บทที่ 2

บทที่ 2 อุปกรณ์ ในระบบเครือข่ าย และรู ปแบบการเชื่อมต่อ ระบบเครือข่าย

แผงวงจรเครือข่าย สายลัญญาณ ตัวกลางการเชื่อมต่อเครือข่าย รูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่าย

แผงวงจรเครือข่าย (Network Interface Card : NIC) สามารถเรียกได้หลายNIC, Network Adapter, Network Card, LAN Card ฯลฯ แต่ละชื่อหมายถึงแผงวงจรเครือข่ายทั้งสิ้น แผงวงจรเครือข่ายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่เป็น ตัวกลางในการรับส่งข้อมูลระหว่างเครื่อง คอมพิวเตอร์กับระบบเครื่อข่าย โดยจะติดตั้งอยู่ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องที่ต้องการเชื่อม ระบบเครือข่ายจำเป็นต้องมีแผงวงจรเครือข่าย และที่แผงวงจรเครือข่ายจะมีขั้วต่อกับสาย สัญญาณที่ใช้ในการรับส่งข้อมูล ในอดีตการเชื่อม ต่อกับระบบเครือข่ายจะต้องซื้อแผงวงจรเครือ ข่ายมาติดตั้งเพิ่มเติม ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตแผง วงจรหลัก (Mainboard) ได้ติดตั้งแผงวงจร เครือข่ายมาพร้อมกับแผงวงจรหลักเรียบร้อยเล้ว แต่หากต้องการติดตั้งแผงวงจรเครือข่ายเพิ่มก็ สามารถซื้อแผงวงจรเครือข่ายมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ เช่นกัน

แผงวงจรเครือข่าย (Network Interface Card : NIC) ตัวอย่าง แผงวงจรเชื่อมต่อเครือข่าย (LAN card) เป็นอุปกรณ์ที่ทำ หน้าที่ในการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเวิร์ค สเตชั้น (Workstation) และเครื่องให้บริการข้อมูล (Server) ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ต้องการเชื่อมต่อกับ เครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ จำเป็นต้องติดตั้งแลนการ์ด

แผงวงจรเครือข่าย (Network Interface Card : NIC) ตัวอย่าง การส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายมีลักษณะคล้ายกับการส่ง จดหมาย กล่าวคือ ในการส่งจดหมายจะต้องระบุชื่อที่อยู่ของ ผู้รับและผู้ส่ง การส่งข้อมูลไนเครือข่ายก็เช่นเดียวกัน จะต้อง ระบุตำแหน่งที่อยู่ของเครื่องที่จะรับข้อมูลและระบุตำเแหน่งที่ อยู่ของเครื่องที่ส่งข้ดมูล ไคยคำแหน่งที่ใช้สำหรับการอ้างอิง การส่งข้อมูลจะใช้หมายเลขประจำแผงวงจรเครือข่ายเรียกว่า \"แมกแอดเครส(MAC Address)\" แผงวงตรเครือข่ายทุกแผง วงจรจะมีหมายเลขแมกแอดเครสประจำของแผงวงกรหนึ่ง หมายเลขเท่านั้น และหมายเลขดังกล่าวจะไม่น้ำกับหมายเลข ของแผงวงจรเครือข่ายอื่น ๆ ทั่วโลก หมายเลขแมกแอดเตรสถูกบันทึกไว้ในหน่วยความจำของแผง วงจรเครือข่าย ซึ่งถูกบันทึกในขั้นตอนการผลิตแผงวงจรเครือข่าย จากโรงงาน ทำให้ไม่สามารถแก้ไขหมายเลขได้ หมายเลขแมกแอด เตรสมี 48 บิด ประกอบด้วยส่วนประกอบสองส่วนคือ 24 บิดแรก จะเป็นหมายเลขประจำตัวของบริษัทผู้ผลิต และ 24 บิดที่เหลือจะ เป็นหมายเลขของแผงวงจรเครือข่าย การแสดงหมายเลขแมก แอดเดรสจะแสดงในรูปของเลขฐานสิบหก เช่น 00.00-F4-C0- 90-05 ฯลฯ

สายสัญญาณ เป็นสื่อกลางของระบบเครือข่ายที่ให้ข้อมูลผ่าน จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีก เครื่องหนึ่ง มีหลายขนิดดังนี้ 1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable) 2. สายโคแอกเซียล (Coaxial Cable) 3. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable)

สายสัญญาณ เป็นสื่อกลางของระบบเครือข่ายที่ให้ข้อมูลผ่าน จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีก เครื่องหนึ่ง มีหลายขนิดดังนี้ 1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable) ใครงสร้างของสายจะประกอบด้วยสายทอง แคงที่หุ้มด้วยฉนวนบาง ๆ เพื่อป้องกันการ สัดวงจร แล้วนำมาพันเป็นเกลียวเป็นคู่ ๆ สายคู่บิดเกลียวแบ่งได้สองชนิด ได้แก่

สายสัญญาณ 1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable) 1.1 สายคู่บิดเกกียวแบบมีชีลด์ (Shielded Twisted Pair : STP) เป็นสายที่มีฉนวน ป้องกันสัญญาณรบกวนจากภายนอก หุ้มสาย ทองแดงทุกคู่ ก่อนที่จะถูกหุ้มด้วยฉนวน ภายนอกอีกชั้นหนึ่ง

สายสัญญาณ 1. สายคู่บิดเกลียว (Twisted Pair Cable) 1.2 สายคู่บิดเกลียวแบบไม่มีชีลด์ (Unshielded Twisted Pair : UTP)สายทองแดงทุกคู่จะถูก หุ้มด้วยฉนวนภายนอก โดยไม่มีฉนวนป้องกัน สัญญาณรบกวนจากภายนอกจึงไม่เหมาะจะใช้ สายชนิดนี้ใกลักับสถานที่ที่มีคลื่นรบกวน สาย สัญญาณชนิดนี้นิยมใช้กับระบบเครือข่ายท้อง ถิ่น (LAN) ตามมาตรฐานแบบ Bthernet

สายสัญญาณ 2. สายโคแอกเซียล (Coaxial Cable)จะมี สายทองแดงขนาดเล็กถักสลับเข้าด้วยกันเพื่อ ป้องกันสัญญาณรบกวนแล้วหุ้มด้วยฉนวน โครงสร้างของสายมีสายทองแดงแกนกลาง เป็นสายนำสัญญาณหุ้มด้วยฉนวน จากนั้น ภายนอก สายชนิดนี้สามารถป้องกัน สัญญาณรบกวนได้ดีใช้เป็นสายสัญญาณที่ เชื่อมระหว่างอาคารที่อยู่ใกล้กันได้ ปัจจุบันไม่ นิยมใช้สายชนิดนี้แล้ว

สายสัญญาณ 3. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable)เป็นสายสัญญาณที่ส่งข้อมูลด้วยแสง แกนกลางของสายทำด้วยเส้นใยแก้ว ส่งข้อมูล ได้เร็วกว่าสายคู่บิดเกลียวและสายโดแอกเซียล ไม่มีปัญหาเรื่องของสัญญาณรบกวน เนื่องจากใช้แสงในการส่งข้อมูล เหมาะสำหรับ ใช้เป็นสายสัญญาณหลักของระบบเครือข่ายที่ เรียกว่า\"เเบ็กโบน (Backbone)\" แต่เป็นสาย สัญญาณที่มีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับสายชนิด อื่น

ตัวกลางการเชื่อม ต่อเครือข่าย นอกจากแผงวงจรเครื่อข่ายและสาย สัญญาณซึ่งเป็นอุปกรณ์พื้นฐานของระบบเครือ ข่ายแล้วในกรณีที่มีการขยายระบบให้มีระยะทางที่ ไกลมากขึ้น หรือมีความหลากหลายของระบบ เครือข่ายมากขึ้น หรือมีการแบ่งเครือข่ายออกเป็น เครือข่ายย่อย จำเป็นต้องมีอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติมที่ ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการเชื่อมต่อเครือข่ายดังนี้ รีพีตเตอร์ (Repeater) บริดจ์ (Bridge) เราเตอร์ (Router) เกตเวย์ (Gateway)

ตัวกลางการเชื่อม ต่อเครือข่าย รีพีตเตอร์ (Repeater) สัญญาณไฟฟ้าเมื่อส่งไปในสายสัญญาณ ระยะทางไกล ๆ ความแรงของสัญญาณจะลคลง เครื่องปลายทางอาจได้รับสัญญาณผิดเพี้ยนไป หรือสัญญาณอาจขาดหายไปบางส่วน ทำให้ไม่ สามารถรับข้อมูลได้อย่างถูกต้อง รีพีตเตอร์เป็น อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ในการปรับแต่งสัญญาณที่ได้ รับซึ่งมีสัญญาณผิดเพี้ยนหรือขาดหายบางส่วน ให้มีความแรงของสัญญาณเท่ากับสัญญาณ ต้นฉบับแล้วส่งต่อออกไปโคยไม่แก้ไขหรือปรับ เปลี่ยนข้อมูล และไม่ใช่การเพิ่มความแรงของ สัญญาณให้มีความแรงมากขึ้น ทำให้การรับส่ง ข้อมูลในระบบเครือข่ายมีระยะทางที่ไกลมากขึ้น

ตัวกลางการเชื่อม ต่อเครือข่าย รีพีตเตอร์ (Repeater)

ตัวกลางการเชื่อม ต่อเครือข่าย บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์ที่เป็นตัวกลางการติดต่อระหว่าง เครือข่ายสองเครือข่ายที่มีรู ปแบบการส่งข้อมูล เหมือนหรือต่างกันก็ได้ กรณีที่มีการส่งข้อมูล ข้ามเครือข่าย บริดจ์จะรับข้อมูลจากเครือข่าย หนึ่งแล้วส่งไปยังอีกเครื่อข่ายหนึ่งหากทั้งสอง เครือข่ายใช้รู ปแบบการรั บส่งข้อมูลต่างกัน บริคจ์ก็จะเปลี่ยนรู ปแบบของข้อมูลให้เหมาะสม กับอีกเครือข่าย

ตัวกลางการเชื่อม ต่อเครือข่าย เราเตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมระหว่างเครื่อายต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำหน้าที่คล้ายกับบช้กับเครื่อข่ายที่มี รูปแบบการส่งข้อมูลเหมือนหรือต่างกันก็ได้ แต่ เราเตอร์จะมีความสามาในการค้นหาเส้นทางที่ดี ที่สุดในการส่งข้อมูลไปยังปลายทาง

ตัวกลางการเชื่อม ต่อเครือข่าย เกตเวย์ (Gateway) เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระหว่างเครือข่ายที่มี โปรโตคอลและสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ที่แตก ต่างกันให้สามารถรับส่งข้อมูลระหว่างกันได้ โดย เกตเวย์จะเปลี่ยนจากมาตรฐานการรับส่งข้อมูล และรู ปแบบข้อมูลของระบบเครือข่ายแบบหนึ่ง ไปเป็ นมาตรฐานการรั บส่งข้อมูลและรู ปแบบ ข้อมูลของระบบเครือข่ายอีกแบบหนึ่ง