ก
ก คำนำ สำหรับหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถ่ิน กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มนี้ ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นส่ือประกอบ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เพ่ือ พฒั นำผลสัมฤทธทิ์ ำงกำรเรียนและควำมสำมำรถในกำรอำ่ นจับใจควำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สังกัด สำนกั งำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำมัธยมศึกษำ เขต ๒๘ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ มีเน้ือหำสำระกำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตร กำรศึกษำขั้นพื้นฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษำธิกำรจะต้องผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำน จับใจควำมให้ได้ตำมเกณฑ์ที่สถำนศึกษำกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญอย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนเป็นเครื่องมือในกำรเรียนรู้ของทุกกลุ่มสำระทักษะกำรอ่ำนจึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งท่ี จะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่ำนทั้งอ่ำนออกเสียง อ่ำนจับใจควำม รวมถึงกำรคิดวิเครำะห์สำรที่ได้รับ แสดง ควำมคิดเห็น นำประโยชน์จำกกำรอ่ำนไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสม และใช้ในกำรแสวงหำควำมรู้ต่อไป ตลอดจนมีกิจกรรมท่คี รอบคลมุ ตำมสำระกำรเรียนรู้ที่กำหนดตำมชว่ งวยั ผู้จัดทำมุ่งหวังว่ำ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำ ทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ จะอำนวยประโยชน์แก่ผู้รัก กำรอ่ำน นักเรียน และผู้สนใจ เพ่ือใช้ประกอบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ หรือใช้ส่งเสริมกำรเรียนรู้ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพและ ประสทิ ธิผลตอ่ ไป มนิ ตรำ งำมทรัพย์
ข คำชแ้ี จง สำหรับหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระ กำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มน้ี ได้จัดทำขึ้น เพ่ือเป็นส่ือประกอบ กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เพ่ือ พฒั นำผลสัมฤทธิท์ ำงกำรเรยี นและควำมสำมำรถในกำรอ่ำนจับใจควำม กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ โรงเรียนสมเด็จพระญำณสังวร ในพระสังฆรำชูปถัมภ์ สังกัด สำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำมัธยมศึกษำ เขต ๒๘ หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ิปัญญำท้องถิน่ กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ ๓ มีเน้ือหำสำระ กำรเรียนรู้สอดคล้องกับหลักสูตรกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษำธิกำร จะต้องผ่ำนกำรประเมินกำรอ่ำนจับใจควำมให้ได้ตำมเกณฑ์ท่ีสถำนศึกษำกำหนด ซ่ึงนับว่ำมีควำมสำคัญ อย่ำงย่ิงสำหรับนักเรียน เพรำะกำรอ่ำนเป็นเครื่องมือในกำรเรียนรู้ของทุกกลุ่มสำระทักษะกำรอ่ำน จึงมีควำมจำเป็นอย่ำงยิ่งท่ีจะต้องให้เด็กๆ ฝึกอ่ำนท้ังอ่ำนออกเสียง อ่ำนจับใจควำม รวมถึงกำรคิด วิเครำะห์สำรที่ได้รับ แสดงควำมคิดเห็น นำประโยชน์จำกกำรอ่ำนไปใช้ได้อย่ำงเหมำะสม และใช้ใน กำรแสวงหำควำมรู้ตอ่ ไป ตลอดจนมกี จิ กรรมที่ครอบคลมุ ตำมสำระกำรเรียนรทู้ ี่กำหนดตำมช่วงวยั หนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถิน่ กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ ภำษำไทย สำหรบั นกั เรียนชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ จำนวน ๖ เลม่ ดังนี้ เลม่ ท่ี ๑ จังหวดั ของเรำยโสธร เล่มที่ ๒ อำชพี ท้องถิน่ เล่มท่ี ๓ เข้ำวดั ทำบุญ เล่มที่ ๔ แหล่งทอ่ งเทยี่ วสำคัญ เลม่ ที่ ๕ ผลติ ภัณฑท์ อ้ งถิน่ เลม่ ท่ี ๖ ประเพณแี ละกำรละเล่น หนังสือสง่ เสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปัญญำ ทอ้ งถนิ่ กลุม่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนกั เรียนชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ เลม่ นี้ คอื เล่มที่ ๔ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วสำคัญ และเนอื่ งจำกหนังสอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book มลี ักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผำ่ น QR-Code หรอื เข้ำผำ่ นเว็บไซด์ตำมลงิ คท์ ี่แนบมำต่อไปนี้ QR-Code https://pubhtml๕.com/bookcase/jjyl เพ่ือใชง้ ำนหนังสอื ตำมปกติ พรอ้ มกับรปู เลม่ จริง
ค บทบำทครู เน่ืองจำกหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนช้ัน มัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มน้ี มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code QR-Code เพอ่ื ใชง้ ำนหนังสอื ตำมปกติ ควรปฏบิ ตั ิ ดังนี้ ๑. ศึกษำและทำควำมเข้ำใจคู่มือกำรใชแ้ ละหนงั สือส่งเสรมิ กำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำท้องถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ เลม่ น้ี ให้เขำ้ ใจ ก่อนนำไปใช้งำน ๒. จดั เตรยี มหนังสือส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมปิ ัญญำท้องถ่ิน กลมุ่ สำระ กำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ สำหรับแจกให้นักเรียนทุกคน ๓. แนะนำกำรใช้งำนหนงั สือสง่ เสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย สำหรับนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ ๔. ใหน้ กั เรียนลงมือทำแบบทดสอบก่อนเรียนประจำหนังสือสง่ เสรมิ กำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรับนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี ๓ ๕. เปิดโอกำสให้นักเรียนศึกษำเน้ือหำ หรือบทเรยี นในหนงั สอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำม แบบ E-Book ชุด ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี ๓ ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรียนรู้ (ดว้ ยกำรเรียนรู้แบบ Sq๔r) ๖. ให้นักเรียนทบทวนควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจด้วยกำรทำกิจกรรมฝกึ ทักษะให้ครบถว้ นทุกตอน ๗. ให้นกั เรียนลงมือทำแบบทดสอบหลงั เรียนประจำหนังสือส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนช้นั มัธยมศึกษำปที ่ี ๓ ๘. นำนกั เรียนตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบท้งั หมด เพ่ือบันทึกคะแนนท้ำยหนังสอื ส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย สำหรับนักเรียน ช้นั มัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ หมำยเหตุ : สงั เกตพฤตกิ รรมนักเรียนระหว่ำงทำกจิ กรรม
ง บทบำทนักเรยี น เนื่องจำกหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำท้องถิ่น กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชั้น QR-Code มัธยมศึกษำปีท่ี ๓ เล่มน้ี มีลักษณะเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สแกนผ่ำน QR-Code เพอ่ื ใชง้ ำนหนงั สือตำมปกติ ควรปฏบิ ัติ ดงั นี้ ๑. ศกึ ษำและทำควำมเขำ้ ใจคำชี้แจง และบทบำทนักเรียน เพื่อกำรใช้หนังสือสง่ เสริมกำรอำ่ น จับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำท้องถนิ่ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เล่มนี้ ให้เข้ำใจกอ่ นนำไปใช้งำน ๒. นักเรยี นลงมอื ทำแบบทดสอบก่อนเรยี นประจำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ ๓. นักเรียนศึกษำหนงั สือสง่ เสรมิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ ดว้ ยตนเอง ตำมกระบวนกำรเรียนรู้ (ด้วยกำรเรยี นร้แู บบ Sq๔r) ๔. นักเรียนทบทวนควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจดว้ ยกำรทำกิจกรรมฝึกทักษะให้ครบถว้ นทุกตอน ๕. นักเรยี นลงมือทำแบบทดสอบหลังเรยี นประจำหนังสือสง่ เสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมิปญั ญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษำปีที่ ๓ ๖. นกั เรยี นรว่ มตรวจคำตอบและเฉลยคำตอบท้งั หมด เพอื่ บนั ทึกคะแนนทำ้ ยหนังสือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นักเรียน ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี ๓ ๗. นักเรยี นสำมำรถศกึ ษำทบทวนเน้ือหำหนังสอื ส่งเสรมิ กำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถน่ิ กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย สำหรับนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ ๓ ได้ตลอดเวลำ หลังเรียนเสรจ็ แล้ว หำกไม่ผำ่ นเกณฑร์ ้อยละ ๘๐.๐๐ หมำยเหตุ : กจิ กรรมระหว่ำงเรยี นอำจมีทัง้ แบบเด่ียวและกลมุ่
จ ขอ้ ควรระวังและปฏิบัติ ข้อควรระวังและปฏิบตั กิ ่อนกำรดำเนนิ กำรสอน ๑. ศึกษำแผนกำรจดั กำรเรยี นรอู้ ยำ่ งละเอยี ด ๒. เตรยี มอปุ กรณ์ ส่อื กำรเรยี นกำรสอนให้เรียบร้อย ๓. ศึกษำรำยละเอยี ดชดุ กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ ๔. กำหนดบทบำทสมำชิในกลมุ่ ทรำบถึงกำรปฏบิ ตั ติ มบทบำทตำ่ งๆ โดยสมำชิกทุกคนใน กลมุ่ ตอ้ งได้ทำทกุ บทบำท ๕. ครผู ู้สอนชแี้ จงวธิ กี ำรใช้ชุดกิจกรรมกำรเรียนแบบร่วมมือและกิจกรรมทน่ี ักเรยี นต้องปฏบิ ตั ิ ข้อควรระวงั และปฏบิ ัตขิ ณะดำเนนิ กำรสอน ๑. ชแี้ จงกำรใช้ชดุ กิจกรรมกำรเรียนร้ใู ห้นกั เรยี นทกุ คนทรำบ ๒. ตำเนินกิจกรมตมแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ เพื่อใหส้ อดคล้องกบั จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ เน้ือหำและเวลำท่ีกำหนด ๓. ครผู ู้สอนต้องใหค้ ำแนะนำและคอยดแู ลนักเรียนอย่ำงใกลช้ ดิ ๔. ให้นกั เรยี นเรยี นรู้จำกชดุ กิจกรรมกำรเรียนรู้ตำมข้ันตอนอยำ่ งเคร่งครัดและมีควำมซ่ือสตั ย์ ต่อตนเอง ๕. ตรวจสอบกำรทำงำนของนักเรียนและสรปุ บทเรยี นรว่ มกนั นักเรยี น ขอ้ ควรระวงั และปฏบิ ัติเมื่อดำเนนิ กำรสอนสิ้นสุด ๑. ครูผสู้ อนใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ๒. ตรวจผลงำนจำกกำรทำแบบทดสอบและบตั รกิจกรรม ๓. ถำ้ นักเรยี นไม่ผ่ำนเกณฑท์ ่ีระบไุ ว้ ครูควรให้นักเรียนศึกษำและทบทวนเน้ือหำใหม่อีกครั้ง แล้วทำแบบทดสอบหลังเรยี นให้ผำ่ นเกณฑ์ท่ีกำหนดไว้
สำรบญั ฉ คำนำ หน้ำ คำชีแ้ จง ก บทบำทครู ข บทบำทนกั เรียน ค ข้อควรระวงั และปฏบิ ตั ิ ง สำรบญั จ หนังสือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถิ่น ช กล่มุ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย สำหรบั นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มที่ ๔ แหลง่ ท่องเที่ยวสำคัญ ๑ ๑ มำตรฐำนกำรเรยี นร้แู ละตวั ช้วี ัด ๑ แนวคดิ ๑ สำระกำรเรยี นรู้ ๑ จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ๒ สมรรถนะทส่ี ำคญั ๒ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๒ ภำระงำน / ช้ินงำน ๒ กำรวัดและประเมินผลกำรเรียนรู้ ๓ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๖ กระดำษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๗ บทเรียนท่ี ๔ แหลง่ ท่องเทย่ี วสำคญั ๑๒ กิจกรรมฝกึ ทกั ษะ ๑๓ กิจกรรมที่ ๑.๑ ๑๔ กิจกรรมท่ี ๑.๒ ๑๕ กจิ กรรมท่ี ๑.๓ ๑๖ กิจกรรมท่ี ๑.๔ ๑๗ กิจกรรมท่ี ๑.๕ ๑๘ กิจกรรมที่ ๑.๖ ๑๙ แบบทดสอบหลังเรียน ๒๒ กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลังเรยี น
สำรบญั (ต่อ) ช บรรณำนกุ รม หน้ำ ภำคผนวก ๒๓ ๒๔ กจิ กรรมท่ี ๑.๑ ๒๕ กจิ กรรมท่ี ๑.๒ ๒๖ กิจกรรมที่ ๑.๓ ๒๗ กจิ กรรมที่ ๑.๔ ๒๙ กจิ กรรมท่ี ๑.๕ ๓๐ กิจกรรมท่ี ๑.๖ ๓๑ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น ๓๓ แบบบนั ทกึ คะแนนกจิ กรรมระหว่ำงเรียน ๓๔ ประวัตยิ อ่ ผ้จู ดั ทำ ๓๕
๑ หนังสอื ส่งเสรมิ กำรอ่ำนจับใจควำมแบบ E-Book ชุด ภูมิปัญญำทอ้ งถ่ิน กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย สำหรบั นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษำปีท่ี ๓ มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ัด มำตรฐำน ท ๑.๑ ใช้กระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรแู้ ละควำมคดิ เพ่อื นำไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปัญหำใน กำรดำเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ยั รักกำรอำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๓ ระบุใจควำมสำคญั และรำยละเอียดของข้อมูลท่ีสนบั สนุนจำกเร่ืองทีอ่ ำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๔ อ่ำนเร่ืองต่ำงๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคิด ผังควำมคิด บันทึก ย่อควำมและรำยงำน ท ๑.๑ ม.๓/๕ วิเครำะห์ วิจำรณ์ และประเมินเรือ่ งที่อำ่ นโดยใช้กลวิธีกำรเปรียบเทียบ เพื่อให้ผู้อ่ำนเข้ำใจไดด้ ีข้ึน ท ๑.๑ ม.๓/๖ ประเมนิ ควำมถกู ต้องของข้อมลู ที่ใชส้ นับสนุนในเรอ่ื งท่ีอำ่ น ท ๑.๑ ม.๓/๗ วจิ ำรณ์ควำมสมเหตุสมผล กำรลำดบั ควำม และควำมเปน็ ไปได้ของเร่อื ง ท ๑.๑ ม.๓/๘ วิเครำะห์เพ่ือแสดงควำมคดิ เหน็ โตแ้ ย้งเกยี่ วกับเรื่องทอ่ี ำ่ น มำตรฐำน ท ๕.๑ เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเห็น วิจำรณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่ำงเหน็ คณุ ค่ำ และนำมำประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจริง ท ๕.๑ ม.๓/๓ สรปุ ควำมร้แู ละข้อคดิ จำกกำรอ่ำน เพ่ือนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง แนวคดิ กำรอ่ำนจับใจควำมสำคัญ เป็นทักษะท่ีควรฝกึ ใช้นักเรยี นเกิดควำมชำนำญเพื่อนำไปใชใ้ น ชวี ิตประจำวนั เปน็ กำรอำ่ นที่ผอู้ ำ่ นต้องอำ่ นอย่ำงละเอียด เพอื่ พจิ ำรณำส่วนประกอบของเรอื่ งที่อำ่ น ซงึ่ อำจจะเป็นเรอื่ งเลำ่ สืบต่อกันมำ ขำ่ วเหตุกำรณ์ เนอ้ื หำท่ีเปน็ บทกลอน บทเพลง หรือบทควำม อำจเปน็ เรือ่ งรำวท่เี ปน็ จรงิ หรือองิ ควำมจรงิ หรือเปน็ เร่ืองที่แตง่ ข้ึนก็ได้โดยสำมำรถบอกรำยละเอยี ด อธิบำยลกั ษณะของตัวละคร สรุปใจควำมสำคญั บอกควำมสัมพันธข์ องส่วนต่ำงๆ บอกและลำดบั เหตกุ ำรณ์ และสรปุ ควำมรแู้ ละควำมคดิ อยำ่ งรอบคอบ โดยกำรเขยี นสรปุ ควำมจำกเร่ืองทีอ่ ำ่ นใหส้ น้ั แต่ไดใ้ จควำมสำคัญ โดยเร่ืองทีอ่ ำ่ นเกย่ี วกบั แหล่งท่องเทย่ี วท่สี ำคัญในจงั หวดั ยโสธร สำระกำรเรียนรู้ แหล่งทอ่ งเท่ยี วสำคญั จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ ๑. มีควำมรู้ ควำมเข้ำใจสำมำรถตอบคำถำมเกีย่ วกบั เร่ืองท่ีอำ่ นได้ (K) ๒. จับใจควำมสำคญั จำกเรื่องทอี่ ่ำนได้ (P) ๓. สรปุ เรือ่ งด้วยกรอบแนวคิด ผงั ควำมคดิ บนั ทึก ย่อควำม และรำยงำนได้ (P)
๒ ๔. วิเครำะห์ วิจำรณ์ และประเมินควำมสมเหตสุ มผล กำรลำดบั ควำม และควำมเป็นไปได้ ของเรื่องท่ีอำ่ นได้ (P) ๕. วเิ ครำะหเ์ พอ่ื แสดงควำมคิดเหน็ โตแ้ ยง้ เก่ียวกบั เร่ืองท่ีอ่ำนได้ (P) ๖. มีควำมกระตือรือร้น ใฝเ่ รียนรู้ และใหค้ วำมรว่ มมือในกิจกรรมกลมุ่ (A) สมรรถนะทส่ี ำคัญ หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พนื้ ฐำน มุ่งใหผ้ ู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประกำร ดังน้ี ๑. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร ๒. ควำมสำมำรถในกำรคดิ ๓. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ ๔. ควำมสำมำรถในกำรใชท้ กั ษะชีวิต ๕. ควำมสำมำรถในกำรใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึงประสงค์ หลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำขั้นพนื้ ฐำน ม่งุ พัฒนำผู้เรยี นใหม้ คี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เพ่ือให้สำมำรถอยูร่ ่วมกับผู้อ่ืนในสงั คมได้อยำ่ งมีควำมสขุ ในฐำนะเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ดงั น้ี ๑. รักชำติ ศำสน์ กษัตริย์ ๒. ซื่อสัตย์สจุ รติ ๓. มวี นิ ยั ๔. ใฝเ่ รยี นรู้ ๕. อยู่อยำ่ งพอเพียง ๖. มุ่งม่ันในกำรทำงำน ๗. รกั ควำมเป็นไทย ๘. มจี ติ สำธำรณะ ภำระงำน/ชน้ิ งำน หนงั สอื ส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ปิ ญั ญำท้องถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ ภำษำไทย สำหรับนักเรยี นช้นั มัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เล่มท่ี ๔ แหลง่ ท่องเทย่ี วสำคญั ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน ๒. กิจกรรมท่ี ๑.๑-๑.๖ ๓. แบบทดสอบหลงั เรยี น กำรวัดและประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๑. แบบทดสอบก่อนเรียน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ๒. กจิ กรรมท่ี ๑.๑-๑.๖ เกณฑก์ ำรประเมินนักเรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขนึ้ ไป ๓. แบบทดสอบหลงั เรยี น เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนต้องไดค้ ะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป
๓ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนงั สือส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปัญญำทอ้ งถ่ิน กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษำปที ี่ ๓ เล่มท่ี ๔ แหล่งท่องเท่ียวสำคัญ คำชแี้ จง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ขอ้ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๒. ใหน้ กั เรียนทำเครือ่ งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลอื กช่องวำ่ งตำมตัวอกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ท่ีถกู ท่ีสดุ เพียงข้อเดยี ว ๑. พพิ ธิ ภณั ฑ์คนั คำกตั้งอยู่ใกล้ริมแม่น้ำใด ก. แมน่ ำ้ ปิง ข. แม่นำ้ ทวน ค. แม่นำ้ ปำ่ สกั ง. แม่น้ำเจ้ำพระยำ ๒. พพิ ธิ ภณั ฑ์พำคนั คำกมีตำนำนเรื่องเล่ำพื้นเมืองของชำวอสี ำนในเร่ืองใด ก. ประเพณบี ญุ บง้ั ไฟและประเพณีแห่นำงแมว ข. ตำนำนพญำคำงคกและประเพณีแหน่ ำงแมว ค. ตำนำนพญำคำงคกและประเพณบี ุญบั้งไฟ ง. ตำนำนพญำคำงคกและตำนำนกอ่ งขำ้ วน้อย ๓. ภำยในธำตกุ อ่ งข้ำวนอ้ ยบรรจอุ ัฐขิ องบคุ คลใด ก. อฐั บิ คุ คลธรรมดำ ข. อฐั ิพระบรมสำรรี กิ ธำตขุ องสมเดจ็ พระอำนนท์ ค. อัฐิพระบรมสำรีรกิ ธำตขุ องสมเดจ็ พระนำรำยณ์ ง. อฐั ิพระบรมสำรรี ิกธำตขุ องสมเดจ็ พระสัมมำสัมพุทธเจำ้ ๔. โบสถค์ ริสตบ์ ้ำนซ่งแยเ้ ป็นโบสถ์แบบใด ก. ปูน ข. ไม้ ค. ไม้สัก ง. คร่งึ ปนู ครงึ่ ไม้
๔ ๕. โบสถค์ ริสต์บ้ำนซง่ แย้สำมำรถบรรจุคนได้มำกเท่ำไหร่ ก. ๕๐๐ คน ข. ๑๐๐ คน ค. มำกกว่ำ ๑๐๐ คน ง. มำกกว่ำ ๕๐๐ คน ๖. โบสถค์ ริสต์บำ้ นซง่ แย้เป็นโบสถค์ ริสต์นิกำยใด ก. นกิ ำยโรมันคำทอลกิ ข. นิกำยโปเตสท์แตน ค. นิกำยลูเธอรนั ง. นกิ ำยออร์ธอดอ็ กซ์ ใหน้ กั เรียนอ่ำนข้อควำมตอ่ ไปนแี้ ลว้ ตอบคำถำมขอ้ ที่ ๗ – ๘ ถ้ำพูดถึงประเทศท่ีโดดเด่นเรื่องของควำมเจริญก้ำวหน้ำและควำมหลำกหลำยของบ้ำนเ มือง แล้ว คงหนีไม่พ้นประเทศสิงคโปร์ เพรำะที่นี่เต็มไปด้วยควำมหลำกหลำยของชนชำติ ทำให้ วัฒนธรรมมีควำมหลำกหลำยตำมไปด้วย และที่นี่ยังมีควำมเจริญก้ำวหน้ำเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย เนอื่ งจำกประเทศนเ้ี ป็นประเทศที่มีควำมก้ำวหน้ำในทุก ๆ ด้ำน เนือ่ งจำกประเทศสิงคโปร์เต็มไปด้วยควำมเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง ซึ่งนอกจำกกำรพัฒนำ ของเค้ำที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว สิงคโปร์ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่เต็มไปด้วยด้วยสีสันที่มี ควำมผสมผสำนกันอย่ำงอย่ำงกลมกลนื และลงตวั ของวฒั นธรรม อำหำร ศิลปะ และสถำปัตยกรรม ๗. ใจควำมสำคัญของบทควำมขำ้ งตน้ คอื ข้อใด ก. ประเทศสิงคโปรเ์ ปน็ ประเทศแหง่ กำรพฒั นำและมีควำมเจริญกำ้ วหนำ้ ข. ประเทศสงิ คโปรม์ ีรปู แบบกำรปกครองท่ีหลำกหลำย ค. ประเทศสิงคโปร์ถือเปน็ แหล่งท่องเทีย่ วระดบั สำกล ง. ประเทศสิงคโปรเ์ กดิ จำกกำรเปล่ยี นแปลงที่ไมห่ ยุดนง่ิ ๘. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ปัจจัยทท่ี ำให้สงิ คโปร์เปน็ แหล่งทอ่ งเที่ยวระดบั โลก ก. วัฒนธรรม ข. ศลิ ปะ ค. อำกำศ ง. สถำปตั ยกรรม
๕ ใหน้ ักเรยี นอำ่ นข้อควำมต่อไปนแี้ ลว้ ตอบคำถำมข้อท่ี ๙ – ๑๐ ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถำนท่ีท่องเท่ียวที่ได้รับควำมนิยมอย่ำงมำก จำกนักท่องเท่ียวทั่วโลก รัฐบำลไทยได้ให้ควำมสำคัญและสนับสนุนกำรเติบโตของอุสำหกรรมกำร ท่องเทยี่ วเปน็ อย่ำงมำก ถงึ แม้ว่ำกำรทอ่ งเทีย่ วจะสร้ำงเงินรำยได้มหำศำล แต่ก่อให้เกิดผลกระทบทำง เศรษฐกิจและสังคมของชุมชนท้องถ่ินอย่ำงหลีกเลี่ยงได้ยำก เกิดกำรโยกย้ำยถ่ินฐำน เปลี่ยนแปลง อำชีพและกำรทำมำหำกิน ประเพณีและวัฒนธรรมดั้งเดิมแปรเปล่ียนไปตำมพฤติกรรมของของ นักทอ่ งเที่ยว ๙. ข้อใดไม่ใช่สำเหตุท่ีก่อให้เกิดผลกระทบทำงเศรษฐกิจและสงั คมของชุมชนท้องถน่ิ ก. วฒั นธรรมที่เปลี่ยนไป ข. กำรโยกย้ำยถิน่ ฐำน ค. กำรเปลี่ยนแปลงอำชพี ง. อุสำหกรรมกำรทอ่ งเทยี่ ว ๑๐. ข้อใดคือกำรแกป้ ัญหำผลกระทบทำงเศรษฐกจิ และสังคมของชมุ ชนทอ้ งถ่ิน ก. กำรสนบั สนนุ อสุ ำหกรรมกำรท่องเที่ยว ข. แนวทำงกำรจดั กำรกำรทอ่ งเท่ียวในเชงิ วฒั นธรรม ค. กำรเปลี่ยนแปลงอำชีพและกำรทำมำหำกิน ง. กำรสนับสนุนวฒั นธรรมดงั้ เดมิ ของนกั ทอ่ งเทยี่ ว สๆู้ นะคะนักเรียน
๖ กระดำษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน หนังสือส่งเสรมิ กำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษำปีที่ ๓ เลม่ ท่ี ๔ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คำชี้แจง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ให้นักเรียนทำเครอ่ื งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดยี ว ข้อ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึน้ ไป หรอื ๘ คะแนนขน้ึ ไป ผ่ำน ไมผ่ ่ำน
๗
๘ แหลง่ ทอ่ งเที่ยวทสี่ ำคญั ของจงั หวดั ยโสธร กำรท่องเที่ยวเป็นอุตสำหกรรมที่มีควำมสำคัญต่อกำรยกระดับคุณภำพชีวิตของคนในสังคม เนื่องจำกกำรพัฒนำกำรท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดสิ่งอำนวยควำมสะดวกและระบบสำธำรณูปโภคท่ีมี คณุ ภำพในแหล่งท่องเที่ยว อีกท้ังยังมีส่วนช่วยให้เกิดกำรอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมธรรมชำติและวัฒนธรรม อนั เปน็ ทรัพยำกรกำรท่องเท่ียวท่ีสำคัญในกำรทจ่ี ะดึงดดู นกั ท่องเท่ยี วได้เปน็ อย่ำงดี แหล่งท่องเท่ียวเป็นทรัพยำกรท่ีสำคัญ จัดเป็นอุปทำนกำรท่องเท่ียว โดยสำมำรถจำแนก แหล่งท่องเทีย่ วไดเ้ ปน็ ๔ ประเภท ดังน้ี ๑. แหล่งทอ่ งเท่ียวทำงวัฒนธรรม (Culture Attraction) เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วซ่งึ แสดงออกถงึ ประเพณี และวถิ ชี วี ติ ของประชำชนในท้องถน่ิ ๒. แหลง่ ทอ่ งเที่ยวตำมสภำพธรรมชำติ (Scenic Attraction) เป็นสถำนที่ท่องเที่ยวท่ีเกิดขึ้น เองตำมธรรมชำติ มีควำมงดงำมในรูปแบบตำ่ ง ๆ ตำมลกั ษณะภมู ปิ ระเทศในแต่ละพน้ื ท่ี ๓. แหล่งท่องเที่ยวท่ีให้ควำมบันเทิง (Entertainment Attraction) เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ มนษุ ย์สร้ำงข้นึ เพือ่ ใหค้ วำมสนุกสนำน เพลิดเพลิน ควำมบันเทงิ ร่ืนรมยแ์ กน่ กั ทอ่ งเทย่ี ว ๔. แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วอนื่ ๆ ทมี่ ีลักษณะเฉพำะตัว (Specific Attraction) แหลง่ ท่องเทยี่ วทสี่ ำคัญของจงั หวดั ยโสธร ๑. พพิ ธิ ภัณฑพ์ ญำคนั คำก จังหวัดยโสธร พิพิธภัณฑ์พญำคันคำก หรือ พิพิธภัณฑ์คำงคก แลนด์มำร์คแห่งใหม่ท่ีโดดเด่นแปลกตำของ จงั หวดั ยโสธร ตั้งอย่รู มิ อ่ำงเกบ็ นำ้ ลำทวน อำเภอเมือง บรเิ วณสวนสำธำรณะพญำแถน เป็นพิพิธภัณฑ์ ทส่ี อดแทรกตำนำนเรือ่ งเลำ่ พ้ืนเมอื งของชำวอีสำน เกีย่ วกบั ตำนำนพญำคำงคกและประเพณีบุญบั้งไฟ อันโด่งดัง ตัวอำคำรถูกออกแบบให้เป็นรูปคำงคกขนำดยักษ์เป็นอำคำรสูง ๕ ชั้น หรือประมำณ ๑๙ เมตร พ้ืนที่ประมำณ ๘๓๕ ตำรำงเมตร และนิทรรศกำรภำยในจะบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มำของบ้ังไฟ
๙ โดยจดั ฉำยเปน็ ภำพยนตร์ ๔ มติ ิ และนิทรรศกำรเกย่ี วกับคำงคกชนิดต่ำง ๆ ทพ่ี บไดใ้ นเมืองไทยที่มีอยู่ กว่ำ ๒๐ ชนิด และมกี ำรรวบรวมของดที ำงดำ้ นเกษตรกรรมของเมืองยโสธรไว้ภำยในพิพิธภัณฑ์ น อ ก จ ำ ก นี้ ข้ ำ ง พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ มี ป ร ะ ติ ม ำ ก ร ร ม ข บ ว น แ ห่ บั้ ง ไ ฟ อั น อ่ อ น ช้ อ ย แ ล ะ ง ด ง ำ ม สวนสำธำรณะพญำแถนที่บรรยำกำศร่มรื่นลมพัดเย็นสบำย เหมำะสำหรับมำเดินเล่นพักผ่อนในยำม เยน็ รวมถงึ พพิ ธิ ภณั ฑ์พญำนำคขนำดใหญ่ท่ีเชื่อมต่อกัน สร้ำงควำมต่ืนตำตื่นใจให้แก่ผู้มำชม ภำยในมี ภำพถ่ำยสำมมิตสิ ถำนทที่ ่องเท่ียวของประเทศเพื่อนบ้ำน พญำคันคำก พญำนำค พญำแถน คือ ตำนำนควำมเชื่อของชำวอีสำน และอีกตำนำนหน่ึงก็ จะมีตำนำน “ผำแดงนำงไอ่” ชำวอีสำนจะทำบ้ังไฟหม่ืน บ้ังไฟแสน บ้ังไฟล้ำน ถึงปลำยเดือนห้ำย่ำง เดือนหก ชำวบำ้ นกจ็ ะแสดงออกถงึ ควำมสำมัคคี รว่ มกันทำบัง้ ไฟจดุ ข้ึนไปแจง้ พญำแถนเพื่อให้บันดำล ให้ฝนตกถูกต้องตำมฤดูกำล เพื่อชำวโลกมนุษย์จะใช้น้ำฝนทำนำเป็นไปตำมตำนำนเล่ำสืบทอดกันมำ พญำคำงคก พญำนำค รวมไพร่พลยกทัพขึ้นไปรบชนะพญำแถน และได้ทำสัญญำสงบศึก หำกถึง ฤดูกำลทำนำ โลกมนุษย์จะส่งสัญญำณแจ้งพญำแถนด้วยกำรจุดบ้ังไฟข้ึนท้องฟ้ำ และเม่ือถึงฤดูเก็บ เกยี่ วขำ้ วโลกมนษุ ยก์ ็จะใชเ้ สยี งสนูจำกว่ำวแจง้ ใหพ้ ญำแถนทรำบ ซึ่งเปน็ ควำมเชื่อของชำวบ้ำน ภำพพิพิธภัณฑพ์ ญำคันคำก ๒. พระพทุ ธรปู หยกขำว วดั พระพทุ ธบำทยโสธร ต้ังอยูท่ ี่ บ้ำนหนอกยำง ต.หัวเมือง อ.มหำชัย จ.ยโสธร โบรำณสถำน สำคญั ที่มปี ระวตั ิควำมเปน็ มำยำวนำน ต้ังอยู่บนเนินทรำยริมฝ่ังแม่น้ำชีทัศนียภำพสวยงำมสงบร่มเย็น วัดพระพุทธบำทยโสธรแห่งน้ีประดิษฐำนรอยพระพุทธบำท นับเป็นโบรำณสถำนอันล้ำค่ำของจังหวัด ภำยในวัดโดดเดน่ ดว้ ยพระอโุ บสถสขี ำวหลังคำสีน้ำเงิน มีควำมงดงำมตำมแบบศิลปะประยุกต์ ท้ังกำร ออกแบบรั้วและระเบียงท่ีมีลวดลำยปูนปั้นท่ีดูแปลกตำ ภำยในประดิษฐำนพระประธำนท่ีเจียระไน จำกหยกขำวขนำดหนำ้ ตกั กวำ้ ง ๒.๓๑ เมตร สูง ๓.๗ เมตร ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปหยกขำวใหญ่ที่สุด ในประเทศไทย ภำยในวัดมีพระเจดีย์ทรง ๘ เหลี่ยม ชื่อว่ำ เจดยี ม์ หำชัยชนะ เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำสร้ำงขึ้น เพอ่ื ถวำยแดพ่ ระบำทสมเดจ็ พระปรมินทรมหำภมู ิพลอดลุ ยเดช เน่ืองในวโรกำสท่ีพระองค์ทรงครองสิริ รำชสมบัติครบ ๕๐ ปี มีท้ังหมด ๓ ชั้น ชั้นแรกมีกำรจัดแสดงเกี่ยวกับศิลปหัตถกรรมเครื่องมือ
๑๐ เครือ่ งใช้ของชำวอีสำนครง้ั อดตี และเป็นห้องสมุดสำหรับค้นคว้ำพระธรรมวินัย พระไตรปิฎก ชั้นที่ ๒ จดั แสดงหุ่นข้ีผึ้งรูปเหมือนบรู พำจำรย์ ส่วนช้นั สุดทำ้ ยไดบ้ รรจุพระบรมสำรรี กิ ธำตุ วัดพระพทุ ธบำทยโสธร ๓. ย่ำนเมอื งเกำ่ บ้ำนสงิ ห์ทำ่ บ้ำนสิงห์ท่ำ ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เป็นย่ำนกำรค้ำตั้งแต่สมัยโบรำณและได้ เจริญขึ้นเม่ือสมัยฝรั่งเศสเข้ำมำมีอิทธิพลมำกในภูมิภำคน้ี ในช่วงน้ันเองผู้ที่มีฐำนะดีมีกำรนำเข้ำ ช่ำงฝีมือจำกเวียดนำมจำนวนมำกเข้ำมำสร้ำงบ้ำนเรือน ทำให้บ้ำนเรือนมีรูปแบบศิลปกรรมแบบจีน ผสมยุโรปท่ีงดงำม ปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นบนสองข้ำงทำง ถนนศรีสุนทร นครทุม อุทัยรำมฤทธิ์ และวิทยะธำรง บำงแห่งยังคงควำมสมบูรณ์อยู่มำก บอกถึงบรรยำกำศของควำมเป็นอดีต ขณะท่ีอีก หลำยแห่งถูกปล่อยให้รกร้ำง ขำดคนอำศัย สรำ้ งเสน่หใ์ ห้บ้ำนสงิ ห์ท่ำสวยงำมมำจนทกุ วนั นี้ ภำพย่ำนเมืองเกำ่ บำ้ นสิงหท์ ำ่ ๔. หำดบงุ่ เมย แหล่งท่องเที่ยวแหง่ ใหม่ท่ีมีหำดทรำยขำวสวยงำมยำวไปตำมลำน้ำชกี ว่ำ 2 กโิ ลเมตร เตรียมพฒั นำเป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วอีกแห่งของจงั หวดั ยโสธร ตั้งอยู่ที่บ้ำนคุยตับเตำ่ ตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง จงั หวัดยโสธร เป็นแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วของจงั หวดั ยโสธรอกี แห่ง เพรำะมธี รรมชำติท่สี วยงำม อีกท้ังลำน้ำชชี ว่ งบรเิ วณดงั กล่ำวนำ้ ไม่ลกึ นักท่องเทย่ี วท้ังเด็กและผู้ใหญส่ ำมำรถลงเล่นนำ้ ได้ เพรำะ น้ำลึกเป็นระดบั ไม่มโี ขดหินเป็นทรำย นอกจำกน้นั แล้วนำ้ บริเวณดังกล่ำวใสสะอำดเพรำะนำ้ ไหล ตลอดเวลำ ในส่วนของหำดทรำยนน้ั ก็มีขนำดกว้ำงใหญ่ทอดไปตำมลำแมน่ ำ้ ลำชีเปน็ สะดุดตำตอ่ ผู้
๑๑ พบเห็นเหมำะสำหรับนกั ท่องเท่ียวท่ีชอบธรรมชำติและชอบหำดทรำยพร้อมลงเล่นนำ้ เยน็ ๆ ที่ไหล ตลอดเวลำได้ ดงั น้ันทำงจงั หวัดยโสธรร่วมกบั หน่วยงำนในพน้ื ที่จงึ ได้เตรียมพัฒนำเปน็ แหล่งท่องเท่ยี ว อกี แหง่ ของจงั หวดั ยโสธร สำหรับหำดบงุ่ เมย แห่งนี้อยหู่ ่ำงจำกตัวจังหวัดยโสธรเพียง 15 กโิ ลเมตร เท่ำนั้นกำรเดนิ ทำงสะดวกเพรำะเปน็ ถนนลำดยำงและคอนกรตี ตลอดเสน้ ทำงจนถงึ หำดบ่งุ เมยจึง เหมำะสำหรบั นักทอ่ งเที่ยวจะเดินทำงมำเท่ยี วชมหำดทรำยทส่ี วยงำมนำ้ ใสสะอำดเพียบพรอ้ มไปดว้ ย ปำ่ ไปไม้ธรรมชำติทีด่ แู ลว้ เพลิดเพลนิ กบั เสียงนกรอ้ งเหมอื นเปน็ เพลงขบั กลอ่ มแตเ่ ปน็ เสียงจำก ธรรมชำติทสี่ ันสรำ้ งไดอ้ ยำ่ งลงตัว ภำพหำดบงุ่ เมย ๕. ภทู ำงเกวียน ภทู ำงเกวยี นตงั้ อย่บู รเิ วณทำงเข้ำอำ่ งกกกุง เปน็ ส่วนหนงึ่ ของแนวภหู นิ ปูนภแู หง่ นยี้ งั อุดม สมบูรณ์ไปดว้ ยป่ำดิบแลง้ และทุ่งหญำ้ ตำมลำนหนิ จำกยอดภจู ะมองเห็นภูผำขำว ภอู ดี ำ่ ง ภูจ้อก้อ นอกจำกน้ยี งั เป็นสถำนทีต่ ้ังของวัดภูทำงเกวียน จำกเชิงเขำมที ำงขนึ้ วัดได้ ๒ ทำงเส้นทำงแรกเปน็ ทำงเดนิ ไปตำมบนั ไดคอนกรตี สว่ นเส้นทำงที่สองเป็นถนนคอนกรีตซึ่งสำมำรถขบั รถยนต์ถงึ บริเวณวัด ได้อยำ่ งสะดวกสบำย สำเหตุท่ีเรียกกันวำ่ ภูทำงเกวยี น น้ี เนอื่ งจำกบนภเู ขำมรี ่องหินสองร่องขนำนกัน คลำ้ ยรอยลอ้ เกวยี นโดยมีเรื่องเลำ่ สืบตอ่ กนั มำวำ่ มผี ู้นำเกวียนบรรทกุ ของมีค่ำมำซุกซ่อนไว้ ณ บรเิ วณ แหง่ นี้ ในอดีตจึงมผี ู้พยำยำมขุดคน้ หำของมีค่ำและวัตถโุ บรำณกันเพรำะควำมสวยงำมของภแู ห่งนี้จงึ เปน็ สว่ นหนึ่งของคำขวัญอำเภอกดุ ชมุ ทีว่ ่ำ “งำมนิมติ ภูทำงเกวยี น” และหำกมำเยือนชว่ งปลำยฝนตน้ หนำวท่ำนจะได้พบกับวัฏจกั รธรรมชำติ ของภูทำงเกวยี นภำคอสี ำน คือ ทงุ่ ดอกหญ้ำบนลำนหนิ ดว้ ย ภำพภูทำงเกวยี น
๑๒
๑๓ กิจกรรมที่ ๑.๑ คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนทำเครื่องหมำยถกู () ลงในช่องท่ีถูก และทำเครื่องหมำยผิด () ลงในช่องทผ่ี ิดต่อไปนใี้ หถ้ กู ต้อง ผลวิเครำะห์ รำยกำรประเมิน ๑. แหลง่ ท่องเที่ยวเป็นทรพั ยำกรท่ีสำคญั จดั เปน็ อุปสงคก์ ำรท่องเท่ียว ๒. แหล่งทอ่ งเทย่ี วทำงวัฒนธรรม เปน็ แหล่งท่องเท่ียวซ่ึงแสดงออกถึงวิถีชีวิตของ ประชำชนในท้องถน่ิ ๓. สถำนที่ท่องเที่ยวท่ีเกิดข้ึนเองตำมธรรมชำติ มีควำมงดงำมในรูปแบบต่ำง ๆ ตำมลักษณะภูมปิ ระเทศในแต่ละพืน้ ที่ คือ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วตำมสภำพธรรมชำติ ๔. พิพธิ ภณั ฑ์พญำคนั คำก ต้ังอยรู่ ิมอำ่ งเก็บนำ้ ลำมูล จงั หวดั ยโสธร ๕. พิพิธภัณฑ์พญำคันคำก เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สอดแทรกตำนำนเร่ืองเล่ำพ้ืนเมือง ของชำวอสี ำน เกย่ี วกับตำนำนพญำคำงคกและประเพณีบญุ บงั้ ไฟ ๖. เมื่อถึงฤดูเก็บเก่ยี วข้ำว ชำวอีสำนจะทำบั้งไฟล้ำน เพอ่ื ถวำยพญำแถน ๗. ธำตุก่องข้ำวน้อย เป็นโบรำณสถำนสำคัญของจังหวัดยโสธร สันนิษฐำนว่ำ สร้ำงข้นึ ชว่ งสมัยปลำยอยธุ ยำ ศิลปะแบบล้ำนชำ้ งผสมลำ้ นนำ ๘. ภำยในธำตุก่องข้ำวน้อย จะบรรจุอัฐิอัฐิพระบรมสำรีริกธำตุของสมเด็จพระ สัมมำสมั พทุ ธเจ้ำ เหมอื นเช่นพระธำตุ หรอื พระบรมธำตุท่วั ไป ๙. โบสถ์คริสต์บ้ำนซ่ง เป็นโบสถ์ปูนของคริสต์ศำสนำที่มีขนำดใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยและมอี ำยุถึง ๑๐๐ ปี ๑๐. โบสถ์คริสต์บ้ำนซ่ง เป็นโบสถ์คริสต์นิกำยโรมันคำทอลิก ดูเรียบง่ำย แต่มคี วำมสงบและงดงำม สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป หรือ ๘ คะแนนขึน้ ไป ผ่ำน ไมผ่ ่ำน
๑๔ กจิ กรรมที่ ๑.๒ คำช้ีแจง ให้นักเรยี นวิเครำะห์ขอ้ ควำมตอ่ ไปน้แี ลว้ จับคคู่ ำตอบให้ถูกตอ้ ง ก. อยธุ ยำ ข. ตำนำนพญำคำงคก ค. ประเพณีและวถิ ีชีวติ ง. ไม้ จ. อัฐบิ ุคคลธรรมดำ ฉ. อตุ สำหกรรม ช. ฝนตกตำมฤดูกำล ซ. อัฐพิ ระบรมสำรีริกธำตุ ฌ. อุปทำน ญ. โรมนั คำทอลิก ฎ. วัดอัครเทวดำมีคำแอล ฏ. สโุ ขทัย ................ ๑. กำรทอ่ งเที่ยวเป็น ........................................................ ที่มคี วำมสำคัญต่อกำรยกระดับ คณุ ภำพชีวติ ของคนในสงั คม ................ ๒. แหลง่ ท่องเท่ียวเปน็ ทรพั ยำกรที่สำคญั จัดเป็น ...................................... กำรท่องเทยี่ ว ................ ๓. แหลง่ ท่องเท่ยี วทำงวัฒนธรรม เปน็ แหลง่ ทอ่ งเที่ยวซงึ่ แสดงออกถึง .............................. ของประชำชนในท้องถ่นิ ................ ๔. พพิ ิธภณั ฑ์พญำคนั เปน็ พิพธิ ภัณฑ์ที่สอดแทรกตำนำนเร่ืองเล่ำพ้ืนเมืองของชำวอสี ำน เกีย่ วกบั ......................................................................................................................... ................ ๕. ชำวบำ้ นร่วมกันทำบัง้ ไฟจดุ ข้นึ ไปแจ้งพญำแถนเพ่ือบนั ดำลให้ ...................................... ................ ๖. ธำตุก่องขำ้ วน้อย เป็นโบรำณสถำนสำคัญของจงั หวัดยโสธร สันนิษฐำนวำ่ สรำ้ งข้ึนช่วง สมยั ปลำย ..................................................................................................................... ................ ๗. ธำตกุ ่องข้ำวน้อยเป็นเจดยี เ์ ก่ำแก่ศิลปะแบบขอม ซ่ึงภำยในบรรจุ ................................. ................ ๘. โบสถค์ ริสต์บำ้ นซ่งแย้ เป็นโบสถ์ ........................................................ ของครสิ ตศ์ ำสนำ ทม่ี ขี นำดใหญท่ ี่สุดในประเทศไทย ................ ๙. โบสถ์คริสตบ์ ้ำนซ่งแย้ มชี ่อื เต็มวำ่ .................................................................................. ................ ๑๐. โบสถค์ ริสตบ์ ้ำนซ่งแย้ เปน็ โบสถค์ รสิ ตน์ กิ ำย ............................................................... สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เปน็ คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป หรือ ๘ คะแนนขึน้ ไป ผำ่ น ไมผ่ ่ำน
๑๕ กจิ กรรมท่ี ๑.๓ คำชี้แจง ให้นักเรยี นอำ่ นจบั ใจควำมสำคญั เรอ่ื ง อำชีพท้องถิ่น จำกน้นั ทำกิจกรรมท้งั หมด ๒ ตอนให้เรียบร้อย ตอนที่ ๑ ใหน้ ักเรยี นตอบคำถำมตอ่ ไปนี้ ๑. แหลง่ ท่องเที่ยวสำมำรถแบ่งได้เป็นกีป่ ระเภท ได้แก่อะไรบ้ำง ตอบ .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ๒. พพิ ธิ ภณั ฑพ์ ญำคนั คำก เปน็ พิพิธภณั ฑ์ทีส่ อดแทรกตำนำนเรอ่ื งเลำ่ ใด ตอบ .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ๓. ธำตกุ อ่ งขำ้ วนอ้ ย เป็นโบรำณสถำนทส่ี ำคัญของจังหวัดยโสธรอยำ่ งไร ตอบ .................................................................................................................................................. .......................................................................................................................................... ...................... ๔. ในทกุ ปีโบสถค์ รสิ ตบ์ ำ้ นซ่งแย้ จะมีกำรจดั กจิ กรรมใด ตอบ .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ๕. เพรำะเหตุใด ชำวบำ้ นจึงจัดให้มีกำรจดุ บง้ั ไฟขึน้ ทอ้ งฟำ้ ตอบ .................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ตอนท่ี ๒ เขียนสรุปใจควำมสำคญั และแสดงควำมคิดเหน็ ที่มีตอ่ เรือ่ งทีอ่ ำ่ น ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................. .............................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ สรปุ คะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๘ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนตอ้ งได้คะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรือ ๑๔ คะแนนขึ้นไป ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น
๑๖ กจิ กรรมที่ ๑.๔ คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นอ่ำนเร่อื งตอ่ ไปน้ี แลว้ เติมคำตอบให้ถูกตอ้ ง ธรณีวทิ ยำ อทุ ยำนแหง่ ชำตภิ สู ระดอกบัว ทิศตะวันออกเฉยี งใต้ เทอื กเขำสลบั ซบั ซ้อน แอง่ สกลนคร แอ่งหนิ บนยอดเขำ ธรรมชำติ เทือกเขำพนมดงรัก เทือกเขำภูพำน ทิศตะวนั ตกเฉยี งเหนือ แอง่ โครำช – อบุ ล วฒั นธรรม อุทยำนแห่งชำติภูสระดอกบัว อทุ ยำนแห่งชำตภิ สู ระดอกบวั มสี ภำพภมู ิประเทศโดยทั่วไปเป็น ............................................. ของเทือกเขำหลำย ๆ ลกู เทือกเขำเหล่ำน้ีเปน็ ส่วนหน่งึ ของเทอื กเขำใหญ่ทเี่ รยี กว่ำ ............................ ทอดตัวเป็นแนวยำวจำก ........................................................ ลงสู่ ...................................................... โดยแบ่งทร่ี ำบสงู โครำชออกเป็น ๒ แอง่ ทำงตอนเหนือ คอื ....................................... สว่ นทำงตอนใต้ เปน็ แอ่งใหญ่ คือ ลักษณะของหนิ และกำรเปลีย่ นแปลงของเปลอื กโลกที่เป็นมำในอดตี ภำยในเขต ก่อให้เกิดจดุ สนใจทำงดำ้ นกำรศกึ ษำทง้ั ทำง ........................................................ และทำงภมู ศิ ำสตร์ โดยเฉพำะกำรเกิดกำรชะลำ้ งของหอนทรำย ทำใหม้ หี น้ำผำ บ่อรูปหมอ้ หรือ ............................. และ กำรเกิดรอยแตกของหนิ ซึ่งพ้ืนทีด่ ังกลำ่ วนี้ นอกจำกจะกลำยเปน็ แหลง่ ทอ่ งเท่ียวแล้ว ยังเปน็ สถำนท่ี ศึกษำทำงด้ำนกำรเปลยี่ นแปลงของ ...................................................................................... ไดอ้ ีกดว้ ย สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนักเรียนต้องไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไป หรือ ๘ คะแนนขน้ึ ไป ผำ่ น ไมผ่ ่ำน
๑๗ กจิ กรรมที่ ๑.๕ คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นอำ่ นบทควำมต่อไปนี้ แล้วตอบคำถำมใหถ้ ูกต้อง ขำ้ วในวถิ ีชีวติ ของคนไทยนัน้ ผกู พนั กันมำนำนนบั แต่โบรำณ จนถงึ ปจั จุบนั เพียงแต่ในปัจจุบัน มีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยในกำรทำนำ ซ่ึงมีควำมแตกต่ำงจำกสมัยโบรำณ ที่ใช้วัวหรือควำยท่ีใช้ในกำร ไถนำ และใช้แรงงำนคนเป็นส่วนใหญ่ บทบำทสำคัญของข้ำว ในวิถีแห่งชีวิตคนไทยและคนในเอเชีย นนั้ มุง่ ปลกู ขำ้ วใช้เพ่อื กำรบริโภค ใช้เพอ่ื กำรแลกเปลี่ยนกับปัจจยั อ่นื ๆ ทจ่ี ำเป็นต่อกำรดำรงชวี ิต ข้ำวผกู พนั กบั คนไทยอยำ่ งลึกซ้ึงและยำวนำน จนมีวัฒนธรรม ประเพณี และควำมเชื่อหลำยอย่ำง ตกทอดมำถึงทุกวันนี้ อำทิ ควำมเชื่อเร่ือง “พระแม่โพสพ” ท่ีชำวนำเช่ือกันว่ำเป็นเทพธิดำท่ีปกปักษ์ รักษำข้ำว กำรเคำรพบูชำจะทำให้ผลิตผลอุดมสมบูรณ์ มีกำรทำพิธี “แห่นำงแมว” หรือ “บุญบ้ังไฟ” เพ่ือขอให้ฝนฟ้ำตกต้องตำมฤดูกำล มีประเพณี “ลงแขกเก่ียวข้ำว” ที่แสดงถึงควำมสำมัคคี ควำมมี น้ำใจ รว่ มแรงช่วยเหลือกันท้ังหมู่บ้ำน เพื่อผลัดกันเก็บเกี่ยวข้ำวให้ทันฤดูกำล ทำให้มีกำรละเล่น ร้อง รำต่ำง ๆ เกิดขน้ึ เชน่ เพลงเก่ียวข้ำว เพลงเต้นกำรำเคยี ว หรอื กำรเลน่ โยนครกโยนสำก เปน็ ต้น ๑. จำกบทควำมนี้ มใี จควำมสำคญั ในเรือ่ งใด ตอบ ............................................................................................................................................. ๒. ขำ้ วมีควำมสำคญั ตอ่ กำรดำรงชีวติ อยำ่ งไรบ้ำง ตอบ ............................................................................................................................................. ๓. ชำวนำมีควำมเชื่อเรือ่ ง “พระแมโ่ พสพ” เพรำะเหตุใด ตอบ ............................................................................................................................................. ๔. ชำวนำมกี ำรทำพิธใี ด เพื่อขอให้ฝนฟำ้ ตกต้องตำมฤดูกำล ตอบ ............................................................................................................................................. ๕. ประเพณี “ลงแขกเกี่ยวข้ำว” มคี วำมสำคัญอยำ่ งไร ตอบ ............................................................................................................................................. สรปุ คะแนนที่ได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน รอ้ ยละ ๘๐ ข้ึนไป หรือ ๘ คะแนนขนึ้ ไป ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น
๑๘ กิจกรรมท่ี ๑.๖ คำชี้แจง ให้นกั เรยี นอำ่ นจับใจควำมสำคัญเร่ืองต่อไปนีด้ ้วยเทคนคิ Sq๔r กำรทอ่ งเที่ยว หมำยถงึ กำรเดนิ ทำงของบุคคลจำกสถำนท่ีซ่ึงเป็นท่ีอำศัยอยู่ประจำไปยังสถำนท่ีอื่น เป็นกำรช่ัวครำวและเดินทำงกลับไปสถำนที่อำศัยเดิม โดยกำรเดินทำงนั้นไม่ใช่เพื่อประกอบอำชีพโดยตรง แม้ว่ำรูปแบบของกำรท่องเที่ยวบำงประเภทจะมีเรื่องของอำชีพ หรือธุรกิจกำรงำนเข้ำมำเกี่ยวข้องอยู่บ้ำง เช่น กำรทอ่ งเทยี่ วในรูปแบบของกำรจัดประชุม กำรจัดสัมมนำกำรจัดฝึกอบรม นักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทำง ท่องเท่ียวมักจะมีเหตุผลหรือประเภทของจุดมุ่งหมำยในกำรเดินทำงที่แตกต่ำงกันออกไป โดยมีปัจจัยประกอบท่ี เป็นตัวสนับสนุนหรือแรงผลักที่เป็นส่วนบุคคลซึ่งไม่เท่ำกัน ปัจจัยเหล่ำนี้ได้แก่ รำยได้ เวลำ โอกำส ครอบครัว กำรได้รับข้อมูลข่ำวสำร และควำมสนใจส่วนบุคคล เช่น สนใจเรื่องรำวของชนเผ่ำ วัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศำสตร์ ส่ิงแวดล้อม นันทนำกำร หรือควำมต้องกำรท่ีจะได้รับประสบกำรณ์ท่ีแปลกใหม่ เป็นต้น ซ่ึงไม่ว่ำจะเดินทำงด้วยเหตุผลใดก็ตำม สิ่งท่ีนักท่องเที่ยวต่ำงก็คำดหวังท่ีจะได้รับ คือ ควำมสุข ควำม สนกุ สนำน ควำมเพลิดเพลนิ ควำมรู้ และประสบกำรณ์ใหม่ทส่ี นองตอบควำมต้องกำรสว่ นบุคคลที่มีอยู่ จะพบว่ำกำรท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกำรเดินทำง แต่ปัญหำอยู่ที่ว่ำ กำรเดินทำงไม่ใช่ กำรท่องเท่ียวเสมอไป ดังนั้นจึงเป็นส่ิงสำคัญอย่ำงยิ่งท่ีควรจะรู้ควำมหมำยของกำรท่องเท่ี ยว ซึ่งเป็น อุตสำหกรรมท่ีสร้ำงรำยได้อย่ำงมหำศำลให้แก่ประเทศ และถอื เปน็ อตุ สำหกรรมท่ีมีขนำดใหญ่ทส่ี ุดในโลก ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบคร่ำว ๆ ตอบ ๒. Question (Q) อำ่ นบทควำมและต้ังคำถำม ตอบ ๓. Read (R) อำ่ นซำ้ และหำคำตอบจำกขอ้ ท่ี ๒ ตอบ ๔. Record (R) จดบนั ทึกข้อมูลทส่ี ำคญั ตอบ ๕. Recite (R) สรุปใจควำมสำคัญของเร่ือง ตอบ สรุปคะแนนที่ได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๕ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นกั เรียนตอ้ งไดค้ ะแนน ร้อยละ ๘๐ ข้ึนไป หรอื ๑๒ คะแนนข้นึ ไป ผ่ำน ไม่ผำ่ น
๑๙ แบบทดสอบหลงั เรยี น หนังสือส่งเสริมกำรอำ่ นจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ิปัญญำท้องถ่ิน กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๓ เล่มที่ ๔ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คำชแ้ี จง ๑. แบบทดสอบทั้งหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ๒. ใหน้ กั เรยี นทำเคร่อื งหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลอื กช่องวำ่ งตำมตัวอักษร ก. ข. ค. และ ง. ทีถ่ ูกท่ีสุดเพียงข้อเดยี ว ให้นกั เรยี นอำ่ นขอ้ ควำมต่อไปนี้แล้วตอบคำถำมขอ้ ที่ ๑ – ๒ ถ้ำพูดถึงประเทศที่โดดเด่นเรื่องของควำมเจริญก้ำวหน้ำและควำมหลำกหลำยของบ้ำนเ มือง แล้ว คงหนีไม่พ้นประเทศสิงคโปร์ เพรำะที่นี่เต็มไปด้วยควำมหลำกหลำยของชนชำติ ทำให้ วัฒนธรรมมีควำมหลำกหลำยตำมไปด้วย และที่นี่ยังมีควำมเจริญก้ำวหน้ำเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย เนอ่ื งจำกประเทศนเี้ ป็นประเทศที่มคี วำมก้ำวหน้ำในทุก ๆ ด้ำน เนือ่ งจำกประเทศสิงคโปร์เต็มไปด้วยควำมเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่ง ซึ่งนอกจำกกำรพัฒนำ ของเค้ำที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว สิงคโปร์ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกที่เต็มไปด้วยด้วยสีสันที่มี ควำมผสมผสำนกันอย่ำงอยำ่ งกลมกลนื และลงตวั ของวฒั นธรรม อำหำร ศลิ ปะ และสถำปัตยกรรม ๑. ขอ้ ใดไมใ่ ชป่ ัจจยั ท่ที ำให้สงิ คโปร์เป็นแหลง่ ทอ่ งเท่ียวระดบั โลก ก. สถำปัตยกรรม ข. ศลิ ปะ ค. วัฒนธรรม ง. อำกำศ ๒. ใจควำมสำคญั ของบทควำมขำ้ งตน้ คอื ข้อใด ก. สิงคโปร์เป็นประเทศแหง่ กำรพัฒนำและมีควำมเจรญิ กำ้ วหนำ้ ข. ประเทศสงิ คโปรม์ ีรูปแบบกำรปกครองทหี่ ลำกหลำย ค. ประเทศสงิ คโปรถ์ ือเปน็ แหล่งทอ่ งเท่ยี วระดับสำกลประเทศ ง. ประเทศสงิ คโปรเ์ กดิ จำกกำรเปล่ียนแปลงท่ีไมห่ ยุดน่งิ
๒๐ ๓. โบสถค์ ริสตบ์ ำ้ นซ่งแย้สำมำรถบรรจคุ นได้มำกเท่ำไหร่ ก. มำกกวำ่ ๑๐๐ คน ข. มำกกวำ่ ๕๐๐ คน ค. ๕๐๐ คน ง. ๑๐๐ คน ๔. พิธภัณฑพ์ ำคันคำกต้งั อยใู่ กลร้ มิ แมน่ ำ้ ใด ก. แมน่ ำ้ เจำ้ พระยำ ข. แม่นำ้ ปิง ค. แมน่ ำ้ ทวน ง. แม่น้ำป่ำสกั ๕. ภำยในธำตุก่องข้ำวนอ้ ยบรรจุอฐั ขิ องบุคคลใด ก. อัฐพิ ระบรมสำรีริกธำตขุ องสมเด็จพระสมั มำสมั พุทธเจ้ำ ข. อัฐพิ ระบรมสำรรี กิ ธำตขุ องสมเดจ็ พระนำรำยณ์ ค. อฐั ิบคุ คลธรรมดำ ง. อัฐิพระบรมสำรีริกธำตุของสมเดจ็ พระอำนนท์ ใหน้ กั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ีแล้วตอบคำถำมข้อท่ี ๖ – ๗ ปัจจุบันประเทศไทยถูกจัดอันดับให้เป็นหน่ึงในสถำนท่ีท่องเท่ียวที่ได้รับควำมนิยมอย่ำงมำก จำกนักท่องเท่ียวท่ัวโลก รัฐบำลไทยได้ให้ควำมสำคัญและสนับสนุนกำรเติบโตของอุสำหกรรมกำร ท่องเท่ยี วเปน็ อยำ่ งมำก ถึงแมว้ ำ่ กำรท่องเที่ยวจะสร้ำงเงินรำยได้มหำศำล แต่ก่อให้เกิดผลกระทบทำง เศรษฐกิจและสังคมของชุมชนท้องถ่ินอย่ำงหลีกเล่ียงได้ยำก เกิดกำรโยกย้ำยถ่ินฐำน เปลี่ยนแปลง อำชีพและกำรทำมำหำกิน ประเพณีและวัฒนธรรมด้ังเดิมแปรเปล่ียนไปตำมพฤติกรรมของของ นกั ทอ่ งเท่ยี ว ๖. ขอ้ ใดไม่ใชส่ ำเหตทุ ี่กอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบทำงเศรษฐกิจและสงั คมของชุมชนท้องถ่นิ ก. กำรเปลีย่ นแปลงอำชพี ข. วฒั นธรรมทเี่ ปล่ยี นไป ค. กำรโยกยำ้ ยถ่นิ ฐำน ง. อุสำหกรรมกำรท่องเท่ยี ว
๒๑ ๗. ขอ้ ใดคอื กำรแกป้ ัญหำผลกระทบทำงเศรษฐกจิ และสงั คมของชมุ ชนทอ้ งถิ่น ก. กำรเปล่ียนแปลงอำชีพและกำรทำมำหำกนิ ข. แนวทำงกำรจดั กำรกำรทอ่ งเท่ียวในเชงิ วฒั นธรรม ค. กำรสนบั สนุนวฒั นธรรมดั้งเดิมของนกั ท่องเทย่ี ว ง. กำรสนับสนุนอุสำหกรรมกำรทอ่ งเท่ยี ว ๘. โบสถค์ รสิ ต์บ้ำนซ่งแย้เปน็ โบสถ์แบบใด ก. ไม้ ข. ไม้สัก ค. ปนู ง. คร่ึงปูนคร่งึ ไม้ ๙. โบสถค์ รสิ ต์บำ้ นซ่งแย้เป็นโบสถ์ครสิ ตน์ กิ ำยใด ก. นกิ ำยลูเธอรัน ข. นกิ ำยออรธ์ อดอ็ กซ์ ค. นกิ ำยโรมนั คำทอลิก ง. นิกำยโปเตสทแ์ ตน ๑๐. พธิ ภัณฑ์พำคนั คำกมตี ำนำนเร่ืองเล่ำพน้ื เมืองของชำวอีสำนในเรื่องใด ก. ตำนำนพญำคำงคกและประเพณีบญุ บ้ังไฟ ข. ประเพณบี ญุ บัง้ ไฟและประเพณีแห่นำงแมว ค. ตำนำนพญำคำงคกและประเพณแี ห่นำงแมว ง. ตำนำนพญำคำงคกและตำนำนกอ่ งขำ้ วน้อย สูๆ้ นะคะนักเรียน
๒๒ กระดำษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรียน หนังสอื ส่งเสริมกำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภูมปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศึกษำปีที่ ๓ เล่มที่ ๔ แหล่งท่องเท่ียวสำคัญ คำชี้แจง ๑. แบบทดสอบท้ังหมด ๑๐ ข้อ ข้อละ ๑ คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ๒. ให้นักเรียนทำเครื่องหมำย X ลงในกระดำษคำตอบ โดยเลือกช่องว่ำงตำมตวั อกั ษร ก. ข. ค. และ ง. ทถ่ี ูกท่ีสดุ เพียงข้อเดยี ว ข้อ ก ข ค ง ๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗. ๘. ๙. ๑๐. สรุปคะแนนท่ีได้ .................... คะแนน เป็นคะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน เกณฑ์กำรประเมนิ นักเรียนต้องไดค้ ะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป หรอื ๘ คะแนนข้นึ ไป ผำ่ น ไม่ผ่ำน
๒๓ บรรณำนกุ รม กมลเนตร คำไสย.์ (๒๕๔๙). กำรพฒั นำกำรเรยี นรูก้ ำรอ่ำนจับใจควำมบทร้อยกรองภำษำไทย ชน้ั มธั ยมศึกษำปที ี่ ๒ ด้วยกระบวนกำรกลุ่มท่ใี ช้แผนผังควำมร้.ู วทิ ยำนิพนธ์กำรศึกษำ มหำบัณฑิต คณะศึกษำศำสตร์ สำขำวิชำหลกั สูตรและกำรสอน มหำวิทยำลัย มหำสำรคำม. กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร. (๒๕๔๕). คพู่ ฒั นำสื่อกำรเรยี นร.ู้ กรุงเทพฯ : กรุงเทพฯ : ครุ สุ ภำลำดพร้ำว. _______.(๒๕๕๒). มำตรฐำนกำรเรียนรแู้ ละตัวชวี้ ัด กลุ่มสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย. ตำมหลักสตู ร แกนกลำงกำรศกึ ษำขึน้ พ้นื ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : ชุมชนสหกรณก์ ำรเกษตร แหง่ ประเทศไทย. _______. (๒๕๕๒). แนวทำงกำรจดั กำรเรียนรู้ ตำมหลกั สตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้ันพนื้ ฐำน พุทธศักรำช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : สำนกั วชิ ำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำน คณะกรรมกำรกำรศึกษำข้ันพื้นฐำน. _______.(๒๕๕๒). แนวกำรวดั ผลและประเมินผลกำรเรียนรู้ ตำมหลกั สูตรแกนกลำงกำรศึกษำ ข้ันพนื้ ฐำน พทุ ธศกั รำช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ : สำนกั วิชำกำรและมำตรฐำนกำรศึกษำ สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขน้ั พน้ื ฐำน. _______. (๒๕๔๕). เทคนิคกำรเขยี นหนังสอื สำหรบั เดก็ . กรงุ เทพฯ : ครุสภำลำดพร้ำว. กำญจนำ สุรยิ ะวิทยะ. (๒๕๕๓). กำรพฒั นำหนังสือส่งเสริมกำรอ่ำน เรอื่ งประเพณีทอ้ งถิน่ สกลนคร เพื่อฝึกทักษะกำรอำ่ นและกำรเขียนภำษำไทย ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๒. วิทยำนิพนธ์ ครุ ศำสตร มหำบณั ฑติ สำขำหลักสูตรและกำรสอน มหำวิทยำลยั รำชภัฏสกลนคร. กำนต์มณี ศกั ดิเ์ จรญิ . (๒๕๔๓). กจิ กรรมส่งเสริมกำรอำ่ น. กรงุ เทพฯ : คุรสุ ภำลำดพร้ำว. กุลวรำ ชูพงษไ์ พโรจน.์ (๒๕๔๕). หนงั สอื ทำมอื ทำได้งำ่ ยจัง. กรุงเทพฯ : เอดสิ ันเพรส โพรดกั ส์. กศุ ยำ แสงเดช และคนคณะ (๒๕๔๕). หนังสอื ส่งเสริมกำรอ่ำน. กรงุ เทพฯ : แม็ค. สำลี รกั สทุ ธ.ี (๒๕๕๓). ค่มู อื กำรจดั ทำสอื่ นวัตกรรม และแผนฯ และกอบสื่อ นวตั กรรม. กรุงเทพฯ : พฒั นำศึกษำ. สนุ ันทำ มน่ั เศรษฐวิทย.์ (๒๕๔๕). หลักและวธิ ีกำรสอนอำ่ นภำษไทย. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนำพำณิช. สุวทิ ย์ มูลคำ และสนุ ันทำ สนุ ทรประเสรฐิ . (๒๕๕๐). กำรพฒั นำผลงำนทำงวิชำกำร สกู่ ำรเลือ่ น วิทยฐำนะ. กรุงเทพฯ : อี เค บคุ ส์. สำนกั งำนจงั หวัดยโสธร. (๒๕๕๐). กลมุ่ งำนข้อมูลสำรสนเทศจังหวัดยโสธร. สืบคน้ ออนไลนท์ ่ี : http://www.yasothon.go.th/web.
๒๔
๒๕ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๑ คำช้แี จง ให้นกั เรียนทำเครื่องหมำยถกู () ลงในช่องท่ีถูก และทำเครือ่ งหมำยผิด () ลงในชอ่ งที่ผดิ ต่อไปนใี้ หถ้ กู ต้อง ผลวิเครำะห์ รำยกำรประเมิน ๑. แหล่งท่องเที่ยวเปน็ ทรัพยำกรท่ีสำคญั จดั เป็นอุปสงค์กำรท่องเที่ยว ๒. แหลง่ ท่องเท่ยี วทำงวฒั นธรรม เปน็ แหล่งท่องเที่ยวซ่ึงแสดงออกถึงวิถีชีวิตของ ประชำชนในท้องถิ่น ๓. สถำนท่ีท่องเท่ียวท่ีเกิดขึ้นเองตำมธรรมชำติ มีควำมงดงำมในรูปแบบต่ำง ๆ ตำมลักษณะภูมปิ ระเทศในแต่ละพื้นที่ คอื แหลง่ ท่องเที่ยวตำมสภำพธรรมชำติ ๔. พพิ ธิ ภณั ฑพ์ ญำคนั คำก ต้ังอยรู่ มิ อำ่ งเก็บนำ้ ลำมูล จงั หวดั ยโสธร ๕. พิพิธภัณฑ์พญำคันคำก เป็นพิพิธภัณฑ์ท่ีสอดแทรกตำนำนเร่ืองเล่ำพื้นเมือง ของชำวอีสำน เกีย่ วกบั ตำนำนพญำคำงคกและประเพณีบุญบง้ั ไฟ ๖. เมือ่ ถงึ ฤดเู กบ็ เกยี่ วขำ้ ว ชำวอสี ำนจะทำบง้ั ไฟล้ำน เพอ่ื ถวำยพญำแถน ๗. ธำตุก่องข้ำวน้อย เป็นโบรำณสถำนสำคัญของจังหวัดยโสธร สันนิษฐำนว่ำ สร้ำงข้ึนชว่ งสมัยปลำยอยธุ ยำ ศิลปะแบบลำ้ นช้ำงผสมล้ำนนำ ๘. ภำยในธำตุก่องข้ำวน้อย จะบรรจุอัฐิอัฐิพระบรมสำรีริกธำตุของสมเด็จพระ สมั มำสมั พุทธเจ้ำ เหมอื นเชน่ พระธำตุ หรือพระบรมธำตทุ วั่ ไป ๙. โบสถ์คริสต์บ้ำนซ่ง เป็นโบสถ์ปูนของคริสต์ศำสนำท่ีมีขนำดใหญ่ที่สุด ในประเทศไทยและมอี ำยถุ งึ ๑๐๐ ปี ๑๐. โบสถ์คริสต์บ้ำนซ่ง เป็นโบสถ์คริสต์นิกำยโรมันคำทอลิก ดูเรียบง่ำย แต่มคี วำมสงบและงดงำม สๆู้ นะคะนักเรียน
๒๖ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๑.๒ คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นวิเครำะหข์ ้อควำมตอ่ ไปนแี้ ล้วจบั คู่คำตอบให้ถูกต้อง ก. อยธุ ยำ ข. ตำนำนพญำคำงคก ค. ประเพณีและวถิ ีชีวิต ง. ไม้ จ. อฐั ิบุคคลธรรมดำ ฉ. อุตสำหกรรม ช. ฝนตกตำมฤดูกำล ซ. อฐั ิพระบรมสำรีริกธำตุ ฌ. อุปทำน ญ. โรมนั คำทอลกิ ฎ. วัดอัครเทวดำมีคำแอล ฏ. สโุ ขทยั ........ฉ........ ๑. กำรท่องเที่ยวเป็น อตุ สำหกรรม ท่ีมีควำมสำคัญตอ่ กำรยกระดบั คุณภำพชวี ติ ของคนในสงั คม ........ฌ........ ๒. แหลง่ ทอ่ งเท่ียวเปน็ ทรพั ยำกรทีส่ ำคัญจัดเป็น อปุ ทำน กำรทอ่ งเท่ยี ว ........ค........ ๓. แหลง่ ทอ่ งเท่ียวทำงวฒั นธรรม เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วซ่ึงแสดงออกถงึ ประเพณแี ละวิถีชีวติ ของประชำชนในท้องถิน่ ........ข........ ๔. พิพธิ ภณั ฑพ์ ญำคนั เป็นพิพิธภณั ฑ์ท่ีสอดแทรกตำนำนเร่ืองเล่ำพ้นื เมืองของชำวอีสำน เก่ียวกบั ตำนำนพญำคำงคก ........ช........ ๕. ชำวบำ้ นรว่ มกนั ทำบงั้ ไฟจุดขนึ้ ไปแจ้งพญำแถนเพ่ือบันดำลให้ ฝนตกตำมฤดูกำล ........ก........ ๖. ธำตกุ ่องขำ้ วน้อย เป็นโบรำณสถำนสำคัญของจงั หวัดยโสธร สันนษิ ฐำนวำ่ สร้ำงข้ึน ช่วงสมัยปลำย อยุธยำ ........จ........ ๗. ธำตุกอ่ งข้ำวน้อยเปน็ เจดียเ์ ก่ำแก่ศิลปะแบบขอม ซ่ึงภำยในบรรจุ อฐั ิบุคคลธรรมดำ ........ง........ ๘. โบสถ์ครสิ ตบ์ ำ้ นซง่ แย้เป็นโบสถ์ ไม้ ของคริสต์ศำสนำทม่ี ขี นำดใหญ่ทีส่ ดุ ในประเทศไทย ........ฎ........ ๙. โบสถ์คริสต์บำ้ นซ่งแย้ มีช่ือเต็มวำ่ วัดอัครเทวดำมคี ำแอล ........ญ........ ๑๐. โบสถ์คริสต์บำ้ นซง่ แย้ เปน็ โบสถค์ รสิ ต์นิกำย โรมันคำทอลกิ อย่ำลืมทวนคำตอบ นะคะ
๒๗ เฉลยกจิ กรรมท่ี ๑.๓ คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอ่ำนจับใจควำมสำคัญ เร่อื ง อำชีพท้องถ่นิ จำกน้นั ทำกจิ กรรมทง้ั หมด ๒ ตอนใหเ้ รียบรอ้ ย ตอนท่ี ๑ ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำมต่อไปนี้ ๑. แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วสำมำรถแบง่ ได้เป็นก่ีประเภท ไดแ้ ก่อะไรบำ้ ง ตอบ ๔ ประเภท ไดแ้ ก่ ๑) แหลง่ ท่องเท่ียวทำง ๒) แหล่งท่องเท่ียวตำมสภำพธรรมชำติ ๓) แหล่งทอ่ งเท่ยี วท่ใี หค้ วำมบนั เทิง ๔) แหล่งทอ่ งเทย่ี วอนื่ ๆ ทีม่ ลี กั ษณะเฉพำะตัว ๒. พพิ ธิ ภัณฑ์พญำคันคำก เป็นพพิ ิธภัณฑ์ทส่ี อดแทรกตำนำนเรือ่ งเลำ่ ใด ตอบ ตำนำนพญำคำงคกและประเพณบี ุญบั้งไฟ ๓. ธำตุก่องขำ้ วน้อย เป็นโบรำณสถำนทส่ี ำคญั ของจงั หวัดยโสธรอย่ำงไร ตอบ ธำตกุ ่องข้ำวนอ้ ยเป็นเจดียเ์ กำ่ แกศ่ ลิ ปะแบบขอม ต้ังอย่วู ัดทุ่งสะเดำ บ้ำนสะเดำ ตำบลตำด ทอง อำเภอเมือง จังหวดั ยโสธร ภำยในบรรจุอฐั ิบคุ คลธรรมดำ ๔. ในทกุ ปโี บสถ์ครสิ ตบ์ ำ้ นซ่งแย้ จะมีกำรจัดกจิ กรรมใด ตอบ กำรจดั กิจกรรมงำนพิธีสมรสหมตู่ ำมแบบคำทอลกิ ในวนั ท่ี ๑๔ กมุ ภำพนั ธ์ (วนั วำเลนไทน)์ ๕. เพรำะเหตใุ ด ชำวบ้ำนจงึ จัดใหม้ กี ำรจุดบง้ั ไฟขึน้ ท้องฟ้ำ ตอบ เพือ่ แจ้งพญำแถน ให้บันดำลให้ฝนตกถูกต้องตำมฤดูกำล เพื่อชำวโลกมนษุ ย์จะใช้น้ำฝนทำนำ เปน็ ไปตำมตำนำนเลำ่ สืบทอดกันมำ ตอนที่ ๒ เขียนสรปุ ใจควำมสำคัญ และแสดงควำมคิดเห็นท่ีมตี อ่ เรื่องท่อี ำ่ น ตอบ กำรพัฒนำกำรท่องเท่ียว มีส่วนช่วยให้เกิดกำรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมธรรมชำติและวัฒนธรรม อันเป็นทรัพยำกรกำรท่องเที่ยวท่ีสำคัญในกำรท่ีจะดึงดูดนักท่องเท่ียวได้เป็นอย่ำงดี ซึ่งในจังหวัด ยโสธร มีแหล่งท่องเท่ียวท่ีสำคัญมำกมำยทั้งแหล่งท่องเที่ยวทำงวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยวทำง ธรรมชำติ และแหล่งท่องเท่ียวอื่น ๆ ท่ีมีลักษณะเฉพำะตัว เช่น พิพิธภัณฑ์พญำคันคำก โบสถ์คริสต์ บำ้ นซ่งแย้ ธำตกุ ่องขำ้ วนอ้ ย เปน็ ต้น
๒๘ แบบประเมินกำรรว่ มกจิ กรรมที่ ๑.๓ ชือ่ ........................................................…นำมสกุล.............................................เลขที่........................ ผปู้ ระเมิน นักเรยี น เพอื่ น ครู คำช้แี จง ให้ทำเครื่องหมำยถูกต้อง ลงในช่องวำ่ งระดับคะแนนที่ตรงกับควำมเปน็ จริงมำกทส่ี ุด โดยจัดระดับคณุ ภำพเปน็ ๓ ระดบั ตำมเกณฑ์ตอ่ ไปน้ี ๓ หมำยถึง สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไดถ้ ูกตอ้ ง ชัดเจน และตรงประเดน็ ๒ หมำยถงึ สำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมไม่คอ่ ยถูกตอ้ ง และไมค่ อ่ ยตรงประเดน็ ๑ หมำยถงึ ไม่สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมได้ถูกต้อง ชัดเจน และตรงประเดน็ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ๓๒๑ ตอนท่ี ๑ ให้นักเรียนตอบคำถำมให้ถกู ต้อง ๑. แหล่งท่องเท่ียวสำมำรถแบ่งไดเ้ ป็นกีป่ ระเภทไดแ้ กอ่ ะไรบ้ำง ๒. พพิ ธิ ภณั ฑ์พญำคนั คำก เปน็ พิพิธภัณฑ์ทส่ี อดแทรกตำนำนเรื่องเลำ่ ใด ๓. ธำตุก่องข้ำวน้อย เปน็ โบรำณสถำนทส่ี ำคัญของจงั หวดั ยโสธรอย่ำงไร ๔. ในทกุ ปีโบสถค์ รสิ ตบ์ ้ำนซ่งแย้ จะมีกำรจัดกิจกรรมใด ๕. เพรำะเหตุใด ชำวบ้ำนจงึ จัดให้มกี ำรจดุ บ้งั ไฟขน้ึ ท้องฟ้ำ ตอนที่ ๒ เขียนสรุปใจควำมสำคัญ และแสดงควำมคดิ เห็นทมี่ ตี ่อเรอื่ งท่ีอ่ำน - สรุปใจควำมสำคญั และแสดงควำมคดิ เหน็ คะแนนรวมแต่ละช่อง สรปุ คะแนนท่ีได้ (หำรด้วยสอง) เกณฑก์ ำรประเมิน ผ่ำนเกณฑร์ ้อยละ ๘๐ ผลกำรประเมนิ นักเรียนได้คะแนน ๑๔ คะแนนขึน้ ไป จงึ ถือว่ำผ่ำน ผ่ำน ไม่ผ่ำน ลงช่อื ..................................................ผปู้ ระเมิน (.................................................)
๒๙ เฉลยกจิ กรรมที่ ๑.๔ คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นอ่ำนเรอ่ื งตอ่ ไปน้ี แล้วเติมคำตอบใหถ้ ูกต้อง ธรณีวิทยำ อทุ ยำนแหง่ ชำติภสู ระดอกบวั ทศิ ตะวันออกเฉยี งใต้ เทอื กเขำสลับซับซ้อน แอง่ สกลนคร แอง่ หินบนยอดเขำ ธรรมชำติ เทือกเขำพนมดงรัก เทือกเขำภูพำน ทศิ ตะวันตกเฉยี งเหนือ แอ่งโครำช – อุบล วฒั นธรรม อทุ ยำนแหง่ ชำตภิ สู ระดอกบัว อทุ ยำนแห่งชำติภสู ระดอกบัว มีสภำพภูมิประเทศโดยท่ัวไปเป็น เทอื กเขำสลบั ซับซ้อน ของเทือกเขำหลำย ๆ ลูก เทือกเขำเหล่ำนีเ้ ปน็ ส่วนหนึง่ ของเทอื กเขำใหญ่ที่เรียกว่ำ เทอื กเขำภูพำน ทอดตัวเป็นแนวยำวจำก ทิศตะวนั ตกเฉยี งเหนือ ลงสู่ ทศิ ตะวันออกเฉียงใต้ โดยแบ่งที่รำบสูงโครำช ออกเปน็ ๒ แอ่ง ทำงตอนเหนือ คือ แอ่งสกลนคร สว่ นทำงตอนใต้เป็นแอ่งใหญ่ คือ แอ่งโครำช – อุบล ลกั ษณะของหินและกำรเปลีย่ นแปลงของเปลอื กโลกทเี่ ปน็ มำในอดีตภำยในเขต อุทยำนแหง่ ชำติ ภสู ระดอกบัว ก่อให้เกดิ จุดสนใจทำงดำ้ นกำรศึกษำทั้งทำง ธรณวี ทิ ยำ และทำงภมู ิศำสตร์ โดยเฉพำะ กำรเกิดกำรชะลำ้ งของหอนทรำย ทำให้มีหนำ้ ผำ บ่อรูปหม้อ หรือ แอ่งหินบนยอดเขำ และกำรเกิด รอยแตกของหิน ซึ่งพ้นื ทดี่ งั กลำ่ วน้ี นอกจำกจะกลำยเป็นแหลง่ ทอ่ งเทย่ี วแล้ว ยงั เป็นสถำนท่ีศึกษำ ทำงดำ้ นกำรเปลย่ี นแปลงของ ธรรมชำติ ไดอ้ กี ดว้ ย
๓๐ เฉลยกิจกรรมท่ี ๑.๕ คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนอำ่ นบทควำมต่อไปนี้ แล้วตอบคำถำมให้ถูกต้อง ข้ำวในวถิ ีชวี ิตของคนไทยนั้นผกู พันกันมำนำนนับแตโ่ บรำณ จนถงึ ปจั จบุ ัน เพียงแตใ่ นปัจจุบัน มีเครื่องไม้เครื่องมือช่วยในกำรทำนำ ซึ่งมีควำมแตกต่ำงจำกสมัยโบรำณ ท่ีใช้วัวหรือควำยท่ีใช้ในกำร ไถนำ และใช้แรงงำนคนเป็นส่วนใหญ่ บทบำทสำคัญของข้ำว ในวิถีแห่งชีวิตคนไทยและคนในเอเชีย น้ันมงุ่ ปลูกขำ้ วใชเ้ พอื่ กำรบรโิ ภค ใชเ้ พ่ือกำรแลกเปล่ียนกับปัจจยั อนื่ ๆ ทจ่ี ำเป็นต่อกำรดำรงชีวติ ข้ำวผูกพันกบั คนไทยอย่ำงลึกซึ้งและยำวนำน จนมีวัฒนธรรม ประเพณี และควำมเช่ือหลำยอย่ำง ตกทอดมำถึงทุกวันนี้ อำทิ ควำมเชื่อเร่ือง “พระแม่โพสพ” ท่ีชำวนำเชื่อกันว่ำเป็นเทพธิดำท่ีปกปักษ์ รกั ษำขำ้ ว กำรเคำรพบูชำจะทำให้ผลิตผลอุดมสมบูรณ์ มีกำรทำพิธี “แห่นำงแมว” หรือ “บุญบั้งไฟ” เพ่ือขอให้ฝนฟ้ำตกต้องตำมฤดูกำล มีประเพณี “ลงแขกเกี่ยวข้ำว” ที่แสดงถึงควำมสำมัคคี ควำมมี นำ้ ใจ รว่ มแรงช่วยเหลือกันท้ังหมู่บ้ำน เพื่อผลัดกันเก็บเก่ียวข้ำวให้ทันฤดูกำล ทำให้มีกำรละเล่น ร้อง รำตำ่ ง ๆ เกดิ ขนึ้ เช่น เพลงเก่ยี วข้ำว เพลงเต้นกำรำเคยี ว หรือกำรเล่นโยนครกโยนสำก เปน็ ต้น ๑. จำกบทควำมน้ี มีใจควำมสำคญั ในเรอ่ื งใด ตอบ ควำมสำคญั ของข้ำว ๒. ข้ำวมคี วำมสำคัญตอ่ กำรดำรงชีวิตอยำ่ งไรบ้ำง ตอบ เพอื่ กำรบรโิ ภค และเพื่อกำรแลกเปลี่ยนกบั ปัจจยั อนื่ ๆ ท่ีจำเป็นต่อกำรดำรงชวี ิต ๓. ชำวนำมีควำมเช่ือเรอ่ื ง “พระแมโ่ พสพ” เพรำะเหตุใด ตอบ ชำวนำเชอ่ื กันว่ำเปน็ เทพธิดำทีป่ กปักษ์รักษำขำ้ ว กำรเคำรพบชู ำจะทำให้ผลิตผลอดุ มสมบรู ณ์ ๔. ชำวนำมีกำรทำพธิ ีใด เพ่ือขอให้ฝนฟ้ำตกต้องตำมฤดูกำล ตอบ แห่นำงแมว บุญบง้ั ไฟ ๕. ประเพณี “ลงแขกเกย่ี วข้ำว” มคี วำมสำคญั อย่ำงไร ตอบ แสดงถงึ ควำมสำมัคคี ควำมมีน้ำใจ ร่วมแรงช่วยเหลอื กันทงั้ หมู่บำ้ น
๓๑ เฉลยกิจกรรมที่ ๑.๖ คำชแี้ จง ให้นกั เรียนอ่ำนจับใจควำมสำคญั เร่อื งตอ่ ไปนี้ด้วยเทคนคิ Sq๔r กำรทอ่ งเทย่ี ว หมำยถงึ กำรเดนิ ทำงของบคุ คลจำกสถำนที่ซ่ึงเป็นท่ีอำศัยอยู่ประจำไปยังสถำนท่ีอื่น เป็นกำรชั่วครำวและเดินทำงกลับไปสถำนที่อำศัยเดิม โดยกำรเดินทำงนั้นไม่ใช่เพ่ือประกอบอำชีพโดยตรง แม้ว่ำรูปแบบของกำรท่องเที่ยวบำงประเภทจะมีเร่ืองของอำชีพ หรือธุรกิจกำรงำนเข้ำมำเกี่ยวข้องอยู่บ้ำง เชน่ กำรท่องเทีย่ วในรปู แบบของกำรจัดประชุม กำรจัดสัมมนำกำรจัดฝึกอบรม นักท่องเท่ียวหรือผู้เดินทำง ท่องเที่ยวมักจะมีเหตุผลหรือประเภทของจุดมุ่งหมำยในกำรเดินทำงที่แตกต่ำงกันออกไป โดยมีปัจจัยประกอบที่ เป็นตัวสนับสนุนหรือแรงผลักที่เป็นส่วนบุคคลซ่ึงไม่เท่ำกัน ปัจจัยเหล่ำน้ีได้แก่ รำยได้ เวลำ โอกำส ครอบครัว กำรได้รับข้อมูลข่ำวสำร และควำมสนใจส่วนบุคคล เช่น สนใจเรื่องรำวของชนเผ่ำ วัฒนธรรม ประเพณี ประวัติศำสตร์ ส่ิงแวดล้อม นันทนำกำร หรือควำมต้องกำรท่ีจะได้รับประสบกำรณ์ท่ีแปลกใหม่ เป็นต้น ซ่ึงไม่ว่ำจะเดินทำงด้วยเหตุผลใดก็ตำม ส่ิงท่ีนักท่องเที่ยวต่ำงก็คำดหวังที่จะได้รับ คือ ควำมสุข ควำม สนุกสนำน ควำมเพลิดเพลิน ควำมรู้ และประสบกำรณ์ใหม่ท่ีสนองตอบควำมต้องกำรสว่ นบุคคลทม่ี ีอยู่ จะพบว่ำกำรท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับกำรเดินทำง แต่ปัญหำอยู่ที่ว่ำ กำรเดินทำงไม่ใช่ กำรท่องเที่ยวเสมอไป ดังนั้นจึงเป็นส่ิงสำคัญอย่ำงยิ่งที่ควรจะรู้ควำมหมำยของกำรท่องเท่ียว ซ่ึงเป็น อตุ สำหกรรมทส่ี ร้ำงรำยไดอ้ ยำ่ งมหำศำลใหแ้ ก่ประเทศ และถอื เปน็ อุตสำหกรรมท่มี ีขนำดใหญ่ทีส่ ุดในโลก ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบคร่ำว ๆ ตอบ กำรทอ่ งเทยี่ วคือกิจกรรมที่เก่ียวข้องกบั กำรเดินทำง ๒. Question (Q) อ่ำนบทควำมและตั้งคำถำม ตอบ กำรเดนิ ทำงเปน็ กำรท่องเทย่ี วหรอื ไม่ ๓. Read (R) อ่ำนซำ้ และหำคำตอบจำกขอ้ ท่ี ๒ ตอบ กำรเดนิ ทำงไม่ใชก่ ำรท่องเทีย่ วเสมอไป ผูเ้ ดินทำงท่องเที่ยวมกั จะมีจุดม่งุ หมำยในกำรเดินทำง ท่แี ตกตำ่ งกันออกไป โดยมปี จั จัยประกอบทีเ่ ปน็ ตวั สนับสนุนหรอื แรงผลักทเ่ี ปน็ สว่ นบคุ คลซึ่งไม่เท่ำกัน ๔. Record (R) จดบนั ทกึ ข้อมลู ที่สำคญั ตอบ นักท่องเที่ยวมักจะมจี ุดมงุ่ หมำยในกำรเดินทำงทแี่ ตกต่ำงกันออกไป โดยมปี ัจจัยประกอบท่ี เปน็ ตวั สนบั สนนุ หรอื แรงผลักทเ่ี ป็นส่วนบุคคลซง่ึ ไม่เทำ่ กัน ๕. Recite (R) สรปุ ใจควำมสำคญั ของเรื่อง ตอบ กำรเดินทำงไม่ใช่กำรท่องเที่ยวเสมอไป จุดมุ่งหมำยในกำรเดินทำงท่ีแตกต่ำงกันมีปัจจัย ประกอบทเี่ ป็นตัวสนับสนนุ หรอื แรงผลกั ทเ่ี ปน็ สว่ นบุคคลที่ไม่เท่ำกัน ซึ่งไม่ว่ำจะเดินทำงด้วยเหตุผลใด ก็ตำม ส่ิงท่ีนักท่องเที่ยวต่ำงก็คำดหวังท่ีจะได้รับ คือ ควำมสุข ควำมสนุกสนำน ควำมเพลิดเพลิน ควำมรู้ และประสบกำรณใ์ หม่ท่สี นองตอบควำมต้องกำรส่วนบุคคลท่ีมีอยู่
๓๒ แบบประเมินกำรรว่ มกจิ กรรมท่ี ๑.๖ ชื่อ........................................................…นำมสกลุ .............................................เลขที่........................ ผปู้ ระเมิน นกั เรียน เพอื่ น ครู คำช้ีแจง ใหท้ ำเคร่ืองหมำยถูกต้อง ลงในช่องว่ำงระดับคะแนนท่ีตรงกบั ควำมเปน็ จริงมำกท่ีสุด โดยจัดระดบั คุณภำพเปน็ ๓ ระดบั ตำมเกณฑ์ต่อไปนี้ ๓ หมำยถึง สำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมไดถ้ กู ต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น ๒ หมำยถึง สำมำรถอธบิ ำย ตอบคำถำมไม่คอ่ ยถูกตอ้ ง และไม่ค่อยตรงประเด็น ๑ หมำยถงึ ไมส่ ำมำรถอธิบำย ตอบคำถำมได้ถูกต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน ๓๒๑ ๑. Survey (S) สำรวจและอ่ำนแบบคร่ำว ๆ ๒. Question (Q) อำ่ นบทควำมและต้งั คำถำม ผลกำรประเมนิ ๓. Read (R) อำ่ นซ้ำและหำคำตอบจำกขอ้ ที่ ๒ ผ่ำน ๔. Record (R) จดบนั ทึกข้อมลู ทส่ี ำคัญ ไม่ผำ่ น ๕. Recite (R) สรปุ ใจควำมสำคัญของเร่ือง คะแนนรวมแต่ละช่อง สรปุ คะแนนที่ได้ (หำรดว้ ยสอง) เกณฑ์กำรประเมิน ผำ่ นเกณฑร์ อ้ ยละ ๘๐ นกั เรยี นได้คะแนน ๑๒ คะแนนข้นึ ไป จงึ ถือวำ่ ผ่ำน ลงช่อื ..................................................ผูป้ ระเมนิ (.................................................)
๓๓ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี น หนังสือส่งเสริมกำรอำ่ นจับใจควำมแบบ E-Book ชดุ ภมู ิปัญญำทอ้ งถน่ิ กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย สำหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษำปที ่ี ๓ เล่มที่ ๔ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ก่อนเรียน หลงั เรยี น ขอ้ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง ๑. ๑. ๒. ๒. ๓. ๓. ๔. ๔. ๕. ๕. ๖. ๖. ๗. ๗. ๘. ๘. ๙. ๙. ๑๐. ๑๐. ตอบถูกก่ีขอ้ คะนักเรียน
๓๔ แบบบนั ทกึ คะแนนกิจกรรมระหวำ่ งเรยี น หนังสอื ส่งเสริมกำรอ่ำนจบั ใจควำมแบบ E-Book ชุด ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถ่นิ กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย สำหรับนกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษำปที ่ี ๓ เล่มท่ี ๔ แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กำรประเมนิ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ ควำมก้ำวหนำ้ แบบทดสอบกอ่ นเรียน ๑๐ แบบทดสอบหลังเรยี น ๑๐ เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป หรอื ๘ คะแนนข้ึนไป ผำ่ น ไมผ่ ่ำน กำรประเมิน คะแนนเตม็ คะแนนท่ไี ด้ กิจกรรมท่ี ๑.๑ ๑๐ กจิ กรรมที่ ๑.๒ ๑๐ กิจกรรมท่ี ๑.๓ ๑๕ กิจกรรมท่ี ๑.๔ ๑๐ กจิ กรรมที่ ๑.๕ ๑๐ กิจกรรมที่ ๑.๖ ๑๕ รวม ๗๐ เกณฑ์กำรประเมินนกั เรียนตอ้ งได้คะแนน ร้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป หรือ ๕๖ คะแนนข้ึนไป ผ่ำน ไมผ่ ำ่ น
๓๕ ประวัตยิ ่อผู้จัดทำ ขอ้ มูลทั่วไป ชอ่ื -นำมสกุล นำงมนิ ตรำ งำมทรัพย์ เกดิ เมื่อวนั ที่ ๒๖ เดอื น กันยำยน พ.ศ. ๒๕๐๙ ทอี่ ยปู่ จั จุบนั เลขท่ี ๓๕ หมู่ ๒ ตำบลบงึ แก อำเภอมหำชนะชัย จงั หวัดยโสธร ๓๕๑๓๐ เบอรต์ ิดต่อ ๐๘๕-๒๔๕๑๕๐๗ อเี มลล์ krumintra๒๐๑๘@gmail.com ด้ำนกำรศกึ ษำ พ.ศ. ๒๕๕๔ กำรศึกษำระดับปรญิ ญำโท ครุศำสตรมหำบัณฑิต ภำษำไทย มรภ. อุบลรำชธำนี พ.ศ. ๒๕๔๓ กำรศึกษำระดับปริญญำตรี ครศุ ำสตรบัณฑิต ภำษำไทย สรภ. อบุ ลรำชธำนี ด้ำนกำรปฏบิ ัติงำน ตำแหนง่ ครู วิทยฐำนะ ครูชำนำญกำรพิเศษ โรงเรยี นสมเด็จพระญำณสงั วร ในพระสงั ฆรำชูปถมั ภ์ สงั กัด สำนักงำนเขตพนื้ ที่กำรศึกษำมัธยมศกึ ษำ เขต ๒๘ ***********************************************************
๓๖
Search
Read the Text Version
- 1 - 44
Pages: