วันวิสาขบูชาวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา กรมการศาสนา
วันสําคญั ทางพระพุทธศาสนา วันวสิ าขบชู า ผูจัดพิมพ กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ปทพี่ ิมพ พ.ศ. ๒๕๖๔ จํานวนพมิ พ ๑,๐๐๐ เลม ท่ปี รึกษา นายเกรียงศักดิ์ บญุ ประสิทธ์ิ อธิบดกี รมการศาสนา ประธานที่ปรกึ ษา นายมานสั ทารัตนใ จ ท่ีปรึกษา นายชวลติ ศริ ภิ ริ มย ทป่ี รกึ ษา ประธานคณะทาํ งาน คณะทํางาน คณะทาํ งาน นายสาํ รวย นักการเรยี น รองอธิบดีกรมการศาสนา คณะทาํ งาน นางสาวฐติ มิ า สุภภคั ผูอาํ นวยการสํานักพัฒนา คณะทํางาน คณุ ธรรมจรยิ ธรรม คณะทาํ งาน นายพจนาถ ปญญาศลิ ป รกั ษาราชการแทน คณะทํางาน ผูอ าํ นวยการกองศาสนูปถัมภ คณะทาํ งาน นางสรุ ีย เกาศล เลขานุการกรม คณะทาํ งาน นายประภาส แกว สวรรค และเลขานกุ าร รอยตรี วทิ ยาพล รัตนกลุ เสรเี รงิ ฤทธิ์ คณะทาํ งาน นางสาวนันทยิ า อายุวัฒนะ และผูชวยเลขานกุ าร นางสาวอนงคล กั ษณ คะเนแนน คณะทํางาน และผูชว ยเลขานุการ นายภรู สี ชิ ฌ บัวศริ ิธนารชั ต นางสาวจีรวรรณ สวางเกตุ ออกแบบปก นายวทิ ยา กอกศุ ล พมิ พที่ หางหนุ สว นจํากดั โรงพิมพอักษรไทย (น.ส.พ. ฟา เมอื งไทย) เลขท่ี ๘๕, ๘๗, ๘๙, ๙๑ ซอยจรญั สนิทวงศ ๔๐ ถนนจรญั สนทิ วงศ แขวงบางยขี่ นั เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ๑๐๗๐๐ โทร. ๐-๒๔๒๔-๔๕๕๗, ๐-๒๔๒๔-๐๖๙๔ โทรสาร ๐-๒๔๓๓-๒๘๕๘ นายไพสฐิ ปวิณวิวฒั น ผูพ ิมพผโู ฆษณา
คาํ นํา ประเทศไทยเปนประเทศท่ีประชากรสวนใหญยอมรับนับถือ พระพทุ ธศาสนา นกิ ายเถรวาท มาอยา งยาวนานสบื เนอ่ื งกนั มา หลกั ธรรม คําสอนทางพระพุทธศาสนาไดมีสวนกลอมเกลาวิถีชีวิตของคนไทยใหมี ความเปน อยทู เ่ี รยี บงา ย โอบออ มอารี เออ้ื อาทรตอ กนั รวมทง้ั มพี ฤตกิ รรม อยใู นทํานองคลองธรรม รวมท้ังจารตี ประเพณอี ันดีงาม และเม่ือยอมรับ นบั ถอื แลว ยอ มตองประพฤติปฏิบตั ติ ามหลกั การทีพ่ ระพุทธองคไดท รง สั่งสอนไวดวย ในเรื่องวันสําคัญทางพระพุทธศาสนาก็เปนเรื่องสําคัญ ลําดับตนท่ีพุทธศาสนิกชนไดยึดถือปฏิบัติสืบมา ในรอบปหน่ึงนั้น มวี นั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนาคอื วนั มาฆบชู าวนั วสิ าขบชู าวนั อฏั ฐมบี ชู า วันอาสาฬหบูชา วันเขาพรรษา วันออกพรรษา และวันธรรมสวนะ เมื่อถึงวันสําคัญเหลานี้ พุทธศาสนิกชนตางพากันเขาวัด บําเพ็ญบุญ บาํ เพ็ญกศุ ล ตามวาระโอกาสทเ่ี หมาะสมกับตนเองและครอบครัว กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะท่ีเปนหนวยงาน ท่มี ภี ารกิจเกี่ยวกับการดําเนินงานของรัฐดา นศาสนา โดยการทาํ นบุ ํารงุ สงเสริมและใหความอุปถัมภคุมครองกิจการดานพระพุทธศาสนา และศาสนาอ่ืนๆ ท่ีทางราชการรับรอง ตลอดจนสงเสริมพัฒนาความรู คคู ุณธรรม สง เสริมความเขา ใจอันดี และสรางความสมานฉันทร ะหวา ง ศาสนิกชนของทกุ ศาสนา รวมทั้งดําเนนิ การเพ่อื ใหค นไทยนาํ หลักธรรม ทางศาสนามาใชในการพัฒนาคุณภาพชีวิตใหเปนคนดีมีคุณธรรม
ไดพิจารณาเห็นวา ประวัติความเปนมารวมถึงแนวทางในการประพฤติ ปฏิบัติในวันสําคัญดังกลาวเปนเร่ืองที่พุทธศาสนิกชนควรทราบและ ทาํ ความเขา ใจใหถ องแท เพ่ือทราบถงึ ความเปน มาและปฏบิ ตั ไิ ดถูกตอง ชัดเจน จึงไดรวบรวมในเร่ืองที่เกี่ยวกับวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา จัดพิมพเผยแพร ซึ่งจะเปนประโยชนในการเผยแผพระพุทธศาสนา ใหแ พรหลายสบื ไป หวงั เปน อยา งยงิ่ วา หนงั สอื ชดุ วนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา คอื วนั มาฆบชู า วันวสิ าขบชู า วนั อัฏฐมีบชู า วันอาสาฬหบชู า วนั เขาพรรษา วันออกพรรษา และวันธรรมสวนะ ที่ไดจัดพิมพเผยแพรในคร้ังน้ี จักอํานวยประโยชน สรา งความรูความเขา ใจในเร่อื งพระพุทธศาสนาได เปน อยางดี พระสัทธรรมคาํ สอนของพระพุทธองคด ํารงมัน่ สถิตสถาพร บนผืนแผนดินไทยสืบไป (นายเกรียงศักดิ์ บุญประสทิ ธิ)์ อธบิ ดกี รมการศาสนา
สารบญั หนา ความหมาย ๑ ประวัตแิ ละความเปน มา ๒ ความสําคัญ ๖ องคก ารสหประชาชาติกําหนดใหเปนวันสาํ คญั สากลของโลก ๑๓ แนวทางท่พี ึงปฏบิ ตั ิ ๑๘ ประโยชนท่ีพงึ ไดรับ ๓๑ คาํ บชู าวนั วิสาขบูชา ๓๓ หนงั สืออา งองิ ๕๘
วันวิสาขบูชา 1 วันวสิ าขบชู า ความหมาย คําวา วิสาขบูชา เปนรูปภาษาบาลี ยอมาจากคําวา วิสาขปุณณมีบูชา บางทีก็เขียนเปน วิศาขบูชา ซึ่งเปนรูปภาษา สนั สกฤต แปลวา การบูชาในวันเพญ็ เดอื น ๖ ซึ่งมีเหตุการณท ี่สาํ คญั เก่ยี วกับพระพทุ ธองค ๓ ประการ ไดแ ก วนั ประสตู ิ วนั ตรัสรู และ วนั ปรนิ ิพพาน คําวา วิสาขะ หรือ วิศาขะ เปนช่ือของดาวฤกษกลุมหนึ่ง ซ่ึงเปนกลุมท่ี ๑๖ ในบรรดาดาวฤกษทั้งหลายในทองฟา ดาวฤกษ กลมุ นม้ี ี ๕ ดวง ไทยเรยี กวา ดาวคนั ฉตั ร เมอ่ื ดวงจนั ทรเ สวยวสิ าขฤกษ นัน้ เปน ระยะเวลาที่ตรงกับเดือนที่ ๖ ของไทย ฉะนัน้ คาํ วา วิสาขะ จงึ เปนชอ่ื ของเดอื นท่ี ๖ หรือเดือน ๖ (ตามจันทรคต)ิ
2 วันวิสาขบูชา ประวตั แิ ละความเปน มา สว นในประเทศไทย ประชาชนจะประกอบพธิ บี ชู าในวนั เชน น้ี มาแตเดิมหรือไม ไมปรากฏชัดในที่ใด จนถึงสมัยกรุงสุโขทัย เปนราชธานี จึงไดค วามตามหนังสือที่นางนพมาศแตงไวว า “คร้นั ถงึ วนั วสิ าขบชู าพทุ ธศาสน สมเดจ็ พระเจา แผน ดนิ และพระราชวงั ขา งหนา ขางใน จวนตําแหนงทาวพระยา พระ หลวง เศรษฐี ชี พราหมณ บา นเรอื น โรงรา นพว งแพชน ประชาชายหญงิ ลว นแตแ ขวนโคมประทปี ชวาลาสวา งไสวหอ ยพวงบปุ ผชาตปิ ระพรมเครื่องสุคนธรส อทุ ิศบชู า พระรตั นตรยั สน้ิ สามทวิ าราตรี มหาชนชวนกนั รกั ษาอโุ บสถศลี สดบั ฟง พระสทั ธรรมเทศนา บชู าธรรม บา งกถ็ วายสลากภตั ตาหารสังฆทาน ขา วบณิ ฑ บา งกย็ กขนึ้ ซง่ึ ธงผา บชู าพระสถปู เจดยี บา งกบ็ รจิ าคทรพั ย จาํ แนกแจกทานแกย าจกทลทิ ก คนกาํ พรา อนาถาชราพกิ าร บา งกซ็ อื้ ถา ยชวี ติ สตั ว จัตุบาทชาติมัจฉาตา งๆ ปลดปลอยใหไ ดค วามสขุ สบาย อันวาสมเด็จพระเจาแผนดินและราชตระกูล ก็ทรงศีลบําเพ็ญ การพระราชกุศลตางๆ ในวันวิสาขบูชาพุทธศาสนเปนอันมาก เพลาตะวันชายแสง ก็เสด็จพระราชดําเนินพรอมดวยราชสุริยวงศ นางในออกวัด หนาพระธาตุ ราชอารามหลวงวันหน่ึง ออกวัดราช บุรณะพระพิหารหลวงวันหน่ึง ออกวัดโลกยสุธาราชาวาสวันหนึ่ง ตางนมัสการ พระรัตนัตยาธิคุณ โปรยปรายผกาเกสรสุคันธรส สักการบูชา ถวายประทีปธูปเทียนเวียนแวน รอบรัตนบัลลังก ประโคมดุริยางคดนตรีดีดสีตีเปาสมโภช พระชินศรี พระชินราช พระโลกนาถสัตถารศ โดยมีกมลโสมนสั ศรทั ธาทุกตวั คน”
วันวิสาขบูชา 3 และมคี าํ สรรเสรญิ วา “อนั พระมหานครสโุ ขทยั ราชธานถี งึ วนั วสิ าขนักขัตฤกษครัง้ ใด กส็ วางไปดวยแสงประทปี เทยี น ดอกไมเพลงิ แลสลา งสลอน ธงชายธงปฏาก ไสวไปดว ยพพู วงดอกไมก รองรอ ยหอ ย แขวน หอมตลบไปดว ยกลน่ิ สคุ นธรสรวยรน่ื เสนาะสาํ เนยี งพณิ พาทย ฆองกลองทั้งทิวาราตรี มหาชนชายหญิงพากันกระทํากองการกุศล เสมือนจะเผยซึง่ ทวารพมิ านฟาทกุ ชอ ข้นึ ” (http: mcufundmcuacth site articlecontent_ descphp?article_id=530&articlegroup_id=123) สมัยกรุงศรีอยุธยาเปนราชธานี ไมพบหลักฐานวาทํากัน อยางไร แตเช่ือไดวาคงทําเปนประจําทุกป เพราะในระยะน้ี พระพุทธศาสนารุงเรื่องมาก อาจเปนเพราะผูบันทึกพงศาวดาร เห็นเปนเรื่องสามัญ เพราะทําเปนประจําทุกป จึงมิไดจดลงไว ในพงศาวดาร
4 วันวิสาขบูชา สมัยกรุงรัตนโกสินทร ในรัชกาลท่ี ๑ มีทําพิธีวิสาขบูชา แตไมปรากฏวาทําแบบแผนอยางไร มาถึงรัชกาลท่ี ๒ จึงไดมีพิธี วิสาขบูชาเปนแบบแผนขึ้น เม่ือ พ.ศ. ๒๓๖๐ โดยพระบาทสมเด็จ พระพทุ ธเลศิ หลา นภาลยั ไดท รงพระราชดาํ รกิ บั สมเดจ็ พระสงั ฆราช (ม)ี วดั มหาธาตุ ไดทรงรอื้ ฟน พิธีวสิ าขบูชาใหเปนแบบแผนขนึ้ มีพระราช กําหนดเรียกวา “พระราชกําหนดพิธีวิสาขบูชา” เม่ือปฉลู นพศก จุลศักราช ๑๑๗๙ (พ.ศ. ๒๓๖๐) กําหนดพิธีการตางๆ ขึ้น ใหเปน แบบแผนปฏบิ ตั ติ อ ไป ไดท รงเกณฑข า ราชการใหร อ ยดอกไมม าแขวน ไวในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วนั ละ ๑๐๐ พวงเศษ ทง้ั ไดประกาศ เชิญชวนใหประชาชนรักษาศีลโดยท่ัวกัน ใหไปฟงเทศน และใหจุด ประทปี โคมไฟทง้ั ในอารามและตามบา นเรอื นทวั่ ไป ในสมยั รชั กาลที่ ๓ พระองคไดทรงจัดใหมีเทศนปฐมสมโพธิวาดวยเร่ืองราวของ พระพทุ ธเจา ตงั้ แตป ระสตู ิตรสั รูและปรนิ พิ พานรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลท่ี ๔ ทรงกําหนดใหเจานายกับ ขา ราชการตงั้ โตะ บชู าตามเฉลยี งพระอโุ บสถวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม ตอมา ทรงกําหนดใหขาราชการทําโคมตราตําแหนงมาแขวนตาม ศาลารายและพระระเบยี งโดยรอบ ครั้นถึงสมยั รัชกาลท่ี ๕ พระองค ไดโปรดใหพระบรมวงศานุวงศ และขาราชการฝายในเดินเทียนและ สวดมนตท ่ีพระพุทธรัตนสถานอกี แหง หนง่ึ วธิ ีปฏบิ ตั นิ เี้ ปน แบบอยาง ในรัชกาลตอ มาจนถงึ ปจ จุบนั
วันวิสาขบูชา 5 รัฐบาลไดใหความสําคัญตอวันวิสาขบูชา โดยกําหนด ใหเปนวันหยุดราชการประจําป และในวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๓๒ คณะรฐั มนตรไี ดก าํ หนดใหว นั วสิ าขบชู าเปน วนั ตน ไมป ระจาํ ปข องชาติ
6 วันวิสาขบูชา ความสาํ คัญ วันเพ็ญ เดือน ๖ นี้ เปนวันสําคัญทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนท้ังหลายถือวา เปนวันสําคัญวันหนึ่งในรอบป เพราะเปน วนั ทีพ่ ระพุทธเจาประสตู ิ ตรัสรู และปรินพิ พาน มเี รื่องยอ เก่ียวกบั เหตกุ ารณท ง้ั สามน้นั ดังตอไปนี้
วันวิสาขบูชา 7 ประสตู ิ เมอื่ ๘๐ ป กอ นพทุ ธศกั ราช ณ ลมุ พนิ วี นั อนั เปน สวนทรี่ ม รน่ื ตง้ั อยทู พ่ี รมแดนระหวา งกรงุ กบลิ พสั ดกุ บั กรงุ เทวทหะตอ กนั ปจ จบุ นั น้ี เรยี กวา ตาํ บลรมุ มนิ เด ตง้ั อยทู อ่ี าํ เภอไภรวา แควน อธู ประเทศเนปาล พระพุทธเจา ประสูตทิ ีใ่ ตต น รงั เมอ่ื วันขึ้น ๑๕ คา่ํ เดือน ๖ สาเหตุท่ีพระพุทธเจาประสูติท่ีลุมพินีวันน้ี เน่ืองจาก พระนางสิริมหามายา พระพุทธมารดา เปนเจาหญิงโกลิยวงศ แหงเทวทหนคร เมื่อทรงอภิเษกสมรสกับพระเจาสุทโธทนะและมา ประทับอยูที่กรุงกบิลพัสดุ คร้ังทรงพระครรภถวนทศมาส มีพระทัย ปรารถนาจะเสด็จไปเทวหนครอันเปนมาตุภูมิของพระองค เพ่ือประสูติพระราชโอรสท่ีน่ันตามธรรมเนียมพราหมณ ในวันเพ็ญ เดือน ๖ เวลาเชา พระนางทรงวอทองเสด็จจากรุงกบิลพัสดุ เวลาใกลเท่ียงเสด็จถึงลุมพินีวัน จึงพักขบวนเสด็จ พระนางเสด็จลง จากวอทองไปประทับท่ีใตตนสาละ หรือตนรังตนหนึ่ง ไดประชวร พระครรภ และประสตู พิ ระราชโอรสทใี่ ตต น สาละในลมุ พนิ วี นั ในวนั นน้ั
8 วันวิสาขบูชา ตรัสรู จากวนั ประสตู นิ น้ั มา ๓๕ ปบ รบิ รู ณ คอื ๔๕ ปก อ นพทุ ธศกั ราช ณ โคนตน อัสสัตถะ หรือตนโพธิ์ ใกลฝงตะวันตกแหง แมน ํ้าเนรญั ชรา ตําบลอุรุเวลาเสนานิคม แควนมคธ ปจจุบันน้ี เรียกวา พุทธคยา จงั หวดั คยา แควน พหิ าร พระพทุ ธเจา ตรสั รทู ใ่ี ตต น โพธน์ิ ้ี เมอ่ื ขนึ้ ๑๕ คาํ่ เดอื น ๖
วันวิสาขบูชา 9 ปรินพิ พาน เม่ือพระองคไดตรัสรูพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เปนพระสัมมาสัมพุทธเจาเอกอัครบุคคลในโลกแลว พระองคเสด็จ ไปตามสถานท่ีตางๆ เพื่อทรงประกาศพระศาสนา ส่ังสอนศีลธรรม แกป ระชาชนทุกหมูเ หลา โดยไมเลอื กชนั้ วรรณะ ทรงสอนประชาชน ดว ยวิธีการ ๓ อยา ง และดว ยประโยชน ๓ ช้ัน วธิ ีการ ๓ อยาง คือ ๑. ทรงสอนใหผ ฟู ง รูยิง่ เหน็ จรงิ ในสง่ิ ทีค่ วรรคู วรเห็น ๒. ทรงสอนมเี หตทุ ผี่ ฟู ง อาจตรองตามเหน็ จริงได ๓. ทรงสอนมีผลคือผูปฏิบัติยอมไดรับผลตามสมควรแก ความปฏบิ ัติ
10 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 11 ประโยชน ๓ ชั้น คือ ๑. ทฏิ ฐธมั มกิ ตั ถประโยชน คอื ประโยชนป จ จบุ นั หมายความวา สอนใหต ง้ั ตัวไดท ันที นเ่ี ปนประโยชนชน้ั ตน ๒. สมั ปรายกตั ถประโยชนคอื ประโยชนภ ายหนา หมายความวา สอนใหมีความสุขความเจริญยิ่งๆ ข้ึนไป ในกาลขางหนา น่ีเปน ประโยชนชนั้ กลาง ๓. ปรมัตถประโยชน คือประโยชนช้ันสูง หมายความวา สอนใหหมดกิเลส สําเร็จอรหัตผลเปนพระอรหันต ซึ่งเปนจุดหมาย สงู สุดของพระพทุ ธศาสนา พระองคท รงส่ังสอนเวไนยสตั วอยู ๔๕ ป เม่อื มีพระชนมายุ ๘๐ พระพรรษา ก็เสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ ระหวางตนสาละคู ในสาลวโนทยาน เมืองกุสนิ ารา เมอื่ วันขน้ึ ๑๕ คํ่า เดือน ๖ ดวยเหตุที่พระพุทธเจาประสูติ ตรัสรู และปรินิพพาน ในวันเพ็ญ เดือน ๖ ดังกลาวมานี้ ดังน้ัน วันเพ็ญ เดือน ๖ จึงเปน วันสําคัญทางพระพุทธศาสนา เปนวันท่ีพุทธศาสนิกชนจัดทําพิธี สกั การบชู าเปนพิเศษทเ่ี รียกวา วิสาขบูชา
12 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 13 องคก ารสหประชาชาตกิ าํ หนดใหเ ปน วนั สาํ คญั สากลของโลก เมอื่ วนั ที่ ๑๕ ธนั วาคม ๒๕๔๒ ทปี่ ระชมุ สมชั ชาสหประชาชาติ สมยั สามญั ครง้ั ท่ี ๕๔ ไดพ จิ ารณาระเบยี บวาระที่ ๑๗๔ International Recognition of the Day of Vesak ในการพจิ ารณา ประธานสมชั ชาฯ ไดเ ชญิ ผูแทนศรลี งั กาขน้ึ กลา วนําเสนอรา งขอ มติ และเชญิ ผแู ทนไทย สิงคโปร บงั คลาเทศ ภฏู าน สเปน พมา เนปาล ปากสี ถาน อนิ เดีย ขึ้นกลาวถอยแถลง สรุปความวา วันวิสาขบูชาเปนวันสําคัญของ พุทธศาสนิกชนทั่วโลก เพราะเปนวันท่ีพระพุทธเจาประสูติ ตรัสรู เสด็จดับขันธปรินิพพาน พระพุทธเจาทรงส่ังสอนใหมวลมนุษย มีเมตตาธรรมและขันติธรรม ตอเพ่ือนมนุษยดวยกัน เพ่ือใหเกิด สนั ตสิ ขุ ในสงั คม อนั เปน แนวทางของสหประชาชาติ จงึ ขอใหท ป่ี ระชมุ รับรองขอมตนิ ี้ ซงึ่ เทากับเปนการรับรองความสาํ คญั ของพทุ ธศาสนา ในองคการสหประชาชาติ โดยถือวาวันดังกลาวเปนท่ีสํานักงานใหญ องคการสหประชาชาติและที่ทําการสมัชชาจะจัดใหมีการระลึกถึง ตามความเหมาะสม
14 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 15 ท่ีประชุมฯ ไดรับรองรางขอมติโดยฉันทามติ เนื่องจาก คณะกรรมมาธิการองคการสหประชาชาติ ไดรวมพิจารณาและมี มติเห็นพองตองกันประกาศใหวันวิสาขบูชาถือเปนวันสําคัญวันหน่ึง ของโลก ทั้งน้ี ดวยสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระสัมมา สัมพุทธเจาวา ทรงเปนมหาบุรุษผูใหความเมตตาตอหมูมวลมนุษย ทง้ั หลายในโลก จะเหน็ ไดจ ากการยกเลกิ แบง ชนชน้ั วรรณะ ซง่ึ เทา กบั เปนการเลิกทาสโดยไมมีการเสียเลือดเสียเนื้อ นอกจากน้ี พระองค ยงั ทรงเปนนกั อนรุ ักษส ัตวปา อกี ดว ย กลาวคอื ทรงสอนใหไมฆาสัตว ใหรูจักชวยเหลือสัตว เหตุผลสําคัญ อีกประการหนึ่ง คือ พระองค ทรงเปดโอกาสใหทุกศาสนาสามารถเขามาศึกษาพระพุทธศาสนา เพ่ือพิสูจนหาขอเท็จจริงได โดยไมจําเปนตองเปลี่ยนมานับถือ ศาสนาพุทธและทรงสั่งสอนทุกคนโดยใชปญญาธิคุณสอนโดยไมคิด คาตอบแทน
16 วันวิสาขบูชา นอกจากนั้น วันวิสาขบูชายังเปนวันสําคัญในสถานะตางๆ ดังน้ี ๑. เปน วนั ประกาศความยง่ิ ใหญข องมนษุ ย ดว ยพระพทุ ธองค ทรงแสดงถึงความย่ิงใหญของมนุษย ดวยการเปลงอาสภิวาจา หรือ วาจาท่แี สดงความองอาจวา “เราเปนผูเลิศสดุ แหงโลก เราเปนผูใ หญ สดุ แหงโลก เราเปน ผูประเสริฐสดุ แหงโลก การเกดิ ครง้ั น้ีเปนการเกดิ คร้งั สุดทาย บัดน้ีจะไมมกี ารเกดิ ใหมอ กี ” โลกในที่น้ี คือ โลกมนษุ ย เทวโลก มารโลก พรหมโลก
วันวิสาขบูชา 17 ๒. เปนวันประกาศความสําเร็จอันยิ่งใหญของมนุษย การท่ี พระพุทธองคไดแสวงหาความหลุดพนจากเกิด แก เจ็บ ตาย และ ไดตรัสรูความจริงท่ีเรียกวา อริยสัจ ๔ นี้ ถือวาเปนความสําเร็จ อนั ยงิ่ ใหญข องมนษุ ย เพราะอรยิ สจั นเ้ี ปน ความจรงิ ทใี่ ครรมู ากอ นและ เปน ความจริงทร่ี ูแ ลวทาํ ใหพ นทกุ ข ละกเิ ลสอนั เปน เหตุใหพ น ทกุ ขไ ด ๓. เปนวันสูญเสียคร้ังย่ิงใหญของโลก การเสด็จ ดับขันธปรินิพพานของพระพุทธองค เปนการขาดผูเปนที่พ่ึงของ พุทธศาสนิกชนอยางท่ีไมมีวันหวนกลับมา ซึ่งคงเหลือแตพระธรรม วินัยที่ถือเปนตัวแทนของพระองคใหพุทธศาสนิกชนยึดถือปฏิบัติ สบื ไป
18 วันวิสาขบูชา แนวทางทพ่ี ึงปฏิบตั ิ วันวิสาขบูชา เปนวันสําคัญอีกวันหน่ึงที่พุทธศาสนิกชน ตองใหความสําคัญและพรอมใจกันเขารวมปฏิบัติกิจกรรมตางๆ ตามสมควรแกฐานะของตนเองอยางสมํ่าเสมอ เพื่อทําความเขาใจ ใหถูกตอง ฝกฝนตนเองและนําไปปฏิบัติในชีวิตประจําวัน อันจะกอ ใหเกิดประโยชนแกตนเอง ครอบครัว สังคม แนวทางที่พึงปฏิบัติ สําหรบั พุทธศาสนิกชนท่ีเกยี่ วเนื่องกบั วันวสิ าขบูชา มดี ังตอไปนี้
วันวิสาขบูชา 19 พุทธศาสนกิ ชน (อบุ าสก อบุ าสิกา) ใหทาน ถวายภัตตาหารแดพระภิกษุสามเณรในภาคเชา หรือเพล บริจาคทรัพยชวยเหลือเก้ือกูลผูยากไร หรือบําเพ็ญ สาธารณประโยชน รักษาศีล สํารวมระวังกายและวาจา ดวยการรักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ หรอื ศลี อุโบสถ เจรญิ ภาวนา ฝก สมาธิ ทาํ จติ ใจใหส งบ รวมทง้ั พัฒนาปญ ญา ดว ยการเจรญิ วปิ ส สนาใหเ กดิ ปญ ญาเหน็ สภาพความเปน จรงิ ของชวี ติ และโลก เวียนเทียน การเดินประทักษิณเปนการบูชาพระรัตนตรัย ดว ยอามสิ บูชาและปฏบิ ตั บิ ชู า
20 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 21 สถาบันตางๆ ในสงั คม ครอบครัว (๑) ศึกษาเอกสาร หรือสนทนาเกี่ยวกับความสําคัญของ วันวิสาขบูชา รวมทง้ั หลักธรรมท่ีเอ้อื ตอ การปฏบิ ตั ิของครอบครวั (๒) ปรึกษาหารือหาแนวทางในการปองกันการแกปญหา ในครอบครัว โดยใชหลักธรรม และสงเสริมใหเกิดการลด ละ เลิก อบายมขุ (๓) นําสมาชิกในครอบครัวไปบําเพ็ญกุศลท่ีวัด ทําบุญ ตกั บาตร บรจิ าคทาน (๔) พรอมกันไปปฏิบัติธรรมที่วัด รักษาศีล ๕ หรือศีล ๘ หรือศีลอุโบสถ ไหวพ ระ สวดมนต ฟงธรรม เวยี นเทียน
22 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 23 สถานศกึ ษา (๑) ครูและนักเรียนรวมกันศึกษาถึงความสําคัญของ วันวิสาขบูชา รวมทั้งหลักธรรมท่ีมีสวนสําคัญตอการศึกษาเลาเรียน เชน อริยสัจ ๔ อปั ปมาทธรรม (๒) ประกวดการอาน การเลา ในเรื่องที่เก่ียวของกับ วันวิสาขบชู า (๓) ครูใหนักเรียนจัดทําปายนิเทศ หรือจัดนิทรรศการ ประกวดเรยี งความ ทาํ สมดุ ภาพ ตอบปญ หาธรรมะ บรรยายธรรมะ อภิปรายธรรมะ (๔) ประกาศเกยี รติคณุ นักเรียนทปี่ ระพฤติตนเปนแบบอยาง ทีด่ ี (๕) ครพู านกั เรยี นไปรว มกจิ กรรมกบั ชมุ ชนทว่ี ดั บาํ เพญ็ กศุ ล ทําบุญตักบาตร บริจาคทาน รักษาศีล ฟงธรรม สนทนาธรรม เจริญจิตภาวนา
24 วันวิสาขบูชา สถานท่ที ํางาน (๑) ประชาสัมพันธเกี่ยวกับความสําคัญของวันวิสาขบูชา รวมทง้ั หลกั ธรรมเพ่ือการครองตน ครองคน และครองงาน (๒) จดั ปา ยนเิ ทศเกยี่ วกบั หลกั ธรรมเพอื่ การปฏบิ ตั ใิ หป ระสบ ผลสําเรจ็ และมีประสทิ ธิภาพ (๓) จดั ใหม ีการบรรยายธรรมและสนทนาธรรม (๔) รว มกนั บาํ เพญ็ สาธารณประโยชน เชน ปลกู ตน ไม บรจิ าค โลหิต (๕) หัวหนาหนวยงานใหโอกาสผูรวมงานไปบําเพ็ญกุศล ตามประเพณนี ิยม
วันวิสาขบูชา 25
26 วันวิสาขบูชา หนว ยงานอน่ื ในสงั คม (องคก ร สมาคม มลู นธิ ิ สอ่ื มวลชน ฯลฯ) (๑) ประชาสมั พนั ธเ รอ่ื งวนั วสิ าขบชู า โดยใชส อ่ื ตามศกั ยภาพ ที่มอี ยู (๒) จัดพิมพเอกสารเกี่ยวกับความสําคัญของวันวิสาขบูชา รวมทง้ั หลกั ธรรมทส่ี ง เสรมิ การครองเรอื นอยา งมคี วามสขุ และแนวทาง การปฏบิ ตั ิธรรม เพ่ือเผยแพรแ กส าธารณชน (๓) เชิญชวนใหประชาชนทั่วไปเขารวมกิจกรรมปฏิบัติธรรม และพิธีกรรมทางศาสนา เชน ทําบุญตักบาตร ฟงธรรม รักษาศีล ไหวพ ระ สวดมนต สนทนาธรรม เจริญภาวนา (๔) รณรงคทางส่อื มวลชนทกุ แขนง ใหลด ละ เลกิ อบายมขุ งดจําหนายสรุ าและสิ่งเสพติดทุกชนดิ (๕) ประกาศเกยี รตคิ ณุ สถาบนั หรอื บคุ คลผทู าํ คณุ ประโยชน ตอสงั คม (๖) รณรงคใหรักษาสภาพแวดลอมในวัดหรือในท่ีสาธารณะ ปลูกตน ไม ทําความสะอาดท่สี าธารณะ
วันวิสาขบูชา 27
28 วันวิสาขบูชา สาํ หรบั วัด กอ นถึงวนั วิสาขบชู า เจาอาวาสแจงแกภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ใหทราบวาวันใดเปนวันวิสาขบูชา โดยใชปายแจงเตือนหรือแจง ทางการกระจายเสียงภายในวดั กไ็ ด ในวันวสิ าขบูชา (๑) ภิกษุ สามเณร ศิษยวัด คนวัด ชวยกันทําความสะอาด บริเวณวัด ปูลาดอาสนะ จัดตั้งเครื่องสักการะ ต้ังน้ําใชนํ้าฉัน และ ประดับธงธรรมจักร (ถาสามารถดาํ เนนิ การได) (๒) เวลาเชา มีการตักบาตรทําบุญ ทําวัตรเชา ฟงธรรม เวลาบาย มีการฟงธรรม สนทนาธรรม เวลาเย็น อุบาสก อุบาสิกา ทถ่ี ือศลี อุโบสถ ทําวตั รสวดมนต
วันวิสาขบูชา 29 (๓) เวลาคา่ํ พระภกิ ษสุ ามเณร อบุ าสก อุบาสกิ า นําธูปเทียน ดอกไมไปประชุมพรอมกันท่ีอุโบสถ สถูป หรือเจดียแหงใดแหงหนึ่ง ทจี่ ดั เตรยี มไว เมอ่ื พระสงฆพ รอ มกนั แลว ใหย นื หนั หนา เขา หาสง่ิ เคารพ คือ พระประธานหรือสถูปเจดียอยางใดอยางหนึ่ง คฤหัสถยืนถือธูป เทียน ดอกไม ประนมมืออยูถัดจากพระสงฆออกไป เมื่อพระเถระ กลาวนําคาํ บชู า ทั้งหมดวาตามพรอมกัน เมื่อกลา วคาํ บชู าเสรจ็ แลว พระสงฆเดินนําหนาเวียนขวารอบอุโบสถ หรือสถูปเจดีย ๓ รอบ ซงึ่ เรยี กวา เวียนเทียน คฤหัสถเดนิ ตามอยางสงบ ขณะเวยี นรอบแรก ใหระลึกถึงพระพุทธคุณ รอบที่ ๒ ระลึกถึงพระธรรมคุณ รอบที่ ๓ ระลึกถึงพระสงั ฆคณุ เมือ่ เวียนเทยี นครบ ๓ รอบแลว จึงนาํ ดอกไม ธูปเทียนไปวางไวในสถานที่ที่กาํ หนด จากน้ัน สามารถปฏิบัติตามอัธยาศัย สมควรแกอัตภาพ ของตนเอง
30 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 31 ประโยชนทพี่ งึ ไดรบั ประโยชนทเ่ี กดิ ข้นึ แกพ ุทธศาสนกิ ชน ๑. มคี วามรคู วามเขา ใจเกย่ี วกบั ความสาํ คญั ของวนั วสิ าขบชู า รวมทง้ั วธิ ปี ฏบิ ตั ติ นเพอื่ ใหไ ดป ญ ญาขน้ั โพธิ (ปญ ญาทเี่ ปน เหตใุ หบ รรลุ นพิ พาน) ๒. เกิดความศรัทธาซาบซ้ึงและตระหนักในความสําคัญ ของพระพุทธศาสนา ๓. เห็นคุณคาของการดาํ เนินชีวิตเพ่อื การบรรลธุ รรม ๔. รูจกั ปฏิบัติตนตามหนาท่ีของชาวพทุ ธไดอยา งถกู ตอง ประโยชนทีเ่ กิดข้ึนแกสังคมโลก ทําใหเห็นวา มนุษยมีศักยภาพที่จะพัฒนาตนเองใหบรรลุ เปา หมายสูงสุด และอุทศิ ตนเพอื่ ประโยชนแ กชาวโลกได
32 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 33 คําบชู าวนั วสิ าขบูชา ยะมมั หะ โข มะยงั ภะคะวนั ตงั สะระณงั คะตา โย โน ภะคะวา สัตถา ยัสสะ จะ มะยัง ภะคะวะโต ธัมมัง โรเจมะ อะโหสิ โข โส ภะคะวา มัชฌิเมสุ ชะนะปะเทสุ อะริยะเกสุ มะนุสเสสุ อุปปนโน ขัตตโิ ย ชาตยิ า โคตะโม โคตเตนะ สักยะปุตโต สกั ยะกลุ า ปพพะชิโต สะเทวะเก โลเก สะมาระเก สะพัรหมะเก สัสสะมะณะพราหมะณิยา ปะชายะ สะเทวะมะนสุ สายะ อะนตุ ตะรงั สมั มาสมั โพธงิ อะภสิ มั พทุ โธ นิสสังสะยงั โข โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพทุ โธ วชิ ชา จะระณะสัมปน โน สคุ ะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปรุ สิ ะทมั มะสาระถิ สตั ถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา สวากขาโต โข ปะนะ เตนะ ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลโิ ก เอหปิ ส สิโก โอปะนะยโิ ก ปจจัตตัง เวทติ ัพโพ วญิ หู ิ สุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฏิปนโน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ญายะปะฏปิ น โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ สามจี ปิ ะฏปิ น โน ภะคะวะโต สาวะกะสงั โฆ ยะททิ งั จตั ตาริ ปรุ สิ ะยคุ านิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทกั ขิเณยโย อัญชะลกี ะระณโี ย อะนตุ ตะรงั ปญุ ญกั เขตตงั โลกัสสะ
34 วันวิสาขบูชา อะยงั โข ปะนะ ปะฏมิ า ตัง ภะคะวันตงั อทุ ทสิ สะ กะตา ยาวะเทวะ ทัสสะเนนะ ตงั ภะคะวันตัง อะนุสสะริตวา ปะสาเทนะ สังเวคะปะฏิลาภายะ มะยัง โข เอตะระหิ อิมัง วิสาขะปุณณะมีกาลัง ตัสสะ ภะคะวะโต ชาติสัมโพธินิพพานะกาละสัมมะตัง ปตวา อิมัง ฐานัง สัมปต ตา อเิ ม ทัณฑะทปี ะธูปาทสิ กั กาเร คะเหตวา อตั ตะโน กายงั สักการุปะธานัง กะริตวา ตัสสะ ภะคะวะโต ยะถาภุจเจ คุเณ อะนสุ สะรนั ตา อมิ ัง ปะฏิมัง ตกิ ขกั ตงุ ปะทักขณิ งั กะริสสามะ อิมัง ยะถา คะหิเตหิ สักกาเรหิ ปูชัง กุรมุ านา สาธุ โน ภนั เต ภะคะวา สจุ ริ ะปะรนิ พิ พโุ ตป ญาตพั เพหิ คเุ ณหิ อะตีตารมั มะณะตายะ ปญญายะมาโน อิเม อัมเหหิ คะหิเต สักกาเร ปะฏิคคัณหาตุ อมั หากัง ทีฆะรัตตงั หติ ายะ สขุ ายะ
วันวิสาขบูชา 35 คําแปล เราทั้งหลายถึงซ่ึงพระผูมีพระภาคพระองคใดวาเปนท่ีพึ่ง พระผมู พี ระภาคพระองคใ ดเปน ศาสดาของเราทง้ั หลาย และเราทง้ั หลาย ชอบซ่ึงธรรมของพระผูมีพระภาคพระองคใด พระผูมีพระภาค พระองคน้ันแล ไดอุบัติข้ึนแลวในหมูมนุษยชาวอริยกะ ในมัชฌิม ชนบท พระองคท รงเปน กษตั รยิ โ ดยพระชาติ เปน โคดม (เหลา กอแหง พระอาทติ ย) โดยพระโคตร เปนบุตรแหงศากยะ เสดจ็ ออกบรรพชา แลวแตศากยสกุล เปนผูตรัสรูพรอมเฉพาะแลวซ่ึงพระอนุตตรสัมมา สัมโพธิญาณ ในโลกกับทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมูสัตว พรอมทั้งสมณพราหมณ พรอมท้งั เทวดาและมนุษย พระผูมีพระภาคเจาพระองคนั้นทรงเปนพระอรหันต เปน ผูตรัสรูชอบไดโดยพระองคเอง เปนผูถึงพรอมดวยวิชชาและจรณะ (ความรูและความประพฤติ) เปนผูเสด็จไปดีแลว เปนผูรูโลก อยางแจมแจง เปนผูสามารถฝกบุรุษที่สมควรฝกไดอยางไมมีใคร ย่ิงไปกวา เปนศาสดาของเทวดาและมนุษยทั้งหลาย เปนผูตื่นแลว เปน ผเู บกิ บานแลว เปน ผมู คี วามเจรญิ จาํ แนกธรรมสงั่ สอนเวไนยสตั ว โดยไมต อ งสงสยั แล
36 วันวิสาขบูชา อนึ่ง พระธรรมเปนธรรมอันพระผูมีพระภาคพระองคนั้น ตรสั ไวดีแลว อันผบู รรลจุ ะพงึ เห็นไดด วยตนเอง เปน ธรรมทีป่ ฏิบัติได และใหผลไดอยางไมจํากัดกาลเวลา เปนธรรมที่ควรกลาวกับผูอื่นวา ทานจงมาดูเถิด เปนธรรมที่ควรนอมเขามาใสตัว เปนธรรมที่ผูรูพึงรู ไดเฉพาะตน และพระสงฆสาวกของพระผูมีพระภาคพระองคนั้น เปนผูปฏิบัติดีแลวแล เปนผูปฏิบัติตรงแลว เปนผูปฏิบัติเพ่ือรูธรรม เปน เครอ่ื งออกจากทกุ ขแ ลว เปน ผปู ฏบิ ตั สิ มควรแลว นคี้ อื คแู หง บรุ ษุ ๔ คู นับเรียงตัวบุรุษได ๔ บุรุษ นั่นแหละคือพระสงฆสาวกของ พระผูมีพระภาค เปนสงฆควรแกสักการะที่เขานํามาบูชา เปนสงฆ ควรแกส ักการะทีเ่ ขาจดั ไวต อนรับ เปน ผคู วรรบั ทักษิณาทาน เปน ผทู ่ี บคุ คลทว่ั ไปควรทาํ อญั ชลี เปน เนอื้ นาบญุ ของโลก ไมม นี าบญุ อน่ื ยงิ่ กวา พระปฏิมานี้แล นักปราชญไดอุทิศเฉพาะตอพระผูมี พระภาคเจาพระองคน้ัน สรางไวแลวเพียงเพื่อเปนเคร่ืองใหระลึกถึง พระผมู ีพระภาคพระองคน นั้ ดว ยการเห็นแลว ไดความเลือ่ มใส และ ความระลกึ ถึง
วันวิสาขบูชา 37 บัดนี้ เราท้ังหลายมาถึงวันวิสาขบูชา อันเปนที่รูกันท่ัวไปวา เปนวันที่ประสูติ วันตรัสรู และวันปรินิพพานของพระผูมีพระภาค พระองคน น้ั จงึ มาประชุมกันแลว ในท่นี ้ี ถือเคร่ืองสักการะมีธูปเทียน เปน ตน เหลา นี้ ทาํ กายของตนเองใหเ ปน ดงั ภาชนะรองรบั เครอ่ื งสกั การะ ระลกึ ถงึ พระคณุ ทงั้ หลายของพระผมู พี ระภาคพระองคน นั้ ตามความ เปนจรงิ บูชาดว ยเครอื่ งสกั การะตามทไ่ี ดถ อื ไวแลว จกั ทาํ ประทกั ษิณ ซ่ึงประปฏมิ าน้สี ้นิ วาระ ๓ รอบ ขาแตพระองคผูเจริญ ขออัญเชิญพระผูมีพระภาคแมเสด็จ ดับขันธปรินิพพานไปนานแลว ยังทรงปรากฏอยูดวยพระคุณสมบัติ อันขาพระพุทธเจาทั้งหลาย จะพึงรูโดยความเปนอตีตารมณ ขอจงทรงรบั ซง่ึ เครอ่ื งสกั การะอนั ขา พระพทุ ธเจา ทงั้ หลายถอื ไวแ ลว นี้ เพื่อประโยชนและเพื่อความสุข แกขาพระพุทธเจาท้ังหลาย ตลอดกาลนาน เทอญฯ
38 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 39
40 วันวิสาขบูชา
วันวิสาขบูชา 41
42 วันวิสาขบูชา
Search