การวางแผน1. ความหมายการวางแผน “การวางแผน” (Planning) มาจากคาในภาษาละตนิ วา่ “แพลนมั ” (Planum) หมายถงึ พน้ื ทร่ี าบหรอื พมิ พเ์ ขยี ว คาภาษาองั กฤษใช้ “Planning” ( สมบตั ิ ธารงธญั วงศ.์ 2540 : 48 ) ซง่ึ หมายถงึกระบวนการวเิ คราะหแ์ ละการตดั สนิ ใจ ของผบู้ รหิ ารทจ่ี ะกาหนดวธิ กี ารไวล้ ว่ งหน้าอยา่ งเป็นระบบเพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทางปฏบิ ตั ใิ หบ้ รรลผุ ลตามเป้าหมายและวตั ถุประสงคท์ ก่ี าหนดไวอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ โดยนาเอาขอ้ มลูขา่ วสาร (Information) ในอดตี มากาหนดหรอื พยากรณ์อนาคต ดงั นนั้ แนวคดิ ของการวางแผนจงึ มลี กั ษณะเป็น “ศาสตร”์ ทต่ี อ้ งใชข้ อ้ มลู เชงิ ประจกั ษ์ (Empirical Information) ทม่ี คี วามแมน่ ตรง และเชอ่ื ถอื ได้ และจะตอ้ งประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบทช่ี ดั เจน และมคี วามตอ่ เน่อื งกนั ตามลาดบั ทงั้ น้เี พอ่ื ใหผ้ ใู้ ชแ้ ผน มคี วามรู้และความเขา้ ใจทจ่ี ะสามารถนาแผนไปปฏบิ ตั ิ ใหบ้ รรลุผลสาเรจ็ ได้2. ประโยชน์ของการวางแผน การวางแผนทกุ ระดบั จะมปี ระโยชน์ทงั้ ต่อผบู้ รหิ าร และผปู้ ฏบิ ตั ดิ งั น้ี 1. ป้องกนั มใิ หเ้ กดิ ปัญหาและความผดิ พลาด หรอื ลดความเสย่ี งทอ่ี าจจะเกดิ ขน้ึ ในการปฏบิ ตั งิ านในอนาคต 2. ทาใหอ้ งคก์ ารมกี รอบหรอื ทศิ ทางในการปฏบิ ตั งิ านทช่ี ดั เจนว่าจะทาอะไร ทไ่ี หน เมอ่ื ไร อยา่ งไรและใครทา ทาใหน้ กั บรหิ ารมคี วามมนั่ ใจในการปฏบิ ตั งิ านใหบ้ รรลผุ ลสาเรจ็ ไดง้ า่ ย 3. ชว่ ยใหเ้ กดิ การประหยดั ทรพั ยากรทางการบรหิ าร เชน่ คน เงนิ วสั ดอุ ปุ กรณ์ เวลา ฯลฯ 4. ชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านรวดเรว็ มปี ระสทิ ธภิ าพ เพราะมแี ผนเป็นแนวทาง “เปรียบเสมอื นเรือท่ีมีหางเสือ” 5. ชว่ ยใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านเป็นระบบ นกั บรหิ ารสามารถควบคมุ ตดิ ตามการปฏบิ ตั งิ าน ไดง้ า่ ย3. องคป์ ระกอบของการวางแผน องคป์ ระกอบของการวางแผนทส่ี าคญั คอื 3.1 การกาหนดจดุ หมายปลายทาง (Ends) ที่ต้องการบรรลุ ซง่ึ มหี ลายระดบั คอื 1) จดุ ม่งุ หมายหรือเป้าประสงค์ (Goals) เป็นการแสดงถงึ ความคาดหวงั ทต่ี อ้ งการให้เกดิ ขน้ึ ในชว่ งระยะเวลาขา้ งหน้า ซง่ึ มกั จะมองในรปู ของผลลพั ธ์ (Outcomes ) ในอนาคตกาหนดอยา่ งกวา้ งๆ 2) วตั ถปุ ระสงค์ (Objective) เป็นองคป์ ระกอบทเ่ี ป็นผลมาจากการแปลงจดุ มงุ่ หมาย(Goal) ใหเ้ ป็นรปู ธรรมมากขน้ึ เพอ่ื งา่ ยในการนาไปปฏบิ ตั ิ วตั ถุประสงคจ์ งึ เป็นการกาหนดผลผลติ (Output)ทค่ี าดหวงั ใหเ้ กดิ ขน้ึ อยา่ งกวา้ ง ๆ แต่ชดั เจน และสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้
2 3) เป้าหมาย (Targets) เป็นองคป์ ระกอบทเ่ี ป็นผลมาจากการแปลงวตั ถุประสงคใ์ หเ้ ป็นรปู ธรรมในการปฏบิ ตั มิ ากขน้ึ เป้าหมายจงึ เป็นการกาหนดผลลพั ธส์ ดุ ทา้ ยทเ่ี กดิ ขน้ึ จากการปฏบิ ตั ติ ามแผนโดยจะกาหนดเป็นหน่วยนบั ทว่ี ดั ผลไดเ้ ชงิ ปรมิ าณ และกาหนดระยะเวลาทจ่ี ะบรรลผุ ลสาเรจ็ นนั้ ดว้ ย 3.2 วิธีการและกระบวนการ (Means and Process) เป็นองคป์ ระกอบทเ่ี กดิ จากการนาขอ้ มลูต่าง ๆ มาวเิ คราะหแ์ ละกาหนดเป็นทางเลอื ก (Alternative) สาหรบั เป็นแนวทางปฏบิ ตั ิ หรอื กลวธิ ี(Strategy) ใหบ้ รรลุจดุ หมายทก่ี าหนดไว้ จากนนั้ จะถ่ายทอดออกมาเป็นแผนงาน (Programs) และโครงการ(Projects) ทเ่ี ชอ่ื มโยงกนั โดยทวั่ ไปจะประกอบดว้ ย 2 องคป์ ระกอบหลกั คอื 1) กลวิธีการปฏิบตั ิ หรือมาตรการ (Strategy) เป็นการกาหนดแนวทางปฏบิ ตั ใิ หบ้ รรลุจดุ หมาย (Ends) ทก่ี าหนดไวอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 2) แผนงาน (Programs) และโครงการ (Projects) เป็นการกาหนดแนวทางการกระทาท่ีเป็นรปู ธรรมในการปฏบิ ตั มิ ากขน้ึ ซง่ึ โดยทวั่ ไปจะมปี ระเดน็ ในการเขยี นทช่ี ดั เจน ครอบคลุม และเชอ่ื มโยงกนั อยา่ งเป็นระบบ 3.3 ทรพั ยากร (Resources) และค่าใช้จา่ ย (Cost) เป็นองคป์ ระกอบทส่ี าคญั อยา่ งหน่ึงในการวางแผนและการนาแผนไปปฏบิ ตั ิ ซง่ึ ไดแ้ ก่ คน เงนิ วสั ดุอปุ กรณ์ ซง่ึ ผวู้ างแผนจะตอ้ งระบใุ หช้ ดั เจนและมคี วามเป็นไปไดใ้ นการปฏบิ ตั ิ “มิใช่เขียนแผนแบบวาดวิมานในอากาศ” หรอื “เขียนแผนแบบเพ้อฝัน” 3.4 การนาแผนไปปฏิบตั ิ (Implementation) เป็นองคป์ ระกอบทแ่ี สดงถงึ กรรมวธิ ใี นการตดั สนิ ใจเลอื กแผนงานและโครงการไปปฏบิ ตั ใิ หเ้ กดิ ผลสาเรจ็ ตามจุดหมาย (Ends) ทก่ี าหนดไว้ ซง่ึ ขนั้ ตอนน้ีจะตอ้ งอาศยั กลยทุ ธห์ ลายอยา่ งทงั้ กลยุทธภ์ ายในองคก์ ารและกลยทุ ธภ์ ายนอกองคก์ าร 3.5 การประเมินผลแผน (Evaluation) เป็นองคป์ ระกอบทแ่ี สดงถงึ การตรวจสอบการควบคมุและการวดั ผลการปฏบิ ตั ติ ามแผนเพอ่ื ใหท้ ราบถงึ ความกา้ วหน้าหรอื ขอ้ บกพรอ่ งหรอื ขอ้ จากดั ของแผนนนั้ ๆเพอ่ื จะไดป้ รบั ปรงุ แผนใหส้ ามารถนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้บรรลตุ ามเป้าหมายและวตั ถปุ ระสงคท์ ก่ี าหนดไว้4. ระดบั ของการวางแผน ถา้ จะแบ่งระดบั ของการวางแผนตามลกั ษณะของการบรหิ ารงานในองคก์ าร สามารถแบ่งออกเป็น3 ระดบั คอื 1. การวางแผนระดบั นโยบาย (Policy Planning) เป็นแผนระดบั สงู สดุ ขององคก์ าร มกั จะระบุแนวทางอยา่ งกวา้ งๆ ซง่ึ เป็นพน้ื ฐานทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กดิ แผนชนิดอน่ื ๆ สว่ นใหญจ่ ะเป็นแผนระยะยาว (Long -Range Plan) เชน่ แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 9 2. การวางแผนกลยทุ ธ์ (Strategic Planning) เป็นการวางแผนหลอมรวมครอบคลมุ กจิ กรรมทงั้ หมดขององคก์ าร หรอื แผนงานใหญ่ขององคก์ าร โดยจะระบไุ ว้ “อย่างกว้าง” และ “มองไกล” ไปพรอ้ มๆกนั ซง่ึ มกั จะเป็นแผนระยะยาว 5 - 10 ปี ซง่ึ จะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั แผนระดบั นโยบาย
3 3. แผนปฏิบตั ิการ หรือแผนดาเนินงาน (Operation Plan) เป็นการวางแผนทก่ี าหนดจดุ มงุ่ หมายระยะสนั้ ระยะเวลา ไมเ่ กนิ 1 ปี ซง่ึ ถ่ายทอดมาจากแผนกลยทุ ธ์ องคป์ ระกอบของแผนปฏบิ ตั ิการจะประกอบดว้ ย วตั ถุประสงค์ เป้าหมาย กจิ กรรม ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิ งบประมาณ ผรู้ บั ผดิ ชอบในการดาเนนิ งาน แผนปฏบิ ตั กิ าร แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คอื แผนใชป้ ระจา (Standing Plans) และแผนใช้เฉพาะครงั้ (Single - use Plans)
4 การวางแผนยทุ ธศาสตร์ (Strategic Planning)1. ความหมายของการวางแผนกลยทุ ธ์ การวางแผนยทุ ธศาสตร์ หรอื การวางแผนกลยทุ ธ์ (Strategic Planning) เป็นกระบวนการตดั สนิ ใจเพอ่ื กาหนดทศิ ทางในอนาคตขององคก์ ร โดยกาหนดสภาพการณ์ในอนาคตทต่ี อ้ งบรรลุและกาหนดแนวทางในการบรรลสุ ภาพการณ์ทก่ี าหนดบนพน้ื ฐานขอ้ มลู ทร่ี อบดา้ นอยา่ งเป็นระบบ การกาหนดแนวทางทจ่ี ะบรรลสุ ภาพการณ์ในอนาคตทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ จะตอ้ งตงั้ อยบู่ นพน้ื ฐานของขอ้ มลู ทร่ี อบดา้ น คอื จะตอ้ งคานงึ ถงึ สภาพการณ์ทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ศกั ยภาพหรอื ขดี ความสามารถขององคก์ ร และการเปลย่ี นแปลงของสภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ ทงั้ ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง และสงิ่ แวดลอ้ ม การกาหนดแนวทางทจ่ี ะบรรลสุ ภาพการณ์ในอนาคตทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ จะตอ้ งเป็นระบบ คอืแนวทางทก่ี าหนดขน้ึ จะตอ้ งดาเนินไปอยา่ งเป็นขนั้ เป็นตอน การวางแผนยทุ ธศาสตรจ์ ะตอ้ งตอบคาถามหลกั 3 ประการ คอื 1. องคก์ รกาลงั จะกา้ วไปทางไหน (Where are you going?) 2. สภาพแวดลอ้ มเป็นอยา่ งไร (What is the environment?) 3. องคก์ รจะไปถงึ จุดหมายไดอ้ ยา่ งไร (How do you get there?) กระบวนการการวางแผนยทุ ธศาสตร์ (Strategic Planning Processes) มขี นั้ ตอนดงั ตอ่ ไปน้ี 1) กาหนดวสิ ยั ทศั น์ (Vision) 2) กาหนดภารกจิ หรอื พนั ธกจิ (Mission) 3) กาหนดเป้าประสงคห์ รอื จดุ มงุ่ หมายเพอ่ื การพฒั นา (Goal) 4) กาหนดประเดน็ ยทุ ธศาสตรห์ รอื ยทุ ธศาสตร์ (Strategy) 5) กาหนดกลยทุ ธห์ รอื แนวทางการพฒั นานามธรรม วสิ ยั ทศั น์ (Vision) ตอ้ งการเป็นอะไรรปู ธรรม พนั ธกจิ (Mission) ตอ้ งทาอะไร จดุ มงุ่ หมายเพอ่ื การพฒั นา ทาเพอ่ื อะไร ยทุ ธศาสตร์ ทาอยา่ งไร แนวทางการพฒั นา ทาโดยวธิ กี ารใด เป้าหมาย ทาแคไ่ หน/เทา่ ใด/กบั ใคร/เมอ่ื ใด
5 คาวา่ “ยทุ ธศาสตร”์ (Strategy)” มีความหมายรวมถึง “จดุ หมายปลายทาง (End)” และ“วิธีการส่จู ดุ หมายปลายทาง (Means) เชิงนโยบาย” ซง่ึ ใชใ้ นการกาหนดนโยบายจากการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกองคก์ ร (SWOT) ตามหลกั วชิ าการ สว่ นคาว่า “กลยทุ ธ”์ (Strategies)” หมายถึง “วิธีการส่จู ดุ หมายปลายทาง (Means) ระดบัปฏิบตั ิการและเป็นแนวทางเพ่ือตอบสนองวิธีการส่จู ดุ หมายปลายทางระดบั นโยบาย”2. ความแตกต่างระหว่างแผนกลยทุ ธ์ แผนปฏิบตั ิงานระยะยาวแบบดงั้ เดิม และแผนปฏิบตั ิราชการ 4 ปี ของหน่วยงาน หน่วยงานทไ่ี มไ่ ดจ้ ดั ทาแผนกลยทุ ธม์ ากอ่ น มกั จะมคี วามเขา้ ใจผดิ วา่ แผนปฏบิ ตั งิ านระยะยาวท่ีเคยทามาแตด่ งั้ เดมิ หรอื แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี ตามนโยบายของรฐั บาลทจ่ี ดั ทาขน้ึ ในปี 2548 คอื แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงาน แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงาน มลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี แผนกลยทุ ธใ์ หค้ วามสาคญั ต่อความสมั พนั ธข์ องสภาพแวดลอ้ มในเชงิ โอกาส และภยั อปุ สรรคทเ่ี ปลย่ี นแปลงไปกบั ศกั ยภาพทเ่ี ป็นจดุ แขง็ และจุดออ่ นของหน่วยงาน เพอ่ื การกาหนดกลยทุ ธ์ของหน่วยงาน หากสภาพแวดลอ้ มเปลย่ี นแปลงไป กลยทุ ธจ์ ะตอ้ งปรบั ไปดว้ ย แผนกลยทุ ธเ์ น้นความเชอ่ื มโยงจากนโยบายลงมาทผ่ี ลลพั ธ์ และต่อลงมายงั ผลผลติ ระยะยาวซง่ึ เป็นตวั เชอ่ื มไปสกู่ ารจดั ทาแผนปฏบิ ตั กิ ารและการกาหนดกจิ กรรม แผนกลยทุ ธใ์ หค้ วามสาคญั กบั ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี (Stakeholders) ในการจดั ทากลยทุ ธ์ แผนปฏิบตั ิงานระยะยาวแบบดงั้ เดิมของหน่วยงาน มลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี แผนปฏบิ ตั งิ านระยะยาวใหค้ วามสาคญั ต่อความสมั พนั ธข์ องสภาพปัญหากบั สาเหตุของ ปัญหาเพอ่ื กาหนดโครงการและกจิ กรรมของหน่วยงาน เพอ่ื แกไ้ ขปัญหา แผนปฏบิ ตั งิ านระยะยาวเน้นความเชอ่ื มโยงระหวา่ งกจิ กรรมกบั งบประมาณ แผนปฏบิ ตั งิ านระยะยาวใหค้ วามสาคญั กบั การกาหนดกจิ กรรมโดยผปู้ ฏบิ ตั งิ าน แผนปฏิบตั ิราชการ 4 ปี ของหน่วยงาน มลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี ใหค้ วามสาคญั ต่อความสมั พนั ธข์ องกลยทุ ธห์ ลกั ของแผนบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ กบั ผลผลติ ของหน่วยงานทข่ี องบประมาณแผน่ ดนิ แตไ่ มแ่ สดงความเชอ่ื มโยงจากยทุ ธศาสตร์ของรฐั บาลผา่ นผลลพั ธล์ งมายงั ผลผลติ ระยะยาว แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี ใหแ้ สดงสภาพแวดลอ้ มในเชงิ โอกาสและภยั อปุ สรรค และ ศกั ยภาพท่ีเป็นจดุ แขง็ และจดุ ออ่ นแบบแยกสว่ น แตไ่ มไ่ ดแ้ สดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งกนั และไมไ่ ดแ้ สดงว่าแผนการจดั ทาผลผลติ จะสมั พนั ธก์ บั สภาพแวดลอ้ มเปลย่ี นแปลงไปหรอื ไม่ อยา่ งใด แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี ใหค้ วามสาคญั กบั การกาหนดผลผลติ โดยผบู้ รหิ ารของหน่วยงาน
63. องคป์ ระกอบหลกั ในการวางแผนกลยทุ ธ์ องคป์ ระกอบหลกั ทค่ี วรกาหนดอยใู่ นแผนกลยทุ ธ์ มดี งั น้ี 1. พนั ธกิจ (Mission) เป็นสง่ิ ทส่ี อ่ื ถงึ ภารกจิ หลกั ขององคก์ าร ซง่ึ จะสะทอ้ นถงึ ปรชั ญาทจ่ี ะกาหนดการดารงอยขู่ ององคก์ าร เชน่ พนั ธกจิ ของคณะมนุษยศาสตร์ ฯ สถาบนั ราชภฏั อตุ รดติ ถ์ คอื “.....ผลิตบณั ฑิตที่มีคณุ ภาพ คณุ ธรรม สนองความต้องการของตลาดแรงงานและท้องถิ่น…” ถอ้ ยแถลงดงั กล่าวถอื ว่าเป็นภารกจิ หลกั ขององคก์ ารนนั่ เอง 2. จดุ ม่งุ หมาย (Goal) คอื ผลลพั ธป์ ลายทาง (Outcomes) ทอ่ี งคก์ ารตอ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ ในอนาคต โดยไมต่ อ้ งระบชุ ว่ งเวลาทแ่ี น่นอนลงไป เชน่ จดุ มงุ่ หมาย ของคณะมนุษยศาสตรฯ์ สถาบนั ราชภฏัอตุ รดติ ถ์ คอื “...ผลิตบณั ฑิตให้นาความร้ไู ปพฒั นาท้องถิ่น...” 3. วตั ถปุ ระสงค์ (Objective) เป็นผลผลติ (Output) ทต่ี อ้ งการใหเ้ กดิ ขน้ึ เมอ่ื ไดก้ ระทาสงิ่ ต่างๆตามทไ่ี ดก้ าหนดพนั ธกจิ ไว้ วตั ถุประสงคจ์ งึ ตอ้ งกาหนดให้ ชดั เจน วดั ได้ และปฏบิ ตั ไิ ด้ เป็นรปู ธรรมกว่าจุดมงุ่ หมาย (Goal) และตอ้ งเกดิ ขน้ึ กอ่ นผลลพั ธ์ เชน่ วตั ถปุ ระสงคข์ องคณะมนุษยศาสตรฯ์ “..เพ่ือผลิตบณั ฑิตปริญญาตรีสาขามนุษยศาสตร์ และสงั คมศาสตรห์ ลากหลายสาขา..” 4. นโยบาย (Policy) คอื ขอ้ ความหรอื สงิ่ ทอ่ี งคก์ ารระบุไวว้ า่ จะปฏบิ ตั หิ รอื กระทา เพอ่ื ใหบ้ รรลุวตั ถุประสงค์ และจดุ มงุ่ หมายทก่ี าหนดไว้ ดงั นนั้ การกาหนดนโยบายจงึ เป็นการกาหนดกรอบ กาหนดเกณฑใ์ นการจะปฏบิ ตั ใิ หก้ ระชบั และมปี ระสทิ ธภิ าพ 5. กลวิธี/มาตรการ (Strategy) แนวทางปฏบิ ตั ยิ อ่ ยทอ่ี งคก์ ารยดึ เป็นกรอบสาหรบั คดั เลอื ก แผนงาน /งาน / โครงการ ต่างๆ ทจ่ี ะดาเนินใหบ้ รรลวุ ตั ถปุ ระสงค์ ซง่ึ กลวธิ ตี า่ งๆ จะตอ้ งสอดคลอ้ งกบั นโยบายขอ้ นนั้ ๆ 6. แผนงาน (Program) เป็นการจดั รวมกลุ่มของ งาน หรอื โครงการ หรอื อาจกลา่ วว่า แผนงานคอื งาน หรอื โครงการยอ่ ยๆ หลายโครงการ ซง่ึ มวี ตั ถุประสงคส์ อดคลอ้ งกนั ซง่ึ งานหรอื โครงการจะประกอบดว้ ยกจิ กรรม (Activities) ตา่ งๆ ทด่ี าเนนิ การภายใตก้ รอบของงาน หรอื โครงการหน่งึ ๆ ซง่ึ จะมีเงอ่ื นไขระยะเวลาเรมิ่ ตน้ และสน้ิ สดุ ในการทากจิ กรรมต่างๆ4. กระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์ การวางแผนกลยทุ ธน์ อกจากจะกาหนดสาระของแผนกลยทุ ธ์ อนั ไดแ้ ก่ พนั ธกจิ จดุ หมายวตั ถุประสงค์ นโยบาย และกลวธิ หี รอื มาตรการ อนั เป็น . ยทุ ธศาสตร์ . แลว้ การวางแผนกลยทุ ธ์จะตอ้ งมอี งคป์ ระกอบและกระบวนการทส่ี าคญั ดงั น้ี 3.1 การวิเคราะห์ผมู้ ีส่วนได้เสีย (Stakeholders Analysis) การวเิ คราะหเ์ รอ่ื งผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี (Stakeholders Analysis) ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั องคก์ รมสี ่วนชว่ ยในการกาหนดวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าประสงคห์ ลกั ของหน่วยงานไดถ้ กู ตอ้ ง เน่ืองจากหน่วยงานไมเ่ พยี งแตม่ คี วามผกู พนั ธก์ บั กระทรวงเจา้ สงั กดั และผรู้ บั บรกิ ารเทา่ นนั้ แต่ยงั มผี มู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี อน่ื ๆ อกีดว้ ย
7 ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ต่อองคก์ ร (Stakeholder Influence) ซง่ึ มอี ทิ ธพิ ลต่อการวางแผนและการดาเนินงานของหน่วยงาน จาแนกไดเ้ ป็น 3 ประเภท ดงั น้ี (1) ผ้มู ีส่วนได้เสียภายในองคก์ ร (Internal Stakeholders) ไดแ้ ก่ ผบู้ รหิ ารทกุ ระดบั และเจา้ หน้าทร่ี ะดบั ปฏบิ ตั งิ าน (2) ผมู้ ีส่วนได้เสียโดยตรงในการรบั บริการ (Marketplace Stakeholders) เชน่ผรู้ บั บรกิ าร พนั ธมติ ร ผรู้ บั จา้ ง และขายครภุ ณั ฑแ์ ละวสั ดใุ นการจดั ซอ้ื จดั จา้ งตามระเบยี บพสั ดุ เป็นตน้ (3) ผมู้ ีส่วนได้เสียในสงั คมแต่อยนู่ อกองคก์ ร (External Stakeholders) เชน่คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค คณะกรรมการอาหารและยา สถาบนั การเงนิ สภาหอการคา้ สภาอตุ สาหกรรม องคก์ รพฒั นาเอกชน และสอ่ื มวลชน รวมทงั้ กล่มุ การเมอื งทเ่ี ป็นทางการและไมเ่ ป็นทางการตลอดจนศาลยตุ ธิ รรม และศาลปกครอง เป็นตน้ ซง่ึ ทาหน้าทใ่ี นการกากบั ดแู ล และป้องกนั และแกไ้ ขขอ้ขดั แยง้ /ขอ้ รอ้ งเรยี นระหวา่ งผใู้ หบ้ รกิ ารและผรู้ บั บรกิ าร เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความเป็นธรรมทงั้ สองฝ่าย ในการจดั ทาแผนกลยทุ ธ์ ฝ่ายทร่ี บั ผดิ ชอบดา้ นนโยบายและกลยทุ ธข์ องหน่วยงานควรให้ความสาคญั กบั ขนั้ ตอน ดงั ตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี ตวั อยา่ งขนั้ ตอนการมสี ว่ นรว่ มของผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ตอ่ องคก์ รในการจดั ทาแผนกลยทุ ธ์ขนั้ ตอน กิจกรรม ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรม1 เตรียมงานโดยหน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบดานนโยบายและกลยทุ ธ์ของหน่วยงาน ฝ่ายนโยบายและกลยทุ ธ์ 1.1 รา่ งรายช่อื คณะทางานร่วมระหวา่ งผบู้ รหิ ารและตวั แทนของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน (Internal Stakeholders) เพอ่ื เสนอขอความเหน็ ชอบจากผบู้ รหิ าร 1.2 รา่ งรายช่อื ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี จากภายนอก ประกอบดว้ ยผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี โดยตรงในการรบั บรกิ าร (Marketplace Stakeholders) และผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ในสงั คมแต่อยนู่ อก องคก์ ร (External Stakeholders) เพ่อื เสนอขอความเหน็ ชอบจากผบู้ รหิ าร 1.3 รวบรวมกฎหมายทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั หน่วยงาน โดยเฉพาะมาตราทเ่ี กย่ี วขอ้ งจาก รฐั ธรรมนูญ พระราชบญั ญตั ิ พระราชกฤษฎกี า และกฎกระทรวงทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 1.4 รวบรวมกฎหมายระหวา่ งประเทศ กฎบตั รสหประชาชาติ สนธสิ ญั ญา อนุสญั ญา และขอ้ ตกลงระหวา่ งประเทศ รวมทงั้ มาตรฐานสากลดา้ นการคา้ ระหวา่ งประเทศท่ี เกย่ี วขอ้ งกบั หน่วยงาน 1.5 รวบรวมนโยบายของรฐั บาล โดยเฉพาะคาแถลงนโยบาย แผนบรหิ ารราชการ แผน่ ดนิ และมตคิ ณะรฐั มนตรที ่เี กย่ี วขอ้ งกบั หน่วยงาน 1.6 รวบรวมรายงานผลงานทห่ี น่วยงานตอ้ งรบั ผดิ ชอบ ตอ้ งรายงานสานกั งาน เลขาธกิ าร คณะรฐั มนตรเี พ่อื จดั ทาผลงานของรฐั บาลตามแนวนโยบายพน้ื ฐาน แหง่ รฐั ตามรฐั ธรรมนูญ
8ขนั้ ตอน กิจกรรม ผ้เู ข้าร่วมกิจกรรม 2 1.7 รวบรวมขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณจากรายงานสถติ ทิ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การวเิ คราะห์ ผบู้ รหิ ารทุกระดบั สภาพแวดลอ้ มภายในและสภาพแวดลอ้ มภายนอกของหน่วยงาน เจา้ หน้าทร่ี ะดบั ปฏบิ ตั งิ าน 1.8 รวบรวมขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพจากเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อม ภายในและสภาพแวดลอ้ มภายนอกของหน่วยงาน ประชุมเชิงปฏิบตั ิการเพอ่ื วิเคราะหส์ ภาพแวดล้อม (SWOT Analysis) 2.1 วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มโดยผบู้ รหิ าร 2.2 วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มโดยตวั แทนของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน 2.3 วเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มรว่ มกนั ระหวา่ งผบู้ รหิ ารและตวั แทนของผปู้ ฏบิ ตั งิ าน ผบู้ รหิ ารทุกระดบั และเจา้ หน้าท่ี ระดบั ปฏบิ ตั งิ าน3 ประชมุ คณะทางานเพอ่ื จดั ทาร่างทิศทางและกลยทุ ธข์ องหน่วยงาน คณะทางานฯ 3.1 ประเมนิ สถานภาพจากผลการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ ม 3.2 จดั ทารา่ งวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าประสงคห์ ลกั ของหน่วยงาน 3.3 จดทารางกลยทุ ธร์ ะดบั ยทุ ธศาสตรแ์ ละกลยทุ ธ์4 ประชมุ เชิงปฏิบตั ิการเพอ่ื ให้ข้อคิดเหน็ ในการจดั วางทิศทางและการกาหนดกล ผมู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี 3 ยทุ ธข์ องผ้มู ีส่วนได้เสีย 3 หน่วยงาน โดยผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสียภายในหน่วยงาน ประเภท (Internal Stakeholders) ผ้มู ีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงในการรบั บริการ (Marketplace Stakeholders) และผมู้ ีส่วนได้ส่วนเสียในสงั คมแต่อย่นู อก องคก์ ร (External Stakeholders) 4.1 ใหข้ อ้ คดิ เหน็ เก่ยี วกบั การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มและการประเมนิ สถานภาพ ของหน่วยงาน 4.2 ใหข้ อ้ คดิ เหน็ เก่ยี วกบั รา่ งวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าประสงคห์ ลกั 4.3 ใหข้ อ้ คดิ เหน็ เก่ยี วกบั รา่ งยทุ ธศาสตรแ์ ละกลยทุ ธ์5 ประชมุ คณะทางานเพือ่ สรปุ ผลการจดั วางทิศทางและกลยทุ ธข์ องหน่วยงาน คณะทางานฯ 5.1 จดั ทาสรปุ ผลการประเมนิ สถานภาพจากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอม 5.2 จดั ทาสรปุ ผลการกาหนดวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกจิ และเป้าประสงคห์ ลกั ของหน่วยงาน 5.3 จดั ทาสรปุ ผลการกาหนดยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์ และผลผลติ 5.4 กาหนดตวั ช้วี ดั ระยะยาวระดบั ยทุ ธศาสตร์ และระดบั กลยทุ ธ์ (และตวั ชว้ี ดั รายปี - ถา้ ม)ี รวมทงั้ ตวั ช้วี ดั ระดบั ผลผลติ รายปีทแ่ี สดงประสทิ ธภิ าพของผลผลติ 4 มติ ิ (เชงิ ปรมิ าณ เชงิ คุณภาพ เชงิ เวลา และเชงิ ตน้ ทุน)6 เผยแพร่แผนกลยทุ ธต์ ่อสาธารณะ ฝ่ายนโยบายและกลยทุ ธ์ 6.1 จดั พมิ พแ์ ผนกลยทุ ธแ์ จกจา่ ยผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี ทงั้ 3 ประเภท 6.2 จดั ทา Website เผยแพรแ่ ผนกลยทุ ธ์ พรอ้ ม E-mail เพอ่ื ใหป้ ระชาชนและผสู้ นใจ สามารถใหข้ อ้ คดิ เหน็ เพมิ่ เตมิ กลบั มายงั หน่วยงานได้
9 3.2 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ทงั้ ภายในและภายนอกองคก์ าร 1) การวิเคราะหส์ ถานการณ์ภายในองคก์ าร โดยปกตจิ ะใชห้ ลกั “SWOT” ในการวเิ คราะห์ ซง่ึ จะเป็นการประเมนิ จุดเดน่ หรอื จุดแขง็ (Strengths) หรอื ศกั ยภาพของการดาเนนิ งานขององคก์ ารท่ีผา่ นมาทงั้ ในอดตี และปัจจบุ นั วา่ ประสบความสาเรจ็ เพยี งใด เชน่ ตรวจสอบศกั ยภาพดา้ นทรพั ยากรในการบรหิ ารอาทิ คน เงนิ วสั ดุอปุ กรณ์ สอ่ื การสอน เทคโนโลยสี มยั ใหม่ วธิ กี ารจดั การหลกั สตู ร วเิ คราะหจ์ ุดออ่ น(Weakness) ขององคก์ ารวา่ มปี ัญหาอะไรบา้ ง ตลอดจนวเิ คราะหโ์ อกาส (Opportunity) ทจ่ี ะสนบั สนุนใหม้ ีการแกไ้ ขปัญหาหรอื พฒั นาองคก์ ารใหเ้ ตบิ โต หรอื มคี วามเป็นเลศิ และวเิ คราะหว์ า่ มอี ปุ สรรค/ขอ้ จากดั หรอืภาวะคกุ คาม (Threat) อะไรบา้ งทอ่ี าจเกดิ ขน้ึ เมอ่ื เราดาเนนิ โครงการแลว้ ทงั้ น้เี พอ่ื จะไดใ้ ชต้ รวจสอบสภาวะความเสย่ี ง (Risks) และใชป้ ระกอบการพจิ ารณาตดั สนิ ใจเลอื กทางเลอื กในการวางแผนไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ตลอดจนทาใหอ้ งคก์ ารมคี วามเขม้ แขง็ ในการปฏบิ ตั งิ านใหส้ าเรจ็ ลลุ ว่ งตามจดุ หมายทก่ี าหนดไวใ้ นทส่ี ดุ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายใน ควรครอบคลุมประเดน็ ตอ่ ไปน้ี ความเหมาะสมของโครงสรา้ งองคก์ ารและความชดั เจนของนโยบายทห่ี น่วยงานกาหนด ประสิทธิผลในระดบั ผลลพั ธ์ (ผลประโยชน์ต่อกลมุ่ เป้าหมาย) ในชว่ งเวลาทผ่ี า่ นมา และประสทิ ธภิ าพในระดบั ผลผลติ (เชงิ ปรมิ าณ เชงิ คณุ ภาพตามมาตรฐานเชงิ เวลา และเชงิ ตน้ ทนุ )ในชว่ งเวลาทผ่ี า่ นมา รวมทงั้ ความคมุ้ คา่ (B/C Ratio หรอื Cost Effectiveness) ของภารกจิ ในชว่ งเวลาท่ีผา่ นมา การบริหารบคุ คลและการพฒั นาบคุ ลากร (อตั รากาลงั คณุ ภาพบุคลากร การคดั เลอื กบคุ ลากร การใหร้ างวลั และการลงโทษ ขวญั และกาลงั ใจ การฝึกอบรมระหวา่ งการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หน้าท่ี การฝึกอบรมผบู้ รหิ ารระดบั ต่างๆ การถา่ ยทอดภมู คิ วามรกู้ อ่ นเกษยี ณอายุ เป็นตน้ ) ประสิทธิภาพทางการเงินและการระดมทนุ การบริหารพสั ดุ (การจดั ซอ้ื จดั จา้ ง ความพรอ้ มใชข้ องครภุ ณั ฑ์ การใชค้ รภุ ณั ฑไ์ ด้อยา่ งสมประโยชน์ การบารงุ รกั ษาครภุ ณั ฑแ์ ละอาคารสถานท่ี การจดั หาวสั ดสุ น้ิ เปลอื ง เป็นตน้ ) การบริหารจดั การ (การวางแผนปฏบิ ตั กิ าร การวจิ ยั และพฒั นา การตดิ ตามผลการปฏบิ ตั งิ าน การประเมนิ ผล การจดั ทาฐานขอ้ มลู และระบบสารสนเทศเพอ่ื การจดั การ การสอ่ื สารภายในหน่วยงาน วฒั นธรรมองคก์ าร และภาวะผนู้ า เป็นตน้ ) 2) การวิเคราะหส์ ถานการณ์ภายนอกองคก์ าร เป็นการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ภายนอกองคก์ าร แต่อาจมผี ลกระทบต่อการดาเนินงานขององคก์ ารทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม เชน่สภาพแวดลอ้ มทางดา้ น เศรษฐกจิ สงั คม การเมอื ง กลมุ่ ผลประโยชน์ คแู่ ขง่ ขนั ความกา้ วหน้าดา้ นเทคโนโลยี ฯลฯ ปัจจยั ตา่ ง ๆ เหล่าน้ีองคก์ ารควบคมุ ไดย้ าก ดงั นนั้ ในการวางแผนกลยทุ ธ์ ผวู้ างแผนจะตอ้ งให้
10ความสาคญั กบั การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ภายนอกองคก์ าร เพอ่ื นามาใชเ้ ป็นขอ้ มลู ในการวางแผนกลยทุ ธใ์ หม้ ีประสทิ ธภิ าพ การวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอก ควรครอบคลมุ ประเดน็ ตอ่ ไปน้ี ปัจจยั เอือ้ /ปัจจยั อปุ สรรคด้านสงั คมและวฒั นธรรม - ปัจจยั เออ้ื ดา้ นสงั คมในประเดน็ ทเ่ี กย่ี วกบั ความตอ้ งการของประชาชน หรอื ปัญหาของสงั คม หรอื ขอ้ เรยี กรอ้ งของกลมุ่ บคุ คลทม่ี สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี รวมทงั้ เครอื ขา่ ยความรว่ มมอื ระหว่างหน่วยงานภาครฐั และหน่วยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ ง ภาคเอกชน ตลอดจนโครงสรา้ งประชากร การศกึ ษา อนามยัอาชพี ความรู้ เจตคติ พฤตกิ รรม แนวคดิ อนุรกั ษ์ กระแสวฒั นธรรมจากตา่ งประเทศ คา่ นิ ยมความเชอ่ื ขนบธรรมเนยี ม และประเพณี เป็นตน้ ปัจจยั เอื้อ/ปัจจยั อปุ สรรคด้านเทคโนโลยี (นวตั กรรม และความมอี ยขู่ องเทคโนโลยี เป็นตน้ ) ปัจจยั เอือ้ /ปัจจยั อปุ สรรคด้านเศรษฐกิจ (ภาวะทางเศรษฐกจิ ภาวะการจา้ งงานอตั ราดอกเบย้ี และอตั ราแลกเปลย่ี นเงนิ ตราระหวา่ งประเทศเศรษฐกจิ ระหวา่ งประเทศ เป็นตน้ ) ปัจจยั เอื้อ/ปัจจยั อปุ สรรคด้านการเมืองและกฎหมายภายในประเทศและระหว่างประเทศ - แนวนโยบายพน้ื ฐานแหง่ รฐั ตามรฐั ธรรมนูญ และกฎกระทรวงเกย่ี วกบั การแบ่งอานาจหน้าทข่ี องหน่วยงานภายในกระทรวง ปี 2545 และพระราชกฤษฎกี าจดั ตงั้ หน่วยงาน - นโยบายของรฐั บาล - เป้าประสงคท์ ก่ี าหนดในแผนยทุ ธศาสตรก์ ระทรวง - อปุ สรรคเกย่ี วกบั การประสานงานระหว่างหน่วยงานภาครฐั - อปุ สรรคหรอื ขอ้ จากดั ทเ่ี กดิ จากกฎหมายหรอื ระเบยี บ - อปุ สรรคหรอื ขอ้ จากดั ทเ่ี กดิ จากโครงสรา้ งสว่ นราชการ - อปุ สรรคหรอื ขอ้ จากดั ทเ่ี กดิ จากมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านเพอ่ื ใหเ้ กดิ การยอมรบั ในระดบั นานาประเทศ 3.3 การประเมินสถานภาพของหน่วยงาน ควรครอบคลุมประเดน็ ต่อไปน้ี „ ความโน้มเอยี งระหวา่ งจุดแขง็ และจดุ ออ่ น „ ความโน้มเอยี งระหว่างโอกาสและภยั อปุ สรรค „ สรปุ ความเป็นไปไดท้ จ่ี ะมยี ทุ ธศาสตรเ์ ชงิ รกุ เชงิ รกั ษาสถานภาพความเชย่ี วชาญ เชงิปรบั ปรงุ สว่ นดอ้ ย และเชงิ ตดั ทอนภารกจิ เป็นตน้
11 การกาหนดยทุ ธศาสตร/์ กลยทุ ธ์ กลยทุ ธเ์ ชิงรกุ O W - ขยาย - พฒั นา กลยทุ ธเ์ ชิงพฒั นา ? - ส่งเสริม - ส่งเสริม - สร้าง - ปรบั ปรงุ - เรง่ รดัS - แก้ไข - ประสานความร่วมมือ ขอรบั การ สนับสนุน กลยทุ ธต์ งั้ รบั กลยทุ ธแ์ ก้ปัญหา- ชะลอ - ยบุ เลิก- ปรบั ปรงุ - ถ่ายโอน- ลดต้นทุน - ควบกิจการ- ลดระยะเวลา - ปรบั เปล่ียน Re-engineering - หลอมรวม T Stars Situation (SO) จะเอาจุดแขง็ ไปใชป้ ระโยชน์จากโอกาสไดอ้ ยา่ งไร - สรา้ ง เปิด เพม่ิ บุก รกุ ขยาย Question Marks Situation (WO) แกไ้ ขจุดออ่ นเพอ่ื ชว่ งชงิ โอกาส หรอื หาจุดแขง็ จากภายนอกมาเสรมิ - ปรบั ปรงุ พฒั นา แกไ้ ข ทบทวน - ประสานความรว่ มมอื ขอรบั การสนบั สนุน Cash Cows Situation (ST) ใชจ้ ุดแขง็ เพอ่ื ลดความเสยี หายทเ่ี กดิ จากภยั คกุ คามหรอื ทาจดุ แขง็ ให้ดขี น้ึ - ปรบั ปรงุ พฒั นา ลดตน้ ทนุ ลดระยะเวลา Dogs Situation (WT) เลกิ /ลดภารกจิ บางดา้ นทม่ี จี ดุ ออ่ นและภยั คกุ คาม หรอื คดิ ใหม่ ทาใหม่ - เลกิ ลด ถ่ายโอน
12 - ปรบั เปลย่ี น Re-engineering 3.4 การจดั วางทิศทางของหน่วยงาน การจดั วางทศิ ทางเชงิ กลยทุ ธ์ของหน่วยงาน มขี อ้ ความทส่ี าคญั ประกอบดว้ ย “วสิ ยั ทศั น์(Vision)” “พนั ธกจิ (Mission)” และ “เป้าประสงคห์ ลกั ของหน่วยงาน (Organization’s Objective or Goal)” SWOT SWOTสจุดภอา่พอนแว/แดขลง็ ้อมภท1าิศยทใานงขององค์กรเป2้าประสงวคพสิ M์หVันยั iiลssทธisกoั iัศกonขnจินอ์งองค์กร สภาพแวดล้อมภายนอก โอกาส/อุปสรรค 1 แผนกลยทุ ธ์ผลลพั ธ์ 3 กลยุทธ์ระดับกรมเป้าหมาย+KPI 1. ภารกจิ หลกั 2. ภารกจิ หลกั 3. ภารกจิ สนับสนุน แผนปฏบิ ตั ิ 1.3 ภารกจิ สนบั สนุน ราชการ 4 ปี 2Q2TP 4 • กลยุทธ์ระดับสานัก/กอง และประจาปีผลผลติ 1.1 ภารกจิ หลกั 1.2 ภารกจิ หลกัเป้าหมาย+KPI 5 • กลยุทธ์ระดบั ส่วน / ฝ่ าย QQCT 1. 1.1กจิ กรรมหลกั 1. 1.2 กจิ กรรมหลกั 1.1.3 กจิ กรรมสนบั สนุน 6กจิ กรรมเป้าหมาย+KPI QT แผนผงั กระบวนการวางแผนกลยทุ ธ์ 1. วิสยั ทศั น์ เป็นขอ้ ความแสดงภาพทห่ี น่วยงานอยากจะเป็นในชว่ ง 4-5 ปีขา้ งหน้าและเกดิจากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายนอกและการวเิ คราะหศ์ กั ยภาพของหน่วยงาน ซง่ึ มขี อ้ มลู เชงิ ปรมิ าณและขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพสนบั สนุนการวเิ คราะห์ (มใิ ชข่ อ้ ความทเ่ี ป็น “คาขวญั ” ของหน่วยงาน หรอื ขอ้ ความท่ีแสดงภาพเพอ้ ฝันทไ่ี มส่ อดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ ม) 2. พนั ธกิจ เป็นขอ้ ความระบหุ น้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบหรอื บทบาทซง่ึ กาหนดจะทาในชว่ ง 4-5ปีขา้ งหน้าทส่ี อดคลอ้ งกบั กฎหมายการจดั ตงั้ หน่วยงาน 3. เป้าประสงคห์ ลกั ของหน่วยงาน เป็นขอ้ ความระบกุ ลมุ่ เป้าหมายผรู้ บั บรกิ ารทช่ี ดั เจนและผลประโยชน์ทก่ี ลุ่มเป้าหมายไดร้ บั ทม่ี คี วามสมั พนั ธก์ บั พนั ธกจิ โดยตรง
13 3.5 ยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์ และผลผลิตของหน่วยงาน โครงสรา้ งแผนงบประมาณในระบบงบประมาณแบบมงุ่ เน้นผลงานตามยทุ ธศาสตร์ กาหนดลาดบั ชนั้ จากบนลงลา่ ง (Cascading) เป็น 4 ระดบั ดงั น้ี 1. ระดบั ยทุ ธศาสตรข์ องรฐั บาล ทก่ี าหนดเป้าหมายยทุ ธศาสตรท์ ช่ี ดั เจนพรอ้ มตวั ชว้ี ดัความสาเรจ็ ของรฐั บาลทม่ี ตี ่อการเปลย่ี นแปลงของสงั คมในทางทพ่ี งึ ปรารถนา เรยี กว่า “National PolicyIndicator” หรอื “Impact Indicator” ในระดบั รฐั บาล 2. ระดบั ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวง ทก่ี าหนดเป้าหมายการใหบ้ รกิ ารสาธารณะเฉพาะดา้ นท่ีชดั เจน พรอ้ มตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของกระทรวงทม่ี ตี อ่ ผลประโยชน์ของกล่มุ สงั คมทเ่ี ป็นเป้าหมาย เรยี กว่า“Ministerial Policy Indicator” หรอื “Impact Indicator” เชน่ กนั แต่อยใู่ นระดบั กระทรวง 3. ระดบั กลยทุ ธร์ ะดบั กรม ทก่ี าหนดเป้าหมายการใหบ้ รกิ ารระดบั กรมทช่ี ดั เจนพรอ้ มตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของหน่วยงานทม่ี ตี ่อกลุ่มเป้าหมายผรู้ บั บรกิ าร และลกั ษณะผลประโยชน์เฉพาะ หรอืผลลพั ธ์ “Outcome Indicator” 4. ระดบั กิจกรรม ทก่ี าหนดกจิ กรรมหลกั นาสง่ ผลผลติ ทช่ี ดั เจน พรอ้ มตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็เมอ่ื สน้ิ สดุ กระบวนการจดั ทากจิ กรรมหลกั เรยี กว่า “Output Indicator”เป้ าประสงค์ ยุทธศาสตร/์ นโยบายของหน่วยงาน 1234 ผลลพั ธ์ กลยุทธ/์ แนวทาง/มาตรการของกลยุทธ์ 1.1 1.2 1.3 1.4ผลผลิตของ กจิ กรรมหลกัหน่วยนาส่ง 1.1.1 1.1.2 1.1.3 1.1.4 ผลผลิตแผนผงั ความเชอ่ื มโยงระหวา่ งยทุ ธศาสตร์ ผลลพั ธ์ ผลผลติ และกจิ กรรม3.5.1 รายละเอียดการกาหนดยทุ ธศาสตร/์ กลยทุ ธ์ ยทุ ธศาสตร์ ควรประกอบดว้ ย „ ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการปฏบิ ตั ภารกจิ หลกั
14 „ ยทุ ธศาสตรด์ า้ นการพฒั นาองคก์ าร (ซง่ึ เป็นงานสนบั สนุนและงานบรหิ ารทวั่ ไป) - การคลงั และการบรหิ ารสนิ ทรพั ย์ - การบรหิ ารและพฒั นาบคุ คล - การวจิ ยั และพฒั นา - ระบบฐานขอ้ มลู และสารสนเทศ - ระบบการตดิ ตามและประเมนิ ผล - อน่ื ๆ การกาหนดประเดน็ ยทุ ธศาสตร/์ กลยทุ ธ์ มี 4 ลกั ษณะ 1. Direct Approach โดยหน่วยงานกาหนดกลยทุ ธจ์ ากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกองคก์ ร (SWOT) ตามหลกั วชิ าการบรหิ ารเชงิ กลยทุ ธ์ (Strategic Management) 2. Goals Approach โดยหน่วยงานกาหนดกลยทุ ธจ์ ากการนาเอากลยทุ ธท์ ป่ี รากฏในแผนยทุ ธศาสตรข์ องหน่วยงานตน้ สงั กดั มาดาเนนิ การ เพอ่ื ตอบสนองจดุ หมายปลายทางทก่ี ระทรวงกาหนด(เชน่ การดาเนินงานตามกลยทุ ธท์ ก่ี าหนดไวใ้ นแผนยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงตามทก่ี ระทรวงมอบหมายใหใ้ ชก้ ลยทุ ธน์ นั้ ๆ) 3. Vision Approach โดยหน่วยงานวาดฝันวสิ ยั ทศั น์ทอ่ี ยากจะเป็น แลว้ ตรวจสอบความเป็นไปไดโ้ ดยพจิ ารณาความสอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มภายในองคก์ าร แลว้ จงึ กาหนดกลยทุ ธต์ ามศกั ยภาพของหน่วยงาน 4. Indirect Approach โดยหน่วยงานศกึ ษากลยทุ ธท์ ห่ี น่วยงานอน่ื ทม่ี ภี ารกจิ คลา้ ยคลงึกนั ใชอ้ ยู่ แลว้ ตรวจสอบความไปไดโ้ ดยพจิ ารณาความสอดคลอ้ งกบั สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกองคก์ าร แลว้ จงึ กาหนดกลยทุ ธต์ ามศกั ยภาพของหน่วยงาน การวเิ คราะหย์ ทุ ธศาสตรร์ ะดบั รฐั บาลมกั จะใชล้ กั ษณะท่ี 3 และลกั ษณะท่ี 1 เป็นหลกัและลกั ษณะท่ี 4 เป็นรอง (เชน่ ลอกเลยี นแบบกลยทุ ธท์ ใ่ี ชใ้ นประเทศตะวนั ตก) การกาหนดกลยทุ ธข์ องกระทรวงจะตอ้ งนาเอากลยทุ ธห์ ลกั ของรฐั บาล (ทป่ี รากฏในแผนบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ) มาดาเนนิ งาน จงึ ตอ้ งใชล้ กั ษณะท่ี 2 เป็นหลกั และลกั ษณะท่ี 1 เป็นรอง โดยกาหนดกลยทุ ธเ์ พม่ิ เตมิ จากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกองคก์ าร (SWOT) และอาจใช้ลกั ษณะท่ี 3 และลกั ษณะท่ี 4 ประกอบกนั การกาหนดกลยทุ ธข์ องหน่วยงานระดบั กรมซง่ึ เป็นองคก์ รในสงั กระทรวงจะตอ้ งนาเอกกลยทุ ธข์ องกระทรวงมาดาเนนิ งาน จงึ ตอ้ งใชล้ กั ษณะท่ี 2 เป็นหลกั และลกั ษณะท่ี 1 เป็นรอง โดยกาหนดกลยทุ ธเ์ พม่ิ เตมิ จากการวเิ คราะหส์ ภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกองคก์ าร (SWOT) และอาจใชล้ กั ษณะท่ี 3และลกั ษณะท่ี 4 ไดบ้ า้ ง
15 สว่ นหน่วยงานทใ่ี ชล้ กั ษณะท่ี 3 และลกั ษณะท่ี 1 เป็นหลกั มกั จะเป็นหน่วยงานภาคธุรกจิ เอกชนซง่ึ แสดงหากาไรทใ่ี ชก้ ารกาหนดวสิ ยั ทศั น์เพอ่ื ขายสว่ นแบ่งการตลาดและเปลย่ี นกจิ การเดมิ ไปทาอกี กจิ การหน่งึ ได้ อยา่ งไรกต็ าม หน่วยงานภาครฐั บาลทเ่ี ขา้ ขา่ ยการใชล้ กั ษณะท่ี 1 ผสมลกั ษณะท่ี 3ไดแ้ กร่ ฐั วสิ าหกจิ เชงิ พาณิชยแ์ ละองคก์ ารมหาชนทต่ี อ้ งเลย้ี งตนเองจะตอ้ งมรี ปู แบบทค่ี ลา้ ยคลงึ กบั ภาคเอกชนทแ่ี สวงหากาไรมากขน้ึ ดงั นนั้ หน่วยงานระดบั กรมซง่ึ เป็นองคก์ รในสงั กดั กระทรวงจะตอ้ งนาเอากลยทุ ธข์ องกระทรวงมาดาเนนิ งานเป็นหลกั จงึ ตอ้ งแสดงความเชอ่ื มโยงกลยทุ ธข์ องหน่วยงานขน้ึ ไปยงั ยทุ ธศ์ าสตร์กระทรวง แผนบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และความเชอ่ื มโยงกลยทุ ธข์ องหน่วยงานลงมายงั ผลลพั ธแ์ ละผลผลติของหน่วยงาน เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรใหก้ ลุ่มผบู้ รหิ ารทกุ ระดบั เจา้ หน้าทผ่ี ปู้ ฏบิ ตั งิ าน และผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งจากภายนอกองคก์ ารใหเ้ ขา้ ใจไดช้ ดั เจน นอกจากน้ี หน่วยงานระดบั กรมเป็นหน่วยงานใหบ้ รกิ ารสาธารณะซง่ึจะตอ้ งคานึงถงึ ความเชอ่ื มโยงภาคกจิ ของหน่วยงานกบั แนวนโยบายพน้ื ฐานแหง่ รฐั ตามรฐั ธรรมนูญท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั หน่วยงาน จงึ ตอ้ งแสดงความเชอ่ื มโยงกลยทุ ธข์ องหน่วยงานขน้ึ ไปยงั รฐั ธรรมนูญดว้ ย กลยทุ ธภ์ ายใต้ยทุ ธศาสตร์ „ แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานระบุขอ้ ความ “ผลลพั ธ”์ และตวั ชว้ี ดั เชงิ รปู ธรรมเมอ่ื สน้ิ สดุ ปีสดุ ทา้ ยของแผน „ แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานมขี อ้ ความ “ผลลพั ธ”์ และตวั ชว้ี ดั เชงิ รปู ธรรม ทร่ี ะบุ“กลมุ่ เป้าหมายทไ่ี ดร้ บั ผลประโยชน์” “ปรมิ าณ และ/หรอื คณุ ภาพตามมาตรฐานของ ผลประโยชน์” “เวลาท่ีวดั ผล” “สถานทท่ี ว่ี ดั ผล” „ แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานไดร้ ะบุกลยทุ ธก์ ารประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี ณุ ภาพดา้ นขอบเขตของเน้ือหาทจ่ี าเป็นเพอ่ื การปรบั ปรงุ อยา่ งสม่าเสมอ ในชว่ ง 4 ปีของแผน โดยประเมนิ ตนเอง และโดยผปู้ ระเมนิ อสิ ระ ผลผลิตภายใต้กลยทุ ธ์ „ แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานมผี งั ทแ่ี สดงว่ากลยทุ ธร์ ะดบั หน่วยงานทเ่ี ชอ่ื มโยง(arcading)ลงมายงั ผลผลติ ระดบั หน่วยงาน และกจิ กรรมหลกั ของหน่วยงาน „ แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานระบุขอ้ ความ “ผลผลติ ” และตวั ชว้ี ดั เชงิ รปู ธรรม เมอ่ื สน้ิ สดุ ปีสดุ ทา้ ยของแผน และตวั ชว้ี ดั เชงิ รปู ธรรม ทจ่ี าแนกเป็นรายปี ทค่ี รบ 4 มติ ิ „ แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงาน ทแ่ี สดงผลผลติ เกย่ี วกบั ระบบการประสานงานหรอื การสรา้ งเครอื ขา่ ย
163.5.2 เทคนิคการเขียนคาทีใ่ ช้ในยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์ และกิจกรรม ระดบั กลยุทธ์นามธรรม ขยายเพม่ิ ปรับปรุง คงสภาพ ตดั ตอนกง่ึ รูปธรรม เสริมสร้าง สร้างเสริม ส่งเสริม เร่งรัด ทบทวนรูปธรรม สนบั สนุน จัดทา จัดต้งั จัดสรร จัดซื้อ จัดจ้าง ก่อสร้าง ดาเนนิ การ ปฏิบัตงิ าน วางระบบ วางแผน ประชุม แลกเปล่ยี น เผยแพร่ ตดิ ตาม/ประเมินผล กาหนดระเบียบ แก้ไขกฎระเบียบ กาหนดมาตรฐาน กาหนดให้มี ทาให้มี พฒั นาหลักสูตร „ คากริยาท่ีใช้เขียนยทุ ธศาสตร์ (ของรฐั บาลและของกระทรวง) ใชค้ ากรยิ านามธรรมและตอ้ งแสดงทศิ ทางของยทุ ธศาสตรห์ รอื นโยบาย เช่น - “ขยาย/เพมิ่ /พฒั นา” เพอ่ื การรกุ - “ปรบั ปรงุ ” เพอ่ื การแกไ้ ขสว่ นดอ้ ย - “คงสภาพ” เพอ่ื การประคองตวั และ - “ตดั ทอน” เพอ่ื การยตุ สิ ว่ นทค่ี วรยกเลกิ „ คากริยาที่ใช้เขียนกลยทุ ธ์ ใชค้ ากรยิ ากง่ึ รปู ธรรม และตอ้ งแสดงแนวทางเพอ่ื ตอบสนองยทุ ธศาสตร์ เชน่ - “สง่ เสรมิ ” หรอื “สนบั สนุน” เพอ่ื ขยายกลุ่มผรู้ บั ผลประโยชน์ในสงั คม - “เสรมิ สรา้ ง” หรอื “รกั ษาความเชยี่ วชาญ” หรอื “รกั ษาสถานภาพ” เพอ่ื คงสภาพขององคก์ รในยามวกิ ฤตแิ ละ “ทบทวน” เพอ่ื พจิ ารณาตดั ทอนงานทค่ี วรยกเลกิ หรอื ถ่ายโอนใหห้ น่วยงานอน่ื เป็นตน้ „ คากริยาท่ีใช้เขียนกิจกรรมหลกั นาส่งผลผลิต ตอ้ งแสดงวธิ กี ารหลกั ทเ่ี ป็นรปู ธรรมใหก้ บั แนวทางทก่ี าหนดในระดบั กลยทุ ธ์ เชน่ - เผยแพรส่ ารสนเทศใหแ้ กผ่ บู้ รกิ าร (เพอ่ื สง่ เสรมิ พฤตกิ รรมทด่ี ใี นดา้ น.......)
17 - กอ่ สรา้ งศนู ยบ์ รกิ ารในระดบั ชมุ ชน (เพอ่ื สง่ เสรมิ พฤตกิ รรมทด่ี ใี นดา้ น......) - จดั สรรเงนิ อดุ หนุนใหแ้ กเ่ ครอื ขา่ ย (เพอ่ื สนบั สนุนเครอื ขา่ ยใหเ้ ป็นแกนนาในการป้องกนัการแพรร่ ะบาดของยาเสพตดิ ในชมุ ชน) - ฝึกอบรมใหแ้ กเ่ จา้ หน้าท่ี (เพอ่ื เสรมิ สรา้ งสมรรถนะในการใหบ้ รกิ าร) - จดั ทาระบบขอ้ มลู พน้ื ฐานใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพใหแ้ กเ่ จา้ หน้าท่ี (เพอ่ื สรา้ งเสรมิ ขดีความสามารถในการวางแผนและประเมนิ ผล) - กาหนดมาตรฐานการใหบ้ รกิ ารทม่ี คี ณุ ภาพเพอ่ื สรา้ งความพงึ พอใจใหแ้ กผ่ รู้ บั บรกิ าร 3.5.3 ขนั้ ตอนการเขียนตวั ช้ีวดั ความสาเรจ็ ระดบั ยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์ และผลผลิตของหน่วยงาน ขนั้ ตอนที่ 1. การกาหนดประเดน็ ของตวั ชี้วดั „ ระดบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ ใหก้ าหนดประเดน็ ตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของรฐั บาลทม่ี ตี ่อการเปลย่ี นแปลงของสงั คมในทางทพ่ี งึ ปรารถนา เชน่ “GDP” และ “คณุ ภาพชวี ติ ” ฯลฯ „ ระดบั ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวง ใหก้ าหนดประเดน็ ตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของกระทรวง ทม่ี ีต่อผลประโยชน์ของกลุ่มสงั คมทเ่ี ป็นเป้าหมาย เชน่ “GDP ภาคเกษตร” “GDP ภาคอตุ สาหกรรม” “สขุ ภาพด”ี “สตปิ ัญญาด”ี และ “มลภาวะไมเ่ กนิ มาตรฐาน” ฯลฯ „ ระดบั กลยทุ ธข์ องกรม ใหก้ าหนดประเดน็ ตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ ของกรมทม่ี ตี ่อกลมุ่ เป้าหมายผรู้ บั บรกิ ารและลกั ษณะผลประโยชน์เฉพาะ เชน่ “ผปู้ ่วยทม่ี ารบั การรกั ษามอี าการดขี น้ึ ”“เยาวชนไทยอา่ นออกเขยี นไดท้ กุ คน” และ “มลภาวะ ทางอากาศในเขต...ลดลง” ฯลฯ „ ระดบั กิจกรรมนาสงผลผลิต ใหก้ าหนดตวั ชว้ี ดั ความสาเรจ็ จากการจดั ทากจิ กรรมดว้ ยการใชค้ ากรยิ ารปู ธรรม “รกั ษาผปู้ ่วยตามมาตรฐานโรงพยาบาล” “จดั การเรยี นการสอนใหเ้ ดก็ วยัประถมศกึ ษาตามเกณฑม์ าตรฐาน” และ “ควบคมุ การปลอ่ ยควนั ดาและควนั ขาวของยานพาหนะไมเ่ กนิ เกณฑ์มาตรฐานกลาง” ฯลฯขอ้ ผิดพลาดท่ีพบเสมอในการเขียนยทุ ธศาสตร์ กลยทุ ธ์ และผลผลิตกิจกรรมเขยี นยทุ ธศาสตรห์ รอื นโยบายดว้ ยคากรยิ าในระดบั กลยทุ ธห์ รอื คากรยิ าในระดบั กจิ กรรม เชน่ยทุ ธศาสตรส์ ง่ เสรมิ ศกั ยภาพบคุ ลากรของผใู้ หบ้ รกิ าร (ซง่ึ ไมไ่ ดบ้ อกวา่ สงั คมไทยจะไดผ้ ลประโยชน์ท่ีเปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ อยา่ งไร) ยทุ ธศาสตรใ์ หค้ วามรเู้ จา้ หน้าทใ่ี นการใหบ้ รกิ าร ยทุ ธศาสตรจ์ ดั ทาระบบสารสนเทศ (ซง่ึ ไมไ่ ดบ้ อกว่าประชาชนจะไดร้ บั บรกิ ารทเ่ี ปลย่ี นแปลงในทางทด่ี ขี น้ึ อยา่ งไร) กรณีน้มี กัเกดิ ขน้ึ กบั หน่วยงานทผ่ี บู้ รหิ ารขาดความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ระบบงบประมาณแบบมงุ่ เน้นผลงานตามยทุ ธศาสตร์และยดึ ตดิ กบั ระบบงบประมาณแบบแสดงรายการเขยี นกลยทุ ธห์ รอื แนวทางตอบสนองยทุ ธศาสตรด์ ว้ ยคากรยิ าในระดบั กจิ กรรม เชน่ กลยทุ ธ์
18กอ่ สรา้ งอาคาร (ซง่ึ บอกว่าจะผลติ อะไร แตไ่ มไ่ ดบ้ อกวา่ กล่มุ เป้าหมายผรู้ บั ผลประโยชน์เป็นใครและจะได้ผลประโยชน์ในลกั ษณะใด) กลยทุ ธจ์ ดั ซอ้ื ครภุ ณั ฑ(์ ซง่ึ บอกวา่ จะซอ้ื อะไร แต่ไมไ่ ดบ้ อกว่าถา้ นาครภุ ณั ฑม์ าใชแ้ ลว้ กลมุ่ เป้าหมายผรู้ บั ผลประโยชน์เป็นใครและจะไดผ้ ลประโยชน์ในลกั ษณะใด) กลยทุ ธฝ์ ึกอบรมเจา้ หน้าท่ี (ซ่งื บอกว่าจะฝึกอบรมใคร แต่ไมไ่ ดบ้ อกว่าถา้ ฝึกอบรมแลว้ กลมุ่ เป้าหมายผรู้ บั ผลประโยชน์ เป็นใครและจะไดผ้ ลประโยชน์ในลกั ษณะใด) กรณีน้มี กั เกดิ ขน้ึ กบั หน่วยงานทผ่ี บู้ รหิ ารเคยชนิ กบั การทางานในสถานภาพเจา้ หน้าทผ่ี ปู้ ฏบิ ตั แิ ละขาดความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความเชอ่ื มโยงระหว่างผลลพั ธแ์ ละผลผลติ เขยี นกจิ กรรมหลกั นาสง่ ผลผลติ ดว้ ยคากรยิ าทแ่ี สดงขนั้ ตอนการจดั ทากจิ กรรม แทนทจ่ี ะแสดงกจิ กรรมหลกั เชน่ ออกแบบอาคาร (ซง่ึ เป็นขนั้ ตอนหน่งึ ของกจิ กรรมก่อสรา้ งอาคาร) ประกวดราคา (ซง่ึเป็นขนั้ ตอนหน่ึงของกจิ กรรมจดั ซอ้ื ครภุ ณั ฑ)์ สรรหาวทิ ยากรฝึกอบรม (ซง่ึ เป็นขนั้ ตอนหน่งึ ของกจิ กรรมฝึกอบรม) กรณีน้มี กั เกดิ ขน้ึ กบั หน่วยงานทผ่ี บู้ รหิ ารขาดความเขา้ ใจในการจดั ทาแผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานและเขา้ ใจวา่ การจดั ทาแผลกลยทุ ธ์ (Strategic Plan) กบั การจดั ทาแผนปฏบิ ตั กิ าร (Action Plan) เป็นเรอ่ื งเดยี วกนั ขนั้ ตอนท่ี 2. หลกั การกาหนดตวั ชี้วดั ด้วยสตู ร 2Q2T1P และ QQCT „ การเขียนตวั ชี้วดั ในระดบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ ระดบั ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวง และระดบักลยทุ ธข์ องกรม ควรมอี งคป์ ระกอบ 2Q+2T+1P คอื ปรมิ าณ (Quantity) คณุ ลกั ษณะ(Quality) เวลา(Time) กลุม่ เป้าหมาย (Target Group) และสถานท่ี (Place) „ การเขียนตวั ชี้วดั ในระดบั ผลผลิต ควรมอี งคป์ ระกอบ QQCT คอื ปรมิ าณ(Quantity) คณุ ลกั ษณะ (Quality) ตน้ ทนุ (Cost) และเวลา (Time) ขนั้ ตอนท่ี 3. การกาหนดค่าของตวั ชี้วดั คา่ ของตวั ชว้ี ดั แสดงเป็นตวั เลขใน 6 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ „ จานวน (Number) „ รอ้ ยละ (Percentage) „ สดั สว่ น (Proportion) „ อตั ราสว่ น (Ratio) „ อตั รา (Rate) „ คา่ เฉลย่ี (Average or Mean) ขนั้ ตอนท่ี 4. เทคนิคการเขียนตวั ชี้วดั ด้วยสตู ร 2Q2T1P และ QQCT „ การเขียนตวั ชี้วดั ยทุ ธศาสตรแ์ ละกลยทุ ธ์ตามสตู รขา้ งตน้ มคี วามแตกตา่ งกนั ในการกาหนดเป้าหมาย ดงั น้ี
19 - ระดบั ยทุ ธศาสตรช์ าติ กลุ่มเป้าหมายไดแ้ ก่ สงั คมในภาพรวม หรอื พน้ื ทใ่ี นภาพรวมหรอื รฐั บาลในภาพรวม เชน่ ประชาชน ทรพั ยากรธรรมชาติ ประเทศ รฐั บาล - ระดบั ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวง กล่มุ เป้าหมายไดแ้ ก่ กลุม่ สงั คมท่ี กระทรวง รบั ผดิ ชอบหรอื พน้ื ทเ่ี ฉพาะทก่ี ระทรวงรบั ผดิ ชอบ หรอื องคก์ รบรหิ ารของกระทรวง เชน่ กลมุ่ วยั แรงงาน ทรพั ยากรน้ารายรบั ของรฐั บาล - ระดบั กลยทุ ธข์ องกรม กลุ่มเป้าหมาย ไดแ้ ก่ กลุ่มผรู้ บั บรกิ ารทก่ี รมรบั ผดิ ชอบ หรอืพน้ื ทเ่ี ฉพาะทก่ี รมรบั ผดิ ชอบ หรอื องคก์ รบรหิ ารของกรม เชน่ กลุ่มวยั แรงงานทไ่ี มม่ งี านทา เขตชลประทานรายรบั ของกรม „ ในระดบั ยทุ ธศาสตรแ์ ละระดบั กลยทุ ธ์ การวดั เชิงปริมาณ (Quantity)และเชิงคณุ ลกั ษณะ (Quality) ของผลประโยชน์มคี วามแตกต่างกนั โดยขน้ึ กบั มาตรวดั (Scale) - การวดั เชงิ ปรมิ าณ (Quantity) ใชต้ วั เลขทเ่ี ป็น อตั ราสว่ นมาตรา (Ratio Scale) ชว่ งมาตรา (Interval Scale) และลาดบั มาตรา (Ordinal Scale) เชน่ “อตั ราสว่ นของเยาวชนทต่ี ดิ ยาเสพตดิ ต่อเยาวชนทงั้ หมดของประเทศ” และ “รายไดเ้ ฉลย่ี ของเกษตรเพม่ิ ขน้ึ จาก ... บาทเป็น ... บาท” “สดั สว่ นของผหู้ ญงิ ทเ่ี ป็นผบู้ รหิ ารในหน่วยงานภาครฐั เพม่ิ ขน้ึ จาก 1 ใน 4 เป็น 1 ใน 2” เป็นตน้ - การวดั เชงิ คณุ ลกั ษณะ(Quality) ใชต้ วั เลขทเ่ี ป็น นามมาตรา (Nominal Scale) เชน่ “กฎหมายทก่ี าหนดใหภ้ รรยาทจ่ี ดทะเบยี นสมรสตอ้ งเปลย่ี นสกลุ เป็นของสามไี ดร้ บั การยกเลกิ ” “หน่วยงานไดร้ บั รางวลั องคก์ รยอดเยย่ี มในด้าน........จากองคก์ ารระหว่างประเทศ” „ ในระดบั ยทุ ธศาสตรแ์ ละระดบั กลยทุ ธ์ การวดั ด้านเวลา/การกาหนดTime) กาหนดได้2 ลกั ษณะ - กรณีทต่ี อ้ งการวดั เมอ่ื สน้ิ สดุ เวลาของแผนระยะยาวหรอื สน้ิ สดุ โครงการ เชน่ “ภายในสน้ิแผนบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ปี .... ” หรอื “เมอ่ื สน้ิ สดุ ปี.... ” กรณีน้มี กั จะใชก้ บั การวดั ความสาเรจ็ ของยทุ ธศาสตร์ และกลยทุ ธ์ทก่ี าหนดขน้ึ ใหมใ่ นแผนนนั้ ๆ ซง่ึ ตอ้ งใชก้ ระบวนการกอ่ ตวั ของแผน-การเตรยี มงาน-การปฏบิ ตั งิ าน-การแสดงผลจากการปฏบิ ตั งิ าน-การสน้ิ สดุ หรอื การคงสภาพการปฏบิ ตั งิ าน โดยทผ่ี ลการปฏบิ ตั งิ านมกั จะไมส่ ามารถแสดงไดใ้ นปีท่ี 1 แต่จะเรมิ่ มผี ลขน้ึ บา้ งในปีท่ี 2 และมผี ลเพมิ่ ขน้ึ ในปีท่ี 3 และมผี ลเกดิ ขน้ึ เตม็ ทป่ี ีท่ี 4 ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งกาหนดวา่ ปีใดจะไดผ้ ลเทา่ ใด - กรณีทต่ี อ้ งการวดั เมอ่ื สน้ิ สดุ แตล่ ะรอบเวลาภายในเวลาของแผนระยะยาว เชน่ “เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ ... ตอ่ ปี” หรอื “ลดลงรอ้ ยละ ... ตอ่ ปี” กรณีน้มี กั จะใชก้ บั การวดั ความสาเรจ็ ของยทุ ธศาสตร์ และกลยทุ ธท์ ่ีดาเนนิ การต่อเน่อื งจากแผนทแ่ี ลว้ ซง่ึ ผลการปฏบิ ตั งิ านจะตอ่ เน่ืองจากปีทแ่ี ลว้ และมผลงานเพม่ิ ขน้ึ ในปีท่ี 1 ปีท่ี 2 ปีท่ี 3 และปีท่ี 4 ในอตั ราเดยี วกนั - สถานท่ี (Place) ตอ้ งระบใุ นกรณีทด่ี าเนนิ การในพน้ื ทเ่ี ฉพาะ เชน่ “ในจงั หวดั ……”
20 “ในเขตโครงการ ……” สว่ นกรณี “ทวั่ ประเทศ” ไมจ่ าเป็นตอ้ งเขยี นหากเป็นทเ่ี ขา้ ใจกนั โดยทวั่ ไป „ การเขียนตวั ชี้วดั ในระดบั ผลผลิต - ปรมิ าณ (Quantity) ใหร้ ะบจุ านวนชน้ิ ของวตั ถทุ ถ่ี กู กระทา เชน่ “อาคารกอ่ สรา้ งแลว้เสรจ็ ” “ผผู้ า่ นการฝึกอบรม” - คณุ ลกั ษณะ (Quality) ใหร้ ะบุมาตรฐานของวตั ถทุ ถ่ี กู กระทาหรอื การเปลย่ี นแปลงของวตั ถทุ ่ีถกู กระทา เชน่ “อาคารกอ่ สรา้ งตามคณุ ลกั ษณะทก่ี าหนดตามแบบ” “ผผู้ า่ นการฝึกอบรมตามเกณฑก์ ารทดสอบ” - ตน้ ทนุ (Cost) ใหร้ ะบุตน้ ทนุ ของผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร เชน่ “ราคาต่อหน่วยทล่ี ดลง”หรอื “ราคาต่อหน่วยภายในวงเงนิ ทก่ี าหนด” - เวลา (Time)ใหร้ ะบุความรวดเรว็ ในการสง่ มอบผลติ ภณั ฑห์ รอื บรกิ าร เชน่ “ไมเ่ กนิ 30นาทตี อ่ ราย” หรอื “ภายในระยะเวลาทก่ี าหนด” ขอ้ ผิดพลาดในการเขียนตวั ชี้วดั „ การเขียนตวั ชี้วดั ยทุ ธศาสตรแ์ ละกลยทุ ธ์ - กลุ่มเป้าหมายระดบั ยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงกาหนดไวก้ วา้ งไป มเี พยี งบางกระทรวงท่ีใชค้ าวา่ ประชาชนได้ เชน่ กระทรวง สาธารณสขุ ในภารกจิ ทใ่ี หบ้ รกิ ารทางการแพทยท์ กุ กลุม่ อายุ สว่ นกระทรวงอน่ื ๆ จะตอ้ งพจิ ารณาวา่ มภี ารกจิ ใหบ้ รกิ ารทกุ กลมุ่ อายหุ รอื กลุ่มอาชพี หรอื กลุ่มสงั คมใดบา้ ง เชน่กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไมไ่ ดม้ ภี ารกจิ ตอ่ กลุ่มผทู้ ย่ี งั ไมเ่ ขา้ วยั เรยี น และกระทรวงแรงงานไมไ่ ดม้ ภี ารกจิ ตอ่ กลมุ่ ผู้ทย่ี งั ไมเ่ ขา้ วยั แรงงาน เป็นตน้ - กล่มุ เป้าหมายระดบั กลยทุ ธข์ องกรมกาหนดไวก้ วา้ งไป หน่วยงานบางหน่วยงานไมไ่ ดใ้ หบ้ รกิ ารในอาณาเขตเตม็ พน้ื ท่ี แต่กาหนดกลมุ่ เป้าหมายในอาณาเขตเตม็ พน้ื ท่ี เชน่ “เกษตรกรในจงั หวดั สามารถใชน้ ้าเพอ่ืการเกษตรไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ ” ซง่ึ ตอ้ งเขยี นวา่ “เกษตรกรในเขตโครงการชลประทานทห่ี น่วยงานรบั ผดิ ชอบ สามารถใชน้ ้าเพอ่ื การเกษตรไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ ” มฉิ ะนนั้ การสมุ่ ตวั อยา่ งจะครอบคลุมประชากรทไ่ี มไ่ ดร้ บั ผลประโยชน์จากการใหบ้ รกิ ารโดยตรงจากหน่วยงานดว้ ยอาจทาใหผ้ ลจากการประเมนิ ผลสรปุ ไดว้ า่ หน่วยงานไมป่ ระสบความสาเรจ็ ในภารกจิ นนั้ - กรณีทต่ี อ้ งการวดั เมอ่ื สน้ิ สดุ แตล่ ะรอบเวลาภายในเวลาของแผนระยะยาว เชน่“เพมิ่ ขน้ึ รอ้ ยละ ... ต่อปี” หรอื “ลดลงรอ้ ยละ ... ตอ่ ปี” กรณีน้มี กั จะใชก้ บั การวดั ความสาเรจ็ ของยทุ ธศาสตร์และกลยทุ ธท์ ด่ี าเนนิ การตอ่ เน่อื งจากแผนทแ่ี ลว้ ซง่ึ ผลการปฏบิ ตั งิ านจะต่อเน่ืองจากปีทแ่ี ลว้ และมผี ลงานเพม่ิ ขน้ึ ในปีท่ี 1 ปีท่ี 2 ปีท่ี 3 และปีท่ี 4 ในอตั ราเดยี วกนั „ การเขียนตวั ชี้วดั ผลผลิต - การเขยี นตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลผลติ ทม่ี กั เขา้ ใจวา่ การวดั “Quality” เป็นการวดั คณุ ภาพในลกั ษณะทแ่ี สดงความสามารถในการประยกุ ตใ์ ช้ - คณุ ลกั ษณะ (Quality) ใหร้ ะบุมาตรฐานของวตั ถทุ ถ่ี กู กระทาหรอื การเปลย่ี นแปลงของ
21วตั ถุทถ่ี กู กระทา เชน่ “อาคารกอ่ สรา้ งตามคณุ ลกั ษณะทก่ี าหนดตามแบบ” “ผผู้ า่ นการฝึกอบรมตามเกณฑก์ ารทดสอบ” „ การเขียนตวั ชี้วดั “ระดบั ความสาเรจ็ ในการดาเนินงาน” จะตอ้ งระมดั ระวงั เรอ่ื ง ทม่ี าของการวดั - ถา้ คะแนนของความสาเรจ็ เกดิ มาจากการวดั ความคบื หน้าของกจิ กรรมในแต่ละขนั้ ตอนตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสาเรจ็ ในการดาเนนิ งานนนั้ เป็น Process Indicator ไมใ่ ช่ Output Indicator หรอื ไมใ่ ช่ OutcomeIndicator - ถา้ คะแนนของความสาเรจ็ เกดิ มาจากการวดั ความคบื หน้าของปรมิ าณของผลผลติ ซง่ึ เป็นผลติ ภณั ฑท์ เ่ี กดิ จากกระบวนการสดุ ทา้ ยของการผลติ หรอื ปรมิ าณ ผรู้ บั บรกิ ารจากกระบวนการสดุ ทา้ ยของการใหบ้ รกิ าร ตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสาเรจ็ ในการดาเนินงานนนั้ เป็น Output Indicator - ถา้ คะแนนของความสาเรจ็ เกดิ มาจากการวดั ความคบื หน้าของปรมิ าณกลมุ่ เป้าหมาย ผไู้ ดร้ บัผลประโยชน์จากการใชผ้ ลผลติ ตวั ชว้ี ดั ระดบั ความสาเรจ็ ในการดาเนนิ งานนนั้ เป็น Outcome Indicator ตวั อย่างการเขียนตวั ชี้วดั ในระดบั ผลลพั ธ์ และผลผลิต การเขยี นตวั ชว้ี ดั ระดบั ผลลพั ธ์ ตอ้ งแสดงคาสาคญั (Keywords) เกย่ี วกบั “ปรมิ าณ และ/หรอืคณุ ภาพตามมาตรฐาน (Quantity and/or Quality)” กลมุ่ เป้าหมาย (Target Group)” และ “เวลาวดั ผล(Time)” นอกจากน้ใี นกรณที ม่ี กี ารกาหนดพน้ื ทด่ี าเนินการเฉพาะ กต็ อ้ งระบุ “พน้ื ท่ี (Place)” (ตามสตู ร2Q2T1P) ดว้ ย โดยขอ้ ความทเ่ี ขยี นนนั้ เป็นขอ้ ความเดยี วทต่ี อ่ เน่ือง (ไมค่ วรแยกขอ้ ความเขยี น แตล่ ะสว่ น)สว่ นการเขยี นตวั ชว้ี ดั ระดบั ผลผลติ ตอ้ งแสดงมติ ิ (Dimensions) เกย่ี วกบั “เชงิ ปรมิ าณ (Quantity)” “เชงิคณุ ภาพตามมาตรฐาน (Quality)” “เชงิ เวลา (Time)” และ “เชงิ ตน้ ทนุ หรอื คา่ ใชจ้ า่ ย (Cost)” (ตามสตู ร QQTC)ดว้ ย โดยขอ้ ความทเ่ี ขยี นนนั้ ควรเป็นขอ้ ความเดยี วทต่ี ่อเน่ือง (หรอื อาจเขยี นแยกแต่ละสว่ นได)้ 1. กรณีหน่วยงานด้านการเศรษฐกิจ ตวั อยา่ ง เชน่ กรมสง่ เสรมิ การเกษตรผลผลติ “การสง่ เสรมิและพฒั นาเกษตรกรดา้ นการเกษตร” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลลพั ธ์ คอื “เกษตรกรทไ่ี ดร้ บั บรกิ ารจากหน่วยงานของกรมสง่ เสรมิการเกษตร (Tg กลุ่มเป้าหมาย) ในพน้ื ทแ่ี ละคลนิ กิ เกษตร (P พน้ื ท)่ี สามารถผลติ สนิ คา้ เกษตรไดอ้ ยา่ งปลอดภยั และมปี ระสทิ ธภิ าพตามมาตรฐาน (Ql คณุ ภาพ) เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ (Qn ปรมิ าณ) ..... ต่อปี (Ti เวลา)” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลผลติ คอื “รอ้ ยละ (Qn ปรมิ าณ) ... ของเกษตรกรทไ่ี ดร้ บั บรกิ ารจากหน่วยงานของกรมสง่ เสรมิ การเกษตรในพน้ื ทแ่ี ละคลนิ กิ เกษตร ตามคมู่ อื คลนิ กิ เกษตร (Ql คณุ ภาพ) เมอ่ืเปรยี บเทยี บกบั แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี (T เวลา) ภายในวงเงนิ งบประมาณทก่ี าหนด (C ตน้ ทนุ )” 2. กรณีหน่วยงานด้านการบริการชุมชนและสงั คม ตวั อยา่ ง เชน่ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ผลผลติ “ผจู้ บการศกึ ษาภาคบงั คบั ” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลลพั ธ์ คอื “ผจู้ บการศกึ ษาภาคบงั คบั (Tg กลมุ่ เป้าหมาย) ทวั่ ประเทศ (P พน้ื ท)่ี
22เขา้ ศกึ ษาต่อในระดบั การศกึ ษาทส่ี งู ขน้ึ (Ql คณุ ภาพ) เพม่ิ ขน้ึ รอ้ ยละ (Qn ปรมิ าณ) ... ต่อปี (Ti เวลา)” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลผลติ คอื “ผจู้ บการศกึ ษาภาคบงั คบั ตามมาตรฐานทก่ี าหนด (Ql คณุ ภาพ)รอ้ ยละ (Qn ปรมิ าณ) ... เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั แผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี(T เวลา) ภายในวงเงนิ งบประมาณท่ีกาหนด (C ตน้ ทนุ )” 3. กรณีหน่วยงานด้านความมนั่ คง ตวั อยา่ ง เชน่ กองทพั บก ผลผลติ “การเตรยี มกาลงั และการใชก้ าลงั ในการป้องกนั ประเทศและรกั ษาความมนั่ คงภายใน โดยกาลงั กองทพั บก” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลลพั ธ์ คอื “รอ้ ยละ 100 (Qn ปรมิ าณ) ของพน้ื ทใ่ี นความดแู ลของกองทพั บก(Tg กลุ่มเป้าหมาย) ทวั่ ประเทศ (P สถานท)่ี ทม่ี คี วามพรอ้ มในการพทิ กั ษ์รกั ษาเอกราชตามมาตรฐานของกองทพั (Ql คณุ ภาพ) ในแตล่ ะปี (Ti เวลา)” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลผลติ คอื “ระดบั (Qn ปรมิ าณ) ความพรอ้ มของกองทพั บกในการเผชญิ ภยัคกุ คามตามเกณฑท์ ก่ี ระทรวงกลาโหมกาหนด (Ql คณุ ภาพ) ตลอดเวลา (T เวลา) ภายในวงเงนิ งบประมาณท่ีกาหนด (C ตน้ ทนุ )” 4. กรณีหน่วยงานด้านการบริหารทวั่ ไปของรฐั เชน่ กรมสรรพากรผลผลติ “การจดั เกบ็ รายได”้ „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลลพั ธ์ คอื “รายไดท้ ไ่ี ดร้ บั การจดั เกบ็ (Tg กลุ่มเป้าหมาย) จากทวั่ ประเทศ (Pสถานท)่ี เทา่ กบั หรอื สงู กว่า (Ql คณุ ภาพ) สดั สว่ นทร่ี ฐั บาลกาหนด (Qn ปรมิ าณ) ในแต่ละปี (Ti เวลา)” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลผลติ คอื “รายไดท้ จ่ี ดั เกบ็ (Qn ปรมิ าณ) ไดค้ รบถว้ น (Ql คณุ ภาพ) ตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี (T เวลา) ภายในวงเงนิ งบประมาณทก่ี าหนด (C ตน้ ทนุ )” 5. กรณีหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม เชน่ กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่ ผลผลติ “พน้ื ท่ีทางทะเลและชายฝัง่ เพอ่ื การอนุรกั ษ์” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลลพั ธ์ คอื “พน้ื ทท่ี างทะเลและชายฝัง่ ทไ่ี ดร้ บั การอนุรกั ษ์ (Tgกล่มุ เป้าหมาย+ P สถานท)่ี มคี วามหลากหลายทาง ชวี ภาพเพมิ่ ขน้ึ (Ql คณุ ภาพ) รอ้ ยละ (Qn ปรมิ าณ) ....ต่อปี (Ti เวลา)” „ ตวั ชว้ี ดั ในระดบั ผลผลติ คอื “พน้ื ทท่ี างทะเลและชายฝัง่ ทไ่ี ดร้ บั การอนุรกั ษ์ ตามมาตรฐานท่ีกาหนด (Ql คณุ ภาพ) ไมน่ ้อยกวา่ เป้าหมาย (Qn ปรมิ าณ) ตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี (T เวลา) ภายในวงเงนิ งบประมาณทก่ี าหนด (C ตน้ ทนุ )” นอกจากน้ี แผนกลยทุ ธข์ องหน่วยงานควรมภี าคผนวกเกย่ี วกบั กระบวนการจดั ทา SWOT ของหน่วยงาน ทแ่ี สดงว่าหน่วยงานไดเ้ ปิดโอกาสใหผ้ มู้ สี ว่ นไดเ้ สยี (Stakeholders) เขา้ รว่ มในการ จดั ทาแผนกลยทุ ธ์ โดยวธิ ใี ดวธิ หี น่งึ ทก่ี าหนดในระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยการรบั ฟังความคดิ เหน็ ของประชาชนรวมทงั้ วธิ กี ารสงเคราะหร์ ะหวา่ งสภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกเพอ่ื การ กาหนดกลยทุ ธ์
23 2. การจดั ทาแผนปฏิบตั ิราชการ 4 ปี ของหน่วยงานการจดั ทาแผนปฏิบตั ิราชการ 4 ปี ของหน่วยงาน แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี ควรมลี กั ษณะสาคญั ดงั น้ี „ แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี มผี ลผลติ ทจ่ี าแนกกจิ กรรมหลกั และรายละเอยี ดกจิ กรรมในแตล่ ะผลผลติ และการคานวณงบประมาณทส่ี มั พนั ธก์ บั หน่วยนบั ของกจิ กรรมหลกั (เชน่ ต่อครงั้ ตอ่ คน ตอ่ วน ต่อเรอ่ื ง) „ แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี กาหนดเป้าหมายผลผลติ ประจาปี ซง่ึ แสดงใหเ้ หน็ ความกา้ วหน้าของผลผลติ แต่ละปีเปรยี บเทยี บกบั ผลผลติ สะสมในปีสดุ ทา้ ย และกรณที เ่ี กณฑห์ รอื คา่ เป้าหมายของตวั ชว้ี ดัผลผลติ ถงึ จดุ อม่ิ ตวั กใ็ ห้ คาอธบิ ายไวด้ ว้ ย „ ตวั ชว้ี ดั ผลผลติ ควรเขยี นใหค้ รบ 4 มติ ิ ตามตวั อยา่ ง ดงั น้ี - กรณีทใ่ี หค้ วามสาคญั กบั มติ เิ ชงิ ปรมิ าณ ขอ้ ความควรเขยี นวา่ “รอ้ ยละ xx ของปรมิ าณ (ชอ่ืผลผลติ ) ทแ่ี ลว้ เสรจ็ เปรยี บเทยี บกบั แผน” (และอาจเขยี นตอ่ ดว้ ยวา่ “ตามคณุ สมบตั ิ (Specification) และภายในวงเงนิ คา่ ใชจ้ ่ายทก่ี าหนดภายในปีงบประมาณ 2549”) - กรณีทใ่ี หค้ วามสาคญั กบั มติ เิ ชงิ คณุ ภาพ ขอ้ ความควรเขยี นวา่ “ระดบั ของตามมาตรฐานทท่ี าได้(ชอ่ื มาตรฐานการประกนั หรอื รบั รองคณุ ภาพ เชน่ QA/QC) เปรยี บเทยี บกบั แผน” (และอาจเขยี นตอ่ ดว้ ยวา่“ภายในวงเงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยทก่ี าหนด ภายในปีงบประมาณ 2549”) - กรณที ใ่ี หค้ วามสาคญั กบั มติ เิ ชงิ เวลา ขอ้ ความควรเขยี นว่า “เวลาทใ่ี หบ้ รกิ ารต่อคนโดยเฉลย่ี ลดลงจาก xx นาที เป็น xx นาที หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ xx” (และ อาจเขยี นตอ่ ดว้ ยว่า “ตามมาตรฐานการประกนั หรอื รบั รองคณุ ภาพทก่ี าหนด และภายในวงเงนิ คา่ ใชจ้ า่ ยทก่ี าหนด ภายในปีงบประมาณ 2549”) - กรณีทใ่ี หค้ วามสาคญั กบั มติ เิ ชงิ ตน้ ทนุ ขอ้ ความควรเขยี นวา่ “ตน้ ทนุ ตอ่ หน่วยโดยเฉลย่ี ลดลงจาก xx บาท เป็น xx บาท หรอื คดิ เป็นรอ้ ยละ xx” (และอาจ เขยี นต่อดว้ ยว่า “ตามมาตรฐานการประกนัหรอื รบั รองคณุ ภาพทก่ี าหนด ภายในปงบประมาณ 2549”) „ แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี ควรกาหนดกจิ กรรมเสรมิ เพอ่ื ควบคมุ ปัจจยั ภายนอกอนั เป็นอปุ สรรคในการดาเนินกจิ กรรมของหน่วยงาน เชน่ กจิ กรรมการประสานงานกบั หน่วยงานอน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง กจิ กรรมสรา้ งความรว่ มมอื ของประชาชนในพน้ื ทป่ี ฏบิ ตั กิ าร เป็นตน้ „ แผนปฏบิ ตั ริ าชการ 4 ปี กาหนดคา่ เป้าหมายระดบั ผลผลติ ทเ่ี กดิ จากกจิ กรรมการประเมนิ ตนเองและโดยผปู้ ระเมนิ อสิ ระ เชน่ จานวนเรอ่ื งของรายงานตดิ ตามผล การปฏบิ ตั งิ านทจ่ี ดั ทาโดยหน่วยงานภายใน จานวนเรอ่ื งของรายงานประเมนิ ผล ผลติ ทจ่ี ดั ทาโดยหน่วยงานภายใน จานวนเรอ่ื งของรายงานประเมนิ ผลลพั ธท์ จ่ี ดั ทาโดยหน่วยงานภายนอก และจานวนเรอ่ื งของรายงานประเมนิ ผลกระทบทจ่ี ดั ทาโดยหน่วยงานภายนอก(จาก http://webhost.cpd.go.th/csb8/download/traning_9_12_52/a14_52.doc และ http://gotoknow.org/blog/newwave1/218563)
24ทม่ี า : https://planams.files.wordpress.com/2011/04/strategicplanning.doc
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: