Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ม.1 เทอม 1

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ม.1 เทอม 1

Published by moolkaewkaew, 2021-04-08 02:26:51

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ม.1 เทอม 1

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 10 กลุมสาระการเรยี นรูภาษาตางประเทศ วชิ าภาษาองั กฤษ (อ21102) ช้ันมัธยมศกึ ษาปท ่ี 1 หนว ยการเรียนรูท่ี 7 Do you have a table ? เร่อื ง Verb to have เวลา 2 ชัว่ โมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศึกษา 2563 สอนวันที่ 15 กุมภาพนั ธ พ.ศ. 2563 ********************************************************************************** 1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู/ตวั ชีว้ ดั สาระที่ 1 ภาษาเพ่อื การสือ่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา ใจและตีความเรื่องที่ฟง และอา นจากสื่อประเภทตางๆ และแสดงความคิดเหน็ อยางมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอมูลขา วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตางๆ โดยการ พดู และการเขียน ตวั ช้ีวัด ต 1.1 ม.1/3 เลือก/ระบุประโยคและขอความใหส ัมพันธกบั สื่อที่ไมใชความเรียง (non-text information) ทอี่ าน ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาํ วนั ประสบการณ และ สง่ิ แวดลอมใกลตวั 2. สาระสําคญั /ความคิดรวบยอด หนว ยการเรียนรนู ีม้ จี ุดมุงหมายใหนักเรียนเรยี นรคู ําศัพท การออกเสยี ง โครงสรางประโยค หนา ท่ีทาง ภาษาและ วฒั นธรรมเก่ยี วกบั สัตวแ ละสง่ิ ของท่ตี นเปนเจาของโดยผา นการฝกทักษะการระบปุ ระโยคใหสัมพันธ กบั ภาพ การอานออกเสียงและการอานบทสนทนาเกย่ี วกบั สิง่ ของท่ีตนเปน เจาของ 3. จดุ ประสงคการเรียนรู - นกั เรียนเรียนรคู ําศัพท การออกเสยี ง โครงสรางประโยค หนา ท่ีทางภาษาและ วัฒนธรรมเกี่ยวกับ สตั วแ ละสิ่งของทต่ี นเปน เจา ของโดยผา นการฝกทกั ษะการระบปุ ระโยคใหสมั พนั ธกับภาพ - การอานออกเสียงและการอานบทสนทนาเก่ียวกบั ส่ิงของทต่ี นเปนเจาของ การฟง บทสนทนา เกี่ยวกบั สตั วเ ล้ียง พดู ถาม-ตอบขอ มูลเกีย่ วกบั สัตวเ ล้ียงและส่งิ ของทตี่ นช่ืนชอบ - การอา นบทความเกย่ี วกับสัตวแสนรู การเขยี นบรรยายสัตวเลีย้ งของตนเอง การนําเสนอขอมลู สตั ว แสนรทู ัง้ ในประเทศกลุมอาเซียนและประเทศทั่วโลก 4. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค

1. นักเรียนมรี ะเบียบวินยั ในการทาํ งาน 2. นักเรียนมคี วามรับผดิ ชอบ 3. นักเรียนมีความมุงมัน่ ในการทํางาน 5. สมรรถนะสําคญั ของผเู รียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคดิ 6. สาระการเรียนรู - รูคาํ ศัพท การออกเสียง โครงสรา งประโยค - หนา ทที่ างภาษาและ วฒั นธรรมเกยี่ วกับสตั วและสิ่งของที่ตนเปนเจา ของโดยผานการฝก ทักษะการระบุประโยคใหสมั พนั ธกับภาพ - การอา นออกเสยี งและการอานบทสนทนาเกยี่ วกับสง่ิ ของที่ตนเปน เจาของ การฟง บทสนทนา เกยี่ วกับสัตวเล้ียง พดู ถาม-ตอบ 7. ภาระงาน / ชน้ิ งาน - ครูใหนกั เรียนทาํ แบบฝกหัด ขอ A-C ในหนังสอื แบบฝกหัด New World 1 หนา 21-22 (ดเู ฉลยทาย เลม ) หลังจากเสร็จสิ้นการทาํ กจิ กรรม Language Check ในหนงั สือเรียน หนา 33 8. กิจกรรมการเรียนรู 1. นาํ เขา สูบทเรยี น - ครูสอบถามนกั เรยี นเก่ยี วกบั ส่ิงท่ไี ดเ รียนในแผนการเรียนรูกอนหนา นี้ - ครูใหนักเรยี นชวยกันบอกคําศัพทเกย่ี วกบั สัตวเลี้ยงและสิ่งของที่นกั เรียนมีในครอบครอง - ครใู หนกั เรยี นคาดเดาสงิ่ ทีจ่ ะไดเ รียนในแผนการเรยี นรูน ี้ โดยถามนกั เรยี นวา What do you think you are going to study today? 2. แจง จุดประสงคการเรยี นรู - ครูบอกนักเรียนวาในหนวยการเรียนรนู ี้นกั เรียนจะตอ งสามารถอานออกเสียงบทสนทนาเก่ียวกับสัตว เลยี้ งและสงิ่ ของทตี่ นเปนเจาของได - ครูสอบถามนักเรียนเกี่ยวกบั ส่ิงของทนี่ กั เรียนสะสมดงั นี้ - Do you collect anything? - What do you collect? - ครูสอบถามนกั เรยี นเกี่ยวกับสัตวเลยี้ งของนักเรยี นดงั นี้ - What pets do you have at home? - What are your pets called? - What are the favorite pets in this country? - ครูอานออกเสียงชื่อหนวยการเรียนรูท่ี 5 เรือ่ ง Do You Have a Tablet? ในหนงั สอื เรยี น หนา 32 แลว ถามนกั เรยี นดังนี้ - What do you think this unit will be about?

- ครบู อกนักเรยี นวาในหนวยการเรียนรูนีน้ กั เรียนตอ งสามารถตอบคาํ ถามจากการระบุประโยคใหสัมพันธ กบั ภาพสัตวและส่ิงของได กิจกรรม New Language 1. เสริมสรา งความรดู า นคําศัพท - ครูใหน กั เรยี นดภู าพในหนังสือเรียน หนา 32-33 แลว ถามนักเรียนคนหนึ่งดังนี้ - Do you have a tablet? - Do you have a smartphone? - Do you have a parrot? - ครอู านออกเสยี งคําส่ังกจิ กรรม New Language ในหนังสือเรยี น หนา 32 แลวบอกนกั เรียนวากจิ กรรม น้ีนักเรียนตองทาํ เครื่องหมาย � หนาส่งิ ของและสัตวเ ลย้ี งทน่ี ักเรยี นมีครอบครอง - ครยู กตัวอยางการทํากิจกรรมโดยชหู นังสือแลวทําเคร่อื งหมายทีภ่ าพกีตารและจักรยานแลว พดู วา I have a guitar and a bike. - ครูใหนกั เรยี นทํากจิ กรรม New Language จากน้นั ครูสุมใหนักเรียนบอกสงิ่ ของและสัตวเลย้ี งทีน่ ักเรียน มคี รอบครอง - ครูใหน กั เรยี นบอกคาํ ศัพทท ี่นักเรยี นไมทราบความหมาย จากน้ันครูแนะนําใหนักเรยี นใชภาพเปน เคร่อื งมือในการเดาความหมายของคําศัพททนี่ ักเรียนไมท ราบความหมาย 2. ฟง การออกเสยี งคําศัพท - ครใู หนักเรียนฟงซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 31 กจิ กรรม New Language ในหนงั สือเรียน หนา 32 พรอ มกบั ใหนักเรยี นชท้ี ภี่ าพสิ่งของตามลาํ ดบั ท่ไี ดย ินจากซีดบี ันทึกเสียง - ครูใหนกั เรียนฟง ซดี บี ันทึกเสียง รอบที่ 2 พรอ มกับใหนักเรียนช้ที ่ีภาพส่ิงของตามทไ่ี ดย นิ แลวสังเกตการ อานออกเสียงคาํ ศัพทเหลานั้น - ครูอานออกเสียงคาํ ศพั ทส ่งิ ของและสตั วในภาพของกจิ กรรม New Language ในหนังสอื เรียน หนา 32-33 โดยสมุ อา นแบบไมเ รียงลาํ ดับภาพ และใหน ักเรยี นชี้ที่ภาพตามคาํ ศัพทท่ีครูอาน - ครูใหนกั เรียนฟงซดี ีบันทกึ เสียง CD 1 Track 32 กิจกรรม New Language ในหนงั สือเรยี น หนา 33 พรอมกบั ใหนักเรียนชท้ี ่ภี าพสัตวเ ลย้ี งตามลําดับท่ีไดย ินจากซีดบี ันทึกเสยี ง - ครใู หน กั เรียนฟงซดี บี ันทึกเสียง รอบท่ี 2 พรอมกบั ใหนักเรยี นช้ที ่ภี าพสัตวเลีย้ งตามท่ีไดยนิ แลวสงั เกต การอานออกเสยี งคําศัพทเ หลานน้ั 3. อานออกเสียง - ครูใหน ักเรยี นฟง ซีดบี ันทกึ เสียง CD 1 Track 31 พรอมกับใหน กั เรยี นอา นออกเสียงตามซีดีบันทกึ เสยี ง ทีละคํา - ครใู หน ักเรยี นฟง ซดี บี นั ทกึ เสยี ง CD 1 Track 32 พรอ มกบั ใหน กั เรียนอานออกเสยี งตามซีดีบันทึกเสยี ง ทีละคาํ - ครใู หนกั เรยี นจับคูกบั เพอื่ นแลว ใหน กั เรียนสลับกนั อา นออกเสยี งคําศัพทส ิง่ ของและสตั วของกจิ กรรม New Language แบบไมเรียงลําดับตามภาพ และใหค ูของตนช้ีภาพตามที่ตนอาน กจิ กรรม Pronunciation 1. ตรวจสอบความรเู ดมิ ดา นการออกเสยี ง - ครอู านออกเสียงคาํ สง่ั กจิ กรรม Pronunciation ในหนังสอื เรียน หนา 33 พรอมกบั อธิบายวา กจิ กรรม น้ีนักเรยี นจะไดฟ งและออกเสียงประโยคท่ีมี “does” อยูในประโยค

- ครูใหน ักเรียนอาสาสมคั รอานออกเสียงประโยคคําถามทีใ่ หมาในกจิ กรรม Pronunciation ครูยงั ไมบ อก วา นักเรียนอานออกเสียงประโยคถูกตองหรือไม 2. ฟงการออกเสยี งประโยค - ครูใหนกั เรียนฟง ซีดบี นั ทกึ เสียง CD 1 Track 33 กจิ กรรม Pronunciation พรอมกับใหนกั เรยี นสังเกต การออกเสยี ง “does” ในประโยค - ครอู ธิบายวา “does” ในประโยคคาํ ถามจะถกู ออกเสียงแบบลดเสียงเพราะเสยี งสระจะเปนเสียงท่ีไมลง เสยี งหนัก - ครใู หน กั เรียนฟง ซดี ีบันทึกเสียง รอบที่ 2 เพื่อใหนักเรยี นสังเกตการออกเสียงประโยคคําถามอีกครัง้ - ครูใหนักเรียนฟงซีดีบันทึกเสียง รอบที่ 3 ครูหยุดซีดีบันทึกเสียงเม่ือจบแตละประโยคคําถาม และให นักเรยี นออกเสียงตาม 3. เปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกตา งของการออกเสียง - ครเู ขียนประโยคตอไปนบ้ี นกระดาน 1. Is that your video game console? นั่นใชเ ครอ่ื งเลนวดิ ิโอเกมของคุณหรือไม? 2. Do you have a smartphone? คณุ มีสมารทโฟนหรือไม? 3. Does she have a rabbit? เธอมีกระตายหรอื ไม? - ครูใหนักเรียนอาสาสมัครอานประโยคบนกระดานคนละ 1 ขอ - ครูใหนักเรียนทํางานกลุม กลุมละ 6 คน แลวใหสมาชิกในกลุมนําเสนอความคิดเห็นเก่ียวกับการออก เสียงประโยคภาษาอังกฤษและภาษาไทยบนกระดานวามีความเหมือนหรอื แตกตา งกนั อยางไร - ครใู หนักเรยี นแตล ะกลุมออกมานําเสนอขอมูลหนาช้ันเรียน พรอมยกตัวอยางประโยคคําถามและสาธิต การอานออกเสยี ง 4. ประเมินการเปรยี บเทียบความเหมือนและความแตกตางของการออกเสียง - ครูประเมินการเปรียบเทียบความเหมือนและความแตกตางของการออกเสียงประโยคคําถาม ภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยโดยใชเกณฑการประเมินการนาํ เสนอ และใชเกณฑผ า นระดับพอใช กิจกรรม Practice 1. ฟง การออกเสียงบทสนทนา - ครูอา นออกเสียงคาํ ส่ังกจิ กรรม Practice ในหนงั สอื เรียน หนา 33 พรอมกับอธิบายวธิ ีการทํากจิ กรรม - ครูใหนักเรียนฟงซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 34 กิจกรรม Practice บทสนทนาท่ี 1 และสังเกตการ อ อ ก เ สี ย ง บทสนทนาทั้งท่ีเปนประโยคคําถามและประโยคคําตอบโดยใหสังเกตการออกเสียง do/don’t เปน พิเศษ - ครูใหนักเรียนฟงซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 34 กิจกรรม Practice บทสนทนาท่ี 2 และสังเกตการ อ อ ก เ สี ย ง บทสนทนาท้ังทเี่ ปน ประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบโดยใหสังเกตการออกเสยี ง does เปนพิเศษ

- ครูใหนักเรียนฟงซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 34 กิจกรรม Practice บทสนทนาที่ 3 และสังเกตการ อ อ ก เ สี ย ง บทสนทนาท้งั ทเ่ี ปน ประโยคคาํ ถามและประโยคคาํ ตอบโดยใหสังเกตการออกเสียง is เปนพิเศษ - ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ วาในประโยคคําตอบเสยี งสระจะเปนเสยี งที่ไมตองออกเสยี งแบบลดเสียง เชน คําถาม Does he? เสยี ง /h/ จะเปน เสียงทีไ่ มตองออกเสียง Does she? s กับ sh จะถูกออกเสยี งแบบควบกัน 2. การอานออกเสียงบทสนทนา - ครใู หนักเรยี นฟงซดี ีบนั ทกึ เสียง CD 1 Track 34 กิจกรรม Practice บทสนทนาท่ี 1-3 ครูหยดุ ซดี ี บนั ทึกเสยี งทุกครัง้ ที่ซีดีอา นจบแตละประโยค และใหนักเรียนอานออกเสียงตาม - ครใู หนักเรยี นคนหนึ่งมาเปน คูสนทนากับครู ครูและนกั เรยี นสลบั กันรบั บทบาทเปน A และ B โดยเนน การอา นออกเสียงบทสนทนาที่กําหนดมาใหในกิจกรรม Practice บทสนทนาท่ี 1-3 อยางถกู ตองตาม หลกั การอาน 3. ตรวจสอบการอา นออกเสยี งบทสนทนา - ครใู หนักเรียนจับคกู ับเพ่ือนเพ่ือทํากิจกรรม Practice บทสนทนาท่ี 1-3 โดยใหน ักเรียนสลบั บทบาทกนั เปน A และ B - ครูเดนิ สํารวจการทํากิจกรรมของนักเรียน เม่ือนกั เรียนทํากิจกรรมเสร็จสิ้นแลว ครสู ุมใหนกั เรยี นบางคู ออกมานาํ เสนอการอานออกเสยี งบทสนทนาหนาช้ันเรียน 4. ประเมินการอานออกเสยี งบทสนทนา - ครูประเมนิ การอานออกเสยี งบทสนทนาเกี่ยวกบั สตั วเล้ยี งและสงิ่ ของท่ีตนเปนเจาของจากการทํา กิจกรรม Practice ในหนงั สือเรียน หนา 33 โดยใชแ บบประเมนิ การสนทนากิจกรรมคู และใชเกณฑ ผานระดบั พอใช - 9. การวัดและการประเมนิ ผล - ประเมนิ การทําแบบฝกหัด - สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรใู นชว งการทํากิจกรรม - ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค - ประเมินผลการอภปิ รายเกี่ยวกับสถานทที่ องเท่ยี ว ประวตั ศิ าสตร และวัฒนธรรมของประเทศไทย แลว นําขอ มูลมาสรางเกมกระดาน 10. ส่อื / แหลงการเรียนรู 1. หนงั สอื เรยี น New World 1 หนา 33 2. ซีดบี ันทกึ เสยี ง 3. เครื่องเลนซดี ี

แผนการจัดการเรยี นรทู ี่ 10 กลุม สาระการเรียนรูภาษาตา งประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ (อ21102) ชั้นมัธยมศึกษาปท ่ี 1 หนวยการเรยี นรูท ี่ 7 Do you have a table ? เร่ือง Yes/ No Question เวลา 2 ชัว่ โมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศกึ ษา 2563 สอนวนั ที่ 8 มนี าคม พ.ศ. 2563 ********************************************************************************** 1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวชว้ี ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขาใจและตีความเรื่องท่ีฟง และอานจากสื่อประเภทตางๆ และแสดงความคดิ เห็น อยางมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอมูลขาวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตางๆ โดยการ พูดและการเขียน ตวั ชี้วดั ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยคและขอความใหส ัมพันธก ับสื่อท่ีไมใชค วามเรยี ง (non-text information) ที่อาน ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวตั รประจําวนั ประสบการณ และ ส่ิงแวดลอมใกลตัว

2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด หนว ยการเรียนรนู ้ีมีจุดมุงหมายใหนักเรยี นเรียนรูคําศัพท การออกเสยี ง โครงสรา งประโยค หนา ที่ทาง ภาษาและ วฒั นธรรมเกี่ยวกับสัตวและสิ่งของที่ตนเปนเจาของโดยผานการฝกทักษะการระบปุ ระโยคใหส ัมพันธ กบั ภาพ การอา นออกเสียงและการอานบทสนทนาเก่ียวกบั สง่ิ ของท่ตี นเปนเจาของ 3. จดุ ประสงคก ารเรียนรู - นักเรียนเรียนรคู ําศัพท การออกเสียง โครงสรางประโยค หนา ท่ีทางภาษาและ วัฒนธรรมเกย่ี วกบั สัตวแ ละสิ่งของที่ตนเปน เจา ของโดยผา นการฝกทกั ษะการระบุประโยคใหสมั พนั ธกับภาพ - การอา นออกเสียงและการอานบทสนทนาเกย่ี วกับสงิ่ ของทตี่ นเปนเจาของ การฟง บทสนทนา เกีย่ วกับสัตวเ ล้ียง พดู ถาม-ตอบขอ มลู เกีย่ วกบั สตั วเลีย้ งและสงิ่ ของทต่ี นชน่ื ชอบ - การอา นบทความเก่ยี วกบั สัตวแสนรู การเขยี นบรรยายสัตวเลี้ยงของตนเอง การนาํ เสนอขอมลู สัตว แสนรูทงั้ ในประเทศกลุมอาเซียนและประเทศทว่ั โลก 4. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค 1. นักเรียนมรี ะเบยี บวนิ ยั ในการทํางาน 2. นกั เรยี นมีความรบั ผิดชอบ 3. นกั เรยี นมีความมุงมน่ั ในการทํางาน 5. สมรรถนะสําคัญของผูเ รียน ความสามารถในการสอ่ื สาร ความสามารถในการคิด 6. สาระการเรยี นรู - รคู ําศพั ท การออกเสียง โครงสรา งประโยค - หนา ท่ที างภาษาและ วัฒนธรรมเก่ียวกับสตั วแ ละสงิ่ ของที่ตนเปน เจา ของโดยผา นการฝก ทักษะการระบุประโยคใหส มั พันธกบั ภาพ - การอานออกเสยี งและการอานบทสนทนาเก่ียวกับส่งิ ของท่ีตนเปน เจาของ การฟงบทสนทนา เก่ยี วกับสตั วเล้ยี ง พดู ถาม-ตอบ 7. ภาระงาน / ช้นิ งาน - แบบฝกหดั ขอ F ในหนงั สอื แบบฝก หดั New World 1 หนา 23 (ดูเฉลยทายเลม) หลังจากเสร็จสิน้ การ ทํากิจกรรม About the Conversation 8. กิจกรรมการเรียนรู

1. นาํ เขาสูบ ทเรียน - ครูใหนักเรียนดูสมารทโฟนของครูแลวพูดกับนักเรียนวา I have a smartphone. I don’t have a video game console. ครถู ามนกั เรียนดังนี้ - What things do you have? - What pets do you have? - ครถู ามนักเรยี นบางคนดังนี้ - Do you have a cat? - Do you have a motorcycle? - ครูสุม ถามนักเรยี นเพ่อื ใหไดคําตอบทงั้ Yes, I do. และ No, I don’t. 2. แจงจดุ ประสงคการเรยี นรู - ครบู อกนักเรียนวา ในหนว ยการเรยี นรนู ้ีนกั เรียนจะตองสามารถถาม-ตอบเก่ียวกบั สงิ่ ของทต่ี นเปน เจา ของได กจิ กรรม Grammar กิจกรรมกอนพดู 1. ทบทวนความรูเ ดมิ ดานคําศพั ท - ครูใหน ักเรียนดูภาพสัตวและส่ิงของจากกจิ กรรม Grammar B ในหนังสือเรียน หนา 36 จากน้ันครชู ีท้ ีละ ภาพตามลําดบั จากขอ 1 ถึง 6 แลวถามนกั เรียนดังนี้ - What is this? - Do you have ? (สตั วห รือส่ิงของในภาพ) 2. ทบทวนความรเู ดมิ ดานโครงสรางประโยค - ครูเขียนคําวา watch และ laptop บนกระดานแลว ใหน กั เรยี นแตงประโยคคําถามถามครู โดยใช โครงสรางประโยค Verb have ครตู อบคําถามโดยใชป ระโยคแบบสมบูรณ - ครูเขียนประโยคคาํ ถามของนักเรยี นและประโยคคาํ ตอบบนกระดาน ดังน้ี Ss: Do you have a watch? T: No, I don’t have a watch. Ss: Do you have a laptop? T: Yes, I have a laptop. - ครเู ขยี นคาํ วา Jeans, car และ blu-ray player บนกระดานแลวใหน ักเรยี นจบั คกู บั เพอื่ นเพอื่ ให นักเรยี นสลบั กนั ถาม-ตอบโดยใชโครงสรา งประโยค Verb have และใชข อมูลของนักเรยี นตามความ เปนจริงในการตอบคําถาม กจิ กรรมการพดู 1. อธบิ ายวธิ ีการทํากจิ กรรม - ครูอา นออกเสียงคําส่งั กจิ กรรม Grammar B ในหนงั สือเรียน หนา 36 ครูอธบิ ายวธิ ีการทํากิจกรรมแลว ใหน ักเรยี นอาสาสมคั ร 2 คนอา นตัวอยางบทสนทนาที่ใหม า - ครสู าธิตวิธีการทาํ กิจกรรมโดยเขยี นคาํ วา camera บนกระดาน แลวใหน ักเรียน 2 คนพูดถาม-ตอบตาม ตั ว อ ย า ง บทสนทนาทใ่ี หมาแตเ ปลย่ี นคาํ ศพั ทจาก laptop เปน camera ดงั น้ี A: Do you have a camera?

B: Yes, I do. It’s a Samsung. - ครูใหน ักเรยี นจบั คูกบั เพอ่ื นเพ่ือทาํ กจิ กรรม Grammar B ครเู ดินสาํ รวจการทํากจิ กรรมของนกั เรยี น 1. นําเขา สบู ทเรยี น - ครูใหน ักเรยี นเปด หนังสือเรยี น หนา 34 ครอู า นออกเสยี งหัวขอกจิ กรรม Listening - ครูใหนักเรียนดภู าพหญงิ วัยรุน กบั แมวในหนังสือเรียนหนาเดิมแลว ใหนักเรียนพดู บรรยายเกี่ยวกับภาพ โดย ครูใชคาํ ถามเปนตัวกระตนุ ดงั น้ี - What do you see in this picture? - ครูใหนักเรยี นคาดเดาสิ่งท่จี ะไดเ รยี นในบทเรยี นน้ี โดยถามนกั เรยี นดังน้ี - What do you think this section is about? - What do you think you are going to listen to? 2. แจง จุดประสงคการเรยี นรู - ครบู อกนักเรียนวาในหนวยการเรยี นรนู ้ีนกั เรยี นตอ งสามารถตอบคาํ ถามจากการฟงบทสนทนาเก่ยี วกับ สตั วเล้ยี งได กิจกรรม Listening กิจกรรมกอ นฟง 1. เสรมิ สรา งความรดู า นคําศัพท - ครูใหน ักเรียนอาสาสมัครอานออกเสียงคําส่งั และโจทยข องกิจกรรม Listening ในหนังสอื เรยี นหนา เดิม ครู ใหน ักเรยี นในชน้ั เรียนอา นตามในใจ - ครูอธบิ ายคําศพั ทใหมท่อี ยูในบทสนทนาเกีย่ วกบั สตั วเลย้ี งที่นักเรียนกําลังจะไดฟง คือคําวา trouble (ดู ขอ มูลดา น คําศัพท) 2. ต้งั จุดประสงคการฟง - ครูใหนักเรียนใชโ จทยข องกิจกรรม Listening เปน จุดประสงคของการฟง คอื ใหน ักเรียนฟงเพ่ือหา ขอ มลู วาประโยคในโจทยก ลาวถกู ตองหรือไม กจิ กรรมระหวางฟง 1. ฟงบทสนทนา - ครูใหนกั เรียนปดหนังสือเรยี นและใหฟ งซีดบี นั ทึกเสยี ง CD 1 Track 36 กิจกรรม Listening เพือ่ ฟง บท สนทนาในภาพรวม - ครูใหน ักเรียนเปดหนงั สือเรยี น หนา 34 จากนน้ั ครูใหน ักเรียนฟง ซดี ีบนั ทึกเสียง รอบที่ 2 พรอมกบั หา ขอ มูลท่ีคาํ ตอบโดยจดบนั ทึกเปนคําสาํ คัญลงกระดาษ กิจกรรมหลังฟง 1. ตรวจสอบความเขาใจการฟง บทสนทนา - ครใู หน ักเรียนฟง ซดี บี นั ทกึ เสียง รอบท่ี 3 พรอมกบั เขยี นคําตอบลงในชอ งวางหนา ขอคําถามของ กจิ กรรม Listening - ครูใหน ักเรียนแกไ ขประโยคท่ีนักเรียนตอบ False ใหเปน ประโยคทถี่ ูกตอ ง - ครใู หน กั เรยี นจับคูกับเพือ่ นเพื่อเปรยี บเทียบคาํ ตอบของกันและกัน

- ครูใหนกั เรียนฟง ซีดบี ันทกึ เสยี ง รอบที่ 4 เพื่อตรวจทานคําตอบ - ครูใหน ักเรียนอาสาสมัครบอกคําตอบและออกมาเขียนแกไขประโยคทตี่ อบ False ใหเปน ประโยคทีถ่ ูกตอง บนกระดาน (ดูเฉลยทายเลม) 9. การวดั และการประเมนิ ผล - ประเมินการทําแบบฝก หดั - สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรใู นชวงการทาํ กจิ กรรม - ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค - ประเมินผลการอภปิ รายเกย่ี วกบั สถานท่ีทองเที่ยว ประวัตศิ าสตร และวฒั นธรรมของประเทศไทย แลว นําขอ มูลมาสรา งเกมกระดาน 10. สือ่ / แหลงการเรยี นรู 1. หนงั สือเรยี น New World 1 หนา 33 2. ซีดบี ันทึกเสยี ง 3. เคร่อื งเลนซีดี แผนการจัดการเรียนรทู ี่ 10 กลมุ สาระการเรียนรูภาษาตางประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (อ21102) ชั้นมัธยมศกึ ษาปท ่ี 1 หนวยการเรยี นรทู ่ี 7 Do you have a table ? เร่ือง Short form เวลา 2 ช่วั โมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศึกษา 2563 สอนวันท่ี 15 มีนาคม พ.ศ. 2563 ********************************************************************************** 1. สาระ มาตรฐานการเรียนร/ู ตัวช้ีวัด สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสอ่ื สาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา ใจและตีความเรื่องที่ฟง และอานจากส่ือประเภทตางๆ และแสดงความคิดเห็น อยางมีเหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอขอมูลขา วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องตา งๆ โดยการ พูดและการเขยี น ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอความใหสัมพันธก ับส่ือท่ีไมใชค วามเรยี ง (non-text information) ท่ีอาน ต 1.3 ม.1/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจําวัน ประสบการณ และ ส่ิงแวดลอมใกลต วั 2. สาระสําคัญ/ความคดิ รวบยอด

หนว ยการเรียนรนู ีม้ จี ุดมุงหมายใหน ักเรยี นเรยี นรูคําศัพท การออกเสยี ง โครงสรางประโยค หนาท่ีทาง ภาษาและ วัฒนธรรมเก่ยี วกบั สัตวและส่ิงของท่ีตนเปน เจา ของโดยผานการฝกทักษะการระบปุ ระโยคใหส ัมพันธ กับภาพ การอานออกเสียงและการอานบทสนทนาเกยี่ วกับสิ่งของท่ีตนเปน เจา ของ 3. จุดประสงคการเรียนรู - นักเรยี นเรยี นรูคําศัพท การออกเสียง โครงสรา งประโยค หนาที่ทางภาษาและ วฒั นธรรมเกีย่ วกับ สัตวและสง่ิ ของทตี่ นเปน เจาของโดยผานการฝก ทกั ษะการระบุประโยคใหสัมพันธกบั ภาพ - การอา นออกเสียงและการอานบทสนทนาเก่ยี วกับสง่ิ ของทต่ี นเปน เจา ของ การฟงบทสนทนา เก่ียวกบั สตั วเล้ียง พดู ถาม-ตอบขอ มูลเกีย่ วกบั สัตวเล้ยี งและสง่ิ ของทีต่ นช่นื ชอบ - การอา นบทความเก่ียวกับสัตวแสนรู การเขยี นบรรยายสัตวเ ล้ยี งของตนเอง การนาํ เสนอขอมลู สตั ว แสนรทู ้งั ในประเทศกลมุ อาเซียนและประเทศทั่วโลก 4. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค 1. นักเรยี นมีระเบียบวินยั ในการทํางาน 2. นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบ 3. นกั เรยี นมีความมุงมน่ั ในการทํางาน 5. สมรรถนะสําคญั ของผูเรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด 6. สาระการเรียนรู - รูคาํ ศัพท การออกเสยี ง โครงสรา งประโยค - หนาท่ีทางภาษาและ วัฒนธรรมเกย่ี วกับสัตวแ ละส่งิ ของที่ตนเปนเจา ของโดยผา นการฝก ทกั ษะการระบปุ ระโยคใหสัมพันธก ับภาพ - การอานออกเสียงและการอานบทสนทนาเก่ยี วกบั ส่ิงของที่ตนเปนเจาของ การฟง บทสนทนา เกีย่ วกับสตั วเ ลย้ี ง พูดถาม-ตอบ 7. ภาระงาน / ชน้ิ งาน - พดู ถาม-ตอบเก่ียวกบั สง่ิ ของที่ตนเป็นเจา้ ของจากการทาํ กิจกรรม Grammar B ในหนงั สอื เรยี น หนา้ 36 โดยใชแ้ บบ ประเมินการสนทนากิจกรรมคู่ 8. กจิ กรรมการเรยี นรู 1. นําเขา สบู ทเรยี น - ครสู ุมถามนักเรยี นบางคนเกี่ยวกับสัตวเ ลย้ี งและส่งิ ของทีน่ ักเรียนชื่นชอบดังน้ี - Do you have a pet?

- What is it? - What is its name? - What is your favorite animal? - Why don’t you have a pet? - Do you have a laptop? - What is your favorite possession? 2. แจง จุดประสงคการเรยี นรู - ครูบอกนักเรียนวาในหนวยการเรียนรูนี้นักเรียนตองสามารถสนทนาโตตอบขอมูลเก่ียวกับสัตวเล้ียงตัว โปรดและสิ่งของทีต่ นชื่นชอบได กิจกรรม Speaking กจิ กรรมกอ นพดู 1. ทบทวนความรดู า นคาํ ศัพท - ครถู ามนักเรียนเกยี่ วกบั สัตวเ ลย้ี งท่ีผูคนนยิ มนํามาเล้ยี งดังนี้ - What are people’s favorite pets? - ครูใหน กั เรียนชวยกันบอกเปนภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ครูเขียนคําศัพทเกี่ยวกับสัตวเลี้ยงที่นักเรียนบอก บนกระดาน - ครถู ามนักเรยี นเก่ยี วกบั สิง่ ที่ผูคนนิยมเปนเจา ของดังนี้ - What are people’s favorite possessions? - ครูใหน ักเรยี นชว ยกนั บอกเปน ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ครเู ขยี นคําศัพทเกี่ยวกับสงิ่ ของทน่ี ักเรียนบอก บนกระดาน 2. ชแ้ี จงการทาํ กจิ กรรม - ครูใหนักเรยี นอาสาสมัครอา นออกเสยี งคาํ สั่งและคําถามของกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หนา 36 แลว ใหน กั เรยี นชวยกันบอกวธิ กี ารทํากิจกรรม - ครแู บง นกั เรียนออกเปน กลุม กลุม ละ 6 คน เพือ่ ใหทํากจิ กรรม Speaking โดยการสนทนาโตตอบกับ สมาชิกภายในกลุมเกี่ยวกับสัตวเ ล้ยี งตัวโปรดและสิง่ ของท่ีตนชืน่ ชอบ - ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาเม่ือนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมเสร็จสิ้นแลวใหแตละกลุมสรุปผลการถาม-ตอบ ขอ มูลวามสี ตั วและสงิ่ ของแตล ะชนิดจํานวนเทา ไร ครูยกตวั อยา งโดยเขยี นประโยคตอไปนบี้ นกระดาน - In our group, the favorite pet of 4 students is a dog, and the favorite pet of 2 students is a cat. เปนตน 3. ทบทวนความรูเดิมดา นคาํ ศพั ท - ครูใหน ักเรียนดภู าพสัตวแ ละส่ิงของจากกจิ กรรม Grammar B ในหนังสือเรียน หนา 36 จากนั้นครชู ้ีทีละ ภาพตามลําดับจากขอ 1 ถึง 6 แลวถามนักเรียนดงั น้ี - What is this? - Do you have ? (สตั วห รอื สิง่ ของในภาพ) 4. ทบทวนความรเู ดมิ ดา นโครงสรางประโยค - ครูเขยี นคําวา watch และ laptop บนกระดานแลว ใหน กั เรียนแตง ประโยคคาํ ถามถามครู โดยใช โครงสรา งประโยค Verb have ครูตอบคาํ ถามโดยใชป ระโยคแบบสมบรู ณ - ครูเขยี นประโยคคาํ ถามของนักเรียนและประโยคคําตอบบนกระดาน ดังน้ี

Ss: Do you have a watch? T: No, I don’t have a watch. Ss: Do you have a laptop? T: Yes, I have a laptop. - ครเู ขยี นคําวา Jeans, car และ blu-ray player บนกระดานแลวใหน ักเรยี นจับคกู บั เพอื่ นเพ่อื ให นกั เรียนสลับกันถาม-ตอบโดยใชโ ครงสรางประโยค Verb have และใชขอมลู ของนักเรียนตามความ เปน จริงในการตอบคาํ ถาม ครูใหน กั เรยี นอาสาสมคั รอา นออกเสียงคาํ ส่ังและคําถามของกิจกรรม Speaking ในหนังสอื เรียน หนา 36 แลวใหนักเรยี นชว ยกนั บอกวิธีการทํากิจกรรม - ครแู บงนกั เรียนออกเปน กลมุ กลมุ ละ 6 คน เพอื่ ใหทํากจิ กรรม Speaking โดยการสนทนาโตตอบกับ สมาชกิ ภายในกลุม เกย่ี วกบั สัตวเลย้ี งตวั โปรดและสง่ิ ของที่ตนชน่ื ชอบ - ครูอธิบายเพ่ิมเติมวาเมื่อนักเรียนแตละกลุมทํากิจกรรมเสร็จส้ินแลวใหแตละกลุมสรุปผลการถาม-ตอบ ขอมลู วา มีสตั วและสง่ิ ของแตละชนดิ จํานวนเทาไร ครยู กตวั อยา งโดยเขียนประโยคตอ ไปน้ีบนกระดาน - In our group, the favorite pet of 4 students is a dog, and the favorite pet of 2 students is a cat. เปน ตน 9. การวัดและการประเมินผล - ประเมนิ การทําแบบฝกหดั - สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรูใ นชวงการทาํ กจิ กรรม - ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค 10. ส่อื / แหลงการเรียนรู 1. หนังสอื เรยี น New World 1 หนา 45 2. ซดี ีบนั ทกึ เสยี ง 3. เคร่ืองเลน ซดี ี

แผนการจดั การเรยี นรูท่ี 11 กลมุ สาระการเรยี นรูภ าษาตา งประเทศ วิชาภาษาอังกฤษ (อ21102) ช้ันมธั ยมศึกษาปท ่ี 1 หนวยการเรยี นรูท่ี 8 Who’s that? เรอ่ื ง Adjective describe people เวลา 2 ชั่วโมง ภาคเรยี นท่ี 2 ปการศกึ ษา 2563 สอนวันท่ี 22 มนี าคม พ.ศ. 2563 ********************************************************************************** 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/ ตวั ชีว้ ดั สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา ใจและตีความเรื่องท่ีฟง และอา นจากส่ือประเภทตางๆ และแสดงความคิดเหน็ อยางมีเหตผุ ล มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอมูลขา วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองตางๆ โดยการ พูดและการเขยี น ตัวชี้วัด ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบุประโยคและขอความใหส ัมพันธกบั สื่อท่ีไมใชค วามเรยี ง (non-text information) ทีอ่ า น ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาํ วัน ประสบการณ และ ส่งิ แวดลอมใกลตัว 2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด การอานจดหมาย การสนทนาแลกเปลี่ยนขอมูลเกยี่ วกับแผนการทจี่ ะทําในฤดรู อน และการเขียน จดหมายถงึ เพื่อนเพ่ือบอกแผนการท่ีจะทําในวนั หยุด 3. จดุ ประสงคการเรยี นรู

- ตอบคําถามจากการอา นบทอา น - สนทนา แลกเปลี่ยนขอมลู เกีย่ วกับแผนการที่จะทําในฤดูรอ น - เขียนจดหมายถึงเพือ่ นเพื่อบอกแผนการท่ีจะทําในวนั หยุด - ใชภาษา นํ้าเสยี ง และกิริยาทาทางสุภาพ เหมาะสมตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของเจาของภาษา - ใชภาษาสอ่ื สารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองทเี่ กิดขึ้นในหองเรียน 4. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค 1. นักเรยี นมรี ะเบียบวนิ ยั ในการทํางาน 2. นกั เรียนมีความรับผดิ ชอบ 3. นกั เรยี นมีความมุงมั่นในการทาํ งาน 5. สมรรถนะสาํ คัญของผูเรียน ความสามารถในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด 6. สาระการเรยี นรู - คาํ ถามเกยี่ วกับใจความสําคัญ เชน Wh-Questions - ภาษาที่ใชในการส่ือสารระหวางบคุ คล เชน การแลกเปลีย่ นขอมูลเกี่ยวกบั ตนเอง และกิจกรรม - ประโยคและขอความท่ใี ชในการบรรยายเกีย่ วกบั ตนเอง และสิง่ แวดลอ มใกลตวั เชน การทองเทย่ี ว - การใชภ าษา น้ําเสยี ง และกิริยาทา ทางในการสนทนา ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจาของ ภาษา - การใชภาษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจ ําลองทเ่ี กิดข้ึนในหองเรยี น 7. ภาระงาน/ ชิน้ งาน - แบบฝกหดั Unit 10b ใน Workbook หนา 81 Exs. 1-4 - แบบฝก หดั ใน Teacher’s Resource Pack & Tests (Module 10) หนา 59 Ex. 3 8. กจิ กรรมการเรยี นรู 1. นําเขาสบู ทเรียน - ครใู หนกั เรียนบอกชื่ออาชพี บุคคลทเี่ รียนในแผนการเรียนรูกอนหนา นี้ - ครใู หนกั เรียนบอกคาํ บรรยายบุคคลทเ่ี รียนในแผนการเรียนรกู อนหนา น้ี 2. แจง จดุ ประสงคการเรยี นรู

- ครบู อกนักเรยี นวาในหนวยการเรียนรนู ี้นกั เรียนจะไดเรียนรูก ารลงเสียงหนักในคํา ฝก ถาม-ตอบวาบุคคล น้ันคือใคร ถาม-ตอบเก่ียวกับอาชีพของบุคคล และเลนเกมบอกใบ (pantomime game) เก่ียวกับ อาชพี กิจกรรม Pronunciation 1. พูดออกเสยี งคํา - ครใู หนกั เรียนทาํ กิจกรรม Pronunciation ในหนงั สอื เรยี น หนา 27 ครูเปดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 26 ใหน กั เรียนฟง และชท้ี ่คี าํ ท่ไี ดย นิ - ครเู ปดซดี ีบันทกึ เสียง CD 1 Track 26 อีกครัง้ หน่งึ ใหน ักเรียนออกเสียงคาํ พรอมกันกับเสยี งที่ไดย นิ จาก ซดี ีบนั ทึกเสียง - ครใู หนกั เรียนจับคูกนั และอา นออกเสยี งคําในกิจกรรม Pronunciation ครตู รวจสอบการออกเสียงขอ นักเรียนในช้นั เรยี น กิจกรรม Practice 1. ถาม-ตอบวาบคุ คลคือใคร - ครใู หนักเรียนทํากจิ กรรม Practice ในหนงั สือเรยี น หนา 27 ครเู ปด ซดี บี ันทกึ เสยี ง CD 1 Track 27 บทสนทนาที่ 1 ใหนักเรยี นฟง และเปด ซดี บี นั ทึกเสยี งซาํ้ อกี ครั้งหน่งึ คร้งั นีใ้ หน ักเรียนฟงและพูดตาม - ครใู หน ักเรียนจบั คูกนั พูดโตตอบตามบทสนทนาที่ 1 - ครเู ขียน Is he/she ____________? บนกระดาน และบอกนักเรยี นวานค่ี ือ Yes/No Question และ เขยี นคาํ ตอบ บนกระดานคือ Yes, he/she is. หรือ No, he/she isn’t. - ครชู ี้ที่ภาพ Mrs. Tran ในหนังสอื เรียน หนา 26 และถามนกั เรียนวา Who’s that? นกั เรยี นตอบวา Mrs. Tran ครูช้ีทภี่ าพ Mrs. Tran อีก และถามวา Is she a teacher? นกั เรยี นตอบวา Yes, she is. - ครูเขยี นโครงบทพดู โตต อบบนกระดานดังนี้ A: Who’s that? B: That’s ____________. (person’s name) A: Is he/she a ______________? (occupation) B: Yes, he/she is. หรือ No, he/she isn’t. - ครูทบทวนช่ืออาชีพที่นักเรียนไดเรยี นไปแลว - ครใู หนักเรียนอาสาสมัครอานตัวอยางประโยค Question Word: Who ทีใ่ หม าในกจิ กรรม Grammar ใน หนงั สือเรยี น หนา 29 แลวอธบิ ายวา Who คือ Question Word ที่ใชเ พื่อตัง้ คาํ ถามเม่ือผถู ามตองการรู คาํ ตอบเปน บุคคล - ครใู หน กั เรียนจบั คูกัน ผลดั กันชท้ี ภี่ าพบคุ คลในหนังสือเรยี น หนา 26-27 ใชโครงบทพดู บนกระดานเปน แนวทางในการพูดโตตอบกัน 2. ประเมนิ การพูดถาม-ตอบวาบุคคลคือใคร - ครูประเมินการพูดถาม-ตอบวาบุคคลคือใครของนักเรียนแตละคูโดยใชแบบประเมินการสนทนา กิจกรรมคู และใชเ กณฑผ า นระดับพอใช 3. ถาม-ตอบเกยี่ วกับอาชีพของบุคคล - ครูใหน กั เรยี นทาํ กจิ กรรม Practice ในหนังสอื เรียน หนา 27 ครเู ปด ซีดบี นั ทึกเสียง CD 1 Track 27 บทสนทนาที่ 2 ใหน ักเรียนฟง และเปดซดี บี นั ทึกเสยี งซ้าํ อกี คร้งั หนึ่ง ครงั้ น้ีใหนักเรยี นฟงและพดู ตาม - ครใู หนักเรียนจบั คูกนั พดู โตตอบกนั ตามบทสนทนาท่ี 2

- ครูเขียน Are they _______? บนกระดาน บอกนักเรียนวานี่คือ Yes/No Question และคําตอบคือ Yes, they are. หรือ No, they aren’t. - ครูเขียน Are they famous? Yes, they are. บนกระดาน และขีดเสนใตคําวา famous ครบู อก นกั เรียนวา famous เปน adjective ซ่งึ ใชบ รรยายบคุ คล - ครใู หนกั เรียนหา Adjectives อนื่ ๆ ในคาํ บรรยายภาพในหนงั สือเรียน หนา 26-27 และเขียนรายการ Adjectives เหลานีบ้ นกระดาน popular, handsome, rich, good-looking, pretty, beautiful, fall, thin ครูบอกนักเรียนใหใชคําเหลานี้แทนที่ “famous” ในบทสนทนาท่ี 2 - ครูเขียนโครงบทสนทนาตอ ไปนีบ้ นกระดาน A: What’s his/her occupation? B: He/She is a _____________. (occupation) A: Is he/she _____________? (descriptive word) B: Yes, he/she is. - ครใู หนกั เรียนจบั คูกนั ผลัดกันชท้ี ่ภี าพบคุ คลในหนังสือเรียน หนา 26-27 ใชโครงบทพดู บนกระดานเปน แนวทางในการพดู โตตอบกนั 4. ประเมินการพูดถาม-ตอบเก่ยี วกบั อาชีพ - ครูประเมินการพูดถาม-ตอบเกี่ยวกับอาชีพของบุคคลของนักเรียนแตละคูโดยใชแบบประเมินการ สนทนากจิ กรรมคู และใชเกณฑผา นระดับพอใช 5. เลน เกมบอกใบ (pantomime game) - ครูใหนกั เรยี นรว มกจิ กรรมทางภาษาโดยเลนเกมบอกใบ ครูแบงนักเรยี นเปน 2 ทมี นักเรียนแตละคน เลอื กอาชีพและทาํ ทาทางบอกใบอาชีพใหแกทีมของตน ทีมทที่ าย เดาอาชีพได 2 คร้ัง ถาทายถูกได 1 คะแนน ทีมท่ีไดคะแนนมากท่ีสดุ เปน ผูชนะ 9. การวดั และการประเมนิ ผล - ประเมินการทําแบบฝก หัด - สังเกตพฤติกรรมการเรยี นรูใ นชว งการทาํ กจิ กรรม - ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค 10. สื่อ / แหลง การเรียนรู 1. หนังสอื เรียน New World 1 หนา 50 2. ซดี บี ันทึกเสยี ง 3. เครอ่ื งเลนซดี ี

แผนการจัดการเรยี นรูที่ 12 กลมุ สาระการเรยี นรภู าษาตางประเทศ วิชาภาษาองั กฤษ (อ21102) ชั้นมธั ยมศึกษาปที่ 1 หนวยการเรยี นรทู ี่ 8 Who’s that? เร่ือง Occupations เวลา 2 ช่วั โมง ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2563 สอนวันท่ี 29 มีนาคม พ.ศ. 2563 ********************************************************************************** 1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู/ตัวชีว้ ัด สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร มาตรฐาน ต 1.1 เขา ใจและตีความเร่ืองที่ฟง และอานจากสื่อประเภทตางๆ และแสดงความคิดเห็น อยา งมีเหตุผล มาตรฐาน ต 1.3 นาํ เสนอขอมูลขาวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองตา งๆ โดยการ พดู และการเขยี น ตัวช้ีวดั ต 1.1 ม.1/3 เลอื ก/ระบปุ ระโยคและขอความใหส ัมพันธก ับส่ือที่ไมใชค วามเรียง (non-text information) ทอี่ าน ต 1.3 ม.1/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจําวัน ประสบการณ และ สง่ิ แวดลอมใกลตวั 2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด การเลนเกมเพ่ือทดสอบความรเู ก่ยี วกับประเทศสกอตแลนด และการอภปิ รายแลกเปลีย่ นขอมูลเกี่ยวกับ สถานที่ทองเทีย่ ว ประวตั ิศาสตร และวฒั นธรรมของประเทศไทยเพ่ือสรางเกมกระดาน

3. จดุ ประสงคการเรียนรู - อภปิ รายแลกเปลย่ี นขอ มูลเกยี่ วกับสถานท่ีทองเที่ยว ประวตั ิศาสตร และวัฒนธรรมของประเทศไทย - เขา รว มกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมตามความสนใจ - ใชภ าษาสื่อสารในสถานการณจริง/สถานการณจําลองท่เี กิดขน้ึ ในหองเรยี น 4. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค 1. นกั เรียนมีระเบยี บวนิ ยั ในการทํางาน 2. นกั เรยี นมคี วามรับผิดชอบ 3. นกั เรียนมีความมุงมัน่ ในการทํางาน 5. สมรรถนะสําคญั ของผูเรยี น ความสามารถในการสอื่ สาร ความสามารถในการคิด 6. สาระการเรียนรู - ภาษาทใี่ ชใ นการสื่อสารระหวา งบุคคล เชน การแลกเปล่ียนขอมลู เกยี่ วกบั สงิ่ แวดลอมใกลตัว - กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เชน การเลน เกม - การใชภาษาส่ือสารในสถานการณจ ริง/สถานการณจาํ ลองทีเ่ กดิ ข้นึ ในหองเรยี น 7. ภาระงาน / ชนิ้ งาน เลนเกมในหนงั สือเรียน หนา 103 Ex. 1 (To learn about Scotland through playing a game) 8. กจิ กรรมการเรยี นรู 1. นําเขา สบู ทเรียน - ครูเขยี นประโยคตอ ไปนบี้ นกระดาน - Mrs. Tran is a teacher. She’s a good teacher. Her students are happy. - ครูใหนักเรียนอาสาสมัครคนหน่ึงออกมาขดี เสนใต Verb be ในประโยคบนกระดาน และใหน ักเรยี นคน อ่ืน ๆ ตรวจสอบ ความถกู ตอง Verb be ที่ขีดเสนใตม ีดังนี้ - Mrs. Tran is a teacher. She’s a good teacher. Her students are happy. - ครูใหนักเรียนอาสาสมคั รอีกคนหนง่ึ ออกมาขีดเสนใต 2 เสนใต Possessive Adjectives ท่ีมีอยใู นประโยค บนกระดาน และใหน กั เรยี นคนอื่น ๆ ตรวจสอบความถกู ตอง Possessive Adjectives ทขี่ ดี เสนใตมี ดังนี้ - Mrs. Tran is a teacher. She’s a good teacher. Her students are happy.

- ครใู หนักเรยี นอาสาสมคั รอกี คนหนง่ึ ออกมาเขยี นวงรอบ Adjectives ทใ่ี ชบ รรยายบคุ คลในประโยคบน กระดาน และใหน ักเรยี นคนอื่น ๆ ตรวจสอบความถกู ตอ ง Adjectives ท่เี ขยี นวงลอมรอบมีดงั น้ี - Mrs. Tran is a teacher. She’s a good teacher. Her students are happy. 2. แจงจดุ ประสงคการเรยี นรู - ครูบอกนักเรยี นวา ในหนวยการเรียนรนู ้นี ักเรียนจะไดเรยี นรูหลักการใช Verb be, Present tense ใน ประโยคบอกเลา คําถามประเภท Yes/No Question และประโยคตอบรับและการปฏเิ สธ ทบทวนการ ใช Possessive Adjectives และ Adjectives ทีใ่ ชบ รรยายบุคคล เพ่ือท่ีจะใชไวยากรณเหลานี้ในการพูด โตตอบเกีย่ วกับบคุ คลที่เปนเปาหมายของการสนทนา กิจกรรม Grammar 1. อธบิ ายหลักการใช Present tense ของ Verb be - ครเู ขยี นประโยคตอไปนบ้ี นกระดานเพื่อใหนักเรียนเหน็ อีกรูปกรยิ าหนึง่ ของ be คอื am, is และ are I am famous You are He is She is It is We are They are - ครใู หนักเรียนผลดั กันพดู ประโยคคําถามของประโยคบนกระดาน โดยสลับท่ีประธานและกริยาของประโยค ดงั ตวั อยา งตอไปน้ี - Am I famous? - Are you famous? - Is he famous? - ครูใหนักเรียนตรวจสอบประโยคคําถามที่นักเรียนพูดกับประโยคคําถามในคอลัมนบนซายใน กรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หนา 29 - ครูใหนักเรียนดูประโยคตอบรับและตอบปฏิเสธแบบส้ันในคอลัมนบนตรงกลางและขวาใน กรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หนา 29 และอธบิ ายเพ่ิมเติมโดยเขียนบนกระดาน แสดงใหเห็นวาใน การตอบปฏิเสธแบบสั้น นอกจากใชรูปประโยคแบบที่มีอยูในหนังสือเรียนแลว ยังอาจตอบปฏิเสธได ดังน้ี - No, he’s not. - No, she’s not. - No, it’s not. - No, we’re not.

- No, you’re not. - No, they’re not. - ครใู หนักเรียนปด หนงั สือเรียน บอกนกั เรียนวาครูจะถามคาํ ถามในคอลัมนบ นซา ย และใหสญั ญาณตอบ Yes โดยผงกศีรษะ ครูถามและชี้ใหนกั เรยี นตอบทีละคนดงั น้ี T: Am I famous? (ส่นั ศรี ษะ) S: No, you aren’t. T: Is she famous? (ผงกศีรษะ) S: Yes, she is. T: Are they famous? (ส่นั ศีรษะ) S: No, they’re not. ฯลฯ ในกรณีท่ีตอบปฏเิ สธ ครูขอใหน กั เรียนฝก ใชท้งั 2 รปู ประโยคปฏเิ สธ - ครใู หน ักเรียนทาํ กิจกรรม Grammar A ในหนังสอื เรียน หนา 29 ครูอานออกเสียงคําสัง่ และใหน กั เรยี น อานในใจตาม ครอู า นออกเสียงประโยคคําถามและคําตอบขอ 1 ซ่ึงเปนประโยคตวั อยาง ใหนกั เรียน อานในใจตามและทําความเขาใจวา ทําไมจึงตองตอบปฏเิ สธ - นกั เรียนจบั คูกนั เปรียบเทียบคําตอบ และครใู หนักเรยี นผลดั กนั อา นออกเสียงคําถามและคําตอบ (ดู เฉลยทายเลม ) 2. อธิบายหลักการใช Possessive Adjectives - ครใู หน ักเรยี นชี้ Possessive Adjectives ในขอ ความบรรยายบุคคลที่ครเู ขียนไวบนกระดาน - Mrs. Tran is a teacher. She’s a good teacher. Her students are happy. - ครูใหนักเรยี นดู Possessive Adjectives ที่อยตู อนกลางของกรอบ Grammar ในหนงั สอื เรียน หนา 29 ชใ้ี หน กั เรยี นดู Possessive Adjectives ทเ่ี ปนรูป Singular และ Plural - ครใู หนักเรยี นดูรปู ภาพบุคคลดา นบนของกจิ กรรม Grammar B ในหนังสือเรยี น หนา 30 ซงึ่ เปนภาพที่ ใชเปนตัวอยางการทํากจิ กรรมมีคําวา “she” - ครใู หนักเรียนคูหน่ึงอานออกเสียงตัวอยางบทสนทนาทีก่ ําหนดให - ครูใหนกั เรยี นขีดเสน ใตคําวา “she” และ “her” ในบทสนทนา แลวเนนย้าํ ใหน ักเรียนใช Possessive Adjectives ใหส ัมพันธกบั Pronouns - ครชู ท้ี ภี่ าพในขอ 1 ใหนักเรียนถามถึงอาชีพของผชู ายในภาพ ดังน้ี - What’s his occupation? - ครชู ี้ที่ภาพ 2, 3 และตอ ๆ ไปจนครบ 6 ภาพ เพื่อใหน ักเรียนถามถึงอาชีพของแตละบุคคลโดยใช Possessive Adjectives - ครใู หนกั เรยี นจับคูกันทํากจิ กรรม Grammar B ในหนังสือเรยี น หนา 30 แตละคนพูดโตต อบกันโดยใช บทพดู โตต อบในหนังสือเรียนเปน แบบอยางและสลับบทบาทกนั ดวย - ครูใหนักเรียนแตละคูผลัดกันออกมาพูดโตตอบตามภาพท่ีเปนตัวกระตุนแตละภาพ นักเรียนคน อืน่ ๆ ในช้นั เรียนชว ยกนั ตรวจสอบความถูกตอง (ดูเฉลยทา ยเลม) 3. พูดขอและใหข อมูลเก่ียวกับบุคคล - ครใู หนกั เรียนจบั คูกนั ทํากจิ กรรม Grammar C ใหน ักเรียนนําคาํ ที่กําหนดใหไ ปเตมิ ลงในชองวางในบท สนทนา - ครูใหนักเรียนแตละคูจับคูกับอีกคูหนึ่งเพื่อเปรียบเทียบคําตอบกัน และรวมอภิปรายเกี่ยวกับความ เหมาะสมของคําในชองวา งแตละชอง

- ครใู หน กั เรยี นคูห น่ึงออกมาอานออกเสยี งบทสนทนาทีเ่ ตมิ คําลงในชอ งวางเรยี บรอยแลว (ดเู ฉลยทา ย เลม) กจิ กรรมนาํ สกู ารเรยี น 1. นาํ เขา สูบ ทเรียน - ครูเขียนคาํ ตอไปนี้บนกระดาน teacher happy favorite good-looking - ครูออกเสียงคําโดยเนน การลงเสยี งหนกั ในคํา ใหนักเรยี นพูดตามซ้ําหลาย ๆ ครงั้ 2. แจง จดุ ประสงคการเรยี นรู - ครบู อกนกั เรียนวาในหนวยการเรียนรูน้ีนักเรียนตองสามารถอานออกเสียงบทสนทนาเก่ียวกับอาชีพครู ถกู ตอ งตามหลักการอา นไดแ ละสามารถระบุประโยคบรรยายลกั ษณะบุคคลใหส มั พันธกับภาพได กิจกรรม Conversation 1. อา นออกเสยี ง - ครูเปดซีดบี นั ทึกเสียง CD 1 Track 28 กจิ กรรม Conversation ใหน กั เรียนฟง อีกครั้งหน่ึง หยุดซดี ี บันทกึ เสียงเม่ือจบคําพูดของแตละบคุ คล ใหนักเรยี นพูดตามเบา ๆ - ครูใหน ักเรียนอาสาสมัคร 2 คน ออกมาอานออกเสียงบทสนทนาหนาชั้นเรียน - ครูใหน กั เรียนจบั คูกันฝกอานออกเสยี งบทสนทนาและอา นออกเสียงใหครูฟง เมอื่ พรอมแลว 2. ประเมนิ การอานออกเสียง - ครูประเมินการอานออกเสยี งบทสนทนาเก่ียวกับอาชีพครูที่ถกู ตองตามหลักการอานจากการทํากจิ กรรม 9. การวัดและการประเมินผล - ประเมนิ การทําแบบฝกหัด - สังเกตพฤติกรรมการเรียนรูในชว งการทํากจิ กรรม - ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค 10. สือ่ / แหลง การเรยี นรู 1. หนังสอื เรียน New World 1 หนา 56 2. ซดี ีบนั ทกึ เสยี ง 3. เครื่องเลน ซีดี