Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PPT หลักกสิกรรมธรรมชาติ

PPT หลักกสิกรรมธรรมชาติ

Published by channarong.56op, 2022-04-25 04:25:51

Description: PPT หลักกสิกรรมธรรมชาติ (สื่อการเรียนรู้บรรยาย)
โครงการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ปี 65
โดย นายชาญณรงค์ จิรขจรกุล นักทรัพยากรบุคคล ศพช.ลำปาง

Search

Read the Text Version

โคก หนอง นา

โคก หนอง นา

โคก หนอง นา

ปลูกต้นไม้ทำไม ประโยชน์/ควำมสำคญั จำเป็ นต่อชีวติ อย่ำงไร ปลูกจติ สำนึกเกย่ี วกบั ทรัพยำกรธรรมชำตแิ ละ ส่ิงแวดล้อม ดนิ นำ้ ลมไฟ “…ควรจะปลกู ต้นไมใ้ นใจคนเสยี กอ่ น แลว้ คนเหล่านน้ั กจ็ ะพากนั ปลกู ต้นไมล้ งบนแผ่นดินและรกั ษาตน้ ไมด้ ้วยตนเอง...” พระราชดารสั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัว รัชกาลที่ 9 เมอื่ ครั้งเสด็จไปยังหน่วยพัฒนาตน้ นา้ ทุ่งจอ๊ พ.ศ. 2519

ความสาคญั ของปา่ ไม้ ผลกระทบ 1. สาคัญต่อระบบนเิ วศวิทยา ปา่ ไม้ชว่ ยปอ้ งกนั การ 1. เกิดการชะลา้ งพงั ทลายของดนิ ชะล้างพังทลายของดนิ ทาให้ดนิ อุดมสมบรู ณ์ เปน็ ต้นนา้ 2. เกดิ นา้ ท่วมในฤดฝู น ลาธาร เป็นทอี่ ยู่อาศยั ของสัตวป์ า่ เป็นตน้ 3. เกดิ ความแหง้ แลง้ ในฤดูแลง้ 2. สาคญั ดา้ นเศรษฐกจิ ป่าไมใ้ ห้ผลผลิตทน่ี ามาใช้ 4. เกดิ ปัญหาโลกร้อนขึน้ ประโยชนต์ อ่ มนุษย์ได้อย่างมากมาย 5. พืชและสัตว์ป่ามีจานวนและชนิดลดลง 3. สาคัญด้านนนั ทนาการ ปา่ ไมเ้ ป็นแหล่งพักผอ่ น หยอ่ นใจของมนษุ ย์ เปน็ แหล่งศึกษาธรรมชาติวทิ ยา

นา้ ปา่ ไหลหลาก ฝนไม่ตกตามฤดกู าล สภาวะโลกรอ้ น

ทฤษฎกี ารปลูกฟืน้ ฟูปา่ ตามแนวพระราชดาริของสมเดจ็ เจา้ พระเจ้าอยหู่ ัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงได้พระราชทานพระราชดาริแนวการฟื้นฟปู า่ ไม้ เพิม่ ปริมาณปา่ ไม้ ของประเทศไทยอย่างมัน่ คงและถาวร รวมถงึ การทาให้เกดิ ป่าไม้หลายวิธีการ คอื วธิ ที ี่ 1 ปลูกปา่ โดยไม่ต้องปลกู ดว้ ยวิธกี าร 3 วิธี คือ 1) “...ถา้ เลอื กได้ท่เี หมาะสมแลว้ กท็ ้ิงปา่ น้ันไวต้ รงนั้น ไม่ต้องไป ทาอะไรเลย ปา่ จะเจริญเตบิ โตขึ้นมาเปน็ ป่าสมบรู ณ์ โดยไม่ต้องไป ปลกู สักต้นเดยี ว...” 2) “...ไมไ่ ปรงั แกปา่ หรือตอแยตน้ ไม้ เพยี งแตค่ ้มุ ครองใหข้ ้ึนเอง เท่านั้น...” 3) “...ในสภาพป่าเตง็ รัง ปา่ เสือ่ มโทรมไมต่ อ้ งทาอะไรเพราะตอไม้ จะแตกก่ิงออกมาอีก ถงึ แม้ต้นไมส่ วยแต่ก็เปน็ ตน้ ไมใ้ หญ่ได้...” *** ตามหลักการฟืน้ ฟสู ภาพปา่ ดว้ ยวฎั จักรธรรมชาติ (Natural Reforestation) ปลอ่ ยให้ปา่ สามารถคืนสมดุลให้ตัวเองได้ตามวงจรของธรรมชาติ



วิธที ่ี 2 ปลูกป่าในที่สูง ทรงแนะวธิ ีการ ดังน้ี “...ใชไ้ มจ้ าพวกท่มี ีเมลด็ ท้งั หลายขึ้นไปปลูกบนยอดทส่ี ูง เม่อื โตแลว้ ออกฝกั ออกเมล็ดก็จะลอยตกลง มาแล้วงอกเอง ในที่ตา่ ตอ่ ไป เปน็ การขยายพันธุ์โดยธรรมชาติ...” วิธีที่ 3 ปลกู ปา่ ต้นน้าลาธาร หรอื การปลูกปา่ ธรรมชาติ ทรงเสนอแนวทางปฏิบัตวิ า่ 1) ปลกู ตน้ ไมท้ ีข่ ้ึนอย่เู ดมิ คอื “...ศึกษาดกู อ่ นว่าพืชพันธไ์ุ ม้ดง่ั เดมิ มอี ะไรบา้ ง แลว้ ปลกู แซมตามรายการชนดิ ตน้ ไม้ท่ศี กึ ษามาได้...” 2) งดปลูกไมผ้ ดิ แผกจากถนิ่ เดิม คอื “...ไมค่ วรนาไม้แปลกปลอมต่างพันธต์ุ า่ งถนิ่ เขา้ มาปลกู โดยยังไมไ่ ด้ศกึ ษาอยา่ งแนช่ ัดเสยี ก่อน...” วิธีท่ี 4 การปลกู ป่าทดแทน การปลกู ป่าทดแทน เพอ่ื คนื ธรรมชาตสิ แู่ ผ่นดิน ดว้ ยวิธที างแบบผสมผสานกันในเชิงปฏิบัติ



3 4การปลูกปา่ อยา่ ง ประโยชน์ อยา่ ง...ศษิ ย์มาบเอื้อง604

การปลูกต้นไม้ท่กี ินได้ พืชกินใบ กินผล กนิ หัว และเปน็ ยาสมุนไพร เชน่ แค มะรุม สะตอ ข้เี หลก็ ผักหวาน กล้วย ไม้ผลต่างๆ การปลกู ต้นไมเ้ ป็นใหเ้ ปน็ ป่าสาหรบั ทาเครอื่ งใช้ไม้สอยในครัวเรอื น เช่น ทาฟืน เผาถ่าน ทางานหัตถกรรม ทาเล้าเป็ด ทาน้ายาซักล้าง ไม้ในกลุ่มน้ีส่วนใหญ่จะเน้นหนักพันธุ์ไม้โตเร็วเป็นหลัก 5-10 ปีใช้ได้ เชน่ กระถนิ ณรงค์ สะเดา ไผ่ ยคู าลปิ ตัส มะคาดคี วาย หวาย การปลูกต้นไม้ท่ีใช้เนื้อไม้และไม้เชิงเศรษฐกิจให้เป็นป่า ไม้กลุ่มนี้เป็นไม้ อายุยืน ไม้โตช้า ไม้เนื้ อแข็ง เพื่อสร้างบ้าน ทาเครื่องเรือน เช่น ตะเคียนทอง ยางนา แดง สัก พะยูง พะยอม

ประโยชนข์ องป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อยา่ ง ประโยชนเ์ พ่อื ให้ “พอกิน” พอใช้ สามารถพ่ึงตนเองเร่อื งอาหารและยารกั ษาโรคได้ สามารถพ่ึงตนเองเรือ่ งรายจ่ายทตี่ อ้ งใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ คอื การปลูกตน้ ไม้ท่กี ินได้ รวมท้งั ใชเ้ ป็นยาสมนุ ไพร ไม้ในกลมุ่ น้ี เช่น แค มะรุม ทเุ รียน สะตอ ผกั หวาน คือ การปลูกต้นไม้ให้เป็นป่าไม้ สาหรับทาเครื่องใช้ ฝาง แห้ว กล้วย ฟกั ข้าว ไมผ้ ลต่าง ๆ เป็นต้น สอยในครัวเรือน อาทิ ทาฟืน เผาถ่าน ทางาน หัตถกรรม หรือทาน้ายาซักล้าง ไม้ในกลุ่มน้ี เช่น พออยู่ มะคาดีควาย หวาย ไผ่ หมเี หม็น เป็นตน้ สามารถพ่ึงตนเองดา้ นทอี่ ยูอ่ าศยั ได้ พอร่มเยน็ คือ การปลูกต้นไม้ที่ใช้เนื้อไม้และไม้เชิงเศรษฐกิจให้ สามารถมคี วามสขุ อ่มิ เอบิ ใจ กบั สิ่งทีม่ ีทที่ าได้ เป็นป่า ไม้กลุ่มน้ีเป็นไม้อายุยืนเพ่ือใช้สร้างบ้าน คือ ประโยชน์อย่างท่ี 4 ที่เกิดจากการปลูกป่า ทาเคร่ืองเรือน ต้นไม้กลุ่มนี้ เช่น ตะเคียนทอง ยางนา 3 อย่าง สร้างสมดลุ ระบบนิเวศ จะช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ สัก พะยูง พะยอม เป็นต้น ดนิ และนา้ ใหก้ ลับมาอุดมสมบูรณ์ ชุ่มช้ืน ดูดซบั น้าฝน





โครงการพฒั นาหมู่บา้ นเศรษฐกจิ พอเพียง ประจาปีงบประมาณ พ.ศ 2565 ไม้ 5 ระดบั

1. ควรเลือกปลกู ไมส้ ูงกอ่ น โดยควรเวน้ ระยะหา่ งแต่ละต้น 6-8 เมตร และ ต้องไม่ตา่ กว่า 5 เมตร เพือ่ ใหต้ น้ ไมเ้ จรญิ เตบิ โตได้ดี ไมแ่ ยง่ แสงกันเอง 2. พนื้ ทร่ี ะหว่างไมส้ ูงแต่ละตน้ ก็ปลกู ไม้อีก 4 ระดับ ไลข่ นาดลดหลัน่ กันไปลงสดู่ นิ 3. สามารถปลกู ไม้สูงและไมก้ ลางพรอ้ มกนั ในทีเดียวได้ โดยเว้นระยะห่างไม้ สงู แต่ละตน้ ประมาณ 5 เมตร พนื้ ท่ีระหวา่ งไม้สงู แตล่ ะตน้ ก็ปลกู ไมก้ ลางได้ อกี 1 ต้น และปลกู กล้วยเป็นพืชพเ่ี ลย้ี งไปพรอ้ มกัน เนื่องจากตน้ กล้วย ชว่ ยเก็บความชน้ื ได้ดี และมใี บชว่ ยเป็นร่มเงาให้ไมอ้ ื่นตอนทีต่ น้ ยงั เล็ก

4. ไมค่ วรปลกู ไม้สงู ชนิดเดียวกัน ติดกนั เปน็ กลมุ่ ๆ ในพืน้ ท่ใี กล้ชิดกันควร ปลูกไม้สงู หลากหลายชนดิ • เพ่ือไมใ่ หต้ น้ ไมแ้ ย่งสารอาหารกนั เอง เพราะตน้ ไมช้ นดิ เดยี วกันย่อมตอ้ งการสารอาหารในดนิ แบบเดยี วกนั 5. เลอื กลักษณะพ้ืนท่ีปลกู ใหเ้ หมาะสมกับความตอ้ งการของต้นไม้ เชน่ ไม่ ควรปลูกตน้ สัก ในพน้ื ทล่ี ุ่มท่มี ีน้าทว่ มขังหรือมนี ้าใตด้ นิ มาก ๆ เพราะต้นสกั ไม่ ชอบนา้ ขัง ระบบรากจะเตบิ โตไม่ดีทาให้ตน้ แคระแกรนหรอื ตายได้ 6. ไม้กลาง ไมเ้ ตยี้ ไมเ้ รีย่ ดนิ ควรปลกู หลังไมส้ ูงและไม้กลางประมาณ 2 ปี เพื่อให้มีรม่ เงา เพราะไม้ 3 ระดับนี้ ไม่ชอบแสงแดดจัดมากนัก

หลุมพอเพียง ลดภาระการรดนา้ เกอื กูลการก้าจัดวชั พืช

วธิ กี ารทาหลมุ พอเพยี ง 1. ขุดหลมุ ขนาดกวา้ ง 80-100 ซม. ลึกประมาณ 30 ซม. ลักษณะเป็นวงกลมหรือส่เี หล่ยี ม ระยะหา่ งระหว่างหลมุ 4x4 ม. (พท.1 ไร่ จะได้ 100 หลมุ )

วิธีการทาหลุมพอเพียง 2. ปลกู หญา้ แฝกลอ้ มรอบหลุม จะชว่ ยยึดดินให้คงรปู 3. ปลกู พชื ท้งั 4-5 ชนดิ

ตน้ ไมท้ จ่ี ะปลูกในหลมุ แบ่งเปน็ 5 ประเภท 1. ไม้พี่เลียง เป็นไม้ท่ีให้ร่มเงา เก็บน้า เก็บความชืนโดยเฉพาะช่วงร้อนหรือ หน้าแล้ง เช่น กล้วยน้าว้า กล้วยหอม ควรปลูกทางทิศตะวันตก เพราะช่วย บังแสงช่วงบา่ ยที่อากาศรอ้ นจัด เปน็ พ่เี ลียงใหพ้ ืชทไ่ี มช่ อบแดดจดั มาก ได้กลว้ ยเครอื แรกเมือ่ ปลกู 1 ปี กต็ ัดทิง ปลอ่ ยหน่อใหม่ให้ทา้ งาน 2. ไม้ฉลาด เป็นไมข้ ้ามปี ท่สี ามารถเอาตวั รอดได้ดี 4. ไม้บ้านาญ เป็นไม้ผลยืนต้น ใช้เวลาปลูก 2 - 4 ปี แต่เม่ือ เก็บผลได้นานพอสมควร เช่น ชะอม ผักหวาน มะละกอ ให้ผลผลิตแล้ว เก็บกิน เก็บขายได้เรื่อย ๆ เช่น ขนุน มะม่วง ผักติว ผักเม็ก เริ่มเก็บกนิ ไดต้ ังแต่ 1 เดอื นไปเร่อื ยๆ มะนาว กระท้อน เงาะ ทุเรียน มังคุด ยางพารา เป็นต้น ใน หลุมหนง่ึ ควรเลอื กปลกู แคป่ ระเภทเดียว 3. ไมป้ ญั ญาอ่อน หรอื ไม้รายวัน เป็นไม้ล้มลุกปลูกง่าย ตายเร็ว ต้องคอยปลูกใหม่ ดูแลรดน้าทุกวัน แต่เก็บ 5. ไม้มรดก เป็นกลุ่มไม้ใช้สอยที่อายุยืน ใช้เวลาปลูก ผลได้เร็ว ได้ทุกวัน เช่น พริก มะเขือ กะเพรา โหระพา นาน เก็บไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน ตัดขาย ก็ได้เงิน ตะไคร้ ข่า ฟักทอง แตงไทย แตงกวา ผักบุ้งจีน คะน้า ก้อนใหญ่หรือจะเอาไว้ใช้ซ่อมแซมบ้านก็ได้ เช่น เป็นต้น เริ่มเก็บกินไดต้ ังแต่ 15 วัน ประดู่ สักทอง ยางนา สะเดา พะยูง ชิงชัน ไม้พวกนี เป็นไม้ใหญ่ ปลูกฝงั่ ตรงขา้ มกบั ตน้ กลว้ ย

โครงการพฒั นาหมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพียง ประจาปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 หลมุ พอเพียงเกษตรทฤษฏใี หม…่ ...สร้างความย่ังยนื การทา้ เกษตร



ปลูกปา่ มี 5 ระดับ (ซา้ 2 รอบ) ฟงั ใหไ้ ดศ้ ัพท์ กลบั ไปปลกู ปา่ 1 สูง 2 กลาง 3 เตีย (ซ้า 2 รอบ) 4 เรย่ี ดนิ 5 กินหวั จึก คลอ่ งแคลว่ ครืนเครง คกึ คกั (ซา้ 2 รอบ) ผัวขุด จก๊ั ๆ เมียปลูก จึกๆ (ซ้า 2 รอบ)

“ความส้าคัญของดนิ ” “ดนิ ” คือ ชวี ติ เปน็ ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่มี ีความสา้ คญั ต่อสิง่ มีชีวติ มนุษยใ์ ชท้ รพั ยากรดินในการด้ารงชวี ิต ทอี่ ยู่อาศยั แหล่งผลิต/สร้างอาหาร เคร่ืองนงุ่ ห่ม และยารกั ษาโรค แหลง่ เก็บกกั นา้ เพ่ืออปุ โภค แหลง่ พักผอ่ นหยอ่ นใจ บรโิ ภค ปจั จบุ นั คนท้าการเกษตรแบบใชส้ ารเคมี อันตรายต่อชวี ติ ปัจจุบันคนมีการเผาป่า คนทา้ การเกษตรแบบ “ปอกเปลือก เปลือยดิน”

เลียงดนิ ให้ดิน เลยี งพืช “สขุ ภาพดตี ้องมีอาหารท่ีดี อาหารทีด่ ีเกดิ จากดินดี” “ดินดีเกดิ จาก “อาหารดนิ ทด่ี ี” cr. คืนชีวิตใหแ้ ผน่ ดิน

“…การปรับปรงุ ที่ดินนัน ตอ้ งอนุรักษผ์ ิวดินซ่ึงมีความสมบรู ณ์ไว้ ไม่ให้ไถหรอื ลอกหน้าดินทิงไปสงวนไม้ยนื ต้นทีย่ ังเหลอื อยู่ เพ่อื ท่ีจะรกั ษาความชุม่ ชืนของผิวดนิ …” พระราชดา้ รสั ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 9 เกีย่ วกับการอนุรกั ษ์ดนิ

การนาไปใช้ “แห้งชาม” “นา้ ชาม” ปุ๋ยแห้ง

“แหง้ ชาม” = ปุ๋ยชวี ภาพ/ป๋ยุ แห้ง ป๋ยุ พชื สด ปุ๋ยหมกั ปุ๋ยคอก ปุ๋ยอนิ ทรีย์ มี 3 ประเภท

ขั้นตอนการทา ป๋ยุ หมกั ชีวภาพจากมลู วัว

ป๋ยุ หมักชีวภาพ จาก มูลสัตว์ (ปุ๋ยแห้ง ) ส่ิงทต่ี อ้ งใช้ แกลบดำ มลู ววั (แหง้ ) น้ำหมกั รสจดื รำละเอยี ด แกลบดบิ

ปยุ๋ หมักชีวภาพ จาก มูลสัตว์ วธิ กี ารทา สูตรการหมกั อัตราส่วน 1:1:1:1 1. มูลวัว 1 กระสอบ 2. แกลบดา 1 กระสอบ 1. นาวตั ถดุ บิ มาเทรวมกนั 2. คลกุ เคล้าให้เขา้ กนั 3. แกลบดิบ 1 กระสอบ 4. ราละเอียด 1 ก.ก. 5. นา้ หมักรสจืด + นา้ สะอาด 3. นาน้าหมกั รสจืดผสมกบั 4. บรรจุใสก่ ระสอบ เก็บไว้ 1 เดอื นข้ึน นา้ สะอาดมารดให้ชมุ่ ไปจงึ จะนามาใชไ้ ด้

สมนุ ไพร 7 รส“น้าชาม” = นา้ หมักสมนุ ไพรรสจืด (ปุ๋ยน้า)



นา้ หมกั ชีวภาพ จาก กลว้ ย ( ปุ๋ยนา้ ) สง่ิ ท่ีตอ้ งใช้ ต้นกล้วย ถงั พลาสติก กากน้าตาล/ น้าสะอาด นา้ ตาลทรายแดง

นา้ หมักชีวภาพ จาก กลว้ ย ( ป๋ยุ น้า) สูตรการหมกั วิธกี ารทา อัตราส่วน 1. นาต้นกล้วย มาห่ันให้เปน็ ชิน้ เลก็ ๆ 3 : 1 : 10 1. ตน้ กลว้ ย 3 ก.ก. 2. ละลายน้าตาล/กากน้าตาล กบั น้าสะอาดใส่ลงในถังพลาสตกิ 2. นา้ ตาลทรายแดง/ 3. เติมวัตถดุ บิ ลงไป และใชไ้ มพ้ ายคน กากน้าตาล 1 ก.ก. ใหเ้ ขา้ กัน (เหลอื พน้ื ทีใ่ นถัง 5% ของถัง ) 3. นา้ สะอาด 10 ลิตร 4. ปดิ ฝาใหแ้ น่น หมกั ทิง้ ไว้ 90 วัน จงึ จะใช้งานได้ ***หวั เชอ้ื น้าหมักรสจืด 1 ลิตร (ถา้ มี) **เปดิ ฝาทกุ ๆ 7 วนั เพือ่ ระบายแก็ส

การนาไปใช้ “แห้งชาม” “นา้ ชาม” ปุ๋ยแห้ง

การหม่ ดิน / การคลมุ ดิน ? “คนื ชวี ติ ใหแ้ ผ่นดนิ ” คอื การใช้ฟางขา้ ว เศษหญา้ มาคลมุ ดิน หรือใบไม้ ทส่ี ามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติมาปกคลุมดินไว้ เพ่อื รกั ษาความชืนในดินไมใ่ ห้ระเหยไป ใส่อาหารให้แก่ดิน ด้วยการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพลงไป เพ่ือให้อาหารแก่ดิน แล้วดินจะปล่อยธาตุอาหารให้พืช โดยกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์เรียกหลักการนี วา่ “เลยี งดนิ ให้ดินเลียงพืช”

วิธีการหม่ ดนิ ห่มดนิ ด้วยฟาง เศษหญ้า หรือใบไม้ รอบโคนตน้ ไม้ หา่ งจากโคน ตน้ ไม้ 1 ฝ่ามอื ห่มหนา 1 คบื ถงึ 1 ฟตุ ท้าเปน็ วงกลมเหมอื นโดนทั -โรยดว้ ยปุ๋ยคอก(มูลสัตว์) บาง ๆ บนฟาง ใบไม้ หรอื เศษหญ้าทห่ี ม่ รอบโคนตน้ หลังจากนนั -ร ด ด้ ว ย น้ า ห มั ก ชี ว ภ า พ ผ ส ม น้ า เ จื อ จ า ง อตั ราสว่ น 1 : 200 เรยี กหลักการนวี า่ “แหง้ ชาม น้าชาม”


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook