ความรักและเข้าใจเรื่องความเป็นธรรมทาง สังคม วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนระบบ นิเวศวิทยา เป็นกระบวนการของจิตปัญญาศึกษา (Contemplative education) และนพลักษณ์ (Enneagram) เป้าหมายการพัฒนา ๑. เพอ่ื ให้ผเู้ ข้ารับการอบรมเกิดความตระหนกั ร้ใู นตนเองและมคี วามเขา้ ใจตนเองมากขนึ้ ๒. เพื่อใหผ้ ู้เข้ารบั การอบรมเกดิ ความรูค้ วามเขา้ ใจท่เี ชื่อมโยงกันใน ๓ ภาค คือ ภาคจติ วญิ ญาณ ภาควิชาการ และภาควชิ าชีพ ในบริบททางการศกึ ษา ๓. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ ข้ารับการอบรมตระหนักถงึ บทบาทของตนในฐานะผู้สรา้ งให้เกิดการเปล่ียนแปลง สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยท่ี ๑: การเรยี นรดู้ ว้ ยใจทใ่ี คร่ครวญ และสนุ ทรยี สนทนา (Contemplative Education and Dialogue) หนว่ ยที่ ๒: ชวี ประวัติ (Biography) หน่วยที่ ๓: นพลักษณ์ (Enneagram) หน่วยท่ี ๔: สนุ ทรียสาธก (Appreciate Inquiry) กิจกรรมการเรยี นรู้ วนั ท่ี ๑ ปฐมนเิ ทศ และวางแผนการทำ� งานรว่ มกัน ล่องเรือชมหิ่งห้อย ชมตลาดน้ำ� อัมพวา วนั ที่ ๒ กจิ กรรมประกอบดว้ ย ๑. ใส่บาตรที่ท่านำ�้ ๒. กิจกรรม Chick in ๓. ท�ำความรจู้ กั กนั ๔. สนุ ทรียะสนทนา ๕. อตั ชีวประวตั ิ (Biography) ช่วงอายุ ๐ - ๗ ปี ๖. ผอ่ นพกั ตระหนกั รู้ ๗. อตั ชีวประวัติ (Biography) ช่วงอายุ ๗ - ๑๔ ปี ๘. อัตชีวประวตั ิ (Biography) ชว่ งอายุ ๑๔ - ๒๑ ปี ๙. สะท้อนการเรียนรู้ ๑๐. ทบทวนชวี ติ ของตัวเอง ๑๑. สะทอ้ นประสบการณ์และสรุปการเรียนรู้ วนั ที่ ๓ กิจกรรมประกอบดว้ ย ๑. โยคะยามเชา้ ๒. กจิ กรรม Chick in ๓. Warm up ๔. ตน้ ไมข้ องชีวติ ๕. อกั ษรบอกตวั ตน ๖. ศาสตร์นพลกั ษณ์ โครงการศึกษานิเทศกร์ ุ่นใหมเ่ พือ่ ขับเคลอ่ื นการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 51_Final.indd 51 5/17/2017 8:37:13 PM
๗. ผอ่ นพกั ตระหนกั รู้ ๘. Mini Panel ๙. Warp up ๑๐. ของรกั ของหวง วันท่ี ๔ กจิ กรรมประกอบดว้ ย ๑. โยคะยามเชา้ ๒. รบั ประทานอาหารเช้า ๓. กิจกรรม Chick in ๔. Warm up ๕. Artistic Work ๖. All Question ๗. ผ่อนพกั ตระหนกั รู้ ๘. Backward reviewส่ือ/แหล่งเรยี นรู้ ๑. เอกสารอา่ นเพ่มิ เติมเรอ่ื งจิตตปัญญาศกึ ษา และนพลกั ษณ์ ๒. ชุดบตั รค�ำ “ตัวอักษรบอกตัวตน” ๓. เครื่องเขยี น สี และกระดาษวิธีการประเมินผล ๑. บนั ทกึ การสะทอ้ นการเรยี นรหู้ ลงั การเขา้ รว่ มกระบวนการพฒั นา (After action review: AAR) ๒. เอกสารสรปุ กระบวนการพฒั นาแนวแนวทางจิตตปัญญาศกึ ษาวิทยากร ๑. ผศ.ดร.ศศลิ ักษณ์ ขยนั กิจ คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ๒. ดร.หฤทยั อนุสสรราชกจิ อาจารยค์ ณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ร�ำไพพรรณี จังหวดั จันทบรุ ี ๓. ดร. มานติ า ลีโทชวลติ อรรถนุพรรณ อาจารยค์ ณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศลิ ปากร ๔. นายจักรา วีระกลุ กระบวนกรอสิ ระ การศึกษา Indo-Tibetan Buddhism มหาวิทยาลยั นาโรปะ (Naropa University) ประเทศสหรัฐอเมริกา แผ่ก่งิ : รายงานการพฒั นาหลักสตู รพฒั นาศึกษานิเทศกร์ ่นุ ใหมเ่ พอื่ การขับเคล่ือนการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 52 5/17/2017 8:37:13 PM_Final.indd 52
การประชุมคร้งั ที่ ๒ กระบวนการเรยี นรู้ที่ ๒ ภาวะผนู้ ำ� การเปลยี่ นแปลง (Transformational Leadership) โดยการใหแ้ นวคิดหลักการและวธิ กี ารน�ำไปใชใ้ นการทำ� งาน สถานท่ี โรงแรมบางแสนเอสทู อ�ำเภอเมือง จงั หวดั ชลบรุ ี ระยะเวลา ๔ วนั (ระหว่างวนั ท่ี ๒๑ – ๒๔ มกราคม ๒๕๕๙) ผ้รู บั ผดิ ชอบกระบวนการเรยี นรู้ ผูช้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สฏายุ ธรี ะวณชิ ตระกูล รองคณบดีฝ่ายพัฒนานสิ ติ คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยบรู พา ค�ำอธิบาย การวิเคราะห์แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการเป็นผู้น�ำการเปล่ียนแปลง บทบาทของผู้น�ำ การเปลยี่ นแปลง แนวทางการพฒั นาตนเองส่กู ารเปน็ ผ้นู ำ� การเปล่ยี นแปลง ศกึ ษาวเิ คราะห์ลงพนื้ ท่ีชมุ ชน กรณีตัวอย่างจากบุคคลต้นแบบ ถอดบทเรียนด้านการพัฒนาภาวะผู้น�ำการเปลี่ยนแปลงจากกัลยาณมิตร ผู้มีประสบการณ์ตรง รวมทั้งการสร้างชุดความคิดใหม่ส�ำหรับการพัฒนาภาวะผู้น�ำการเปลี่ยนแปลง ของตนเอง เปา้ หมายของการพัฒนา ๑. เพ่ือถ่ายทอดองค์ความรู้ทางทฤษฎี หลักการ แนวคิดในเชิงปฏิบัติการท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับ การพัฒนาภาวะผนู้ �ำการเปลยี่ นใหแ้ ก่ ศกึ ษานิเทศกก์ ลุ่มเปา้ หมาย ๒. เพ่ือถ่ายทอดประสบการณ์แนวคิดจากกรณีศึกษา (Showcase) ซ่ึงเป็นบุคคลต้นแบบของ การเป็นผ้นู ำ� การเปลี่ยนแปลง ๓. เพอื่ สงั เคราะหอ์ งคค์ วามรูท้ ่ไี ดจ้ ากการกิจกรรมมาสร้างเป็นชุดความคิดใหม่ส�ำหรบั การพฒั นา ภาวะผนู้ ำ� การเปล่ียนแปลงของตนเอง สาระการเรียนรู้ ๑. ความส�ำคญั และความจ�ำเปน็ ของภาวะผู้น�ำทางการศึกษาส�ำหรบั ศกึ ษานเิ ทศก์รุ่นใหม่ ๒. กรณศี ึกษาประสบการณ์ด้านการพฒั นาภาวะผู้น�ำการเปลยี่ นแปลงส�ำหรบั ศึกษานิเทศก์ ๓. การถอดบทเรียนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะผู้น�ำการเปลี่ยนแปลงจากครูต้นแบบท่ีท�ำงาน ณ โรงเรยี นในพื้นที่ทรุ กันดารเขตภาคเหนอื ตอนบน ๔. กรณศี ึกษาเรอ่ื งภาวะผ้นู ำ� และความกลา้ ทางจริยธรรมจากบุคคลต้นแบบระดบั โลก ๕. ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาภาวะผนู้ ำ� การเปลีย่ นแปลงทางการศึกษาส�ำหรบั ศึกษานเิ ทศก์รุ่นใหม่ ๖. กระบวนการเชงิ รกุ ของการพฒั นาภาวะผนู้ ำ� การเปลย่ี นแปลงทางการศกึ ษาในการทำ� หนา้ ทนี่ เิ ทศ ๗. การนำ� เสนอกระบวนการเชงิ รกุ ของการพฒั นาภาวะผนู้ ำ� การเปลยี่ นแปลงในการทำ� หนา้ ทน่ี เิ ทศ ของกลุม่ ผู้เข้ารบั การพัฒนา กิจกรรมการเรยี นรู้ ๑. ศกึ ษาแนวคดิ และทฤษฎเี กยี่ วกบั การเปน็ ผนู้ ำ� การเปลย่ี นแปลง บทบาทของผนู้ ำ� การเปลย่ี นแปลง แนวทางการพฒั นาตนเองสู่การเป็นผ้นู ำ� การเปลยี่ นแปลง_Final.indd 53 โครงการศกึ ษานิเทศก์ร่นุ ใหมเ่ พอื่ ขบั เคล่ือนการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 53 5/17/2017 8:37:13 PM
๒. น�ำเสนอแผนกระบวนการเชิงรุกของการพัฒนาภาวะผู้น�ำการเปล่ียนแปลงในการท�ำผู้หน้าท่ีนเิ ทศของกลมุ่ ผเู้ ขา้ รบั การพัฒนา ๓. กรณศี กึ ษาเรอ่ื งภาวะผนู้ ำ� และความกลา้ ทางจรยิ ธรรม จากตน้ แบบระดบั โลกโดยการชมวดี ทิ ศั น์ภาพยนตร์อองซานซจู ี ๔. การสะท้อนบทเรียนและสรุปการเรียนรู้สอ่ื และแหล่งเรียนรู้ ๑. เอกสารและตำ� ราเกี่ยวกับผ้นู ำ� การเปล่ียนแปลง ๒. งานวจิ ัยเก่ียวกบั ผู้น�ำการเปลย่ี นแปลง ๓. ภาพยนตร์เรื่องอองซานซูจีวิธกี ารประเมินผล ๑. พจิ ารณาจากใบงาน / การนำ� เสนองาน จากภาคทฤษฎี ๒. พิจารณาจากการถอดบทเรียนรู้ / การน�ำเสนอชุดความคิดใหม่ของการพัฒนาภาวะผู้น�ำการเปลีย่ นแปลง จากภาคสนามวิทยากร ๑. ดร.สมทุ ร ช�ำนาญ ประธานหลักสูตรการศึกษามหาบณั ฑิต สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา มหาวิทยาลัยบูรพา ๒. ดร.ชยั พจน์ รักงาม ผทู้ รงคุณวฒุ ิ (อดีตหวั หน้าหน่วยศึกษานิเทศก์ เขต ๕) สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลัยบูรพา ๓. รศ.ดร.จณิ ณวตั ร ปะโคทัง ประธานหลกั สูตรครศุ าสตรมหาบณั ฑติ สาขาวชิ าการบรหิ ารการศกึ ษา มหาวิทยาลยั ราชภัฏอุบลราชธานี ๔. ผศ.ดร.สุรยี ม์ าศ สุขกสิ รองคณบดีฝา่ ยวชิ าการ มหาวิทยาลยั ราชภฏั รำ� ไพพรรณี แผก่ ิง่ : รายงานการพัฒนาหลักสตู รพฒั นาศึกษานเิ ทศก์รุ่นใหมเ่ พื่อการขบั เคล่ือนการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 54 5/17/2017 8:37:13 PM_Final.indd 54
การประชมุ ครั้งที่ ๓ (ประกอบดว้ ย ๒ กระบวนการเรียนรู้ ) กระบวนการเรยี นรู้ที่ ๔ “กระบวนทศั น์ทางการศกึ ษาใหม่ การเรยี นรูใ้ นรูปแบบใหม่ และการคิดเชิงระบบ” กระบวนการเรียนรทู้ ี่ ๖ “รปู แบบและเครอ่ื งมือส�ำคัญในการพฒั นาบคุ ลากร” สถานท่ี โรงแรมคมุ้ ภคู �ำ อ�ำเภอเมือง จังหวัดเชยี งใหม่ ระยะเวลา ๕ วัน (ระหว่างวันที่ ๒๑ – ๒๕ มนี าคม ๒๕๕๙) ผู้รบั ผดิ ชอบกระบวนการเรียนรู้ ดร.วราภรณ์ อนวุ รรัตน์ ศึกษานิเทศก์ ส�ำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา เขต ๓๔ ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน นายศรณ์ณิวิชญ์ ศรวิมล ศกึ ษานเิ ทศก์ สำ� นักงานคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา คำ� อธบิ าย การศกึ ษาและวเิ คราะหร์ ปู แบบและแนวทางการศกึ ษาทห่ี ลากหลาย ทง้ั การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษา นอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย ประกอบด้วย การศึกษาบ้านเรียน (Home School) การศกึ ษา โดยใช้วัฒนธรรมและชุมชนเปน็ ฐาน (Culture and community-based learning) และการศกึ ษาสำ� หรับ นักเรียนท่ีมีความต้องการพิเศษ ศกึ ษาและเรยี นรรู้ ปู แบบและวธิ กี ารในการพฒั นาบคุ ลากร ประกอบดว้ ยการสรา้ งชมุ ชนการเรยี นรู้ ทางวิชาชพี (Professional Learning Community) การศกึ ษาชั้นเรยี น (Lesson Study) และการชีแ้ นะ การสอน (Instructional coaching) สาระการเรียนรู้ ๑. รูปแบบและวิธีการจัดการศึกษาบ้านเรียน (Home School) การศึกษาโดยใช้วัฒนธรรม และชุมชนเป็นฐาน (Culture and community-based learning) และการศึกษาส�ำหรับนักเรียนท่ีมี ความต้องการพิเศษ ๒. รปู แบบและวธิ กี ารในการพฒั นาครโู ดยใชโ้ รงเรยี นเปน็ ฐาน กรณศี กึ ษาโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะห์ เชียงใหม่ ๓. การคิดเชิงระบบ (System Thinking) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. การรบั ฟงั การบรรยายแนวโนม้ การปฏริ ปู การศกึ ษา โดยการจงั หวดั เปน็ ฐานในการพฒั นา และ การสร้างชุมชนการเรียนรู้ (Professional learning community) เพื่อใช้ในการขับเคล่ือนคุณภาพ การจดั การศึกษา ๒. การเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้ ประกอบด้วยโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จังหวัดเชียงใหม่ โฮงเฮียน สืบสานภมู ปิ ัญญาล้านนา และวัดพระธาตุดอยผาสม้ ๓. การฝกึ ปฏิบตั ิการใชเ้ ครือ่ งมอื เพอ่ื การจัดระบบการคิด_Final.indd 55 โครงการศกึ ษานเิ ทศก์รุ่นใหมเ่ พ่อื ขบั เคล่อื นการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 55 5/17/2017 8:37:13 PM
ส่อื /แหล่งเรยี นรู้ เอกสาร “๙ วิถีการเรยี นรูส้ ำ� หรบั ครูสศู่ ิษย์”วธิ ีการประเมินผล ๑. พจิ ารณาจากใบงาน / การน�ำเสนองาน จากภาคทฤษฎี ๒. พิจารณาจากการถอดบทเรียนรู้ / การน�ำเสนอชุดความคิดใหม่ของการพัฒนาภาวะผู้น�ำการเปล่ียนแปลง จากภาคสนามวทิ ยากร ๑. รศ.ดร.เกตมุ ณี มากมี อาจารยค์ ณะครุศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏเชยี งใหม่ ๒. พระสรยุทธ ชยปญั โญ วดั พระธาตุดอยผาส้ม ๓. คุณชัชวาลย์ ทองดีเลศิ โฮงเฮยี นสบื สานภมู ิปญั ญาลา้ นนาการประชมุ คร้งั ที่ ๔ ประกอบดว้ ย ๒ กระบวนการเรยี นรู้กระบวนการเรยี นรทู้ ี่ ๓ “แนวคดิ สำ� คญั ของการจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี ๒๑”กระบวนการเรียนรทู้ ี่ ๕ “เทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การเรียนรู้ และเพือ่ ใช้ ในการพฒั นาครู (Information technology for learning and professional development)”สถานท่ี ณ โรงแรมบยี อนด์ สวที เขตบางพลัด กรงุ เทพมหานครระยะเวลา ๕ วนั (ระหว่างวนั ท่ี ๑๒ – ๑๗ มถิ ุนายน ๒๕๕๙)ผู้รบั ผดิ ชอบกระบวนการเรียนรู้ ดร.สุวทิ ย์ บึงบวั ผอู้ ำ� นวยการ ศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาดว้ ยเทคโนโลยกี ารศกึ ษาทางไกล สำ� นกั งานคณะกรรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน คำ� อธิบายศึกษาแนวคิดของการพัฒนาการเรยี นร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ เทคโนโลยีทางการศึกษาและเครื่องมอืท่ใี ชใ้ นการเขา้ ถงึ แหล่งข้อมลู และการพฒั นาวชิ าชพี ครูศกึ ษาและเรยี นรแู้ นวทางการประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ การจดั การศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ ในสถานศกึ ษาหน่วยงานและองค์กรทเ่ี กย่ี วกบั ขอ้ งกบั เทคโนโลยเี พอ่ื สง่ เสรมิ กาสรเรยี นรแู้ ละการพฒั นาวิชาชีพครูศึกษานวัตกรรมการและแนวคิดใหม่ท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา ได้แก่ การศึกษาเพ่ือสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย (Democratic Citizenship Education) การจัดการศึกษาแบบองค์รวม (Holistic approach) การจัดการความร้ดู ว้ ยการท�ำผลการปฏบิ ตั งิ านที่ดี (Best practices)และการท�ำ Benchmarking เพื่อใช้ในการพฒั นางานสรุปและประมวลความรู้เพ่ือน�ำเสนอแนวทางในการพัฒนางาน การน�ำเสนอแนวคิด และฝึกวพิ ากษง์ านเพ่ือให้การนำ� ไปสู่การปฏบิ ัตไิ ดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ แผ่ก่งิ : รายงานการพฒั นาหลกั สตู รพัฒนาศกึ ษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พ่ือการขบั เคล่อื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 56 5/17/2017 8:37:13 PM_Final.indd 56
สาระการเรยี นรู้ ๑. สถานการณ์ ICT กบั การเรียนการสอน : วกิ ฤตหรือโอกาสทางการศึกษาของประเทศไทย ๒. Application & Cloud computing for Education ๓. การจดั การศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ ๔. แนวคิดการจดั การศึกษาหรอื นวัตกรรมการจดั การศกึ ษา ไดแ้ ก่ การศึกษาเพ่อื สร้างความเป็น พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย (Democratic Citizenship Education) กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ฟังบรรยายและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั เทคโนโลยีเพ่ือการเรยี นรู้ จำ� นวน ๒ เรื่อง คือ ๑.๑ สถานการณ์ ICT กบั การเรยี นการสอน : วกิ ฤตหรอื โอกาสทางการศกึ ษาของประเทศไทย ๑.๒ Application & Cloud computing for Education ๒. ฟังบรรยายและอภิปรายเรื่องการศึกษาเพ่ือสร้างความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย (Democratic Citizenship Education) ๓. ศึกษาเรยี นรูใ้ นแหล่งเรยี นรู้ ๓ แห่ง คือ ๓.๑ บรษิ ทั ทโี อที จ�ำกดั (มหาชน) ๓.๒ บริษัท ทรู คอร์ปอเรช่ัน จ�ำกัด (มหาชน) ๓.๓ โรงเรยี นรุง่ อรุณ เขตบางมด กรงุ เทพมหานคร ๔. ฟังบรรยายเกย่ี วกบั การจัดการความรู้ดว้ ยการท�ำผลการปฏบิ ตั ิงานทด่ี ี (Best practices) และ การท�ำ Benchmarking เพ่ือใช้ในการพัฒนางาน ๕. การนำ� เสนองานโครงการ(Mini-project) ๖. ประเมินผลการเขา้ ร่วมกระบวนการพัฒนา(Post-test) ๗. ประมวลผลการเรยี นรู้ และรับสมั ฤทธบิ ตั ร ส่อื /แหล่งเรียนรู้ ๑. ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยเี พื่อการเรยี นรู้ ๒. แผนการจัดการเรยี นรแู้ บบบูรณาการที่ส่งเสรมิ ทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ วธิ กี ารประเมินผล ๑. พจิ ารณาจากใบงาน / การนำ� เสนองาน จากภาคทฤษฎี ๒. พจิ ารณาจากการถอดบทเรยี นรู้ / การน�ำเสนอชุดความคดิ ใหม่ของการพัฒนาภาวะผ้นู ำ� การเปล่ียนแปลง จากภาคสนาม วิทยากร ๑. รองศาสตราจารย์ ยนื ภวู่ รวรรณ ๒. ดร.สุพจน์ ศรนี ตุ พิ งษ์ ผู้อำ� นวยการโครงการภาครฐั บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) ๓. นพ.ยงยทุ ธ วงษภ์ ริ มย์ศานต์ิ ผู้ทรงคุณวฒุ ิ กรมสุขภาพจิต ๔. ดร.วฒั นา อัคคพานชิ นกั วิชาการอิสระ_Final.indd 57 โครงการศกึ ษานเิ ทศกร์ ุ่นใหมเ่ พื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ : 57 5/17/2017 8:37:13 PM
_Final.indd 58 5/17/2017 8:37:20 PM
บทที่ ๔ ผลการด�ำเนนิ งาน การด�ำเนินการพัฒนาศึกษานิเทศก์ยุคใหม่เพ่ือปฏิรูปการเรียนรู้ จ�ำนวน ๖ กระบวนการเรียนรู้ โดยจดั เป็นการประชุมจำ� นวน ๔ ครงั้ ดังน้ี ตารางท่ี ๔ รายละเอยี ดของการประชุมรายครง้ั จ�ำนวน ๔ ครั้ง ๖ กระบวนการหลัก การประชมุ ครง้ั ท่ี รายละเอียดของกระบวนการหลัก ครง้ั ท่ี ๑ ระหว่างวนั ท่ี ๒๐-๒๓ กระบวนการเรียนร้ทู ี่ ๑ : การเรยี นรเู้ พือ่ พฒั นาตน ธนั วาคม ๒๕๕๘ ณ โรงแรมกนกรัตน์ (New Paradigm for Education) รสี อรท์ จงั หวัดสมทุ รสงคราม ครั้งที่ ๒ ระหวา่ งวันที่ ๒๑ – ๒๔ กระบวนการเรยี นรทู้ ี่ ๒ : ภาวะผนู้ �ำการเปลยี่ นแปลง มกราคม ๒๕๕๙ ณ โรงแรมบางแสน (Transformational Leadership) โดยการใหแ้ นวคิด เอสทู จงั หวัดชลบรุ ี หลักการและวิธกี ารน�ำไปใช้ในการท�ำงาน พรอ้ มการถอด บทเรยี นจากบุคคลต้นแบบ ครง้ั ที่ ๓ ระหวา่ งวันที่ ๒๑-๒๕ กระบวนการเรียนรู้ที่ ๔ : กระบวนทัศน์ใหม่ทางการศึกษา มนี าคม ๒๕๕๙ ณ โรงแรมค้มุ ภคู �ำ และการเรยี นรู้รปู แบบใหม่ ประกอบด้วยการศกึ ษาแบบ จังหวดั เชยี งใหม่ บา้ นเรยี น (Home-school) กรณศี กึ ษาวดั พระธาตดุ อยผาสม้ การจัดการศึกษาทางเลือก(Alternative Education) กรณี ศึกษาโฮงเฮยี นสืบสานล้านนา และการจัดการศกึ ษาพิเศษ กรณศี กึ ษาโรงเรยี นศกึ ษาสงเคราะหเ์ ชียงใหม่ กระบวนการเรียนรูท้ ่ี ๖ : การสร้างนวัตกรรมส�ำหรับ การนิเทศ เพ่ือขบั เคลอื่ นการปฏิรูปการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย การสร้างชุมชนการเรยี นรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) การพฒั นาผลการปฏิบตั ิที่เปน็ ตวั อยา่ งได้ (Best Practices) และการท�ำ Benchmarking) โครงการศึกษานิเทศกร์ นุ่ ใหม่เพอ่ื ขบั เคลื่อนการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 59_Final.indd 59 5/17/2017 8:37:24 PM
ตารางที่ ๔ รายละเอยี ดของการประชมุ รายครั้ง จ�ำนวน ๔ ครั้ง ๖ กระบวนการหลักการประชุมครง้ั ที่ รายละเอียดของกระบวนการหลกัคร้งั ท่ี ๔ ระหวา่ งวนั ท่ี ๑๒ – ๑๗ กระบวนการเรยี นรู้ที่ ๓ : การจดั การศกึ ษาในศตวรรษท่ีมิถนุ ายน ๒๕๕๙ ณ โรงแรมบียอนด์ ๒๑ ประกอบดว้ ยการศกึ ษาแนวคดิ การจัดการศึกษาสวที เขตบางรกั กรุงเทพมหานคร เพ่ือสรา้ งความเป็นพลเมอื งในระบอบประชาธปิ ไตย (Democratic Citizenship Education) และการศึกษา ดงู านแนวทางการประยุกตใ์ ช้ทโ่ี รงเรยี นรุ่งอรุณ กระบวนการเรียนรู้ที่ ๕ : เทคโนโลยีสารสนเทศ เพอ่ื การเรียนรู้ และเพ่อื ใช้ในการพัฒนาครู (Information technology for learning and professional development) การเกบ็ รวมรวมขอ้ มลู ผลการด�ำเนนิ การแบ่ง เป็น ๓ สว่ น ประกอบดว้ ย ๑. การทดสอบความรู้ท่เี กยี่ วขอ้ งกบั กระบวนการหลกั ทั้ง ๖ กระบวนการ โดยจดั เป็นการทดสอบก่อนและหลังการเข้ารว่ มกระบวนการพฒั นา ๒. การประเมนิ ผลจากผู้เขา้ รว่ มการพฒั นารายคร้ังท้งั ๔ ครั้ง ด้วยแบบประเมินผลการด�ำเนินการจัดการพัฒนา ประกอบดว้ ยแบบสอบถามความคดิ เห็น และคำ� ถามปลายเปิด ๓. การประเมนิ หลกั การของกระบวนการไตรต่ รอง (Reflection) และการทบทวนหลงั การปฏบิ ตั งิ าน(After action review: AAR) โดยใหผ้ ้เู ขา้ รว่ มกระบวนการพัฒนาดำ� เนนิ การ ๒ เรอ่ื ง คือ ๓.๑ เขยี นบันทึกการเรียนรู้ในแต่ละครั้ง จำ� นวน ๔ ครง้ั ๓.๒ เขยี นสะท้อนการเรยี นรู้การเขา้ รว่ มกระบวนการพัฒนา แผก่ ่ิง : รายงานการพัฒนาหลกั สตู รพัฒนาศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหม่เพ่อื การขบั เคลือ่ นการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 60 5/17/2017 8:37:25 PM_Final.indd 60
ตารางท่ี ๕ ผลการนำ� เสนอผลการดำ� เนนิ การโครงการศกึ ษานเิ ทศกร์ นุ่ ใหมเ่ พอ่ื ขบั เคลอื่ นการปฏริ ปู การเรยี นรู้ เอกสารเลม่ ท่ี สาระส�ำคญั นำ� เสนอขอ้ มลู ผลการด�ำเนนิ การ เอกสารเลม่ ที่ ๑ “แผก่ ิ่ง” เอกสารรายงานการพัฒนาหลกั สูตร ๑. การทดสอบความรู้ทเ่ี กีย่ วข้องกบั การพฒั นาศกึ ษานิเทศก์รุ่นใหม่เพื่อ กระบวนการหลกั ท้ัง ๖ กระบวนการ การขับเคล่อื นการปฏริ ูปการเรียนรู้ โดยจดั เปน็ การทดสอบกอ่ นและหลงั โดยน�ำเสนอรูปแบบของกระบวนการ การเขา้ รว่ มกระบวนการพฒั นา พฒั นาทงั้ ๖ กระบวนการเรยี นรู้ และ ๒. การประเมินผลจากผเู้ ข้ารว่ มการ ผลการดำ� เนินการ ตลอดจนเอกสาร พฒั นารายครัง้ ท้ัง ๔ ครง้ั ด้วยแบบ ตา่ ง ๆ ทใี่ ช้การด�ำเนินการโครงการ ประเมินผลการดำ� เนนิ การจัดการ พฒั นา เอกสารเล่มที่ ๒ “ผลดิ อก” เอกสารสารประมวลผลการดำ� เนินการ ๓. การประเมินหลักการของ ทงั้ ๖ กระบวนการหลัก ในการดำ� เนิน กระบวนการไตรต่ รอง (Reflection) การจดั การพัฒนาจ�ำนวน ๔ ครัง้ โดย และการทบทวนหลงั การปฏบิ ตั งิ าน เป็นการสงั เคราะห์เอกสารบนั ทกึ การ (After action review: AAR) โดย เรียนร้ขู องศกึ ษานเิ ทศก์ทีเ่ ขา้ รว่ ม การเขียนบนั ทกึ การเรยี นรู้ จำ� นวน ๔ กระบวนการพัฒนาทั้ง ๒๕ คน ครัง้ เอกสารเลม่ ที่ ๓ “ออกผล” เอกสารน�ำเสนอบทเรียนการพัฒนา ๔. การประเมนิ หลกั การของ ศกึ ษานเิ ทศก์ร่นุ ใหมเ่ พือ่ ขบั เคลอ่ื นการ กระบวนการไตร่ตรอง (Reflection) ปฏริ ปู การเรยี นรู้ เปน็ การเล่าความรู้ และการทบทวนหลังการปฏิบตั งิ าน และประสบการณ์ทไ่ี ด้รับของทั้ง (After action review: AAR) โดย ศึกษานเิ ทศก์ ๒๕ คน และผูด้ �ำเนิน การเขียนสะทอ้ นการเรยี นรู้การเขา้ การพฒั นาทง้ั ๗ คน รว่ มกระบวนการพัฒนา ตอนที่ ๑ ผลการทดสอบก่อนและหลังเขา้ รว่ มการพฒั นา ตารางท่ี ๖ ค่าเฉลี่ย สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน คา่ ทดสอบที และระดบั นยั ส�ำคญั ทางสถิติ ของการทดสอบ เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนและหลังของศึกษานิเทศก์ท่ีเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาตามโครงการ ศกึ ษานเิ ทศก์รนุ่ ใหมเ่ พ่ือขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู การเรียนรู้ (n=24) การทดสอบ X S.D. D t Sig.(1-tailed) กอ่ นพัฒนา ๑๐.๔๖ ๒.๕๕ ๐.๙๖ ๑.๘๘* ๐.๐๓๖๒ หลังพฒั นา ๑๑.๔๖ ๒.๑๕ จากตาราง พบวา่ การทดสอบกอ่ นและหลงั เขา้ รว่ มกระบวนการพฒั นาของศึกษานิเทศกโ์ ครงการ ศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่เพื่อขับเคล่ือนการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ มีค่าเฉล่ียเท่ากับ ๑๐.๔๖ และ ๑๑.๔๖ คะแนนตามล�ำดับและเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเข้าร่วมกระบวนการ พบว่า คะแนน ทดสอบหลังเข้ารว่ มกระบวนการสงู กวา่ กอ่ นเข้ารว่ มกระบวนการอย่างมีนยั สำ� คญั ทางสถติ ิทีร่ ะดับ .๐๕ โครงการศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหม่เพื่อขบั เคลอื่ นการปฏิรปู การเรียนรู้ : 61_Final.indd 61 5/17/2017 8:37:26 PM
ตอนท่ี ๒ การประเมินผลจากผ้เู ข้าร่วมการพฒั นารายครัง้ ทง้ั ๔ ครั้งผลการประเมนิ การประชมุ ครั้งที่ ๑กระบวนการเรยี นรูท้ ่ี ๑ การเรียนรเู้ พ่อื พัฒนาตน และกระบวนทัศน์ทางการศึกษาใหม่ (New Paradigm for Education): จติ ปัญญาศึกษาสถานท่ี กนกรตั น์ รสี อรท์ จงั หวดสมุทรสงครามระยะเวลา ๔ วัน (ระหว่างวันท่ี ๒๑ - ๒๓ ธนั วาคม ๒๕๕๘)ผรู้ บั ผดิ ชอบกระบวนการเรยี นรู้ ดร.เฉลิมชัย พนั ธเ์ ลิศ นักวชิ าการศกึ ษา ผ้อู ำ� นวยการสถาบันสังคมศกึ ษา สำ� นกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานตารางท่ี ๗ ผลการประเมนิ การเข้ารว่ มกระบวนการพัฒนาคร้งั ท่ี ๑ที่ รายการประเมนิ ค่าเฉลี่ย SD. แปลผล๑ ความรวดเรว็ และชดั เจนในการประสานงานระหวา่ ง ๒.๘๖ ๑.๑๗ ปานกลาง คณะกรรมการด�ำเนนิ งานและผเู้ ขา้ รบั การพัฒนา ๔.๔๕ ๐.๗๔ ดี๒ ความเหมาะสมของระยะเวลาในจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๘๒ ๐.๓๙ ดมี าก๓ ความเหมาะสมของสถานท่ี และสภาพแวดลอ้ มท่ีใชจ้ ดั กจิ กรรม ๔.๐๙ ๐.๗๕ ดี การเรียนรู้ ๔.๗๓ ๐.๕๕ ดีมาก๔ ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๘๖ ๐.๓๕ ดีมาก๕ ความเหมาะสมของวทิ ยากร ๔.๘๒ ๐.๓๙ ดมี าก๖ การมีสว่ นรว่ มของผ้เู ขา้ รบั การพฒั นา๗ ความสอดคล้องของเนือ้ หา และรปู แบบในการจดั กจิ กรรม ๔.๗๓ ๐.๔๖ ดมี าก การเรียนรู้ ๔.๗๓ ๐.๔๖ ดมี าก๘ กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ามารถนำ� ไปใชใ้ นการพฒั นาตนเอง และพฒั นา ๔.๘๒ ๐.๓๙ ดีมาก ๔.๔๙ ๐.๒๕ ดี งานในองค์กร๙ ประโยชนท์ ีไ่ ด้รบั จากการจัดกิจกรรมการเรียนรคู้ ร้ังนี้๑๐ ความพงึ พอใจต่อการจดั กจิ กรรมการเรียนรใู้ นภาพรวม รวมเฉล่ีย จากตารางที่ ๗ สรปุ ไดว้ า่ ผเู้ ขา้ รบั การพฒั นามคี วามพงึ พอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมกระบวนการเรยี นรู้ที่ ๑ ในภาพรวมอย่ใู นระดบั ดี (x = ๔.๔๙, S.D. = ๐.๒๕) เมื่อพจิ ารณารายประเดน็ พบวา่ ประเด็นที่มีความพงึ พอใจมากท่สี ดุ คือ การมีสว่ นรว่ มของผู้เข้ารบั การพฒั นา (x = ๔.๘๖, S.D. = ๐.๓๕) รองลงมา แผ่กง่ิ : รายงานการพัฒนาหลักสตู รพัฒนาศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหม่เพอื่ การขบั เคล่อื นการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 62 5/17/2017 8:37:26 PM_Final.indd 62
คือ ความเหมาะสมของสถานที่ และสภาพแวดลอ้ มทใี่ ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (x = ๔.๘๒, S.D. = ๐.๓๙) ความสอดคลอ้ งของเนื้อหา และรปู แบบในการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (x = ๔.๘๒, S.D. = ๐.๓๙) และความพึงพอใจตอ่ การจดั กิจกรรมในภาพรวม (x = ๔.๘๒, S.D. = ๐.๓๙) สว่ นประเดน็ ท่ีผ้เู ขา้ รบั การ พัฒนามีความพึงพอใจน้อยท่ีสุด คือความรวดเร็ว และชัดเจนในการประสานงานระหว่างคณะกรรมการ ด�ำเนนิ งานและผู้เขา้ รบั การพฒั นา (x = ๒.๘๒, S.D. = ๑.๑๗) ค�ำตอบปลายเปิดเกี่ยวกับจุดเด่นและจุดที่ควรพัฒนาส�ำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครั้งน้ี เปน็ ดงั น้ี ๑. จดุ เด่นส�ำหรบั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ครงั้ น้ี เปน็ การเรยี นรู้ทเ่ี ข้าใจตนเอง/ตระหนักรใู้ นตนมากขน้ึ รวมท้ังการเรยี นรู้ผอู้ ืน่ ผา่ นกระบวนการท่ี หลากหลาย วิทยากรมีความรู้ในเนื้อหาที่ชัดเจน มีกระบวนการด�ำเนินกิจกรรมท่ีดี ท�ำให้ทุกกิจกรรม มปี ระสทิ ธภิ าพ วิทยากรน่ารัก และเปน็ กนั เองมาก การมีสว่ นรว่ มของผู้เข้ารบั การพัฒนา ความแปลกใหม่ ในการจัดกิจกรรม มคี วามน่าสนใจ กิจกรรมทุกกิจกรรมมคี วามหมาย สามารถนำ� ไปใชใ้ นชวี ติ ได้ มีคุณคา่ ด้านจิตใจ/ได้เรียนรู้ด้วยใจท่ีใคร่ครวญมากขึ้น รูปแบบการจัดกิจกรรมเป็นแบบน่ังพ้ืน ท�ำให้สะดวก ในการทำ� กจิ กรรมวตั ถปุ ระสงคข์ องกจิ กรรมยอดเยย่ี ม การสนบั สนนุ การอำ� นวยความสะดวกในการเดนิ ทาง ดีมาก ๒. จดุ ควรพฒั นาของการจัดกิจกรรมการเรียนรคู้ รง้ั นี้ การประสานงาน การแจ้งหนังสือถึงต้นสังกัด เนื้อหาในการเรียนรู้มีความคลุมเครือ ไม่ระบุช้ีชัด ในเน้อื หาอยา่ งลกึ ซึ้งมาก ขา่ วสารบางอย่างไมช่ ัดเจน เชน่ ความสำ� คัญและความเป็นมา เอกสารประกอบ การอบรมมีไม่ครบทกุ คน บางกจิ กรรมควรมเี อกสารประกอบดว้ ย เช่น Time Life , Biography เปน็ ตน้ ควรเผยแพรเ่ อกสาร / PPT ผา่ นทาง facebook โครงการ ควรบอกเปา้ หมายของกิจกรรม หรือสรปุ วา่ กิจกรรมนี้ทำ� เพือ่ อะไร และกจิ กรรมดมี ากถา้ เพิม่ ระยะเวลา_Final.indd 63 โครงการศึกษานเิ ทศกร์ ุ่นใหม่เพื่อขบั เคลื่อนการปฏิรปู การเรียนรู้ : 63 5/17/2017 8:37:26 PM
ผลการประเมินการประชุมครงั้ ท่ี ๒กระบวนการเรียนรู้ที่ ๒ ภาวะผนู้ �ำการเปล่ยี นแปลง (Transformational Leadership) โดยการใหแ้ นวคดิ หลักการและวิธีการน�ำไปใช้ในการท�ำงานสถานท่ี โรงแรมบางแสนเอสทู อ�ำเภอเมือง จงั หวดั ชลบรุ ีระยะเวลา ๔ วนั (ระหวา่ งวนั ที่ ๒๑ – ๒๔ มกราคม ๒๕๕๙)ผรู้ บั ผดิ ชอบกระบวนการเรยี นร ู้ ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สฏายุ ธรี ะวณชิ ตระกูล รองคณบดีฝ่ายพัฒนานสิ ิต คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั บรู พาตารางที่ ๘ ผลการประเมินการเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาคร้ังที่ ๒ท่ี รายการประเมนิ คา่ เฉลี่ย SD. แปลผล๑ ความรวดเร็ว และชัดเจนในการประสานงานระหว่างคณะกรรมการ ๔.๔๘ ๐.๕๙ ดี ด�ำเนินงานและผู้เขา้ รบั การพัฒนา ๔.๓๙ ๐.๖๖ ดี๒ ความเหมาะสมของระยะเวลาในจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๐๙ ๐.๗๓ ดี๓ ความเหมาะสมของสถานท่ี และสภาพแวดลอ้ มทีใ่ ช้จดั กจิ กรรม ๓.๙๖ ๐.๗๑ ดี การเรียนรู้ ๔.๓๕ ๐.๖๕ ดี๔ ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๒๖ ๐.๖๙ ดี๕ ความเหมาะสมของวทิ ยากร ๔.๓๐ ๐.๖๓ ดี๖ การมีส่วนร่วมของผ้เู ขา้ รับการพัฒนา ๔.๓๐ ๐.๖๓ ดี๗ ความสอดคลอ้ งของเนอ้ื หา และรปู แบบในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้๘ กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ามารถนำ� ไปใชใ้ นการพฒั นาตนเอง และพฒั นางาน ๔.๔๘ ๐.๖๗ ดี ๔.๓๐ ๐.๕๖ ดี ในองค์กร ๔.๒๙ ๐.๑๖ ดี๙ ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการจัดกิจกรรมการเรยี นรูค้ ร้ังน้ี๑๐ ความพงึ พอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ในภาพรวม รวมเฉลีย่ จากตารางที่ ๘ สรปุ ไดว้ า่ ผเู้ ขา้ รบั การพฒั นามคี วามพงึ พอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมกระบวนการเรยี นรู้ที่ ๒ ในภาพรวมอยูใ่ นระดบั ดี (x = ๔.๒๙, S.D. = ๐.๑๖) เมื่อพจิ ารณารายประเด็น พบว่าประเดน็ ทม่ี ีความพงึ พอใจมากทสี่ ดุ คอื ความรวดเรว็ และชัดเจนในการประสานงานระหว่างคณะกรรมการด�ำเนนิ งานและผู้เขา้ รับการพฒั นา (x = ๔.๔๘, S.D. = ๐.๕๙) และประโยชนท์ ี่ได้รบั จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คร้ังน้ี (x = ๔.๔๘, S.D. = ๐.๖๗) รองลงมา คือ ความเหมาะสมของระยะเวลาในจดั กิจกรรมการเรียนรู้(x= ๔.๓๙, S.D. = ๐.๖๖) สว่ นประเดน็ ท่ีผเู้ ข้ารบั การพัฒนามคี วามพึงพอใจนอ้ ยท่สี ดุ คือ การมสี ว่ นรว่ มของผู้เขา้ รับการพฒั นา (x= ๔.๒๖, S.D. = ๐.๖๙) แผ่กง่ิ : รายงานการพัฒนาหลักสูตรพฒั นาศึกษานิเทศกร์ นุ่ ใหม่เพ่อื การขับเคลื่อนการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 64 5/17/2017 8:37:26 PM_Final.indd 64
จากค�ำถามปลายเปิดเก่ียวกับจุดเด่นและจุดควรพัฒนาส�ำหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในครั้งนี้ เปน็ ดงั น้ี ๑. จุดเด่นส�ำหรบั การจัดกิจกรรมการเรียนรูค้ รง้ั นี้ การได้มสี ว่ นรว่ มในการน�ำเสนอเน้อื หาสาระ การแสดงความคิดเห็นได้อย่างชัดเจน ตรงประเดน็ วทิ ยากรสามารถทำ� ใหเ้ ขา้ ใจในเรอื่ งภาวะผนู้ ำ� ไดโ้ ดยงา่ ย และวทิ ยากรทกุ ทา่ นมคี วามเปน็ ผนู้ ำ� ทดี่ ี ทำ� ใหเ้ รา ไดเ้ รยี นรจู้ ากตวั แบบทด่ี ี ความรู้ สนกุ สนาน มกี ารแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ นั ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี การไดพ้ บกบั ผบู้ รหิ าร ระดับสูงใน สพฐ. การไดท้ ำ� งานกลุ่ม การนำ� เสนอ และสะทอ้ นความคิด การจัดกิจกรรมท�ำให้ได้ความรู้ ตรงประเดน็ สามารถนำ� ไปใชไ้ ดจ้ รงิ การจดั กจิ กรรมการอบรมทที่ ำ� ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรมแสดงออกถงึ ภาวะ ผ้นู �ำท่มี ีในแต่ละคน กิจกรรมทีห่ ลากหลาย ทัง้ การบรรยาย เล่าประสบการณจ์ ากผู้ทรงคุณวุฒิ ศึกษาจาก วิดีทัศน์ รับฟังการถอดบทเรียนจากนักศึกษาปริญญาเอก การร่วมคิดร่วมปฏิบัติการน�ำเสนองานกลุ่ม ความเปน็ ผนู้ ำ� ในการเปดิ ความคดิ ทก่ี ระตนุ้ ใหผ้ เู้ ขา้ รบั การอบรม ซมึ ซบั และเกดิ ตระหนกั ในหนา้ ทรี่ บั ผดิ ชอบ ทมี่ คี ณุ คา่ ของศกึ ษานิเทศก์ กระบวนการคดิ การปฏิบัติ การพัฒนา และการน�ำไปใช้ การเติมเต็มความรู้ ในช่วงเช้าที่สมองพร้อมรับความรู้ได้มาก จากน้ันค่อยๆ ลดความเข้มของเนื้อหา เพิ่มเติมการเคลื่อนที่ เคล่อื นไหว และบันเทงิ มากขึ้น แตท่ ุกกจิ กรรมไว้วางใจในศกั ยภาพของเขา้ รับการอบรม มั่นใจในความรบั ผิดชอบของผเู้ ขา้ รบั การอบรม ๒. จุดควรพฒั นาของการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ครั้งนี้ เทคนิคการน�ำเสนอของวิทยากรบางท่าน ที่เน้นบรรยาย ท�ำให้ง่วง ส่ือโสตทัศนูปกรณ์ของ ห้องประชุม ควรให้เวลาในการฝึกปฏิบัติมากข้ึน น่าจะจัดกิจกรรมท่องเท่ียวในบางแสน เอกสารในการ อบรมใหพ้ ร้อมเพรยี ง_Final.indd 65 โครงการศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหม่เพือ่ ขบั เคล่อื นการปฏิรูปการเรียนรู้ : 65 5/17/2017 8:37:26 PM
ผลการประเมนิ การประชมุ ครง้ั ที่ ๓กระบวนการเรียนรู้ท่ี ๔ “กระบวนทัศนท์ างการศึกษาใหม่ การเรียนรแู้ บบใหม่ และการคดิ เชิงระบบ”กระบวนการเรยี นรู้ที่ ๖ “รปู แบบและเคร่ืองมือส�ำคัญในการพฒั นาบุคลากร”สถานท่ี โรงแรมคมุ้ ภูคำ� อ�ำเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ระยะเวลา ๕ วัน (ระหว่างวนั ท่ี ๒๑ – ๒๕ มนี าคม ๒๕๕๙)ผรู้ บั ผดิ ชอบกระบวนการเรยี นรู้ ดร.วราภรณ์ อนวุ รรตั น์ ศึกษานิเทศก์ ส�ำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษา เขต ๓๔ ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน นายศรณณ์ ิวิชญ์ ศรวมิ ล ศึกษานิเทศก์ สำ� นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาตารางท่ี ๙ ผลการประเมนิ การเขา้ รว่ มกระบวนการพฒั นาครั้งที่ ๓ท่ี รายการประเมิน คา่ เฉลย่ี SD. แปลผล๑ ความรวดเรว็ และชัดเจนในการประสานงานระหว่างคณะกรรมการ ๔.๕๒ ๐.๕๑ ดมี าก ดำ� เนินงานและผู้เขา้ รับการพฒั นา๒ ความเหมาะสมของระยะเวลาในจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๐๔ ๐.๗๗ ดี๓ ความเหมาะสมของสถานท่ี และสภาพแวดล้อมทใี่ ช้จัดกิจกรรม ๔.๓๙ ๐.๕๘ ดี การเรียนรู้๔ ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๗๔ ๐.๙๖ ดี๕ ความเหมาะสมของวิทยากร ๔.๗๔ ๐.๔๕ ดีมาก๖ การมีส่วนรว่ มของผู้เข้ารับการพฒั นา ๔.๕๗ ๐.๕๑ ดมี าก๗ ความสอดคลอ้ งของเนือ้ หา และรูปแบบในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๔๓ ๐.๕๑ ดี๘ กจิ กรรมการเรยี นรสู้ ามารถนำ� ไปใชใ้ นการพฒั นาตนเอง และพฒั นางาน ๔.๔๓ ๐.๕๑ ดี ในองคก์ ร๙ ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการจดั กิจกรรมการเรยี นรูค้ รง้ั นี้ ๔.๗๐ ๐.๔๗ ดมี าก๑๐ ความพงึ พอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ในภาพรวม ๔.๕๒ ๐.๕๑ ดมี าก รวมเฉลี่ย ๔.๔๑ ๐.๓๐ ดี จากตารางท่ี ๙ สรปุ ไดว้ า่ ผเู้ ขา้ รบั การพฒั นามคี วามพงึ พอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมกระบวนการเรยี นรู้ที่ ๓, ๔ ในภาพรวมอย่ใู นระดบั ดี (x = ๔.๔๑, S.D. = ๐.๓๐) เมือ่ พจิ ารณารายประเด็น พบวา่ ประเดน็ ทีม่ ีความพึงพอใจมากทีส่ ดุ คอื ความเหมาะสมของวทิ ยากร (x = ๔.๗๔, S.D. = ๐.๔๕) รองลงมา คือประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั จากการจัดกิจกรรมการเรยี นรคู้ รั้งน้ี (x = ๔.๗๐ , S.D. = ๐.๔๗) การมีส่วนร่วมของผู้ แผ่กงิ่ : รายงานการพัฒนาหลักสตู รพัฒนาศกึ ษานิเทศก์รุ่นใหมเ่ พ่ือการขับเคล่อื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 66 5/17/2017 8:37:26 PM_Final.indd 66
เข้ารับการพัฒนา (x = ๔.๕๗, S.D. = ๐.๕๑) ส่วนประเด็นท่ผี ูเ้ ข้ารับการพฒั นามคี วามพงึ พอใจนอ้ ยทสี่ ดุ คอื ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (x = ๓.๗๔, S.D. = ๐.๕๑) จากคำ� ถามปลายเปดิ เกยี่ วกบั จดุ เดน่ ของกจิ กรรมการเรยี นรคู้ รง้ั น้ี ไดแ้ ก่ ไดเ้ รยี นรกู้ ารจดั การศกึ ษา อีกรปู แบบหน่งึ ทีไ่ มเ่ คยเห็นมาก่อนไดร้ บั ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ผลการประชุมคร้งั ท่ี ๔ กระบวนการเรยี นรู้ท่ี ๓ “แนวคดิ สำ� คัญของการจดั การศึกษาในศตวรรษท่ี ๒๑” กระบวนการเรียนรทู้ ่ี ๕ “เทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การเรยี นรู้ และเพอ่ื ใชใ้ นการพัฒนาครู (Information technology for learning and professional development)” สถานที่ ณ โรงแรมบยี อนด์ สวีท เขตบางพลดั กรงุ เทพมหานคร ระยะเวลา ๕ วัน (ระหวา่ งวนั ที่ ๑๒ – ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๙) ผรู้ บั ผดิ ชอบกระบวนการเรยี นรู้ ดร.สวุ ทิ ย์ บึงบวั นกั วิชาการศึกษาช�ำนาญการ ศนู ยพ์ ัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล สำ� นักงานคณะกรรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ตารางท่ี ๑๐ ผลการประเมนิ การเขา้ ร่วมกระบวนการพัฒนาคร้งั ที่ ๔ ท่ี รายการประเมนิ ค่าเฉล่ีย SD. แปลผล ๑ ความรวดเรว็ และชัดเจนในการประสานงานระหว่างคณะกรรมการ ๔.๔๓ ๐.๖๖ ดี ดำ� เนินงานและผเู้ ข้ารับการพัฒนา ๒ ความเหมาะสมของระยะเวลาในจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๓๐ ๐.๖๓ ดี ๓ ความเหมาะสมของสถานที่ และสภาพแวดลอ้ มที่ใชจ้ ัดกจิ กรรม ๔.๖๑ ๐.๕ ดมี าก การเรียนรู้ ๔ ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๓๕ ๐.๗๑ ดี ๕ ความเหมาะสมของวิทยากร ๔.๗๘ ๐.๔๒ ดมี าก ๖ การมีส่วนร่วมของผูเ้ ข้ารับการพัฒนา ๔.๗๘ ๐.๕๒ ดมี าก ๗ ความสอดคล้องของเนอื้ หา และรูปแบบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๖๕ ๐.๔๙ ดีมาก ๘ กิจกรรมการเรียนรู้สามารถน�ำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง และพัฒนา ๔.๘๗ ๐.๓๔ ดมี าก งานในองคก์ ร ๙ ประโยชน์ท่ีไดร้ บั จากการจดั กิจกรรมการเรียนร้คู รง้ั นี้ ๔.๘๗ ๐.๓๔ ดีมาก ๑๐ ความพงึ พอใจต่อการจัดกจิ กรรมการเรียนรูใ้ นภาพรวม ๔.๗๘ ๐.๕๒ ดีมาก รวมเฉล่ยี ๔.๖๔ ๐.๒๑ ดมี าก_Final.indd 67 โครงการศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหม่เพอื่ ขับเคล่อื นการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 67 5/17/2017 8:37:26 PM
จากตารางท่ี ๑๐ สรปุ ไดว้ า่ ผเู้ ขา้ รบั การพฒั นามคี วามพงึ พอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมกระบวนการเรยี นรู้ที่ ๕, ๖ ในภาพรวมอยู่ในระดบั ดี (x = ๔.๖๔ , S.D. = ๐.๒๑) เมอ่ื พจิ ารณารายประเดน็ พบวา่ ประเด็นที่มีความพึงพอใจมากท่ีสุด คือ กิจกรรมการเรียนรู้สามารถน�ำไปใช้ในการพัฒนาตนเอง และพัฒนางานในองคก์ ร และประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั จากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรคู้ รง้ั นี้ (x = ๔.๘๗, S.D. = ๐.๓๔) รองลงมาคอื ความเหมาะสมของวทิ ยากร การมสี ว่ นรว่ มของผเู้ ขา้ รบั การพฒั นา และความพงึ พอใจตอ่ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ในภาพรวม (x = ๔.๗๘) ส่วนประเด็นท่ีผู้เข้ารับการพัฒนามีความพึงพอใจน้อยที่สุด คือความเหมาะสมของระยะเวลาในจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (x = ๓.๓๐, S.D. = ๐.๖๓) จากคำ� ถามปลายเปิดเก่ยี วกลั ป์จดุ เด่นและจุดควรพัฒนาส�ำหรบั การจัดกจิ กรรมในครั้งน้ี ๑. จดุ เดน่ สำ� หรับการจดั กิจกรรมการเรียนรคู้ รัง้ น้ี เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติในรูปแบบใหม่ ท่ีสามารถท้าทายประสบการณ์ด้วย Mini Projectประยุกต์ใช้ด้วยปัญญา เปิดโลกการเรียนรู้จากศาสตร์ที่หลากหลายและประสบการณ์ใหม่ๆ สามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนไ์ ดใ้ นการปฏบิ ตั งิ าน วทิ ยากรมคี วามรู้ ความสามารถทกุ อยา่ ง ชว่ ยเตมิ เตม็ความรไู้ ด้อย่างมาก ไดเ้ รียนร้จู ากแหลง่ เรยี นรตู้ ่างๆ ครบท้ังการฟังบรรยาย และศกึ ษาจากแหล่งเรยี นรู้ทั้งด้านสถานท่ี และบุคลากร ที่มีความพร้อมในด้านมุมมอง และความคิดการจัดการศึกษาในศตวรรษท่ี๒๑ โดยการน�ำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาการศึกษา ได้แนวคิดในการจัดการศึกษา และบรู ณาการในการนำ� ไปขยายสกู่ ารพฒั นาในสายงานตอ่ ไป ไดเ้ หน็ การทำ� งานของจรงิ จากหนว่ ยงานสำ� คญั ๆของประเทศ เช่น บริษัท TOT และบริษัท True วิทยากร ทีมงาน พ่ีเลี้ยง เป็นผู้มีความสามารถสูงในการน�ำโครงการสู่ความส�ำเร็จ และมีความรักในการพัฒนาทีม SEL ความใส่ใจ เมตตาของทีมงานทกุ ทา่ น ทด่ี แู ลศกึ ษานเิ ทศกท์ กุ คนเปน็ อยา่ งดี ประทบั ใจมาก การนำ� บคุ คลทมี่ วี สิ ยั ทศั นร์ ว่ มกนั มารวมตวั กนัทำ� กจิ กรรม ท�ำใหไ้ ดผ้ ลลัพธ์ออกมาดี ๒. จดุ ควรพฒั นาสำ� หรบั การเรยี นรู้คร้งั นี้ ควรจัดสง่ หนงั สอื ราชการก่อนเข้าร่วมกจิ กรรมให้เรว็ กว่านี้ ควรเพ่มิ ระยะเวลา ในชว่ งปฏบิ ตั ิการด้านการใช้คอมพิวเตอร์ให้มากกว่าน้ีกิจกรรมบางวันใช้เวลายาวนานเกินไป ท�ำให้ผู้เข้ารับการพัฒนาเกิดความอ่อนล้าศกึ ษาดูงานแล้วควรจัดเวลาส�ำหรบั การสะท้อนบทเรยี นให้มากขน้ึ แผก่ ิ่ง : รายงานการพัฒนาหลกั สตู รพัฒนาศกึ ษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พอื่ การขับเคลอ่ื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 68 5/17/2017 8:37:26 PM_Final.indd 68
บทท่ี ๕ สรปุ ผลการด�ำเนนิ การ บทเรียนและข้อเสนอแนะ สรุปผลการดำ� เนินการ โครงการพัฒนาศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่เพื่อการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ เป็นการแสวงหา ความรู้และประสบการณ์ที่ช่วยตอบโจทย์การปฏิรูปการเรียนรู้เชิงโครงสร้างของสังคม โดยเฉพาะระบบ การจัดการศึกษาซึ่งเป็นระบบส�ำคัญในการขับเคลื่อนคุณภาพของคน ในฐานะที่เป็นต้นทุนส�ำคัญ ในการขับเคล่ือนคุณภาพของประเทศ โดยเน้ือหา หลักสูตรพัฒนาศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่เพื่อขับเคล่ือน การปฏิรูปการศึกษา ใช้การออกแบบกระบวนการเรียนรู้ในลักษณะของการพัฒนาวิชาชีพศึกษานิเทศก์ อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง (continuing professional development) เพอื่ เปดิ โลกทศั นท์ างการศกึ ษา และเสรมิ สรรถนะ ส�ำคัญส�ำหรับการเป็นผู้น�ำทางวิชาการส�ำหรับยุคการปฏิรูปการศึกษาในศตวรรษ ท่ี ๒๑ โดยออกแบบ การพฒั นาในรปู ของชดุ กระบวนการเรยี นรหู้ ลกั หรอื โมดลู หลกั (core module) จำ� นวน ๖ โมดลู มเี ปา้ หมาย เพอ่ื เสรมิ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจและสมรรถนะสำ� คญั สำ� หรบั ศกึ ษานเิ ทศกส์ ำ� หรบั ใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพ การศกึ ษาและการทำ� งานพฒั นาสถานศกึ ษา ตลอดจนการสรา้ งเครอื ขา่ ยการทำ� งานดา้ นศกึ ษานเิ ทศก์ และ การใช้กลไกการจัดการความรู้ในการสร้างการเรียนรู้ท่ีต่อเนื่องและย่ังยืน เพื่อเตรียมศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่ จ�ำนวนหนงึ่ เตมิ เขา้ ไปหนุนเสริมคณุ ภาพของระบบการจดั การศกึ ษา สรปุ ผลการดำ� เนินการประกอบดว้ ย ๑. เอกสารทผี่ ลผลิตของการด�ำเนนิ การตามโครงการ ประกอบด้วย ๑.๑ เอกสารรายงานโครงการฉบับสมบรู ณ์ ๑.๒ ชดุ เอกสารรายงานผลการดำ� เนินการ ประกอบดว้ ย ๑) เอกสารเลม่ ที่ ๑ “แผก่ ่งิ ” รายงานการพัฒนาหลักสตู รการพัฒนาศึกษานิเทศกร์ ุ่นใหม่ เพื่อการขบั เคล่อื นการปฏิรปู การเรยี นรู้ ๒) เอกสารเลม่ ที่ ๒ “ผลดิ อก” รายงานผลการพัฒนาศกึ ษานิเทศก์รุ่นใหม่เพือ่ ขับเคลอ่ื น การปฏริ ปู การเรียนรู้ ๓) เอกสารเลม่ ที่ ๓ “ออกผล” บทเรยี นการพัฒนาศกึ ษานเิ ทศก์รุ่นใหม่เพอื่ ขับเคล่อื น การปฏริ ปู การเรยี นรู้_Final.indd 69 5/17/2017 8:37:28 PM
๒. ผลการประเมนิ ประกอบดว้ ยการประเมนิ ความรู้ความเข้าใจของผู้เข้ารว่ มการพัฒนาระหว่างกอ่ นและหลงั การเขา้ รบั การพฒั นา และผลการประเมินผลจากผู้เข้าร่วมการพฒั นารายคร้งั ทัง้ ๔ ครง้ั ดังน้ี ๒.๑ ผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังการเข้าร่วมการพัฒนา คะแนนของศึกษานิเทศก์ก่อนเข้าร่วมกระบวนการพัฒนาตามโครงการศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่เพื่อขับเคล่ือนการปฏริ ปู การเรยี นรู้ คา่ เฉลยี่ เทา่ กบั ๑๐.๔๖ และ ๑๑.๔๖ คะแนน ตามลำ� ดบั และเมอื่ เปรยี บเทยี บระหวา่ งคะแนนกอ่ นและหลงั เขา้ รว่ มกระบวนการ พบวา่ คะแนนทดสอบหลงั เขา้ รว่ มกระบวนการสงู กวา่ กอ่ นเขา้ รว่ มกระบวนการอยา่ งมนี ยั สำ� คญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั .๐๕ ๒.๒ ผลการประเมนิ ผลจากผเู้ ข้าร่วมการพฒั นารายครั้ง ดงั นี้ ๑) ครัง้ ท่ี ๑ การเรียนรู้เพ่อื พฒั นาตน และกระบวนทัศน์ทางการศกึ ษาใหม่ (New Paradigm for Education): จติ ปัญญาศึกษา ผลการประเมนิ โดยรวมอยใู่ นระดบั ดี (๔.๔๙) ๒) ครั้งท่ี ๒ ภาวะผนู้ �ำการเปลยี่ นแปลง (Transformational Leadership) ผลการประเมินโดยรวมอย่ใู นระดบั ดี (๔.๒๙) ๓) ครงั้ ที่ ๓ กระบวนทศั น์ทางการศึกษาใหม่ การเรยี นรใู้ นรูปแบบใหม่ และการคิด เชิงระบบ และรูปแบบและเครือ่ งมอื สำ� คัญในการพฒั นาบคุ ลากร ผลการประเมินโดยรวมอยูใ่ นระดับดี (๔.๔๑) ๔) ครัง้ ท่ี ๔ “แนวคิดส�ำคญั ของการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ ๒๑”และ“เทคโนโลยี สารสนเทศเพอ่ื การเรยี นรู้ และเพอื่ ใชใ้ นการพฒั นาครู (Information technology for learning and professional development)” ผลการประเมนิ โดยรวมอยู่ในระดับดีมาก (๔.๖๔)บทเรียน ๑. การปฏิรปู การศึกษา โดยเฉพาะยคุ ศตวรรษที่ ๒๑ เปน็ ยุคทีม่ ีความไมแ่ นน่ อนสูงมาก มีข้อมูลข่าวสารท่วมท้น มีความรู้เกิดใหม่และเก่าเร็วอีกจ�ำนวนมาก ความสัมพันธ์ในด่ิงจะถูกลดทอนความสำ� คญั ไป เกดิ ความสมั พนั ธใ์ นแนวระนาบสงู มากขนึ้ เปน็ โจทยส์ ำ� คญั ในการพฒั นาบคุ ลากรทเี่ กย่ี วขอ้ งให้มีความรู้ความสามารถท่ีรู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น เพราะการออกแบบหลักสูตรการพัฒนาจงึ ตอ้ งความยดื หยนุ่ สงู อยา่ งไรกต็ ามแกนรว่ มในการพฒั นาคอื ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ทกั ษะการตงั้ คำ� ถามใหพ้ รอ้ มรบั การเปลยี่ นแปลงทเี่ กดิ ขนึ้ การปฏริ ปู การศกึ ษาทไี่ มห่ ยดุ แตเ่ พยี งการเปลยี่ นแปลงเชงิ โครงสรา้ งทางการศึกษาเท่านั้น หากแต่ควรปฏิรูปที่หัวใจส�ำคัญของการศึกษาคือ “การเรียนรู้” โดยเฉพาะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑ ด้วยเหตุดังกล่าวเร่ืองการอยู่เท่าทันการเปล่ียนแปลง และการคิดเชิงระบบจึงเปน็ เรอื่ งสำ� คัญทก่ี ระบวนการพฒั นาศึกษานเิ ทศก์ให้ความสำ� คัญมาก และจดั ให้เป็นกระบวนการเรียนรู้หน่ึงในกระบวนการเรียนรู้ทั้งหมดด้วย โดยกระบวนการพัฒนาทั้งหมดออกแบบให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกันเชิงเครือขา่ ย และแทรกกระบวนการใหเ้ ปน็ นกั คดิ ตงั้ ค�ำถาม และสะท้อนการเรยี นรู้ด้วยรูปแบบต่างๆ และปลกู ฝงั คณุ ลักษณะเกย่ี วกับการเรียนร้ใู นศตวรรษท่ี ๒๑ จ�ำนวน ๓ ประการคือ แผ่กงิ่ : รายงานการพฒั นาหลกั สูตรพฒั นาศกึ ษานเิ ทศก์รนุ่ ใหม่เพอ่ื การขบั เคลือ่ นการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 70 5/17/2017 8:37:29 PM_Final.indd 70
Learn หรอื การเรยี นรสู้ ง่ิ ใหมๆ่ คอื การหาความรเู้ พม่ิ เตมิ หรอื การรบั รขู้ อ้ มลู บางอยา่ ง ซงึ่ ถอื เป็นกระบวนการท่เี ร่มิ ตน้ ขน้ึ ตง้ั แต่เราเกิดและด�ำเนินไปอยา่ งต่อเนอื่ งตลอดชีวิต Unlearn คือการไม่ยึดติด ยอมละทงิ้ สิง่ ทเี่ คยรูม้ า ซ่ึงพฤตกิ รรมน้ีจะเกดิ ข้ึนได้กต็ ่อเมอ่ื เรา ยอมเปดิ รบั มมุ มองใหมเ่ กย่ี วกบั สง่ิ ตา่ งๆ ทเ่ี รารอู้ ยแู่ ลว้ นบั เปน็ กลยทุ ธห์ นง่ึ ในการรบั มอื กบั การเปลย่ี นแปลง และความไมแ่ นน่ อนทเี่ กดิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ อยา่ งไรกต็ ามไมไ่ ดห้ มายความเพยี งแคก่ ารลมื สงิ่ ทเี่ คยรเู้ ทา่ นนั้ แตย่ งั รวมถงึ การปฏิเสธความเชอ่ื ของตนที่เคยยดึ ถอื ปฏิบัติมากอ่ นหน้านี้ หรอื เลิกยดึ ตดิ กบั ทฤษฎที ่ใี ชก้ นั มายาวนาน และก็ไม่ได้หมายความว่า เราต้องละทิ้งประสบการณ์ที่ส่ังสมมาท้ังหมด หรือบอกว่าวิธีการ ที่เราใช้มาในอดีตน้ันไม่สามารถท�ำให้เราประสบความส�ำเร็จได้อีกต่อไปแล้ว แต่หมายถึงการกระตุ้น ให้เราหมนั่ เปิดรบั แนวทางที่แตกต่างออกไปในการทำ� และเรยี นรสู้ ่งิ ตา่ งๆ Relearn คอื การเรยี นรู้ส่ิงท่ีเราเคยรูแ้ ลว้ ดว้ ยมุมมองใหม่ และตระหนกั ถึงคุณคา่ ของความรู้ ทเ่ี ราไดร้ บั จากมมุ มองนน้ั ๆ นนั่ แปลวา่ คนเราสามารถเรยี นรบู้ างอยา่ งในแงม่ มุ ใหมไ่ ดเ้ สมอ และเราสามารถ พัฒนาความร้แู ละทักษะของเราไดต้ ลอดเวลา ๒. ศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่ในยุคปฏิรูปการเรียนรู้ บทบาทของศึกษานิเทศก์เปลี่ยนแปลงไป จากเดมิ อนั สบื เนอื่ งจากระบบการเรยี นรเู้ กดิ ขนึ้ ใหม่ ครผู สู้ อนเองกเ็ ขา้ ถงึ แหลง่ ขอ้ มลู ขา่ วสารไดเ้ ชน่ เดยี วกนั การเป็นผู้ทรงสิทธ์ิและรอบรู้แต่เดิมนั้นจึงเปล่ียนไป จึงมีความคาดหวังให้ศึกษานิเทศก์เปลี่ยนไปท�ำ หนา้ ทีเ่ ป็นผชู้ แี้ นะ (coach) และพี่เล้ียงทางวิชาการ (mentor) ใหแ้ กค่ รู ซงึ่ เปน็ ผู้เชยี่ วชาญจากภายนอก (outsider) ซ่ึงก็มีอุปสรรคเร่ืองปริมาณโรงเรียนที่ต้องรับผิดชอบจ�ำนวนมาก การพัฒนาแบบชี้แนะ จึงไม่เหมาะกับการต้องใช้เวลาท�ำงานเชิงลึกกับครูจ�ำนวนน้อยและต้องใช้เวลาต่อเน่ืองยาวนาน ดังนั้น บทบาทหนา้ ทขี่ องศกึ ษานเิ ทศกจ์ งึ ตอ้ งเปลยี่ นไปเปน็ นกั จดั การใหค้ รเู กดิ ชมุ ชนการเรยี นรขู้ นึ้ ในสถานศกึ ษา ให้ครูได้เป็นคู่ช้ีแนะ (peer coaching) และเป็นพ่ีเลี้ยงกันเองได้ แล้วหนุนเสริมทรัพยากรในเกิด การขับเคลื่อนคุณภาพการเรียนรู้ ลักษณะงานและบทบาทท่ีเปลี่ยนแปลงไปเช่นน้ีจึงเป็นประเด็นส�ำคัญ ที่ต้องพัฒนาศึกษานิเทศก์ให้เข้าใจการพัฒนาการของการจัดการศึกษาที่ต้องปรับบทบาทของตัวเอง ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ท่เี ปล่ยี นแปลงไป ๓. เนื้อหาสาระที่ใช้ในการพัฒนา สืบเนื่องจากในยุคปฏิรูปการศึกษาที่เนื้อหาสาระมีการ เปลย่ี นแปลงอยตู่ ลอดเวลาดงั กลา่ วแลว้ เนอื้ หาสาระทใี่ ชใ้ นการพฒั นาจงึ ไมไ่ ดอ้ ยทู่ ก่ี ารกำ� หนดเนอ้ื หาสาระ ท่ีตายตัว แต่เป็นการปรับโลกทัศน์ให้เห็นการเปล่ียนแปลงที่ไม่หยุดนิ่ง สร้างให้เกิดการตระหนักที่จะ เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และเน้นให้รู้แหล่งข้อมูลและสารสนเทศต่างๆ ที่จะสามารถพัฒนาได้อย่างต่อเน่ือง นอกจากนี้ไม่ควรมีความจ�ำเพาะอยู่เฉพาะศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่งเท่านั้น แต่ควรมีความหลากหลายเป็น องค์รวม เพ่ือให้ศึกษานิเทศก์มีประสบการณ์เพียงพอที่จะท�ำงานกับโรงเรียนในลักษณะของการพัฒนา ท้ังโรงเรียน (Whole school approach) จากการวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ท่ีพัฒนาขึ้นนั้น พบว่า อยใู่ นลกั ษณะเน้อื หาสาระดังกลา่ วมาแลว้ กลา่ วคอื เนอื้ หาสาระทเ่ี นน้ กระบวนการเรยี นรู้ ประกอบดว้ ยการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาตน ประกอบดว้ ย กระบวนการของจติ ปญั ญาศึกษา (Contemplative education) การศกึ ษาอตั ชวี ประวตั ิ (Biographic) และนพลักษณ์ (Enneagram) เป็นการปูพื้นฐานด้านสติสมาธิ การเข้าใจโลกและชีวิตตามความเป็นจริง ภาวะผู้นำ� ทางการศึกษา (Educational leadership) โครงการศึกษานเิ ทศก์ร่นุ ใหมเ่ พ่อื ขับเคล่ือนการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 71_Final.indd 71 5/17/2017 8:37:30 PM
เนอื้ หาสาระทเ่ี ปดิ โลกทศั นท์ างการศกึ ษา ประกอบดว้ ยแนวคดิ สำ� คญั ของการจดั การศกึ ษาในศตวรรษท่ี ๒๑ กระบวนทัศน์ทางการศึกษาใหม่ และการเรียนรู้ในรูปแบบใหม่ และการจัดการศึกษาแบบองค์รวม (Holistic Education) เรียนรู้การสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมการเรียนรู้ กระบวนการจัดการเรียนรู้ และกระบวนการพัฒนาครโู ดยใชโ้ รงเรียนเป็นฐาน เนอ้ื หาสาระทเี่ นน้ การตดิ ตงั้ เครอ่ื งมอื สำ� หรบั ศกึ ษานเิ ทศกไ์ ปปรบั ใชก้ บั ครผู สู้ อน ประกอบด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการเรียนรู้ และเพื่อใช้ในการพัฒนาครู (Information technology forlearning and professional development) เรยี นรกู้ ระบวนการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศสำ� หรบั การพฒั นาคุณภาพชวี ติ และส่งเสรมิ การท�ำงาน รูปแบบและเครอื่ งมือสำ� หรบั พฒั นาบุคลากร ประกอบด้วยการช้แี นะ(coaching) การศึกษาชั้นเรียน (lesson study) และแนวทางการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ(Professional Learning Community) ท่เี ปน็ แนวทางสำ� คญั ในการพัฒนาวิชาชพี ครู ๔. รปู แบบการพฒั นาศกึ ษานเิ ทศกร์ นุ่ ใหม่ การพฒั นาแบบตอ่ เนอื่ ง (Continuing professionaldevelopment) ควรออกแบบใหม้ กี ารพฒั นาเปน็ หลายระยะ ทอดเวลาใหส้ ามารถนำ� ความรแู้ ละประสบการณ์ที่ได้รับไปทดลองปรับใช้ในการท�ำงาน และสามารถน�ำประสบการณ์กลับมาแลกเปล่ียนเรียนรู้กันได้กระบวนการดังกล่าวเป็นหลักสูตรท่ีเน้นการน�ำไปใช้ (Implemented curriculum) ด้วยวิธีการดังกล่าวสามารถชว่ ยใหศ้ กึ ษานเิ ทศกไ์ ดท้ ำ� งานเชงิ เครอื ขา่ ยไดด้ ว้ ย ซง่ึ เปน็ ตามแนวคดิ ของ ศาสตราจารยน์ ายแพทย์ประเวช วะสี กลา่ วคอื โครงสรา้ งทางสงั คมใหมท่ เ่ี รยี กวา่ INN ตามแนวคดิ ของศาสตราจารยป์ ระเวศ วะสีมดี ังนี้ I = Individual หรือปจั เจกบคุ คล คือ ความรู้ ความสามารถ และสงิ่ ท่เี ปน็ ตวั ตนของเราท่มี ีจติ สำ� นกึ ใหมว่ า่ เรามเี กยี รติ มศี กั ดศ์ิ รี มคี ณุ คา่ มศี กั ยภาพทจี่ ะทำ� อะไรดๆี และรว่ มกนั ทำ� อะไรทด่ี ไี ด้ จติ สำ� นกึใหม่นีจ้ ะปลดปล่อยผคู้ นไปส่ศู กั ยภาพ อิสรภาพ และความสขุ อนั มหาศาล N = Node คือกลุ่มคนที่เปน็ แกนหลักในการดำ� เนนิ การน้ันๆ ซ่ึงเป็นกลุม่ คนขนาดไมใ่ หญ่ทำ� งานร่วมกันอยา่ งใกล้ชิด เปน็ กลุม่ คนทม่ี ีความสนใจร่วมกนั และถูกจรติ กัน รวมตัวร่วมกันท�ำเปน็ กล่มุ ๆอยา่ งหลากหลายกลมุ่ เหลา่ นมี้ คี วามสขุ และสรา้ งสรรค์ เพราะเปน็ ความสมั พนั ธท์ างราบดว้ ยความเสมอภาค N = Network คอื เครือข่าย มีความเชือ่ มโยงกันเปน็ เครอื ข่ายทั้งระหวา่ งบคุ คลและระหวา่ งกลมุ่ โดยทงั้ คนในหนว่ ยงาน กลมุ่ คนในหนว่ ยงาน และหนว่ ยงานตา่ งๆ ทรี่ ว่ มโครงการนจ้ี ะมคี วามสมั พนั ธ์เชือ่ มโยงกนั เปน็ เครือขา่ ยหลายช้นั (Multilevel Networking) สามารถท�ำงานร่วมกนั หนนุ เสรมิ ซ่ึงกันและกันท้ังภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน ตลอดจนเช่ือมต่อไปยังองค์กรต่างๆ ได้อย่างเข้มแข็งและจากแนวคิดดังกล่าว น�ำไปสู่ก�ำหนดเป็นหลักการส�ำคัญโดยอาศัยการจัดการความรู้ (KnowledgeManagement) เป็นเคร่อื งมือสำ� คญั ในการขับเคลอื่ นการเรียนรู้เพอ่ื การพฒั นา ดังนี้ ๑. เรียนรู้ (Learning) จากตนเองและเรยี นรจู้ ากผูอ้ น่ื ทเ่ี ชอ่ื มโยงกับโลกและสังคมโดยใช้ศักยภาพของผูเ้ รยี นและกัลยาณมิตรมากระตุ้นการเรยี นรู้ ๒. จัดกิจกรรมให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล (Tailor Made) ๓. มคี วามยดื หยนุ่ (Flexibility) ทสี่ ามารถปรบั ใหต้ รงกบั ผเู้ รยี นและเปลย่ี นใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณ์ แผก่ ิง่ : รายงานการพฒั นาหลักสตู รพัฒนาศึกษานิเทศกร์ ุ่นใหม่เพื่อการขับเคล่ือนการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 72 5/17/2017 8:37:30 PM_Final.indd 72
๔. มคี วามหลากหลาย (Multiple Strategies & Methods) ๕. เรยี นรู้อยา่ งตอ่ เนอื่ ง จากการทำ� งานและการปฏิบตั งิ านจริง (Continuous Activity Related Learning) ๖. เรยี นรูจ้ ากปฏิสัมพันธ์ทเ่ี กดิ จากการทำ� งานรว่ มกนั (Interactive Learning Through Action) ๗. สรา้ งเครือข่ายการเรียนรู้และเครอื ข่ายการท�ำงาน (Networking) ขอ้ เสนอแนะ ๑. การปฏริ ปู การศกึ ษา จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารออกแบบระบบการพฒั นาบคุ ลากรทกุ ฝา่ ย ใหก้ ารพฒั นา เป็นพลวัตและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ส�ำหรับศึกษานิเทศก์ในฐานะท่ีเป็นบุคคลจากภายนอกโรงเรียน ที่ท�ำหน้าท่ีส�ำคัญในการหนุนเสริมทางวิชาการให้แก่โรงเรียน ซ่ึงควรมีโลกทัศน์และประสบการณ์ทาง การศกึ ษาทก่ี วา้ งขวาง การออกแบบกระบวนการพฒั นาจงึ จำ� เปน็ ตอ้ งมหี นว่ ยงานหรอื งคก์ รทมี่ ารบั ผดิ ชอบ โดยเฉพาะ ทงั้ ควรมีศกั ยภาพในการพัฒนาหลักสตู รทมี่ ลี ักษณะเปน็ พลวตั มรี ะบบการประเมินและพัฒนา หลักสูตรการพัฒนาให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ซึ่งควรมีการประสานเชื่อมโยงกับหน่วยงานหรือองค์กร ท่ีท�ำงานดา้ นต่างๆ เพือ่ ใหส้ ามารถเขา้ ถงึ องคค์ วามรู้ทีม่ าใชใ้ นกระบวนการพัฒนา หรอื ใชเ้ ปน็ แหลง่ เรียนรู้ และศึกษาดงู านได้ ๒. การออกแบบระบบแผนการพฒั นารายบคุ คล (Individual Plan) ทมี่ กี ารออกแบบการประเมนิ สมรรถนะของศกึ ษานิเทศกร์ ายบคุ คล และใหส้ ามารถเลือกวิธีการพัฒนาใหเ้ หมาะสมได้ ด้วยระบบเชน่ นี้ การพฒั นาจงึ ตอ้ งมคี วามหลากหลาย และชว่ ยพฒั นาสมรรถนะของศกึ ษานเิ ทศกแ์ ตล่ ะคนไดจ้ รงิ สอดคลอ้ ง กบั สภาพการท�ำงานมากขึ้น ๓. กระบวนการเรียนรู้เป็นหัวใจส�ำคัญของกระบวนการพัฒนา ดังน้ันในกระบวนการพัฒนา จึงมีการผสานการให้สะท้อนบทเรียน การเสวนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการบันทึกการเรียนรู้ เพื่อให้ กระบวนการเรียนรู้มีความลุ่มลึกมากขึ้น ตลอดจนระบบการท�ำงานแบบเครือข่ายการเรียนรู้ช่วยเอ้ือ ใหเ้ กิดการจดั การความรู้และน�ำความรูไ้ ปปรับใช้ตอ่ ไปได้ ๔. การด�ำเนินการพฒั นาบุคลากรมีความจ�ำเป็นอย่างยงิ่ ที่ตอ้ งศึกษาข้อมูลพน้ื ฐานอยา่ งรอบด้าน เพอ่ื ใหไ้ ดส้ ารสนเทศประกอบการวางทศิ ทางในการพฒั นาไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพ การดำ� เนนิ การสามารถทำ� ได้ หลายลักษณะประกอบด้วย การศึกษาเอกสารต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือให้เห็นพัฒนาการของการพัฒนา ศึกษานิเทศกใ์ นอดีต การประชุมกลมุ่ สัมภาษณ์ (Focus Group Interview) ซึ่งขนั้ ตอนนมี้ คี วามส�ำคญั มากท่ีต้องมีข้อมูลอย่างรอบด้าน นอกจากนี้การตีความเร่ือง “การปฏิรูปการศึกษา” ซ่ึงอาจยังไม่มี ความชัดเจนนัก จ�ำเป็นต้องมีการคิดจิตนาการสถานการณ์ในอนาคตด้านการศึกษาท่ีจะเกิดข้ึน ทิศทาง และแนวโน้มตามบริบทสังคมท่ีเกิดขึ้น ได้แก่ การเกิดขึ้นของการจัดการศึกษาท่ีเน้นการบูรณาการ ของศาสตร์หลากหลายสาขา ได้แก่ การเกิดข้ึนของการจัดการศึกษา STEM การท่ีองค์ระดับโลก ใหค้ วามสนใจเกยี่ วกับการก�ำหนดเป้าหมายการพัฒนาที่ย่งั ยนื ของโลก ๑๗ ประการ (The Global Goals for Sustainable Development) กลา่ วคือ เมือ่ วนั ท่ี ๒๕ กันยายน ๒๕๕๘ ผู้นำ� ประเทศกว่า ๑๙๓ ชาติ_Final.indd 73 โครงการศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหมเ่ พอื่ ขบั เคล่อื นการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 73 5/17/2017 8:37:30 PM
ได้เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ (UN General Assembly) ณ กรุงนิวยอร์คเพื่อรับรอง \"เปา้ หมายการพัฒนาทย่ี ั่งยืนของโลก ๑๗ ประการ\" (The Global Goals for SustainableDevelopment) ประกอบด้วย ๑) ขจัดความยากจน ๒) ขจัดความอดอยาก ๓) การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ๔) การศึกษาที่มีคุณภาพ ๕) ความเท่าเทียมทางเพศ ๖) สุขาภิบาลและน้�ำสะอาด๗) การมีพลังงานสะอาดใช้อย่างเพียงพอ ๘) งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ๙) พัฒนาภาคอตุ สาหกรรม นวตั กรรมและโครงสรา้ งพน้ื ฐานใหพ้ รอ้ ม ๑๐) ลดความเหลอื่ มลำ้� ๑๑) สรา้ งใหเ้ กดิ ชมุ ชนเมืองท่ีย่ังยืน ๑๒) การบริโภคและผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ ๑๓) การดูแลเร่ืองสภาพภูมิอากาศ๑๔) ดูแลทรัพยากรทางน�้ำ ๑๕) ชีวิตบนพื้นดิน ๑๖) การสร้างความสงบ ความยุติธรรมและสถาบันท่ีเข้มแข็ง และ ๑๗) ภาคีความร่วมมือเพื่อผลักดันให้ถึงเป้าหมาย ซึ่งล้วนแต่มีความส�ำคัญทั้งในแง่ของการก�ำหนดเนอ้ื หาสาระและวิธกี ารทีใ่ ชใ้ นการจดั การพัฒนา ๕. กระบวนการพฒั นาควรออกแบบใหม้ คี วามตอ่ เนอ่ื ง (Continuing professional development)ให้สามารถมีชว่ งเวลาในการเรยี นรู้และสามารถน�ำความร้ไู ปปรับใชใ้ นการท�ำงาน ท�ำใหก้ ารเรียนรู้ดังกล่าวมีความหมายและเกิดประโยชน์มากยิ่งข้ึน ท้ังนี้ควรค�ำนึงถึงภาระงานปกติท่ีศึกษานิเทศก์แต่ละคนรบั ผดิ ชอบอยู่ ไมค่ วรให้กระทบการท�ำงานปกติ การวางแผนงานระยะยาวตอ่ เน่ืองทั้งปจี ึงเปน็ เร่ืองจำ� เป็นนอกจากนกี้ ารวางระบบท่ีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเรยี นรู้ ๓ ประการ กล่าวคอื ๕.๑ การทบทวนและสะทอ้ นการเรียนรู้ (Review and Reflection) ท่ใี หม้ กี ารทบทวนและสะทอ้ นบทเรยี นต่าง ๆ อย่างสมำ�่ เสมอ จะช่วยให้การเรยี นรู้เป็นไปอย่างธรรมชาติและสามารถปรับเปลยี่ นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม รปู แบบอาจใชว้ ธิ กี ารหลากหลาย ไดแ้ ก่ การใหพ้ ดู สะทอ้ นการเรยี นรใู้ นกลมุ่ การใหเ้ ขยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้ ๕.๒ การให้ได้เรียนรู้จากประสบการณโ์ ดยการนำ� ความรแู้ ละประสบการณ์ต่างๆ ที่ไดร้ บั ไปปรับใช้ในการท�ำงานของตนเองหรือการได้มีโอกาสทดลองลงมือจัดการฝึกอบรมข้ึนในงานที่ตนเองรบั ผิดชอบอยู่ จะช่วยให้เกดิ ความเข้าใจมากย่งิ ข้ึน ๕.๓ การเปิดโอกาสให้ศกึ ษานิเทศกไ์ ดท้ �ำงานร่วมกนั เป็นเครือข่ายการเรียนร้แู บบมอื อาชพี(Professional Learning Community) ซ่ึงการพัฒนาศึกษานิเทศก์ที่อยู่ต่างเขตพ้ืนท่ีและมีหน้าท่ีที่รับผิดชอบแตกต่างกัน อาจเกิดความไม่สะดวกในการท�ำงานได้ การมอบหมายให้มีแบบฝึกหัดโดยการให้ทำ� โครงการขนาดเล็ก (Mini Project) ซึ่งไม่จ�ำเปน็ ต้องไดล้ งมอื ปฏิบตั ิโครงการจริง แตไ่ ด้ฝึกการคน้ ควา้ หาข้อมลู การศกึ ษาเอกสาร การฝึกการเขยี นโครงการ การน�ำเสนองาน และการตอบคำ� ถามผู้ทรงคุณวฒุ ิ กล็ ้วนแต่เป็นการจำ� ลองสถานการณใ์ ห้ฝกึ ท�ำงานงานรว่ มกันไดด้ ี ๖. ธรรมชาติการท�ำงานของศึกษานิเทศก์ในแต่ละเขตพ้ืนท่ีแตกต่างกัน โดยปกติมีการท�ำงานใน ๓ ลกั ษณะ คือ ๑) รบั ผดิ ชอบงานตามโครงการต่าง ๆ (Project-based Approach) เน้นการประชมุสัมมนา สร้างความเข้าใจ นิเทศและติดตามตามเป้าหมายของโครงการ ๒) งานท่ีแบ่งพื้นท่ีการพัฒนา(Area-based Approach) เน้นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาโดยรวมของสถานศึกษาหรือกลุ่มของสถานศกึ ษาทร่ี บั ผดิ ชอบ และ ๓) งานตามสายงานหรอื รายวชิ าทร่ี บั ผดิ ชอบ (Subject-based Approach)เน้นการนิเทศและพัฒนางานตามสาขาวิชาที่รับผิดชอบ เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ การศึกษาปฐมวัย แผ่กง่ิ : รายงานการพัฒนาหลักสตู รพฒั นาศึกษานิเทศกร์ ุน่ ใหม่เพื่อการขบั เคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ : 74 5/17/2017 8:37:30 PM_Final.indd 74
หรือตามสายงานของส�ำนักงาน เช่น หลักสูตร การวัดประเมินผล เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา การวางแผนการพัฒนางานจึงควรค�ำนึงถึงประเด็นท่ีใช้ในการพัฒนา กล่าวคือ บางเร่ืองศึกษานิเทศก์ อาจได้รับการพัฒนาในระบบปกติท่ีจะต้องได้รับการพัฒนาอยู่แล้ว กระบวนการพัฒนาใหม่ที่พัฒนาข้ึน จงึ ไมค่ วรซำ�้ ซอ้ นกนั เวน้ เสยี แตเ่ ปน็ หลกั สตู รการพฒั นาทมี่ คี วามเขม้ ขน้ กวา่ ปกติ (Intensive / Advanced Course) และส่ิงที่ส�ำคัญมากหลักสูตรการพัฒนาข้ึนน้ีควรมีลักษณะพิเศษที่ไม่อาจรับการพัฒนาได้จาก หลักสูตรทั่วไป ซึ่งอาจพิเศษเนื่องจากตัววิทยากรเองหรือจากเนื้อหาสาระที่ใช้ในการอบรม ดังนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบงานนี้จึงต้องมีศักยภาพในการระดมทรัพยากรในการพัฒนาสูงและมีเครือข่าย พอทสี่ ามารถส่งศึกษานิเทศกเ์ ข้าไปศกึ ษาดูงานหรือเชญิ วทิ ยากรมาให้ความรู้ ๗. การออกแบบระบบการท�ำงานการพัฒนาควรออกแบบการจัดเก็บความรู้ท่ีเกิดข้ึนที่เป็น ความร้ฝู งั ลกึ (Tacit Knowledge) ดว้ ยการมกี ารบนั ทึกความรใู้ นรปู แบบต่างๆ ทัง้ ภาพและเสยี ง หรอื การใหม้ กี ารบนั ทกึ การเรยี นรู้ (Learning Journal) เพอ่ื ใหส้ ามารถผลติ คณุ ภาพซำ้� ได้ และทำ� ใหช้ ดุ ความรู้ เกดิ ขึ้นสามารถกระจายตวั ได้เรว็ มากขึน้ ถือเปน็ การพฒั นางานในกระบวนทัศน์ใหม่_Final.indd 75 โครงการศึกษานเิ ทศก์รุ่นใหมเ่ พ่ือขบั เคลือ่ นการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 75 5/17/2017 8:37:30 PM
รายการอ้างองิ เอกสารอ้างองิ ชลธชิ า รอดผล. (๒๕๔๒). การศกึ ษาการปฏบิ ตั งิ านของศกึ ษานเิ ทศก์ สำ� นกั งานการประถมศกึ ษาอำ� เภอ/ กิ่งอ�ำเภอ ตามเกณฑ์มาตรฐานศึกษานิเทศก์ของกระทรวงศึกษาธิการ. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ มหาบณั ฑติ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ปญั ญา อคั รพทุ ธพงศ.์ (๒๕๕๗). ปจั จยั ทางสถานภาพของครทู สี่ ง่ ผลตอ่ ความตอ้ งการรปู แบบการนเิ ทศ การสอนของครูโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน. วทิ ยานิพนธ์ครุศาสตรม์ หาบัณฑติ คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. พิทยา เขม้นเขตวทิ ย.์ (๒๕๕๐). การวเิ คราะห์การปฏบิ ัติงานนเิ ทศการศกึ ษานเิ ทศก์ สำ� นกั งานเขตพ้ืนท่ี การศกึ ษาจนั ทบุรี. วทิ ยานพิ นธ์ครศุ าสตร์มหาบณั ฑติ คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. ศุภวชิ ญ์ ศิริผลวุฒิชยั . (๒๕๕๗). พฤติกรรมการนิเทศของผ้นู เิ ทศตามการรบั รแู้ ละความคาดหวงั ของครู โรงเรยี นในเครอื มลู นิธิคณะเซนตค์ าเบรยี ลแห่งประเทศไทย. วทิ ยานิพนธค์ รศุ าสตรม์ หาบัณฑติ คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สบื คน้ จากอินเทอรเ์ น็ต ความหมายและความสำ� คัญในการน�ำ ICT มาใชใ้ นการเรียนรู้ eclassnet.kku.ac.th/etraining/file/1199986548-act1-ICTmeanning%๒๐before16-11-50.doc_Final.indd 76 5/17/2017 8:37:33 PM
ภาคผนวก ๑. แบบประเมินการผลการด�ำเนินการรายโมดูล ๒. แบบบันทึกการเรียนรู้ (After action review: AAR) ๓. แบบทดสอบกอ่ นการพัฒนา “โครงการศึกษานิเทศกร์ ่นุ ใหม่ เพื่อขับเคลอื่ นการปฏิรปู การเรียนรู”้ ๔. รายชื่อโครงการพเิ ศษ(Mini project) ๕. บทสะท้อนการเรียนรู้รายบคุ คล_Final.indd 77 5/17/2017 8:37:36 PM
แบบประเมินผลการดาํ เนินงาน กระบวนการเรียนรทู้ ่ี ๑ การปฐมนิเทศและประชุมปฏบิ ัตกิ ารเพื่อพฒั นาศกั ยภาพ “จิตตปัญญาศึกษา” ระหวา่ งวนั ท่ี ๒๐ – ๒๓ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ กนกรัตน์ รสี อรท์ จงั หวดั สมทุ รสงคราม คาํ ชี้แจง ใหท้ า่ นทาํ เคร่ืองหมาย ลงในข้อทีต่ รงกบั ความคิดเหน็ ของท่าน และตรงกับความเปน็ จริง ให้มากทส่ี ุด ท่ี รายการประเมนิ ระดับความคดิ เหน็ /ความพงึ พอใจ 1 ความรวดเร็ว และชดั เจนในการประสานงานระหวา่ ง คณะกรรมการดําเนนิ งานและผูเ้ ข้ารบั การพัฒนา 2 ความเหมาะสมของระยะเวลาในจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ 3 ความเหมาะสมของสถานท่ี และสภาพแวดล้อมทีใ่ ช้จัดกจิ กรรม การเรยี นรู้ 4 ความเหมาะสมของเอกสารประกอบการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ 5 ความเหมาะสมของวทิ ยากร 6 การมสี ่วนร่วมของผู้เข้ารบั การพัฒนา 7 ความสอดคลอ้ งของเน้ือหา และรปู แบบในการจดั กจิ กรรมการ เรียนรู้ 8 กิจกรรมการเรียนรสู้ ามารถนาํ ไปใชใ้ นการพฒั นาตนเอง และ พัฒนางานในองค์กร 9 ประโยชนท์ ไี่ ด้รับจากการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ครงั้ นี้ 10 ความพงึ พอใจต่อการจดั กิจกรรมการเรยี นรใู้ นภาพรวม รวมเฉล่ีย จุดเดน่ ของการจดั กิจกรรมการเรียนรคู้ ร้ังนี้ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................แผก่ ิ่ง : รายงานการพฒั นาหลกั สตู รพฒั นาศึกษานเิ ทศกร์ ุน่ ใหม่เพือ่ การขับเคลื่อนการปฏริ ปู การเรียนรู้ : 78_Final.indd 78 5/17/2017 8:37:37 PM
จดุ ควรพฒั นา ของการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้คร้ังน้ี .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ข้อเสนอแนะอื่นๆ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................._Final.indd 79 โครงการศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหมเ่ พ่อื ขบั เคลื่อนการปฏริ ปู การเรยี นรู้ : 79 5/17/2017 8:37:37 PM
แบบบนั ทกึ การเรียนรู้ (After action review: AAR) รายบุคคล Module ที่ .... (หวั ข้อ...................................................................) ชือ่ ..................................................................... การอบรมใน Module น้ี จดั ข้นึ ระหวา่ งวนั ที่ ...................................... โดยมีรายละเอยี ดท่ีไดร้ ับดังนี้สาระสําคญั...............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ประโยชนท์ ่ไี ดร้ ับจากการพฒั นา........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................การนาํ องคค์ วามร้แู ละประสบการณท์ ีไ่ ด้ไปสกู่ ารปฏบิ ัติ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ลงนาม......................................................ผู้สรปุ (สงั กดั ............................) แผ่ก่ิง : รายงานการพฒั นาหลกั สตู รพัฒนาศึกษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พอื่ การขับเคลอื่ นการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 80 5/17/2017 8:37:37 PM_Final.indd 80
แบบทดสอบกอ่ นการพฒั นา “ โครงการศกึ ษานิเทศกร์ นุ่ ใหม่เพ่อื ขบั เคลื่อนการปฏิรปู การเรยี นรู้ ” คําช้ีแจง 1. แบบทดสอบฉบับน้ี เปน็ แบบทดสอบปรนัย ชนดิ 4 ตวั เลือก มีท้งั หมด 25 ขอ้ 25 คะแนน ใชเ้ วลาในการทําแบบทดสอบ 40 นาที 2. ห้ามขีดเขียน หรือทําเครื่องหมายใดๆ ลงในแบบทดสอบ 1. ข้อใดคือหลกั การพ้ืนฐานของการจดั กระบวนการเรียนรูแ้ นวจติ ตปัญญาศึกษา ก. หลักชุมชนแห่งการเรียนรู้ (Community) ข. หลักการเรียนรูอ้ ยา่ งสร้างสรรค์ (Creativity) ค. หลักการเรียนรอู้ ยา่ งกระจ่างแจง้ (Clarity) ง. หลกั อํานวยความสะดวกในการเรยี นรู้(Convenience) 2. ใครปฏิบตั ิตามแนวทางจิตตปญั ญาศกึ ษา ก. ภาวดีรบั รู้อารมณโ์ กรธที่เกดิ ข้นึ และพยายามกดขม่ อารมณ์น้ันไว้ ข. ราตรยี อมรับอารมณ์เศรา้ ที่ปรากฏขึ้นมาและอย่รู ว่ มกบั ความรู้สกึ นัน้ ค. วชิ ยั หมนั่ สังเกตสภาวะอารมณ์ของตนเองตลอดวนั โดยพยายามไม่ใหเ้ กดิ อารมณล์ บขน้ึ ง. สายฟา้ ดาํ เนนิ ชวี ิตอยา่ งเรียบง่าย พยายามไม่สรา้ งความขดั แย้งขึ้นในใจ 3. ขอ้ ใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องการศึกษานพลักษณเ์ พือ่ การทาํ งานในองค์กร ก. เพื่อใหเ้ ขา้ ใจพฤติกรรมตนเองในเชิงลกึ ข. เพ่ือคดั แยกสมาชกิ ในองค์กรท่ีมบี คุ ลกิ เหมอื นกัน ค. เพือ่ การส่อื สารระหว่างบคุ คลอย่างสรา้ งสรรค์ ง. เพื่อจดั การกบั ขอ้ ขดั แย้งท่อี าจเกิดขนึ้ ในการทํางาน 4. ชวี ิตคนเราสัมพันธก์ ับดวงดาว ชว่ งชีวิตในแต่ละวัยได้รับอิทธพิ ลจากดวงดาวท่ีแตกต่างกัน วัย 14-21 ปี ได้รับอทิ ธิพลจากขอ้ ใด ก. ดาวอังคาร ข. ดาวพุธ ค. ดาวพฤหัส ง. ดาวศกุ ร์ 5. ประสบการณท์ ่ไี ด้รับในชว่ งวยั 7-14 ปี ควรเป็นอยา่ งไรเพื่อใหช้ วี ติ ในชว่ งวยั 28-35 ปี มคี วามกล้าหาญ กลา้ ท่ีจะริเริม่ สามารถดาํ เนนิ ชวี ิตได้เป็นอย่างดี ก. ไดฟ้ งั เร่อื งราวการผจญภัย มจี งั หวะชีวิตท่ีสมดลุ เรยี นรู้การทําตามความทรงสิทธิ์ของครู ข. อยู่ในครอบครัวท่ีอบอ่นุ สิ่งแวดล้อมทดี่ ี เรียนรจู้ ากการเลียนแบบสิง่ ต่างๆรอบตัว ค. ไดร้ บั โอกาสทีต่ อ้ งตดั สินใจด้วยตนเอง เรยี นรูเ้ หตุและผลของการกระทาํ ของตน ง. อยูใ่ นส่งิ แวดล้อมที่มีความท้าทาย เรยี นรจู้ ากการแก้ปญั หาทีส่ ะทอ้ นภาพของสงั คม 6. All for Education หมายถึงข้อใด ก. ใหส้ ังคมมสี ่วนร่วมในการจัดการศกึ ษา ข. การจัดการศกึ ษาเป็นไปเพอ่ื พฒั นาคนไทยใหเ้ ป็นมนษุ ย์ท่สี มบูรณ์ ค. เปน็ การศึกษาตลอดชีวิตสําหรับประชาชน ง. การพฒั นาสาระและกระบวนการเรยี นรู้ให้เปน็ ไปอยา่ งตอ่ เนื่อง โครงการศึกษานิเทศก์รุ่นใหมเ่ พือ่ ขบั เคลื่อนการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 81_Final.indd 81 5/17/2017 8:37:37 PM
7. ผู้เรยี นเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองตามความสนใจ คือข้อใดก. วิทยาลัยการอาชีพ ข. การศกึ ษานอกโรงเรยี นค. การศึกษาโดยครอบครัว ง. การศึกษาขน้ั พื้นฐาน8. ศนู ยก์ ารเรียนตาม พ.ร.บ.การศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 คอื สถานท่ีจัดการศึกษาตามขอ้ ใดก. บคุ คลครอบครวั ข. สถาบนั ศาสนาค. โรงพยาบาล ง. ทกุ ข้อ9. ความคดิ เชิงระบบ (System Thinking) ข้อใดทีถ่ กู ต้องท่ีสดุก. การคดิ เปน็ ข้นั เป็นตอน มองปจั จยั ท่เี กย่ี วข้องอยา่ งครอบคลุม ในการทาํ งานหรอื กิจกรรมอย่างใดอย่างหน่งึข. การคิดวเิ คราะหจ์ ุดเด่น จุดด้อย ภาวะคกุ คามหรือโอกาสความสาํ เร็จของงานค. การคดิ พฒั นางาน โดยนาํ ผลการประเมินไปใชพ้ ัฒนางานอยา่ งต่อเนือ่ งของแตล่ ะงานง. การคิดแผนงาน/โครงการมีความสอดคลอ้ งสัมพนั ธก์ นั ทกุ องค์ประกอบและสอดคล้องกับนโยบาย/ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาองค์กร10. หลกั การคิดเชิงระบบ (System Thinking) ข้อใดไม่ถกู ตอ้ งทีส่ ุดก. P : Planning ข. D : Doingค. C : Checking ง. A : Acting11. ผู้ท่มี ีภาวะผ้นู าํ ตอ้ งมสี ิ่งใดต่อทัศนคตขิ องผู้ตามก. บารมี ข. อทิ ธิพลค. อํานาจหนา้ ที่ ง. ความศรัทธา12. ฐานอาํ นาจของผู้นาํ สําหรับศกึ ษานิเทศก์ ด้านใดทีม่ คี วามจําเป็นท่สี ดุ สาํ หรบั การทาํ งานกบั ครผู รู้ บั การนเิ ทศก. ข้อมลู ข่าวสาร ข. เครอื ขา่ ยค. ความเชีย่ วชาญ ง. ฐานอํานาจตามกฎหมาย13. ข้อแตกตา่ งระหว่าง ผูบ้ รหิ าร และผ้นู ํา ขอ้ ใดคอื สาระสาํ คญั ทสี่ ดุก. ผู้บรหิ ารตอ้ งมีคาํ สั่งแต่งตั้ง ผู้นําไมต่ ้องมีข. ผ้บู ริหารตอ้ งมปี ระสบการณ์ ผู้นาํ จะมหี รือไม่มีก็ได้ค. ผูบ้ ริหารต้องปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบ ผู้นาํ ยดึ หยนุ่ ไดต้ ามสถานการณ์ง. ผูบ้ ริหารทํางานโดยมภี าระงานกํากับชัดเจน แต่ผู้นําเกิดจากความเต็มใจในการช่วยเหลืองานนั้นๆ14. พฤตกิ รรมของใครทสี่ ะท้อนถึงการเป็นผู้นําการเปลี่ยนแปลงไดช้ ดั เจนทีส่ ดุก. สมหวังช่วยเหลอื ผรู้ ว่ มงานทุกคนโดยไม่หวังส่ิงตอบแทนข. สมศกั ด์คิ อยสนบั สนุนให้ลูกน้องได้เจริญกา้ วหน้าในหน้าทกี่ ารงานอยู่เสมอค. สมศรีใหค้ วามจริงใจและเอือ้ อาทรต่อผู้ทเี่ ดือดร้อนโดยไมค่ ํานึงถึงตัวเองง. สมบัตมิ ุ่งมั่นท่จี ะสร้างบรรทดั ฐานใหม่ของการประเมินผลการทํางานท่ียดึ ตามผลของงาน15. ขอ้ ใดเปน็ ปัจจยั สําคญั ทสี่ ุดของการเกดิ ภาวะผนู้ าํ การเปลีย่ นแปลงก. แรงบันดาลใจภายในตน ข. ภาวะกดดันจากสิ่งแวดล้อมภายนอกค. การขวนขวายใฝร่ อู้ ยู่เสมอ ง. การมีผู้นําต้นแบบทคี่ อยชแ้ี นะ แผ่กิ่ง : รายงานการพัฒนาหลักสูตรพัฒนาศกึ ษานิเทศก์ร่นุ ใหมเ่ พ่อื การขบั เคล่ือนการปฏิรูปการเรียนรู้ : 82 5/17/2017 8:37:38 PM_Final.indd 82
_Final.indd 83 16. เทคโนโลยสี ารสนเทศ คืออะไร ก. การนําเอาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาพฒั นาเป็นองคคว์ ามรู้ ข. การประยกุ ตเ์ อาความร้ทู างดา้ นวทิ ยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศท่ีต้องการ ค. การแสวงหาความรู้ทางวทิ ยาศาสตรม์ าจดั การสารสนเทศที่ต้องการ ง. การวเิ คราะห์และการจัดการขอ้ มลู ทางวทิ ยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศทีต่ อ้ งการ 17. ขอ้ ใดคือความหมายของ Download ก. การโอนยา้ ยขอ้ มลู เคร่อื งสว่ นบุคคลมายงั เครือ่ งแมข่ ่าย ข. การโอนยา้ ยขอ้ มลู ในเครือ่ งส่วนบุคคล ค. การโอนย้ายข้อมลู ไปเกบ็ ในเคร่อื งแมข่ า่ ย ง. การโอนยา้ ยขอ้ มลู จากเครอ่ื งแม่ขายมายงั เครือ่ งสว่ นบคุ คล 18. จรรยาบรรณของผใู้ ช้ Internet คือข้อใด ก. สําเนาโปรแกรมทม่ี ลี ขิ สทิ ธ์ิ ข. เขา้ ไปใชส้ ารสนเทศทไี่ มใ่ ช่ของตน ค. คํานึงถงึ ผลกระทบต่อสังคมสารสนเทศ ง. สรา้ งหลักฐานเทจ็ เกยี่ วขอ้ มลู สารสนเทศ 19. ข้อใดไมใ่ ชบ่ ริการบน Internet ก. HTML ข. WWW ค. FTP ง. ไม่มีข้อใดถกู 20. ข้อดขี องสายใยแกว้ นําแสงคอื ข้อใด ก. ยากต่อการดกั ขอ้ มลู เนอ่ื งจากมีความปลอดภยั สูง ข. สง่ ขอ้ มลู ไดร้ วดเรว็ เน่ืองจากมคี วามต้านทานไฟฟา้ ตาํ่ ค. เหมาะกับการติดตง้ั ทกุ สภาพ เน่อื งจากมีความยืดหย่นุ สูง ง. เหมาะกับการติดตงั้ ด้วยตนเอง เนื่องจากมีความราคาถกู 21. การศึกษาช้นั เรยี น (Lesson Study) เปน็ การวิจัยประเภทใด ก. การวิจยั เชงิ สํารวจ ข. การวิจัยเชิงทดลอง ค. การวจิ ยั กึ่งทดลอง ง. การศกึ ษาเฉพาะกรณี 22. กญุ แจสําคญั สู่ความสาํ เร็จของการศกึ ษาชั้นเรียนคือขอ้ ใด ก. การวางแผน (Planning) ข. การทบทวนและสะทอ้ นผล (Revise & Reflection) ค. การเรยี นการสอน (Learning & Teaching) ง. ความร่วมมอื (Collaboration) 23. ขอ้ ใดไม่ใชแ่ นวคดิ ของการศึกษาช้นั เรียน (Lesson Study) ก. การสรุปบทเรียน ข. การปรับปรุงบทเรยี น ค. การพฒั นาการเรยี นการสอน ง. การปรบั ปรุงการเรยี นการสอน โครงการศึกษานเิ ทศก์รุ่นใหมเ่ พ่ือขับเคลอ่ื นการปฏริ ูปการเรียนรู้ : 83 5/17/2017 8:37:38 PM
24. ข้อใดเป็นขั้นตอนกระบวนการพื้นฐานของ Lesson Study ที่ถกู ต้อง ก. วางแผน ==> สงั เกต ==> อภิปราย ==> สะท้อนผล ==> นําไปใช้ ข. วางแผน ==> สงั เกต ==> อภปิ ราย ==> นาํ ไปใช้ ==> สะท้อนผล ค. วางแผน ==> นาํ ไปใช้ ==> สงั เกต ==> สะทอ้ นผล ==> อภิปราย ง. วางแผน ==> นําไปใช้ ==> สงั เกต ==> อภปิ ราย ==> สะท้อนผล25. ประโยชนส์ ูงสุดทีเ่ ป็นคณุ คา่ ของการศึกษาช้ันเรียนคือข้อใด ก. เป็นหน่ึงกระบวนการร่วมมอื ครูเพ่ือพัฒนางานและเลือ่ นวิทยฐานะ ข. การพฒั นาการเรียนการสอนในหน้าท่คี รอู ย่างต่อเนอื่ งให้เกิดการเปลยี่ นแปลงร่วมกัน ค. การสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการเรยี นการสอนที่เนน้ ความร่วมมือและพฒั นาศาสตร์การสอนให้เขม้ แขง็ ง. ยกระดับคุณภาพการสอนของครแู ละเพ่ิมสมรรถภาพการเรียนรู้ของนกั เรียนใหส้ งู ข้นึ ดว้ ยกระบวนการวิจัยเฉลยแบบทดสอบกอ่ นการพฒั นาโครงการศกึ ษานิเทศก์ร่นุ ใหมเ่ พื่อขบั เคลือ่ นการปฏริ ูปการเรียนรู้1 ก 11 ข 21 ข2 ข 12 ค 22 ก3 ข 13 ก 23 ก4 ง 14 ง 24 ง5 ก 15 ก 25 ข6 ก 16 ง7 ค 17 ง8 ง 18 ค9 ก 19 ง10 ง 20 ก แผ่กิง่ : รายงานการพัฒนาหลักสตู รพัฒนาศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหมเ่ พอ่ื การขบั เคล่อื นการปฏิรูปการเรยี นรู้ : 84 5/17/2017 8:37:38 PM_Final.indd 84
รายช่ือโครงการพเิ ศษ (Mini project) ผลงานของศึกษานิเทศก์ทแ่ี ตล่ ะกลมุ่ นาํ เสนอ เปน็ แบบฝกึ หดั การทาํ งานรว่ มกนั และการทดลอง ประยกุ ตใ์ ชป้ ระสบการณแ์ ละความรทู้ ไ่ี ดร้ ับการพัฒนา ประกอบดว้ ย 6 เรือ่ ง ดังนี้ 1. พัฒนาครโู รงเรยี นศนู ยเ์ ด็กปฐมวัยต้นแบบและตน้ แบบเครอื ข่ายเพอื่ เตรียมความพรอ้ มทักษะทาง ภาษาด้านการอ่านและการเขยี นสาํ หรบั เด็กปฐมวยั ช้ันอนบุ าลปีที่ 2 โดยใช้ชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ าง วิชาชพี (PLC) 2. โครงการจัดการเรยี นรู้ตามแนว STEM ในสถานศกึ ษา 3. โครงการพัฒนารปู แบบชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวิชาชีพ สาํ หรับครูสงั กดั สํานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษา มัธยมศึกษา เขต 36 ด้วยเทคโนโลยสี ารสนเทศ 4. โครงการพฒั นาสมรรถนะด้านไอซีทีสําหรบั ครใู นศตวรรษที่ 21 สู่ห้องเรยี นแสนสขุ 5. โครงการรปู แบบการพัฒนาครูเพอื่ ปฏริ ปู การจดั การเรยี นรบู้ ูรณาการตามแนวทางสะเต็มศึกษา (STEM Education) ส่ทู ักษะของผ้เู รยี นในศตวรรษที่ 21 6. โครงการพฒั นาการศกึ ษาเพอ่ื อาชีพด้วยรูปแบบการจัดการเรยี นรแู้ บบ CPBL (Creative Project- Based Learning)_Final.indd 85 โครงการศกึ ษานิเทศก์รนุ่ ใหมเ่ พือ่ ขบั เคลื่อนการปฏิรูปการเรียนรู้ : 85 5/17/2017 8:37:38 PM
(ตัวอย่าง) บทสะท้อนการเรยี นรูร้ ายบคุ คล Module ท่ี 2 ภาวะผู้นาํ ทางการศึกษา นางสาวชบา พนั ธ์ศุ ักด์ิ การอบรมกระบวนการเรียนรู้ที่ 2 ภาวะผู้นําทางการศึกษา จัดขึ้นระหว่างวันท่ี ระหว่างวันท่ี 21-24มกราคม 2559ณ โรงแรมบางแสนเอสทู อําเภอเมือง จังหวัดชลบุรีสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมได้ดงั นี้สาระสาํ คญั ช่วงเช้าของวันท่ี 22 มกราคม 2559 เป็นการบรรยายความสําคัญและความจําเป็นของภาวะผู้นําทางการศึกษาสําหรับศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่ โดย ดร.สมุทร ชํานาญ ประธานหลักสูตรการศึกษามหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพาซึ่งภาวะผู้นําเป็นสิ่งสําคัญและจําเป็นที่ต้องมีในตัวบุคคลทั้งผู้นําและสมาชิกขององค์การ เป็นส่ิงท่ีมีลักษณะของศาสตร์และศิลป์ คือสอนให้รู้และสอนให้ทํา การทําให้การศึกษามีคุณภาพต้องอาศัยผู้นําท่ีเข้มแข็ง มีเป้าหมายชัดเจน มีบรรยากาศทางวิชาการ การส่ือสารท่ีดีมีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน และสะท้อนผลสําเร็จท่ีเป็นรูปธรรม ผู้นําจึงมีบทบาทและอิทธิพลในการทําให้หน่วยงานบรรลุเป้าหมายมากกว่าคนอื่น ส่ิงท่ีสําคัญที่สุดคือการพัฒนาบุคลกร ในการเป็นผู้นําควรตระหนักไว้เสมอวา่ “ทุกปญั หามีทางแก้” กลยุทธ์สูค่ วามสาํ เรจ็ ของผู้นาํ ทางวิชาการ “ผู้นาํ ไมใ่ ช่เจ้านาย แตผ่ ้นู ําคือผรู้ ับใช้”(By Greenleaf) ช่วงบ่ายของวนั ท่ี 22 มกราคม 2559 เปน็ การบรรยายกรณศี ึกษาประสบการณ์ด้านการพัฒนาภาวะผูน้ าํ การเปล่ียนแปลงสําหรับศกึ ษานเิ ทศก์ (Dialogue) โดย ดร.ชัยพจน์ รักงาน อดตี หวั หนา้ หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์เขต 5 ผู้ทรงคุณวุฒิประจําสาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยบูรพาโดยคุณสมบัติสําคัญของผู้ท่ีมีภาวะผู้นํา คอื การบริหารเวลา วิทยากรนําเสนอคําว่า “ชั่วโมงศักด์ิสิทธิ์” ซ่ึงสิ่งที่ได้จากคํานี้น้ันสะทอ้ นคุณลักษณะหลายประการ ได้แก่ ความมีวินัยในตนเอง ความมุ่งมั่นต้ังใจ ความเข้มแข็งทางจิตใจ การคิดวิเคราะห์ลําดับความสําคัญของภาระงาน การแสวงหาความรู้รวมถึงความเป็นมืออาชีพทางวิชาการ ต่อจากน้ันเป็นการนําเสนอผลการถอดบทเรียนปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลงจากครูต้นแบบ จํานวน5 ทา่ น โดย อ.ปยิ ะพร วงศ์อุดม ผ้วู จิ ยั เร่ือง ปัจจัยเชงิ สาเหตุท่สี ่งผลตอ่ ความสุขในการทาํ งานของครใู นโรงเรียนประถมศกึ ษาในพืน้ ท่ีทรุ กนั ดารเขตภาคเหนือตอนบน สงั กัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานซ่ึงสิ่งที่เด่นชัดที่สุดในช่วงน้ี คือ ความสุขในการถ่ายทอดประสบการณ์ของวิทยากร จากความสุขและความปิติที่วิทยากรมีต่ออุดมคติและแนวทางการปฏิบัติของครูผู้นําทางปัญญาของเด็กและชุมชน ทําให้ผู้รับการอบรมคลอ้ ยตามและตระหนักถงึ บทบาทของตนเองในการเปน็ ศกึ ษานเิ ทศก์ ที่ทกุ คนได้ผ่านประสบการณค์ วามเป็นครูมาแล้ว และคุณลักษณะของความเป็นครูท่ีมุ่งมั่นพัฒนาการศึกษาไม่ใช่แค่เด็กในห้องเรียน แต่กว้างออกไปถึงเพื่อนรว่ มวชิ าชีพ ผู้บริหาร ชมุ ชน สังคม ช่วงสุดท้ายของวันน้ีเป็นกรณีศึกษาเรื่องภาวะผู้นําและความกล้าทางจริยธรรม จากต้นแบบระดับโลกโดยการชมวดี ิทศั นภ์ าพยนต์อองซานซจู ี วันท่ี 23 มกราคม 2559 เริ่มด้วยพิธีเปิด โดยดร.สุเทพ ชิตยวงษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ทําให้ทราบภารกิจของศึกษานิเทศก์ในการนิเทศ ค้นว้า วิเคราะห์วิจัย พัฒนาหลักสูตรแผก่ ่ิง : รายงานการพฒั นาหลกั สตู รพฒั นาศึกษานิเทศก์รุน่ ใหม่เพอ่ื การขบั เคลอื่ นการปฏิรูปการเรียนรู้ : 86_Final.indd 86 5/17/2017 8:37:39 PM
และติดตามประเมินผล โดยมีเป้าหมายหลักคือคุณภาพการศึกษาและความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ศึกษานิเทศก์จึงต้องมี Human skills, Technical skills และ Conceptual skills ต่อจากน้ันเป็นการบรรยาย ยุทธศาสตร์การพัฒนาภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาสําหรับศึกษานิเทศก์รุ่นใหม่ โดยรศ.ดร.จิณณ วัตร ปะโคทัง ประธานหลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ อุบลราชธานีใจความสําคัญคือ ทักษะของการนิเทศการศึกษาประกอบด้วยการสื่อสาร การริเร่ิมสร้างสรรค์ และการมีส่วนร่วม แนวคิดทฤษฎีการพัฒนาภาวะผู้นํา เช่น VUCA Word, VUCA Leadership, Cultural Leader, 5Fs:Leadership Characteristic เป็นต้น การบริหารการเปล่ียนแปลงทั้งการเปล่ียนแปลงเชิงรุก เชิงรับ และเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉิน ต่อด้วยกระบวนการเชิงรุกของการพัฒนาภาวะผู้นําการเปล่ียนแปลงทาง การศึกษาในการทําหน้าที่นิเทศ โดย ผศ.ดร.สุรีย์มาศ สุขกสิ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏ รําไพพรรณมี อบหมายงาน วันท่ี 24 มกราคม 2559 วันสุดท้ายของการอบรม เป็นการนําเสนอองค์ความรู้เกี่ยวกับภาวะผู้นํา การเปลย่ี นแปลงทางการศึกษา ในประเด็นตอ่ ไปนี้ 1) การนเิ ทศในศตวรรษท่ี 21 “จดุ ประกายความคดิ เนรมติ พลังการเรยี นรู้ เปดิ ประตสู ่ศู ตวรรษที่ 21” 2) ภาวะผ้นู ําการเปลีย่ นแปลงการนิเทศการศกึ ษา “จูงใจ ใฝ่รู้ สู้ปัญหา พัฒนาทีมงาน กลา้ หาญเชิงจรยิ ธรรม” 3) VUCA Leadership “เข้าใจ เข้าถึง รู้ซ้งึ ชัดเจน ว่องไวทันการณ์” 4) 5Fs:Leadership Characteristic “ใจเพชร กระดกู เหล็ก หนังทองแดง” 5) การจดั การความรสู้ ู่ภาวะผูน้ าํ การเปล่ียนแปลง “จดั การความรู้สู่การกลา้ คิด กลา้ ทาํ กลา้ นาํ กล้าเปล่ยี น” ประโยชนท์ ่ไี ด้รับจากการพฒั นา 1. ตระหนักถงึ ความสําคญั ของภาวะผนู้ ําตอ่ วิชาชพี ศกึ ษานิเทศก์ 2. ไดร้ บั ความรู้ความเขา้ ใจในการเป็นผู้นาํ การเปลี่ยนแปลงเพือ่ มงุ่ สู่คุณภาพการศกึ ษา 3. สามารถเชอ่ื มโยงแนวคิดทฤษฎกี ับการปฏบิ ตั ิในหนา้ ทีศ่ กึ ษานิเทศก์ชัดเจนย่งิ ข้ึน 4. นําความรู้และแนวทางปฏิบัติท่ีได้รับมาตรวจสอบ ทบทวน การปฏิบัติงานในหน้าท่ีของตนเองทั้ง ในด้านความรแู้ ละคณุ ธรรมจริยธรรม 5. สามารถกําหนดความมงุ่ หมายและแนวทางการปฏบิ ัติงานในหนา้ ท่ศี กึ ษานเิ ทศกข์ องตนเอง 6. มีความเข้มแข็งและกล้าหาญในเปล่ยี นแปลงอย่างมกี ลยทุ ธ์ การนําองค์ความรู้และประสบการณท์ ไี่ ด้ไปสูก่ ารปฏบิ ัติ 1. การเป็นผู้นําต้องอาศัยศรัทธา ซ่ึงศรัทธาไม่อาจเกิดได้จากคุณสมบัติด้านความเก่งหรือสติปัญญา เพยี งอย่างเดยี ว ศรัทธาเปน็ สิ่งสําคัญในการเป็นศกึ ษานิเทศก์ 2. บทบาทศึกษานเิ ทศก์ ทที่ กุ คนไดผ้ า่ นประสบการณ์ความเป็นครูมาแล้ว และคุณลักษณะของความ เป็นครูท่ีมุ่งม่ันพัฒนาการศึกษาไม่ใช่แค่เด็กในห้องเรียน แต่กว้างออกไปถึงเพ่ือนร่วมวิชาชีพ ผ้บู ริหาร ชมุ ชน สงั คม โครงการศึกษานเิ ทศก์รนุ่ ใหมเ่ พ่อื ขับเคลอื่ นการปฏริ ูปการเรยี นรู้ : 87_Final.indd 87 5/17/2017 8:37:39 PM
3. การเป็นผู้นําในการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาไม่จําเป็นต้องเป็นหัวหน้าโดย ตําแหน่ง และไม่จําเป็นต้องแสดงออกด้วยการเป็นผู้นํา แต่เป็นการใช้ภาวะผู้นําอย่างมีกลยุทธบ์ น พื้นฐานของบริบท บรรยากาศ สภาพแวดล้อม ท่ีสําคัญคือการวิเคราะห์บุคลากรท่ีเก่ียวข้องในแต่ ละภาวการณ์ แผ่กิ่ง : รายงานการพัฒนาหลักสตู รพฒั นาศกึ ษานเิ ทศก์ร่นุ ใหม่เพอื่ การขับเคลือ่ นการปฏิรปู การเรยี นรู้ : 88 5/17/2017 8:37:39 PM_Final.indd 88
Search