BAKS FASHION PRESENTS วสั ดุอุปกรณใ์ นชวี ติ ประจาํ วัน จัดทําโดย ด . ญ . ธ น ช น ก จั น ท า ท อ ง ชัน ม.2/3 เลขที 27 เสนอ คุณครูภัทรราวรรณ อุธสิงห โรงเรยี นโพธิไ์ ทรพทิ ยาคาร
คํานํา หนังสอื เลม นี้เป็นสวนหน่ึงของรายวชิ า ว22103 เพ่ือการเรียนรใู นระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 การคน ควา เเละเขียน รายงานโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเพ้ือใหท ราบ รายงานเร่อื ง วัสดอุ ปุ กรณในชวี ิตประจาํ วนั เพ้ือใชประกอบในการเรียนการสอบ ถา มี ขอ ผิดพลาดประการใดตอ งขอโทษไว ณ ที่ นี้ดว ย
สารบญั หนา้ เรือง 4 5 ไมธ รรมชาติ 6 ไมประกอบ 7 โลหะกลมุ เหล็ก 9 โลหะนอกกลุมเหล็ก 10 เทอรโมพลาสตกิ 11 12 เทอรโมเซตตงิ้ พลาสตกิ 13 ยางธรรมชาติ ยางสงั เคราะห อา งอิง
ไม้ธรรมชาติ เป็นวัสดุจากธรรมชาตทิ ีม่ นุษยร ูจักนํามาใชนาน เเลว สมัยโบราณเม่ือยงั ไมมปี ริมาณมากเเละราคา ถกู มนุษยจ ะนําไมจ ากธรรมชาติมาสรา งที่อยู อาศยั เเละเคร่อื งมอื เคร่ืองใชต างๆ ตอ มาเม่อื ทีป ระชากรจาํ นาวนมากก็ย่งิ มีการนําไมจาก ธรรมชาติมาใชป ระโยชนมากข้ึนทาํ ใหปาไมถูกทาํ ลายเเละปริมาณไมของธรรมชาติเป็นวสั ดทุ ห่ี า ยากเเละมีราคาเเพง มนษุ ยจ งึ พยายามหาวสั ดุ อ่ืนๆ มาใชไ มผานมางกรรมวธิ ีการทางวศิ วกรรม เเตความนิยมใชไมธรรมชาติกย็ ังคงมีอยู โดย เฉพาะการนําไมม าใชท ําพ้ืนบา น
ไม้ประกอบ หมายถึง ผลิตภัณฑจากไมท ี่ยอยเป็นชนิ้ ไสเป็นฝอย หรอื เเยกเป็นเสน ใยเเลวนํา มาอัดรวมกันเขา เป็นชิน้ เป็นเเผน ทัน้ นี้ โดยจะมีวัตถเุ ช่ือมประสานดวยหรอื ไม ก็ได จัดเป็นอุตสาหกรรมทใ่ี ชไ มข นาด เลก็ ตลอดจนเศษไมปลายใหเ ป็น ประโยชนอยางสาํ คญั
โลหะกลุ่มเหลก็ เป็นวสั ดทุ ม่ี กี าํ ลังรบั เเรงมาก มีความ คงทนตอ อายกุ ารใชงาน หากมีการ บาํ รุงรกั ษาทด่ี ีเเละมีรูปทรงมาตราฐาน ทีเ่ เมนยาํ ไมเ ปล่ยี นเเปลงงา ย จงึ ถกู นํา มาใชง านดา นตา งๆ เชน เคร้อื งมือชาง ใชใ นการกอสราง
โลหะนอกกลุ่มเหล็ก คอื โลหะท่ีไมมเี หลก็ เป็นองคประกอบ สวนใหญ เชน ทอง เเดง,อะลูมเิ นียม,เเมกนีเซยี ม,สงั กะสี ฯลฯ ในทางวศิ วกรรมเเละอุตสาหกรรม จะใชโลหะนอกกลมุ เหลก็ ปริมาณท่ี น อยกวา โลหะในโลหะกลุม เหลก็ ดัง นัน้ จึงมกั ใชง านโลหะนอกกลมุ เหลก็ ในกรณีท่ีไมจําเป็ น
เทอรโ์ มพลาสติก เป็นพลาสติกทมี่ ตี ึดหลอมเหลว เเละมี จุดออ นตัว(เเตกตางจากเทอรโมเซ็ท พลาสตกิ มโี ครงสรางเเบบสายยาวหรือ เเบบสาขาสามารถนํากลบั มาใชใหมไ ด อกี เทอรโมพลาสตกิ จะมจี ดุ อิ่มตวั เเละหลอมเหลวเม่ือไดรับรับความรอ น เเละจะเกิดการเเขง็ ตัวเม่อื ทาํ ใหเยน็ ลง พลาสตกิ ที่เเข็งตัวเเลวสามารถนํา มาหลอมเหลมอกี ครงั้ ได
เทอร์โมเซตตงิ พลาสตกิ เป็นพลาสติกทีม่ คี ณุ สมบตั ิพิเศษ คอื ทนทานตอการเปล่ียนเเปลงอุณหภู มเิ เละทนปฏกิ ิริยาเคมไี ดดี เกิดคราบ เเละรอยเป้ือนไดย าก คงรูปหลังผาน ความรอ นหรอื เเรงดันเพียงครัง้ เดยี ว เม่ือเยน็ ลงจะเเข็งมาก ทนความรอน เเละความดนั ไมออ นตัวเเละเปล่ียวรูป รางไมไ ด
ยางธรรมชาติ คือ วัสดุพอลิเมอรทปี่ ระกอบดวย ไฮโดรเจนเเละคารบ อน เป็นวสั ดทุ ่ีมี ความยืดหยุนสูง ยางทีม่ ตี น กาํ เนิดจาก ธรรมชาตจิ ะมาจากของเหลวของพชื บางชนิด ซ่งึ มลี กั ษณะเป็นของเหลวสี ขาว คลา ยนํานมมสี มบตั ิเป็นคอลลอยด อนุ ภาคเลก็ มีตัวมตี ัวกลางเป็นนํา
ยางสังเคราะห์ การผลติ ยางสงั เคาระหจ ะผลิตโดย การทาํ ปฏกิ ิริยาพอลิเมอไรเซซัน (Polymerizaion) ซ่งึ การผลติ พอลิ เมอไรเซซันคือ ปฏิกริ ยิ าการเตรยี ม พอลเิ มอ (Palymer) โดยพอลิเมอร ในทน่ี ี้คือยางสังเคาระหท่ีตองการ ผลิต ในสวนของมอนอเมอรคือการ ตัง้ ตน ทําปฏิกริ ิยานัน่ เอง
อ้างอิง http://www.pd.co.th/th/article/detail/48/%E0%B8%9 E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0% B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%98% E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8 %8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E 0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9% 84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0 %B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84 %E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B 8%AB%Eม0%B9%8C http://www.trueplookpanya.com/blog/content /63977/ พ้hื ttp://materiam.blogspot.com/2008/09/ blog-post.html http://www.tcmetal2549.com/index.php? mo=10&art=415341
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: