47 สปั ดาห์ที่ 11 กกาารรเเขขียียนนววจิจิ ยั ัยบบทททที่ ่ี 44 ++ สสถถิติตใิ ใิ นนกกาารรววจิจิ ยั ยั
48 คะแนนสอบ เนอ้ื หาทเ่ี รยี นในสปั ดาหน์ ี้ ประจาสปั ดาห์ เคา้ โครงวจิ ยั บที่ 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ไมม่ กี ารสอบ
ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู 49 ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ความเหมาะสมของ...(นวตั กรรม)...โดยผเู้ ชย่ี วชาญ ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะหป์ ระสทิ ธิภาพของ...(นวัตกรรม)... ตอนที่ 3 ผลการวิเคราะห์ประสทิ ธผิ ลของ ....(นวตั กรรม).. ตอนที่ 4 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี นของนักเรยี นระหว่าง กอ่ นเรียนและหลงั เรียนดว้ ย...(นวตั กรรม).. ตอนท่ี 5 ผลการวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจของนกั เรยี นท่ีมตี อ่ การเรยี นดว้ ย...(นวตั กรรม)...
50 เคา้ โครงวจิ ยั บท่ี 4 ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู การวจิ ยั เรอ่ื ง...ผูว้ จิ ยั ได้นาเสนอผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตามลาดับ ดังนี้ ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ความเหมาะสมของ...(นวัตกรรม)...โดยผ้เู ชย่ี วชาญ ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะหป์ ระสทิ ธภิ าพของ...(นวตั กรรม)... ตอนท่ี 3 ผลการวิเคราะห์ประสิทธผิ ลของ ....(นวัตกรรม).. ตอนที่ 4 ผลการวเิ คราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนของนกั เรียนระหว่าง ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วย...(นวัตกรรม).. ตอนท่ี 5 ผลการวเิ คราะหค์ วามพงึ พอใจของนักเรยี นท่มี ตี ่อการเรยี นด้วย...(นวัตกรรม)...
51 สัปดาหท์ ่ี 12 ททบบททววนนบบทททที่ ี่ 44 ++ TT--tteesstt
52 คะแนนสอบ เนอื้ หาทเ่ี รยี นในสปั ดาหน์ ้ี ประจาสปั ดาห์ T-Test ไมม่ กี ารสอบ
53 การทดสอบ t-test ทเี่ รียกว่าการทดสอบ t-test เพราะว่าผลการทดสอบทั้งหมดขนึ้ อย่กู บั ค่า t-value สงิ่ ท่ีนักสถิติเรยี ก เป็นการทดสอบทางสถิติ การทดสอบทางสถิติคือค่ามาตรฐานที่คานวณจากข้อมูลตัวอย่างในระหว่างการทดสอบ สมมติฐาน ขั้นตอนท่ีคานวณค่าสถิติสาหรับการทดสอบจะเปรียบเทียบข้อมูลของคุณกับส่ิงท่ีคาดหวังท่ีกาหนดไว้ใน สมมตฐิ านหลกั (null hypothesis) T-Test One Sample t-test Dependent Samples t-test Independent Samples t-test
T-Test 54 การทดสอบ t-test ท่ีเรยี กวา่ การทดสอบ t-test เพราะวา่ ผลการทดสอบท้งั หมดขนึ้ อยู่กบั คา่ t-value สง่ิ ท่ีนักสถิตเิ รยี ก เป็นการทดสอบทางสถติ ิ การทดสอบทางสถิตคิ อื ค่ามาตรฐานที่คานวณจากข้อมลู ตัวอย่างในระหว่างการทดสอบสมมตฐิ าน ข้ันตอนทคี่ านวณคา่ สถิตสิ าหรบั การทดสอบจะเปรยี บเทยี บขอ้ มูลของคณุ กับสิ่งทคี่ าดหวังทก่ี าหนดไวใ้ นสมมตฐิ านหลัก (null hypothesis) One Sample t-test ทดสอบความแตกตา่ งระหว่างค่าเฉลีย่ (Mean) ของประชากรกล่มุ เดยี ว กบั คา่ เกณฑ์ หรอื Norm ทกี่ าหนด Dependent Samples t-test ทดสอบความแตกต่างระหวา่ งค่าเฉล่ยี (Mean) ของประชากร สองกลมุ่ ที่ไม่อสิ ระกัน Independent Samples t-test ทดสอบความแตกตา่ งระหวา่ งคา่ เฉลี่ย (Mean) ของประชากรสองกลมุ่ ทีอ่ ิสระกนั
55 สัปดาหท์ ี่ 13 การเขียนวจิ ัยบทที่ 5 + องคป์ ระกอบรายงานวจิ ัย
56 คะแนนสอบ เนอ้ื หาทเี่ รยี นในสปั ดาหน์ ้ี 9/15ประจาสปั ดาห์ เค้าโครงวจิ ยั บที่ 5 องค์ประกอบรายงานวจิ ยั
57 องค์ประกอบรายงานวจิ ัย 1. ความมุง่ หมายของการวิจัย 5. การวิเคราะห์ขอ้ มูล 2. ขอบเขตของการวจิ ัย 6. สรปุ ผลการวจิ ยั 3. เคร่ืองมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั 7. อภปิ รายผลการวิจยั 4. การเกบ็ รวบรวมข้อมลู 8. ข้อเสนอแนะ
58 เคา้ โครงวจิ ยั บที่ 5 องคป์ ระกอบรายงานวจิ ยั 1. ความมงุ่ หมายของการวิจยั 2. ขอบเขตของการวจิ ยั 3. เครื่องมือทีใ่ ช้ในการวจิ ยั 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. การวเิ คราะหข์ ้อมลู 6. สรุปผลการวิจยั 7. อภปิ รายผลการวิจยั 8. ขอ้ เสนอแนะ
59 สปั ดาห์ที่ 14 กกาารรววเิเิ คครราาะะหหข์ข์ อ้อ้ สสออบบดดว้ว้ ยย SSPPSSSS
60 คะแนนสอบ เนอ้ื หาทเ่ี รยี นในสปั ดาหน์ ้ี ประจาสปั ดาห์ การวเิ คราะหข์ อ้ สอบ SPSS ไม่มกี ารสอบ หาคา่ อานาจจาแนกรายขอ้ r และคา่ ความยาก p โดยใช้ 27 % ของกลมุ่ สงู กลมุ่ ตา่
61 ข้นั ที่ 1 สรา้ งไฟลข์ อ้ มลู ของกล่มุ ทดลองใช้ N คน ขนั้ ท่ี 2 รวมคะแนนทัง้ ฉบบั ของแตล่ ะคนโดยใชค้ าสัง่ Compute Variable การวเิ คราะหข์ อ้ สอบ SPSS ขั้นท่ี 3 เรยี งคะแนนจากน้อยไปมาก โดยใช้ Sort case หาค่าอานาจจาแนกรายข้อ r ขนั้ ที่ 4 คานวณจานวนคนในกลมุ่ สงู Nu และจานวนคนในกลมุ่ ต่ า N1 โดยใช้ 20 % ของ N และคา่ ความยาก p โดยใช้ 27 % ขนั้ ที่ 5 สรา้ งไฟลใ์ หมช่ อื่ Group โดยกาหนดค่า Value ให้ 1 แทนกลมุ่ ตา่ L, 2 แทนกล่มุ กลาง M, ของกล่มุ สงู กลุ่มต่า และ 3 แทนกลุ่มสูง U ขัน้ ท่ี 6 คยี ข์ ้อมูลตัวแปร Group โดยกลมุ่ ต่าพิมพ์เลข 1 กลุ่มสงู พิมพเ์ ลข 2 และกลุ่มกางพิมพ์เลข 3 ข้ันที่ 7 ตดั ขอ้ มูลกลุ่มกลางออกทั้งหมดจากนัน้ บนั ทึกไฟล์โดยตงั้ ช่อื ไฟล์ใหมห่ รือคาสั่ง select Case เลือกเฉพาะ Group 1 และ Group 3 ขน้ั ท่ี 8 วิเคราะหข์ อ้ มลู เพอื่ คานวณจานวนคนถูกตดั ออกในกล่มุ ตา่ และจานวนคนที่ตอบถกู ในกลุ่มสูง ขอ้ สอบแตล่ ะขอ้ โดยใชค้ าสั่ง cross Tabs
การวเิ คราะหข์ อ้ สอบ SPSS 62 การวเิ คราะหข์ ้อสอบโดยใช้โปรแกรม spss หาคา่ อานาจจาแนกรายข้อ r และคา่ ความยาก p โดยใช้ 27 % ของกลุ่มสงู กลุ่มตา่ ขั้นที่ 1 สรา้ งไฟล์ขอ้ มลู ของกลุม่ ทดลองใช้ N คน ขน้ั ที่ 2 รวมคะแนนทง้ั ฉบับของแต่ละคนโดยใช้คาส่ัง Compute Variable ขน้ั ท่ี 3 เรยี งคะแนนจากน้อยไปมาก โดยใช้ Sort case ขน้ั ท่ี 4 คานวณจานวนคนในกลุ่มสงู Nu และจานวนคนในกลมุ่ ต่า N1 โดยใช้ 20 % ของ N ขน้ั ที่ 5 สร้างไฟล์ใหมช่ ่ือ Group โดยกาหนดคา่ Value ให้ 1 แทนกลมุ่ ตา่ L, 2 แทนกลมุ่ กลาง M, และ 3 แทนกลุ่มสูง U ขน้ั ท่ี 6 คีย์ข้อมูลตวั แปร Group โดยกล่มุ ต่าพิมพ์เลข 1 กลมุ่ สูงพมิ พ์เลข 2 และกลมุ่ กางพมิ พเ์ ลข 3 ขน้ั ที่ 7 ตัดข้อมูลกลุม่ กลางออกทงั้ หมดจากนน้ั บันทกึ ไฟลโ์ ดยตงั้ ชอ่ื ไฟลใ์ หมห่ รือคาสั่ง select Case เลอื กเฉพาะ Group 1 และ Group 3 ข้ันที่ 8 วเิ คราะห์ขอ้ มูลเพอื่ คานวณจานวนคนถูกตดั ออกในกลมุ่ ต่าและจานวนคนทต่ี อบถูกในกลุ่มสูงขอ้ สอบแต่ละข้อโดยใช้คาสั่ง cross Tabs เลอื กขอ้ ทม่ี ีคา่ อานาจจาแนกรายขอ้ ผ่านเกณฑ์เท่ากบั จานวนข้อท่ีวางแผนไวเ้ พ่ือหาค่าความเชอื่ มัน่ ท้งั ฉบับโดยใช้วิธีสมั ประสทิ ธแ์ิ อลฟา
63 สัปดาห์ท่ี 15 การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น
64 เนอื้ หาทเ่ี รยี นในสปั ดาหน์ ้ี คะแนนสอบ - วจิ ยั ในชน้ั เรยี น CAR 15/20ประจาสปั ดาห์
65 วิจยั ในชนั้ เรยี น CAR เป็นรูปแบบหน่ึงของการวิจัย การวจิ ยั ปฏบิ ัตกิ ารในช้นั เรียนมลี ักษณะสาคญั ดังนี้ 7. การวิจยั ไมไ่ ด้เน้นการสร้างกรอบความคดิ ตามโครงสร้าง ปฏบิ ัตกิ าร โดยมีผู้ทาวิจัยคือครูผู้สอนใน 1. ครเู ปน็ นกั วจิ ัย เชงิ ทฤษฎี ไม่เครง่ ครัด ห้องเรียนท่ีตนเองรับผิดชอบ ซ่ึงอาจทา 2. ปัญหาการวิจยั ต้องเกย่ี วข้องกบั งานในหนา้ ที่ครู 8. มีการเกบ็ ขอ้ มลู ท้ังเชงิ ปรมิ าณและคุณภาพ แตเ่ นน้ ข้อมูล คนเดยี ว หรอื ร่วมกับผู้เกี่ยวขอ้ งอ่ืน ๆ ได้ 3. เป้าหมายสาคัญของการวิจัยไมไ่ ด้มุ่งสรา้ งองค์ความรู้ใหม่ เชิงคุณภาพมากกว่า ด า เ นิ น ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ห รื อ พั ฒ น า 4. กลุ่มเป้าหมายอาจเปน็ รายบคุ คล รายกลุ่ม ทง้ั หอ้ งเรียน หรอื 9. การเขียนรายงานการวจิ ยั ไม่เครง่ ครดั ในรูปแบบ ผเู้ รยี นหรอื การเรียนการสอนของตนให้ดี หลายหอ้ งเรียน 10. ครูสามารถใชผ้ ลการวจิ ัยพัฒนาตนและพัฒนางานใน ข้ึน โดยนาเอาวิธีการ แนวทาง หรือ 5. สามารถดาเนินการวจิ ัยควบคไู่ ปกบั การปฏิบตั ิงานตามปกตไิ ด้ หนา้ ทไี่ ด้ กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีผ่านการพิจารณา ท้งั ในและนอกเวลา 11. สามารถทาวิจัยได้ทุกวนั ทกุ สปั ดาห์ ทาให้ได้งานวิจัย ตรวจสอบเบ้ืองต้นแล้วว่าเหมาะสม 6. ลกั ษณะของการทาวจิ ัยมกั นยิ มใชว้ งจรการวจิ ยั ปฏิบตั กิ าร มากมาย และไมจ่ าเปน็ ต้องใช้งบประมาณจานวนมาก ไปทดลองปฏบิ ตั กิ ารตามแผนท่วี างไว้ PAOR โดยท่ี P = Plan (วางแผน) A = Action (ลงมอื ปฏิบตั ิ) 12. ไม่ไดม้ ุง่ ให้ครทู าเพื่อขอผลงาน จุดเนน้ คอื นักเรยี น และ O = Observation (เก็บรวบรวมขอ้ มูลและบันทึกผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ) การพฒั นาสภาพการเรยี นการสอน สว่ นการขอเป็นผลงาน R = Reflection (สรปุ เสนอ ความคดิ สะท้อนผลที่เกิดขึ้น และ นั้นเป็น ผลพลอยได้ ปฏบิ ัตกิ ารปรับปรุงแก้ไข)
วิจัยในชนั้ เรยี น CAR 66 วิจัยในชั้นเรียน CARเป็นรปู แบบหน่ึงของการวิจัย ปฏิบตั ิการ โดยมผี ทู้ าวจิ ยั คือครผู ู้สอนในห้องเรียนทีต่ นเองรบั ผดิ ชอบ ซ่ึงอาจทาคนเดียว หรอื รว่ มกับผ้เู กย่ี วข้องอ่นื ๆ ได้ดาเนนิ การแกไ้ ขปญั หาหรือพัฒนาผู้เรียนหรอื การเรยี นการสอนของตนให้ดีขึน้ โดยนาเอาวธิ กี าร แนวทาง หรือ กจิ กรรมต่าง ๆ ท่ผี ่านการพิจารณาตรวจสอบเบอ้ื งตน้ แล้ววา่ เหมาะสม ไปทดลองปฏบิ ัตกิ ารตามแผนทวี่ างไว้ การวิจยั ปฏิบตั ิการในช้นั เรยี นมี ลักษณะสาคัญ ดงั นี้ 1. ครูเปน็ นกั วิจยั 2. ปญั หาการวจิ ัยตอ้ งเก่ยี วข้องกบั งานในหน้าท่ีครู 3. เป้าหมายสาคัญของการวจิ ัยไมไ่ ด้มงุ่ สร้างองค์ความรใู้ หม่ 4. กลมุ่ เปา้ หมายอาจเปน็ รายบคุ คล รายกลมุ่ ทัง้ หอ้ งเรียน หรอื หลายหอ้ งเรียน 5. สามารถดาเนินการวจิ ยั ควบคูไ่ ปกับการปฏบิ ัติงานตามปกติได้ ทงั้ ในและนอกเวลา 6. ลักษณะของการทาวจิ ยั มักนิยมใชว้ งจรการวิจัยปฏิบตั กิ าร PAOR โดยที่ P = Plan (วางแผน) A = Action (ลงมือปฏบิ ตั ิ) O = Observation (เกบ็ รวบรวมข้อมูลและบนั ทกึ ผลที่เกดิ ขนึ้ ) R = Reflection (สรุป เสนอ ความคดิ สะท้อนผลที่เกิดขน้ึ และปฏบิ ตั กิ ารปรับปรงุ แก้ไข) 7. การวจิ ัยไมไ่ ดเ้ น้นการสร้างกรอบความคิดตามโครงสร้างเชิงทฤษฎี ไมเ่ คร่งครัด 8. มกี ารเกบ็ ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ แต่เนน้ ขอ้ มูลเชิงคณุ ภาพมากกวา่ 9. การเขยี นรายงานการวจิ ัยไม่เคร่งครัดในรูปแบบ 10. ครูสามารถใช้ผลการวจิ ยั พัฒนาตนและพัฒนางานในหนา้ ที่ได้ 11. สามารถทาวจิ ัยไดท้ กุ วนั ทกุ สปั ดาห์ ทาใหไ้ ดง้ านวจิ ยั มากมาย และไมจ่ าเปน็ ต้องใช้งบประมาณจานวนมาก 12. ไมไ่ ด้มงุ่ ใหค้ รทู าเพือ่ ขอผลงาน จุดเนน้ คอื นักเรียน และการพัฒนาสภาพการเรียนการสอน ส่วนการขอเป็นผลงานน้ันเปน็ ผลพลอยได้
ความรสู้ ึกต่อรายวิชา 67 สาหรับรายวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ เป็นวิชาท่ีมีเน้ือหาค่อนข้างเยอะ ก่อนอื่นเลยชั่วโมงแรกท่ีได้เรียนกับ ท่านอาจารย์ หนูรู้สึกกลัวและตื่นเต้นมาก ๆ ค่ะ รู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนเวลาแต่ละนาทีช่างเดินช้า บางช่ัวโมงหนูก็ตาม ท่านอาจารย์ไม่ทัน แต่ท่านอาจารย์ก็ใจดีอนุญาติให้นักศึกษากลับไปทาต่อเป็นการบ้าน เน่ืองจากรายวิชาน้ี เป็นวิชาที่ ค่อนข้างยากและมีเนอื้ หาที่เยอะ อาจารย์จึงใช้เทคนิคต่าง ๆ มาใช้กับพวกเราเพื่อให้พวกเราเกิดการเรียนรู้ที่มากข้ึน และมีการ ทดสอบหลงั เรยี นทกุ ครั้ง ในการเรียนแต่ละช่ัวโมงถึงแม้หนูจะรู้สึกกดดันมาก แต่อาจารย์ก็ทาให้พวกหนูรู้สึกอยากเรียน และทาให้เพ่ือน ๆ หลายคนร้วู ่าการเปน็ ครทู ่ดี นี นั้ ควรเปน็ อยา่ งไร ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์สาราญเป็นอย่างย่ิง ท่ีได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้แก่พวกเรา ให้ได้นาไปปรับใช้ใน การเรียนการสอนรายวิชาต่าง ๆ และสุดท้ายน้ี ถึงแม้ว่าพวกหนูจะรู้สึกกดดันในการเรียน แต่ทุกคร้ังที่ได้เรียนกับอาจารย์ พวกหนรู ูส้ ึกมคี วามสุขมาก ๆ ค่ะ ขอบพระคณุ ทา่ นอาจารย์เป็นอย่างสูงที่ได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับพวกเราอย่างเต็มท่ี ได้ให้ ความรู้ ให้คาแนะนา และเทคนิคการสอนต่าง ๆ ทาให้ดิฉันและเพ่ือน ๆ ได้เรียนรู้ส่ิงใหม่ ๆ ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็น อยา่ งสูงค่ะ
68 สัญญาการเรยี น
Search
