การสะทอ้ นการเรียนรู้หน่วยที่ ๒ การเรียนร้เู รอ่ื ง Mentoring ดร.วารณุ ี โพธาสินธ์ุ ครูเช่ยี วชาญ โรงเรียนสนั ป่าตองวทิ ยาคม สพม. เขต ๓๔ สาระความรู้ทไ่ี ดร้ บั สาระความรทู้ ไี่ ดจ้ ากการบรรยายพเิ ศษ โดย ดร.วารณุ ี โพธาสนิ ธ์ุ สรปุ ไดว้ า่ Mentoring (พเ่ี ลย้ี ง) คือ ผู้มีความสามารถให้ค�ำแนะน�ำ ช่วยเหลือ จะเรียกผู้ให้ค�ำแนะน�ำว่า Mentor และผู้รับค�ำแนะน�ำ ว่า Mentee ซ่ึงบทบาทของพ่ีเล้ียง (Mentoring) ประกอบด้วย ๑) น�ำทาง (Guide) ๒) ผู้ส่องทาง (Catalyst) ๓) ผใู้ หท้ าง (Advocate) ๔) ผ้รู ่วมทาง (Ally Buddy) และ ๕) ผแู้ พ้วทาง (Savvy) ในการจัดระบบพเ่ี ล้ียง ประกอบด้วย ๑) การคัดเลอื กพ่เี ล้ยี ง ๒) ขอบเขตความรับผิดชอบ ๓) บทบาท หน้าที่ ๔) ขอ้ พึงปฏบิ ัติของพ่เี ล้ียง (นำ้� ใจ แบบอยา่ ง ความรบั ผดิ ชอบ มงุ่ ประโยชนส์ ว่ นรวม ไมเ่ ปดิ เผยขอ้ มลู ) ๕) บทบาทพีเ่ ลีย้ ง (Mentor) (พ่ีสอนน้อง ผู้ให้ความรู้ นำ� ทาง คงเสน้ คงวา ใหเ้ หตผุ ล/อธิบาย ส่องทาง/ใหแ้ สงสวา่ ง ผู้กำ� กบั สอน/แนะน�ำ) Mentor ไมใ่ ชเ่ พียงแคส่ อนงานแต่จะเป็นลักษณะของการถา่ ยทอด สนับสนุน เพ่ือใหเ้ กิดความรู้ และประสบการณใ์ นการทำ� งานทดี่ ขี น้ึ นอกจากนน้ั พเี่ ลย้ี งยงั เปน็ ทป่ี รกึ ษาใหแ้ กค่ รู ในกรณที เ่ี กดิ ความสบั สน พร้อมท้ังยังจะต้องเป็นตัวอย่างท่ีดีในการปฏิบัติตนอีกด้วยและหาก Coach+Mentor ก็จะท�ำให้ครูได้ทั้ง ความรู้ ประสบการณ์ ทป่ี รกึ ษาไดพ้ ฒั นาตนเอง รวมท้ังมีทักษะการทำ� งานทดี่ ขี ้นึ และผลสดุ ทา้ ยกจ็ ะท�ำให้ ครูเกดิ ความรักองค์กร ทงั้ น้ี Mentor ตอ้ งมลี กั ษณะดังน้ี ๑) มีประสบการณ์ ๒) สามารถเปน็ แบบอย่าง ทดี่ ไี ด้ ๓) คอยใหก้ ารช่วยเหลือ สนบั สนนุ ๔) ทุกอยา่ งที่ Coach ตอ้ งบอกเหตุผลประกอบได้ การสะท้อนความรสู้ ึกของผู้เข้ารับการพัฒนา คนที่ ๑ ไดเ้ รียนรเู้ กย่ี วกบั การเป็นพีเ่ ลย้ี ง กระบวนการทจี่ ะเปน็ mentor ทด่ี ใี หก้ ับครู คนท่ี ๒ ได้รับความรู้เรื่อง Mentoring การเป็นพี่เลี้ยง โดยให้ความรู้เกี่ยวกับความหมายของ พเี่ ลี้ยงบทบาทของพ่เี ลีย้ ง (ผนู้ ำ� ทาง/ผรู้ ่วมทาง/ผู้ส่องทาง/ผ้แู ผ้วทาง/ผใู้ ห้ทาง) คนท่ี ๓ ไดเ้ รยี นรปู้ ระสบการณจ์ ากการถอดประสบการณจ์ ากโรงเรยี นตน้ แบบ PLC (Professional Learning Community) การสร้างชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวิชาชีพครู_Final.indd 51 โครงการศึกษานิเทศก์ร่นุ ใหมเ่ พอ่ื ขับเคลอื่ นการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 51 5/17/2017 8:42:38 PM
การสะท้อนการเรียนรู้หนว่ ยท่ี ๓ การเรยี นร้เู รอื่ ง ชมุ ชนการเรียนร้ทู างวิชาชพี (PLC) ดร.ดารณยี ์ พยัคฆ์กลุ ศึกษานเิ ทศก์ สพป.เชียงใหม่ เขต ๔ สาระความรู้ทีไ่ ดร้ บั สาระความรทู้ ไ่ี ด้จากการบรรยายพิเศษ โดย ดร.ดารณยี ์ พยคั ฆ์กลุ คอื ชุมชนแห่งการเรยี นรู้ ทางวิชาชีพ (PLC) หมายถึง การรวมตวั ร่วมใจร่วมพลัง รว่ มทำ� และรว่ มเรยี นรู้รว่ มกนั ของครู ผบู้ รหิ าร และนักการศกึ ษา บนพ้นื ฐานวัฒนธรรมความสัมพันธแ์ บบกัลยาณมิตร มีวิสัยทัศน์ คุณค่า เป้าหมาย และ ภารกิจรว่ มกัน โดยท�ำงานรว่ มกันแบบทีม เปน็ การเรียนรทู้ ศี่ กึ ษานเิ ทศก์ ผบู้ รหิ าร หรอื ครูเป็นผูน้ ำ� รว่ มกัน ดูแลสนับสนุน สู่การเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพเปล่ียนแปลงคุณภาพตนเอง สู่คุณภาพการจัดการเรียนรู้ ท่ีเน้นความส�ำเร็จหรือประสิทธิผลของผู้เรียนเป็นส�ำคัญและความสุขของการท�ำงานร่วมกันของสมาชิก ในชมุ ชนการเรยี นรู้ สาระความรู้ด้าน Professional Learning Community (PLC) ส�ำหรับการปฏิรูปการศึกษา ผู้เรยี นต้องมี 3R 7C 2L ประกอบดว้ ย 3R - Reading (การอา่ น) - Writing (การเขียน) - Arithmetic (คดิ เลขเปน็ ) 7C - Critical thinking a problem solving (การคิดทักษะการแกป้ ัญหา) - Creativity & Innovation (มคี วามคดิ สร้างสรรค์และมีนวัตกรรม) - Cross-cultural Understanding (เข้าใจต่างวฒั นธรรม กระบวนทศั น์) - Collaboration Teamwork & Leadership (ใชค้ วามรว่ มมือ ท�ำงานเปน็ ทมี และมีภาวะผ้นู �ำ) - Communications Information & Media literacy (สอ่ื สาร สารสนเทศและเท่าทนั สื่อ) - Computing & ICT literacy (ทกั ษะคอมพิวเตอรแ์ ละเทคโนโลยี) - Career & Learning Skills (มอี าชพี และมที ักษะการเรยี นร)ู้ 2L - Learning (เรียนร)ู้ - Leadership (ภาวะผนู้ �ำ) หลักการท่ีสำ� คญั ของ PLC คือ การวิพากษแ์ ละการสะทอ้ นผล การจดั การและใชช้ ุมชนแห่งการเรยี นทางรูว้ ชิ าชพี (PLC) ๑) เรมิ่ ตน้ ดว้ ยขนั้ ตอนงา่ ยๆ (Take a baby steps) โดยเรม่ิ ตน้ จากการกำ� หนดเปา้ หมาย อภปิ ราย สะท้อนผล แลกเปล่ียนกับคนอื่นๆ เพื่อก�ำหนดว่า จะด�ำเนินการอย่างไร โดยพิจารณาและสะท้อนผลใน ประเด็นต่อไปน้ี ผลดิ อก : รายงานการพฒั นาศึกษานิเทศก์ร่นุ ใหม่เพ่ือการขบั เคล่ือนการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 52_Final.indd 52 5/17/2017 8:42:38 PM
๑.๑ หลกั การอะไรท่จี ะสร้างแรงจงู ใจในการปฏบิ ัติ ๑.๒ เราจะเรม่ิ ตน้ ความรู้ใหมอ่ ย่างไร ๑.๓ การออกแบบสื่อท่ีควรใช้ในการตรวจสอบหลกั ฐานของการเรยี นรทู้ ่สี ำ� คญั ๒) การวางแผนดว้ ยความรว่ มมอื (Plan Cooperatively) สมาชกิ ของกลมุ่ กำ� หนดสารสนเทศ ท่ีตอ้ งใชใ้ นการด�ำเนนิ การ ๓) การกำ� หนดความคาดหวังในระดบั สงู (Set high expectations) และวเิ คราะหก์ ารสอน สบื เสาะหาวิธีการท่จี ะทำ� ใหป้ ระสบผลสำ� เร็จสงู สุด ๓.๑) ทดสอบข้อตกลงท่ีเก่ียวข้องกับการสอนหลังจากได้มีการจัดเตรียมต้นแบบท่ีเป็น การวางแผนระยะยาว (Long-term) ๓.๒) จดั ใหม้ ีชว่ งเวลาของการชแี้ นะ โดยเน้นการนำ� ไปใช้ในชน้ั เรยี น ๓.๓) ให้เวลาส�ำหรับครูท่ีมีความยุ่งยากในการสังเกตการณ์ปฏิบัติในช้ันเรียนของครู ทส่ี ร้างบรรยากาศในการเรียนรอู้ ยา่ งประสบผลสำ� เร็จ ๔) เรม่ิ จากจดุ เล็กๆ (Start small) เรม่ิ ต้นจากการใชก้ ลุ่มเล็กๆ ก่อน แลว้ คอ่ ยปรับขยาย ๕) ศึกษาและใชข้ อ้ มูล (Study and use the data) ตรวจสอบผลการนำ� ไปใชแ้ ละการสะทอ้ น ผลเพ่อื นำ� มาก�ำหนดวา่ แผนไหน ควรใช้ตอ่ ไป/แผนไหนควรปรบั ปรุงหรือยกเลิก ๖) วางแผนเพือ่ ความสำ� เร็จ (Plan for success) เรียนรจู้ ากอดตี ปรบั ปรุงหรือปฏิเสธในสง่ิ ทไี่ มส่ ำ� เร็จ และทำ� ต่อไป ความสำ� เร็จในอนาคต หรือความล้มเหลวขน้ึ อยู่กบั เจตคติและพฤตกิ รรมของครู ๗) น�ำสู่สาธารณะ (Go public) แผนไหนท่ีส�ำเร็จก็จะมีการเชิญชวนให้คนอื่นเข้ามา มีส่วนรว่ มยกยอ่ งและแลกเปลี่ยนความสำ� เรจ็ ๘) ฝึกฝนรา่ งกายและหลอ่ เลยี้ งสมอง (Exercise the body & nourish the brain) จดั กจิ กรรม ทไ่ี ดม้ กี ารเคลอ่ื นไหวและ เตรยี มครทู ท่ี ำ� งานสำ� เรจ็ ของแตล่ ะกลมุ่ โดยมกี ารจดั อาหาร เครอ่ื งดมื่ ทมี่ ปี ระโยชน์ ลำ� ดบั ตอ่ ไปจะไดก้ ลา่ วถงึ เทคนคิ ทใ่ี ชใ้ นการสรา้ งชมุ ชนแหง่ การเรยี นทางรวู้ ชิ าชพี (PLC) ทส่ี ามารถนำ� มา ใชเ้ ป็นแนวทางสำ� หรบั การสร้างการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ภายในกลุ่มผู้ที่เขา้ มามีส่วนร่วมได้ การสะทอ้ นความรู้สึกของผู้เขา้ รบั การพัฒนา คนที่ ๑ เป็นแนวทางการทำ� งานทีล่ ดความรสู้ กึ โดดเดีย่ วงานสอนของครู เพิม่ ความรสู้ กึ ผูกพัน ตอ่ พนั ธกจิ และเป้าหมายของโรงเรยี นมากขึน้ โดยเพม่ิ ความกระตือรอื ร้นท่ีจะปฏิบัตใิ ห้บรรลุพันธกจิ อย่าง แขง็ ขนั จนเกดิ ความรสู้ กึ วา่ ตอ้ งการรว่ มกนั เรยี นรแู้ ละรบั ผดิ ชอบตอ่ พฒั นาการโดยรวมของนกั เรยี นถอื เปน็ พลังการเรยี นรูซ้ งึ่ สง่ ผลให้การปฏิบตั กิ ารสอนในชั้นเรียนให้มผี ลดีย่ิงข้ึน คนที่ ๒ การรว่ มงาน Symposium PLC ทำ� ให้มีความเขา้ ใจกระบวนการเรยี นรกู้ ารสร้างชมุ ชน การเรียนรู้ทางวชิ าชีพครู จากทฤษฎีสกู่ ารปฏบิ ัติวา่ ทำ� ไดอ้ ยา่ งไร คนที่ ๓ ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากการถอดประสบการณ์จากโรงเรียนต้นแบบ PLC การสร้าง ชมุ ชนการเรียนร้ทู างวิชาชีพครู_Final.indd 53 โครงการศึกษานิเทศกร์ ุ่นใหม่เพื่อขบั เคล่ือนการปฏิรปู การเรียนรู้ : 53 5/17/2017 8:42:38 PM
การสะท้อนการเรยี นรูห้ นว่ ยท่ี ๔ การเรยี นรตู้ ามแนวทางวธิ กี ารแบบเปดิ (Open Approach) และการศกึ ษาชนั้ เรยี น (Lesson Study) ดร.วราภรณ์ อนวุ รรตั น์ ศึกษานเิ ทศก์ สพม. เขต ๓๔ สาระความรูท้ ่ไี ดร้ บั สาระความรู้ที่ได้จากการบรรยายพิเศษ โดย ดร.วราภรณ์ อนุวรรัตน์ คือ Open Approach คือการจัดการเรียนรู้ที่ครูใช้โจทย์สถานการณ์ ปัญหาปลายเปิดในการขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้ของ ผู้เรียน โดยที่ผู้เรียนแต่ละคนเป็นผู้น�ำเสนอวิธีการแก้ปัญหาของตน เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน ในช้นั เรยี น เพ่อื เรยี นรู้วิธีการคิดและวธิ กี ารทำ� ความเขา้ ใจทั้งของตนเองและของผู้อื่นรว่ มกัน กระบวนการเรียนรู้แบบ Open Approach นั้น เป็นแนวคิดใหม่ส�ำหรับประเทศไทยที่แตกต่าง จากเดมิ เพราะบทบาทของครูเปลีย่ นไปจากท่เี น้นการบรรยายเน้อื หา การท�ำแบบฝกึ หดั ให้นกั เรยี นดเู ปน็ ตวั อยา่ งและการสรปุ เนอื้ หาทเ่ี รยี นในชว่ งทา้ ยบทเรยี น ไปสกู่ ารเปดิ ชน้ั เรยี นทกี่ อ่ แรงบนั ดาลใจ การใชโ้ จทย์ สถานการณ์ปัญหา การส่งเสริมผู้เรียนให้ลองผิดลองถูกจนสามารถสร้างความรู้ข้ึนได้ด้วยตนเอง การแลกเปล่ียนเรยี นรู้ การถอด บทเรยี นทน่ี �ำไปสกู่ ารประมวล สงั เคราะห์ สรุป ความร้ใู หมร่ ว่ มกนั ข้นั ตอนของครูในการจัดกจิ กรรมในชนั้ เรียน Open Approach มีดังน้ี ๑. ขนั้ แนะน�ำ ๒. ช้ันเปดิ ประเด็นโจทย์ ๓. ขนั้ แกป้ ญั หา และ หรือสร้างสรรค์ ๔. ขนั้ น�ำเสนอความรแู้ ละแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ๕. ขนั้ สรปุ Lesson Study หมายถึง การศึกษาวิจัยบทเรียน หรือการวิจัยแผนการสอนที่จัดแก่นักเรียน เปน็ การศกึ ษาเพอ่ื หาคำ� ตอบทเ่ี ปน็ ระบบตามระเบยี บวธิ กี ารวจิ ยั เชงิ ทดลอง Lesson Study เปน็ การทำ� งาน ร่วมกนั ของกลมุ่ ครเู พอื่ มุง่ สู่เปา้ หมาย และการพฒั นาแผนการสอนที่จะต้องมีการสังเกต การวิเคราะห์ และ ทบทวนรว่ มกนั การกำ� หนดประเดน็ ของครผู า่ นกระบวนการนเี้ พอื่ ทจี่ ะปรบั ปรงุ วธิ คี ดิ ของเดก็ และการทำ� ให้ บทเรียนมีประสิทธิภาพมากขึ้น Lesson Study เปิดโอกาสให้ครูได้มองเห็นการสอนและการเรียนรู้ ในช้ันเรยี นอยา่ งเป็นรปู ธรรม ครรู ว่ มกันอภิปรายเก่ยี วกับการวางแผนการสอน การท�ำแผนการสอนไปใช้ การสังเกตการสอน และสะท้อนความคิดเก่ียวกับแนวปฏิบัติในช้ันเรียน การท่ีได้สังเกตการสอนจริง ในชั้นเรียน ท�ำให้ครูได้เข้าใจและเห็นภาพว่าการสอนท่ีดีนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนเข้าใจ ในสิ่งทตี่ นกำ� ลังเรยี นไดด้ ยี ิ่งขน้ึ ข้นั ตอนกระบวนการศกึ ษาชน้ั เรยี น (Lesson Study) และวธิ กี ารแบบเปดิ (Open Approach) มี ๓ ขน้ั ตอน คือ ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศกึ ษานเิ ทศก์รนุ่ ใหมเ่ พือ่ การขบั เคลื่อนการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 54_Final.indd 54 5/17/2017 8:42:39 PM
ข้ันตอนที่ ๑ รว่ มสรา้ งแผน การวางแผนการจดั การเรยี นรู้ ชว่ ยใหค้ รเู ขา้ ใจความตอ่ เนอื่ งสามารถเชอื่ มโยงเนอ้ื หาแตล่ ะชนั้ ทำ� ให้ การจดั กจิ กรรมไดส้ อดคลอ้ งกับคำ� ส่ัง เปา้ หมาย การเลอื กใชส้ อ่ื ใหเ้ หมาะสมกบั กิจกรรม ขั้นตอนท่ี ๒ ร่วมสงั เกตการสอน การสังเกตช้ันเรียน ครูไดเ้ ห็นทกั ษะพฒั นาการ กระบวนการคิดของนกั เรียน กระบวนการท�ำงาน กลุม่ การมปี ฏสิ มั พันธใ์ นกลุ่ม การ แลกเปลีย่ นเรียนรแู้ นวคิดซงึ่ กนั และกัน ขั้นตอนที่ ๓ รว่ มสะท้อนผล การสะทอ้ นผล เกดิ การแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ครผู สู้ อนเปดิ ใจยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ จากทมี งาน และ น�ำเอาขอ้ ดี ขอ้ บกพรอ่ งแต่ละคนไปปรับปรงุ เพื่อพฒั นาการจัดการเรียนการสอนต่อไป จุดเดน่ ของการศึกษาชั้นเรยี น (Lesson Study) และวิธีการแบบเปดิ (Open Approach) ๑. ครูได้เรียนรู้แนวคดิ ของนักเรยี นตามศักยภาพ ๒. ครูเกดิ การพัฒนาในดา้ นของทักษะ กระบวนการในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน ๓. นักเรียนมปี ระสบการณ์ / ทักษะ กระบวนการคิด การแก้ปัญหา และมีคณุ ลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ๔. เกดิ การท�ำงานกลมุ่ การท�ำงานรว่ มกันระหว่าง คร-ู ครู นักเรยี น-นักเรยี น และ ครู-นกั เรียน จุดทีค่ วรพัฒนา ในการศกึ ษาชนั้ เรยี น (Lesson Study) สำ� หรบั ดา้ นกจิ กรรมการเรยี นการสอนคอื ๑. กิจกรรมการสะท้อนผลบางครัง้ ไม่เป็นไปตามท่ีกำ� หนด ๒. ความรู้ความเขา้ ใจในความตอ่ เน่ืองของเนอื้ หาในแต่ละระดบั ช้ัน ๓. นกั เรียนทเ่ี ข้าใหม่อย่างต่อเนอ่ื ง ซงึ่ ไม่ไดผ้ า่ นการเรยี นแบบ Open Approach การสะทอ้ นความรูส้ กึ ของผู้เขา้ รับการพัฒนา ได้ทราบแนวทางในการปรับปรุงการเรียนการสอนของครู โดยใช้แก้ปัญหา โดยครูน�ำแผน การจัดการเรยี นรแู้ บบ Open Approach ไปใช้ต้องเข้ามารว่ มวางแผนการจัดการเรยี นร้รู ว่ มกัน สามารถ มาสะทอ้ นผลหลังการสอน และไมจ่ �ำกัดเวลาในการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น_Final.indd 55 โครงการศึกษานิเทศกร์ ุ่นใหมเ่ พื่อขับเคลอื่ นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 55 5/17/2017 8:42:39 PM
การสะทอ้ นการเรียนรู้หนว่ ยที่ ๕ การคดิ เชงิ ระบบ (System Thinking) รศ.ดร.เกตมุ ณี มากมี อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเชยี งใหม่สาระความรทู้ ีไ่ ด้รบั สาระความร้ทู ไี่ ด้จากการบรรยายพเิ ศษ โดย รศ.ดร.เกตุมณี มากมี ในสาระความร้ดู า้ นการคิดเชิงระบบ(System Thinking) กบั วิชาชีพศึกษานิเทศก์ สรปุ ได้วา่ ระบบ หมายถึง องคป์ ระกอบต่างๆท่มี คี วามสมั พันธก์ ัน เพื่อให้บรรลเุ ป้าหมายท่ีกำ� หนดไว้ - ระบบปดิ (Closed system) คอื ระบบท่มี คี วามสมบรู ณ์ภายในตวั เอง ไมผ่ ูกพันกับระบบอื่นใดและแยกตนเองออกจากสิง่ แวดล้อมต่างๆในสังคม - ระบบเปดิ (Open system)คือ ระบบท่ตี องอาศยั การตดิ ตอ่ สอื่ สารกบั คนอ่นื ในลักษณะเป็นการแลกเปลยี่ นผลประโยชนซ์ ึ่งกันและกนั และผลประโยชน์ทีเ่ กิดขนึ้ มีความสมบูรณ์ องคป์ ระกอบของระบบ ๑. ส่งิ ทป่ี อ้ นเข้าไป (Input) หมายถึง ปัจจยั ตา่ งๆและองค์ประกอบที่จะนำ� ไปสูก่ ารดำ� เนินงานของระบบ ๒. กระบวนการ (Process) คอื วธิ กี ารตา่ งๆทจี่ ะนำ� ไปสผู่ ลงานใหค้ ดิ บนพนื้ ฐานของความตอ้ งการของครูหรอื นกั เรยี น ๓. ผลงาน (Output) หรอื Product ความส�ำเร็จในลักษณะต่างๆ ท่ีมีประสิทธิภาพหรือประสิทธิผล ประสิทธิภาพ เป็นกระบวนการท�ำงาน ประหยัด ทันเวลาและมีคุณภาพ ส่วนประสิทธิผล เป็นผลของความส�ำเร็จของงานที่ท�ำไปตามความม่งุ หวัง การพัฒนางานศึกษานิเทศก์ ระบบการปฏิบัติงานของศึกษานิเทศก์ จะประกอบด้วย inputprocess และ output มีความสัมพันธ์และผสมผสานเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันปัจจัยที่จ�ำเป็นของวิชาชีพศกึ ษานิเทศก์ พฒั นาตน สิง่ ทศี่ กึ ษานิเทศก์ ต้องมีคอื ๑) ศกึ ษานเิ ทศกต์ ้องมกี ารคดิ เชิงระบบ (SystemThinking) ๒) มแี บบแผนความคดิ (Mental model) ๓) การสร้างพลงั แห่งตน (Personal Mastery)๔) การเรยี นร้รู ่วมกนั เปน็ ทมี (Team Learning) การคดิ เชงิ ระบบ ( Systems Thinking ) หมายถงึ การคดิ ถงึ สงิ่ ใดสง่ิ หนงึ่ ทมี่ องภาพรวมอยา่ งเปน็ ระบบ มีสว่ นประกอบยอ่ ยๆ โดยอาศัยการคิดในรปู แบบโดย ทางตรงและโดยทางอ้อม ผลิดอก : รายงานการพฒั นาศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหมเ่ พื่อการขบั เคล่ือนการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 56 5/17/2017 8:42:40 PM_Final.indd 56
๑) การคิดเชิงระบบโดยทางตรง จะมุ่งกระท�ำโดยตรง มีเป้าหมายกับส่ิงใดส่ิงหน่ึงไม่จ�ำแนก รูปแบบการคิดตามพื้นฐานของมนุษย์ แต่แยกรูปแบบการคิดโดยมุ่งท่ีเป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ โดยจ�ำแนกออกเปน็ ๓ แบบ ๑.๑ การคดิ เพ่อื รู้เข้าใจหน่วยระบบ ๑.๒ การคดิ เพ่ือวเิ คราะห์และประเมนิ หน่วยของระบบ ๑.๓ การคดิ เพอื่ ออกแบบ และก่อตั้งหน่วยระบบ ๒) การคดิ ระบบโดยทางออ้ ม คอื การคดิ เชงิ ระบบโดยอาศยั พน้ื ฐานแหง่ การคดิ เชน่ การวเิ คราะห์ การอุปมา อปุ มยั การคิดสงั เคราะห์ การคดิ สรา้ งสรรค์ การประเมินคา่ ฯลฯ การคิดเป็นพฤติกรรมทางสมองท่ีสมองกระท�ำกับวัตถุความคิด (Object of thinking) ซึ่ง เรียกว่า มโนมติ (Concept) มโนมติของคนเราอาจมีหลายมติ ซ่ึงเกิดขึ้นจากประสบการณ์ และการคิด ขึ้นเองจากโลกแหง่ ความ เป็นจริง หรือจนิ ตนาการกไ็ ด้ การคดิ เชิงระบบ จะตอ้ งมีคณุ สมบตั ิ ดังน้ี ๑) การคิดแบบมีความเป็นองค์รวม (Holistic) หรือ Wholeness เป็นการประเมิน องคป์ ระกอบของสถานการณห์ รือสภาพปญั หาของหน่วยงาน ในภาพรวมท้งั หมด ๒) การคิดเป็นเครือข่าย (Networks) เป็นการคิดเช่ือมโยงปฏิสัมพันธ์ของระบบต่างๆ ที่ ประกอบกนั ขน้ึ มา เปน็ เครือขา่ ยของระบบ ๓) คิดเป็นล�ำดับชั้น (Hierarchy) ระบบหนึ่งๆ อาจจะมาจากระบบย่อยๆ หลายระบบ ท่ีประกอบกันขนึ้ มา และในระบบยอ่ ยเองก็มีความสมั พันธ์ของส่วนต่างๆ ทเี่ ปน็ องคป์ ระกอบของระบบ ๔) คิดแบบมีปฏิสัมพันธ์ต่อกัน (Interaction) ระหว่างระบบด้วยกัน ทั้งระบบย่อยกับ ระบบยอ่ ยดว้ ยกนั ระบบใหญก่ บั สภาพแวดลอ้ ม ซง่ึ การเปลย่ี นแปลงของระบบยอ่ ยจะมผี ลตอ่ ระบบใหญด่ ว้ ย ๕) คดิ อยา่ งมขี อบเขต (Boundary) ระบบหนงึ่ ๆ มาจากระบบยอ่ ยหลายระบบ และระหวา่ ง ระบบย่อย และระบบใหญ่ต่างมีขอบเขตท่ีแสดงให้เห็นว่า ระบบน้ันๆ ครอบคลุมอะไรบ้าง และอะไรบ้าง ทอี่ ยนู่ อกเขตแดน ซง่ึ ในความเปน็ จรงิ ระบบกไ็ มไ่ ดแ้ ยกเขตแดนกนั อยา่ งเดด็ ขาด แตม่ กี ารทบั ซอ้ น (Overlap) กนั อยู่ ๖) คดิ อย่างมแี บบแผน (Pattern) ระบบจะตอ้ งมีความคงทแ่ี น่นอน เพอื่ เป็นหลักประกันว่า กระบวนการท�ำงานทกุ อย่างในทุกๆ ขนั้ ตอน จะไมเ่ บีย่ งเบนไปจากเป้าหมายโดยรวมของระบบ ๗) คิดอย่างมีโครงสร้าง (System Structure) แตล่ ะส่วนที่ประกอบเป็นระบบมคี วามเปน็ ตัว ของตัวเอง มีความเป็นอิสระ แต่ก็มีความเช่ือมโยงกัน อย่างเหมาะสมท�ำหน้าที่อย่างสัมพันธ์กัน ท�ำงาน เสริมประสานกนั กับสว่ น อ่ืนๆ เพอ่ื ให้บรรลเุ ป้าหมายของระบบโดยรวม ๘) คิดอยา่ งมีการปรับตัวต่อการเปลีย่ นแปลง (Adaptation) ระบบต่างๆ จะมกี ารปรับตวั และพยายาม สรา้ งสภาวะสมดลุ และคงความสมดลุ นนั้ ไว้ ดว้ ยการจดั ระบบภายในตนเอง (Self Organize) ๙) คิดเป็นวงจรปอ้ นกลับ (Feedback - Loops) เปน็ การคิดในลักษณะเป็นวง (Loops) มากกว่าจะเป็นเสน้ ตรง ทกุ สว่ นตา่ งมกี ารเชื่อมต่อ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม_Final.indd 57 โครงการศึกษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พ่ือขบั เคลือ่ นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 57 5/17/2017 8:42:40 PM
เทคนิคการคดิ เชงิ ระบบ ๑) ยอมรบั ตนเองและเปลยี่ นใจตนเองใหไ้ ดว้ า่ ตนคอื สว่ นประกอบทส่ี ำ� คญั ทเี่ ชอื่ มโยงกบั สง่ิ ตา่ งๆ ๒) ฝึกการมองภาพรวมแทนสิง่ เลก็ ๆ แล้วคอ่ ยมองย้อยกลับ ๓) เข้าใจธรรมชาติของระบบ และทกุ สรรพสิ่งในโลกลว้ นเป็นระบบสมั พันธก์ นั ๔) มองเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลง และปัจจัยตา่ งๆ ทเี่ ออื้ ต่อระบบ ๕) มองเห็นวัฏจกั รของเหตุปจั จัย (Circles of Causality) และการส่งผลยอ้ นกลบั ๖) เปิดอิสระในเรื่องการคิด ไมต่ กี รอบ ครอบง�ำความคดิ คนอนื่ ๗) สง่ เสรมิ สนบั สนนุ ให้ทุกคนเกิดแรงร่วมในการสรา้ งความสัมพนั ธ์ ๘) ฝึกการแกป้ ัญหาที่เปน็ สาเหตแุ ท้ โดยแกท้ อ่ี าการ ท่ีทำ� ให้เกิดปญั หา ๙) ยดึ หลกั การเรยี นรใู้ นองคก์ รเปน็ สว่ นประกอบ คอื การเปน็ นายตนเอง ลบความเชอ่ื ฝงั ใจแตอ่ ดตี ๑๐) สรา้ งความใฝฝ่ ันถงึ อนาคตรว่ มกนั (Shared Vision) และฝกึ การเรียนรู้ของทมี ประโยชน์ของการคดิ เชงิ ระบบ ๑) ชว่ ยให้เกิดความคดิ เพ่อื พัฒนาองคก์ รในภาพรวมได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ ๒) ประสานงานร่วมกับบคุ คลอื่นใหเ้ ปน็ ไปตามกระบวนการ และระบบการบรหิ ารงานภายใน ๓) สามารถแก้ปญั หา ตดั สนิ ใจ ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ๔) แก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งที่จะเกดิ ข้นึ ในองคก์ รได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ๕) เพ่อื ใหม้ องเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงทีจ่ ะเกิดข้ึนกับระบบภายในองคก์ ร ซ่ึงเกดิ ขึ้นอยา่ ง เปน็ ระบบโดยการ เชอื่ มโยงตดิ ต่อกนั และสามารถแก้ไขสถานการณไ์ ด้อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพการสะทอ้ นความรูส้ กึ ของผูเ้ ขา้ รบั การพฒั นา คนที่ ๑ ไดท้ ราบแนวคดิ เชงิ ระบบ (System Thinking) ทช่ี ว่ ยใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของงาน โดยมองงานใหล้ ึก ให้เช่อื มโยง ให้รอบด้าน ชว่ ยใหเ้ กดิ ความคิดเพือ่ พัฒนาองค์การในภาพรวมไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสานงานรว่ มกบั บคุ คลอน่ื ใหเ้ ปน็ ไปตามกระบวนการ และระบบการบรหิ ารงานภายใน สามารถแกป้ ญั หา ตัดสินใจไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ คนที่ ๒ ได้เรียนรู้ท�ำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดเชิงระบบ(System Thinking) กับวิชาชีพศึกษานเิ ทศก์วา่ มีความสมั พันธ์กนั ในลักษณะใด ผลิดอก : รายงานการพฒั นาศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหมเ่ พือ่ การขบั เคลื่อนการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 58 5/17/2017 8:42:40 PM_Final.indd 58
การสะทอ้ นการเรยี นรูห้ น่วยที่ ๖ การเรยี นรู้การจัดกจิ กรรม HOME SCHOOL วดั พระบรมธาตุดอยผาส้ม อ.สะเมิง จ.เชยี งใหม่ สาระความรทู้ ีไ่ ดร้ ับ การศกึ ษาดงู านโฮมสกลู วดั พระบรมธาตดุ อยผาส้ม การศกึ ษาทแี่ ทจ้ รงิ หวั ใจ คอื “การสรา้ งฅนและพฒั นาฅน” โดยเอาชวี ติ เปน็ ตวั ตงั้ ใชช้ มุ ชนเปน็ ฐาน ปรชั ญา: คุณธรรมน�ำวิถีพอเพยี ง(ศาสตร์แหง่ พระราชาและหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง) วิสยั ทัศน:์ บม่ เพาะเมลด็ พันธุ์แห่งความดี ปลูกต้นกล้าแห่งความพอเพียง (รูจ้ �ำ รูจ้ รงิ ร้แู จ้ง) ค�ำขวัญ: บ่มเพาะคณุ ธรรม สร้างคนให้มจี ิตส�ำนึก ฝกึ ฝนการพ่งึ พาตน บนวิถีแห่งความพอเพยี ง พันธกิจ ๑. สง่ เสริมและพัฒนากระบวนการบม่ เพาะให้ผู้เรียนเกดิ จติ สำ� นกึ รักแผ่นดินถิน่ เกดิ ๒. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ให้ผู้เรียนสามารถค้นหาศักยภาพภายในตนและพัฒนา ตามศักยภาพน้ันจนสามารถพึง่ พาตนเองได้ ๓. สง่ เสริมและพฒั นากระบวนการเรียนรูใ้ หผ้ เู้ รยี นสามารถสบื สานอนุรักษภ์ มู ปิ ญั ญา วฒั นธรรม วถิ ชี วี ติ ของชมุ ชนท้องถิ่นและพฒั นาตอ่ ยอดสรา้ งเปน็ ผลิตภัณฑท์ เ่ี พ่มิ มูลคา่ ทางเศรษฐกิจในชมุ ชน ๔. ส่งเสริมและพัฒนากระบวนการปลูกคุณธรรมความดีให้กับผู้เรียนโดยเน้นการใช้ชีวิตบนหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๕. ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนรู้จักแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลายรูปแบบและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอด ชวี ิตตามความถนัดและตามศักยภาพที่แทจ้ รงิ ของตนเอง โครงการศึกษานเิ ทศกร์ ุ่นใหมเ่ พอ่ื ขบั เคลอ่ื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 59_Final.indd 59 5/17/2017 8:42:41 PM
จดุ มุ่งหมาย ๑. มงุ่ เนน้ การสร้างกระบวนการใหผ้ เู้ รยี นสามารถคน้ หาศกั ยภาพภายในตน เหน็ คุณค่าของตนและรจู้ ักสภาพความเป็นจรงิ ของครอบครวั ชมุ ชนในท้องถน่ิ มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสังคม ๒. มงุ่ เนน้ การสรา้ งกระบวนการใหผ้ เู้ รยี นสามารถสบื สาน อนรุ กั ษว์ ฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญา พรอ้ มทง้ัพัฒนาตอ่ ยอดวัฒนธรรม ภมู ิปัญญา วถิ ีชีวิต ของบรรพบรุ ุษให้เกิดประโยชนส์ งู สดุ ๓. มุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนในส่ิงท่ีจะน�ำไปใช้สร้างอาชีพในอนาคต ผ่านกระบวนการการสร้างตน สร้างกลุ่ม และการขยายเครือข่าย โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาท่ียั่งยนื ไปสู่อิสรภาพของความเปน็ มนษุ ย์ ๔. มงุ่ เนน้ ให้ผเู้ รยี นมีจติ ส�ำนึกและตระหนกั ในคุณค่าของธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ ม อันเป็นทรพั ยากรที่ส�ำคัญในท้องถ่ิน ลดการท�ำลายทรัพยากร และเรียนรู้ในการประกอบสัมมาอาชีพโดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งอนั เปน็ แนวทางในการดำ� เนนิ ชีวติ ผลดิ อก : รายงานการพฒั นาศึกษานเิ ทศกร์ ุน่ ใหมเ่ พื่อการขับเคลือ่ นการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 60 5/17/2017 8:42:41 PM_Final.indd 60
การจดั การศึกษาวดั พระบรมธาตุดอยผาสม้ กระบวนการจัดการศกึ ษา ๑. เนน้ การสรา้ งโอกาสและให้โอกาสแกผ่ ้เู รียนไดค้ น้ หาตนเอง ไดท้ ำ� ในส่งิ ที่เรยี น ได้เรียนสง่ิ ที่ทำ� เรยี นเป็นวิถชี วี ิตไมแ่ ยกส่วน ๒. เน้นกระบวนการสรา้ งปญั ญาใบปรญิ ญาเป็นของแถม ๓. ปลกู ฝงั อดุ มการณช์ วี ติ เดนิ ตามรอยพอ่ ตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี ง (เงนิ ทองเปน็ ของมายา ขา้ วปลาสขิ องจริง) กระบวนการสร้างฅน ๑. วิชาสรา้ งอุปนสิ ยั (การจัดการตนเอง) = วินยั ความรบั ผิดชอบ ขยนั อดทน ๒. วชิ าชวี ติ พื้นฐาน (การพ่ึงตนเอง) = สรา้ งปัจจัยสี่ (ขา้ ว ผ้า ยา บา้ น ) และสรา้ งส่ิงแวดลอ้ ม (ดนิ น้�ำ ป่า ไฟ ฝาย แฝก แยกขยะ ) จิตอาสารู้จกั การให้ การแบง่ ปนั รจู้ กั ตอบแทนพระคณุ แผน่ ดนิ เทา่ ทันสอื่ เทา่ ทนั การบรโิ ภค เทา่ ทันการเปลี่ยนแปลง ของโลกาภวิ ัตน์ ๓. วิชาอนาคตศาสตร์ (การประกอบสัมมาชพี ) = ครู คลงั ชา่ ง หมอ ผปู้ ระกอบการสังคม การวัดผลและประเมินผล ๑. วชิ าสรา้ งอุปนิสยั (การจัดการตนเอง)และวชิ าทกั ษะชวี ติ พืน้ ฐาน (การพึ่งตนเอง) (รอ้ ยละ ๖๐) ๒. วชิ าอนาคตศาสตร์ (สร้างสัมมาชพี ) (รอ้ ยละ ๔๐ ) ผูป้ ระเมนิ ๑. ผเู้ รียน ๒. เพ่อื นพอ้ งนอ้ งพผ่ี ู้เรียน ๓. ผจู้ ดั การศึกษา การใหค้ ะแนน ๑. พฒั นาการการเรยี นรกู้ ารปรบั อปุ นสิ ยั การดแู ลสขุ ภาพและเครอ่ื งอปุ โภคบรโิ ภค ปรบั พฤตกิ รรม ทางสังคม และการจดั การอารมณ์ ๒. ผลงานเชงิ ประจกั ษด์ า้ นวชิ าการ บนั ทกึ ชวี ติ ประจำ� วนั รปู แบบเลม่ รายงาน รปู แบบการนำ� เสนอ และการน�ำเสนอ ๓. ผลติ ภณั ฑจ์ ากโครงการ ชน้ิ งาน คณุ ภาพ บญั ชปี จั จยั ตน้ ทนุ การผลติ รายได้ การบรหิ ารจดั การ สิ่งท่ีควรสรา้ ง ๑. สรา้ งความเปล่ียนแปลงให้ชดั ๒. สรา้ งความต่างใหช้ ัด ๓. สร้างแรงบันดาลใจ (ระเบดิ จากขา้ งใน)_Final.indd 61 โครงการศกึ ษานิเทศกร์ ุ่นใหม่เพื่อขบั เคลื่อนการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 61 5/17/2017 8:42:41 PM
การศึกษาดูงานโฮมสกูลวัดพระบรมธาตุดอยผาส้ม อ�ำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันวดั พระบรมธาตุดอยผาส้ม มีพระสรยทุ ธ ชยปญั โญ รกั ษาการเจา้ อาวาส โดยไดน้ อ้ มนำ� แนวพระราชด�ำริจากในหลวง เรอื่ ง 'บวร' ซึง่ หมายถึง 'บา้ น-วดั -โรงเรยี น' มาใชเ้ ปน็ หลกั ในการพัฒนา ทั้งไดอ้ าศัยแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งเน้นการพงึ่ ตนเองเป็นหลัก ซึง่ มกี ารท�ำกิจกรรมทงั้ ๔ ด้าน คือ ๑. การอนรุ ักษ์ป่าไม้ ต้นนำ้� ลำ� ธาร ๒. การพง่ึ พาตนเองในด้านเกษตรอินทรยี ์ ๓. การอนรุ กั ษ์พลงั งานและใช้พลงั งานทดแทน ๔. การจัดการศึกษารปู แบบใหม่การสะทอ้ นความรสู้ ึกของผู้เขา้ รบั การพฒั นา คนท่ี ๑ ไดเ้ ปดิ โลกทศั น์ เรยี นร้ถู ึงสภาพความเป็นจริงของการศึกษาทางเลือก Home schoolไม่ว่าจะเป็นแบบท่ีได้ไปเห็นท่ีวัดพระธาตุดอยผาส้ม กับเด็กขาดโอกาส หรือจากการบรรยาย บอกเล่าจากวทิ ยากรรนุ่ พ่ที พี่ บเจอกบั การที่ผูป้ กครองขอจดั การเรยี นการสอนใหล้ กู เองในครอบครัวทีพ่ ร้อม คนที่ ๒ ไดร้ บั ขอ้ คดิ จากการศกึ ษาทางเลอื ก ไมว่ า่ จะเปน็ Home school หรอื บา้ นเรยี น ทกุ อยา่ งมงุ่ พฒั นาเดก็ ใหเ้ ปน็ คนดที อี่ ยใู่ นสงั คมปจั จบุ นั ไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ มคี วามสขุ ตง้ั อยบู่ นรากฐานของคณุ ธรรมจรยิ ธรรมและวฒั นธรรม ซึ่งในฐานะศกึ ษานิเทศก์ต้องน�ำข้อคดิ น้ไี ปบอกเล่าสู่สถานศกึ ษามิให้ละเลย และอาจแนะนำ� เพิ่มเติมในโอกาสต่อไป คนท่ี ๓ ไดร้ ับความรู้เกีย่ วกับการจดั การศึกษาแบบ Home School ของผปู้ กครองทจี่ ักให้บตุ รหลานซ่งึ เปน็ การจัดการศึกษาทางเลอื กทีจ่ ะสง่ ผลให้เกิดกับตวั ผู้เรียนในดา้ นตา่ งๆ ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศกึ ษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พ่อื การขับเคลอื่ นการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 62 5/17/2017 8:42:41 PM_Final.indd 62
การสะท้อนการเรียนรูห้ นว่ ยท่ี ๗ การเรยี นรู้การศึกษาทางเลือก ทโ่ี ฮงเฮียนสืบสานภมู ิปัญญาล้านนา อาจารย์ชชั วาลย์ ทองดเี ลิศ โฮงเฮียนสบื สานภมู ปิ ญั ญาล้านนา โฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนา ก่อต้ังเม่ือปี ๒๕๔๓ ท่ีเกิดจากความร่วมมือของพ่อครูแม่ครู ภูมิปัญญา กลุ่มศิลปวัฒนธรรมพ้ืนบ้าน องค์กรพัฒนาเอกชน สถาบันวิชาการ และองค์กรชุมชน ท่ีได้ เข้ามามีส่วนร่วมในการจัด “งานสืบสานล้านนา” ร่วมกันโดยมีเป้าหมายร่วมส�ำคัญคือ การเผยแพร่ องค์ความรู้และภูมิปัญญาในด้านต่างๆ ของล้านนาที่ได้มีการปรับตัวเพ่ือตอบสนองต่อการแก้ไขปัญหา ในปัจจุบนั และเปน็ การน�ำเสนอกระบวนการสบื ทอดองค์ความรู้และภมู ิปญั ญาลา้ นนาในดา้ นตา่ งๆ ไม่ว่า จะเปน็ ภมู ปิ ญั ญาในเรอื่ งการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ อาหารพนื้ บา้ น การเกษตรพน้ื บา้ น การดแู ลรกั ษา สุขภาพ งานศิลปวัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ อาทิ ภาษาล้านนา การทอผ้า การแต่งกาย ดนตรีพื้นเมือง ฟอ้ นพ้ืนเมอื ง งานหัตถกรรมพนื้ บ้าน วาดรปู ลา้ นนา สมุนไพร ฯลฯ โฮงเฮยี นสืบสานภมู ปิ ัญญาลา้ นนา ไดด้ ำ� เนินการสืบทอดองคค์ วามรแู้ ละภมู ปิ ญั ญาท่ีมีอยสู่ เู่ ดก็ เยาวชนและคนที่สนใจ จ�ำนวนมาก สนบั สนุน การจดั กจิ กรรมสบื ทอดองคค์ วามรู้ ภมู ปิ ญั ญาลา้ นนาของกลมุ่ เยาวชนสบื สานภมู ปิ ญั ญาลา้ นนา สนบั สนนุ การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ภูมิปัญญาของพ่อครูแม่ครู จัดต้ังกองทุนสวัสดิการพ่อครูแม่ครู นอกจากนั้น ได้จัดการเรียนรู้ภูมิปัญญาล้านนาให้กับเด็กนักเรียนจากโรงเรียนและนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ตลอดจนได้พัฒนาหลักสูตรเรียนรู้รากเหง้าเท่าทันอาเซียน ปัจจุบันมีครูภูมิปัญญาล้านนาจ�ำนวนทั้งส้ิน ๗๒๐ คน ด�ำเนนิ งานกิจกรรมสบื สานภูมปิ ญั ญามาจนเป็นทีย่ อมรับขององค์กร หน่วยงานต่างๆ มากขึ้น ในขณะท่ีโฮงเฮียนสืบสานภูมิปัญญาล้านนาเองก็ยังมีข้อจ�ำกัดในด้านบุคลากรและทุนปัจจัยเพ่ือใช้ ในการดำ� เนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ ทเ่ี พมิ่ มากขนึ้ โดยลำ� ดบั ทางคณะกรรมการบรหิ ารโฮงเฮยี นสบื สานภมู ปิ ญั ญา ลา้ นนาจงึ ไดด้ ำ� เนนิ การจดทะเบยี นจดั ตง้ั “มลู นธิ สิ บื สานลา้ นนา” ขน้ึ เพอ่ื สรา้ งฐานทมี่ นั่ คงในการดำ� เนนิ การ สบื สานภูมปิ ญั ญาในระยะยาวและได้รบั อนญุ าตจดั ตั้งเรียบรอ้ ยแลว้ ในวนั ที่ ๑๖ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ อาจารยย์ ทุ ธชยั เฉลมิ ชยั ไดร้ ว่ มแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ เรอื่ ง การจดั การศกึ ษาโดยภมู ปิ ญั ญา (โฮงเฮอื น สืบสานภูมิปัญญาล้านนา) เกี่ยวกับที่มา ความส�ำคัญ ในการจัดการศึกษาโดยภูมิปัญญา ที่เกิดจาก การมีส่วนร่วมระหว่างผู้ปกครอง ชุมชน และครูภูมิปัญญา เพื่อจัดการศึกษาให้ผู้เรียนท่ีเรียนรู้ ได้ท�ำ ท�ำได้ และสรา้ งครูภูมิปญั ญาร่นุ ใหม่ ประกอบดว้ ย ๓ ขน้ั ตอน ดงั นี้ ขนั้ ที่ ๑ ขน้ั ต้น นักเรยี นจะได้ศึกษา เรียนรู้จากพอ่ ครู แม่ครู เพื่อใหป้ ฏบิ ตั ิได้ ข้นั ท่ี ๒ ขน้ั พง่ึ ตนเองได้ เปน็ การศึกษาเรยี นรู้โดยเลียนแบบ พอ่ ครู แมค่ รู แลว้ ทำ� ไดเ้ หมอื นตน้ แบบ และตอ้ งพฒั นาเปน็ งานตนเองได้ และขน้ั ที่ ๓ ขน้ั ครู เปน็ การศกึ ษา เรียนรู้หลังพึ่งตนเองได้ และไปฝึกฝนให้เกิดความชำ� นาญ ผ่านการประเมินด้านพ้นื ฐาน และความมุ่งมัน่ ตง้ั ใจ ใน ๔ ข้ันตอน (ฮนั : เห็น สมั ผสั ทดลองทำ� , เฮยี น : เรียนเปลีย่ นจากไม่ชอบเป็นชอบ, ฮุม : เจอสง่ิ ทีต่ นเองชอบ ใส่ใจ และฝึกฝน และ ฮัก : เรมิ่ เหน็ คุณค่า ท�ำได้ ท�ำเป็น สืบทอดวิชาตอ่ ไป) ซ่งึ การเรียนรู้_Final.indd 63 โครงการศึกษานิเทศก์รนุ่ ใหม่เพ่อื ขบั เคลอ่ื นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 63 5/17/2017 8:42:41 PM
ตอ้ งมกี ารไหวพ้ อ่ ครู แมค่ รู ดว้ ยกรวยดอกไมภ้ มู ปิ ญั ญา ประกอบดว้ ย ธปู ๒ เทยี น ๒ เปน็ การตอ่ ใจระหวา่ ง ศิษย์และครู ก่อนศึกษาเรียนรู้ในเรื่องต่างๆ จากกระบวนการเรียนรู้ ท�ำให้เข้าใจถึงการจัดการศึกษา อกี รปู แบบหนง่ึ ทเ่ี รยี กวา่ การจดั การศกึ ษาโดยภมู ปิ ญั ญา ไดเ้ หน็ มมุ มอง จดุ เนน้ ทศิ ทาง การพฒั นาผเู้ รยี น กระบวนการเรยี นรู้ บทบาทพอ่ ครู แม่ครู ผู้เรียน นับเปน็ ความร่วมมอื ท่เี กิดจากความสามัคคขี องคนหลาย กลมุ่ เพือ่ จดั การศึกษาทางเลอื กให้กับเยาวชนในชมุ ชน โดยมเี ปา้ หมายใหเ้ ยาวชน ไดท้ ำ� ท�ำได้ และสร้าง ครูภูมิปัญญาให้เกิดข้ึนอย่างหลากหลายและย่ังยืน ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง ท่ีสามารถนำ� ไปประยกุ ต์ใช้ในการจัดการศกึ ษาให้สอดคล้องกับบริบทของโรงเรยี นในสงั กดั ตอ่ ไป วตั ถปุ ระสงคข์ องมลู นิธิสืบสานล้านนา ๑) เพ่อื รวบรวมผรู้ ู้ พ่อครู แมค่ รู ช่างพ้ืนบ้านในแขนงต่างๆ ทมี่ อี ยใู่ นชมุ ชนลา้ นนา ๒) ศึกษารวบรวมข้อมูล องคค์ วามรู้พ้นื บา้ นออกมาเพ่อื ใหค้ นรุ่นใหมศ่ ึกษา และสบื ทอดได้ ๓) จดั การสบื สานภมู ปิ ญั ญาในรปู แบบการศกึ ษานอกระบบและตามอธั ยาศยั โดยมหี ลกั สตู รอบรม ระยะสนั้ และหลกั สตู ร ตามอธั ยาศยั เพอื่ เชอ่ื มโยงการจดั การเรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญากบั สถาบนั การศกึ ษา โรงเรยี น มหาวทิ ยาลัย และหน่วยงานตา่ งๆ ในการจัดการเรยี นร้เู รื่องภูมิปญั ญา ๔) เผยแพร่ให้ความรูแ้ กส่ าธารณชนให้เหน็ ถงึ ความสำ� คัญของการศึกษาภูมิปญั ญาทอ้ งถิน่ ๕) ประสานเครอื ขา่ ยทัง้ ภาครฐั เอกชน ในการด�ำเนินกจิ กรรมเรยี นรู้ภูมิปญั ญา ๖) จัดตง้ั กองทนุ สวัสดกิ ารให้กบั พอ่ ครูแม่ครูโฮงเฮียนสบื สานภูมิปัญญาล้านนา หลกั สตู ร หลักสตู รมี ๓ ระดบั คอื ๑. หลกั สูตรเรียนภมู ปิ ญั ญาขนั้ พ้นื ฐาน ๒. หลกั สตู รเรียนภมู ิปญั ญาเพ่ือพัฒนาอาชพี ๓. หลกั สตู รครูภมู ิปญั ญารุ่นใหม่ วชิ าที่เปดิ ใหเ้ รียน ๑. ประวตั ศิ าสตรล์ ้านนา ๒. ภาษาล้านนา ๓. ดนตรีพืน้ เมอื ง ๔. จกั สาน ๕. แตง่ คราว – ซอ ๖. ฟอ้ นพื้นเมือง ๗. วาดรูปลา้ นนา ๘. การทำ� ตุง - โคม ๙. ฟ้อนดาบ - ฟอ้ นเจิง (มคี ่าลงทะเบียน ๘๐๐ บาท/คน รบั สมคั รจ�ำนวน ๒๐ คน ไม่รวมค่าอปุ กรณ์) ๑๐. ของเลน่ เด็ก ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหม่เพื่อการขับเคล่อื นการปฏิรปู การเรียนรู้ : 64_Final.indd 64 5/17/2017 8:42:41 PM
๑๑. พิธกี รรม ๑๒. การทอผา้ ๑๓. การป้ัน คดิ เป็นช่วั โมง/ช่ัวโมงละ ๑๕๐ บาท เรยี นทุกวันเสาร์ ๑๐.๓๐-๑๑.๓๐โมง ๑๔. เคร่อื งเขิน ๑๕. แกะสลกั ๑๖. วิชาทางด้านสลา่ เมอื ง ๑๗. เคร่ืองสักการะล้านนา ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาท่ีสอดคล้องกับวิถีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ เป็นการคืนการศึกษาให้ ประชาชน ใหส้ งั คมปฏริ ปู การศกึ ษา เปน็ การศกึ ษาเพอ่ื คนทกุ คน เปน็ การศกึ ษาตลอดชวี ติ สำ� หรบั ประชาชน_Final.indd 65 โครงการศกึ ษานิเทศกร์ ุ่นใหม่เพ่อื ขบั เคลอื่ นการปฏิรูปการเรียนรู้ : 65 5/17/2017 8:42:42 PM
ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับจากการร่วมกจิ กรรมการเรียนรู้ การสะท้อนความรู้สึกของผู้เข้ารบั การพฒั นา ๑. ได้รบั ความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับแนวคดิ ทฤษฎี แนวทาง เทคนิควิธกี าร ประสบการณ์จาก การบรรยายให้ความรู้ของวิทยากรทุกท่าน และสามารถนำ� ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองที่เหมาะสม เพ่ือท�ำการนิเทศครูในสังกัดให้เกิดผลงานด้านการจัดการเรียนการสอนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิด ประสทิ ธผิ ล ๒. ความรู้เรื่อง Lesson Study, Coaching, Mentoring, PLC, System Thinking, Open Approach ถูกเตมิ เต็มโดยการไดเ้ ห็นวิธนี ำ� ไปปฏิบตั ิของโรงเรยี นทม่ี บี ริบทตา่ งๆ กัน แตส่ ามารถเดินทาง สู่ความสำ� เร็จไดเ้ ช่นกนั ๓. ไดร้ บั ความรคู้ วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั กระบวนทศั นท์ างการศกึ ษาใหม่ การเรยี นรใู้ นรปู แบบใหมแ่ ละ System Thinking ท่ีเป็นลักษณะของการปฏิบัติตามบรบิ ท ขอบข่ายงานท่ีรบั ผิดชอบ ตลอดจนการนำ� ไป ส่กู าร ประยุกต์ใชใ้ นการปฏิบตั งิ านสถานการณ์ใหมๆ่ ๔. ได้รับความรู้เก่ียวกับอันจะเป็นแนวทางในการท�ำไปใช้ในการนิเทศติดตามและพัฒนาสร้าง การศึกษาทางเลอื ก อนั เป็นความรทู้ ่เี ราไม่เคยได้รมู้ ากอ่ น ๕. มคี วามรแู้ ละเขา้ ใจเกยี่ วกบั ความคดิ รอบยอด ของ PLC, KM, Open Approach และ Lesson Study จากการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ น�ำเสนอ Mind Mapping ของเพอื่ นๆ ๖. ได้รู้ความหมายท่ีแท้จริงของ “กระบวนทัศน์ ทางการศึกษา การเรียนรู้ในรูปแบบใหม่และ System Thinking” ๗. ไดร้ ับรวู้ ่าความสำ� เร็จของการจัดการเรียนรู้ ผา่ นการเรียนร้แู บบ PLC เป็นการเรยี นร้ทู ี่ยง่ั ยืน เพราะทุกคนในองค์กรมีความเป็นเจ้าของความรู้ เป็นทั้งผู้ให้ และผู้รับความรู้ตามบทบาท หน้าที่ และ สถานการณ์ ๘. สามารถน�ำกระบวนการพัฒนาตนเอง มาด�ำเนินการพัฒนาครูในสังกัดเพ่ือเพ่ิมศักยภาพและ ประสทิ ธภิ าพในการปฏิบตั งิ าน ให้เป็นไปตามทีห่ น่วยงานคาดหวงั ๙. ไดข้ อ้ คดิ ไดเ้ รยี นรู้ เทคนคิ วธิ กี าร แนวทางในการปฏบิ ตั ติ น และปฏบิ ตั งิ าน จากกจิ กรรมศกึ ษา ดูงาน กจิ กรรมร่วมแลกเปลีย่ นเรียนรู้ กิจกรรมถอดบทเรยี น กิจกรรมกรณีศึกษา และกจิ กรรมกลุ่ม ๑๐. ได้ร่วมพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับ บุคคลท่ีมีความรู้ความสามารถทางด้าน การนิเทศให้ได้ แนวคิด และความรู้ทางด้านการนิเทศในลักษณะต่างๆ อันจะเป็นแนวทางในการเป็น ศกึ ษานิเทศกท์ ด่ี ีและมคี วามรู้ความสามารถ ๑๑. ไดเ้ รียนรูต้ นเอง เพือ่ นรว่ มงาน การเคารพการตดั สินใจผู้อน่ื การท�ำงานร่วมกับผู้อื่น ๑๒. ไดแ้ นวทางในการนำ� กระบวนการพฒั นาเครอื ขา่ ย หรอื ชมุ ชนวชิ าชพี มาดำ� เนนิ การพฒั นาครู และผบู้ รหิ ารสถานศกึ ษาในสงั กดั เพอื่ เพม่ิ ศกั ยภาพและประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั งิ าน สรา้ งความแขง็ แกรง่ ให้กับองค์กรได้ ๑๓. ได้ความเปน็ กัลยาณมติ รระหว่างสมาชกิ SEL และแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ร่วมกันอย่างตอ่ เนอ่ื ง ผลิดอก : รายงานการพฒั นาศกึ ษานิเทศก์ร่นุ ใหมเ่ พื่อการขับเคลื่อนการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 66_Final.indd 66 5/17/2017 8:42:42 PM
การนำ� ความรู้ไปสกู่ ารปฏบิ ัติ การสะท้อนความรสู้ ึกของผูเ้ ขา้ รบั การพัฒนา ๑. ไดน้ �ำองคค์ วามรใู้ นเรอ่ื ง การจัดการศึกษารปู แบบใหมแ่ ละการศึกษาทางเลือก โดยจะนำ� มาใช้ เพ่ือเป็นแนวทางให้กับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการกิจกรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ เพื่อสร้างทางเลือก ทห่ี ลากหลายของผเู้ รยี นทเ่ี รยี นในระบบ และไดก้ ารเรยี นรใู้ นหลายๆ รปู แบบมากขน้ึ เพอื่ กอ่ เกดิ ประโยชน์ และเข้าใจถึงการเรียนรู้มากข้ึน โดยน�ำสิ่งที่ได้ไปฝึกพัฒนาการการนิเทศครูและผลที่ได้ถือว่าเกินความ คาดหมาย เราเข้าใจครูมากข้ึน ๒. ในดา้ นชมุ ชนการเรยี นรทู้ างวชิ าชพี PLC ซง่ึ หลกั การของ PLC ทสี่ ำ� คญั คอื จะตอ้ งมกี ารวพิ ากษ์ และมีการสะท้อนผล ช่วยให้มองเห็นถึงการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูโรงเรียน โดยสามารถสร้างเครือข่าย ในการท�ำงานกับเพ่ือนครู ให้ครูได้สร้างนวัตกรรมมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของครูในเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ทีร่ บั ผิดชอบ จะได้ครแู กนนำ� ครผู ้สู อน ท่ีน�ำไปสกู่ ารปรับกระบวนการเรียนการสอนของครตู ่อไป ๓. ในด้านการคดิ เชิงระบบ ศกึ ษานเิ ทศกต์ ้องมกี ารคิดท่เี ป็นระบบ มคี วามสัมพันธแ์ ละผสมผสาน เปน็ อนั หนงึ่ อนั เดยี วกนั เพอื่ ใหบ้ รรลตุ ามเปา้ หมายทกี่ ำ� หนดไว้ ในการทำ� งานทกุ อยา่ งตอ้ งนำ� องคป์ ระกอบ ของระบบ ในด้าน Input ดา้ น Process โดยหาวธิ ีการต่างๆ เพื่อนำ� ไปพัฒนาครู เพ่อื ครจู ะไดน้ �ำไปพฒั นา ผู้เรียน ในกระบวนการนี้สามารถยึดความคิดบนพ้ืนฐานของความต้องการของครูและนักเรียนเป็นหลัก ในส่วนของผลงานน้ัน งานที่ท�ำออกมาจะต้องมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เน้นความประหยัดและ เกดิ ประโยชนส์ ูงสดุ ๔. สามารถวางแผนการท�ำงานและการด�ำเนินชีวิตได้มากขึ้น โดยใช้นวัตกรรม การเรียนรู้ ในรปู แบบใหมๆ่ มาวางแผนในการทำ� งานและการครองตนเองในสงั คมทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ ถอื ว่าเป็น การเรียนร้ทู ่ีดี ๕. มคี วามมน่ั ใจมากขนึ้ ในการทำ� งาน ซงึ่ ทำ� ใหก้ ลา้ แสดงความคดิ เหน็ แสดงวสิ ยั ทศั นใ์ นการทำ� งาน เพือ่ องค์กรมากข้นึ ๖. มีเป้าหมายที่ชัดเจนการท�ำงานมากยิ่งข้ึน และน�ำความรู้ที่ได้จากศึกษาและการอบรมในเรื่อง ต่างๆ เชน่ การคดิ เชิงระบบ (System Thinking) การสรา้ งชมุ ชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (PLC) การจัด การศึกษาตามอัธยาศยั ไปปรับใชใ้ นการปฏิบตั งิ านของตนเอง ๗. จะน�ำความรู้ท่ีได้รับในครั้งนี้ไปใช้กับงานนิเทศให้ค�ำแนะน�ำช้ีแนะเกี่ยวกับการศึกษารูปแบบ ตา่ งๆทไี่ มไ่ ดจ้ ำ� กดั เพยี งแคใ่ นระบบเทา่ นนั้ เพอ่ื ใหเ้ ปน็ แนวทางในการจดั การศกึ ษาและการใหก้ ารแนะแนว ทางครูและผปู้ กครองตอ่ ไป ๘. จะด�ำเนินชีวติ ในการท�ำงานในวชิ าชพี ศกึ ษานิเทศกอ์ ย่างมีระบบ มีการวางแผนมากข้นึ ๙. จากปญั หานกั เรยี นตอ้ งเดินทางติดตามผปู้ กครองไปรับจ้างตามที่ต่างๆ มเี วลาเรยี นไม่พอ แต่ ยังคงมาเรียนอยู่บ้าง ท�ำให้เห็นแนวทางตอบโจทย์ปัญหา เช่น เรียนทางไปรษณีย์ บ้านเรียน หรือใช้ การศึกษาทางเลอื ก_Final.indd 67 โครงการศกึ ษานิเทศก์ร่นุ ใหมเ่ พ่ือขบั เคล่ือนการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 67 5/17/2017 8:42:43 PM
๑๐. การนำ� องคค์ วามรไู้ ปขยายผลสกู่ ารทำ� งานดา้ นการนเิ ทศการศกึ ษากบั โรงเรยี นตา่ งๆ เพอื่ ชว่ ยใหค้ ำ� ชีแ้ นะต่อโรงเรียนในการจดั การศึกษาให้เหมาะสมกับผเู้ รยี น ๑๑. มีรูปแบบ PLC มาใช้ในการพัฒนางานในหน้าที่ เพื่อให้การท�ำงานเป็นการท�ำงานของทีม เครอื ขา่ ย โดยเปา้ หมายของงานทีเ่ กดิ ขึ้น จะตอ้ งเป็นผลจากการ ปฏบิ ตั ิงาน และมีความภาคภมู ิใจรว่ มกนั ของทีมงาน ๑๒. กลา้ คดิ กล้าทำ� กลา้ แสดงออกในดา้ นทส่ี รา้ งสรรค์ คดิ บวก กบั บคุ คลอน่ื ทำ� ให้มีความสขุกับงานในหน้าท่ีมากยิ่งข้ึน อันเนื่องมาจากได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้งานกับศึกษานิเทศก์เขตอื่นๆ ท่ีมีความรคู้ วามสามารถ ๑๓. มสี ตใิ นการทำ� งาน มีความพร้อม และ มีวฒุ ิภาวะทางอารมณใ์ นการท�ำงานมากขน้ึ อนั มาจากได้รับความรู้ถึงลักษณะ และทักษะในการปฏิบัติงานมากข้ึน และท�ำให้งานที่ท�ำเกิดข้อผิดพลาดนอ้ ยลงกว่าเดมิ เน่อื งมาจากการไดท้ �ำงานรว่ มกับบุคคลอื่น และแลกเปลีย่ นเรยี นรู้ความคดิ กับบคุ คลอ่ืน ๑๔. Mini Project ของเพอ่ื นสมาชกิ กลมุ่ SEL มีความสอดคลอ้ งกับการศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑หากแม้เป็นแคแ่ นวทางแตก่ ม็ องเห็นเครอื ข่ายท่ีสามารถพฒั นาและน�ำไปใช้ได้จริง ดงั นน้ั การปฏบิ ัตติ อ่ ไปคอื สมาชกิ กล่มุ จะลองน�ำไปเสนอโครงการท่ตี น้ สังกดั ของตนเอง ผลดิ อก : รายงานการพฒั นาศึกษานิเทศกร์ ุน่ ใหม่เพ่ือการขบั เคลอ่ื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 68 5/17/2017 8:42:43 PM_Final.indd 68
กระบวนการเรียนร้ทู ี่ ๕ แนวคดิ สำ� คญั ในการจัดการศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ กระบวนการเรียนรูท้ ่ี ๖ เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การศกึ ษาและการพฒั นาครู ระหว่างวันท่ี ๑๒ - ๑๗ มถิ นุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ โรงแรมบียอนด์ สวที เขตบางพลดั กรงุ เทพฯ_Final.indd 69 โครงการศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหมเ่ พอ่ื ขบั เคลอ่ื นการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 69 5/17/2017 8:42:44 PM
ก�ำหนดการ กระบวนการเรียนร้ทู ่ี ๕ แนวคดิ ส�ำคัญในการจัดการศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ กระบวนการเรยี นรทู้ ี่ ๖ เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศกึ ษาและการพฒั นาครู ระหว่างวันท่ี ๑๒ - ๑๗ มิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ โรงแรมบียอนด์ สวที เขตบางพลัด กรุงเทพฯเวลา กจิ กรรมวันอาทติ ยท์ ี่ ๑๒ มิถุนายน ๒๕๕๙ ลงทะเบียนวนั จันทรท์ ี่ ๑๓ มถิ ุนายน ๒๕๕๙๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ศึกษาดูงาน บริษัท ทีโอที จำ� กัด (มหาชน)๑๓.๐๐-๑๖.๐๐ น. ศึกษาดูงาน บริษทั ทรู คอร์ปอเรชั่น จ�ำกดั (มหาชน)วนั องั คารที่ ๑๔ มถิ ุนายน ๒๕๕๙๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. สถานการณ์ ICT กบั การเรียนการสอน : วิกฤต หรือโอกาสทางการศกึ ษา ของประเทศไทย โดย รองศาสตราจารย์ ยืน ภู่วรวรรณ๑๓.๐๐-๑๗.๐๐ น. Application & Cloud computing for Education โดย ดร.สพุ จน์ ศรนี ตุ พิ งษ์ ผอู้ ำ� นวยการโครงการภาครัฐ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำ� กดัวันพธุ ท่ี ๑๕ มถิ นุ ายน ๒๕๕๙๐๘.๓๐-๑๒.๐๐ น. นำ� เสนอโครงการ Mini Special Project ตอ่ ผู้ทรงคณุ วฒุ ิ และทป่ี รึกษา โครงการฯ๑๓.๐๐-๑๗.๐๐ น. การศกึ ษาเพือ่ สร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของไทย๑๘.๐๐-๒๐.๐๐ น. สรปุ การเรยี นรู้ ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศกึ ษานเิ ทศก์ร่นุ ใหมเ่ พอ่ื การขบั เคลือ่ นการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 70 5/17/2017 8:42:44 PM_Final.indd 70
วันพฤหสั บดที ี่ ๑๖ มถิ นุ ายน ๒๕๕๙ ๐๘.๓๐-๑๒.๐๐ น. ศกึ ษาดงู านโรงเรียนรุ่งอรณุ ๑๓.๐๐-๑๗.๐๐ น. ถอดบทเรยี นจากการศกึ ษาดูงานโรงเรยี นรุง่ อรุณ วันศุกร์ที่ ๑๗ มิถนุ ายน ๒๕๕๙ ๐๘.๓๐-๑๒.๐๐ น. สรุปผลการเรยี นรู้ กระบวนการเรียนร้ทู ่ี ๑-๖ ๑๓.๐๐-๑๕.๐๐ น. สรปุ ผลการเรียนรู้ โดยตวั แทนผเู้ ขา้ รบั การพัฒนา พิธีปิด และมอบสมั ฤทธิบตั ร โดย ดร.สุเทพ ชติ ยวงษ์ รองเลขา กพฐ._Final.indd 71 โครงการศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่เพอ่ื ขับเคลอื่ นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 71 5/17/2017 8:42:44 PM
กระบวนกรรศ.ดร.ยนื ภ่วู รวรรณ ดร.สุพจน์ ศรนี ตุ ิพงษ์ ผู้อำ� นวยการโครงการภาครัฐ บรษิ ัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำ� กดัดร.วัฒนา อคั คพานิช นายแพทยย์ งยทุ ธ์ วงศภ์ ิรมยศ์ านติ์ นายแพทยท์ รงคุณวฒุ ินกั วิชาการอสิ ระ หัวหนา้ กลุม่ ท่ปี รึกษากรมสุขภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข ผลิดอก : รายงานการพฒั นาศึกษานิเทศกร์ ุ่นใหม่เพ่อื การขับเคล่ือนการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 72 5/17/2017 8:42:45 PM_Final.indd 72
การสะท้อนการเรียนรู้หนว่ ยท่ี ๑ การศึกษาดงู าน บรษิ ทั ทีโอที จ�ำกัด (มหาชน) สาระความรูท้ ่ไี ด้รบั บริษัท ทีโอที จ�ำกัด มีวิสัยทัศน์ คือ “มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมช้ันน�ำ ของประเทศ” และพนั ธกจิ คือ “ยดึ ลูกคา้ เปน็ ศนู ย์กลางในการดำ� เนินธรุ กจิ ใหบ้ รกิ ารโทรคมนาคมอย่างมี คณุ ภาพ และสร้างหลกั ประกันการเขา้ ถึงขอ้ มลู ขา่ วสารและการส่ือสารของประชาชน” ซึ่งนบั เปน็ องค์กร ท่ีวางรากฐานระบบส่ือสารโทรคมนาคมไทยมาเป็นระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ด้วยประสบการณ์อันยาวนาน ทีโอที พร้อมให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร ตอบสนอง ความต้องการครอบคลุมทุกกลุ่ม เป้าหมาย จากการศึกษาดูงานท�ำให้ได้ทราบระบบการวางแผนงานขององค์กรระบบความปลอดภัย ทางคอมพิวเตอร์(Internet Security) Panda Cloud Service เป็นระบบรักษาความปลอดภัยที่ง่าย ต่อการบริหารจัดการ โดยมีการควบคุมเครื่องลูกข่ายผ่านศูนย์กลาง (Centralized Management) ไดท้ ุกท่ี ทุกเวลา ผ่าน Web Browser ด้วยระบบ Real-time Protection และ Collective Intelligence ท�ำให้ม่ันใจว่า ประสิทธิภาพการป้องกันภัยคุกคามอยู่ในระดับสูงสุด ช่วยให้ท่านด�ำเนินธุรกิจได้โดย ไมต่ อ้ งกงั วลเรอื่ งคา่ ใชจ้ า่ ย และความยงุ่ ยากซบั ซอ้ นของระบบรกั ษาความปลอดภยั เหมาะสำ� หรบั ทกุ องคก์ ร และผู้ใช้งานท่วั ไป ตลอดจนการมสี ่วนรว่ ม TOT CSR การให้การสนบั สนนุ ในดา้ นการศึกษาต่อประชาชน จากการทไ่ี ด้เข้าศกึ ษา เรยี นรใู้ นห้อง Data Center สรปุ ความรไู้ ด้ ดังนี้ ห้อง Data Center น้ัน ต้องสามารถควบคมุ อุณหภูมิ รวมถึงระบบไฟฟา้ ต่างๆ ทพี่ รอ้ มท�ำงาน ทันทีหรือระบบอ่ืนๆ ที่ต้องพร้อมท�ำงานทันที เม่ือมีส่ิงใดท�ำงานผิดพลาด เพราะมันเป็นศูนย์รวมของ Server ขนาดเลก็ ไปจนถงึ Server ท่อี าจจะมคี วามส�ำคญั ถึงข้นั ความเปน็ ความตาย ของคนเลยกว็ ่าได้ ต้องใช้วิศวกรคอมพิวเตอร์ ท่ีมีความเชี่ยวชาญในสายสาขา Network Engineering คอยดูแลรักษา ให้ Server ต่างๆ นั้นท�ำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Server เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบไฟฟ้า เป็นหัวใจ ของการท�ำงานของ Server ถ้าเกิดไฟดับ, ต้องมีระบบส�ำรองไฟท่ีได้มาตรฐานและสามารถ ท�ำงานทดแทนได้ทันที เมื่อระบบไฟฟ้าหลักขัดข้อง Server ทุกเครื่องต้องถูกเช่ือมต่อกับ ISP ดว้ ยสาย Gigabit ซึ่งมีความเรว็ และมีชอ่ งสัญญาณทีม่ ากและเรว็ ทส่ี ดุ เพอ่ื ให้การตดิ ต่อระหวา่ งคณุ ไปยัง Server ในหอ้ ง Data Center นน้ั มีความรวดเร็ว เมื่อรวู้ ่าในหอ้ ง Data Center มคี วามส�ำคญั ขนาดน้ี และ ยังเป็นศูนยร์ วมการเก็บขอ้ มูลทเ่ี ป็นความลับ ดงั น้ันต้องไมม่ ีใครเขา้ ไปในห้อง Data Center ได้งา่ ยๆ รวมถงึ ตอ้ งมรี ะบบรักษาความปลอดภยั ท่เี ข้มงวด เช่น การสแกนลายนว้ิ มือ จนถงึ สแกน มา่ นตาเลยก็ได้ ประโยชน์ท่ีไดร้ ับ ส่ิงท่นี �ำไปประยกุ ต์ ใช้ DATA center - การรักษาข้อมลู ส่วนตัว การรักษาความปลอดภยั ของข้อมลู เปน็ เร่อื งสำ� คัญ - สำ� นกึ ในการใชข้ อ้ มูลและทรัพยากรขอ้ มลู ระดบั ชาติ ใหค้ ้มุ ค่าและเกดิ ประโยชน์ ขอ้ มูลในระดบั โรงเรยี น - เลือกจดั เก็บใหเ้ หมาะสมวา่ เป็นการจัดเกบ็ ภายนอกหรอื ภายใน โครงการศึกษานิเทศก์รุ่นใหมเ่ พื่อขบั เคลือ่ นการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 73_Final.indd 73 5/17/2017 8:42:46 PM
การสะท้อนการเรียนรู้หน่วยที่ ๒ การศึกษาดงู าน บรษิ ทั ทรู คอรป์ อเรช่ัน จ�ำกัด (มหาชน) สาระความรทู้ ี่ได้รับ ดูงานบริษัท ทรู คอร์ปอเรช่ัน จ�ำกัด (มหาชน) รับฟังบรรยายเกี่ยวกับแนวทางการด�ำเนินงาน ภายใตก้ รอบงานของบรษิ ทั ทรู คอรป์ อเรชน่ั จำ� กดั (มหาชน) โดยคณุ ธาดา เศวตศลิ า ผบู้ รหิ ารของบรษิ ทั และคณะ ได้ทราบ วิสัยทัศน์ คือ “คุณค่าความเป็นทรู ท่ีแสดงออกในชีวิตประจ�ำวัน และเป็นแนวทาง ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ประกอบด้วย สรา้ งสรรค์ เอาใจใส่ กลา้ คดิ กลา้ ท�ำ และเชือ่ ถือได้” และพนั ธกิจ คือ “การนำ� ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสาร สาระและความบนั เทงิ ตา่ งๆ รวมทง้ั ความสะดวกสบายเพอื่ คนไทยทง้ั ประเทศ ตลอดจนเยาวชนของชาติ โดยม่งุ มัน่ ท่ีจะสรา้ งคณุ คา่ ใหก้ บั ผู้ถอื ห้นุ ลกู ค้า องคก์ ร และพนกั งาน” โดยมี ยทุ ธศาสตรท์ ่เี ปน็ เอกลักษณ์เดน่ คือ มีการผสานบรกิ ารส่อื สารครบวงจร เข้ากบั คอนเทนท์ทหี่ ลากหลาย นอกจากน้ี ทรูยังก�ำหนดนโยบายด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น ส่งเสริมและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การใช้พลงั งาน ส่งเสริม สนับสนุนชุมชนในด้านการศึกษา การฝึกอบรม ลดความเหล่ือมล้�ำทางเทคโนโลยี ช่วยเหลอื บรรเทาทุกขผ์ ู้ประสบพิบตั ภิ ยั และ สาธารณภัยตา่ งๆ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จ�ำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทท่ีให้ความส�ำคัญกับการศึกษาในศตวรรษ ที่ ๒๑โดยบริษัทมีการจัดท�ำงานท่ีเป็นระบบ เพ่ือให้ผู้ใช้บริการพึงพอใจในการให้บริการ และยังเป็น ส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมโรงเรียนประชารัฐ ซ่ึงเปิดโอกาสให้โรงเรียนที่ห่างไกลเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วม ในการใช้เทคโนโลยีและให้อยู่ใกล้เทคโนโลยีให้มากขึ้น เพ่ือพัฒนาการจัดการศึกษาของไทยบนเครือข่าย ของทรูปลูกปญั ญา ประโยชน์ท่ีไดร้ บั สิง่ ทน่ี �ำไปประยกุ ต์ ใช้ การท�ำงานในองค์กรท่ีเกิดจากภาคี ความร่วมมือ ทั้ง ความร่วมมือกันในองค์กรและนอกองค์กร สามารถ ภาครัฐและเอกชน ท�ำให้ลดความเหลื่อมล�้ำทางการ ทำ� ใหก้ ารขบั เคลอื่ นเปน็ ไปดว้ ยความรวดเรว็ และสะดวก ศกึ ษา มากขึ้น ทำ� ให้เกดิ โอกาสทางการเรยี นรูอ้ ย่างท่วั ถงึ ภาพที่ ๖ การศกึ ษาดูงานบรษิ ัท ทโี อที จำ� กัด (มหาชน) ภาพท่ี ๗ การศกึ ษาดงู านบรษิ ทั ทรู คอรป์ อเรชนั่ จำ� กดั (มหาชน)_Final.indd 74 5/17/2017 8:42:47 PM
การสะทอ้ นการเรียนรหู้ นว่ ยที่ ๓ การเรียนรูเ้ รื่อง สถานการณ์ ICT กบั การเรียนการสอน: วิกฤตหรอื โอกาสทางการศึกษาของประเทศไทย รองศาสตราจารย์ ยืน ภวู่ รวรรณ สาระความร้ทู ไ่ี ดร้ บั ในยุคศตวรรษท่ี ๒๑ กระบวนการเรียนอาจมีการเปล่ยี นแปลง โดยผู้เรยี นจะเรียนดว้ ยเทคโนโลยี สารสนเทศและการสอื่ สารทที่ นั สมยั มคี วามกา้ วหนา้ และสามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขา่ วสารไดม้ ากและรวดเรว็ ขนึ้ ปัญหาท่ีสืบเนื่องมาจากจ�ำนวนนักเรียนท่ีเพิ่มขึ้นต่อห้องเรียน จนท�ำให้วิธีการสอนแบบเดิมๆ ไม่มี ประสทิ ธภิ าพเพยี งพอ สอื่ ทแี่ สดงมขี นาดใหญไ่ มเ่ พยี งพอสำ� หรบั ผเู้ รยี นทอ่ี ยหู่ ลงั หอ้ ง ความจดจอ่ กบั ผสู้ อน ถูกเบี่ยงเบนจากพฤติกรรมและสภาพแวดล้อมในช้ันเรียนขนาดใหญ่ ผู้เรียนมีการน�ำเอาคอมพิวเตอร์ พกพาเข้ามาสืบค้นความรู้ในช้ันเรียน และถามค�ำถามเกี่ยวกับเรื่องท่ีครูก�ำลังสอน หรือน�ำข้อมูลเหล่านั้น มาพูดคุย โดยท่คี รตู อบไมไ่ ด้ หรือไม่เคยรมู้ าก่อน เมื่อเปน็ เชน่ นี้ ครูจึงตอ้ งพร้อมทจี่ ะปรบั ตัวและพฒั นา ตนเองใหเ้ ทา่ ทนั เทคโนโลยอี ยเู่ สมอ และตอ้ งมคี วามกระตอื รอื รน้ ทจ่ี ะพฒั นาทกั ษะและวทิ ยาการใหท้ นั สมยั เพื่อให้เกิดการเรียนรู้เทคนิควิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ๆ ท่ีมีประสิทธิภาพ ท�ำให้ได้เด็กมีคุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ตามท่สี ังคมไทยและสงั คมโลกตอ้ งการ การมองภาพการศกึ ษาในอนาคตรว่ มกนั โดยมวี กิ ฤตสถานการณท์ างการศกึ ษาทเี่ ปลย่ี นแปลงและ ผลของการใช้คลาวด์กับการศึกษา ที่เริ่มพฒั นามาจากเวบ็ มีประโยชน์ทส่ี ามารถเรยี กดูง่าย มที ั้งระบบปิด และเปิด ชว่ ยในการเก็บเนื้อหา ความรู้ไวไ้ ด้จ�ำนวนมาก เป็นทรพั ยากรทางการศกึ ษา ทจ่ี ะท�ำใหเ้ กดิ ความ กา้ วหนา้ ในการจดั การเรยี นการสอน “ความสนกุ คอื การเรียนรทู้ ท่ี รงพลังท่สี ดุ ” ทา่ นอาจารยย์ นื ภวู่ รวรรณ ไดก้ ลา่ วไว้ในการบรรยาย ในประโยคสั้นๆ แต่ท�ำให้มองเห็นวิธีการน�ำเทคโนโลยีไปใช้ในห้องเรียนเพื่อสร้างบรรยากาศในห้องเรียน ใชเ้ ปน็ เครอ่ื งมอื ในการเรยี นรู้ การนำ� เสนออยา่ งทรงพลงั เทคโนโลยที เี่ ปลยี่ นไปทำ� ใหก้ ารตอบสนองในการ ค้นหาความร้ไู ด้รวดเร็ว หลากหลาย การเลือกเนื้อหาตา่ งๆ มาใชใ้ นการจดั การเรยี นการสอนตอ้ งกระตนุ้ ให้ผูเ้ รยี นเกดิ ความคิดตอ่ ยอด คดิ สร้างสรรค์ และน�ำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงได้ ข้อมูลข่าวสารทม่ี มี ากล้น ในคลาวด์นั้น มีท้ังข้อมูลท่ีเป็นบวก และแง่มุมทางลบเช่นกัน การเลือกข้อมูลมาใช้งานต้องใช้ข้อมูลจาก หลายแหล่งเพื่อยืนยันขอ้ มลู วา่ ถูกต้อง ประโยชนท์ ีไ่ ดร้ ับ สงิ่ ที่นำ� ไปประยุกต์ ใช้ ไอซที ี อยู่กบั ชวี ติ ประจำ� วนั ของเราตลอดเวลา สามารถ การมีเครื่องมือในการท�ำงานและการรู้จักใช้ให้เกิด น�ำมาใช้เพื่ออ�ำนวยความสะดวกได้ หลายเรื่อง ด้าน ประโยชน์เป็นส่ิงส�ำคัญ ความรไู้ มจ่ ำ� เปน็ จะตอ้ งใหน้ กั เรยี น เขาสามารถแสวงหา เองได้ โครงการศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่เพอื่ ขบั เคลือ่ นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 75_Final.indd 75 5/17/2017 8:42:47 PM
การสะท้อนการเรียนร้หู นว่ ยท่ี ๔ การเรยี นรเู้ ร่อื ง Application & Cloud computing for Education ดร.สพุ จน์ ศรีนุติพงษ์สาระความรูท้ ไ่ี ดร้ ับ ได้รับความรู้และฝึกปฏิบัติในการใช้ Application & Cloud computing for Educationซึง่ มีมากมายในโลกยุคปจั จบุ ัน เรียนรกู้ ารสรา้ งแบบสอบถามออนไลน์ การสร้างเวปไซต์ สร้างเสียงดนตรีบันทึกเสียงประกอบการน�ำเสนองาน รวมถึงการใช้โปรแกรมทางการศึกษาที่ช่วยให้การจัดการเรียนการสอนสะดวก รวดเร็ว และเป็นรูปธรรมมากขึ้น เช่น เอ็กเซลพูดภาษาอังกฤษ การใช้โปรแกรมZoomit โปรแกรมชว่ ยสร้างคำ� ถาม สรา้ งกราฟ เขียนสมการคณติ ศาสตร์ สูตรทางวทิ ยาศาสตร์ เป็นตน้ซึ่งโปรแกรมเหล่าน้ีใช้ได้ฟรีอยู่บนอินเทอร์เน็ต ทุกคนสามารถเลือกใช้ เรียนรู้ ฝึกฝน และสร้างสรรค์ไดด้ ้วยตนเอง รวมถึงเผยแพร่ให้ผู้อ่ืนได้นำ� ไปใช้ประโยชนใ์ นการเรียนการสอน หรอื การปฏบิ ตั งิ านได้ประโยชน์ท่ีได้รบั ส่งิ ท่นี ำ� ไปประยุกต์ ใช้การใช้ soft ware/ free ware / application ตา่ งๆ - ขยายผลในการพัฒนางานตนเองเช่น Math 4 / Snip/Auto college /Song Smith - ขยายผลตอ่ การนเิ ทศครู ดว้ ยการชว่ ยแหลอื ตดิ ตามเพยี งรอ้ งเพลงเข้าไป โปรแกรมกจ็ ะสรา้ งดนตรีให้ และ เพื่อให้ครูได้รับความรู้ใหม่ และท�ำงานได้สะดวกสามารถปรับแต่ง เรียบเรียง เสียงประสานได้อีกด้วย มากยิ่งขนึ้Zoom IT โปรแกรมเล็กๆ แต่ท�ำอะไรได้เกนิ ตวั ท้ังซูมท้ังเขียน ท้ังจับเวลา และ การซูมแบบพิเศษ LiveZoom ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศกึ ษานิเทศก์รุ่นใหมเ่ พอ่ื การขับเคลอ่ื นการปฏิรูปการเรียนรู้ : 76 5/17/2017 8:42:48 PM_Final.indd 76
การสะท้อนการเรียนรูห้ นว่ ยที่ ๕ การศึกษาดูงาน โรงเรียนร่งุ อรุณ กรุงเทพมหานคร ครูสุวรรณา ชีวพฤกษ์ สาระความรทู้ ่ีได้รับ ศกึ ษาดงู านโรงเรียนรงุ่ อรณุ โดยวิทยากร ครสู วุ รรณา ชวิ พฤกษ์ (ครตู ้อย) และครจู ุ๋ม ไดเ้ รียนรู้ และแนวทางการจัดการศึกษาของโรงเรียนรุ่งอรุณ ซึ่งมีเป้าหมายการจัดการศึกษาท่ีแท้จริงว่า “การจัด การเรียนรู้ เพื่อพัฒนามนุษย์อย่างเป็นองค์รวม” (THE WHOLE PERSON DEVELOPMENT) ประกอบด้วย ๑. พฤตกิ รรม (การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง) ๒. ทศั นคติ (ท่ดี ตี ่อตนเองและโลก) ๓. วธิ คี ดิ (เชิงระบบ หลากมิติสัมพนั ธ์ และสร้างสรรค์) ๔. จติ สำ� นึก (ตระหนักร้ถู งึ คณุ ค่าแท-้ คณุ คา่ เทียม) ร่วมกับวถิ ีการเรียนรูต้ ามนยั พทุ ธธรรม เพื่อการฝึกปฏิบัติขดั เกลากิเลส (Learning by Doing) โดยเหตปุ จั จัยภายใน ๑. โยนิโสมนสิการ (การใคร่ครวญอย่างลึกซ้ึง : Deep Learning การย้อนมองตนเอง : Self Reflection การรจู้ ักตนเอง : Self Actualization และการมีสติอยกู่ ับการรบั รสู้ ัมผัส-สมั พนั ธ์ : Mind- fulness Contemplation) และเหตปุ จั จยั ภายนอก ๒. ปรโตโฆษะ กัลยาณมิตร (ผู้รู้ความจริงของชีวิตและโลก ผู้ชี้แนะแนวทาง : Coach ผู้สร้าง แรงบนั ดาลใจ : Inspiring ผ้นู �ำการเรยี นรู้ : Facilitator ผู้เป็นแบบอยา่ งแหง่ การเรียนรู้ : Role Model) บูรณาการกับ ปิรามิดแห่งการเรียนรู้ นวัตกรรมการเรียนรู้ (3R + 7Cs + 2L) จึงได้แนวทาง จัดการเรยี นรขู้ องโรงเรียนร่งุ อรณุ คอื 3R (Reading Riting Rithmetics) + 8Cs (Critical thinking & problem solving, Creativity & innovation, Collaboration teamwork & leadership, Cross-cul- tural understanding, Communication information & media literacy ๒-๓ Language, Computing & media literacy, Career & learning self-reliance, Core Value Competency) + Self-Directed Learning, Project-Based Learning, Problem-Based Learning, Life Skill Learning นักเรียนโรงเรียนรุ่งอรุณ เรียนรู้ทักษะชีวิตบนวิถีกิจวัตร ผ่านงานจิตอาสา ผ่านการภาวนา ด้านจิตใจ+ปัญญา ฝึกทักษะในการเรียนรู้ (Learning Skills) บูรณาการสังคม-ภูมิปัญญาภาษาไทย เรียนรู้วิชาพ้ืนฐาน วิชาเลือกจัดในภาคบ่าย เน้นการเรียนการสอนแบบโครงงาน (Project Approach) โดยใชเ้ วลาในห้องเรียนแบบ Flipped classroom (ทักทาย ๑๐% ทบทวนเรียนเนอื้ หา ๒๐% ฝกึ กิจกรรม เช่ือมโยงประยุกต์ใช้ ๗๐%) เวลาในห้องเรียนจะเปลี่ยนจากการเรียนเนื้อหาเป็นท�ำแบบฝึกหัด หรือ กจิ กรรมอน่ื ๆ เช่อื มโยง ประยุกต์ เพือ่ ใหน้ กั เรยี นได้มองเห็นการใช้ประโยชน์และคณุ คา่ ของวิชามากข้นึ โครงการศึกษานเิ ทศกร์ ุ่นใหม่เพื่อขบั เคลื่อนการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 77_Final.indd 77 5/17/2017 8:42:49 PM
ความรู้จากการศึกษาดูงานท่ีโรงเรียนรุ่งอรุณ โดยเป้าหมายท่ีแท้จริง คือ การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนามนุษย์อย่างเป็นองค์รวม โดยพฤติกรรม เป็นการเรียนรู้ด้วยตนเอง ทัศนคติ ที่ดีต่อตนเองและโลก วธิ คี ดิ คดิ ท่เี ป็นเชิงระบบ หลากมิตสิ มั พันธแ์ ละสรา้ งสรรค์ การมีจติ สำ� นึก ตระหนกั ถึงคณุ คา่ แท้และคณุ คา่ เทียม โดยทโี่ รงเรียนรงุ่ อรุณ ใช้วธิ ีการเรยี นรตู้ ามนยั พุทธรรม เพอื่ การฝึกปฏิบัติขดั เกลากเิ ลสโดยใชห้ ลักโยนโิ สมนสกิ าร และปรโตโฆษะ กลั ยาณมิตร โดยท่โี รงเรียนมกี ารจัดการเรียนรู้ท่ีหลากหลายเน้นผู้เรียนเป็นส�ำคัญ ฝกึ ใหน้ กั เรียนรู้จักคิด วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และน�ำไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจำ� วันเปน็ การเรยี นรทู้ กั ษะชวี ติ บนวถิ กี จิ วตั ร การเรยี นรทู้ กั ษะผา่ นจติ อาสา การเรยี นรทู้ กั ษะชวี ติ ผา่ นการภาวนาดา้ นจิตใจและปญั ญา มกี ารจดั การเรียนรู้แบบบูรณาการภาพที่ ๘ และ ๙ การศกึ ษาดูงาน ณ โรงเรยี นรุง่ อรุณ ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศกึ ษานเิ ทศก์รุ่นใหม่เพอื่ การขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 78 5/17/2017 8:42:49 PM_Final.indd 78
การสะท้อนการเรยี นรู้หนว่ ยท่ี ๖ การศึกษาเพื่อสรา้ งความเปน็ พลเมอื ง ในระบอบประชาธิปไตยของไทย ดร.วฒั นา อคั คพานชิ สาระความรู้ท่ไี ด้รับ รับฟังบรรยายจากอาจารย์วัฒนา อัคคพานิช ได้รับความรู้ในด้านสังคมศึกษา ศาสนา และ วัฒนธรรม ประชาธิปไตย ในสังคมไทยปัจจุบัน ร่วมอภิปรายถึงแนวทางในการพัฒนาประชาธิปไตยว่า มหี นทางในการดำ� เนนิ การอยา่ งไรใหเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ ประเทศมากทส่ี ดุ ซง่ึ พบวา่ หนทางทจ่ี ะสามารถพฒั นา ประชาธปิ ไตยในประเทศไทยไดค้ อื การปลกู ฝงั ความรดู้ า้ นประชาธปิ ไตยตงั้ แตแ่ รกเรมิ่ ในการจดั การศกึ ษา เพ่ือจะท�ำให้ผู้เรียนและมนุษยชนมีความคิด ความอ่านมีจริยธรรม และศีลธรรมที่ดีอันจะส่งผลต่อระบบ ประชาธปิ ไตยในสังคมไทยใหด้ ขี ึน้ ท�ำไมประชาธิปไตยท่ีประสบความส�ำเร็จในยุโรปและในอเมริกา จึงกลับล้มเหลวในประเทศไทย เป็นเพราะประชาธิปไตย ไม่เหมาะ กับประเทศไทย หรือปัญหาอยู่ที่ คนไทย ? ถ้าความล้มเหลวของ ประชาธิปไตยมีสาเหตุมาจาก คนไทย แล้ว ใคร หรือคนกลุ่มไหนในประเทศไทยเป็นตัวปัญหาที่ท�ำให้ ประชาธปิ ไตยล้มเหลว ทหาร : การเมอื งไทยวนเวยี นอยูใ่ นวงจรอุบาทว์ – ปฏิวัตริ ฐั ประหาร – ฉีกรัฐธรรมนญู เปน็ เพราะ ทหาร ถา้ ทหารปลอ่ ยใหป้ ญั หาการเมอื งแกไ้ ขไปตามวถิ ที างประชาธปิ ไตย ไมย่ ดึ อำ� นาจ ไมฉ่ กี รฐั ธรรมนญู ประชาธิปไตยของไทยคงจะเติบโตข้ึนมาได้ ไม่เดินเวียนวนกลับมาเร่ิมต้นใหม่ทุกครั้งไป และไม่ล้มเหลว ดังเชน่ ทุกวันน้ี นกั การเมอื ง : ถา้ นกั การเมอื งทม่ี าจากการเลอื กตงั้ ไมใ่ ชอ้ ำ� นาจในทางทม่ี ชิ อบ ไมท่ จุ รติ คอรร์ ปั ชนั ไม่ซ้ือเสียง และสามารถแก้ปัญหากันเองได้ตามวิถีทางประชาธิปไตย ทหารจะมีเหตุในการยึดอ�ำนาจได้ อยา่ งไร ดงั นั้น สาเหตคุ วามล้มเหลวของประชาธปิ ไตยไทยกค็ ือนกั การเมอื ง ประชาชน : นักการเมืองจะซ้ือเสียงได้อย่างไร ถ้าประชาชนไม่ขายเสียงให้ ทหารจะปฏิวัติได้ อย่างไร ถ้าประชาชนไม่เรียกร้องหรือไม่ให้ความสนับสนุน ดังน้ัน ประชาชนต่างหากคือสาเหตุที่แท้จริง ของความลม้ เหลวของประชาธิปไตยในประเทศไทย_Final.indd 79 โครงการศกึ ษานเิ ทศกร์ นุ่ ใหม่เพื่อขับเคล่อื นการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 79 5/17/2017 8:42:50 PM
การสะท้อนการเรยี นร้หู น่วยท่ี ๗ การน�ำเสนอโครงการ MINI PROJECT นายแพทยย์ งยุทธ วงศภ์ ิรมยศ์ านต์ิ นายแพทย์ทรงคณุ วุฒิ หวั หนา้ กลมุ่ ท่ปี รกึ ษากรมสขุ ภาพจิต กระทรวงสาธารณสขุสาระความรู้ทีไ่ ด้รบั การพฒั นา BEST PRACTICES และการทำ� Benchmarking เช่อื มโยงกบั CoP/PLC โดยนายแพทย์ยงยุทธ วงศภ์ ริ มยศ์ านต์ิ หัวหน้ากลมุ่ ทปี่ รกึ ษากรมสุขภาพจติ ได้นำ� เสนอถึง การพฒั นา KMการสร้างMacro Flow Chart โดยใชก้ ารเรียนรู้ System Thinking เรยี นรรู้ ะบบสนับสนนุ ระบบหลักผลลพั ธ์ การปรบั ปรุง GP BP ประโยชนท์ ี่ได้รับ ส่ิงทนี่ ำ� ไปประยุกต์ ใช้System การนิยาม Best practiceMicro Flowchart แบบสากลความแตกตา่ งระหว่าง Good practiceระบบหลกั สนับสนนุ outcome และ Best practice ผลดิ อก : รายงานการพฒั นาศกึ ษานิเทศก์รุ่นใหมเ่ พอ่ื การขับเคลือ่ นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 80 5/17/2017 8:42:51 PM_Final.indd 80
ประโยชน์ท่ไี ดร้ บั จากการร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ การสะทอ้ นความรสู้ ึกของผู้เข้ารบั การพัฒนา ๑. ไดแ้ ลกเปลีย่ นเรยี นร้กู บั สถานการณ์ ICTกับการเรียนการสอน การใช้ Application & Cloud computing for Education ซ่ึงนำ� ไปใชใ้ นการนิเทศการเรียนการสอนของครูโดยผ่านสือ่ ออนไลน์ การใช้ สื่อเทคโนโลยี เช่น โปรแกรม Excel ให้เป็นพูดภาษาอังกฤษ การใช้โปรแกรมคณิตศาสตร์ ตารางธาตุ เปน็ ตน้ ๒.ไดร้ บั ความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะเกย่ี วกบั เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การเรยี นรู้ และเพอ่ื ใชใ้ น การพฒั นาครู รวมถงึ แนวคดิ สำ� คญั ของการจดั การศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ จากแนวคิด ทฤษฎี แนวทาง เทคนคิ วธิ กี าร และประสบการณ์ ของวทิ ยากรทกุ ทา่ น ๓.ได้รูปแบบ แนวทางการบริหารงาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย ตัวช้ีวัดในการด�ำเนินไปสู่ เป้าหมายขององค์กร รวมถึงมุมมองของผู้บริหารจากการศึกษาดูงาน บริษัท ทีโอที จ�ำกัด (มหาชน) บริษัท ทรู คอร์ปอเรช่ัน จ�ำกัด (มหาชน) และโรงเรยี นรุ่งอรณุ ไปปรบั ใชใ้ นการการปฏบิ ัติตน และปฏิบัติ งานตอ่ ไป ๔.ได้ท�ำงานเปน็ ทีม ฝกึ การท�ำงานรว่ มกบั ผู้อื่น ๕. ได้เครือขา่ ยกัลยาณมิตรทั้งจากวทิ ยากรและผรู้ ่วมวชิ าชีพ สง่ ผลให้มเี พอ่ื นมพี ่ี มีนอ้ งมากขึน้ และไดเ้ รยี นรูถ้ ึงจิตใจและการกระท�ำของแต่ละคนในสถานการณ์ตา่ งๆ ด้วย ๖. ได้รับความรู้ ความเข้าใจ และสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองที่เหมาะสม เพ่ือท�ำการนิเทศครูในสังกัดให้เกิดผลงานด้านการจัดการเรียนการสอนได้ อย่างมีประสิทธิภาพ จนเกิด ประสทิ ธผิ ล ๗. ได้ศกึ ษาเร่ืองราวผา่ นสื่อต่างๆ เกดิ จากแรงบันดาลใจ และประสบการณ์ รวมทั้งแนวคิดและ กระบวนการทำ� งาน ๘. ได้แลกเปล่ียนเรยี นรจู้ ากวิทยากรและผรู้ ่วมอบรม ๙. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ เปดิ โลกทัศน์เก่ียวกบั ในเชิงวิชาการ ๑๐.เห็นแบบอยา่ งของการฝึกอบรมรูปแบบต่างๆ เทคนคิ วิธีการ ๑๑.ไดแ้ หลง่ ส�ำหรับเรยี นรเู้ กีย่ วกับการนำ� เทคโนโลยีไปใชเ้ พอ่ื การเรียนรูแ้ ละพฒั นาครู ๑๒.ได้ศึกษาโรงเรียนตน้ แบบทีป่ ระสบผลส�ำเร็จในกาจัดการศึกษา ๑๓.ได้เห็นมุมมองทางด้านประชาธิปไตยท่ีหลากหลายจากแต่ละบุคคลและแนวทางท่ีน่าสนใจ ในแนวคิดประชาธิปไตย ๑๔.ไดเ้ รยี นรปู้ ระสบการณจ์ ากการถอดประสบการณจ์ ากโรงเรยี นตน้ แบบ การใชโ้ ครงงานเปน็ ฐาน ไดร้ ับการพฒั นาองคค์ วามรู้ เรยี นรแู้ นวทางการนำ� ไปใชใ้ นการเปน็ ศึกษานเิ ทศกใ์ นศตวรรษท่ี ๒๑_Final.indd 81 โครงการศึกษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พ่ือขับเคล่ือนการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 81 5/17/2017 8:42:51 PM
๑๕. การให้ความส�ำคัญกับเทคโนโลยี ท่ีก้าวเข้าสู่การเรียนรู้ในยุคดิจิทัล มีความส�ำคัญเป็นอย่างมาก ในฐานะของนักการศึกษาจึงไม่ควรจะมองข้ามและให้ความส�ำคัญน้อยลงกับการเรียนรู้ด้านอ่ืนด้วย การรู้ ไมไ่ ดเ้ พียงแต่จะรูเ้ ทคโนโลยแี ตค่ วรใหร้ เู้ ท่าทัน ๑๖. ได้รับรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของ “ การจัดการเรียนการสอนการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ ”โดยผมยอมรบั ว่าการปฏบิ ัตนิ ้นั ยากกว่าการพูดมากมายและบรรลผุ ลได้ยากกวา่ การพดู ทฤษฎี ๑๗. ได้รับรู้ว่าความส�ำเร็จของการจัดการเรียนรู้นั้นได้มายากมาก แต่ผลของความส�ำเร็จมักส่งผลดมี ากกวา่ ผลเสียเสมอและสิ่งท่ผี มไดม้ าอีกมากมายคือ การเรยี นนนั้ มไี ดต้ ลอดชวี ิต ๑๘. การท�ำงานถ้าไม่เริ่มท�ำก็ไม่รู้จะออกแบบและต้องการผลลัพธ์อย่างไร แต่ถ้าเริ่มท�ำเราจะมีประสบการณ์ให้เรียนรู้มากขึ้นจากการลงมือท�ำ ดังน้ันเมื่อเราต้องการท�ำอะไรท่ีมุ่งผลส�ำเร็จ ควรลงมือทำ� เลยโดยทไ่ี มต่ อ้ งกงั วลตอ่ ผลทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ถา้ ไมส่ ำ� เรจ็ เรากไ็ ดป้ ระสบการณม์ าเปน็ บทเรยี น แตถ่ า้ ไมล่ งมอืท�ำเลย เราจะไม่ได้อะไรเลย ๑๙. ได้เครอื ขา่ ยกลั ยาณมิตรทัง้ จากวทิ ยากรและผรู้ ว่ มวิชาชพี ท้งั ๒๔ คน สง่ ผลให้ผมมเี พ่ือนมพี ่ี มีนอ้ งมากขึน้ และไดเ้ รียนรูถ้ งึ จติ ใจและการกระท�ำของแตล่ ะคนในสถานการณต์ ่างๆ ด้วย ผลิดอก : รายงานการพัฒนาศกึ ษานเิ ทศก์รุน่ ใหม่เพือ่ การขับเคลือ่ นการปฏิรปู การเรียนรู้ : 82 5/17/2017 8:42:52 PM_Final.indd 82
การนำ� ความรู้ไปสกู่ ารปฏิบตั ิ การสะท้อนความรสู้ ึกของผเู้ ขา้ รับการพฒั นา ๑. นำ� ความรใู้ นดา้ นการจดั การขอ้ มลู สารสนเทศ ในดา้ น ICT ไปใชใ้ นการจดั เกบ็ ขอ้ มลู การตดิ ตอ่ ประสานงาน การจดั ทำ� นวตั กรรมสำ� หรบั การนเิ ทศการศกึ ษา นำ� ความรไู้ ปใชใ้ นการบรหิ ารจดั การการศกึ ษา ปรับใช้ในการดำ� เนนิ ชีวติ ของตนเอง และแนะนำ� ใหแ้ กผ่ อู้ นื่ ให้มีความรู้และความเขา้ ใจแนวทางการพฒั นา คณุ ภาพการศกึ ษาต่อไป ๒. ประโยชน์ท่ีได้รับและการประยุกต์ใช้ การประชุมปฏิบัติการในคร้ังนี้ มีประโยชน์โดยตรง ในการพัฒนาตัวข้าพเจ้าเองเป็นที่สุด และจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ของข้าพเจ้า ในเขตพื้นที่ให้ทันสมัย อินเทรนด์มากยิ่งข้ึน ข้าพเจ้าได้เครือข่ายที่มีคุณภาพทั้งตัวบุคคล และเครือข่าย ICT ขอขอบพระคุณคณะผ้จู ดั ผูเ้ กย่ี วขอ้ งทุกภาคสว่ น เปน็ อย่างสงู ๓. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการพัฒนาและเสริมสร้างสมรรถนะครู ใหค้ รสู ามารถใช้ ICT เป็น เครอ่ื งมอื ในการจดั การเรยี นรทู้ เี่ นน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำ� คญั เพอ่ื สรา้ งใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรอู้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ มคี วามสขุ กบั การเรียนรู้ ทา้ ทายให้นกั เรยี นได้คดิ และสรา้ งช้นิ งานอย่างมคี วามหมายท่ีแทจ้ ริง ๔. การนำ� ความรเู้ กย่ี วกบั การจดั การบรหิ ารของโรงเรยี นรงุ่ อรณุ การจดั การเรยี นการสอน หลกั สตู ร รูปแบบการจัดการเรียนการสอน การคดั แยกขยะ มาใช้ในการพฒั นาโรงเรียนในเขตพนื้ ที่การศกึ ษาต่อไป ๕. เรียนรูก้ ารนำ� ประชาธปิ ไตยไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน ๖. จากสาระความรู้ทีไ่ ดร้ ับดังกล่าวข้าพเจ้าจะน�ำมาเป็นหลักในการทำ� งานเพือ่ มุ่งมน่ั พัฒนาครูใน องค์กรและส่งผลตอ่ การพัฒนาผเู้ รยี นใหม้ คี ุณภาพดงั นี้ ๖.๑ ปรบั ปรุงและประยุกตแ์ นวทางการนเิ ทศการศึกษาโดยใช้สอื่ และไอซที เี ข้ามาช่วย ในการพัฒนา ๖.๒ พฒั นาโครงการทนี่ ำ� เสนอใหป้ ระสบผลสำ� เรจ็ ตามทไ่ี ดร้ บั การเสนอแนะจากผทู้ รงคณุ วฒุ ิ เพอื่ พัฒนาครูให้มคี วามรู้ ทกั ษะที่ดแี ละสามารถพัฒนาผูเ้ รียนใหม้ ีคณุ ภาพตอ่ ไป ๖.๓ พฒั นาตนเองให้มีความเหมาะสมกบั ศกึ ษานิเทศกร์ ุ่นใหมเ่ พ่อื การขับเคลื่อนการปฏิรปู การเรียนรแู้ ละสามารถเป็นผ้นู �ำทางวชิ าการขบั เคลือ่ นการปฏริ ูปการเรยี นรเู้ พ่ือพฒั นา ผู้เรียนใหเ้ ปน็ คนเกง่ คนดี และอย่ใู นสังคมได้อย่างมีความสขุ ๗. จะน�ำความรู้ที่ได้รับในครั้งน้ีไปใช้กับงานนิเทศให้ค�ำแนะน�ำชี้แนะเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศเพื่อใชใ้ นการพฒั นาครนู ำ� สกู่ ารพัฒนาเดก็_Final.indd 83 โครงการศกึ ษานิเทศก์รุ่นใหมเ่ พือ่ ขับเคลอ่ื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 83 5/17/2017 8:42:52 PM
ผลดิ อก : รายงานการพัฒนาศึกษานิเทศกร์ ุน่ ใหม่เพ่อื การขบั เคลอ่ื นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 84 5/17/2017 8:42:53 PM_Final.indd 84
Search