ก
ก คำนำ สำหรับหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มนี้ ได้จัดทำข้ึน เพ่ือเป็นส่ือประกอบ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เพื่อ พัฒนำผลสมั ฤทธทิ์ ำงกำรเรียนและควำมสำมำรถในกำรอ่ำนจับใจควำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สังกัด สำนกั งำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำมัธยมศกึ ษำ เขต ๒๘ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ มีเน้ือหำสำระกำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตร กำรศึกษำข้ันพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษำธิกำรจะต้องผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำน จับใจควำมให้ได้ตำมเกณฑ์ท่ีสถำนศึกษำกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญอย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนเป็นเครื่องมือในกำรเรียนรู้ของทุกกลุ่มสำระทักษะกำรอ่ำนจึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งท่ี จะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่ำนทั้งอ่ำนออกเสียง อ่ำนจับใจควำม รวมถึงกำรคิดวิเครำะห์สำรที่ได้รับ แสดง ควำมคิดเห็น นำประโยชน์จำกกำรอ่ำนไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสม และใช้ในกำรแสวงหำควำมรู้ต่อไป ตลอดจนมกี ิจกรรมที่ครอบคลุมตำมสำระกำรเรยี นรทู้ ี่กำหนดตำมชว่ งวยั ผู้จัดทำมุ่งหวังว่ำ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ จะอำนวยประโยชน์แก่ผู้รักกำรอ่ำน นักเรยี น และผู้สนใจ เพื่อใชป้ ระกอบกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับ นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ ๓ หรือใชส้ ง่ เสรมิ กำรเรียนรู้ได้อยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพและประสิทธผิ ลตอ่ ไป มนิ ตรำ งำมทรัพย์
ข คำชแ้ี จง สำหรับหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มนี้ ได้จัดทำข้ึน เพื่อเป็นสื่อประกอบ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เพ่ือ พฒั นำผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนและควำมสำมำรถในกำรอ่ำนจบั ใจควำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สังกัด สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต ๒๘ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถน่ิ กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ มีเนื้อหำสำระ กำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษำธิกำร จะต้องผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำนจับใจควำมให้ได้ตำมเกณฑ์ท่ีสถำนศึกษำกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญ อย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนเป็นเครื่องมือในกำรเรียนรู้ของทุกกลุ่มสำระทักษะกำรอ่ำน จึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งท่ีจะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่ำนท้ังอ่ำนออกเสียง อ่ำนจับใจควำม รวมถึงกำรคิด วิเครำะห์สำรที่ได้รับ แสดงควำมคิดเห็น นำประโยชน์จำกกำรอ่ำนไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสม และใช้ใน กำรแสวงหำควำมรู้ตอ่ ไป ตลอดจนมกี ิจกรรมท่ีครอบคลมุ ตำมสำระกำรเรยี นรู้ที่กำหนดตำมชว่ งวัย หนังสอื สง่ เสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ กลุม่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ จำนวน ๖ เลม่ ดงั นี้ เลม่ ท่ี ๑ จงั หวดั ของเรำยโสธร เลม่ ท่ี ๒ อำชีพท้องถน่ิ เล่มท่ี ๓ เข้ำวัดทำบญุ เลม่ ที่ ๔ แหล่งท่องเทยี่ วสำคัญ เลม่ ที่ ๕ ผลิตภัณฑ์ทอ้ งถิน่ เล่มท่ี ๖ ประเพณแี ละกำรละเล่น หนงั สือส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำ ท้องถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เลม่ น้ี คือ เล่มที่ ๒ อำชพี ทอ้ งถิ่น และเนอื่ งจำกหนังสอื ส่งเสริม กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book มีลกั ษณะเปน็ หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code หรอื เขำ้ ผำ่ นเว็บไซด์ตำมลงิ ค์ที่แนบมำต่อไปนี้ QR-Code https://pubhtml๕.com/bookcase/jjyl เพื่อใชง้ ำนหนังสือตำมปกติ พร้อมกับรปู เลม่ จรงิ
ค บทบำทครู เน่ืองจำกหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มนี้ มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code QR-Code เพอ่ื ใช้งำนหนงั สอื ตำมปกติ ควรปฏบิ ัติ ดงั นี้ ๑. ศึกษำและทำควำมเข้ำใจคู่มือกำรใชแ้ ละหนังสือสง่ เสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำท้องถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เล่มน้ี ให้เขำ้ ใจ ก่อนนำไปใช้งำน ๒. จดั เตรยี มหนังสือส่งเสริมกำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมิปญั ญำท้องถิ่น กลมุ่ สำระ กำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ สำหรบั แจกใหน้ ักเรียนทุกคน ๓. แนะนำกำรใช้งำนหนงั สือสง่ เสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๓ ๔. ใหน้ กั เรยี นลงมือทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำหนังสอื สง่ เสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรบั นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ ๕. เปิดโอกำสให้นักเรียนศึกษำเน้ือหำ หรอื บทเรียนในหนงั สอื สง่ เสริมกำรอ่ำนจับใจควำม แบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรียนรู้ (ดว้ ยกำรเรียนรู้แบบ SQ๔R) ๖. ให้นักเรยี นทบทวนควำมรู้ ควำมเข้ำใจดว้ ยกำรทำกิจกรรมฝกึ ทกั ษะใหค้ รบถ้วนทุกตอน ๗. ให้นกั เรยี นลงมือทำแบบทดสอบหลังเรยี นประจำหนังสือสง่ เสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ ๘. นำนกั เรียนตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบทง้ั หมด เพ่ือบันทกึ คะแนนท้ำยหนังสือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ัญญำท้องถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียน ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ หมำยเหตุ : สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนระหวำ่ งทำกิจกรรม
ง บทบำทนักเรยี น เนื่องจำกหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้น QR-Code มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มน้ี มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code เพือ่ ใชง้ ำนหนังสอื ตำมปกติ ควรปฏบิ ัติ ดังนี้ ๑. ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจคำชแี้ จง และบทบำทนักเรยี น เพื่อกำรใช้หนังสือสง่ เสริมกำรอำ่ น จับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เล่มนี้ ให้เข้ำใจกอ่ นนำไปใช้งำน ๒. นักเรยี นลงมอื ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ ๓ ๓. นักเรียนศึกษำหนงั สือส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรยี นชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรียนรู้ (ด้วยกำรเรยี นร้แู บบ Sq๔r) ๔. นักเรียนทบทวนควำมรู้ ควำมเข้ำใจด้วยกำรทำกิจกรรมฝึกทักษะให้ครบถ้วนทุกตอน ๕. นักเรยี นลงมือทำแบบทดสอบหลังเรียนประจำหนังสือสง่ เสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษำปีที่ ๓ ๖. นกั เรยี นรว่ มตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบทั้งหมด เพอื่ บนั ทกึ คะแนนทำ้ ยหนังสือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นักเรียน ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๓ ๗. นักเรยี นสำมำรถศกึ ษำทบทวนเน้ือหำหนงั สือสง่ เสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ัญญำท้องถน่ิ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ ๓ ได้ตลอดเวลำ หลังเรียนเสรจ็ แล้ว หำกไม่ผำ่ นเกณฑ์ร้อยละ ๘๐.๐๐ หมำยเหตุ : กจิ กรรมระหว่ำงเรยี นอำจมีทงั้ แบบเดยี่ วและกลมุ่
จ ขอ้ ควรระวังและปฏิบัติ ข้อควรระวังและปฏิบตั กิ ่อนกำรดำเนนิ กำรสอน ๑. ศึกษำแผนกำรจดั กำรเรยี นรอู้ ยำ่ งละเอยี ด ๒. เตรยี มอปุ กรณ์ ส่อื กำรเรยี นกำรสอนให้เรียบร้อย ๓. ศึกษำรำยละเอยี ดชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ๔. กำหนดบทบำทสมำชิในกลมุ่ ทรำบถึงกำรปฏบิ ตั ติ มบทบำทตำ่ งๆ โดยสมำชกิ ทกุ คนใน กลมุ่ ตอ้ งได้ทำทกุ บทบำท ๕. ครผู ู้สอนชแี้ จงวธิ กี ำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนแบบร่วมมือและกิจกรรมท่ีนักเรยี นต้องปฏิบัติ ข้อควรระวงั และปฏบิ ัตขิ ณะดำเนนิ กำรสอน ๑. ชแี้ จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรียนร้ใู ห้นกั เรยี นทกุ คนทรำบ ๒. ตำเนินกิจกรมตมแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เพื่อใหส้ อดคล้องกบั จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ เน้ือหำและเวลำท่ีกำหนด ๓. ครผู ู้สอนต้องใหค้ ำแนะนำและคอยดแู ลนักเรียนอย่ำงใกลช้ ดิ ๔. ให้นกั เรยี นเรยี นรู้จำกชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมข้ันตอนอยำ่ งเคร่งครัดและมคี วำมซ่ือสัตย์ ต่อตนเอง ๕. ตรวจสอบกำรทำงำนของนักเรียนและสรุปบทเรยี นรว่ มกนั นักเรียน ขอ้ ควรระวงั และปฏบิ ัติเมื่อดำเนนิ กำรสอนสิ้นสุด ๑. ครูผสู้ อนใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ๒. ตรวจผลงำนจำกกำรทำแบบทดสอบและบัตรกิจกรรม ๓. ถำ้ นักเรยี นไม่ผ่ำนเกณฑท์ ่ีระบไุ ว้ ครูควรให้นักเรียนศึกษำและทบทวนเนอ้ื หำใหม่อกี คร้งั แล้วทำแบบทดสอบหลังเรยี นให้ผำ่ นเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้
สำรบญั ฉ คำนำ หน้ำ คำชแี้ จง ก บทบำทครู ข บทบำทนกั เรียน ค ข้อควรระวงั และปฏบิ ัติ ง สำรบญั จ หนังสอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน ช กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรยี นช้นั มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มที่ ๒ อำชพี ท้องถิ่น ๑ ๑ มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตัวชวี้ ดั ๑ แนวคิด ๑ สำระกำรเรยี นรู้ ๑ จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ๒ สมรรถนะทส่ี ำคญั ๒ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ๒ ภำระงำน / ชิ้นงำน ๒ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๓ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ๖ กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน ๗ บทเรยี นท่ี ๒ จงั หวัดของเรำยโสธร ๑๓ กิจกรรมฝกึ ทักษะ ๑๔ กจิ กรรมท่ี ๑.๑ ๑๕ กิจกรรมที่ ๑.๒ ๑๖ กิจกรรมท่ี ๑.๓ ๑๗ กิจกรรมท่ี ๑.๔ ๑๘ กจิ กรรมท่ี ๑.๕ ๑๙ กิจกรรมที่ ๑.๖ ๒๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๒๓ กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น
สำรบญั (ต่อ) ช บรรณำนุกรม หน้ำ ภำคผนวก ๒๔ ๒๕ กิจกรรมท่ี ๑.๑ ๒๖ กจิ กรรมท่ี ๑.๒ ๒๗ กจิ กรรมท่ี ๑.๓ ๒๘ กิจกรรมที่ ๑.๔ ๓๐ กจิ กรรมท่ี ๑.๕ ๓๑ กิจกรรมท่ี ๑.๖ ๓๒ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ๓๔ แบบบันทึกคะแนนกิจกรรมระหวำ่ งเรยี น ๓๕ ประวตั ิยอ่ ผจู้ ดั ทำ ๓๖
๑ หนงั สอื ส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถิ่น กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูภ้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๓ มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั มำตรฐำน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนกำรอ่ำนสรำ้ งควำมร้แู ละควำมคิดเพือ่ นำไปใชต้ ัดสนิ ใจ แก้ปัญหำใน กำรดำเนินชีวิต และมนี สิ ัยรกั กำรอำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบใุ จควำมสำคัญและรำยละเอยี ดของข้อมูลที่สนบั สนนุ จำกเร่ืองท่ีอ่ำน ท ๑.๑ ม.๓/๔ อ่ำนเร่ืองต่ำงๆ แลว้ เขยี นกรอบแนวคดิ ผงั ควำมคิด บันทึก ย่อควำมและรำยงำน ท ๑.๑ ม.๓/๕ วเิ ครำะห์ วิจำรณ์ และประเมินเรอ่ื งที่อำ่ นโดยใช้กลวธิ ีกำรเปรยี บเทยี บ เพอื่ ใหผ้ ู้อำ่ นเข้ำใจไดด้ ีขึ้น ท ๑.๑ ม.๓/๖ ประเมนิ ควำมถกู ต้องของข้อมูลทีใ่ ชส้ นับสนุนในเรอ่ื งที่อ่ำน ท ๑.๑ ม.๓/๗ วจิ ำรณค์ วำมสมเหตุสมผล กำรลำดับควำม และควำมเป็นไปไดข้ องเร่ือง ท ๑.๑ ม.๓/๘ วิเครำะหเ์ พ่ือแสดงควำมคิดเห็นโตแ้ ยง้ เก่ียวกบั เร่อื งที่อ่ำน มำตรฐำน ท ๕.๑ เขำ้ ใจและแสดงควำมคดิ เหน็ วิจำรณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอยำ่ งเหน็ คณุ ค่ำ และนำมำประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรปุ ควำมรแู้ ละข้อคิดจำกกำรอ่ำน เพ่ือนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ จรงิ แนวคดิ กำรอำ่ นจับใจควำมสำคัญ เป็นทกั ษะท่ีควรฝกึ ใชน้ กั เรียนเกิดควำมชำนำญเพือ่ นำไปใช้ใน ชีวติ ประจำวัน เปน็ กำรอ่ำนที่ผอู้ ่ำนตอ้ งอำ่ นอย่ำงละเอียด เพือ่ พจิ ำรณำสว่ นประกอบของเรอื่ งที่อำ่ น ซึ่งอำจจะเปน็ เร่อื งเล่ำสืบตอ่ กันมำ ข่ำวเหตุกำรณ์ เนือ้ หำที่เป็นบทกลอน บทเพลง หรือบทควำม อำจ เปน็ เรือ่ งรำวที่เปน็ จริงหรืออิงควำมจรงิ หรอื เปน็ เรื่องท่ีแตง่ ข้นึ ก็ได้โดยสำมำรถบอกรำยละเอยี ด อธบิ ำยลักษณะของตวั ละคร สรปุ ใจควำมสำคญั บอกควำมสมั พนั ธข์ องสว่ นต่ำงๆ บอกและลำดบั เหตกุ ำรณ์ และสรุปควำมรแู้ ละควำมคดิ อยำ่ งรอบคอบ โดยกำรเขียนสรปุ ควำมจำกเรื่องทอ่ี ่ำนให้สั้น แตไ่ ด้ใจควำมสำคญั โดยเรอ่ื งท่ีอำ่ นเกี่ยวกับอำชพี ท้องถน่ิ ในจงั หวัดยโสธร สำระกำรเรียนรู้ อำชพี ท้องถิ่น จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจสำมำรถตอบคำถำมเกีย่ วเรอ่ื งที่อำ่ นได้ (K) ๒. จับใจควำมสำคญั จำกเร่ืองท่ีอำ่ นได้ (P) ๓. สรปุ เรอ่ื งด้วยกรอบแนวคิด ผงั ควำมคิด บนั ทึก ย่อควำม และรำยงำนได้ (P)
๒ ๔. วิเครำะห์ วิจำรณ์ และประเมินควำมสมเหตุสมผล กำรลำดบั ควำม และควำมเป็นไปได้ ของเรื่องท่ีอ่ำนได้ (P) ๕. วิเครำะห์เพื่อแสดงควำมคิดเหน็ โตแ้ ย้งเกีย่ วกับเรื่องท่ีอำ่ นได้ (P) ๖. มคี วำมกระตือรอื รน้ ใฝเ่ รียนรู้ และใหค้ วำมรว่ มมือในกิจกรรมกล่มุ (A) สมรรถนะท่ีสำคญั หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพืน้ ฐำน ม่งุ ใหผ้ ู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคญั ๕ ประกำร ดังน้ี ๑. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร ๒. ควำมสำมำรถในกำรคิด ๓. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ ๔. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ ักษะชวี ติ ๕. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ หลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพื้นฐำน มุง่ พฒั นำผเู้ รยี นให้มีคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือให้สำมำรถอยู่รว่ มกับผู้อน่ื ในสงั คมได้อย่ำงมคี วำมสุข ในฐำนะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี ๑. รกั ชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ๒. ซอื่ สัตยส์ ุจริต ๓. มีวนิ ัย ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยอู่ ยำ่ งพอเพยี ง ๖. ม่งุ มน่ั ในกำรทำงำน ๗. รกั ควำมเป็นไทย ๘. มีจิตสำธำรณะ ภำระงำน/ชิน้ งำน หนังสอื สง่ เสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ญั ญำท้องถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนกั เรียนชัน้ มัธยมศกึ ษำปที ่ี ๓ เลม่ ที่ ๒ อำชีพท้องถิน่ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน ๒. กิจกรรมท่ี ๑.๑-๑.๖ ๓. แบบทดสอบหลังเรยี น กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรยี น เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ๒. กจิ กรรมท่ี ๑.๑-๑.๖ เกณฑก์ ำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ๓. แบบทดสอบหลงั เรยี น เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป
๓ แบบทดสอบก่อนเรยี น หนงั สอื ส่งเสรมิ กำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปัญญำทอ้ งถนิ่ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เลม่ ท่ี ๒ อำชีพท้องถิ่น คำชี้แจง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ใหน้ ักเรียนทำเคร่อื งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลอื กช่องว่ำงตำมตวั อักษร ก. ข. ค. และ ง. ที่ถกู ที่สุดเพียงข้อเดียว ๑. “ภูมิปญั ญำ” มีควำมหมำยตรงกบั ข้อใด ก. กำรรกั ษำภมู ปิ ญั ญำของบรรพบุรุษตัง้ แตอ่ ดีตจนถึงปจั จุบัน ข. กำรสร้ำงสรรคง์ ำนศลิ ปะต่ำง ๆ โดยกำรนำทรัพยำกรมำประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวัน ค. องคค์ วำมรทู้ ีเ่ กิดจำกกำรสั่งสมประสบกำรณ์ แล้วนำมำประยุกตใ์ ช้ในกำรแกป้ ญั หำ และ กำรดำรงชีวติ ง. มีพืน้ ฐำนทำงควำมเช่อื ในศำสนำทแี่ ตกต่ำงกนั โดยกำรผสมผสำนกับควำมเชือ่ ดังเดมิ จนกลำยเป็นลักษณะเฉพำะของแตล่ ะท้องถน่ิ ๒. ข้อใดกล่ำวไมถ่ ูกต้องเก่ียวกบั ภมู ปิ ัญญำท้องถนิ่ ก. ภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ สำมำรถจำแนกออกเป็น ๑๐ ลกั ษณะ ข. ภูมปิ ญั ญำท้องถ่ินมมี ำกมำยหลำยแขนง แตม่ ักจะถกู มองวำ่ ล้ำหลัง ค. ภูมิปัญญำท้องถน่ิ ส่วนใหญจ่ ะใช้อปุ กรณ์ในกำรละเลน่ ทป่ี ระดิษฐ์มำจำกธรรมชำติ ง. ภูมปิ ญั ญำท้องถ่ินทเี่ กย่ี วกับกำรละเลน่ พื้นบ้ำน เชน่ สถำปตั ยกรรม ประติมำกรรม ๓. ข้อใด คือ ควำมหมำยของภมู ปิ ัญญำที่เกี่ยวกบั ควำมเชื่อและศำสนำ ก. กำรนำเทคนิคกำรถนอมอำหำรและกำรปรุงอำหำรมำใช้ ข. ควำมเชือ่ ในทำงพระพุทธศำสนำเปน็ หลกั และไดม้ ีสว่ นสร้ำงสรรค์สงั คม ค. ประเพณีและพธิ กี รรมคนในทอ้ งถนิ่ สรำ้ งข้นึ มำ โดยเป็นกำรเพ่ิมขวัญและกำลงั ใจคนในสังคม ง. กำรสร้ำงสรรคง์ ำนศิลปะ โดยกำรนำทรัพยำกรที่มอี ยู่มำประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ๔. ชำวจังหวดั ยโสธร รอ้ ยละ ๖๐ % ประกออบอำชีพประเภทใด ก. เกษตรกรรม ข. อุตสำหกรรม ค. พำณิชยกรรม ง. ภำคบรกิ ำร
๔ ๕. กำรปลกู ขำ้ วหอมมะลิปลอดภยั และอนิ ทรยี ์ไดป้ ลกู ท่ีอำเภอใด ก. อำเภอกดุ ชุม ข. อำเภอค้อวงั ค. อำเภอมหำชนะชัย ง. ถูกทกุ ข้อที่กล่ำวมำ ๖. กำรผลิตด้ำนปศุสัตว์ ทเี่ กษตรกรเลีย้ งเพื่อจำหนำ่ ย ได้แกส่ ัตว์ชนดิ ใดบ้ำง ก. ปลำกดั เลยี้ งเพื่อจำหนว่ ย ข. สุนัข หลำกหลำยสำยพนั ธ์ ค. โคพ้ืนเมือง โคพนั ธ์ โคลูกผสม ง. ไม่มีข้อใดกล่ำวถกู ให้นักเรียนอำ่ นขอ้ ควำมต่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถำมข้อที่ ๗ – ๘ ภำคตะวันออกเฉยี งเหนอื หรือทเี่ รยี กกนั วำ่ “ภำคอสี ำน” มีพน้ื ท่กี วำ้ งใหญ่กว่ำ ทุกภำค พื้นดนิ สว่ นใหญไ่ ม่ค่อยสมบรู ณ์ พืน้ ดินเป็นดนิ ทรำยไมอ่ มุ้ น้ำ ทำใหด้ นิ ดูแห้งแลง้ ยำวนำนกว่ำภำคอืน่ แม่น้ำโขง ชี มูล เปรยี บเสมอื นเสน้ เลอื ดใหญท่ ห่ี ล่อเล้ยี งภำคตะวันออกเฉียงเหนือ หน้ำหนำว มีอุณหภูมิต่ำ หน้ำร้อนก็ร้อนจนแล้ง ด้วยภูมิประเทศและภูมิอำกำศที่มีควำมแตกต่ำงกันมำกน้ี คน ภำคตะวันออกเฉียงเหนือจึงต้องปรับตัวตำม ประเพณี ควำมเชื่อ งำนเทศกำลต่ำง ๆ จึงมักเก่ียวพัน กบั สภำพแวดล้อมตำมธรรมชำติ เชน่ งำนบุญบั้งไฟ งำนบญุ คณุ ลำน งำนบุญข้ำวประดับดิน เปน็ ต้น ๗. จำกข้อควำมข้ำงต้น “แม่นำ้ โขง ชี มูล เปรยี บเสมือนเส้นเลอื ดใหญท่ ี่หล่อเลี้ยง” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด ก. แหล่งนำ้ ท่ีมีควำมอดุ มสมบูรณ์ มสี ตั ว์น้ำหลำกหลำยชนิด ข. แหลง่ นำ้ ทีส่ ำคญั เพื่อสำธำรณปู โภคท่สี ำคญั ของประเทศ ค. แหล่งนำ้ ที่สำคญั ในกำรดำรงชีวติ ของประชำกรในภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ง. แหลง่ น้ำที่สำคญั เป็นเสน้ ทำงหลักในกำรจรำจรทำงนำ้ ของภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ ๘. ขอ้ ใด คอื ประเพณีทีเ่ กย่ี วกับสภำพแวดล้อมตำมธรรมชำติของภำคภำคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ก. ประเพณีบุญคุณลำน ประเพณยี ี่เปง็ ประเพณลี อยกระทงสำย ข. ประเพณีบุญบง้ั ไฟ ประเพณตี ำนตุง ประเพณชี กั พระ ค. ประเพณีบุญขำ้ วประดับดิน ประเพณีแขง่ ขนั ตโี พน ประเพณีรับบัว ง. ประเพณบี ุญบ้งั ไฟ ประเพณีบญุ คุณลำน ประเพณีบุญข้ำวประดับดนิ
๕ ให้นักเรยี นอ่ำนข้อควำมต่อไปนี้แลว้ ตอบคำถำมข้อที่ ๙ – ๑๐ วฒั นธรรมกำรไหว้ คือ กำรแสดงควำมมสี ัมมำคำรวะอย่ำงหนง่ึ เปน็ ธรรมเนยี ม กำรทักทำย และแสดงควำมเคำรพต่อกนั กำรไหวท้ ำใหผ้ ู้ใหญร่ กั และเอ็นดู คนท่พี บเหน็ ตำ่ งชืน่ ชม คำที่เรำมกั จะ ได้ยินเปน็ ประจำทใ่ี ช้กล่ำวชมผทู้ ่ีมีสมั มำคำรวะและไดร้ บั กำรอบรมมำรยำทกำรไหว้ว่ำร้จู ัก “ไปลำมำไหว้” หมำยควำมว่ำ เม่ือพบกนั ก็ไหว้ทักทำยเม่ือจำกกันก็ไหว้ลำพร้อมกล่ำวคำวำ่ “สวัสดี” ๙. ขอ้ ใด คอื ใจควำมสำคญั ของขอ้ ควำมนี้ ก. กำรไหว้ เปน็ กำรแสดงควำมมีสัมมำคำรวะอยำ่ งหน่งึ เพ่ือแสดงควำมเคำรพตอ่ กนั ข. เพอื่ ใหผ้ ู้ใหญ่กลำ่ วชมผู้ท่มี ีสัมมำคำรวะว่ำรจู้ ัก “ไปลำมำไหว้” ค. เม่อื พบกันก็ตอ้ งไหว้ทกั ทำย และเมอ่ื จำกกันกต็ ้องไหวล้ ำ ง. กำรไหว้ทำให้ผูใ้ หญ่รักและเอน็ ดู และคนที่พบเห็นตำ่ งชื่นชม ๑๐. จำกข้อควำมข้ำงต้น คำว่ำ “สวสั ด”ี สำมำรถใช้กบั สถำนกำรณ์ใดไดบ้ ้ำง ก. เม่ือพบเจอคนอน่ื ท่ไี มส่ นิทให้กล่ำวคำวำ่ “สวัสด”ี ข. เมอ่ื พบกนั ก็ไหวท้ กั ทำย เม่ือจำกกนั ก็ไหว้ลำพร้อมกลำ่ วคำวำ่ “สวัสดี” ค. เมอ่ื พบกันก็ไหว้ทักทำย เมื่อจำกกันก็ไหว้ลำพร้อมกล่ำวคำว่ำ “ลำกอ่ น” ง. เมือ่ พบกนั ให้กล่ำวคำวำ่ “สวัสดี” เมื่อจำกกันให้กลำ่ วคำวำ่ “ลำก่อน” สู้ๆ นะคะนกั เรยี น
๖ กระดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน หนงั สอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มที่ ๒ อำชพี ท้องถิ่น คำช้แี จง ๑. แบบทดสอบท้ังหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ให้นักเรียนทำเครอ่ื งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ท่ีถูกที่สุดเพียงข้อเดยี ว ข้อ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป หรอื ๘ คะแนนขน้ึ ไป ผ่ำน ไม่ผำ่ น
๗
๘ ภาพอาชพี ท้องถ่นิ ภูมปิ ญั ญำ หมำยถงึ พนื้ ฐำนควำมร้คู วำมสำมำรถ ควำมคิด ควำมเชอื่ ควำมสำมำรถทำง พฤติกรรม ควำมสำมำรถในกำรแกไ้ ขปญั หำ โดยใชป้ ระสบกำรณ์ทีส่ ่งั สมไว้ในกำรปรบั ตวั และทำ ควำมเข้ำใจ และดำรงชีพในสภำพแวดล้อมทำงธรรมชำติและส่งิ แวดลอ้ มทำงสงั คมและวัฒนธรรมท่ี ได้มีกำรพฒั นำสืบสำนกันมำ อันเป็นผลของกำรใช้สติปัญญำปรับตวั ใหเ้ ข้ำกบั สภำพต่ำง ๆ ในพ้ืนท่ี ทกี่ ล่มุ ชนเหลำ่ นัน้ ตง้ั ถนิ่ ฐำนอยู่ รวมทงั้ ได้มีกำรแลกเปล่ียนวฒั นธรรมกบั กลมุ่ อื่น ภมู ปิ ญั ญำไทย หมำยถึง องค์ควำมรใู้ นดำ้ นต่ำง ๆ ของกำรดำรงชีวติ ของคนไทยที่เกดิ จำก กำรสงั่ สมประสบกำรณ์ท้ังทำงตรง และทำงอ้อมทป่ี ระกอบดว้ ยแนวคดิ ในกำรแกป้ ญั หำของตนเองจน เกิดกำรหลอมรวมเป็นแนวควำมคดิ สำหรับแกป้ ัญหำที่มีลักษณะเฉพำะของตนเอง ซ่ึงสำมำรถพัฒนำ ควำมรดู้ งั กล่ำว แล้วนำมำประยุกต์ใช้ในกำรแก้ปัญหำและกำรดำรงชีวติ ได้อย่ำงเหมำะสมตำมกำลเวลำ ประเภทของภูมปิ ัญญำท้องถิ่น ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถิ่นมีมำกมำยหลำยแขนง แต่มักจะถูกมองว่ำ ลำ้ หลัง คนบำงกลุ่มจงึ ไม่ค่อยใหค้ วำมนยิ มและสืบสำนกันมำกนัก สว่ นใหญ่แลว้ ภูมิปัญญำท้องถน่ิ มกั สบื ทอดบอกกล่ำวกนั เป็นกำรภำยใน เช่น สูตรทำอำหำร หรือตำรบั ตำรำต่ำง ๆ ทำให้ไม่เปน็ ทร่ี ับรู้ กนั โดยทวั่ ไป อำจจำแนกภูมปิ ัญญำท้องถนิ่ ออกเป็น ๑๐ ลักษณะได้ดงั นี้ ๑. ภูมิปัญญำทีเ่ ก่ยี วกบั ควำมเชอ่ื และศำสนำ ภูมิปัญญำประเภทนจ้ี ะมีลักษณะท่แี ตกต่ำงกนั ไปในแตล่ ะท้องถนิ่ เนื่องจำกมพี น้ื ฐำนทำงควำมเช่ือในศำสนำทแ่ี ตกต่ำงกนั สำหรบั ภูมิปัญญำทอ้ งถน่ิ ของไทยซงึ่ เกีย่ วกับควำมเชื่อในทำงพระพุทธศำสนำเปน็ หลักนน้ั ได้มีสว่ นสรำ้ งสรรคส์ งั คม โดยกำร ผสมผสำนกบั ควำมเช่อื ดังเดมิ จนกลำยเป็นลกั ษณะเฉพำะของแตล่ ะท้องถน่ิ ๒. ภูมปิ ัญญำท้องถ่ินท่ีเกีย่ วกบั ประเพณีและพิธีกรรม เน่ืองจำกประเพณีและพิธีกรรมเป็นสิ่ง ที่ดีงำมที่คนในท้องถ่ินสร้ำงขึ้นมำ โดยเฉพำะเป็นกำรเพิ่มขวัญและกำลังใจคนในสังคม ภูมิปัญญำ ประเภทน้ีจึงมีควำมสำคัญต่อกำรดำเนินชีวิตในสังคมเป็นอย่ำงมำก ดังจะเห็นได้จำกประเพณีและ พิธกี รรมที่สำคญั ในประเทศไทยลว้ นเกี่ยวขอ้ งกบั กำรดำเนินชวี ิตของคนในสงั คมแทบท้ังสิ้น
๙ ๓. ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ินทเ่ี ก่ียวกับศลิ ปะพ้ืนบ้ำน เปน็ กำรสร้ำงสรรคง์ ำนศลิ ปะต่ำง ๆ โดยกำรนำ ทรพั ยำกรทีม่ ีอยูม่ ำประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวัน หลังจำกนัน้ ได้สืบทอดโดยกำรพัฒนำอย่ำงไม่ขำดสำย กลำยเปน็ ศลิ ปะท่ีมีคุณค่ำเฉพำะถ่ิน ๔. ภูมิปญั ญำท้องถิ่นที่เก่ยี วกับอำหำรและผักพ้ืนบ้ำน นอกจำกมนษุ ยจ์ ะนำอำหำรมำบริโภค เพื่อกำรอยรู่ อดแล้ว มนษุ ย์ยังได้นำเทคนิคกำรถนอมอำหำรและกำรปรุงอำหำรมำใช้ เพื่อให้อำหำรที่มี มำกเกนิ ควำมต้องกำรสำมำรถเก็บไวบ้ รโิ ภคไดเ้ ปน็ เวลำนำน ซง่ึ ถอื ว่ำเปน็ ภมู ิปัญญำอีกประเภทหนง่ึ ท่ีสำคญั ต่อกำรดำรงชวี ติ นอกจำกนยี้ งั นำผักพื้นบำ้ นชนิดต่ำง ๆ มำบรโิ ภคอีกดว้ ย ๕. ภูมิปัญญำท้องถน่ิ ท่ีเกีย่ วกับกำรละเลน่ พ้ืนบ้ำน กำรละเลน่ ถือว่ำเปน็ กำรผ่อนคลำย โดยเฉพำะในวยั เด็กซงึ่ ชอบควำมสนุกสนำนเพลิดเพลนิ ภูมิปญั ญำท้องถนิ่ ของไทยส่วนใหญ่จะใช้ อุปกรณ์ในกำรละเลน่ ท่ปี ระดิษฐ์มำจำกธรรมชำติ ซ่งึ แสดงให้เห็นวิถชี ีวิตทผี่ ูกพันกบั ธรรมชำติ และ ร้จู ักปรบั ตวั ใหเ้ ข้ำกับสภำพแวดล้อมอย่ำงกลมกลืน ๖. ภูมิปัญญำท้องถ่นิ ทเ่ี กีย่ วกับศิลปวัฒนธรรม ประเทศไทยมวี ัฒนธรรมที่หลำกหลำย ซ่งึ เกดิ จำกกำรสรำ้ งสรรค์ของแต่ละภำค เรำสำมำรถพบหลักฐำนจำกร่องรอยของศิลปวัฒนธรรมทปี่ รำกฏ กระจำยอยู่ทวั่ ไป เชน่ สถำปตั ยกรรม ประติมำกรรม จิตรกรรม เปน็ ต้น ซึ่งแสดงใหเ้ หน็ ถึงเทคนิค ควำมคิด ควำมเช่ือของบรรพบุรุษเปน็ อยำ่ งดี ๗. ภูมิปัญญำท้องถน่ิ ทเี่ ก่ียวกับเพลงพ้ืนบ้ำน ภูมปิ ญั ญำประเภทน้สี ่วนมำกแสดงออกถึงควำม สนกุ สนำน และยงั เป็นคตสิ อนใจสำหรับคนในสงั คม ซง่ึ มีส่วนแตกต่ำงกนั ออกไปตำมโลกทัศนข์ องคน ในภำคต่ำง ๆ ๘. ภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ ท่เี ก่ยี วกับสมนุ ไพรและตำรำยำพนื้ บำ้ น ภมู ิปญั ญำประเภทนเ้ี กดิ จำก กำรสงั่ สมประสบกำรณ์ของคนในอดีตและถำ่ ยทอดใหก้ บั คนรุ่นหลัง ถือวำ่ มคี วำมสำคญั เป็นอย่ำงมำก เพรำะถอื วำ่ เปน็ ปจั จัยส่ี ซึง่ มีควำมจำเปน็ สำหรับมนุษย์ หำกไดร้ ับกำรพัฒนำหรือสง่ เสรมิ จะเป็น ประโยชน์ทำงเศรษฐกจิ และสังคมในอนำคตได้ ๙. ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิ่นทีเ่ กี่ยวกับกำรประดิษฐกรรม เทคโนโลยแี ละสิง่ ของเครื่องใชต้ ำ่ ง ๆ ทีเ่ กดิ จำกภมู ปิ ัญญำของคนไทยในแตล่ ะภำคน้นั ถอื เปน็ กำรประดษิ ฐกรรมและหัตถกรรมชนั้ เย่ยี ม ซ่งึ ปจั จบุ ันไม่ได้รับควำมสนใจในกำรพัฒนำและส่งเสริมภมู ิปัญญำประเภทนเ้ี ท่ำที่ควร หำกมกี ำร เรียนรูแ้ ละสืบทอดควำมคดิ เก่ียวกบั กำรประดิษฐกรรมและหัตถกรรมให้แก่เยำวชน จะเป็นกำรรกั ษำ ภมู ิปญั ญำของบรรพชนไดอ้ ีกทำงหนงึ่ ๑๐. ภูมิปญั ญำทอ้ งถน่ิ ท่ีเก่ยี วกบั กำรดำรงชีวิตตำมสภำพแวดลอ้ มทำงธรรมชำติ เน่ืองจำก คนไทยมีอำชีพท่ีเกีย่ วกบั เกษตรกรรมโดยเฉพำะกำรทำนำ ทำไร่ จงึ ทำใหเ้ กิดภมู ิปัญญำท่ีเกย่ี วกับ ควำมเช่อื และพิธกี รรมในกำรดำรงชีวิตเพอื่ แก้ปัญหำหรืออ้อนวอนเพ่ือให้เกิดควำมอุดมสมบูรณใ์ น กำรเพำะปลกู และเพือ่ เพ่มิ ผลิตผลทำงกำรเกษตร ดังจะเหน็ ได้จำกพิธีกรรมที่เกี่ยวกบั กำรเกษตร ทว่ั ทุกภูมิภำคของไทย
๑๐ กำรประกอบอำชีพ มีประชำกรวัยแรงงำน (๑๖-๖๐ ปี) จำนวน ๓๗๓ ,๐๔๑ คน ส่วนใหญ่ ประมำณร้อยละ ๖๐ ประกอบอำชพี ในภำคเกษตรกรรม รองลงไปเป็นอำชีพภำคอุตสำหกรรม ภำคพำณชิ ยกรรม ภำคขนส่งและภำคบริกำรตำมลำดบั ดงั น้ี ๑. ภำคกำรเกษตร จงั หวัดยโสธรมพี ้นื ท่ีกำรเกษตรกรรม (เพำะปลูกและปศุสัตว์ / ประมง) ๑,๖๒๓,๖๔๙ ไร่ ๑.๑ สำขำกำรผลิตพชื ในปี ๒๕๕๔ มพี ืชเศรษฐกจิ ที่สำคัญที่เพำะปลูก ได้แก่ ภาพนาปีนาปงั - ชำวนำปี มพี ้ืนทเี่ พำะปลกู ๑,๐๙๓,๙๘๖ ไร่ และชำวนำปรัง มีพื้นที่ ๑๕๖,๘๘๒ ไร่ โดยชำวที่ปลกู เปน็ ขำ้ วเจำ้ ธรรมดำและขำ้ วเจำ้ หอมมะลิ มีพ้ืนที่ปลูก ๑,๐๖๑,๔๗๗ ไร่ ข้ำวเหนยี ว มี พนื้ ทีป่ ลูก ๔๔๐,๘๙๑ ไร่ ผลผลติ ขำ้ วเจ้ำเฉลย่ี ๔๔๐ ก.ก. / ไร่ ข้ำวเหนียว ๔๖๐ ก.ก. / ไร่ ซึ่งยังอยู่ ในอตั รำค่อนข้ำงตำ่ มีกำรปลูกขำ้ วหอมมะลปิ ลอดภยั และอินทรยี ์ที่อำเภอกดุ ชุม อำเภอมหำชนะชยั และอำเภอค้อวัง พน้ื ท่ีปลูก ๓๕,๓๕๐ ไร่ ผลผลิตเฉลีย่ ๓๕๐ ก.ก./ไร่ ดำเนินกำรโดยกลุ่มเกษตรกรทำ นำนำโส่ กลมุ่ เกษตรกรทำนำบำกเรือ และกลุม่ เกษตรกรรมธรรมชำติยัง่ ยนื ซึง่ จะส่งไปจำหน่ำยยัง ตำ่ งประเทศตำมตำมมำตรฐำนท่ีผู้สั่งซอื้ กำหนด (๑) มันสำปะหลัง พื้นที่เพำะปลกู ๒๔๓,๒๘๕ ไร่ ผลผลติ เฉล่ยี ๓,๕๓๓ ก.ก./ไร่ (๒) ยำงพำรำ พืน้ ทเี่ พำะปลูก ๗๓,๔๕๑ ไร่ ผลผลติ เฉลี่ย ๒๕๒ ก.ก./ไร่ (๓) อ้อยโรงงำน พ้ืนทเ่ี พำะปลูก ๒๖,๘๒๒ ไร่ ผลผลติ เฉล่ยี ๖,๓๔๙ ก.ก./ไร่ (๔) มะม่วง พน้ื ทีเ่ พำะปลกู ๒,๓๐๗ ไร่ ผลผลิตเฉลีย่ ๙๔๒ ก.ก./ไร่ (๕) ถั่วลสิ ง พืน้ ท่ีเพำะปลูก ๒,๑๖๖ ไร่ ผลผลิตเฉลีย่ ๒๑๓ ก.ก./ไร่ (๖) ข้ำวโพดหวำน พน้ื ที่เพำะปลูก ๑๐๓ ไร่ ผลผลติ เฉลย่ี ๒,๔๗๑ ก.ก./ไร่ (๗) แตงโม พ้ืนทีเ่ พำะปลกู ๓๗๒ ไร่ ผลผลิตเฉลยี่ ๒,๘๗๖ ก.ก./ ไร่ (๘) มะพร้ำว พ้ืนท่ีเพำะปลูก ๒๔๔ ไร่ (๙) กลว้ ยนำ้ ว้ำ พืน้ ท่เี พำะปลูก ๓๖๔ ไร่ (๑๐) พริกขห้ี นูสวน พนื้ ทีเ่ พำะปลกู ๓๐๗ ไร่ (๑๑) หอมแดง พ้นื ที่เพำะปลูก ๙๑๒ ไร่ (๑๒) ผักบุ้งจนี พ้ืนที่เพำะปลูก ๓๐๘.๕๐ ไร่
๑๑ (๑๓) คะน้ำ พ้ืนทีเ่ พำะปลูก ๑๕๗.๕๐ ไร่ ๑.๒ สำขำกำรผลติ ดำ้ นปศสุ ตั ว์ มสี ัตว์ทีเ่ กษตรกรเลีย้ งเพื่อจำหนำ่ ย ได้แก่ (๑) โคพนื้ เมือง โคพันธ์ โคลกู ผสม จำนวน ๑๒๐,๔๕๙ ตวั จำนวนเกษตรกร ๓๒,๐๒๓ รำย (๒) กระบือ จำนวน ๒๕,๗๑๕ ตัว จำนวนเกษตรกร ๘,๕๐๙ รำย (๓) สุกร จำนวน ๒๗,๕๑๒ ตวั จำนวนเกษตรกร ๒,๑๕๔ รำย (๔) ไก่ - ไกพ่ น้ื เมอื ง ๑,๑๐๙,๒๗๖ ตวั จำนวนเกษตรกร ๕๐,๑๘๓ รำย - ไกเ่ น้อื ๑๙๒,๑๘๐ ตวั จำนวนเกษตรกร ๘๑๐ รำย - ไกพ่ ้นื เมือง ๑๐,๐๗๔ ตัว จำนวนเกษตรกร ๘๗๖ รำย (๕) เป็ด - เปด็ เทศ ๑๑๘,๑๙๑ ตัว จำนวนเกษตรกร ๑๐,๙๘๒ รำย - เปด็ เน้ือ / เป็ดไข่ ๓๕,๘๘๖ ตัว จำนวนเกษตรกร ๒,๗๔๕ รำย (๖) แพะ จำนวน ๒๕๘ ตัว จำนวนเกษตรกร ๘๓ รำย ภาพการผลิตดา้ นปศสุ ตั ว์ ๑.๓ สำขำกำรประมง (๑) จบั ปลำจำกแหล่งนำ้ ธรรมชำติต่อปี จำนวน ๑,๑๑๐,๖๖๗ ก.ก. ปลำทจ่ี บั ได้มำก ไดแ้ ก่ ปลำช่อน ปลำดุก ปลำหมอ ปลำตะเพยี น ปลำนิล ปลำไน เป็นต้น (๒) กำรเพำะเล้ียงปลำ จบั ปลำได้ต่อปี จำนวน ๗๐๑ ตนั ปลำที่เลยี้ งมำก ไดแ้ ก่ ปลำตะเพยี น ปลำนลิ ปลำดกุ ปลำไน ปลำนวลจันทรเ์ ทศ เปน็ ตน้ ภาพการประมง
๑๒ ๒. ภำคอตุ สำหกรรม จงั หวัดยโสธรมีจำนวนโรงงำนอตุ สำหกรรม ๒๓๗ โรงงำน เงินลงทุน ๒,๓๖๕,๐๐๕,๓๑๑ บำท และมกี ำรจำ้ งงำนรวม ๓,๗๗๓ คน โรงงำนอตุ สำหกรรมทตี่ ั้งอยูม่ ีทงั้ ขนำด เล็กจนถงึ ขนำดใหญ่ ซ่งึ มที ั้งอุตสำหกรรมทีผ่ ลิตเพื่อจำหน่ำยในประเทศและสง่ ออกไปจำหน่ำยยัง ตำ่ งประเทศ เชน่ ยำงพำรำ สง่ ไปจำหน่ำยยังประเทศจนี ข้ำวหอมมะลิ ชุดชัน้ ในสตรียี่หอ้ ซำบีน่ำ เปน็ ต้น โดยมีหมวดอุตสำหกรรมทีม่ ีจำนวนโรงงำนมำกท่สี ดุ ๓ อันดับแรก ได้แก่ (๑) อุตสำหกรรมกำรเกษตร ได้แก่ โรงสีขำ้ ว อบเมล็ดพชื ทำมนั เส้น มีจำนวน โรงงำนท้งั ส้ิน ๓๙ โรงงำน เงินลงทนุ ๙๑๐.๖๓ ลำ้ นบำท กำรจำ้ งงำน ๔๒๕ คน (๒) อตุ สำหกรรมอโลหะ ได้แก่ ผลติ ภณั ฑค์ อนกรีต มีจำนวนโรงงำนทั้งสิน้ ๓๘ โรงงำน เงินลงทนุ ๑๔๐.๙๐ ล้ำนบำท กำรจ้ำงงำน ๒๗๒ คน (๓) อตุ สำหกรรมผลติ ภัณฑ์โลหะ ได้แก่ อัดเศษโลหะ กลงึ และเช่อื มโลหะ มีจำนวน โรงงำนท้งั สนิ้ ๒๓ โรงงำน เงินลงทนุ ๕๐.๑๙ ล้ำนบำท กำรจำ้ งงำน ๑๐๖ คน ภาพอตุ สาหกรรม เรำไปทำกจิ กรรม ฝกึ ทักษะกนั ดกี วำ่ คะนกั เรยี น
๑๓
๑๔ กิจกรรมที่ ๑.๑ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นทำเครอ่ื งหมำยถกู () ลงในช่องที่ถกู และทำเคร่อื งหมำยผิด () ลงในชอ่ งท่ผี ิดต่อไปน้ีใหถ้ กู ต้อง ผลวิเครำะห์ รำยกำรประเมิน ๑. ภมู ิปัญญำ คือ องค์ควำมรู้ของกำรดำรงชวี ติ ของคนไทยท่ีเกดิ ขึน้ ใหมใ่ นปัจจบุ ัน ๒. ภูมิปญั ญำ หมำยถึง พ้นื ฐำนควำมรู้ควำมสำมำรถ ควำมคิด ควำมเชื่อ ๓. ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิ่น สำมำรถแบ่งออกได้เปน็ ๑๑ ประเภท ๔. ควำมเชอ่ื และศำสนำทำให้เกดิ ภูมิปัญญำทแี่ ตกต่ำงกนั ๕. ประเพณแี ละพิธกี รรมเป็นส่ิงท่คี นในท้องถน่ิ สร้ำงขึน้ มำ เพื่อเปน็ กำรเพิ่มขวัญ และกำลงั ใจคนในสงั คม ๖. ภมู ปิ ัญญำท้องถิ่นที่เก่ียวกับศลิ ปะพ้นื บำ้ น เปน็ กำรนำเอำวัฒนธรรมต่ำงประเทศ มำประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวัน ๗. เทคโนโลยแี ละส่งิ ของเคร่ืองใช้ต่ำง ๆ ทเ่ี กิดจำกภมู ปิ ัญญำของคนไทย ในแตล่ ะภำคนนั้ ถอื เปน็ กำรประดิษฐกรรมและหตั ถกรรมช้ันเย่ยี ม ๘. จังหวัดยโสธรมีสนิ ค้ำผลิตภณั ฑช์ มุ ชนท่ีมชี ื่อเสียงเป็นทร่ี ู้จักกนั อย่ำง กวำ้ งขวำง เชน่ หมอนขิด ผ้ำยอ้ มสีธรรมชำติ ข้ำวหอมมะลิอนิ ทรยี ์ ๙. หมอนขดิ มชี ่อื เรยี กมำจำกกำรท่หี มอนทำมำจำกผำ้ ขำวมำ้ ผสมกบั ผำ้ ขิด ๑๐. ผลติ ภณั ฑจ์ กั สำนทีท่ ำจำกไม้ไผ่ มี ๑ ชนิด คือ กระตบิ ขำ้ ว สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนตอ้ งได้คะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรือ ๘ คะแนนขน้ึ ไป ผ่ำน ไม่ผำ่ น
๑๕ กิจกรรมท่ี ๑.๒ คำชแ้ี จง ให้นักเรียนวเิ ครำะห์ขอ้ ควำมต่อไปนแ้ี ล้วจบั คู่คำตอบให้ถูกต้อง ก. โคพืน้ เมอื ง โคพนั ธ์ โคลกู ผสม ข. ปลำช่อน ปลำดุก ปลำหมอ ค. อำเภอกุดชมุ อำเภอมหำชนะชัย และอำเภอค้อวัง ง. ๑,๐๙๓,๙๘๖ ไร่ จ. ปลำตะเพียน ปลำนลิ ปลำนวลจันทรเ์ ทศ ฉ. ๑๕๖,๘๘๒ ไร่ ช. ๒๓๗ โรงงำน ซ. ผลติ ภัณฑค์ อนกรีต ฌ. โรงสขี ้ำว อบเมล็ดพืช ทำมนั เสน้ ญ. หมอนขิด ............... ๑. ชำวนำปี มพี ้ืนทเี่ พำะปลูก ................................................................................................ ............... ๒. ชำวนำปรงั มพี ืน้ ที่ ............................................................................................................ ............... ๓. กำรปลกู ข้ำวหอมมะลปิ ลอดภัยและอนิ ทรยี ์ ปลกู ที่ ......................................................... ............... ๔. กำรผลติ ดำ้ นปศุสตั ว์ มีสตั ว์ท่เี กษตรกรเลี้ยงเพื่อจำหน่ำย ไดแ้ ก่ …………………………….... ............... ๕. จงั หวดั ยโสธรมสี นิ คำ้ ผลิตภณั ฑช์ มุ ชนที่มชี ือ่ เสยี งเปน็ ท่รี ู้จักกันอยำ่ งกว้ำงขวำง เชน่ .......................................................................................................................................... ............... ๖. กำรจับปลำจำกแหลง่ น้ำธรรมชำตปิ ลำทจี่ ับได้มำก ได้แก่ ................................................ ............... ๗. กำรเพำะเล้ียงปลำ และปลำทีเ่ ลี้ยงมำก ได้แก่ ……………………………………………………..…. ............... ๘. จงั หวัดยโสธรมจี ำนวนโรงงำนอตุ สำหกรรม ท้ังหมด …………………………………………..……. ............... ๙. อตุ สำหกรรมกำรเกษตร ได้แก่ ………………………………………………………………………..…….. ............... ๑๐. อตุ สำหกรรมอโลหะ ได้แก่ …………………………………………………………………………………. สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป หรอื ๘ คะแนนขน้ึ ไป ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น
๑๖ กิจกรรมท่ี ๑.๓ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นอ่ำนจบั ใจควำมสำคญั เร่อื ง อำชีพท้องถน่ิ จำกนนั้ ทำกจิ กรรมทงั้ หมด ๒ ตอนให้เรียบร้อย ตอนที่ ๑ ใหน้ ักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้ ๑. ภมู ิปญั ญำ มีควำมหมำยวำ่ อย่ำงไร ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๒. ภมู ปิ ญั ญำไทย มคี วำมหมำยว่ำอย่ำงไร ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๓. ผลติ ภัณฑช์ ุมชนชนิดใดที่มชี ือ่ เสยี งของจงั หวดั ยโสธรอยำ่ งกวำ้ งขวำง ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๔. รปู แบบของหมอนขิด มีลักษณะแบบใดบ้ำง ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๕. หมอนขนำดเลก็ ทใ่ี ช้หนุนนอนในรถยนต์มกี รี่ ูปแบบ ไดแ้ ก่รปู แบบใดบ้ำง ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ตอนท่ี ๒ เขียนสรุปใจควำมสำคัญ และแสดงควำมคดิ เห็นทีม่ ีต่อเรือ่ งทีอ่ ่ำน ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................ .... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๘ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรอื ๑๔ คะแนนข้นึ ไป ผำ่ น ไมผ่ ่ำน
๑๗ กจิ กรรมที่ ๑.๔ คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนเติมคำตอบต่อไปนี้ใหถ้ กู ต้อง ๑. ภูมิปญั ญำ หมำยถึง .......................................................................................................................... ............................................................................................................................. .................................. ๒. ภูมปิ ญั ญำไทย หมำยถึง .................................................................................................................... ........................................................................................ ........................................................................ ๓. ประเภทของภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ คอื ................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ๔. ภมู ิปญั ญำที่เก่ียวกับควำมเชื่อและศำสนำ คอื .................................................................................. ............................................................................................................................................ .................... ๕. ภมู ิปัญญำทอ้ งถน่ิ ทเ่ี กี่ยวกับประเพณแี ละพิธีกรรม คอื ..................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ๖. ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิน่ ที่เก่ยี วกับศลิ ปะพน้ื บำ้ น คือ ................................................................................. ............................................................................................................................. ................................... ๗. ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถิ่นทเ่ี ก่ียวกับอำหำรและผักพ้ืนบ้ำน คือ ..................................................................... ............................................................................................................................. ................................... ๘. ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถน่ิ ทเ่ี ก่ียวกับกำรละเลน่ พ้ืนบ้ำน คือ .......................................................................... ............................................................................................................. ................................................... ๙. ภูมปิ ญั ญำท้องถิ่นทีเ่ กยี่ วกับศิลปวัฒนธรรม คือ ................................................................................ ................................................................................................................................................................ ๑๐. กำรประกอบอำชีพของชำวยโสธร คอื ........................................................................................... ................................................................................................................................................................ สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรือ ๘ คะแนนข้ึนไป ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น
๑๘ กจิ กรรมท่ี ๑.๕ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นอำ่ นบทควำมต่อไปน้ี แล้วตอบคำถำมใหถ้ กู ต้อง ภำคอตุ สำหกรรม จังหวัดยโสธรมจี ำนวนโรงงำนอตุ สำหกรรม ๒๓๗ โรงงำน เงินลงทุน ๒,๓๖๕,๐๐๕,๓๑๑ บำท และมกี ำรจ้ำงงำนรวม ๓,๗๗๓ คน โรงงำนอุตสำหกรรมทตี่ ้งั อย่มู ที ั้งขนำด เลก็ จนถงึ ขนำดใหญ่ ซึง่ มีท้งั อุตสำหกรรมที่ผลิตเพ่ือจำหน่ำยในประเทศและสง่ ออกไปจำหนำ่ ยยงั ต่ำงประเทศ เช่น ยำงพำรำ ส่งไปจำหนำ่ ยยงั ประเทศจนี ข้ำวหอมมะลิ ชุดช้นั ในสตรยี หี่ อ้ ซำบีน่ำ เปน็ ตน้ โดยมหี มวดอุตสำหกรรมทีม่ จี ำนวนโรงงำนมำกทีส่ ดุ ๓ อันดับแรก ได้แก่ ๑. อตุ สำหกรรมกำรเกษตร ได้แก่ โรงสีข้ำว อบเมล็ดพชื ทำมันเส้น มจี ำนวนโรงงำน ท้ังสน้ิ ๓๙ โรงงำน เงนิ ลงทนุ ๙๑๐.๖๓ ล้ำนบำท กำรจำ้ งงำน ๔๒๕ คน ๒. อตุ สำหกรรมอโลหะ ได้แก่ ผลิตภัณฑค์ อนกรตี มีจำนวนโรงงำนทงั้ ส้นิ ๓๘ โรงงำน เงนิ ลงทนุ ๑๔๐.๙๐ ลำ้ นบำท กำรจ้ำงงำน ๒๗๒ คน ๓. อตุ สำหกรรมผลิตภัณฑโ์ ลหะ ไดแ้ ก่ อัดเศษโลหะ กลงึ และเชอ่ื มโลหะ มจี ำนวน โรงงำนทั้งสน้ิ ๒๓ โรงงำน เงินลงทุน ๕๐.๑๙ ล้ำนบำท กำรจ้ำงงำน ๑๐๖ คน ๑. จงั หวดั ยโสธรมจี ำนวนโรงงำนอุตสำหกรรมทั้งหมดก่ีโรงงำน ตอบ .................................................................................................................................. ๒. โรงงำนอุตสำหกรรมที่ผลิตเพือ่ จำหน่ำยในประเทศและสง่ ออกไปจำหน่ำยยังต่ำงประเทศคือสินคำ้ ประเภทใด ตอบ .................................................................................................................................. ๓. อตุ สำหกรรมกำรเกษตร ได้แก่ประเภทใดบำ้ ง และมีทัง้ หมดกีโ่ รงงำน ตอบ .................................................................................................................................. ๔. อุตสำหกรรมอโลหะ ได้แก่ประเภทใดบ้ำง และมที ้ังหมดกโี่ รงงำน ตอบ ............................................................................................................................. ..... ๕. อตุ สำหกรรมผลติ ภณั ฑ์โลหะ ได้แกป่ ระเภทใดบำ้ ง และมที ้งั หมดก่ีโรงงำน ตอบ ............................................................................................................................. ..... สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนต้องไดค้ ะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป หรอื ๘ คะแนนขนึ้ ไป ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น
๑๙ กิจกรรมที่ ๑.๖ คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นอ่ำนจบั ใจควำมสำคญั เรื่องต่อไปน้ีด้วยเทคนคิ Sq๔r สภำพเศรษฐกิจ สภำพทำงเศรษฐกจิ เทศบำลตำบลกุดชุมพฒั นำ เปน็ ศูนย์กลำงทำง กำรเกษตรและบริกำรใหก้ ับประชำชนทีอ่ ย่ใู นเขตรอบนอกชมุ ชน ซ่ึงส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ เกษตรกรรม โดยเป็นศนู ยร์ วมในกำรซื้อขำยข้ำวเปลือกและพืชเศรษฐกจิ อื่น ๆ อีกด้วย ผ้ปู ระกอบกำร พำณชิ ย์ในเขตเทศบำลสว่ นใหญจ่ ะเป็นรำ้ นค้ำจำหนำ่ ยสินค้ำอปุ โภคบริโภค และบรกิ ำรพ้ืนฐำนต่ำง ๆ นอกจำกนี้ ยงั มสี ถำบนั กำรเงินตง้ั อยู่ในเขตเทศบำล จำนวน ๓ แห่ง คอื ธนำคำรกรงุ ไทย จำกัด, ธนำคำรออมสนิ , ธนำคำรเพ่ือกำรเกษตรและสหกรณ์กำรเกษตร กำรเกษตรกรรม ลักษณะกำรเกษตรกรรมในเขตเทศบำลและเขตรอบนอก ประชำชน มอี ำชีพเลยี้ งสัตว์ ทำไร่ ทำนำ ในช่วงฤดฝู น และปลกู พืชผักสวนครวั ในชว่ งหลงั เก็บเกย่ี ว บรเิ วณ ที่เพำะปลูกกนั มำกคือบรเิ วณสองฝง่ั ลำหว้ ยสำธำรณะและท่ลี มุ่ ตำ่ งๆรอบๆเขชมุ ชนเมอื ง กำรพณชิ ยกรรม/กำรบริกำร กำรพำณิชย์กรรมในเขตเทศบำลตำบลกดุ ชุมพฒั นำ มศี นู ยก์ ลำงอยบู่ รเิ วณตลำดสดเทศบำลและริมทำงหลวงหมำยเลข ๒๑๖๙ ซึ่งสว่ นใหญจ่ ะเปน็ กำร ประกอบกำรคำ้ ดำ้ นเคร่อื งอปุ โภค บรโิ ภคทวั่ ไป เชน่ อปุ กรณ์ไฟฟำ้ วัสดุกอ่ สร้ำง น้ำมันเช้อื เพลิง ร้ำนประกอบกำรขำยเสอื้ ผำ้ เปน็ ต้น ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบครำ่ ว ๆ ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๒. Question (Q) อ่ำนบทควำมและต้งั คำถำม ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๓. Read (R) อำ่ นซำ้ และหำคำตอบจำกข้อท่ี ๒ ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๔. Record (R) จดบันทกึ ข้อมูลทีส่ ำคญั ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... ๕. Recite (R) สรุปใจควำมสำคัญของเรื่อง ตอบ ............................................................................................................................................. ........................................................................................................................................................... สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรอื ๑๒ คะแนนขึ้นไป ผ่ำน ไม่ผ่ำน
๒๐ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนังสอื ส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถนิ่ กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เลม่ ที่ ๒ อำชพี ท้องถนิ่ คำชีแ้ จง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๒. ใหน้ ักเรียนทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตัวอกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ทถ่ี กู ท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว ๑. “ภมู ิปญั ญำ” มคี วำมหมำยตรงกบั ข้อใด ก. กำรรักษำภูมิปัญญำของบรรพบรุ ุษตั้งแตอ่ ดีตจนถงึ ปัจจุบนั ข. กำรสรำ้ งสรรคง์ ำนศลิ ปะต่ำง ๆ โดยกำรนำทรพั ยำกรมำประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจำวนั ค. มีพ้นื ฐำนทำงควำมเชอื่ ในศำสนำทีแ่ ตกต่ำงกนั โดยกำรผสมผสำนกบั ควำมเชื่อดังเดมิ จนกลำยเป็นลักษณะเฉพำะของแตล่ ะท้องถ่นิ ง. องค์ควำมรู้ที่เกิดจำกกำรส่ังสมประสบกำรณ์ แล้วนำมำประยกุ ต์ใช้ในกำรแกป้ ญั หำ และ กำรดำรงชวี ติ ๒. ข้อใดกล่ำวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับภูมปิ ัญญำท้องถ่ิน ก. ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ สำมำรถจำแนกออกเป็น ๑๐ ลกั ษณะ ข. ภูมปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ มีมำกมำยหลำยแขนง แตม่ ักจะถูกมองวำ่ ลำ้ หลัง ค. ภมู ิปญั ญำทอ้ งถน่ิ ทีเ่ ก่ียวกับกำรละเล่นพน้ื บ้ำน เช่น สถำปตั ยกรรม ประตมิ ำกรรม ง. ภูมปิ ญั ญำท้องถ่นิ ส่วนใหญจ่ ะใชอ้ ปุ กรณ์ในกำรละเล่นทีป่ ระดิษฐ์มำจำกธรรมชำติ ๓. ข้อใด คือ ควำมหมำยของภูมิปัญญำทีเ่ กย่ี วกบั ควำมเชื่อและศำสนำ ก. ควำมเชื่อในทำงพระพุทธศำสนำเป็นหลัก และไดม้ ีส่วนสร้ำงสรรค์สังคม ข. กำรนำเทคนคิ กำรถนอมอำหำรและกำรปรุงอำหำรมำใช้ ค. ประเพณีและพธิ กี รรมคนในทอ้ งถิน่ สรำ้ งขน้ึ มำ โดยเป็นกำรเพ่ิมขวญั และกำลงั ใจคนในสังคม ง. กำรสรำ้ งสรรค์งำนศิลปะ โดยกำรนำทรัพยำกรท่ีมอี ยู่มำประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจำวนั ๔. ชำวจงั หวัดยโสธร ร้อยละ ๖๐ % ประกออบอำชีพประเภทใด ก. อุตสำหกรรม ข. เกษตรกรรม ค. พำณชิ ยกรรม ง. ภำคบรกิ ำร
๒๑ ๕. กำรปลูกข้ำวหอมมะลปิ ลอดภยั และอนิ ทรยี ์ไดป้ ลูกที่อำเภอใด ก. อำเภอกุดชุม ข. อำเภอค้อวงั ค. อำเภอมหำชนะชยั ง. ถกู ทุกข้อที่กลำ่ วมำ ๖. กำรผลิตด้ำนปศุสัตว์ ทเ่ี กษตรกรเลีย้ งเพ่ือจำหน่ำย ได้แกส่ ัตว์ชนิดใดบำ้ ง ก. ปลำกัดเล้ียงเพ่ือจำหน่วย ข. โคพ้ืนเมือง โคพันธ์ โคลกู ผสม ค. สนุ ขั หลำกหลำยสำยพันธ์ ง. ไมม่ ขี ้อใดกล่ำวถกู ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปนแ้ี ล้วตอบคำถำมข้อที่ ๗ – ๘ ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื หรือที่เรยี กกันวำ่ “ภำคอีสำน” มพี นื้ ท่กี วำ้ งใหญ่กวำ่ ทุกภำค พนื้ ดนิ สว่ นใหญไ่ มค่ ่อยสมบูรณ์ พื้นดินเปน็ ดนิ ทรำยไม่อุ้มน้ำ ทำใหด้ นิ ดแู หง้ แลง้ ยำวนำนกว่ำภำคอ่นื แม่น้ำโขง ชี มลู เปรยี บเสมือนเส้นเลือดใหญท่ ่ีหลอ่ เล้ียงภำคตะวันออกเฉียงเหนือ หน้ำหนำว มีอุณหภูมิต่ำ หน้ำร้อนก็ร้อนจนแล้ง ด้วยภูมิประเทศและภูมิอำกำศท่ีมีควำมแตกต่ำงกันมำกนี้ คน ภำคตะวันออกเฉียงเหนือจึงต้องปรับตัวตำม ประเพณี ควำมเช่ือ งำนเทศกำลต่ำง ๆ จึงมักเก่ียวพัน กับสภำพแวดลอ้ มตำมธรรมชำติ เช่น งำนบญุ บง้ั ไฟ งำนบุญคณุ ลำน งำนบญุ ข้ำวประดับดนิ เปน็ ตน้ ๗. จำกข้อควำมข้ำงต้น “แม่นำ้ โขง ชี มลู เปรยี บเสมือนเส้นเลือดใหญ่ท่ีหล่อเลี้ยง” มีควำมหมำยตรงกับข้อใด ก. แหลง่ นำ้ ที่มีควำมอุดมสมบูรณ์ มีสตั วน์ ้ำหลำกหลำยชนิด ข. แหล่งนำ้ ที่สำคัญ เพ่อื สำธำรณปู โภคทส่ี ำคัญของประเทศ ค. แหลง่ น้ำทส่ี ำคัญ เปน็ เส้นทำงหลกั ในกำรจรำจรทำงนำ้ ของภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ง. แหล่งน้ำทีส่ ำคัญในกำรดำรงชวี ิตของประชำกรในภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ ๘. ข้อใด คอื ประเพณที ่เี กีย่ วกบั สภำพแวดลอ้ มตำมธรรมชำติของภำคภำคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ก. ประเพณบี ญุ คุณลำน ประเพณยี ่ีเปง็ ประเพณีลอยกระทงสำย ข. ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีตำนตงุ ประเพณชี ักพระ ค. ประเพณีบญุ บั้งไฟ ประเพณีบุญคณุ ลำน ประเพณบี ญุ ข้ำวประดบั ดิน ง. ประเพณบี ุญขำ้ วประดับดิน ประเพณีแขง่ ขนั ตีโพน ประเพณีรบั บัว
๒๒ ให้นกั เรยี นอำ่ นข้อควำมต่อไปนีแ้ ลว้ ตอบคำถำมข้อท่ี ๙ – ๑๐ วัฒนธรรมกำรไหว้ คือ กำรแสดงควำมมีสัมมำคำรวะอยำ่ งหน่ึง เปน็ ธรรมเนยี ม กำรทักทำย และแสดงควำมเคำรพต่อกัน กำรไหวท้ ำให้ผ้ใู หญ่รักและเอ็นดู คนทพ่ี บเห็น ต่ำงชนื่ ชม คำท่ีเรำมักจะ ไดย้ ินเปน็ ประจำท่ใี ช้กล่ำวชมผู้ที่มีสัมมำคำรวะและไดร้ บั กำรอบรมมำรยำทกำรไหว้ว่ำรู้จกั “ไปลำมำไหว้” หมำยควำมว่ำ เม่อื พบกนั ก็ไหวท้ ักทำยเม่ือจำกกนั กไ็ หว้ลำพร้อมกลำ่ วคำว่ำ “สวัสดี” ๙. ข้อใด คือ ใจควำมสำคัญของขอ้ ควำมน้ี ก. กำรไหว้ เป็นกำรแสดงควำมมีสมั มำคำรวะอย่ำงหน่ึง เพ่ือแสดงควำมเคำรพตอ่ กัน ข. เมือ่ พบกนั ก็ต้องไหว้ทักทำย และเมอ่ื จำกกันก็ต้องไหวล้ ำ ค. เพือ่ ให้ผูใ้ หญ่กลำ่ วชมผทู้ ีม่ ีสมั มำคำรวะว่ำรจู้ ัก “ไปลำมำไหว้” ง. กำรไหวท้ ำใหผ้ ูใ้ หญ่รักและเอน็ ดู และคนที่พบเห็นต่ำงชื่นชม ๑๐. จำกข้อควำมข้ำงตน้ คำว่ำ “สวัสด”ี สำมำรถใชก้ บั สถำนกำรณใ์ ดไดบ้ ำ้ ง ก. เม่ือพบเจอคนอ่นื ที่ไม่สนิทให้กล่ำวคำวำ่ “สวัสด”ี ข. พบกันก็ไหว้ทักทำย เม่ือจำกกนั ก็ไหว้ลำพร้อมกล่ำวคำวำ่ “ลำกอ่ น” ค. เม่อื เมื่อพบกนั ก็ไหวท้ ักทำย เม่อื จำกกันก็ไหว้ลำพร้อมกล่ำวคำวำ่ “สวัสดี” ง. เมอื่ พบกนั ให้กล่ำวคำว่ำ “สวัสด”ี เมอ่ื จำกกันให้กลำ่ วคำว่ำ “ลำก่อน” สู้ๆ นะคะนักเรยี น
๒๓ กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรียน หนงั สือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ ๓ เลม่ ท่ี ๒ อำชพี ท้องถ่ิน คำช้แี จง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ใหน้ กั เรยี นทำเคร่ืองหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ทถี่ ูกที่สดุ เพียงข้อเดยี ว ข้อ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป หรอื ๘ คะแนนข้นึ ไป ผำ่ น ไม่ผ่ำน
๒๔ บรรณำนกุ รม กมลเนตร คำไสย.์ (๒๕๔๙). กำรพฒั นำกำรเรยี นรูก้ ำรอ่ำนจับใจควำมบทร้อยกรองภำษำไทย ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ ๒ ด้วยกระบวนกำรกลุ่มท่ใี ช้แผนผังควำมร.ู้ วทิ ยำนิพนธ์กำรศึกษำ มหำบัณฑิต คณะศึกษำศำสตร์ สำขำวิชำหลกั สูตรและกำรสอน มหำวิทยำลัย มหำสำรคำม. กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (๒๕๔๕). คพู่ ฒั นำสื่อกำรเรยี นร.ู้ กรุงเทพฯ : กรุงเทพฯ : ครุ สุ ภำลำดพร้ำว. _______.(๒๕๕๒). มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัด กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย. ตำมหลักสตู ร แกนกลำงกำรศกึ ษำขึน้ พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : ชุมชนสหกรณก์ ำรเกษตร แหง่ ประเทศไทย. _______. (๒๕๕๒). แนวทำงกำรจดั กำรเรียนรู้ ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : สำนกั วชิ ำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน. _______.(๒๕๕๒). แนวกำรวดั ผลและประเมินผลกำรเรียนรู้ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้ันพนื้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : สำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน. _______. (๒๕๔๕). เทคนิคกำรเขยี นหนังสอื สำหรบั เดก็ . กรงุ เทพฯ : ครุสภำลำดพร้ำว. กำญจนำ สุรยิ ะวิทยะ. (๒๕๕๓). กำรพฒั นำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำน เรอื่ งประเพณีทอ้ งถ่นิ สกลนคร เพื่อฝึกทักษะกำรอำ่ นและกำรเขียนภำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๒. วิทยำนิพนธ์ ครุ ศำสตร มหำบณั ฑติ สำขำหลักสูตรและกำรสอน มหำวิทยำลยั รำชภัฏสกลนคร. กำนต์มณี ศกั ดิเ์ จรญิ . (๒๕๔๓). กิจกรรมส่งเสริมกำรอำ่ น. กรงุ เทพฯ : คุรสุ ภำลำดพร้ำว. กุลวรำ ชูพงษไ์ พโรจน.์ (๒๕๔๕). หนงั สอื ทำมอื ทำได้งำ่ ยจัง. กรุงเทพฯ : เอดิสันเพรส โพรดกั ส์. กศุ ยำ แสงเดช และคนคณะ (๒๕๔๕). หนังสอื ส่งเสริมกำรอ่ำน. กรงุ เทพฯ : แมค็ . สำลี รกั สทุ ธ.ี (๒๕๕๓). ค่มู อื กำรจดั ทำสอื่ นวัตกรรม และแผนฯ และกอบสื่อ นวตั กรรม. กรุงเทพฯ : พฒั นำศึกษำ. สนุ ันทำ มน่ั เศรษฐวิทย.์ (๒๕๔๕). หลักและวธิ ีกำรสอนอำ่ นภำษไทย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนำพำณิช. สุวทิ ย์ มูลคำ และสนุ ันทำ สนุ ทรประเสรฐิ . (๒๕๕๐). กำรพฒั นำผลงำนทำงวิชำกำร สกู่ ำรเลือ่ น วิทยฐำนะ. กรุงเทพฯ : อี เค บคุ ส์. สำนกั งำนจงั หวัดยโสธร. (๒๕๕๐). กลมุ่ งำนข้อมูลสำรสนเทศจังหวัดยโสธร. สืบคน้ ออนไลนท์ ่ี : http://www.yasothon.go.th/web.
๒๕
๒๖ เฉลยกิจกรรมท่ี ๑.๑ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นทำเครอื่ งหมำยถูก () ลงในช่องท่ีถูก และทำเครื่องหมำยผิด () ลงในช่องทีผ่ ดิ ต่อไปน้ใี ห้ถูกต้อง ผลวิเครำะห์ รำยกำรประเมนิ ๑. ภูมปิ ัญญำ คือ องค์ควำมรู้ของกำรดำรงชวี ิตของคนไทยทเี่ กิดข้ึนใหมใ่ นปจั จุบัน ๒. ภมู ปิ ัญญำ หมำยถึง พืน้ ฐำนควำมรคู้ วำมสำมำรถ ควำมคิด ควำมเชอื่ ๓. ภูมิปัญญำทอ้ งถิน่ สำมำรถแบง่ ออกไดเ้ ป็น ๑๑ ประเภท ๔. ควำมเชือ่ และศำสนำทำให้เกิดภูมิปญั ญำที่แตกตำ่ งกนั ๕. ประเพณีและพิธกี รรมเป็นสงิ่ ทคี่ นในท้องถิน่ สรำ้ งขึ้นมำ เพอ่ื เปน็ กำรเพิม่ ขวัญ และกำลังใจคนในสงั คม ๖. ภูมิปัญญำท้องถิ่นท่ีเก่ียวกับศิลปะพนื้ บ้ำน เปน็ กำรนำเอำวัฒนธรรมต่ำงประเทศ มำประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวัน ๗. เทคโนโลยีและสิ่งของเคร่ืองใชต้ ่ำง ๆ ที่เกดิ จำกภูมิปญั ญำของคนไทย ในแตล่ ะภำคนั้นถอื เป็นกำรประดิษฐกรรมและหัตถกรรมช้ันเย่ียม ๘. จังหวัดยโสธรมีสนิ ค้ำผลิตภณั ฑ์ชมุ ชนทีม่ ชี ่ือเสียงเปน็ ทรี่ ู้จักกนั อย่ำง กว้ำงขวำง เชน่ หมอนขดิ ผำ้ ยอ้ มสีธรรมชำติ ขำ้ วหอมมะลิอนิ ทรีย์ ๙. หมอนขดิ มีช่อื เรียกมำจำกกำรท่ีหมอนทำมำจำกผำ้ ขำวม้ำผสมกับผ้ำขดิ ๑๐. ผลติ ภณั ฑจ์ กั สำนทท่ี ำจำกไม้ไผ่ มี ๑ ชนดิ คอื กระตบิ ขำ้ ว สูๆ้ นะคะนกั เรียน
๒๗ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๒ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนวเิ ครำะหข์ อ้ ควำมตอ่ ไปน้ีแล้วจับค่คู ำตอบให้ถูกต้อง ก. โคพน้ื เมอื ง โคพนั ธ์ โคลกู ผสม ข. ปลำชอ่ น ปลำดกุ ปลำหมอ ค. อำเภอกดุ ชุม อำเภอมหำชนะชัย และอำเภอค้อวัง ง. ๑,๐๙๓,๙๘๖ ไร่ จ. ปลำตะเพียน ปลำนิล ปลำนวลจันทรเ์ ทศ ฉ. ๑๕๖,๘๘๒ ไร่ ช. ๒๓๗ โรงงำน ซ. ผลติ ภัณฑค์ อนกรีต ฌ. โรงสีขำ้ ว อบเมล็ดพชื ทำมันเส้น ญ. หมอนขดิ ........ง....... ๑. ชำวนำปี มีพืน้ ท่เี พำะปลกู ๑,๐๙๓,๙๘๖ ไร่ ........ฉ....... ๒. ชำวนำปรงั มพี ้นื ท่ี ๑๕๖,๘๘๒ ไร่ ........ค....... ๓. กำรปลกู ขำ้ วหอมมะลปิ ลอดภยั และอนิ ทรีย์ ปลกู ที่อำเภอกดุ ชมุ อำเภอมหำชนะชยั และอำเภอค้อวัง ........ก....... ๔. กำรผลิตดำ้ นปศุสตั ว์ มสี ตั ว์ทเี่ กษตรกรเล้ยี งเพอ่ื จำหน่ำย ได้แก่ โคพน้ื เมือง โคพนั ธ์ โคลูกผสม ........ญ....... ๕. จงั หวัดยโสธรมีสนิ ค้ำผลติ ภัณฑ์ชุมชนทมี่ ีช่ือเสียงเป็นทรี่ ู้จกั กันอยำ่ งกว้ำงขวำง เชน่ หมอนขิด ........ข....... ๖. กำรจับปลำจำกแหลง่ นำ้ ธรรมชำติปลำทจี่ ับได้มำก ได้แก่ ปลำช่อน ปลำดุก ปลำหมอ ........จ....... ๗. กำรเพำะเล้ยี งปลำ และปลำทเ่ี ล้ียงมำก ได้แก่ ปลำตะเพียน ปลำนลิ ปลำนวลจันทรเ์ ทศ ........ช....... ๘. จังหวัดยโสธรมีจำนวนโรงงำนอตุ สำหกรรม ทั้งหมด ๒๓๗ โรงงำน ........ฌ....... ๙. อุตสำหกรรมกำรเกษตร ได้แก่ โรงสขี ้ำว อบเมล็ดพืช ทำมันเสน้ ........ซ....... ๑๐. อตุ สำหกรรมอโลหะ ได้แก่ ผลติ ภณั ฑ์คอนกรตี
๒๘ เฉลยกิจกรรมท่ี ๑.๓ คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นอ่ำนจับใจควำมสำคญั เร่อื ง อำชีพท้องถิน่ จำกนนั้ ทำกจิ กรรมทงั้ หมด ๒ ตอนใหเ้ รยี บรอ้ ย ตอนท่ี ๑ ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้ ๑. ภมู ิปญั ญำ มคี วำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร ตอบ พืน้ ฐำนควำมรูค้ วำมสำมำรถ ควำมคดิ ควำมเชื่อ ควำมสำมำรถทำงพฤติกรรม ควำมสำมำรถ ในกำรแก้ไขปัญหำ โดยใชป้ ระสบกำรณ์ทีส่ ัง่ สมไวใ้ นกำรปรับตัว และทำควำมเขำ้ ใจ ๒. ภูมปิ ัญญำไทย มีควำมหมำยวำ่ อย่ำงไร ตอบ องค์ควำมรู้ในด้ำนต่ำง ๆ ของกำรดำรงชีวิตของคนไทยที่เกิดจำกกำรสั่งสมประสบกำรณ์ทั้ง ทำงตรง และทำงอ้อมทป่ี ระกอบดว้ ยแนวคิดในกำรแกป้ ัญหำของตนเอง ๓. ผลิตภณั ฑ์ชมุ ชนชนิดใดทีม่ ีชอื่ เสียงของจงั หวัดยโสธรอยำ่ งกว้ำงขวำง ตอบ หมอนขดิ ผลิตภัณฑจ์ ักสำน และผำ้ ยอ้ มสธี รรมชำติ ๔. รูปแบบของหมอนขิด มีลักษณะแบบใดบ้ำง ตอบ หมอน ๖ ลูก หมอน ๙ ลูก หมอนขวำน เบำะรองนงั่ หมอนข้ำง หมอนเล็ก หมอนลูกฟักทอง ๕. หมอนขนำดเลก็ ทีใ่ ชห้ นุนนอนในรถยนต์มีก่รี ูปแบบ ไดแ้ ก่รูปแบบใดบำ้ ง ตอบ มี ๔ รูปแบบ ได้แก่ หมอนสำมเหลี่ยม หมอนติดเบำะ หมอนผ้ำดไี ซด์ เบำะน่ังและยงั ส่งที่ ลำดพรำ้ ว ตอนท่ี ๒ เขียนสรุปใจควำมสำคญั และแสดงควำมคดิ เหน็ ที่มตี ่อเร่อื งท่ีอำ่ น ตอบ ภมู ปิ ญั ญำมีพน้ื ฐำนควำมร้คู วำมสำมำรถ ควำมคดิ ควำมเชอื่ ควำมสำมำรถทำงพฤติกรรม ควำมสำมำรถในกำรแก้ไขปญั หำ โดยใชป้ ระสบกำรณ์ที่สงั่ สมไว้ในกำรปรับตัว และทำควำมเขำ้ ใจ และดำรงชีพในสภำพแวดล้อมทำงธรรมชำตแิ ละสงิ่ แวดล้อมทำงสังคมและวัฒนธรรมท่ีไดม้ กี ำรพฒั นำ สบื สำนกนั มำ และอำชีพเปน็ รปู แบบกำรดำรงชีพในสงั คมมนษุ ย์ปจั จบุ นั อำชีพเปน็ หนำ้ ที่ของบุคคล ในสงั คม กำรทีบ่ คุ คลประกอบอำชพี จะได้มำซึง่ ค่ำตอบแทน หรือรำยไดเ้ พอ่ื ใช้จำ่ ยในกำรดำรงชวี ิต
๒๙ แบบประเมนิ กำรรว่ มกิจกรรมที่ ๑.๓ ช่อื ........................................................…นำมสกุล.............................................เลขที่........................ ผปู้ ระเมิน นักเรยี น เพ่อื น ครู คำชแี้ จง ใหท้ ำเคร่ืองหมำยถูกต้อง ลงในช่องว่ำงระดับคะแนนท่ีตรงกับควำมเปน็ จริงมำกทสี่ ุด โดยจัดระดับคุณภำพเปน็ ๓ ระดบั ตำมเกณฑ์ตอ่ ไปนี้ ๓ หมำยถงึ สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไดถ้ ูกตอ้ ง ชดั เจน และตรงประเด็น ๒ หมำยถึง สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไมค่ ่อยถูกตอ้ ง และไมค่ อ่ ยตรงประเดน็ ๑ หมำยถงึ ไมส่ ำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมได้ถกู ต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน ๓๒๑ ตอนท่ี ๑ ใหน้ ักเรียนตอบคำถำมให้ถกู ต้อง ๑. ภมู ปิ ัญญำ มคี วำมหมำยว่ำอย่ำงไร ๒. ภมู ปิ ญั ญำไทย มคี วำมหมำยว่ำอย่ำงไร ๓. ผลติ ภัณฑ์ชุมชนชนดิ ใดท่ีมีช่ือเสยี งของจังหวดั ยโสธรอย่ำงกว้ำงขวำง ๔. รปู แบบของหมอนขดิ มีลักษณะแบบใดบ้ำง ๕. หมอนขนำดเลก็ ท่ใี ช้หนนุ นอนในรถยนต์มกี ีร่ ปู แบบ ไดแ้ กร่ ปู แบบใดบ้ำง ตอนที่ ๒ เขียนสรปุ ใจควำมสำคญั และแสดงควำมคิดเห็นท่มี ีตอ่ เรื่องที่อำ่ น - สรุปใจควำมสำคัญและแสดงควำมคิดเหน็ คะแนนรวมแต่ละชอ่ ง สรปุ คะแนนที่ได้ (หำรด้วยสอง) เกณฑ์กำรประเมิน ผำ่ นเกณฑ์รอ้ ยละ ๘๐ ผลกำรประเมิน นกั เรยี นได้คะแนน ๑๔ คะแนนขึ้นไป จึงถือว่ำผ่ำน ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น ลงชื่อ..................................................ผู้ประเมนิ (.................................................)
๓๐ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๑.๔ คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนเติมคำตอบตอ่ ไปนี้ใหถ้ กู ต้อง ๑. ภมู ปิ ัญญำ หมำยถึง พ้ืนฐำนควำมรู้ควำมสำมำรถ ควำมคดิ ควำมเช่อื ควำมสำมำรถทำงพฤติกรรม ควำมสำมำรถในกำรแก้ไขปัญหำ ๒. ภมู ปิ ญั ญำไทย หมำยถึง องค์ควำมร้ใู นด้ำนต่ำง ๆ ของกำรดำรงชีวิตของคนไทยท่เี กดิ จำกกำรสั่ง สมประสบกำรณท์ ง้ั ทำงตรง และทำงอ้อม ๓. ประเภทของภูมปิ ญั ญำท้องถิ่น คอื ภมู ิปญั ญำท้องถ่ินท่สี ืบทอดบอกกล่ำวกันเป็นกำรภำยใน เชน่ สตู รทำอำหำร หรอื ตำรับตำรำตำ่ ง ๆ ทำให้ไม่เป็นทรี่ บั รู้กันโดยทว่ั ไป ๔. ภูมิปญั ญำท่ีเกย่ี วกับควำมเช่ือและศำสนำ คอื ภูมปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ ของไทยทเี่ ก่ยี วกับควำมเชือ่ ในทำง พระพุทธศำสนำเปน็ หลัก และได้มสี ่วนสรำ้ งสรรค์สงั คม โดยกำรผสมผสำนกับควำมเช่ือดังเดิมจน กลำยเป็นลักษณะเฉพำะของแตล่ ะท้องถ่นิ ๕. ภมู ิปัญญำทอ้ งถน่ิ ทเ่ี กีย่ วกับประเพณแี ละพิธีกรรม คือ ประเพณีและพิธีกรรมทค่ี นในท้องถนิ่ สร้ำง ข้ึนมำ โดยเฉพำะเปน็ กำรเพ่ิมขวัญและกำลังใจคนในสงั คม ๖. ภูมิปญั ญำท้องถนิ่ ทเ่ี กยี่ วกับศิลปะพืน้ บ้ำน คือ กำรสร้ำงสรรค์งำนศิลปะต่ำง ๆ โดยกำรนำ ทรพั ยำกรท่ีมีอย่มู ำประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจำวัน ๗. ภมู ิปัญญำทอ้ งถ่ินที่เก่ยี วกบั อำหำรและผักพ้ืนบ้ำน คือ กำรนำเทคนคิ กำรถนอมอำหำรและกำรปรุง อำหำรมำใช้ เพ่ือให้อำหำรทมี่ ีมำกเกนิ ควำมตอ้ งกำรสำมำรถเก็บไว้บริโภคได้เป็นเวลำนำน ๘. ภูมิปัญญำท้องถ่ินที่เก่ียวกับกำรละเล่นพื้นบ้ำน คือ ภูมิปัญญำท้องถ่ินของไทยท่ีจะใช้อุปกรณ์ใน กำรละเล่นทีป่ ระดษิ ฐ์มำจำกธรรมชำติ ซ่ึงแสดงให้เหน็ วถิ ีชวี ติ ที่ผูกพนั กบั ธรรมชำติ ๙. ภูมิปัญญำท้องถิ่นท่ีเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม คือ วัฒนธรรมท่ีหลำกหลำย สำมำรถพบหลักฐำนจำก รอ่ งรอยของศลิ ปวฒั นธรรมทปี่ รำกฏกระจำยอย่ทู ่วั ไป เชน่ สถำปตั ยกรรม ประตมิ ำกรรม จติ รกรรม เป็นต้น ๑๐. กำรประกอบอำชพี ของชำวยโสธร คือ เกษตรกรรม อุตสำหกรรม พำณิชยกรรม ขนส่ง และกำรบริกำร
๓๑ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๕ คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอำ่ นบทควำมต่อไปน้แี ลว้ ตอบคำถำมใหถ้ กู ต้อง ภำคอุตสำหกรรม จังหวัดยโสธรมจี ำนวนโรงงำนอุตสำหกรรม ๒๓๗ โรงงำน เงินลงทนุ ๒,๓๖๕,๐๐๕,๓๑๑ บำท และมกี ำรจำ้ งงำนรวม ๓,๗๗๓ คน โรงงำนอตุ สำหกรรมทีต่ ง้ั อยู่มที ั้งขนำด เลก็ จนถึงขนำดใหญ่ ซึง่ มีทัง้ อุตสำหกรรมที่ผลิตเพ่ือจำหนำ่ ยในประเทศและส่งออกไปจำหนำ่ ยยงั ตำ่ งประเทศ เช่น ยำงพำรำ ส่งไปจำหนำ่ ยยังประเทศจีน ข้ำวหอมมะลิ ชุดชั้นในสตรยี หี่ ้อซำบีนำ่ เปน็ ตน้ โดยมหี มวดอตุ สำหกรรมที่มจี ำนวนโรงงำนมำกท่ีสุด ๓ อันดบั แรก ได้แก่ ๑. อุตสำหกรรมกำรเกษตร ได้แก่ โรงสีขำ้ ว อบเมลด็ พืช ทำมนั เสน้ มีจำนวนโรงงำน ทงั้ สนิ้ ๓๙ โรงงำน เงินลงทุน ๙๑๐.๖๓ ล้ำนบำท กำรจ้ำงงำน ๔๒๕ คน ๒. อตุ สำหกรรมอโลหะ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต มีจำนวนโรงงำนทั้งส้ิน ๓๘ โรงงำน เงนิ ลงทุน ๑๔๐.๙๐ ลำ้ นบำท กำรจ้ำงงำน ๒๗๒ คน ๓. อตุ สำหกรรมผลิตภณั ฑ์โลหะ ไดแ้ ก่ อดั เศษโลหะ กลึงและเชือ่ มโลหะ มีจำนวน โรงงำนท้งั สิ้น ๒๓ โรงงำน เงนิ ลงทนุ ๕๐.๑๙ ลำ้ นบำท กำรจ้ำงงำน ๑๐๖ คน ๑. จงั หวดั ยโสธรมจี ำนวนโรงงำนอตุ สำหกรรมท้ังหมดกโ่ี รงงำน ตอบ ๒๓๗ โรงงำน ๒. โรงงำนอตุ สำหกรรมท่ผี ลติ เพอ่ื จำหน่ำยในประเทศและส่งออกไปจำหนำ่ ยยังต่ำงประเทศคือสนิ คำ้ ประเภทใด ตอบ ยำงพำรำ ส่งไปจำหน่ำยยังประเทศจีน ข้ำวหอมมะลิ ชดุ ชนั้ ในสตรีย่ีหอ้ ซำบีนำ่ ๓. อุตสำหกรรมกำรเกษตร ไดแ้ กป่ ระเภทใดบ้ำง และมีทง้ั หมดกโ่ี รงงำน ตอบ โรงสีขำ้ ว อบเมล็ดพชื ทำมันเส้น มีจำนวนโรงงำนทงั้ สิน้ ๓๙ โรงงำน ๔. อุตสำหกรรมอโลหะ ได้แก่ประเภทใดบำ้ ง และมีทงั้ หมดก่ีโรงงำน ตอบ ผลติ ภณั ฑค์ อนกรตี มีจำนวนโรงงำนทั้งสน้ิ ๓๘ โรงงำน ๕. อตุ สำหกรรมผลิตภัณฑโ์ ลหะ ได้แก่ประเภทใดบำ้ ง และมีท้งั หมดกโ่ี รงงำน ตอบ อดั เศษโลหะ กลงึ และเช่ือมโลหะ มจี ำนวนโรงงำนทัง้ สนิ้ ๒๓ โรงงำน
๓๒ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๖ คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นอ่ำนจับใจควำมสำคญั เรื่องตอ่ ไปนดี้ ้วยเทคนิค Sq๔r สภำพเศรษฐกิจ สภำพทำงเศรษฐกิจ เทศบำลตำบลกดุ ชมุ พัฒนำ เปน็ ศูนย์กลำงทำง กำรเกษตรและบริกำรให้กับประชำชนที่อยใู่ นเขตรอบนอกชมุ ชน ซ่งึ ส่วนใหญ่ประกอบอำชีพ เกษตรกรรม โดยเป็นศูนยร์ วมในกำรซ้ือขำยขำ้ วเปลอื กและพชื เศรษฐกิจอืน่ ๆ อีกด้วย ผู้ประกอบ กำรพำณิชย์ในเขตเทศบำลส่วนใหญ่จะเป็นรำ้ นคำ้ จำหน่ำยสนิ ค้ำอปุ โภคบรโิ ภค และบริกำรพื้นฐำน ต่ำง ๆ นอกจำกน้ี ยังมีสถำบันกำรเงินตงั้ อย่ใู นเขตเทศบำล จำนวน ๓ แหง่ คอื ธนำคำรกรงุ ไทย จำกดั , ธนำคำรออมสนิ , ธนำคำรเพ่ือกำรเกษตรและสหกรณก์ ำรเกษตร กำรเกษตรกรรม ลกั ษณะกำรเกษตรกรรมในเขตเทศบำลและเขตรอบนอก ประชำชน มอี ำชพี เลีย้ งสตั ว์ ทำไร่ ทำนำ ในชว่ งฤดฝู น และปลกู พืชผักสวนครวั ในชว่ งหลังเกบ็ เก่ยี ว บรเิ วณที่ เพำะปลูกกนั มำกคอื บรเิ วณสองฝ่งั ลำหว้ ยสำธำรณะและที่ล่มุ ต่ำงๆรอบๆเขชมุ ชนเมือง กำรพณิชยกรรม/กำรบริกำร กำรพำณชิ ย์กรรมในเขตเทศบำลตำบลกุดชุมพฒั นำ มี ศนู ย์กลำงอยูบ่ ริเวณตลำดสดเทศบำลและริมทำงหลวงหมำยเลข ๒๑๖๙ ซ่ึงสว่ นใหญจ่ ะเป็นกำร ประกอบกำรคำ้ ด้ำนเครื่องอุปโภค บริโภคท่วั ไป เชน่ อุปกรณ์ไฟฟำ้ วสั ดุกอ่ สรำ้ ง นำ้ มนั เชอ้ื เพลิง รำ้ น ประกอบกำรขำยเสื้อผ้ำ เปน็ ตน้ ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบครำ่ ว ๆ ตอบ สภำพทำงเศรษฐกจิ เป็นศูนย์กลำงทำงกำรเกษตรและบริกำรใหก้ ับประชำชนที่อย่ใู นเขตรอบ นอกชุมชน สว่ นใหญ่ประกอบอำชีพเกษตรกรรม เปน็ ศูนย์รวมในกำรซ้ือขำยขำ้ วเปลือกและพชื เศรษฐกจิ ผปู้ ระกอบกำรพำณิชยใ์ นเขตเทศบำลส่วนใหญ่จะเป็นรำ้ นคำ้ จำหนำ่ ยสินคำ้ อุปโภคบริโภค และบรกิ ำรพื้นฐำนต่ำง ๆ ๒. Question (Q) อำ่ นบทควำมและตง้ั คำถำม ตอบ ลักษณะกำรเกษตรกรรมในเขตเทศบำลและเขตรอบนอกประชำชนมีอำชพี อย่ำงไรบำ้ ง ๓. Read (R) อำ่ นซ้ำและหำคำตอบจำกข้อท่ี ๒ ตอบ เล้ียงสัตว์ ทำไร่ ทำนำ ในช่วงฤดฝู น และปลูกพืชผักสวนครัวในชว่ งหลังเกบ็ เกี่ยว บริเวณที่ เพำะปลูกกนั มำก คือ บริเวณสองฝ่ังลำหว้ ยสำธำรณะและทล่ี มุ่ ต่ำงๆรอบๆเขชุมชนเมือง ๔. Record (R) จดบันทึกข้อมูลทีส่ ำคัญ ตอบ กำรเกษตรกรรมประชำชนมีอำชีพเลย้ี งสตั ว์ ทำไร่ ทำนำ ในชว่ งฤดูฝน และปลกู พืชผกั สวน ครัวในช่วงหลังเกบ็ เกี่ยว และกำรพำณชิ ยก์ รรมในเขตเทศบำลตำบลกดุ ชุมพัฒนำ มีศูนยก์ ลำงอยู่ บรเิ วณตลำดสดเทศบำลและริมทำงหลวงหมำยเลข ๒๑๖๙ อีกดว้ ย ๕. Recite (R) สรปุ ใจควำมสำคัญของเร่ือง ตอบ สภำพทำงเศรษฐกจิ สว่ นใหญ่ประกอบอำชีพเกษตรกรรม โดยเป็นศูนยร์ วมในกำรซือ้ ขำย ข้ำวเปลือกและพชื เศรษฐกจิ และผปู้ ระกอบกำรพำณชิ ยใ์ นเขตเทศบำลส่วนใหญ่จะเป็นร้ำนค้ำ จำหน่ำยสนิ คำ้ อปุ โภคบรโิ ภค และบรกิ ำรพน้ื ฐำนต่ำง ๆ
๓๓ แบบประเมินกำรรว่ มกจิ กรรมท่ี ๑.๖ ชื่อ........................................................…นำมสกลุ .............................................เลขที่........................ ผปู้ ระเมิน นกั เรียน เพอื่ น ครู คำช้ีแจง ใหท้ ำเคร่ืองหมำยถูกต้อง ลงในช่องว่ำงระดับคะแนนท่ีตรงกับควำมเปน็ จริงมำกท่ีสุด โดยจัดระดบั คุณภำพเปน็ ๓ ระดบั ตำมเกณฑ์ต่อไปนี้ ๓ หมำยถึง สำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมไดถ้ กู ต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น ๒ หมำยถึง สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไม่คอ่ ยถูกตอ้ ง และไมค่ ่อยตรงประเด็น ๑ หมำยถงึ ไมส่ ำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมได้ถูกต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน ๓๒๑ ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบคร่ำว ๆ ๒. Question (Q) อำ่ นบทควำมและต้งั คำถำม ผลกำรประเมนิ ๓. Read (R) อำ่ นซ้ำและหำคำตอบจำกขอ้ ที่ ๒ ผ่ำน ๔. Record (R) จดบนั ทึกข้อมลู ทส่ี ำคัญ ไม่ผำ่ น ๕. Recite (R) สรปุ ใจควำมสำคัญของเร่ือง คะแนนรวมแต่ละช่อง สรปุ คะแนนที่ได้ (หำรดว้ ยสอง) เกณฑ์กำรประเมิน ผำ่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ นกั เรยี นได้คะแนน ๑๒ คะแนนข้นึ ไป จงึ ถือวำ่ ผ่ำน ลงช่อื ..................................................ผูป้ ระเมนิ (.................................................)
๓๔ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน หนังสอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ปิ ญั ญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เลม่ ท่ี ๒ อำชีพท้องถ่นิ ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง ๑. ๑. ๒. ๒. ๓. ๓. ๔. ๔. ๕. ๕. ๖. ๖. ๗. ๗. ๘. ๘. ๙. ๙. ๑๐. ๑๐. ตอบถูกกี่ขอ้ คะนักเรยี น
๓๕ แบบบนั ทกึ คะแนนกจิ กรรมระหวำ่ งเรยี น หนงั สือส่งเสริมกำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรยี นชั้นมธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๓ เล่มท่ี ๒ อำชีพท้องถิน่ กำรประเมิน คะแนนเต็ม คะแนนทไี่ ด้ ควำมก้ำวหนำ้ แบบทดสอบก่อนเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๑๐ เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป หรือ ๘ คะแนนขึ้นไป ผ่ำน ไม่ผำ่ น กำรประเมนิ คะแนนเต็ม คะแนนท่ไี ด้ กิจกรรมที่ ๑.๑ ๑๐ กจิ กรรมที่ ๑.๒ ๑๐ กิจกรรมที่ ๑.๓ ๑๕ กจิ กรรมที่ ๑.๔ ๑๐ กิจกรรมท่ี ๑.๕ ๑๐ กจิ กรรมท่ี ๑.๖ ๑๕ รวม ๗๐ เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนตอ้ งได้คะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป หรือ ๕๖ คะแนนข้ึนไป ผำ่ น ไม่ผำ่ น
๓๖ ประวัตยิ ่อผู้จัดทำ ขอ้ มูลทั่วไป ชอ่ื -นำมสกุล นำงมนิ ตรำ งำมทรัพย์ เกดิ เมื่อวนั ที่ ๒๖ เดอื น กันยำยน พ.ศ. ๒๕๐๙ ทอี่ ยปู่ จั จุบนั เลขท่ี ๓๕ หมู่ ๒ ตำบลบงึ แก อำเภอมหำชนะชัย จงั หวัดยโสธร ๓๕๑๓๐ เบอรต์ ิดต่อ ๐๘๕-๒๔๕๑๕๐๗ อเี มลล์ krumintra๒๐๑๘@gmail.com ด้ำนกำรศกึ ษำ พ.ศ. ๒๕๕๔ กำรศึกษำระดับปรญิ ญำโท ครุศำสตรมหำบัณฑิต ภำษำไทย มรภ. อุบลรำชธำนี พ.ศ. ๒๕๔๓ กำรศึกษำระดับปริญญำตรี ครศุ ำสตรบัณฑิต ภำษำไทย สรภ. อบุ ลรำชธำนี ด้ำนกำรปฏบิ ัติงำน ตำแหนง่ ครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพิเศษ โรงเรยี นสมเด็จพระญำณสงั วร ในพระสงั ฆรำชูปถมั ภ์ สงั กัด สำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำมัธยมศกึ ษำ เขต ๒๘ ***********************************************************
๓๗
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: