คือ บคุ คลทเ่ี กดิ รว่ มสมยั กบั พระพทุ ธเจา้ (ไดฟ้ ังธรรมโดยตรงจากพระพทุ ธเจา้ ) และมกี ารปฏบิ ตั ติ นทคี่ วรเอาเปน็ แบบอยา่ ง
คอื บุคคลทไี่ มไ่ ดเ้ กดิ รว่ มสมยั กบั พระพทุ ธเจา้ และมีการปฏบิ ตั ติ น ที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง
ชายทเ่ี ปน็ ผสู้ บื ทอดพระพทุ ธศาสนา ได้แก่ ภิกษุ และอุบาสก
1. เป็น “ผู้มปี ระสบการณม์ าก” 2. เปน็ “คนสนั โดษ” 3. เปน็ “แบบอย่างทดี่ ใี นดา้ น ความประพฤติ” 4. เปน็ “ผูเ้ หน็ การณไ์ กล”
1. เปน็ “ทรงมัน่ คงในพระรตั นตรยั ” 2. ทรง “รักษาความมน่ั คงของศาสนา” 3. เปน็ “ผมู้ ีใจกวา้ ง ฟังความเหน็ ผอู้ น่ื ” 4. เปน็ “ผู้ยอมรบั และพรอ้ มแกไ้ ขตน”
1. เป็น “ผมู้ คี วามตง้ั ใจแนว่ แน่” 2. เปน็ “ผู้มีความตงั้ ใจสงู ” 3. เปน็ “ผ้มู ี คารวธรรม อยา่ งยง่ิ ” การเคารพผอู้ น่ื
1. เป็น “ผมู้ ีปญั ญามาก” 2. เป็น “ผูม้ ปี ฏิภาณ” จนไดร้ บั ยกยอ่ งเปน็ “อคั รสาวกิ าเบอ้ื งขวา” คูก่ ับ พระอบุ ลวรรณาเถรี อัครสาวกิ าฝา่ ยซา้ ย
1. เป็น “อบุ าสกิ าทเ่ี ครง่ ครดั ” 2. เป็น “เปน็ แบบอย่างของพลเมอื งดี” 3. เปน็ “พหูสูต” ดา้ นพระพทุ ธศาสนา คอื ผมู้ ีความรู้ ความเชย่ี วชาญ
1. เป็น “ผใู้ ฝร่ ใู้ ฝศ่ กึ ษา” 2. เปน็ “ผ้มู ีความกตญั ญกู ตเวที” 3. เปน็ “ผูซ้ อื่ สตั ยส์ จุ รติ ” 4. เปน็ “ผ้ใู ฝธ่ รรม” 5. เป็น “ผจู้ งรกั ภักดตี อ่ สถาบันกษตั รยิ ์”
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: