บริหารการเรียนรู้ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ ศึกษานิเทศกเ์ ช่ียวชาญ ผอู้ าํ นวยการกลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผล ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีรองศึกษาธิการจงั หวดั กรุงเทพมหานคร
ศาสตร์ การบริหาร (Sciences) หลกั การ แนวคดิ ทฤษฎีในการ บรหิ ารจดั การ ศิลปะ(Art) การประยกุ ตใ์ ชห้ ลกั การต่าง ๆ เพื่อการดาํ เนินงานใหเ้ หมาะสม
การบริหาร(administration)? หมายถงึ การดาํ เนินการ เพอื่ ใหเ้ กดิ การวางแผน การจัดองคก์ ร การจดั การบุคคล การอาํ นวยการ และการควบคุมใหอ้ งคก์ รดาํ เนินไปตามจุดประสงค์ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
การจัดการ (management) หมายถงึ ความสามารถทปี่ ระกอบดว้ ยความรู้ ทกั ษะ ทศั นคติ ทจี่ ะทาํ ใหส้ ิ่งใด ส่งิ หน่ึง สาํ เร็จ ตามเป้าหมาย วัตถุประสงคท์ วี่ างไว้ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
การบริหารจัดการ หมายถึง กระบวนการประสาน และผสมผสานทรพั ยากร กลไกขบั เคลอื่ นพนื้ ฐานขององคก์ รใหด้ าํ เนนิ การวางแผน การจัดองคก์ ร การจัดการบุคคล การอาํ นวยการ และ การควบคุมโดยมคี วามขดั แยง้ นอ้ ยทสี่ ดุ เพอื่ ประโยชนใ์ น ความสาํ เรจ็ ขององคก์ รโดยอาศยั บคุ ลากร เทคนคิ ตา่ ง รวมทงั้ ขอ้ มูลข่าวสารภายใตโ้ ครงสรา้ งการจดั การทดี่ ี ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
การเรียนรู้ คืออะไร • Marcy (2000) คือ การเปล่ียนแปลงในพฤติกรรมอยา่ งถาวรซ่ึงเป็นผลมาจากประสบการณ์ และ การปฏิสัมพนั ธ์กบั โลกรอบตวั • Atkinsoin,Smith (1996) คือ การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมอยา่ งถาวรซ่ึงเป็นผลมาจากการฝึก ปฏิบตั ิ และการมีประสบการณ์กบั ส่ิงเร้าในอดีต สรุปการเรียนรู้ 1. การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมจากเดิม ไม่รู้ เป็น รู้ ทาํ ไม่ได้ เป็น ทาํ ได้ ไม่เคยทาํ เป็น ทาํ 2.การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมน้นั เกิดจากประสบการณ์การฝึ กฝนและฝึ กหดั ไม่ใชจ้ ากสาเหตอุ ่ืน เช่น วฒุ ิภาวะ การเจบ็ ป่ วย 3. การเปล่ียนแปลงพฤติกรรมน้นั เป็นไปอยา่ งถาวร ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
1. ทางพฤติกรรม การเรียนรู้ของมนุษย์จิตวิทยา 1.1 พาฟลอฟ ทฤษฎีการเรียนรู้เง่ือนไขของส่ิงเร้า 1.2 จอหน์ วตั สนั ทฤษฎีการเรียนรู้ พฤติกรรมนิยม 1.4 สกินเนอร์ ทฤษฎีการเรียนรู้เง่ือนไขของแห่งผลกรรม 1.3 ธอนไดก์ ทฤษฎีกฏแห่งผลกรรม 1.5 คลาร์กแออล ฮลั ล์ ทฤษฎีการลดแรงขบั
2. การเรียนรู้แนวรู้คิด 2.1 เอดวาร์ด เชส โทลแมน ทฤษฎีการเรียนรู้โดยไม่ไดร้ ับรางวลั 2.4 เบนจมิน บลมู ทฤษฎีประเภทการเรียนรู้ 1.พทุ ธพสิ ยั 2.จิตพิสยั รู้ 3. ทกั ษะพสิ ยั เขา้ ใจ ประยกุ ตใ์ ช้ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ ประเมินค่า 2.2 อลั เบิร์ต แบนดูรา โทลแมน ทฤษฎีการรู่คิดทางสงั คม 2.5 เจอโรม เชยม์ วั ร์ บรูเนอร์ ทฤษฎีโครงสร้าง 2.3 จีน เปี ยเจต์ ทฤษฎีข้นั พฒั นาการทางการรู้คิด 2.6 เอฟ ไวก๊อตสกี รูปแบบทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคม ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
3.การเรียนรู้แนวมนษุ ย์นิยม อบั ราฮมั มาสโลว์ ทฤษฏีความตอ้ งการตามลาํ ดบั ข้นั ของมนุษย์ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
ระบบสมองมผี ลต่อการเรียนรู้ (Carison .2005) คาร์ลสัน การเรียนรู้ หมายถึง กระบวนการท่ีประสบการณ์ทาํ ใหม้ ีการ เปล่ียนแปลงของวงจรกระแสประสาท ทาํ ใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ การคิด การวางแผนและพฤติกรรม ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
อะไรที่ทาํ ให้มนษุ ย์เกิดการเรียนรู้ ?
การเรียนรู้ของมนุษย์ที่ฉลาดขึน้ อย่กู ับอะไร
เซลลส์ มอง เซลลส์ มองของคนเรา และใยประสาท มจี าํ นวน 100000ลา้ นเซลล์ ซง่ึ ทาํ หน้าทเ่ี หมอื นคอมพวิ เตอร์ ในการสง่ และรบั ขอ้ มลู เซลลส์ มอง Dendrites มลี กั ษณะเหมอื น ไสก้ รอกหลายๆ ทอ่ นต่อกนั Cell body และมสี ่วนลา่ งเป็นกงิ่ คลา้ ยๆ รากไม้ Axon Brain cell ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู”้
เซลดา้ นส่งสญั ญาณ โดยสารสื่อประสาทจบั บนผนงั เดนไดรท์ เซลดา้ นส่งสญั ญาณโดย ช่องผา่ นของประจไุ ฟฟ้าผนงั เซลเปิ ดออกมีประจุไฟฟ้า ตุ่มปลายแอกซอน ผา่ นเขา้ ออก ผลิตสารส่ือประสาท ปล่อยออกมาใน เป็นที่อยขู่ องรหสั พนั ธุกรรมที่ควบคุมการ ช่องวา่ งของจุดซีน ทาํ งานของเซลลแ์ ละอวยั วะสร้าง แนปส์ พลงั งานใหแ้ ก่เซลล์ ฉนวนหุ้มเสน้ ใยประสาทซ่ึงมีไขมนั เป็นส่วนประกอบสาํ คญั ไมอิลิน สามารถควบคุมการผา่ นประจไุ ฟฟฟ้าและเคล่ือนท่ีไดเ้ ร็ว 1/1,000 วนิ าที
ซีนแนปส์ จุดต่อสญั ญาณ จุดเช่ือมน้ีไม่ไดเ้ กิดข้ึนง่ายๆ จะเกิดกต็ อ่ เมื่อมีการ เรียนรู้ที่ฝังแน่น การสร้างจุดซีนแนปส์จะช่วยให้ เซลสมองมีการเชื่อมตอ่ เป็น โครงข่ายและช่วยใหไ้ มอิลิ นพอกพนู เร็วข้ึน ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
เซลล์สมองหน่ึงจะส่งสญั ญาณต่อเช่ือมกบั เซลลส์ มองอ่ืน ทาํ ให้เกิดการเช่ือมโยงเป็นวงจรท่ีไมซ่ าํ้ กนั การเกิดซินแนปส์ใหม่ๆ ทาํ ใหม้ ี โปรตีนเทา(tau protein)ซ่ึงมี บทบาทสาํ คญั ต่อการสูญเสีย ความจาํ และความยดื หยนุ่ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
เส้นใยสมอง – สร้างใหม่ได้ทกุ วนั เดก็ แรกเกดิ 6 ปี 14 ปี กPาrรuรnิดinทgงิ้ เม่ืออายมุ ากขนึ้ กระบวนการสร้างเซลล์สมองใหม่จะช้าลง ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
ในช่วงน้ี ใยประสาทท่ีไมไ่ ดใ้ ชจ้ ะหายไป ใยประสาทท่ีใชบ้ ่อยๆ จะหนาตวั ข้ึน เซลลส์ มองท่ีมีอายมุ ากจะสูญเสียสิ่งเหล่าน้ี ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้” 1.ความยดื หยนุ่ 2. ความวอ่ งไว 3.ความสามารถ ในการสร้างพลงั งานปริมาณมาก
Back Front Of Of brain brain
ผ้บู ริหารทม่ี ปี ระสิทธิภาพ เจตคติ (attitudes) มีความสาํ คญั มากท่ีสุด ทกั ษะทางสงั คม (soft skills) - ความเช่ือ (beliefs) - ความคิดเห็น (opinions) ทกั ษะความรู้ทางวชิ าการ (hard -การควบคุมอารมณ์ skills) - การต้งั คาํ ถามและการฟัง -การสร้างทศั นคติเชิงบวกตอ่ การ บริหาร - วินยั กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั หลกั เกณฑแ์ ละ -มีบุคลิกภาพท่ีดี -การสื่อสาร สร้างความสมั พนั ธ์ มี วธิ ีการของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการ มารยาททางสังคม มนุษยสมั พนั ธด์ ี ศึกษา -การบริหารเวลา -การบริหารงานในสาํ นกั งานและการบริหาร -สะทอ้ นความคิดและใหข้ อ้ มูล วิชาการรวมท้งั ความรู้ใหม่ๆ -การบริหารจดั การเชิงกลยทุ ธ์ ป้อนกลบั (Feed back) -การใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรียนรู้ -การสร้างและพฒั นาเครือขา่ ยในการจดั การศึกษา ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
การเรียนรู้ปัจจุบนั ที่เปลย่ี นไป ภาวะทาง การสื่อสารที่ การพ่ึงพาอาศยั เศรษฐกิจ หลากหลาย ของคนในโลก การทาํ งาน วิธีการเรียนรู้ก ร่วมกบั ผอู้ ่ืน สาเหตุ เพม่ิ ข้ึน สุขภาพ ความ หลากหลาย วฒั นธรรม ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
1. Experience มปี ระสบการณใ น การจดั การเรยี นรแู บบใหม เชน เรยี นผา นส่ือเทคโนโลยี Internet, E-mail เปน ตน 2. Extended มที ักษะการแสวงหาความรใู หมๆ เพ่ือขยายองคค วามรขู องตนเองตลอดเวลา ผานทางสอ่ื เทคโนโลยี 3. Expanded มีความสามารถในการถา ยทอดหรอื ขยายความรขู องตนเองสูน กั เรยี นผา นสอ่ื เทคโนโลยไี ดอ ยา งมปี ระสทิ ธิภาพ 4. Exploration มคี วามสามารถในการเสาะหาและคดั เลอื กเน้ือหาความรหู รือเนอื้ หาท่ีทนั สมัย เหมาะสมและเปน ประโยชนต อ ผเู รยี น ผานทางสือ่ เทคโนโลยี 5. Evaluation 6. End-User เปน นกั ประเมนิ ทดี่ ี มคี วามบริสุทธิ์และยตุ ิธรรม และสามารถใชเ ทคโนโลยีในการประเมินผล 7. Enabler เปนผูทใี่ ชส ่อื เทคโนโลยี (user) อยางคมุ คา และใชไดอ ยา งหลากหลาย 8. Engagement สามารถใชเ ทคโนโลยีสรา งบทเรียน เนอ้ื หา และส่อื การเรียนรไู ดอยา งมีประสทิ ธภิ าพ 9. Efficient and ตองรว มมือและแลกเปลี่ยนเรยี นรูซ่งึ กนั ผานสอื่ เทคโนโลยี จนพัฒนาเปนเครอื ขายความรว มมือ เชน เกดิ ชมุ ชน Effective ครูบน web สามารถใชส ่ือเทคโนโลยอี ยา งมีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล ทั้งในฐานะท่เี ปน ผูผ ลติ ความรู ผกู ระจายความรู และผูใชค วามรู
การเรียนรู้ของผ้บู ริหารในศตวรรษท่ี 21 1. การเรียนรู้ชีวิตและการทาํ งาน 1.1. รับมือกบั ความซบั ซอ้ นของการดาํ รงชีวติ และความรับผดิ ชอบอนั หลากหลาย 1.2 การทาํ งานภายใตส้ ภาพแวดลอ้ มท่ีอาจเปลี่ยนแปลงอยา่ งสม่าํ เสมอ 1.3 การรับมือกบั ปัญหาและอุปสรรคที่ไม่คาดคิดไดอ้ ยา่ งดี 1.4 จดั การกบั ความเห็นและความเช่ือท่ีแตกต่างเพ่อื หาทางออกที่ เหมาะสมภายใตก้ ารทาํ งานที่หลากหลายความคิด ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
2. เรียนรู้ชีน้ าํ ตนเองอย่างสร้างสรรค์ (คิดบวก) 2.1 เพอ่ื บริหารเวลาและการจดั การกบั งานไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ 2.2 เพื่อรักษาสมดุลระหวา่ งเป้าหมายในการทาํ งานที่ต้งั ไวท้ ้งั ระยะส้นั และระยะยาว 2.3 เพ่อื จดั การภารหนา้ ที่ของตนเองโดยไม่จาํ เป็นตอ้ งมีผคู้ วบคุม 2.4 เพื่อบริหารจดั การและต่อยอดความรู้ไดด้ ว้ ยตนเอง 2.5 เพื่อวเิ คราะห์และถอดบทเรียนจากประสบการณ์ในอดีตเพื่อใชพ้ ฒั นาตนเองในอนาคต ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
3. การเรียนรู้ทางสังคมและข้ามวฒั นธรรม 3.1 เพอ่ื การมีปฏิสมั พนั ธ์กบั ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3.2 เพ่อื เปิ ดรับแนวคิดและคุณค่าที่แตกต่างกนั 3.3 เพื่อการทาํ งานเป็นทีมที่มีวฒั นธรรมทางสงั คมที่หลากหลาย 3.4 เพื่อเปิ ดโอกาสใหบ้ ุคคลมีส่วนร่วมในการทาํ งาน ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
4. เรียนรู้ความเป็นผ้นู าํ และความรับผิดชอบ 4.1 เพื่อประยกุ ตใ์ ชท้ กั ษะในการแกป้ ัญหา 4.2 เพอ่ื การสื่อสารระหวา่ งบุคคลในการทาํ งานที่มีความแตกต่างกนั 4.3 เพ่ือใชจ้ ุดแขง็ ของคนอ่ืนในการร่วมกนั สร้างสรรคง์ านใหบ้ รรลเุ ป้าหมาย 4.4 เพ่ือเคารพความคิดและความสามารถที่หลากหลายของบุคคลากรภายในทีมงาน 4.5 เพื่อเป็นผรู้ ับผดิ ชอบท่ีดีในการผลลพั ธ์ิท่ีตนเองทาํ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
5. เรียนรู้การเพิ่มผลผลิตที่มคี ุณภาพ 5.1 เพ่ือสามารถทาํ งานหลายอยา่ งไดไ้ ปพร้อมๆกนั 5.2 เพอ่ื สามารถบริหารจดั การ วางแผน จดั ลาํ ดบั ความสาํ คญั ของงาน 5.3 เพอื่ สามารถทาํ งานไดส้ าํ เร็จตามเวลาและมีความน่าเช่ือถือ 5.4 เพ่อื สามารถสร้างและพฒั นาเครือข่ายไดอ้ ยา่ งเป็นระบบ ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
การบริ หารจัดการการเรี ยนร้ ู ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
การบรู ณาการเชงิ พนื้ ท่ี (3 มติ )ิ แผนพฒั นาการศึกษา ระยะ 5 ปี / รายปี 1 ปจั จบุ นั แผนพฒั นา อนาค การศกึ ษาภาค ตAgenda Agenda แผนพฒั นา การศึกษากลุ่ม จงั หวดั การบรู ณา การบรู ณา แผนพฒั นา การ การ จงั หวดั งบประมาณ งบประมาณ Area Function Function Area กําหนดภารกจิ ของสนง.ศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั โดยเนน้ การบรู ณาการภารงาน/งบประมาณทงั้ 3 มติ ิ อยา่ งมี Agenda และ Function เป็ นหลกั ประสทิ ธภิ าพ ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชน การจดั ทํางบประมาณเพอ่ื พฒั นาพนื้ ทร่ี ะดบั ภาค จงั หวดั /กลมุ่ จงั หวดั /ทอ้ งถน่ิ 2 ทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ โดยใชแ้ นวคดิ ภารงานแตล่ ะสงั กดั และการจดั การงบประมาณแบบประชาชนมสี ว่ นรว่ ม การบรู ณาการงบประมาณ 3 มติ ิ ทมี่ ี ประสทิ ธภิ าพ และใชจ้ า่ ยงบประมาณอยา่ ง คมุ้ คา่ เกดิ ประสทิ ธผิ ล Agenda ความ Area สอดคลอ้ ง Function 5 ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
ออกแบบความเชื่อมโยงการพฒั นาการนิเทศปฐมวัย เป้ าหมายยทุ ธศาสตรร์ ะดบั ชาติ (ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี /แผนปฏริ ปู /แผนฯ 12/แผนภาค) ยทุ ธศาสตรบ์ รู ณาการ 3 มติ ิ (Agenda/Function/Area) ตน้ ทาง กลางทาง คณะกรรมการศกึ ษาธิการ สาํ นกั งานศึกษาธิการจงั หวดั จงั หวดั “กศจ.” สพป.สพม,ศนู ย์ เทศบาล/อบจ พมจ. สาธารณสุข .เครือข่าย กาํ กับ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล การศึกษาพเิ ศษ . นิเทศฯ ๑)แนะแนว ปลายทาง (๒)นิเทศ ติดตาม Area Function Agenda และประเมินผล ผูน้ ิเทศในพ้นื ที่จังหวัด เป้ าหมายการนิเทศ ติดตาม ยุทธศาสตร์เปฐมวัยจังหวัด แต่ละสังกัดร่วมนิเทศฯ กลไกการยกระดับการศึกษาปฐมวัย (บรู ณาการ 3 มติ ิ) (๓)บริหารและ • แผนงานบรู ณาการสง่ เสริ มการ ผลผลิต/โครงการ แผนงบประมาณ พฒั นาครู พฒั นาการนเิ ทศ ตดิ ตาม ในเชิงบรู ณาการ จังหวดั โครงการบรู ณาการจังหวัด/ Value Chain กิจกรรมหลัก ตน้ กลาง ปลาย สถานศกึ ษาปฐมวยั ทกุ ประเภทไดร้ บั การนิเทศ ตดิ ตาม ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
กระบวนการนิเทศการศึกษาปฐมวยั 1.นิเทศแบบมีส่วนร่วมของทุก พมจ. สาธารณสุข. แรกเกิด-2ขวบ ภาคส่วน (บูรณาการ 3 มติ ิ) Function 3ขวบ-6ขวบ สพป.สพม. นเิ ทศ ทอ้ งถิ่น 5.1นิเทศตามมาตรฐานตวั ช้ีวดั 2. นเิ ทศตามนโยบาย ยทุ ธศาสตร์ Area มาตรฐานด้านท่ี ๑ การบริหารจัดการสถาน และแผนพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ในระดบั จงั หวดั Agenda 3. นเิ ทศการขับเคลื่อนการพฒั นา ศูนย์ พัฒนาเด็กปฐมวัย การศึกษา เดก็ ปฐมวยั ในระดบั พืน้ ท่ี มหาดไทย. มาตรฐานด้านที่ ๒ ครู/ผู้ดูแลเดก็ ให้การดูแล และจดั ประสบการณ์ พเิ ศษ การเรียนรู้และการเล่นเพื่อพัฒนาเดก็ ปฐมวยั มาตรฐานด้านท่ี ๓ คณุ ภาพของเด็กปฐมวัย 4. นเิ ทศตามระบบและกลไกการติดตามการประเมินผลแผนพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ทกุ ระดบั แบบบูรณาการอยา่ งต่อเนื่อง จาํ นวน 30 กลไกล ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
•เป็นกระบวนการบริหารจดั การผา่ นประสบการณ์ปัญหาจริง โดยใชแ้ นวทางสืบคน้ K = Know ความรู้ของตนเอง W = Want ความต้องการและความจาํ เป็ นต้องหาข้อมูลเพม่ิ เตมิ H = How จะทาํ อย่างไร L = Learning เรียนรู้อะไรจากการสืบค้นข้อมูล A = Apply จะประยุกต์ใช้ความรู้อย่างไร Q = Question จะหาคาํ ตอบเหล่าน้ันได้อย่างไรในเป้าหมายต่อไป ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
• เสนอแนวคิดและขอ้ มูลจากการคน้ ควา้ 1.อภิปรายเชิง • อภิปรายขอ้ ดี ขอ้ เสียของทางเลือก • หาแนวทางนาํ เสนอเพ่ือโนม้ นา้ วให้ผอู้ ่ืน สร้างสรรค์ สนบั สนุน • ยอมรับความคิดเห็นท่ีแตกตา่ ง 1.ความขดั แยง้ เชงิ แนวคิด 2 ความขดั แยง้ เชิงกระบวนการ 3.ความขดั แยง้ เชิงสว่ นตวั และ 4ความขดั แยง้ เชิงนโยบาย การตอ่ รอง • ไกลเ่ กลี่ยความขดั แยง้ มี4ลกั ษณะ 1.ทกุ ฝ่ายไดป้ ระโยชน์ เชิงบรูณาการ • โนม้ นา้ วแนวคิดอยา่ งสร้างสรรค์ (Win-Win Situation) วธิ ีการตกลงรว่ มกนั และการ และสนั ติวธิ ี ตดั สนิ ใจแบบบรู ณาการ • ไดข้ อ้ สรุปร่วมกนั ที่ชดั เจน (Consensus and Integrative Decision-Making Methods) ดร.สุขพชั รา ซิ้มเจริญ “การบริหารการเรียนรู้”
รูปแบบการแก้ปัญหาความขัดแย้งทเ่ี หมาะสม แบบการแกป้ ัญหา สถานการณท์ เ่ี หมาะสม 1. แบบบงั คบั 1.เม่ือจาํ เป็นตอ้ งกระทาํ การอย่างรวดเร็ว และตอ้ งการตัดสินใจขณะเวลาน้ันๆ เช่น ใน สถานการณฉ์ กุ เฉิน 2.ในกรณีท่เี ป็นเรอ่ื งสาํ คญั ซง่ึ จาํ เป็นตอ้ งมีการดาํ เนินการหรอื กระทาํ ในส่ิงท่เี ป็นท่ีพึงพอใจ ของคนสว่ นใหญ่ เชน่ การออกระเบียบ การตดั งบประมาณ 3.ในกรณีท่เี ป็นเร่อื งสาํ คญั ท่ีแนใ่ จว่าไดท้ าํ ถกู ตอ้ งแลว้ 2. แบบรว่ มมือแกป้ ัญหา 1.ในกรณีท่ีผลประโยชนข์ องคกู่ รณีมีความสาํ คญั และไมส่ ามารถประนีประนอมกนั ได้ 2.ในกรณีท่ีตอ้ งการการระดมความคิด ความเขา้ ใจอยา่ งลกึ ซงึ้ จากบคุ คลท่ีเก่ียวขอ้ ง 3.ในกรณีท่ีตอ้ งการมติหรือการตกลงท่ีเป็นเอกฉันท์ ท่ีพิจารณาจากหรือคาํ นึงถึงความ ตอ้ งการของผทู้ ่เี ก่ียวขอ้ ง 4.ในกรณีท่ตี อ้ งการใหไ้ ดผ้ ลงาน ซง่ึ อาจกระทบกระเทอื นความรูส้ กึ ท่ดี ีของผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง
แบบการแกป้ ัญหา สถานการณท์ เ่ี หมาะสม 3. แบบประนีประนอม 1.ในกรณีท่ีจดุ ม่งุ หมายของงานนน้ั มีความสาํ คญั แต่ไม่สาํ คญั ถงึ ข้นั ท่ีจะตอ้ งพยายามใช้ วิธีการตา่ งๆ เพ่ือใหไ้ ดต้ ามความตอ้ งการ 2.ในกรณีท่คี กู่ รณีมีอาํ นาจเทา่ กนั และมีความจาํ เป็นท่ีจะตอ้ งบรรลจุ ดุ ม่งุ หมายรว่ มกนั 4. แบบเล่ียงปัญหา 1.ในกรณีท่ีเป็นเร่อื งท่ไี มส่ าํ คญั หรอื มีเร่อื งอ่นื ท่ีสาํ คญั กว่า 2.ในกรณีท่ีมีหนทางท่ีจะทาํ ใหบ้ รรลคุ วามตอ้ งการไดเ้ ลย 3.ในกรณีท่ีพิจารณาแลว้ เหน็ วา่ ปัญหาท่ีจะเกิดขนึ้ มีมากกวา่ ประโยชนท์ ่จี ะไดร้ บั 4.ในกรณีท่ีเร่อื งนน้ั จะเป็นผลกระทบตอ่ เร่อื งอ่ืนๆ 5. แบบเก็บกด/ ยนิ ยอม 1.ในกรณีท่ีพบวา่ ตวั เราผิดพลาด 2.ในกรณีท่เี รอ่ื งนนั้ สาํ คญั ตอ่ คกู่ รณีมาก เพ่ือใหค้ กู่ รณีพอใจและรว่ มมือกบั เราในอนาคต 3.ในกรณีท่ีตอ้ งการใหไ้ ดร้ บั การยอมรบั ทางสงั คม เพ่ือจะไดน้ าํ ไปใชป้ ระโยชนใ์ นเร่ืองอ่ืนๆ ภายหลงั 4.ในกรณีท่ีเหน็ ว่าความราบรน่ื และความม่นั คงมีความสาํ คญั อยา่ งย่งิ 5.ในกรณีท่ตี อ้ งการใหค้ กู่ รณีเรยี นรูด้ ว้ ยตนเองจากขอ้ ผิดพลาดท่อี าจเกิดขนึ้
จิต บริหารการ กาย เรียนรู้ที่ สมดุล สมอง
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: