ลม ฟ้า อากาศ

ลม ฟา้ อากาศ BY POONYAPORN SIRIPANICHPONNG

ลม ฟ้า อากาศ ลมฟา้ อากาศ หมายถงึ สภาวะของบรรยากาศในช่วงเวลาสั้น เชน่ อุณหภมู สิ ูงสุดในแตล่ ะวนั ปรมิ าณน้าฝนในชว่ งเวลา 4 ชั่วโมง เป็นต้น

ลม ฟ้า อากาศ ลม เกดิ จาก ความแตกต่างของอุณหภูมิ (ความกดอากาศ) ของอากาศใน 2 บริเวณ ลมจะพัดจากบรเิ วณท่ีมีความกดอากาศสูงเข้าสูบ่ รเิ วณทม่ี ีความกดอากาศต่า

ลม ฟ้า อากาศ  1. ลมประจา่ เวลา คือ ลมทเี่ กดิ ข้นึ ในชว่ งเวลาตา่ งกัน ลมทะเล คอื ลมทพี่ ัดจากทะเลข้ึนสู่พนื้ ดินและเกดิ ขนึ้ ในเวลา กลางวนั เน่อื งจากในเวลากลางวนั พื้นดนิ รอ้ นกว่าพนื้ น้า ท้าให้ ความกดอากาศเหนือพื้นดนิ ต่า้ กวา่ ความกดอากาศเหนอื พื้นน้า อากาศจงึ เคล่อื นทจี่ ากพนื้ น้าสพู่ นื้ ดิน

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟ้า อากาศ ลมบก คือ ลมที่พดั จากพนื้ ดนิ ออกสทู่ ะเลและเกิดขึน้ ในเวลา กลางคนื เน่อื งจากในเวลากลางคืนเยน็ กวา่ พ้นื น้า ท้าให้ความกด อากาศเหนือพื้นดนิ สงู กว่าความกดอากาศเหนอื พ้นื น้า อากาศจงึ เคลือ่ นท่จี ากพืน้ ดินไปสู่พนื้ นา้

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟา้ อากาศ  2. ลมประจ่าฤดู เป็นลมท่ีเกดิ ขึ้นเฉพาะท้องถน่ิ หน่งึ ๆ มบี ริเวณกวา้ งและเป็นลมท่ี พดั เป็นเวลานานตลอดฤดูของทุกปี ได้แก่ ลมมรสุม ซ่ึงเป็นลมที่มกี าร เปลยี่ นแปลงทศิ ทางของลมท่ีพัดจากฤดหู น่งึ ไปยงั อีกฤดหู นึง่ ในทิศทาง ตรงกนั ขา้ ม และเกดิ ข้นึ ในภูมิภาคเอเชยี ตะวนั ออก และเอเชยี ตะวนั ออก เฉยี งใต้ และเอเชียใต้ ลมมรสุมแบง่ ได้ 2 ชนิด คือ

ลม ฟา้ อากาศ มรสมุ สาเหตหุ ลกั มาจากความแตกตา่ งของอณุ หภูมอิ ากาศระหว่าง พ้นื ทวีปและมหาสมทุ ร โดยการสะสมหรือคายความร้อนของ พ้นื ทวีปหรือมหาสมทุ รในแตล่ ะฤดูซึ่งได้รับพลังงานจากดวง อาทติ ย์ แตกตา่ งกนั

ลม ฟ้า อากาศ  อทิ ธิพลจากมรสุมอาจมีความแตกตา่ งกนั ออกไปในแต่ละภมู ภิ าค โดยมรสุมท่สี า้ คัญแบง่ ออกได้เปน็ 2 แบบคือ มรสุมฤดหู นาว & มรสมุ ฤดูร้อน

ลม ฟ้า อากาศ  2.1 ลมมรสุมฤดูรอ้ นเกิดขนึ้ ในชว่ งฤดรู ้อน เนือ่ งจากภาคพน้ื ทวีป เอเชียมอี ากาศอบอนุ่ ข้ึน เพราะในช่วงน้ีโลกหนั ซกี โลกเหนือเข้าหา ดวงอาทติ ย์ ส่วนซกี โลกใตจ้ ะไดร้ บั แสงเฉยี งจากดวงอาทิตย์

ลม ฟ้า อากาศ อณุ หภูมิของอากาศลดต้่าลง เกิดหยอ่ มความกดอากาศต่า้ ทา้ ใหม้ วลอากาศร้อนและช้นื เกดิ หย่อมความกดอากาศ สูงขึน้ มหาสมทุ ร พ้ืนทวีป

ลม ฟ้า อากาศ มีแหลง่ กา้ เนดิ จากบรเิ วณความดนั อากาศสูงในซกี โลกใต้ บริเวณมหาสมุทรอนิ เดยี น้ามวลอากาศชนื้ จากมหาสมทุ ร อนิ เดียมาสู่ประเทศไทยเมอ่ื อากาศช้นื ปะทะกบั ชายฝัง่ และ ภูมปิ ระเทศซึ่งเป็นภเู ขาจะเกิดการควบแนน่ ทา้ ใหม้ เี มฆมาก และฝนชกุ ท่วั ไปโดยเฉพาะอย่างยง่ิ ตามบรเิ วณชายฝ่งั ทะเล และเทือกเขาดา้ นรับลมจะมฝี นมากกวา่ บรเิ วณอน่ื

ลม ฟา้ อากาศ ทิศทางของลมมรสมุ ฤดูรอ้ น

ลม ฟ้า อากาศ  2.2 ลมมรสมุ ฤดหู นาวหลังจากหมดอิทธิพลของมรสมุ ลมมรสมุ ตะวันตกเฉยี งใต้แลว้ ประมาณเดอื นตลุ าคมจนถึงกลางเดือน กมุ ภาพนั ธ์ ซึง่ ตรงกับฤดหู นาวของประเทศไทยจะมีลมมรสุม ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื พดั ปกคลุมประเทศไทย เป็นลมมรสมุ ที่พดั จากภาคพื้นทวีปลงสทู่ ะเล เป็นลมเยน็ และแห้ง

ลม ฟ้า อากาศ  ลมมรสมุ ฤดหู นาวเกิดขน้ึ เน่ืองจากในฤดูหนาวซีกโลกใตไ้ ดร้ ับ ความรอ้ นจากดวงอาทิตย์มากกวา่ ซีกโลกเหนอื อณุ หภูมขิ องพืน้ นา้ ในมหาสมุทรอนิ เดยี ตอนใต้เส้นศนู ยส์ ตู รลงมาจึงสงู กวา่ ภาคพืน้ ดนิ ซงึ่ ท้าให้เกดิ ลมมรสุมขน้ึ ในประเทศไทยรจู้ กั ลมมรสุมฤดหู นาวใน ชื่อ ลมมรสมุ ตะวันออกเฉยี งเหนือ

ลม ฟา้ อากาศ มีแหลง่ กา้ เนดิ มาจากบรเิ วณความดันอากาศสงู บนซีกโลก เหนือแถบประเทศมองโกเลยี และจีน จงึ พดั พาเอามวลอากาศ เยน็ และแห้งจากแหลง่ ก้าเนดิ มาปกคลมุ ประเทศไทย เปน็ ลม หนาว อากาศแหง้ แล้งมไี อนา้ นอ้ ย

ลม ฟา้ อากาศ เมอื่ พัดมายังประเทศไทยทา้ ใหภ้ าคเหนอื ภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนอื และภาคกลาง มีอากาศหนาวเย็น ยกเว้นภาคใตฝ้ ง่ั ตะวันออกจะมฝี นตก เน่อื งจากลมน้ีเมอื่ พัด ผ่านอ่าวไทยจะรับเอาไอน้าไว้ และเม่อื ขึน้ สู่ฝัง่ จึงน้าฝนมา ตกด้วย

ลม ฟา้ อากาศ ทิศทางของลมมรสมุ ฤดูหนาว

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟา้ อากาศ 3. ลมประจา่ ปหี รอื ลมประจ่าภมู ิภาคต่าง ๆ เปน็ ลมทีเ่ กดิ จากความกดอากาศท่ีมอี ยูเ่ ดิมตลอดปี เน่ืองจาก บริเวณขั้วโลกและบรเิ วณ เสน้ ศูนยส์ ตู รไดร้ ับความรอ้ นจากดวง อาทิตยไ์ ม่เท่ากัน ท้าใหเ้ กดิ ลมพัดผ่านส่วนต่าง ๆ ของโลก เป็น ประจา้ เช่น ลมสนิ ค้า

ลม ฟ้า อากาศ  ลมสินคา้ ตะวนั ออกเฉยี งใต้ คอื ลมทพ่ี ัดจากหย่อมความกดอากาศสงู กง่ึ ศูนย์สูตร ทางซกี โลกใต้เขา้ หาหยอ่ มความกดอากาศต้่าบริเวณเสน้ ศนู ย์ สูตร  ลมสินค้าตะวนั ออกเฉียงเหนอื คอื ลมท่ีพดั จากหย่อมความกดอากาศสงู กง่ึ ศูนยส์ ตู ร ทางซีกโลกเหนือเขา้ หาหย่อมความกดอากาศตา่้ บรเิ วณเส้น ศนู ยส์ ตู ร

ลม ฟา้ อากาศ ชนิดของลม 1. ลมประจา้ ถิน่ เป็นลมท่ีปรากฏเด่นชัดในบรเิ วณใดบริเวณ หน่ึง และในช่วงเวลาใดเวลาหนง่ึ โดยเฉพาะ ไดแ้ ก่ ลมมรสุม หรือลมประจา้ ฤดู ลมบกลมทะเล ลมภเู ขา ลมหุบเขา ลมสนิ ค้า เป็นต้น

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟ้า อากาศ 2. ลมพายฟุ า้ คะนอง เปน็ ลมพายุฝน เกดิ จากอากาศรอ้ นลอยตัวสงู ข้นึ ความกดอากาศต่้าลง จงึ ขยายตวั และเยน็ ลงจนไอนา้ ควบแน่นเปน็ ฝนตกลงมา ขณะท่ีฝนตกผา่ นอากาศ อากาศจะเยน็ ตวั และหดตวั เข้า หากันเกิดเปน็ ศนู ยก์ ลางของพายฝุ นขึ้น ขณะเกิดลมพายุฝนฟ้า คะนอง มกั จะเกิดลกู เห็บตกลงมาดว้ ยเสมอ

ลม ฟ้า อากาศ 3. ลมพายหุ มุนเขตรอ้ น เปน็ ลมท่พี ดั หมนุ เข้าสู่บรเิ วณจุด ศนู ยก์ ลางของหยอ่ มความกดอากาศต่า้ ในทศิ ทางทวนเข็ม นาฬกิ าโดยเกดิ ขน้ึ ตรงบรเิ วณเหนอื ทะเลหรือมหาสมทุ รใน เขตร้อนซึง่ อยู่ระหวา่ งละติจูด 30 องศาเหนอื และ 30 องศาใต้

ลม ฟ้า อากาศ  พายุหมนุ  ลมพายุ คือ ลมทพ่ี ดั ด้วยความเร็วสงู เพราะความกดอากาศในสอง บรเิ วณแตกต่างกนั มาก  เรยี กลมพายทุ หี่ มุนรอบจดุ ศูนย์กลางว่า พายุหมนุ

ลม ฟ้า อากาศ  1. พายุดเี ปรสช่นั เปน็ พายทุ ่ีมีความเร็วรอบศูนย์กลางเฉลีย่ ไมเ่ กนิ 63 กโิ ลเมตรต่อช่วั โมง ในบรเิ วณทีเ่ กดิ พายุหรือมพี ายชุ นิดนี้ เคลอื่ นทผ่ี ่าน ทอ้ งฟ้าจะมดื ครม้ึ และปกคลมุ ด้วยเมฆหนาทึบ มีฝน ตกปานกลางหรือตกหนักแผ่เป็นบริเวณกวา้ งและตกตดิ ต่อกันเป็น เวลานาน พายดุ ีเปรสช่ัน เปน็ พายุท่ีพดั มาถึงประเทศไทยมากที่สดุ

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟ้า อากาศ 2. พายโุ ซนรอ้ น เป็นพายหุ มนุ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในเขตร้อน มี ความเรว็ ลมรอบศนู ย์กลางระหว่าง 63 – 118 กโิ ลเมตรต่อ ชั่วโมง

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟา้ อากาศ 3. พายรุ นุ แรง มีความเรว็ ของลมรอบศูนย์กลางเกินกว่า 118 กิโลเมตรตอ่ ช่วั โมง มีช่อื เรยี กแตกต่างกันตามบรเิ วณทเ่ี กิด ดังนี้

ลม ฟา้ อากาศ 3.1 พายไุ ต้ฝุ่น เกดิ ในทะเลจีนใต้ ถ้าพดั ขึ้นฝ่งั ในทวปี อเมรกิ า เรียกวา่ พายุทอรน์ าโด

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟ้า อากาศ 3.2 พายไุ ซโคลน เกดิ ในอา่ วเบงกอลและมหาสมทุ รอนิ เดยี

ลม ฟา้ อากาศ 3.3 พายเุ ฮอร์รเิ คนหรือสลาตัน เกดิ ในมหาสมทุ ร แอตแลนติกเหนือ ทะเลแครบิ เบยี น อ่าวเม็กซโิ ก และทะเล ฝ่ังตะวันตกของอ่าวเม็กซโิ ก 3.4 พายวุ ลิ ลี – วลิ ลี เกดิ ในออสเตรเลีย

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟา้ อากาศ  พายุหมุนเขตร้อน พายุหมุนเขตรอ้ นจะก่อตัวขึ้นในบรเิ วณร่องความกดอากาศ ตา่ แถบศูนย์สตู ร คอื ในบรเิ วณละติจดู 8 องศาหรอื 15 องศาเหนอื และใต้ อณุ หภูมิทีจ่ ะเกิดไดต้ อ้ งมอี ุณหภมู ทิ ี่พนื้ น้าทะเลสูงกว่า 27 องศาเซลเซียส

ลม ฟา้ อากาศ  พายุหมุนเขตรอ้ นเป็นพายุหมุนทีม่ ีศนู ย์กลางความกดอากาศตา้่ ที่ลม บดิ เป็นเกลียวมีความเร็วลมมาก และท่าใหเ้ กิดฝนตกหนกั มขี นาด เส้นผ่านศูนย์กลาง 150 ถึง 500 กิโลเมตร ความเรว็ ลม 120 ถงึ 200 กโิ ลเมตร

ลม ฟ้า อากาศ ความเรว็ ลมสงู สุดใกล้ ศูนยก์ ลาง  การเรียกชอ่ื ประเภท ลักษณะของพายุ (กโิ ลเมตร/ชั่วโมง) พายุหมนุ 1. พายุ ไมเ่ กนิ 63 พายุท่ีมีกา้ ลังอ่อน ดีเปรสชัน่ 63 – 118 มฝี นตกปานกลางถงึ 2. พายโุ ซน มากกว่า 118 ตกหนกั รอ้ น มีฝนตกหนกั 3. พายไุ ตฝ้ นุ่ มฝี นตกหนักมาก ลมพดั แรง

ลม ฟ้า อากาศ  ขั้นตอนแรกของการเกิดพายหุ มนุ เขตรอ้ น คือ การก่อตัวเปน็ หย่อม ความกดอากาศต่้าอย่างแรง ทีเ่ กิดขน้ึ ในกระแสลมค้า ที่พัดจาก ตะวนั ออกไปตะวันตก ซึ่งมีกระบวนการพาความร้อนเกดิ ขึน้ เนอื่ งจากพัดผ่านพ้ืนนา้ ที่อนุ่ มาก ท้าใหก้ ารระเหยเกดิ ขึ้นอยา่ ง รวดเรว็ ในน้าทีม่ ีอณุ หภูมิสูงกวา่ ๒๖ - ๒๗ องศาเซลเซยี ส

ลม ฟา้ อากาศ  ขณะท่อี ากาศลอยสูงขึ้นไป ไอนา้ ก็จะกล่นั ตวั เป็นหยดน้าเล็ก เปน็ สว่ นหนึง่ ของเมฆ และในขณะเดียวกนั กป็ ลดปลอ่ ยพลังงานแฝง จา้ นวนมากสู่บรรยากาศ นอกจากน้อี ากาศอุน่ เหนอื พน้ื ทะเลท่ี เคล่ือนตวั ลอยสูงขึ้นไปดังกลา่ ว ทา้ ให้เกดิ บริเวณความกดอากาศต้า่ ใกล้พนื้ น้า

ลม ฟา้ อากาศ ซึ่งเป็นตัวการ ท้าใหเ้ กดิ ลมที่หมนุ พดั พาเข้าสู่บรเิ วณดังกลา่ ว ลมทห่ี มุนจะพดั หอบเอาอากาศที่มคี วามช้ืนสงู จากพน้ื มหาสมุทรอยา่ งต่อเนอ่ื ง สนบั สนนุ การเกิดพายุหมนุ ได้ แลว้ พฒั นาตอ่ ไปเปน็ พายุดีเปรสชนั พายเุ ขตร้อน และพายไุ ตฝ้ ุน่ ตามความแรงของลมหมุนน้ี

ลม ฟ้า อากาศ  บรเิ วณตา่ งๆ ของโลก ที่เกดิ พายุหมนุ เขตร้อน แนวลกู ศรแสดงเส้นทางที่ พายมุ กั เคลอ่ื นตวั ไป

ลม ฟา้ อากาศ  บรเิ วณทเ่ี กดิ พายุหมนุ เขตร้อน ไดแ้ ก่ 1. แถบหมเู่ กาะอนิ ดสิ ตะวันตก ทะเลแครบิ เบียน และอ่าวเม็กซโิ ก 2. ทางดา้ นตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟกิ เหนอื รวมทะเลจีนใต้ หมเู่ กาะ ฟิลิปปนิ ส์ และหมู่เกาะญ่ีปนุ่ 3. ทางดา้ นตะวนั ตกของมหาสมทุ รแปซิฟกิ ใต้รวมหม่เู กาะฟิจิ และ ชายฝ่ังด้านตะวนั ออก ของทวีปออสเตรเลยี

ลม ฟ้า อากาศ 4. ชายฝั่งมหาสมทุ รแปซฟิ ิกทางดา้ นตะวันออกของเมก็ ซโิ ก และสหรฐั อเมรกิ า 5. มหาสมุทรอนิ เดียแถบเกาะมาดากัสการ์ 6. ทะเลอาหรบั และอา่ วเบงกอล

ลม ฟา้ อากาศ

ลม ฟ้า อากาศ  พายุฟ้าคะนอง  พายุฟ้าคะนอง จะเกดิ ขน้ึ บ่อยมากในเขตรอ้ น บางทเี รยี กวา่ พายุไฟฟา้ โดยทั่วไปเปน็ พายุเฉพาะท้องถ่ิน พายนุ ีม้ กั เกิดบริเวณ ทมี่ ีอากาศรอ้ นชืน้ เช่น ในเดอื นพฤษภาคมของประเทศไทย เป็น ฤดูฝน

ลม ฟ้า อากาศ  การเกิดพายุฟ้าคะนอง แบ่งออกได้เปน็ 3 ขน้ั ตอน ดังน้ี  1. ขน้ั เร่มิ กอ่ ตวั เปน็ ข้นั เริ่มต้นมีลักษณะเมฆเป็นแบบ ควิ มูลสั ทก่ี ้าลังจะพฒั นาเป็น เมฆควิ มูโลนิมบัส ในขั้นนจ้ี ะมกี ระแส ลมพดั ขึน้ ตามแนวตง้ั ตลอดต้ังแตฐ่ านเมฆไปจนถึงยอดเมฆ ความเร็วลมทพ่ี ัดข้นึ ไปอาจแรงถึง 10 กิโลเมตรตอ่ ช่ัวโมง บางคร้งั อาจถึง 50 กโิ ลเมตรต่อชวั่ โมง