การออกแบบทางเทคโนโลยี ปุณณพฒั น์
การออกแบบทางเทคโนโลยี เป็นการลาดบั ความคิด หรือจินตนาการเป็นข้นั ตอน นาไปสู่การวางแผนแกป้ ัญหา หรือสนองความตอ้ งการ ในข้นั ตอนการลาดบั ความคิด หรือจินตนาการน้ี จะสามารถสื่อสารความคิดใหผ้ อู้ ่ืน รับทราบไดโ้ ดย “การถ่ายทอดความคิด” เน่ืองจากความตอ้ งการ หรือปัญหาของแต่ละบุคคลมี ความแตกต่างกนั ไปตามปัจจยั ที่เก่ียวขอ้ ง เช่น ลกั ษณะ ทางกายภาพของร่างกายมนุษย์ เพศ อายุ อาชีพ ความพึง พอใจ ดงั น้นั สิ่งของเคร่ืองใชต้ ่าง ๆ จึงตอ้ งออกแบบใหม้ ี หนา้ ท่ีใชส้ อยที่เหมาะสมต่างกนั ออกไป เพอ่ื แกป้ ัญหา หรือสนองความตอ้ งการในแนวคิดของแต่ละคน โดย ถ่ายทอดความคิดออกมาในลกั ษณะของการวาดภาพ ซ่ึง เป็นการสื่อสารที่ชดั เจนและเขา้ ใจตรงกนั เน่ืองจาก รูปภาพสามารถอธิบายใหร้ ายละเอียดท่ีเป็นรูปธรรม มากกวา่ คาพดู การวาดภาพเพือ่ การส่ือสารจาเป็นตอ้ ง เรียนรู้ และเขา้ ใจหลกั การวาดภาพ เพื่อใชเ้ ป็นเคร่ืองมือใน การสื่อสารความคิดหรือแนวทางการแกป้ ัญหาหรือสนอง ความตอ้ งการอยา่ งสร้างสรรค์
กลไก กลไก (Mechanism) หมายถึง ส่ิงท่ีทาใหร้ ะบบมีการ ขบั เคลื่อนหรือดาเนินอยไู่ ด้ โดยมีการจดั สรรทรัพยากร มี การจดั องคก์ าร หน่วยงาน หรื อกลุ่มบุคคลเป็ นผู้ ดาเนินงาน ลอ้ และเพลา เป็นกลไกอยา่ งง่ายท่ี ช่วยผอ่ นแรงในการทางานประกอบดว้ ย วตั ถุที่เป็นวงกลม หรือทรงกระบอก 2 อนั ที่มี ขนาดแตกต่างกนั และอยู่ ติดกนั โดยวตั ถุ ท่ีมีขนาด ใหญ่กวา่ เรียกวา่ ลอ้ และ วตั ถุท่ีมีขนาดเลก็ กวา่ เรียกวา่ เพลา เม่ือลอ้ หรือ เพลาหมุน จะทาใหอ้ ีกส่วนหมุนตามเรานาหลกั การลอ้ และ เพลามาประยกุ ตใ์ ชใ้ น 2 ลกั ษณะ คือ
1. ผอ่ นแรงโดยการหมุนลอ้ จะทาใหเ้ พลาหมุน เช่น ไขควง ลูกบิดประตู กวา้ นตกั น้า ที่เปิ ดกระป๋ องพวงมาลยั รถยนต 2. เม่ือออกแรงหมุนเพลา จะทาใหล้ อ้ หมุน เช่น พดั ลม ลอ้ รถยนต์ ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์เบื้อต้้น ไฟฟ้า คือ พลงั งานรูปหน่ึงซ่ึงเก่ียวขอ้ งกบั การ แยกตวั ออกมา หรือการ เคลื่อนท่ีของอิเลก็ ตรอน หรือ โปรตอน หรืออนุภาคอ่ืนที่มีสมบตั ิแสดงอานาจ คลา้ ยคลึงกบั อิเลก็ ตรอนหรือโปรตอน ใชป้ ระโยชน์ ก่อใหเ้ กิดพลงั งานอื่น เช่น ความร้อน แสงสวา่ ง การ เคล่ือนที่
อิเลก็ ทรอนิกส์ เป็นเทคโนโลยที ่ีเก่ียวขอ้ งกบั วงจรไฟฟ้าท่ีประกอบดว้ ยอุปกรณ์ไฟฟ้าท่ีเป็น active component เช่นหลอดสูญญากาศ, ทรานซิสเตอร์, ไดโอด และ Integrated Circuit และ ชิ้นส่วน พาสซีฟ (องั กฤษ: passive component) เช่น ตวั นาไฟฟ้า, ตวั ตา้ นทานไฟฟ้า, ตวั เกบ็ ประจุ และคอยล์ พฤติกรรมไม่เชิงเสน้ ของ active ... ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์เป็นส่ิงท่ีมีความสมั พนั ธ์ กนั ในการสร้างเครื่องไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในเครื่องไฟ้า น้นั จะมีอุปกรณ์ท่ีเชื่อมต่อกนั อยู่ มีส่วนท่ีทาให้ กระแสไฟฟ้าผา่ นครบวงจร เรียกวา่ วงจรไฟฟ้า ซ่ึง ประกอบดว้ ย อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ เชื่อมต่อกนั ภายในดว้ ยวธิ ีที่แตกต่างกนั ข้ึนอยกู่ บั ชนิดและหนา้ ที่ ของอุปกรณ์น้นั เพอ่ื ทาหนา้ ท่ีควบคุมปริมาณ หรือ ทิศทางของกระแสไฟฟ้าหากขาดไฟฟ้ากจ็ ะทาให้ อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์ไม่สามารถทางานได้
1.แหล่งกาเนิดไฟฟ้า คือ แหล่งกาเนิดที่ทาใหเ้ กิด ความต่างศกั ยไ์ ฟฟ้าระหวา่ งปลายท้งั สองของตวั นาอยู่ ตลอดเวลาและทาใหเ้ กิดกระแสไฟฟ้าผา่ นตวั นาอยู่ ตลอดเวลา ไดแ้ ก่ ถ่านไฟฉาย แบตเตอร่ี เครื่องกาเนิด ไฟฟ้า เป็นตน้ แหล่งกาเนิดไฟฟ้า ที่ควรทราบมีดงั น้ี ... คร่ืองกาเนิดไฟฟ้า 2.ตวั นาไฟฟ้า เป็นวตั ถุหรือประเภทของวสั ดุท่ีให้ ประจุไฟฟ้าไหลผา่ นไดห้ น่ึงหรือหลายทิศทาง ตวั อยา่ งเช่น สายหุม้ ฉนวนเป็นตวั นาไฟฟ้า เพราะ สามารถนาไฟฟ้าไดต้ ามแนวยาว แต่ไม่ขา้ มความกวา้ ง 3.อปุ กรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใชไ้ ฟฟ้า คือ อุปกรณ์ที่ เปล่ียนพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานรูปอ่ืน เพื่อนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ไดแ้ ก่ - อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใหค้ วามร้อน - อุปกรณ์ไฟฟ้าท่ีใหพ้ ลงั งานกล - อปุ กรณ์ไฟฟ้าท่ีใหพ้ ลงั งานเสียง
สัญลกั ษณ์วตจรไฟฟ้า
วสั ดุ หรือ วตั ถดุ ิบ (material) เป็นแก่นสารทางวตั ถุท่ี ใชใ้ นกระบวนการผลิต เป็นวตั ถุในข้นั แรกท่ีไดม้ าจาก แหล่งวตั ถุดิบก่อนจะนาไปแปรรูปเป็นผลิตผล สาหรับ การอุปโภคหรือบริโภค ประเภทของวสั ดุ อาจจาแนก ตามสสารท่ีประกอบเป็นวสั ดุ เช่น ไม้ กระดาษ กระจก ปูนซิเมนต์ หรือ จาแนกตามการใชง้ านเช่น วสั ดุก่อสร้าง วสั ดุอุตสาหกรรม วสั ดุตกแต่ง
วสั ดุมีอยหู่ ลายประเภท ท้งั จากธรรมชาติ และมนุษยส์ ร้าง ข้ึนหรือท่ีเรียกวา่ \"วสั ดุสงั เคราะห์\"วสั ดุบางประเภทอาจ นามาใชไ้ ดท้ นั ทีโดยไม่มีการแปรรูป หรือมีการแปรรูปให้ เหมาะสมต่อการนาไปใชง้ านโดยกระบวนการในการแปรรูป จะแตกต่างกนั ตามเหมาะสมของสมบตั ิวสั ดุ และความ ตอ้ งการในการใชง้ าน ในอดีตวสั ดุประเภทต่างๆ ยงั มีไม่มาก มนุษยจ์ ึงใชว้ สั ุดที่มาจากธรรมชาติ เช่น ดิน หิน ทราย เขาสตั ว์ หนงั สตั ว์ ใบไม้ นามาสร้างเป็นสิ่งของเคร่ืองใช้ ต่อมาไดม้ ี การนาวสั ดุมาพฒั นาเพ่ือนาไปใชป้ ระโยชนไ์ ดม้ ากข้ึน เช่น โลหะ ไม้ เซรามิก คอมโพสิต และวสั ดุใหม่
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: