E-Book Anatomy ? โดย นางสาวจสั มนิ สุขสี กลุ่มเรียน Sec 2 รหัสศึกษา 6417701001020
Cell is …. หน่วยท่เี ลก็ ท่สี ุดของสิ่งมชี วี ติ
โครงสร้างพ้ืนฐาน ท่ีทกุ เซลล์ตอ้ งมี ? Cell Membrane or Plasma membrane เยื่อหมุ้ เซลล์ Cytoplasm ภายในมีโครงสร้างที่เรยี กว่า (Organelle) Nucleus
Function of the cell structure ควบคุมลกั ษณะพันธกุ รรม การแบ่งตวั ของเซลล์และควบคุมการสร้างโปรตีน เส้นใยซง่ึ คือโมเลกลุ ของ DNA ขดเปน็ กอ้ น หน้าทสี่ ังเคราะห์ RNA หน้าท่เี ตมิ คารโ์ บไฮเดรตและไขมันใหก้ บั โปรตนี ท่รี ับมาจาก RER เพื่อสง่ ออกนอกเซลล์ มีเยอ่ื หุม้ 2 ช้นั ชนั้ นอกเรียบ ช้นั ในจะพับทบ หน้าที่เป็นแหลง่ สร้างงานพลงั งานสงู คอื ATP Animal Cell
ขนาดเล็กท่สี ดุ หน้าทส่ี ังเคราะหโ์ ปรตนี ของเหลว(cytosol) ล้อมนิวเคลยี ส พบ Organelle ชนดิ ตา่ งๆ โครงสร้างหอ่ หุ้มไซโทพลาสซึมและแสดงขอบเขตเซลล์ หนา้ ท่ยี ่อยโมเลกุลสารอาหาร ทาลายสง่ิ แปลกปลอมทีเ่ ขา้ เซลล์ ทาจากโปรตนี tubulin และเปน็ สว่ นประกอบของ centriole
หนา้ ทผี่ ลติ และขนสารในเซลล์ แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดผิวเรียบ (SER) และชนิดขรุขระ (RER) มไี รโบโซมเกาะ หนา้ ทีแ่ ยกโครมาทดิ ออกระหวา่ งการแบ่งเซลล์ **พบในเซลล์สัตว์และโพรทสิ ตบ์ างชนิด Animal Cell
Tissue เนือ้ เยอ่ื กลุ่มเซลล์ท่ีโครงสร้างและหน้าทเ่ี หมือนกนั แบง่ ได้ดงั น้ี Epithelial tissues เนอ้ื เย่ือบุผวิ Connective tissues เนือ้ เยอื่ เก่ยี วพนั Muscle tissues เนอื้ เยื่อกลา้ มเนอ้ื Nervous tissues เนอื้ เยอื่ ประสาท
Connective tissues เนอ้ื เยื่อเกยี่ วพัน มี 4 กลุ่ม ไดแ้ ก่ เนื้อเยอ่ื เกย่ี วพนั สมบูรณ์ (connective tissue proper) กระดูกออ่ น (cartilage) กระดูกแข็ง (bone) เลอื ด (blood)
Skin ประกอบดว้ ย 2 ชัน้ 1 ช้นั หนงั กาพร้า 2 ชัน้ หนงั แท้
รเู หงอื่ ช้นั หนังกาพรา้ มเี ซลล์ที่ตาย หนา้ ที่ในการเปน็ เยอื่ ห่อหมุ้ รา่ งกาย ชั้นหนงั แท้ มเี ซลล์ประสาท เส้นประสาท เส้นเลอื ด ตอ่ มเหง่อื ตอ่ มไขมนั และเซลล์ตา่ งๆมากมาย ชน้ั ใต้ผวิ หนงั สว่ นใหญเ่ ป็นไขมนั หนา้ ทรี่ บั แรงกระแทก เป็นฉนวนกันอณุ หภมู ิทเ่ี ปลี่ยนแปลง ตอ่ มเหงือ่ ขบั เหงื่อ รักษาสมดุลนา้ และอุณหภูมิของร่างกาย
ขน ปดิ ไมใ่ ห้ส่งิ สกปรกเขา้ สู่ผวิ หนงั กลา้ มเนอ้ื เรยี บ หดตวั ทาให้เกดิ ขนลกุ รูขุมขน ที่อยูข่ องขน ชว่ ยปกป้องส่วนชนั้ ในของขน ตอ่ มไขมัน หนา้ ท่หี ลง่ั sebum ออกรขู มุ ขน เพ่อื ให้ความช่มุ ชน้ื แก่ผวิ หนัง **พบทุกสว่ นยกเวน้ ฝ่ามือและฝ่าเทา้ รากขน ที่ยดึ เกาะของขน หน้าที่รบั สมั ผสั ทาให้เกิดขนลกุ
Nerves and Receptors of the skin รบั สมั ผสั เบาๆ Epidermis Free nerve ending หน้าท่ีรบั ความรสู้ ึกเจ็บปวด ร้อน เยน็ ขนและสง่ เลือดที่มีออกซิเจนต่า ขนและสง่ เลือดท่ีมีออกซิเจนสูง รับสมั ผสั แรงกดและส่นั สะเทือน
Nails เล็บ เซลล์เยือ่ บทุ ี่อยู่ใต้ชั้น lanula แผ่นเล็บประกอบดว้ ยเซลล์ทตี่ ายแล้ว หนา้ ที่สรา้ งแผ่นเล็บ(nail plate) เน้อื เย่ือทอี่ ยู่ใต้nail plate และยดึ nail plate
# อวัยวะสบื พันธ์ภุ ายนอก # อวัยวะสบื พันธ์ุภายใน
#bartholine’s gland อยภู่ ายใต้ผนงั vestibule มีท่อมาเปิดใน vestibule ใกล้ hymen สรา้ ง mucous secretion หลอ่ ล่นื vestibule ในขณะร่วมเพศ ***
การปฏิสนธิ(Fertilization)
กระดกู ท่สี าคัญของระบบสบื พันธ์หุ ญิง #ไม่จาไมไ่ ดน้ ะคะ
สาระสาคัญ * * uterine tube or fallopian tube มี 2 ขา้ ง หนา้ ที่นา ovum จาก ovary ไปยงั uterus แบ่งเป็น 4 สว่ น ได้แก่ 1) Infundibulum ลกั ษณะรูปกรวย คล้ายนิว้ มือ 2) Ampulla บริเวณที่ sperm ผสมกบั ovum*** 3) Isthmus ขนาดจะเลก็ 4) Intramural segment แบง่ ผนงั 3 ช้นั * * ชน้ั ในคอื mucosa หน้าทีใ่ ห้ mucoid secretion เป็นอาหารแก่ ovum ชนั้ กลางคอื lamina propria มีกลา้ มเน้อื หดรัดตัวทาให้ ovum เคลือ่ นตวั ลงสู่ uterus *** ชนั้ นอกสุดคอื serosa * sperm อาศยั enzymes ใน acrosomal ที่ใชย้ อ่ ยผนังไข่ zona pellucida ได้แก่ acrosin และ neuraminidase
# สรปุ การเจรญิ เตบิ โตของมนษุ ย์ - วนั ที่ 7 เอ็มบริโอระยะบลาสทลู าฝงั ตัวทีผ่ นังมดลูก - อายุ 2 สัปดาห์ เอ็มบริโอเขา้ สู่ระยะแกสทรเู ลชัน เกดิ เน่ือเย่อื 3 ชน้ั - อายุ 3 สปั ดาห์ ปรากฏรอ่ งรอยอวยั วะ - อายุ 8 สปั ดาหอ์ วัยวะเจริญครบ ระยะสิ้นสดุ ของเอ็มบริโอ และหลงั จากนี้ เรียก Fetus - อายุ 3 เดอื น แยกเพศได้ เห็นนิ้วมอื -เทา้ ชดั - อายุ 6 เดือน ผิวหนงั มรี อยยน่ บางใส ศีรษะโต มีขนคิว้ ขนตา ลืมตาหลับตาได้ - 3 เดือนสุดทา้ ย กอ่ นคลอด Fetusโตมากและระบบประสาทเจรญิ มาก
คาศัพท์น่ารู้ !! mammary glands
ระบบตอ่ มไร้ท่อ ลักษณะการทางานทีค่ ่อนข้างช้า แต่มีผลการทางานนาน การทางานของอวัยวะเหลา่ นเ้ี กิดขน้ึ ได้ โดยอาศยั ฮอรโ์ มน ผลติ จากต่อมไร้ทอ่ และฮอรโ์ มนน้ีจะหลั่งออกสขู่ องเหลวท่ีอย่ภู ายนอกเซลล์ และระบบไหลเวยี นเลอื ด และจากการท่ีไม่มที ่อนาออก จึงเรยี กต่อมไรท้ ่อ (endocrine gland)
***เป็นโครงสรา้ งของสมองท่อี ยใู่ ต้ (thalamus) Hypothalamus แตเ่ หนอื กา้ นสมอง (brain stem) ทาหน้าทีใ่ นการกระตุ้นหรอื ยบั ย้งั การหลง่ั ฮอร์โมนจากต่อมใตส้ มอง pituitary gland ซ่ึงฮอร์โมนท่สี รา้ งจากไฮโพทาลามสั - Anti-diuretic hormone (ADH) - Gonadotropin-releasing hormone (GnRH) - Growth hormone-releasing hormone (GHRH) - Oxytocin
ผลิตฮอร์โมนmelatonin ทาหน้าท่เี ป็นตวั ส่งข่าว (neuroendocrine transducer) มผี ลยบั ยง้ั การทางานของอวัยวะท่ีสรา้ งเซลล์สืบ พันธ์ ไมใ่ ห้ทางานเรว็ เกนิ ไป ในภาวะความผดิ ปกติพบวา่ ถ้าเกดิ เนือ้ งอกของต่อมไพเนยี ล (pinealoma) ทาให้ขาดฮอรโ์ มน และเด็กเข้าสู่วยั หนุ่มสาวเรว็ กวา่ ปกติ (precocious puberty)
ภาวะความผดิ ปกติ 3.2.1 คอพอก (goiter) คือต่อมไทรอยด์มีขนาดโตข้ึนกว่าปกติ 3.2.2 ตอ่ มไทรอยดเ์ ปน็ พิษ (thyrotoxicosis) เปน็ ภาวะทมี่ ไี ทรอยดฮ์ อรโ์ มนมากผดิ ปกติเกนิ ความต้องการอาการ พบวา่ อัตราการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายเหงื่อออกมากเพอื่ ลดความรอ้ นในร่างกาย 3.2.3 ขาดไทรอยดฮ์ อร์โมน (Hypothyroidism) เป็นภาวะทม่ี ไี ทรอยด์ฮอร์โมนไม่เพียงพอ กบั ความต้องการของรา่ งกาย
ผลติ Parathyroid hormone, PTH เพื่อเพิ่มแคลเซยี ม
Thymus gland สร้างฮอรโ์ มนthymosin ซ่ึงมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของ T-lymphocyte สร้างภมู ิคุ้มกนั ของรา่ งกาย ปกตติ ่อมนจ้ี ะมี ขนาดใหญ่ในทารกแรกเกิด และโตมากทส่ี ดุ ในชว่ งวัยหนุม่ สาว หลังจากนั้นจะเร่มิ เสื่อมสภาพมขี าดเลก็
สาหรบั ตบั ออ่ นมีหน้าที่ผลติ ฮอรโ์ มน ประกอบด้วย - Gastrin - Glucagon - Insulin #เปน็ ท้งั ต่อมมที ่อและต่อมไรท้ อ่
Search
Read the Text Version
- 1 - 32
Pages: