บทนา ประวตั คิ วามเป็นมา 1 เม่ือวันที่ 16 พฤษภาคม 2551 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกมุ ารี ไดม้ พี ระดารใิ ห้จดั ตง้ั หอ้ งเรียนเคลอ่ื นทท่ี บี่ า้ นอหู ลใู่ ต้ เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็กด้อยโอกาส ที่ อยู่ตามแนวตะเข็บชายแดน มีนักเรียน จานวน 60 คน โดยเปิดทาการสอน 2 ชั้น คือ ชั้นอนุบาลปีท่ี 1 และชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 1 มีครูพ่ีเล้ียงจ้างโดยเงินพระราชทานของมูลนิธิสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จานวน ๒ คน คอื นางสาวอนงค์นาถ อมรประสาน และนายวิเชษฐ์ อัมพรงามสง่า วันท่ี 20 มิถุนายน 2553 สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2 ร่วมกับยูนิเซฟ จัดทาโครงการสานฝันสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพ่ือขยาย โอกาสทางการศึกษาให้แก่เด็ก ในหยอ่ มบา้ นที่ไม่มีโรงเรียน และพิจารณาคัดเลือกให้บ้านกองสุมใต้เปิดเป็นห้องเรียน ภายใต้การดูแลของโรงเรียนบ้าน โพซอ และได้ส่งนางสาวธนาภรณ์ เจียมศักดิ์ ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ครูพี่เลี้ยง ทาการ สอนชนั้ อนุบาล มนี ักเรยี น 28 คน ในปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๐ โรงเรียนบ้านโพซอไดร้ บั การคัดเลือกใหเ้ ป็นโรงเรยี นในโครงการพฒั นาเดก็ และเยาวชนใน ถิ่นทรุ กันดาร ตามพระราชดาริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี โรงเรียนบ้านโพซอ ได้น้อมนาพระราชดาริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี มาเป็นแนวทางในการพัฒนาการศึกษา โดยได้ดาเนินงานตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่น ทุรกันดาร ตามพระราชดาริ ประกอบดว้ ย ๘ เปา้ หมายหลกั ดังนี้ เปา้ หมายหลกั ที่ ๑ เสริมสรา้ งสุขภาพของเด็กตั้งแตใ่ นครรภ์มารดา เป้าหมายหลักที่ 2 เพมิ่ โอกาสทางการศึกษา เปา้ หมายหลักที่ ๓ เสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางวชิ าการและทางจริยธรรม เป้าหมายหลักท่ี ๔ เสรมิ สร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางการงานอาชีพ เป้าหมายหลกั ที่ ๕ ปลูกฝังจติ สานกึ และพฒั นาศกั ยภาพของเดก็ และเยาวชนในการอนุรักษ์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม เปา้ หมายหลักท่ี ๖ เสรมิ สร้างศกั ยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนรุ กั ษ์และสบื ทอดวัฒนธรรมและ ภูมิปญั ญาของทอ้ งถนิ่ และของชาติ เป้าหมายหลกั ที่ ๗ ขยายการพฒั นาจากโรงเรยี นสู่ชมุ ชน เป้าหมายหลักท่ี ๘ พฒั นาสถานศึกษาเปน็ ศนู ย์บรกิ ารความรู้ โรงเรียนบ้านโพซอ ในฐานะท่ีเป็นสถานศึกษาที่มีหน้าท่ีในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับนักเรียนและได้ ตระหนกั ในหนา้ ท่แี ละเลง็ เห็นความสาคัญในการจัดการศึกษาใหค้ รอบคลุมทุกกลุ่มเปา้ หมาย ซึ่งถือเป็นการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษา เกิดการพัฒนาคุณภาพการศกึ ษาในถ่นิ ทุรกันดารอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง มีประสิทธภิ าพ หน้า 1
ขอ้ มูลพน้ื ฐาน ปจั จบุ นั โรงเรยี นบา้ นโพซอ มนี กั เรยี นจานวนท้ังสิ้น ๔๐4 คน เป็นนักเรียนระดับช้ันอนุบาล จานวน 38 คน ระดบั ประถมศกึ ษา จานวน ๑81 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน ๑๓๒ คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอน ปลาย จานวน ๕๓ คน (ข้อมูล ณ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) มีนายก่อเกียรติ สอนสอาด ดารงตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี น 1. ครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษามีจานวนทัง้ สน้ิ 37 คน (ข้อมลู ณ เดอื นมกราคม 2562) โดยแบ่งเป็นครูที่ปฏิบัติงาน ทโ่ี รงเรียนบ้านโพซอ ห้องเรียนบา้ นอหู ลใู่ ต้ และหอ้ งเรียนบา้ นกองสมุ ใต้ ดงั น้ี ๑.1 ครแู ละบุคลากรที่ปฏิบตั งิ านท่ีโรงเรียนบ้านโพซอ จานวนทง้ั สนิ้ 32 คน ตาแหนง่ เพศ รวม 2 ชาย หญิง ผอู้ านวยการโรงเรยี น 10 1 ครู 7 17 25 ครพู นกั งานราชการ 1- 1 ครอู ตั ราจ้าง -1 1 ครพู เ่ี ลี้ยง -1 1 ครูจา้ งสอน 1- 1 ครพู กั นอน -1 1 ครูธรุ การ -1 1 นักการภารโรง 10 1 10 22 32 รวม 1.๒ ครทู ป่ี ฏบิ ตั งิ านทีห่ อ้ งเรยี นบา้ นอูหลู่ใต้ จานวนท้ังสิ้น 3 คน ครู ตาแหนง่ เพศ รวม ครพู ่เี ลี้ยง รวม ชาย หญิง 1- 1 11 2 21 3 1.๓ ครูที่ปฏิบัตงิ านทีห่ อ้ งเรียนบา้ นกองสมุ จานวนทง้ั ส้ิน 2 คน ครพู เี่ ลย้ี ง ตาแหนง่ เพศ รวม รวม ชาย หญิง 11 2 11 2 หนา้ 2
2. ขอ้ มลู จานวนนักเรียน (ข้อมลู ณ วนั ที่ 10 พฤศจกิ ายน 2561) 2.1 จานวนนกั เรียนท่เี รียนโรงเรยี นบา้ นโพซอ ระดบั ชนั้ เพศ รวม หญงิ อนบุ าล 1 ชาย 0 0 อนบุ าล 2 0 6 อนบุ าล 3 5 6 11 7 12 รวมระดบั ช้ันอนบุ าล 12 12 13 ประถมศึกษาปที ่ี 1 12 10 ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 14 10 24 ประถมศกึ ษาปที ่ี 3 9 17 ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 21 12 24 ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 10 17 ประถมศึกษาปที ี่ 6 16 78 24 82 17 รวมระดบั ช้นั ประถม 11 22 19 มัธยมศกึ ษาปี่ที่ 1 17 18 มัธยมศกึ ษาปี่ท่ี 2 15 19 38 มธั ยมศึกษาป่ีที่ 3/1 13 76 มธั ยมศึกษาปที่ ่ี 3/2 56 20 22 9 10 รวมระดบั ช้นั มัธยมตน้ 10 4 33 มธั ยมศึกษาปท่ี ี่ 4 0 34 มธั ยมศึกษาป่ที ี่ 5 19 200 160 มธั ยมศึกษาป่ีที่ 6 169 28 3 รวมระดบั ชน้ั มัธยมปลาย 39 รวมนกั เรยี นทเี่ รียน ร.ร.บา้ นโพซอ 33 32 132 29 20 4 53 369 2.2 จานวนนกั เรยี นทห่ี อ้ งเรยี นบ้านอูหลูใ่ ต้ ระดบั ชนั้ ชาย เพศ รวม 5 หญิง อนบุ าล 3 ห้อง 2 5 3 8 รวมระดบั ชน้ั อนบุ าล 3 3 8 3 13 16 ประถมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 2 8 13 16 รวมระดบั ชน้ั ประถม 16 24 รวมนักเรยี นทเี่ รียนห้องเรียน หน้า 3 บ้านอหู ลู่ใต้
2.3 จานวนนกั เรียนทหี่ ้องเรยี นบ้านกองสมุ ระดบั ชนั้ ชาย เพศ รวม 4 หญงิ อนบุ าล 3 หอ้ ง 3 5 2 6 รวมระดบั ชนั้ อนบุ าล 3 3 6 3 2 5 ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 ห้อง 3 7 2 5 รวมระดบั ชน้ั ประถม 4 11 รวมนักเรียนทเ่ี รียนห้องเรยี น บ้านกองสุม 2.4 จานวนนกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นโพซอทั้งหมด ระดบั ชั้น ชาย เพศ รวม 4 21 หญิง ระดบั ช้นั อนบุ าล 88 17 38 ระดบั ชัน้ ประถม 75 93 181 ระดบั ชน้ั มธั ยมตน้ 19 76 132 ระดบั ชน้ั มัธยมปลาย 184 34 53 รวมนักเรยี นท้งั หมด 220 404 3. จานวนนกั เรยี นพกั นอนในโรงเรียน (ข้อมลู ณ วันท่ี 10 พฤศจกิ ายน 2561) ระดบั ชนั้ เพศ รวม ชาย หญิง อนบุ าล 42 8 ประถมศกึ ษา 62 61 123 มธั ยมศกึ ษา ตอนต้น 40 64 104 มธั ยมศึกษา ตอนปลาย 15 26 41 121 153 274 รวม หน้า 4
ผลการพฒั นา เปา้ หมายหลกั ท่ี ๑ เสริมสรา้ งสขุ ภาพของเดก็ ตง้ั แตใ่ นครรภ์มารดา โรงเรยี นบา้ นโพซอ ได้ดาเนนิ การส่งเสรมิ สขุ ภาพอนามัยและโภชนาการ ซึ่งมีกิจกรรมดังน้ี การเฝ้าระวังภาวะ โภชนาการ กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพอนามัยของเด็กและเยาวชนต้ังแต่ในครรภ์มารดา กิจกรรมอบรมแก นนา กิจกรรมรณรงคใ์ ห้ความรแู้ ละจดั ป้ายนเิ ทศในเรอื่ งของโรคต่างๆเช่น ไข้เลือดออก ไข้มาลาเรีย โรคหนอนพยาธิ ไข้หวัด ใหญ่ H1N1 โรคฉหี่ นู โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์ กจิ กรรมตรวจสุขภาพและความสะอาดของร่างกาย กิจกรรมเกษตร เพอ่ื อาหารกลางวันและอาหารเสรมิ นม กิจกรรมทดสอบสมรรถภาพทางกายของนักเรยี น โครงการโรงนาของหนู จากการดาเนินกิจกรรมเพอื่ เสริมสรา้ งสุขภาพของผ้เู รยี นพบว่า นักเรียนอนุบาล 38 คน มภี าวะ 5 น้าหนกั นอ้ ยกวา่ เกณฑร์ อ้ ยละ 5.26 ภาวะผอมรอ้ ยละ 2.63 ภาวะเรม่ิ อว้ นและอ้วนร้อยละ 2.63 นกั เรียนประ ศกึ ษา 183 คน มภี าวะน้าหนักน้อยกวา่ เกณฑ์ร้อยละ 1.64 มภี าวะเต้ียร้อยละ 6.56 ไม่มีภาวะผอม ภาวะเร่มิ อว้ น และอว้ นรอ้ ยละ 5.54 และนักเรียนมัธยมศกึ ษา 191 คน มภี าวะนา้ หนักนอ้ ยกวา่ เกณฑ์ 1.50 ภาวะเตีย้ รอ้ ยละ 4.71 ภาวะผอม 0.52 และภาวะเรม่ิ อว้ นและอว้ นร้อยละ 4.19 ถ้าพิจารณาภาพรวมทุกระดับชนั้ พบวา่ ภาวะ น้าหนกั น้อยกวา่ เกณฑร์ ้อยละ 1.70 มีภาวะเตีย้ ร้อยละ 5.10 ภาวะผอมร้อยละ 0.49 ภาวะเร่มิ อว้ นและอว้ นร้อยละ 2.91 โดยสรปุ จะเห็นว่าในภาพรวมภาวะโภชนาการของนักเรียน วา่ มกี ารเปลีย่ นแปลงไปในทางทดี่ ขี น้ึ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะภาวะน้าหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ภาวะเต้ยี และภาวะผอม ซ่งึ ตา่ กวา่ เกณฑ์ทก่ี รมอนามยั กระทรวงสาธารณสุข กาหนดในทกุ ภาวะโภชนาการ ซงึ่ ภาวะเร่มิ อว้ นและอ้วนแมไ้ ม่เปลย่ี นมากนกั แต่ก็ยงั คงตา่ กวา่ ท่กี รมอนามยั กาหนด หนา้ 5
โครงการโรงนาของหนูเปน็ โครงการท่ีทาข้ึนเพ่ือผลิตวัตถดุ ิบอนั ไดแ้ ก่ ขา้ วและพชื ผักจากแหล่งอาหาร ทปี่ ลอดภยั และเพยี งพอต่อการบริโภคเพื่อส่งผลต่อสขุ ภาพท่ดี ีของนักเรียน ซึ่งจากการดาเนินโครงการดังกล่าว ทาใหโ้ รงเรียน บา้ นโพซอไดร้ บั รางวลั ชนะเลิศ กจิ กรรมแนวปฏิบัตทิ ด่ี ีรายด้าน ด้านที่ 1 โภชนาการและสขุ ภาพ อนามยั ในการประชุมวชิ าการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถนิ่ ทุรกันดารตามพระราชดาริ สมเด็จพระกนษิ ฐาธิราชเจา้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กจิ กรรมทดสอบสมรรถภาพทางกายของนกั เรยี น นกั เรียนโรงเรียนบา้ นโพซอ ร้อยละ 94 มสี มรรถภาพทาง กายผา่ นเกณฑม์ าตรฐาน มสี ุขภาพร่างกายที่ สมบูรณ์ แขง็ แรงและสามารถทากิจกรรมต่าง ๆ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ 6 หน้า 6
เป้าหมายหลักที่ ๒ เพมิ่ โอกาสทางการศกึ ษา โรงเรียนบา้ นโพซอเป็นโรงเรยี นขยายโอกาสทางการศึกษา จัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับช้ันอนุบาล ๑ ถึง ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๖ มีนักเรียนทั้งหมด ๔๐4 คน ระดับช้ันอนุบาล จานวน 38 คน ระดับประถมศึกษา จานวน ๑81 คน ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น จานวน ๑๓๒ คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จานวน ๕๓ คน (ข้อมูล ณ วันท่ี ๑๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๑) ในปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านโพซอ ได้ขยายช้ันเรียนในระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลายเป็นปีแรก มีนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 เพียง 5 คน และในปีการศึกษา 2560 ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๔ มีนักเรียนจานวน 26 คน และในปัจจุบันช้ันมัธยมศึกษาชั้นปีที่ ๔ มีนักเรียนจานวน ๒๙ คน จากการท่ีโรงเรียนได้ขยายชั้นเรียนให้ถึง ระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลาย เป็นการเปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนอย่างท่ัวถึงและลดความเหล่ือมล้า นกั เรยี นทกุ คนได้รับโอกาสในการพฒั นาอย่างเตม็ ตามศกั ยภาพ และสรา้ งความเขม้ แข็งใหแ้ ก่ผ้ขู าดโอกาสทางการศึกษา ตารางแสดงขอ้ มูลการศกึ ษาตอ่ ของนักเรียน ปี จานวน จานวนนกั เรยี นที่ จานวนนักเรียนท่ี จานวน รอ้ ยละของ หมาย นกั เรยี นท่ี จานวนนกั เรยี น เหตุ การศกึ ษา นกั เรยี น ศกึ ษาต่อใน ศึกษาต่อในระดบั ชัน้ ศกึ ษาต่อ ทัง้ หมด ท่ีศึกษาต่อ ทจ่ี บชนั้ ม.๓ ระดับชน้ั ม.ปลาย ม.ปลาย/ปวช. ท้ังหมด 7 20 60.61 โรงเรียนบา้ นโพซอ สถาบันการศกึ ษาอื่น 18 66.67 14 77.78 2556 33 - 20 38 82.61 57 90.48 2557 27 - 18 2558 18 4 10 2559 46 26 12 2560 63 29 28 จากตารางแสดงข้อมูลการศึกษาต่อของนักเรียน พบว่าร้อยละของจานวนนักเรียนที่ศึกษาต่อ ต้ังแต่ ปีการศึกษา 2556 ถึงปีการศึกษา 2560 มีอัตราเพิ่มขึ้นต่อเน่ืองทุกปี แสดงให้เห็นถึงนักเรียนท่ีสาเร็จการศึกษาใน ระดับชันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ตระหนักถึงความสาคัญของการศึกษา เข้ารับการศึกษา เพ่ือพัฒนาศักยภาพของตน ในสาขาวชิ าที่ตนเองสนใจ เพอื่ นาความรูค้ วามสามารถทไี่ ดร้ ับ กลับมาพฒั นาชุมชน และประเทศชาตติ อ่ ไป หน้า 7
เป้าหมายหลกั ท่ี ๓ เสริมสรา้ งศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางวิชาการและทางจรยิ ธรรม โรงเรียนไดจ้ ัดทาโครงการเตรยี มความพร้อมด้านวิชาการก่อนการทดสอบระดบั ชาตขิ องนกั เรยี นขว่ งช้ันท่ี 2 และช่วงช้นั ท่ี 3 ขึ้น ซึง่ มีแนวในการดาเนินการ ดงั น้ี 1. โรงเรยี นไดด้ าเนนิ การจัดให้มีการสอนเสรมิ ในชว่ งหลังเลิกเรียน วันละ 1 ชัว่ โมง อย่างตอ่ เนอ่ื ง 2. นาข้อทดสอบเกา่ มาวเิ คราะหว์ ่าแต่ละปมี แี นวการถามอยา่ งไร ตงั้ คาถามเลยี นแบบขอ้ ทดสอบเพอ่ื ฝึก ใหน้ ักเรยี นได้พบเห็นขอ้ ทดสอบท่ีหลากหลาย 3. ครจู ัดทาสอ่ื การเรียนการสอนเพ่ือให้นกั เรยี นเข้าใจเนอ้ื หาไดด้ ยี ง่ิ ขึ้น 4.ก่อนถงึ วนั ทดสอบประมาณ 10 วนั จะจดั สอนเสริมให้แกน่ กั เรยี นภายในศนู ยเ์ ครือขา่ ยพฒั นาคณุ ภาพ การศึกษาศิลาทอง โดยจะมคี รูจากโรงเรียนภายในศูนยเ์ ครอื ขา่ ย มาชว่ ยสอนเสรมิ ซ่งึ จะช่วยให้นักเรียนไดเ้ รียนร้เู ทคนคิ ใหมจ่ ากการสอนของครหู ลายท่าน 8 ผลจากการดาเนินกจิ กรรมตามโครงการ 1. นักเรยี นระดบั ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 ทกุ คนมีความพรอ้ มดา้ นวิชาการในวิชา หลัก ๔ สาระการเรยี นรู้ 2. นกั เรียนระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 และมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ทกุ คนมที กั ษะในการฝนกระดาษคาตอบ 3. นกั เรียนระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 6 และมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ทุกคนมีทักษะในการวิเคราะห์คาถาม วิเคราะหต์ วั เลือก ตวั ลวง 4. ผลการทดสอบของนักเรยี นระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 และมธั ยมศึกษาปีที่ 3 เมื่อนาผลสัมฤทธิก์ าร ทดสอบระดบั ชาติ (O-Net) ของ ปกี ารศกึ ษา 2559 มาเปรียบเทยี บกบั ผลการทดสอบ ปกี ารศกึ ษา 2560 ผล ปรากฏว่า คะแนนเฉลีย่ รวมทกุ สาระการเรยี นร้เู พิม่ ขน้ึ หน้า 8
อีกทั้งโรงเรียนยังได้ตะหนักถึงความสาคัญของเทคโนโลยี ท่ีจะเป็นตัวช่วยในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียน จึงได้จัดทาโครงการพฒั นาศกั ยภาพผเู้ รียนดา้ น ICT โดยใช้คอมพวิ เตอรเ์ ปน็ อุปกรณด์ ้าน ICT มีการนาเอาคอมพิวเตอร์ เขา้ ไปใช้ในดา้ นการศกึ ษา เช่น ดา้ นการบรหิ าร ด้านการวางแผนหลักสูตร ด้านการพัฒนาบุคลากร งานห้องสมุด งานแนะแนว งานวดั ผล การจดั ทาส่ือการสอน เป็นต้น เนื่องจากคอมพิวเตอร์มีบทบาท สามารถแสดงผล ในทุก รปู แบบ ไมว่ ่าจะเป็น ภาพ เสียง ตลอดจนภาพเคลื่อนไหว เป็นเครื่องมือท่ีสาคัญในการทางานและการจัดการเรียน การสอน การดูแลรกั ษาเคร่ืองคอมพิวเตอร์ใหอ้ ยใู่ นสภาพที่พรอ้ มใช้งานตลอดเวลา เป็นส่งิ จาเป็นอยา่ งยง่ิ โรงเรียนจึงได้ ปรบั ปรงุ หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารคอมพิวเตอร์ และระบบเครือข่าย เพื่อให้ ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ สามารถจดั การเรยี นการสอนได้อย่างเต็มประสิทธภิ าพตลอดจนสรา้ งบรรยากาศให้เอ้ือต่อการเรียนรู้ มีสิ่งอานวยความ สะดวกเพียงพอ อยูใ่ นสภาพใชก้ ารได้ดี เป็นแหลง่ เรยี นร้ทู ่สี าคัญสาหรับผู้เรียน ให้บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ ท่ีเอ้ือให้ผู้เรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง และหรือเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ทาให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดย คน้ คว้าหาข้อมูลทางอินเตอรเ์ นต็ และนาความรู้ ไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ในชีวิตประจาวนั พรอ้ มท้ังใช้เปน็ แหลง่ บริการกับ บุคลากรภายในโรงเรียน และหน่วยงานภายนอก 9 หน้า 9
ในการส่งเสริมด้านคุณธรรม จริยธรรม โรงเรียนบ้านโพซอ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมตาม โครงการโรงเรียนคุณธรรม เพ่อื พฒั นาจิตใหน้ าไปสกู่ ารพฒั นาสติปัญญา โดยบรู ณาการกบั การดาเนินกิจวัตรประจาวัน ในโรงเรยี นเพอื่ จะไดด้ ารงตนเป็นคนดีของสงั คม มผี ้เู ขา้ ร่วมรอ้ ยละ ๑๐๐ เช่น กิจกรรมน้องไหว้พี่ กิจกรรมไหวพ้ ระสวด มนต์(แปล) แผ่เมตตา(แปล)และสงบนิ่ง สมาธิ ตอนเช้าและก่อนเรียน กิจกรรมกล่าวคาพิจารณาอาหาร ก่อนการ รับประทานกลางวัน รับประทานอาหารอย่างมีสติ ไม่หก ไม่เหลือ เป็นต้น รวมทั้งจัดให้มีค่ายคุณธรรมศาสนสัมพันธ์ สรา้ งการรับรู้อย่รู ว่ มกันอยา่ งมีความสขุ ทุกศาสนาสามารถนามาไปใช้ส่ังสอนศาสนิกชนของตนให้ปฏิบัติตามเพื่อจะได้ เปน็ คนดขี องสังคม พรอ้ มกับขบั เคล่ือนโครงงานคุณธรรม อัตลักษณ์ของโรงเรียนด้านวินัยการแต่งกายเรียบร้อย มีจุด ม่งุ หวงั เพอ่ื พฤตกิ รรมทีพ่ ึงประสงค์เพิ่มข้ึนและมีพฤติกรรมท่ีไม่พงึ ประสงค์ลดลงได้เป็นอย่างดี 10 จากการท่ีโรงเรียนจดั กจิ กรรมโครงการดังกล่าว ร้อยละ 90 ของผเู้ ขา้ รว่ มกจิ กรรมในโครงการมพี ฤติกรรมที่พึง ประสงคเ์ พ่ิมขึ้น มีพฤติกรรมทีไ่ ม่พึงประสงคล์ ดลง อกี ทั้งนักเรียนฝึกทักษะกระบวนการทางานกลุ่ม ก่อให้เกิดความรัก ใคร่สามัคคี เสียสละในหมู่คณะ และรู้จักแก้ปัญหาในด้านคุณธรรมทาให้เกิดเป็นระเบียบวินัยในการดาเนิน ชวี ติ ประจาวันประกอบกบั สรา้ งการรบั ร้อู ยู่รว่ มกันอยา่ งมีความสุขทุกศาสนาสามารถนามาไปใช้ส่ังสอนศาสนิกชนของ ตนให้ปฏิบัติตามเพื่อจะได้เป็นคนดีของสังคมได้ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมท่ีจัดข้ึนทั้งในแล ะนอก หอ้ งเรยี น หนา้ 10
เปา้ หมายหลักที่ ๔ เสรมิ สร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนทางการงานอาชีพ การเสรมิ สร้างศักยภาพของเดก็ และเยาวชนทางด้านอาชีพ เปน็ ส่ิงทีโ่ รงเรยี นบา้ นโพซอ ตระหนกั และให้ ความสาคญั โดยทางโรงเรียนไดเ้ สริมสร้างศักยภาพแก่ผเู้ รยี นแบง่ ออกเป็น ๔ ดา้ นดงั น้ี ด้านเกษตรกรรม โรงเรียนได้จัดกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อเสริมสร้างศักยภาพแก่นักเรียน อาทิเช่น การปลูกผักสวนครัว การปลูกข้าว การเพาะเห็ด การเลี้ยงไก่ การเล้ียงสุกร การเลี้ยงปลาดุก ซึ่งกิจกรรมทักษะอาชีพด้านเกษตรกรรมเป็น กิจกรรมท่นี กั เรยี น และชุมชนให้ความสนใจพอสมควร เพราะผู้ท่ีเข้าร่วมกิจกรรมได้ฝึกทักษะอาชีพการเกษตรในด้าน การปลกู พืชและเลย้ี งสตั ว์ ที่สามารถนาไปเป็นอาชีพเพื่อสร้างรายได้ให้กับตนเองทั้งท่ีบ้านและโรงเรียน ตลอดจนเป็น การปลูกฝังการดาเนินชวี ติ โดยใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดาเนินงานโรงนาของหนู เพื่อผลผลิตข้าวและพืชผัก ในพื้นท่ี 4 ไร่ 3 งาน โดยในการปลูกข้าวได้ผลผลิตท่ี 11 เป็นข้าวเปลือกจานวน 3,034 กิโลกรัม ผลิตเป็นข้าวสารบริโภคในโรงเรียนได้ 1,500 กิโลกรัมคิดเป็นมูลค่า 42,000 บาท และยังพบว่า จากการดูแลเอาใจใส่ของนักเรียนรวมถึงการสนับสนุนทางด้านวิชาการจากหน่วยงาน ภายนอก ทาให้ผลผลิตข้าวเปลอื กต่อไรเ่ ฉล่ีย 687 กโิ ลกรมั ซึง่ สูงกว่าของชมุ ชนถึง 236 กิโลกรัม ทาให้ชุมชนที่มีส่วน รว่ มให้ความสนใจนาความรู้ท่ไี ด้เรียนรรู้ ่วมกันไปปรบั ปรุงพฒั นาแปลงนาของตนเพ่ือให้ได้ผลผลิตทีส่ งู ข้ึน ผลผลิตที่เป็น พืชผักที่ดาเนินการปลูกหลังใช้พื้นที่ทานา คิดเป็นพืชผักจานวน 436 กิโลกรัม คิดเป็นเงิน 4,272 บาท (คานวณ เฉล่ีย 25 บาท/กโิ ลกรัม) ผลผลติ น้ีไดน้ าสเู่ ข้าการจัดบรกิ ารอาหารให้กบั นักเรียน และยังได้บูรณาการการเรียนรู้ “โรง นาของหนู” ท่ีบูรณาการใน 8 กลุ่มสาระ ท่ีตอบสนองต่อการพัฒนาของนักเรียน 4 H (Head-Hand-Heart-Health) โดยเน้นท่ีนักเรียนได้เรียนรู้แบบลงมือปฏิบัติจริงด้วยตัวเอง (Active learning) ซึ่งสอดคล้องไปกับกิจกกรมลดเวลา เรียน เพิม่ เวลารู้ ตามนโยบายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร หนา้ 11
จากการส่งเสรมิ และพัฒนาศกั ยภาพของผเู้ รยี นดา้ นเกษตรกรรม รอ้ ยละ ๘๐ ของผเู้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมมีความรู้ และทักษะอาชพี การเกษตรสามารถนาไปประกอบอาชีพได้หลงั จบการศกึ ษา และมีรายไดร้ ะหว่างเรียนนาไปเป็น ทนุ การศกึ ษาต่อในระดับที่สงู ขน้ึ ดา้ นคหกรรม 12 กิจกรรมทกั ษะอาชีพด้านคหกรรมเป็นกจิ กรรมท่ีนกั เรยี น ชุมชนให้ความสนใจและใหก้ ารสนบั สนุน ผู้ที่เข้าร่วม กิจกรรมไดฝ้ กึ ทกั ษะอาชพี งานคหกรรม กระบวนการทางานร่วมกับผู้อื่น ได้เรียนรู้การประกอบอาหารคาวหวาน ขนม ไทย อาหารว่าง เบเกอรี่ และเคร่ืองด่ืมตา่ ง ๆ ทีส่ ามารถนาไปประกอบอาชีพเพ่ือสร้างรายได้ระหว่างเรียนให้กับตนเอง ทัง้ ทบี่ า้ นและโรงเรียน ตลอดจนเป็นการปลกู ฝังการดาเนินชวี ิตโดยใช้หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หน้า 12
จากการจดั กิจกรรมตามโครงการเพอื่ ส่งเสริมและพัฒนาศกั ยภาพของผ้เู รียนด้านคหกรรม รอ้ ยละ ๘๐ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมคี วามรู้และทักษะอาชพี ดา้ นคหกรรมสามารถนาไปประกอบอาชีพไดห้ ลงั จบการศึกษา มีรายได้ระหว่างเรียนและเปน็ อาชพี เสริม เพื่อเปน็ นาไปเปน็ ทุนการศกึ ษาต่อในระดับทส่ี ูงต่อไป ดา้ นพาณชิ ยกรรม ด้วยทางโรงเรียนตระหนักดีวา่ งานอาชพี ดา้ นพาณชิ ยกรรมมคี วามสาคัญ และเชอ่ื มโยงกับงานอาชีพด้านอื่น ๆ 13 ทางโรงเรียนจงึ จัดใหน้ ักเรยี นระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนต้น ได้ลงทะเบยี นเรียนรู้รายวชิ าทางดา้ นการขายและการบันทึก บัญชี เพือ่ ใหน้ ักเรียนไดศ้ กึ ษาเรยี นรู้เกยี่ วกับบริบทและรปู แบบของวิชาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกศึกษาต่อ หลงั จบการศึกษาภาคบงั คับ ส่วนในระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนปลายจะเป็นการเรียนเก่ียวกับการบัญชีโดยตรงเป็นการวางพื้นฐานความรู้ ทางสาขางานวชิ าชพี ดา้ นบญั ชีเพ่อื ให้นกั เรียนสามารถนาความรไู้ ปใชใ้ นการศึกษาตอ่ ในสาขาวิชาชีพน้ีในระดับสูงข้ึนไป และเพอื่ เปน็ การฝกึ ใหน้ ักเรียนมีคุณลกั ษณะของนักวิชาบัญชีท่ีดี เพื่อสามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในการดารงชีวิตหรือ การทางานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีการวัดผลประเมินผลท้ังในระหว่างเรียนและปลายภาคเรียนเหมือน กลุ่มสาระวชิ าหลกั และวชิ าเสริม เน่ืองจากเป็นวิชาทอ่ี ยใู่ นกลมุ่ สาระวิชาการงานอาชพี และเทคโนโลยี หน้า 13
ผลการดาเนินกิจกรรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพด้านพานิชยกรรม ร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม เกดิ ความรู้และทักษะดา้ นงานขาย-งานบัญชี สามารถนาไปเปน็ พ้ืนฐานในการศึกษาต่อในระดบั สูงข้ึนไป หรือนาไปปรับ ใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ ด้านอุตสาหกรรม 14 กิจกรรมทักษะอาชีพด้านอุตสาหกรรมเป็นกิจกรรมท่ีฝึกทักษะการเรียนรู้ด้านงานช่างอุตสาหกรรม ให้แก่ นักเรียนให้ได้มีความรู้และทักษะปฏิบัติด้านงานช่างในแต่ละแขนง เช่น ช่างเขียนแบบ ช่างก่อสร้าง ช่างเช่ือมโลหะ ช่างซ่อมบารุงเคร่ืองยนต์เล็ก ซ่ึงในแต่ละแขนงวิชา นักเรียนสามารถนาความรู้และทักษะปฏิบัติจากการฝึกฝนจน สามารถนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันทง้ั ในโรงเรยี นและชมุ ชนของตนเอง ตลอดจนเปน็ แนวทางในการประกอบอาชีพได้โดย ยดึ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง หนา้ 14
จากการที่โรงเรียนไดจ้ ดั กจิ กรรมตามโครงการ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพด้านอุตสาหกรรม ของผู้เรียน พบว่าร้อยละ ๘๐ ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความรู้และทักษะอาชีพด้านงานอุตสาหกรรมสามาร นาไปใช้ซ่อมแซม ปรับปรุงและพัฒนางานด้านอาคารสถานท่ีภายในโรงเรียนและในชุมชนและยังสามารถนาไปเป็นแนวทาง ในการ ประกอบอาชพี ได้ ป้าหมายหลักท่ี ๕ ปลกู ฝังจิตสานึกและพฒั นาศกั ยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนรุ ักษท์ รพั ยากร ธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อม กิจกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม โรงเรียนได้มีส่วนร่วมกับชุมชนและหน่วยงาน 15 องค์กรตา่ ง ๆ ในการดาเนินกจิ กรรม เช่น การจัดการขยะในโรงเรียนและชุมชน การปลูกหญ้าแฝก การรณรงค์รักษา สิ่งแวดล้อม จากการท่ีโรงเรียนได้จัดกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร้อยละ ๙๐ ของผู้เข้าร่วม กิจกรรมรู้และเข้าใจถึงผลกระทบของปัญหาส่ิงแวดล้อม และให้ความสาคัญกับการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมากยิ่งข้ึน นักเรียนเกิดทักษะและสามารถนาความรู้ไปถ่ายทอดให้กับครอบครั ว และปฏิบัติจนเป็นกิจวัตรประจาวันได้ ผลของการดาเนินงานเป็นไปตามตัวชี้วัดที่ได้กาหนดไว้ และเป็นไปตาม วตั ถปุ ระสงค์ของกิจกรรมที่จัดข้ึน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถนาทักษะไปต่อยอดความรู้และการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนได้ ท้ังในและนอกหอ้ งเรียน อบรมเร่อื งการคดั แยกขยะจัดโดย อบต.เสาหิน หน้า 15
นกั เรยี นนาทกั ษะไปต่อยอดความรู้ กิจกรรมรณรงค์เรอื่ งสิ่งแวดลอ้ ม 16 หนา้ 16
เป้าหมายหลักที่ ๖ เสริมสร้างศักยภาพของเด็กและเยาวชนในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญา ของทอ้ งถิน่ และของชาติไทย โรงเรียนบ้านโพซอ ได้การดาเนินงานในโครงการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถ่ินภายใต้แนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง เป็นการจัดกิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถ่ิน โดยได้รับการสนับสนุน ความร่วมมอื จากชุมชนและปราชญช์ าวบา้ นในหลากหลายสาขา มาช่วยให้ความรูค้ าแนะนาแกน่ ักเรียน โดยโรงเรียนได้ จดั กิจกรรมท่ีเก่ียวกับภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การเรียนรู้เร่ืองการทอผ้า การจักสานไม้ไผ่ อาหารและพืชสมุนไพรใน ท้องถิ่น การจัดทาคู่มือภาษาถ่ิน และศิลปะการแสดงท้องถ่ิน โดยกิจกรรมในแต่ละประเภทจะมีนักเรียนเข้าร่วม กจิ กรรมร้อยละ 80 โดยนกั เรยี นได้เลือกกิจกรรมท่ีตนสนใจ 17 จากท่ีโรงเรียนได้ดาเนินกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนในการอนุรักษ์และสืบทอดวัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาร้อยละ 90 ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ใช้ความสามารถจากพื้นฐานที่มีติดตัว นามาใช้ในการทากิจกรรมได้ อย่างมีความสุข ผู้เรียนรับฟังคาแนะนาจากปราชญ์ชาวบ้านและคณะครู นามาประยุกต์ใช้กับการลงมือปฏิบัติได้จริง ทาใหก้ ิจกรรมการดาเนนิ งานเป็นไปตามตวั ช้วี ดั ท่ีกาหนดไว้และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกิจกรรมท่ีจัดข้ึน ผู้เข้าร่วม กิจกรรมสามารถนาทักษะไปตอ่ ยอดความรแู้ ละการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน ตลอดจนนาทักษะไปใช้ในการดาเนิน ชีวติ ได้ หน้า 17
อีกท้ัง โรงเรียนบ้านโพซอเป็นโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลและอยู่ในกลุ่มโรงเรียนทุรกันดาร นักเรียนโดยส่วนใหญ่ 18 เป็นกลุ่มชาติพนั ธ์ปุ าเกอะญอ(กะเหร่ยี ง) ซ่งึ ดว้ ยสภาพพ้ืนทท่ี ีอ่ ยู่หา่ งไกลความเจริญทาใหน้ กั เรียนขาดโอกาสในการรับรู้ ข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ และประสบการณ์ที่อาจจะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ตลอดจนการดารงชีวิตในสังคมไทย ได้อย่างเต็มที่ตามศักยภาพของแต่ละคน อย่างเช่น ศิลปะการแสดงโขน ซึ่งถือว่าศิลปะช้ันสูงและเป็นมรดกทาง วัฒนธรรมอันล้าค่าท่ีถูกสืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณและควรค่าแก่การอ นุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่สืบไปไม่ให้ สญู หายไป กบั กาลเวลาและการหลั่งไหลเข้ามาอยา่ งรวดเรว็ ของเทคโนโลยี แต่เนื่องด้วยนักเรียนท่อี ยู่บนพน้ื ทท่ี รุ กันดาร มีโอกาสไม่มากนัก ท่ีจะได้รับชมหรือเข้าถึงการเรียนรู้และฝึกฝนการแสดงโขน ทางโรงเรียนจึงได้รับโอกาสจาก ดร.ไมตรี วสันตวิ งศ์ เป็นผู้ริเริ่มนาโครงการโขนบนดอยมาสู่โรงเรียนบ้านโพซอ และได้ประสานงานกับทางครูฤทธิชัย ชานิราชกิจ จากโรงโขนเพชรบรุ ี นาคณะทางานข้ึนมาฝึกสอนการแสดงโขนให้แก่นักเรียนโขนรุ่นแรก จานวน 32 คน ในช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 ของปีการศึกษา 2560 จากน้ันในเดือนพฤษภาคมของปีเดียวกันน้ีนักเรียนจานวน 22 คน จากทั้งหมด 32 คน ก็ได้รับคัดเลือกจากครูฤทฺธิชัย ชานิราชกิจ ให้เดินทางไปเข้าร่วมพิธีไหว้ครูโขนประจาปี 2561 ของทางโรงโขนเพชรบุรี และในการเดินทางไปครั้งน้ันนักเรียนบางส่วนได้มีโอกาสร่วมแสดงโขนเป็นคร้ังแรก ในงาน ครบรอบ 100 ปี หาดเจ้าสาราญ ต่อมาในภาคเรียนท่ี 1 ของปีการศึกษา 2561 ทางโรงเรียนได้มีการจัดตั้งชุมนุม โขนโพซอขน้ึ เพื่อใหน้ ักเรียนสามารถฝกึ ซ้อมโขนอยา่ งเปน็ ประจาและเปน็ ไปอย่างตอ่ เนอ่ื ง มผี มู้ าสมัคร จานวน 26 คน ทาให้ปัจจุบันมีนักเรียนโขนท้ังส้ิน จานวน 58 คน และในปี 2561 นั้นได้จัดให้มีการแสดงจริงแบบเต็มรูปแบบข้ึน หลายครงั้ ในโอกาสวันสาคญั ตา่ งๆ ซ่งึ กไ็ ดร้ ับการตอบรับจากผูช้ มเป็นอยา่ งดี หนา้ 18
โรงเรียนบ้านโพซอ ได้ตระหนักถึงความสาคัญของการเผยแพร่ อนุรักษ์ และสืบสาน ศิลปะและวัฒนธรรม ซึง่ เป็นตวั บ่งชถ้ี งึ คุณภาพ วถิ ชี ีวติ และจติ ใจอันดีงามของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนบ้านโพซอ อีกท้ังยังเป็นการ สนองต่อแผนการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดาริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ พระเทพรตั ราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี 19 หนา้ 19
เป้าหมายหลักที่ ๗ ขยายการพฒั นาจากโรงเรียนสู่ชุมชน โรงเรียนบ้านโพซอ ได้ดาเนินโครงการโรงเรียนโรงนา ขึ้นเพื่อผลิตผลผลิตทางการเกษตร อาทิเช่น การปลูกข้าว การปลูกผักสวนครัว เพ่ือนาผลิตที่ได้ มาประกอบอาหารกลางวันแก่นักเรียน อีกทั้งใช้แปลงการเกษตร ดังกลา่ วเป็นแปลงสาธติ เพอ่ื สง่ เสริมในครวั เรอื นของนักเรยี นทาการเกษตรแบบยั่งยืน เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม ส่งเสริม การถนอมอาหารเพื่อการบริโภค เปน็ การลดรายจา่ ย เพิ่มรายได้ โรงเรียนไดส้ นบั สนนุ เมล็ดพันธ์ข้าวแก่ชุมชุน ซ่ึงเมล็ด พันธ์ุข้าวทไ่ี ดแ้ จกจ่ายใหก้ ับครัวเรือนท่ีสนใจน้ัน เป็นเมล็ดพันธ์จากการปลูกข้าวของนักเรียน อีกทั่งยังได้ช่วยประงาน กบั หนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งมาอบรมให้ความรู้ และสนับสนนุ เมลด็ พนั ธ์ุพืช พนั ธุ์สัตว์ แกช่ มุ ชน โรงเรียนจัดกิจกรรม สนับสนุนให้นักเรียนนาความรู้ท่ีได้รับจากโรงเรียนมาใช้ในครัวเรือนของนักเรียน เช่น อย.น้อยสู่ชุมชน การทาบัญชีครัวเรือน การตัดผม การประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ การถนอมอาหาร การดูแล สขุ ภาพ การจัดการขยะ และสภาพแวดลอ้ มรอบบา้ นเรือนให้ถูกสุขลักษณะ เป็นต้น โดท่ีคณะครูในโรงเรียนออกเย่ียม บ้านนกั เรียน เพื่อให้คาแนะนา และเพ่ิมเติมความรู้ โดยการดาเนินกจิ กรรมตามโครงการ เพ่อื ให้บรรลเุ ป้าหมายหลกั ที่ 7 ขยายการพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชนน้ี อยใู่ นชว่ งการดาเนินกจิ กรรม ซ่ึงทางโรงเรยี นไดด้ าเนนิ กิจกรรมตามโครงการอยา่ งเต็มความรู้ ความสามารถ เพื่อขยาย การพัฒนาจากโรงเรียนสู่ชุมชน ทาให้ชุมชนมีความเข้มแข็งและพึ่งตนเองได้ ครอบครัวและชุมชนเกิดการพัฒนา ช่วยเหลือสนับสนุนการพฒั นาเด็กและเยาวชนและโรงเรียนไปพร้อมกัน 20 หน้า 20
เปา้ หมายหลักที่ ๘ พฒั นาสถานศกึ ษาเปน็ ศนู ยบ์ ริการความรู้ 21 โรงเรียนได้ดาเนินโครงการไอซีทีเพ่ือการเรียนรู้ตลอดชีวิตสาหรับชุมชนชายขอบ ในพื้นที่โครงการตาม พระราชดาริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งดาเนินโครงการ ร่วมกับศนู ยเ์ ทคโนโลยีอเิ ลก็ ทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคม และภายใต้การกากับดูแลของมูลนิธิ เทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดาริ สมเดจ็ พระกนษิ ฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี เพ่ือให้โรงเรียนเป็นศูนย์บริการอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์มือถือแก่นักเรียน เยาวชน และคนในชุมชน สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต เพ่ือพัฒนาคุณภาพชีวิตทางการศึกษา การสื่อสารโทรคมนาคม และด้านสุขภาพให้ดีข้ึน เปน็ การยกระดับคุณภาพชีวิต ลดการเหลอ่ื มล้าในการเข้าถงึ ข้อมลู สารสนเทศ อีกทั้งโรงเรียนได้จัดกิจกรรม โครงการโรงเรียนโรงนา เพื่อหวังจะให้โรงเรียนเป็นศูนย์บริการให้ความรู้ ด้านการเกษตรกรรม ใช้ชุมชนได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีชีวิตท่ีเป็นตัวอย่าง แก่ชุมชน ผลิตนักเรียนที่มีความรู้และ สามารถถ่ายทอดความรู้แก่ชุมชน เพื่อคนในชุมนาความรู้ท่ีได้รับ กลับไปเพ่ือพัฒนา ยกระดับคุณภาพชีวิตของตน ชุมชน และประเทศชาตติ ่อไป โดยการดาเนินกิจกรรมตามโครงการ เพ่ือให้บรรลุเป้าหมายหลักท่ี ๘ พัฒนาสถานศึกษาเป็นศูนย์บริการ ความรนู้ ั้น อยใู่ นช่วงการดาเนนิ กิจกรรม ซึ่งทางโรงเรยี นไดด้ าเนินกิจกรรมตามโครงการอยา่ งเต็มความรู้ ความสามารถ เพื่อผลักดันให้สถานศึกษาพัฒนาเป็นศูนย์บริการความรู้ สามารถถ่ายทอด ความรู้และเทคโนโลยีการพัฒนาให้กับ ผ้ปู กครอง ชมุ ชน และสถานศึกษาหรือองค์กรอื่น ๆ ท้งั จากภายในประเทศและจากต่างประเทศ เพื่อนาไปประยุกต์ให้ เหมาะสมกบั บริบทของแตล่ ะที่ สรา้ งความรว่ มมือและเครือขา่ ยเชอ่ื มโยงระหวา่ งประเทศ หน้า 21
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: