๑ การอา่ นแนว PISA “การอา่ นเพือ่ การเรียนรู้\" PISA คืออะไร PISA คือ โครงการประเมินผลการศึกษานักเรียนนานาชาติ ( Programme for International Student Assessment ) เป็นโครงการประเมินผลการศึกษาของประเทศสมาชิกองค์การเพื่อ ความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ องค์การ OECD ( Organisation for Economic Co-operation and Development) มีจุดประสงค์เพ่ือสารวจว่า ระบบการศึกษาของประเทศ ได้เตรียมเยาวชนของชาติให้พร้อมที่จะใช้ชีวิต และมีส่วนร่วมด้านสังคมในอนาคตเพียงพอ หรือไม่ PISA เน้นการประเมินสมรรถนะของนักเรียนวัย ๑๕ ปี ท่ีจะใช้ความรู้ และทักษะเพื่อ เผชญิ กับโลกในชีวติ จริง มากกว่าการเรียนรู้ตามหลกั สูตรในโรงเรียน เพราะเป็นวัยท่ีจบการศึกษาภาค บงั คบั แล้ว อาจจะเข้าศกึ ษาต่อ หรอื ออกไปประกอบอาชพี
๒ PISA คืออะไร PISA วัด การรู้เร่ือง (Literacy) จุดมุ่งหมายหลักของ PISA คือ การมองไปถึงอนาคต PISA จึงเน้นการ ประเมินสมรรถนะของนักเรียน ที่จะใช้ความรู้และทักษะเพื่อเผชิญกับโลกในชีวิตจริง มากกว่าความรู้ที่ได้เรียน ตามหลักสูตรในโรงเรียนปัจจุบัน OECD/PISA เรียกสมรรถนะน้ันว่า Literacyหรือ “การรู้เร่ือง”PISA ได้ ศึกษางานวิจัยพบว่าการรู้เร่ือง (Literacy) คือ ความรู้ และทักษะที่จาเป็นสาในการเรียนรู้ตลอดชีวิต สาหรับ การมีชีวิตสังคมยุคใหม่ และเป็นตัวช้ีวัดศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ดังน้ัน PISA จึงเป็นการประเมิน เพ่อื ชอ้ี นาคต ตวั ชว้ี ัดอนาคตที่สาคัญ มี ๓ ด้านเท่านนั้ ได้แก่ ๑.การรูเ้ รื่องการอา่ น (Reading Literacy) ๒.การรู้เรื่องคณติ ศาสตร์ (Mathematical Literacy ๓.การรู้เร่ืองวิทยาศาสตร(์ Scientific Literacy) PISA มองการอ่านอย่างไร PISA มีมุมมองวา่ ต้นทนุ กาลังคน เปน็ กลจักรสาคัญ ท่ีจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญเติบโนใน อนาคตได้ รวมทั้งต้นทุนกาลังคน และระดับการรู้เร่ืองเฉล่ียของประชาชนจะเกิดขึ้นได้ ส่ิงหนึ่งก็คือ การรู้เร่ือง การอ่าน (reading literacy) ดงั นน้ั การประเมนิ ทกั ษะดา้ นการอ่านจึงมงุ่ เน้น “การอ่านเพื่อการเรียนร”ู้ มากกว่า “ การเรยี นรู้เพอ่ื การอ่าน” PISA ใช้คาว่า “การรเู้ ร่ืองการอา่ น” แทน คาวา่ “การอ่าน” PISA นยิ ามการอ่านอย่างไร PISA 2009 ไดน้ ยิ าม การรเู้ ร่ืองการอา่ น (Reading Literacy) ไวด้ ังนี้ “ การรู้เร่ืองการอ่าน เป็นความเข้าใจ ( understanding ) การใช้ (using ) การสะท้อน (reflecting) และความรักและผูกพัน กับการอ่าน (engaging) ในถ้อยความ ท่ีเป็นข้อเขียน ( written) ให้บรรลุเป้าหมายของแต่ละคน เพื่อพัฒนาความรู้ และศักยภาพ ของตน รวมท้ังการพัฒนาเพื่อมีส่วนร่วมใน กระบวนการของสังคม
๓ PISA มีแนวคิดในการประเมนิ อยา่ งไร PISA มีแนวคิดในการประเมนิ ท่สี ดุ คือ การครอบคลมุ ดงั น้ี ประการที่๑ ประการที่ ๒ การประเมนิ ต้องครอบคลุม การประเมนิ ต้องครอบคลุม สง่ิ ท่ีอ่าน และจดุ ประสงค์ของการอา่ นได้ พสิ ยั ความยากง่ายของภารกิจการอา่ น อย่างกวา้ งขวาง ทง้ั ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน ท่มี ีทั้งระดับง่ายๆจนถงึ ระดับท่ียากซับซ้อน PISA กาหนดการประเมนิ อะไรบา้ ง PISA กาหนดการประเมินให้ครอบคลมุ ภารกจิ ในการอา่ นอยู่บนพืน้ ฐาน ๓ ประการ ดังน้ี ๑. สถานการณ์ ๒. ถอ้ ยความ ๓. กลยทุ ธ์การอ่าน บริบท หรอื จดุ ประสงค์ สง่ิ ทเ่ี ขยี น หรอื เรียบเรยี งของส่อื เป็นวิธกี ารทกี่ าหนดวา่ ของการอ่านทเ่ี กิดขึน้ หรอื วสั ดทุ ี่ให้อ่าน มีความยากงา่ ย ผอู้ ่านจะคิดลกั ษณะใด สถานการณ์ PISA มีอะไร และมที าไม บริบท ลักษณะสถานการณ์ ของการอา่ น เพือ่ ประโยชน์ส่วนตวั เพือ่ สาธารณะ เพอ่ื การงาน เพื่อการศกึ ษา การใช้ การเรียนรู้ ความอยากรู้ คน้ หาสาระข้อมูล ทา เนือ้ หาสาระ ติดตอ่ สมั พนั ธ์ ตาราเรียน เปน็ รางวลั ของตนเอง หรือ แผนผงั แผนที่ จดหมาย ปฏบิ ตั ิตาม ตาราง อีเมล กราฟ นยิ าย ประกาศ วธิ ที า รปู ภาพ ชีวประวัติ ภาพกราฟิก วิธที าสงิ่ ตา่ งๆ กฎระเบียบ คมู่ ือ แผนท่ี บล็อกสว่ นบุคคล รายการ กาหนดการ แบบฟอร์ม ตารางการทางาน หนังสอื พมิ พ์ รายงาน สง่ิ พมิ พอ์ อนไลน์ บนั ทึกข้อความ ตาราง กราฟ
๔ ถอ้ ยความ PISA มหี น้าตาอย่างไร สานวน ถ้อยความต่อเน่ือง รูปแบบของถอ้ ยความ ถ้อยความแบบผสม ของถอ้ ยความ ถอ้ ยความที่เขยี นติดตอ่ กัน ถอ้ ยความทีป่ ระกอบดว้ ย ถอ้ ยความไมต่ ่อเนือ่ ง การพรรณนา อาจแบง่ เปน็ ย่อหน้า ถอ้ ยความท่ีเป็นรูปภาพ ถอ้ ยความต่อเนื่อง ( Description) หรือหวั ขอ้ กไ็ ด้ รายการต่างๆ แบบฟอร์ม และ การบอกเล่า กราฟ และตาราง ถ้อยคาไม่ต่อเน่ือง ที่ตอบคาถามวา่ การรายงาน สาระในแบบ แผนผงั ครอบครัว แค็ตตาล็อก “อะไร” ขอ้ เขยี นร้อยแก้ว บตั รกานัล การบรรยาย เอกสารสาระสาคัญ ( Narration) แผนที่ภูมศิ าสตร์ การบอกเล่า ที่ตอบคาถามวา่ นยิ าย เรือ่ งสัน้ ชีวประวตั ิ การต์ ูนสั้นๆ “เมอ่ื ไร” รายงานข่าวในหนงั สือพิมพ์ ขอ้ ความขาขนั ส้นั ๆ การบอกเลา่ อธิบายเหตุผลชแ้ี จง การแนะนาหนงั สือ - แผนภาพแสดงตวั แบบของ ( Exposition) - เรยี งความส้ันๆเพื่ออธบิ าย ความจา การขยายความ แนวคิด - กราฟแสดงการเปลยี่ นแปลง ที่ตอบคาถามวา่ - การอธบิ ายความหมาย จานวนประชากร “อยา่ งไร” - การย่อความ -แผนผงั ความคดิ การโตแ้ ยง้ (Argumentation) จดหมายถงึ บรรณาธิการ การโฆษณา ชักชวน บอกเหตุผลวา่ ทาไม เพราะเหตใุ ด (หนังสอื พิมพเ์ มื่อมกี ารทกั ท้วง ประชาสมั พนั ธ์ คาสง่ั หรอื แสดงความคดิ เหน็ ) วิธีทาหรอื วิธปี ฏิบัติ วิธกี ารทาอาหาร รายการเคร่ืองปรงุ อาหาร ( Instruction) ( ขนั้ ตอน บอกวิธีการวา่ และวธิ กี ารทา ) จะต้องทาอะไร และอยา่ งไร
๕ กลยุทธก์ ารอ่าน PISA มอี ะไรบ้าง ช่ือกลยทุ ธ์ รายละเอียดของกลยทุ ธ์ ๑.ความสามารถเข้าถงึ หรอื พบตาแหนง่ ของสาระท่ตี ้องการ ในถอ้ ยความ การเขา้ ถึง ๒.ความสามารถดึงเอาสาระที่ตอ้ งการในถ้อยความออกมาได้ครบถ้วนและถกู ต้องสมบูรณ์ และค้นคนื สาระ (Retrieving ๑. ความเขา้ ใจสาระจากความสัมพันธใ์ นถ้อยความทีไ่ ด้อา่ น information) ๒.ความสามารถตีความ แปลความจากความสมั พันธใ์ นถ้อยความ ๓.ความสามารถคดิ วเิ คราะห์เน้ือหา และรปู แบบของถ้อยความโดยเชื่อมโยงสมั พันธ์กับสิ่ง การบูรณาการ ตา่ งๆ ตามสภาพความเป็นจริงในชีวติ หรือในโลกท่ีเปน็ อยู่ และตคี วาม ๑.ความสามารถประเมนิ ถ้อยความ ทงั้ ดา้ นรูปแบบและเนื้อหาอย่างมีวจิ ารณญาณดว้ ยการ (Interpretation นาความร้ทู ั่วไปจากภายนอก ในสง่ิ ที่คุ้นเคยหรือพบเสมอในชีวติ มาสร้างการเชอื่ มโยงกบั สง่ิ and interpret) ทไี่ ด้อ่าน ๒. ความสามารถแสดงความคิดเห็น ทง้ั ด้านรูปแบบและเน้ือหาด้วยการทาความเข้าใจ และ การสะทอ้ น ประยกุ ต์ใช้ความรทู้ ัว่ ไป จากภายนอกมา สรา้ งสมมตฐิ าน หรือต้ังเกณฑ์แล้วแสดงความคิด และประเมิน คลอ้ ยตาม ตั้งข้อสงสัย หรือโตแ้ ยง้ จากมุมมองของตน (Reflection and Evaluation) กลยทุ ธก์ ารอา่ น PISA จะตอ้ งทาอะไรบ้าง
๖ PISA มีรปู แบบคาตอบอยา่ งไร ๑. แบบเลือกตอบจากตวั เลือกธรรมดา ใหน้ ักเรยี นเลอื กคาตอบท่ถี กู ตัวเลือกเดียว จากตวั เลอื กหลายตัวเลือก ๒. แบบเลอื กตอบแบบเชงิ ซ้อน ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบท่ถี ูกหลายตัวเลอื ก และต้องเลอื กคาตอบ ทถ่ี ูกใหค้ รบจงึ จะได้คะแนน ๓. แบบคาถามสร้างคาตอบแบบอสิ ระ แบบคาถามสร้างให้นกั เรยี นเขียนคาตอบเอง คาตอบแบบอิสระต้องการมี ๒ แบบ คือ ๓.๑ การเขยี นคาตอบแบบสั้น หรอื แบบปิด ( Closed Constructed ) นกั เรยี นตอ้ งเขียนคาตอบอย่างทคี่ าถามคาดหวงั ไว้ จะตอบเปน็ อย่างอืน่ จะไม่ได้คะแนน ๓.๒ การเขียนคาตอบแบบอิสระ หรือแบบเปดิ ( Open Constructed ) นักเรยี นต้องสร้างคาตอบเองโดยไม่จากัดว่าจะต้องตอบแบบใด ในคาถามเดียวกนั นักเรียนต่างคนอาจ ตอบแตกตา่ งกนั เพราะอาจใชเ้ หตุผลทแ่ี ตกต่างกนั การอ่านตามแนว PISA ต่างกับการอา่ นในหลักสตู รฯอยา่ งไร การอ่านตาม กลยุทธ์การอ่านตามแนว PISA หลกั สตู รวิชาภาษาไทยฯ การเขา้ ถึง การบรู ณาการ การสะท้อน ๑. การจบั ใจความสาคญั ๒. และค้นคนื สาระ และตคี วาม และประเมิน ๓. การจาแนกขอ้ เทจ็ จริง √√√ และความคดิ เห็น ๔. การตีความ √√√ และการแปลความ √√√ ๕. ขอ้ คดิ —√ √ และประโยชนข์ องสง่ิ ทอ่ี ่าน ๖. การประเมินค่า —√ √ สถาบันภาษาไทย สานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: