ฐานที่ 6 ฐานรกั การอา่ น ใบความรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง การอา่ นจับใจความสาคญั
ใบความรู้ท่ี 1 เร่อื ง การอ่านจับใจความสาคัญ ความหมายของการอ่านจับใจความสาคัญ คือ การอ่านเพ่ือจบั ใจความหรอื ขอ้ คดิ ความคิดสาคัญหลักของข้อความ หรือเร่อื งทอ่ี ่านเป็นขอ้ ความ ทค่ี ลมุ ข้อความอน่ื ๆ ในย่อหน้าหน่ึงๆ ไวท้ ั้งหมด ใจความสาคญั หมายถงึ ใจความที่สาคญั และเดน่ ทสี่ ุดในยอ่ หน้า เปน็ แก่นของย่อหนา้ ที่สามารถ ครอบคลมุ เนื้อความในประโยคอน่ื ๆ ในยอ่ หนา้ น้ันหรือประโยคทสี่ ามารถเป็นหวั เรือ่ งของยอ่ หน้านน้ั ได้ ถ้าตัด เนอื้ ความของประโยคอนื่ ออกหมด หรือสามารถเปน็ ใจความหรือประโยคเดีย่ ว ๆ ได้ โดยไม่ต้องมปี ระโยคอ่นื ประกอบ ซ่งึ ใน แต่ละยอ่ หนา้ จะมีประโยคในความสาคญั เพยี งประโยคเดียว หรอื อยา่ งมากไม่เกิน ๒ ประโยค ใจความรอง หรือ พลความ (พน-ละ-ความ) หมายถึง ใจความ หรือประโยคที่ขยายความประโยค ใจความสาคญั เปน็ ใจความสนบั สนนุ ใจความสาคัญใหช้ ัดเจนขึน้ อาจเป็นการอธบิ ายให้รายละเอียด ใหค้ า จากดั ความ ยกตัวอยา่ ง เปรียบเทียบ หรอื แสดงเหตผุ ลอย่างถถี่ ้วน เพือ่ สนบั สนุนความคิด ส่วนทีม่ ิใชใ่ จความ สาคัญ และมใิ ชใ่ จความรอง แต่ชว่ ยขยายความให้มากขน้ึ คือ รายละเอยี ด หลกั การจับใจความสาคัญ ๑. ตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่านให้ชัดเจน ๒. อ่านเร่อื งราวอย่างคร่าวๆ พอเข้าใจ และเกบ็ ใจความสาคญั ของแต่ละยอ่ หน้า ๓. เมือ่ อ่านจบให้ตง้ั คาถามตนเองวา่ เรือ่ งทีอ่ า่ น มีใคร ทาอะไร ท่ีไหน เมือ่ ไหร่ อยา่ งไร ๔. นาสง่ิ ที่สรปุ ได้มาเรียบเรยี งใจความสาคัญใหม่ด้วยสานวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสละสลวย วธิ กี ารจบั ใจความสาคญั วิธกี ารจบั ใจความมีหลายอย่าง ข้ึนอยกู่ บั ความชอบว่าอย่างไร เชน่ การขดี เสน้ ใต้ การใช้สตี ่างๆ กัน แสดงความสาคญั มากนอ้ ยของขอ้ ความ การบันทึกย่อเป็นสว่ นหน่ึงของการอา่ นจบั ใจความสาคญั ท่ีดี แต่ผู้ทย่ี ่อ ควรยอ่ ดว้ ยสานวนภาษาและสานวนของตนเองไมค่ วรย่อดว้ ยการตัดเอาขอ้ ความสาคญั มาเรียงตอ่ กัน เพราะ อาจทาให้ผูอ้ ่านพลาดสาระสาคัญบางตอนไปอนั เป็นเหตใุ หก้ ารตีความผิดพลาดคลาดเคลอื่ นได้ วิธจี บั ใจความ สาคญั มหี ลกั ดงั นี้ ๑. พจิ ารณาทีละยอ่ หน้า หาประโยคใจความสาคัญของแต่ละย่อหน้า ๒. ตดั สว่ นทเี่ ป็นรายละเอยี ดออกได้ เชน่ ตวั อยา่ ง สานวนโวหาร อปุ มาอปุ ไมย(การเปรยี บเทียบ) ตวั เลข สถติ ิ ตลอดจนคาถามหรือคาพูดของผู้เขียนซ่ึงเปน็ สว่ นขยายใจความสาคญั ๓. สรปุ ใจความสาคัญด้วยสานวนภาษาของตนเองการพจิ ารณาตาแหนง่ ใจความสาคญั
ใจความสาคัญของข้อความในแตล่ ะย่อหนา้ จะปรากฏดังน้ี ๑. ประโยคใจความสาคัญอยตู่ อนต้นของย่อหนา้ ๒. ประโยคใจความสาคญั อยตู่ อนกลางของย่อหนา้ ๓. ประโยคใจความสาคัญอยู่ตอนท้ายของย่อหนา้ ๔. ประโยคใจความสาคญั อยตู่ อนตน้ และตอนทา้ ยของย่อหนา้ ๕. ผ้อู า่ นสรุปข้ึนเอง จากการอา่ นทง้ั ยอ่ หน้า (ในกรณใี จความสาคญั หรอื ความคิดสาคญั อาจอยู่รวมใน ความคิดยอ่ ยๆ โดยไม่มคี วามคดิ ที่เป็นประโยคหลัก) การอา่ นจับใจความเพ่ือหาคาสาคญั การอา่ นจบั ใจความเพอื่ หาคาสาคัญ เปน็ การอา่ นเพ่อื คน้ หาคาสาคญั ที่ปรากฏอยู่ในเรื่อง เพราะคา สาคัญจะช่วยให้ผูอ้ า่ นสามารถคาดเดาเรื่องราวได้ กอ่ นทีจ่ ะอ่านรายละเอียดต่อไป ความหมายของคาสาคญั คาสาคัญ หมายถงึ คาที่บ่งบอกสาระสาคญั ของเร่ือง หรือคาท่ีมีความหมายพิเศษ เพอ่ื กาหนด เป้าหมายทีจ่ ะนาไปสแู่ นวคิดของเร่ือง ซงึ่ ในเรือ่ งอาจมคี าสาคัญหลายคากไ็ ดแ้ ละเม่ือนาคาเหล่านนั้ มาเรียบ เรียงจะทาให้เขา้ ใจเร่อื งทอ่ี ่านอยา่ งครา่ วๆ ลกั ษณะของคาสาคัญ ๑. เปน็ คาที่ผ้เู ขยี นพิมพต์ วั หนา ตวั เอน หรือขดี เส้นใต้ หรอื คาท่ีอยูใ่ นเครื่องหมายคาพูด เช่น ตัวเล็กนิด มพี ิษเหลอื ใจ สตั วม์ พี ษิ มีอย่ทู ว่ั ไป เชน่ แมงป่อง ตะขาบ มดแดง และมดคันไฟ พบอยบู่ นดนิ ใน ซอกหิน ซอกไม้ และโพรงไม้ ตวั ตอ่ แตน และผึง้ พบอยู่ตามตน้ ไม้ คางคก และปลงิ พบตามหว้ ย หนอง คลอง บึง ยุง และ บึง่ บนิ อย่ใู นอากาศ สัตว์แต่ละชนดิ มอี าวุธสาหรับต่อสศู้ ัตรู อาวุธเหล่าน้ีอาจอย่ตู รงส่วนใด ของสัตว์ก็ได้ เม่ือมนั กัดหรือต่อยศตั รูแล้ว กจ็ ะฉดี น้าพษิ เข้าทางแผลทาให้เจ็บปวด บางชนดิ อาจเป็นอันตราย ถงึ ตายได้ จากข้อความข้างต้น คาท่ีพิมพ์ตวั หนา คอื แมงปอ่ ง ตะขาบ มดแดง มดคนั ไฟ ตวั ต่อ แตน ผึง้ คางคก ปลงิ ยงุ และบงึ่ แสดงวา่ ผู้เขียนตอ้ งการบอกใหท้ ราบวา่ สัตวท์ ่ีพมิ พ์ตวั หนา ถงึ แม้จะตวั เล็ก แต่เปน็ สตั ว์มีพิษ ซึ่งคาทพ่ี ิมพด์ ้วยตัวหนาดงั กล่าว จงึ เป็นคาสาคัญของข้อความนี้ ๒. เปน็ คาทีแ่ สดงให้เห็นถงึ ความเปน็ เหตุและเป็นผลของเร่อื งราวหรือเหตกุ ารณท์ ี่เกดิ ขึ้น เชน่ เศรษฐกจิ พอเพยี ง คอื การสรา้ งงานอาชพี ให้มฐี านะพอมพี อกิน เพียงพอทีจ่ ะพง่ึ พาตนเองได้ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวรบั สง่ั วา่ เศรษฐกิจพอเพยี ง ตอ้ งชว่ ยตวั เองไมฟ่ ุ่มเฟือย อย่อู ย่างธรรมดา อยู่อยา่ งมีเหตุมผี ล ถ้า เราดาเนนิ ชวี ติ เชน่ น้ี กค็ งมีเงนิ เหลอื เกบ็ จากขอ้ ความข้างต้นจะปรากฏคาท่มี ีลกั ษณะเป็นเหตแุ ละผลกัน ซึ่งเหตุก็คอื การดาเนินชีวิตแบบ เศรษฐกิจ จะทาให้มีเงินเหลือเกบ็ ดังนน้ั คาสาคัญของขอ้ ความดังกล่าว คอื เศรษฐกจิ พอเพียง
หลกั การอา่ นจับใจความเพ่ือหาคาสาคญั ๑. กรณที ่ผี ู้เขียนระบุคาสาคญั คอื คาทีพ่ ิมพด์ ้วยตัวหนา ตัวเอน ขีดเส้นใต้ หรือคาทอ่ี ยู่ในเครือ่ งหมาย คาพดู มขี นั้ ตอนการอ่าน ดงั นี้ ขัน้ ท่ี ๑ อา่ นชอ่ื เรื่องแล้วทาความเขา้ ใจความหมายของชื่อเรื่อง ขัน้ ท่ี ๒ เพง่ ตาที่จดุ กึ่งกลางของบรรทดั แรก หรอื ชื่อเรื่อง แล้วใหเ้ คล่ือนสายดาผ่านกง่ึ กลางของ บรรทดั แรกเรอ่ื ยลงไปจนถึงบรรทดั สดุ ท้าย เพือ่ หาคาที่พิมพต์ ัวหนา หรือตวั เอน หรอื คาที่ขดี เส้นใต้ หรอื คาที่ อยู่ในเครอ่ื งหมายคาพูด ๒. กรณีท่ีผู้เขียนไมไ่ ดร้ ะบคุ าสาคญั ไว้ในเนอื้ เรอ่ื ง ให้ผู้อา่ นค้นหาคาสาคญั ดว้ ยตนเอง มีขน้ั ตอนการ อ่าน ดงั น้ี ข้นั ท่ี ๑ อ่านชอื่ เร่ืองแลว้ ทาความเข้าใจความหมายของชื่อเร่อื ง ขั้นท่ี ๒ เพ่งตาท่ีจดุ ก่งึ กลางของบรรทดั แรก แล้วเคล่อื นสายตาผ่านคาทกุ คาของแต่ละบรรทดั แล้วทา ความเขา้ ใจความหมายของคาทุกคา ขั้นท่ี ๓ ทาความเข้าใจเรื่องราวในแต่ละยอ่ หน้า แล้วลองตอบคาถามให้ได้วา่ ใจความในแต่ละยอ่ หน้า กลา่ วถึงอะไร และจดบนั ทกึ ใจความของแตล่ ะย่อหน้าไว้ ขั้นท่ี ๔ อ่านเนื้อเรื่องให้ละเอียดอกี ครัง้ เพือ่ ตรวจทานข้อสรุปทไ่ี ด้จดบนั ทึกไวว้ ่าถกู ตอ้ ง สมบูรณ์ หรอื ไม่ (สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน, กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๒๕๕๐ : ๒) สแกนควิ อาร์โคด้ เพ่ือทาใบงาน
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: