิวมัน เพราะจะช่วยขจัดความสกปรกของรูขุมขน ควรกระทาแบบนุ่มนวลจะได้ไม่ เปน็ การกระต้นุ ตอ่ มไขมันให้ทางานเร่งการเกดิ สิวข้นึ มาได้อีก ชนดิ ของกาแฟ 1. Espresso (เอสเปรสโซ) ประกอบไปด้วย กาแฟล้วน ที่ไม่มีส่วนผสมของนมใดๆ ท้ังส้ิน ถูกชงโดยใช้แรงอัดไอน้าหรือน้าร้อนผ่านเมล็ด กาแฟค่ัวท่ีบดละเอยี ด 2. Caffe latte (ลาเต้) ประกอบไปด้วย เอสเปรสโซ 1 สว่ น และนมรอ้ น 2-3 สว่ น อาจจะมฟี องนมดา้ นบนดว้ ยกไ็ ด้ 3. Cappuccino (คาปชู โิ น) ประกอบดว้ ย เอสเปรสโซ 1/3 สว่ น ผสมกับนมรอ้ นผา่ นไอน้าหรือนมสตรีม 1/3 ส่วน และนมตีโฟม 1/3 ส่วน ลอยอย่ดู า้ นบน ในสดั สว่ นเทา่ ๆกนั 4. Americano (อเมรกิ าโน่)
4 ประกอบด้วย เอสเปรสโซ 1 ส่วน และน้ารอ้ น 1 ส่วน 5. Caffè Mocha (มอคคา่ ) ประกอบไปด้วย เอสเพรสโซ่ 1/3 ส่วน นมรอ้ น 2/3 สว่ น และช็อคโกแลต เพมิ่ กมิ มิคด้วยวิปป้งิ ครมี ด้านบน ประโยชน์ของกากกาแฟ 1. ตกแต่งร้านด้วยดอกไม้ที่ใส่ดินกากกาแฟ กากกาแฟเมื่อนาไปผสมกับดินใส่ในภาชนะเก๋ไก๋ท่ีจัดเตรียมไว้ แลว้ นาดอกไม้ไปปกั จะสามารถชว่ ยยืดอายขุ องดอกไม้ให้อยู่ได้นานข้ึน สดช่ืนขึ้น หรือใช้กากกาแฟปิดหน้าดิน ก็จะช่วยให้หอ้ งที่จัดวางดอกไม้ไร้กล่นิ อับได้อีกด้วย 2. ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น กากกาแฟมีสรรพคุณในการดูดกลิ่นที่ทรงพลังมากพอสมควร เมื่อเราแช่ของ ท่มี กี ล่นิ แรงในตูเ้ ยน็ ให้นากากกาแฟใส่แก้ววางไวใ้ นตเู้ ย็นดว้ ย จะชว่ ยลดกล่ินที่จะไปเกาะกับอาหารอ่นื ๆ ได้ 3. ไล่มด แต่ดึงดูดแมลงสาบ คงไม่ใช่เร่ืองดีแน่ถ้าร้านกาแฟจะมีทั้งมดและแมลงสาบมาก่อกวนความสงบ วิธี กาจัดทาได้ง่ายๆ ด้วยการเอากากกาแฟทาไว้โดยรอบตรงที่มีมด เพียงเท่าน้ีมดก็จะหายไป ไม่มาให้ราคาญอีก ในทางกลับกัน แมลงสาบน้นั จะชอบกล่ินกากกาแฟมากเป็นพิเศษ คุณควรหาวิธีดักจับโดยใช้กากกาแฟเป็นตัว ล่อ อาจจะหาภาชนะทรงกรวย หรือชามมาใส่กากกาแฟไว้ด้านใน แล้วทากาวหรือแปะเทปกาวสองหน้าไว้ บริเวณรอบผนงั ชนั้ ในของภาชนะน้ันๆ โดยไม่จาเปน็ ตอ้ งเสยี เงนิ ซื้อยาฆ่าแมลงใดๆ 4. คืนสภาพหม้อหรือกระทะให้เหมือนถอยใหม่แกะกล่อง นากากกาแฟมาใส่ถุงผ้าให้มีรูปทรงที่พอดีมือ แล้ว นาไปขัดบริเวณรอยเป้ือนหรือรอยไหม้ของหม้อและกระทะ คราบท่ีฝังแน่นอยู่ก็จะหลุดออกไปอย่างง่ายดาย ยดื อายกุ ารใช้งานอปุ กรณ์ครัวของรา้ นกาแฟสดของคุณให้ยาวนานเหมือนใหม่ได้อยตู่ ลอดเวลา 5. ท่อตันกากกาแฟช่วยได้ นากากกาแฟไปผสมกับน้าร้อนและน้ายาล้างจานเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ เทลงไปใน ท่อทต่ี นั ไม่ว่าจะเปน็ ทอ่ อ่างล้างหน้า ท่ออ่างลา้ งจาน หรือทอ่ ต่าง ๆ ภายในร้านของคุณ โดยที่คุณไม่จาเป็นต้อง เสยี เงินซ้ือโซดาไฟมาระเบดิ ท่อแบบทผ่ี ่านมา 6. ขัดผิวให้เนียนนุ่ม สครับกาแฟ หรือขัดผิวด้วยกากกาแฟ ช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม เหมาะ สาหรบั ผู้ท่ีผวิ แห้ง อีกทั้งยังชว่ ยขจดั ส่งิ สกปรกในรขู ุมขนอกี ด้วย ใชไ้ ด้ทั้งผิวหน้าและผิดกาย แต่ข้อควรระวังคือ ควรใช้กากกาแฟท่บี ดละเอียด เพราะถ้าบดหยาบตัวกากจะมีความคม อาจจะทาให้ระคายเคืองผวิ ได้ ประโยชนข์ องน้าผง้ึ ในน้าผึ้งประกอบด้วย น้าตาลกลูโคส ฟรุคโตส ขี้ผ้ึง อัลบูมินอยด์ ละอองเกสรดอกไม้ และฮอร์โมน เอสโตรเจน จานวนเลก็ นอ้ ย นา้ ผึ้ง ใชเ้ ป็นส่วนประกอบของเครอ่ื งสาอาง ใช้พอกหน้าทาให้ผิวหน้าชุ่มชื้น เปล่ง ปล่ังมีน้ามีนวลข้ึน น้าผ้ึง ยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว น้าผึ้ง เป็นเครื่องสาอางจากธรรมชาติท่ีให้ประโยชน์สูง และหางา่ ย นอกจากนี้ยังสามารถใช้ นา้ ผึง้ บารุงผม ซงึ่ จะช่วยบารงุ หนงั ศรี ษะ และกระตนุ้ การงอกของเส้นผม
5 คุณประโยชน์ของ น้าผ้ึง นั้นพบว่า ใน น้าผึ้ง มีสารแอนติออกซิเดนท์ (Antioxidant) หรือสารต้าน อนุมูลอิสระ เช่นเดียวกับท่่ีมีในผักใบเขียว และยังมีวิตามินบี วิตามินซี ฟอสฟอรัส แคลเซียม เกลือแร่ และ กรดอะมโิ น ซ่ึงมปี ระโยชนต์ ่อสุขภาพ และช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ แร่ธาตุท่ีกล่าวมาล้วนมีความจาเป็น ต่อร่างกายที่จะเข้าไปซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอ บารุงโลหิต ช่วยชะลอความเส่ือมของเซลล์ ซ่ึงทาให้ น้าผ้ึง กลายเปน็ ยาวเิ ศษ อายวุ ฒั นะ และอดุ มไปดว้ ยวิตามนิ นานาชนดิ ทเี่ กบ็ ไวน้ านโดยไม่เสอ่ื มสลายง่าย น้าผึ้ง มีประสิทธิภาพในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติ จึงสามารถปกป้องผิว จากการถูกทาลาย จากรังสียูวี ท่ีเป็นสาเหตุให้ผิว แก่ก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง ช่วยยืดอายุการชราของผิว คงความอ่อนเยาว์ ให้กบั ผวิ และชว่ ยฟืน้ ฟูผวิ ปัจจบุ ัน น้าผึ้ง จึงถกู นามาใชก้ นั มาก ในอตุ สหกรรมเพื่อความงาม เพราะ น้าผึ้ง น้ัน เป็นแหล่งขุมทรัพย์เพ่ือผิวพรรณที่สวยงามอย่างแท้จริง สารเคมีบางชนิดในผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดอาจทา ใหผ้ วิ คันได้ จึงมกี ารใช้ นา้ ผ้งึ เป็นสว่ นผสมของผลติ ภณั ฑป์ อ้ งกันและบารงุ ผิว จากแสงแดด นอกจากนน้ั น้าผง้ึ ยงั มีสรรพคุณในการเป็นตวั กกั เกบ็ น้าทใี่ ห้ความช่มุ ช้นื ไว้กับผิว ซึ่งเป็นตัวต้านความ ระคายเคือง จึงเหมาะมากสาหรับคนท่ีมีผิว ที่แพ้ง่าย ดังน้ัน น้าผึ้ง จึงเป็นส่วนสาคัญของเครื่องสาอาง หลากหลายทีใ่ ห้ความชุ่มช้ืนกบั ผิว ผิว มีส่วนประกอบสาคัญคือ น้า ซ่ึงจะทาให้ผิว มีความนุ่มชุ่มช้ืนมีความยืดหยุ่นอยู่เสมอ แต่ผิวหนัง จะเริ่มแปรเปล่ียนไปตามอายุขัยของคนเรา รวมทั้งสภาพแวดล้อมและการได้รับสารเคมีต่าง ๆ จึงทาให้ผิว สูญเสียการเก็บกักน้าไป ทาให้ผิวแห้ง และเกิดริ้วรอย น้าผ้ึง จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการดูแลผิว เพราะสามารถ คืนความชมุ่ ช้นื ให้กับผิวได้ และรักษาสมดุลของผวิ ใหไ้ มแ่ ห้ง หรือมันจนเกินไป น้าผึ้ง เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติท่ีถูกใช้เพื่อความงามมาต้ังแต่สมัยโบราณ และยังคงใช้มาจนถึงปัจจุบัน ในการผลิต ผลติ ภัณฑ์ดูแลผิวพรรณ และเส้นผม เน่อื งจากคณุ สมบัติตามธรรมชาติที่มีอย่ใู น นา้ ผึง้ ดงั น้ี - น้าผึง้ เป็นสารให้ความชุ่มชืน้ ตามธรรมชาติ คือสามารถดงึ และเกบ็ ความชืน้ ไวไ้ ด้ ทาให้ผิวหนังมีความอ่อนนุ่ม และยืดหยุ่น จึงเหมาะท่ีจะเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มช้ืนต่าง ๆ ได้แก่ คลีนซิ่งครีม แชมพู และ คอนดิชันเนอร์ และเนื่องจาก น้าผ้ึง มาจากธรรมชาติ และไม่ระคายเคืองผิวหนัง จึงเหมาะอย่างมากกับ ผลิตภณั ฑส์ าหรบั ผิวบอบบาง และผวิ สาหรบั เดก็ - น้าผึ้ง มีคุณสมบัติเป็นสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ สารแอนติออกซิแดนท์มีบทบาทใน การปกป้องผิวหนงั จากการทาลายของแสงยวู ี และชว่ ยในการเสริมสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ - น้าผึ้ง มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านจุลินทรีย์ และยับย้ังการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เนื่องจาก น้าผึ้ง มี ปริมาณน้าตาลสูงเป็นการจากัดปริมาณน้าที่แบคทีเรียจะสามารถเติบโตได้ มีความเป็นกรดสูง และปริมาณ
6 โปรตีนต่า ซึ่งทาให้แบคทีเรยี ไม่ได้รบั ไนโตรเจนท่ีจาเป็นสาหรับการเจริญเติบโต มีโฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และ แอนตอิ อกซิแดนทอ์ ยใู่ น น้าผ้ึง ช่วยยบั ยงั้ การเจรญิ เติบโตของแบคทีเรีย คุณสมบัตทิ ่โี ดดเดน่ ของ น้าผ้ึง อยทู่ ่ีความสามารถในการตอ่ ต้านแบคทีเรีย โดนสารที่ชื่อว่า \"ไฮโดรเจร เปอร์ออกไซด\"์ ซึง่ เปน็ สารต่อตา้ นแบคทเี รียทีด่ ีเยีย่ ม และที่พิเศษกวา่ นน้ั กค็ ือ สารชนิดน้ีกาจัดเช้ือโรคได้โดยไม่ ทาลายเนอื้ เย่ีอ เป็นเหตุผลสาคัญทที่ าให้ น้าผึ้ง ถูกนาไปใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคผิวหนัง รวมถึงเร่ืองความ สวยความงามดว้ ย ประโยชน์ของนํา้ ผ้งึ สรรพคณุ ท่ดี ีตอ่ ผิว 1. ดูแลผิวใหห้ า่ งไกลจากโรคผวิ หนัง เนือ่ งจากในน้าผึง้ มสี ารแอนตี้ออกซิแดนซ์ท่ีได้จากธรรมชาติ ทั้งยังมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและ จุลินทรีย์ อันเป็นสาเหตุที่ทาให้เกิดปัญหาผิวหนังได้เป็นอย่างดี นอกจากจะต่อต้านเช้ือเหล่าน้ันได้แล้ว ยัง สามารถชว่ ยรักษาบาดแผล ลดอาการผนื่ แดง อาการคันและอาการติดเชือ้ ในผวิ หนังได้ดว้ ยเช่นกัน 2. รกั ษาแผลใหห้ ายเรว็ ขึ้น มีคุณสมบัติท่ีสามารถต่อต้านเช้ือแบคทีเรียและจุลินทรีย์ได้ จึงสามารถนาน้าผ้ึงมารักษาอาการอักเสบและ รักษาบาดแผลให้หายได้เร็วข้ึนได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อน้าผ้ึงรวมตัวเข้ากับของเหลวมันจะ เปลย่ี นคณุ สมบัติใหก้ ลายมาเปน็ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แบบอ่อนๆโดยจะยิ่งช่วยรักษาบาดแผลให้หายได้เร็ว ขน้ึ ได้ 3. บารงุ ผิวพรรณให้ชุ่มชืน้ อุดมไปด้วยอาหารผิวหลากหลายชนิด ที่มีส่วนช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณจึงทาให้ นิยมนาน้าผึ้งมาใช้ เปน็ ส่วนผสมในการมาสก์ ผิวและสครบั ผิวเปน็ ประจา 4. กระตุ้นการผลัดเซลล์ผวิ ทาให้ผิวกระจา่ งใส เป็นแหล่งของสารอาหารต่างๆ หลายชนิด เช่น แมกนีเซียม แคลเซียมและโพแทสเซียม ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ ลว้ นมีคุณสมบัตชิ ว่ ยบารงุ ผวิ และช่วยเรง่ กระบวนการผลดั เปลยี่ นเซลลผ์ วิ เก่าให้หลุดออกได้อย่างอ่อนโยน แถม ยงั เป็นอาหารผิวช้นั เย่ียมทีส่ ามารถเตมิ เตม็ ความชุ่มช้นื ใหผ้ วิ ไดอ้ ย่างเป็นธรรมชาติ 5. ทาความสะอาดผิวไดอ้ ยา่ งหมดจด มเี อนไซม์จากธรรมชาติ มคี ณุ สมบัตทิ ี่สามารถช่วยฆ่าเชื้อได้หรือท่ีเรยี กกนั ว่า แอนต้ีเซปติก (Antiseptic) จึงทา ให้น้าผึ้งสามารถช่วยกาจัดสิ่งสกปรกให้หลุดออกจากผิวหนังได้อย่างล้าลึก และยังช่วยคืนความชุ่มช้ืนให้กับ ผิวหนา้
7 6. ชะลอการเกิดรว้ิ รอยแหง่ วัย ผู้หญิงเราเมอ่ื อายุมากข้ึน คอลลาเจนและอีลาสตินก็เร่ิมลดน้อยลง น้าผึ้งมีคุณสมบัติช่วยชะลอและลดเลือนร้ิว รอยได้ เพราะคุณสมบตั ทิ มี่ ีสารแอนตอ้ี อกซิแดนซ์ในตวั จึงชว่ ยต่อต้านการเกดิ รวิ้ รอย ประโยชน์ของนมสด ทาให้ผวิ นุ่มน่าสมั ผสั เหมอื นผวิ เดก็ เนื่องจากนมมสี ่วนชว่ ยในการบารุงผิวให้นุ่มเนียนได้ดี จึงสามารถนามาบารุงผิวหน้าให้เนียนใส แถมยังช่วยทา ความสะอาดรูขุมขนให้สะอาดหมดจดอีกด้วยนะคะ เรียกได้ว่า นอกจากนมจะทาให้ผิวของคุณนุ่มน่าสัมผัส เหมือนผวิ เด็กแล้ว ยงั ทาใหผ้ ิวเรยี บเนยี นไรส้ วิ ช่วยปรับผวิ ใหข้ าวกระจา่ งใส เพราะน้านมมีกรดแลคติกที่มีส่วนช่วยในการปรับสภาพผิวให้ดูขาวกระจ่างใสได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะที่จะ นามาปรับสภาพผิวให้ดูขาวใสมาก แต่ถ้าให้ดีแนะนาให้นามาผสมกับแป้งหรือมะขามเปียก ทาเป็นครีมพอก หนา้ จะมปี ระสทิ ธิภาพในการบารุงผวิ มากขึ้นจากเดิม ลดการเกดิ ร้ิวรอย การลองบารุงผิวหน้าด้วยน้านมบ่อยๆเพราะในน้านมน้ันมีสารตัวหน่ึงท่ีเรียกว่าไบโอติน ซึ่งมีส่วนช่วยในการ สร้างคอลลาเจนให้กับผิวไดเ้ ป็นอย่างดี จงึ ไมท่ าให้เกดิ รว้ิ รอยก่อนวยั และชว่ ยชะลอความแก่ได้ ชว่ ยกระชับรูขมุ ขนใหด้ ูกระชบั มากขึน้ น้านมมีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเหมาะกับคนที่มีรูขุมขนกว้าง ซึ่งนอกจากจะช่วย กระชับใหร้ ขู มุ ขนดเู ล็กลงไดแ้ ลว้ ยังช่วยลดการเกิดสวิ ไดอ้ กี ดว้ ย อยา่ งนี้ต้องเปล่ียนจากครีมกระชับรูขุมขนมาใช้ น้านมแทน ประโยชน์ของขมิ้น ช่วยใหผ้ วิ ขาวเนียนอยา่ งเป็นธรรมชาติ ตง้ั แต่สมัยโบราณ คนไทยนยิ มนาขมนิ้ ชันมาขัดผิว เพ่ือให้ผิวขาวผ่องและสวยเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ซ่ึงสูตร ท่ีว่าน้ีก็ยังสามารถนามาใช้ได้จนถึงปัจจุบัน เพียงแค่นาผงขม้ินชันที่บดละเอียดแล้ว นามาผสมกับน้าสะอาด และดินสอพอง คนให้เปน็ เนือ้ เดียวกัน แล้วนามาขัดผิว พอกหน้าและพอกตัว ท้ิงไว้ประมาณ 30 นาทีแล้วล้าง ออก ผวิ จะขาวเนียนขนึ้ อย่างเหน็ ไดช้ ดั
8 ช่วยรักษาสวิ นาผงขม้ินชันท่ีบดละเอียดแล้วมาผสมกับน้ามะนาว คนให้เข้ากัน จากนั้นนามาแต้มสิวหรือพอกหน้าท้ิงไว้ ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทาได้ทุกวัน จะช่วยให้ผิวหน้าดูดี สิวอักเสบยุบลง และช่วยทาใหร้ อยดารอยแดงจากสิวจางลงได้ ชว่ ยกระชับรูขุมขนบนใบหน้า นาผงขมิ้นชันที่บดละเอียดแล้วมาผสมกับนมสด และน้าผึ้ง คนให้เข้ากัน จากน้ันนามาขัดและนวดหน้าเบา ๆ เสร็จแล้วพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยทาให้หน้าสะอาด กระชับรูขุม ขนให้เลก็ ลง แถมยังชว่ ยใหห้ น้าเนียมน่มุ ขึ้นอกี ดว้ ย ช่วยลดเลือนรอยดา่ งดาตามร่างกาย นาขม้ินชันไปตากแห้งและบดให้ละเอียดเป็นผง ก่อนอาบน้าให้นามาผสมกับน้าเล็กน้อย แล้วเอามาขัดเบา ๆ ตามลาตัว ทิง้ ไว้ประมาณ 10 นาที แล้วค่อยอาบน้าตามปกติ สูตรนี้สามารถทาได้ทุกวัน จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม ขาวผ่อง และช่วยลดเลือนจดุ ด่างดาตามร่างกายให้หายไปได้ ช่วยลดรว้ิ รอยบนใบหน้า นาผงขม้ินชันที่บดละเอยี ดแล้วมาผสมกับถว่ั เขียวบด และนมสด คนให้เป็นเนือ้ เดียวกัน จากน้ันนามาพอกหน้า ทงิ้ ไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทาได้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะสามารถช่วยลดร้ิว รอยบนใบหน้าได้ดี ชว่ ยแก้ปญั หาหนา้ มนั นาผงขมิ้นชันท่ีบดละเอียดแล้วมาผสมกับน้าส้มคั้นสด และน้าผึ้ง คนให้เข้ากัน แล้วนามาพอกหน้าทิ้งไว้ ประมาณ 15-20 นาที ล้างออกให้สะอาด สูตรนีท้ าเปน็ ประจา จะชว่ ยลดปัญหาหนา้ มัน
9 บทท3ี่ วธิ ีการดาเนินงาน วสั ดุอุปกรณ์ 1) กากกาแฟ 1 ถ้วย 2) นมสด ½ ถ้วย 3) นา้ ผึง้ ¼ ถ้วย 4) ผงขม้ิน 1 ช้อนโตะ๊ ข้ันตอนการทาสครบั 1) นากากกาแฟผสมกับผงขมิน้ ในชามหรอื ถ้วยผสม 2) ผสมนมสดและนา้ ผึ้งลงในถว้ ยชามกากกาแฟ คนใหเ้ ข้ากนั 3) นาสครบั ท่ีได้มาขดั ผวิ และพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที 4) ลา้ งสครบั ออกให้สะอาดและทาครีมบารุงผวิ เพือ่ ให้ผิวเนยี นนุม่ ขึ้น
10 บทที4่ ผลการดาเนินงาน สครบั ที่ได้มคี วามหนืดพอดีไม่เหลวจนเกินไป มเี น้ือสครับทค่ี อ่ นขา้ งหยาบ บาดผวิ งา่ ย แตส่ ามารถ สครับขัดผิวหนังชั้นกาพรา้ ขัดขไี้ คลให้สะอาดได้ดีหากสครับอยา่ งเบามอื ทาให้ผวิ มีความเปลง่ ปลงั่ ผวิ ใส สว่าง ข้ึนมากเป็นท่ีน่าพอใจอย่างย่ิง การนากากกาแฟทไี่ ม่ได้ใช้ประโยชน์แล้วนามาทาให้เกิดประโยชน์ไดส้ งู สดุ อีกครัง้ เปน็ การเพม่ิ มูลค่า ใหก้ ับกากกาแฟและสครบั
11 บทท5่ี สรปุ ผลการดาเนนิ งาน จากการนากากกาแฟท่ีไม่มีประโยชน์มาทาให้มีประโยชน์และก่อให้เกิดคุณค่า สรุปได้ว่าเป็นการแปร รูปปฏิบัติที่ทาให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นการเพ่ิมมูลค่าของกากกาแฟอีกคร้ัง สครับขัดผิวจากกากกาแฟ สามารถช่วยในการขัดข้ไี คล ขดั ผิวให้สะอาด เรยี บเนียน ผวิ ใสและสวา่ งขึน้ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับจากการทาโครงงาน 1) ฝกึ การทางานเปน็ ทมี 2) ใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์ 3) ฝกึ สมาธิ 4) เพ่ิมมลู ค่าให้กบั สนิ ค้า 5) สามารถนาความรู้ไปประกอบอาชีพไดจ้ ริง หรอื นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ ปญั หาในการดาเนินงาน 1) เน้ือสครบั ที่ไดไ้ ม่เนยี นละเอยี ด ทาใหส้ ครบั ค่อนขา้ งบาดผิว 2) เก็บไว้เป็นเวลานานไม่ได้เพราะเช้ือราขึ้น ควรใช้ใหห้ มดต่อครัง้ หรอื 1-2 วัน
12 บรรณานุกรม อา้ งอิง ออนไลน์ , 2564 จาก URL -Black Extract Body Scrub สครับสารสกดั สีดา -https://www.sanook.com/women/118297/ -SUZUKI COFFEE THAILAND https://suzuki-coffee.com -https://mgronline.com/infographic/detail/9590000062442 -https://sites.google.com/site/powerofbee/honey-and-skin -https://www.sanook.com/women/78045/ -https://women.kapook.com/view129160.html http://www.atc.ac.th
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: