วิชานาฏศิลป์
วิชานาฏศิลป์ การละเล่นพื้นบ้าน
การละเล่น พื้นบ้าน
ที่มาของการละเล่นพื้นบ้านไทย เป็นการละเล่นที่มีมาแต่อดีต พบหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย คือการเล่นว่าว ลิงชิงเสา และปลาลงอวน ซึ่งจะแตกต่างไปตามสภาพท้องถิ่นนั้นๆ
การละเล่นพื้นบ้านมีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนไทย มาช้านาน เป็นสิ่งที่สร้างความสนุกสนาน บันเทิงใจแก่ผู้สนใจ และเป็นการสร้างความสามัคคีให้กับคนในท้องถิ่น สะท้อนถึงวิถีการดำรงชีวิต การประกอบอาชีพของคนไทย
การละเล่นพื้นบ้านของไทย
แบ่งเป็น 4 ภาค ภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้
การละเล่นพื้นบ้านของไทยมีมากมายหลายชนิด บางชนิดมีกฏกติกาในการเล่น บางชนิดไม่มีกฎกติกา การละเล่นพื้นบ้านของภาคต่างๆ มีลักษณะการเล่น และการเรียกชื่อที่แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค
การละเล่นพื้นบ้าน ภาคเหนือ
ตีกะโหล้ง แปลว่า \"เคาะกะลา\" เป็นการละเล่นของเด็กล้านนาอย่างหนึ่ง สถานที่เล่นคือสนามกว้างมีสิ่งกำบังหรือใต้ถุนบ้าน จำนวนผู้เล่น : ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น เล่นได้ทั้งหญิงและชาย
กติกา - ผู้ที่ถูกพบเป็นคนแรกจะต้องเป็นผู้ตีกะโหล้ง การเล่น เป็นคนต่อไป - เมื่อผู้ตีกะโหล้งหาผู้ซ่อนพบแล้วต้องขานชื่อผู้ที่ตน พบแล้ววิ่งมาตีกะโหล้งตามจำนวนชื่อที่ขานไป - ในระหว่างการเล่น หากผู้ซ่อนที่ไม่ได้ถูกเรียกชื่อ แอบมาเตะกะโหล้งได้ก่อนผู้ตีก็จะต้องตีกะโหล้งใน การเล่นต่อไป
วิธีการเล่น \"ตีกะโหล้ง\"
การละเล่นพื้นบ้าน ภาคกลาง
โพงพาง เป็นการละเล่นชนิดหนึ่งของเด็กๆ อาจเล่นกลางแจ้งหรือในร่มก็ได้ ซึ่งเป็นการละเล่นที่ฝึกความจำ และการใช้ประสาทสัมผัส จำนวนผู้เล่น : ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น
กติกา ผู้ที่เป็นปลาซึ่งถูกปิดตาจะต้องทายว่าผู้ที่ การเล่น ถูกจับได้เป็นใคร อุปกรณ์การเล่น : ผ้าสำหรับปิดตา ผู้ที่เป็นปลา 1 ผืน
บทเพลงประกอบการเล่น โพงพางเอย ปลาเข้าลอด ปลาตาบอด เข้าลอดโพงพาง
วิธีการเล่น \"โพงพาง\"
วิชานาฏศิลป์ การละเล่นพื้นบ้าน
การละเล่นพื้นบ้าน ภาคอีสาน
ขึ้นขื่อ หรือเตย เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของภาคอีสาน เป็นการฝึกการใช้ความคิดวางแผน ในการหลบหลีก ฝ่ายตรงข้ามและ ฝึกความคล่องแคล่ว จำนวนผู้เล่น : เล่นได้ทั้งหญิงและชาย แบ่งเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆกัน ประมาณ ฝ่ายละ 3-5 คน
กติกา - ฝ่านกั้นหรือฝ่ายประจำขื่อ จะวิ่งกั้น การเล่น ฝ่ายตรงข้ามได้เฉพาะตามเส้นขื่อเท่านั้น - ผู้ที่เป็นหัวหน้าฝ่ายกั้น เมื่อเชิญให้ฝ่ายตรงข้าม วิ่งแล้วจะมีสิทธิวิ่งไล่ได้ตลอดแนวเส้นกลาง - ฝ่ายขึ้นขื่อถ้าถูกแตะถือว่าตาย หรือแพ้ ต้องเปลี่ยนเป็นฝ่ายกั้น
วิธีการเล่น \"ขึ้นขื่อหรือเตย\"
การละเล่นพื้นบ้าน ภาคใต้
เสือกินวัว เป็นการละเล่นอย่างหนึ่งของเด็ก นิยมเล่นในสนามหรือลานที่โล่งแจ้ง การละเล่นเสือกินวัวเป็นการฝึกความ ว่องไว ไหวพริบ การหลอกล่อและหลบ หลีก จำนวนผู้เล่น : ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น แต่ควรมีอย่างน้อย 10 คน
กติกา การเล่น ผู้ที่เป็นเสือต้องจับวัวให้ได้ ผู้ที่อยู่ในคอกมีหน้าที่กั้นไม่ให้เสือเข้าไป จับวัวได้และต้องคอยช่วยเหลือวัว
วิธีการเล่น \"เสือกินวัว\"
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: