Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความเป็นมาของวันขึ้นปีใหม่

ความเป็นมาของวันขึ้นปีใหม่

Published by พลพล ชาวงิ้ว, 2019-09-03 04:46:22

Description: ความเป็นมาของวันขึ้นปีใหม่

Keywords: New year

Search

Read the Text Version

ความเป็ นมาของวนั ขนึ้ ปี ใหม่ ในอดีต วนั ข้ึนปี ใหม่ของไทยไดม้ ีการเปลี่ยนแปลงมาแลว้ 4 คร้ังคือ คร้ังแรกถือเอา วนั แรม 1 ค่า เดือนอา้ ย เป็นวนั ข้ึนปี ใหมซ่ ่ึง ตรงกบั เดือนมกราคม คร้ังท่ี 2 กาหนดใหว้ นั ข้ึนปี ใหม่ตรงกบั วนั ข้ึน 1 ค่า เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซ่ึงตรงกบั เดือนเมษายน การกาหนดวนั ข้ึนปี ใหม่ใน 2 คร้ังน้ี ถอื เอาทางจนั ทรคติเป็นหลกั ต่อมาไดถ้ ือเอาทางสุริยคติแทน โดยกาหนดให้ วนั ที่ 1 เมษายน เป็ นวนั ข้ึนปี ใหม่ ต้งั แต่ พ.ศ.2432 เป็ นตน้ มา อยา่ งไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตาม ชนบทยงั คงยึดถือเอาวนั สงกรานตเ์ ป็ น วนั ข้ึนปี ใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปล่ียนแปลงการปกครองมาเป็ นระบอบ ประชาธิปไตย ทางราชการเห็นว่าวนั ข้ึนปี ใหม่วนั ท่ี 1 เมษายน ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนกั สมควรท่ีจะฟ้ื นฟู ข้ึนมาใหม่ จึงไดป้ ระกาศใหม้ งี านรื่นเริงวนั ข้ึนปี ใหม่ในวนั ที่ 1 เมษายน 2477 ข้ึนใน กรุงเทพฯเป็นคร้ังแรก การจดั งานวนั ข้ึนปี ใหมท่ ี่ไดเ้ ร่ิมเม่อื วนั ท่ี 1 เมษายน ไดแ้ พร่หลายออกไปต่างจงั หวดั ในปี ต่อๆมา และในปี พ.ศ.2479 ก็ไดม้ ีการ จดั งานรื่นเริงปี ใหม่ทวั่ ทุกจงั หวดั วนั ข้ึนปี ใหม่วนั ที่ 1 เมษายน ในสมยั น้นั ทางราชการเรียกว่า วนั ตรุษ สงกรานต์ ต่อมาไดม้ ีการพจิ ารณาเปลยี่ นวนั ข้ึนปี ใหม่อกี คร้ังหน่ึง โดยคณะรัฐมนตรีไดแ้ ต่งต้งั คณะกรรมการข้ึน ซ่ึงมีหลวง วจิ ิตรวาทการ เป็ นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็ นเอกฉันท์ให้เปล่ียนวนั ข้ึนปี ใหม่เป็ นวนั ที่ 1 มกราคม โดย กาหนดใหว้ นั ที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วนั ข้ึนปี ใหมเ่ ป็นตน้ ไป เหตผุ ลทร่ี าชการได้เปลย่ี นวนั ขึน้ ปี ใหม่จากวนั ที่ 1 เม.ย. มาเป็ นวนั ท่ี 1 ม.ค. กค็ ือ 1. ไม่ขดั กบั พุทธศาสนาในดา้ นการนบั วนั เดือน และการร่วมฉลองปี ใหม่ดว้ ยการทาบุญ 2. เป็นการเลกิ วธิ ีนาเอาลทั ธิพราหมณ์มาคร่อมพระพทุ ธศาสนา 3. ทาใหเ้ ขา้ สู่ระดบั สากลท่ีใชอ้ ยใู่ นประเทศทว่ั โลก 4. เป็นการฟื น้ ฟวู ฒั นธรรม คตินยิ ม และจารีตประเพณีของชาตไิ ทย

วนั ท่ี ๑ มกราคม ทุกคนทว่ั ทุกมุมโลกต่างรู้กนั ดีวา่ เป็นวนั ข้ึนปี ใหม่ แต่จะมกี ่ีคนท่ีจะรู้วา่ \"กว่า จะกาหนดใหว้ นั ที่ ๑ มกราคม เป็นวนั ข้ึนปี ใหมท่ ี่ตรงกนั ทว่ั โลกน้นั มีประวตั ิศาสาตร์อนั ยาวนาน\" ท้งั น้ีพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน ไดใ้ หค้ วามหมายของคาวา่ \" ปี \" ไวว้ า่ \"เวลา ชว่ั โลกโคจรรอบดวงอาทิตยค์ ร้ังหน่ึงราว ๓๖๕ วนั หรือ เวลา ๑๒ เดือนตาม สุริยคติ\" นายสรรคส์ นธิ บุณโยทยาน ผเู้ ชี่ยวชาญทางดาราศาสตร์ และผเู้ ขียนหนงั สือสุริยปฏิทินพนั ปี บอกว่า แทบไม่น่า เชื่อวา่ บรรพชนในอดีต ท่ีวนั ๆสาละวนอยกู่ บั การหาอยหู่ ากินตามธรรมชาติ อาวุธประจากายท่ีวิเศษสุดก็คือขวานหิน อนั เดียว สามารถสร้างปฏทิ ินจากดวงดาวอนั ไกลโพน้ ตามหลกั ฐานทางโบราณคดีท่านเหล่าน้ันรู้จกั ปฏิทินก่อนการ ประดิษฐต์ วั อกั ษร พวกเขาใชข้ อ้ มูลดาราศาสตร์เป็ นเคร่ืองมือในการกาหนดช่วงเวลา โดยอา้ งอิงกบั สิ่งท่ีเห็นบน ทอ้ งฟ้าไดแ้ ก่ ดวงจนั ทร์ ดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์ และแมก้ ระทง่ั ดาวฤกษ์ ใชก้ อ้ นหินขนาดใหญ่เรียงตัวกนั เป็ น สญั ลกั ษณ์ เช่น กองหินลึกลบั สโตนจเ์ ฮน้ จ์ (Stonehenge) ที่ประเทศองั กฤษ เม่ือมนุษยเ์ ขา้ สู่ยคุ ประวตั ิศาสตร์ ชาวสุเมเร่ียนในดินแดนแห่งลุ่มน้า ไตรกีส และ ยเู ฟรตีส ท่ีรู้จกั กนั ดีในช่ือว่า เมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ปัจจุบนั อยูใ่ นประเทศอีรัก ไดส้ ร้างปฏิทินข้ึนมาเป็ นคร้ังแรกของโลกท่ีเมือง นิปปู (Nippur) เม่อื ๓,๗๖๐ ปี ก่อนคริสตกาล พวกเขาแบ่งช่วงเวลา ๑ ปี ออกเป็น ๑๒ เดือน และใหเ้ ร่ิมปี ใหม่ในวนั วสันต วิษุวตั (Vernal Equinox) ซ่ึงเป็นวนั ท่ีกลางวนั เท่ากบั กลางคืนและเร่ิมตน้ ฤดูใบไมผ้ ลิ คร้ันอารยธรรมอียปิ ต์ฉายแสงข้ึนมาก็สร้างปฏิทินโดยถ่ายทอดขอ้ มูลไปจากชาวสุเมเรี่ยน ถึงคิวของอาณาจกั ร โรมนั ผงาดข้ึนมาในหนา้ ประวตั ิศาสตร์ ๗๕๓ ปี ก่อนคริสตกาล ก็สร้างปฏิทินโดยนับเร่ิมตน้ จากปี ที่สร้างกรุงโรม ภาษาลาตินใชค้ าว่า ab urbe condita (A.U.C.) ปฏทิ ินโรมนั เป็นจนั ทรคติคือใชด้ วงจนั ทร์เป็นตวั อา้ งอิง ใหป้ ี หน่ึงมี ๑๐ เดือน หรือ ๓๐๔ วนั และใหว้ นั ท่ี ๑ มกราคม เป็นปี ใหม่ เดือนมกราคม มาจากชื่อของเทพ เจนสั ซ่ึงชาวโรมนั เชื่อว่าเป็ นเทพแห่งการเริ่มตน้ ใหม่ของโลก เพราะในฤดู หนาว ดวงอาทิตยต์ ่าลงเรื่อยๆทางทิศใต้ ขณะเดียวกนั ช่วงเวลากลางวนั ก็ส้นั ลงจนกลวั ว่าโลกจะดบั มืดในไม่ชา้ แต่ พอเวลาผา่ นไปไมก่ ี่วนั ดวงอาทิตยก์ ็หวนกลบั คืนมาทางทิศเหนืออีกคร้ัง ดว้ ยการช่วยเหลือจากเทพเจนสั ดงั น้ันเดือน ท่ีดวงอาทิตยเ์ ร่ิมกลบั คืนมาใหมจ่ ึงเรียกวา่ เดือนแห่งเทพเจนสั หรือ January

กจิ กรรมท่ีชาวไทยส่วนใหญ่มกั จะยดึ ถือปฏิบัตใิ นวนั ขนึ้ ปี ใหม่ ไดแ้ ก่ 1. การทาบุญตกั บาตร โดยอาจตกั บาตรที่บา้ น หรือไปท่ีวดั หรือตามสถานท่ีต่างๆท่ีทางราชการเชิญชวนไปร่วม ทาบุญ 2. การกราบขอพรจากผใู้ หญ่ และอวยพรเพอ่ื นฝงู การมอบของขวญั การมอบช่อดอกไม้ หรือการส่งบตั รอวยพร 3. การจดั งานร่ืนเริง การจดั เล้ียงในหมู่เพื่อนฝงู ญาติพ่นี อ้ งหรือตามหน่วยงานต่างๆ วนั ข้ึนปี ใหม่นับเป็ นโอกาสดี ที่จะทาใหเ้ ราไดท้ บทวนถงึ การดาเนินชีวติ ในอดีต เพือ่ จะไดแ้ กไ้ ขขอ้ บกพร่องที่เกิดข้ึนในอดีตใหด้ ี ……………………………………………………………………………………………………


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook