อาจารย์เสาวนั นท์ ข วั ญ แ ก้ ว นางสาวคณาพร อิ น ท ร์ เ ท พ น า ง ส า ว เ ก ศ สุ ด า ผุ ด ผ า ด น า ง ส า ว ปิ ย ะ ช า ติ ไ ส ย เ กิ ด น า ย เ กี ย ร ติ พ ง ศ์ เ ช็ก นายชวกร รั ต น มุ ณี นางสาววนิ ศรา เพชรทอง น า ง ส า ว สุ ธิ ด า สิ ทธิโอน น า ย ป ร เ ม ศ ร์ หาดทราย น า ง ส า ว ว ริ ส ร า รั ต น า น า ง ส า ว ธั ญ ลั ก ษ ณ์ ชัย ท อ ง นางสาวเบญจพร เ กิ ด เ มื อ ง เ ล็ ก นางสาวมานิ ตา ศ รี ขำ กุ ล นางสาวชนนิ กานต์ สุ ข ศ รี น า ย ช า ญ ณ ร ง ค์ นิ ลอนั นต์ น า ย ส า โ ร จ น์ รั ต น ภิ ร ม ย์ น า ง ส า ว แ ก้ ว ก า น ด า ห อ ม เ อี่ ย ม น า ง ส า ว พั ช ร ว ร ร ณ ก ล า ง ถิ่ น นางสาวณั ฐวดี จั น ท ร์ ร่ ม น า ย ธี ร ภั ท ร เ ท ศ แ ก้ ว น า ง ส า ว ว ร ร ณ วิ ษ า ไกร น า ย พ ช ร พ ง ศ์ มี เ ด ช น า ง ส า ว พั ฒ น ว ร ร ณ ท อ ง ถึ ง นางสาวณิ ชนั นท์ ช่ว ย จิ ต ร น า ย ปิ ย พ ง ษ์ ศ รี ล ะ มั ย น า ง ส า ว ก น ก ก า ญ จ น์ ปั ญ ญ า ดี น า ง ส า ว จิ ร สุ ต า เ ก ลี ย ด สู น า ย พ น า เ ว ท ย์ แ ม้ น พิ กุ ล อาจารย์ที่ปรึกษาประจำตำบลควนศรี และทีมวิศวกรสั งตำบลควนศรี
คำนำ หนั งสื อเล่มนี้ จัดทำขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อศึ กษาความรู้ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในตำบลควนศรี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งในหนั งสื อเล่มนี้ มีเนื้ อหาเกี่ยวกับข้อมูล พื้นฐานตำบล โครงสร้างของชุมชน โครงสร้างเศรษฐกิจและ อาชีพ สถานที่สำคัญในตำบล และประวัติศาสตร์ของตำบล หนั งสื อเล่มนี้ สามารถดำเนิ นประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วย ดี เนื่ องจากได้รับความอนุเคราะห์และสนั บสนุนเป็นอย่างยิ่ง จากอาจารย์ที่ปรึกษาประจำตำบลควนศรี อาจารย์เสาวนั นท์ ขวัญแก้ว ที่ได้สละเวลาอันมีค่าแก่คฯะผู้จัดทำ ให้คำปรึกษาและ แนะนำด้วยความเอาใจใส่ เป็นอย่างยิ่งจนหนั งสื อเล่มนี้ สมบูรณ์ คณะผู้จัดทำขอ กราบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ ขอขอบคุณเพื่อนร่วมงานที่ช่วยเหลือและให้กำลัง ใจใน การจัดทำหนั งสื อครั้งนี้ จนประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ข อ ข อ บ คุ ณ ผู้ ใ ห้ ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ ตำ บ ล ต ล อ ด จ น อำ น ว ย ค ว า ม สะดวกในการลงพื้นที่รวมทั้งประสบการณ์ ที่ได้ทำร่วมกับชุมชน สุดท้ายนี้ คณะผู้จัดทำหวังว่าหนั งสื อเล่มนี้ คงเป็น ประโยชน์ สำหรับหน่ วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจศึ กษาต่อไป คณะผู้จัดทำ
สารบัญ ขนาดที่ตั้ง 1 ลักษณะภูมิประเทศ 3 การคมนาคม 7 ประวัติความเป็นมา 8 ด้านการปกครอง 10 ด้านประชากร 11 ด้านการศึ กษา 12 ศาสนา 13 ความเชื่อประเพณี พิธีกรรม 14 สถานที่สำคัญ 16 การเปลี่ยนแปลงทางสั งคม วัฒนธรรม 17 การดำเนิ นงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจ 18 และสั งคมรายตำบลแบบบูรณาการ การพัฒนาอาชีพ ผลผลิต 19 การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริหารชุมชน 20 การส่ งเสริมด้านสิ่ งแวดล้อม 21 22
1 ตั้งอยู่ หมู่ที่ 2 ตำบลควนศรี อำเภอ บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี อยู่ห่างจากอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี 55 กิโลเมตร มีเนื้ อที่ประมาณ 39 ตาราง กิโลเมตร หรือประมาณ 24375 ไร่ มีหมู่บ้าน 8 หมู่บ้าน
8 หมู่บ้านใน 2 ตำบลควนศรี หมู่ที่ 1 บ้านควนมหาชัย หมู่ที่ 5 บ้านมอเก็ต หมู่ที่ 2 บ้านควนศรี หมู่ที่ 6 บ้านควนเนี ยง หมู่ที่ 3 บ้านโคกเหรียง หมู่ที่ 7 บ้านควนพรุพี หมู่ที่ 4 บ้านวังใหญ่ หมู่ที่ 8 บ้านควนวัด
ลักษณะ 3 ภูมิประเทศ สภาพพื้นที่โดยทั่วไปของตำบลควนศรี เป็นที่ราบ 1 ใน 2 ของพื้นที่ทั้งหมด ลักษณะอากาศเป็นแบบร้อน ชื้น มี 2 ฤดู คือ ฤดูฝน จะมีฝนตกชุกปริมาณมาก และ ฤดูแล้งอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้บางพื้นที่ขาดแคลน น้ำดื่มใช้ในฤดูแล้ง ตำบลท่าชี ตำบลน้ำพุ ตำบล ตำบลพรุ พี พ่วงพรมคร อำเภอ เวียงสระ
4 แม่น้ำสำคัญ แม่น้ำสำคัญของตำบลควนศรี คือ แม่น้ำตาปี ซึ่ง เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วย ปลาน้ำจืด เป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในภาคใต้แม่น้ำสายนี้ เป็นเส้ นที่สำคัญในการคมนาคมมาเป็นเวลาช้านาน แต่ต่อมามีความเจริญมากขึ้น มีถนนหลายสาย แม่น้ำนี้ จึงกลายเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับการเพาะปลูก และ การประมงเป็นส่ วนใหญ่
ลักษณะภูมิอากาศ 5 ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ถึงกลางเดือน พฤษภาคม ระยะนี้ เป็นช่วงว่างของฤดูมรสุม หลัง จากสิ้ นสุดฤดูมรสุมตะวันออกเฉี ยงเหนื อแล้ว อากาศจะเริ่มร้อนและจะมีอากาศร้อนจัดไปที่สุดใน เดือนเมษายน แต่ไม่ร้อนมากนั กเนื่ องจาก ภูมิประเทศเป็นคาบสมุทรอยู่ใกล้ทะเล กระแสลม และไอน้ำจากทะเลทำให้อากาศคลายร้อนลงไปมาก ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือน ตุลาคม เป็นช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉี ยงใต้ พัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนตกทั่วไป และในช่วงฤดูฝนยังมีร่องความกดอากาศต่ำ ปกคลุมภาคใต้เป็นระยะ ๆ อีกด้วย จึงทำให้มี ฝนตกมากและเนื่ องจากเป็นจังหวัดที่อยู่ด้าน ตะวันออกของภาคใต้จึงได้รับอิทธิพลจากลม มรสุมตะวันออกเฉี ยงเหนื อที่พัดผ่านอ่าวไทย อย่างเต็มที่ ทำให้มีฝนตกมากในช่วงฤดูหนาว คือระหว่างเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมอีก ช่วงหนึ่ งจึงนั บว่าจังหวัดนี้ มีฤดูฝนที่ยาวนาน
6 ทรัพยากรธรรมชาติ เนื่ องจากตำบลควนศรีมีแม่น้ำตาปีตัดผ่าน จึงทำให้อุดมสมบูรณ์ ไป ด้วย ทรัพยากรประมง ทรัพยากรทางน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ นอกจากนั้ น แล้วพื้นที่ของตำบลควนศรี มีดินที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การทำ เกษตร กรีดยาง สวนผลไม้ เช่น เงาะนาสาร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ ของ อำเภอบ้านนาสารที่ใครได้มาจำเป็นต้องแวะซื้อกลับบ้านหรือเป็นของ ฝากจากสุราษฎร์ธานี และอื่นๆ ลักษณะของดิน ลักษณะของดินเป็นดินร่วนปนทราย 75% ดินเหนี ยวปนทราย 25% ลักษณะของไม้และป่าไม้ ในเทศบาลตำบลควนศรีไม่มีป่าไม้ตาม ธรรมชาติแต่มีต้นไม้ยืนต้นที่ชาวบ้านปลูกไว้ เป็นพืชทางการเกษตร เช่น ยางพารา ต้นสน ลักษณะแหล่งน้ำ มีแหล่งน้ำ อุปโภค-บริโภค ซุ่งมีแหล่งน้ำธรรมชาติ และแหล่งน้ำที่ สร้างขึ้น เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในตำบล
7 การคมนาคม ตำบลควนศรีตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของอำเภอบ้านนาสาร ห่างจากที่ว่าการอำเภอบ้านนาสารประมาณ 19 กิโลเมตร ห่างจากตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ 61 กิโลเมตร เส้ นทางการคมนาคมในพื้นที่ ทางหลวงแผ่นดิน จำนวน 1 สาย ทางหลวงจังหวัด จำนวน 1 สาย ถนนหมู่บ้าน จำนวน 37 สาย ถนนลาดยาง จำนวน 9 สาย ถนนคอนกรีต จำนวน 25 สาย ถนนลูกรัง จำนวน 9 สาย ทางหลวงชนบท จำนวน 2 สาย
8 ประวัติความเป็นมาของชุมชน ชื่อควนศรีซึ่งเป็นชื่อของวัด ที่มีหลวงพ่อคงแก้วที่ศั กดิ์ สิ ทธ์เป็นที่เคารพบูชาเป็นศูนย์รวมน้ำใจของชาวตำบลควนศรี เป็นตำบลหนึ่ งของอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เดิมอยู่ในเขตการปกครองของตำบลพรุ พี อำเภอบ้านนาสาร กระทวงมหาดไทยได้ประกาศแบ่งแยกเขตการปกครองใหม่ เมื่อปี 2529 ตั้งแต่ครั้งบรรพชน โดยมีประวัติเล่าต่อมายาวนา นครั้งศึ กเก้าทัพ พม่ายกทัพขึ้นมาจากระนอง และหัวเมือง รายทางมาทางใต้และผู้นำชุมชนต่างๆ พาชาวบ้านหลบหนี ไป ซ่อนตัวในชุมชนอื่นๆ จนไปพ่ายแพ้แก่ทัพคุณหญิงมุข คุณหญิงจัน ขณะนั้ น พ่อท่านคงแก้ว เป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดชื่อ วัดวนศรี ได้มีนาย ทหาร หลายคน เช่น ขนวัง นายสุด นายคงเข้ามาใช้บริเวณ วัดควนศรีเป็นที่มั่น เมื่อแพ้สงคราม พวกทหารซึ่งเป็นผู้นำ ได้ฆ่าตัวตาย วัดควนศรีกลายเป็นวัดร้าง ปกคลุมไปด้วย ต้นไม้ขนาดใหญ่กลายเป็นป่า มองไม่เห็นวัด
9 ประวัติความเป็นมาของชุมชน (ต่อ) สมัยต่อมาซนรุ่นหลังอพยพ เข้ามาก่อตั้งถิ่นฐานใหม่ไป พบร่องรอยวัดเก่าจึงได้บูรณาการณ์ ขึ้นมาใหม่ มีเหตุการณ์ ประหลาดเกิดขึ้นในวันหนึ่ งขณะที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันถาง หญ้า มีช้างตกมันเชือกหนึ่ งไม่ทราบว่ามาจากไหนใช้งาแทง บริเวณต้นไทรจนเอน ทำให้มองเห็นพระพุทธรู ป ที่มีรากไทร ทั้งต้นไทรงอกโอบปิดเอาไว้ และทำให้เศี ยรและแขนพระพุทธ รู ปหัก จนกลายเป็นสั ญลักษณ์ หลวงพ่อคงแก้ว แห่งวัดควนศรี จนทุกวันนี้ และเป็นที่เลื่องลือถึงความศั กดิ์สิ ทธิ์อีกมากมาย ปัจจุบันจะมีงานประเพณี บวงสรวงหลวงพ่อคงแก้ว ในทุกปี ต้องมีมโนราห์มารำแก้บนในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 และขึ้น1 ค่ำเดือน5 เรียกว่า \"โนราห์\" พ่อท่าน โดยต้องมีมโนราห์ 2 โรง รำแข่งกัน เทศบาลตำบลควนศรี เป็นหน่ วยงานราชการบริหาร ส่ วนท้องถิ่นโดยได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็นองค์การ บริหารส่ วน ตำบล ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2540 ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการ จังหวัดและกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายกองค์การบริหาร ส่ วนตำบลเป็นผู้บริหารสูงสุด มีภารกิจอำนาจหน้ าที่ภายใต้ ระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับ และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้อง ต่อมาได้ยกฐานะเป็น เทศบาลตำบลควนศรี ตาม ประกาศกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 โดย ปัจจุบันมีนายกธีระ โพธิ์เพชร ดำรงตำแหน่ งนายกเทศมนตรี
ด้านการ 10 ปกครอง ด้านการปกครอง เป็นการบริหารราชการส่ วนท้องถิ่น (รู ปแบบทั่วไป) มีเทศบาล 1 แห่ง ประกอบด้วย 8 หมู่บ้าน โดยได้รับการจัดตั้งขึ้นเป็น \"องค์การ บริหารส่ วนตำบล\" ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ซึ่งอยู่ในการกำกับดูแลของ นายอำเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงมหาดไทย โดยมีนายกองค์การ บริหารส่ วนตำบลเป็นผู้บริหารสูงสุด มีภารกิจอำนาจหน้ าที่ภายใต้ระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับ และมติ ครม. ที่เกี่ยวข้องต่อมาได้ยกฐานะเป็น \"เทศบาล ตำบลควนศรี\" ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2556 โดยปัจจุบันมี นายกธีระ โพธิ์เพชร ดำรงตำแหน่ งนายกเทศมนตรี เขตการปกครอง เทศบาลตำบลควนศรี ประกอบไปด้วย 8 หมู่บ้าน ดังนี้ หมู่ที่ 1 บ้านควนมหาชัย นายสมพงษ์ แทนกุล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 บ้านควนศรี นายศรายุทธิ์ ขุนพัฒนากุล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 บ้านโคกเหรียง นายสุนทร ไกรสิ ทธิ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 บ้านวังใหญ่ นางสาวอมรมาศ จันทบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 5 บ้านมอเก็ต นางสาววิลาวรรณ จันทบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 6 บ้านควนเนี ยง นายผจญภัย บุญปาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 7 บ้านควนพรุ พี นายยุทธฉั ตร ศฤงคาร กำนั นตำบลควนศรี หมู่ที่ 8 บ้านควนวัด นายดุสิ ทธิ์ ช่วยเพ็ญ ผู้ใหญ่บ้าน
ด้านประชากร 11 จำนวนประชากรทั้งหมด 4,772 คน ตำบลควนศรีมีครัวเรือน ชาย 2,317 จำนวน 1,636 ครัวเรือน หญิง 2,455 มีความหนาแน่ นเฉลี่ย 122.36 คน/ตารางกิโลเมตร โดยจำแนกจำนวนประชากรได้ ดังนี้ ชื่อหมู่บ้าน ชาย ห ญิ ง รวม ครัวเรือน หมู่ที่ 1 บ้านควนมหาชัย 330 353 683 237 หมู่ที่ 2 บ้านควนศรี 331 294 605 240 หมู่ที่ 3 บ้านโคกเหรียง 257 253 510 196 หมู่ที่ 4 บ้านวังใหญ่ 300 340 640 216 หมู่ที่ 5 บ้านมอเก็ต 330 353 683 237 หมู่ที่ 6 ควนเนี ยง 330 353 683 237 หมู่ที่ 7 บ้านควนพรุพี 330 353 683 237 หมู่ที่ 8 บ้านควนวัด 330 353 683 237
12 ด้านการศึ กษา ประชากรของตำบลควนศรี ประชากรอายุ 15-60 ปี ร้อยละ 99 สามารถอ่านออกเขียนได้และคิดเลขอย่างง่ายได้ เด็กอายุ 6-14 ปี ร้อยละ 100 ได้รับการศึ กษาภาคบังคับ 9 ปี ได้ศึ กษาต่อชั้น มัธยมศึ กษาปีที่ 4 หรือเทียบเท่าเกิน 50% โรงเรียนประถมศึ กษา จำนวน 3 แห่ง ประกอบไปด้วย 1. โรงเรียนบ้านควนมหาชัย 2. โรงเรียนวัดควนศรี 3. โรงเรียนบ้านควนพรุ พี ที่อ่านหนั งสื อพิมพ์ประจำหมู่บ้าน ห้องสมุดประชาชน จำนวน 3 แห่ง ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประจำตำบล จำนวน 1 แห่ง
13 ด้านศาสนา การนั บถือศาสนา ประชาชนตำบลควนศรีส่ วนใหญ่นั บถือศาสนาพุทธ มีเพียงบางส่ วนที่ นั บถืออิสลาม และศาสนาคริสต์ มีวัดจำนวน 1 แห่ง คือวัดควนศรี เป็นสถาน ที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวตำบลควนศรีและพื้นที่ใกล้เคียง ประเพณี และงานประจำปี ประเพณี และงานประจำปี เดือนมกราคม เดือนเมษายน - ประเพณีขึ้นปีใหม่ เดือนเมษายน - ประเพณีสงกรานต์และสงฆ์น้ำพ่อท่านคงแก้ว เดือนตุลาคม - ประเพณีบวงสรวงศาลตาขุนชิด เดือนตุลาคม - ประเพณีสารทเดือนสิบ เดือนพฤศจิกายน - ประเพณีชักพระ เดือนกรกฏาคม-สิงหาคม - ประเพณีลอยกระทง - ประเพณีทำบุญวันเข้าพรรษา-ออกพรรษา สิ นค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก สิ นค้าพื้นเมือง คือ ปลาส้ ม ของที่ระลึก คือ เหรียญพ่อท่านคงแก้ววัดควนศรี
14 ความเชื่อ ประเพณีและพิธีกรรม พ่อท่านคงแก้ว ท่านเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ ไม่ทราบข้อมูลที่แน่ ชัดในด้านครอบครัวหรือเครือญาติ รู้เฉพาะท่านมี นามว่า คงแก้ว เป็นภิกษุ ในฐานะสมภารวัดควนศรีในอดีตซึ่งวัดควนศรี เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศรีวิชัยแต่ไม่ทราบนามเดิมของวัด ท่านเป็นผู้สร้าง วัดพร้อมกับตาปะขาว สหายผู้ร่วมสร้างวัด ปัจจุบันวัดควนศรีตั้งอยู่ที่ หมู่8 ต.ควนศรี อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี พ่อท่านคงแก้วมีศิ ษย์เอก ที่เป็นฆาราวาสขมังเวทย์อยู่สองคน คือ ตาสุด ศิ ษย์ผู้เป็นเลิศทางปัญญา มักนุ่ งขาวห่มขาว ตาคง ศิ ษย์ผู้เป็นเลิศทางอิทธิฤทธิ์ปาฎิหาริย์มักใช้ผ้า ขาวม้าพันคอ ท่านทั้งสองมักแสดงอภินิ หารให้ประจักษ์แก่สายตาผู้คน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจุบัน แสดงให้เห็นว่า พ่อท่านคงแก้วครั้งยังดำรงกาย สั งขารอยู่ คงเปี่ ยมด้วยบุญฤทธ์สูงส่ ง อันเป็นอาจารย์ของศิ ษย์เอกทั้ง สอง ท่านอยู่ในยุคที่มีสงครามพม่าและมรณภาพลงในช่วงนั้ นซึ่งมิอาจจะ ทราบข้อมูลที่ชัดเจนได้มากนั ก 100 ปีเศษมาแล้ว ชาวบ้านควนศรีหนี โรค ฝีดาษ ณ ใต้ต้นไทร ชาวบ้านแตกตื่นวิ่งตามไป ชายชราในอาการประทับ ทรงจึงพูดขึ้นว่า พ่อชื่อคงแก้ว เป็นอดีตสมภารวัดนี้ ในอดีต ไม่ต้องหนี ไป ไหน ให้สร้างวัดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ พ่อจะช่วยรักษาโรคเอง หลังจากเกิด เหตุการณ์ นั้ นชาวบ้านจึงถากถาง ณ โคนไทรมีพระพุทธรู ปหินศิ ลาแลง ลักษณะพระกรหักสองข้าง และพระศอ เอว หักไป มีรากไทรโอบอยู่หน่ า แน่ น และทราบว่านั้ นคือพระพุทธรู ปตัวแทนแห่งพ่อท่านคงแก้วนอกจาก นี้ ยังพบพระพุทธรู ปอีกมากมาย และแบบแตกหักก็มีอยู่มาก พบร่องรอย ซากเก่าของวัด ชาวบ้านจึงถมซากเก่า สร้างวัดขึ้น ณ บนซากเก่า หลัง จากนั้ นโรคฝีดาษก็หายขาดไปจากหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านไม่ต้องอพยพไป ไหนอีก พระพุทธรู ปนี้ ชาวบ้านได้รวบรวมไว้ในศาลาอดีตตั้งอยู่ภายใน สวยยางพาราของวัด ภายหลังมีการปลูกมณฑปขึ้นจึงเคลื่อนย้ายมาไว้ใน บริเวณวัด
ความเชื่อ ประเพณี และพิธีกรรม 15 ประเพณี งานเดือน 4 เป็นประเพณี ประจำปีโดยชาวตำบลควนศรี ให้ความสำคัญในการจัดงานวัดเป็นประจำทุกปีเพื่อเป็นการบวงสรวง พ่อท่านคงแก้ว ในทุกปี โดยต้องมีมโนราห์มารำแก้บนในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 4 และ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 เรียกว่า โนราห์พ่อท่าน โดยต้องมี มโนราห์ 2 โรงรำแข่งกันประชาชนชมโรงไหนมากให้ถือว่าโรงนั้ นชนะ และรำเงินรางวัลไปพิเศษนอกเหนื อจากค้าจ้าง ในช่วงเวลากลางคืนจะ มีการแสดงหนั งตะลุง เพื่อถวายพ่อท่านคงแก้วและเป็นการแสดงเพื่อ ความบันเทิงให้กับชาวตำบลควนศรี ประเพณี สารทเดือนสิ บ วันสารทเดือนสิ บ หรือภาษาท้องถิ่น เรียกว่า “วันชิงเปรต” นั้ น ในเดือนสิ บ (กันยายน) คือ การทำบุญกลาง เดือนสิ บ เพื่อนำเครื่องอุปโภคและเครื่องบริโภคไปถวายพระ อุทิศส่ วน กุศลแก่บรรพบุรุ ษของตน ประเพณี นี้ เป็นความเชื่อของพุทธศาสนิ กชน ที่เชื่อว่าบรรพบุรุ ษอันได้แก่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้ องที่ล่วงลับไป แล้ว หากทำความชั่วจะตกนรกกลายเป็นเปรต ต้องทนทุกข์ทรมานใน อเวจี และจะต้องอาศั ยผลบุญที่ลูกหลานอุทิศส่ วนกุศลให้แต่ละปีมายัง ชีพ ดังนั้ นในวันแรม 1 ค่ำ เดือนสิ บ เปรตจึงถูกปล่อยตัวกลับมายังโลก มนุษย์ เพื่อมาขอส่ วนบุญจากลูกหลานญาติพี่น้ อง และจะกลับไปนรกใน วันแรม 15 ค่ำ เดือนสิ บ ในโอกาสนี้ เองลูกหลานและผู้ยังมีชีวิตอยู่จึงนำ อาหารไปทำบุญที่วัด เพื่ออุทิศส่ วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เป็นการ แสดงความกตัญญูกตเวทีในงานบุญสารทเดือนสิ บ
16 สถานที่สำคัญ วัดควนศรี เดิมชื่อ \"วัดควนศรีแก้วประเสริฐ\" ชาวบ้านเรียก วัดควน เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศรีวิชัย วัดควนศรีเป็นวัดราษฎร์ สั งกัดคณะสงฆ์มหานิ กายตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 8 ตำบลควนศรี อำเภอ บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. 2435 รับ วิสุงคามสี มาเมื่อ 20 กันยายน พ.ศ. 2542 เดิมเป็นวัดร้างมีแค่ซาก ปรักหักพัง มีการบูรณฟื้ นฟูและขึ้นทะเบียนวัด ในปีพ.ศ. 2474 มี การฝังลูกนิ มิตครั้งแรก พ.ศ.2544 ฝังลูกนิ มิตครั้งที่ 2 ซึ่งวัดควน เป็นสถานที่ยึดเหนี่ ยวจิตใจของชาวตำบลควนศรี
17 การเปลี่ยนแปลงทางสั งคมและ วัฒนธรรม สั งคมไทยก็เหมือนกับสั งคมมนุษย์ทั้งหลายในโลกที่ไม่ หยุดอยู่นิ่ งๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อเปรียบ เทียบกับสั งคมอื่นๆ ในระดับเดียวกันแล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่า มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนคนส่ วนใหญ่ ในสั งคมปรับตัวเอง ไม่ทัน จนเกิดปัญหาทาง วัฒนธรรมที่ต้องมีการแก้ไขกันตลอดมา ทั้งนี้ ก็เพราะแต่เดิม สั งคมไทยเป็นสั งคมเกษตรกรรม ประชาชน ส่ วนใหญ่อยู่ในชนบทที่มีการทำนา และการเพาะปลูกเป็นอาชีพ หลัก การผลิตแต่เดิม ก็เป็นแต่เพียงให้พอมีพอกิน ไม่ได้ผลิต อย่าง ใหญ่โตเพื่อส่ งออกไปค้าขายกับต่างประเทศ จึงไม่มีความ จำเป็นในการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีแต่อย่างใด แต่ใน ปัจจุบันสั งคมเปลี่ยนมาเป็นสั งคมอุตสาหกรรม ที่มุ่งหวังผลิตสิ่ ง ต่างๆ เพื่อส่ งออกไปขายนอกประเทศ การผลิตผลิตผลทางการ เกษตร ซึ่งแต่เดิมผลิตเพื่อเลี้ยงตัวเอง ด้วยเทคโนโลยีง่ายๆ แบบ ดั้งเดิม ดั้งเดิม ก็เปลี่ยนมาเป็นการผลิตเป็นจำนวนมากโดยอาศั ย เทคโนโลยี ที่ก้าวหน้ าทันสมัยเข้ามาช่วย มีการลงทุน และการใช้ ที่ดิน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะการใช้ที่ดินก็มีการขยายเขตการ เพาะปลูกพืชพันธุ์นานาชนิ ด ไปตามบริเวณต่างๆ โดยเฉพาะที่ ดอน และที่ตามป่าเขา ก่อให้เกิดการรุ กล้ำป่าสงวน และการ ทำลายสภาพแวดล้อมอย่างกว้างขวาง การผลิตแบบที่เป็นแบบ เกษตรอุตสาหกรรมที่ ชาวบ้านธรรมดาทั่วไปซึ่งไม่มีศั กยภาพทั้ง ใน ด้านเงินทุน กำลังคน และเทคโนโลยี จะทำได้ จึงเป็นเรื่อง ของบุคคลร่ำรวยที่เป็นนายทุน
18 การดำเนิ นงานโครงการยกระดับเศรษฐกิจ และสั งคมรายตำบลแบบบูรณาการ ชื่อโครงการ/กิจกรรมในการดำเนิ นการ (เน้ นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ การพัฒนาสั มมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ (การยกระดับสิ นค้า OTOP/อาชี พอื่นๆ) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่อง เที่ยว) การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/เทคโนโลยี ด้านต่างๆ) และการส่ งเสริมด้านสิ่ งแวดล้อม/Circular Economy (การ เพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน ให้แก่ชุมชน) โครงการ \"ส่ งเสริมเศรษฐกิจ แหล่งท่องเที่ยวและผลิตภัณฑ์ในชุมชน ตำบลควนครี อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล\" Project \"Promoting the economy, tourist attractions, and local products in the Khuan Si community at Ban Na San District, Suratthani Province, by using innovation and digital technology \" วัตถุประสงค์ของโครงการ/กิจกรรมในการดำเนิ นการ (1.) เพื่อยกระดับสิ นค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสิ นค้า OTOP ของตำบล ควนศรี (2.) เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยว และส่ งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สิ่ งแวดล้อมชุมชน โดย ชุมชน เพื่อชุมชน ตำบลควนศรี (3.) เพื่อพัฒนาสั มมาชีพใหม่ สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้แก่คนใน ชุมชน ตำบลควนศรี (4.) เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี การใช้สื่ อออนไลน์ และโซ เซียล ให้มีประสิ ทธิภาพ
19 การพัฒนาอาชีพ ประเภทกิจกรรมที่จะเข้าไปดำเนิ นการในพื้นที่ (ระบุร้อยละของกิจกรรม) (1.) การพัฒนาสั มมาชีพและสร้างอาชีพใหม่ (การยก ระดับสิ นค้า OTOP/อาชีพอื่นๆ) คิดเป็นร้อยละ 45 ของกิจกรรมทั้งหมด (2.) การสร้างและพัฒนา Creative Economy (การยกระดับการท่องเที่ยว) คิดเป็นร้อยละ 30 ของกิจกรรมทั้งหมด (3.) การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริการชุมชน (Health Care/เทคโนโลยีด้านต่างๆ) คิดเป็นร้อยละ 15 ของ กิจกรรมทั้งหมด (4.) การส่ งเสริมด้านสิ่ งแวดล้อม/Circular Economy (การเพิ่มรายได้หมุนเวียนให้แก่ชุมชน) คิดเป็นร้อยละ 10 ของกิจกรรมทั้งหมด
20 ผลผลิต ผลผลิตและผลลัพธ์ของโครงการ/ กิจกรรมในการดำเนิ นการ - ผู้รับการถ่ายทอดเพื่อยกระดับสิ นค้า ผลิตภัณฑ์ชุมชน และสิ นค้า OTOP ของตำบลควนศรี จำนวน 50 คน - พัฒนาสั มมาชีพใหม่ เพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้ แก่คนในชุมชนตำบลควนศรี จำนวน 50 คน ต่อรุ่น จัด ทั้งหมด 2 รุ่น รวมทั้งสิ้ น 100 คน - เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี จำนวน 50 คน - ผู้เข้าร่วมโครงการอยู่ในกระบวนการครบถ้วนตั้งแต่เริ่ม ต้นจนถึงสิ้ นสุดอย่างน้ อย 60-80% - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีได้ หลังการอบรม ร้อยละ 60-80 - ผู้เข้าร่วมโครงการสามารถต่อยอด และถ่ายถอดองค์ ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดให้กับบุคคลอื่นได้ - มีผลิตภัณฑ์ชุมชน มีตลาดชุมชน และมีแหล่งท่องเที่ยว เชิงอนุรักษ์สิ่ งแวดล้อมเพิ่มขึ้นในชุมชน
21 การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริหารชุมชน การทำแยมมังคุด เดิมมังคุดเป็นผลไม้ที่คนในชุมชนมักจะนำเปลือก มาทำเป็นสบู่ ส่ วนเนื้ อของมังคุดคนในชุมชนมักจะนำมารับ ประทาน ทางวิศวกรได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของมังคุด เพราะมังคุดเป็นผลไม้ที่สามารถนำมาแปรรู ปเป็นอาหารได้ หลากหลาย วิศวกรจึงเลือกในส่ วนของเนื้ อเพื่อที่จะนำเนื้ อ ของมังคุดมาทำเป็นแยมมังคุดเพื่อสร้างรายได้ให้กับคนใน ชุมชน และสร้างแพ็คแก็ทที่ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค และสารมารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนและเป็นการนำ วัตถุดิบในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ มากขึ้น
การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริหารชุมชน 22 การส่ งเสริมอาชีพการทำกัมมี่เงาะ การทำกัมมี่ถือเป็นอีกอาชีพหนึ่ งที่ชาวควนศรีเลือก เพื่อหารายได้ ในการเพิ่มรายได้จากเดิม เพราะโดยส่ วนมาก นั้ นชาวตำบลควนศรีทำอาชีพเกษตรกร ปลูกเงาะ ปลูกผลไม้ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าเดิมชาวบ้านเก็บผลเงาะสดไปขายอย่าง เดียว ทางวิศวกรสั งคม ตำบลควนศรีจึงเห็นความสำคัญมี การวางแผนจัดกิจกรรมอบรมความรู้เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับ เงาะโดยได้เชิญวิทยากรที่มีความรู้ทางด้านการแปรรู ปผลไม้ มาให้ความรู้ในการนำเงาะมาแปรรู ปเป็นกัมมี่เงาะ เพื่อเป็น อีกทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนได้ และชาวบ้านสามรถทำเป็นอาชีพเสริม เพื่อ เพิ่มรายได้เข้ามา หมุนเวียนในชุมชนเพิ่มมากขึ้น
การนำองค์ความรู้ไปช่วยบริหารชุมชน 23 การส่ งเสริมอบรมและ สาธิตปฏิบัติทำหมวก Decoupage การอบรมการทำหมวก Decoupage เป็นงานฝีมือที่ทำ แล้วสามารถสร้างรายได้เสริมและเพิ่มมูลค่าของสิ นค้าได้ ซึ่งมี ลวดลายต่างๆ มาติดกับชิ้นงานได้หลากหลายรู ปแบบ ไม่จำกัด ไอเดีย และของพวกนี้ สามารถนำมาทำเป็นงาน handmade ทาง ความคิดแต่ละชิ้นจะไม่เหมือนกัน สร้างความแตกต่างให้กับ สิ นค้า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าให้อีกไม่น้ อย
24 การส่ งเสริมด้านสิ่ งแวดล้อม 1. พัฒนาชุมชนให้มีสมรรถนะในการจัดการสูง 2. ช่วยให้เกิดการจัดการทรัพยากรอย่างเป็นระบบ 3. ช่วยในการสร้างสัมมาอาชีพในพื้นที่ 4. ส่งเสริมเกษตรพอเพียงและอาหารปลอดภัย 5. ช่วยจัดการวิสาหกิจชุมช 6. การฝึกอบรมด้านสังคมคำนวณพื้นที่ (หน่วย : ตารางเมตร) กว้าง 4 เมตร ยาว 55 เมตร คิดเป็นพื้นที่ทั้งหมด 220 ตารางเมตร
Search
Read the Text Version
- 1 - 29
Pages: