แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เวลา 8 ชั่วโมง หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การเขียนโปรแกรมอยา่ งงา่ ย เวลา 4 ชั่วโมง เร่ือง การเขยี นโปรแกรมสง่ั ให้ตัวละครทำงาน 1.สาระสำคญั การเขียนโปรแกรม หมายถงึ การเขียนชุดคำสัง่ ด้วยภาษาทางคอมพวิ เตอร์ เพอ่ื แสดงลำดับข้ันตอนให้ คอมพิวเตอร์ โดยการเขียนโปรแกรม ควรมีลำดับการเขียนที่เรียงลำดับชัดเจน เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงาน ตามที่สั่ง และตามเงื่อนไขที่กำหนดได้อย่างถูกต้อง โดยเรามักเรียกขั้นตอนการเขียนโปรแกรมว่า การโค้ดด้ิ ง (Coding) การเขียนโปรแกรมสั่งให้ตัวละครทำงานซ้ำไม่สิ้นสุด โดยทั่วไปการทำงานของโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จะทำงานเรยี งตามลำดับ ต้ังแตค่ ำสั่งแรกไปถงึ คำสงั่ สดุ ท้าย แตเ่ ราสามารถใหค้ อมพวิ เตอร์ ทำงานซ้ำ ๆ ท่ีชดุ คำสัง่ ใดกไ็ ด้ โดยใช้คำส่งั ควบคุมใหท้ ำงานซ้ำ เรยี กว่าคำส่ังลูป (Loop) 2. ตวั ชี้วัด ป.3/2 เขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย โดยใช้ซอฟตแ์ วร์หรือสื่อ และตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดของโปรแกรม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ อธิบายขั้นตอนการเขยี นโปรแกรมและการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำสั่งใหต้ วั ละครทำงานในสถานการณ์ที่ กำหนดได้ (K) แสดงขั้นตอนการเขยี นโปรแกรมสั่งใหต้ วั ละครทำงานซ้ำไม่สน้ิ สุดได้ (P) เหน็ ประโยชน์ของการใช้คำสั่งลูปในการทำงานแบบวนซำ้ ได้ (A) 4.การวดั และการประเมนิ ผล จุดประสงค์ วิธีการประเมิน เครือ่ งมือการประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ 1.อธิบายขั้นตอนการเขยี น ตรวจใบงานที่ 2.1.1 แบบประเมินใบงานท่ี นกั เรียนเขยี นอธิบาย โปรแกรมและการเขียน เขยี นคำสัง่ ขัน้ ตอนการ 2.1.1 ลำดับข้ันตอนการทำงาน โปรแกรมแบบวนซ้ำสงั่ ให้ตัว นับเหรียญ ของโปรแกรมได้ในระดับ ละครทำงานในสถานการณ์ที่ คณุ ภาพ พอใช้ขน้ึ ไป ถือ กำหนดให้ได้ (K) ว่าผา่ น 2.แสดงขน้ั ตอนการเขียน ตรวจแบบฝกึ หดั หน้า 21 แบบประเมนิ แบบฝกึ หดั นักเรียนแสดงขน้ั ตอน โปรแกรมสั่งให้ตวั ละครทำงาน - 25 (การเขียน (การเขยี นโปรแกรมสัง่ การใชค้ ำสัง่ การทำงาน ซ้ำไมส่ ้นิ สุดได้ (P) โปรแกรมสง่ั ใหต้ วั ละคร ใหต้ ัวละครทำงานซ้ำไม่มี ซำ้ ไดใ้ นระดบั คุณภาพ ทำงานซำ้ ไม่มีสนิ้ สดุ ) สิ้นสุด) พอใช้ขึน้ ไป ถือว่าผา่ น 3.เห็นประโยชนข์ องการใช้ ประเมินการนำเสนอ แบบประเมินการ นักเรยี นบอกประโยชน์ คำส่งั ลปู ในการทำงานแบบวน เรอ่ื ง โปรแกรมชว่ ยให้ นำเสนอ ของการใชค้ ำส่ังลูปใน ซำ้ ได้ (A) ชวี ิตง่ายขนึ้ การทำงานแบบวนซำ้ ได้ ในระดบั คุณภาพ พอใช้ ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่าน
5. สาระการเรยี นรู้ 1) การเขียนโปรแกรม 2) การเขียนโปรแกรมส่ังใหต้ ัวละครทำงานซ้ำไมส่ ิ้นสุด 6.แนวทางการบรูณาการ ภาษาไทย การเรยี งลำดบั ตวั อักษรก-ฮ การอ่าน การสรุป การอภปิ ราย สังคมศึกษา การปฏิบตั ิกจิ กรรมตามหนา้ ท่ีและการปฏิบัติกจิ กรรมเปน็ กลมุ่ คณติ ศาสตร์ การจำแนกเหรยี ญประเภทต่างๆ สขุ ศกึ ษา การพฒั นากระบวนการฝึกทักษะสมอง การงานอาชพี ดูแลรักษาอปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ ศิลปะ วาดรปู หาความร้จู ากสอ่ื ชว่ ยสอน เกมต่างๆ 9. การจดั กระบวนการเรียนรู้ 1.ขน้ั นำ กระตุ้นความสนใจ (20 นาท)ี 1. นักเรยี นทำกจิ กรรมลองทำดู ในแบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 หนา้ 18 เพอ่ื เป็นการทบทวนความรเู้ ดิมก่อนเขา้ สบู่ ทเรียน 2. ครนู ำนักเรยี นสนทนาทบทวนความรู้เรอื่ ง การเขยี นคำสงั่ ให้โปรแกรมทำงานอยา่ งเป็นลำดับข้ันตอน (Algorithm) โดยเปิดวดี ทิ ศั น์ https://www.youtube.com/watch?v=cDA3_5982h8 ให้นกั เรยี นดูและร่วมกันสรปุ ความร้ทู ี่ไดจ้ ากวดี ีโอวา่ “ในการที่เราจะเขยี นคำสง่ั ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน ได้นน้ั เราจำเปน็ อย่างย่งิ ทีจ่ ะต้องเขียนลำดับข้นั ตอนการทำงาน หรอื อลั กอริทึม (Algorithm) ออกมาให้ชดั เจน เพอ่ื ลดปญั หาหรือการทำงานทผี่ ิดพลาด อลั กอริทึมท่ีดีควรมีลำดบั ขั้นตอนการ ทำงาน ทงั้ ก่อนและหลังทีช่ ัดเจน เขา้ ใจลำดับขั้นตอนงา่ ยและไม่กำกวม” 3. ครูถามคำถามประจำหัวข้อ การเขียนโปรแกรมสั่งให้ตวั ละครทำงาน หน้า 27 ในหนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ว่า “การเขยี นโปรแกรมมี ประโยชนใ์ นชีวติ ประจำวันอย่างไรบา้ ง” 2. ขัน้ สอน สำรวจค้นหา (20 นาท)ี 1. ครนู ำนักเรียนศึกษาเน้ือหาในหนงั สอื เรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 2 เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมส่งั ใหต้ ัวละครทำงาน หน้า 27–28 โดย การเขียน โปรแกรม หมายถึง การเขยี นชุดคำสั่งดว้ ยภาษาคอมพวิ เตอร์ เพ่ือแสดงลำดับขน้ั ตอนให้คอมพวิ เตอร์ หรอื ตวั ละครทำงานตามทอี่ อกแบบไว้ เรียกขน้ั ตอนการเขียนโปรแกรมน้ีว่า การโค้ดดิง้ (Coding) 2. แบ่งกลมุ่ นักเรียนในห้องเรยี น ออกเปน็ 2 กลุม่ ครูเตรียมบัตรคำสง่ั (ไปข้างหน้า 20 แผน่ หันซ้าย 10 แผ่น หันขวา 10 แผ่นหรอื ตามจำนวนนักเรียน) โดยแบ่งบัตรคำสง่ั ให้กลุม่ ละเท่า ๆ กนั ใหน้ ักเรยี น แบง่ กล่มุ 2 กลุ่ม จากนนั้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ วางโปรแกรมคำส่ังเพอ่ื สั่งให้เจ้าซอมบ้เี ดินไปเก็บดอกทานตะวนั จากสถานการณ์ตัวอยา่ งตามภาพท่ี 2.3 หน้า 29 ในหนงั สือเรยี น โดยมีบตั รคำส่งั ดังน้ี
3. ครชู ีใ้ ห้นักเรียนเห็นว่า วางบัตรคำสงั่ แบบไหนถูกต้อง จากนั้นครบู อกกับนกั เรียนว่า “เราสามารถ ตรวจคำตอบไดอ้ ีกวธิ ีหนง่ึ คอื การลองทำในเวบ็ ไซต์ Code.org” อธิบายความรู้ (20 นาที) 4. ครใู หน้ ักเรยี นเปิดเว็บไซต์ Code.org เพอื่ เขา้ สูร่ ะบบ แล้วเขา้ ไปทรี่ ายการหลักสูตร โดยเลอื ก คอรส์ 3 อายุ 8–18 ปี มีบทเรยี น 21 บทเรียน 5. ครนู ำนักเรียนศึกษาเน้ือหาในหนังสือเรยี น รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมสัง่ ให้ตัวละครทำงาน (1.1ข้ันตอนการ เขียนโปรแกรม) หน้า 29 – 30 และครูช้ีแจงในส่วนของเกร็ดนา่ รูใ้ หน้ กั เรยี นฟงั ในหน้า 30 ควบคู่กบั การสอนเขียนโปรแกรมในเว็บ Code.org ไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนน้ีให้ครนู ำนกั เรยี นเขียนโปรแกรมไป ถึงบทท่ี 2 เขาวงกต ตอนที่ 4 6. ครูนำนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายสรุปความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการจดั กิจกรรม ตัวอย่างประเด็นการอภิปราย - ถา้ ต้องการส่ังให้ซอมบี้เดินไปข้างหน้า 5 ครง้ั จะต้องวางคำสง่ั อยา่ งไร (แนวคำตอบ / วางคำสั่งไป ข้างหนา้ จำนวน 5 บลอ็ ก) - แตถ่ ้านักเรียนต้องการวางคำสัง่ ไปขา้ งหน้า 100 ครั้ง นกั เรยี นกต็ ้องเสียเวลาในการวางคำสั่งไป ขา้ งหน้า จำนวน 100 บลอ็ ก แตใ่ นทางการเขียนโปรแกรมแลว้ มคี ำสัง่ โดยการใชบ้ ล็อก \"ทำซ้ำ (Loop)\" เพื่อชว่ ยให้สามารถแกป้ ัญหาได้อย่างรวดเรว็ ย่ิงข้ึน 7. นกั เรียนทำแบบฝึกหดั รายวิชาพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการ เรียนรู้ท่ี 2 หนา้ 19-20 เร่อื ง การเขียนโปรแกรมส่งั ให้ตัวละครทำงาน หรือครูอาจให้นักเรียนทำเปน็ การบา้ น อธบิ ายความรู้ (20 นาที) 1. ครนู ำนักเรยี นสนทนาทบทวนความรเู้ ดมิ ในเรื่อง การเขียนโปรแกรมสั่งใหต้ ัวละครทำงาน (1.1 ขัน้ ตอนการเขยี นโปรแกรม) ในคาบทีผ่ ่านมา 2. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 2.1.1 เขียนคำส่งั ขนั้ ตอนการนบั เหรียญ จากนน้ั ให้เพ่ือนร่วมชั้นทำตามคำสงั่ ท่ี ตนเองเขียนเพ่ือเป็นการตรวจคำสง่ั ว่าถูกต้องและชัดเจนหรือไม่ และใหน้ ักเรียนอธบิ ายข้ันตอนการ เขียนโปรแกรมจากสถานการณท์ ี่กำหนดให้ 3. ครสู ุม่ นักเรยี น 3–5 คน มาอธิบายแนวคิดในการเขยี นคำส่งั ควบคมุ การนับเหรียญจากใบงานที่ 2.1.1 4. ครชู ใ้ี ห้นกั เรียนเห็นวา่ “เม่ือมีการใชบ้ ล็อกคำสงั่ แบบเดมิ ซ้ำกนั ในลกั ษณะเรียงต่อกัน ควรเปลีย่ นมาใช้ บลอ็ กคำส่ังทำงานซำ้ แทน โดยการกำหนดตัวเลขตามจำนวนรอบท่ที ำซ้ำจะช่วยใหก้ ารเขียนโปรแกรม งา่ ยและสะดวกมากยง่ิ ข้ึน” ขยายความเข้าใจ (40 นาท)ี 5. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการ คำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เร่ือง การเขียนโปรแกรมสงั่ ให้ตัวละครทำงาน (1.1การเขยี น
โปรแกรม)หนา้ 31 ควบคู่กบั การสอนเขียนโปรแกรมในเว็บ Code.org ไปพร้อม ๆ กนั ในส่วนนีใ้ ห้ ครนู ำนกั เรียนเขียนโปรแกรมไปถึงบทที่ 2 เขาวงกต ตอนท่ี 5 ไปจนถงึ บทท่ี 3 ศิลปนิ 6. นกั เรียนทำกจิ กรรมฝึกทกั ษะ ในหนังสอื เรยี น รายพืน้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 หนา้ 32-33 7. ครูนำนักเรียนศึกษาเนื้อหาในหนังสอื เรยี น รายวิชาพ้นื ฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมส่งั ให้ตวั ละครทำงาน (1.2 ตวั อยา่ งการเขียนโปรแกรม สง่ั ให้ตวั ละครทำงานซำ้ ไมส่ ิ้นสุด) หนา้ 34 –35 โดยครูตัง้ คำถามทา้ ทายการคิดข้ันสูงกับนกั เรยี นวา่ “เมื่อโปรแกรมท่ีเขยี นคำสง่ั เกิดขอ้ ผดิ พลาด ทำให้การสั่งงานไม่เปน็ ไปตามที่ตอ้ งการ นกั เรียนมีวธิ ีใน การแก้ปัญหานี้อย่างไร” 8. ครูนำนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ ความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการจดั กิจกรรม ตัวอย่างประเด็นการอภปิ ราย คำส่ังลปู (Loop) คืออะไร (แนวคำตอบ / คำสงั่ ควบคุมใหท้ ำงานซำ้ ในส่วนที่เรากำหนด) ให้นกั เรียนดู ภาพปรศิ นาและชว่ ยกนั เขยี นคำสงั่ โดยใช้บล็อกคำส่ังทก่ี ำหนดให้ (แนวคำตอบ ภาพด้านลา่ ง) 9. นักเรียนทำแบบฝึกหัดรายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 หน้า 21-22 เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมสง่ั ให้ตัวละครทำงานซ้ำไมม่ ีส้ินสดุ หรอื ครูอาจใหน้ ักเรยี นทำเปน็ การบ้าน ตรวจสอบผล (20 นาที)
ขยายความเขา้ ใจ (60 นาท)ี 1. ครนู ำนกั เรียนสนทนาทบทวนความรู้เดมิ ในเร่ือง การเขยี นโปรแกรมส่ังให้ตัวละครทำงาน (1.2ตวั อย่างการเขียนโปรแกรมส่งั ใหต้ วั ละครทำงานซำ้ ไม่ส้ินสุด) ในคาบท่ผี ่านมา 2. นกั เรียนเขียนโปรแกรมในเว็บ Code.org จากบทท่ี 5 ศิลปิน: Functions ไปจนถึงบทท่ี 13 ผงึ้ : ลปู ซอ้ นลปู (Nested Loops) ในระหว่างนคี้ รอู าจจะแทรกความรใู้ นเรื่อง เง่ือนไข คือ ข้อกำหนด ขอ้ บงั คบั หรอื กฎเกณฑ์ท่ใี ชร้ ่วมกนั 3. นักเรียนทำกิจกรรมฝกึ ทักษะ ในหนงั สอื เรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการ คำนวณ) ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 หน้า 36 ลงในสมุด 4. ครสู ่มุ นกั เรียน 3 –5 คน มาอธิบายแนวคิดในการเขียนคำส่ังเพ่ือพาซอมบี้เดินทางไปยังดอกทานตะวัน จากในกิจกรรมฝกึ ทกั ษะ ในหน้า 36 5. ครูนำนักเรียนรว่ มกันอภิปรายสรุปความรู้ทไี่ ดจ้ ากการจดั กิจกรรม ตัวอย่างประเดน็ การอภิปราย ใหน้ กั เรยี นยกตัวอย่างเงื่อนไข ทพ่ี บเหน็ ในชีวิตประจำวนั (แนวคำตอบ / เง่ือนไขในการเล่นเกม เชน่ เลน่ เกมไม่เกินวนั ละ 5 นาที จะได้รับเพชร จำนวน 10 เม็ด, เงอื่ นไขในการเข้าใชง้ าน Facebook ต้องมีอายุไม่ ต่ำกว่า13ปี เป็นต้น) ครเู ปิดประเด็นกับนกั เรียนวา่ “ครูใหน้ ักเรียนลองนำความรเู้ กี่ยวกบั การเขียนโปรแกรม โดยนำคำสงั่ ลูป และเง่ือนไข มาประยุกตใ์ ชใ้ นการแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวันวา่ จะสามารถเขยี นโปรแกรมแกป้ ญั หาใดได้ บ้าง แลว้ คาบตอ่ ไปมาพูดคยุ แลกเปล่ียนกนั ” 6. นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 หนา้ 23-25 (การเขยี นโปรแกรมส่ังให้ตัวละครทำงานซ้ำไม่มีสิ้นสดุ ) หรือครูอาจ ให้นกั เรียนทำเป็นการบ้าน 1.ครนู ำนักเรยี นสนทนาทบทวนความรู้เดมิ จากคาบท่ีแล้วท่ีครูเปิดประเดน็ กบั นักเรียนวา่ “ครูให้นักเรยี น ลองนำความรเู้ กยี่ วกับการเขียนโปรแกรม โดยนำคำสง่ั ลูป และเงื่อนไข มาประยุกตใ์ ช้ในการแกป้ ญั หาใน ชวี ติ ประจำวันว่าจะสามารถเขยี นโปรแกรมแกป้ ญั หาใดได้บ้าง” 2.ให้นกั เรยี นศึกษาสถานการณท์ ก่ี ำหนด จากกจิ กรรมฝึกทักษะท่ี 1 โปรแกรมชว่ ยให้ชีวิตง่ายขน้ึ ใน แบบฝกึ หดั รายวชิ าพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 หน้า 29 หรอื ครูอาจจะให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3–5 คน โดยให้นกั เรียนเขยี นคำสัง่ ชว่ ยคัดแยกเสือ้ ผา้ จำนวน 100 ช้นิ ในรูปแบบแผนผงั โดยใหป้ ระยุกต์ใชค้ วามรทู้ ี่เรียนมาในการเขยี นโปรแกรมนี้ และบอก ประโยชน์ของการใช้คำส่ังลปู ในการทำงานแบบวนซ้ำได้ แลว้ ออกมานำเสนอแนวคิดโปรแกรมของกลุ่ม ตนเอง มเี วลาการนำเสนอกลุ่มละ 5–7 นาที
3. ขันสรปุ 1.ครนู ำนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายสรุปความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการจัดกิจกรรม ตวั อย่างประเดน็ การอภิปราย ใหม่ นักเรียนช่วยยกตัวอยา่ งถึงเหตกุ ารณห์ รือรูปแบบของปัญหาที่พบเจอในชวี ติ ประจำวันท่ีจะนำมาเขียน โปรแกรมเพ่ือแก้ไขปัญหา หรือช่วยให้การทำงานสะดวกสบายมากยิ่งขนึ้ 4.ฝกึ ฝนนกั เรยี น นักเรียนปฏิบัติกรรมกิจกกรมการเขียนโปรแกรมและใหน้ ักเรียนอธบิ ายการใช้คำสั่งของโปรแกรมใหเ้ พ่อื น และคุณครฟู งั หน้าชั้นเรียน 5.การนำไปใช้ 1.นกั เรียนนำความรเู้ รือ่ งการเขียนโปรแกรมมาในการเพ่อื ให้สอ่ื สารกบั ตัวละครใหเ้ คล่ือนท่ีตามคำส่ังที่ กำหนดไว้ 6. สอื่ แหล่งการเรียนรู้ 1) หนงั สอื เรยี นรายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.3 2) แบบฝกึ หัดรายวิชาพน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.3 3) วีดิทัศน์ https://www.youtube.com/watch?v=cDA3_5982h8 4) ใบงานที่ 2.1.1 เขียนคำส่งั ขัน้ ตอนการนับเหรียญ
ใบงานที่ 2.1.1 เรอื่ ง เขยี นคำสัง่ ข้ันตอนการนับเหรยี ญ คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเขยี นคำส่ังขั้นตอนการนับเหรยี ญ จากน้นั ใหเ้ พือ่ นร่วมชั้นทำตามคำสงั่ ทต่ี นเองเขียน เพ่อื เป็นการตรวจคำสัง่ ว่าถูกต้องและชดั เจนหรือไม่ คำสงั่ ข้นั ตอนการนบั เหรยี ญ ........................................................................................................................... ................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................... ................... ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... ................................................................................................... ........................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. .................................................
ใบงานท่ี 2.1.1 เร่ือง เขียนคำสงั่ ข้ันตอนการนับเหรยี ญ คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นเขยี นคำสั่งข้ันตอนการนับเหรียญ จากนนั้ ให้เพอ่ื นร่วมช้ันทำตามคำสั่งทตี่ นเองเขียน เพ่ือเป็นการตรวจคำส่งั ว่าถูกต้องและชดั เจนหรือไม่ คำสง่ั ขัน้ ตอนการนับเหรยี ญ ...1......เ..ร..ิม่...ต...้น....ม...เี .ง..นิ.....0....บ...า..ท.................................................................................................................................... ...2......ห...ย...ิบ...เ.ห...ร...ีย..ญ....ส..ิบ...บ...า...ท....อ...อ...ก..ม...า....แ..ล...ะ...น..บั...จ...ำ..น...ว..น...เ.ห...ร...ยี ..ญ....ท...่หี...ย...บิ ..อ...อ...ก...ม..า....=....2.....เ.ห...ร..ีย...ญ............................... ...3......แ...ป...ล...ง..ค..า่...จ..ำ..น...ว...น...เ.ง..ิน....1...0....+...1...0....=....2..0....บ...า...ท....จ...า..ก...น...นั้ ..เ..ข...ยี ..น...จ...ำ..น...ว..น...เ.ง..ิน...ไ..ว..้ .2...0....บ...า..ท.................................. ...4.....ห...ย...ิบ...เ.ห...ร...ีย..ญ....ห...า้ ..บ...า..ท.....อ..อ...ก...ม...า...แ...ล...ะ..น...บั...จ...ำ..น...ว..น...เ.ห...ร...ีย..ญ....ท...ี่ห...ย...บิ ...อ..อ...ก...ม..า....=....3..เ..ห...ร..ยี...ญ................................. ...5.....แ...ป...ล...ง..ค..่า...จ..ำ..น...ว...น...เ.ง..นิ ....5...+...5..+...5....=.....1..5... .บ...า..ท.....จ..า..ก...น...น้ั ...เ.ข...ีย...น...จ..ำ..น...ว...น...เ.ง..ิน...ไ..ว..้ .1...5....บ...า..ท................................... ...6.....ห...ย...ิบ...เ.ห...ร...ีย..ญ....ส..อ...ง..บ...า..ท.....อ...อ..ก...ม...า....แ..ล...ะ..น...ับ...จ...ำ..น...ว..น...เ..ห...ร..ีย..ญ....ท...ีห่ ...ย...ิบ...อ..อ...ก...ม...า. ..=....2....เ.ห...ร...ีย..ญ.............................. ...7......แ...ป...ล...ง..ค..า่...จ..ำ..น...ว...น...เ.ง..ิน....2...+...2....=....4....บ...า...ท....จ...า..ก..น...้ัน...เ..ข..ีย...น...จ...ำ..น...ว..น...เ.ง..นิ...ไ..ว..้..4....บ. .า..ท.............................................. ...8......ห...ย...ิบ...เ.ห...ร...ีย..ญ....บ...า..ท.....อ..อ...ก...ม..า....แ...ล..ะ...น...ับ...จ..ำ..น...ว...น...เ.ห...ร..ยี...ญ...ท...ห่ี...ย...บิ...อ...อ..ก...ม...า....=....4....เ.ห...ร...ยี ..ญ..................................... ...9......แ...ป...ล...ง..ค..่า...จ..ำ..น...ว...น...เ.ง..นิ....1...+...1..+...1...+...1....=....4....บ...า..ท.....จ..า...ก..น...น้ั...เ..ข..ีย...น...จ..ำ...น..ว...น...เ.ง..นิ...ไ.ว...้ .4....บ...า..ท................................... ...1...0......น...ำ..จ...ำ..น...ว..น...ท...ีเ่ .ข...ีย...น...ไ.ว...้ม..า...ร..ว..ม...ก...ัน......2..0...+...1..5...+..4...+...4....=....4...3....บ...า..ท................. ................................................. .......................................................................................................................................................................... .... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................. ................
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: