หัวข้อวิชาที่ 2 การพัฒนาข้อมูลสินค้า กลยุทธ์และความแตกต่างให้กับสินค้าในการขายออนไลน์

หวั ข้อวชิ าท่ี 2 P A การพฒั นาข้อมูลสนิ ค้า C กลยุทธ์และความแตกตา่ ง K ให้กับสนิ ค้าในการขายออนไลน์ A G I N g

สาระการเรยี นรู้ การพัฒนาผลติ ภณั ฑใ์ หม่ (New Product Development) R&D หรอื วจิ ัยและพฒั นาสนิ คา้ กลยุทธ์ในการพฒั นาสินค้าใหม่ กลยทุ ธ์และความแตกตา่ งสนิ คา้ ในการขายออนไลน์

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ เป้าหมายหนง่ึ ของการลงทุนในด้านวิจัยและพัฒนา (R&D) ก็ คือการผลิตสินค้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซ่ึงผลจากการวิจัยที่ได้ จะ เป็นในรปู ของสง่ิ ท่ีจับตอ้ งไมไ่ ด้ ดังนั้น ขั้นตอนน้ีจึงเป็นการทาให้สิ่งท่ีคาดหวังจากการวิจัย และพัฒนานามาสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ท่ีมีความแตกต่าง ด้วยการนา เทคโนโลยีและโอกาสในการทาการตลาดมาผสมผสาน เพื่อนาไป จาหน่ายหรือนาไปจดสทิ ธบิ ัตรเพือ่ สรา้ งรายได้

เพอื่ ใหก้ ารพัฒนาผลิตภัณฑ์ ประสบความสาเรจ็ ตามเปา้ หมายขององค์กร องค์กรจะตอ้ งทาความเขา้ ใจเก่ียวกับ กระบวนการพฒั นาผลิตภัณฑด์ ังต่อไปนี้ 2010 2012 2014

1. การสะสมความคิด พัฒนาและทดสอบแนวคิดของการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะมี การเปล่ียนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา เพ่ือให้อยู่ในรูปแบบที่ สามารถนามาทดสอบในตลาดได้ กิจการจะต้องแสดง รายละเอียดให้อยู่ในรูปของแนวคิดผลิตภัณฑ์ ท่ีอธิบาย รายละเอียดในรูปที่มีความหมายและภาพลักษณ์ของ ผลิตภัณฑ์ โดยนาเสนออย่างเป็นรูปธรรมในรูปธรรมเก่ียวกับ ผลิตภณั ฑท์ ่ตี ลาดตอ้ งการ

2. การพฒั นากลยุทธต์ ลาด ✓ อธิบายโครงสร้างและพฤติกรรมของตลาดเป้าหมาย แผนการวางตาแหน่งผลิตภัณฑ์และการขายส่วน ครองตลาดและกาไรในช่วง 2-3 ปีแรก ✓ แผนเกี่ยวกับราคาผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์การจัด จาหน่าย และงบประมาณการตลาดในปแี รก ✓ แผนการขายและเป้าหมายกาไรระยะยาว และ กลยทุ ธ์ส่วนประสมการตลาดทใี่ ช้

3. การวเิ คราะห์ทางธุรกิจ ✓ ความสมั พนั ธ์กบั สายผลติ ภัณฑท์ ี่มีอยู่ ✓ ต้นทุนในการพัฒนาและแนะนาผลิตภัณฑใ์ หม่ ✓ การแข่งขันและการยอมรบั ของตลาด ✓ การพยากรณย์ อดขาย ✓ บคุ ลากรและส่ิงอานวยความสะดวกต่าง ๆ

4. การพฒั นาผลิตภณั ฑ์ ข้ันตอนนี้เป็นขั้นตอนท่ีมีการพัฒนาและออกแบบ เชิงวิศวกรรม เพ่ือนาส่ิงที่พรรณนาในเชิงคาพูดลาย ลักษณ์อักษร ภาพวาดหรือ แบบผลิตภัณฑ์ให้เป็น ผลิตภัณฑ์ต้นแบบ ท่ีจะทาให้ลูกค้ามองเห็นถึงคุณสมบัติ ของตัวผลิตภัณฑ์ หลังจากนั้นควรทาการทดสอบใน ระดับห้องปฏิบัติการและภาคสนามเพ่ือให้ม่ันใจในตัว ผลิตภณั ฑว์ ่าตลาดยอมรับได้

5. การทดสอบและแนะนาผลติ ภัณฑ์ออกสู่ตลาด ผลการทดสอบตลาดมีความเป็นไปได้ที่ กิจการจะมผี ลกาไรจากผลติ ภณั ฑ์ใหม่ พิจารณา เลือกช่วงเวลาในการเข้าสู่ตลาด ขอบเขตของ ตลาด ตลาดเป้าหมายหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แ ล ะ ก ล ยุ ท ธ์ ท า ง ก า ร ต ล า ด ใ น ช่ ว ง แ น ะ น า ผลิตภัณฑ์ ซ่ึงประโยชน์ของการแนะนา ผลิตภณั ฑม์ ดี งั น้ี

5. การทดสอบและแนะนาผลิตภัณฑ์ออกส่ตู ลาด (ต่อ) 1. การเลอื กชื่อท่งี า่ ยตอ่ การออกเสยี ง 2. การเลอื กชอ่ื ทพ่ี รรณนาถึงรปู รา่ งลักษณะ 3. การใช้ช่ือท่ีสามารถไดร้ ับการคุ้มครองทางกฎหมาย 4. การพิจารณาชือ่ ทส่ี ะดวกตอ่ การส่งเสริมการตลาด 5. การเลอื กชือ่ ทส่ี ามารถใช้กบั หลายสายผลิตภณั ฑ์

บรรจุภณั ฑ์ (Packaging) นอกเหนือจากช่วยป้องกันตัวผลิตภัณฑ์แล้ว บรรจุภัณฑ์ยังเป็นเคร่ืองมือที่เพ่ิมคุณค่าของสินค้า บางผลิตภัณฑ์ลูกคา้ ซื้อสินค้าโดยตัดสินใจจากบรรจุ ภัณฑ์ ในการใช้บรรจุภัณฑ์เป็นเคร่ืองมือในทาง การตลาด กิจการควรพจิ ารณาสิง่ ต่าง ๆ ต่อไปนี้

บรรจภุ ัณฑ์ (Packaging) ตอ่ 1. การบรกิ ารตนเอง (Self-service) บรรจุภัณฑ์สามารถดึงดูดความสนใจให้ลูกค้า ม า ซื้ อ สิ น ค้ า ด้ ว ย ก า ร อ ธิ บ า ย ถึ ง ลั ก ษ ณ ะ ผลิตภัณฑ์ การสร้างความเช่ือมั่นให้กับลูกค้า และใหค้ วามรู้สึกที่ช่นื ชอบ

บรรจุภัณฑ์ (Packaging) ตอ่ 2. ความอยดู่ ขี องผบู้ ริโภค (Consumer affluence) ลูกค้ามียินดีท่ีจะจ่ายเงินสาหรับความสะดวก รูปลกั ษณแ์ ละความนา่ เชื่อถือของผลติ ภัณฑ์

บรรจุภัณฑ์ (Packaging) ตอ่ 3. ภาพลกั ษณ์ของกิจการและตรา (Company and brand image) กิจการเหน็ ความสาคัญของการสนับสนุนใหม้ ี บรรจภุ ณั ฑท์ ดี่ เี พ่ือการยอมรับของลกู ค้า

บรรจุภณั ฑ์ (Packaging) ตอ่ 4. โอกาสทางนวัตกรรม (Innovation Opportunity) บรรจุภัณฑ์สามารถสรา้ งนวัตกรรมใหม่ ๆ ใหก้ ับ ตลาดและสร้างกาไรให้กับกจิ การ

ฉลาก (Labeling) ฉลาก (Labeling) มีประโยชน์ต่อผลิตภัณฑ์มาก เช่น แสดงตราผลิตภัณฑ์ นอกจากน้ียังเป็นแหล่งข้อมูลของตัวผลิตภัณฑ์ที่ให้กับลูกค้า สินค้าบางชนิด กฎหมายมีการกาหนดว่าต้องแสดงให้ลูกค้าทราบถึงรายละเอียดของตัวสินค้าเพื่อ ประโยชน์ในการตัดสนิ ใจในการซื้อ

การประกนั (Warranties) การประกันเป็นการสะท้อนถึงความเป็นมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ท่ีกิจการ จาหน่าย ปัจจัยท่ีผู้ประกอบการจะต้องพิจารณาก่อนทาการตัดสินใจกาหนดนโยบาย การประกันคือต้นทุน,ความสามารถในการให้บริการ,คู่แข่งขัน,การยอมรับของลูกค้า, ข้อกาหนดทางกฎหมาย

R&D หรอื วิจัยและพฒั นาสนิ คา้ อาจเป็นคาท่ีดูน่ากลัวสาหรับ ธุรกิจรายเล็กๆ แต่ผู้ประกอบการ จะต้องหาข้อมูลว่าปัญหาของสินค้าคือ อะไร ความต้องการลูกค้าคืออะไร และ พยายามปรับปรุงสินค้าของเราให้ตรง ความต้องการและตรงใจลูกค้ามากขึ้น เท่านัน้

สิ่งท่ีกิจการตอ้ งทากอ่ นการพฒั นาสินค้า การกาหนดแนวความคิด หรือแบบแผนที่มีประสิทธิภาพ ที่จะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค บางกิจการอาจมี ปัญหาในการกาหนดความคิด ขณะทก่ี จิ การมีหลายแนวคดิ มาก เกินไป กิจการจะต้องร่างความคิดใหม่ๆ อย่างรวดเร็วและมี ประสิทธิภาพ เพ่ือการพัฒนาความคิดใหม่ๆ ท่ีมีประสิทธิภาพ เพ่ือการใช้ทรัพยากรทางการเงินและบุคคลที่มีจากัดอย่างมี ประสิทธิภาพ

สงิ่ ท่กี ิจการตอ้ งทาก่อนการพฒั นาสนิ ค้า หาข้อมูล ทุกกิจการต่างมีแหล่งข้อมูลภายในมากมาย สาหรับการสร้างแนวความคิด พนักงานแต่ละฝ่ายก็อาจให้ แนวความคิดเกี่ยวกับ การลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับโอกาสใหม่ๆ สาหรับการพัฒนา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ หรือข้อมูลจากคู่ค้าทางธุรกิจ เช่น Suppliers และผูจ้ ดั จาหนา่ ย

กลยุทธ์ในการพฒั นาสินคา้ ใหม่ กลยุทธ์การตลาด หมายถึง แบบแผนพ้ืนฐาน หรือแนวทางที่ถูกกาหนดขึ้นสาหรับสร้างผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและ ตลาดเปา้ หมาย

กลยทุ ธใ์ นการพัฒนาสนิ ค้าใหม่ ผู้นาตลาด ผู้เจาะตลาด ประเภท ผ้ทู า้ ชงิ กลยทุ ธ์ ผู้ตาม

กลยทุ ธใ์ นการพัฒนาสินค้าใหม่ การวางแผนการตลาด 1. • ระยะเวลาการวางแผน 2. • การกาหนดวัตถุประสงค์ 3. • การกาหนดกลยทุ ธท์ างการตลาด

กลยทุ ธ์ในการพฒั นาสนิ คา้ ใหม่ 1 ประโยชนใ์ ชส้ อย สินค้าใหม่จะตอ้ งตอบสนองความต้องการในด้านประโยชนก์ ารใช้งาน ทีค่ รบถว้ นท้ังประโยชนห์ ลักทางตรง และประโยชน์ทางออ้ ม 2 ความสวยงาม สินค้าต้องมีความสวยงามดึงดูดใจผู้พบเห็น รูปทรงเหมาะสมกับงาน และสอดคล้องกบั รูปแบบการดาเนินชีวิต สีของสินค้าและสีของบรรจุภัณฑ์ก็ มีผลต่อการตัดสินใจซ้ือเป็นอย่างมาก ต้องรู้ด้วยว่าลูกค้าเราเป็นกลุ่มไหน และสีแบบท่ีจะนามาใช้สอื่ สารกับลูกค้าเป้าหมายของเรา

กลยุทธใ์ นการพฒั นาสินคา้ ใหม่ 3 คุณภาพของผลิตภณั ฑ์ ระบบการควบคุมคณุ ภาพสินค้า เราต้องโฟกัสตัง้ แต่แหลง่ วัตถุดิบ กระบวนการผลิต จนไดเ้ ป็นสินค้าใหม่ออกมาวางจาหน่าย 4 ราคาขายและตน้ ทุนการผลิต จะต้องต้ังราคาขายให้เหมาะสมกับตาแหน่งสินค้าและกลุ่มลูกค้า เป้าหมายที่กาหนดไว้ และพยายามควบคุมต้นการผลิตให้ต่าท่ีสุด เพ่ือให้ สามารถแขง่ ขันด้านราคาได้ และทาใหม้ กี าไรมากขึน้

กลยทุ ธ์ในการพฒั นาสินคา้ ใหม่ 5 ความปลอดภยั ในการใชง้ าน ผู้ประกอบการจะตอ้ งใหค้ วามสาคัญกับความปลอดภัยในการใช้งาน หรือการบรโิ ภค ควรมีการแจง้ เตอื นเรื่องความปลอดภัยไว้บนฉลาก 6 ความแข็งแรงทนทาน สนิ ค้าใหม่ตอ้ งให้ความสาคัญการความแข็งแรงทนทานในการใช้งาน เพราะลกู คา้ เม่ือซ้อื สนิ ค้าย่อมความหวงั ว่าจะใช้ได้นาน

กลยุทธใ์ นการพฒั นาสินค้าใหม่ 7 การบารงุ รักษา สินค้าบางประเภททต่ี อ้ งมีการบารงุ รกั ษาหลงั การใช้งาน ควรออกแบบ ให้การบารุงรักษาทาไดง้ า่ ย ลกู ค้าสามารถบารุงรกั ษาไดด้ ้วยตนเอง 8 การบรกิ าร เป็นการอานวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การจัดส่ง การติดต้ัง บริการหลังการขายต่าง ๆ เหล่านี้เราต้องออกแบบควบคู่ไปกับสินค้าของเรา ตง้ั แต่ต้นวา่ จะทาอยา่ งไร

กลยทุ ธแ์ ละความแตกต่างสนิ คา้ ในการขายออนไลน์ วางกลยทุ ธ์ สร้างจุดขายให้สินค้าแตกต่างจากคูแ่ ข่ง การสรา้ งแบรนด,์ การตลาดออนไลน,์ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์

กลยุทธ์และความแตกตา่ งสนิ คา้ ในการขายออนไลน์ 1. การสร้างจุดขายให้สินค้าแตกต่างจากคู่แข่งและต้องเป็นจุดขายที่ ลูกค้าพอใจจะจา่ ย ถ้าจะให้เห็นภาพอยา่ งรวดเร็ว ตัวอย่างบริษัทท่ีชดั เจนในเร่ืองของการสร้างความแตกต่าง ก็คงเป็น Apple Inc. เพราะสามารถต้ังราคาสินค้าสูงกว่าคู่แข่งอย่างมาก แต่คน มากมายก็เต็มใจที่จะจ่าย เพราะอยากใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ล้าสมัย ท่ีมีความ เปน็ อตั ลกั ษณ์ของ Apple

กลยทุ ธแ์ ละความแตกต่างสินคา้ ในการขายออนไลน์ 2. การบริหารจดั การต้นทุนให้ต่าท่ีสดุ ด้วยการตั้งราคาสินค้าให้ต่า เพื่อให้ สามารถขายสินคา้ ในปริมาณและกลุ่มลกู ค้าจานวนมาก

กลยทุ ธแ์ ละความแตกตา่ งสนิ คา้ ในการขายออนไลน์ 3. กลยทุ ธ์ สร้างจดุ ขายให้สินค้า \"แตกตา่ ง\" จากคแู่ ข่ง 3.1 แตกต่าง ทฟ่ี งั กช์ นั การใชง้ าน และความสามารถของสินค้า 3.2 แตกต่าง ทกี่ ารเล่าเรอ่ื งของสินค้า รวมไปถงึ กรรมวิธกี ารผลติ 3.3 แตกต่าง ดา้ นการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์

สรุป การสร้างความแตกต่างทาได้หลายวธิ ี หลายรูปแบบ ว่ามีไอเดียท่ีแปลก ใหม่ และมีทรัพยากรเพียงพอที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็อย่าลังเลที่จะลงมือทา แต่ต้องไม่ลืมว่าต้องเข้าใจผู้บริโภคให้มากๆ และความแปลกใหม่ท่ีเกิดขึ้นมา นั้นต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคด้วย ไม่ใช่เพียงว่าจะแตกต่าง เพียงอย่างเดียว และสุดท้ายจะต้องใช้ส่ือให้เป็น ย่ิงในโลกออนไลน์แล้ว มีส่ือ ต่างๆ ให้ใช้กันหลายช่องทางเพื่อให้ผู้บริโภครับรู้ถึงความแตกต่างของเรา ถ้า ขาดการโปรโมท ไอเดยี ตา่ งๆ ท่จี ะสง่ ออกไปถงึ ผู้บริโภคกอ็ าจจะไม่ท่ัวถงึ