สานึกในพระมหากรณุ าธิคุณ ด้วยสานกึ ในพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ท่ีทรงเมตตาต่อพสก นิกรชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเด็กและเยาวชนของชาติในถ่ินทุรกันดารให้ได้โอกาสทางการศึกษาเพ่ือพัฒนา คุณภาพชีวิตทีด่ ีขนึ้ ขา้ พระพุทธเจา้ ผอู้ านวยการ คณะครู บคุ ลากรทางการศึกษา นักเรียนโรงเรียนบ้านเลโคะ ล้วนซาบซ้ึงใน พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมหาท่ีสุดมิได้ที่ตลอดระยะเวลาท่ีผ่านมาใต้ฝุาละอองพระบาททรงอุทิศ ทุม่ เทกาลังวรกาย กาลังพระราชหฤทัย และกาลังพระปัญญา ปฏิบัติบาเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อทรง ชว่ ยยกระดับคณุ ภาพชีวติ พสกนกิ รชาวไทย และเด็กในถิ่นทุรกันดารให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านโครงการตามพระ ราช ดารฯิ แนวทางการทรงงานเป็นแบบอย่างใหแ้ กป่ ระชาชน และข้าราชการไดน้ าไปประพฤติปฏิบัติก่อให้เกิด การพฒั นาตนเอง สงั คม และประเทศชาติ ปวงข้าพระพุทธเจ้าจักเทิดทูนพระบุญบารมีไว้เหนือเกล้าตลอดไป และขอตั้งปณิธานในการทาความดี นอ้ มนาแนวทางการดาเนนิ งานตามโครงการพระราชดาริฯ ไปส่กู ารปฏิบัติ เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาของชาติ เพอ่ื ความม่นั คง มั่งค่งั และย่งั ยืนต่อไป ดว้ ยเกลา้ ด้วยกระหม่อม ผ้บู ริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา และนกั เรียนโรงเรียนบ้านเลโคะ
คานา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเริ่มงานพัฒนาเด็กและเยาวชนท่ีอยู่ในถ่ิน ทุรกันดารและในพ้ืนที่ห่างไกลได้มีโอกาสทางการศึกษาส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตท่ีดีในทุกพื้นที่ของประเทศ เปน็ ระยะเวลากว่า ๓๐ปี มีหน่วยงานที่สนองโครงการตามพระราชดาริฯ ได้แก่สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน สานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กองบัญชาการตารวจตระเวน ชายแดน สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร และกระทรวงมหาดไทย ซ่ึงโรงเรียนบ้านเลโคะได้ เริ่มเข้าร่วม โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามแนวพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีการศึกษา ๒๕๖๐เป็นต้นมา โดยโรงเรียนได้ดาเนินงาน จัดกิจกรรม โครงการต่างๆ ให้ เปน็ ไปตามวัตถุประสงคข์ องโครงการ เอกสารประกอบการนาเสนอผลงานฉบับนี้ ได้รวบรวมข้อมูลตา่ งๆ ไดแ้ ก่ขอ้ มูลพ้ืนฐานของโรงเรียนบ้านเล โคะ หวงั เป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเด็กและเยาวชนในถิ่น ทุรกันดาร ใหม้ ีโอกาสการเข้าถึงการศกึ ษาภาคบังคบั และการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน คณะผู้จัดทา โรงเรยี นบ้านเลโคะ
โครงการพัฒนาเดก็ และเยาวชนในถ่ินทรุ กันดารตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี (กพด.) โรงเรยี นบา้ นเลโคะ หมู่ท่ี ๑ ตาบลสบเมย อาเภอสบเมย จงั หวัดแม่ฮอ่ งสอน ประวัตขิ องโรงเรียน “เลโคะ” เป็นภาษากะเหรี่ยง หมายถึง ดินแดนแห่งดอยผาตั้ง ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่บ้าน ที่มี ประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โรงเรียนบ้านเลโคะ เดิมเป็นหมวดกองร้อยตารวจตระเวนชายแดนอาเภอแม่สะ เรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทางกองบัญชาการตารวจตระเวนชายแดนได้เห็นความสาคัญของหมู่บ้านน้ี เพราะเป็น หมู่บ้านท่ีห่างไกลความเจริญอยู่ติดกับชายแดนประเทศพม่า อีกท้ังเป็นเส้นทางสาคัญของการหลบหนีของผู้ล้ีภัย โจรผู้รา้ ยท่ีจะเขา้ มาในเขตอาเภอแม่สะเรียง ดังน้ันทางราชการจึงได้ต้ังหมวดกองร้อยข้ึนเมือปีพุทธศักราช ๒๕๑๒ เพอื่ ใหต้ ารวจตระเวนชายแดนประจาอยู่และเปิดสอนหนังสือ ต่อมาทางตารวจตระเวนชายแดน ได้จัดต้ังโรงเรียน ชาวเขาข้ึน โดยที่หมวดกองร้อยตระเวนชายแดนเป็นผู้สอนหนังสือ จากน้ันมีครูอาสาสมัครของพระบาทสมเด็จ พระเจา้ อย่หู ัว ชือ่ นายเมืองพล เมฆเมืองใจ นิสิตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาทาการสอนประมาณ ๖ เดือน ต่อมาอีก ๑ ปี หมวดการศึกษาอาเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รับโอนจากทางหมวดกองร้อยตารวจ ตระเวนชายแดน เป็นสถานที่สอนช่ัวคราวมีนายดารง วงศ์น้อย เป็นหัวหน้าหมวดการศึกษาอาเภอ แม่สะเรียง มาทาการเปิดโรงเรยี นบ้านเลโคะ เม่อื วนั ท่ี ๑๐ เดอื นมิถนุ ายน พ.ศ. ๒๕๑๘ มีนักเรียนทั้งหมด ๒๐ คน ครูทาการ สอน ๑ คน คือนายยนต์ ชัยชนะ ทาหนา้ ทร่ี กั ษาการครใู หญ่ จัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรประถมศึกษา โรงเรียนบ้านเลโคะ ตั้งอยู่เลขท่ี ๒๙๐หมู่ที่ ๑ตาบลสบเมย อาเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจาก อาเภอสบเมยไปทางทิศตะวันตกตามถนนสายทางหลวงชนบทบ้านห้วยกองมูล ประมาณ ๓๕ กิโลเมตร เป็น ถนนลาดยาง ๖ กิโลเมตร ถนนลูกรัง ๙ กิโลเมตร และถนนดินแดง ๒๐ กิโลเมตร ทิศเหนือจรดหมู่บ้านหมู่บ้าน ห้วยน้าใส ทิศตะวันออกจรดหมู่บ้านทิยาเพอ ทิศตะวันตกจรดหมู่บ้านแม่ลามา และทิศใต้จรดหมู่บ้านกลอโคะ มี สภาพภูมิอากาศในฤดูฝน ฝนตกชกุ เร่มิ ตั้งแต่เดอื นพฤษภาคม ถึงเดือนตุลาคม ทาให้การเดินทางยากลาบากมาก มี น้าขัง ถนนเป็นดินโคลนลึก และลื่น ประกอบกับเป็นเส้นทางไปยังพ้ืนที่พักพิงชั่วคราว จึงมีรถยนต์ว่ิงทุกวัน ฤดู หนาว อากาศหนาวจัดมีหมอกปกคลุมท่ัวไป เริ่มต้ังแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ สภาพทางการศึกษา ประชากรการศึกษาของโรงเรียนบ้านเลโคะ มาจากบ้านเลโคะ บ้านห้วยน้าใส บ้านทิยาเพอ บ้านกลอโคะ บ้านแม่ ลามา บ้านทีฮือลือและบ้านซ่ือม่ือ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นท่ีท่ีได้รับผลกระทบจากการมีพ้ืนท่ีพักพิงช่ัวคราวต้ังอยู่ ชุมชน เปน็ ชาวเขาเผา่ กะเหรีย่ งโปว์ ๑๐๐ % ฐานะยากจนและขาดโอกาสทางการศึกษา จัดบริการทางการศึกษาแบบให้ เปลา่ ตามนโยบายของรัฐบาล ในรูปแบบงบประมาณอดุ หนนุ รายหัว ในการจัดการศึกษา โรงเรียนบ้านเลโคะเป็นโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาเพียงแห่งเดียวในตาบลสบเมย จัดการศกึ ษาตง้ั แต่ระดบั ก่อนประถมศึกษาหรอื ปฐมวัย จนถึง ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓
มีนกั เรียนในเขตพืน้ ทบี่ รกิ าร จากหมบู่ า้ นเลโคะ บ้านหว้ ยนา้ ใส บา้ นทิยาเพอ บา้ นกลอโคะ บ้านแม่ลามา บ้านทีฮือ ลอื และบ้านซ่ือมอ่ื ซ่งึ ต้งั อย่ใู นพื้นทโ่ี ดยรอบ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกุมารี เสดจ็ พระราชดาเนนิ ไปทรงติดตามผลการดาเนนิ งาน โครงการตามพระราชดาริ และทรงเยีย่ มราษฎร จานวน ๐ ครัง้ ดงั น้ี ปัจจุบนั โรงเรียนมีพ้ืนทีท่ ั้งหมด ๑๗ ไร่ ๑ งาน ๑๐ ตารางวา ระบบการศกึ ษา โรงเรยี นบา้ นเลโคะ สังกดั สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาแม่ฮ่องสอน เขต ๒ พนื้ ท่ี รับผิดชอบของ อาเภอสบเมย จัดตั้งอยา่ งเป็นทางการวันท่ี ๑๐ เดอื นมิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๘ เปดิ ทาการสอน ระดับก่อนประถม ถึงระดบั มัธยมศึกษา ดาเนนิ การสอน ๒ ภาคเรยี น ดังนี้ ภาคเรยี นที่ ๑ เปิดวันท่ี ๑๖ พฤษภาคม ถึง ๑๐ ตลุ าคม ภาคเรียนที่ ๒ เปิดวนั ท่ี ๑ พฤศจิกายน ถึง ๓๑ มีนาคม จานวนครแู ละนกั เรยี น เมอ่ื เร่ิมกอ่ ตงั้ มีนักเรียน ๒๐ คน มคี รู ๑ คน ปัจจบุ ันมีผ้อู านวยการ ๑ คน ครู ๑๗ คน ปจั จุบนั มี นักเรยี น ๑๕๐ คน เปน็ ชาย ๗๕ คน หญิง ๗๕ คน อาณาเขต ทศิ เหนอื ตดิ ตอ่ หมบู่ า้ นห้วยน้าใส ทศิ ใต้ ตดิ ตอ่ หมบู่ ้านกลอโคะ ทิศตะวันออก ตดิ ตอ่ หมบู่ ้านทิยาเพอ ทศิ ตะวันตก ตดิ ตอ่ หม่บู า้ นแม่ลามา การคมนาคม สภาพความห่างไกลและทุรกันดารของชุมชนและสถานศึกษาจากท่ีว่าการอาเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ถึง โรงเรียนบ้านเลโคะ สภาพเส้นทาง ถนนลาลอง(ดินสลับลูกรัง) ระยะทาง ๓๐ กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทาง ๑ ชั่วโมง๓๐นาที การขนส่งวัสดุการเรียนการสอน ขนส่งอาหารกลางวันและอาหารสาหรับนักเรียนพักนอน ตลอดจนการดูแลนกั เรยี นทเ่ี จ็บปุวยและกรณฉี ุกเฉินอน่ื เป็นไปดว้ ยความยากลาบาก จานวนประชากร / ครัวเรือน มีจานวนครวั เรอื นทงั้ สน้ิ ๑๒๒ ครัวเรอื น มปี ระชากรทง้ั หมด ๔๓๒ คน เปน็ ชาย ๒๒๒ คน และหญิง ๒๑๐ คน ศาสนา / ภาษาทใ่ี ช้ ประชากรส่วนใหญน่ บั ถือศาสนา พุทธ ภาษาท่ีใชใ้ นชวี ิตประจาวนั คอื กระเหรย่ี ง
การประกอบอาชพี / รายได้เฉลีย่ ประชากรสว่ นใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกรรม รายได้เฉล่ียประมาณครวั เรือนละ ๑,๕๐๐ - ๓,๐๐๐ บาท/ปี การบรกิ ารของรัฐ สถานบรกิ ารสาธารณสขุ ทใ่ี กล้ท่สี ุด คอื โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพประจาตาบลบา้ นเลโคะระยะทางหา่ ง จากหมบู่ า้ น ๒๐๐ เมตร โรงเรยี นทเี่ ปิดสอนระดับมธั ยมศึกษาทใ่ี กล้ทส่ี ุด คือ โรงเรยี นสบเมยวิทยาคม ระยะทางห่างจากหมู่บ้าน ๓๓.๕ กโิ ลเมตร ผู้นาหมบู่ า้ น นายวนิ ัย โกพอ กานนั ปัญหาและความต้องการของประชาชนในหม่บู ้าน ๑) เนอื่ งจากสภาพอากาศในฤดหู นาว หนาวจดั มีน้าคา้ งปกคลุมโดยรอบ ผ้ปู กครองมฐี านะยากจน ขาด แคลนเครอ่ื งนงุ่ หม่ กนั หนาว จึงต้องจดั หาเส้ือผา้ ผา้ ห่ม เครื่องกนั หนาว ถุงเทา้ รองเทา้ ผ้าใบหรอื รองเทา้ แตะ สาหรับนักเรียนและผปู้ กครองในทกุ ปี ๒) เนื่องจากนักเรียนมจี านวนถึง ๑๗๐ คน งบประมาณท่ีได้รับจดั สรรไม่เพยี งพอ ทาให้ขาดแคลนอุปกรณ์ เครื่องเขยี น อปุ กรณก์ ีฬา เป็นตน้ ๓) เน่ืองจากเป็นโรงเรยี นขยายโอกาสท่ีเปดิ ทาการเรียนการสอนตัง้ แตช่ ้ันอนุบาล ถงึ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ เพยี งแห่งเดียวในตาบลสบเมย อาเภอ สบเมย จังหวดั แม่ฮ่องสอน และมนี ักเรียนพักนอนในโรงเรยี น ที่ โรงเรยี นจะตอ้ งดูแลความเป็นอย่ตู ลอดเวลา งบประมาณที่ไดร้ บั จดั สรรมจี ากดั จึงขาดแคลนของใช้จาเป็นส่วนตวั ในชวี ิตประจาวนั เชน่ สบู่ ยาสฟี ัน แปรงฟัน ยาสระผม ผงซกั ฟอก ขา้ วสาร อาหารสด-แหง้ ตลอดจนยาและเวชภัณฑ์
เป้าหมายหลกั ของการจัดการศกึ ษาโรงเรยี นในโครงการพฒั นาเด็กและเยาวชน ในถ่ินทรุ กนั ดารตาม พระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (กพด.)โรงเรยี นบ้านเลโคะ เปาู หมายหลักท่ี ๑ เสรมิ สร้างสขุ ภาพของเด็กตั้งแต่ในครรภม์ ารดา เปาู หมายหลักท่ี ๒ เพิ่มโอกาสทางการศึกษา เปาู หมายหลกั ท่ี ๓ เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของเด็กและเยาวชนทางวชิ าการและทางจริยธรรม เปูาหมายหลกั ท่ี ๔ เสริมสร้างศักยภาพของเดก็ และเยาวชนทางการงานอาชีพ เปาู หมายหลกั ท่ี ๕ ปลกู ฝังจติ สานกึ และพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนรุ ักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม เปาู หมายหลักท่ี ๖ เสริมสรา้ งศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์และสบื ทอดวัฒนธรรมและ ภมู ปิ ัญญาทอ้ งถน่ิ และของชาตไิ ทย เปูาหมายหลักที่ ๗ ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชมุ ชน เปูาหมายหลกั ที่ ๘ พัฒนาสถานศกึ ษาเปน็ ศูนย์บริการความรู้ กระบวนการทางาน : แผนการปฏบิ ัตงิ านการจดั การศกึ ษาโรงเรียนในโครงการพัฒนาเดก็ และเยาวชน ในถิ่น ทุรกันดารตามพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (กพด.) โรงเรียนบา้ นเลโคะ วสิ ยั ทัศน์(Vision) วิสัยทัศน์โรงเรียน ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ในถิ่นทุรกันดารพระราชดาริ สมเด็จพระเทพ รัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี (กพด.) โรงเรียนบา้ นเลโคะ “พัฒนาคุณภาพการศึกษาตามพระราชปณิธาน ดว้ ยโครงการในพระราชดาริ” พนั ธกิจ(Mission) ๑. สรา้ งจิตสานกึ เทดิ ทนู สถาบันแกผ่ ้บู ริหาร ครู บคุ ลากร และนักเรียน ๒. เสรมิ สรา้ งสขุ ภาพของเดก็ ตั้งแต่ในครรภม์ ารดา ๓. ปลูกฝังให้ผู้บรหิ าร ครู และนักเรยี น เปน็ คนดี มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม มีจติ สาธารณะตามแนว พระราชดาริ ๔. พัฒนาคณุ ภาพการศึกษาตามพระราชปณิธานอยา่ งยง่ั ยืน ๕. เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพของเด็กและเยาวชนทางการงานอาชีพ ๖. ปลกู ฝงั จติ สานกึ และพฒั นาศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ สง่ิ แวดล้อม ๗. เสริมสรา้ งศกั ยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษแ์ ละสบื ทอดวฒั นธรรมและภมู ิปัญญาท้องถิน่ และของชาติไทย
๘. สรา้ งและพฒั นาสถานศึกษาให้เป็นศนู ย์การเรยี นร้สู าหรบั ชุมชน ลดความเหลอื่ มลา้ และให้มีการเขา้ ถึง เครือ่ งมือสื่อ และแหลง่ เรียนรู้ ทีท่ ันสมัยอย่างเสมอภาคและเท่าเทยี ม เปา้ ประสงค์ (Goal) ๑. ผบู้ รหิ าร ครบู ุคลากรและนักเรยี นมจี ติ สานึกและปฏบิ ตั ิตนแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบนั ชาติ ศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์ ๒. เดก็ และเยาวชนในถ่นิ ทุรกนั ดารมีภาวะโภชนาการ สุขภาพกาย สขุ ภาพจิตสมบรู ณ์ แขง็ แรงตัง้ แต่แรกเกิด ๓. ผู้บริหาร ครู และนักเรียน เปน็ คนดี มคี ุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะดาเนนิ ชีวติ ตามแนว พระราชดาริ ๔. เดก็ และเยาวชนในถิน่ ทรุ กันดารมคี ณุ ภาพการเรียนร้ตู ามมาตรฐานหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ัน พนื้ ฐาน ๒๕๕๑ ตามพระราชปณธิ านอยา่ งยั่งยนื ๕. เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารมีทกั ษะอาชพี และมรี ายได้ระหวา่ งเรียนตามความถนัดและความสนใจที่ สอดคล้องกับสภาพชุมชนและสงั คม ๖. เดก็ และเยาวชนในถน่ิ ทุรกนั ดารมคี วามรกั หวงแหนและมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละ สิ่งแวดล้อม ๗. เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารอนรุ กั ษแ์ ละสืบทอดวฒั นธรรมภมู ิปญั ญาทอ้ งถ่นิ ๘. โรงเรยี นเปน็ ศนู ยก์ ารเรียนรตู้ น้ แบบและเปน็ แม่ข่ายการขยายผลงานตามพระราชดาริสู่ชุมชนเพ่ือลด ความเหล่ือมล้า และใหม้ ีการเขา้ ถงึ เครอ่ื งมือส่ือ และแหลง่ เรยี นรู้ ท่ที นั สมัยอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม
การขับเคลอ่ื นแผนสูก่ ารปฏบิ ตั ิ : นวัตกรรมเพือ่ การพัฒนา “พ้ืนที่สูงโมเดล กับการพัฒนางานตามพระราชดาริฯ โรงเรียนบ้านเลโคะ” โรงเรียนบ้านเลโคะใช้โมเดลในการบริหารงาน PDCA หรือท่ีเรียกว่าวงจรเดมิง โดยมีข้ันตอนและวิธีการ ดาเนินงาน ดงั นี้ ขั้น P = Plan ๑. การศึกษา และเตรียมการ ๒. การวางแผนการประกันคุณภาพการศึกษา โดยวางแผนการดาเนินการประกันคุณภาพการศึกษาของ โรงเรียน ขัน้ D = Do ๑. ทบทวนการประกนั คุณภาพการศึกษา โดยทบทวนงานต่าง ๆ ท่ีโรงเรียนได้ทาการวางแผนไว้ให้ทุกคน เข้าใจ และนาไปปฏบิ ตั ิ ๒ .ปฏบิ ัติงานตามมาตรฐานการปฏบิ ตั งิ านของโรงเรยี น และตามแผนปฏิบตั ิราชการของโรงเรียนโดย ดาเนินการ ๓. นิเทศ กากบั ติดตามผลการดาเนนิ งานตามมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียน ระหวา่ งทท่ี ุกฝาุ ย ของโรงเรียนไดด้ าเนินงานไป ขณะเดยี วกนั ก็ช่วยกนั แก้ไขปญั หาท่ีเกดิ ข้นึ ใหส้ าเร็จลลุ ว่ งไป เพื่อให้คุณภาพของ โรงเรยี นเข้าสมู่ าตรฐานทก่ี าหนดไวเ้ รว็ ข้นึ ข้ัน C = Check ๑. แตง่ ตงั้ คณะกรรมการตรวจสอบและทบทวนคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี น ๒. กาหนดระยะเวลา และแนวทางการตรวจสอบ หรือวางแผนการตรวจสอบ ซ่ึงการตรวจสอบ และ ทบทวนคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน โรงเรียนควรทาการตรวจสอบ ทั้งการปฏิบัติงานตามมาตรฐานการ ปฏบิ ัตงิ าน และตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรียน ตามมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษา (มาตรฐานและตัวช้ีวัด) ของโรงเรียนดว้ ย ๓. ดาเนินการตรวจสอบตามแผนท่ีวางไว้ สาหรับการประเมินสภาพของโรงเรียนตามมาตรฐานคุณภาพ การศึกษาของสาถานศึกษาครั้งที่ ๒ หลังจากได้ปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของโรงเรียน ไปได้ ระยะเวลาหนึ่ง โดยนาเครื่องมือประเมินคุณภาพการศึกษาท่ีสร้างขึ้นมาแล้วในข้อ ๒.๓ ของขั้นตอนที่ ๑ (การ วางแผนฯ) และทาการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษา ดงั ขอ้ ๒.๔ และจัดทาสารสนเทศหรือข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียน คร้ังที่ ๒ ตามข้อ ๒.๕ ของข้ันตอนท่ี (การวางแผนฯ) ท้ังนี้เพื่อตรวจสอบความก้าวหน้าของตัวชี้วัด และมาตรฐาน คุณภาพการศึกษา ที่บกพร่องที่พบจากการประเมินคร้ังท่ี ๑ และเพ่ือตรวจสอบ และแก้ไขส่ิงที่ยังไม่เป็นไปตาม มาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาตอ่ ไป
๔. จัดทารายงานคณุ ภาพการศกึ ษาประจาปี (SAR) ๕. นาเสนอคณะกรรมการสถานศึกษาขนั้ พน้ื ฐานให้ความเห็นชอบ ๖. เผยแพรผ่ ลการพัฒนาคณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรยี นต่อสาธารณะชน หนว่ ยงานต้นสงั กดั ขัน้ A = Act ๑. การพฒั นาและการปรับปรุงคณุ ภาพการศึกษาของโรงเรยี น โครงการตามเป้าหมายหลกั ของโรงเรยี นบ้านเลโคะ เป้าหมายหลกั ท่ี ๑ เสริมสรา้ งสขุ ภาพของเด็กต้งั แต่ในครรภม์ ารดา ๑. โครงการแขง่ ขนั กีฬาสภี ายในโรงเรียน ๒. โครงการแข่งขันกีฬาศูนย์เครือขา่ ยตาบลสบเมย ๓. โครงการแข่งขันกีฬาอาเภอ ๔. สร้างห้องน้าอ่างล้างมอื เพ่ือนอ้ งอนุบาล ๕. โครงการโรงเรียนรอบรู้ด้านสุขภาพ ๖. โครงการวัยใส หา่ งไกลยาเสพตดิ ๗. โครงการพฒั นาสาธารณูปโภคภายในโรงเรียน เปา้ หมายหลกั ที่ ๒ เพ่มิ โอกาสทางการศึกษา ๑. โครงการเลอื กโรงเรียนท่ใี ช่แล้วไปใหส้ ุดทางฝัน ๒. โครงการสื่อเพื่อศษิ ย์ ๓. โครงการห้องเรยี นหรรษา ภาษาพาเพลิน ๔. โครงการเรยี นรู้ทะลหุ อ้ งเรียน ๕. ปรบั ปรุงภูมทิ ศั นใ์ นโรงเรยี น ๖. พัฒนาระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรยี น ๗. โครงการพาเดก็ ดอยไปลอยเล เป้าหมายหลักท่ี ๓ เสริมสร้างศักยภาพของเดก็ และเยาวชนทางวชิ าการและทางจริยธรรม ๑. โครงการพัฒนาหอ้ งเรียนและแหลง่ เรียนรู้หอ้ งสมุด ๒. โครงการวนั ภาษาไทย ๓. โครงการวันวิทยาศาสตร์ ๔. โครงการพัฒนาหอ้ งเรียนและแหล่งเรียนรกู้ ล่มุ สาระภาษาไทย ๕. โครงการห้องสมดุ มชี วี ติ 3D (จัดหาหนงั สอื หอ้ งสมดุ ) ๖. โครงการอ่านข่าวเลา่ เรื่อง ๗. โครงการปรับพน้ื ฐานทางภาษาแก้ปัญหาอ่านไม่ออกเขียนไมถ่ ูกต้อง ๘. โครงการอา่ นคล่องเขยี นคล่อง
๙. โครงการสุดยอดนกั อา่ น \"วางทุกงาน อา่ นทุกคน\" ๑๐. โครงการสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสือในโรงเรยี น ๑๑. โครงการ YC เพ่ือนท่ีปรึกษา ๑๒. สภานกั เรียน ธรรมาภบิ าล บา้ นเลโคะ เป้าหมายหลักท่ี ๔ เสริมสรา้ งศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางการงานอาชีพ ๑. โครงการโรงเรยี นชวี ิตสอู่ าชีพสุจริตในอนาคต ๒. โครงการแปรรปู ผลิตภณั ฑ์ ๓. โครงการสหกรณโ์ รงเรียนบา้ นเลโคะ เป้าหมายหลกั ท่ี ๕ ปลูกฝังจิตสานึกและพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ๑. โครงการนักสืบสายน้า \"ไล้จองคู\" ๒. โครงการสวนพฤกษศาสตรใ์ นโรงเรยี น เป้าหมายหลกั ที่ ๖ เสรมิ สร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญา ทอ้ งถิน่ และของชาติไทย ๑. โครงการวันวสิ าขบชู า ๒. โครงการวนั มาฆบชู า ๓. โครงการวิถธี รรม วิถีไทย วิถพี ทุ ธ เปา้ หมายหลักที่ ๗ ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสชู่ ุมชน ๑. โครงการเกษตรกรรมนาชีวติ พอเพียง เปา้ หมายหลักที่ ๘ พัฒนาสถานศึกษาเปน็ ศนู ย์บริการความรู้ ๑. โครงการพฒั นาระบบสารสนเทศภายในโรงเรยี น ๒. โครงการพฒั นาบคุ ลากร
ผลการดาเนินการตามโครงการพัฒนาเดก็ และเยาวชน ในถิน่ ทรุ กันดารตามพระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี (โครงการ กพด.) โรงเรียนบ้านเลโคะ เปา้ หมายหลักที่ ๑ เสริมสร้างสุขภาพของเด็กตั้งแตใ่ นครรภม์ ารดา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงห่วงใย เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารและได้ โปรดเกลา้ ฯ ใหจ้ ัดทาแผนพฒั นาเดก็ และเยาวชนในถ่นิ ทุรกันดารฉบบั แรกข้นึ ตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๕๓๕ เพ่ือใช้เป็นกรอบ แนวทางในการทางานพัฒนาจนถึงปัจจุบัน ได้จัดทาแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดาริ ฉบับท่ี ๕ (พ.ศ. ๒๕๖๐–๒๕๖๙) เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน ผลักดันให้สถานศึกษาพัฒนาเป็นศูนย์บริการความรู้ สามารถถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการพัฒนาให้กับ ผู้ปกครองชุมชนทั้งน้ี ก่อนสิ้นสุดแผนฯ ฉบับที่ ๔ ในปี ๒๕๕8 ยังพบปัญหาด้านโภชนาการในเด็ก วัยเรียนเตี้ย ผอม อ้วน รอ้ ยละ ๕ รอ้ ยละ ๖ และ ร้อยละ ๓ ตามลาดับ รวมถึงการพัฒนาอนามัยส่วนบุคคล พบว่า โรงเรียนได้ เกดิ ความตืน่ ตวั และมกี ารพัฒนาทงั้ ในสว่ นของโครงสร้างทางกายภาพ เชน่ ห้องสว้ ม ท่ีลา้ งมือ ห้องครัวโรงอาหารท่ี ถกู สุขลักษณะ เป็นต้น และกระตุ้นให้เด็กฝึกปฏิบัติจนพัฒนาเป็นนิสัยอันพึงประสงค์ เช่น อาบน้าอย่างน้อยวันละ ๑ ครงั้ สระผมอย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ ๒ คร้ัง ลา้ งมือก่อนรับประทานอาหาร ล้างมือหลังขบั ถา่ ย ตดั เล็บมือเล็บเท้าให้ สัน้ อยเู่ สมอ สวมรองเท้า ราดน้าเมือ่ ใชส้ ้วม ใชแ้ ก้วนา้ ตนเองเมื่อดื่มน้า เป็นต้น ผลจากการประเมินพฤติกรรมของ นักเรียน พบว่า นักเรียนมีการพัฒนาสุขนิสัยที่พึงประสงค์ไปในทิศทางท่ีดีข้ึน สอดคล้องกับผลการสารวจโรค หนอนพยาธิ เมื่อส้ินสุดแผนฯ ฉบับท่ี ๔ ใน พ.ศ. ๒๕๕๙ พบว่า อัตราความชุกของโรคหนอนพยาธิลดลงจาก 10.4 ในปี 2554 เป็น 9.4 ในปี 2558 และจากการประชุมวิชาการการพัฒนาสุขภาพเด็กและเยาวชนในถิ่น ทุรกันดารสู่โรงเรียนส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ คร้ังที่ 6 เมื่อวันท่ี 23 กรกฎาคม 2558 สมเด็จพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิดการประชุม และมีพระราชดารัส ความว่า “สุขภาพของเด็กและเยาวชน เป็นเรื่องที่ ควรให้ความสาคัญเป็นอันดับต้นๆ ควรได้รับการดูแลท้ังด้านสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ เพื่อให้เจริญเติบโต อย่างเหมาะสม มีสภาพร่างกายและจิตใจพร้อมท่ีจะศึกษาเล่าเรียน และมีความคิดเห็นอันเหมาะควร ผู้มีหน้าที่ เกี่ยวข้องตลอดจนผู้ปกครอง ครู อาจารย์ ควรจะต้องช่วยกันประคับประคองดูแล เช่น ในด้านสุขอนามัย การ รกั ษาพยาบาล โภชนาการ เปน็ ทปี่ รกึ ษาแนะนาในเรื่องต่างๆ ที่จะช่วยทางด้านจิตใจ ท่ีสาคัญจะต้องดูแลให้ท่ัวถึง ไปจนถึงเด็กและเยาวชนเป็นจานวนมากในถ่ินทุรกันดาร เด็กและเยาวชนเหล่านี้ หากได้รับการดูแลให้มีสุขภาพ ร่างกายและจิตใจที่ดี ในภายภาคหน้าจะสามารถเป็นกาลังช่วยเหลือครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติได้เป็น อย่างดี” ดงั นั้น โรงเรียนบ้านเลโคะจงึ ได้จัดทาโครงการส่งเสริมสขุ ภาพข้ึน เพื่อส่งเสริมสุขภาพและอนามัยส่ิงแวดล้อมใน พ้ืนที่โรงเรียนบ้านเลโคะ ทาให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่โรงเรียนได้รับการดูแลและส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่าง เหมาะสม มีสภาพร่างกายและจิตใจพร้อมที่จะศึกษาเล่าเรียน โดยผู้ปกครอง ชุมชนช่วยกันประคับประคองดูแล เป็นทีป่ รึกษาแนะนาในเร่ืองสุขนิสยั ที่พงึ ประสงค์ ในชีวิตประจาวันตามบรบิ ทของพน้ื ทตี่ อ่ ไป
ผลการดาเนินงาน นักเรียนระดับอนุบาลมีน้าหนักตามเกณฑ์อายุร้อยละ 64.24 ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุ รอ้ ยละ 57.14 น้าหนักตามเกณฑ์ส่วนสงู สมสว่ นร้อยละ 71.43 นักเรยี นระดับประถมศึกษามีส่วนสูงตามเกณฑ์ อายุร้อยละ 76.92 น้าหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงสมส่วนร้อยละ 89.74 นักเรียนระดับมัธยมศึกษามีส่วนสูงตาม เกณฑ์อายุร้อยละ 88.07 น้าหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงสมส่วนร้อยละ 92.66 ไม่มีภาวะคอพอกและป่วยด้วยไข้ มาลาเรยี ในเด็กนักเรียน ในหอ้ งพยาบาลมีเวชภัณฑ์ และยารักษาโรคเบื้องต้น ท่ีจาเป็นในการปฐมพยาบาล เม่ือมี นักเรียนเจ็บป่วยในกรณีท่ีต้องส่งต่อ ได้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจาตาบลบ้านเลโคะซ่ึงอยู่ห่าง จากโรงเรียนเพียง ๒๐๐ เมตร และได้มีการทาบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างโรงเรียนบ้านเลโคะและ โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพประจาตาบลบา้ นเลโคะ กลยุทธ์ที่ 2 เพิม่ โอกาสทางการศกึ ษา โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นโครงการต่อเน่ืองท่ี จัดทาขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้นักเรียนโดยเฉพาะชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๓ , ๖ และมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ที่จะต้องรับการประเมิน และทดสอบระดับชาติ O – Net / NT เพ่อื เพมิ่ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ใน ๔ กลุ่มสาระวิชาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ เพม่ิ ข้นึ ( Student achievement ) ผลการดาเนินโครงการ ในระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี นเฉลยี่ รวมทกุ สาระการเรียนรูส้ งู กว่าระดบั ประเทศ
โครงการ พฒั นางานแนะแนว การศกึ ษาและงาน ระบบดูแลช่วยเหลือ นักเรียน เป็นโครงการ หน่ึงทอ่ี ยู่ในกลุ่ม บริหารงานทั่วไป แต่ ด้วยระบบการบรหิ าร จดั การและการดาเนนิ โครงการท่ีไมต่ ่อเน่ือง และยังไมเ่ ปน็ ระบบดี เทา่ ทคี่ วร คณะผจู้ ัดทาโครงการไดเ้ ลง็ เห็นความสาคัญของโครงการ นจี้ ึงไดว้ างรูปแบบแนวทางการดาเนนิ การใหค้ รอบคลุมท้ังงาน ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี นควบค่ไู ปกับงานแนะแนว การศกึ ษา ซึ่งจะทาให้ไดร้ ับทราบถึงปัญหาของผเู้ รยี นในด้าน ต่าง ๆ ผ่านวธิ กี ารท่ีมีความหลากหลาย เพื่อทีจ่ ะได้ข้อมูลท่ีแทจ้ รงิ และสามารถให้คาแนะนา แก้ไขปัญหาไดถ้ ูกต้อง มกี ารนานักเรยี นเข้าฝกึ อบรมการดแู ลผู้ปวุ ยและผู้สูงอายุรว่ มกับหน่วยงานภายนอกเพ่ือจัดประสบการณ์ชีวิตแก่ ผู้เรยี น เปิดโลกทัศน์ ชี้ให้เหน็ แนวทางการศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในอนาคตควบคกู่ บั การกลับมาดูแล บุคคลในครอบครัวและผสู้ งู อายใุ นชุมชนของตนเองต่อไป ไม่เพยี งเท่านน้ั มกี ารจดั หาทนุ การศกึ ษาให้กับนกั เรยี น และมีการแนะแนว ทางในการศึกษาต่อ แนะแนวการประกอบอาชีพใหก้ บั ผูเ้ รยี นเพ่ือเตรียมความพร้อมเขา้ สกู่ าร เป็นประชาคมอาเซียน และมีภูมิคุ้มกันต่อการ เปลยี่ นแปลงทางสังคมแบบพหุวฒั นธรรม ( ASEAN Community ) ในภาวะปัจจุบัน ความเจริญทางเทคโนโลยแี ละ ความก้าวหนา้ ทางวิชาการมีมากขนึ้ เปน็ ลาดบั ส่งผลให้เนอื้ หาวชิ าต่าง ๆ แยกย่อยเป็นสาขาเฉพาะ มากมาย เป็นการยากท่ีจะนาเอาวทิ ยาการเหลา่ นั้นมา บรรจไุ ว้ในหลกั สูตรและจดั สอนใหแ้ ก่ ผูเ้ รียนได้อยา่ ง ครบถ้วน ดังนน้ั หลกั สตู รใหม่จึงเป็นวิธกี ารเรียนรู้
โดยเฉพาะการเรยี นรู้ด้วยตนเอง (Self – Instruction) ของผูเ้ รียนทต่ี อ้ งศึกษาคน้ ควา้ แก้ปัญหา แสวงหาคาตอบ เองจงึ มโี ครงการสง่ เสริมการหาความรูด้ ้วยตนเองผา่ นการจัดหอ้ งสง่ เสริมทักษะภาษาไทยภาษาองั กฤษ คอมพิวเตอรเ์ ทคโนโลยี เพื่อตอบสนองการค้นคว้าหา ความร้ดู ว้ ยตนเองทห่ี ลากหลาย ทงั้ ยงั ส่งเสริมให้ หอ้ งสมดุ เปน็ แหล่งค้นคว้าหาความรู้หลักท่ีสามารถ คน้ คว้าหาความรู้ไดเ้ องอย่างอิสระ โดยทางห้องสมุดไดจ้ ดั กิจกรรมมากมาย รองรับกจิ กรรมสง่ เสริมนสิ ัยรักการอา่ น และห้องสมดุ ๓ ดี
เปา้ หมายหลกั ที่ ๓ เสรมิ สรา้ งศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางวิชาการและทางจริยธรรม โรงเรียนบ้านเลโคะ ได้ส่งเสริมให้ครูจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนให้มีความหลากหลายเพื่อเตรียมพร้อมในการ พัฒนาทักษะด้านภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ ภาษาอังกฤษ โดยมีการส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านการอ่าน การ ค้นคว้าจากแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด หรือมุมอ่าน หนังสือในห้องเรียนแต่ละห้อง โรงเรียนพัฒนาห้องสมุดให้ได้ มาตรฐานและเป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีทันสมัยและน่าสนใจของเด็ก และชุมชน พัฒนาห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ให้มีความ สอดคล้องกับเนื้อหาเพ่ือพัฒนาทักษะของเด็กและเยาวชนในการสืบเสาะค้นคว้าหาความรู้อันเป็นข้อเท็จจริง โรงเรยี นเข้าถึงระบบเทคโนโลยีการส่ือสารเพ่ือการศึกษา และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการ ใช้เทคโนโลยไี ดอ้ ย่างเหมาะสม ท้ังยงั สง่ เสริมและสนบั สนนุ การจดั การเรยี นการสอนเกยี่ วกบั ภาษาต่างประเทศ โดย มีครูชาวต่างชาติเจ้าของภาษามาเป็นครูผู้สอนด้วยตัวเอง ให้เด็กได้เรียนรู้ทักษะทางคณิตศาสตร์โดยการฝึกลงมือ ปฏิบัติด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้นักเรียนได้มีทักษะ และเรียนรู้นอกสถานที่ ซ่ึงเป็นส่ิงท่ีนักเรียนให้ความสนใจและ เกิดการเรียนรู้กับตัวนักเรียนเองเป็นอย่างมาก มีการพัฒนา คุณธรรมจริยธรรมให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตชุมชนและภูมิปัญญา ท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม โดยให้เด็ก ได้ฝึกปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจาวันรวมท้ังได้สอดแทรกลงใน กจิ กรรม การเรยี นการสอนของทางโรงเรยี นไปด้วย โรงเรียนบ้านเลโคะเป็นหน่วยงานจัดการศึกษาในระดับ ประถมศึกษาขยายโอกาสถึงระดับมัธยมศึกษาชั้นปีท่ี ๓ ได้น้อม นาเอาโครงการในพระราชดาริหลายโครงการมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการ และการจัดการเรียนการสอน เช่น ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง สามารถใช้แหล่งเรียนรู้ อบรมสั่งสอน ให้ นักเรียนได้ตระหนักถึงแนวพระราชดาริที่สามารถนาไปประยุกต์ใช้ได้จริงใน ชีวิตประจาวัน และในปัจจุบันโรงเรียนบ้านเลโคะ น้อมนาเอาแนวทางการพัฒนา นักเรียนตามแผนพัฒนาเด็กและเยาชนในถิ่นทุรกันดาร เข้ามาเป็นส่วนหน่ึงในการ ดาเนินงาน เป็นโครงการด้านการพัฒนาเด็กและเยาชน ให้มีความรู้ ความสามารถ สามารถนาความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพได้ ปัญหาด้านการจัดการเรียนการสอนของ โรงเรยี นบ้านเลโคะ คือนักเรียนมีภูมิลาเนาอยู่ในถิ่นทุรกันดาร การคมนาคมไม่สะดวก มฐี านะยากจน นกั เรียนทศ่ี กึ ษาในระดับมัธยมส่วนใหญ่ จึงต้องเข้ามาพักภายในหอพัก ของโรงเรยี นบา้ นเลโคะ ผลการดาเนินงาน เตรียมความพร้อมก่อนทดสอบทางการศึกษาระดับชาติข้ันพื้นฐานทาให้มีคะแนน เพ่มิ ข้นึ และมีการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนทหี่ ลากหลาย ทาใหน้ กั เรียนมเี กรดเฉลยี่ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนแต่ ละรายวิชาในระดับ ๓ ขึ้นไปมีจานวนเพิ่มขึ้น จากการจัดการเรียนการสอนทาให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาที่มี
คุณภาพดีข้ึน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของนักเรียนสูงข้ึน การอ่านออกเขียนได้อยู่ในเกณฑ์ท่ีดีข้ึน นักเรียนมีการ ปรับตวั ให้เขา้ กับสภาพแวดลอ้ ม และผู้อื่นได้ดี โรงเรียนมีครูครบชั้น ทาให้ครูสามารถจัดการเรียนการสอนได้อย่าง เต็มท่ี และมีประสิทธิภาพ ชุมชนเห็นความสาคัญ และพึงพอใจในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งปัญหาท่ีพบ คือ เนื่องจากนักเรียนโรงเรียนบ้านเลโคะ เป็นชาวเขาชนเผ่าปกาเกอะญอ ซึ่งมีภาษาพูดเป็นของตนเอง ทาให้เป็น อุปสรรคในการพูดและการออกเสียงทัง้ ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เปน็ ต้น เปา้ หมายหลกั ที่ ๔ เสริมสรา้ งศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางการงานอาชพี โครงการ L.K. P. P. Job เพิ่มมูลค่า สร้างอาชีพ จัดทาขึ้นเพื่อนาผลผลิตในชุมชนมาเพิ่มมูลค่า ด้วยกระบวนการแปรรูปและการถนอมอาหารทาให้เกิดผลิตภัณฑ์ท่ีหลากหลาย ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ รู้จักกระบวนการทางานท่ีถูกต้อง ได้ฝึกประสบการณ์งานอาชีพ การจาหน่ายสินค้าและทาการตลาด เพอื่ ใช้เวลาวา่ งของนกั เรยี นให้เกิดประโยชน์ ทาใหน้ ักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน และสามารถต่อยอดเป็นอาชีพใน อนาคตได้ จากการดาเนินโครงการพบว่านักเรียนได้พัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลาย และทักษะการคิด วเิ คราะห์ นกั เรียนไดเ้ รียนรดู้ ว้ ยตนเอง เปน็ ผใู้ ฝุรู้ ใฝุเรยี น เรียนร้จู ากประสบการณจ์ ริงอยา่ งสนุกสนาน ๑๑. ปัญหาและอุปสรรคในการจดั กิจกรรม/การดาเนนิ โครงการ - การทาผลิตภณั ฑต์ ่าง ๆ เก็บไวไ้ ด้ไม่นาน มีเชือ้ ราเกดิ ขน้ึ เนื่องจากการฆา่ เชื้อทางโรงเรียนได้ทาการฆา่ เชอื้ โดยใช้หม้อน่ึงขนมท่วั ไป ทาใหค้ วามร้อนไมเ่ พียงพอตอ่ การฆา่ เชือ้ - งบประมาณมีนอ้ ย ทาใหไ้ ม่สามารถจัดซื้อหม้อนง่ึ ความดันได้ (หม้อนงึ่ ความดนั ใช้สาหรับการฆ่าเช้ือ และน็อคเชอื้ ทาใหย้ ดื อายุของผลิตภัณฑไ์ ด้) ๑๒. ขอ้ เสนอแนะหรือแนวทางแก้ไข - ควรมีการสง่ เสรมิ หรอื จัดสรรงบประมาณจากแหลง่ งบประมาณอนื่ เพิ่มมากข้ึนเพื่อจัดซือ้ อุปกรณ์สาหรับ การแปรรูปให้ครบครนั
การแปรรูปผลิตภณั ฑ์ การถนอมอาหารและการสรา้ งรายได้
โครงการแก้มใสย้มิ สวย (เกษตร) หลกั การและเหตผุ ล ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชถี้ ึงแนวการดารงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับให้ ดาเนินไปในทางสายกลาง เพ่ือให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ซึ่งภายใต้สภาวะการณ์ปัจจุบันหลายหน่วยงานท้ัง ของภาครัฐและเอกชน ได้น้อมนาหลักคิดของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาและปรากฏ ความสาเร็จเป็นรูปธรรมมากข้ึนและจากความมุ่งหมายและหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ในหมวด ๑ มาตรา ๖ ว่าด้วยการจัดการศึกษา ต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้ง ร่างกาย จติ ใจ สตปิ ญั ญา ความรู้และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืน ได้อย่างมคี วามสขุ โรงเรยี นบ้านเลโคะ จึงได้นาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของกระทรวงศึกษาธิการ มาปรับปรุงเข้า กบั หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ และบรู ณาการเขา้ กับทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ เป็น กิจกรรมท่ีส่งเสริมให้นักเรียนเล็งเห็นความสาคัญและนามาปรับใช้ในชีวิตจริงจึงได้เขียนโครงการแก้มสวยย้ิมใส (เกษตร) เพื่อปลูกฝังให้ผู้เรียนมีคุณธรรมนาความรู้ด้วยการปฏิบัติจริงให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ประสบการณ์ และ ทกั ษะ ตรงตามความสนใจ ความถนดั เพอื่ เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพ การหารายได้ระหว่างเรียน และ การนาความรไู้ ปใช้ในการดาเนินชีวิต วตั ถุประสงค์ ผลลัพธ์ 1. เพอื่ ส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนได้เรียนรู้เก่ียวกบั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2. เพื่อส่งเสรมิ ใหน้ ักเรยี นมีความรู้ควบคู่คุณธรรม 3. เพ่อื สง่ เสรมิ งานอาชพี ให้กับนกั เรยี น ผลผลติ 1. เพ่อื ให้ไดผ้ ักปลอดสารพิษไวบ้ รโิ ภคในโรงเรยี น 2. เพือ่ ให้นักเรียนมีความรู้ความสามารถและทกั ษะการปลกู พืชผกั สวนครัว 3. เพือ่ ให้นักเรยี นได้รว่ มกนั ทากิจกรรมกลมุ่ 4. เพอ่ื ให้นักเรียนไดฝ้ ึกปฏิบัตงิ านด้านเกษตรต่างๆ เชน่ เล้ยี งสัตว์ ปลกู ผัก ซงึ่ สามารถนาความรทู้ ไี่ ด้ไปใชใ้ น การประกอบอาชีพในอนาคตได้ 5. เพ่ือใหน้ กั เรียนไดฝ้ ึกการทาบัญชี บนั ทกึ รายรับ-รายจา่ ย และขายผลผลติ ทางการเกษตรของโรงเรยี นได้ เป้าหมาย - ด้านปรมิ าณ ผ้บู ริหาร คณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน ครู ผู้ปกครอง นักเรียน 200 คน - ดา้ นคณุ ภาพ 1. นักเรยี นมีทักษะการจดั การ ทางานให้สาเรจ็ และทางานร่วมกบั ผูอ้ ่นื ได้ 2. นกั เรยี นมีความเพียรพยายาม ขยัน อดทน ละเอียดรอบคอบในการทางาน 3. ทางานอยา่ งมีความสขุ พัฒนางานและภมู ิใจในผลงานของตนเอง
4. มคี วามรสู้ กึ ท่ดี ีต่ออาชพี สุจรติ และหาความรูเ้ กย่ี วกับอาชพี ท่ตี นสนใจ ระยะเวลา ปีการศึกษา 2561 ภาคเรยี นท่ี 1 และ ภาคเรียนท่ี 2 วันที่ 16 พฤษภาคม 2561 – 30 มีนาคม 2562 วธิ ีดาเนนิ การ ระยะเวลา ผรู้ ับผิดชอบ พ.ค. ๖๑ นายวิชา , นายเอกพงษ์ กิจกรรม ๑. จัดทาโครงการเพ่ือขออนุมัตจิ ากผูบ้ รหิ ารโรงเรียน การัณต์ นายวชิ า , นายเอกพงษ์ ๒.จดั ทาคาสั่งแตง่ ต้ังคณะกรรมการดาเนนิ การตามโครงการ พ.ค. ๖๑ การณั ต์ ๓. ประชมุ คณะผรู้ บั ผดิ ชอบเพือ่ วางแผนการดาเนินงาน พ.ค. ๖๑ นายวิชา , นายเอกพงษ์ ๔. ดาเนินตามโครงการ พ.ค. ๖๑-ม.ี ค.๖๒ การณั ต์ ๕. บนั ทึกตดิ ตามความคบื หน้าของกิจกรรมเพ่ือรายงาน ทุก ๒ เดือน ครผู รู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ผู้บรหิ าร ครผู รู้ ับผดิ ชอบโครงการ ม.ี ค.๖๒ ๖. ประเมินผล มี.ค.๖๒ ครผู รู้ บั ผดิ ชอบโครงการ ๗.สรปุ ผลการดาเนนิ งานและรายงานผลแกผ่ ูบ้ ริหารโรงเรียน ครผู ู้รบั ผิดชอบโครงการ ผลการดาเนินการ 1. เพือ่ ส่งเสริมให้นักเรยี นได้เรียนรเู้ กย่ี วกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง นกั เรียนเข้าใจถงึ ความหมาย และหลักการของปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง 2. เพ่ือสง่ เสริมใหน้ ักเรียนมีความรูค้ วบคู่คณุ ธรรม นักเรยี นมคี วามรู้ความเข้าใจในการทางานดา้ นเกษตร เชน่ ปลกู ผกั สวนครวั เลีย้ งสัตว์ นักเรยี นมีความ รบั ผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง มีความอดทน ร้จู ักมีเหตผุ ล เดินทางสายกลาง และพอประมาณ 3. เพอ่ื ส่งเสรมิ งานอาชพี ให้กบั นกั เรยี น นกั เรียนไดน้ าผลผลติ จากการทางานด้านเกษตร เช่น ผักสวนครัว ไปจาหนา่ ยให้กบั สหกรณโ์ รงเรยี น และชุมชน ทาให้นกั เรียนมีรายได้ มวี ัตถดุ บิ ไวใ้ ชส้ าหรับประกอบอาหารกลางวนั ของโรงเรียน ส่งผลให้นักเรยี นมี ความรู้ รอบคอบ และรจู้ ักวางแผนการทางานอย่างเป็นลาดบั ขนั้ ตอน
รปู กิจกรรม
เป้าหมายหลกั ท่ี ๕ ปลกู ฝังจิตสานกึ และพัฒนาศักยภาพของเดก็ และเยาวชนในการอนรุ ักษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อม เปา้ หมายหลักท่ี ๖ เสริมสร้างศักยภาพของเดก็ และเยาวชนในการอนุรักษ์และสืบทอดวฒั นธรรมและภูมิ ปัญญาท้องถิ่นและของชาติไทย ในปัจจุบันวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณีและวิถีชีวิตที่ดีงามขาดการถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นใหม่น้อย ในขณะที่ ความหลากหลายทางวัฒนธรรมจากสังคมภายนอกได้เข้ามาคุกคามสังคมไทยมา กข้ึนดังน้ีการสืบสานและอนุรักษ์ ฟ้นื ฟูรวมทัง้ การเสรมิ สร้างคณุ คา่ ทางสังคมและจิตใจตอ่ มรดกทางวัฒนธรรมเป็นส่ิงสาคัญในการส่งเสริมให้เด็กและ เยาวชนเป็นผู้สืบทอดภูมิปัญญาจากผู้รู้ในชุมชนเพื่อให้เยาวชนและชุมชนได้ตระหนักถึงความสาคัญของชุมชน มี ความเข้าใสรากเหง้า ความเป็นวัฒนธรรม การแบ่งปันการเกื้อกูลช่วยเหลือซึ่งกันและกันมีการศึกษาเรียนรู้วิถีการ ดารงชีวิตของชุมชน เพ่ือให้เด็กเยาวชนในท้องถ่ินได้เรียนรู้ความสาคัญ รู้จักวิถีชีวิต วัฒนธรรมของท้องถิ่นอันจะ สร้างความภมู ิใจและสานึกรักบา้ นเกิด การจดั การเรียนการสอนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ในเวลาเรียนปกติถูก จากดั ด้วยขอบเขตของเนอื้ หาวิชา เวลา และพฤติกรรมในการแสดงออก ซึ่งเป็นอุปสรรคสาคัญทาให้การเรียนการ สอนไม่สามารถสนองความสนใจหรือความสามารถพิเศษให้แก่ผู้เรียนได้อย่างทั่วถึงทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มท่ีมีความ พร้อม ความสนใจ และมีทักษะพิเศษให้พัฒนาอย่างเต็มที่ได้ สถานศึกษาได้ตระหนักถึงปัญหาจึงจัดกิจกรรม สง่ เสรมิ การพัฒนาที่ดีในด้านการเจรญิ เติบโตตามวัยให้กบั ผู้เรยี นตามจุดมงุ่ หมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ได้กาหนดใหม้ กี ารจัดกิจกรรมเสรมิ ความสามารถพิเศษและให้สอดคล้องกับความต้องการของ ผเู้ รียน โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่บูรณาการด้านดนตรี / นาฏศิลป์ ศิลปะ กีฬา บูรณาการกลุ่มสาระการ เรยี นรู้ระดบั การศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน จัดกิจกรรมเสริมประสบการณใ์ ห้ผู้เรยี นได้แสดงออกในความสามารถและความมี สุนทรียภาพให้กับผู้เรียนในวันสาคัญต่างๆ ส่งผลให้ผู้เรียนมีสุนทรียภาพด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคมและ สติปญั ญา เป็นคนเก่ง เปน็ คนดี ของสังคมและของประเทศชาตติ ่อไป ผลการดาเนินงาน ผ้เู รียนตระหนักและมคี วามภาคภมู ใิ จต่อภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ และรว่ มสืบทอดวัฒนธรรม ภูมปิ ัญญาท้องถ่ินของตนเองและชองชาติ (ชนเผ่ากะเหรี่ยง) โดยชมุ ชนบา้ นเลโคะ มภี ูมิปัญญาท้องถนิ่ ทีเ่ หน็ ได้ชดั คือ ผ้าทอกะเหร่ยี ง ชาวบ้านใส่ชุดกะเหร่ยี งทุกวัน นักเรยี นโรงเรียนบา้ นเลโคะ จะใส่ชดุ กะเหร่ียงทุกวันศกุ รห์ รือ ร่วมทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ของชมุ ชน ดังนั้นจึงออกแบบกจิ กรรมการเรยี นรูเ้ รือ่ งการทอผา้ เรียนรสู้ งิ่ ทีม่ อี ย่จู รงิ ในชุมชน เรยี นรู้วิถีชีวติ ความเปน็ อยู่ เข้าใจบรบิ ทของชุมชน จดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยใช้ชุมชนเป็นแหลง่ การเรียนรู้ สามารถนาความรู้เร่ืองการทอผา้ สเู่ สน้ ทางในการประกอบอาชพี สร้างรายไดใ้ ห้แก่ตนเองและครอบครวั อีกท้ังยัง สร้างจติ สานึกรกั บ้านเกดิ ของตนเอง รักในความเป็นไทย อนรุ กั ษ์ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ ให้คงอยใู่ นสังคมหรือชมุ ชน
สบื ไป ซงึ่ ผูเ้ รียนได้เรียนรแู้ ละมีความร้จู ากประสบการณจ์ ริง นอกจากนี้ยังมีความสามารถดา้ นการแสดง มีความรู้ ทกั ษะและสร้างสรรค์ผลงานทางด้านนาฏศลิ ป์ โดยจดั ตั้งชุมนุมนาฏศลิ ปข์ ึน้ มา เพ่ือถา่ ยทอดความรใู้ หแ้ กผ่ ้เู รยี น และเปดิ โอกาสใหน้ าศลิ ปะด้านนาฏศิลปเ์ ผยแพรส่ ชู่ ุมชนของตน ผเู้ รียนได้เรียนรู้ เขา้ ใจ มีทัศนคติท่ีดตี ่อนาฏศลิ ป์ ไทย เกิดความซาบซงึ้ ความภาคภูมใิ จ รู้จักรกั และหวงแหนและสบื ทอดประเพณีและวัฒนธรรมไทยให้ดารงอยู่ ต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: