หลักสูตรการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปที มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รูแ้ ละเข้าใจประวตั ิความสาคัญศาสดาหลกั ธรรมของพระ เพือ่ อยูร่ ว่ มกันอยา่ งสนั ติสขุ ตัวช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ม.๔/๑๐ รแู้ ละเข้าใจหลักการเขยี นเรียงความแก้กระทธู้ รรม นักธ สาระการเรยี นรู้ สาระสาคัญ ชิน้ งาน/ภาระงาน ประเด็นและ ศึกษาความสาคัญของหลักการเขียน -เรียงความแกก้ ระทู้ธรรม ประเดน็ ประเมนิ เรียงความแกก้ ระทู้ธรรมนักธรรมชัน้ โท ภาระงาน -ตรวจแบบทดส - ความหมายของเรียงความแกก้ ระทธู้ รรม -เขยี นเรยี งความแกก้ ระท้ธู รรม -ทดสอบกอ่ นเร - ทานองเรียงความแก้กระท้ธู รรม -ทดสอบหลงั เรยี - หลกั เกณฑแ์ ต่งกระทู้ธรรม -ทาถกู หมดได้ ๔ - หลกั สาหรบั อธบิ ายกระทูธ้ รรม -ถูก ๓ ใน ๔ได้ - รปู แบบการแตง่ เรียงความแก้กระทธู้ รรม -ถูกครึ่งหนึง่ ได้ - ตวั อยา่ งการแต่งเรียงความแกก้ ระทู้ธรรม ถกู น้อยได้ ๑ คะ - กระทู้สภุ าษติ ทค่ี วรท่องจา ประกอบด้วย เครือ่ งมอื ประเม -แบบทดสอบ ปมาทวรรค หมวดประมาท ปาปวรรค หมวดบาป ปคุ คฺ ลวรรค หมวดบคุ คล ปุญญวรรค หมวดบุญ มัจจุวรรค หมวดความตาย วาจาวรรค หมวดวาจา วริ ยิ วรรค หมวดความเพยี ร สทั ธาวรรค หมวดศรทั ธา สีลวรรค หมวดศีล
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๓๙ ที่ ๔ ะพุทธศาสนาและศาสนาอื่นมศี รัทธาที่ถูกต้องยดึ มน่ั และปฏบิ ัตติ ามหลักธรรม ธรรมชัน้ โท ะเกณฑ์ประเมนิ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชอ่ื หน่วย น /เวลา สอบ รียน -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ ฝึกการอ่าน คิด วิเคราะห์ เรยี งความแก้กระทธู้ รรม ยน ๔ คะแนน และสื่อความหมาย นักธรรมช้นั โท ๓ คะแนน ๒ คะแน จานวน.........ชว่ั โมง ะแนน มิน
หลกั สูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเขา้ ใจประวัติความสาคัญศาสดาหลกั ธรรมของพระ เพือ่ อยูร่ ว่ มกนั อย่างสนั ติสุข ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้ ม.๕/๑ วเิ คราะห์หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในธรรมวจิ ารณ์ส สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ ช้นิ งาน/ภาระงาน ประเดน็ และ ศึกษาความสาคัญของหลักธรรมทาง ชน้ิ งาน (ใบความร)ู้ ไดแ้ ก่ ประเดน็ ประเม พระพุทธศาสนาในธรรมวิจารณ์ส่วนปรมัตถ - ง า น เ ขี ย น / บ ท ค ว า ม เ ช่ น - หลักธรรมคา ปฏปิ ทา เ รี ย ง ค ว า ม จ ด ห ม า ย โ ค ล ง ทุกะ หมวด ๒ ๑. นิพพิทา ความหน่าย กลอน การบรรยาย การเขียน - ใบงาน ๒. วริ าคะ ความสนิ้ กาหนดั ตอบ ฯลฯ - ตรวจแบบทด ๓. วิมตุ ติ ความหลดุ พ้น - ภาพ/ แ ผนภูมิ เช่น แผนผั ง - สนทนาซกั ถา ๔. วิสทุ ธิ ความหมดจด แผนภูมิ วาดภาพ กราฟ ตาราง ความรู้ ๕. สันติ ความสงบ ฯลฯ เกณฑ์ประเมิน ๖. นพิ พาน ความดับทกุ ข์ - สิ่งประดิษฐ์ เช่น งานประดิษฐ์ - ประเมินพฤติก งานแสดงนิทรรศการ หุ่นจาลอง - ประเมนิ ใบงาน ฯลฯ - ประเมนิ ผลงา ภาระงาน (ใบงาน) ได้แก่ - ตอบข้อซักถา - การพูด/รายงานปากเปล่า เช่น - ทดสอบหลังเร การท่อง การอ่าน กล่าวรายงาน เครื่องมือประเม เขียนรายงาน โต้วาที นาเสนอ - แบบทดสอบก สัมภาษณ์ บทบาทสมมตุ ติ ฯลฯ - แบบประเมินใ - แบบประเมนิ ผ - แบบสังเกต
ศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๔๐ ท่ี ๕ ะพุทธศาสนาและศาสนาอน่ื มศี รัทธาทถี่ ูกต้องยดึ มน่ั และปฏิบัติตามหลักธรรม ส่วนปรมัตถปฏปิ ทา ะเกณฑป์ ระเมิน การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ชือ่ หน่วย /เวลา มิน เชน่ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ เชน่ ธ ร ร ม วิ จ า ร ณ์ ส่ ว น าสอนในธรรมวิภาค - จดั กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสอน ปรมัตถปฏิปทา ๒ พุทธวิธี ๙ รูปแบบ - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ จานวน.........ชวั่ โมง ดสอบกอ่ นเรยี น ปฏิบัตงิ านกลุ่ม าม อภปิ ราย สรุปองค์ - จัดกจิ กรรมการเรยี นร้ดู ้วยการสร้างความคิด รวบยอด เชน่ - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการฝึก กรรม การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนส่ือความ น - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ าน แกป้ ัญหา ามได้ - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการสร้าง รียน คาถาม-คาตอบ ท่ีสอดคล้องกับปัญหา มนิ เช่น - จัดกจิ กรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการอ่ืนๆ กอ่ นเรียน (ตามความเหมาะสม) ใบงาน ผลงาน
หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ ร้แู ละเขา้ ใจประวตั คิ วามสาคัญศาสดาหลกั ธรรมของพระ เพือ่ อย่รู ่วมกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ ตัวชว้ี ดั /ผลการเรียนรู้ ม.๕/๒ วเิ คราะห์หลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในธรรมวจิ ารณ์ส สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ ชิ้นงาน/ภาระงาน ประเดน็ และ ศึกษาความสาคัญของหลักธรรมทาง ชนิ้ งาน(ใบความรู้) ได้แก่ ประเด็นประเมนิ พระพุทธศาสนาในธรรมวิจารณ์ส่วน -งานเขยี น เขยี นรายงาน/บทความ -ใบงาน สงั สารวัฏ -ภาพ -ตรวจแบบทดส คติ ๒ -วาดภาพ -สรุปอภปิ รายค ๑. ทุคติ -ส่ิงประดษิ ฐ์ สร้างหุ่นจาลอง เกณฑป์ ระเมิน ๒. สุคติ จดั นิทรรศการ -ประเมนิ จากผล ภาระงาน(ใบงาน)ได้แก่ -ตอบคาถามได้ -การพูดแบ่งกลุ่มรายงานถามตอบ -ประเมนิ จากพฤ ในห้องเรียนนาเสนอหน้าชั้นเรยี น -ทดสอบหลังเรยี เครือ่ งมือการปร -แบบทดสอบก่อ -แบบประเมนิ ผ -แบบประเมินใบ
ศึกษาตอนปลาย หน้า ๔๑ ท่ี ๕ ะพุทธศาสนาและศาสนาอ่ืนมีศรัทธาท่ถี กู ต้องยึดมั่นและปฏิบตั ติ ามหลักธรรม สว่ นสงั สารวฏั ะเกณฑ์ประเมนิ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่ือหน่วย /เวลา น เช่น การจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ เชน่ -จดั กหารเรียนร้ดู ้วยกระบวนการกลุ่ม ธ ร ร ม วิ จ า ร ณ์ ส่ ว น สอบกอ่ นเรยี น -จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยกระบวนแกป้ ัญหา สงั สารวัฏ ความรู้ -จดั กจิ กรรมการเรยี นรดู้ ว้ ยการทางานกลุ่ม จานวน.........ชวั่ โมง ลงาน ฤติกรรม ยน ระเมนิ เชน่ อนเรยี น ผลงาน บงาน
หลกั สตู รการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีท มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รแู้ ละเขา้ ใจประวัติความสาคัญศาสดาหลักธรรมของพระ เพือ่ อย่รู ่วมกันอยา่ งสันตสิ ขุ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ม.๕/๓ วเิ คราะห์หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในสมถกัมมฏั ฐา สาระการเรียนรู้ สาระสาคญั ช้นิ งาน/ภาระงาน ประเดน็ และ ศึกษาความสาคัญของหลักธรรมทาง ใบ งา น/ร าย งา นห น้า ชั้น เรี ย น -หลกั ธรรมคาส พระพุทธศาสนาในสมถกัมมัฏฐานและพระ เรียงความ การบรรยาย การเขียน -ใบงาน พทุ ธคณุ กถา ใบงานเร่อื งกามฐาน -แบบทดสอบกอ่ - ความหมายของกัมมฏั ฐาน -ภาพถ่ายกจิ กรรมการปฎบิ ตั ะรรม -สนทนาซกั ถาม - ความสาคญั ของกัมมัฏฐาน ภาระงาน(ใบงาน) -สรปุ องค์ความร - ความหมายของสมถกัมมฏั ฐาน -พูดอธิบาย/กล่าวรายงานเขียน -คุณลักษณ์พฤ - ความหมายของสมถภาวนา รายงาน นาเสนอ เรียนรู้ - เหตทุ ีต่ ้องฝึกอบรมจติ ใหเ้ ป็นสมาธิ เคร่อื งมือประเม ๑. หวั ใจสมถกมั มัฏฐาน -ประเมินแบบท - นวิ รณ์ ๕ -ประเมินจากผล - หัวใจสมถกัมมฏั ฐานแก้นวิ รณค์ รอบงา -ประเมนิ ใบงาน - นิวรณ์ ๕ สงเคราะหเ์ ขา้ ในจริต - กมั มัฏฐานอันเปน็ ทส่ี บาย - ฌาน ๒ - ความหมายขององค์ธรรมในรูปฌาน ๔ - องค์ฌานท่ีเป็นคูป่ รับกับนวิ รณ์ ๕ ๒. สมถภาวนา - ธรรมอนั เป็นทต่ี ั้งของอารมณส์ มถ
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๔๒ ที่ ๕ ะพุทธศาสนาและศาสนาอืน่ มีศรัทธาที่ถกู ต้องยึดมั่นและปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม านและพระพุทธคณุ กถา ะเกณฑป์ ระเมิน การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอื่ หน่วย /เวลา อนกัมมฎั ฐาน -จดั กิจกรรมรายงานแบบกลุ่ม สมถกัมมัฏฐานและพระ -จัดกจิ กรรม การฝีก คิด วเิ คราะห์ และการเรียน พทุ ธคุณกถา อนเรยี น -จัดกิจกรรมการฝึกสมาธิ เช่นนั่งสมาธิ การเดิน ม จงกรม จานวน.........ชว่ั โมง รูท้ ี่เรยี น ฤติกรรม มีวินัย ใฝ่ มินเช่น ทดสอบก่อนเรยี น ลงาน น
หลักสูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ สาระสาคัญ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ประเดน็ และ ภาวนา - สติปฏั ฐาน ๔ - อารมณส์ มถกมั มฏั ฐาน ๔๐ - จรติ ๖ - กัมมฏั ฐานอนั เปน็ ทส่ี บายแกจ่ รติ - นิมิต ๓ - การเจรญิ สมถกัมมฏั ฐาน ๓ ระดับ - สมาธิ ๓ ระดบั - ฌานสมาบตั ิ ๒ - ประโยชน์ของการเจริญสมถภาวนา ๓. พระพทุ ธคณุ กถา - พระพุทธคุณส่วนอัตตสมบัติ - พระพทุ ธคุณส่วนปรหติ สมบตั ิ - ความหมายของพระพุทธคณุ กถา - พระพุทธคุณโดยย่อ ๒ - พระพทุ ธคณุ ๓ - พระพุทธคณุ โดยยอ่ ๒ (อกี นัยหนง่ึ ) - พระพุทธคณุ ๙ - อธบิ ายพระพุทธคณุ บทว่า อรห - อธบิ ายพระพทุ ธคณุ บทวา่ สมมฺ าสมฺพุทฺโธ - อธบิ ายพระพทุ ธคณุ บทว่า วิชชฺ า จรณสมปฺ นโฺ น - อธิบายพระพุทธคุณบทวา่ สคุ โต
ศึกษาตอนปลาย การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ หนา้ ๔๓ ะเกณฑป์ ระเมนิ ช่อื หน่วย /เวลา
หลกั สูตรการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ สาระสาคญั ชนิ้ งาน/ภาระงาน ประเดน็ และ - อธิบายพระพุทธคุณบทว่า โลกวทิ ู - อธิบายพระพุทธคณุ บทวา่ อนตุ ฺตโร ปรุ สิ ทมมฺ สารถิ - อธบิ ายพระพุทธคุณบทวา่ สตฺถา เทวมนสุ ฺสาน - อธิบายพระพทุ ธคุณบทว่า พทุ ฺโธ - อธิบายพระพทุ ธคณุ บทว่า ภควา การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รู้และเขา้ ใจประวตั คิ วามสาคัญศาสดาหลักธรรมของพระ เพ่ืออยรู่ ว่ มกันอยา่ งสันตสิ ขุ ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้ ม.๕/๔ ร้แู ละเข้าใจหลักการเขียนเรียงความแก้กระทธู้ รรม นกั ธร สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ ชิ้นงาน/ภาระงาน ประเด็นและ ศึกษาความสาคัญของหลักการเขียน ชิ้นงาน (ใบงาน) -เขา้ ใจความหม เรียงความแก้กระทู้ธรรมนักธรรมช้ันเอก งานเขยี นเรียงความ -ท า น อ ง ก า ร - ความหมายของเรยี งความแก้กระทธู้ รรม เขียนจดหมาย การบรรยาย เขียน หลักเกณฑ์กา - ทานองเรยี งความแก้กระทธู้ รรม อ่าน พุทธสุภาษิตได้ ถูกต้องตาม ความ - หลกั เกณฑแ์ ต่งกระท้ธู รรม หลกั ภาษา -อา่ นและเขียนภ - หลกั สาหรบั อธิบายกระทธู้ รรม เกณฑ์ประเมนิ
ศกึ ษาตอนปลาย การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ หน้า ๔๔ ะเกณฑ์ประเมนิ ชอื่ หน่วย /เวลา ท่ี ๕ ะพุทธศาสนาและศาสนาอ่ืนมีศรัทธาทีถ่ ูกต้องยึดมั่นและปฏบิ ตั ิตามหลักธรรม รรมชน้ั เอก ะเกณฑ์ประเมิน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่อื หน่วย /เวลา มายของกระทู้ จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย กระบวนการ ฦกอ่าน เรียงความแก้กระท้ธู รรม ร แ ต่ ง ก ร ะ ทู้ ธ ร ร ม คิด วิเคราะห์ และ การเขียนส่อื ความ นกั ธรรมชัน้ เอก ารต่าง และอธิบาย จานวน.........ชัว่ โมง ภาษาบาลีได้ถูกตอ้ ง
หลักสูตรการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ - รปู แบบการแตง่ เรยี งความแกก้ ระทู้ธรรม -ประเมินใบงาน - ตัวอย่างการแต่งเรียงความแก้กระทธู้ รรม การงาน -ประเมินผลงาน - กระทู้สภุ าษิตทคี่ วรท่องจา ประกอบด้วย -การพดู การรายงานปากเปล่า การ -แบบทดสอบห อตั ตวรรค หมวดตน ท่อง การอ่านการเขยี นรายงาน การ อัปปมาทวรรค หมวดไม่ประมาท โตว้ าที การนาเสนอ กมั มวรรค หมวดกรรม กิเลสวรรค หมวดกเิ ลส ขันตวิ รรค หมวดอดทน จิตตวรรค หมวดจติ ทานวรรค หมวดทาน ธมั มวรรค หมวดธรรม ปกณิ ณกวรรค หมวดเบด็ เตล็ด ปญั ญาวรรค หมวดปัญญา
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๔๕ น น หลังเรยี น
หลกั สูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปีท มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รแู้ ละเข้าใจประวตั ิความสาคัญศาสดาหลกั ธรรมของพระ เพอ่ื อยู่ร่วมกันอยา่ งสนั ติสขุ ตัวชวี้ ัด/ผลการเรยี นรู้ ม.๖/๑ วเิ คราะหห์ ลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในวปิ ัสสนากมั ม สาระการเรียนรู้ สาระสาคญั ชิ้นงาน/ภาระงาน ประเดน็ ศึกษาความสาคัญของหลักธรรมทาง ชิ้นงาน (ใบความร)ู้ ไดแ้ ก่ ประเดน็ ประ พระพทุ ธศาสนาในวปิ ัสสนากมั มฏั ฐาน - ง า น เ ขี ย น / บ ท ค ว า ม เ ช่ น - หลักธรรม - ความหมายของวปิ ัสสนา เ รี ย ง ค ว า ม จ ด ห ม า ย โ ค ล ง ทุกะ หมวด - ผ้เู จรญิ วิปสั สนากัมมฏั ฐานพงึ ร้จู กั ธรรม กลอน การบรรยาย การเขียนตอบ - ตรวจแบบท ๓ ฯลฯ - สนทนาซัก - ลักษณะ กจิ ผล เหตแุ ละวิภาคของ - ภาพ/แผนภูมิ เช่น แผนผัง แผนภูมิ ความรู้ วปิ ัสสนา วาดภาพ กราฟ ตาราง ฯลฯ เกณฑ์ประเม - วธิ ีเจริญวปิ สั สนา (ตามนัยพระบาล)ี - สง่ิ ประดิษฐ์ เช่น งานประดิษฐ์ งาน - ประเมินพฤ - วธิ ีเจรญิ วปิ สั สนา (ตามนยั อรรถกถา) แสดงนิทรรศการ หุ่นจาลอง ฯลฯ - ประเมินใบ - ปัจจเวกขณญาณ ๕ ภาระงาน (ใบงาน) ไดแ้ ก่ - ประเมินผล - อานสิ งส์การเจรญิ วิปัสสนา - การพูด/รายงานปากเปล่า เชน่ การ - ตอบข้อซักถ ท่อง การอ่าน กล่าวรายงาน เขียน - ทดสอบหล รายงาน โตว้ าที นาเสนอ สัมภาษณ์ เคร่อื งมือประ บทบาทสมมตุ ติ ฯลฯ - แบบทดสอ - แบบประเม - แบบประเม - แบบสังเกต
ศึกษาตอนปลาย หน้า ๔๖ ที่ ๖ ะพุทธศาสนาและศาสนาอ่ืนมศี รัทธาทถ่ี ูกต้องยดึ มน่ั และปฏิบตั ติ ามหลักธรรม มัฏฐาน นและเกณฑ์ประเมิน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่อื หน่วย /เวลา ะเมนิ เช่น กจิ กรรมการเรียนรู้ เช่น วปิ สั สนากัมมฏั ฐาน มคาสอนในธรรมวิภาค - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ ด๒ สอนพทุ ธวิธี ๙ รูปแบบ จานวน.........ช่วั โมง ทดสอบกอ่ นเรียน - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ กถาม อภิปราย สรุปองค์ ปฏบิ ัตงิ านกลุ่ม - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสร้าง มนิ เช่น ความคดิ รวบยอด ฤติกรรม - จัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้วยกระบวนการฝกึ บงาน การอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นสือ่ ความ ลงาน - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ ถามได้ แกป้ ัญหา ลงั เรยี น - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ ะเมิน เชน่ สร้างคาถาม-คาตอบ ที่สอดคล้องกับ อบกอ่ นเรยี น ปัญหา มินใบงาน - จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการ มนิ ผลงาน อ่นื ๆ (ตามความเหมาะสม) ต
หลักสูตรการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รู้และเขา้ ใจประวัตคิ วามสาคัญศาสดาหลักธรรมของพระ เพอ่ื อย่รู ่วมกนั อยา่ งสันตสิ ขุ ตัวช้วี ดั /ผลการเรียนรู้ ม.๖/๒ วเิ คราะหห์ ลกั ธรรมทางพระพุทธศาสนาในวปิ ัลลาสกถา สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ ชน้ิ งาน/ภาระงาน ประเด็น ศึกษาความสาคัญของหลักธรรมทาง ชิ้นงาน(ใบงาน) ไดแ้ ก่ ประเด็นประเ พระพทุ ธศาสนาในวิปลั ลาสกถา -งานเขียน/ ม รย ม -หลักธรรมค - ความหมายของวิปลั ลาส จดหม ยโ ล กลอ ก ร รรย หมวด ๒ - ความเป็นมาของวปิ ัลลาสกถา กร ย อ -ใบงาน - วปิ ัลลาส ๓ -ภาพ/ ภม ภม -ตรวจแบบท - วิปัลลาส ๔ ดภ พ กร ฟ ร -สนทานาซัก - ธรรมที่เปน็ เครื่องถอนวปิ ัลลาส -สิ่งประดิษฐ์ เช่นงานประดิษฐ์ งาน ความรู้ แสดงนทิ รรศการ หุน่ จาลอง เกณฑป์ ระเม ภาระงาน (ใบงาน) ได้แก่ -ประเมนิ พฤต -ก า ร พู ด /ร ก ล -ประเมินใบง ก ร อ ก รอ กล ร ย -ประเมินผลง ย รย โ อ -ตอบขอ้ ซกั ถ มภ มม -ทดสอบหลงั เคร่ืองมือประ -แบบทดสอบ -แบบประเมิน -แบบประเมิน -แบบสังเกต
ศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๔๗ ที่ ๖ ะพุทธศาสนาและศาสนาอนื่ มศี รัทธาที่ถกู ต้องยึดมั่นและปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรม นและเกณฑ์ประเมนิ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ชื่อหน่วย /เวลา เมนิ เชน่ กิจกรรมการเรยี นรู้ วปิ ัลลาสกถา าสอนในธรรมวิภาค ทุกะ -จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ดว้ ยกระบวนการสอนพุทธวิธี ๙รปู แบบ จานวน......... -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการปฎิบัติงาน ชวั่ โมง ทดสอบกอ่ นเรยี น กล่มุ กถาม อภิปราย สุปองค์ -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการสร้างความคิดรวบ ยอด มินเชน่ -จัดกิจกรรมการเรยี นรดู้ ้วยกระบวนการฝึก การอ่าน ตกิ รรม คดิ วเิ คราะห์และเขียนส่ือความ งาน -จัดกิจกรรมการเรยี นรูด้ ้วยกระบวนการแกป้ ัญหา งาน -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสร้าง ถามได้ คาถาม-คาตอบ ทส่ี อดคลอ้ งกบั ปญั หา งเรยี น -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการอ่ืนๆ ตาม ะเมิน เช่น ความเหมาะสม บกอ่ นเรยี น นใบงาน นผลลงาน
หลักสูตรการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รู้และเขา้ ใจประวัติความสาคัญศาสดาหลักธรรมของพระ เพอื่ อยู่ร่วมกนั อย่างสันติสุข ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้ ม.๖/๓ วิเคราะห์หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในสว่ นมหาสตปิ สาระการเรียนรู้ สาระสาคัญ ชนิ้ งาน/ภาระงาน ประเดน็ ศึ ก ษ า ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง งานเขียน เช่น -หลกั ธรรมคา พระพทุ ธศาสนาในมหาสตปิ ัฏฐานสูตร -การบรรยาย การเขยี นเรยี งความ ปฏั ฐาน หมว - ความหมายมหาสติปฏั ฐาน -ภาพแผนภมู ิ เช่น แผนผัง แผนภมู ิ -ใบงาน - การเจรญิ สติปฏั ฐานเพ่อื ผล ๕ อยา่ ง วาดภาพ กราฟ ตาราง -ตรวจแบบท - ผูเ้ จรญิ สตปิ ัฏฐานพงึ ประกอบดว้ ย -สิง่ ประดษิ ฐ์ เชน่ งานประดษิ ฐ์ งาน -สนทนาซักถ นทิ รรศการ ความรู้ คณุ ธรรม ๓ ภาระงาน(ใบงาน) ได้แก่ เกณฑ์การปร - มหาสติปฏั ฐาน ๔ -การพูด การอ่าน กล่าวรายงาน เขียน -ประเมินพฤต - อานสิ งสก์ ารเจรญิ สติปัฏฐาน ๔ รายงาน โต้วาที นาเสนอ สมั ภาษณ์ -ประเมินใบง -ประเมินผลง -ตอบข้อซกั ถ -ทดสอบหลัง เครื่องมอื ประ -แบบทดสอบ -แบบประเมิน -แบบประเมิน -แบบสงั เกต
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๔๘ ท่ี ๖ ะพุทธศาสนาและศาสนาอน่ื มศี รัทธาทีถ่ กู ต้องยดึ ม่นั และปฏิบัตติ ามหลกั ธรรม ปฏั ฐานสูตร นและเกณฑ์ประเมิน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ช่อื หน่วย /เวลา าสอนในธรรมวิภาค สติ -จัดกจิ กรรมการเรียนรดู้ ้วยกระบวนการสอน วด ๔ ธรรมท่เี ป็นกศุ ลและอกุศล เช่น อริยสจั ๔ ขันธ์ ๕ มหาสตปิ ฏั ฐานสตู ร นวิ รร์ ๕ อายตน ๑๒ เป็นตน้ ทดสอบกอ่ นเรยี น -จัดกิจกรรมการเรยี นร้ดู ว้ ยการสรา้ งความคดิ รวบ จานวน.........ช่วั โมง ถาม อภปิ รายสรุปองค์ ยอด -จดั กิจกรรมการเรียนร้ดู ว้ ยกระบวนการ ระเมิน เชน่ ปฏบิ ตั ิงานกลมุ่ ติกรรม -จัดกจิ กรรมด้วยกระบวนการฝึกสรา้ งคาถาม งาน คาตอบ งาน ถามได้ งเรียน ะเมิน เช่น บก่อนเรียน นใบงาน นผลงาน
หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท มาตรฐานการเรยี นรู้ ส ๑.๑ รแู้ ละเข้าใจประวัติความสาคัญศาสดาหลกั ธรรมของพระ เพ่อื อยรู่ ่วมกนั อยา่ งสันติสขุ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรยี นรู้ ม.๖/๔ วิเคราะหห์ ลักธรรมทางพระพุทธศาสนาในส่วนคริ มิ านน สาระการเรียนรู้ สาระสาคญั ช้ินงาน/ภาระงาน ประเด็น ศึกษาความสาคัญของหลักธรรมทาง ช้ินงาน ประเด็นการป -หลักธรรมใน พระพุทธศาสนาในคิริมานนทสตู ร -การเขยี นรายงาน สญั ญา ๑๐แล เจริญอานาป - สญั ญา ๑๐ -การบรรยาย -ใบงาน -แบบสอบถา - อารมณ์ ๑๖ ชั้น ในการเจรญิ -ใบความรู้ เกณฑก์ ารปร -ประเมินพฤต อานาปานสติ ภาระงาน -ทดสอบหลัง เคร่อื งมือประ -รายงานปากเปลา่ เช่น การอา่ น -แบบทดสอบ -แบบประเมิน รายงาน การท่อง และการกล่าว -แบบสงั เกตพ รายงาน
ศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๔๙ ที่ ๖ ะพุทธศาสนาและศาสนาอ่ืนมศี รัทธาท่ีถูกต้องยดึ มั่นและปฏิบตั ิตามหลกั ธรรม นทสูตร นและเกณฑป์ ระเมนิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชอ่ื หน่วย ประเมิน /เวลา นเรอ่ื งสญั ญาในเรือ่ ง ละอารม ๑๖ตนั ในการ กจิ กรรมการเรียนรู้ คิรมิ านนทสูตร ปานสติ -จัดกิจกรรมกลมุ่ าม ระเมนิ -จดั กิจกรรมโดยการอา่ นรายงานเดย่ี ว จานวน.........ชัว่ โมง ตกิ รรม งเรียน -จัดกิจกรรมโดยการสร้างคาถาม คาตอบ ท่ี ะเมนิ บก่อนเรียน สอดคลอ้ งกบั ปญั หา นผลงาน พฤติกรรม
หลักสูตรการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ธรรม ชัน้ มธั ยมศึกษาปที มาตรฐานการเรียนรู้ ส ๑.๑ รแู้ ละเขา้ ใจประวตั ิความสาคัญศาสดาหลกั ธรรมของพระ เพ่ืออย่รู ่วมกนั อย่างสนั ติสขุ ตวั ชวี้ ดั /ผลการเรียนรู้ ม.๖/๕ รู้และเขา้ ใจหลักการเขยี นเรยี งความแก้กระทู้ธรรม นักธร สาระการเรยี นรู้ สาระสาคญั ช้นิ งาน/ภาระงาน ประเด็น ศึกษาความสาคัญของหลักการเขียน ใบงานใบความรู้ ประเมินประเ เรียงความแก้กระทู้ธรรมนกั ธรรมชั้นเอก -หลักเกณฑ์การเขียนเรียงความแก้ --ใบงาน - ความหมายของเรียงความแกก้ ระทธู้ รรม กระทู้ -สนทนาซัก - ทานองเรยี งความแก้กระทู้ธรรม -ความสาคัญของวิชาเรียงความแก้ ความรู้ - หลักเกณฑแ์ ต่งกระทู้ธรรม กระทธู้ รรม -เกณฑ์ประเม - หลกั สาหรบั อธิบายกระท้ธู รรม -การเขียนและท่องจากระทู้ธรรม -ความเอาใจใ - รูปแบบการแตง่ เรียงความแก้กระท้ธู รรม สภุ าษติ ในหมวดตา่ งๆ -การเขยี นคดั - ตัวอยา่ งการแต่งเรียงความแก้กระทธู้ รรม ภาระงาน -การทางานส - กระทู้สภุ าษิตทีค่ วรทอ่ งจา ประกอบด้วย -เขียนหลักเกณฑ์และรายงานปาก เครือ่ งมือ ปมาทวรรค หมวดประมาท เปล่า -แบบทดสอบ ปาปวรรค หมวดบาป -เ ขี ย น ร า ย ง า น ค ว า ม ห า ย แ ล ะ -แบบประเมิน ปคุ คฺ ลวรรค หมวดบคุ คล ประโยชนข์ องกระทู้ธรรม -แบบประผล ปุญญวรรค หมวดบญุ -แบบสังเกต มัจจวุ รรค หมวดความตาย วาจาวรรค หมวดวาจา วิริยวรรค หมวดความเพยี ร สทั ธาวรรค หมวดศรทั ธา สลี วรรค หมวดศลี
ศึกษาตอนปลาย หนา้ ๕๐ ท่ี ๖ ะพุทธศาสนาและศาสนาอน่ื มีศรัทธาทีถ่ กู ต้องยึดมน่ั และปฏิบตั ติ ามหลกั ธรรม รรมชน้ั เอก นและเกณฑป์ ระเมนิ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ชือ่ หน่วย /เวลา เมนิ กิจกรรมการเรียนรู้ เรียงความแก้กระทู้ -จัดกรรมการเรียนมุ่งเป็นถึงความสาคัญและ ธรรมนกั ธรรมชั้นเอก กถามอภิปรายสรุปองค์ ประโยชน์ -จดั กจิ กรรมในการนาความรไู้ ปใชใ้ นชวี ิต จานวน.........ชัว่ โมง มิน -จัดกิจกรรมแบ่งกลุ่มอธิบายความหมายกระทู้ ใส่ในการเรียน ธรรมแต่ละบท ดลายมอื -จัดกิจรรมการเขยี นคัดลายมือท่ีสวยงาม สง่ -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยความถูกต้องของ ภาษาเขียน บกอ่ นเรียน -จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยกระบวนการอื่นๆ นใบงาน ตามความเหมาะสม ลงาน
หลกั สตู รการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๕๑ การวดั และประเมินผลสาระการเรียนรู้ธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ประเดน็ การประเมิน ระดับคณุ ภาพ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ระดับ ๔ ระดบั ๓ ระดับ ๒ ระดับ ๑ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๑ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉ ทท่ี ๒ ฉักกะ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ หมวด ๖ ๒ ฉกั กะ หมวด ๖ ได้ ๒ ฉักกะ หมวด ๖ ได้ ๒ ฉักกะ หมวด ๖ ได้ ๒ ฉักกะ หมวด ๖ ได้ ถูกต้องและสมบูรณ์ ถูกต้องแต่ไมส่ มบูรณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ นอ้ ยและไมส่ มบูรณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๒ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉทท่ี ๒ สัตตกะ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี หมวด ๗ ๒ สัตตกะ หมวด ๗ ๒ สัตตกะ หมวด ๗ ๒ สัตตกะ หมวด ๗ ๒ สัตตกะ หมวด ๗ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบูรณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๓ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉทที่ ๒ อัฏฐกะ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี หมวด ๘ ๒ อัฏฐกะ หมวด ๘ ๒ อัฏฐกะ หมวด ๘ ๒ อัฏฐกะ หมวด ๘ ๒ อัฏฐกะ หมวด ๘ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๔ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในนวกะ พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน หมวด ๙ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ถูกตอ้ งและสมบรู ณ์ ถูกต้องแตไ่ มส่ มบูรณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ นอ้ ยและไมส่ มบรู ณ์ สมบูรณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๕ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉทที่ ๒ ทสกะ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ หมวด ๑๐ ๒ ทสกะ หมวด ๑๐ ๒ ทสกะ หมวด ๑๐ ๒ ทสกะ หมวด ๑๐ ๒ ทสกะ หมวด ๑๐
หลักสตู รการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๕๒ ประเดน็ การประเมนิ ระดับคุณภาพ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ระดับ ๔ ระดับ ๓ ระดบั ๒ ระดบั ๑ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๖ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉทท่ี ๒ เอกาทสกะ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ หมวด ๑๑ ๒ เอกาทสกะ หมวด ๒ เอกาทสกะ หมวด ๒ เอกาทสกะ หมวด ๒ เอกาทสกะ หมวด ๑๑ ได้ถูกต้องและ ๑๑ ได้ถูกต้องแต่ไม่ ๑๑ ได้บางส่วนและ ๑๑ ได้น้อยและไม่ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ ไมส่ มบูรณ์ สมบูรณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๗ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉทที่ ๒ ทวาทสกะ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี หมวด ๑๒ ๒ ทวาทสกะ หมวด ๒ ทวาทสกะ หมวด ๒ ทวาทสกะ หมวด ๒ ทวาทสกะ หมวด ๑๒ ได้ถูกต้องและ ๑๒ ได้ถูกต้องแต่ไม่ ๑๒ ได้บางส่วนและ ๑๒ ได้น้อยและไม่ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ ไมส่ มบรู ณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๘ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิภาคปริเฉทท่ี ๒ เตรสกะ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ธรรมวิภาคปริเฉทที่ หมวด ๑๓ ๒ เตรสกะ หมวด ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ๒ นวกะ หมวด ๙ ได้ ๑๓ ได้ถูกต้องและ ถกู ต้องแต่ไม่สมบรู ณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ นอ้ ยและไมส่ มบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๙ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วภิ าคปรเิ ฉทท่ี ๒ ปณั ณรสกะ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทที่ ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี หมวด ๑๕ ๒ ปณั ณรสกะ หมวด ๒ ปัณณรสกะ หมวด ๒ ปัณณรสกะ หมวด ๒ ปณั ณรสกะ หมวด ๑๕ ได้ถูกต้องและ ๑๕ ได้ถูกต้องแต่ไม่ ๑๕ ได้บางส่วนและ ๑๕ ได้น้อยและไม่ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ ไม่สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๔/๑๐ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ รู้และเข้าใจหลักการเขียน ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น เรียงความแก้กระทู้ธรรม เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ นกั ธรรมชั้นโท ธรรมนักธรรมชั้นโท ธรรมนักธรรมชั้นโท ธรรมนักธรรมช้ันโท ธรรมนักธรรมชั้นโท ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์
หลักสูตรการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ ๕๓ การวดั และประเมนิ ผลสาระการเรยี นรู้ธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕ ประเด็นการประเมิน ระดบั คณุ ภาพ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๕ ระดบั ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๒ ระดับ ๑ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๕/๑ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วจิ ารณ์ส่วนปรมัตถปฏปิ ทา ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ปรมัตถปฏิปทาได้ ปรมัตถปฏิปทาได้ ปรมัตถปฏิปทาได้ ปรมัตถปฏิปทาได้ ถูกต้องและสมบูรณ์ ถกู ต้องแตไ่ ม่สมบูรณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ น้อยและไมส่ มบรู ณ์ สมบูรณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๕/๒ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในธรรม พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน วิจารณ์สว่ นสังสารวัฏ ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน ธรร มวิจ ารณ์ ส่วน สังสารวัฏได้ถูกต้อง สังสารวัฏได้ถูกต้อง สังสารวัฏได้บางส่วน สงั สารวัฏได้น้อยและ และสมบรู ณ์ แต่ไม่สมบูรณ์ และไม่สมบูรณ์ ไมส่ มบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๕/๓ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พร ะ พุทธ ศ า ส นา ใ น ส ม ถ พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน กัมมัฏฐานและพระพุทธคุณ สมถกัมมัฏฐานและ สมถกัมมัฏฐานและ สมถกัมมัฏฐานและ สมถกัมมัฏฐานและ กถา พระพุทธคุณกถาได้ พระพุทธคุณกถาได้ พระพุทธคุณกถาได้ พระพุทธคุณกถาได้ ถูกตอ้ งและสมบรู ณ์ ถกู ต้องแตไ่ ม่สมบูรณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ นอ้ ยและไม่สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๕/๔ รู้ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ และเข้าใจหลักการเขียน ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น เรียงความแก้กระทู้ธรรม เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ นกั ธรรมช้นั เอก ธรรมนักธรรมชั้นเอก ธรรมนักธรรมช้ันเอก ธรรมนักธรรมช้ันเอก ธรรมนักธรรมช้ันเอก ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์
หลักสตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๕๔ การวัดและประเมนิ ผลสาระการเรียนรู้ธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ ระดับ ๔ ระดับ ๓ ระดับ ๒ ระดับ ๑ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๖/๑ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในวิปัสสนา พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน กัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน วิปัสสนากัมมัฏฐาน ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๖/๒ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในวิปัลลาส พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน กถา วิ ปั ล ล า ส ก ถ า ไ ด้ วิ ปั ล ล า ส ก ถ า ไ ด้ วิ ปั ล ล า ส ก ถ า ไ ด้ วิปัลลาสกถาได้น้อย ถูกต้องและสมบรู ณ์ ถูกตอ้ งแตไ่ ม่สมบรู ณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ และไม่สมบรู ณ์ สมบูรณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๖/๓ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพุทธศาสนาในมหาสติ พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน ปัฏฐานสตู ร มหาสติปัฏฐานสูตร มหาสติปัฏฐานสูตร มหาสติปัฏฐานสูตร มหาสติปัฏฐานสูตร ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบูรณ์ สมบูรณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๖/๔ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ นักเรียนวิเคราะห์ วิเ คร า ะห์ ห ลักธร ร มทา ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พระพทุ ธศาสนาในคิรมิ านนท พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน พระพุทธศาสนาใน สตู ร คิริมานนทสูตรได้ คิริมานนทสูตรได้ คิริมานนทสูตรได้ คิริมานนทสูตรได้ ถกู ต้องและสมบูรณ์ ถูกตอ้ งแต่ไม่สมบูรณ์ บ า ง ส่ ว น แ ล ะ ไ ม่ น้อยและไม่สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ มาตรฐาน ส ๑.๑ ม.๖/๕ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ นักเรียนรู้และเข้าใจ รู้และเข้าใจหลักการเขียน ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น ห ลั ก ก า ร เ ขี ย น เรียงความแก้กระทู้ธรรม เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ เรียงความแก้กระทู้ นกั ธรรมชน้ั เอก ธรรมนักธรรมชั้นเอก ธรรมนักธรรมช้ันเอก ธรรมนักธรรมช้ันเอก ธรรมนักธรรมช้ันเอก ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ล ะ ไ ด้ ถู ก ต้ อ ง แ ต่ ไ ม่ ได้บางส่วนและไม่ ไ ด้ น้ อ ย แ ล ะ ไ ม่ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบรู ณ์ สมบูรณ์
หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๕๕ ภาคผนวก
หลกั สตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๕๖ เทคนคิ วธิ ีสอนของพระพุทธเจ้า ๑. การทานามธรรมใหเ้ ปน็ รูปธรรม ทาของยากใหง้ า่ ย ธรรมเปน็ เร่อื งนามธรรมที่มีเน้ือหาลกึ ซึ้ง ยากท่ีจะเขา้ ใจ ยิ่งเป็นธรรมระดับสูงสุดก็ยิ่งลึก ล้าคมั ภีรภาพยิ่งขึน้ …..ความสาเรจ็ แหง่ ภารกจิ การส่ังสอนประชาชนส่วนหน่งึ เพราะพระองค์ทรงใช้เทคนิควิธีการทา ของยากใหง้ ่าย เชน่ ๑.๑ การใช้อุปมาอุปไมย วิธีนี้เป็นวิธีทรงใช้บ่อยท่ีสุดวิธีหน่ึง เพราะทาให้ผู้ฟังมองเห็นภาพและเข้าใจง่าย โดยไม่ตอ้ งเสยี เวลาอธบิ ายความใหย้ ืดยาว ๑.๒ ยกนทิ านประกอบ เป็นเทคนิคหรือกลวธิ หี น่ึงที่พระพทุ ธองคท์ รงใช้บอ่ ย ๑.๓ ใช้อุปกรณ์หรือส่ือการสอน เทคนิควิธีสอนด้วยการกระทาของยากให้ง่าย หรือทานามธรรมให้เป็น รูปธรรมนอกจากใช้อุปมาอุปไมยและเล่านิทานประกอบแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งอันเป็นวิธีที่พระพุทธองค์ทรงใช้มาก พอๆ กบั สองวิธีขา้ งต้น คือ การใช้สื่ออุปกรณห์ รอื ใชส้ ื่อการสอน ๒. ทาตนเป็นตวั อยา่ ง ในแงข่ องการสอนอาจแบ่งออกเปน็ ๒ อย่าง คือ ๒.๑ ทาใหด้ ู หรือสาธติ ให้ดู ๒.๒ ปฏบิ ตั ิใหด้ ูเปน็ ตวั อย่าง ๓. ใช้ถ้อยคาเหมาะสม การสอนท่ีจะประสบความสาเร็จ ผสู้ อนจะต้องรู้จักใช้คา ต้องให้ผู้ฟังรู้สึกว่า ผู้พูดพูดด้วยเมตตาจิต มิใช่พูด ด้วยความมุ่งรา้ ย ๔. เลอื กสอนเป็นรายบุคคล ผู้สอนต้องรู้ว่าคนฟังนั้นต่างภูมิหลังต่างความสนใจ ต่างระดับสติปัญญาการเรียนรู้ เพราะฉะน้ันการเลือก สอนเป็นรายบคุ คลจะชว่ ยใหก้ ารสอนประสบความสาเร็จเป็นอย่างดี ถ้าทาได้ก็ควรใช้วิธีนี้ แม้จะสอนเป็นกลุ่มก็ต้อง เอาใจใส่นกั เรยี นท่ีมปี ญั หาเปน็ รายบุคคลใหไ้ ด้ ๕. รจู้ ักจงั หวะและโอกาส ดคู วามพร้อมของผู้เรยี น รู้จกั คอยจังหวะอนั เหมาะสม ถา้ ผเู้ รียนไม่พรอ้ มกเ็ หน่อื ยเปล่า ๖. ยืดหย่นุ ในการใชเ้ ทคนคิ วิธี เทคนคิ วธิ ีบางอยา่ งใช้ไดผ้ ลในวันนี้ ต่อไปวันขา้ งหน้าอาจใชไ้ ม่ไดก้ ไ็ ด้ จึงควรยดื หยนุ่ วธิ ีการ ๗. การเสรมิ แรง มีคาพูดสรรเสริญพระพุทธเจ้าว่า “ทรงชมคนที่ควรชม ตาหนิคนท่ีควรตาหนิ” การชมเป็นการยอมรับ ความสามารถหรือใหก้ าลงั ใจใหท้ าอย่างนั้นยิ่งๆ ขน้ึ ไป การตาหนิเป็นการตกั เตอื นมิให้ประพฤตเิ ชน่ นั้นอีกต่อไป
หลักสตู รการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หน้า ๕๗ หลักสาคัญท่คี รผู สู้ อนควรทราบ หลกั สาคัญคอื หลักการใหญๆ่ ของการสอนไมว่ า่ จะสอนเรื่องอะไรก็มอี ยู่ ๓ หลกั คือ ๑. หลักเกี่ยวกบั เนอื้ หาทีส่ อน ๒. หลักเกย่ี วกบั ตัวผู้เรยี น ๓. หลักเกีย่ วกับตัวการสอน ก. เกยี่ วกบั เนอ้ื หา คนจะสอนคนอน่ื ต้องรู้วา่ จะเอาเรอ่ื งอะไรมาสอนเขาเสยี กอ่ น ไมใ่ ชค่ ิดแต่วิธีการสอนว่าจะสอนอย่างไร ต้อง คิดกอ่ นวา่ จะเอาอะไรไปสอนเขา พระพุทธเจ้าแนะนาว่าผู้สอนต้องคานึงเสมอว่า ต้องสอนสิ่งท่ีรู้เห็นหรือเข้าใจง่าย ไปหาสิ่งที่เขา้ ใจยาก ๑. สอนเนื้อหาที่ลุ่มลกึ ลงไปตามลาดบั ๒. สอนดว้ ยของจรงิ ๓. สอนตรงตามเน้อื หา ๔. สอนมเี หตผุ ล ๕. สอนเทา่ ท่ีจาเปน็ จะตอ้ งรู้ ๖. สอนสิง่ ท่มี ีความหมายและเป็นประโยชนแ์ ก่ผู้เรยี น ข. เก่ียวกับตัวผเู้ รยี น ๑. พทุ ธองค์จะทรงสอนใคร ทรงดูบุคคลผรู้ บั การสอนหรือผู้เรียนก่อนว่าบุคคลนั้นๆ เป็นคนประเภทใด มี พื้นความรู้ ความเขา้ ใจหรอื ความพรอ้ มแค่ไหนและควรจะสอนอะไร แค่ไหน ๒. นอกจากดคู วามแตกต่างของผู้เรียนแล้ว ยังตอ้ งดูความพร้อมของผูเ้ รียนด้วย ๓. สอนให้ผเู้ รยี นทาดว้ ยตนเอง ๔. ผู้เรยี นจะตอ้ งมบี ทบาทร่วมดว้ ย ๕. ครตู ้องเอาใจใส่ผเู้ รียนท่ีมีปญั หาเปน็ พิเศษ ค. เกี่ยวกบั ตวั การสอน ๑. สร้างความสนใจในการสอนคนน้นั (การนาเข้าสบู่ ทเรยี น) ๒. สร้างบรรยากาศในการเรยี นการสอนให้ปลอดโปรง่ ๓. มุ่งสอนเนื้อหา มุง่ ให้ผฟู้ งั เกดิ ความร้คู วามเข้าใจและเปลยี่ นพฤติกรรมในทางท่ดี ี ๔. ตั้งใจสอน สอนโดยเคารพ ถือวา่ งานสอนเป็นงานสาคัญ ๕. ใช้ภาษาเหมาะสม ผู้สอนคนอ่ืนควรมีความสามารถในการส่ือสาร ใช้คาพูดท่ีถูกต้องและเหมาะสมกับ บคุ คลและสถานการณ์
หลักสูตรการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๕๘ หลกั การสอนแนวพทุ ธวธิ ี พระพุทธเจ้าน้ันทรงเป็นพระบรมครู ยอดครูของผู้สอน พระองค์ทรงมีหลักการในการสอนมากมายหลาย หลกั การ เรียกว่า “หลัก ๔ ส” คือ ๑. สนั ทัสสนา อธบิ ายในเห็นชัดแจ้ง เหมอื นจงู มือใหม้ าดูด้วยตา ๒. สมาทปนา ชักจูงให้เห็นจริงเห็นจงั ตาม ชวนให้คล้อยตาม จนยอมรบั เอาไปปฏบิ ตั ิ ๓. สมตุ เตชนา เร้าใจเกิดความกล้าหาญ มกี าลังใจ ม่ันใจวา่ ทาไดไ้ ม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคท์ ่ีมีมา ๔. สมั ปหงั สนา มวี ิธสี อนทีช่ ว่ ยให้ผ้ฟู ังรา่ เรงิ เบิกบาน ฟังไม่เบื่อ เปี่ยมล้นไปด้วยความหวงั สรุปหลักการทวั่ ไปของการสอน คอื แจ่มแจ้ง-จงู ใจ-หาญกลา้ -ร่าเริง หลักการสอนพทุ ธวิธแี บบสนทนา (สากจั ฉา หรือธรรมสากจั ฉา) เป็นวิธีท่ีทรงใช้บ่อยที่สุด พระองค์ชอบใช้วิธีน้ีอาจเป็นด้วยว่าผู้ฟังได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นทาให้การ เรียนการสอนสนุกไม่รู้สึกว่าตนกาลัง “เรียน” หรือกาลัง “ถูกสอน” แต่จะรู้สึกว่าตนกาลังสนทนาปราศรัยกับพระ พทุ ธองคอ์ ยา่ งสนุกสนาน หลักการสอนพุทธวธิ ีแบบตอบปัญหา (ปจุ ฉา-วสิ ัชชนา) ผู้ถามปัญหาอาจถามด้วยจุดประสงค์หลายอย่าง เชน่ ๑. บางคนถามเพือ่ ต้องการคาตอบในเรื่องท่ีสงสยั มานาน ๒. บางคนถามเพอ่ื ลองภมู ิวา่ คนตอบร้หู รอื ไม่ ๓. บางคนถามเพอ่ื ข่มหรอื ปราบให้ผู้ตอบอบั อาย ๔. บางคนถามเพื่อเทยี บเคยี งกับความเชอื่ หรอื คาสอนในลทั ธิศาสนาของตน พระพุทธองค์ตรัสรู้ว่าการตอบปัญหาใดๆ ต้องดูลักษณะของปัญหาและเลือกวิธีตอบให้ถูกต้องเหมาะสมพระองค์ จาแนกประเภทของปัญหาไว้ ๔ ประการ คือ ๑. ปญั หาบางอยา่ งต้องตอบตรงไปตรงมา ๒. ปญั หาบางอย่างตอ้ งยอ้ นถามกอ่ นจึงตอบ ๓. ปญั หาบางอย่างต้องแยกความตอบ ๔. ปญั หาบางอยา่ งตอ้ งตัดบทไปเลยไม่ตอบ วธิ คี ดิ แบบอรยิ สจั จ์/คดิ แบบแกป้ ญั หา เป็นการคดิ แบบแกป้ ัญหาเรียกวา่ “วิธีแห่งความดับทุกข์” จัดเป็นวิธีคิดแบบหลักอย่างหน่ึงเป็นวิธีคิดตาม เหตแุ ละผลหรอื เปน็ ไปตามเหตุและผล สบื สาวจากผลไปหาเหตุแล้วแก้ไขและทาการท่ีตน้ เหตุ จดั เปน็ ๒ คู่ คือ ค่ทู ่ี ๑ ทุกข์เป็นผล เปน็ ตัวปัญหา เป็นสถานการณ์ทีป่ ระสบ ซ่ึงไม่ต้องการ สมทุ ยั เปน็ เหตุ เป็นทม่ี าของปญั หา เป็นจุดทจี่ ะต้องกาจดั หรอื แก้ไข จึงจะพ้นจากปัญหาได้ คู่ท่ี ๒ นิโรธเป็นผล เปน็ ภาวะสนิ้ ปัญหา เปน็ จุดหมายซึง่ ต้องการจะเข้าถงึ มรรคเปน็ เหตุ เปน็ วิธีการ เปน็ ขอ้ ปฏบิ ัติท่ีต้องกระทาในการแก้ไขสาเหตุ เพ่ือบรรลุจุดหมายคือ ภาวะสน้ิ ปัญหาอันได้แกค่ วามดับทุกข์
หลักสตู รการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๕๙ กระบวนการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ แบบพุทธวิธี ๙ อยา่ ง ๑. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้พทุ ธวธิ ีแบบอปุ มา-อปุ ไมย (การเปรียบเทยี บ) ขน้ั สบื คน้ -ข้ันเชื่อมโยง - เปรยี บเทียบนามธรรมกบั รูปธรรมให้ผเู้ รยี นเหน็ ชดั เจน ครผู สู้ อนและผเู้ รียนมสี ว่ นร่วม - ความแตกต่างระหว่างสิ่งทีเ่ ป็นนามธรรมกับรูปธรรม ขน้ั ฝกึ - ยกตวั อยา่ งสงิ่ ทเี่ ป็นนามธรรมและรูปธรรม - ผเู้ รียนแตล่ ะรูปหรอื แต่ละกลุม่ ร่วมอภิปรายหรือนาเสนอสิง่ ทีเ่ ปน็ นามธรรมหรอื รปู ธรรม - หาขอ้ สรปุ เกี่ยวกับเนอื้ หาทีเ่ ปน็ นามธรรม-รปู ธรรม ข้ันประยกุ ต์ - คน้ ควา้ สิง่ ทเี่ ป็นนามธรรมกบั รูปธรรมในเน้อื หาอนื่ ๆ นอกเหนอื จากเนอ้ื หาที่กาหนดให้ ๒. การจดั กจิ กรรมการเรียนรพู้ ทุ ธวธิ แี บบปุจฉา-วสิ ัชนา (การถาม-ตอบ) ขัน้ สบื ค้น-ขั้นเช่อื มโยง - การทาหนา้ ทเ่ี ป็นผู้ถาม-ตอบท่ีถกู ตอ้ งเหมาะสมแกก่ าลเทศะ - วิธถี าม-ตอบ (ตอบทนั ทเี ม่อื มีผถู้ าม, ตอบแบบมเี งื่อนไข, ย้อนถามผู้ถามก่อนแล้วจึงตอบ, น่ิงเสียไม่ตอบ เปน็ ตน้ ) ขน้ั ฝึก - ตวั อยา่ งการถาม-ตอบ - ถาม-ตอบแบบคนตอ่ คน, ถาม-ตอบแบบกลุ่มตอ่ กลุ่ม, ถาม-ตอบแบบกล่มุ ต่อคน เป็นต้น - หาขอ้ สรปุ เนอ้ื หาท่ีเกย่ี วกับการถาม-ตอบ ขั้นประยุกต์ - คน้ ควา้ เพมิ่ เติมนอกเหนือจากเนื้อหาที่กาหนดไวใ้ นแผนจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ๓. การจดั กจิ กรรมการเรียนรพู้ ทุ ธวิธแี บบธรรมสากัจฉา (การสนทนา) ขน้ั สืบคน้ -ขัน้ เช่อื มโยง - ครูผู้สอนเสนอสถานการณท์ ่เี ปน็ ปญั หาหรือจาลองสถานการณ์ ข้นั ฝึก - ผเู้ รยี น/ครูผู้สอน-อภปิ รายในประเดน็ ที่เปน็ ปญั หา หวั ข้อ หรือสถานการณ์ ตามเนอ้ื หาท่กี าหนด - หาข้อสรปุ ในประเด็นทเี่ ป็นปัญหา หวั ข้อ หรือสถานการณจ์ ากการสนทนาอภปิ ราย ขนั้ ประยกุ ต์ - ศกึ ษาเพ่ิมเตมิ การสนทนา-อภปิ รายของบุคคล, กลุม่ คน, ละคร, องค์กร ฯลฯ
หลกั สตู รการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๖๐ ๔. การจัดกจิ กรรมการเรียนรูพ้ ทุ ธวธิ แี บบอริยสจั ๔ (กาหนดปญั หา, ต้งั สมมุตฐิ าน, ทดลอง, วิเคราะห์ สรุป) ขั้นสืบคน้ (ทุกข)์ - กาหนดปญั หา, ทีม่ าของปัญหา, การเกดิ ปญั หา (ตามเน้อื หาทกี่ าหนด) ขั้นเชอื่ มโยง (สมุทยั ) - ตัง้ สมมตุ ฐิ าน, การอนมุ าน, การคาดคะเน, ความนา่ จะเปน็ , ปจั จยั เส่ียง ขน้ั ฝึก (นิโรธ) - ทดลอง, เกบ็ ข้อมูล - วเิ คราะห์, สรปุ ผล ขน้ั ประยุกต์ (มรรค) - การนาไปประยุกต์ใช้กับสง่ิ อื่น ๆ นอกเหนือจากเน้อื หาที่เรยี นรู้ ๕. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้พทุ ธวธิ ีแบบไตรสิกขา (ระเบยี บวินยั , จติ ใจแน่วแน่, แกป้ ัญหาถูกต้อง) ขน้ั สืบค้น (ศลี ) - สร้างความมีระเบียบวนิ ัย ความมศี รัทธา ความตระหนัก ความเรา้ ให้เกิดกับผูเ้ รยี นพร้อมทีจ่ ะเรียน ขน้ั เช่อื มโยง (สมาธิ) - ให้ผู้เรียนรวมพลังจิตใจ ความคิดอันแน่วแน่ในการตั้งใจฟัง ต้ังใจดู ต้ังใจจดจาและเห็นความสาคัญต่อ เนื้อหาทจ่ี ะนาเสนอ ขั้นฝึก (ปญั ญา) - ใชส้ มาธิ จติ ใจอนั แนว่ แน่ทาความเขา้ ใจกับปัญหา - ค้นหาสาเหตทุ ม่ี าที่ไปของปญั หา - แกไ้ ขปญั หาอย่างถูกตอ้ งและถกู วธิ ี ขน้ั ประยกุ ต์ (ปัญญา) - ผเู้ รียนเกิดการเรียนรู้, เกิดปญั ญาและมีมโนทศั นใ์ นเร่อื งน้ันๆ ถกู ตอ้ ง ๖. การจัดกิจกรรมการเรียนรพู้ ุทธวิธีแบบพหูสตู (ฟงั มากๆ, เขยี นมากๆ, ถามมากๆ, คดิ วิเคราะห์มากๆ) ขัน้ สืบค้น-ขน้ั เชอ่ื มโยง (การสรา้ งศรัทธา) - การจัดบรรยากาศในการนาเข้าสู่บทเรยี น - การสร้างแรงจูงใจในการนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น - บคุ ลกิ ภาพตลอดถงึ การวางตัวที่เหมาะสมของผสู้ อน - การสร้างความสมั พันธ์ระหวา่ งผเู้ รยี นกับผู้สอน ขน้ั ฝกึ (การฝกึ ทักษะ) - กจิ กรรมกลมุ่ /รายบคุ คล - การปฏิบัติ/การนาเสนอ/การแสดงออก - ฝึกการเขียน, การฟงั , การถาม, และการคดิ วิเคราะห์ ขั้นประยกุ ต์ (การประเมนิ )
หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๖๑ - การประเมินตนเอง - การประเมินของกลั ยาณมิตร - การศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมและการนาไปประยุกตใ์ ช้ ๗. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้พุทธวธิ ีแบบโยนโิ สมนสกิ าร (การทาไวใ้ นใจโดยแยกคาย, การใชค้ วามคดิ ถกู วธิ ี) แบบท่ี ๑ ขั้นสืบค้น-ข้นั เชือ่ มโยง - ผู้เรยี นรู้จักคดิ คิดเป็น คดิ อย่างมรี ะบบ - ผู้เรยี นร้จู กั มอง รู้จกั พิจารณา ไตร่ตรอง วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ขัน้ ฝึก - ฝึกการคดิ หาเหตุผล - ฝกึ การสบื คน้ ถึงต้นเคา้ - ฝึกการสืบสาวให้ตลอดสาย - ฝึกการแยกแยะสิง่ นัน้ ๆ ปญั หานั้นๆ ตามสภาวะแหง่ เหตแุ ละปัจจัย ขน้ั ประยุกต์ - ผู้เรียนนาการใช้ความคิดอยา่ งถูกวธิ ไี ปประยกุ ตใ์ ชก้ บั เหตกุ ารณ์ปัจจุบัน ๘. การจดั กจิ กรรมการเรยี นรพู้ ทุ ธวธิ ีแบบโยนิโสมนสิการ (สร้างศรทั ธาและวิธีคิดใหก้ ับผู้เรียน) แบบท่ี ๒ ขั้นสืบคน้ -ขั้นเชอื่ มโยง - ครผู ู้สอนสรา้ งเจตคตทิ ่ีดีตอ่ ผูเ้ รยี น - ครผู สู้ อนเสนอปัญหาที่เป็นสาระสาคัญ, หวั เรื่อง - ครผู ู้สอนแนะแหล่งวิทยาการ, แหล่งข้อมูล ข้ันฝกึ - ผู้เรียนฝกึ การรวบรวมข้อมูล - ครูผู้สอนจัดกิจกรรมให้เกิดกระบวนการคิดแก่ผู้เรียน เช่น คิดสืบค้นต้นเค้า, คิดสืบสาวตลอดสาย, คิด สืบค้นต้นปลาย, และคิดโยงสายสัมพันธ์ - ฝึกการสรุปประเดน็ เปรียบเทยี บ ประเมนิ คา่ โดยวิธีอภปิ ราย ทดลอง ทดสอบ - ดาเนนิ การเลอื กและตัดสินใจ - กิจกรรมฝึกปฏิบัตเิ พ่อื พสิ จู นผ์ ลการเลือกและตดั สินใจ ขน้ั ประยุกต์ - สังเกตวิธกี ารปฏบิ ตั ิ ตรวจสอบ ปรบั ปรงุ - อภิปรายและสอลบถาม - สรปุ บทเรียนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
หลักสตู รการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๖๒ - วดั และประเมินผลตามสภาพจรงิ ๙. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้พุทธวิธีแบบอิทธิบาท ๔ (พอใจในสิ่งท่ีเรียนรู้, พากเพียรต่อสิ่งที่เรียนรู้เสมอ, มุง่ ม่นั และเอาใจใสต่ ่อส่งิ ทเ่ี รยี นร,ู้ คิด วิเคราะห์ ไตรต่ รอง กอ่ นนาไปใช)้ ขัน้ สืบค้น (ฉนั ทะ) - สรา้ งความพอใจและความสาคญั ต่อสิง่ ท่เี รียนรู้ และส่งิ ทไี่ ดร้ บั ขัน้ เชอื่ มโยง (วริ ยิ ะ) - ฟังใหห้ มด จดใหม้ าก ปากตอ้ งไว ใจตอ้ งคดิ (หัวใจบณั ฑติ สุ จิ ปุ ลิ) ขนั้ ฝึก (จติ ตะ) - มุ่งมั่น โดยฝึกฟงั มากๆ ฝกึ คิดมากๆ ฝกึ ถามมากๆ และฝึกเขยี นมากๆ ขั้นประยุกต์ (วมิ งั สา) - พจิ ารณา ไตรต่ รอง แยกแยะ อธิบาย นาเสนอ และประยกุ ตใ์ ช้ การนยิ ามศัพทข์ ั้นตอน/กระบวนการ จัดกิจกรรมการเรียนรพู้ ทุ ธวธิ ี สบื คน้ หมายถงึ สืบสาวราวเร่อื ง, คน้ ควา้ ใหไ้ ดเ้ รื่อง เชอ่ื มโยง หมายถงึ ทาให้ติดเป็นเน้ือเดียวกัน, ทาให้ประสานกนั ฝกึ หมายถงึ ทา เชน่ บอก, แสดง, หรอื ปฏิบตั ิ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความรู้ความเข้าใจจนเป็นหรือมี ความชานาญ ประยุกต์ หมายถงึ นาความรใู้ นวิทยาการตา่ งๆ มาปรบั ใชใ้ ห้เปน็ ประโยชน์
หลักสูตรการศกึ ษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ ๖๓ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้พระพทุ ธศาสนา (ธรรม พุทธประวตั ิ วินยั ) กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนับ ถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพื่ออยู่ร่วมกันอย่าง สันตสิ ุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักแ ละปฏิบัติตนเป็นศาสนิกชนที่ดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาท่ตี นนบั ถอื สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ท่ีขอปรับและเพม่ิ เป็น... สาระท่ี ๑ พระพทุ ธศาสนา มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเข้าใจประวัติ ความสาคัญ ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น มี ศรัทธาที่ถูกต้อง ยึดมั่น และปฏิบัติตามหลักธรรม เพ่ืออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข (ใช้เป็น มาตรฐานสาระการเรยี นรู้ธรรม, กระทู้ธรรม) มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนัก และปฏิบัติตนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี และธารงรักษาพระพุทธศาสนา (ใช้ เป็นมาตรฐานสาระการเรียนรพู้ ทุ ธประวตั ,ิ ศาสนพิธี) มาตรฐาน ส ๑.๓ รู้ เข้าใจ และปฏิบัติตนตามหลักพระวินัยบัญญัติ และประกาศ กฎ ระเบียบ คาส่ังมหาเถร สมาคม และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ใช้เป็นมาตรฐานสาระการเรียนรู้วินัย, พระราชบัญญตั คิ ณะสงฆ์)
หลักสูตรการศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ ขอบข่ายเน้อื หาส ในการจัดทาหลักสูตรการศกึ ษาพระปริยัตธิ รรม แผน สาระการเรียนรูธ้ รรม, กระทธู้ รรม ม.๒ ส๒๒๒๑๓, ส๒๒๒๑๔ ม. รหสั ม.๑ ส๒๑๒๑๑, ส๒๑๒๑๒ ม.๕ ส๓๒๒๑๓, ส๓๒๒๑๔ ม. รหสั ม.๔ ส๓๑๒๑๑, ส๓๑๒๑๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ เนอื้ หานักธรรมชน้ั ตรี เนือ้ หานกั ศึกษาหลักธรรมคาสง่ั สอนทาง ศกึ ษาหลกั ธรรมคาส่งั สอนทาง ศกึ ษาหลักธรรมคาสั่งสอนทาง พระพทุ ธศาสนา ดงั น้ี พระพทุ ธศาสนา ดงั น้ี พระพทุ ธศาสนา ดงั นี้ ---------------------------- ธรรม : ธรรมวิภาคปริเฉทท่ี ๒ ---------------------------- ---------------------------- ทุกะ หมวด ๒ - พระอรยิ บคุ ค ๒ ธรรม : ธรรมวภิ าค ธรรม : ธรรมวิภาค - กัมมฏั ฐาน ๒ - กาม ๒ ทุกะ หมวด ๒ ทสกะ หมวด ๑๐ - ทฏิ ฐิ ๒ - เทศนา ๒ - ธรรมมอี ปุ การะมาก ๒ - อกศุ ลกรรมบถ ๑๐ - ธรรม ๒ (๑) - ธรรม ๒ (๒) - ธรรมเป็นโลกบาล ๒ - กศุ ลกรรมบถ ๑๐ - ธรรม ๒ (๓) - นพิ พาน ๒ - ธรรมอันทาให้งาม ๒ - บญุ กริ ิยาวตั ถุ ๑๐ - บคุ คลหาได้ยาก ๒ - ธรรมทีบ่ รรพชิตควร ตกิ ะ หมวด ๓ พจิ ารณาเนอื งๆ ๑๐ อย่าง - รตนะ ๓ - นาถกรณธรรม ๑๐ - คุณของรตนะ ๓ - กถาวัตถุ ๑๐ - อาการท่พี ระพุทธเจ้าทรง - อนสุ สติ ๑๐ สง่ั สอน ๓ ปกิณณกะ หมวดเบด็ เตลด็
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๖๔ สาระการเรยี นรู้ธรรม นกสามัญศกึ ษา ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ และตอนปลาย .๓ ส๒๓๒๑๕, ส๒๓๒๑๖ .๖ ส๓๓๒๑๕, ส๓๓๒๑๖ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ กธรรมชนั้ โท เนือ้ หานักธรรมช้นั เอก ศกึ ษาหลกั ธรรมคาสง่ั สอนทาง ศึกษาหลักธรรมคาสง่ั สอนทาง ศกึ ษาหลกั ธรรมคาสง่ั สอนทาง พระพทุ ธศาสนา ดงั น้ี ---------------------------- พระพุทธศาสนา ดงั นี้ พระพุทธศาสนา ดังนี้ ธรรม : ธรรมวิภาคปรเิ ฉทที่ ๒ ฉกั กะ หมวด ๖ ---------------------------- ---------------------------- - อภญิ ญา ๖ - อภิฐาน ๖ ธรรม : ธรรมวจิ ารณ์ ธรรม : ธรรมวิจารณ์ - จรติ ๖ - ธรรมคณุ ๖ สว่ นปรมัตถปฏปิ ทา วปิ ัสสนากมั มฏั ฐาน - ปิยรูป สาตรูป หมวดละหก ๑. นพิ พทิ า ความหนา่ ย - ความหมายของวิปสั สนา ๑๐ หมวด - สวรรค์ ๖ ๒. วริ าคะ ความสนิ้ กาหนัด - ผ้เู จรญิ วิปสั สนากมั มัฏฐาน สัตตกะ หมวด ๗ - อนสุ ยั ๗ ๓. วมิ ุตติ ความหลดุ พน้ พึงรู้จักธรรม ๓ ๔. วิสทุ ธิ ความหมดจด - ลักษณะ กจิ ผล เหตุและ ๕. สนั ติ ความสงบ วิภาคของวิปัสสนา ๖. นพิ พาน ความดับทกุ ข์ - วิธีเจรญิ วิปสั สนา (ตามนยั สว่ นสงั สารวัฏ พระบาล)ี คติ ๒ - วิธเี จรญิ วิปสั สนา (ตามนัย ๑. ทุคติ อรรถกถา)
หลักสตู รการศึกษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๑ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ เนอ้ื หานักธรรมชัน้ ตรี เน้อื หานกั - โอวาทของพระพทุ ธเจา้ ๓ - อุปกิเลส ๑๖ - บูชา ๒ - ปฏสิ นั ถาร ๒ - ทจุ รติ ๓ - โพธปิ ักขิยธรรม ๓๗ - ปริเยสนา ๒ - ปาพจน์ ๒ - สจุ รติ ๓ ศกึ ษาหลักธรรม : คิหิปฏบิ ัติ - รูป ๒ - วิมุตติ ๒ - อกุศลมลู ๓ ดังน้ี - สังขาร ๒ - สมาธิ ๒ - กศุ ลมลู ๓ จตุกกะ หมวด ๔ - สขุ ๒ - สขุ ๒ (อกี นัยหนง่ึ ) - สปั ปรุ สิ บญั ญัติ ๓ - กรรมกิเลส ๔ - สทุ ธิ ๒ ติกะ หมวด ๓ - อปัณณกปฏปิ ทา ๓ - อบายมุข ๔ - อกุศลวติ ก ๓ - กศุ ลวิตก ๓ - บญุ กิริยาวตั ถุ ๓ - ทฏิ ฐธมั มิกัตถประโยชน์ ๔ - อคั คิ ๓ - อัตถะ ๓ - สามัญลกั ษณะ ๓ - สัมปรายิกัตถประโยชน์ ๔ - อธิปเตยยะ ๓ - อนตุ ตรยิ ะ ๓ จตุกกะ หมวด ๔ - มติ ตปฏิรปู ๔ - อภสิ งั ขาร ๓ - อาสวะ ๓ - วุฑฒิ ๔ - มิตรแท้ ๔ - กรรม ๓ - ทวาร ๓ - จกั ร ๔ - สงั คหวัตถุ ๔ - ญาณ ๓ - ญาณ ๓ (อกี นัยหน่งึ ) - อคติ ๔ - สขุ ของคฤหัสถ์ ๔ - อนั ตรายของพระภิกษุ - ความปรารถนาที่สมหวังได้ สามเณรผู้บวชใหม่ ๔ โดยยาก ๔ - ปธาน ๔ - ธรรมเป็นเหตุใหส้ มหมาย ๔ - อธษิ ฐานธรรม ๔ - ตระกลู อนั มั่งค่ังจะตง้ั อยู่ - อิทธิบาท ๔ ไมไ่ ดน้ านเพราะสถาน ๔ - ควรทาความไม่ประมาทใน - ฆราวาสธรรม ๔ ท่ี ๔ สถาน ปญั จกะ หมวด ๕ - ควรทาความไมป่ ระมาทใน - ประโยชน์เกดิ แต่การถือเอา ท่ี ๔ สถาน (อกี อย่างหนง่ึ ) โภคทรัพย์ ๕ - ปารสิ ทุ ธิศลี ๔ - เบญจศลี - อารกั ขกัมมัฏฐาน ๔ - มิจฉาวณิชชา ๕
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๖๕ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๔ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๕ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ กธรรมชัน้ โท เน้อื หานักธรรมชนั้ เอก - เมถนุ สังโยค ๗ ๒. สุคติ - ปจั จเวกขณญาณ ๕ - วญิ ญาณฐติ ิ ๗ - วิสุทธิ ๗ สมถกมั มฏั ฐานและ - อานสิ งสก์ ารเจรญิ วิปสั สนา อัฏฐกะ หมวด ๘ - อรยิ บุคคล ๘ พระพทุ ธคุณกถา วปิ ลั ลาสกถา - อวิชชา ๘ - วิชชา ๘ - ความหมายของกัมมฏั ฐาน - ความหมายของวปิ ลั ลาส - สมาบตั ิ ๘ นวกะ หมวด ๙ - ความสาคญั ของกมั มัฏฐาน - ความเป็นมาของ - อนุปุพพวหิ าร ๙ - พทุ ธคณุ ๙ - ความหมายของ วปิ ลั ลาสกถา - โลกตุ ตรธรรม ๙ - วปิ ัสสนาญาณ ๙ สมถกมั มฏั ฐาน - วิปลั ลาส ๓ - สงั ฆคุณ ๙ - สัตตาวาส ๙ - ความหมายของสมถภาวนา - วปิ ลั ลาส ๔ ทสกะ หมวด ๑๐ - อันตคาหกิ ทิฏฐิ ๑๐ - เหตทุ ่ีต้องฝกึ อบรมจิตใหเ้ ป็น - ธรรมทเ่ี ป็นเครอ่ื งถอน - ทศพลญาณ ๑๐ - บารมี ๑๐ สมาธิ วปิ ัลลาส - มิจฉัตตะ ๑๐ - สัมมตั ตะ ๑๐ ๑. หวั ใจสมถกมั มฏั ฐาน มหาสตปิ ัฏฐานสูตร - สังโยชน์ ๑๐ - สญั ญา ๑๐ - นิวรณ์ ๕ - ความหมายมหาสตปิ ฏั ฐาน - สัทธรรม ๑๐ - หัวใจสมถกัมมฏั ฐาน - การเจรญิ สตปิ ัฏฐานเพื่อผล แก้นวิ รณค์ รอบงา ๕ อย่าง - นวิ รณ์ ๕ สงเคราะห์ - ผเู้ จรญิ สติปฏั ฐานพึง เขา้ ในจริต ประกอบดว้ ยคณุ ธรรม ๓ - กัมมฏั ฐานอนั เปน็ ที่ - มหาสติปัฏฐาน ๔ สบาย - อานสิ งส์การเจรญิ - ฌาน ๒ สตปิ ัฏฐาน ๔ - ความหมายของ คริ ิมานนทสูตร องค์ธรรมในรูปฌาน ๔ - สัญญา ๑๐ - องคฌ์ านทเี่ ปน็ ค่ปู รบั - อารมณ์ ๑๖ ขนั้ ในการ กับนิวรณ์ ๕ เจรญิ อานาปานสติ ๒. สมถภาวนา
หลักสูตรการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรยี นรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๑ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ เน้ือหานกั ธรรมช้นั ตรี เนอ้ื หานกั - พรหมวหิ าร ๔ - สมบตั ขิ องอุบาสก ๕ - ตันหา ๓ - ทิฏฐิ ๓ - สตปิ ัฏฐาน ๔ ฉกั กะ หมวด ๖ - เทพ ๓ - ธรรมนยิ าม ๓ - ธาตุกมั มัฏฐาน ๔ - ทิศ ๖ - นมิ ิต ๓ - ภาวนา ๓ - อรยิ สัจ ๔ - อบายมขุ ๖ - ปรญิ ญา ๓ - ปหาน ๓ ปัญจกะ หมวด ๕ - ปาฏิหารยิ ะ ๓ - ปิฎก ๓ - อนนั ตรยิ กรรม ๕ เรยี งความแกก้ ระทธู้ รรม - พุทธจริยา ๓ - ภพ ๓ - อภณิ หปจั จเวกขณ์ ๕ นกั ธรรมชนั้ ตรี - โลก ๓ - โลก ๓ (อีกนัยหน่งึ ) - เวสารชั ชกรณธรรม ๕ - ความหมายของเรียงความ - วฏั ฏะ ๓ - วชิ ชา ๓ - องคแ์ ห่งภกิ ษุบวชใหม่ ๕ แกก้ ระทธู้ รรม - วิโมกข์ ๓ - สมาธิ ๓ - องค์แห่งธรรมกถึก ๕ - ทานองเรยี งความแก้กระทู้ - วเิ วก ๓ - สังขตลกั ษณะ ๓ - ธมั มสั สวนานสิ งส์ ๕ ธรรม - สงั ขาร ๓ - สัทธรรม ๓ - พละ ๕ - หลักเกณฑ์แต่งกระทูธ้ รรม - สมบตั ิ ๓ - สิกขา ๓ - นวิ รณ์ ๕ - หลกั สาหรับอธิบายกระทู้ - ขนั ธ์ ๕ ธรรม ฉักกะ หมวด ๖ - รปู แบบการแต่งเรียงความ - คารวะ ๖ แก้กระทธู้ รรม - สาราณยิ ธรรม ๖ - ตัวอย่างการแต่งเรยี งความ - อายตนะภายใน ๖ แกก้ ระทู้ธรรม - อายตนะภายนอก ๖ - กระท้สู ภุ าษติ ที่ควรท่องจา - วิญญาณ ๖ ประกอบดว้ ย - ผสั สะ ๖ ธมั มวรรค หมวดธรรม - เวทนา ๖ ปกณิ ณกวรรค หมวด - ธาตุ ๖ เบ็ดเตล็ด สัตตกะ หมวด ๗ ปัญญาวรรค หมวดปญั ญา
ศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๖๖ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๔ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖ กธรรมช้ันโท เนือ้ หานักธรรมช้นั เอก เอกาทสกะ หมวด ๑๑ - ปจั จยาการ ๑๑ - ธรรมอนั เป็นทตี่ ง้ั ของ เรยี งความแก้กระทูธ้ รรม ทวาทสกะ หมวด ๑๒ - กรรม ๑๒ อารมณส์ มถภาวนา นักเรยี นชนั้ เอก เตรสกะ หมวด ๑๓ - ธุดงค์ ๑๓ - สตปิ ฏั ฐาน ๔ - ความหมายของเรยี งความ ปณั ณรสกะ หมวด ๑๕ - จรณะ ๑๕ - อารมณส์ มถกัมมฏั ฐาน แกก้ ระทูธ้ รรม เรยี งความแกก้ ระท้ธู รรมโท ๔๐ - ทานองเรียงความแกก้ ระทู้ - ความหมายของเรยี งความ - จริต ๖ ธรรม แกก้ ระทธู้ รรม - ทานองเรียงความแก้กระทู้ - กมั มฏั ฐานอนั เปน็ ท่ี - หลักเกณฑแ์ ต่งกระทูธ้ รรม ธรรม สบายแก่จริต - หลกั สาหรับอธบิ ายกระทู้ - หลกั เกณฑ์แตง่ กระทู้ธรรม - หลกั สาหรับอธิบายกระทู้ - นิมิต ๓ ธรรม ธรรม - การเจรญิ - รปู แบบการแต่งเรยี งความ - รปู แบบการแต่งเรียงความ สมถกมั มฏั ฐาน แกก้ ระท้ธู รรม แกก้ ระทธู้ รรม - ตวั อยา่ งการแต่งเรยี งความ ๓ ระดับ - ตัวอยา่ งการแตง่ เรียงความ แกก้ ระทู้ธรรม - สมาธิ ๓ ระดบั แก้กระทธู้ รรม - กระทู้สภุ าษิตท่ีควรทอ่ งจา - ฌานสมาบัติ ๒ - กระทสู้ ภุ าษิตท่ีควรทอ่ งจา ประกอบดว้ ย ปมาทวรรค หมวดประมาท - ประโยชนข์ องการเจรญิ ประกอบดว้ ย สมถภาวนา ปมาทวรรค หมวดประมาท ๓. พระพุทธคณุ กถา ปาปวรรค หมวดบาป - พระพทุ ธคณุ ส่วน ปคุ คฺ ลวรรค หมวดบคุ คล อตั ตสมบัติ ปญุ ญวรรค หมวดบญุ - พระพุทธคุณส่วน มัจจุวรรค หมวดความตาย ปรหติ สมบัติ วาจาวรรค หมวดวาจา - ความหมายของ วริ ิยวรรค หมวดความเพียร พระพุทธคณุ กถา สทั ธาวรรค หมวดศรทั ธา - พระพทุ ธคุณโดยย่อ ๒ สีลวรรค หมวดศีล
หลักสตู รการศึกษาพระปริยตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ เน้อื หานักธรรมช้ันตรี เน้อื หานกั - อปรหิ านยิ ธรรม ๗ ปมาทวรรค หมวดประมาท - โสดาบนั ๓ จตุกกะ หมวด ๔ - อริยทรพั ย์ ๗ ปาปวรรค หมวดบาป - อบาย ๔ - อปัสเสนธรรม ๔ - สปั ปรุ สิ ธรรม ๗ ปุญญวรรค หมวดบญุ - อัปปมญั ญา ๔ - พระอรหันต์ ๔ - สปั ปุรสิ ธรรม ๗ (อีกอย่าง วาจาวรรค หมวดวาจา - พระอริยบคุ คล ๔ - อรยิ วงศ์ ๔ หนง่ึ ) สจั จวรรค หมวดความสตั ย์ - อรปู ๔ - อวชิ ชา ๔ - โพชฌงค์ ๗ สตวิ รรค หมวดสติ - อาหาร ๔ - อุปาทาน ๔ อฏั ฐกะ หมวด ๘ สีลวรรค หมวดศลี - โอฆะ ๔ - กจิ ในอริยสจั ๔ - โลกธรรม ๘ - ฌาน ๔ - ทกั ขิณาวิสทุ ธิ ๔ - ลักษณะตัดสนิ ธรรมวินัย ๘ - ธรรมสมาทาน ๔ - พุทธบรษิ ทั ๔ - มรรค ๘ - พทุ ธบริษทั ๔ (อีกอย่าง นวกะ หมวด ๙ หนงึ่ ) - บคุ คล ๔ - มละ คือ มลทนิ ๙ - ปฏิปทา ๔ - ปฏิสัมภทิ า ๔ เรยี งความแกก้ ระทธู้ รรม - ภูมิ ๔ นกั ธรรมชน้ั ตรี - ความหมายของเรยี งความ แกก้ ระทูธ้ รรม - ทานองเรียงความแกก้ ระทู้ ธรรม - หลกั เกณฑ์แต่งกระทูธ้ รรม - หลกั สาหรับอธิบายกระทู้ ธรรม - รปู แบบการแต่งเรียงความ แก้กระทธู้ รรม
ศกึ ษาตอนปลาย หน้า ๖๗ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๔ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๕ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ กธรรมชนั้ โท เน้ือหานกั ธรรมชน้ั เอก ปาปวรรค หมวดบาป ปคุ คฺ ลวรรค หมวดบคุ คล - พระพุทธคณุ ๓ เสวนาวรรค หมวดคบหา ปุญญวรรค หมวดบญุ มจั จวุ รรค หมวดความตาย - พระพุทธคุณโดยย่อ ๒ วาจาวรรค หมวดวาจา วริ ยิ วรรค หมวดความเพียร (อกี นัยหนึง่ ) สทั ธาวรรค หมวดศรัทธา สลี วรรค หมวดศีล - พระพทุ ธคณุ ๙ เสวนาวรรค หมวดคบหา - อธบิ ายพระพทุ ธคณุ บทวา่ อรห - อธิบายพระพทุ ธคุณ บทวา่ สมฺมาสมพฺ ทุ โฺ ธ - อธบิ ายพระพุทธคณุ บทวา่ วชิ ชฺ าจรณสมฺปนฺโน - อธิบายพระพทุ ธคุณ บทวา่ สคุ โต - อธิบายพระพุทธคณุ บทวา่ โลกวิทู - อธิบายพระพุทธคุณ บทว่า อนตุ ตฺ โร ปรุ ิสทมมฺ สารถิ - อธบิ ายพระพทุ ธคณุ บทว่า สตฺถา เทวมนุสฺสาน - อธบิ ายพระพทุ ธคุณ บทว่า พทุ โฺ ธ - อธบิ ายพระพทุ ธคุณ
หลักสตู รการศกึ ษาพระปริยตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๑ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ เน้อื หานกั ธรรมชน้ั ตรี เนื้อหานกั - ตัวอยา่ งการแตง่ เรียงความ - มรรค ๔ แกก้ ระทู้ธรรม - ผล ๔ - โยนิ ๔ - กระทสู้ ภุ าษติ ทค่ี วรท่องจา - วรรณะ ๔ ประกอบด้วย - วบิ ัติ ๔ อตั ตวรรค หมวดตน ปญั จกะ หมวด ๕ อปั ปมาทวรรค หมวดไม่ - อนุปุพพกิ ถา ๕ ประมาท - กามคุณ ๕ กมั มวรรค หมวดกรรม - จักขุ ๕ กิเลสวรรค หมวดกเิ ลส - ธรรมขันธ์ ๕ โกธวรรค หมวดโกรธ - ปีติ ๕ ขันติวรรค หมวดอดทน - มัจฉรยิ ะ ๕ จิตตวรรค หมวดจติ - มาร ๕ ชยวรรค หมวดชนะ - วญิ ญาณ ๕ ทานวรรค หมวดทาน - วมิ ตุ ติ ๕ ทกุ ขวรรค หมวดทุกข์ - เวทนา ๕ - สังวร ๕ - สทุ ธาวาส ๕ - พระอนาคามี ๕ เรียงความแก้กระทู้ธรรม นักธรรมชนั้ โท - ความหมายของเรยี งความ แกก้ ระทูธ้ รรม
ศึกษาตอนปลาย หน้า ๖๘ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๖ กธรรมชน้ั โท เน้ือหานกั ธรรมชนั้ เอก บทว่า ภควา เรียงความแกก้ ระทธู้ รรม นักธรรมชน้ั เอก - ความหมายของเรียงความ แกก้ ระทธู้ รรม - ทานองเรียงความแกก้ ระทู้ ธรรม - หลักเกณฑแ์ ตง่ กระทูธ้ รรม - หลักสาหรับอธบิ ายกระทู้ ธรรม - รูปแบบการแตง่ เรียงความ แก้กระทธู้ รรม - ตวั อย่างการแตง่ เรยี งความ แก้กระท้ธู รรม - กระทสู้ ภุ าษติ ทค่ี วรทอ่ งจา ประกอบด้วย อัตตวรรค หมวดตน อัปปมาทวรรค หมวดไม่ ประมาท กัมมวรรค หมวดกรรม กิเลสวรรค หมวดกิเลส ขนั ตวิ รรค หมวดอดทน จติ ตวรรค หมวดจิต
หลกั สตู รการศกึ ษาพระปรยิ ตั ธิ รรม แผนกสามัญศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มธั ยมศ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๓ เนือ้ หานกั ธรรมชั้นตรี เนอ้ื หานกั - ทานองเรยี งความแก้กระทู้ ธรรม - หลกั เกณฑแ์ ตง่ กระทธู้ รรม - หลกั สาหรบั อธิบายกระทู้ ธรรม - รูปแบบการแตง่ เรียงความ แก้กระทธู้ รรม - ตัวอยา่ งการแตง่ เรียงความ แก้กระทธู้ รรม - กระทสู้ ภุ าษติ ที่ควรท่องจา ประกอบด้วย อตั ตวรรค หมวดตน อัปปมาทวรรค หมวดไม่ ประมาท กมั มวรรค หมวดกรรม กิเลสวรรค หมวดกิเลส ขนั ตวิ รรค หมวดอดทน จติ ตวรรค หมวดจติ ทานวรรค หมวดทาน ธมั มวรรค หมวดธรรม ปกิณณกวรรค หมวด เบ็ดเตลด็ ปญั ญาวรรค หมวดปญั ญา
ศกึ ษาตอนปลาย หนา้ ๖๙ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ กธรรมชน้ั โท เน้ือหานกั ธรรมชั้นเอก ทานวรรค หมวดทาน ธัมมวรรค หมวดธรรม ปกณิ ณกวรรค หมวด เบ็ดเตลด็ ปญั ญาวรรค หมวดปญั ญา
หลกั สูตรการศกึ ษาพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามญั ศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๘ สาระการเรียนรู้ธรรม ระดบั มัธยมศ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103