หมวด 9 การทาสัญญาต้องทาสัญญาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกาหนด โดยความเห็นชอบ ของสานักงานอยั การสูงสุดหากมีความจาเป็ นต้องทาแตกต่างจากที่กาหนด โดยไม่ทาให้หน่ วยงาน ของรัฐเสียเปรียบ สามารถกระทาได้ หากเห็นว่ามีปัญหาในทางเสียเปรียบ ให้ส่งร่างให้สานักงานอยั การสูงสุดพจิ ารณาก่อน
มาตรา 93 (ต่อ)หากจาเป็ นต้องร่างสัญญาขนึ้ ใหม่ ให้ส่งร่างสัญญาให้สานักงานอยั การ สูงสุดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน เว้นแต่ การทาสัญญาตามแบบ ท่ีสานักงานอัยการสูงสุดได้เคยให้ความเห็นชอบมาแล้ว สามารถ กระทาได้หากจาเป็ นต้ องทาสั ญญาเป็ นภาษาต่ างประเทศ ให้ ทาเป็ น ภาษาอังกฤษ และต้องจัดทาข้อสรุปสาระสาคัญแห่งสัญญาเป็ น ภาษาไทยตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกาหนด เว้นแต่ การทาสัญญาตามแบบสัญญาทค่ี ณะกรรมการนโยบายกาหนด
มาตรา 93 (ต่อ)หากไม่ได้ทาสัญญาตามแบบสัญญา หรือไม่ได้ส่ งร่ างสัญญ า ให้ สานักงานอัยการสู งสุ ดพิจารณาให้ ความเห็นชอบก่ อน ให้ ส่ งสั ญญาน้ันให้ สานักงานอัยการสู งสุ ดพิจารณาให้ ความเห็นชอบ ในภายหลังได้ เม่ือได้รับความเห็นชอบแล้ว หรือแก้ไขสัญญา ตามความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุดแล้ว ให้ถือว่าสัญญาน้ัน มผี ลสมบูรณ์กรณีท่ีหน่วยงานของรัฐไม่ได้ทาสัญญาตามแบบสัญญา หรือไม่แก้ไข สัญญาตามความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุด หรือคู่สัญญา ไม่ ตกลงหรื อยินยอมให้ แก้ ไขสั ญญาตามความเห็ นของสานักงา น อยั การสูงสุด หากข้อสัญญาที่แตกต่างจากแบบสัญญาหรือข้อสัญญา ที่ไม่แก้ไขตามความเห็นของสานักงานอัยการสูงสุดเป็ นส่ วนท่ีเป็ น สาระสาคัญหรือเป็ นกรณีผิดพลาดอย่างร้ ายแรงตามมาตรา 104 ให้ถอื ว่าสัญญาน้ันเป็ นโมฆะ
การจัดทาข้อตกลงเป็ นหนังสือ หน่วยงานรัฐอาจทาข้อตกลงเป็ นหนังสือโดยไม่ทาตามแบบสัญญาทค่ี ณะกรรมการนโยบาย กาหนดกไ็ ด้ ในกรณดี งั ต่อไปนี้ 1. การจดั ซื้อจัดจ้างโดยวธิ ีคดั เลอื กตามมาตรา 56 (1) (ค) หรือ การจดั ซื้อจดั จ้างโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 56 (2) (ข) (ง) หรือ (ฉ) หรือการจ้างทปี่ รึกษาโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 70 (3) (ข) 2. การจัดซื้อจดั จ้างจากหน่วยงานรัฐ 3. กรณที คี่ ู่สัญญาสามารถส่งมอบพสั ดุได้ครบถ้วนภายใน 5 วนั ทาการ นับแต่วนั ถัดจากวนั ทาข้อตกลง 4. การเช่าทผี่ ู้เช่าไม่ต้องเสียเงนิ อนื่ ใดนอกจากค่าเช่า 5. กรณอี นื่ ตามทคี่ ณะกรรมการนโยบายประกาศในราชกจิ จานุเบกษา** การจดั ซื้อจดั จ้างวงเงินเลก็ น้อยตามที่กาหนดในกฎกระทรวง จะไม่ทาข้อตกลงเป็ นหนังสือไว้ต่อกนั กไ็ ด้ **แต่ต้องมหี ลกั ฐานในการจดั ซื้อจดั จ้างคร้ังน้ัน
มาตรา 97 การแก้ไขสัญญา สัญญาหรือข้อตกลงเป็ นหนังสือทไี่ ด้ลงนามแล้วจะแก้ไขไม่ได้เว้นแต่ ในกรณดี งั ต่อไปนีใ้ ห้อยู่ในดุลพนิ ิจของผู้มอี านาจทจ่ี ะพจิ ารณาอนุมตั ใิ ห้แก้ไขได้ (1) เป็ นการแก้ไขตามมาตรา 93 วรรคห้ากรณีไม่ได้ทาสัญญาตามแบบที่กาหนด หรือไม่ได้ส่ งร่างสัญญาให้สานักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อนให้ ส่ งสั ญญาให้ สานักงานอัยการสู งสุ ดพิจารณาภายหลังได้ เม่ือสานักงานอัยการสู งสุ ดพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว หรือเม่ือสานักงานอัยการสูงสุดพจิ ารณาเห็นชอบแต่ให้แก้ไขสัญญา ถ้าแก้ไขให้เป็ นไปตามความเห็นของสานักงานอยั การสูงสุด ให้ถอื ว่าสัญญาน้ันมผี ลสมบูรณ์ (2) ในกรณีท่ีมีความจาเป็ นต้องแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง หากการแก้ไขน้ันไม่ทาให้หน่วยงานของรัฐเสียประโยชน์ (3) เป็ นการแก้ไขเพอ่ื ประโยชน์แก่หน่วยงานของรัฐหรือประโยชน์สาธารณะ (4) กรณอี นื่ ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 97 การแก้ไขสัญญา (ต่อ) ในกรณีการแก้ ไขสั ญญาท่ีหน่ วยงานของรั ฐเห็นว่ าจะมีปัญหาในทางเสี ยประโ ยชน์หรือไม่ รัดกุมพอ ก็ให้ ส่ งร่ างสั ญญาที่แก้ ไขน้ันไปให้ สานักงานอัยการสู งสุ ดพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสองจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอ่ืนท่ีเกี่ยวข้ อง หากมีความจาเป็ นต้องเพ่ิ มหรือลดวงเงนิ หรือเพม่ิ หรือลดระยะเวลาส่งมอบหรือระยะเวลาในการทางาน ให้ตกลงพร้อมกนั ไป ในกรณที ม่ี ีการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพอ่ื เพมิ่ วงเงนิ เมอื่ รวมวงเงินตามสัญญาหรือข้อตกลงเดิมและวงเงินท่ีเพ่ิมขึน้ ใหม่แล้ว หากวงเงินรวมดังกล่าวมีผลทาให้ผู้มีอานาจอนุมัติส่ังซื้อหรือส่ังจ้างเปล่ียนแปลงไป จะต้องดาเนินการให้ผู้มีอานาจอนุมัติส่ังซื้อหรือส่ังจ้างตามวงเงินรวมดงั กล่าวเป็ นผู้อนุมัตกิ ารแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงด้วย ในกรณที ี่มีการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงเพอื่ ลดวงเงนิ ให้ผู้มีอานาจอนุมัติสั่งซื้อหรือสั่งจ้างตามวงเงนิ เดมิ เป็ นผู้อนุมัตกิ ารแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง
หมวด 10การบริหารสัญญาและการตรวจรับพสั ดุมาตรา 100 • การตรวจรับพสั ดุให้เป็ นไปตามสัญญามาตรา 102 • การงดหรือลดค่าปรับ หรือการขยาย ระยะเวลาทาการตามสัญญา ให้อยู่ใน ดุลพนิ ิจตามกรณที กี่ าหนดมาตรา 103 • การบอกเลกิ สัญญาให้อยู่ในดุลพนิ ิจของ ผู้มอี านาจ ตามกรณที กี่ าหนด
มาตรา 102 การงดหรือลดค่าปรับ หรือการขยายระยะเวลาทาการตามสัญญา(1) เหตุเกดิ จากความผดิ หรือความบกพร่องของหน่วยงานของรัฐ(2) เหตุสุดวสิ ัย(3) เหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหน่ึงอันใดที่คู่สัญญาไม่ต้องรับผิด ตามกฎหมาย(4) เหตุอน่ื ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง
มาตรา 103 เหตุบอกเลกิ สัญญา ในกรณีที่มีเหตุอนั เช่ือได้ว่าผูข้ ายหรือผูร้ ับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานหรือทางานให้แลว้ เสร็จไดภ้ ายในระยะเวลาที่กาหนด หรือเหตุอ่ื นตามท่ีกาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ น้ี หรื อในสัญญาหรื อขอ้ ตกลง หรือหตุอ่ืนตามระเบียบท่ีรัฐมนตรีกาหนด ใหอ้ ยใู่ นดุลพินิจของผมู้ ีอานาจที่จะบอกเลิกสญั ญาหรือขอ้ ตกลงกบั คู่สญั ญา
มาตรา 104 ความเป็ นโมฆะของสัญญา ในกรณีท่ีสัญญาหรือขอ้ ตกลงเกิดจากกรณีที่หน่วยงานรัฐมิได้ปฏิบัติตามที่กาหนดในพระราชบญั ญตั ิ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศท่ีออกตามพระราชบัญญัติฉบับน้ี ในส่ วนท่ีไม่ เป็ นสาระสาคัญหรือผิดพลาดไม่ร้ ายแรง ไม่ทาให้สัญญาหรือขอ้ ตกลงเก่ียวกบั การจดั ซ้ือจดั จา้ งเป็นโมฆะ
หมวด 11 การประเมินผลการปฏิบตั งิ านของผู้ประกอบการ เพื่อใช้ประกอบการพจิ ารณาคุณสมบัติของผู้ท่ีจะเข้ายนื่ ข้อเสนอหรือเข้าทาสัญญากบั หน่วยงานภาครัฐ ผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ท่ีกาหนดจะถูกระงับการย่ืนเสนอราคาหรื อทาสั ญญากับหน่ วยงานภาครั ฐไว้ ชั่ ว คราวจนกว่าจะมผี ลการประเมนิ ผ่านเกณฑ์ทกี่ าหนด
หมวด 12 การทงิ้ งานเป็ นผู้ยนื่ ข้อเสนอท่ีได้รับการคดั เลอื กแล้วไม่ยอมทาสัญญาหรือข้อตกลงเป็ นหนังสือกบั หน่วยงานของรัฐภายในเวลาทกี่ าหนดคู่สั ญญาของหน่ วยงานของรัฐหรือผู้รับจ้ างช่ วงที่หน่ วยงานของรั ฐอนุญาตให้ รับช่ วงงานได้ไม่ปฏบิ ัตติ ามสัญญาหรือข้อตกลงเป็ นหนังสือน้ันเมอ่ื ปรากฏว่าผ้ยู น่ื ข้อเสนอหรือคู่สัญญาของหน่วยงานของรัฐกระทาการอนั มีลกั ษณะเป็ นการขดั ขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็ นธรรม เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน หรือกระทาการโดยไม่สุจริตเม่ือปรากฏว่าผลการปฏิบัติตามสัญญาของที่ปรึกษาหรือผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างมีข้อบกพร่อง ผดิ พลาด หรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐอย่างร้ายแรงเมื่อปรากฏว่าผ้ใู ห้บริการงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างหรือผ้ปู ระกอบการงานก่อสร้างไม่ปฏิบตั ติ ามมาตรา 88 การกระทาอน่ื ๆ ทก่ี าหนดในกฎกระทรวง
หมวด 12 การทงิ้ งาน การเพกิ ถอนการเป็ นผู้ทงิ้ งานได้ สามารถกระทาได้ตามหลกั เกณฑ์ ดงั ต่อไปนี้1. เป็ นผู้ทมี่ ฐี านะการเงนิ มนั่ คง2. มกี ารชาระภาษีโดยถูกต้องตามกฎหมาย และ3. ได้พ้นกาหนดระยะเวลาการแจ้งเวียนรายชื่อให้เป็ นผู้ทิ้งงานตามระเบยี บทรี่ ัฐมนตรีกาหนด
หมวด 13 การบริหารพสั ดุ• หมายรวมถงึ การเกบ็ การบนั ทกึ การเบกิ จ่าย การยมื การตรวจสอบ การบารุงรักษา และการจาหน่ายพสั ดุ• หลกั เกณฑ์และวธิ ีการ จะกาหนดในระเบยี บต่อไป
หมวด 14 การอทุ ธรณ์ มาตรา 114 ผู้ซ่ึงได้ยื่นข้อเสนอเพ่ือทาการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับหน่วยงานของรัฐมีสิทธิอุทธรณ์เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ ในกรณีท่ีเห็นว่าหน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็ นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบหรือประกาศที่ออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ เป็ นเหตุให้ตนไม่ได้รับการประกาศผลเป็ นผู้ชนะหรือไม่ได้รับการคดั เลอื กเป็ นคู่สัญญากบั หน่วยงานของรัฐ มาตรา 115 ผู้มสี ิทธิอุทธรณ์จะยนื่ อุทธรณ์ในเรื่องดงั ต่อไปนีไ้ ม่ได้ (1) การเลอื กใช้วธิ ีการจัดซื้อจัดจ้างหรือเกณฑ์ท่ีใช้ในการพจิ ารณาผลการจัดซื้อจดั จ้างตามพระราชบัญญตั ินีข้ องหน่วยงานของรัฐ (2) การยกเลกิ การจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 67 (3) การละเว้นการอ้างถึงพระราชบญั ญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบยี บ หรือประกาศทอี่ อกตามพระราชบญั ญตั นิ ีใ้ นส่วนที่เกยี่ วข้องโดยตรงกบั การจดั ซื้อจดั จ้างในประกาศ เอกสารหรือหนังสือเชิญชวนของหน่วยงานของรัฐ (4) กรณอี น่ื ตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง
หมวด 14 การอทุ ธรณ์ (ตอ่ ) มาตรา 116 การอุทธรณ์ต้องทาเป็ นหนังสือลงลายมอื ช่ือผู้อทุ ธรณ์ มาตรา 117 ให้ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ย่ืนอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐน้ันภายใน7 วันทาการ นับแต่วันประกาศผลการจัดซื้อจัดจ้างในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง มาตรา 118 ให้หน่วยงานของรัฐพจิ ารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน7 วันทาการ นับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีท่ีเห็นด้วยกับอุทธรณ์ก็ให้ดาเนินการตามความเห็นน้ันภายในกาหนดเวลาดงั กล่าว ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ไม่ว่าท้ังหมดหรือบางส่ วนให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยังคณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ตามมาตรา 119 ภายใน 3 วนั ทาการ นับแต่วนั ทีค่ รบกาหนดตามวรรคหน่ึง
หมวด 14 การอทุ ธรณ์ (ต่อ)มาตรา 119 - ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ พิจารณาอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับรายงานตามมาตรา 116 หากเร่ืองใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดน้ัน ให้คณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกนิ 2 คร้ัง คร้ังละไม่เกนิ 15 วนั - การวนิ ิจฉัยของคณะกรรมการพจิ ารณาอุทธรณ์ให้เป็ นทส่ี ุด - ผู้อุทธรณ์ผู้ใดไม่พอใจคาวนิ ิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หรือการยุติเรื่อง และเห็นว่าหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ผู้น้ันมีสิทธิฟ้ องคดีต่อศาลเพื่อเรียกให้หน่วยงานของรัฐชดใช้ค่าเสียหายได้ แต่การฟ้ องคดีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดซื้อจัดจ้างท่ีหน่วยงานของรั ฐได้ลงนามในสัญญาจดั ซื้อจดั จ้างน้ันแล้ว
หมวด 15 บทกาหนดโทษ มาตรา 120 ผใู้ ดเป็ นเจา้ หนา้ ที่หรือเป็นผมู้ ีอานาจหนา้ ท่ีในการดาเนินการเกี่ยวกบั การจดั ซ้ือจดั จา้ งหรือการบริหารพสั ดุ ปฏิบตั ิหรือละเวน้ การปฏิบตั ิหนา้ ท่ีในการจัดซ้ือจดั จ้างหรือการบริหารพสั ดุตามพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎกระทรวงระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในพระราชบญั ญตั ิน้ีโดยมิชอบเพ่ือให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หน่ึงผู้ใด หรื อปฏิบัติหรื อละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบญั ญตั ิน้ีโดยทุจริตตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่หนึ่งปี ถึงสิบปี และปรับต้งั แต่สองหม่ืนบาทถงึ สองแสนบาท หรือทงั้ จาทง้ั ปรับ ผู้ใดเป็ นผู้ใช้หรื อผู้สนับสนุนในการกระทาความผิดตามวรรคหน่ึงผนู้ ้นั ตอ้ งระวางโทษตามท่ีกาหนดไวส้ าหรับความผดิ ตามวรรคหน่ึง
บทเฉพาะกาล กรณีที่ยังไม่ออกกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศให้นาระเบียบท่ีใช้บังคับอยู่เดิมมาใช้บังคับ ต่อไปเท่าท่ีไม่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศ ในเร่ืองน้ันๆ ตามพระราชบญั ญัตินีใ้ ช้บังคบั (มาตรา 122) กรณีไม่อาจนาระเบียบเดิมมาใช้บังคับในเร่ืองใดได้ให้เป็ นไปตามท่ีคณะกรรมการนโยบายกาหนด (มาตรา 123) การดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็ นไปตามระเบียบที่ใช้บังคับอยู่เดิม จนกว่าจะมีประกาศ หรือกฎ หรือระเบียบแล้วแต่กรณี ใช้บังคบั (มาตรา 124) การดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างทีไ่ ด้ดาเนินการตามระเบียบทใ่ี ช้บงั คบั อยู่เดมิ ก่อนวนั ที่พระราชบัญญัตนิ ี้ ใช้บังคบั และการตรวจรับและการจ่ายเงนิ ยงั ไม่แล้วเสร็จให้ดาเนินการตามระเบียบเดิมต่อไป เว้นแต่ ยงั ไม่ได้ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง หรือในกรณที ม่ี ีการยกเลิกการดาเนินการจัดซื้อจัดจ้าง การดาเนินการ จัดซื้อจัดจ้างน้ัน หรือการดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างคร้ังใหม่ แล้วแต่กรณี ใ ห้ ดาเนินการ ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ (มาตรา 128)
Search