Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อุทยานเเห่งชาติดอยอินทนนท์

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อุทยานเเห่งชาติดอยอินทนนท์

Published by thanapatpreedarit, 2016-02-14 07:34:47

Description: สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ อุทยานเเห่งชาติดอยอินทนนท์

Keywords: none

Search

Read the Text Version

ค าน า  อีบุ๊คเล่มนี้จัดท าขึ้นเพื่อให้ผู้ที่สนใจสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศได้ศึกษา

สารบัญ เรื่อง รู้จักอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 1 สถานที่ตั้ง 3 การเดินทาง 4 พื้นที่ท่องเที่ยวและนันทนาการที่ส าคัญของอุทยานแห่งชาติ 10 สถานที่น่าสนใจอื่นๆ 23 ค่าธรรมเนียม 25 ฤดูกาลท่องเที่ยว 26 บริการที่พัก 27 ภาคผนวก 28 บรรณานุกรม 30

รู้จักอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์  ป่าดอยอินทนนท์นั้นเดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ต่อมาเมื่อได้มีการส ารวจทางอากาศพบว่า ป่าแห่งนี้มีสภาพ สมบูรณ์มาก เป็นต้นน ้าล าธาร มีทิวทัศน์และเอกลักษณ์ทางสภาพธรรมชาติสวยงาม และเป็นที่อาศัยของ สัตว์ป่านานาชนิด เหมาะสมที่จะจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติในสมัยนั้นสภาบริหารคณะปฏิวัติ (หัวหน้าคณะ ปฏิวัติคือ จอมพล ถนอม กิตติขจร) จึงได้อนุมัติหลักการให้กรมป่าไม้ด าเนินการ ที่ดินป่าดอยอินทนนท์ใน ท้องที่ต าบลบ้านหลวง ต าบลสบเตี้ยะ ต าบลสองแคว ต าบลยางคราม อ าเภอจอมทอง ต าบลแม่วิว อ าเภอ สันป่าตอง เนื้อที่ 168,750 ไร่ จึงได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติล าดับที่ 6 วันที่ 2 ตุลาคม 2515  ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2517 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ บริเวณดอยขุนกลาง อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ทรงมีพระราชกระแส รับสั่งให้พิจารณาขยายอาณาเขตของอุทยานฯ ออกไปครอบคลุมถึงพื้นที่ที่เป็นแหล่งก าเนิดต้นน ้าล าธาร ด้วย กรมป่าไม้จึงได้ก าหนดจัดตั้งป่าดอยอินทนนท์ในท้องที่ต าบลแม่นาจร ต าบลช่างเคิ่ง ต าบลท่าผา อ าเภอแม่แจ่ม ต าบลแม่วิน ต าบลทุ่งปี้ อ าเภอสันป่าตอง และต าบลสองแคว ต าบลยางคราม ต าบลบ้าน หลวง ต าบลสบเตี้ยะ อ าเภอจอมทอง รวมเป็นอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ในปี พ.ศ.2521 รวมเนื้อที่ ทั้งหมด 301,500 ไร่

 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นที่อยู่อาศัยของพรรณพืชและสัตว์เขตกึ่งร้อนและเขตอบอุ่น ทั้งที่หายาก และมีอยู่เฉพาะถิ่น เป็นพื้นที่ต้นน ้าล าธารที่ส าคัญของแม่ปิง มีพื้นที่ต้นน ้าย่อยให้ก าเนิดแม่น ้าล าธารหลาย สาย ที่ส าคัญได้แก่ ล าน ้าแม่กลาง แม่ยะ แม่เตี้ยะ ล าน ้าแม่แจ่ม ล าน ้าแม่วาง และไหลผ่านอ าเภอจอมทอง อ าเภอแม่แจ่ม อ าเภอฮอด อ าเภอแม่วาง และอ าเภอสันป่าตอง  สภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนของเทือกเขาถนนธงชัยที่ทอดตัวยาวแนวเหนือ-ใต้ ระดับความสูงของ พื้นที่อยู่ระหว่าง 400 - 2,565 เมตร จากระดับน ้าทะเลปานกลาง ด้วยความที่เป็นภูเขาสูง อากาศจึงหนาว เย็นตลอดปี ความชื้นสูงมาก โดยเฉพาะบนยอดดอย ในฤดูหนาวอุณหภูมิจะลดต ่ากว่า 0 องศาเซลเซียส และมักจะมี 'เหมยขาบ' หรือแม่คะนิ้ง เห็นเป็นเกล็ดน ้าแข็งจับอยู่ตามยอดหญ้า ส่วนฤดูร้อนแม้ว่าอากาศ ในตัวเมืองหรืออ าเภอใกล้เคียงจะร้อนแต่บนดอยอินทนนท์ก็ยังคงหนาวเย็น

สถานที่ตั้ง ที่ตั้ง อ าเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ 301,500 ไร่ (482.4 ตร.กม.) จัดตั้ง 13 มิถุนายน 2521 ผู้เยี่ยมชม 409,106 (พ.ศ. 2553) หน่วยราชการ ส านักอุทยานแห่งชาติ

การเดินทาง  จากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถ เดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้ 3 เส้นทางคือ  เส้นทางที่ 1 จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางโดยใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่- ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอ าเภอ หางดงและอ าเภอสันป่าตอง ไปยัง อ าเภอจอมทอง ก่อนถึงอ าเภอจอมทองประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามถนนสาย จอมทอง- อินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) จะเริ่มเข้าเขตอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ที่กิโลเมตรที่ 8 (น ้าตกแม่กลาง) และ ตัดขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์เป็น ระยะทางทั้งหมด 49.8 กม. ... ดูแผนที่เส้นทางที่ 1 (สีเหลือง)

เส้นทางที่ 1

เส้นทางที่ 2  จากจังหวัดเชียงใหม่เดินทางตามเส้นทางถนนสานเชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่าน อ าเภอหางดง อ าเภอสันป่าตอง อ าเภอจอมทองและอ าเภอฮอด จากอ าเภอฮอดเดินทางต่อโดยใช้เส้นทาง สายฮอด-แม่สะเรียง ฮอด (ทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 108) ผ่านอุทยานแห่งชาติออบหลวง แล้วเลี้ยว ขวาต่อไปยังอ าเภอแม่แจ่มโดยเส้นทางสาย ออบหลวง-แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1088) จาก อ าเภอแม่แจ่มใช้เส้นทางสายแม่แจ่ม-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1192) ขึ้นสู่ยอดดอยอิน ทนนท์ ที่ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009 กิโลเมตรที่ 38-39) ... ดู แผนที่เส้นทางที่ 2 (สีเขียว)

เส้นทางที่ 2

เส้นทางที่ 3  ซึ่งเป็นเส้นทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ที่ค่อนข้างจะล าบาก โดยทางจากจังหวัด เชียงใหม่ตามเส้นทางถนนสาย เชียงใหม่-ฮอด (ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108) ผ่าน อ าเภอหางดง และอ าเภอสันป่าตอง จากอ าเภอสันป่าตอง เลี้ยวขวา ตามถนน สายสัน ป่าตอง - บ้านกาด-แม่วิน (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1013) แล้วต่อด้วยเส้นทาง ทาง หลวงจังหวัดหมายเลข 1284 หรือ เส้นทาง ร.พ.ช. ผ่านบ้านขุนวาง และขึ้นสู่ถนนสาย จอมทอง-ดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009) ที่กิโลเมตรที่ 31 ใกล้ที่ท า การอุทยานแห่งชาติ ... ดูแผนที่เส้นทางที่ 3 (สีน ้าเงิน)

เส้นทางที่ 3

พื้นที่ท่องเที่ยวและนันทนาการที่ส าคัญของอุทยานแห่งชาติ  ส่วนใหญ่จะอยู่ตามแนวเส้นทางถนนสายจอมทอง – ยอดดอยอินทนนท์ (ทางหลวง จังหวัดหมายเลข 1009) ถนนสายยอดดอยอินทนนท์ – แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัด หมายเลข 1192) และเส้นทางเดินป่าต่าง ๆ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถเลือกไปตามสถานที่ ท่องเที่ยวที่ส าคัญของอุทยานแห่งชาติตามเส้นทางต่าง ๆ ได้ดังนี้ค่ะ



ตามแนวเส้นทางถนนสายจอมทอง – ยอดดอยอินทนนท์ (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1009)  ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ดอยอินทนนท์ ใครมาแล้วไม่รู้ว่าจะไปเที่ยว ไหนก่อนดีขอให้แวะที่นี่เอาฤกษ์เอาชัยก่อน เพราะเขามีการฉายสไลด์มัลติวิชั่นของ อุทยานและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์คอยให้บริการกับนักท่องเที่ยว ที่ท าการอุทยาน แห่งชาติดอยอินทนนท์ หรืออีกชื่อว่า กม.31 ที่นี่มีเจ้าหน้าที่ไว้คอยบริการรับจอง บ้านพักและสถานที่กางเต้นท์ ส าหรับบ้านพักและที่กางเต้นท์จะอยู่อีกบริเวณหนึ่ง ทางเข้าอยู่ทางด้านขวามือก่อนถึงที่ท าการอุทยานฯ ประมาณ 200 เมตร

น ้าตกแม่ยะ  น ้าตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสวยที่สุดของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สามารถ มองเห็นได้ในระยะไกล ที่นี่เราสามารถกางเต้นท์พักแรมที่น ้าตกได้ แต่อย่าลืมติดต่อขอ สถานที่กางเต้นท์กับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ด้วยล่ะ, น ้าตกแม่กลาง เป็นจุดแรกของประตู เข้าสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ น ้าตกจากหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร ไหลพวย พุ่งมาสู่โกรกเขา ซึ่งเป็นแอ่งน ้าขนาดใหญ่ มีชื่อว่า วังน้อยและวังหลวง ใครไปเที่ยวช่วง ฤดูฝนระวังหน่อยเพราะน ้าไหลแรงและขุ่นข้นมากจ้ะ

น ้าตกแม่ยะ

ถ ้าบริจินดา  ถ ้าขนาดใหญ่ อยู่ในเทือกเขาดอยอินทนนท์ ใกล้น ้าตกแม่กลาง ภายในถ ้ามีความลึกหลายกิโลเมตร เพดาน มีหินงอกหินย้อยหรือที่ชาวเหนือเรียกว่า 'นมผา' และมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน เพื่อให้ นักท่องเที่ยวได้นมัสการ นอกจากนั้น ยังมีธารหิน เมื่อมีแสงสว่างมากระทบจะเกิดประกายระยิบระยับดัง กากเพชรงามยิ่งนัก ลักษณะของถ ้าเป็นถ ้าทะลุแสงสว่างลอดเข้ามาได้ สามารถมองเห็นภายในได้ถนัด ก่อน จะถึงปากถ ้าจะมีป้ายขนาดใหญ่ตั้งอยู่, น ้าตกวชิรธาร เป็นน ้าตกขนาดใหญ่ ตัวน ้าตกอยู่สูงจาก ระดับน ้าทะเลประมาณ 750 เมตร ตรงข้ามมีหน้าผาสูงชัน เรียกว่า 'ผาม่อนแก้ว' หรือในภายหลังเรียกว่า 'ผาแว่นแก้ว'

น ้าตกสิริธาร  นอกจากความสวยงามของน ้าตกแล้ว ที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น ้าหลายชนิด รวมทั้งปลาหายาก เช่นปลาค้างคาว ป่าบริเวณนี้เป็นป่าเต็งรังผสมสนเขาและป่าดิบแล้ง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งสมุนไพรที่ส าคัญอีกด้วย, น ้าตกสิริภูมิและสวนหลวงสิริภูมิ เดิมเรียกว่า 'เลาลึ' ตามชื่อของหมู่บ้านม้ง ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้ ๆ น ้าตก ภายหลังเปลี่ยน ชื่อตามพระนามาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ปัจจุบัน มีการจัดภูมิทัศน์ สวนหลวงสิริภูมิ อยู่ภายใต้การด าเนินงานของศูนย์พัฒนา โครงการหลวงอินทนนท์ มีการจัดเก็บค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท เด็ก คนละ 10 บาท

น ้าตกแม่ปาน  จากธรรมชาติที่ลึกของป่าใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ จะเห็นสายน ้าที่ ไหลผ่านภูผาถึง 4 ชั้น ล้อมรอบด้วยป่าเขียวขจีตัวน ้าตกมีความสูงมากกว่า 100 เมตร สามารถมองเห็นได้จากจุดชมวิวระยะไกล จากบริเวณที่ตั้งหน่วยพิทักษ์ฯ อุทยาน แห่งชาติ (น ้าตกแม่ปาน) หรือเดินเท้าไปตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติผาส าราญ (น ้าตกแม่ปาน-ห้วยทรายเหลือง) ระยะทางประมาณ 400 เมตร

พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ  เป็นพระธาตุที่ทางกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ ร่วมใจสร้างถวาย แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษา เมื่อปี พุทธศักราช 2530 และเทิดพระเกียรติแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลสมัยที่ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2535 โดยรอบบริเวณพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์ สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอย อินทนนท์โดยรอบได้อย่างชัดเจน พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์นี้ มีรูปทรงคล้ายคลึงกัน คือ มีฐานเป็นรูป 12 เหลี่ยม มีระเบียงแก้วโดยรอบเป็น 2 ระดับ เป็นที่ประดิษฐานพระ บรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา

พระธาตุนภเมทนีดลและพระธาตุนภพลภูมิสิริ

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน  เป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถวนรอบไปกลับในวันเดียว ตามหนทางจะผ่านไปสู่ป่าดงดิบริมธารน ้า ขึ้นเนิน ผ่านป่าที่ห้อยระย้าด้วยมอส ฝอยลม หน้าฝนจะถูกปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศที่ หนาวเย็น สุดปลายทางมีทุ่งดอกไม้นานาชนิด เรียกว่าหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว  ยอดดอยอินทนนท์ ชมป่าดิบดึกด าบรรพ์ ซึ่งน้อยคนนักจะได้สัมผัสธรรมชาติที่ แท้จริงของภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศ ที่นี่มีทั้งกล้วยไม้และพันธุ์ไม้ป่าที่สวยงามและหา ยาก นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานกู่พระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชานนท์ ผู้ครองเชียงใหม่ องค์ที่ 7 และเป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทย จะมาฤดูไหนอุณหภูมิก็ พร้อมเที่ยวเสมอที่ราว 5 – 18 องศาเซลเซียส

ตามแนวเส้นทางถนนสายยอดดอยอินทนนท์ – แม่แจ่ม (ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1192)  เส้นทางนี้เราก็จะได้เที่ยว ป่าดงดิบเขาดึกด าบรรพ์ (Old-growth forest) บริเวณทางแยกอ าเภอแม่แจ่ม ผ่านน ้าตกแม่ปาน และแวะชมน ้าตกห้วยทรายเหลือง สะดวกเที่ยวเส้นไหนตะลุยไปเส้นนั้น หรือถ้ามีเวลาเยอะก็ลุยทั้ง 2 เส้นทางไปเลยก็ได้ นะจ๊ะ



สถานที่น่าสนใจอื่น ๆ  โครงการเพาะพันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ โครงการนี้เกิดขึ้นจากพระราชด าริของสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ พระบรมราชินีนาถ ทรงเล็งเห็นถึงความส าคัญของกล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ ที่ก าลังจะหมดไปจากป่าธรรมชาติ สภาพแวดล้อมเป็นสวนหินที่สวยงาม และทางโครงการฯ ได้ จัดท าสวนกล้วยไม้ และสวนดอกไม้เมืองเหนือไว้อย่างสวยงาม  โครงการหลวงอินทนนท์ ถูกตั้งเพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาเปลี่ยนอาชีพ จากการปลูกฝิ่นมาเป็น เกษตรกรรม ภายในโครงการหลวงนั้นมีพรรณไม้ให้ชมหลากหลาย เช่น สวนเฟิน สวน กระบองเพชร และไม้ดอกไม้ประดับเมืองเหนือ อีกทั้งยังมีร้านอาหารไว้ให้บริการอีกด้วย

 จุดชมทิวทัศน์ กม. 41 จุดชมทิวทัศน์อยู่ตรงกิโลเมตรที่ 41 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันกว้างไกลของขุนเขาสลับซับซ้อน โดยเฉพาะยามเช้าจะมีทะเลหมอกปกคลุม เหนือหุบเขาน่าชมมาก จากจุดชมทิวทัศน์สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุน ภพลภูมิสิริสูงเด่นอยู่คู่กัน

ค่าธรรมเนียมการเข้าอุทยานแห่งชาติ  ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท  เด็ก คนละ 10 บาท  กรณีเป็นเด็กอายุต้องต ่ากว่า 14 ป ี แต่ถ้าอายุต ่ากว่า 3 ป ี จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม  กรณีเป็นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ให้เก็บค่าธรรมเนียมในอัตราส าหรับเด็ก  รถจักรยาน 10 บาท/คัน  รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน  รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท/คัน  รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท/คัน  รถยนต์ไม่เกิน 10 ล้อ 200 บาท/คัน

ฤดูกาลท่องเที่ยว  ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน เดือน มีนาคม – พฤษภาคม แม้อากาศจะร้อนอบอ้าว แต่บนดอยยังมีอากาศสด ชื่นเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส ฤดูฝนเดือน มิถุนายน – กันยายน ฝนตกชุกเพิ่มความชุ่มชื้นให้ป่า ชมสาย หมอกและละอองฝน ที่เพิ่มความสวยงามผสมกลมกลืนกันอย่างน่าอัศจรรย์  ฤดูหนาวเดือน ตุลาคม – กุมภาพันธ์ อากาศค่อนข้างหนาวและฝนเริ่มลดน้อยลงและอากาศเย็น ลงบ้าง และมีอากาศหนาวจัดที่สุดในช่วงเดือนมกราคม เป็นฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวมากที่สุด เพราะสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นท้องฟ้าแจ่มใส ตัดกับสีเขียวของป่าไม้ อากาศจะเย็นมากในตอนกลางคืน อุณหภูมิจะลดต ่ากว่า 0 - 4 องศาเซลเซียส ซึ่งช่วงนี้แหละที่เราจะได้เห็นน ้าคางแข็งหรือแม่คะนิ้งกันล่ะ

บริการที่พัก  มีทั้งบ้านพัก เต้นท์สนามคู่ และสถานที่กางเต้นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ ที่ ท าการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กม. ที่ 31 อ าเภอจอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160 โทร. (053) 268550 หรือติดต่อที่ส านักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (02) 57954852, 5795269 หรือคลิกเข้ามาหาข้อมูลละเอียดยิบได้ที่นี่เลย www.doiinthanon.com

ภาคผนวก



บรรณานุกรม  Doiinthanon.(2558).เที่ยวเต็มอิ่ม ณ ดอยอินทนนท์ .สืบค้นเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2559 จาก ชื่อเว็บไซต์:http://travel.kapook.com/view684.html