Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore jaja

jaja

Published by jongjai.wongprom, 2017-07-16 02:28:43

Description: jaja

Search

Read the Text Version

น.ส. จงใจ วงษ์พรหม 5924441222 งานชน้ิ ท่ี 1 คาศพั ท์ จากเพลง Heal the world1. Generation Alpha เดก็ ในยคุ Generation Alpha จะเปน็ เด็กทเ่ี กิดต้งั แต่ พ.ศ. 2553 เปน็ ตน้ ไป เด็กในยคุ นี้เขาจะรจู้ ักแตส่ ังคมทีมีเทคโนโลยี เกดิ มาก็มีแต่การแข่งขันกัน และเราปฏิเสธไมไ่ ด้ว่าโลกเรากาลังเปล่ียนไปในแนวของดิจิตอลเวลิ ด์ ซงึ่ เปน็ ไปไมไ่ ด้ทเ่ี ราจะไม่เปดิ รับสอื่ ปัจจุบนั สงั คมมคี วามเปน็ พลวตั สงู มาก มสี ังคมใหมเ่ กิดขน้ึ คอื สังคมกลางอากาศท่ีเป็นสงั คมไร้พรมแดน เด็กสมยั น้อี ยูก่ ับเทคโนโลยีมากกวา่ บา้ น วดั โรงเรยี น ไมเ่ หมือนเดก็ สมยั ก่อนเด็กเจนอลั ฟา่ จึงมีปญั หาเรอื่ งปฏสิ มั พนั ธท์ ั้งพอ่ แม่และชมุ ชน มปี ัญหาทักษะการสือ่ สาร เพราะขาดการสื่อสารกันดว้ ยแววตา กายสมั ผัส วลีสัมผัส การท่ขี าดตรงนี้ทาให้เปน็ เดก็ ไมม่ นี า้ ใจ ไม่รจู้ กัความเอ้อื อาทร ท่สี าคญั หากเด็กเจนอัลฟ่าไมไ่ ด้รับการพฒั นาอะไรเลย เขาจะอยู่ในโลกส่วนตัวมากข้ึน ความผกู พนั กับองคก์ รและถนิ่ ฐานเดมิ ไม่มี สภาพแบบนม้ี นั จะเกดิ ขน้ึ อกี มากหากเราไมร่ บั มอื เทคโนโลยีทก่ี ้าวหน้า ทาให้สภาพของสังคมกลายเปน็ โลกแห่งโซเชียลเนต็ เวิรค์ และโซเชียลมเี ดียทอี่ ยใู่ นมอื สง่ ผลให้เดก็ ในยคุ น้ียดึ ติดกับตวั เอง ขาดปฏิสมั พนั ธก์ บั ผ้อู ืน่ ดงั นั้นการบรหิ ารหลกั สตู รจงึ จาเป็นที่จะตอ้ งมีแนวทางที่พัฒนาศักยภาพของผู้เรียนที่อยู่ในยุคน้ี ซ่ึงในอนาคตเด็กในยุคน้ีจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่รับฟังความคิดเห็นของผู้อ่ืน การบริหารจดั การหลักสูตรต้องมีการวางแผนร่วมกับผู้ปกครอง โดยเน้นให้ผู้ปกครอง ควรใช้แนวคิดเลี้ยงลกู แบบบันไดสามขั้น คือ รับฟังความคิดความรู้สึกของเดก็ แลว้ สะท้อนความรู้สึกของเราเอง ก่อนจะโยนโจทย์ปัญหาให้ลูกได้ลองคิด และแก้ไขจากมุมของตัวเด็กเอง รวมไปถึงการเลือกรับส่ือกับเด็ก พ่อแม่ควรใช้สื่อให้สร้างสรรค์ ควรจะต้องมีการเหลาความคิดให้รู้เท่าทันสื่อภาพความรุนแรงในละคร สามารถนามาเหลาทางความคิด ดงั นน้ั พ่อแม่ ผู้ปกครอง ต้องสอนให้ลูกมคี วามรู้เท่าทัน ในด้านต่างๆ ดังน้ี 1. พัฒนาทกั ษะการรู้คดิ 2. ทกั ษะการรู้เทา่ ทัน 3. การสรา้ งจติ สานึกทด่ี ี

2. Place in your heart หลกั สูตรท่สี ร้างขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งจะเหมาะสมสอดคล้องกับช่วงเวลานั้นๆ ดังน้ันเมื่อสภาพสงั คมเปลย่ี นยอ่ มส่งผลกระทบตอ่ หลักสูตร การพัฒนาหลักสูตรเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้อย่างต่อเน่ืองตลอดเวลาที่สภาพสังคมเปล่ียนแปลง การนาหลักสูตรฉบับเดิมไปใช้และมีการประเมินการใช้หลักสูตรแล้วพบปัญหาหรือพบข้อบกพร่อง การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาต้องคานึงถึงบริบททางสังคมให้มากเพ่ือการพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพความต้องการทางสังคมและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน สอดคล้องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีท่ีปรับเปล่ียนตลอดเวลาอีกท้ังเพ่ือรองรับสู่สังคมในอนาคตโดยคลอมคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายให้ผู้เรียนทุกคนมีพน้ื ท่ยี นื ในสังคมและสามารถแข่งขนั ในเวทโี ลกได้3. Care enough for the living การบริหารหลักสูตรต้องมีการเอาใจใส่ในทุกๆเร่ือง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบริหาร การจัดการเรียนรู้ การจัดส่ิงแวดล้อม การจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนเอง เพ่ือให้ผู้เรียนได้เกิดการเรียนรู้และมีความสุขในการเรียน ในการจัดการเรียนรู้เพื่อให้ผู้เรียนมีความสุขนั้นใช่ว่าสอนเพียงสาระใดสาระหนึ่งเท่านั้น แตท่ ุกกลมุ่ สาระการเรยี นรู้สามารถจัดการเรียนรู้เพ่ือให้ผู้เรียนมีความสุขได้ขน้ึ อย่กู บั วธิ ีการการจดั การของครูผู้สอน มีการวิเคราะห์ผู้เรียนแยกผู้เรียน เก่ง กลาง และอ่อนได้ และสามารถจดั การเรยี นรูใ้ ห้เหมาะสมกับความพรอ้ มของผูเ้ รียนเป็นรายบุคคลได้4. Need to cry (ไม่จาเป็นต้องร้องไห้) หลักสตู รทดี่ คี วรมีเป้าหมายท่ีชัดเจน โดยเป้าหมายของหลกั สตู รสาคญั คือ มุ่งพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ ผูท้ ี่มคี วามรู้ความสามารถเปน็ ผู้ท่ีมคี ุณธรรม จริยธรรม เป็นผู้มคี ุณภาพมีองคค์ วามรทู้ ี่หลากหลาย ประสบความสาเรจ็ ในการดารงชวี ติ อยใู่ นสังคมปัจจุบันและสังคมโลกในอนาคตได้อยา่ งมีความสขุ จากทฤษฎมี าสโลว์ ซ่งึ ระบุวา่ บุคคลมีความต้องการเรียงลาดับจากพื้นฐานไปยังระดบั สูงสุดซึง่ ถือเป็นฐานคิดหรอื สมมติฐานของทฤษฎี กล่าวคือ 1. มนษุ ยเ์ ป็นสงิ่ มีชวี ิตท่มี คี วามต้องการอยเู่ สมอและไม่มีวนั ส้นิ สุด และมากข้นึ เรอื่ ยๆ ส่ิงที่มนษุ ย์ต้องการขน้ึ อย่กู ับสิง่ ท่ีเขาไดร้ บั หรือมีอยู่แลว้ เมอ่ื ความตอ้ งการอย่างใดอย่างหน่ึงไดร้ ับการตอบสนองแลว้ กย็ ังมีความตอ้ งการน้นั ต่อไป เช่น ความต้องการในปัจจยั ทจ่ี าเป็นในการดารงชีวติเป็นตน้

2. ความตอ้ งการทไ่ี ดร้ บั การตอบสนองแล้วจะไมเ่ ปน็ สง่ิ จูงใจพฤตกิ รรมของมนุษย์อีก แต่ความตอ้ งการท่ยี ังไมไ่ ดร้ บั การตอบสนองจะเป็นสงิ่ จงู ใจตอ่ ไป 3. ความต้องการของมนุษย์มลี าดับของความสาคัญแตกตา่ งกนั ความตอ้ งการมีหลายด้านบุคคลมีการแบ่งระดบั ความสาคญั ความเรง่ ดว่ นต่อชีวิตแตกตา่ งกนั และจะแสดงพฤติกรรมที่นาไปสคู่ วามต้องการที่มคี วามสาคญั มากกว่ากอ่ นเสมอ ในปจั จบุ นั ความตอ้ งการของมนษุ ยต์ ามแนวคิดของมาสโลวไ์ ดถ้ กู แบง่ ออกเปน็ 8 ขัน้ โดย ขนั้ ที่ 1 ความตอ้ งการทางร่างกาย (physiological needs) ข้ันที่ 2 ความตอ้ งการความปลอดภัย (need for safety) ขนั้ ท่ี 3 ความตอ้ งการความรักและการยอมรับ (need for love and acceptance) ขน้ั ที่ 4 ความต้องการนับถอื ตนเองและไดร้ ับการเคารพจากผ้อู ืน่ (need for self-esteem) ข้ันที่ 5 ความตอ้ งการรู้และเขา้ ใจตนเอง (knowledge and understandingneeds) ขั้นท่ี 6 ความตอ้ งเขา้ ถึงสุนทรียะความดีงามของชีวิต (need foraesthetics/beauty) ขั้นท่ี 7 ความต้องเข้าถงึ ศกั ยภาพแห่งตน (self-actualization needs) ข้ันท่ี 8 ความตอ้ งเป็นบคุ คลทีย่ อดเยี่ยมในการอุทศิ ตนเพอื่ มวลมนษุ ยชาติ(transcendence) จากทฤษฎีมาสโลว์จะเห็นได้ว่าในการจดั หลักสูตรสาหรับการเรียนการสอนน้นั จาตอ้ งคานึงถึงความตอ้ งการของมนุษย์ 8 ข้นั เพื่อให้ผู้เรียนเกดิ การเรียนรู้และประสบผลสาเร็จทีด่ ี3. Play +learn=Plearn (เป็นการเลน่ ปนเรยี น) การบริหารหลักสูตรต้องคานึงถึงตัวของผู้เรียนเป็นสาคัญ การจัดการเรียนรู้เพื่อไม่ใช่เกิดความเบ่ือหนา่ ยผูส้ อนควรจดั กิจกรรมให้ผู้เรยี นเรยี นรูอ้ ย่างสนกุ สนานและมีความสุข กล่าวคือ การเลน่ เรยี นทาใหผ้ ้เู รียนเพลินเพราะถ้าเรียนอย่างเดียวก็จะเกิดความเบ่ือ เล่นยอย่างเดียวก็จะเป็นการไร้สาระเกิดไป การเรียนในระบบโรงเรียนล้มเหลว เพราะทั้งครูและเด็กเกิดความทุกข์เพราะระบบโรงเรียนพยายามบังคับให้เกเรียนและรับในสิ่งท่ีเด็กไม่สนใจ แต่การที่ให้ทางเลือกก็ต้องให้เดก็ เข้าใจดว้ ยว่าควรรูจ้ กั เลือก ไมใ่ ช่เลอื กทีจ่ ะเล่นโดยไม่เรียนและก็ไม่ใช่การเลือกที่จะเรียนอย่าง

เดียวโดยไม่เล่น กล่าวได้ว่าเป็นทางสายกลางซ่ึงผู้สอนควรเข้าใจ และต้องมีความคิดอย่างสร้างสรรค์จรงิ จะสร้างกระบวนการเพลินได้4. Make a better place (ทาให้โลกนี้ดีข้ึนกว่าเดมิ ) การบรหิ ารจดั การหลักสตู รควรมีการคาถึงบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมท่สี ่งผลตอ่ การเรียนรูข้ องผเู้ รยี น การสรา้ งบรรยากาศส่งเสริมการเรยี นรู้ในห้องเรียน ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สาคญั หลายประการดังน้ี 1. การจูงใจผู้เรียน การจงู ใจผู้เรยี น (motivation) หมายถงึ การกระต้นุ ให้ผเู้ รียนเกดิ ความตอ้ งการและความ กระตือรือรน้ ทจี่ ะเรียนรู้ 2. สิ่งแวดล้อมในการเรียน สงิ่ แวดล้อมในการเรยี น หมายถึง ส่ิงต่าง ๆ ท่ีอยู่ล้อมรอบตัวผู้เรียน ได้แก่ สภาพของห้องเรียนท่ีมกี ารออกแบบและจัดวางสง่ิ ของเครอ่ื งใช้ต่าง ๆ สาหรบั การเรยี นรู้ และบรรยากาศของห้องเรียนที่เกิดขึ้นจากการอยู่ร่วมกันของสมาชิกท่ีประกอบด้วยนักเรียนและครู สิ่งแวดล้อมในการเรียน เป็น 2 ด้าน ได้แก่ 1) สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ และ 2) สิ่งแวดล้อมทางจิตวิทยาสิ่งแวดล้อมท้ังสองด้านนี้ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน ครูมีหน้าที่ท่ีจะต้องรับผิดชอบการสร้างสง่ิ แวดล้อม 3. การสอนทม่ี ีประสทิ ธภิ าพ การจดั การเรียนการสอนทม่ี ปี ระสิทธิภาพ มอี งคป์ ระกอบทีค่ วรคานึงถงึ ดังนี้ 1. การบริหารจัดการเรียนการสอนท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. การจดั การเรยี นการสอนอย่างเปน็ ระบบ คอื การดาเนนิ การเรียนการสอนให้เป็นไป 3. สรุปบทเรยี นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ การสรุปบทเรียนเปน็ ขั้นตอนทส่ี าคัญเพราะเป็นขั้นตอนในการเชื่อมโยงและประมวลความรู้ระหวา่ งความรู้และประสบการณ์ใหม่ทไี่ ด้รับกบัความรแู้ ละ ประสบการณเ์ ดิมให้เปน็ ความคิดรวบยอดใหม่ที่มคี วามครอบคลมุ ถกู ต้องและชดั เจนมากยิ่งขึ้น ทาให้ ผ้เู รยี นสามารถบนั ทึกและจดจาได้ทนนาน เพราะเปน็ การจดจาอยา่ งมี 4) ประเมนิ ผลอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ การประเมนิ ผลท่มี ปี ระโยชนต์ อ่ การพัฒนาการ เรยี นรูข้ องผเู้ รยี นคอื การประเมินความก้าวหนา้ ซงึ่ เป็นกระบวนการทสี่ ามารถทาพร้อมไปกับ กระบวนการเรยี นการสอน การประเมนิ ครอบคลุมท้ังการประเมินผลการเรียนรู้และกระบวนการเรียนรู้ ของผ้เู รยี น วธิ ีการประเมนิ ใช้เคร่ืองมอื หลากหลายประเภทให้เหมาะสม สอดคลอ้ งกับส่ิงที่ประเมิน

ผทู้ า หน้าทีป่ ระเมนิ ไมจ่ ากัดอยทู่ ีค่ รเู พยี งฝา่ ยเดียว แตต่ ้องเปน็ ผลการประเมนิ ที่ทกุ ฝา่ ย ได้แก่ ครูนักเรียนและ แมแ้ ต่ผู้ปกครองหรือสังคม มสี ่วนรว่ มในการสะท้อนมมุ มอง ความคิดเหน็ ตา่ ง ๆอยา่ งรอบด้านเท่าทีจ่ ะ เป็นไปได้เพ่อื นามาใช้ในการประเมนิ การเรยี นรู้ จุดมุ่งหมายสาคัญของการประเมินคือการประเมินเพื่อ พฒั นาผเู้ รียนไปส่กู ารเรยี นร้ทู ีม่ ีคณุ ภาพมากขึน้ นัน่ เอง คณุ ลกั ษณะของครู กลา่ วว่า ครทู ด่ี คี วรมีลกั ษณะสาคัญ 3 ประการ คือ 1) มที ศั นคติที่ดีในการสอน 2) มที ักษะในสอ่ื สารท่มี ีประสิทธิภาพ และ 3) มีทักษะการจดั กิจกรรม การเรยี นการสอน ลักษณะดงั กล่าวสง่ ผลตอ่ ประสิทธภิ าพของการเรยี นการสอน ตั้งแต่ช่วงเร่มิ ตน้ แนะนา บทเรยี น ชว่ งตอนกลางของบทเรยี น และช่วงปดิ ท้ายบทเรียน ดงั น้ันคณุ ลกั ษณะของครูจึงมอี ิทธิพลต่อ การเรียนรู้ของนักเรียนในห้องเรยี น5. Love to strong (ความรักเป็นสิ่งท่แี ขง็ แกร่ง) ในการบริหารหลกั สตู รนนั้ เป็นกระบวนการทางสงั คมของบคุ คลตงั้ แต่ 2 คนขึน้ ไปร่วมมือกนั ทากิจกรรมใดกิจกรรมหนง่ึ เพ่ือให้บรรลผุ ลตามเป้ าหมายท่ีกาหนดโดยใช้กระบวนการและทรัพยากรท่ีมีอย่อู ย่างเหมาะสม ซงึ่ กระบวนการดงั กลา่ วนนั้ ต้องอาศยั ความรกัหรือความรู้สกึ เชิงบวก ที่จะช่วยสง่ เสริมการทางานให้ดียิง่ ขนึ ้ ตวั อย่างเช่น ครูผ้สู อน มีหน้าที่สอนนกั เรียนทงั้ ในสว่ นที่เป็นเนือ้ หา คณุ ธรรม แบะคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ตา่ งๆ ซึ่งถ้าครูในที่นีข้ าดความรัก ขาดความรู้สกึ เชิงบวก กระบวนการบริหารหลกั สตู รกย็ ่อมล้มเหลว ฉะนนั้ความรกั หรือความรู้สกึ เชงิ บวก เป็นสง่ิ ท่ีมน่ั คง และแขง็ แกร่ง สามารถทาให้การบริหารหลกั สตู รนนั้ บรรลผุ ลตามเป้ าหมายท่ีวางไว้6. Joyful giving (การใหท้ ่เี ป่ียมไปดว้ ยความสขุ ) การบรหิ ารหลักสตู รเพือ่ การพัฒนาให้เป็น ผู้มคี วามรู้ ความสามารถ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมมคี วามสขุ และสนานกบั การเรยี นรู้ การจัดการเรียนรูต้ ้องมคี วามสมดุลในการจดั กระบวนการเรยี นการสอน บรรยากาศ และสภาพแวดลอ้ มโดยใหผ้ เู้ รียนเรยี นรู้ได้อยา่ งเต็มความสามารถ

7. For you and for me (เพอ่ื เธอและฉัน) คุณสมบตั ทิ ด่ี ขี องหลักสตู รเปน็ แนวทางสาคัญในการจดั การเรียนรู้ ลักษณะของหลักสตู รที่ดีจะตอ้ งนาไปสู่การเรียนการสอนทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพและเกิดสมั ฤทธิผ์ ลทางการศกึ ษาเหมาะสมกับผเู้ รยี นตามชว่ งวยั ตามความถนดั อีกประการหนึ่ง คือ หลักสูตรต้องคานึงถึงการเรียนมากกว่าการสอน การสอนที่มีการบรรยายความรู้ต่างๆให้ผู้เรียนฟังเป็นลักษณะการสอนในศตวรรษท่ี 19 แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่ท่ีครูแตอ่ ยู่ท่ีเทคโนโลยแี ละแหลง่ การเรยี นรู้ ดงั น้นั การจดั หลักสตู ร และการเรียนการสอนควรคานึงถึงควรคานึงถึงช่วงวัย และความสามารถของผู้เรียนในการเรียนรู้ด้วยผู้เรียน ผู้สอนก็ต้องมีการพัฒนาความสามารถของตนใหท้ นั กบั ยคุ ปัจจบุ นั ด้วยเสมอ8. Education of all (การศึกษาเพ่อื ปวงชน) การศึกษาเพื่อปวงชน ครอบคลมุ ความหมายถงึ มนษุ ย์ ทกุ คนในโลกใบนตี้ อ้ งไดรับการศกึ ษาหรืออกี นยั หนง่ึ การศกึ ษา ตองจดั ให้มนุษย์ทกุ คนการศกึ ษาตลอดชีวิต (LifelongEducation) ในการจัดการศกึ ษาใหก้ บั ประชาชนจะม่งุ เน้นพนั ธกจิ ตามเงือ่ นไขของปฏญิ ญา สากล ในการดาเนนิ การจดั การบริหารหลักสูตรจะยึดพันธกิจ 6 ประการในการดาเนินการ ให้บรรลเุ ป้าหมาย ดังนี้ 1. ขยายการดแู ลเดก็ ปฐมวยั และกิจกรรมเพอ่ื การพฒั นาอน่ื ๆโดยเฉพาะกลมุ่ เด็ก ด้อยโอกาสและเดก็ พิการ 2. ขยายโอกาสทางการศึกษาข้นึ พน้ื ฐานให้ทั่วถึง 3. ปรบั ปรุงผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเพ่ือใหผ้ ้เู รียนผ่านมาตรฐานข้ันตา่ ท่ีสูงขึ้น 4. ลดอัตราการไมร่ หู้ นังสือของผ้ใู หญ่ เนน้ การเรียนรทู้ เ่ี พิ่มข้ึนของเดก็ หญงิ และ สตรี 5. ขยายการจัดการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐานและการฝกึ อบรมทกั ษะทจ่ี ะเปน็ ในการ ดารงชพี ของเยาวชนและผู้ใหญใ่ หเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมดา้ นสุขภาพ อนามัย 6. เพ่ิมพนู ความรู้ ทักษะ และค่านิยมทจี่ าเปน็ ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของ บุคคลและครอบครัว ในรปู แบบและวิธที ่หี ลายหลาย

ดังน้ัน การจัดกระบวนการทางการศึกษา เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต อาจเป็นการจัดการศึกษาในรปู แบบของการศึกษาในระบบโรงเรียน (Formal Education) การศึกษานอกระบบโรงเรียน (Non - Formal Education) และการศึกษาตามอัธยาศัย (Informal Education) โดยมุ่งให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจที่จะเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self - directed Learning) มุ่งพัฒนาบุคคลให้สามารถพัฒนาตนเอง และปรับตนเองให้ก้าวทันความเปล่ียนแปลงของสังคมการเมืองและเศรษฐกิจของโลก9. All of education (ปวงชนเพ่ือการศึกษา) การบรหิ ารหลักสูตรให้ประสบผลสาเร็จแก่ผู้เรียนนนั้ ต้องสร้างความเช่ือมนั่ ให้กับผ้เู รียนและผู้ปกครองในการใหส้ ถานศึกษาเป็นผู้ดแู ลอนาคตของบุตรหลานได้ โดยบคุ คลที่จะสร้างความเช่อื มน่ั ได้ ก็คอื ครูผูส้ อน โดยจะตอ้ งปฏบิ ัตติ นดงั นี้ 1. ครูมคี วามร้ใู นหลักสูตรแกนกลาง เพ่อื สร้างความเข้าใจในส่ิงทตี่ นตอ้ งจัดการเรยี นการ สอนอยา่ งชัดเจน 2. ครคู วรมีการวางแผนในการจดั การเรียนการสอนเพื่อใหก้ ารสอนประสบผลสมั ฤทธ์มิ าก ทสี่ ดุ 3. ครูควรเลือกใช้วธิ ีการจัดการเรยี นรู้ใหมแ่ ละเน้นใหผ้ เู้ รียนมสี ่วนร่วมในการจดั กจิ กรรม การเรยี นการสอน เพือ่ เป็นการสง่ เสรมิ ให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรอู้ ยา่ งถกู ต้องและ ครบถว้ นเพอื่ สร้างความเข้าใจทย่ี าวนาน 4. ครคู วรใช้หลักจติ วิทยาจูงใจผเู้ รียนและใชว้ ิธีการทถี่ ูกวธิ ีและมีประสทิ ธิภาพสูงสดุ เพอื่ ดงึ ดูดความสนใจของผู้เรียนให้อยกู่ ับบทเรียนทมี่ ีประสิทธภิ าพอยา่ งแท้จริง10. Believe (ความเชื่อความศรัทธา) การบริหารหลักสูตรนนั้ จาเป็นตอ้ งใช้ความเชื่อความศรทั ธา และปรัชญาทางการศึกษาเข้ามามีสว่ นเก่ียวข้อง เพ่ือให้การบรหิ ารหลักสตู รเป็นไปตามท่ีวางเป้าหมายไว้ ทาให้หลักสูตรทางการศึกษาสร้างความศรัทธาต่อผู้ท่ีเก่ียวข้อง หลักสูตรมีความน่าเชื่อถือ โดยการบริหารหลักสูตรนั้นต้องบรรจุเนื้อหาสาระสาคัญทางความเชื่อความศรัทธาหรือภูมิปัญญาของท้องถ่ินนั้นๆ เพื่อเป็นการปลกู ฝงั ให้ผู้เรียนหวงแหน อนุรักษ์ และมีจิตสานึกในภูมิปัญญาท้องถิ่นของตนเอง ซึ่งท้ังหมดทั้งมวลต้องอาศัยกระบวนการบริหารหลักสูตรท่ีมีพื้นฐานมาจากปรัชญาทางการศึกษาและจิตวิทยาทางการศึกษา ซ่ึงถือว่าเป็นความเชื่อความศรัทธาหนึ่งในทางการศึกษา ตัวอย่างเช่น

มนุษย์ทุกคนมีความต้องการทั้งทางร่างกายและจิตใจที่แตกต่างกันไปตามลักษณะฐานะ และหน้าท่ีของแต่ละคน ความต้องการน้ีเป็นเหตุสาคัญท่ีก่อให้เกิดแรงจูงใจในการกระทา หรือตอบสนอง หรืองดเว้นการกระทาในเรื่องใดเรื่องหน่งึ มที ฤษฎมี ากมายทกี่ ล่าวถึงความต้องการของมนุษย์ที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ ทฤษฎีของ A.H. Maslow และแนวความคิดของFrederick Herzberg โดยการบริหารหลักสูตรน้ันก็จาเป็นต้องใช้ทฤษฎีเหล่านี้มาเป็นพื้นฐานในการบรหิ ารหลักสูตรอกี ดว้ ย11. The world is heavenly (โลกเปน็ สวรรค)์ โลกเป็นท่ีอยู่ของมวลมนุษย์ เป็นที่สรรค์สร้างส่ิงต่างๆให้เกิดข้ึน ไม่เว้นแม้แต่การศึกษาโดยโลกเป็นปัจจัยหลักในการบริหารหลักสูตร บริหารหลักสูตรเพราะโลก บริหารหลักสูตรเพื่อพัฒนาโลกให้เป็นโลกแห่งสวรรค์ เป็นแหล่งท่ีอยู่ท่ีมีคุณภาพสาหรับมนุษย์ทุกคน ซ่ึงการพัฒนาเหล่าน้ันขึ้นอยู่กับการบริหารหลักสูตร โดยระบบโลกมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว กระแสโลกาภิวัตน์ได้เข้ามาอิทธิพลต่อหลายๆ ประการในสังคม ไม่เว้นแต่ระบบการศึกษาท่ีมีการปรบั เปลย่ี นไปตามการเปลย่ี นแปลงของสังคมโลก เพื่อก่อให้เกิดความทันสมัยในองค์ความรู้ และสอดคลอ้ งตอ่ ผเู้ รยี นและยังมสี ่วนช่วยดงึ ดดู ให้ผทู้ ีส่ นใจเข้ามาเรียนและนาองค์ความรู้ไปใช้เพื่อเกิดประโยชน์ต่อไป ซ่ึงประเทศไทยทุกวันน้ีผู้ศึกษาสามารถเข้าถึงระบบการศึกษาได้ง่ายขึ้น เช่นระบบการสมคั รออนไลน์ การสมัครผา่ นไปรษณยี ์ และอืน่ ๆ อีกหลายวิธที ่จี ะเข้าถงึ ระบบการศกึ ษาสถาบันการศึกษามีการปรับเปลี่ยนบทบาทเป็นอย่างมาก มีการนาเทคโนโลยีมาใช้อานายความสะดวกสาหรับผู้ศึกษา เชน่ ระบบลงทะเบยี นออนไลน์ ระบบการแจง้ ผลการเรียนออนไลน์ เป็นต้นการพัฒนาหลักสูตรหรือปรับปรุงหลักสูตรก็เป็นอีกประการสาคัญที่จะเป็นที่ดึงดูดผู้ท่ีสนใจศึกษาให้เข้ามาศึกษาแล้ว ยังมีการพัฒนาบุคลากรในหลากหลายวิชาชีพให้สอดคล้องกับหลักสูตรและความต้องการของสังคม รวมถึงเพื่อใช้สาหรับงานท่ีผู้ศึกษาคาดหวังในการประกอบอาชีพในอนาคต12. You are all my brothers เราทกุ คนคือพีน่ ้องกนั โดยอาริสโตเตลิ นักปราชญไ์ ดก้ ล่าวเรอ่ื งมติ รภาพ (Friendship) ไว้ในหนงั สือจริยศาสตร์ชื่อ Nicomachean Ethic มีใจความว่า มิตรภาพ คอื คณุ ธรรม หรือภาวะคุณธรรมทส่ี าคัญในการดารงชีวิตของมนษุ ย์ นับตงั้ แต่วยั เดก็ จนเตบิ โตเป็นผู้ใหญ่ มติ รภาพเป็นส่งิทช่ี ว่ ย ใหช้ วี ิตมนษุ ย์มีความสขุ เรยี นรูข้ อ้ ผดิ พลาด ฟันฝา่ อุปสรรคได้เป็นอย่างดี โดยในการบรหิ าร

หลกั สูตรนนั้ ทกุ ฝา่ ยทมี่ สี ่วนร่วมตอ้ งมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ทด่ี ีร่วมกนั เพอ่ื ก่อให้เกดิ การบรหิ ารหลักสูตรที่บรรลุผลตามเปา้ หมาย ทกุ ฝา่ ยทเ่ี ก่ยี วขอ้ งท้ังระดับชาติ ชมุ ชน ครอบครวั และบคุ คลตอ้ งร่วมรบั ผดิ ชอบ โดยรว่ มกันอยา่ งเป็นระบบ และตอ่ เนอ่ื งเพ่อื พฒั นาเยาวชนของชาตไิ ปสคู่ ุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรทู้ ่กี าหนดไว้13. See the Nation turn (เขา้ ใจในความเปล่ยี นแปลงของประเทศ) ซง่ึ การพัฒนาและบริหารหลักสูตรเข้าใจในความเปลีย่ นแปลงของประเทศ ซึ่งการพัฒนาและบริหารหลักสูตรจาเปน็ ตอ้ งศึกษา วเิ คราะห์ สารวจ วิจัย สภาพพืน้ ฐานด้านตา่ งๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างเพยี งพอในการสนับสนุนใหไ้ ดห้ ลักสตู รท่ดี ี สามารถพัฒนาให้ผูเ้ รียนมคี วามรู้ความสามารถทจ่ี ะนาไปใช้ให้เปน็ ประโยชนต์ อ่ ตนเองและสังคมได้ การบรหิ ารหลกั สตู รเป็นงานท่มี ีขอบเขตกวา้ งขวาง การที่จะบรหิ ารหลกั สูตรให้มีคุณภาพนั้น ต้องศึกษาขอ้ มูลหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเก่ยี วกับตัวผู้เรียน ขอ้ มลู เก่ียวกบั สงั คม หรือข้อมูลเก่ียวกับการเปลย่ี นแปลงด้านต่างๆเพือ่ ท่จี ะใหไ้ ด้ขอ้ มลู ท่ีสมจริงที่สุด โดยเฉพาะในดา้ นการเปลีย่ นแปลงทางสงั คม ในทศั นะของนักการศกึ ษากลุ่มปฏริ ปู นิยม (Reconstructionism) จะมคี วามเชอ่ื วา่ การเปลีย่ นแปลงของ สังคมโดยเทคโนโลยแี ละความก้าวหนา้ ทางวิทยาศาสตร์ ทาให้เกดิ ความจาเปน็ จะต้องสรา้ งคณุ ธรรมและความคิดใหม่เพ่อื จะทาใหค้ นในสงั คมสามารถปรบั ตัวเขา้ กับการเปลย่ี นแปลงของสังคมได้ โดยการใช้การศึกษาทาหนา้ ทีส่ ร้างประชาชนท่มี ีคณุ ภาพและมีความสามารถทจ่ี ะปรับตวั เข้ากับสังคมที่มีความเจรญิ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยไี ด้อย่างเหมาะสม การบรหิ ารหลักสูตรจึงจาเปน็ ต้องมคี วามสอดคลอ้ งกับความเจริญก้าวหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี หรอื การเปลย่ี นแปลงของสังคม และประเทศชาติ14. Save in for our children (รกั ษาไว้เพ่ือเดก็ ๆ) รกั ษาไว้เพ่ือเดก็ ๆ โดยการจดั การเรยี นรู้ตามหลกั สตู รน้นั มรี ูปแบบและวธิ ีการที่หลากหลาย เพ่อื ใหส้ อดคล้องกบั ความถนดั ความสนใจ และความต้องการของผู้เรียน โดยให้ผูส้ อนนากระบวนการวิจัยมาผสมผสานหรือบูรณาการใชใ้ นการจดั การเรียนรเู้ พ่อื พัฒนาคณุ ภาพของผู้เรียน และเพื่อให้ผเู้ รยี นเกิดการเรียนรู้ สามารถใช้กระบวนการวจิ ยั เป็นสว่ นหน่งึ ของกระบวนการเรียนรู้ โดยมีข้ันตอนการปฏิบตั ิ เร่ิมต้งั แต่การวิเคราะหป์ ญั หา การวางแผนแก้ปญั หาหรอื พัฒนา การดาเนนิ การแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเก็บรวบรวมขอ้ มลู การสรปุ ผลการแก้ปัญหา

หรอื พฒั นา และการรายงานผลการเรียนรู้ และการนาผลการวิจัยไปประยกุ ต์ใช้ ซ่ึงวิธีการทัง้ หมดทง้ั มวลนน้ั เป็นการบรหิ ารหลกั สูตรเพอื่ ผู้เรยี นทั้งสิน้ โดยมุ่งพัฒนาผูเ้ รียนใหเ้ ป็นคนดี มปี ัญญา มีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาตอ่ และการประกอบอาชีพ15. Heal the world (รกั ษาโลกของเราไว้) โดยการบริหารหลักสูตรนนั้ มุ่งพฒั นาผู้เรยี นให้มคี วามรกั โลก มจี ติ สานึกในความเป็นพลโลก มจี ติ สานึกในการอนรุ ักษแ์ ละพัฒนาสิ่งแวดล้อมเพอ่ื สรา้ งสิ่งที่ดงี ามในโลก และอยู่ร่วมกันในโลกอย่างมีความสุข สร้างสรรคก์ ิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ส่งเสรมิใหผ้ ู้เรียนบาเพ็ญตนให้เป็นประโยชนต์ ่อสังคม ชุมชน และทอ้ งถน่ิ ตามความสนใจในลักษณะอาสาสมัคร เพือ่ แสดงถึงความรับผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสังคม และมจี ิตสาธารณะฉะนนั้ การบรหิ ารหลักสูตร เป็นวิธีการหน่ึงท่ีสามารถพฒั นาและรกั ษาโลกใบน้ไี วด้ ว้ ยการศกึ ษาและการเรียนรู้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook