วิชา การเรียนรตู้ ำราบนดิน โครงการพัฒนาหมบู่ า้ นเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปงี บประมาณ พ.ศ. 2564 กิจกรรมย่อยที่ 1 สร้างและพัฒนากลไกขบั เคลื่อนในระดับพ้นื ที่ กิจกรรมย่อยที่ 1.1 สรา้ งแกนนำขับเคล่ือนหมบู่ า้ นเศรษฐกจิ พอเพยี ง วิทยากร นายชาญณรงค์ จริ ขจรกลุ นกั ทรัพยากรบคุ คล และทีมวทิ ยากร ศพช.ลำปาง วัตถปุ ระสงค์ 1. เพ่ือสำรวจและศึกษาเรยี นรู้ตำราจากผนื ดินในพนื้ ท่ตี น้ แบบ/พ้นื ท่ีศนู ย์ศึกษาและพัฒนาชุมชน 2. เพื่อวเิ คราะห์และนำเสนอสง่ิ ท่ีสงั เกตเหน็ และสงิ่ ทีไ่ ดจ้ ากการลงพ้ืนท่ีในการเรยี นรู้ ระยะเวลา จำนวน 1 ชวั่ โมง ขอบเขตเน้ือหา 1. ศกึ ษาสำรวจพืน้ ที่ 2. บันทึกผลการเรียนรู้ตามประเด็นต่าง ๆ 3. แลกเปลีย่ นเรยี นรูเ้ ตมิ เตม็ เทคนิค/วิธกี าร 1. มอบภารกิจให้แต่ละสีในการสำรวจพื้นที่ โดยให้บันทึกผลการเรียนรู้ตามประเด็นต่าง ๆ (มีวทิ ยากรประจำกลมุ่ พาไปสำรวจในพนื้ ทแ่ี ตล่ ะโซน พรอ้ มอธบิ ายใหเ้ ขาร้วู า่ ในพนื้ ท่นี ั้นมีอะไรบ้าง) 2. กอ่ นปล่อยให้ไปพ้นื ที่ เน้นยำ้ “อยา่ ดว่ นตดั สินใจ ไม่แนะนำ ไม่คิดชว่ ยแก้ไขปญั หา” - ท่านเหน็ อะไร จากการสำรวจ - ท่านได้เรยี นรอู้ ะไร จากการสำรวจ - ให้ท่าน นำ/หยิบ ส่งิ ของจากการสำรวจมา 1 ช้ิน เพอื่ นำมาเสนอให้กบั ผู้เขา้ ร่วมอบรม (ให้กลับมา กอ่ นเวลา เพื่อพดู คุยเตรียมนำเสนอ) 3. ให้สง่ ตัวแทนกลุม่ นำเสนอจามโจทยท์ ไี่ ด้รับมอบหมาย 4. วิทยากรเตมิ เตม็ ข้นั ตอน/การดำเนินการ วิทยากรหลักแบ่งทีมการศึกษาเรียนรู้พื้นที่ต้นแบบของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปางออกเป็น 2 ทมี โดยมวี ทิ ยากรหลักนำเดินศกึ ษาพน้ื ที่ 2 ท่าน และชแี้ จงกระบวนการศึกษาเรยี นรโู้ ดยมอบโจทย์ 3 ข้อ คอื - ท่านเห็นอะไร จากการสำรวจ - ทา่ นได้เรียนรอู้ ะไร จากการสำรวจ - ให้ทา่ น นำ/หยบิ สงิ่ ของจากการสำรวจมา 1 ชนิ้ เพือ่ นำมาเสนอให้กบั ผูเ้ ข้าร่วมอบรม โดยมีประเด็นสำคัญในระหว่างการเดินเรียนรู้ คือ “อย่าด่วนตัดสินใจ ไม่แนะนำ ไม่คิดแทน ไม่ ช่วยแก้ไขปัญหา” จากนั้นวิทยากรเริ่มนำผู้เข้าอบรมเดินศึกษาพื้นที่ตามที่ได้แบ่งทีมกันไว้ โดยการเรียนรู้ใน พื้นที่ของ ศพช.ลำปาง เพื่อให้เห็นถึงบริบทของพื้นที่และการปรับพื้นทีต่ ามภมู ิสังคม การพัฒนาด้วยการแกไ้ ข ปรับปรงุ คณุ ภาพของ คน ดิน นำ้ ปา่ อย่างเป็นระบบตามแนวทางหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยแบ่ง
การเรียนรู้เป็นกิจกรรมฐานเรียนรู้จำนวน 9 ฐานเรียนรู้ ซึ่งจะสืบเนื่องกับการเรียนรู้วิชาการฝึกปฏิบัติในฐาน เรียนรู้ในวันถัดไป และการสำรวจพื้นที่การดำเนินงานกิจกรรม โคก หนอง นา โมเดล ของ ศพช.ลำปาง ซึ่งมี เนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ และจะเป็นจุดท่ีจะดำเนินกิจกรรมในวิชาจิตอาสาพัฒนาชุมชน เอามื้อสามัคคีฯ ในระหว่างการเดินศกึ ษาเรียนรพู้ ้นื ท่ีวทิ ยากรคอยเนน้ ย้ำถงึ โจทยท์ ี่ไดร้ ับมอบหมาย ฐานเรยี นรศู้ ูนยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง จำนวน 9 ฐานเรียนรู้ ดังนี้ 1.ฐานฅนรักษ์ป่า: นายชาญณรงค์ จิรขจรกุล นักทรัพยากรบุคคล วิทยากรครูพาทำ การเรียนรู้ แนวคิดและทฤษฎีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ “ปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง” ป่าอย่างที่๑ ป่าไม้ใช้สอย เป็นป่าที่ปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ เช่น สร้างที่อยู่อาศัย ป่าอย่างท่ี ๒ ป่าไม้ผล เป็นป่าป่าปลูกเพื่อบริโภค ป่าอย่างที่ ๓ ป่าไม้พลังงาน เช่นไม้โตเร็ว ที่ใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือไม้ที่ นำไปใชเ้ ป็นพลงั งานทดแทน เมื่อปลูกปา่ ทั้ง ๓ อย่างแล้ว จะไดป้ ระโยชน์อยา่ งท๔ี่ เปน็ ของแถมคอื การอนุรักษ์ ทรพั ยากรดินและนำ้ วิธีการปลูกป่าเปียกกันไฟ มีด้วยกัน ๖ วิธีการ วิธีการที่ ๑ ทำระบบป้องกันไฟไม้ป่า โดยทำแนวคลองส่งน้ำ และ แนวพืช ชนิดต่าง ๆ ปลูกตามแนวคลอง วิธีการที่ ๒ สร้างระบบการควบคุมไฟป่าด้วยแนวป้องกันไฟป่า เปียก โดยอาศัยน้ำชลประทานและนำ้ ฝน วิธีการที่ ๓ โดยการปลูกต้นไม้โตเร็วคลุมร่องน้ำ เพื่อให้ความชุ่มช้ืน ค่อย ๆ ทวีขึ้นและแผ่ขยายออกทั้งสองด้านของร่องน้ำ วิธีการที่ ๔ โดยการสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น วิธีการ ที่ ๕ การสูบน้ำไปในระดับสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วค่อย ๆ ปล่อยน้ำลงมา เรียกว่า “ภูเขาป่า” ให้กลายเป็น “ปา่ เปยี กทส่ี ามารถป้องกันไฟปา่ ได”้ วิธีการที่ ๖ ปลกู ต้นกลว้ ยเป็นแนวกันไฟ การสรา้ งฝายชะลอความชุ่มช้ืน และการปลูกป่าในใจคนหลกั การและ วิธีการปลูกป่า ๕ ระดับ การปลูกป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔ อย่าง ประกอบด้วยต้นไม้หลากหลายทั้งชนิดพันธุ์ ช่วงอายุ ลักษณะนิสัยและขนาดความสูง โดยเราสามารถจัดแบ่งตามระดับช่วงความสูงและระบบนิเวศได้ ๕ ระดับอนั ได้แก่
๑. ไม้สูง เป็นกลุ่มต้นไมเ้ รอื นยอดสูงสดุ และอายยุ ืนไม้ในระดับน้ี เช่นตะเคียน ยางนา เตง็ รัง ฯลฯ ๒. ไม้กลาง เป็นกลุ่มต้นไม้ที่ไม่สูงนัก ไม้ในระดับนี้ได้แก่บรรดาไม้ผลที่เก็บกินได้ เช่น มะม่วง ขนุน มังคุดกระท้อน ไผ่ สะตอ ฯลฯ ๓. ไมเ้ ต้ยี เปน็ กลุม่ ตน้ ไม้พมุ่ เตี้ย ไม้ในระดับนี้ เชน่ พริก มะเขือ กะเพราผักหวานบ้าน ต้วิ ฯลฯ ๔. ไม้เรีย่ ดิน ไม้ในระดบั นีเ้ ปน็ ตระกูลไม้เลือ้ ย เชน่ พริกไทย รางจืด ฯลฯ ๕. ไมห้ ัวใต้ดนิ ไม้ในระดับนเี้ ช่น ขิงขา่ มนั มอื เสอื บกุ กวาวเครือ ฯลฯ กิจกรรมที่ใช้สำหรับการเรียนรู้ ได้แก่ การขุดคลองไส้ไก่ , การสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น , การขุดหลุมขนมครก , การทำหัวคันนาทองคำ และการปลูกหญ้าแฝก พืชในพระราชดำริ “กำแพงที่มีชีวิต ในการอนุรักษแ์ ละคืนชีวติ ส่ธู รรมชาติ” 2. ฐานฅนมีไฟ : นายเกรียงไกร สิงห์แก้ว นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ วิทยากรครูพาทำ การเรียนรู้การนำพลังงานทดแทน ต่าง ๆ พลังงาน หมายถึง พลังงานท่ี ใช้ทดแทนพลังงานจากฟอสซิล เช่น ถ่านหิน,ปโิ ตรเลยี มและแก๊สธรรมชาติ ซึง่ ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์มหาศาล อันเป็นสาเหตุโลกร้อน ตัวอย่าง พลังงานทดแทนที่สำคัญ เช่น พลังงานลม , พลังงานแสงอาทิตย์ , พลังงานเชื้อเพลิง , พลังงานคลื่น , พลงั งานความรอ้ นใต้พภิ พ , เชอ้ื เพลิง ชีวภาพ พลังงานน้ำมันดิบ น้ำมัน ปาล์ม พลังงานนำ้ มันพืช เปน็ ต้น มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ซ่งึ แบง่ เป็น2 ประเภท คือ พลังงานทดแทนจากแหล่ง ที่ใช้แล้วหมดไป อาจเรียกว่า พลังงานสิ้นเปลือง ได้แก่ ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ นิวเคลียร์ หินน้ำมัน และทราย
น้ำมัน เป็นต้นและพลังงานทดแทนอีก ประเภทหนึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ แล้วสามารถหมุนเวียนมาใช้ได้อีก เรียกว่า พลังงานหมุนเวียน ได้แก่ แสงอาทิตย์ ลม ชีวมวล น้ำ และ ไฮโดรเจน เป็นต้นจึงนำพลังงาน ด ั ง ก ล ่ า ว ม า ท ำ ก าร ผล ิต แ ละใช้ ประโยชน์ในรูปพลังงานทดแทน เช่น พลังงานน้ำ พลังงานลม เทคโนโลยี กังหันลมการแปรรูปขยะมูลฝอยไป เป็นพลังงานความร้อนโดยใช้เตาเผา (Incineration)เทคโนโลยีเตาเผาขยะมูลฝอยพลงั งานถ่านหินพลังงาน ชวี มวลกา๊ ซชีวภาพโรงไฟฟา้ พลังงาน นิวเคลียร์แก๊สโซฮอล์ไบโอดีเซล เป็นต้น ซึ่งในแต่ละพลังงานนั้นมีประโยชน์และผลกระทบ ที่เกิดขึ้นแตกต่าง กันเราควรทีจ่ ะทำการศึกษาอยา่ งละเอยี ดก่อนการนำมาใชป้ ระโยชน์ 3. ฐานฅนรักษ์น้ำ : นางอัญชลี ป่งแก้ว นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ วิทยากรครูพาทำ น้ำคือ..ชีวิต .พลังชีวิตคือ..การแบ่งปัน..ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปาง..ร่วมกันสรรค์...ร่วมกันสร้าง.. กิจกรรมรักษ์น้ำ... รักษ์ปลา..รักษ์สิ่งแวดล้อม... เพื่อพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลัก ทฤษฎใี หม่ ประยุกต์ส“ู่ โคก หนอง นา โมเดล” ใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรู้ในการบริหารจัดการน้ำดว้ ยการทำกิจกรรม บ้านปลา แซนด์วิชปลาให้เป็นแหล่งอาหารและที่อยู่อาศัยของปลา ในหนอง ในสระ ทำน้ำหมักจุลินทรีย์ สังเคราะห์แสง สำหรับปรับปรุงน้ำ บำรุงพืช และเป็นส่วนผสมในการทำจุลินทรีย์บอล กิจกรรมทำจุลินทรีย์ บอลจากจาวปลวก..เพื่อบำบัดบำรุงรักษาน้ำ และเป็นแหล่งอาหารของปลา จำลองระบบบำบัดน้ำดีไล่น้ำเสีย จากสระใหญ่ มาเปน็ ระบบสาธติ ใช้น้ำดีไล่นำ้ เสยี จัดทำตะบนั น้ำสาธิต ซ่งึ เหมาะสำหรบั การประยุกต์ใช้ในพ้ืนที่ สูงของภาคเหนือต่อไป กิจกรรมที่ขับเคลื่อน..ในฐานฅนรักษ์น้ำได้แก่ การใช้น้ำดีไล่น้ำเสียด้วยท่อพีวีซี , การบำบัดน้ำเสีย ด้วยจุลินทรีย์บอล , การทำน้ำหมักชีวภาพจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง , การทำแซนวิชปลา , การทำแซนวิชปลา ลอยนำ้ จากสุ่มไก่ , การทำอาหารปลานลิ ลดตน้ ทุน , การทำอาหารเมด็ ปลานลิ ลดตน้ ทุน และการทำตะบนั นำ้ 4.ฐานฅนรักษ์แม่ธรณีและฐานน้ำหมักรักษ์โลก : นางอรุณศรี เดชะเทศ นักทรัพยากรบุคคล ชำนาญการ วิทยากรครูพาทำ สืบเนื่องจากในช่วงระยะเวลาเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา การเพิ่มผลผลิตและรายได้
ของประเทศ มาจากการขยายพื้นที่การเพาะปลูกมากกว่า การเพิ่มผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ จนถึงขณะนี้ประมาณได้ว่า พื้นที่ที่เหมาะสมต่อ การเกษตรกรรมได้ใช้ไปจนเกือบหมด และพยายามหาพื้นที่ชดเชยด้วยการอพยพ โยกย้าย เข้าไป ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ป่าไม่ถูกทำลายเพิ่มมากขึ้น เพราะการใช้ดินกันอย่างขาดความระมัดระวังและไม่มีการ บำรุงรกั ษา ซ่งึ ทำใหเ้ กดิ ความเสอ่ื มโทรม ดิน เปน็ ทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญอย่างย่ิงต่อส่ิงมชี วี ิต เพราะคนเราใชท้ รัพยากรดินเป็นท้ัง ท่ีอย่อู าศัย เปน็ แหลง่ สรา้ งอาหาร เคร่อื งนุ่งหม่ และยารกั ษาโรค แถมยังใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคจึงกล่าวได้ว่า ดินเป็นทรัพยากรขั้นมูลฐาน เป็นตัวการให้มนุษย์เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากทรัพยากร อื่น ๆได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาล การเกษตรที่ไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทำลายดิน ไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ตอ่ ดนิ และใหค้ วามสำคัญกบั การปรบั ปรงุ ดนิ เปน็ หัวใจสำคญั ท่ีจะรักษาดนิ เอาไว้ได้ การ “ห่มดิน” หรือ “คลุมดิน” โดยใช้ฟาง เศษหญ้า หรือใบไม้ที่สามารถย่อยสลายได้เองตาม ธรรมชาติ และใส่อาหารให้แก่ดิน ด้วยการใส่ป๋ยุ อินทรยี ์ชีวภาพลงไป เพ่อื ให้อาหารแก่ดนิ แลว้ ดนิ จะปล่อยธาตุ อาหารใหพ้ ชื โดยกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรียเ์ รียกหลักการน้ีว่า “เล้ยี งดิน ให้ดนิ เลีย้ งพืช” การปฏิบัติ เชน่ น้ี จะทำใหด้ ินกลับมามชี ีวติ เปน็ การ “คนื ชวี ติ ให้แผน่ ดิน” (คาถาเลี้ยงดิน :เลี้ยงดิน ให้ดินเลี้ยงพืช...feed the soil and letthe soil feed the plan…เจียมได๋ ออยได๋ เจยี มตะนำ…เลยี่ งเทะ อดึ เทะ เลีย่ งละชวิ …เลยี้ งแมธ่ รณี ใหแ้ ม่ธรณี เลย้ี งแมโ่ พสพ) การเรียนรู้การปรับปรุงดิน การอนุรักษ์ดิน ไม่ให้ไถหรือลอกหน้าดินทิ้งไป ไม่ให้มีการ ปลอกเปลือกเปลือยดิน เพ่ือการรักษาดินให้มีความอุดมสมบูรณ์และเก็บรักษาความชุมชื้นของ ผืนดิน กิจกรรมท่ีใช้สำหรับการเรียนรู้ ได้แก่ การห่มดิน , การผ่าท้องช้างหรือเพอร์มาคัลเจอร์ , การทำปุ๋ยหมักชีวภาพแบบแห้ง , การทำน้ำหมักชี วภาพ 7 รส และการทำน้ำมะพร้าวเทียม เพ่ือกระตุ้นจุลินทรีย์ในน้ำหมัก 5. ฐานฅนเอาถ่าน : นางสาวณัฐกฤตา ชัยตูม นักทรัพยากรบุคคลปฏิบัติการ วิทยากรครูพาทำ ไม้ เป็นแหล่งพลังงานที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ให้เกิด ประโยชน์อย่างสูงสุด โดยการนำเอาไม้ทั่ว ๆ ไป เช่น ไม้กระถินณรงค์ ไม้ไผ่ ไม้สักฯลฯ ที่มีการตัดแต่งก่ิง ภายในศพช.ลำปาง และภายในฐานฅนรักษ์ป่า มา ผ่านกระบวนการเผาไหม้เพื่อให้เกิดเป็นพลังงาน เช้อื เพลิง รวมถงึ การใช้ประโยชนพ์ ลังงานจากไม้อย่าง มีประสิทธิภาพและให้เป็นรูปธรรม นั่นคือ การสร้าง เตาเผาถ่านเพื่อให้เกิดเป็นพลังงานเชื้อเพลิง นั่นคือ “ถ่าน” ที่จะช่วยในเรื่องของการพึ่งพาตนเองได้ ประหยดั คา่ ใช้จ่าย จงึ ทำใหเ้ กิดฐานเรยี นรู้ “ฐานคนเอาถ่าน” ขนึ้ มา
โดยภายในฐานมกี ิจกรรมการเรยี นรู้ คือ 1. เตาเผาไหม้สมบูรณแ์ บบ พฒั นามาจากเตาดินและเตาอิฐ ให้ผลผลิตถ่านออกมาคุณภาพดี สามารถรองรับความร้อนได้มากถึง 1,000 องศาเซลเซียส 2. เตาเผาถ่าน 200 ลิตรแบบไร้ควัน เป็นทางเลือก ที่สร้างได้ง่าย ลงทุนน้อย สามารถเคลื่อนย้ายได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และ การปั้นถ่านในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งให้ความร้อนสูง ต่อเนื่อง และยาวนานซึ่งกิจกรรมการเผาถ่านด้วยถัง 200 ลิตรนั้น เมื่อได้ถ่านจากการเผาแล้ว ศพช.ลำปาง นำถ่านที่ได้มาประกอบในกิจกรรม “หาอยู่ หากิน” เพื่อใช้ในการ หงุ ตม้ ประกอบอาหารต่าง ๆ แสดงให้เหน็ ถึงการนำผลิตผลท่ีเกิดขนึ้ มาใชป้ ระโยชน์ได้จริง 6. ฐานฅนรกั ษ์สุขภาพ : นางสาวศรัญยา ปาปลกู นกั ทรพั ยากรบุคคลปฏิบตั ิการ วิทยากรครูพาทำ ร่างกายของคนเรานัน้ ธรรมชาตสิ ร้างมาสำหรับใหอ้ อกแรงใชง้ าน มิใช่ให้อยู่เฉย ๆ ถ้าใช้แรงให้พอเหมาะพอดี โดยสม่ำเสมอ รา่ งกายกเ็ จริญแขง็ แรง คล่องแคล่ว และคงทนยง่ั ยืน ถ้าไมใ่ ช้แรงเลยหรือใช้ไม่เพียงพอ ร่างกาย ก็จะเจริญแข็งแรงอยู่ไม่ได้ แต่จะค่อย ๆ เสื่อมไปตามลำดับ ดังนั้น เราต้องดูแลร่างกายและจิตใจให้มีสุขภาพ ที่ดีอยู่เสมอ กิจกรรมใน ศพช.ลำปาง ได้แก่ กิจกรรมการพอกหนา้ เพื่อดูดสารพษิ ตกข้าง , กิจกรรมการแชม่ ือ แชเ่ ท้าด้วยสมุนไพร เพอื่ ผอ่ นคลายกล้ามเน้ือและเพ่ือสุขภาพ , การทำนำ้ ปนั่ เพื่อสุขภาพ , การทำน้ำใบย่านาง ใบเตย และการทำ/ด่ืมนำ้ คลอโรฟลิ ล์ 7. ฐานฅนมีน้ำยา : ว่าที่ ร.ต.ชัยณรงค์ บัวคำ นักทรัพยากรบุคคล วิทยากรครูพาทำ เนื่องจากในการดำเนินชีวิตบนวิถีแหงเศรษฐกิจพอเพียงนั้นการลด รายจายของครอบครัวเปนหนึ่งสิ่งท่ีสำคัญ โดยเฉพาะรายจาย สำหรับซื้อน้ำยาหรือสารทำความสะอาด เชน สบู น้ำยาลางจาน นำ้ ยาซกั ผัก หรือทำความสะอาด ตาง ๆ น้นั เปนรูร่ัวทางการเงิน ที่สำคัญ ซึ่งทำใหแตละบานตองจายเงินไปเปนจำนวนไมนอย การ ทำน้ำยา เอนกประสงคดวยวิธีการที่งายดายเพื่อใชเองและอุดรูร่ัว
ทางการเงินของครอบครัวดวยผลผลิตเหลือกินเหลือใชและ หาไดงายในทองถ่นิ จึงถือเปนทางเลือกแห่งวิถีการพ่ึงตนเองที่ ชาญฉลาดของครอบครวั ยุคใหม่ กิจกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ การทำน้ำยา อเนกประสงค์ , การทำสบู่เหลวมะขามน้ำผึ้งบำรุงผิว , การ ทำตะไคร้หอมไล่ยุง และการทำน้ำหมักรสเปรี้ยวจากผลไม้ ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมสำหรับการทำน้ำยาอเนกประสงค์ น้ำที่ได้ จากการหมักผลไม้รสเปรี้ยวมีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยสลายไขมัน หรอื ครบสกปรกไดด้ ี และยงั มีกลนิ่ หอมของผลไม้หรอื กลน่ิ หอมจากเปลือกผลไม้ทใ่ี ชห้ มักอีกด้วย 8. ฐานฅนติดดิน : นายณัฐนิช รักขติวงศ์ นักวิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ วิทยากรครูพาทำ การนำดินที่มีอยู่ทั่วไปตามธรรมชาติมาใช้ในการสร้างบ้านดิน การสร้างบ้านดิน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับ คนอยากมีบ้านที่ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ก็สามารถสร้างบ้านของตัวเองได้ ขอเพียงมีที่ดิน กำลังกาย และกำลงั ใจ การสร้างบ้านดิน คือบ้านจากธรรมชาติที่สามารถหา วัสดุจากรอบข้างนำมาสร้างเป็นบ้าน ท่านอาจจะใช้ดินที่อยู่ข้าง บ้านผสานกับแรงกาย ค่อยๆ ลงแรงสร้าง จนกลายเป็นบ้าน คุณภาพโดยใช้แรงทุนเพียงเล็กน้อย บ้านดินจึงเหมาะสำหรับ การลงแรงช่วยกันสร้าง อาจใชเ้ วลาวา่ งในช่วงวนั หยดุ มาร่วมดว้ ย ช่วยกัน การทำบ้านดินหนึ่งหลังยังช่วยสร้างบรรยากาศการ ทำงานรว่ มกันให้อบอนุ่ อกี ดว้ ย เทคนคิ การสรา้ งบ้านดนิ มี 6 ชนดิ แบบป้ัน (cob) ใชด้ ินเหนียวผสมกับฟางขา้ ว ปั้นหรอื กอ่ เปน็ ผนงั ขน้ึ เรอ่ื ย ๆ แบบอิฐดิบ (adobe brick) ใช้ดินผสมกับเส้นใย เช่น แกลบ เศษหญ้า หรือฟางข้าว นำมาผสม กับโคลน แลว้ ปน้ั เปน็ อฐิ ดิน กอ่ นกอ่ เป็นฝาผนงั บา้ น โดยใชโ้ คลนเป็นตวั ประสาน แบบโครงไม้(wattle & daub) ทำโครงสรา้ งเป็นไม้ สานกนั เปน็ ตาราง และนำฟางชุบด้วยโคลนโปะ เป็นฝาผนัง แบบใช้ดินอัด (rammed earth) ก่อสร้างผนัง โดยทำแบบพิมพ์ แล้วนำดินเหนียวอัดเป็นฝาผนัง (ไม่คอ่ ยเหน็ วิธีนี้ในเมืองไทย) แบบใช้ท่อนไม้หรือหิน (cord wood & stones) สร้างฝาผนังโดยการนำเศษไม้หรือหินมาก่อเป็น ฝาผนังบ้าน ใชด้ นิ เป็นตัวประสาน และฉาบด้วยดิน อีกช้นั หน่ึง แบบกระสอบทราย (sand bag) ใชก้ ระสอบทรายใส่ทราย ใหเ้ ตม็ นำมาวางเรียง อาจจะใช้ลวดหนาม เปน็ ตัวช่วยยึด ไม่ใหก้ ระสอบเลื่อนไหล และฉาบดว้ ยดนิ อกี คร้งั
9. ฐานฅนรักษ์แม่โพสพ : นางกรรณกิ าร์ ก๋าวิตา นกั ทรพั ยากรบุคคลชำนาญการ วทิ ยากรครูพาทำ “ข้าวเป็นพืชที่หล่อเลี้ยงเผ่าพันธุ์คนไทยมานับตั้งแต่ โบราณกาล” มีการค้นพบหลักฐานที่ชี้ว่า ได้เกิดภูมิ ปัญญาการปลูกข้าวด้วยการปักดำในวัฒนธรรม บ้านเชียงซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 5,000 ปี และจาการ ตรวจพบเมล็ดข้าวเก่าแก่อายุมากกว่า 6,000 ปี ผสม อยู่ในภาชนะดินเผาท่ีโนนทานก จังหวัดขอนแก่น คนไทยผูกพัน นับถือและบูชาข้าวนามเรียกขานว่า “แม่โพสพ” เทพธิดาประจำต้นข้าว ซึ่งเชื่อว่าคอย ช่วยเหลือชาวนาให้สามารถทำนาได้พอกินและพอ สำหรับจุนเจือเพื่อนมนุษย์ จาการทำนาในอดีตที่แทบ จะไม่ต้องใช้เงินทุน ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ต้นทุนการผลิตข้าวเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น ทั้งค่าปุ๋ยและค่ายา จากคำกล่าวที่ว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” กลับกลายเป็นผืนนาที่แห้งแล้งไร้ซึ่งชีวิตภาพของชาวนาที่เคยถูกยกย่องว่าเป็น “กระดูกสันหลังของชาติ” กลับเปน็ ภาพของผูท้ ่เี ป็นหนส้ี ินลน้ ตวั ข้าวท่ีเรากนิ ทุกวนั นย้ี งั เรยี กวา่ “ข้าวไทย” อยูห่ รอื ไม่ กิจกรรมฐานฅนรักษ์แม่โพสพศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลำปางได้สนับสนุนการทำ “นาอินทรีย์” เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการแลว้ เห็นผลได้จริง ได้ผลผลิตข้าวที่ปลอดสารพิษ , การคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งเป็นการ ลดต้นทุนการผลิต , การทดสอบความงอกเมล็ดพันธุ์ข้าว ชาวนาจะได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีเปอร์เซ็นต์ความงอก ไม่ต่ำกว่า 80% ไปหว่านลงในนา , การทำข้าวกล้องงอกไร้มอดเป็นการแปรรูปข้าวกล้องงอก เพื่อเพิ่มมูลค่า ของข้าวกล้อง , เพิ่มคุณค่าของข้าวกล้องงอกให้มีสาร GABA เพิ่มขึ้น และเพื่อให้สามารถเก็บรักษาข้าวกล้อง งอกได้นาน ไม่มีมอดมารบกวน ไม่มีกลิ่นหืน และสามารถเก็บรักษาได้ง่าย ใช้ถุงพลาสติกธรรมดาปิดให้สนิท ไม่ต้องใชถ้ งุ สุญญากาศ ผลการเรียนรูโ้ ดยสรุป ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้และเห็น ถึงสภาพพื้นที่การปรับกิจกรรมในแต่ละภูมิ สังคม รวมถงึ เกดิ กระบวนการเรียนรู้ ถาม ตอบ กับวิทยากรประจำฐานเรียนรูใ้ นแต่ละฐาน เกิด เป็นองค์ความรู้ให้กับคณะผู้เข้ารับการอบรม และเกิดผลตอบรับที่ดีในการให้ผู้เข้ารับการ อบรมลงพื้นที่ศึกษาดูงานเรียนรู้ตำราบนผืนดนิ จากพื้นที่ต้นแบบ ศพช.ลำปาง ซึ่งจะสามารถ นำไปปรบั ใช/้ ต่อยอดในพืน้ ที่ของแตล่ ะคนได้
ผู้เข้าอบรมนำเสนอแต่ละกลุ่มนำเสนอผลจากการสำรวจและวัตถุที่หยิบมาจากพื้นท่ีการได้เรียนรู้ จากกิจกรรมฐานเรียนรู้ทั้ง 9 ฐาน เช่น การนำเศษวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการห่มดินหรือ นำมาทำปุ๋ยหมักซึ่งนำไปใช้ต่อยอดในการห่มดิน การนำเศษกิ่งไม้ที่เกิดจากการตัดแต่งต้นไม้ไปประกอบเป็น วัตถุดิบการเผาถ่านและยังนำมาใช้ต่อในการหุง ต้ม ประกอบอาหารได้อีกด้วย การทำนาในรูปแบบกสิกรรม ธรรมชาติ เพื่อทำให้เกิดคำกล่าวที่ว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ขึ้นมาอีกครั้ง การปลูกไม้ 5 ระดับและ การปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างตามแนวคิดและทฤษฎีในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 ในด้านการ อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ การบริหารจัดการดินและน้ำ(ขุดคลองไส้ไก่) ทำให้เกิดการกระจายน้ำและการกักเก็บน้ำ ในพ้นื ทีไ่ ดด้ ีขึ้น การเรียนรแู้ หลง่ ท่ีมาของพลังงาน ทดแทนรวมถึงการใช้พลังงานทดแทนและ สามารถทำขึ้นเองได้ การดูแลสุขภาพตนเองและ การทำน้ำยาอเนกประสงค์เพื่อลดต้นทุนให้ กับครัวเรือน การสร้างบ้านดินที่สามารถทำข้ึน เองและใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นองค์ประกอบ และการได้ศึกษาเรียนรู้การนำเกษตรทฤษฎีใหม่การบริหารจดั การดนิ และน้ำประยุกตส์ ู่ โคก หนอง นา โมเดล ในพื้นที่ต้นแบบของ ศพช.ลำปาง ซึ่งมีการแบ่งพื้นที่ทำโคก หนอง นา โมเดลตามแบบมาตรฐานในรูปแบบ 1 ไร่ และมาตรฐานรปู แบบ 3 ไร่ การอนุรกั ษ์ดินและการอนุรักษน์ ้ำและใชป้ ระโยชน์สงู สุดในพ้นื ท่ีต้นแบบของ ศพช.ลำปาง (โคก หนอง นา โมเดล) โดยการหยิบวัตถุสิ่งที่ได้จากการเดินสำรวจมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทั้ง 3 รุ่น นั้น มีดังนี้ ในรุ่นที่ 1 ได้นำ ฟาง ใบไม้แห้ง และถ่าน ในรุ่นที่ 2 ได้นำ หญ้าแฝก ฟาง และใบไม้แห้ง ในรุ่นที่ 3 นำ ฟาง ก้อนดิน(ทำ บ้านดิน) และใบไม้แห้ง ซึ่งนำเสนอถึงการมีอยู่จำนวนมากในพื้นที่เรียนรู้และนำใช้ให้เกิดประโยชน์การทำปยุ๋ หมักและการห่มดิน แทนจากการเผาทำลายซ่ึงจะสร้างมลพิษทางอากาศ และ“ดิน” ซึ่งใช้สำหรับการป้ันบ้าน ดินในฐานเรยี นรู้ฅนตดิ ดนิ นอกเสยี จากการบำรุงดินแลว้ สามารถนำดินมาใชป้ ระโยชน์สงู ประหยดั สุด
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: