เส้นไหมไทย ราชนิ ีแห่งเส้นใย สานตอ่ ผ้าไหมไทย หลายๆคนรจู้ กั ผ้าไหมไทย เพราะเปน็ ส่ิงทอไทยทมี่ ีความงดงาม และเป็นเสนห่ ์ต่อผูพ้ บเหน็ เป็นอยา่ งยงิ่ แตก่ ็คงยงั มีอกี หลายๆ คนที่ยังไมท่ ราบว่า กวา่ จะเปน็ ผนื ผา้ ไหมทีม่ ีความสวยงาม และมีเอกลักษณ์ของความเปน็ ผา้ ไหมไทยน้นั ต้องผ่านข้นั ตอน กระบวนการต่างๆ ผนวกกบั ภูมิปัญญาของบรรพบุรษุ ไทยมา อย่างลึกซ้งึ ดงั น้ันเรามารู้จกั ตน้ ก�ำ เนิดของความเปน็ ผา้ ไหม ไทยกนั เถิด จุดเรม่ิ ตน้ คือ เป็นการรว่ มประสานกันระหว่างพชื และสตั ว์ นั่นคือ ต้นหม่อนกบั ตัวหนอนไหม
การเลี้ยงไหม การเล้ียงตวั ไหมในกระด้งหรือกระบะเปน็ วธิ ีทป่ี ฏบิ ตั ิมาดงั้ เดิม ภายในหอ้ งเลยี้ งไหมจะมีช้นั วาง กระด้งหรือกระบะ วิธกี ารเลย้ี งไหมจะใชว้ ธิ เี ก็บใบหมอ่ นท่คี อ่ นข้างแก่ มีสีเขียวเข้มมาโรยให้ หนอนไหมกิน
ตน้ หม่อน เปน็ พืชยนื ตน้ ชนดิ หนึง่ ทม่ี ีรูปร่าง เป็นไม้ทรงพมุ่ เป็นพืชยืนต้น ใบ หมอ่ นเป็นอาหารทีด่ ีท่ีสุดของ หนอนไหม ผลผลิตเสน้ ไหมจะมี คุณภาพดหี รอื ไม่ ผลผลิตต่อไร่ จะมากหรือนอ้ ย คณุ ภาพของใบ หมอ่ นมีสว่ นสัมพันธโ์ ดยตรง รวม ท้ังกระบวนการบริหารจัดการแปลง หมอ่ นเพ่ือการใชป้ ระโยชนส์ งู สุด ด้วย
ฝกั หลอก
การค้นหมี่ เสน้ ฝา้ ยมีไขฉาบโดยธรรมชาติ กอ่ นน�ำ มาใชต้ ้องชุบ นำ�้ ใหเ้ ปียกท่ัวอณขู องเส้นฝา้ ย โดยชบุ น้�ำ แลว้ ทบุ ดว้ ย ทอ่ นไมผ้ ิวเรียบ เรยี กว่า การฆ่าฝ้าย ก่อนจะชุบฝ้าย หมาดน้�ำ ในน�้ำ แป้งและตากใหแ้ ห้ง คลอ้ งฝ้ายใส่กงแล้ว ถา่ ยเส้นฝ้ายไปพันรอบอกั ต้งั อักถ่ายเส้นฝ้ายพนั รอบ หลกั หมี่ ซ่ึงมีความกวา้ งสมั พันธ์กับความกวา้ งของฟืมท่ี ใชท้ อผา้ นบั จ�ำ นวนเส้นฝ้ายใหเ้ ป็นหมวดหมู่ แตล่ ะหมู่ มีจำ�นวนเสน้ ฝา้ ยสัมพนั ธ์กับลายหม่ี มดั หมวดหมฝู่ า้ ย ด้วยเชือกฟาง
การกวกั ไหม กวัก เพอื่ ทำ�ใหเ้ สน้ ไหมตอ่ กันเป็นเสน้ เดยี วตลอด เพราะกรรมวธิ ีการดอ่ งไหม จะท�ำ ใหเ้ ส้นไหมขาดไมต่ ดิ ต่อ กนั จึงตอ้ งนำ�ปอยไหมมากวกั ไหม ให้เสน้ ไหมติดตอ่ กัน โดยใช้เครอ่ื งมอื สองอย่างคือ “กง” (ส�ำ หรบั ใสป่ อยไหม ทำ� ด้วยไมไ้ ผ่ละเชอื ก) และกวกั
การมัดหม่ี เป็นขั้นตอนทีส่ �ำ คัญที่สดุ ทจี่ ะท�ำ ใหผ้ ้าไหม ใหเ้ ป็นลายและสีสรรตา่ งๆ ในการมัดหม่ีให้ เป็นลายและสีตา่ งๆนั้น ข้นึ อยกู่ ับกรรมวธิ ี และความนยิ มของผู้ใช้เปน็ ส�ำ คัญ เพราะ ลายและสีของผา้ ไหมมมี ากมาย
การทอผ้าไหม เปน็ ขัน้ ตอนสุดทา้ ยของการผลิตผ้าไหม โดยจะตอ้ งอาศัยชา่ งผมู้ อื ฝีมอื ใน การทอ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการทอผา้ ไหม คอื “ก”ี่ กม่ี ี 2 ชนดิ คือ กธ่ี รรมดา และกกี่ ระตุก แต่เราจะมาพดู ถงึ กี่ธรรมดา ปริมาณในการผลติ ผา้ ไหมในแต่ละวนั นนั้ ช่างทอหนงึ่ คน จะทอผา้ ไหมได้ประมาณ 1-2 ผืนตอ่ วัน นอกจากน้ถี ้าถึงฤดกู าลทำ�นา การผลิตผ้าไหมต้องหยดุ ชะงักลง แต่ถา้ หากสามารถน�ำ เตรอื่ งจกั รหรือเทคโนโลยี ใหม่ๆมาใช้ในการทอผ้าจะชว่ ยให้สามารถในการผลิตผา้ ไหมไดเ้ รว็ ขนึ้
1.โครงหูกหรอื โครงกี่ อปุ กรณก์ ารทอผ้า 2.ฟืม หรือ ฟันหวี 3.เขาหูก หรือตะกอ 9.ไมค้ ้างเขาหรอื ไม้ค้างตะกอ 4.กระสวย 10.คานแขวน 5.ไมห้ น้าหกู 1ๅ.บา่ ก่ี 6.ไมร้ างหูก 12.ไมน้ ง่ั 7.กระดานมว้ นหกู 13.ผัง 8.ลกู ต้งุ 14.ตีนฟืม หรอื ตนี เหยยี บ หรอื คานเหยียบ 15.ไม้มว้ นผา้ หรอื ไมพ้ นั ผ้า หรอื ไม้ค�ำ้ พัน
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: