หน่วยที่ 1ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาด
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 2 หน่วยท่ี 1 ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาดสาระสําคญั การตลาดมีความสําคญั ต่อการดาํ เนินชีวิตประจาํ วันของคนในสังคมปัจจุบัน ต้ังแต่เกิดจนตาย เพราะคนหรือธุรกิจในสังคมต่างแสวงหาสินค้าหรือบริการต่าง ๆ มาตอบสนองความต้องการ เพื่อให้ชีวิตสามารถดาํ รงอยู่ได้อย่างมีความสุข ยุคที่การดาํ เนินธุรกิจการคา้ มีการแข่งขนั กันอย่างรุนแรง ประกอบกับความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทาํ ใหผ้ ปู้ ระกอบการตอ้ งมคี วามรอบรู้ มวี ิสยั ทศั น์และรู้จกัพฒั นาการคา้ ใหท้ นั กบั การเปล่ยี นแปลงที่เกิดข้ึนตลอดเวลาหัวข้อเร่ือง 1. ความหมายของการตลาด 2. ความสาํ คญั ของการตลาด 3. อรรถประโยชน์ของการตลาดท่ีมตี ่อผบู้ ริโภค 4. ส่วนผสมทางการตลาด 5. ปรัชญาการจดั การทางการตลาด 6. แนวคิดหลกั ทางการตลาดจดุ ประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงคท์ ว่ั ไป 1. เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมายของการตลาด 2. เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความสาํ คญั ของการตลาด 3. เพื่อใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั อรรถประโยชนข์ องการตลาดที่มีต่อผบู้ ริโภค 4. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ส่วนผสมทางการตลาด 5. เพือ่ ใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ปรัชญาการจดั การทางการตลาด 6. เพื่อใหม้ ีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั แนวคิดหลกั ทางการตลาด
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 3 จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 1. อธิบายความหมายของการตลาดได้ 2. อธิบายความสาํ คญั ของการตลาดได้ 3. อธิบายอรรถประโยชน์ของการตลาดที่มตี ่อผบู้ ริโภคได้ 4. บอกส่วนผสมทางการตลาดได้ 5. บอกปรัชญาการจดั การทางการตลาดได้ 6. อธิบายแนวคิดหลกั ทางการตลาดได้ 7. วิเคราะห์ปรัชญาการจดั การทางการตลาดได้ 8. สามารถนาํ ความรู้เร่ืองการตลาดและความสาํ คญั ของการตลาดมาประยกุ ตใ์ ชใ้ น การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดได้ 9. ปฏบิ ตั ิงานร่วมกบั ผอู้ ่นื ไดเ้ ป็นอยา่ งดี10. มีความรับผดิ ชอบต่องานที่ไดร้ ับมอบหมาย
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 4 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยท่ี 1 ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาดวตั ถุประสงค์ เพือ่ ประเมินผลความรู้เดิมของนกั ศึกษาเก่ียวกบั เรื่อง ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาดคาํ แนะนํา อ่านคาํ ถามต่อไปน้ีทีละขอ้ แลว้ ทาํ เครื่องหมาย หนา้ คาํ ตอบตามตวั เลอื ก ที่เห็นว่าถกู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว นกั ศึกษามีเวลาในการทาํ แบบประเมินชุดน้ี 10 นาทีจดุ ประสงค์ที่ 1 อธิบายความหมายของการตลาดได้1. Kotler and Keller ใหค้ าํ จาํ กดั ความของการตลาดไวต้ มขอ้ ใด ก. การตลาดเป็นหนา้ ท่ีทางธุรกิจ ข. การตลาดเป็นวถิ ที างนาํ ไปสู่ผลสาํ เร็จ ค. การตลาดเป็นขบวนการคน้ หาความจาํ เป็นและความตอ้ งการของมนุษย์ ง. การตลาดเป็นกิจกรรมทางธุรกิจท่ีทาํ ใหส้ ินคา้ และบริการผา่ นจากผผู้ ลิตไปสู่ผบู้ ริโภค จ. กระบวนการทางสงั คมและการบริหาร ทาํ ใหบ้ ุคคลและกลมุ่ บุคคลไดร้ ับส่ิงที่สนอง ความจาํ เป็นและความตอ้ งการจุดประสงค์ท่ี 2 อธบิ ายความสําคญั ของการตลาดได้2. ขอ้ ใดท่ีถอื วา่ เป็นความสาํ คญั ของการตลาดที่มตี ่อบุคคล ก. การตลาดช่วยยกระดบั มาตรฐานการกินดีอยดู่ ีมากข้ึน ข. การตลาดช่วยทาํ ใหร้ ะบบการเงินในธุรกิจมสี ภาพคล่องมากข้ึน ค. การตลาดช่วยในการทาํ งานมกี ารประสานกนั ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ง. การตลาดช่วยกระตุน้ ใหธ้ ุรกิจเกิดการศึกษาคน้ ควา้ และประดิษฐส์ ิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ จ. การตลาดช่วยสร้างกาํ ไรใหก้ บั องคก์ รทางธุรกิจต่าง ๆ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคใ์ หไ้ ดร้ ับ กาํ ไรสูงสุดจุดประสงค์ที่ 3 อธิบายอรรถประโยชน์ของการตลาดทมี่ ตี ่อผู้บริโภคได้3. ทุเรียนทอดจดั เป็นอรรถประโยชนใ์ นดา้ นใด ก. ดา้ นเวลา ข. ดา้ นรูปแบบ ค. ดา้ นสถานที่ ง. ดา้ นภาพลกั ษณ์ จ. ดา้ นความเป็นเจา้ ของ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 54. “ร้านสะดวกซ้ือ” จดั เป็นอรรถประโยชน์ในดา้ นใด ก. ดา้ นเวลา ข. ดา้ นรูปแบบ ค. ดา้ นสถานที่ ง. ดา้ นภาพลกั ษณ์ จ. ดา้ นความเป็นเจา้ ของจดุ ประสงค์ที่ 4 บอกส่วนผสมทางการตลาดได้5. การจดั จาํ หน่าย (Place) ตอ้ งคาํ นึงถึงการตอบสนองลกู คา้ ดา้ นใด ก. Cost ข. Concept ค. Customer ง. Convenience จ. Communication6. ขอ้ ใดไม่ใช่ ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) ก. Price ข. Place ค. Promotion ง. Production จ. Distributionจดุ ประสงค์ที่ 5 บอกปรัชญาการจดั การทางการตลาดได้7. ปริมาณความตอ้ งการของสินคา้ มีมากกว่าปริมาณการผลติ ถือเป็นปรัชญาการจดั การทาง การตลาด ตามขอ้ ใด ก. แนวความคิดดา้ นการผลติ ข. แนวความคิดดา้ นการขาย ค. แนวความคิดดา้ นการตลาด ง. แนวความคิดดา้ นผลติ ภณั ฑ์ จ. แนวความคิดดา้ นภาระความรับผดิ ชอบต่อสงั คมและมนุษยชาติ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 68. ขอ้ ใดถอื ว่าเป็นลกั ษณะของแนวความคิดดา้ นการตลาดเพือ่ สงั คม ก. บริษทั ยง่ิ พฒั นา จาํ กดั ขายสินคา้ ที่ทนั สมยั รูปแบบแปลกใหม่ ข. บริษทั จงเจริญ จาํ กดั ขายสินคา้ โดยเนน้ ท่ีความตอ้ งการของลกู คา้ เป็นหลกั ค. บริษทั มารวย จาํ กดั เสนอสินคา้ ตวั ใหม่ออกมา เพือ่ เนน้ รูปแบบการขายใหม่ ง. บริษทั เจริญพฒั นา จาํ กดั ออกสินคา้ ตวั ใหม่ออกมา โดยสินคา้ ไมท่ าํ ลายส่ิงแวดลอ้ ม และผใู้ ช้ จ. บริษทั จรวย จาํ กดั พยายามเปลย่ี นแนวทางในกรรมวิธีการผลติ ใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มศกั ยภาพ ในการผลติ ใหส้ ูงข้ึนจดุ ประสงค์ท่ี 6 อธบิ ายแนวคดิ หลกั ทางการตลาดได้9. นางสาวพิมพา ซ้ือดอกกหุ ลาบใหเ้ พอ่ื นในวนั วาเลนไทน์ ตรงกบั ความจาํ เป็นขอ้ ใด ก. ความจาํ เป็นส่วนบุคคล ข. ความจาํ เป็นดา้ นสงั คม ค. ความจาํ เป็นทางร่างกาย ง. ความจาํ เป็นดา้ นบุคลิกภาพ จ. ความจาํ เป็นดา้ นความเป็นอยู่10. ผบู้ ริโภคซ้ือโทรศพั ทม์ ือถือยห่ี อ้ แอปเป้ิ ล เพราะความมีชื่อเสียง เคร่ืองหมายการคา้ และ ความสวยงามซ่ึงมีราคาแพง ตรงกบั แนวคิดหลกั ทางการตลาดขอ้ ใด ก. คุณค่า ข. ความจาํ เป็น ค. ความตอ้ งการ ง. ความพึงพอใจ จ. ความตอ้ งการซ้ือ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 7เนื้อหาสาระ มนุษยส์ ามารถเรียนรู้หลายส่ิงหลายอยา่ งเกี่ยวกบั การตลาดได้เพราะการตลาดอยรู่ อบตวั เราโดยอาจเห็นการตลาดในรูปของผลติ ภณั ฑต์ ่าง ๆ ท่ีวางจาํ หน่ายอยใู่ นร้านขายของชาํ ซุปเปอร์เซ็นเตอร์หรือหา้ งสรรพสินคา้ ในลกั ษณะของการโฆษณา แมว้ า่ การตลาดจะอยรู่ อบตวั เราไมว่ า่ จะเป็นที่บา้ นท่ีทาํ งานหรือท่ีไหน ๆ ก็ตาม การตลาดน้ันมีมากกว่าสิ่งท่ีคนเราสามารถเห็นไดด้ ้วยตา เพราะการตลาดมเี ครือข่ายที่เกี่ยวขอ้ งกบั คนกลุม่ ต่าง ๆ และกิจกรรมการแข่งขนั ในหลาย ๆ รูปแบบ เพ่ือกระตุน้ ความสนใจของลกู คา้ ใหต้ ดั สินใจซ้ือสินคา้ และบริการในที่สุด1. ความหมายของการตลาด นกั วิชาการไดใ้ หค้ วามหมายของคาํ วา่ “การตลาด (Marketing)” ไวห้ ลายท่าน ดงั น้ี ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ (2552 : 17 อา้ งจาก Kotler and Keller, 2009 : 787) ใหค้ วามหมายของการตลาดว่า การตลาด หมายถงึ กระบวนการทางสงั คมและการบริหาร.(Social.and.ManagerialProcess) ซ่ึงแต่ละบุคคลและกลมุ่ บุคคลไดร้ ับส่ิงที่สนองความจาํ เป็น และความตอ้ งการของเขาจากการสร้าง การเสนอ และการแลกเปลีย่ นผลติ ภณั ฑแ์ ละบริการท่ีมคี ุณค่ากบั บุคคลอ่นื ไดอ้ ยา่ งเสรี นภวรรณ คณานุรักษ์ (2552 : 1-12 อา้ งจาก Kotler, 2008 : 8) ใหค้ วามหมายของการตลาดว่าการตลาด หมายถึง การจดั การตลาดเพื่อก่อใหเ้ กิดการแลกเปลยี่ นที่สามารถตอบสนองความจาํ เป็ นและความอยากของบุคคลได้ รณชัย..ตันตระกูล (2551.:.1).ให้ความหมายของการตลาดว่า การตลาด หมายถึงกระบวนการทางสังคมและการบริหารจดั การท่ีมีต่อความจําเป็ น (Needs) และความตอ้ งการ(Wants) ของบุคคลและกลมุ่ บุคคลโดยผา่ นการนาํ เสนอ (Offering) การสร้างสรรค์ (Creating) และการแลกเปลี่ยน (Exchanging) ผลิตภณั ฑแ์ ละคุณค่ากบั สิ่งอ่นื ๆ สรุ ปได้ว่า การตลาด หมายถึง กระบวนการทางสังคมและการจัดการที่มุ่งสนองความจําเป็ นและความต้องการให้กับบุคคลและกลุ่มต่าง ๆ โดยอาศยั การสร้างสรรค์และการแลกเปลยี่ นผลติ ภณั ฑแ์ ละคุณค่ากบั สิ่งอื่น ๆ
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 8 ภาพที่ 1.1 ฟิ ลลปิ คอตเลอร์ (Phillip Kotler) บิดาแห่งการตลาด ท่ีมา : http://mblog.manager.co.th/ joenida2003/Through-Marketing-Lens สืบคน้ เมอื่ วนั ท่ี 25 พฤษภาคม 25552. ความสําคญั ของการตลาด การตลาดมีบทบาทสาํ คญั ต่อการดาํ เนินชีวติ ของมนุษยแ์ ละยกระดบั ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ในสงั คม ดงั น้นั การตลาดจึงมีความสาํ คญั ต่อองคก์ รธุรกิจ ระบบเศรษฐกิจของประเทศชาติ และต่อบุคคล โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี 2.1 ความสําคญั ต่อองค์กรธุรกจิ 2.1.1 การตลาดเป็นเคร่ืองมือช่วยสร้างรายไดแ้ ละกาํ ไรให้กบั องค์กร คือ เม่ือกิจการผลิตสินคา้ ออกสู่ตลาดและจาํ หน่ายได้ ส่งผลใหก้ ิจการมีรายได้ สามารถนาํ เงินที่ไดจ้ ากการจาํ หน่ายสินคา้ ไปลงทุนทาํ การผลติ สินคา้ ออกสู่ตลาด สร้างรายไดแ้ ละกาํ ไรแก่กิจการ หมนุ เวยี นเป็นวฎั จกั ร 2.1.2 การตลาดช่วยสร้างคุณค่าให้กับสินค้า ช่วยสร้างภาพพจน์ ค่านิยมและการยอมรับในสินคา้ การท่ีกิจการพฒั นาคุณภาพของสินค้าและรักษาช่ือเสียงของกิจการทาํ ให้ภาพพจนข์ องกิจการไดร้ ับการยอมรับสินคา้ ส่งผลใหก้ ิจการมีรายไดแ้ ละผลกาํ ไร
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 9 2.1.3 การตลาดช่วยลดตน้ ทุนต่อหน่วยในการผลิต เนื่องจากมกี ารผลติ เป็นจาํ นวนมากส่งผลให้ตน้ ทุนการผลิตลดลง สามารถเสนอขายสินคา้ หรือบริการไดใ้ นราคาที่ต่าํ กว่าคู่แข่งขันเมื่อการตลาดเกิดการขยายตวั กิจการสามารถเพม่ิ ปริมาณการผลติ มากข้ึน 2.1.4 การตลาดช่วยกระตุ้นใหธ้ ุรกิจเกิดการศึกษาค้นควา้ และประดิษฐ์สิ่งแปลก ๆใหม่ ๆ ให้มีคุณภาพท่ีดี เป็ นที่ตอ้ งการของตลาดมากข้ึน เนื่องจากความต้องการของผบู้ ริโภคมีการเปลย่ี นแปลงอย่ตู ลอดเวลา กิจการจึงตอ้ งศึกษาความตอ้ งการของผบู้ ริโภค แลว้ นาํ ขอ้ มลู ที่ได้ไปพฒั นาและปรับปรุงสินคา้ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค ทาํ ใหเ้ กิดสินคา้ หรือบริการที่แปลกใหมต่ อบสนองผบู้ ริโภคตลอดเวลา ในการดาํ เนินธุรกิจ การตลาดถอื เป็นเคร่ืองมือที่สาํ คญั ที่ทาํ ให้ธุรกิจดาํ เนินงานอย่รู อดในตลาด ท้งั ยงั สร้างความเจริญเติบโตและพฒั นาการทางเศรษฐกิจของประเทศ เน่ืองจากการตลาดเป็ นตวั กระตุน้ ให้เกิดการพฒั นาสิ่งแปลกใหม่มาสนองความต้องการและความพึงพอใจให้แก่ผบู้ ริโภค 2.2 ความสําคญั ต่อระบบเศรษฐกจิ ของประเทศชาติ 2.2.1..การตลาดช่วยยกระดบั มาตรฐานการครองชีพของประชากรให้สูงข้ึนดว้ ยการที่กิจการผลิตสินคา้ ที่ทนั สมยั ตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภค ทาํ ให้มีสินคา้ ท่ีทนั สมยัเทคโนโลยชี ่วยใหป้ ระชาชนไดร้ ับความสะดวกสบาย ทาํ ใหเ้ กิดการซ้ือเพิ่มข้ึน 2.2.2 การตลาดช่วยใหร้ ายไดป้ ระชากรสูงข้ึน จากการท่ีตลาดช่วยสร้างความตอ้ งการซ้ือสินคา้ หรือบริการ ทาํ ใหก้ ิจการตอ้ งเพิ่มปริมาณการผลิต เพื่อใหเ้ พียงพอกบั ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค จึงเกิดการจา้ งงานเพิ่มข้ึน รองรับการขยายตวั ของกาํ ลงั การผลิต ส่งผลให้ประชากรมีงานทาํ มรี ายไดเ้ พ่มิ มากข้ึน อาํ นาจซ้ือกเ็ พ่มิ ข้ึนดว้ ย ทาํ ใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศชาติมีความมนั่ คงเช่น โรงงานผลิตน้ําองุ่นกระป๋ อง ประสบความสาํ เร็จในการส่งออกน้ําองุ่นกระป๋ อง ส่งผลให้โรงงานตอ้ งจา้ งพนกั งานเพิ่มข้ึน เป็นตน้ 2.2.3 การตลาดช่วยสร้างความต้องการในสินค้าและบริ การ เนื่องจากมีการนําเทคโนโลยสี มยั ใหม่มาช่วยในการผลติ ทาํ ใหก้ ารผลิตมีประสิทธิภาพสูงข้ึน ตอบสนอง ความตอ้ งการของตลาดมากข้ึน ประกอบกบั ระบบการจาํ หน่ายมีการพฒั นา ทาํ ให้เกิดช่องทาง การจดัจาํ หน่ายใหม่ ๆ ส่งผลใหเ้ กิดการตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภคไดร้ วดเร็วทนั เวลา 2.2.4 การตลาดก่อใหเ้ กิดการคา้ ระหว่างประเทศ เมื่อกิจการพฒั นาสินคา้ หรือบริการให้มีคุณภาพดี และจาํ หน่ายในประเทศไทยจนประสบความสําเร็จแลว้ อาจขยายตลาดไปยงัต่างประเทศ ช่วยสร้างรายไดใ้ หก้ บั ประเทศ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 10 การตลาดมีความสาํ คญั ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ เน่ืองจากการตลาดทาํ ให้เกิดการผลิต การลงทุน ช่วยใหม้ กี ารจา้ งงาน ซ่ึงส่งผลต่อรายได้ ประชาชนโดยทวั่ ไปจะมีรายไดเ้ พิ่มข้ึนทาํ ใหม้ ีอาํ นาจซ้ือเพ่มิ ข้ึน ทาํ ใหเ้ ศรษฐกิจของประเทศดีข้ึน 2.3 ความสําคญั ต่อบุคคล 2.3.1 การตลาดช่วยยกระดับมาตรฐานความเป็ นอย่ขู องคนในสงั คมใหส้ ูงข้ึนจากการที่ประชากรมีรายได้มากข้ึน มีอาํ นาจซ้ือสูงข้ึน ทําให้ชีวิตความเป็ นอยู่ของประชากรสะดวกสบายมากข้ึน การติดต่อสื่อสาร การคมนาคม กส็ ะดวกรวดเร็วยง่ิ ข้ึน 2.3.2 การตลาดช่วยสร้างอาชีพต่าง ๆ ทางการตลาดเพิ่มมากข้ึน เนื่องจากการตลาดมีกิจกรรมมากมาย ทาํ ให้เกิดการสร้างอาชีพใหม่ ๆ ข้ึนในตลาด เช่น การวิจยั ตลาด งานโฆษณาการผลิต การขาย งานขนส่ง การคลงั สินคา้ ฯลฯ 2.3.3 การตลาดทาํ ใหพ้ ฤติกรรม อุปนิสยั ความเช่ือ ค่านิยมและลกั ษณะการดาํ รงชีพของบุคคลในสงั คมเปลยี่ นไป เช่น ผหู้ ญิงในอดีตจะเป็นแม่บา้ น แม่เรือน เก่งในเร่ืองการทาํ งานบา้ นและทาํ อาหาร.แต่ในปัจจุบนั ผหู้ ญิงทาํ งานนอกบา้ นมากข้ึน และมีสิ่งอาํ นวยความสะดวกต่าง ๆ เช่นเคร่ืองซกั ผา้ เคร่ืองดูดฝ่ นุ เตาไมโครเวฟ ทาํ ใหม้ ีเวลาพกั ผอ่ นและหาความบนั เทิงไดม้ ากข้ึน การตลาดช่วยยกระดบั มาตรฐานความเป็ นอย่ขู องคนในสังคมให้สูงข้ึน เนื่องจากการตลาดมีการพฒั นาผลิตภณั ฑใ์ หแ้ ปลกใหมท่ นั สมยั และมีส่ิงอาํ นวยความสะดวกต่าง ๆ มาสนองความตอ้ งการทาํ ใหป้ ระชาชนมีความเป็นอยทู่ ี่ดีข้ึน3. อรรถประโยชน์ของการตลาดทีม่ ตี ่อผ้บู ริโภค 3.1 ความหมายของอรรถประโยชน์ นกั วิชาการใหค้ วามหมายของอรรถประโยชน์ (Utility) ไวห้ ลายท่านดงั น้ี วันรักษ์ ม่ิงมณี นาคิน (2552 :.90) ได้ให้ความหมายของอรรถประโยชน์ว่าอรรถประโยชน์ หมายถงึ ความพอใจที่ผบู้ ริโภคไดร้ ับจากการอุปโภคบริโภคสินคา้ หรือบริการชนิดใดชนิดหน่ึง ในระยะเวลาหน่ึง สิทธ์ิ ธีรสรณ์ (2551 : 14) ไดใ้ ห้ความหมายของอรรถประโยชน์ว่า อรรถประโยชน์หมายถงึ ประโยชนท์ ี่ผบู้ ริโภคไดร้ ับจากผลิตภณั ฑท์ ี่ไดส้ ร้างความพงึ พอใจแก่ผบู้ ริโภค นุ สรา บุ ญสนอง (2549 :.126) ได้ให้ความหมายของอรรถประโยชน์ว่าอรรถประโยชน์ หมายถึง ความพอใจในสินคา้ และบริการน้ัน ซ่ึงเป็ นความพอใจในรูปแบบของสินคา้ หรือในเวลา ในสถานที่และการไดม้ กี รรมสิทธ์ิในสินคา้ น้นั
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 11 สรุ ปได้ว่า อรรถประโยชน์ หมายถึง คุณสมบัติของส่ิงใด ๆ ท่ีสามารถสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภคใหพ้ ึงพอใจ 3.2 อรรถประโยชน์ของการตลาดท่มี ตี ่อผ้บู ริโภค นกั การตลาดสามารถสร้างอรรถประโยชน์ใหเ้ กิดกบั ตวั ผลิตภณั ฑห์ รือบริการ เพื่อให้เกิดคุณค่า โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี 3.2.1..อรรถประโยชน์ดา้ นรูปแบบ (Form Utility) การตลาดมีการพฒั นารูปแบบของสินคา้ ให้ตรงกับความต้องการของผบู้ ริโภคท่ีเปลี่ยนแปลงอย่ตู ลอดเวลา เช่น การผลิตนาฬิกาหลากหลายรูปแบบใหเ้ หมาะสมกบั เพศ วยั เทคโนโลยี แฟชน่ั เป็นตน้ ภาพที่ 1.2 อรรถประโยชนด์ า้ นรูปแบบ ท่ีมา : http://www.arip.co.th/images/news/Apple1/iphone-cartier-fake-watch-app-3.jpg สืบคน้ เมื่อวนั ที่ 25 พฤษภาคม 2555 3.2.2 อรรถประโยชนด์ า้ นภาพลกั ษณ์ (Image Utility) การตลาดจะส่งผลให้ผบู้ ริโภคเกิดความเคยชิน ประทบั ใจ พึงพอใจในสินคา้ หรือบริการ จนเกิดความจงรักภกั ดีต่อตรายี่ห้อและเลือกซ้ือใชเ้ ป็ นประจาํ เช่น เซเว่นอีเลฟเว่น สามารถทาํ ให้ผูบ้ ริโภคไดร้ ับความสะดวกสบายเนื่องจากเป็ นร้านคา้ สะดวกซ้ือท่ีเปิ ดให้บริการตลอด 24 ชวั่ โมง และยงั เป็ นร้านค้าท่ีมีชื่อเสียงผบู้ ริโภครู้จกั เป็นอยา่ งดี เพราะส่วนใหญ่ต้งั อยใู่ นแหลง่ ชุมชน 3.2.3 อรรถประโยชน์ดา้ นสถานท่ี (Place Utility) การตลาดทาํ หน้าท่ีนาํ สินคา้ ไปตอบสนองความตอ้ งการและความพงึ พอใจใหก้ บั ลกู คา้ เกิดความสะดวกในการเลือกซ้ือสินคา้ หรือบริการ เช่น เซเวน่ อีเลฟเว่นมีสาขากระจายอยใู่ นแหล่งชุมชนต่าง ๆ หลายสาขา ทาํ ให้ลกู คา้ หาซ้ือสินคา้ ไดส้ ะดวก
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 12 ภาพที่ 1.3 ร้านเซเวน่ อีเลฟเวน่ที่มา : http://www.thaifranchisecenter.com/images/Directory/franchisethai/07 store/01_7eleven_front0 14.jpg สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 25 พฤษภาคม 2555 3.2.4 อรรถประโยชน์ดา้ นเวลา (Time Utility) การตลาดทาํ หน้าท่ีในการนาํ สินคา้ ไป ยงั ลกู คา้ โดยมีสินคา้ พร้อมในช่วงเวลาท่ีลกู คา้ ตอ้ งการ เช่น เซเวน่ อีเลฟเวน่ เปิ ดใหบ้ ริการตลอด 24 ชว่ั โมง ตู้ ATM ของธนาคารต่าง ๆ ใหบ้ ริการตลอด 24 ชว่ั โมง การขายสินคา้ ทางอินเทอร์เน็ต ภาพที่ 1.4 ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่มา : http://www.thaifranchisecenter.com/images/Directory/franchisethai/07 store/01_7eleven_front0 14.jpg สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี 25 พฤษภาคม 2555 3.2.5 อรรถประโยชนด์ า้ นความเป็นเจา้ ของ (Possession. Utility) การตลาดช่วยสร้าง ความพึงพอใจจากการไดเ้ ป็ นเจา้ ของสินคา้ ในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อทาํ ให้ผซู้ ้ือมีกรรมสิทธ์ิในสินคา้ หรือบริการ เช่น ขอ้ ความโฆษณาขายรถจกั รยานยนตท์ ่ีว่า ดาวน์เพียง 999 บาท ก็ออกรถไดเ้ ลยที่ เหลอื ผอ่ นส่ง 36 งวด เป็นตน้
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 13 การตลาดเป็ นการดาํ เนินกิจกรรม เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภคให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด ซ่ึงการตลาดสามารถสร้างอรรถประโยชน์ให้กับผูบ้ ริโภคได้ 5 ด้านคืออรรถประโยชนด์ า้ นรูปแบบ ดา้ นภาพลกั ษณ์ ดา้ นสถานท่ี ดา้ นเวลา และดา้ นความเป็นเจา้ ของ4. ส่วนผสมทางการตลาด ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing.Mix).เป็ นหัวใจสําคัญของการบริ หารการตลาดซ่ึงส่วนผสมทางการตลาดเป็ นปัจจัยภายในท่ีสามารถควบคุมได้ อีกท้ังยงั เป็ นเครื่ องมือทางการตลาดในการสนองความตอ้ งการของลูกค้ากลุ่มเป้ าหมาย ทาํ ให้ลกู คา้ กลุ่มเป้ าหมายเกิดความพึงพอใจ สุดาพร กุณฑลบุตร (2549 : 12) ให้ความหมายของส่วนผสมทางการตลาดไวว้ ่า ส่วนผสมทางการตลาด หมายถึง องค์ประกอบโดยตรงที่เกี่ยวข้องกบั สินค้าหรือบริการที่จะนาํ เสนอสู่ผบู้ ริโภค ส่วนผสมทางการตลาด ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบท่ีสาํ คญั 4 ประการ เรียกว่า 4 Ps ไดแ้ ก่ 4.1 ผลติ ภณั ฑ์ (Product) ผลิตภัณฑ์ หมายถึง สิ่งท่ีเสนอขาย เพื่อสนองความต้องการของผูบ้ ริ โภคให้เกิดความพึงพอใจ ผลิตภณั ฑท์ ่ีเสนอขายอาจจะเป็ นสินคา้ ท่ีมีตวั ตนจบั ตอ้ งไดห้ รือเป็ นบริการ และความคิด ซ่ึงไม่มีตวั ตน จบั ตอ้ งไมไ่ ด้ เช่น บริษทั โนเกียมโี ทรศพั ทม์ ือถือจาํ หน่าย ผลิตภณั ฑจ์ ึงเป็ นโทรศพั ทม์ ือถอื 4.2 ราคา (Price). ราคา หมายถึง มูลค่าของสินค้าหรื อบริการที่กิจการผลิตหรือจดั หามาตอบสนองความตอ้ งการของผบู้ ริโภค การที่กิจการจะกาํ หนดราคาใหอ้ ยใู่ นระดบั ใดข้ึนอย่กู บั ความเหมาะสมของกลมุ่ เป้ าหมาย โดยพิจารณาจากตน้ ทุน ความสามารถในการซ้ือของผบู้ ริโภค และส่ิงแวดลอ้ มทางการตลาด เช่น บริษทั โนเกีย จาํ หน่ายโทรศพั ทม์ ือถอื รุ่น 630 ในราคา เครื่องละ 8,100 บาท 4.3 การจดั จาํ หน่าย (Place.or.Distribution).. การจดั การจาํ หน่าย หมายถงึ กิจกรรมของกิจการท่ีทาํ ใหผ้ ลิตภณั ฑ์ไปสู่กลุ่มผบู้ ริโภคเป้ าหมาย กิจกรรมท่ีช่วยในการกระจายสินค้า ประกอบดว้ ย การขนส่ง การเก็บรักษาสินค้าการคลงั สินคา้ เช่น บริษทั โนเกียมีตวั แทนจาํ หน่ายอิสระจาํ นวนมากที่จาํ หน่ายโทรศพั ท์มือถือหลาย ๆ รุ่นของบริษทั บริษทั พจิ ารณาเลือกตวั แทนจาํ หน่ายอยา่ งรอบคอบ เพอ่ื ใหท้ าํ หนา้ ท่ีจาํ หน่ายสินคา้ ใหก้ บั บริษทั
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 144.4 การส่งเสริมการตลาด (Promotion)การส่งเสริมการตลาด หมายถงึ การติดต่อสื่อสาร ระหว่างผขู้ ายกบั ผซู้ ้ือ เพื่อแจง้ ขอ้ มูลข่าวสารเก่ียวกบั สินคา้ หรือบริการ ใหผ้ บู้ ริโภคไดร้ ู้และกระตุน้ ใหเ้ กิดการตดั สินใจซ้ือสินคา้ เร็วข้ึนเช่น บริ ษัทโนเกียโฆษณาลดราคา 10% สําหรับโทรศพั ท์มือถือทุกรุ่นในช่วงเทศกาลปี ใหม่เพอ่ื กระตุน้ ใหผ้ บู้ ริโภคสนใจและเกิดความอยากได้เครื่องมือท่ีใช้ในการส่งเสริ มการตลาด เรียกว่า ส่วนผสมการส่งเสริ มการตลาด(Promotion Mix) ไดแ้ ก่4.4.1 การโฆษณา (Advertising) คือ การแจง้ ขอ้ มลู ข่าวสารเกี่ยวกบั สินคา้ หรือบริการใหผ้ บู้ ริโภคไดท้ ราบผา่ นสื่อโฆษณา โดยมีผอู้ ปุ ถมั ภร์ ายการเป็นผอู้ อกค่าใชจ้ ่าย4.4.2 การขายโดยใช้พนักงานขาย.(Personal Selling).เป็ นการติดต่อซ้ือขายแบบเผชิญหนา้ ระหว่างพนกั งานขายและผบู้ ริโภค พนกั งานขายจะทาํ หน้าที่ในการจูงใจหรือโน้มน้าวใหผ้ บู้ ริโภคเกิดการตดั สินใจซ้ือเร็วข้ึน4.4.3 การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion) เป็ นเคร่ืองมือท่ีกระตุน้ ใหผ้ บู้ ริโภคเกิดการซ้ือสินคา้ หรือบริการในปริมาณที่มากข้ึนและเร็วข้ึน ในช่วงเวลาส้ัน ๆ เช่น การลดราคาการแจก การแถม การส่งชิ้นส่วนชิงโชค ฯลฯ4.4.4 การประชาสัมพันธ์.(Public.Relation).เป็ นการเผยแพร่ ข้อมูลข่าวสารความเคลื่อนไหวหรือกิจกรรมต่าง ๆ ของกิจการ เพ่ือสร้างภาพลกั ษณ์ที่ดีและสร้างความสัมพนั ธ์อนั ดีระหว่างกิจการกบั ประชาชนทว่ั ไป4.4.5 การตลาดทางตรง (Direct Marketing) เป็ นการติดต่อโดยตรงกบั กลุ่มลกู ค้าเป้ าหมาย เพ่อื ใหไ้ ดร้ ับการตอบสนองในทนั ทีและเป็นการสร้างความสมั พนั ธท์ ่ีดีกบั ลกู คา้ส่ วนผสมทางการตลาด ส่ วนผสมการส่ งเสริมการตลาดผลติ ภณั ฑ์ การโฆษณาราคา การขายโดยใชพ้ นกั งานขายการจดั จาํ หน่าย การส่งเสริมการขายกกาารรสส่่งงเเสสรริมิมกกาารรตตลลาาดด การประชาสมั พนั ธ์ การตลาดทางตรงภาพท่ี 1.5 แสดงความสมั พนั ธข์ องการส่งเสริมการตลาดและส่วนผสมการส่งเสริมการตลาด ที่มา : สุวิมล แมน้ จริง และเกยรู ใยบวั กลิน่ (2550 : 8)
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 15 นกั การตลาดมองวา่ ตนเองเป็นผขู้ ายสินคา้ ผบู้ ริโภคก็มองวา่ ตนเองเป็นผซู้ ้ือคุณค่า หรือซ้ือสินคา้ เพ่อื สนองความตอ้ งการของตนเอง ผบู้ ริโภคตอ้ งการสินคา้ และบริการเพ่ือความสะดวกสบายเท่าที่จะเป็นไปได้ ดงั น้นั นกั การตลาดจึงควรพจิ ารณา 4 Cs เป็นพ้นื ฐานในการสร้าง 4 Ps4 Ps 4 Csผลิตภณั ฑ์ (Product) ความจาํ เป็นและความตอ้ งการของผบู้ ริโภคราคา (Price) (Customer Needs and Wants)การจดั จาํ หน่าย (Place) ตน้ ทนุ ของผบู้ ริโภค (Cost to the Customer)การส่งเสริมการตลาด (Promotion) ความสะดวกสบาย (Convenience) การตดิ ต่อสื่อสาร (Communication)ภาพที่ 1.6 การใชเ้ คร่ืองมือทางการตลาด (4 Ps) เพ่อื สนองความพงึ พอใจของลกู คา้ 4 ดา้ น (4 Cs) ท่ีมา : อภิญญา สมสุข5. ปรัชญาการจดั การทางการตลาด ปรัชญาการจัดการทางการตลาด เป็ นการพฒั นารู ปแบบการจัดการทางการตลาดจากอดีตจนถึงปัจจุบนั โดยเร่ิมตน้ จากแนวความคิดมุ่งการผลิตแลว้ พฒั นาเป็ นแนวความคิดมุ่งผลิตภณั ฑ์ แนวความคิดมุ่งการขาย แนวความคิดมุ่งการตลาดและแนวความคิดมุ่งการตลาดเพื่อสงั คม โดยมีรายละเอียดดงั น้ี 5.1 แนวความคดิ ม่งุ การผลติ (Production Concept) แนวความคิดมุ่งการผลิตเป็นแนวความคิดท่ีให้ความสาํ คญั ทางดา้ นการผลิตเป็ นหลกัโดยเน้นการปรับปรุงคุณภาพการผลิตให้ตน้ ทุนต่าํ ลง เพ่ือขายสินคา้ ในราคาต่าํ กว่าคู่แข่งขันและเป็ นแนวความคิ ดที่ ใช้ได้ดี เม่ืออุปสงค์ของผลิตภัณฑ์มีมากกว่าอุปทาน ดังน้ันในดา้ นการจดั การจึงตอ้ งหาแนวทางในการเพิ่มปริมาณการผลิต เช่น บริษทั โตโยตา้ ผลิตรถยนต์หลากหลายลกั ษณะไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งหรือรถปิ คอพั 5.2 แนวความคดิ มุ่งผลติ ภณั ฑ์ (Product Concept) แนวความคิดมุ่งผลิตภณั ฑเ์ ป็นแนวความคิดที่ผบู้ ริโภคสนใจซ้ือผลิตภณั ฑ์ท่ีมีคุณภาพมีสมรรถนะและมีรู ปลักษณ์ท่ีเป็ นนวัตกรรมมากกว่าราคาของผลิตภัณฑ์ ดังน้ันกิจการเนน้ การปรับปรุงคุณภาพผลิตภณั ฑอ์ ยา่ งต่อเนื่อง เช่น สบู่ในอดีตมีแต่สบู่กอ้ น แต่ในปัจจุบนั มีท้งัสบู่ก้อนและสบู่เหลว หลายย่ีห้อแข่งขันกันในตลาด ผผู้ ลิตจึงนําเสนอผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับ
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 16ความตอ้ งการของลกู คา้ ในเร่ืองของการออกแบบรูปทรงผลิตภณั ฑ์ บรรจุภณั ฑ์ ราคา และสถานท่ีท่ีจะใชเ้ ป็นช่องทางการจดั จาํ หน่าย ซ่ึงควรจะสะดวกหาซ้ือไดง้ ่าย 5.3 แนวความคดิ ม่งุ การขาย (Selling Concept) แนวความคิดมงุ่ การขายเป็นแนวความคิดท่ีมงุ่ เนน้ ถึงความพยายามในการขาย โดยจะกระตุน้ ใหผ้ บู้ ริโภคเกิดความสนใจและตอ้ งการซ้ือผลิตภณั ฑท์ ี่เสนอขาย แนวความคิดน้ีใชไ้ ดผ้ ลดีสาํ หรับสินคา้ ท่ีออกใหม่ ผบู้ ริโภคยงั ไม่รู้จกั หรือไม่เห็นความจาํ เป็ นท่ีจะซ้ือ เช่น การประกนั ชีวิตการประกนั สุขภาพ เป็นตน้ 5.4 แนวความคดิ ม่งุ การตลาด (Marketing.Concept) แนวความคิดมุ่งการตลาดเป็ นแนวความคิดท่ีให้ความสาํ คญั ที่ผบู้ ริโภค ตอ้ งศึกษาความต้องการของผบู้ ริโภค การบรรลุเป้ าหมายของกิจการข้ึนอยู่กบั การมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลท่ีเหนือกว่าคู่แข่งขนั ท้งั ทางดา้ นการสร้างสรรค์ การส่งมอบ และการสื่อสารคุณค่าให้กบั ลกู ค้าท่ีเป็ นตลาดเป้ าหมาย เช่น น้าํ มนั ถว่ั เหลืองตราองุ่น ใชข้ อ้ ความโฆษณาว่า “ห่วงคุณห่วงสุขภาพ” 5.5 แนวความคดิ มุ่งการตลาดเพอื่ สังคม (Societal.Marketing.Concept) แนวความคิดมุ่งการตลาดเพ่ือสังคมเป็ นแนวความคิดที่ให้ความสาํ คญั ท่ีผูบ้ ริโภคและรับผดิ ชอบต่อสังคม โดยนักการตลาดผลิตสินคา้ ตรงตามความต้องการของผบู้ ริโภค พร้อมท้งัส่งเสริมสงั คมใหอ้ ยดู่ ีกินดี ดงั ภาพที่ 1.7 สงั คม (ความสมบรู ณ์พนู สุข) แนว ความคิด มุ่งการตลาด เพอื่ สงั คม ผบู้ ริโภค บริษทั(ความพงึ พอใจ) (กาํ ไร)ภาพท่ี 1.7 เกณฑใ์ นการพจิ ารณาภายใตแ้ นวความคิดมงุ่ การตลาดเพอ่ื สงั คม ที่มา : อภิญญา สมสุข
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 17 กิจการจะต้องเข้าถึงความรู้สึกของผูบ้ ริโภคให้บริ การและกระทาํ ในสิ่งท่ีดีที่สุดอย่างมีความรับผิดชอบ เพ่ือให้ผูบ้ ริ โภคและสังคมได้รับความพึงพอใจในระยะยาว เช่นน้ํายาปรับผ้านุ่ มคอมฟอร์ ท ล้างผ้าในน้ําเดียวฟองหมด ทําให้ผู้บริ โภคลดการใช้น้ําในการทาํ ความสะอาด น้าํ ด่ืมทิพย์ เมื่อด่ืมหมดแลว้ บิดขวดน้าํ ทาํ ใหล้ ดปริมาณพลาสติก 35% ปรั ชญ าการ จัด ก าร ทางก าร ตลาดที่ มุ่ งค ว ามสําเร็ จข องกิ จก ารข้ ึ น อยู่กับก ารตัด สิ น ใจในส่วนท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ความจาํ เป็น ความตอ้ งการของผบู้ ริโภคกลุ่มเป้ าหมายและสามารถนาํ เสนอส่ิงท่ีจะตอบสนองความตอ้ งการหรือความพงึ พอใจใหแ้ ก่ผบู้ ริโภคมากกวา่ คู่แข่งขนั อื่น ๆ6. แนวคดิ หลักทางการตลาด แนวคิดหลกั ทางการตลาด เป็นการกาํ หนดแนวทางการปฏบิ ตั ิงานทางการตลาด เพื่อสร้างความพงึ พอใจใหก้ บั ผบู้ ริโภค บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคต์ ามเป้ าหมายท่ีวางไว้ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี 6.1 ความจาํ เป็ น ความต้องการ ความต้องการซือ้ การตลาดมีพ้นื ฐานอยทู่ ี่ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค ซ่ึงความตอ้ งการเหล่าน้ี แยกเป็ นลาํ ดบั ข้นั ไดด้ งั น้ี ภาพที่ 1.8 แนวคิดหลกั ทางการตลาด ท่ีมา : http://www.oknation.net/blog/Narujakonline สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 26 พฤษภาคม 2555 6.1.1 ความจาํ เป็ น (Needs).หมายถึง ความต้องการข้ันพ้ืนฐานของมนุษย์ทุกคนเพื่อใหช้ ีวิตสามารถดาํ รงอยไู่ ด้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 18 6.1.1.1 ความจําเป็ นทางร่ างกาย.(Physical.Need).ถือเป็ นความจําเป็ นต่อการดาํ รงชีพของมนุษย์ ไดแ้ ก่ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคและท่ีอยอู่ าศยั ส่ิงต่าง ๆ ดงั กล่าวทาํ ให้ทุกคนตอ้ งทาํ งาน เพ่ือให้ไดม้ าซ่ึงอาหาร เส้ือผา้ เคร่ืองนุ่งห่ม บา้ นและการรักษาพยาบาลยามเจบ็ ป่ วย กิจการจึงผลิตสินคา้ ต่าง ๆ เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการเหล่าน้ัน เช่น หมู่บา้ นจดั สรรร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต หา้ งสรรพสินคา้ และโรงพยาบาล เป็นตน้ 6.1.1.2 ความจาํ เป็นดา้ นสงั คม.(Social.Need).เกิดจากความตอ้ งการท่ีจะไดร้ ับความรัก ความอบอุน่ ความมน่ั คงและความปลอดภยั ทาํ ใหเ้ กิดสินคา้ ทางดา้ นบริการต่าง ๆ ข้ึน เช่นธุรกิจประกนั ภยั สถานท่ีพกั ผ่อน พนักงานรักษาความปลอดภัยท่ีคอยดูแลความปลอดภัย และร้านอาหารเพ่อื ใชส้ งั สรรคใ์ นหม่เู พ่อื น เป็นตน้\ ภาพท่ี 1.9 ร้านอาหาร เพอ่ื ใชส้ งั สรรคใ์ นหมเู่ พ่อื นเป็นความจาํ เป็นดา้ นสงั คม ที่มา : http://th.88db.com/Food-Beverage/Restaurant/ad-227663/ สืบคน้ เมอื่ วนั ที่ 26 พฤษภาคม 2555 6.1.1.3 ความจาํ เป็ นส่วนบุคคล (Individual Need) เป็ นความจาํ เป็ นเฉพาะตวัที่ตอ้ งการแสดงออกถึงความเป็ นตวั ของตัวเอง รวมถึงการสร้างความแตกต่างในดา้ นต่าง ๆจากบุคคลอืน่ เช่น ความสามารถในดา้ นการเลน่ กีฬา เป็นตน้ 6.1.2 ความต้องการ (Wants).หมายถึง ความปรารถนาของมนุษย์ ซ่ึงเกิดข้ึนจากวฒั นธรรม สงั คมและบุคลกิ ภาพส่วนตวั เช่น ความตอ้ งการซ้ือรถยนต์ ยหี่ อ้ เบนซม์ าขบั 6.1.3 ความตอ้ งการซ้ือ (Demand) ความตอ้ งการของมนุษยไ์ ม่มีที่ส้ินสุด แต่เมื่อทรัพยากรมีอยอู่ ยา่ งจาํ กดั ทาํ ใหค้ นเราจึงตอ้ งเลือกสินคา้ ต่าง ๆ ที่มีอยใู่ นตลาด โดยเลือกซ้ือสินคา้ท่ีใหป้ ระโยชนค์ ุม้ ค่ากบั เงินที่ตอ้ งเสียไปใหม้ ากท่ีสุด เช่น รถยนต์ นิสสนั มาร์ช มปี ระโยชนพ์ ้นื ฐานในดา้ นการเป็นพาหนะในการเดินทาง นอกจากน้ีแลว้ ราคาโดยรวมกไ็ มส่ ูงเกินไป และเป็นรถยนตท์ ่ี
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 19ประหยดั น้าํ มนั ในขณะท่ีรถยนต์ ฮอนดา้ ซีวคิ เป็นรถยนตท์ ่ีหรูหรา สมฐานะ แต่มีราคาสูง รถยนต์ท้งั สองยห่ี อ้ สามารถนาํ ผบู้ ริโภคจากบา้ นไปท่ีทาํ งานไดเ้ หมอื นกนัรถยนต์ นิสสันมาร์ช รถยนต์ ฮอนด้า ซีวคิ ภาพท่ี 1.10 รถยนต์ นิสสนั มาร์ช และรถยนต์ ฮอนดา้ ซีวคิ ท่ีมา : อภิญญา สมสุข กิจการส่วนใหญ่ที่ประสบความสาํ เร็จตอ้ งตระหนักถึงความจาํ เป็ น ความตอ้ งการและความตอ้ งการซ้ือของผบู้ ริโภค โดยการวเิ คราะห์และวิจยั ถงึ ความตอ้ งการของบุคคลที่ยงั ไม่ได้รับการตอบสนอง เพือ่ ท่ีกิจการจะสามารถพฒั นาสินคา้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการดงั กลา่ วได้ 6.2 ผลติ ภัณฑ์ (Product) รณชยั ตนั ตระกลู (2551 : 2) ไดใ้ หค้ วามหมายของผลติ ภณั ฑไ์ วว้ ่า ผลติ ภณั ฑ์ หมายถึงสิ่งใดก็ตามที่สามารถนาํ เสนอยงั ตลาดท่ีทาํ ให้ผบู้ ริโภคเกิดความสนใจ การไดค้ รอบครอง การใช้หรือการบริโภค ซ่ึงอาจทาํ ให้ผบู้ ริโภคไดเ้ กิดความพึงพอใจหรือไม่พอใจ เมื่อได้บริโภคส่ิงน้ันสิ่งเหล่าน้นั ดงั เช่น วตั ถุส่ิงของ การบริการ บุคลากร สถานท่ี องค์การและความคิด ผลิตภณั ฑ์ แบ่งออกเป็ น 6.2.1 สิ่งท่ีจบั ตอ้ งได้ (Tangible Product) หมายถึง สินคา้ ที่มีรูปร่างสามารถมองเห็นและจบั ตอ้ งได้ เช่น เส้ือผา้ รองเทา้ โทรศพั ท์ เคร่ืองสาํ อาง รถจกั รยานยนต์ สินคา้ เหล่าน้ีผบู้ ริโภคสามารถเห็นและพิจารณาก่อนตัดสินใจซ้ือ ไม่ว่าจะเป็ นภาพจากแคตตาล็อค สินคา้ ตัวอย่างหรือสินคา้ ที่วางจาํ หน่ายอยจู่ ริง 6.2.2 สิ่งท่ีไม่สามารถจบั ตอ้ งได้ (Intangible.Product) หมายถงึ กิจกรรมผลประโยชน์หรือความพงึ พอใจท่ีเสนอขายแก่ลูกคา้ เช่น การให้บริการหอ้ งพกั ในโรงแรม ผบู้ ริโภคเลือกโดยพจิ ารณาจากการใหบ้ ริการที่ไดจ้ ากพนกั งานของโรงแรม เป็นสิ่งที่ไมม่ ีตวั ตน ซ่ึงหมายถึง ตดั สินใจเลือกซ้ือไปแลว้ หรืออาจฟังจากคาํ บอกเลา่ ของผอู้ น่ื เป็นตน้
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 20 ผลิตภณั ฑไ์ มไ่ ดจ้ าํ กดั แต่เฉพาะสิ่งที่มีลกั ษณะทางกายภาพเท่าน้นั แต่เป็นส่ิงท่ีสามารถสนองความจาํ เป็ นได้ ซ่ึงผลิตภณั ฑ์นอกจากจะเป็ นสิ่งท่ีจบั ตอ้ งไดแ้ ละส่ิงท่ีจบั ตอ้ งไม่ไดแ้ ลว้ ยงัรวมถึงความรู้ ความชาํ นาญ ประสบการณ์ ตัวบุคคล สถานที่ องค์การ ขอ้ มูลสารสนเทศ และความคิด ก็เรียกเป็นผลิตภณั ฑไ์ ดท้ ้งั ส้ิน 6.3 คณุ ค่า ความพงึ พอใจ คณุ ภาพ ในการเลือกซ้ือสินค้าใดสินค้าหน่ึงมาใช้น้ัน ผูบ้ ริ โภคจะคํานึงถึงสินค้าที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดท้งั ในดา้ นคุณค่า คุณภาพและความพงึ พอใจ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี 6.3.1 คุณค่า (Value) หมายถงึ ทศั นคติภายในที่ผบู้ ริโภคใหค้ วามสาํ คญั ต่อคุณค่าของสินคา้ ท่ีจะซ้ือ ท้งั น้ีมีผลมาจากภายในจิตใจของแต่ละคน ซ่ึงไดร้ ับการเรียนรู้และประสบการณ์ที่แตกต่างกนั ผบู้ ริโภคตดั สินใจซ้ือสินคา้ อยา่ งใดอยา่ งหน่ึง โดยพิจารณาจากคุณค่า ความพึงพอใจในสินคา้ และเงินท่ีลกู คา้ ตอ้ งจ่าย เพื่อซ้ือสินคา้ น้นั เช่น ผบู้ ริโภคซ้ือโทรศพั ท์มือถือย่ีห้อแอปเป้ิ ลที่ราคาสูงกว่าบางยห่ี อ้ คุณสมบตั ิทวั่ ไปอาจจะเหมอื นกนั แต่ความมีชื่อเสียง เคร่ืองหมายการคา้ และความสวยงาม ทาํ ให้ผบู้ ริโภคบางคนยอมจ่ายแพงข้ึน จะเห็นได้ว่าคุณค่าของสินคา้ ไม่ได้อยู่ที่ตวั สินคา้ แต่เพียงอยา่ งเดียวแต่ยงั ประกอบไปดว้ ย สภาพทางจิตใจดา้ นอืน่ ๆ ประกอบดว้ ย 6.3.2 ความพงึ พอใจ (Satisfaction) ข้ึนอยกู่ บั ประโยชนห์ รือคุณค่าท่ีรับรู้ไดจ้ ากการใช้สินคา้ เมอื่ เทียบกบั สิ่งท่ีผบู้ ริโภคคาดหวงั หากประโยชนท์ ่ีไดร้ ับสอดคลอ้ งหรือเกินกว่าท่ีผบู้ ริโภคคาดหวงั ก็จะก่อให้เกิดความพึงพอใจหรือประทบั ใจ เช่น ผบู้ ริโภคเขา้ ไปใชบ้ ริการเติมน้าํ มนั ในปั๊มน้าํ มนั ของบริษัท บ แลว้ รู้สึกล่าชา้ ไม่สะดวก ในขณะที่ป๊ัมน้าํ มนั ของบริษทั ป ให้บริการที่รวดเร็วและสะดวก ผบู้ ริโภคคนดงั กล่าวจึงหันมาใชบ้ ริการของปั๊มน้าํ มนั ของบริษทั ป เป็ นต้นดงั น้นั ความพงึ พอใจของผบู้ ริโภคจะเกิดข้ึนเม่ือผบู้ ริโภครับรู้ในสินคา้ และบริการท่ีตนไดร้ ับดีกว่าความคาดหมาย 6.3.3 คุณภาพ (Quality) หมายถึง ส่ิงที่มผี ลกระทบโดยตรงต่อลกั ษณะของสินคา้ ท่ีจะทาํ ใหผ้ บู้ ริโภคไดร้ ับความพอใจ ผบู้ ริโภคจะทาํ การเลือกซ้ือสินคา้ หรือบริการบนพ้ืนฐานของการรับรู้ในคุณค่าของสินคา้ หรือบริการที่ส่งมอบให้ ดงั น้นั กิจการจึงเนน้ แนวทางการดาํ เนินงาน เพ่ือท่ีจะใหผ้ บู้ ริโภคไดร้ ับความพอใจในสินคา้ หรือบริการน้นั ทาํ ใหเ้ กิดการซ้ือซ้าํ และมีการบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ตนไดร้ ับไปสู่ผบู้ ริโภคคาดหวงั รายอ่ืนต่อไป
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 21 6.4 การแลกเปลยี่ น การทําการค้า การตลาดเพอ่ื สร้างความสัมพนั ธ์ทีด่ ี การตลาดจะเกิดข้ึนไดก้ ็ต่อเมื่อบุคคลมีความสนใจที่จะซ้ือสินคา้ เพ่ือตอบสนองความจําเป็ น ความต้องการและเพ่ือสร้างความพึงพอใจตามท่ีตนคาดหวัง ปัจจัยท่ีจะหาซ้ือส่ิงท่ีตอ้ งการไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือสิ่งอื่น ท่ีจะใชแ้ ลกเปลี่ยนสิ่งของท่ีตอ้ งการ 6.4.1 การแลกเปล่ยี น (Exchange) คือ การกระทาํ เพ่อื ใหไ้ ดม้ าซ่ึงส่ิงที่ตอ้ งการจากใครก็ตาม โดยเสนอบางสิ่งบางอยา่ งให้เป็ นการตอบแทน การแลกเปล่ียนจึงเป็ นเพียงวิธีการหน่ึงในหลาย ๆ วิธีการที่บุคคลนาํ มาใช้ เช่น เวลาท่ีเรารู้สึกไม่สบาย เราสามารถหายามารักษาไดด้ ว้ ยวิธีการต่าง ๆ ไดแ้ ก่ การจดั หาสมุนไพรมารักษา หรือการซ้ือยาจากร้านขายยามารับประทาน เป็นตน้ 6.4.2 การทาํ การค้า (Transaction) เป็ นหน่วยการวดั ทางการตลาด การทาํ การค้าประกอบด้วยการค้าขายส่ิงท่ีมีคุณค่าระหว่าง 2 ฝ่ าย คือ ฝ่ ายผูซ้ ้ือและฝ่ ายผูข้ าย เช่น ลูกค้าซ้ือเครื่องซักผา้ จากห้างสรรพสินคา้ เป็ นเงิน 3,900 บาท การดาํ เนินการในลกั ษณะน้ี เรียกว่าการทาํ การคา้ ในรูปของเงินตรา 6.4.3..การตลาดเพ่ือสร้างความสัมพนั ธท์ ี่ดี (Relationship.Marketing) เป็ นกระบวนการสร้างและรักษาความสมั พนั ธอ์ นั ดีในระยะยาวกบั กลุ่มต่าง ๆเช่น ลกู คา้ ผจู้ ดั จาํ หน่าย ตวั แทนจาํ หน่ายรวมไปถงึ ผจู้ ดั หา ปัจจุบนั ถอื วา่ นกั การตลาดมีส่วนช่วยใหเ้ ศรษฐกิจมน่ั คง โดยการส่งมอบสินคา้ ที่มีคุณภาพ รวดเร็วและใหบ้ ริการที่ดีภายใตร้ าคาท่ียตุ ิธรรม โดยทั่วไปนักการตลาดจะใช้ความพยายามทางการตลาด เพ่ือให้ผูบ้ ริโภคได้รับการตอบสนองในสิ่งที่ตนไดเ้ สนอ ในรูปแบบการตอบสนองท่ีเห็นไดง้ ่ายที่สุดในทางการตลาดไดแ้ ก่ การซ้ือ การขายสินคา้ และบริการระหว่างกนั 6.5 ตลาด (Market) ตลาดในระบบเศรษฐกิจนับว่ามีความสําคญั อย่างมาก เน่ืองจากตลาดทาํ หน้าที่เช่ือมโยงระหว่างผผู้ ลติ กบั ผบู้ ริโภค ซ่ึงจะช่วยทาํ ใหส้ ินคา้ จากแหล่งผลิตไปสู่ผบู้ ริโภคและยงั ช่วยใหผ้ บู้ ริโภคมสี ินคา้ และบริการมาบาํ บดั ความตอ้ งการไดอ้ ยา่ งทว่ั ถึง ตลาด ในความหมายด้ังเดิม หมายถึง สถานท่ีที่ผูซ้ ้ือและผู้ขายมาพบกัน เพื่อการแลกเปล่ียนสินคา้ และบริการ เช่น ตลาดขายเส้ือผา้ ท่ีประตูน้ํา ตลาดขายส่งผกั และผลไมท้ ่ีตลาดไท ในปัจจุบันตลาดอาจไม่ต้องการสถานท่ีพบปะ เพื่อแลกเปล่ียนสินค้าและบริ การแต่สามารถทาํ รายการแลกเปล่ียนสินค้าและบริการที่ไม่ปรากฏสถานท่ีแน่ชดั เช่น การทาํ การซ้ือดว้ ยระบบพาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (E-commerce)
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 22 สรุป ชีวิตประจาํ วนั ของมนุษยท์ ุกคน ย่อมเกี่ยวขอ้ งกับการตลาดอยู่ตลอดเวลาโดยไม่รู้ตัวเริ่มต้งั แต่เชา้ จนถึงเวลาเขา้ นอน เรามีโอกาสไดส้ มั ผสั และไดใ้ ชส้ ินคา้ หรือบริการตลอดเวลา ในอดีตวตั ถุประสงค์ทางการตลาดจะมุ่งเนน้ ไปที่กาํ ไรเท่าน้ัน แต่ในปัจจุบนั แนวความคิดทางการตลาดได้เปลี่ยนแปลงไปเป็ นต้องการกาํ ไรจากความพึงพอใจของผูบ้ ริ โภคและต้องตอบสนองความตอ้ งการของสงั คม โดยไม่ผลติ สินคา้ ที่เป็นอนั ตรายต่อสภาพแวดลอ้ ม การตลาดเป็นกิจกรรมท่ีทาํ ใหส้ ินคา้ หรือบริการเคล่ือนยา้ ยจากผผู้ ลิตไปสู่ผบู้ ริโภค โดยมีกระบวนการทางการตลาดเขา้ มาเกี่ยวขอ้ ง ซ่ึงการตลาดก่อให้เกิดการลงทุน การจ้างงานเพิ่มข้ึนทาํ ใหค้ นมอี าชีพ มงี านทาํ มกี ารกินดีอยดู่ ี และมคี ุณภาพชีวติ ท่ีดีข้ึน ในปัจจุบนั ผบู้ ริโภคมีโอกาสเลือกและเปรียบเทียบสินคา้ ก่อนการตดั สินใจซ้ือไดม้ ากข้ึนเพราะมีสินค้าหรื อบริ การให้เลือกมากมาย หลายชนิด หลายประเภท หลายรูปแบบ ระบบการจดั จาํ หน่ายมหี ลายช่องทาง สามารถหาซ้ือไดง้ ่าย ทาํ ให้ผบู้ ริโภคไดร้ ับสินคา้ หรือบริการท่ีตรงตามความตอ้ งการในเวลาที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากข้ึน นักการตลาดต้องเข้าใจถึงความจาํ เป็ นและความต้องการของกลุ่มเป้ าหมายในตลาดโดยนักการตลาดจะต้องมีการพัฒนาสิ นค้าและบริ การ ด้วยการสร้างสรรค์คุณค่า และสร้างความพอใจใหก้ บั ลกู คา้ ในตลาดน้นั ๆ เพอื่ สร้างยอดขายและผลกาํ ไรสูงสุดใหก้ บั กิจการ
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 23 แบบฝึ กหัด หน่วยที่ 1 ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาดตอนที่ 1 ให้นักศึกษาตอบคาํ ถามต่อไปนใี้ ห้ได้ใจความถูกต้อง1. Kotler ไดใ้ หค้ วามหมายของการตลาดไวอ้ ยา่ งไร2. การตลาดช่วยพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศชาติอยา่ งไรบา้ ง จงอธิบาย3. การตลาดสร้างอรรถประโยชนใ์ หผ้ บู้ ริโภค ดา้ นใดบา้ ง จงอธิบาย4. ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง จงอธิบาย5. ปรัชญาการจดั การทางการตลาด ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง จงอธิบาย6. ความจาํ เป็นแบ่งออกไดก้ ่ีประเภทอะไรบา้ ง จงอธิบายตอนที่ 2 จบั คู่ ให้นาํ อกั ษรด้านขวามอื มาใส่ไว้หน้าข้อความด้านซ้ายมอื..................1. การตลาด ก. Possession Utility..................2. อรรถประโยชน์ดา้ นภาพลกั ษณ์ ข. Advertising..................3. ความจาํ เป็นส่วนบุคคล ค. Exchange..................4. การโฆษณา ง. Marketing..................5. การทาํ การคา้ จ. Selling Concept..................6. การขายโดยใชพ้ นกั งานขาย ฉ. Transaction..................7. อรรถประโยชน์ดา้ นความเป็นเจา้ ของ ช. Image Utility..................8. ความสะดวกของลกู คา้ ซ. Convenience..................9. การแลกเปล่ยี น ฌ. Individual Need................10. แนวความคิดดา้ นการขาย ญ. Personal Selling
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 24 ใบงานท่ี 1.1 หน่วยท่ี 1 ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาด เรื่อง เคร่ืองมือการส่งเสริมการตลาด ประกอบการเรียนรายวิชา หลกั การตลาด รหสั วชิ า 3200 - 1005จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. อธิบายความสาํ คญั ของการตลาดได้ 2. บอกส่วนผสมทางการตลาดได้ 3. นาํ ความรู้เร่ืองการตลาดและความสาํ คญั ของการตลาดมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการวิเคราะห์ สถานการณ์ทางการตลาดได้รายการสอน 1. ความสาํ คญั ของการตลาด 2. ส่วนผสมทางการตลาดลาํ ดบั ข้ันการปฏบิ ัติ 1. แบ่งนกั ศึกษาเป็นกลุ่ม 4 กลุ่ม นกั ศกึ ษาแต่ละกลุม่ เลือกประธานกลุ่ม 2. ใหน้ กั ศกึ ษาแต่ละกลุม่ ศึกษาสินคา้ อปุ โภคบริโภคในทอ้ งตลาดท่ีไดจ้ ดั เตรียมมากลุ่มละ3 ชนิดวา่ สินคา้ แต่ละชนิดใชเ้ คร่ืองมือการส่งเสริมการตลาดประเภทใดบา้ ง ใชเ้ คร่ืองมอื แต่ละชนิดมากน้อยเพียงใด และให้เปรียบเทียบ ขอ้ เหมือนและขอ้ แตกต่างของการใชเ้ คร่ืองมือการส่งเสริมการตลาดของสินคา้ ต่าง ๆ 3. ใหท้ าํ งานส่งภายใน 1 ชวั่ โมง และรวบรวมผลงานส่งครูผสู้ อนในชวั่ โมงเรียน 4. ใหน้ กั ศกึ ษาแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียน กล่มุ ละ 5 นาที 5. กลุม่ ที่นาํ เสนอผลงาน ประเมนิ ตนเอง 6. ใหน้ กั ศกึ ษากลุ่มอ่นื ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น และประเมินผลงานกล่มุ ที่นาํ เสนอ 7. ผสู้ อนรวบรวมแบบประเมนิ จาก 4 กลุ่ม พร้อมประเมนิ ผลกลมุ่ ที่นาํ เสนอผลงานแหล่งข้อมลู 1. หอ้ งสมุดวทิ ยาลยั 2. คน้ ควา้ จากอินเทอร์เน็ต 3. นิตยสาร วารสาร โทรทศั น์
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 25 แบบประเมนิ ใบงาน ใบงานเร่ือง เครื่องมือการส่งเสริมการตลาดแบบประเมนิ 1ที่ รายการ 5 432 11 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม2 ความต้งั ใจในการทาํ งานกลุ่ม3 การแบ่งหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ4 เน้ือหาสาระครอบคลุมชดั เจน5 การนาํ เสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน6 ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์7 การบริหารเวลาท่ีเหมาะสม8 ส่ือท่ีใชป้ ระกอบในการนาํ เสนอ9 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ืน่10 ความสาํ เร็จของผลงานเกณฑก์ ารประเมนิ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุงรวมคะแนนที่ได.้ .....................................................คะแนนเฉลย่ี .......................................................ประเมนิ ผลโดย ผเู้ รียนกลุ่มที่........................ ผสู้ อน.....................................แบบประเมนิ 2 ผ้ปู ระเมนิ กล่มุ ท่ี 1 กล่มุ ที่ 2 กลุ่มท่ี 3 กลุ่มท่ี 4คะแนนจากผเู้ รียนคะแนนจากผสู้ อนรวมคะแนนคะแนนเฉลย่ีข้อเสนอแนะของผู้สอนกลมุ่ ท่ี 1................................................................................................................................................กล่มุ ที่ 2................................................................................................................................................กลุ่มที่ 3................................................................................................................................................กลมุ่ ที่ 4...............................................................................................................................................
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 26 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ช่ือผปู้ ระเมิน/กลมุ่ ประเมิน..................................................................................................................ช่ือกลุม่ รับการประเมนิ ........................................................................................................................เรื่อง.....................................................................................................................................................ท่ี คุณลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งชี้ ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนท่ี ใช้ได้ = 1 ควรปรับปรุง = 0 ได้1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ (2 คะแนน) - แสดงกิริยาทา่ ทางสุภาพต่อผูอ้ ืน่ - ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื2 ความมีวนิ ัย (1 คะแนน) - ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และ ขอ้ ตกลงต่าง ๆ ของวทิ ยาลยั ไดแ้ ก่แต่ง กายถูกตอ้ งตามระเบียบ และขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา3 ความรับผดิ ชอบ (3 คะแนน) - มีการเตรียมความพร้อมในการเรียน และการปฏิบตั งิ าน - ปฏิบตั งิ านดว้ ยความต้งั ใจ - มีความเพียรพยายามในการเรียนและ การปฏิบตั ิงาน4 ความเชื่อมัน่ ในตนเอง (1 คะแนน) - กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล5 ความสนใจใฝ่ รู้ (1 คะแนน) - ซกั ถามปัญหาขอ้ สงสยั6 ความรักสามคั คี (1 คะแนน) - ร่วมมอื ในการทาํ งาน7 ความกตญั �ูกตเวที (1 คะแนน) - มสี มั มาคารวะตอ่ ครูอย่างสม่าํ เสมอท้งั ตอ่ หนา้ และลบั หลงั รวมคะแนนทีไ่ ด้ท้ังหมด
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 27 แบบสรุปผลการประเมินพฤตกิ รรมรายบุคคล ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ กลุ่มท.่ี ....................ช้นั /แผนก.........................................รหสั วิชา........................................ ความ ีมม ุนษยสัมพันธ์ชื่อวิชา........................................... ความ ีมวินัย ความ ัรบผิดชอบ ความเ ื่ชอม่ันในตนเอง ความสนใจใ ่ฝ ู้ร ความ ัรกสามัค ีค ความกตัญ ู�กตเว ีท รวม (ใน ่สวนของผู้สอน) รวม (ใน ่สวนของประธานก ุ่ลม) รวมคะแนน ่ีทได้จาก ้ทัง 2 ่สวนลาํ ดบั ช่ือ-สกุล 2 1 3 1 1 1 1 10 10 20 ที่
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 28 ใบงานที่ 1.2 หน่วยท่ี 1 ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาด ใบงาน เร่ือง ปรัชญาการจดั การทางการตลาด ประกอบการเรียนรายวิชา หลกั การตลาด รหสั วิชา 3200 - 1005จุดประสงค์เชิงพฤตกิ รรม 1. บอกปรัชญาการจดั การทางการตลาดได้ 2. วเิ คราะห์ปรัชญาการจดั การทางการตลาดได้รายการสอน ปรัชญาการจดั การทางการตลาดลาํ ดบั ข้นั การปฏิบตั ิ 1. แบ่งนกั ศึกษาเป็นกล่มุ 4 กลมุ่ นกั ศึกษาแต่ละกลมุ่ เลือกประธานกลมุ่ 2. ใหน้ กั ศกึ ษาแต่ละกลุ่มหาภาพโฆษณาสินคา้ จากนิตยสาร หนังสือพิมพ์ วารสาร หรืออินเทอร์เน็ต กลุม่ ละ 2 ภาพ 3. ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มร่วมกันคิด วิเคราะห์ ภาพโฆษณา ว่าข้อความโฆษณาน้ันเป็นการใชป้ รัชญาการจดั การทางการตลาดแนวใด 4. ใหท้ าํ งานส่งภายใน 1 ชวั่ โมง และรวบรวมผลงานส่งครูผสู้ อนในชวั่ โมงเรียน 5. ใหน้ กั ศึกษาแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนาํ เสนอหนา้ ช้นั เรียน กล่มุ ละ 5 นาที 6. กลุม่ ที่นาํ เสนอผลงาน ประเมนิ ตนเอง 7. ใหน้ กั ศกึ ษากลุ่มอน่ื ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น และประเมินผลงานกลมุ่ ท่ีนาํ เสนอ 8. ผสู้ อนรวบรวมแบบประเมนิ จาก 4 กลุ่ม พร้อมประเมนิ ผลกลุม่ ที่นาํ เสนอผลงานแหล่งข้อมูล 1. หอ้ งสมุดวิทยาลยั 2. คน้ ควา้ จากอนิ เทอร์เน็ต 3. นิตยสาร วารสาร หนงั สือพิมพ์
หน่วยท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 29 แบบประเมนิ ใบงาน เรื่อง ปรัชญาการจดั การทางการตลาดแบบประเมนิ 1ท่ี รายการ 5 432 11 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลมุ่2 ความต้งั ใจในการทาํ งานกลุ่ม3 การแบ่งหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ4 เน้ือหาสาระครอบคลมุ ชดั เจน5 การนาํ เสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน6 ความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์7 การบริหารเวลาท่ีเหมาะสม8 ส่ือที่ใชป้ ระกอบในการนาํ เสนอ9 การยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น10 ความสาํ เร็จของผลงานเกณฑก์ ารประเมนิ 5 = ดีมาก 4 = ดี 3 = ปานกลาง 2 = พอใช้ 1 = ปรับปรุงรวมคะแนนที่ได.้ .....................................................คะแนนเฉลี่ย.......................................................ประเมินผลโดย ผเู้ รียนกลุม่ ท่ี........................ ผสู้ อน.....................................แบบประเมนิ 2 ผ้ปู ระเมนิ กล่มุ ที่ 1 กล่มุ ที่ 2 กล่มุ ที่ 3 กล่มุ ท่ี 4คะแนนจากผเู้ รียนคะแนนจากผสู้ อนรวมคะแนนคะแนนเฉล่ยีข้อเสนอแนะของผู้สอนกลุม่ ท่ี 1................................................................................................................................................กลุม่ ที่ 2................................................................................................................................................กลุ่มท่ี 3................................................................................................................................................กลมุ่ ที่ 4...............................................................................................................................................
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 30 แบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ช่ือผปู้ ระเมิน/กลมุ่ ประเมิน..................................................................................................................ช่ือกลุม่ รับการประเมนิ ........................................................................................................................เรื่อง..................................................................................................................................................... ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนท่ีท่ี คุณลกั ษณะ/พฤติกรรมบ่งชี้ ใช้ได้ = 1 ควรปรับปรุง = 0 ได้1 ความมมี นุษยสัมพนั ธ์ (2 คะแนน) - แสดงกิริยาทา่ ทางสุภาพต่อผูอ้ ืน่ - ใหค้ วามร่วมมอื กบั ผูอ้ น่ื2 ความมีวนิ ัย (1 คะแนน) - ปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ ขอ้ บงั คบั และ ขอ้ ตกลงต่าง ๆ ของวทิ ยาลยั ไดแ้ ก่แต่ง กายถูกตอ้ งตามระเบียบ และขอ้ บงั คบั ตรงต่อเวลา3 ความรับผดิ ชอบ (3 คะแนน) - มีการเตรียมความพร้อมในการเรียน และการปฏิบตั งิ าน - ปฏิบตั งิ านดว้ ยความต้งั ใจ - มีความเพียรพยายามในการเรียนและ การปฏิบตั ิงาน4 ความเชื่อมัน่ ในตนเอง (1 คะแนน) - กลา้ แสดงความคิดเหน็ อย่างมเี หตุผล5 ความสนใจใฝ่ รู้ (1 คะแนน) - ซกั ถามปัญหาขอ้ สงสยั6 ความรักสามคั คี (1 คะแนน) - ร่วมมอื ในการทาํ งาน7 ความกตญั �ูกตเวที (1 คะแนน) - มสี มั มาคารวะตอ่ ครูอย่างสม่าํ เสมอท้งั ตอ่ หนา้ และลบั หลงั รวมคะแนนทีไ่ ด้ท้ังหมด
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 31 แบบสรุปผลการประเมนิ พฤตกิ รรมรายบุคคล ด้านคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ กลุ่มที่.....................ช้ัน/แผนก.........................................รหสั วิชา........................................ ความ ีมม ุนษยสัมพันธ์ช่ือวชิ า........................................... ความ ีมวินัย ความ ัรบผิดชอบ ความเ ื่ชอมั่นในตนเอง ความสนใจใ ่ฝ ู้ร ความ ัรกสามัค ีค ความกตัญ ู�กตเว ีท รวม (ใน ่สวนของผู้สอน) รวม (ใน ่สวนของประธานก ุ่ลม) รวมคะแนน ่ีทได้จาก ้ทัง 2 ่สวนลาํ ดบั ชื่อ-สกลุ 2 1 3 1 1 1 1 10 10 20 ท่ี
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 32 แบบทดสอบหลังเรียน หน่วยที่ 1 ความรู้พนื้ ฐานด้านการตลาดวตั ถุประสงค์ เพอื่ ประเมนิ ผลความกา้ วหนา้ ทางการเรียนรู้ของนกั ศึกษาเก่ียวกบั เร่ือง ความรู้พ้นื ฐานดา้ นการตลาดคาํ แนะนาํ อ่านคาํ ถามต่อไปน้ีทีละขอ้ แลว้ ทาํ เคร่ืองหมาย หนา้ คาํ ตอบตามตวั เลือก ที่เห็นวา่ ถกู ตอ้ งเพียงขอ้ เดียว นกั ศึกษามีเวลาในการทาํ แบบประเมนิ ชุดน้ี 10 นาทีจุดประสงค์ที่ 1 อธบิ ายความหมายของการตลาดได้1. Kotler and Keller ใหค้ าํ จาํ กดั ความของการตลาดไวต้ ามขอ้ ใด ก. กระบวนการทางสงั คมและการบริหาร ทาํ ใหบ้ ุคคลและกลุ่มบุคคลไดร้ ับสิ่งที่สนอง ความจาํ เป็นและความตอ้ งการ ข. การตลาดเป็นกิจกรรมทางธุรกิจที่ทาํ ใหส้ ินคา้ และบริการผา่ นจากผผู้ ลิตไปสู่ผบู้ ริโภค ค. การตลาดเป็นขบวนการคน้ หาความจาํ เป็นและความตอ้ งการของมนุษย์ ง. การตลาดเป็นวิถีทางนาํ ไปสู่ผลสาํ เร็จ จ. การตลาดเป็นหนา้ ที่ทางธุรกิจจุดประสงค์ท่ี 2 อธบิ ายความสําคญั ของการตลาดได้2. ขอ้ ใดท่ีถอื ว่าเป็นความสาํ คญั ของการตลาดท่ีมีต่อบุคคล ก. การตลาดช่วยสร้างกาํ ไรใหก้ บั องคก์ รทางธุรกิจต่าง ๆ โดยมวี ตั ถปุ ระสงคใ์ หไ้ ดร้ ับ กาํ ไรสูงสุด ข. การตลาดช่วยกระตุน้ ใหธ้ ุรกิจเกิดการศึกษาคน้ ควา้ และประดิษฐส์ ิ่งแปลก ๆ ใหม่ ๆ ค. การตลาดช่วยในการทาํ งานมีการประสานกนั ระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ง. การตลาดช่วยทาํ ใหร้ ะบบการเงินในธุรกิจมสี ภาพคล่องมากข้ึน จ. การตลาดช่วยยกระดบั มาตรฐานความกินดีอยดู่ ีมากข้ึนจดุ ประสงค์ท่ี 3 อธบิ ายอรรถประโยชน์ของการตลาดทีม่ ตี ่อผ้บู ริโภคได้3. ทุเรียนทอดจดั เป็นอรรถประโยชน์ในดา้ นใด ก. ดา้ นความเป็นเจา้ ของ ข. ดา้ นภาพลกั ษณ์ ค. ดา้ นสถานท่ี ง. ดา้ นรูปแบบ จ. ดา้ นเวลา
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 334. “ร้านสะดวกซ้ือ” จดั เป็นอรรถประโยชนใ์ นดา้ นใด ก. ดา้ นความเป็นเจา้ ของ ข. ดา้ นภาพลกั ษณ์ ค. ดา้ นสถานที่ ง. ดา้ นรูปแบบ จ. ดา้ นเวลาจดุ ประสงค์ที่ 4 บอกส่วนผสมทางการตลาดได้5. การจดั จาํ หน่าย (Place) ตอ้ งคาํ นึงถงึ การตอบสนองลกู คา้ ดา้ นใด ก. Communication ข. Convenience ค. Customer ง. Concept จ. Cost6. ขอ้ ใดไม่ใช่ ส่วนผสมทางการตลาด (Marketing Mix) ก. Distribution ข. Promotion ค. Production ง. Place จ. Priceจดุ ประสงค์ท่ี 5 บอกปรัชญาการจดั การทางการตลาดได้7. ปริมาณความตอ้ งการของสินคา้ มมี ากกว่าปริมาณการผลติ ถอื เป็นปรัชญาการจดั การทาง การตลาด ตามขอ้ ใด ก. แนวความคิดดา้ นภาระความรับผดิ ชอบต่อสงั คมและมนุษยชาติ ข. แนวความคิดดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ค. แนวความคิดดา้ นการตลาด ง. แนวความคิดดา้ นการขาย จ. แนวความคิดดา้ นการผลิต
หน่วยที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานดา้ นการตลาด 348. ขอ้ ใดถอื วา่ เป็นลกั ษณะของแนวความคิดดา้ นการตลาดเพ่อื สงั คม ก. บริษทั จรวย จาํ กดั พยายามเปลย่ี นแนวทางในกรรมวธิ ีการผลติ ใหม่ ๆ เพื่อเพิม่ ศกั ยภาพ ในการผลิตใหส้ ูงข้ึน ข. บริษทั เจริญพฒั นา จาํ กดั ออกสินคา้ ตวั ใหมอ่ อกมา โดยสินคา้ ไม่ทาํ ลายส่ิงแวดลอ้ ม และผใู้ ช้ ค. บริษทั มารวย จาํ กดั เสนอสินคา้ ตวั ใหม่ออกมา เพื่อเนน้ รูปแบบการขายใหม่ ง. บริษทั จงเจริญ จาํ กดั ขายสินคา้ โดยเนน้ ท่ีความตอ้ งการของลกู คา้ เป็นหลกั จ. บริษทั ยง่ิ พฒั นา จาํ กดั ขายสินคา้ ที่ทนั สมยั รูปแบบแปลกใหม่จุดประสงค์ท่ี 6 อธบิ ายแนวคดิ หลกั ทางการตลาดได้9. นางสาวพิมพา ซ้ือดอกกุหลาบใหเ้ พื่อนในวนั วาเลนไทน์ ตรงกบั ความจาํ เป็นขอ้ ใด ก. ความจาํ เป็นดา้ นความเป็นอยู่ ข. ความจาํ เป็นดา้ นบุคลกิ ภาพ ค. ความจาํ เป็นทางร่างกาย ง. ความจาํ เป็นส่วนบุคคล จ. ความจาํ เป็นดา้ นสงั คม10. ผบู้ ริโภคซ้ือโทรศพั ทม์ อื ถอื ยหี่ อ้ แอปเป้ิ ล เพราะความมีช่ือเสียง เคร่ืองหมายการคา้ และ ความสวยงามซ่ึงมีราคาแพง ตรงกบั แนวคิดหลกั ทางการตลาดขอ้ ใด ก. ความตอ้ งการซ้ือ ข. ความพึงพอใจ ค. ความตอ้ งการ ง. ความจาํ เป็น จ. คุณค่า
Search
Read the Text Version
- 1 - 34
Pages: